ต่อ
บ่ายคล้อยแดดร่มลมตก ไอดินขับรถกลับบ้านไร่อย่างสบายใจแม้จะไม่เต็มร้อยนัก
เขาหันยิ้มให้สาวสวยที่นั่งข้างๆอย่างเอาใจ กว่าจะทำให้หล่อนเชื่อได้ว่าเป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้นก็หมดน้ำลายไปหลายกระบุงเลย
ใบหน้าหวานยังเง้างอนไม่พอใจที่เรื่องที่เกิดขึ้นนัก
“น้องอิงอยากทานอะไรไหม เย็นนี้พี่จะพาไปทานในเมือง”
“ไม่เอาหรอกคะ อิงต้องช่วยแม่พี่ดินทำกับข้าว.......จะแต่งอยู่แล้วอิงยังทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง”
“มีคนทำให้อยู่แล้ว อิงไม่ต้องเหนื่อยหรอกจ๊ะ”
ไอดินยิ้มเอาใจแม้ในใจจะนึกถึงสายตาตำหนิติเตือนของมารดาอยู่
ท่านชอบผู้หญิงที่เรียบร้อยแต่ก็ต้องฉลาดดูแลตัวเองได้ไม่หัวอ่อนเกินไป
ส่วนอิงฟ้านั้นเรียบร้อยก็จริง ทว่าเธอถูกประคบประงบเป็นอย่างมาก
เพราะครอบครัวมีอันจะกิน มีพ่อแม่กับพี่ๆที่ดูแลให้ทุกอย่าง การค้าการขายนั้นไม่เป็น
การบ้านการเรือนนั้นไม่ต้องพูดถึง มีคนทำให้ทุกอย่างตั้งแต่ตื่นยันเข้านอน
ซึ่งไอดินก็ไม่ได้หวังให้อิงฟ้ามาทำกับข้าวให้เขาทานหรอก แค่อยู่เป็นเพื่อนแล้วเป็นแม่ของลูกๆที่น่ารักก็พอแล้ว
“คุณดิน” ขับรถมาถึงยังไม่ทันจอดรถดี คนงานที่นั่งรอหน้าออฟฟิสก็เข้ามาทันที
“อะไร?”
“แม่เลี้ยงให้ไปหาที่เรือนใหญ่เดี๋ยวนี้ครับ”
“คุณแม่....เดี๋ยวนี้เหรอ”
“ครับ”
คงมีเรื่องด่วนมั่ง เขาเลี้ยวรถมุ่งหน้าไปเรือนใหญ่ที่ห่างออกไปเกือบกิโล เรือนไม้หลังใหญ่สีเข้มเด่นกลางหมู่ไม้สีเขียวสด
ที่นั้นมีรถจอดเรียงอยู่ ไอดินสงสัยเพิ่งบ่ายเองทำไมทุกคนถึงกลับมาไวกันจัง หน้าบ้านป้าวิไลแม่บ้านยืนคอยอยู่แล้ว
“ป้าไล”
“มาเร็วๆคะ คุณแม่รออยู่” ป้าฉวยมือเขาดึงเข้าบ้านเลย
“มีอะไรเหรอฮะ” เขาว่าน้ำเสียงหยอกเล่น ต้องมีของอร่อยอะไรไว้รอเขาแน่
ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนมาถึงห้องโถงรับแขก แม่เลี้ยงสุขฤดี นั่งรอพร้อมน้องๆทั้งสาม
และ.....ไอ้ตัวซวยนั่งหน้าเจียมเจี๋ยมด้วย
เวรเอ้ย...
“ดิน...มานี่สิ” น้ำเสียงเย็นยะเยือกติดลบ 180 องศาเลย เป็นเรื่องแล้วสิ
“แม่....มันพูดอะไรอย่าไปฟังนะ มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย”
“ไม่ใช่เรื่องจริงเหรอ....แต่มันเป็นเรื่องแล้ว ตอนนี้โดนนินทามันไปทั่วไร่เลย”
“แม่..”
