ก่อนอื่นต้องบอกว่าขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และทุกท่านที่ไปเพิ่มแต้มให้ในกระทู้โหวตนะคะ
ว่าแล้วด้วยแรงผลักดันจากน้องๆหนูๆทั้งหลาย คนเขียนก็มีตอนพิเศษๆมาฝากอีกแล้ว
ตอนนี้ถ้าท่านไหนไม่ได้อ่านเรื่องของพี่ปุ่น (รักร้าย...ไอ้ตัวแสบ โดย ดาด้า panda123) ก็อาจจะงงนิดหน่อยนะคะ
ไอ้ป่วนมันญาติเยอะค่ะ ^o^
อย่าพูดมากเสียเวลา ไปอ่านกันเลยดีกว่า คริคริ
................................................
ตอนพิเศษ ฮันนีมูน...ยากันเบื่อ
“ตัวเล็ก แม่จะไประนอง!!”เรื่องมันเริ่มที่ก่อนดึกวันหนึ่งเมื่อตัวป่วนมันออกเวรแล้วโผล่หน้ากลับเข้าบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนสองชั้นหลังเดิมที่สมัยเรียนอยู่กับไอ้เพื่อนแผนแค่สองคน โดยมีแขกประจำอีกสองรายคือพี่อากาศคุณแฟนใจดีที่สุดในโลก กับไอ้บ้านุ่นเพื่อนรักเพื่อนเลิฟหนึ่งในสองที่ยังคบกันมาจนปัจจุบันนั่นแหละ
พี่อากาศไปทำงานต่างจังหวัดตามเคย รอบนี้ไปยี่สิบวัน ไอ้หนูป่วนเลยอยู่ติดบ้านที่ตอนนี้มีคุณนายมาเป็นผู้ทรงอิทธิพลเกือบสองสัปดาห์แล้วเพราะพี่ปิ่นออกอาการจะมีน้องอีกครั้ง แล้วใช้มารยาคนท้องบอกว่าบ้านที่ลำพูนหนาวเกินไปอยู่ไม่ไหวเลยต้องหอบหิ้วทั้งเจ้าตัวเล็กในท้องทั้งหลานสาวน้องลูกหมูที่ตอนนี้ไม่สีชมพูเท่าไหร่เพราะชอบว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจลงมาอยู่บ้านเก่าที่ใจกลางเมืองหลวง
แต่เหตุผลจริงน่ะเหรอ......พี่ปิ่นคนงามมากระซิบบอกไอ้หนูป่วนตั้งแต่วันแรกที่มาถึงแล้วล่ะ พี่ปิ่นสาวเมืองกรุงขนานแท้และดั้งเดิมคิดถึงเพื่อนๆและห้างสรรพสินค้ากลางกรุงใจแทบขาด เลยถือโอกาสที่โรงเรียนอนุบาลของลูกสาวคนโตปิดเทอมหาเรื่องเข้ามาอาบแสงสีและควันรถของเมืองหลวงเสียเลย
พอไอ้หนูป่วนมันถามว่า แล้วพี่เทพไม่ว่าอะไรเหรอ....พี่ปิ่นก็บอกว่า ‘พี่เทพก็เหมือนฟ้านั่นแหละ....เอ..หรือพี่พูดแค่นี้ตัวเล็กไม่เข้าใจ ฮะๆๆๆๆ’
ตัวป่วนมันก็เลยพุ่งเข้าฟัดแก้มพี่สาวเสียหนึ่งฟอดแก้อาการหน้าแดงน่ะสิ ก็ทำไมจะไม่เข้าใจ พี่เขยคนเดียวนั่นน่ะ แค่พี่ปิ่นอ้อนนิดๆหน่อยๆ อยากได้อะไรก็หามาประเคนให้ทุกอย่างอยู่แล้ว.....ไม่ต่างจากพี่ฟ้าของมันสักนิด
“ตัวเล็ก แม่จะไประนอง!!”นั่นไง.....พอโผล่หน้าเข้าบ้านคุณนายก็เสียงดังเข้าใส่ทันที พอไอ้หนูป่วนถอดรองเท้าถุงเท้าออกวางเรียบร้อย เงยหน้ามองไปทางพี่สาวที่นั่งเล่นเลโก้อยู่กับเจ้าลูกหมูโดยยึดโลเกชั่นโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟาเป็นที่มั่นก็ได้รับรอยยิ้มจนตาหยีเหมือนกับขบขันอะไรหนักหนากลับมาเป็นคำตอบ
“ไประนอง? หาพี่ปุ่นเหรอ?”
