ตอนเขียนแรกๆรู้สึกคึุกคักจัง แต่พอตอนที่สองชักเริ่มแผ่วพอๆกับบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนยังไงชอบกล
เอ้า! กัดฟันดันให้จบให้จงได้ สู้ๆ

[3]
เป๊าะ! น้ำหยดหนึ่งกระทบลงบนใบหน้า เจ็บ......อา ลืมตาไม่ขึ้นเลย เกิดอะไรขึ้น?? หนาวจัง...ทำไมลมเย็นอย่างนี้ เขากำลังไปไหนกัน
“เฮ้....เจ้ากำลังจะไปไหน วาคัส”
“โดมิน่าให้เอาของไปทิ้ง”
“ไหน...” บางอย่างที่คลุมตัวเขาถูกดึงออกไป ฟีปี้พยายามลืมตาแล้วแต่ทำไม่ได้เลย เจ็บไปทั้งตัวโดยเฉพาะที่ใบหน้า ในปากนั้นชุ่มไปด้วยรสเลือด ช่วยด้วย....ใครก็ได้ “ให้ตายสิ....”
“เจ้าอย่ามายุ่งเลย ข้าจะต้องรีบไปแล้ว”
“แล้วเจ้าจะเอาไปไหนล่ะ”
“โดมิน่าสั่งให้เอาไปทิ้งไกลๆ ข้าเลยจะไปทิ้งนอกเมือง”
“เฮ่ย....จะดีเรอะ”
“ทำไม”
“ยังไม่ตายมิใช่หรือ”
“แต่ก็เกือบแล้ว” ใต้ร่างสั่นสะเทือนเบาๆ รถเข็น...เขาอยู่บนรถเข็นมันกำลังจะเอาเขาไปทิ้ง ไม่นะ.....เขายังไม่ตาย
“หลีกหน่อย....หลีก” รถสะเทือนไปหมดได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาเป็นระยะ อย่า....อย่าเอาเขาไปทิ้ง ได้โปรด
“เฮ่...เดี๋ยวสิ”
“อะไรล่ะ”
“นั้นอะไร?? ขอดูหน่อยสิ”
“อย่าเลย ข้าจะเอาไปทิ้งเดี๋ยวนี้แล้ว”
“เดี๋ยวสิ ขอข้าดูหน่อย....โอ้.....เกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย”
“เขาถูกลงโทษ ท่านอย่ายุ่งเลย ข้าต้องรีบไปแล้ว”
“เด็กคนนี้ยังไม่ตายมิใช่หรือ ไหน....ขอข้าดูหน่อยสิ อืม....ผมสีทอง.....ตาสีฟ้า แผลบนหน้านี่สิ จะมีแผลเป็นหรือเปล่านะ”
“ท่านอยากได้เขาหรือ”
“โดมินัสของข้าต่างหากกำลังอยากได้เด็กผมทอง ตาสีฟ้า อยู่พอดี แต่ข้าหาไม่ได้เลย เด็กคนนี้ใช้ได้....แต่......อืม....เอาเถอะ ลองดูก็ไม่เสียหลาย ข้าให้เจ้าครึ่งเหรียญ”
“เอ่อ...แต่.....”