“น้องอิง” แม่เลี้ยงหันไปบอกว่าที่ลูกสะใภ้ “นี่เป็นเรื่องของครอบครัว หนูกลับไปก่อนนะ”
“ไม่คะ”อิงฟ้าว่าเสียงแข็ง “นี่เป็นเรื่องที่หนูจำเป็นต้องรับรู้ด้วยว่ามันเกิดอะไรกัน”
แม่เลี้ยงขมวดคิ้วไม่พอใจ จังหวะนั้นไอดินปรี่เข้าหารูน
“มึงพูดอะไร ห๊า!! มึงบอกอะไร”
“อย่า” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นป้องหัวขดตัวกลมแทบจะลีบติดกับเก้าอี้
“หยุดนะ”
“แม่..”
“แค่นี้แม่ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว ยังกล้าทำงามหน้าอีกเรอะ อยากจะให้พ่อแม่อกแตกตายรึไง”
“แต่ว่า....”
“มีเรื่องอะไรกัน??” เสียงดังทรงพลังแทรกขึ้นมาทำให้ความวุ่นวายสงบลงในทันที
ทุกคนหันไปมาคนที่มาใหม่ รูนบอกไม่ถูกเลยว่าดีใจมากแค่ไหน
คนๆนั้น... สุกำธร โรจน์แสงจันทร์ หัวหน้าครอบครัวคนที่ควรจะรู้ว่าสมบัติของบ้านเขาอยู่ไหน
ชายวัย ห้าสิบเศษร่างสูงแข็งแรง ผมสั้นหยกศกสีเทานิดๆ ดวงตากร้าวบอกถึงผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน
เรียวหนวดเข้มเหนือริมฝีปากทำให้ดูเป็นคนดุดัน การมาของเขาทำให้ทุกคนสงบเสงี่ยมทันที
“แม่สุข”เขาเอ่ยถามภรรยา
“ก็ดินน่ะสิ...ทำเรื่องงามหน้ากับเด็กใหม่จนคนงานเขาลือกันให้ทั่วแล้ว”
“นั้นไม่จริงเสียหน่อย”
“อย่ามาเถียง” พ่อเอ็ดใส่ “ฉันยังฟังไม่รู้เรื่องแกจะโวยหาอะไร”
“ก็....” ไอดินเถียงไม่ออกเขาหันมาหาน้องๆ กลิ่นฟ้ากับหยดพิรุณ ต่อว่าด้วยสายตาว่าทำไมไม่ช่วยกันบ้าง
สองหนุ่มยักไหล่ยิ้มเจื่อนๆทำนองว่า ช่วยแล้วแต่ไม่ได้ผล
“ต้นเหตุนั่งอยู่นั้นล่ะคะ ลองถามดูสิ” แม่เลี้ยงโบ้ยให้มาถามเอากับคนที่นั่งอยู่กับพื้นพยายามทำตัวให้ลีบที่สุด
สุกำธรมองเด็กหนุ่มก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ลูกครึ่งหรือเปล่าเนี่ย ชื่ออะไรเรา”
“รูเน่ครับ”
“อ้อ...มาเมื่อไร”
“เมื่อวานครับ”
“มาถึงก็มีเรื่องเลยรึ....แล้วมันเป็นยังไงล่ะ” คำถามนี้ทำให้ดวงตาสีฟ้าใสเหลือบไปมองผู้ชายตัวโตหน้าโหดเหมือนยักษ์
สายตาน่ากลัวบอกเป็นนัยว่า ‘ถ้าแกพูดผิดคำเดียวล่ะก็ แกตาย...’
“คุณดิน....เขา”
.............................................
..........................
“เขาบังคับผม”
“บังคับทำอะไร”
“คือ.....”
.
.
.
“เขาบังคับ.....ให้ผม.....”
“ใช้ปาก..” คำพูดนั้นเบาหวิว แต่ได้ยินชัดกันทุกคน
“มึง...” ไอดินฉุนขาดเขาถีบเข้าที่หัวไหล่จนร่างเล็กล้มกลิ้ง ทุกคนลุกขึ้นจะห้าม
แต่ก็ช้ากว่าอีกคน มือเล็กๆกระชากเเขนเขาหันมา
เพี้ยะ!!
