มาต่อได้เสียทีนะคะ แต่ไม่ยาวนัก เพราะคิดอะไรไม่ออกแล้ว ต้องจบเรื่องนี้ให้ได้
เรื่องอันดับต่อไป ลิเกหน่อยนะคะ ไม่นานเกินรอ

[2] ตอนจบ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด....”
“คุณ.....คุณ.....เป็นอะไร??”
คุณสุจิตราตกใจลุกพรวดพราดขึ้น เธอมองหน้าสามีที่เพิ่งปลุกจากฝันร้าย เหงื่อกาฬเธอไหลเปียกโชกทั้งที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ
“ฝันร้ายเหรอ คุณร้องลั่นเลยนะ”
“โอ้......ฝันร้าย......ฝันร้ายมาก ชายชล.....ชายชลเขา.....เขาอยู่กินกับ...กับไอ้ควายถึกนั้น ถึงขั้นมีลูกด้วยกันด้วยละคุณ”
“โถๆๆๆๆ” สามีลูบหลังปลอบใจ “เหลวไหลจริงๆเลย ผู้ชายมีลูกได้ที่ไหนล่ะ คุณคิดมากไปแล้ว
ไอ้เจ้าดอมก็ลาออกกลับไปอยู่บ้านนอกมาเกือบเดือน ส่วนชายชลช่วงนี้ก็ว่านอนสอนง่ายไม่ออกไปไหนเลย
ลูกน่ะเป็นห่วงความรู้สึกคุณมากนะ”
“เหรอ......คุณอยู่กับลูกตลอดใช่ไหม พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันใช่หรือเปล่า”
“ไม่เลย”
“โทรศัพท์ล่ะ”
“ไม่มี”
“จดหมาย....อีเมล์”
“ไม่มี”
“ค่อยยังชั่วหน่อย” คุณสุจิตราเอนหลังลงนอนแต่ครู่เดียว สามีไม่ทันจะปิดไฟเธอก็ลุกขึ้นมาอีก
“คุณ! ไหนก็ไหนๆแล้วฉันว่าน่าจะพาชายพลไปดูตัวท่าจะดีนะ”
“ดูตัว...” คุณสามีทำหน้าเบ้ ทุกทีกีดกันลูกไม่ให้เจอผู้หญิงแทบตาย ตอนนี้จะหาคู่ให้เหรอ กินยาลืมเขย่าซองมากกว่ามั่ง
“อย่าดีกว่า เดี๋ยวเจอคนไม่ดีเข้า”
“ไม่หรอก ลูกสาวของเพื่อนฉันก็มีตั้งหลายคน ลองชวนมาทานข้าวด้วยกันดีไหม”
“อย่าเลย ลูกไม่ชอบหรอก เอาไว้อีกสักระยะดีกว่านะ”
“รออีกเหรอ ฉันห่วงว่าทิ้งไว้นานลูกจะคิดถึงไอ้เวรนั้นน่ะสิ”
“ลูกร่าเริงจะตาย ป่านนี้คงลืมไปแล้ว คุณนอนต่อเถอะ” มืออุ่นดึงเธอลงนอนอีก หากตาสว่างแล้วและ
ภาพในฝันนั้นรบกวนจิตใจเธอไม่คลาย คุณสุจิตรานอนกระสับกระส่ายไปมาอยู่นาน สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ลุกขึ้นมา
“มีอะไรเหรอคุณ”
“นอนไม่หลับ ฉันลุกเดินหน่อยดีกว่า” ร่างท้วมลุกจากเตียงสวมเสื้ออีกชั้นออกมาข้างนอกตั้งใจว่าจะลงไปหาอะไร
ดื่มให้อุ่นท้องหน่อย เธอเดินมาถึงหัวบันไดกำลังจะก้าวลงไปแล้ว หากหางตาไม่เห็นอะไรเข้าเสียก่อน
นั้น.....แสงไฟลอดใต้ประตูห้องของชายชล ดึกป่านนี้แล้วยังไม่นอนอีกเหรอ
เท้าไวกว่าความคิดรีบเข้าไปประชิดประตูแนบหูเงี่ยฟังทันที
ฮะ ฮะฮะ....
หัวเราะอยู่นั้นแหละ ตัวเองทำบ้างสิ
ไม่เอา เราทำเหมาะแล้ว
ลามก
แน้...ตัวเองชอบแท้ๆ มานี่เลยนะ....
