อัพฉลองวันสิ้นเดือนหน่อย เมื่อวานดูพิธีแต่งงานวิลเลี่ยมและเคท แห่ม...อารมณ์หวานพุ่งปรี้ดเกิดมาเป็นเรื่องนี้จนได้(เกี่ยวกันไหมเนี่ย??)
เอาเห้อะ ห่าเหตุให้มันเกี่ยวกันสัหน่อยล่ะกัน 5555

คุณชายหมาป่ากับหมูน้อยบ้านนา
กาลครั้งหนึ่งเมื่อวานนี้ แวมไพร์ผู้ยิ่งใหญ่ราชาแห่งรัตติกาลได้สยายปีกแห่งความน่าสะพรึงกลัวไปทั่วผืนฟ้าในยามราตรี
หลังจากดื่มด่ำโลหิตของหญิงสาวผู้งดงามอิ่มหนำ เขาทิ้งเชื้ออันชั่วร้ายไว้เบื้องหลัง แล้วโบยบินหาเหยื่อรายต่อไป
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า....” เขาหัวร่อให้กับความสำราญในค่ำคืนนี้
ก๊อง!!!
แอ๊กกกก.....ค้างคาวตัวกระจ๊อยชนเข้ากับป้ายโฆษณาถุงยาง เซฟเซ็กส์ของมูลนิธิป้องกันเอดล์
อู้ออออ...มันครางเสียงล่ะห้อยก่อนร่วงเป็นเศษกระดาษลงสู่ทางด่วนโทลเวย์ รถคันหนึ่งแล่นผ่านมา เฟี้ยววววววว...
อู้วววววววววว.....เจ้าค้างคาวเคราะห์ร้ายโดนชนเป็นคำรบสอง มันกระเด็นกระดอนตกลงยังเบาะหลังรถเปิดประทุนคันงาม
“โอ้ยยยย....” ปีศาจแห่งรัตติกาลครวญคราง หรือนี่จะเป็นวาระสุดท้ายของเขา ช่างน่าอดสูยิ่งนัก เขาเอื้อมมือไปเบื้องบน
ถวิลหาดวงดาวที่หมายสิงสถิต ตูมมมม!!!
“แอ๊กกกก..แม่คู๊ณ เอาตูดหล่อนออกจากตัวฉันนะ”
“หา?? อาไร้” แม่หมูสาวอวบแก้มยุ่ยผงกหัวขึ้นมามองแต่ไม่เห็นใคร
“ข้างล่างนี้เว้ย เอาตูดออกไปเสียที” มีมือดำๆโผล่ออกจากข้างล่างบกมือหย๊อยๆ
“เฮ่อ...ฉันลุกไม่ไหวแล้ว ทนหน่อยล่ะกัน”
“ลุกไปเว้ย กูจะตายอยู่แล้วนะ”
“อูยยยย....โทษทีทนหน่อยล่ะกัน ฉันกำลังจะคลอดลูกแล้ว”
“ที่รัก คุณพูดกับใครน่ะ” พ่อหมูกำลังเหยียบคันเร่งมิดตะโกนถามเสียงตื่นตระหนก
“ไม่มีอะไรก็แค่.....”
“เว้ย!!!” ค้างคาวเคราะห์ร้ายสุดทน มันฝังเขี้ยวลงที่ปั้นท้ายใหญ่โตของแม่หมูทันที อี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!!!