“เอ้า หนึ่งเหรียญเลยก็ได้ เจ้าก็แค่ทำเป็นว่าทิ้งไปแล้วเถอะน่า”
“.....ก็ได้ๆ ข้าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นนะ”
“ข้ารู้น่า”
มีมือแข็งแรงช้อนอุ้มเขาขึ้น ฟีปี้รู้สึกกลัว เขากลัวเหลือเกินคนพวกนี้จะพาเขาไปไหน โอไรอัน.....ข้ากลัว
*************
ลมเย็นฉ่ำพัดชายผ้าม่านสีขาวพลิ้วไหวเอื่อยๆ เปลวไฟในกระถางดินไหววูบทำให้เงาคนทาบบนผนังเคลื่อนไหวไปมา เฮสเดรียสขมวดคิ้วไม่พอใจเมื่อไม่มีใครเห็นเด็กที่เขาต้องการตัวแม้แต่น้อย
“ท่านเฮสเดรียส” โอไรอันที่รั้งรออยู่เริ่มไม่พอใจแล้ว แค่เห็นเค้าลางความยุ่งยากณ.เวลานี้เขาก็รู้แล้วว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
“รอสักครู่เถอะ โอไรอัน ข้ากำลังให้คนไปตามเขาอยู่ ใครก็ได้ไปตามโดมิน่ามาสิ”
“ข้าอยู่นี่แล้ว” ลูเครเชียปรากฏตัวออกมาในชุดสีขาวสะอาดดูบอบบางราวกับไซคี “สีหน้าท่านดูไม่ดีเลย มีสิ่งใดกันหรือ”
“โอไรอันมาเยือนเรานะสิ แต่เด็กรับใช้ฟีปี้หายไปไหนไม่มีใครรู้เลย เจ้าพอจะ...”
“โอ้...ข้ารู้สิ”
“โอ้ออ...” เฮสเดรียสโล่งอก ทว่า...
“ข้าไล่มันออกไปแล้ว” สามีนางสีหน้าเปลี่ยนทันที โอไรอันผุดลุกขึ้น
“เจ้าว่าไงนะ?”
“ข้าไล่มันออกไปแล้ว เจ้าเด็กนั้นบังอาจขโมยน้ำหอมของข้า ข้าจึงสั่งสอนมันแล้วไล่มันออกไปตั้งแต่เช้ามืด” นางแปะปากเยาะเย้ยอย่างสาแก่ใจ
“ลูเครเชีย”
“เจ้าทำอะไรลงไป” ชายหนุ่มกระชากแขนนางแรง “เจ้าทำร้ายเขาหรือเปล่า”
“ต้ายจริง โอไรอัน เห็นข้าเป็นอะไรกันเนี่ย” ลูเครเชียไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวดสักนิด ริมฝีปากสวยแหยะยิ้มใส่ “ข้ามิได้ใจไม้ไส้ระกำหรอก แค่ตบสั่งสอนนิดหน่อยแล้วไล่ออกจากบ้านไป เด็กนั้นยังแข็งแรงเดินจากไปด้วยดีเลย แต่จะไปไหนข้าไม่รู้หรอกนะ อาจจะเป็น.....หลังตรอกโรงเหล้าเป็นได้ ที่นั้นมีพวกสถุลที่ชอบระบายราคะกับเด็กๆอยู่แล้ว”
“ลูเครเชีย” เฮสเดรียสตวาดใส่ ภรรยาเขากำลังสร้างปัญหาใหญ่ให้เขาเสียแล้ว โอไรอันแทบอยากจะบีบคอนางให้หายแค้น บังอาจนัก! บังอาจ.....แต่เขาก็จำต้องปล่อยมือจากนาง
“โอไรอัน ข้าขอโทษเป็นอย่างยิ่ง ข้าจะให้คนออกไปตามหาเขา”
“ไม่ต้อง! ข้าคิดว่าจากนี้ไปข้าคงไม่จำเป็นต้องรบกวนท่านอีกต่อไปแล้ว” เขาหันกายจากไปอย่างรวดเร็ว ใจนั้นเดือดดาลแล้วร้อนผ่าว ฟีปี้....เจ้าอยู่ที่ไหนนะ
“เจ้ามันโง่เขลา” เฮสเดรียสหันมาตวาดภรรยา “เด็กนั้นจะทำให้โอไรอันผูกพันกับบ้านเรา เขาจะต้องมาเยือนที่บ้านหลังนี้คืนแล้วคืนเล่า เจ้าแก่โอดีอุสและเวซานิอัสจะต้องอิจฉาที่เรามีแม่ทัพใหญ่หนุนหลัง แต่เจ้า!!! กลับไล่เขาไป เจ้ามันโง่”
