Room 56
สวัสดีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ไม่เจอกันมาตั้ง 3 ปีแน่ะ... ว่าแล้วก็บิดขี้เกียจรับแสงแดดเสียหน่อย เวลาตอนนี้สายมากเกินกว่าจะนอนต่อไปได้แล้ว ผมคงต้องลุกขึ้นมามีชีวิตได้แล้วล่ะ เมื่อคืนออกจะวุ่นวายนิดหน่อยเพราะมีงานเคาท์ดาวน์ในห้องนี้ พร้อมด้วยปาร์ตี้มาม่าอีกหม้อนึง หลายคนอาจไม่รู้ ซึ่งบอกตามตรง... ผมก็เพิ่งรู้มาไม่นานนี้แหละ
29 กุมภาพันธ์ เป็นวันเกิดภคิน...
แม่ง... เป็นวันเกิดที่เหมาะกับผู้ชายขาด ๆ เกิน ๆ อย่างมันจริง ๆ ชีวิตมึงไม่มีอะไรเต็ม แม้กระทั่งวันเกิดยังต้องรอสี่ปีจะมีครั้งหนึ่ง ปีที่แล้วก็ไม่ได้ฉลองวันเกิดด้วยกันเพราะผมชิ่งกลับบ้านไปก่อน ใช่แล้วครับ... ไอ้งานบายเนียร์ปีที่แล้ว ที่ชิ่งหนีไปเชียงใหม่แล้วเสือกมีคนตามมานั่นแหละ คิดแล้วยังตลกไม่หาย... ตอนนั้นผมหมั่นไส้มันน่าดูเลย แต่พอมันจีบเข้าหน่อยก็คล้อยตาม โคตรใจง่ายเลยว่ะ! แต่ความจริงแล้วน่ะ... ผมหวั่นไหวกับมันตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้วล่ะ
ไอ้ห่านี่มันแน่มากนะ! ผมเหลือบมองเฝือกขาว ๆ ที่พาดอยู่บนขอบเตียงแล้วอยากจะเหยียบให้เฝือกแตก ไม่คิดว่าจะโดนไอ้เปรตนี่ปั่นหัวซะได้ เสียความเป็นชายชาติทหารหมดเลยกู
ทั้ง ๆ ที่สอบเสร็จไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 กว่า ๆ แต่บังเอิญว่าพ่อกับแม่จะลงมาทำธุระที่นี่นิดหน่อย เลยบอกให้ผมนั่ง ๆ นอน ๆ รออยู่นี่ก่อน แล้วค่อยติดรถพ่อกลับขึ้นไป... ถือเป็นการประหยัดพลังงานและเงินในกระเป๋าของบ้านเรา แต่ถึงพ่อไม่ลงมาผมก็จะอยู่ฉลองวันเกิดกับภคินอยู่ดีแหละครับ วันเกิด... ฟะ... แฟนทั้งคนนะ! เออสิ... ก็แฟนไง จะมาอะไรนักหนาเล่า! ส่วนเมื่อคืนก็ไม่มีอะไรด้วย ไม่ต้องคิดครับ! แถมสิ้นเดือนงบประมาณชาติหมด เลยได้แดกมาม่ากันเสียอย่างนั้น จะว่าไปมันก็สนุกไปอีกแบบนะครับ... ใส ๆ ไร้แอลกอฮอล์ แดกเป๊ปซี่กันแทน แต่ไอ้พวกนั้นก็เมาดิบได้ เออ ตลกดีว่ะ
เจ้าของวันเกิดยังคงหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว เพราะเมื่อวานเสือกซ่าแดกเป๊ปซี่เยอะไป... ลุกเยี่ยวทั้งคืนครับ ลำบากใครอีกถ้าไม่ใช่ผม ที่ต้องตื่นขึ้นมาช่วยพยุงมัน ทีโดดลงเวทีลูกทุ่งเสือกทำได้ ทำไมลุกไปฉี่มันต้องปลุกกูด้วย ไม่เข้าใจครับพี่! บ่นไปงั้นแหละ สุดท้าย... เอาจริง ๆ ผมก็ใจไม่แข็งพอจะปล่อยมันไปเข้าห้องน้ำคนเดียวหรอก เกิดลื่นหัวฟาดพื้นขึ้นมา ตายครับ ตำรวจตามมาจับกูแน่ ๆ