“อื้อ......ตัวเล็กดูนี่สิ” คุณนายท่านว่าอย่างนั้น แล้วก็ยื่นโทรศัพท์มือถือรุ่นพอเพียงที่ไอ้ป่วนมันใช้มาจะสามปีแล้วมาตรงหน้า ไอ้ป่วนมันกลั้นหัวเราะแทบตายเพราะสีหน้าน้อยอกน้อยใจแถมส่งค้อนให้ฝาบ้านแถมเลยเถิดไปถึงเพดานของแม่สุดที่รักมันช่างน่าพุ่งเข้ากอดแล้วฟัดๆให้หนำใจ
แต่ก็เปลี่ยนใจกะทันหันเมื่อเห็นข้อความที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ......
'ตัวเล็ก..พี่ปุ่นแต่งงานแล้วนะ' 'ตัวเล็ก..พี่ปุ่นแต่งงานแล้วนะ'
.
.
'ตัวเล็ก..พี่ปุ่นแต่งงานแล้วนะ'
“เฮ้ยยยยย ตัดหน้าได้ไงอ้ะ!!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” เท่านั้นแหละ แค่เสียงอุทานลั่นบ้านของไอ้ตัวป่วนประจำบ้านมันดังออกมา พี่ปิ่นที่ยังทำเหมือนสนใจกับการหยิบชิ้นไม้มาก่อให้เป็นรูปร่างของบ้านอยู่กับลูกสาววัยอนุบาลก็ปล่อยเสียงหัวเราะพรืดออกมาทันที
“คุณนายไม่ต้องหรอก เดี๋ยวป่วนไปเอง ปีนี้ป่วนยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ลาพักร้อนเลยสักวัน รอพี่ฟ้ากลับมาก่อน แล้วป่วนจะไปจัดการให้ ชิชะ!! พี่ปุ่น กล้าส่งข้อความมาแกล้งกันอย่างนี้มันใช้ไม่ได้ แต่งงานอะร้ายยยยย นี่แปลว่าแซงหน้าย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับชีต้าห์แล้วแหงๆ เดี๋ยวป่วนโทรหาชีต้าห์ อ๊ะ.....ไม่เอาอ้ะ โทรถามพี่เนสดีกว่า”
ไอ้หนูป่วนจัดการโทรศัพท์หาพี่หมอเนส เพื่อนซี้พี่ชายที่ตอนนี้ย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพแล้วเลยรู้ว่าตัวเองตกข่าวไปโข ไอ้พี่ปุ่นบอกคืนบ้านพักแพทย์แล้วย้ายตัวเองไปเป็นลูกเขยรีสอร์ทเต็มตัว ไม่บอกกันสักนิด ฮึ่ย!! อย่างนี้ต้องไปถล่ม
ข้อมูลจากสายด่วนพี่เนสถูกถ่ายทอดให้คุณนายและพี่ปิ่นฟังอีกต่อ ก่อนที่เช้าขึ้นมาตอนเตรียมตัวจะออกจากบ้านไปทำงานตามปกติคุณนายท่านจะยื่นโทรศัพท์บ้านให้ บอกว่าพ่อโทรมา
แล้วไอ้หนูป่วนที่กะแค่จะชวนพี่ฟ้าของมันที่แน่ใจได้ว่าอีกสองสัปดาห์จะว่างไปอีกสิบวันลงใต้ไปถล่มพี่ชายกับพี่สะใภ้นำเข้าที่ถูกคอถูกใจกันเหมือนเพื่อนอีกคนจะได้รับหน้าที่สำคัญ
‘ตัวเล็กเอ๊ย พ่อจะฝากเทพเอาของลงไปให้ ของสำคัญ เหมือนกันกับที่พ่อให้ฟ้าไปคราวนั้น ตัวเล็กไประนองก็ถือไปด้วย แล้วอย่าทะลึ่งแย่งหน้าที่พี่เค้าล่ะ เอาไปให้กับปุ่นนั่นแหละ แล้วให้พี่เขาจัดการเอาเอง อย่าลืมกำชับว่าถ้าว่างเมื่อไหร่ ก็พาชีต้าห์มาเที่ยวทางนี้บ้าง พ่อคิดถึง....’