มือบางตบสุดแรงจนหน้าหัน ไอดินหันกลับมาเห็นอิงฟ้าหอบฮักน้ำตาคลอหน่อย เธอรูดแหวนออกจากนิ้วขว้างใส่เขา
“พอกันที”
“อิง....น้องอิง”
ร่างบอบบางวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ไอดินตกใจจนคิดอะไรไม่ออกครู่ใหญ่ เขากำลังจะตามไปอธิบาย
“ไม่ต้องตาม”
“พ่อครับ”
“ผู้หญิงเขากำลังช๊อคอยู่ รอให้ใจเย็นๆใจร่มๆแล้วค่อยไปหาเถอะ”
“แต่เขาคิดว่าผม....”
“เอ่อ....ถ้าทำใจยอมรับไม่ได้จะถอนหมั้นก็ช่างเขาสิ”
“คุณคะ..”
“พ่อพูดงี้ได้ไง”ไอดินทำเสียงไม่อยากจะเชื่อพ่อเขาเลย
“มีคนเห็นกี่คนกัน” สุกำธรหันมาถามคนอื่นๆ
“ทั้งออฟฟิสเลยครับ”
“ผมกับพี่ฟ้าด้วย” หยดพิรุณเสริม
“นั้นพวกเขาเข้าใจผิดไปเอง ไอ้เด็กเวรนี้ลื่นล้มมากอดเอว แล้วผมก็เกี่ยวหัวเข็มขัดผมพอดี
ทุกคนมาเห็นแค่เขาคุกเข่าตรงหน้าผมเองจริงๆไม่ได้มีอะไรนะครับ”
“สายตาคนเรามันก็อย่างนี้แหละ ชอบมองในแง่ร้ายไว้ก่อน”
“พ่อฮะ ผมไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะ”
“เอาน่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่ซะหน่อย....สมัยก่อนผู้ชายออกป่าเป็นเดือนๆ ไม่มีของบันเทิงใจ
นอกจากผู้ชายด้วยกัน แล้วคิดว่าพวกนั้นจะแก้เหงากันยังไงล่ะหา?? คนแถบนี้ก็รู้ดีกันทั้งบางแหละ”
เป็นงั้นไป.... ไม่ใช่ไอดินคนเดียวที่ประหลาดใจจนพูดไม่ออก รูนเองก็อึ้งเหมือนกัน
แถบนี้ถือเป็นเรื่องปปกติเหรอ?? ไม่นึกว่า สุกำธรจะเป็นผู้ชายแบบนี้....เรียกว่าไงนะ?? ประสบการณ์โชกโชนรึไง
“คุณก็...พูดทีเล่นทีจริงอยู่นั้นแหละ แล้วจะแก้ปัญหายังไงล่ะคะ
ตอนนี้เขาลือกันให้ทั่วสวนแล้วว่าลูกชายเราวิตถารใช้กำลังข่มเหงคนงานในไร่
เดี๋ยวเกิดคนงานนึกกลัวจนแห่กันลาออกไป แล้วเราจะทำยังไง”
“จริงด้วย” สุกำธรเม้มปากครุ่นคิด
“ไล่มันออกไปซะ” ไอดินชี้หน้ารูน “เก็บตัวปัญหาไว้ทำไม”
“อืม....” หัวหน้าครอบครัวหันมามองหน้า “ชื่อรูเน่ใช่ไหม”
“ครับ”
“เรื่องที่เกิดขึ้นสำหรับเรามันคงเลวร้ายสินะ...ถ้าอยากให้ชดเชยล่ะก็
ฉันยินดีจะจ่ายให้เงินก้อนหนึ่งให้เราเอาไปช่วยเหลือครอบครัวได้ใช้จ่ายระยะยาวเลย ว่ายังไงล่ะ”
ไม่ดี.. รูนไม่อยากได้เงิน ขืนรับไว้เขาก็ต้องไปจากที่นี่น่ะสิ ทำยังไงต่อล่ะ เขาก้มหน้านิ่ง
“ผม....อยากทำงานครับ”เขาว่าเสียงสั่นเครือ “ผมไม่มีความรู้อะไรมาก หางานดีๆพอเลี้ยงตัวได้นั้นลำบากครับ....