“ว้ายยยย บ้า!!! คนทะลึ่ง” แม่หมูทะลึ่งพรวดลุกขึ้นเอากีบเท้ากระทืบ ตุ๊บๆๆๆไม่เลี้ยง สุดท้ายราชารัตติกาลก็อวสานภายใต้กีบเท้าหมูอวบอั๋น
แต่!!!! เรื่องไม่ได้จบแค่นี้ หลังจากนั้นแม่หมูคลอดลูกหมูน่ารักถึง 8 ตัว แต่มีเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่มีปีกค้างคาวงอกขึ้นที่กลางหลัง
แม้จะประหลาดแต่เขาก็เป็นหมูที่น่ารัก แม่ของเขาตั้งชื่อให้ว่า เอ็ดเวิรด์ แห่งบิวตี้เบค่อน ซานฟานซิสโก
18 ปีต่อมา ณ. ทะเลน้ำแข็ง ไซบีเรีย
“ราชาแห่งไซบีเรียนฮักกี้เสด็จแล้ว” เหล่าสุนัขแห่งท้องทุ่งน้ำแข็งเรียงแถวต้อนรับราชาขาวผู้ยิ่งใหญ่ เขามีขนสีขาวแซมเทาฟูฟ่องสวยงาม
ดวงตาสีฟ้าโคว์บอนด์โดดเด่นต้องตาทุกครั้งเห็น เขาพร้อมราชินีและรัชทายาทเดินผ่านแถวเหล่าผู้ภักดีมายืนอยู่บนราชบังลังค์อันงดงาม
“กินได้” ราชาประกาศทุกตัวรีบกินข้าวในชามหน้าตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ล่ะตัวซัดงั่มๆๆๆน้ำลายกระเด็น
“ใครมีเรื่องจะรายงานหรือไม่”
“ฝ่าบาท งั่ม....คือ....งั่ม...อเมริกาติดต่อมาแล้ว”
“ว่าไง”
“ตระกูลดันแคน เอิ้กกกก..พบสายเลือดที่สาบสูญไปแล้ว เขาพร้อมจะส่งคู่สมรสให้แก่เราในไม่ช้านี้”
“การสมรสเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง ตระกูลไซบีเรียนฮักกี้และแวมไพร์คัลแลนครั้งที่ 12 จะผิดพลาดไม่ได้ ทางเราคัดเลือกเจ้าบ่าวหรือยัง”
“เลือกแล้วพะยะคะ เป็นเจคอป บุตรแห่งอดัม”
“ดีมาก เตรียมทุกอย่างให้พร้อมแล้วส่งเขาไปอเมริการับเจ้าสาวมาได้แล้ว”
“พะยะคะ”
*************
มหาลัยดับบิ้ส ซานฟานฯ
“เอ็ดดดดดดดดเวิรรรรรรรรรรด์” ทันทีที่ชั่วโมงหมดลง เหล่าสัตว์กินเนื้อทั้งหลายแหล่ต่างวิ่งหาชายหนุ่มรูปงามกันเจ้าล่ะหวั่น ทำให้มหาลัยแห่งนี้
ไม่เคยสงบสุขเลยตั้งแต่เขาเข้ามาเรียน
“เอ็ดจ๋า”
ผัวะ! แค่ทักทายคำแรกเท่านั้น เสือแพนเตอร์แห่งวิสคอนซิสก็ถูกซัดโครมลงไปกองกับพื้นทันที ก่อนที่จะถูกบดขยี้อยู่ใต้รองเท้าผ้าใบอีกที
“บอกแล้วไงว่า อย่าสะเออะมาให้ฉันเห็นหน้า เดวิด”
“อา....หมัดของนายช่างทรงพลังชวนฝันจริงๆ ทุกครั้งที่นายเหยียบย่ำ จะมีแต่ทำให้ฉันมีความสุข”
“ไปให้พ้น”
ชายหนุ่มเดินออกจากอาคารเรียนท่ามกลางสายตาของเหล่ามุนษย์เชื้อสายสัตว์โลกทั้งหลาย ด้วยเหตุที่เขาแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากพวกคนเหล่านี้
เขามีใบหน้าคมเข้ม ผมยักศกสีน้ำผึ้ง ขนตายางงอนรอบดวงตาสีเทาเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง ร่างพรียวบางนั้นดูอ่อนแอทว่ามีพละกำลังมหาศาล
อีกทั้งเสน่ห์ยั่วยวนเชิญชวนแสนเซ็กซี่ของแวมไพร์ อีกด้านก็มีความน่ารักน่าหยิก ด้วยผิวขาวอมชมพู ปั้นท้ายงอนฟิสแน่นยามเดินจะยั่วยวนสายตา
ของเหล่าเสือหิว ไม่ว่าเขาจะไปไหนยี่ห้อความ ‘น่ากิน’ก็จะตามไปทุกที่ เพราะส่วนหนึ่งของสายเลือดคือ หมูสุดอร่อยของบิวตี้เบค่อน
ซึ่งคติประจำตระกูลคือ ‘อร่อยเป็นหนึ่งไม่มีสอง’
“คุณ บิวตี้เบค่อน”
ชายในชุดสูทสีดำหลายคนยืนรอต้อนรับเขาในที่จอดรถจักรยาน ชายหนุ่มเห็นหน้าก็ต้องถอนหายใจเฮือกอย่างเบื่อหน่าย
“พวกนายอีกแล้ว อะไรอีกล่ะวันนี้”
“ท่านมาคัสรอคุณอยู่ครับ” พวกนี้ผายมือไปยังรถลีโมที่จอดซุ่มอยู่ไม่ห่างนัก คนขับรถเปิดประตูรถรถ ภายในมีคนๆหนึ่งที่ยิ้มกว้างต้อนรับ
“ฮัลโหล เอ็ด”
“คุณมาคัส” ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนแต่ก็ยอมไปหา คนๆนี้ดีกับครอบครัวเขามาก พ่อแม่และพี่น้องทุกคนอยู่ดีมีสุข งานการมั่นคงทุกอย่างก็ล้วนแต่เพราะเขาคนนี้
“มีอะไรหรือครับทำไมถึงมาหาได้”
“ไม่มีก็มาหาได้ไม่ใช่หรือ”
“ครับ”
“แต่วันนี้มีเรื่องสำคัญจริงๆ”
“อย่าบอกนะว่า....”
