บานไม้แผ่นบางๆที่กั้นตรงหน้าดูยิ่งใหญ่กว่ารั้วเหล็กหน้าบ้านเสียอีกเพราะเวลาสิ่งที่ต้องการมาอยู่ตรงหน้ามันจะยิ่งทำให้เราเสียการควบคุมมากกว่าเดิม เหมือนเวลาปวดฉี่ธรรมดาก็ไม่เท่าไหร่ แต่พอมายืนรออยู่หน้าห้องน้ำมันแทบจะราดออกมาให้ได้ ตอนนี้ผมก็อยากเจอมันเหมือนคนปวดเยี่ยวแทบราดล่ะครับ ผมสูดลมหายใจลึกๆหมุนลูกบิดแล้วผลักเข้าไปในห้อง
ห้องอวลไปด้วยกลิ่นหอมๆประจำตัวไปป์ ผนังสีขาวสว่างตาเมื่อปีที่แล้วเคยสว่างอย่างไรก็ยังสว่างอย่างนั้น ผมหลงรักการแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบนี้ เพราะมันทำให้รู้สึกอบอุ่น แต่ที่หลงรักยิ่งกว่าก็คือไอ้แห้งที่นอนม้วนตัวในห่อผ้าห่มก้อนนั้นแหละ ผมเห็นกองหนังสือนิยายสงครามข้างๆนั้นมีจูปาจุ๊ปส์รสโคล่าจำนวนมากวางกองอยู่...ช่างดูขัดกันซะจริง พี่แก้วบอกผมว่าไปป์มันติดลูกอมหนักกว่าเดิมเพราะเบื่ออาหารเลยต้องกินน้ำตาลจากลูกอมทดแทน ไม่รู้ป่านนี้ฟันผุไปแล้วรึยัง
แอร์เย็นๆเป่ารดลงบนที่นอนทำให้มันม้วนตัวเข้าหาผ้าแน่นหนากว่าเดิม ตัวผมเองที่เปียกโชกทั้งตัวก็หนาวสั่นไม่ใช่น้อย ผมถอดเสื้อผ้าออกหมดจนเปลือยเปล่าเอาผ้าขนหนูที่พี่แก้วให้พันรอบเอวไว้ ก่อนจะถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้ามันหน้าตาเฉย อยู่ห้องก็ใช้ด้วยกัน คราวนี้ผมมาเปิดบ้างมันคงไม่ว่าอะไรมั้ง สุดท้ายก็ได้เสื้อยืดตัวใหญ่ที่แถมมาจากน้ำมันเครื่องไดเกียวกับกางเกงบ็อกเซอร์มาสวมที่ตัว แกะถุงพลาสติกห่อเฝือกที่ขาออก โอเค...เรียบร้อย! ถึงหัวจะยังไม่แห้งก็ช่างมันเหอะผมอยากนอนแล้วล่ะ
ตุบบบบบบบบบบ...
ผมทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไปใส่ไอ้เด็กดักแด้นั่นจนเตียงยุบลงไป ก่อนจะสปริงตัวเด้งกลับขึ้นมาอย่างสวยงามจนกรรมการแทบจะยกป้าย10เต็ม10ให้ เสียแต่ว่าไอ้แห้งมัน...
“เหี้ย!!” ไอ้ก้อนดักแด้เด้งตัวขึ้นมานั่งตั้งฉากเก้าสิบองศากับพื้นดิน มันหอบแฮ่กๆเหงื่อท่วมตัว “เชี่ย....ผีอำเหรอวะ”
“เออ...ผีหล่อด้วยนะ”
“เฮ้ย!!” คราวนี้มันเบิกตากว้างจนลูกกะตาแทบหลุดออกมา ผมล่ะชอบปฏิกิริยาตอบสนองมันเหลือเกิน “นี่กูฝันเพ้อเจ้อได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ” ว่าแล้วมันก็ลองบิดหูตัวเอง ฮ่าๆ ๆ ไอ้หน้าโง่ๆเอ๋อๆนั่นน่ารักชะมัดเลย
“แล้วคิดว่าฝันรึเปล่าล่ะ” ผมชะโงกหน้าไปใกล้ขึ้นก่อนจะยักคิ้วกวนๆ
“แม่ง...ทำไมยังเจ็บหูอยู่วะ....ไม่สิ! มันไม่น่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้นี่” มันบ่นพึมพำของมันอยู่คนเดียว “ภคิน...”
“หือ?” ผมขานรับ
“ภคิน?”
“ว่า?”
“ภคิน....ภคิน....” เสียงนั้นบ่นงุ้งงิ้งในคอ
“อะไรเล่าเรียกอยู่...”