ตัวป่วนมันตกปากรับคำดิบดี จัดการโทรชวนคุณแฟนไปเที่ยวทะเลแล้วส่งใบลาให้พี่หัวหน้าแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัดเรียบร้อย และแค่สองสัปดาห์หลังข้อความสั้นๆจากพี่ชายขี้แกล้งส่งมา ตัวต้นคิดอย่างมันแทนที่จะเป็นคนจัดการให้ตัวเองมาถึงรีสอร์ทพี่เต้ ก็กลายเป็นพี่อากาศคุณแฟนคนดีซะงั้นที่เป็นคนจัดการทุกสิ่งอย่างแม้กระทั่งจองทัวร์ไปบ้านบนเกาะกับรีสอร์ทของพี่เต้ พี่ชายของสะใภ้อย่างชีต้าห์นั่นแหละ
ไอ้หนูป่วนถอดหัวโขนหน้าที่การงานฝากไว้ที่โรงพยาบาลแล้วก็กลับมาทำตัวเป็นลูกแมวน้อยของพี่ฟ้าของมันอีกครั้งเมื่อได้เดินทางไกลด้วยกันสองคน เกือบสองชั่วโมงบนเครื่องบินก็วางหัวแหมะไว้บนอกพี่อากาศนั่นแหละ ไอ้นิสัยขี้เซานี่แก้ยังไงก็ไม่หาย เมื่อก่อนพี่อากาศแกก็นึกว่าเพราะคุณแฟนยังเด็กเป็นวัยกำลังกินกำลังนอน แต่ที่ไหนได้ล่ะปีหน้าก็เบญจเพสแล้วแท้ๆ คุณแฟนของพี่ยังทั้งกินเก่งหลับง่าย แถมหลับทีไรยังหลับลึกปลุกยากเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย
ลงจากเครื่องหอบเป้คนละใบยังไม่ทันที่พี่อากาศจะหาน้ำเย็นๆมาเติมความสดชื่นให้ไอ้ตัวเล็กของแกก็เห็นป้ายชื่อรีสอร์ทบ้านกลางทะเลมาชูหรารอรับแล้ว พี่ที่ขับรถมารับส่งสำเนียงทองแดงแบบระน้องระนองพร้อมรอยยิ้มจริงใจมาให้ ตอบคำถามจากคนตัวเล็กที่ถึงพี่เต้ไม่บอกมาก่อนว่าวันนี้ต้องมารับน้องชายคุณหมอปุ่นที่สนามบินหาดใหญ่ก็รู้ได้แค่มองหน้าว่าไม่ผิดคน เพราะถ้าตัดรูปร่างที่เล็กๆบางๆนี่ออกไป เค้าหน้าของคุณป่วนที่พูดถามอะไรเจื้อยแจ้วอยู่นี่เมื่อเทียบกับคุณหมอที่เพิ่งเลื่อนสถานะจากแขกประจำมาเป็นผู้อยู่อาศัยประจำรีสอร์ทแล้วก็แทบจะไม่แตกต่างกันเลย
ขึ้นรถมาได้ไม่ทันถึงสิบนาทีเสียงเจื้อยแจ้วจากที่นั่งตอนหลังของกระบะสี่ประตูก็เงียบไป พอพี่คนขับเหลือบตามองผ่านกระจกหลังก็ต้องตกใจเพราะหัวดำๆสองหัวเมื่อกี้เหลือให้เห็นแค่หัวเประดับแว่นกรอบพลาสติคสีน้ำเงินเข้มแค่หัวเดียว เนียนๆยื่นปลายนิ้วไปปรับกระจกมองหลังแล้วเลื่อนสายตาลงต่ำตามสายตาเจ้าของศีรษะประดับกรอบแว่นไป ถึงเห็นว่าน้องชายคุณหมอเอนตัวลงไปนอนหลับสบายบนตักของเจ้าของแว่นตัวโตเสียแล้ว