วันนี้เราคงไม่ได้ไปไหนกันหรอกมั้ง หลังสอบปลายภาคผ่านไป... ผมเสียชีวิตในหน้าที่ แล้วฟื้นคืนชีพอีกครั้งหลังมันสิ้นสุดลง ปิดเทอมซะทีว้อย! ฉลองกันเมาเป็นหมา (ไม่ใช่ผมครับ ไอ้โจ้ที่คลานรอบวงต่างหาก) ไม่ทันไร ตังเราก็หมด ผมหนีไปเกาะไอ้เวฟกินอยู่ช่วงนึง แต่ก็โดนมันถีบหัวส่งกลับมาซดมาม่าที่ห้อง... ยาใจคนจนจริง ๆ
ว่าแล้วก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำดีกว่า เดี๋ยวมันตื่นแล้วก็ต้องอาบน้ำให้มันอีก นี่กูมีลูกเหรอวะ? ผมจด ๆ จ้อง ๆ ไอ้พระเอกที่นอนแผ่หลาอย่างสบายอารมณ์ เปลือกตาบาง ๆ หลับพริ้มเสียจนน่าหมั่นไส้ เชื่อผมเหอะ... ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็ต้องอิจฉา แต่โชคยังดีที่พระเจ้าทำตำหนิเอาไว้ที่สันดานมัน ผมเลยพอจะคลายความริษยาลงไปได้บ้าง ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ผมนั่งจ้องหน้ามันไปหลายนาที ไม่รู้ว่าจะวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าอะไรบนหนังหน้ามัน เฮ้อออออออออ ลุกไปอาบน้ำดีกว่าว่ะ
กว่าไอ้พระเอกจะตื่นก็ล่อไปเกือบบ่ายได้อะครับ มันงัวเงียลากขากะเผลก ๆ มาเรียกผมไปอาบน้ำให้ ขี้ข้าอย่างไอ้ไปป์ก็ต้องไปบริการอีกตามเคย อาบน้ำเสร็จมันก็มานั่งเอกขเนกที่โซฟาสีเขียวอ่อนตัวเดิม มันเย็นครับ เพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แต่ผมแม่งโคตรร้อน ต้องแบกผู้ชายตัวเท่าควายเนี่ย
“ชื่นใจจัง มีเมียดีเป็นศรีแก่ตัวจริง ๆ ”
“แฮ่ก... แฮ่ก... ไอ้... เดี้ยง!” ผมเตะเฝือกมันเบา ๆ ไม่กล้าเตะแรงมาก เดี๋ยวเดี้ยงยาวแล้วกูซวยอีก
“จะไม่ถามคำถามน่ารัก ๆ หน่อยเหรอ เช่นว่า ที่รักอยากไปเที่ยวที่ไหนคะ? อยากได้ฉันผูกโบเป็นของขวัญวันเกิดมั้ยคะ? จะกินเค้กหรือกินฉันก่อนดีคะ?”
“มึงไปจำไดอาล็อกมาจากหนังโป๊นี่หว่า สัตว์!” เจอตบกะโหลกเข้าให้ “แม่ง! มึงเห็นกูหน้าเหมือนมิยาบิรึไง”
“ใกล้เคียงอยู่ แต่กูว่า... มึงเด็ดกว่ามิยาบิอีกนะ”
“พ่อมึงสิ!” หน้าเน่อกูแดงไปหมดแล้ว ผมแม่งแพ้มุกลามกจริง ๆ ว่ะ โดนจี้จุดอ่อนจัง ๆ “มองอะไรวะ ข้าวจะไม่แดกใช่มั้ย กูปล่อยให้อดตายในห้องแม่งเลย”
“กูรู้มึงไม่ทำหรอก แฟนกูใจดีจะตาย... ใช่มั้ยจ๊ะ?” หยอดเข้าไปมึง... หยอดเข้าไป น้ำหยดลงบนหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วหนังหน้าบาง ๆ ของผมหรือจะเหลือรอด? ละลายเป็นน้ำได้กูทำไปแล้วครับ
“อยากไปเที่ยวไหนมั้ย?” ผมถามพลางล้มตัวลงนั่งข้าง ๆ มันแล้วคว้าพี่เดียวดายที่นั่งหน้าสลอนมากอดไว้
“อะไรวะ ทำไมอยู่ ๆ จะตามใจกูขึ้นมา เมื่อกี้ลื่นหัวฟาดพื้นในห้องน้ำเรอะ”
“กูจะลื่นทุกวันเพราะมึงนั่นแหละ!”
