ฉลองกับบอร์ดใหม่จ้า เรื่องใหม่รับประกันความหื่นเช่นเดิม
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์นะคะ
เรื่องสั้นเรื่องที่ 13 Rome…..เพลิงรักริษยา
ตูมมมม....
เสียงพลุไฟดังก้องบนท้องฟ้าสีสดใสของโรม ฟีปี้เงยหน้ามองควันเป็นกลุ่มก้อนบนท้องฟ้าอย่างตื่นตาตื่นใจ วันนี้กองทัพของซีซาร์กลับมา ชาวเมืองออกไปต้อนรับกันเนื่องแน่น เด็กชายอยากออกไปดูขบวนทหารอันเกรียงไกรของโรมบ้าง หากสองมือยังมีภาระที่ต้องแบกรับอยู่
“ทางนี้ เร็วเข้า” นาเดีย หัวหน้าห้องครัวเร่งรัดให้เขาแบกหามผักสดตามให้ทัน ร่างเล็กผอมบางกึ่งแบกกึ่งลากตะกร้าที่หนักอึ้งกว่าตนเองไปเท่าที่จะเร็วได้ น้ำหนักของมันนั้นทำให้เขาเซชนคนโน่นที คนนี้ที
“ระวังหน่อยสิ” หญิงคนหนึ่งหันมาตวาด
“ขอโทษขอรับ ขอโทษ” เขาขอโทษพอหันกลับมาก็พบว่ามันฝรั่งตกกระจายไปทั่วพื้น เขาลนลานเก็บให้เร็วที่สุดแล้ว แต่ลูกที่กำลังเอื้อมไปหากลับถูกเท้าอันใหญ่โตเหยียบย่ำแหลกเหลวในพริบตา
เด็กชายเงยหน้ามองร่างกายอันสูงใหญ่ในชุดเกราะเงาวับ ริ้วรอยบนเนื้อโลหะแสดงถึงการผ่านศึกอันนับไม่ถ้วน เงาแสงในยามนี้บดบังใบหน้าภายใต้หมวกเหล็กขนนกสีแดงสิ้น มองไม่เห็นใบหน้านี้เลยว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ทหารของซีซ่าร์
ฟีบี้มองร่างสูงใหญ่ตาโตเขาเหมือนยักษ์จริงๆ เพียงขยับเล็กน้อยแสงแดดกระทบนันย์ตาจนต้องหลบ เขาลืมตาขึ้นมาทหารกลุ่มนั้นก็เดินจากไปเสียแล้ว ทิ้งไว้เพียงเศษมันฝรั่งที่เละเทะไม่เหลือให้เก็บอีกแล้ว
“ฟีบี้ เจ้ามัวทำอะไรเร็วเข้า” นาเดียตะโกนเรียกไกลๆ โชคดีจริงๆ ที่นางไม่เห็นว่าเขาทำให้เสียมันฝรั่งไปตั้งเยอะแค่ไหน เขาลนลานวิ่งกลับมายังรถม้าเทียบเกวียนกลับไปยังเคหสถานอันใหญ่โตของ โดมินัสเฮสเดรียส
เมื่อกลับมาถึงทั้งบ้านก็วุ่นวายด้วยการจัดเตรียมสถานที่อย่างรีบเร่งของทาสชายหญิงทั้งหลาย ด้วยดอกไม้นานาพันธ์ เด็กชายแบกข้าวของไปโรงครัว ทันทีที่วางตะกร้ามันฝรั่งลง ลีอาทาสสาวในครัวตะโกนลั่น
“ฟีบี้ มัวทำอะไรอยู่ โดมินัส(นายท่าน)ให้เด็กทุกคนไปรวมตัวที่ห้องโถงใหญ่แล้ว เร็วเข้า เดี๋ยวก็โดนเฆี่ยนหรอก” สิ้นเสียงร่างเล็กก็รีบวิ่งให้เร็วที่สุดขึ้นบันไดหินไปชั้นบน ผ่านสวนดอกไม้และลานน้ำพุ ผ่านตึกใหญ่ส่วนของโดมินัสออกมาถึงโถงทางเดินที่นั้นมีทาสเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเขายืนเข้าแถวอยู่