แล้วภาระทางบ้านมัน....ค่อนข้างสิ้นเปลือง ผมเกรงว่าถ้า...รับเงินไป ก็คงใช้จ่ายหมดในเวลาไม่นานแน่.....
ผมอยากทำงานที่นี่ต่อครับ อย่างน้อยก็จนกว่าผมจะหางานอื่นได้”
“ไม่ได้..” ไอดินอยากให้ตัวปัญหาไปให้พ้นๆซะ
“เอาอย่างนั้นก็ได้ เราอยู่ต่อได้”
“พ่อฮะ”
“แต่...” สุกำธรเว้นวรรค เขายกมือไม่ให้ลูกชายพูดมาก
“จะทำงานที่นี่ฉันก็จะต้องให้เราแก้ภาพลักษณ์เสียๆที่เกิดขึ้นวันนี้ด้วย”
“ครับ??” รูนกระพริบตาปริบๆงุนงงนิดหน่อย
“คุณคะ” แม้แต่แม่เลี้ยงก็ยังไม่เข้าใจ
“ข่าวลือแบบนั้นแก้ตัวไปก็ลำบาก คนเห็นตั้งเยอะแยะไหนๆก็ไหนแล้วทำให้มันเป็นจริงไปเลย
บ้านไร่อื่นๆจะได้ไม่ว่าคนของเรานิสัยเสียฟันไม่เลือกหน้า...
ให้ไอดินรับรูเน่อย่างเปิดเผยในฐานะคู่นอนเป็นตัวเป็นตนซะดีกว่าให้คนงานหวาดระแวงว่าตัวเองจะโดนเล่นข้างหลังเข้าสักวัน
ส่วนเรื่องของอิงฟ้านั้น....ถ้าเขายอมรับได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ก็ขอให้เราทำใจซะ พ่ออยากให้เราได้คนที่รัก...ในสิ่งที่เราเป็น”
“พ่อฮะ...”
“เดี๋ยวสิครับ” รูนประท้วงเมื่อร่างสูงลุกจากเก้าอี้
“พะ...พ่อเลี้ยงหมายความว่าไงครับ...จะให้ผมกับคุณดิน....เรา??”
“ใช่ จากนี้ไปเราต้องไปใช้ห้องเดียวกับไอดินนะ พี่ไร”เขาตะโกนเรียกป้าแม่บ้าน
“คะ??”
“ให้คนไปเก็บข้าวเก็บของเด็กคนนี้ขนมาไว้ห้องของคุณดินหน่อย จากนี้ไปเขาจะมาเป็นอยู่เพื่อนกันแล้ว”
“ได้คะ”
“เดี๋ยวก่อนครับ แบบนี้มัน....พ่อเลี้ยง” รูนร้องเรียกยังไงก็ไร้ประโยชน์
สุกำธรลุกกลับไปไม่นานแม่เลี้ยงก็ลุกตาม คนอื่นๆก็ทยอยไปกันหมด
เขาหันไปมองคนเดียวในห้องอย่างหวาดหวั่น ไอดินจ้องอย่างหยามเหยียดราวกับเขาเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง
คุณตาครับ ผมแค่กะว่าจะเล่นงานเขาสักหน่อยเท่านั้น แต่กลับประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อเลย
แค่2 วันเท่านั้นผมก็ได้มาอยู่เรือนใหญ่จนได้ ทว่า.....ผมรู้สึกว่ากำลังเอาตัวเองขึ้นเขียงยังไงไม่รู้
(ติดตามตอนต่อไป)

ตอนหน้าจบแล้วคะ