“หุบปากนะ...หุบปาก!!! ข้าไม่สนใจโอไรอันและตระกูลอันยิ่งใหญ่ของเขาอีกต่อไปแล้ว เจ้าได้เข้าสู่สภาแน่นอนเราก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเขาสักนิด เราสามารถหาหลักที่ยิ่งใหญ่กว่าโอไรอันได้แน่”
“ใครล่ะ....ใครที่จะมีอำนาจกว่าตระกูลเขา”
“องค์ซีซาร์ไง...ไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่าซีซาร์อีกแล้ว เฮสเดรียส”
“เจ้านึกว่าจะเข้าหาพระองค์ได้ง่ายๆหรือไง”
“ได้แน่.....ข้าหาโอกาสให้ได้แน่” ลูเครเชียกล่าวอย่างมั่นใจ นางอดยิ้มไม่ได้ที่ได้เห็นสีหน้าโกรธจัดของชายที่บังอาจเมินนาง เป็นไงล่ะ.....ขอให้ทุกข์ทรมานให้พอเถอะ
*********
“ฮะ หื้อ??” ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อมีบางอย่างแตะบริเวณใบหน้า
“โอ้ๆๆ อย่าตกใจไป” มือแข็งแรงกุมไหล่เล็กจับเอาไว้แน่น
“ไม่ ปล่อย....ปล่อย” ฟีปี้ดิ้นรนหนีด้วยความกลัว เขารู้สึกถึงผ้าพันแผลที่ศีรษะและพันเลยมาถึงดวงตาข้างซ้าย สองมือเขาเจ็บปวดมีผ้าพันแผลหนาเตอะ เขาพยายามใช้ตาที่เหลืออยู่ข้างเดียวมองไปรอบตัว ที่นี่ที่ไหนกัน?
“ใจเย็นๆ ที่นี่ไม่มีอันตรายสำหรับเจ้าหรอก” ชายแปลกหน้าผมสีดำขลับ หน้าตาน่ากลัวแต่สวมใส่เสื้อผ้าเนื้อดีกว่าทาส ดีกว่าพ่อค้า แต่ไม่ดีเท่าชนชั้นสูง ชายผู้นั้นกดเขานอนลงแล้วดึงผ้าห่มถึงปลายคาง
“ข้าชื่อ คีอุส เป็นข้ารับใช้ของข้าหลวงใหญ่ ท่านเซอร์กีล อามาดีสอัส เจ้าล่ะชื่ออะไร”
“.......ฟีปี้ อะ!” แค่ขยับปากนิดเดียวก็เจ็บแปล้บและได้รสเลือด ข้างในปากคงมีแผลแน่
“อืม.....ฟังนะเจ้าเป็นทาสที่ถูกทิ้งและข้าก็ซื้อเจ้ามาดังนั้นจากนี้ไปเจ้าเป็นข้าทาสของโดมินัสเซอร์กีลเข้าใจหรือไม่” คำพูดนั้นไม่ใช่คำบอกเล่าหรือคำอธิบายแต่เป็นคำสั่ง เด็กชายได้แต่นิ่งเงียบอย่างไม่รู้ว่าทำเช่นไรดี ตลอดชีวิตเขาผูกพันแต่บ้านของโดมินัสเฮสเดรียสเท่านั้น
“และนับตั้งแต่วันนี้ เจ้าจะมีชื่อใหม่ว่า เอเดรียน”
ทำไม? ฟีปี้ได้แต่มองตาโตนึกสงสัย ยังไม่ทันได้ถามอะไรประตูห้องก็เปิดผ่างเข้ามา ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกกอดผ้าห่มเอาไว้แน่น ผู้ที่ปรากฏตัวมานั้นเห็นแว่บแรกก็รู้แล้วคือ โดมินัสของบ้านหลังนี้
เขาเป็นชายหนุ่มที่มีร่างสูงแต่ผอมดูเป็นนักปราชญ์มากกว่าแม่ทัพนายกอง ผมเขาสีดำดวงตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย เยิ้มกว้างอวดฟันขาว ก้าวเข้ามาประชิดถึงเตียง
“ข้าเพิ่งได้ยินว่าเจ้าได้เด็กมาคนหนึ่ง”
“ขอรับ”
ร่างสูงโน้นตัวลงมาช้อนใบหน้าฟีปี้ขึ้นรับแสงสว่างจากตะเกียง “ผมสีทอง ตาสีฟ้า.....ดีมาก แล้วบาดแผลล่ะ?”