จะว่ายังไงดีวะ... การที่ภคินมันไม่ค่อยสนใจวันเกิดตัวเองแบบนี้เหมือนมาสะกิดต่อมผมเข้า คือมันเหมือนจะเป็นเรื่องดีใช่มั้ยครับ ที่มันไม่โวยวายจะเอานู่นเอานี่ในวันเกิด (ลืมไอ้ประโยคแดกเค้กนั่นซะ ผมรู้ว่ามันพูดเล่น) แต่ผมกลับคิดอีกแง่ว่า เพราะมันไม่เคยได้อะไรในวันเกิดเลยต่างหากล่ะ สมัยเด็กผมตื่นเต้นทุกครั้งที่ใกล้วันเกิด คิดว่าปีนี้จะได้อะไรเป็นของขวัญ? พ่อแม่จะพาไปเที่ยวที่ไหน? แต่สำหรับภคินแล้ว... มันแทบไม่มีความสำคัญอะไรเลย เหมือนวันธรรมดา ๆ วันหนึ่งเท่านั้น แต่นี่มันวันเกิดจริง ๆ ของมันที่สี่ปีจะมีหนึ่งครั้งนะ! ดังนั้นผมจะทำให้มันเป็นวันเกิดที่สมกับเป็นวันเกิดล่ะ!
แต่เมื่อคืนก็ผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ ผมบอกให้ภคินโทรไปขอบคุณแม่สำหรับวันเกิด ผลตอบรับเกินคาดครับ... คุณน้าซึ้งถึงขั้นร้องไห้เลยทีเดียว เล่นเอาไอ้ภคินไปไม่เป็นเลยทีเดียว บ้านมันก็เป็นซะแบบนี้แหละครับ ห่างเหินกันมาตลอด พอได้รู้สึกว่าใกล้ชิดกันขึ้นมา ก็เลยอ่อนไหวเอาง่าย ๆ เรื่องขอบคุณแม่น่ะ เคลียร์ไปแล้ว แต่วันเกิดแบบวัยรุ่นทั้งที มันก็ต้องออกไปเที่ยวสิครับ!
“ก่อนมึงจะตื่น กูโทรถามฟาร์แล้ว วันนี้มันไม่มีซ้อมที่ชมรม” ทำไมกูต้องตื่นเต้นด้วยวะ แค่ชวนมันไปเที่ยวเองนะเว่ย ผมนั่งเล่นแขนพี่เดียวไปมา “ละ... แล้วแบบว่า... รถมันเลยว่าง”
“แล้ว?” มันเลิกคิ้ว
“กะ... ก็ไปเที่ยวกันได้ไงวะ อยากไปไหนล่ะ?”
“ขาเดี้ยงขนาดนี้ กูว่านอนอยู่บ้านเวิร์คสุดแล้ว หรือมึงอยากเที่ยว?” โอ๊ยยยยยยยย! กูอยากให้มึงเที่ยวหรอก ไอ้โง่!
“ไม่รู้ล่ะ แม่ง วันนี้กูจะไม่ให้มึงอยู่บ้านเด็ดขาด วันเกิดทั้งที แม่งไม่เที่ยวได้ไงวะ”
“ปกติกูก็ไม่เที่ยวอยู่แล้ว” มันไหวไหล่ “แต่ถ้ามึงอยากไป กูก็มีที่ที่อยากไปอยู่นะ”
“ที่ไหนวะ?”
“สวนรถไฟ...”
“แม่ง... ร้อนชิบหาย เสือกอยากไปสวนรถไฟ มึงเอานิ้วโป้งตีนคิดเรอะ”
“แม่ง... เกรียนชิบหาย ถามกูแล้วเสือกไม่ไป มึงเอาไส้ติ่งคิดเรอะ”
จุกไปถึงทรวงใน มึงยอกย้อนได้เจ็บแสบมากไอ้เดี้ยง จะด่ากลับก็ไม่รู้จะด่าอะไร เพราะนี่มันความผิดผมเต็ม ๆ ที่เสือกไปตามใจมัน... ก็ใครจะไปคิดว่าพี่ท่านจะอยากไปอะไรที่มันดูรักสุขภาพขนาดนั้นล่ะครับ
“มึงเมาป้ะเนี่ย ไปสวนแบบขาเดี้ยงเนี่ยนะ มึงจะเดินยังไงฮะ!? บอกกูที?” ภคินตอบคำถามด้วยการเหลือบตาลงมองที่เท้าผม แล้วค่อย ๆ คลี่ยิ้มมุมปากออกมา
ชิบหาย... รู้สึกว่านรกจะมาเยือนอย่างบอกไม่ถูก......................................................................
..............................................
.............................
..............