พอพี่คนขับถอนสายตากลับมาถึงได้เห็นว่าดวงตาใต้กรอบแว่นที่เมื่อครู่หลุบต่ำจับอยู่ที่ใบหน้าที่นอนหลับตาพริ้มเผยอปากน้อยๆเหมือนคนกำลังหลับสบายกำลังส่งประกายแข็งๆมารออยู่ทางกระจกมองหลังเสียแล้ว พี่คนขับรู้สึกน้ำลายฝืดคอขึ้นมาทันที ขยับกระเดือกกลืนน้ำลายหนืดๆลงคออย่างยากเย็นแล้วส่งยิ้มแหยๆให้ดวงตาภายใต้กรอบแว่น สายหน้าน้อยๆแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ‘ผียาด้นโพม โพมแข่แล’ พี่อากาศแปลสายตาแล้วได้ความว่า...พี่อย่าดุผมน้า...ผมแค่มองเฉยๆนิ แล้วเลยส่งรอยยิ้มเป็นมิตรตอบกลับไป จนใกล้ถึงรีสอร์ทนั่นแหละพี่คนขับแกถึงเปิดปากพูดอีกครั้ง
“อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้วนะครับ สักสิบนาที” แล้วก็ได้อาการพยักหน้าแล้วขยับปากรับคำส่งมา ไม่ได้เห็นหรอกว่าคนตัวโตตาดุด้านหลังก้มลงไปปลุกน้องชายคุณหมออีท่าไหน รู้แต่หลังจากนั้นไม่ถึงสามรอบหายใจ หัวยุ่งๆของน้องชายคุณหมอก็ปรากฏในกระจกมองหลังเหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปก็แค่......หน้าที่ตอนแรกเห็นว่าขาวๆ มันกลายเป็นหน้าแดงๆไปก็เท่านั้นเอง
ป้ายไม้ทาสีเบจเรียบกริบกับตัวอักษรเล่นหางสีขาวเขียนชื่อ ‘บ้านกลางทะเล’ ติดเด่นอยู่หน้ารั้วที่มีอาณาเขตยาวแทบจะไปสุดอีกขอบถนน ประตูเปิดกว้างเหมือนจะบอกว่ายินดีต้อนรับ
กระบะสีบรอนซ์เงินพาผู้โดยสารสองคนมาส่งเทียบถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ที่ดูก็รู้ว่าเป็นที่พักอาศัยถาวร ไม่ใช่แค่รีสอร์ทที่เปิดให้เช่าค้างแรม ชายร่างใหญ่ที่เดาว่าน่าจะรุ่นคุณพ่อลุกขึ้นยืนยิ้มรับ
“สวัสดีครับ ผมฟ้านะครับเป็นเพื่อนปุ่น คุณทิวารึเปล่าครับ?” พี่อากาศยกมือไหว้ทักทายแถมเดาทางตรงเป๊ะไม่มีเคอะเขิน ในขณะที่คุณทิวามองแฝดต่างไซส์ตรงหน้าแล้วนึกขำในใจ หนุ่มน้อยกับหนุ่มใหญ่สองคนแต่งตัวเหมือนกันด้วยเสื้อยืดคอวีสีฟ้าใสกับกางเกงยีนส์สีซีดยาวแค่เข่า รองเท้าผ้าใบสีขาวคาดฟ้า
ที่ทำให้เหมือนลูกแฝดยิ่งกว่านั้นก็ตรงที่เป้ของคนตัวโตสีดำกับคนตัวเล็กสีขาวนี่แหละ เหมือนลูกแฝดที่พ่อแม่จงใจจับแต่งตัวเหมือนกันแต่ให้มีองค์ประกอบหนึ่งอย่างตรงกันข้ามเพื่อให้ระบุตัวได้ง่ายๆแบบนั้นเลย
“ครับๆ ยินดีต้อนรับ แล้วอีกคนก็คงน้องหมอปุ่นสินะ”
“สวัสดีครับคุณทิวา” ไอ้เด็กตัวเล็กมันยกมือไหว้สวยงามแถมส่งยิ้มจนตาจะปิดมาให้อีกด้วย ตัวเล็กกว่าไอ้เสือแสบอีกมั้งนี่
“ป่วนสินะ เรียกพ่อก็ได้ ชีต้าห์ก็ไปฝากตัวเป็นลูกบ้านเรามาแล้วไม่ใช่เหรอ งั้นเราก็มาเป็นลูกพ่ออีกคนจะเป็นไร..... ฟ้าก็เหมือนกันนะ เรียกพ่อเถอะ อย่าคุณทิวาเลย เราครอบครัวเดียวกัน ฮ่าๆๆๆ”
ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบพอเป็นกระษัยจนพี่เต้ออกมาพร้อมข้าวของเตรียมไปเกาะนั่นแหละ ถึงได้พาน้องชายของน้องเขยพร้อมอีกคนที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอยู่ในสถานะคนรักแน่ๆเดินตามกันไปที่เรือนพักส่วนตัวของไอ้เสือแสบกับคุณหมอน้องเขย
พี่เต้ทำหน้าที่แค่ปลุกให้พอมีสติ จากนั้นก็ไปเตรียมรออยู่ที่เรือที่จะไปเกาะ ไม่ได้รู้หรอกว่าคุณหมอน้องเขยโดนทำร้ายร่างกายเสียน่วมจากฝีมือน้องชายที่เห็นว่าตัวเล็กๆและดูไม่มีพิษสงนั่นจนต้องร้องโอดโอย
ทำร้ายร่างกายพี่ชายจนหนำใจพร้อมกำชับว่าห้ามเอาคืนเพราะคุณนายท่านเป็นคนฝากมาเรียบร้อยไอ้หนูป่วนก็ปลดเป้ที่สะพายหลังไว้ออกมาแล้วควานๆลงไปสักพัก ก่อนจะหยิบกล่องกำมะหยี่ออกมายื่นให้พี่ปุ่นที่แบมือรับแบบงงๆกันง่ายๆ
“อันนี้คุณผู้ชายฝากมา ไม่ได้ให้พี่ปุ่นนะ” หมอปุ่นยื่นมือไปรับกล่องกำมะหยี่ที่ไอ้หนูป่วนยื่นมาให้ด้วยสีหน้างงจัด แต่พอเปิดออกดูของที่อยู่ข้างในทำเอาอึ้งถ้าท่านทั้งสองมาอยู่ตรงหน้าคงได้คลานเข้าไปกราบที่ตัก
“พี่ว่าใกล้ได้เวลาแล้วนะครับตัวป่วน” พี่อากาศที่นั่งเงียบมานานส่งเสียงพูดออกมาเป็นครั้งแรกหลังจากเอาแต่หัวเราะกับการเห็นคุณแฟนทำร้ายร่างกายพี่ชายตัวเองโดยไม่ยอมยื่นมือเข้าช่วยสักนิด
“จริงสิ!! พี่ปุ่นไปเตรียมตัวเร็วอีกครึ่งชั่วโมงเรือจะออกแล้ว”
“เรือ!?”
จัดการลากเอาพี่ชายพี่สะใภ้ที่ยังหลับอุตุขึ้นเรือมาได้ไอ้หนูป่วนก็หมดความสนใจจะแกล้งคนอื่นไปง่ายๆ ไม่ใช่อะไรหรอก ก็นานๆได้หยุดยาวมาเที่ยวทั้งที แถมทะเลระนองก็สวยจัดสวยจริง สีน้ำทะเลที่สะท้อนประกายแดดเป็นสีฟ้าอมเขียว สวย....ราวกับภาพในโปสการ์ด
ไอ้หนูป่วนคนชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจตื่นตาตื่นใจเกาะแน่นอยู่ตรงกราบเรือ มือก็สอดเข้าไปในอุ้งมือใหญ่ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังให้ความอบอุ่นได้เสมอ แค่สอดมือเข้าไป พี่ฟ้าคนดีก็จับกระชับเอาไว้จนแนบแน่น ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าสายตาที่กำลังมองมายังบอกว่ารักอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
ตัวป่วนมันขึ้นไปนั่งคุกเข่าอยู่บนเก้าอี้ลักษณะเป็นไม้แผ่นยาวที่ตรึงแน่นกับกราบเรือ โดยที่มือข้างหนึ่งเกาะยึดกับราวที่เอาไว้กั้นเด็กซนทำตัวเองตกน้ำเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ปล่อยให้อยู่ในอุ้งมือของคุณแฟนไปแบบนั้นแหละ สักพักก็รู้สึกถึงหมวกผ้าที่ครอบลงมาบนหัว