ร่างผอมๆของมันโถมกายลงมาทับผมอย่างไม่ทันตั้งตัวจนเกือบจะหงายหลังตกเตียงไปแล้ว ไปป์สอดแขนเข้ามากอดแน่นจนกระดูกที่แขนแทงซี่โครงผม...บ้าชะมัดนี่มันผอมลงขนาดนี้เลยเหรอ ผมตกเป็นไอ้เอ๋อเสียเองเพราะปกติไปป์มันไม่กอดผมก่อนแบบนี้หรอก….แต่ที่ผิดปกติกว่าคือเสื้อไดเกียวของผมค่อยๆเปียกขึ้นมา
“ร้องไห้ทำไมวะ” มันซุกหน้าลงกับอกผมหนักกว่าเดิมแทบจะมุดหายเข้าไปได้อยู่แล้ว เสียงสะอื้นยังดังไม่หยุด
“ฮึก....มึงก็เหมือนกันล่ะวะ”
อ่า.....น้ำตาผมไหลตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ไม่รู้ตัวสักนิดจนมันหยดลงบนหัวอีกฝ่าย ให้ตายสิ...อยู่ต่อหน้าไปป์ทีไรผมกลายเป็นคนอ่อนแอทุกที ผมรวบตัวมันให้อ้อมแขนขยับบดเบียดเข้ามาใกล้กว่าเดิม...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศหนาวหรือเปล่าเลยอยากได้ไออุ่นจากคนตรงหน้ามากขึ้น.....มากขึ้น.....ไม่รู้จักพอ
ผมปาดน้ำตาออกจากหน้าแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ....กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ทำให้หัวใจของผมล่องลอยไปไกล สิ่งที่รอคอยมาเป็นเดือนมันไม่ได้มากมายอะไรเลยสักนิดเมื่อเทียบกันการได้มีคนคนนี้อยู่ให้อ้อมแขน ผมยอมออกไปนั่งตากฝนต่อด้วยซ้ำถ้ารู้ว่าผลสุดท้ายจะเป็นแบบนี้
มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีคำพูดใดจะมาบรรยายได้ ภาษากายจึงทำหน้าที่ทุกอย่างแทน....น้ำตาผมบนบ่ามัน....น้ำตามันบนบ่าผม....แขนของผมที่กอดรัดมัน....แขนของมันที่กอดรัดผม... แค่นั้นก็ไม่ต้องการคำพูดที่สวยหรูมาบรรยายอะไรแล้ว
ผมไม่รู้ว่าเรากอดกันอยู่นานแค่ไหน...แล้วมันชดเชยช่วงเวลาที่หายไปได้หรือยัง? แต่เมื่อแรงสะอื้นบนบ่าค่อยๆสงบลงผมถึงได้ผละออกมาเพื่อมองใบหน้าที่คิดถึงมานาน... ดวงตากลมโตคู่นั้นยังบวมช้ำจากการร้องไห้....จมูกเล็กๆนั่นแดงไปหมด เหนือสิ่งอื่นใดมันผอมลงจนเห็นกระดูกกรามชัดเจน...
“ผอมอะไรขนาดนี้วะ...มึงจะเป็นโกสไรเดอร์รึไง?”
“ไอ้เหี้ย”
“ตอนกลางคืนแม่งออกไปแว้นปราบเหล่าร้าย.....อั้ก” โดนเตะอัดท้องเลยกู
“มึงก็ใช่ย่อยนะไอ้ห่า ดำเกิงมาเชียว...ไปทำงานเก็บเงินค่าตั๋วรถที่แบกแดดมาเหรอวะ”
“เปล่า...ไปรับจ้างเป็นหมาเฝ้าบ้านมา”
“ทำงานดีนี่”
“แสดงว่าแอบดูอยู่ทุกวัน?”
ไปป์มันทำท่าเหมือนอยากกัดลิ้นตัวเองตาย ฮ่าๆ ๆ ๆ มึงพลาดแล้วไอ้แห้งที่มาเล่นกับคนอย่างกู มันขยำคอเสื้อผมอย่างหาเรื่อง เอาแล้วไง...ไอ้เบื๊อกที่นั่งร้องไห้คิดถึงผัวเมื่อกี้หายไปไหนแล้ววะ
“ว่าแต่....มึงปีนห้องกูเรอะ”
“คนมารยาทดีอย่างกูเข้าตามตรอกออกตามประตูเว่ย”
“มึงหมายความว่า?”
