ขอบคุณ คุณ โอนนิมารุ ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน
ขอความกรุณาเพื่อนๆ อย่านำเอาเรื่องราวในเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากคุณ โอนนิมารุ ก่อนนะครับ
ขอบคุณครับ
หมูพูห์

**********************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขอนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0**********************************************************
"แค่มีนาย"
เป็นนิยายแต่งเรื่อยๆครับ ตอนนี้เขียนลงอยู่สองเวบครับ แวะมาอ่านๆในนี้ก็เลยอยากเอามาแปะในนี้บ้างนะครับ
แอบขอโทษไว้ก่อนนะครับถ้าผมจะมาต่อเรื่องช้าไปหน่อย
ถือเอาว่าอ่านเล่นๆเรื่อยๆละกันนะครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++ปฐมบทแห่งการพบกัน+++
“ปีหนึ่ง ระเบียบเชียร์ พร้อม”
“พร้อม”
“เอาใหม่ๆ เสียงแผ่วอย่างนี้พวกคุณจะไปทำมาหากินอะไรได้ เสียงน่ะมีไหม” เธออยู่ในชุดนิสิตกลัดกระดุมถึงคอ เดินหลังตรงไปมาหน้าแถวตอนหลายแถวที่มีนิสิตมหาวิทยาลัยปีแรกนับพันคนมาชุมนุมกันตามคำสั่ง “ปีหนึ่ง ระเบียบเชียร์ พร้อม” เธอกล่าวด้วยเสียงอันดังกลบพื้นที่ชุมนุมที่เงียบกริบจนตัวหอบโยนแต่ใบหน้ากลับเรียบเฉย
“พร้อม” นิสิตชั้นปีหนึ่งทุกคนตะโกนตอบรับอย่างพร้อมเพรียงต่อน้ำเสียงดังคาดคั้นเอาพลังจากประธานเชียร์ของคณะ
การซ้อมเชียร์กีฬามหาวิทยาลัยจะมีขึ้นทุกปีทุกสถาบันโดยการควบคุมแบบเข้มจากรุ่นพี่ การสอนผสานไปด้วยระเบียบวินัยซึ่งรุ่นพี่บอกว่า สิ่งนั้นจะทำให้น้องๆเกิดความสามัคคีและรู้จักกันมากขึ้น แต่ในใจของวันชนะกลับมองว่ามันเป็นเกมส์สนองตัณหาของพวกรุ่นพี่มากกว่า
“เอาล่ะ ดิฉันจะให้พวกคุณพักสิบนาที” ประธานเชียร์ยังคงกล่าวด้วยเสียงอันดังและดุมีอำนาจ เธอเดินหลังตรงออกไปข้างนอกสถานที่ชุมนุม สักพักเมื่อมีการเสิร์ฟน้ำและขนม เสียงของบรรดาเด็กเพิ่งผ่านรั้วมัธยมก็ดังขึ้นแซด
นิสิตปีหนึ่งทุกคนนั่งกับพื้น วันชนะยื่นมืออกรับขนมจากรุ่นพี่คนหนึ่งพลันคุกกี้ชิ้นน้อยรูปหัวใจไส้สตรอเบอรี่หล่นจากมือแล้วไปนอนแน่นิ่งบนตักของคนข้างๆ หากแต่เจ้าของตักมัวแต่คุยอยู่กับเพื่อนของเขาหรือไม่ก็เพราะว่าคุกกี้เบาเกินไปเขาจึงไม่สังเกตน้ำหนักที่ตกลงสู่ตัว