พอหันกลับไปมองคนที่อุตส่าห์ใช้มือข้างเดียวล้วงเอาหมวกในเป้ออกมาใส่ให้โดยไม่ยอมปล่อยมือที่ยังจับยึดกันไว้กะจะแซวแฟนตัวเองเล่นก็ต้องเปลี่ยนใจ เพราะสายตาภายหลังกรอบแว่นมันอุ่นเกินไป ทั้งอบอุ่น ทั้งเป็นสุขจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ทำได้แค่เหลือบตาซ้ายทีขวาที พอเห็นว่าทางสะดวกก็ยกมือข้างที่ยังจับกันไว้ขึ้นมาแตะจูบเร็วๆลงไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้มองจับไปที่ฟองคลื่นสีขาวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รับรู้ถึงเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอข้างๆหูอย่างอารมณ์ดีของคุณแฟนตัวโต แค่นี้ก็รู้สึกความร้อนทั้งตัวมันมารวมกันบนใบหน้าจนแทบระเบิดแล้ว
“ตัวป่วน!? พี่ฟ้า!? มาได้ไง!!?” เสียงโวยวายดังมาจากไอ้เสือแสบของพี่ปุ่นที่เดาเอาว่าคงจะเพิ่งตื่นเต็มตา พี่อากาศกับตัวป่วนฟังแล้วได้แต่ขำ ก็สีหน้าแบบนั้นทั้งเหวอทั้งเอ๋อ เดี๋ยวเหอะ อีกเดี๋ยวต้องงอนพี่ปุ่นแน่ๆ แล้วผิดซะเมื่อไหร่ พี่ปุ่นมันจะรู้ตัวมั้ยน้า..... ว่าแค่คุณเสือน้อยงอนแค่นี้ก็หน้าเหี่ยวขึ้นมาอย่างกับดอกไม้ขาดน้ำ โถ......
ลงเรือมาได้ก็เห็นหลังชีต้าห์ลับไปไวไว แถมด้วยพี่ปุ่นในชุดนอนเก่าย้วยเร่งก้าวฉับๆตามไปอีกคน สงสัยลืมไปแล้วมั้งว่าน้องมาด้วย โฮะๆๆๆๆๆๆๆ แต่จะสนทำไม ในเมื่อพี่ปุ่นมีภารกิจง้อเสือ ส่วนทางนี้ ตัวป่วนก็มีภารกิจเหมือนกัน...ภารกิจเอาใจคุณอากาศ
เมื่อตอนเรียนว่าหาวันว่างตรงกันยากแล้ว พอเข้าทำงานถึงได้รู้ ว่าวันว่างแถมหลายวันติดกันนี่ยิ่งหายากกว่าหลายเท่า คุณอากาศท่านทำงานเหนื่อย ตะลอนๆเดินทางไกลตลอด แต่ตัวป่วนอยากได้อะไร อยากเจอเมื่อไหร่ แกเป็นต้องรีบรี่หาเวลามาหามาเอาใจอย่างด่วนทุกที ไอ้ที่ว่าจะมาล้มทับพี่ปุ่นก็อ้างไปงั้นแหละ ที่จริงคือตัวป่วนมันอยากให้คุณอากาศแกพักบ้าง ความคิดนี้ก็ไม่ใช่ใครหรอก ไอ้เพื่อนนุ่นตัวดีแหละมันบอกมา ไอ้นุ่นมันว่า
‘ป่วนแก.....พี่ฟ้าหายไปทีนานๆแบบนี้ แน่ใจได้ไงวะว่าพี่เขาไม่มีอิหนูอ้ะ?’
‘โฮ้ย.....ไม่มีหรอก ถ้าจะมีก็มีไอ้หนูไม่ใช่อิหนู ฮ่าๆๆๆๆ’
‘ปากดี ถ้าพี่เขามีจริงแกแหละจะน้ำตาเช็ดหัวเข่า’
‘.......หงะ......แล้วทำไงดีอ้ะ?’