“อือหื้อ” ชายหนุ่มยิ้มกว้างใบหน้าสีซีดอายุราว 30 นี้จริงๆอายุร่วมหลายร้อยแล้ว เป็นแวมไพร์สายเลือดแท้ที่เหลือเพียงตนเดียว ไม่มีลูกหลาน
แวมไพร์ที่เหลือล้วนแต่เป็นพวกที่เกิดจากการกัดเท่านั้น
“ไม่เอาน่า มาคัส....ผมไม่ใช่พวกเลือดแท้นะ”
“เอ็ดๆๆ เอ็ดเวิรด์ที่รัก....” เขายกนิ้วแตะที่ริมฝีปากเขา พลางเชยคางขึ้นมองใกล้ๆ “จริงอยู่เธอไม่ใช่เลือดแท้ แต่ก็ถือกำเนิดมาจากสายเลือด
ที่หลงเหลือเพียงหนึ่งเดียวของพี่ชายฉัน ลูเชียส ภาระหน้าที่ที่ตกทอดมานี้เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้นะ”
เอ็ดเวิรด์นึกเคือง เป็นเพราะแม่เขาถูกกัดแท้ๆเชียว เลือดแวมไพร์ในตัวแม่ส่งต่อมาให้เขา ทำให้แม่นั้นเป็นแวมไพร์เต็มตัว แต่เขาเป็นเพียงแค่ครึ่งเดียว
“ผมไม่ทำไม่ได้หรือ”
“ไม่ได้...หากการแต่งงานครั้งนี้ไม่สำเร็จ พวกไซบีเรียนฮักกี้จะถือว่าพันธะสัญญาสงบศึกสิ้นสุดลง สงครามระหว่างเผ่าพันธ์จะเริ่มขึ้น ที่นี้แหละ....
ทุกคนจะเดือดร้อนกันหมด รวมถึงครอบครัวเธอด้วย เอ็ด”
“ผม....ไม่อยากเชื่อเลย”
“พรุ่งนี้ 10โมงเช้า โรงแรมนิวยอร์คพาราไดร์ ใส่ชุดนี้มาด้วย” เขาหยิบชุดสูทสีขาวในถุงพลาสติกป้องกันอย่างดีให้ เท่านี้ก็แปลได้ว่าเขาปฏิเสธไม่ได้แล้ว
“แค่ไปพบใช่ไหมครับ”
“ใช่ ไปดูสิว่าพวกนั้นจะแน่แค่ไหน บางทีมันอาจไม่น่ากลัวอย่างที่คิดก็ได้นะ...แล้วพบกัน”
เอ็ดเวิรด์ลงจากรถในมือถือชุดสีหน้าเซ็งสุดๆ ถ้าโลกนี้มีหลุมล่ะก็เขาอยากโดดลงไปจังเลย
**********
“ฉันไม่ได้อยากมางานเลี้ยงนี้ เธอก็รู้” เสียงขุ่นเคืองพูดใส่มือถือโดยไม่สนใจว่าใครจะได้ยินบ้าง เหล่าสาวใช้และเลขาส่วนตัวต่างเดินรอบตัว
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เพื่อให้เสื้อผ้าหน้าผมบนตัวเขาเรียบและเพอร์เพ็กที่สุด
เจคอป ฮั้กกี้ ว็อทซักส์ซัมติงด์ (แปลเอาเอง) ไม่สนว่าใครจะคิดยังไง เขาไม่ได้อยากจะมางานเลี้ยงต้อนรับของเหล่าแวมไพร์นี้เท่าไร
เพียงแต่ในหมู่ตระกูลไซบีเรียฮักกี้ มีเขาที่อายุเหมาะสมที่สุด และยังไม่มีคู่ครอง
ปัดโธ่เอ้ย รู้งี้รีบแต่งกับเบลล่าตั้งแต่ปีก่อนก็ดี ถ้าหล่อนไม่มัวแต่มีปัญหากับครอบครัวเขา เบลล่าสวย มีเสน่ห์แต่เจ้าปัญหามากชอบทำหน้าบูดเหมือนปวดท้อง
ตาปรือเป็นสาวเมายาแถมชอบส่ายหน้าเป็นตูดเป็ด ชอบก็ส่าย ไม่ชอบก็ส่ายท่าเดียว เฮ่อ...ตูล่ะกลุ้ม
“รู้ๆๆๆ พูดเป็นอยู่คำเดียวหรือไง ทำอะไรบ้างสิ เธอจะปล่อยให้ฉันหัวใจสลายหรือไง ที่ต้องนั่งรอเธออยู่ที่นี่ หนาวก็หนาว ขนตาฉันโดนน้ำแข็งเกาะจนไม่เด้ง