พอไอ้ฟาร์รู้จุดหมายปลายทางของวันนี้เท่านั้นแหละ มันอยากจะถอยรถกลับบ้านแทบไม่ทัน ซึ่งก็ไม่ทันจริง ๆ ครับ เพราะสุดท้ายมันก็ได้บรรทุกบรรดาสิ่งมีชีวิตแปลก ๆ เข้าไปเต็มคันรถ ก่อนจะมุ่งหน้าไปหาอะไรกินกันเสียก่อน ผมกะว่าไอ้สวนรถไฟเนี่ย มันก็ต้องไปตอนเย็น ๆ ใช่มั้ยล่ะครับ ไม่อย่างนั้นก็โดนแดดเผาตายพอดี สุดท้ายก็เลยมาแวะกินข้าวเช้าควบข้าวกลางวันตอนบ่ายสามโมง... กระเพาะไม่พังวันนี้ก็ไม่รู้จะพังวันไหนแล้วครับ
ร้านที่เราแวะกินเป็นร้านข้าวมันไก่ข้างทาง ซึ่งรสชาติไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีอะไรมาก เรียกได้ว่ากินกันตายเหอะครับ ไอ้ฟาร์ที่ออกจะคุณหนูเรื่องกินถึงกับกินเหลือเยอะพอควร เพราะอาหารไม่ถูกปากมัน
“กินเหลือไม่ดีนะครับ” พ่อกัญชายอดดวงใจอดจะทักขึ้นมาไม่ได้ แหม... เห็นแล้วผมได้แต่หมั่นไส้มันในใจ
“ไม่อร่อย”
“ฟาร์... พูดเบา ๆ นะมึง เดี๋ยวปังตอแป๊ะแกลอยมาปักกลางหัวพวกกู” ผมถึงกับต้องรีบสะกิด
“ถ้าไม่อร่อยก็ไม่ต้องทานหรอกครับ”
“มึงจะเก็บไว้เซ่นน้องหนูดีมึงใช่มั้ย?” ไอ้กันสอดปากเข้ามาแซว เดี๋ยวมึงได้ชะตาขาดละไอ้กัน
“น้องหนูดีไม่ทานอาหารรสชาติแย่หรอกครับ” โห! มันไม่ใช่ผีธรรมดานะครับ น้องหนูดีเป็นผีมีระดับ
“อร่อยไม่อร่อยก็ช่างแม่งเหอะ” ประโยคนี้จากผู้ชายที่แร้นแค้นเงินทอง “ว่าแต่มื้อนี้ใครจ่าย?”
เกิดความเงียบปกคลุมไปทั้งโต๊ะ ไอ้พระเอกชิ่งเอาตัวรอดด้วยการยิ้มหน้าระรื่น “วันเกิดกูนะเว่ย พวกมึงไม่คิดจะทำอะไรเพื่อกูบ้างเหรอ?”
“โอเค... พวกกูเลี้ยงมึงเอง” ผมล้วงเหรียญห้าขึ้นมาวางบนโต๊ะ “พวกมึงเอามาคนละห้าบาท อ๊ะ... กูยอมออกสิบบาทเลย ถือว่าพวกกูได้ให้ของขวัญมึงครบถ้วนกระบวนความแล้ว อย่าได้ทวงของขวัญอะไรจากกูอีก”
“มึงเล่นมุกนี้เหรอไปป์” มันหรี่ตาลง “คิดว่าคืนนี้จะรอดเหรอ”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด! ประเจิดประเจ้อ ผู้ชายสองคนนี้บอกว่าจะมีเพศสัมพันธ์กันค่ะคุณ!”
“เชี่ยโจ้ มึงจะพูดดังหาพ่อมึงเหรอ!? แล้วจากเรื่องอาหารหมาไม่แดกมันมาเรื่องนี้ได้ไงวะ”
“เมื่อกี้ลื้อว่าลกชากมังทำไมนะ?” ชิบหาย... เสือกตะโกนดังไปจนอาแป๊ะแกฟาดปังตอประหนึ่งจะสะบั้นหัวผมให้ขาดตามไก่ไป “ลื้อบอกว่าหมาไม่แหลก?”