“โดมินัส(นายท่าน) โดมิน่า(นายหญิง)” ฟีบี้คำนับด้วยการก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนเข้าไปยืนในแถวหลังสุด ตั้งแต่จำความได้เขาก็เป็นทาสแล้ว ไม่รู้ว่าชาติกำเนิดมาจากไหน พ่อแม่เป็นใคร นั้นไม่สำคัญเท่าการเอาชีวิตรอดให้ได้ในแต่ล่ะวัน
โรมในวันนี้มีทาสมากมายและแบ่งออกเป็น3 กลุ่ม กลุ่มแรกทาสชายไว้ต่อสู้ คนกลุ่มนี้จะเป็นชายอายุตั้งแต่ 15 ขึ้นไปจะโตจากในบ้านหรือถูกซื้อมาก็แล้วแต่ หากเห็นแววดี หน่วยก้านใช้ได้จะถูกฝึกให้ต่อสู้ พวกเขาจะกินดูอยู่ดีแต่อาจตายได้ทุกเมื่อ ขึ้นแต่ว่าโดมินัสจะให้สู้ในสังเวยใด หากเป็นโครรอสเซียมจะตายอย่างมีเกีรยติที่สุด มีชื่อยืนยงตลอดกาล
ทาสหญิงจะมีค่ารองลงมา เอาไว้ใช้สอยและทำทุกอย่างที่แม้แต่สนองอารมณ์ให้ทุกคนตามที่เจ้านายสั่ง อาจถูกซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ โชคดีที่สุดของทาสหญิงคือเป็นที่ถูกใจของโดมินัส หากให้กำเนิดบุตรชายได้ก็อาจหลุดพ้นสภาพทาสได้
แต่ที่ไร้ค่าที่สุดคือทาสเด็กชาย-หญิง อย่างฟีปี้ ถ้าอยากอยู่ที่นี่ต่อไปเขาก็มีสองทางให้เลือกคือ ก้าวไปเป็นนักสู้เฉกเช่นผู้อื่น หรือไม่ก็ถูกขายไปเป็นโสเภณีในซ่องเสื่อมโทรมและตายอย่างสุนัขน่าอนาจ หวังว่าครั้งนี้โดมินัสจะเลือกนักสู้นะ
“เจ้า....” โดมินัสเฮสเดรียสเชยคางเขาขึ้น จ้องมองดวงตาสีฟ้าแล้วจับผมที่สกปรกแห้งกรังของเขาเล่น “ผมเจ้าสีอะไร”
“สีบรอนด์ขอรับ”
“อายุเท่าไร”
“13 ขอรับ”
“ใช้ได้ เอาเด็กคนนี้ด้วย” เพียงเท่านี้เด็กคนอื่นๆก็พากับกลับไปทำงานเหลือ 5-6 คนรวมเขาด้วย ในกลุ่มนั้นเขาจดจำ ธีอาและ เอนัส ได้เพราะทำงานร่วมกันบ่อยครั้ง ทาสแขกผิวเข้มเข้ามาต้อนพวกเขาเข้าไปในห้อง บังคับให้ถ่ายทุกข์ออกให้หมดก่อนจับอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณทุกส่วนของร่างกาย ปลอกคอเหล็กสัญลักษณ์ของทาสถูกถอดออกก่อนอาบน้ำ เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ฟีปี้ได้แช่น้ำอุ่นๆกลิ่นหอมๆ
“พวกเราถูกเลือกทำอะไรหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อนทาสทั้งสอง