“ไคอาบอกว่าแค่พกช้ำไม่มีแผลเป็นขอรับ”
“อีกนานแค่ไหนกว่าแผลจะหาย?”
“ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ขอรับ”
“ดี” เซอร์กีสยิ้มพอใจก่อนช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นมา ท่ามกลางความตกใจของทุกคน
“โดมินัส?”
“ข้าจะให้เขาใช้ห้องข้างๆ ไปบอกในครัวให้ทำอาหารดีๆบำรุงเขาให้เต็มที่ หาทาสสาวมาดูแลเขาเป็นการส่วนตัวด้วย” เขาพาร่างเล็กเดินออกจากห้องเก่าๆสกปรก
เดี๋ยวสิ.....เดี๋ยว เด็กชายร่ำร้องอยู่ในลำคอ ปากเขามีแต่บาดแผลขยับเอ่ยสักคำก็ยังยาก เขายังไม่ตายแต่ชีวิตข้างหน้ายังน่าหวาดเกรงเหมือนกำลังเผชิญอยู่ท่ามกลางคลื่นลมทะเลที่บ้าคลั่งก็ไม่ปาน คนพวกนี้ต้องการอะไรจากเขากันแน่ ดวงตาสีฟ้าจ้องมองอย่างมีคำถาม ทำให้เซอร์กีลหัวเราะ เขาก้าวเข้ามาถึงห้องๆหนึ่ง ที่สะอาดมีกลิ่นหอม ของใช้ทุกอย่างสวยงามไปหมด ฟีปี้ถูกวางบนเตียงนุ่มราวกับปุยเมฆ เขาลูบไล้ผืนที่นอนอย่างประหลาดใจ ขณะที่เจ้าบ้านเปิดหน้าต่างบานใหญ่ออก ภาพภายนอกคือผืนฟ้ากว้างและยอดเขาอยู่ไกลๆ
“เบื้องล่างของบ้านหลังนี้คือผาสูงใหญ่.....ข้าใช้เป็นที่ทิ้งข้าทาสและศัตรูมากมายที่ข้าเกลียด” ร่างสูงผอมหันมามอง ใบหน้าฉาบยิ้มแต่ก็ฉายแววน่ากลัว “ข้าชอบคนที่ว่าง่าย.....เจ้าว่าง่ายใช่หรือไม่ เด็กน้อย”
ฟีปี้นั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ
“เจ้า....ต้องพักผ่อนให้เต็มที่รักษาบาดแผลให้หายโดยเร็ว เข้าใจนะ”
“ทะ....ท่าน.....ต้องกา...การ.....อะ....ไร” เด็กชายเค้นคำพูดออกมาอย่างยากเย็น แต่ความเจ็บปวดยังเทียบไม่ได้กับความกลัว เขากำลังจะเจอกับสิ่งใดกันนะ เซอร์กีลหันมายิ้มให้
“ข้าต้องการเด็กชาย ผมทอง ตาสีฟ้า ที่ว่าง่าย......อืม ต้องขุนเจ้าให้อ้วนมีน้ำมีนวลอีกนิด แล้วเจ้าต้องเรียนกิริยามารยาท การบรนนิบัติบนเตียงด้วย......ข้าจะขายเจ้าให้คนที่ต้องการเจ้าจริงๆ ..... เจ้าชายไคโอนีอุส”
ว่าไงนะ??
(ติดตามตอนต่อไป)