“แต่คนแหลกไงครับแป๊ะ อร๊อยอร่อยด้วย”
รอดไปนะกู... เฮ้อออออออออออออออออออ ไอ้เวรทั้งหลายก็ไม่ได้หยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้เล้ย มันน่ายืมปังตอแป๊ะแกมาฟันให้รู้แล้วรูรอด
จ่ายเงินเสร็จแม่งวิ่งออกจากร้านแทบไม่ทัน ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าเป็นเวลาอันควรแล้ว ที่เราจะเสด็จไปสวนรถไฟเสียที แม่ง เวิ่นเว้อมานาน พอฟาร์หาที่จอดรถได้ ผมก็หาไม้ค้ำมาให้ไอ้พระเอกขาเฝือกที่ทำซ่า เสือกอยากจะมาเดินสวน ไม่ดูสารรูปตัวเอง มันทำหน้าเบื่อ ๆ ตอนที่สอดมือเข้าไปจับตรงส่วนด้าม แล้วค่อย ๆ เดินกะเผลก ๆ ข้าง ๆ ผม รู้หรอกน่าว่ามันอยากจะยืนด้วยขาของตัวเองเต็มแก่แล้ว คิดดูสิ ใช้ไม้ค้ำคนธรรมดายังไม่ชอบเลย แล้วนี่กับไอ้ภคิน... ผู้ชายที่แม่งคิดว่าตัวเองแน่นักหนา ผมว่าไม่เกินสองเดือนต้องมีเหตุการณ์ที่มันเหยียบไอ้ไม้ค้ำนั่นหักคาตีนแน่ ๆ
“แล้วที่มึงตั้งใจมาสวนนี่เพื่ออะไรวะ อยากทำกายภาพบำบัดรึไง?” ผมเดินข้าง ๆ ไอ้คนที่กำลังกระโดดเหยง ๆ ไปตามทาง
“กูไม่ชอบนั่งอยู่เฉย ๆ มันรู้สึกเหมือนกูทำอะไรไม่ได้”
ผมถอนหายใจ “ซึ่งมึงก็ทำอะไรไม่ได้จริง ๆ โอ๊ย! เดี้ยงแล้วยังซ่ามาทุบหัวกูเหรอ”
“กูไม่เคยเดี้ยง!”
“แล้วไอ้ขาในเฝือกแข็งเป๊กนั่นมันอะไรวะ มึงมันชอบฝืนทำอะไรเกินตัว”
“กูไม่ได้ฝืน... กูทำเพราะกูทำได้” มันว่าพลางพยายามเดินด้วยไม้ค้ำให้เร็วกว่าผม
“ไอ้ดื้อเอ๊ย” ผมส่ายหัวเอือม ๆ “ดันทุรังจริง ๆ ”
“มึงก็ขี้บ่นจริง ๆ ” มันว่า “แต่กูก็ชอบที่มึงเป็นแบบนี้แหละ เป็นห่วงกูล่ะซี้” ไอ้พระเอกหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ผม เสือกมาเปลี่ยนโหมดเลี่ยนอะไรตอนนี้ครับพี่ กูเขินนะเนี่ย “นั่น! เขินอีก ๆ ”
“แม่ง...” พูดได้แค่นี้จริง ๆ ครับ ด่าไม่ออก น้ำท่วมปากเลย
“ตรงนั้นจะหวานกันให้มดกัดตายเลยรึไงครับ”
ฮึก... เมื่อบอสใหญ่มันออกโรงถึงขนาดนี้ กูเลยต้องรีบจ้ำอ้าวเดินไปให้ทันการ ผมถามภคินว่าอยากทำอะไร แต่มันดันบอกว่า... ทำอะไรก็ได้ที่มีผมอยู่ด้วย เมื่อเช้าใครเอาน้ำตาลกรอกปากมันมาวะ สารภาพกับกูมาซะดี ๆ ! พวกผมเช่าเสื่อผืนใหญ่มากาง แล้วนั่งมองหน้ากันเหมือนจะรอให้ใครพูดอะไรออกมาก่อน
“มึงจะจั่วกันตรงนี้จริง ๆ เหรอวะ” ไอ้โจ้ว่าแล้วล้วงกระเป๋าหยิบกล่องไพ่ขึ้นมา “แต่ก็เอาเหอะ นักพนันที่แท้จริงต้องไม่เลือกสถานที่”
“โจ้ส่งมาให้กู...” ไอ้กันจั่วไพ่แล้วสะบัดออกไปสุดแขน “เทิร์นของข้า... จั่วไพ่! ออกมาเลย บลูอายไวท์ดราก้อน!”
“มันจะออกมาได้ไงวะ มอนสเตอร์ระดับสูงมึงต้องบูชายัญก่อนเซ่!” เอ๊ะ... เหมือนกูจะด่าผิดประเด็นไปนิด แต่จะให้พวกมันทำไพ่เดคนี้แปดเปื้อนมิได้ เพราะมันมีจิตวิญญาณของดูเอลลิสต์หลงเหลืออยู่น่ะสิ “แล้วมึงจั่วตรงนี้ ตำรวจก็มาลากคอไปพอดีสิวะ”
“โธ่... กูนึกว่ามึงจะด่าที่เล่นไพ่” ไอ้ภคินบ่น
“นายนั่นแหละคิน... บอกให้พวกเรามาที่นี่ สรุปว่าไม่มีอะไรทำ?”
“กู... จะไปปั่นจักรยานกับไปป์!” มันประกาศกร้าว
“เฮ้ย! ถามกูบ้างสิว้อยยยยยยยยย แล้วนี่มึงกล้าใช้คำว่าปั่นจักรยานกับกูเหรอ? ดูยังไง ๆ กูก็ต้องปั่นฝ่ายเดียวชัด ๆ ”
“ขาของผัวก็เหมือนขาของเมียนั่นแหละ” ทฤษฎีเหี้ยอะไรของเมิ้งงงงงงง เกิดมาไม่เคยได้ยินโว้ย “ฉะนั้น... ลุกเด๊ะไปป์!”