“พี่ภูมิยอมรับกูเป็นลูกเขยแล้วว่ะ” โห...โคตรโม้เลยว่ะกู เอาเถอะ...เพราะยังไงในอนาคตเขาก็ต้องยอมรับอยู่ดี อย่างผมไม่มีทางทำผิดสัญญาหรอก ผมไม่เคยสัญญากับใครเพราะคิดว่าท่าทำไม่ได้มันจะแย่ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ผมโคตรมั่นใจว่าจะไม่มีวันผิดสัญญา
.....คอยดูสิ....ผมจะทำให้ไปป์ยิ้มกว้างที่สุดในชีวิต....
“ห๊ะ? พ่อเนี้ยนะ...ยอมรับมึงแล้ว?”
“แน่นอน ลูกเขยดีๆอย่างกูไม่ได้หากันง่ายๆ มีโอกาสต้องรีบคว้า”
“ถุย...ได้ทีโม้ใหญ่นะมึง”
“ด่าแล้วยิ้มทำไมหืม?....ยิ้มทำไม.....ยิ้มทำไม....ยิ้มทำไม?”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!” สู้ไม่ได้มันก็โวยวายกลบเกลื่อนซะเลย ไปป์มันตะครุบปากตัวเองแล้วดิ้นพล่านลงจากตักผม ดูมันทำสิ โคตรน่ารักเลยเหอะ! แก้มมันขึ้นสีเรื่อจนเห็นชัดในความมืด แล้วจะไม่ให้ผมแกล้งได้ไงวะ
“โอ๋ๆ...เลิกเขินได้แล้วคนดี”
“หืยยยยยยยย มึงไม่เข้าใจคนหน้าบางอย่างกูหรอก” มันบ่นงึมงำ “ไหนบอกว่าจะไม่เถียงไง”
”ก็พูดจาไพเราะเสนาะอยู่นี่ไงครับ” ว่าแล้วก็แกล้งยื่นหน้าไปพูดใกล้ๆใบหูเล็กๆ ไปป์รีบตะครุบหูมันทันทีเหมือนกลัวผมจะแดกหูเข้าไป
“มะ....ไม่ต้อง!! เรียกกูว่า ‘ไอ้เหี้ย’ เถอะ กูขอร้อง”
“ใครจะกล้าเรียกไปป์อย่างนั้นล่ะครับ” โอ๊ย...กูอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง ไอ้ไปป์ทำหน้าแหยงเหมือนผมบังคับให้มันกินกาแฟที่ชงจากน้ำล้างตีน “เห็นอย่างนี้ผมเป็นคนรักษาสัญญานะ”
“ถ้ามึงยังไม่เลิกพูดแบบนั้นกูจะนอนแล้ว” มันฉวยโอกาสคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงซ่อนใบหน้าแดงๆนั่น
“โธ่...กูเลิกแกล้งก็ได้ไอ้แห้งเอ๊ย!” ผมเปิดผ้าห่มแล้วขยี้หัวมันแรงๆ เห็นมันทำหน้างอผมยิ่งยิ้มกว้าง...สงสัยจะเป็นโรคจิตจริงๆซะแล้วกู ไปป์มันเหวี่ยงด้วยการปัดมือผมออกอย่างรำคาญ แหน่ะ...ทำเป็นรำคาญเวลามาอยู่ใกล้ๆ พอไม่เจอหน้าก็ร้องไห้คิดถึงเฉย ถ้ามันเป็น ‘ไอ้ลูกแมว’ แบบที่พี่แก้วเรียกมันก็เป็นแมวประเภทกวนตีนน่ะครับ ไม่ใช่แมวขี้อ้อน
เห็นมันแกล้งนอนหลับตาพริ้มผมเลยเกิดอาการมันเขี้ยวอยากก้มลงไปฟัดสักทีแต่มันดันถามสวนขึ้นมาก่อน “พ่อยอมรับแล้วจริงเหรอวะ?”
“ถ้าไม่จริงกูจะมานั่งอยู่นี่มั้ยล่ะ...หือ?”
“งั้นเหรอ...กูไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย” มันยกมือข้างนึงพาดวางบนหน้าผาก “ถ้ากูฝันอยู่ล่ะ? ถ้าพรุ่งนี้กูลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเมื่อวานล่ะ พ่อยังมองกูด้วยสายตาผิดหวังเหมือนเดิม มึงไม่ได้อยู่ที่นี่ และกูก็ยังอยู่ในห้องคนเดียวเหมือนเดิม....แล้ว...”
“ถ้าพรุ่งนี้ตื่นมาไม่เห็นกู กูอนุญาตให้มึงฉีกไอ้หมีหน้าโง่ที่ห้องเป็นชิ้นๆเลย”
“พี่เดียวนั่นมันของกู”
“มึงทิ้งแล้ว ตอนนี้มันเป็นของกู” ที่จริงผมก็ไม่ได้อยากได้หรอกนะ...