“เอ่อ ขอโทษครับ เอ่อ...” วันชนะแตะไหล่เขาเบาๆหมายจะขออนุญาตเอื้อมมือไปจับคุกกี้ของตน
“อะไรครับ” เจ้าของตักและไหล่นั้นหันมาทางวันชนะ รอยยิ้มที่ส่งมาทำให้วันชนะประหม่าเล็กน้อย ฟันขาวเรียงกันเป็นระเบียบ ริมฝีปากสวยได้รูป ประกอบกับคิ้วเข้มยาวบนดวงตาสีดำขลับที่เข้ากันกับจมูกโด่งสวย ทั้งหมดนี้อยู่บนใบหน้าของชายผู้นั่งข้างกายวันชนะมาแต่ตั้ม นึกแล้วเจ็บใจตัวเองที่ไม่ได้สังเกตแต่ตั้มว่าเขานั่งติดกับชายในฝันจะได้แอบมองนานๆ
“อ้อ นี่ครับ หัวใจของนาย” เขาหยิบขึ้นมาดู แล้วยื่นให้วันชนะพลางยิ้ม “อย่าเอาไปให้ใครง่ายๆอีกล่ะ”
วันชนะได้แต่ยิ้มรับมา แก้มขาวมีสีแดงระเรื่อเล็กน้อยคิดในใจว่าเจ้าคุกกี้รูปหัวใจไส้สตรอเบอรี่นี้เขาจะกินมันดีไหมนะ ค่าที่มันตกไปอยู่บนตักชายในฝันคนนี้
แล้วเขาก็หันกลับไปคุยกับเพื่อนกลุ่มของเขาต่อ วันชนะได้แต่เพ่งพินิจเจ้าหัวใจไส้สตรอเบอรี่นั้นแล้วอมยิ้ม ไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาหันมาทางวันชนะแล้วเอ่ยถาม
“นาย ชื่อไร?”
คำถามจากหนุ่มหล่อทำให้วันชนะประหม่าอีกแล้ว
“วิน”
ปากตอบไปโดยไม่มองหน้าคนถาม ด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะรู้ทันความอายและจับได้ถึงความร้อนผ่าวบนแก้มทั้งสอง แล้วจึงรู้สติถึงมารยาทในการพบมิตรจึงได้ถามกลับไป
“นายล่ะ?”
แม้จะยังไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆแต่วันชนะก็พยายามจับโฟกัสไว้ที่กระดุมเม็ดหนึ่งบนเสื้อของเขา
“เราชื่อตั้ม”
เขายิ้มตอบอย่างเป็นมิตร “ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขายกมือขึ้นจับที่ไหล่ของวันชนะและบีบเบาๆ
พระเจ้า! วันชนะใจเต้นตุบตับ ข้างในคงละลายหมดแล้ว นี่ถ้าทำได้เขาคงจะหอมแก้มผูกมิตรชายผู้ให้สักสองที
“นายอยู่หอในรึเปล่า?” เขาถามวันชนะว่าได้พักอยู่ในหอของมหาวิทยาลัยหรือไม่
“อื้อ เราอยู่ตึกสี่” วันชนะตอบ คราวนี้โฟกัสเปลี่ยนไปอยู่ที่กระดุมเม็ดถัดขึ้นไป
“เฮ้ย จริงดิ เราก็ได้อยู่ตึกสี่ วินอยู่ห้องเบอร์อะไร?” เขาถามต่อ
“609” วันชนะตอบ
ยังไม่ทันได้ไต่ถามเพิ่มเติม เสียงของประธานเชียร์ก็ดังขึ้นทั่วบริเวณ เป็นสัญณาณเริ่มการซ้อม เขาจึงเงียบไป แต่วันชนะกลับได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นอยู่ตลอดเวลา ค่าที่ประหม่าระคนดีใจที่ได้คุยกับชายข้างกาย
...