“ไม่เอา! มึงตัวหนักจะตายห่า กูไม่ปั่นนนนนนนน”
“อะไรนะ อยากปั่นอย่างอื่นมากกว่า?”
“ควายยยยยยยยยยยยยยย”
“เดี๋ยวสระอาหายแล้วมึงจะหนาว ไป!” มันยื่นเฝือกมาเตะผม “ไม่อยากให้กูเดินเยอะไม่ใช่?”
เชี่ยนี่เล่นมุกนี้แล้วกูจะทำไงได้ล่ะครับ ผมสะอึกฮึกหนึ่งก่อนจะเดินฮึ่ม ๆ มาดึงไอ้เดี้ยงขึ้นจากเสื่อ พอเห็นไอ้ภคินส่งยิ้มอย่างผู้ชนะแล้ว... กูอยากจะเตะอัดพญานาคมันสักที รู้ว่ากูเป็นห่วงแล้วคิดว่าจะทำอะไรก็ได้เรอะ... เออ มึงคิดถูกแล้ว!
ผมพาเจ้าภาพวันเกิดมาจัดการเรื่องเช่าจักรยานเสียให้เรียบร้อย ตอนนี้เป็นเวลาเย็นย่ำ แดดร่มกำลังดี ถ้าไม่ติดว่าต้องแบกควาย ผมว่ามันก็เหมาะจะปั่นจักรยานดีนะ สวนที่เต็มไปด้วยสีเขียว ๆ ช่วยให้ความวุ่นวายในเมืองใหญ่นี่สงบลงอย่างเหลือเชื่อ ยิ่งผมที่เป็นพวกชอบธรรมชาติแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเอาออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าปอด ฮ่า... สดชื่น
“มึงจะยืนหายใจอีกนานมั้ย ค่าเช่าเขาคิดเป็นชั่วโมงนะ”
“รู้แล้วน่า” ทำกูหมดอารมณ์หนุ่มหล่อในป่าใหญ่ “ขึ้นมาเลยครับคุณชาย”
แม้ว่าจักรยานแม่บ้านสีชมพูแปร๋นมันจะไม่น่าพิศมัยเท่าไหร่ แต่ไอ้ภคินก็ขึ้นนั่งซ้อนหันหลังชนผมอย่างไม่ลังเล มันรวบไม้ค้ำทั้งสองไว้ที่มือขวา ผมยืนรอสักพักจนมันจัดท่านั่งเรียบร้อย จึงค่อย ๆ ไถจักรยานไปข้างหน้าแล้วยกเท้าขึ้นปั่น... ฝืดเอาเรื่องครับ เคยแต่ปั่นเอาไอ้เชอร์ซ้อนสมัยเด็ก เจอของหนักเลยกูงานนี้
“แดกช้างทั้งโขลงมารึไงวะ กูปั่นทีขาแทบจะหัก”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ มึงแห้งเกินไปต่างหาก ถามจริง สมัยเด็กไปโตที่เอธิโอเปียเหรอวะ”
“กูว่าเอาด้านหลังสอยอัดติดต้นไม้ซะดีมั้ย?”
“อยากเป็นหม้ายก็เชิญ...”
“ภคินมึงอย่าลากเฝือกกับพื้นสิวะ มันปั่นยากนะเว่ย” ผมหันไปแว้ก... ยังไม่ทันสางคดี หางตาก็เหลือบไปเห็นเรือพายลำน้อย ๆ ลอยกลางน้ำ จะไม่อะไรเลยครับ ถ้าบนเรือไม่ได้มีไอ้ฟาร์กับอาร์ทศาสตร์มืดนั่งอยู่! แม่ง! กูอยากจะปั่นจักรยานลงไปแซวกลางน้ำ “ภคิน... ภคิน! ไอ้ฟาร์กับไอ้อาร์ทอะ เชี่ย พายเรือสวีทหวานแหวว”
“แล้วไงวะ สู้กูก็ไม่ได้... ใช้แรงงานเมีย หวานกว่าเยอะ” ฟังยังไงมันก็แปลก ๆ อยู่ดี “ไม่ต้องสนใจคู่คนอื่นเค้าหรอก เสือกจนเป็นนิสัยนะมึงอะ”
“ไอ้...”