ฮะฮะฮะ ไม่เอาน่า
อีกรอบนะ คนเก่ง
พอแล้ว ผมเหนื่อยนะ
อีกรอบน่า อีกรอบๆๆๆๆ ตรงนี้ของดอมคิดถึงชายอยู่นะ
อ๊า...อย่าแยงสิ คนทะลึ่ง
หุหุ....ส่ายใหญ่อย่างนี้ยังจะปากแข็งอีก คุกเข่าหันหลังมาเลย ชายจะเป็นโคบาลขี่วัวพยศเอง ฮี้ฮ่า....วู้วววววว
อูววววววววว.....เบาหน่อย
คุณสุจิตราทนฟังไม่ได้ เธอรู้สึกเหมือนจะหน้ามืดลงตรงนั้นเลย แต่ก่อนเป็นอย่างนั้นต้องดูให้เห็นกับตาก่อน
ประตูดันล๊อคเสียนี้ ร่างท้วมรีบวิ่งลงจากชั้นลงไปค้นเอากุญแจสำรองในลิ้นชักห้องครัว
เธอค้นมือไม้สั่นกว่าจะเจอดอกที่ใช่ ขาขึ้นบันไดนั้นชักช้าอืดอาดกว่าจะยักแย่ยักยันขึ้นมา เล่นเอาหอบแฮ่กๆ
โอ้ววววววววว....โอ้วๆๆๆๆๆๆ ดีจัง
โยกแรงๆ ที่รัก...อ๊า แรงๆเลย เอาอีก
ทนฟังไม่ไหวแล้ว คุณสุจิตรารีบไขกุญแจเข้าไปเลย “พวกแกทำอะไรกัน!!!!!”
ห้องนอนที่จัดตกแต่งเรียบร้อยของลูกรักในยามเช้า ตอนนี้มันกลายเป็นห้องดิสโก้ก็ไม่ปาน
หลอดไฟหลากสีส่องแสงวูบวาบรอบห้องประกอบเพลง I WIL SURVIVE กระหึ่มลั่น
คุณสุจิตรายืนชี้นิ้วค้างกลางอากาศ ลูกชายสุดที่รัก นักเรียนนอกสุดเรียบร้อย อยู่ในชุดวันเกิด
มีเพียงหมวกนายพลกับปลอกแขนสวัสดิ กะ สายรัดหนังบนตัวกับรองเท้าบู้ทยาว เขาถือแส้มือหนึ่ง
อีกมือถือบังเหียนกำลังควบคุมคนตัวดำล่ำบึกหน้าตาคุ้นๆคลานสี่ขาอยู่เบื้องล่าง ในชุดสายหนังกับปลอกคอ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด.....”
เธอร้องลั่นบ้านอย่างโหยหวนปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นมากลางดึก
“คุณแม่” ชายชลกับดอมรีบใส่เสื้อผ้าให้ว่องไวที่สุด พี่ๆน้องๆมาช่วยกันหอบหิ้วคุณสุจิตราลงมาข้างล่าง
ยาดมกับยาหอมละลายน้ำขนมาบำรุงแกเป็นการใหญ่ หัวหน้าครอบครัวนั่งเรอเอิ้ก...เสียงดัง
“เป็น....เป็นอย่างงี้ได้ไง แก......แกกลับบ้านนอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ครับ แต่แค่เอาข้าวของกลับไปเท่านั้น” ดอมยิ้มแฮะๆ “แล้วกลับมาเช่าบ้านอยู่หลังติดๆบ้านนี้แหละครับ”
“แล้วนี่....ปีนหาลูกชายฉันทุกคืนเลยเรอะ”
“ครับ ตอนเช้าไปทำงาน กลางคืนก็ปีนมานอนกับชายทุกคืนล่ะครับ”
“แก้!!!!” คุณสุจิตรากางเล็บเข้าหา แต่ก็ไม่ถึงเพราะลูกๆคนอื่นกอดไว้แน่น
จนหมดแรงถึงปล่อยให้นั่งแผ่ดมยาดมเหมือนเดิม เธอเกาหัวจนผมฟูกระจาย
“แกทำงี้ได้ไง แก....”