“วันนี้โดมินัสมีแขกคนสำคัญมาเยี่ยม ทหารเอกของซีซาร์ ”
“พวกเราต้องอยู่ต้อนรับคนพวกนั้น โดมิน่าสั่งว่าห้ามปฏิเสธ ห้ามเอ่ยว่า ไม่ หรืออย่าเด็ดขาด เจ้าเข้าใจไหม” เอนัสว่า ฟีปี้ใจหายน้อยๆ การต้อนรับหมายถึงทำทุกอย่างให้เป็นที่พอใจของแขกเรื่อรวมถึงเรื่องที่ยอมให้เสพสมด้วย ธีอาที่มีผมสีน้ำผึ้งสวยและเอนัสที่มีผมบรอนด์ต่างก็เคยมาแล้ว
เขาอยากจะถามมากกว่านี้ก็ไม่กล้า หลังจากอาบน้ำเสร็จก็มีทาสสาวอายุมากกว่าหลายคนเข้ามานวดเฟ้นร่างกายด้วยน้ำมันไม่เว้นในช่องทางนั้น พวกเขาได้รับเสื้อผ้าใหม่ๆแล้วหวีผมให้เป็นอย่างดี
“เจ้าน่ารักจริงๆเลย” ทาสสาวที่ช่วยดูแลเขาเชยคางเอ่ยด้วยความเอ็นดู ฟีปี้ยิ้มกว้างดีใจไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาขอแค่มีผลงานให้โดมินัสพอใจก็พอแล้ว เด็กชายหันไปมองกระจกหลังแต่งตัวเสร็จ แล้วต้องแปลกใจ ผมเขา.....สีทองอร่ามขนาดนี้เชียวหรือ ปกติต้องสีเข้มออกน้ำตาลมากกว่านี้นี่นา คงเป็นเพราะน้ำเหนียวข้นที่สระผมให้แน่ๆเชียว ผมเขาถึงได้ฟูนุ่มยังกับขนลูกไก่แน่ะ
“เจ้าเหมือนเทวดาตัวน้อยๆเลยนะ ฟีปี้น้อย”
“ข้าดูตลกจัง”
“ไม่หรอก เจ้าน่ารักมาก โดมินัสต้องพอใจมากแน่ๆ” นางพูดจบก็สวมมงกุฎใบมะกอก ทำให้ผมสีทองโดดเด่นยิ่งขึ้น ฟีปี้หันมายิ้มให้เพื่อนทั้งสอง แต่กลับพบสีหน้าที่ไม่พอใจของเอนัสและธีอา เขายิ้มเจื่อนลงทันควัน นี่เขาทำอะไรผิดไปหรือ
“รีอา ทำไมไม่มาแต่งตัวให้ข้า สนใจแต่ฟีปี้อยู่ได้” เอนัสตวาด
“ข้าเสร็จแล้ว” ทาสสาวยิ้มเอาใจ นางหันไปช่วยเขาแต่งตัว เด็กชายลุกเดินไปรอบๆห้องที่สวยงามนี้อย่างตื่นเต้นยินดี ทุกอย่างช่างงดงามไปหมด เหมือนฝันที่ไม่ช้าก็คงสลายไปเมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฟีปี้มองออกไปนอกหน้าต่างมองถนนอิฐทางเข้าสู่เคหาสถานวันนี้ทหารเข้าออกมากมายจริงๆ ร่างสูงใหญ่ในชุดเกราะทหารก้าวนำออกมาจากเคหสถานของโดมินัส สีผิวเขาเข้มผมสั้นสีน้ำตาลติดต้นคอเผยให้เห็นลำคอและกล้ามไหล่ที่ใหญ่โตราวกับยักษ์ปักหลั่น ขนาดอยู่สูงมองไกลๆขนาดนี้แล้วยังรู้สึกได้เลยว่าเป็นคนที่แข็งแรงจริงๆ จู่ๆคนๆนั้นก็หันมามองโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ใบหน้าดุดันคิ้วเข้มดวงตาสีเขียวเข้มดูอิดโรย