“ไม่เอาแล้ว วันเกิดกูทั้งที อย่าเถียง เรามาร้องเพลงกันดีกว่า”
ผมได้ยินเสียงกดปุ่มมือถือดังตึ๊ด ๆ เฮ้ย รู้สึกเหมือนหายนะจะมาเยือนว่ะ มือถือ i-mobile รุ่นลำโพงแซ็ปหูดับของมันทรงพลังแค่ไหน ผมได้พิสูจน์กับเสียงนาฬิกาปลุกของมันมาแล้ว และตอนนี้ที่มือถือมันกำลังจะสำแดงฤทธิเดชให้ชาวโลกได้ฟัง... แม่ง... นี่มัน...
เป็นแฟนคนจนต้องคนหน่อยน้อง พี่นี้ไม่มีเงินทอง มารองรับความลำบาก เสียงพี่ไมค์ดังลั่นแหวกขั้วหัวใจ ฉีกหนังหน้าผมให้แหลกเป็นชิ้น ๆ “ดังไปแล้วโว้ย ภคิน!”
“อ้าว... ร้องเพลงนี้ไม่ได้เหรอ งั้นเปลี่ยน”
เมียพี่มีชู้... ชาวบ้านรู้ หรือเปล่า “ภคิ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”
“มึงนี่รสนิยมเพลงเรื่องมากจริงนะ”
“มันไม่ใช่เรื่องเพลงว้อย แต่มันเป็นเรื่องลำโพงนรกแตกของมึงต่างหาก”
“กูจะเปิดเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายละ ช่วยกูร้องด้วย...”
“มะ...” ปฏิเสธไม่ทันจบคำ พี่ท่านก็แหกปากขึ้นมาดังลั่น
http://www.youtube.com/v/1NKxalmq2VU?version=3&hl=en_US“เธอเห็นขอบฟ้านั้นไหม สักวันจะพาเธอไป” มันกางแขนทั้งสองออกกว้าง ๆ
“บนทางที่มี บางทีก็หกล้ม... ไม่เป็นไร”“เอ้า! ร้องสิ!” มันหันมาบังคับผมที่ยังคงได้แต่อึ้งก่อนจะร้องต่อ
“มีเป็นเพื่อนร่วมทาง จับมือเคียงข้างไม่ห่าง แค่นี้ก็พอ ชีวิตก็มีครบ... แล้วทุกอย่าง” ผมเผลอยิ้มตาม...
“
อู้ว~ ทำทุกวันที่มีให้งดงาม... ด้วยกัน เชื่อว่าวันดี ๆ มันจะรออยู่ที่ปลายทาง... ไปป์!”
“โว๊ะโอโอโอโอ่~” ผมแหกปาก สุดท้ายก็ต้องเล่นไปกับมันจนได้... “
แค่เธออยู่ข้าง ๆ อ๊ะอ่าว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตฉันไม่เหมือนเก่า... อยากร้องนัก มึงขึ้นให้ถึงนะโว้ย”
“เธอทำให้ถะโน้นนนนนนนนนนนน~ ของฉันสวยงาม” ผมหัวเราะลั่นกับถนนเสียงสูงสุดเพี้ยนของมัน “
โว๊ะโอโอโอโอ่~ ในวันที่เราเริ่ม... เดินทาง แค่เพียงมีเธอเดินกับฉันข้าง ๆ ก็ทำให้โลกนี้~ นั้นสดซ้ายยยยยยย~ สวยงามไปทุกอย่าง เหี้ย... พี่แหลมแกกินนกหวีดเข้าไปเหรอวะ”
“มึงนั่นแหละ เสือกมาท้าทายอำนาจมืด ริอาจร้องเพลงพี่แหลม”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ แต่ก็สะใจดีนะ” ผมยิ้มกว้าง รู้สึกบ้าที่เห็นด้วยกับมัน
“ที่นี่คือโลกอีกใบ ที่นี่จะไม่มีใคร แค่เธอกับฉัน ที่รู้ว่าโลกนี้... เป็นยังไง” โลกของผม... โลกของภคิน... โลกของเรา... สายตาของเรามีเพียงแค่ถนนเส้นเล็ก ๆ ที่ทอดยาวไปเบื้องหน้าเท่านั้น
อู้ว~ ทำทุกวันที่มีให้งดงาม... ด้วยกัน เชื่อว่าวันดี ๆ มันจะรออยู่ที่ปลายทาง... โว๊ะโอโอโอโอ่~ แค่เธออยู่ข้าง ๆ อ๊ะอ่าว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตฉันไม่เหมือนเก่า เธอทำให้ถนน... ของฉันสวยงาม