ขณะที่เธอไปสำราญนั่งดูสาวๆสวยๆที่นั้น” เธอร้องไห้โฮลั่นจนต้องเอามือถือออกห่างๆหู
“เบลล่า....ฉันไม่ได้นั่งดูสาว”
“โกหก”
“พูดจริง คู่ที่มาดูตัววันนี้เป็นผู้ชาย”
“จริงเหรอ” ปลายสายเสียงใสขึ้นมาทันที
“จริง เธอไม่ต้องห่วงหรอกนะว่าฉันจะดูสาวไหนอีก แค่พูดคุยกันตามพิธีเท่านั้น แล้วฉันจะรีบกลับนะ”
“เจค....ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องรับเขาคนนั้นไว้เป็นภรรยาหรือ”
“ใช่....แต่ก็แค่ในนามเท่านั้น ฉันจะไปรับใครเป็นภรรยาได้ล่ะนอกจากเธอ”
“ฉันรักเธอ เจค”
“ฉันก็รักเธอ รอฉันกลับไปนะ”
“บายจ๊ะ” วางหูได้ก็โล่งอกขึ้นเยอะ ปัญหาๆๆทำไมมันถึงไม่หยุดไล่ตามเขาเสียทีนะ ชายหนุ่มมองตัวเองในกระจก ถึงพบว่าชุดสูทนี้ชั้นดีของแท้เลยล่ะ
สีเทาเข้มออกดำทำให้ดูสูง บึกบึน สง่าในทุกท่วงท่าแม้จะเป็นเสื้อผ้าที่ไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ดินแดนแห่งน้ำแข็ง แต่ที่นี่...มัน สุดยอดจริงๆ
“เยี่ยมมาก เจ้าดูดีจริงๆ” ฟรานซิส ญาติผู้ใหญ่ตัวแทนฝ่ายไซบีเรียนฮักกี้มองเขาอย่างชื่นชม
“ขอบคุณครับ”
“งานเลี้ยงวันนี้เป็นงานเลี้ยงเล็กๆก็จริง แต่สำคัญต่อเผ่าพันธุ์ของเรามาก อย่าให้ทางโน้นรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร เก็บทุกอย่างไว้ข้างใน
จำไว้ด้วยว่าเจ้าแบกความภาคภูมิแห่งเผ่าพันธ์เราอยู่”
“ครับ” อึดอัดจัง....คำๆนี้เขาได้ยินมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว ทำไมต้องมาทำเรื่องที่ไม่อยากทำนี้ด้วยนะ ชายหนุ่มนั่งรอเวลาขณะที่เข็มนาฬิกาเคลื่อนไปเรื่อย
“ผมออกไปสูดอากาศหน่อยนะ” เขาบอกกับเลขาประจำตัว
“ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม”
“ไม่ต้องแค่ระเบียงหน้าห้องนี่เอง” เลขาพยักหน้ายินยอมเพราะระเบียงมีบริเวณไม่กว้างมาก ไม่มีทางออกไปไหนได้จึงปล่อยให้อยู่ตามลำพังชั่วครู่
เจคอปสูดกลิ่นอากาศสดชื่นเข้าเต็มปอด แม้จะไปบริสุทธิ์เท่าไซบีเรียแต่ก็มีความหลากหลาย กลิ่นรถ กลิ่นฮอดดอก กลิ่นเนยและชีส น่าสนใจทั้งนั้น
ร่างสูงกำยำเท้าแขนกับขอบตึก มองลงไปยังสวนย่อมที่อยู่ต่ำลงไปอีก หลายชั้น นั้นอะไรน่ะ??
สายตาแหลมคมของไซบีเรียนฮักกี้เห็น ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวสะอาดตา เดินออกรับลมข้างนอก ถึงจะอยู่ท่านกลางพันธ์ไม้นานาชนิดที่มีกลิ่นเฉาพะตัว
แต่เขาก็ยังได้กลิ่นเขาคนนั้น หอมน่าอร่อยจริงๆ และเมื่อคนๆนั้นเงยหน้ามาขึ้นมาสบตากันโดยบังเอิญ ดวงตาสีเทาเศร้าๆนั้น....ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย
(ติดตามตอนต่อไป)
