เราได้รับการอนุญาตจากพี่บอยให้นำเรื่องนี้มาลงในบอร์ดเมื่อคืนที่ผ่านมานี่เองคับ
เรื่องนี้ก็เป็น1ในผลงานของพี่บอยที่จะลงในSeries's book ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเร็วๆนี้
ใครสนใจจะพี่บอยจะมาแจ้งประกาศในทราบกันโดยถ้วนหน้า
คำเตือน : นิยายของพี่บอยทุกเรื่องได้จำการจดลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ห้ามผู้ใดกระทำการลอกเลียนแบบหรือว่าดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น มิฉะนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีตามทางกฎหมาย จึงเรียนมาเพื่อทราบกันโดยถ้วนหน้า
ขอความกรุณาให้เกียรติกับผู้แต่งด้วย ขอบคุณ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0***************************************
Chapter 1
แสงสีวูบวาบชวนแสบตา สลับกับเสียงเพลงที่ดังสนั่นชวนแสบแก้วหู ผู้คนก็เบียดเสียดกันจนน่าอึดอัด ..ตาย กูตายแน่ๆ สถานที่แบบนี้นะเหรอที่ไอ้พวกเพื่อนตัวดีมันนัดกันมา.. ศิระ กวาดสายตาเข้าไปในแสงสลัวที่สลับกับจ้าจรัสเป็นบางเวลา เด็กหนุ่มยืน หันหน้าหันหลัง ในใจก็ภาวนาให้สายตาเจอกับคนรู้จักซักคนพอที่จะนำเขาเข้าไปข้างในเธคแห่งนี้ได้อย่างไม่ขัดเขิน
“ อย่าให้กูเจอนะพวกมึง หลอกกูได้ว่ามันเป็นร้านเหล้าธรรมดา” เด็กหนุ่มสบถ นึกหัวเสียที่โดนหลอกล่อเข้ามาในสถานที่เฉพาะกลุ่มแบบนี้ได้ มองไปทางไหนมันก็มีแต่ผู้ชายหน้าเด้งทั้งนั้น ดูซินั่น เสื้อผ้าก็ใส่กันซะรัดติ้ว ลีลาท่าเต้นก็วี้ดวิ้ว เสียจนน่าเวียนหัว เห็นแล้วก็อดที่จะก้มมองสารรูปตัวเองไม่ได้ เสื้อยืดพอดีตัวสีทึบ กับยีนส์ขาดซีดตัวเก่า ไหนจะผ้าใบเน่าๆที่เหยียบทับส้นนี่อีก คนสำรวจตัวเองผ่อนลมหายใจ เขาจะกล้าเข้าไปข้างในที่เต็มไปด้วยกลุ่มผู้นำแฟชั่นที่กำลังมันส์กับชีวิตสุดเหวี่ยงนั้นได้ยังไง เขาไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น จริงอยู่ที่สภาพจิตใจเขาไม่ได้ต่างจากคนกลุ่มข้างหน้านั่น แต่สภาพร่างกายภายนอกเขา มันคนละเรื่องกับภาพที่เห็นอยู่ ผมชี้ตั้งไม่เป็นทรงจากแรงลมที่ปะทะระหว่างโหนรถเมล์เขียวเล็ก ถูกเสยอย่างลวกๆเมื่อในใจฮึดขึ้นมา เป็นไงเป็นกันซิวะ คนเยอะขนาดนี้ใครจะมาสนใจมึง เด็กหนุ่มก้าวขาออกเดินไปข้างหน้า พยายามก้มหน้าไม่มองสบตาใครเพราะหวั่นอยู่ลึกๆว่าตัวเองจะถูกมองเป็นตัวประหลาดที่หลงทางเข้ามา
..ผลั๊ก!! .. เสียงร่างของเขาชนเข้ากับใครคนหนึ่งระหว่างเดิน เล่นเอาคนเดินก้มหน้าหลับตาปี๋ เวรแท้ๆ ตกเป็นเป้าสายตาก็คราวนี้แหละมึง
“เฮ้ย!! เดินยังไงวะ” ไม่ได้มาแค่เสียง แต่ศิระรู้สึกได้ถึงแรงที่ผลักที่หน้าอกเขาจนต้องเซนิดๆ
“ขอโทษ” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นพูดด้วยเสียงไม่พอใจนัก ทำไมจะต้องผลักกะอีแค่เดินชน ก็คนมันเบียดขนาดนี้
“ขอโทษแล้วไง เสื้อกูเปื้อนเห็นป่ะ” คนพูดชี้เสื้อตัวเองที่เลอะของเหลวบางชนิด ศิระคิดว่ามันเป็นเหล้าเพราะจมูกเขาเริ่มได้กลิ่น เด็กหนุ่มใจเสีย มองด้วยสายตาเสื้อผ้าที่คนตรงหน้าสวมอยู่ ห้าหกเดือนเขาคงไม่มีปัญญาเจียดเงินจากงานที่ทำอยู่ซื้อใส่เป็นแน่
“ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” นาทีนี้คงไม่มีคำไหนที่เขาจะเอ่ยออกไปได้ดีเท่าคำพื้นๆแบบนั้น ก็มันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนี่หว่าทำไงได้ล่ะ
“โธ่เอ้ย ไอ้กุ๊ย ถ้าจะมาสมัครงาน มาตอนที่แขกเขาเที่ยวไม่เยอะสิวะ เสียอารมณ์ชิบ” อกแน่นโดนผลักเป็นครั้งที่สอง แต่คราวนี้แรงกว่าเดิมเยอะ ศิระ หลับตาข่มอารมณ์เมื่อเกือบจะทรงตัวไม่อยู่ เขายืนนิ่งไม่โต้ตอบจนรู้สึกว่าโดนของเหลวบางอย่างสาดเข้าที่หน้า
“ถือว่าหายกัน มีปัญหาเคลียร์กัน หลังร้านปิดได้” คนสาดทิ้งประโยคสุดท้ายเอาไว้ให้ ก่อนที่เดินชนเขาหายเข้าไปในกลุ่มคน คนโดนสาดใช้มือเช็ดหน้าลวกๆ รู้สึกได้ถึงกลิ่นเหม็นฉุน เขามองสบตาคนที่มองดูเหตุการณ์ครู่หนึ่ง หมดอารมณ์ที่จะเขินอาย ร่างสูงจึงเดินลิ่วๆแทรกเข้าไปข้างในต่อ