‘แกก็ต้องเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เติมความหวานให้กันบ้างไง โห่ว.....แค่นี้ต้องให้สอน’ และนั่นแหละ ทำให้ไอ้หนูป่วนแทนที่จะมาหาพี่ชายพี่สะใภ้แค่ช่วงวันหยุดธรรมดาวันสองวันก็เลยถือโอกาสลาพักร้อนแถมไปแง้วๆให้คุณแฟนตัวโตมาด้วยซะงั้น
ได้กุญแจบ้านพักบนเกาะจากพี่เต้มาปุ๊บไอ้หนูป่วนเลยจัดการจูงมือคุณแฟนไปกันสองคน แว่วๆเสียงพี่เต้บอกเวลาอาหารกลางวันและอาหารเย็น แถมบอกอีกด้วยว่าจะสั่งไปที่บ้านหรือจะทำกินเองก็มีเตาไว้ให้เรียบร้อย อยากได้อะไรก็เดินไปบอกที่เรือนสำนักงาน เพราะพี่เต้และเจ้าหน้าที่จะอยู่ที่นั่น หาไม่ยากหรอก เพราะเกาะนี้เล็กนิดเดียว หาดที่ลงเล่นน้ำได้ก็มีแค่สองหาดเอง
“พี่ฟ้าคนดี.....เหนื่อยมั้ย?” เปิดประตูเข้าบ้านวางของถอดหมวกเรียบร้อยไอ้หนูป่วนมันก็หันทั้งตัวมากอดหมับเข้าที่เอวของคุณแฟนตัวโตแล้วกระซิบถาม
พี่อากาศทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียงพร้อมกับดึงไอ้ตัวที่จู่ๆก็เข้ามาออดอ้อนให้นั่งตามมาบนตัก แล้วส่ายหน้าช้าๆ ปล่อยให้ไอ้ตัวเล็กมันถอดแว่นออกจากดั้งจมูกแล้วยืดแขนส่งไปวางไว้ที่ตู้เตี้ยใกล้มือง่ายๆ เอียงแก้มรับจูบเด็กน้อยที่เจ้าตัวคนจูบมันหน้าแดงแจ๋ แถมพอพี่เขาลองแตะนิ้วลงกับแก้มแดงๆนั่นก็พบว่าร้อนฉ่าจนนึกเอะใจ
“มีอะไรรึเปล่าครับ?”
“หึ เปล่าน้า......เปล่ามีอะไรสักหน่อย” แน่ะๆ ปฏิเสธทันทีทันใดแบบไม่ผ่านสมองส่วนคอเท็กซ์ชัดๆ ตอบโต้แบบปฏิกิริยารีเฟล็กซ์แบบนี้น่าเชื่อตายล่ะ ไอ้หนูป่วนเอ๊ย.....
พี่อากาศมองอาการแลบลิ้นออกมาแตะริมฝีปากแล้วขบฟันบนลงกับริมฝีปากล่างเหมือนกลัวตัวเองจะเผลอหลุดความลับแล้วนึกขันอยู่ในใจ คุณแฟนของพี่นี่น่ารักจริงๆน้า.....กี่ปีๆคิดอะไรก็แสดงออกมาหมดแบบนี้ ต่อให้อีกสิบปีก็ปิดพี่ไม่ได้หรอกนะตัวป่วน......
แล้วดูสิ เจ้ามือซนๆนั่นหยุดจะทำงานรึก็เปล่า ซนจนไล้เข้าไปแนบอยู่บนแผงอกใต้เสื้อยืดของพี่เขาแล้ว ทั้งๆที่คิ้วมันยังขมวดอยู่นั่นแหละ
“เอ........ตัวป่วนอยากเล่นน้ำทะเลรึเปล่าน่ะ?”
“อื้อๆๆ อยากสิพี่ฟ้า เดี๋ยวแดดร่มเราลงทะเลกันนะ ป่วนไม่ได้มาทะเลตั้งนานแล้วอะ”
“อืม........ไงดีล่ะ คือถ้าคุณแฟนของพี่ยังมือซนอยู่แบบนี้ พี่ฟ้าว่าวันนี้เราคงไม่ได้เล่นน้ำทะเลแน่ๆเลยนะครับ ได้ยินพี่เต้บอกว่าคืนนี้รีสอร์ทมีปาร์ตี้ด้วยน้า......คงจะอดซะล่ะมั้ง” ได้ผลเจ้ามือแสนซนชะงักการเคลื่อนไหวได้ทันที แต่หัวคิ้วที่ขมวดกลับยิ่งขมวดเข้าไปจนแทบจะผูกโบ
“งั้น........ค่อยเล่นพรุ่งนี้ก็ได้” โถ........เสียงอ่อยมาเชียวไอ้ตัวเล็กเอ๊ย
“หึๆๆ พี่ฟ้าจะไม่ใจร้ายหรอกครับ เพราะปาร์ตี้มีคืนนี้คืนเดียว เดี๋ยวเด็กแถวนี้อดเล่นเกม เพราะงั้น...บอกพี่มาดีๆดีกว่ามั้ย ว่าตกลงนึกอะไรขึ้นมาถึงตั้งใจอ้อนพี่ขนาดนี้ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจมาอีกรึเปล่า?”