“ผมแอบจ้างดอมเป็นร.ป.ภ ที่บริษัทเองครับ ผมไม่อยากให้เขาอยู่ไกลตา เช้ามาก็ไปทำงานด้วยกัน
ดึกๆนอนด้วยกันที่ห้อง แม่ฮะ....เลิกโกรธเสียทีเถอะ ยังไงผมก็ไม่เลิกกับดอมหรอก”
“ต้องเลิก”
“ไม่เลิก”
“ฉันบอกให้เลิก”
“ผมไม่เลิก เขาเป็นเมียผมนะ”
“ยะๆๆๆๆๆๆๆ อย่าพูดคำนี้นะ ฟังแล้วแสลงหู ผู้ชายควายถึกอย่างนี้นะเป็นเมียแก นี่จะเอาไปอวดใครได้
แกกล้าเอาไปอวดชาวบ้านชาวช่องเรอะ”
“คุณผู้หญิง.....ชายไม่ต้องพาผมไปอวดใครหรอกครับ ผมเข้าใจและทำใจได้
ขอแค่ผมได้อยู่กับเขาเงียบๆแค่นี้ผมก็พอใจแล้วจะทนครับ”
“ดอม”
“หนอย.....ทนได้เรอะ แกทนได้แต่ฉันทนไม่ได้!! ลูกสะใภ้ฉันต้องเป็นผู้หญิง ลูกสะใภ้ฉันต้องเป็นลูกผู้ดี
เศรษฐีสมน้ำสมเนื้อกัน แกไม่มีอะไรสักอย่าง อ้วน ดำ ล่ำ ถึก กลิ่นบ้านนอกเหม็นสาบทั้งตัว”
“พอได้แล้วนะแม่”ชายชลชักมีน้ำโห “แม่จะด่าว่าดอมไปถึงไหน ถึงเขาจะ อ้วน ดำ ล่ำ ถึก ขี้เหร่ยังไง
ผมก็ชอบเขา ถ้าแม่โวยวายอย่างนี้อีก ผมจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น”
“นี่แกขู่แม่เหรอ”
“ใช่....ที่ผมยอมกลับมาอยู่บ้านก็เพราะเป็นห่วงความรู้สึกของแม่ แต่ถ้าแม่ยังโวยวายแบบนี้อีก ผมจะย้ายออก”
“ต่อให้ฉันตัดแกออกจากกองมรดกเหรอ”
“ใช่.... ผมมีที่ดินคุณยายยกให้ ถ้าแม่ตัดผม....ผมก็จะไปเป็นชาวไร่ ปลูกหอม ปลูกกระเทียมก็ยังได้”
“อย่าท้าฉันนะ”
“คุณ...ใจเย็นหน่อย” คุณสามีปรามให้ใจเย็นๆ “ลูกมันจะเอาแล้วก็อย่าไปขัดใจเลย”
“คูณ!!!”
“ฟังนะ ชายเขาก็โตแล้วตัดสินใจเองได้ อย่าไปฝืนเลยเพราะคนที่ทรมานที่สุดน่ะเป็นลูก ไม่ใช่เรา
ถ้าแม่ขัดหูขัดตาก็ให้เขากลับไปอยู่คอนโดก็แล้วกัน”
“ไม่เอานะ ฉันไม่เอา....โฮ....ฉันไม่เอา” คุณสุจิตราร้องไห้คร่ำครวญจะเป็นจะตาย จะให้เธอยอมแพ้ทั้งอย่างนี้เหรอ
ยอมรับไม่ได้!!!! พอคุณสามีบอกให้คนอื่นๆแยกย้ายกลับห้องของตัวเองได้แล้ว เธอก็คิดออกในฉับพลัน
“ก็ได้....พวกแกจะอยู่ด้วยกันก็ได้”
“คุณแม่”
“แต่บอกไว้ก่อนนะ” เธอพุ่งเป้าไปที่ดอม “ฉันไม่ยอมรับแกง่ายๆ คิดจะเป็นลูกสะใภ้ฉัน มันต้องเจอกันหน่อย”
“คุณแม่???” ชายชลทำหน้ากินปูนเลี่ยนๆ
“ไม่เป็นไร”ดอมลูบหลังคนรัก “ดอมเตรียมใจไว้แล้ว จะเจออะไรผมก็ไม่กลัวหรอก
คุณแม่.....ผมน่ะอึดและถึกเสมอ ขอบอกไว้เลยนะว่าลูกสะใภ้ของแม่น่ะคือผมคนเดียว”
“เชอะ....อย่าลำพองไป ไอ้ดอม....เจอแม่ผัวอย่างฉันเสียก่อนแล้วอย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับบ้านก็แล้วกัน”
ต่างฝ่ายต่างทับถมกันไม่หยุด ดูท่าจะร้ายแรงไม่แพ้กันแน่ ชายชลกับพ่อได้แต่มองหน้ากันแล้วภาวนาว่า
แม่ผัวกับลูกสะใภ้คู่นี้จะไม่เล่นกันแรงเกินไปนัก
The End
(ติดตามตอนต่อไป)