วันชนะเดินลัดเลาะผ่านอาคารเรียนสองถึงสามอาหารจนมาโผล่ตรงทางเดินข้างๆสนามฟุตบอลในเวลาพลบค่ำ หลังจากเลิกซ้อมเชียร์เขาก็มุ่งหน้ากลับหอพักภายในมหาวิทยาลัยทันที บรรยากาศตอนนี้เหมือนฝนกำลังจะตก เพราะเขามองเห็นเมฆครึ้มดำอยู่ไม่ไกล ลมเย็นพัดค่อนข้างแรงพัดพาเศษใบไม้และฝุ่นผงลอยคลุ้ง แต่กระนั้นบริเวณสนามก็ยังถูกกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งจับจองเล่นฟุตบอลกันอย่างไม่หวั่นต่อสภาพอากาศ
เหล่าผู้ชายวิ่งไล่ลูกบอลกลมๆกลางสนามนั้นดึงดูดสายตาของวันชนะได้อยู่โข ด้วยว่าเขาพึงใจในสรีระของบุรุษมาแต่พื้นเดิม ยิ่งยามนี้ผู้ชายเหล่านั้นต่างเปลือยท่อนบนเหลือเพียงกางเกงขาสั้นเท่านั้น ร่างกำยำอาบด้วยเหงื่อชุ่มโชกยิ่งทำให้รู้สึกใจหวิวๆพิกล แต่แล้วก็เกิดความรู้สึกสวนทาง ความทดท้อปั่นป่วนในความคิดว่าใครกันล่ะจะมาเข้าใจต่อความพึงใจที่แปลกแยกจากคนปกติ ร่างกายภายนอกที่เป็นชายนี้แม้จะดูอ่อนบางต่างจากผู้ชายทั่วไป แต่ยังไงก็คือผู้ชาย
คงยากที่จะสุขสมอย่างใจต้องการ
มาถึงสระน้ำด้านหน้าตึกสี่ น้ำในสระเป็นสีเขียวคล้ำ กลางสระประดับด้วยใบบัวกลุ่มหนึ่งโดยปราศจากดอก ลมแรงยังพัดมาอย่างต่อเนื่อง พุ่มเฟื่องฟ้าสูงเลยหัวข้างหน้าพัดโยกตามแรงกระพือของสายลมจนในหลุดร่วงปลิวขึ้นฟ้า
วันชนะยังคงก้าวเดินต่อไป พอถึงใต้พุ่มเฟื่องฟ้าก็พลันมีสายลมพัดมาอีกวูบหนึ่ง ส่งให้ก้านแข็งๆของมันโยกตามกระแสลมสอดเข้าไปในคอเสื้อแล้วดีดตัวกลับเกี่ยวเอาสร้อยคอเส้นเล็กบางติดไปด้วย วันชนะสะดุ้งโหยงด้วยทีแรกนึกว่ามีคนมากระชากมันไป แต่พอเห็นสร้อยของรักห้อยอยู่กับกิ่งแห้งนั้นก็เบาใจ
สร้อยคอเส้นนี้เป็นของที่คุณแม่ของเขาซื้อให้ตอนสอบเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ มันอาจจะไม่สูงค่ามากนักเป็นเพียงสร้อยทองคำหนักเพียงสลึง แต่ล็อกเก็ตที่ติดห้อยอยู่นั้นภายในบรรจุสิ่งสำคัญเอาไว้ มันแทนตัวคุณแม่ของเขาซึ่งบัดนี้คงจะเฝ้ามองดูลูกชายคนนี้อยู่บนสรวงสวรรค์
วันชนะเอื้อมมือขึ้นคว้าเอาสายได้พร้อมกับที่สายลมอีกวูบพัดมา เป็นเพียงสายลมเย็นเบาๆแต่ได้พาเอาฝุ่นผงในอากาศปลิวติดเข้านัยน์ตา โดยอัตโนมัติมืออีกข้างรีบยกขึ้นปิดที่ตาขณะที่อีกข้างดึงสร้อยต่างหน้ามารดา
กิ่งเฟื่องฟ้าแห้งนั้นหักในทันที ส่งผลให้ร่างของเขาเสียการทรงตัวหนำซ้ำยังไปเหยียบโดนกิ่งไม้นั้นเข้าจนข้อเท้าพลิก วันชนะร้องขึ้นอย่างเจ็บปวด เขาล้มลงกับพื้น ใบหน้าบิดเบี้ยวเจ็บปวด จะลุกขึ้นก็เจ็บเกินบรรยาย
มือข้างหนึ่งปิดตาเอาไว้ บัดนี้น้ำตาไหลนองเต็มหน้าไปหมดแล้ว ด้วยกลไกของร่างกายที่พยายามกำจัดฝุ่นผงสิ่งแปลกปลอมออกจากนัยน์ตาบวกกับเพราะเจ็บปวดที่ข้อเท้า แต่แล้วร่างบางของเขาก็ถูกยกขึ้น
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
ทิพย์โมบอร์ดนิยาย