“ก็......ก็พี่ฟ้าไม่อยู่คราวละนานๆ ป่วนก็เลย กลัวนิดหน่อย....”
“กลัว........กลัวอะไร?”
“ก็ ก็.........ไม่เอาอะ เดี๋ยวพี่ฟ้าโกรธ”
“กลัวพี่ไปมีคนอื่น? กลัวพี่ฟ้าเบื่อตัวป่วนเหรอ?”
นั่นไง ไอ้ตัวดีสะดุ้งขึ้นทั้งตัวทั้งที่ยังซุกอยู่กับอกคุณแฟนตัวโตนั่นแหละ แค่คิดก็ถูกจับได้ซะแล้วไอ้ตัวเล็ก
“........................”
“เฮ้อ........เอาล่ะพี่จะถือเป็นความภูมิใจขั้นสุดยอดแล้วกันนะครับ เพราะถ้าคิดได้ขนาดนี้แปลว่าคุณแฟนแคร์พี่มาก แถมยังหวงมากด้วย กลัวว่าพี่จะไม่รักล่ะสิ”
“อื้ม........กลัวว่าจะรักน้อยลงด้วย ไอ้นุ่นมันเลยแนะนำว่าต้องเปลี่ยนบรรยากาศอะ มันว่าคนเราคบกันไปนานๆแล้วจะเบื่อ ต้องหาอะไรใหม่ๆมาทำจะได้เติมความหวานให้ชีวิตคู่ แล้ว........คือ.......เอ่อ....” นั่นไง พอหลุดออกมาก็พูดได้น้ำไหลไฟดับ แล้วเป็นไงล่ะ เงยหน้าสบตาปิ๊งๆกับพี่เขาแล้วรู้ว่าหลุดอะไรไปก็ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองซะงั้น ไอ้ที่หลุดปากพูดไปแล้วมันเก็บกลับมาไม่ได้นะตัวป่วนนะ
“หึๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ตัวป่วนของพี่ ฮ่าๆๆๆๆ”
“ห้ามหัวเราะ!!” ไอ้หนูป่วนหน้าร้อนจี๋ นี่ถ้ามีเสียงเอฟเฟคท์ดังได้ก็คงจะดังฉ่าๆแน่นอน ก้มหน้างุดๆลงซุกเข้ากับซอกคอคุณแฟนที่ยังไม่ยอมหยุดหัวเราะนั่นแหละ ก็จะลุกหนีก็ถูกยึดไว้แน่นเลยนี่นา ไม่น่าปากไวเลย พูดเองอายเอง อายๆๆๆ ไม่รู้จะทำยังไงแล้วล่ะสิ
แค่สักพักเท่านั้นแหละ พออาการสะเทือนเพราะแรงหัวเราะของเจ้าของตักหยุดลงตัวป่วนก็ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าดังเฮือกใหญ่ ก่อนพี่ฟ้าของมันจะกระซิบที่ข้างหูว่า
“พี่ฟ้าจะเป็นแฟนที่ดี ไม่เอาแต่ใจจนทำให้ตัวป่วนไม่ได้ไปเล่นเกมคืนนี้ แต่เรื่องลงทะเลน่ะ ตัวป่วนคงต้องอดใจรอพรุ่งนี้นะครับ”
อัศจรรย์พันลึกพิลึกลั่น ทั้งตะวันส่องฉานอยู่กลางฟ้า
พยับเมฆพลันครึ้มกลบนภา เจ้าสำเภาก็ผวาเร่งกางใบ
ลมสลัดจู่โจมจะกลืนอ่าว สำเนียงราวฟ้าจะล่มข่มไม่ไหว
ฝีพายเร่งสาวพายโจนเข้าไป หลบอยู่ในเวิ้งถ้ำทั้งสำเภา
ลมกระโชกก่อคลื่นระลอกริ้ว เรือละลิ่วลึกล้ำถึงเชิงเขา
เจ้ามัจฉาแหวกธารจนมึนเมา ปะทะเอาผนังหินจนถ้ำสะเทือน
พุน้ำร้อนพลันกระฉอกออกถะถั่ง น้ำประดังลมประเดหาใดเหมือน
พอฟ้าเปิดเมฆคล้อยจนเห็นเดือน แรงสะเทือนก็พลันลับกับแสงตะวัน ......................................
.........จบตอนพิเศษค่ะ............