“ภคิน.....”
“อะไร?”
“ภคิน....”
“........” ผมยิ้ม
“ภคิน...”
ผมจับมือที่วางพาดบนหน้าผากออก แววตาของมันยังเปร่งประกายแม้ในความมืด...ไม่สิ ดวงอาทิตย์ของผมไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ยังสว่างไสวอยู่ดีนั่นแหละ มือเย็บเฉียบของผมบีบเบาๆบนอุ้งมืออุ่นๆของมัน “พรุ่งนี้มึงจะเห็นหน้ากูเป็นคนแรก เหมือนที่เคยเห็นอยู่ทุกวัน”
ระยะห่างระหว่างใบหน้าเราลดลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายผมก็ได้ประทับจูบลงบนริมฝีปากที่โหยหามานาน ซึ่งอีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นมาโอบดึงตัวผมลงไปให้เราแนบชิดกันกว่าเดิม มันเป็นจูบที่ไม่เร่าร้อนหรือช่วยเพิ่มอุณหภูมิในห้องที่เย็นเฉียบนี่เลย ผมไม่ได้แม้แต่รุกรานเข้าไป...ทำเพียงแค่งับเบาๆแล้วหยอกเอินเท่านั้น จูบที่ไม่ได้เต็มไปด้วยความต้องการ..แต่มันแค่ต้องการบอกความรู้สึกที่ท่วมท้นออกมาของเราทั้งสองคน มันเต็มไปด้วยความคิดถึง....
จูบนี้ยาวนานเท่าไหร่ก็ไม่ได้จับเวลาเอาไว้เสียด้วย พอมันทำท่าจะผละออกผมเป็นต้องยื่นหน้าเข้าไปหาทุกทีสิน่า ไม่อยากจะหยุดลงเลย....ผมใกล้จะคลั่งเพราะไอ้ปากหมาๆนี่แล้ว...
“พอแล้ว!! หายใจไม่ออก”
“ก็หายใจเข้าสิ” แถมด้วยการกระตุกยิ้มมุมปากอันเป็นโลโก้ของผมซะหน่อย
“กวนตีนนะมึง”
“ทำเป็นไม่ชินไปได้ ไหนเขยิบไปหน่อยสิ ให้แฟนสุดที่รักนอนด้วย” ผมถือโอกาสแง้มผ้าห่มแล้วซุกตัวโดยไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต แหม..ของของไปป์ก็คือของของผมล่ะน่า
“ทำไมตัวมึงเย็นจังวะ เพิ่งลุกขึ้นมาจากหลุมศพเรอะ”
“ตากฝนตั้งนาน ถ้าตัวไม่เย็นกูก็ไม่ใช่คนแล้ว”
“แล้วนี่มึงอาบน้ำรึยังเนี้ย”
“ยัง”
“โว้ยยยยยยยยยยยยยยย!! มึงลงจากเตียงกูไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ นั่งอยู่ตั้งนานทั้งฝุ่นทั้งฝนอะไรไม่รู้เต็มตัว” มันลุกขึ้นมานั่งโวยวาย “แล้วนี่อะไร ผมแม่งยังไม่ทันแห้งมานอนได้ไงวะ เดี๋ยวหวัดแดกพอดี”
“ถ้าแค่นี้จะป่วย ป่านนี้กูตายไปนานแล้ว” ผมกระตุกแขนเสื้อชุดนอนสีฟ้าของมันเบาๆ “นอนเหอะ!! อย่าบ่นมากเลย”
“แต่....”
“มาทำหน้าที่หมอนข้างเร็วๆ” ไปป์ถอนหายใจกับความดื้อด้านของผม แต่ก็ยอมล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม มันยังไม่ได้จัดท่านอนก็โดนผมดึงเข้ามาจนดั้งชนกับอกดังอั่ก!
“โอ๊ย! มึงจะให้ดั้งกูยุบเป็นโวลเดอมอร์เลยมั้ยล่ะ”
“ดั้งมึงก็แข็งแรงเหมือนหนังหน้ามึงแหละไปป์ นอน...นอน...นอน!! กูมีโปรแกรมให้เราทำต่อจากนี้”
“ทำอะไรวะ”
“ทำรัก....อั้ก...โอเคๆ ไม่พูดแล้วก็ได้ เลิกเอากระดูกแทงกูได้แล้ว”
“คราวหน้าพ่อจะแทงให้คอหอยทะลุเลย”
“นอนครับพ่อ นอนนนนนนน!”