โว๊ะโอโอโอโอ่~ ในวันที่เราเริ่ม... เดินทาง แค่เพียงมีเธอเดินกับฉันข้าง ๆ ก็ทำให้โลกนี้... นั้นสดใส... สวยงามไปทุกอย่าง ผมรู้สึกถึงความอุ่นที่แผ่นหลังเพราะภคินเงยหน้าพิงมันอยู่ ไม่ต้องการคำพูดที่หวานหู ไม่ต้องการของขวัญราคาแพง ไม่ต้องการอะไรแล้ว... แค่มี ‘คนข้าง ๆ ’
“ลั่นลา ลั่นลา... ลั่นลา ลั่นลา... ลั่นลา ลั่นลา ลั่นลา ลั่นลา ลั่นลา ลั่นลา” และแหกปากเสียงยาว
“ล้า~~~~~~~~~~~” เราระเบิดเสียงหัวเราะกับความบ้าที่ไม่ได้นัดหมาย “บ้าเอ๊ย! คราวหน้ามึงเลือกเพลงง่าย ๆ หน่อยนะ”
อู้ว~ ทำทุกวันที่มีให้งดงาม... ด้วยกัน เชื่อว่าวันดี ๆ มันจะรออยู่ที่ปลายทาง... โว๊ะโอโอโอโอ่~ แค่เธออยู่ข้าง ๆ อ๊ะอ่าว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตฉันไม่เหมือนเก่า เธอทำให้ถนน... ของฉันสวยงาม
โว๊ะโอโอโอโอ่~ ในวันที่เราเริ่ม... เดินทาง แค่เพียงมีเธอเดินกับฉันข้าง ๆ ก็ทำให้โลกนี้... นั้นสดใส... สวยงามไปทุกอย่าง ภคินพูดกลั้วหัวเราะ “ท่อนสุดท้าย... ช่วยกัน!
แค่เธออยู่ข้าง ๆ อ๊ะอ่าว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตฉันไม่เหมือนเก่า เธอทำให้ถะโน้นนนนนนนนนน~ ของฉันสวยงาม” แล้วเราก็ช่วยกันแหกปากปิดฉากบทเพลงอันน่าหัวร่อนี่
“โว๊ะโอโอโอโอ่~ ในวันที่เราเริ่ม... เดินทาง แค่เพียงมีเธอเดินกับฉันข้าง ๆ ก็ทำให้โลกนี้... นั้นสดซ้ายยยยยยยยยยยยยยย~~~"
“สวยงามไปทุกอย่าง...” เคยยิ้มกว้างจนแทบบ้ามั้ย... พวกผมกำลังเป็นแบบนั้นเลยล่ะ
ต้นไม้สองข้างทางทอดยาวออกไปไกลสุดสายตา จักรยานสีชมพูแปร๋นยังคงเคลื่อนไปข้างหน้าไม่มีหยุด ผมลอบยิ้มกับหัวหนัก ๆ ที่พิงอยู่บนหลังไม่ห่าง... นี่เป็นวิธีการอ้อนของภคินมันล่ะ วันเกิดมันแท้ ๆ แทนที่ผมจะทำให้มันมีความสุข แต่มันกลับเป็นคนทำให้ผมมีความสุขแทนซะงั้น
“เจ็บคอเลยว่ะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ผมยิ้มกับคำบ่น “กูชักจะติดใจบริการจักรยานนี่ซะแล้วว่ะ”
“ตลกละมึง” บ่นไปงั้นแหละ ผมแหงนหน้าสูดอากาศดี ๆ เข้าปอด
“รู้มั้ย... ทำไมกูอยากมาที่สวน... เพราะรู้ว่ามึงจะดูแลกูไง พากูเดิน พากูนั่ง... พากูไปทุกที่”
“แล้วมึงรู้ตัวมั้ยว่ามึงหนักมาก!?”
“รู้พอ ๆ กับที่รู้ว่ามึงรักกูแหละ...” ผมชะงัก... เลือดไหลเวียนมารวมกันอยู่บนหน้า แทบจะปั่นจักรยานชนต้นไม้ข้างทาง “วันนี้วันเกิดกู... ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา กูไม่เคยคิดว่ามันมีความสำคัญเลย วันนี้ก็เหมือนกัน กูก็ไม่ได้คิดว่ามันพิเศษไปกว่าวันอื่นเลย”
ผมแอบใจแป้วนิด ๆ ที่ทำให้มันรู้สึกว่าวันเกิดสำคัญไม่ได้...
“เพราะมีมึง...”
“ฮะ!?”
“เพราะมีมึงอยู่ข้าง ๆ วันเหี้ยอะไรก็พิเศษแม่งทุกวัน แล้วจะเอาวันไหนไปพิเศษกว่าวันอื่นวะ?” ไม่น่าเชื่อ... ว่าคนเราจะยิ้มกว้างได้ขนาดนี้
.........................................................
.......................................
.....................
........