ฟีปี้ใจหายวาบเขาไม่เคยเห็นใครมีดวงตาน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน เขาจะถูกดุไหมนะอยากจะถอยหนีตอนนี้แต่ขาก็ไม่ยอมขยับเลย ผ้าม่านสีขาวบางๆพริ้วไหวตามแรงลมเอื่อยๆพัดมาบดบังสายตาได้จังหวะจริงๆ เด็กชายกำชายผ้าม่านไว้อย่างนั้นไม่กล้ามองอีก จนกระทั่งได้ยินเสียงม้าถึงปล่อยมือลง คนแปลกหน้านั้นขึ้นรถม้าไปแล้ว
เขาเป็นใครนะ?? เด็กน้อยมีคำถามแต่ไม่มีคำตอบ
จากสายถึงค่ำ ทุกคนในห้องได้แต่นั่งๆนอนๆในห้อง ไม่มีอาหารนอกจากน้ำเท่านั้น ขณะที่เสียงเพลงและเสียงหัวเราะเล็ดลอดขึ้นมาให้ได้ยิน ฟีปี้ลูบท้องตัวเองเขาหิวแล้ว แต่ถูกห้ามไม่ให้ทานอะไรก่อนออกไปต้อนรับแขกของโดมินัส เขากระวนกระวายแต่เพื่อนทาสทั้งสองใช้การนอนเพื่อให้ลืมความหิว เขาจึงหลับตานอนบ้าง ครู่ใหญ่ประตูห้องก็เปิดออก เป็นอาดีสทาสผิวสีที่ถูกตอนแล้วเข้ามา
“โดมินัสเรียกหาพวกเจ้าแล้ว ออกมา”
ทุกคนลุกขึ้นอย่างว่องไว เอนัสและธีอาเหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย สองคนหันมามองสบตาพลางหัวเราะคิกคักพากันออกไปเงียบๆ ทิ้งให้อีกฝ่ายหลับไปตามสบาย ครู่ใหญ่กว่าร่างเล็กจะรู้สึกตัวลืมตามองไปรอบๆห้อง ว่างเปล่า....มีเพียงตะเกียงดวงเล็กๆส่องสว่างเล็กน้อย
ทุกคนหายไปไหนกันหมด??
แย่แล้ว ฟีปี้ลุกพรวดพราดรีบออกไปข้างนอกให้เร็วที่สุด เขาโดนโดมินัสดุด่าแน่ๆ เขาก้าวพรวดพราดไปหาความวุ่นวายที่ยินดีปรีดาด้วยเสียงเพลงและเสียงหัวเราะ ห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยสาวๆจากหอนางโลมขึ้นชื่อเต้นเริงระบำกันสนุกสนานเสื้อผ้าหลุดลุ่ยไม่น่าดู เหล่าเจ้านายชั้นสูงพุดคุยกันออกรสในมือถือแก้วไวน์ดื่มกินไม่มีอั้น ท่ามกลางเสียงดังอื้ออึงนั้น ฟีปี้ยืนมองอย่างมึนงงไม่รู้จะทำฉันใดดี เพื่อนๆไปไหนกันหมดนะ
“โอ้....มีเทวดาน้อยๆอีกตนหนึ่งอยู่นี่เอง” เสียงแหบกระด้างดังจากข้างหลัง ฟีปี้หันไปมองพบชายหน้าตาน่ากลัวนันย์ตาข้างเดียว จ้องมองเขาอย่างกักขฬะที่สุด “คืนนี้ข้าจะสนุกกับเจ้าให้เต็มที่เลย”
โอ้ยยย......ไม่นะ!!!
“อย่าทำให้เด็กกลัวสิ ไคตัส” เสียงทุ้มต่ำแทรกขัดจังหวะ
(ติดตามตอนต่อไป)