ผมยิ้มขำกับใบหน้ามุ่ยๆนั่น แต่สุดท้ายมันก็ยอมซุกหน้าหลับตาลงกับอกผมโดยดี ไม่ได้นอนกอดกันแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ววะ? คือปกติอยู่ห้องด้วยกันก็ไม่ได้นอนกอดกันทุกวันอยู่แล้ว นี่ยิ่งห่างกันไปเป็นเดือนๆยิ่งอยากนอนกอดมันให้หายคิดถึง
ถึงจะพูดว่านอนก็เหอะ...แต่ผมกลับเป็นฝ่ายที่นอนไม่หลับเสียเอง ทั้งๆที่ลำบากนั่งๆนอนๆอยู่ในเต้นท์ตั้งหลายอาทิตย์ มาเจอเตียงนุ่มๆเสือกไม่ชินอีกกู ส่วนอีกคนน่ะหลับลืมตายไปแล้วครับ...สูญเสียพลังจากการร้องไห้ผสมกับเถียงผมเยอะไปหน่อย อันที่จริงที่ผมนอนไม่หลับอาจเป็นเพราะอยากมองใบหน้านี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยากสัมผัสทุกลมหายใจเข้าออกช้าๆ
ฝนด้านนอกหน้าต่างยังตกลงมาไม่หยุด....แถมลมยังพัดแรงจนผมล่ะกลัวสังกะสีบนหลังคาจะปลิวไปด้วยจริงๆ บานหน้าต่างสั่นกึกๆด้วยแรงลมดังเข้าหูตลอดเวลาแข่งกับเสียงแอร์ ตลกดี...ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายขั้นสุดยอด ผมกลับขอบคุณสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาไม่หยุด
ร่างในอ้อมกอดซุกเข้าหาไออุ่นจากคนตัวเย็นเป็นซากไก่เคเอฟซีแช่แข็งอย่างผม กูอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้นัก...ไอ้ไปป์โหมดอ้อนไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆนะครับ เจอแล้วแม่งต้องเมมฯเก็บให้ครบทุกรายละเอียด ผมยกมือเขี่ยแก้มชื้นน้ำตานั่นเล่นไปมาอย่างเอ็นดู ฮะ ๆ ... ผมทำตามสัญญาข้อแรกได้แล้วล่ะ
คืนนี้จะขอดูไอ้ปากหมา ๆ นี่ยิ้มให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน
TBC
ฮิ้วววววววววววววววววววววววว//จุดพลุอลังการงานสร้าง//
ในที่สุดพ่อก็เข้าใจตุ้ม เอ๊ย!!เข้าใจไปป์แล้ว กระซิกๆ ความสดใสซาบซ่านจะกลับคืนสู่หมู่เราดังเดิม....แต่...ในอีกไม่กี่ตอน(เพราะมันจะจบแล้ว ฮ่าๆๆ)
คนเขียนสารภาพว่ารู้สึกดีมากจริงๆที่เห็นคนอ่านบางคนเสียน้ำตามันเป็นความสำเร็จที่สะใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆค่ะ อ่านคอมเม้นแล้วนั่งหัวเราะอยู่เบื้องหลังจอสี่เหลี่ยมอยู่คนเดียว หึหึหึ
บ้าเหรอ!! เค้าก็สงสารตัวเองนะ แต่รู้สึกดีที่สามารถเขียนดราม่าให้บางคนเข้าถึงได้ ถือว่าประสบความสำเร็จขึ้นมาอีกขั้นค่ะ//น้ำตาไหลพราก//
ความรักในรูปแบบนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากทุกคนหรอกค่ะ มันเป็นเรื่องจริงของสังคมไทยโดยเฉพาะคนรุ่นพ่อรุ่นแม่บางคนเขาทำใจไม่ได้จริงๆนะคะ แต่ก็ยังดีที่มีอีกหลายๆคนที่ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น แม้อาจจะต้องใช้เวลาไปบ้าง แต่ก็เชื่อว่าที่สุดแล้วพ่อแม่ก็รักลูกอย่างไร้เงื่อนไขใดๆอยู่ดีแหละค่ะ
แหม่...นานๆจะหาสาระจากเราได้ ปกติมีแต่สาระแนตลอด เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกก
เดินทางกันมาไกลมากแล้วล่ะค่ะ รู้ว่ามันน่าเบื่อไปบ้าง...อดทนเดินต่อกันอีกนิดเดียวน๊าาาา

ปล.เก็บตังกันเร๊วววววววว ถ้าโพสตอนจบจะรวดเปิดโอนเลยนะคะ