จอมร้าย
By : Dezair
……………………………..
ตอนที่ 1
เพลงแจ๊สฟังสบายดังคลอเบาๆในรถยนต์หรูที่กำลังแล่นไปตามถนนขนาดสี่เลนของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืน ภายในรถค่อนข้างสลัว แต่ชายหนุ่มคนขับก็ยังเหลือบมองคนข้างกายบ่อยครั้งจนหญิงสาวผู้ตกเป็นเป้าสายตาต้องอมยิ้ม
“มองน้ำทำไมคะ คุณขับรถอยู่นะ” น้ำทิพย์ หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานผู้ตกเป็นเป้าสายตาเอ่ยปาก
“ก็ผมรักคุณน้ำนี่ครับ” เจ้าของสายตาที่ทำให้น้ำทิพย์อมยิ้มตอบกลับมาแบบนั้นจนหญิงสาวนึกเขินกับความปากหวานของเขา
“คุณจอมน่ะปากหวาน บอกกับใครมากี่คนแล้วคะแบบนี้” คนถูกใส่ร้ายว่าปากหวานเอื้อมมือจากพวงมาลัยไปจับมือขาวของคนรักขึ้นมาจุมพิตเบาๆ
“กับคุณน้ำ…จะเป็นคนสุดท้าย…” ว่าแล้วก็เหลือบมองอย่างที่ทำเอาหญิงสาวต้องหลบสายตาด้วยความเก้อเขิน
น้ำทิพย์เป็นเช่นนี้เสมอ
…เธอเป็นหญิงสาวเรียบร้อยและอ่อนหวาน แค่ถูกคนรักแตะมือหรือจุมพิตอย่างแผ่วเบา หัวใจก็เต้นโครมครามหน้าแดงก่ำจนไม่อาจทำอะไรได้อีก…และดูเหมือนคนรักของเธอก็รู้นิสัยนี้ ชายหนุ่มผู้ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้และมือไว เมื่อมาคบกับเธอ เขาจึงกลายเป็นสุภาพบุรุษที่แตะต้องเธอน้อยนับครั้งได้…
มือเย็นๆของคนรักกอบกุมมือของน้ำทิพย์เอาไว้แบบนั้นจนกระทั่งรถยนต์เลี้ยวเข้าซอยบ้านของหญิงสาว ก่อนจะจอดนิ่งสนิทที่หน้ารั้วสีขาวของบ้านขนาดสองชั้นหลังไม่ใหญ่มากนัก
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง แล้วก็…ขอบคุณสำหรับมื้อเย็น…” น้ำทิพย์กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มหวาน รอยยิ้มที่ทำให้ชายหนุ่มพึงใจและมีความสุข
พวกเขาคบหากันฉันคนรักได้ปีเศษแล้ว และเป็นปีเศษที่อดีตคนเจ้าชู้บอกตัวเองว่าจะไม่มีวันกลับไปใช้ชีวิตเสเพลแบบเดิมๆอีก
…น้ำทิพย์คือน้ำเย็นที่ชุ่มฉ่ำ…น้ำทิพย์คือน้ำสะอาดที่ทำให้หัวใจผ่องแผ้ว…
“ราตรีสวัสดิ์นะครับ” อยากรั้งร่างกายผอมบางของน้ำทิพย์เข้ามากอด อยากเชยชมกลีบปากอิ่มไม่รู้เบื่อ…แต่…เขาทำไม่ได้…ชายหนุ่มไม่อยากให้เธอมองเขาไม่ดี หรือเป็นผู้ชายฉวยโอกาส
“เช่นกันค่ะ” สองหนุ่มสาวมองตากันนิ่งนาน อยากอยู่ด้วยกันให้มากกว่านี้ อยากแตะเนื้อต้องตัวกันเฉกเช่นที่คนรักกันพึงทำได้มากกว่านี้…แต่รู้ดี…หมอกบางทว่าขุ่นมัวขวางกั้นพวกเขาเอาไว้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะกระจกประตูฝั่งที่นั่งของน้ำทิพย์ดังขึ้น ทำเอาสองหนุ่มสาวต้องพากันหันมองด้วยใบหน้าตื่นตกใจ ก่อนที่ทั้งสองจะรีบลงจากรถ
“สวัสดีครับคุณน้า” ชายหนุ่มรีบยกมือไหว้อย่างรู้มารยาท คนถูกเรียกว่า ‘คุณน้า’ คือหญิงวัยปลายร่างผอมผู้เป็นมารดาของน้ำทิพย์ แต่ชายหนุ่มเรียกได้แค่ ‘คุณน้า’ เพราะอีกฝ่ายไม่เห็นดีเห็นงามกับการที่น้ำทิพย์คบหากับเขา
“ยัยน้ำ เข้าบ้านได้แล้ว” คุณรุ่งทิพไม่รับไหว้ ไม่แม้แต่จะแลสายตาไปที่คนรักของลูกสาวที่หน้าเจื่อนไปถนัด เธอคว้ามือน้ำทิพย์ได้ก็จูงเข้าบ้านทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มเจ้าของรถยนต์หรูที่เทียวรับเทียวส่งน้ำทิพย์ทุกค่ำเช้าได้แต่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น ก่อนจะถอนหายใจแผ่วด้วยไม่รู้จะทำเช่นไรดี
……………………….
“คุณแม่…น่าจะรับไหว้คุณจอมสักหน่อย” เสียงลูกสาวดังขึ้นเบาๆ ขณะที่คุณรุ่งทิพลากน้ำทิพย์เข้ามาในบ้าน
“รับไหว้?! ให้แม่รับไหว้นายจอมขวัญนั่นน่ะเหรอ?! น้ำ! ต้องให้แม่บอกสักกี่ครั้งว่าแม่ไม่ชอบเขา!!” คุณรุ่งทิพร้องแทบลั่น แต่เมื่อเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวมีสีหน้าสลด เธอก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกอย่างขุ่นเคือง
“แม่รู้ว่าน้ำรักเขา แต่จะคบหาใครน่ะ มันรักอย่างเดียวไม่พอ!” น้ำทิพย์รู้ดีว่าต้นเหตุที่ทำให้แม่ไม่พอใจคนรักของเธอคือเรื่องอะไร แต่นั่นมันเป็นอดีต…อดีตที่ไม่มีใครกลับไปแก้ไขได้
“ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าไป…แล้วไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้อีก แค่แม่ยอมให้ไปไหนมาไหนด้วยกันก็มากพอแล้ว! อย่ามาบังคับให้แม่ต้องดูดำดูดีอีตาจอมขวัญอะไรนี่เลย!!” คุณรุ่งทิพว่าแล้วสะบัดหน้าหนีไปอีกทางด้วยไม่อยากทนมองหน้าเศร้าสลดของบุตรสาวเพียงคนเดียว
…เธอรัก เธอหวง เธอเลี้ยงน้ำทิพย์มาคนเดียวนับตั้งแต่หย่าขาดจากสามี…ชีวิตคู่ที่ล้มเหลวทำให้คุณรุ่งทิพวาดฝันว่าเมื่อถึงคราวออกเรือนของบุตรสาว น้ำทิพย์จะมีคนรักที่ดี ไม่เจ้าชู้ ไม่โลเล และไม่ทำให้ชีวิตคู่ล่มจมแบบที่เธอประสบมา แต่นี่อะไร…ลูกสาวที่เธอฝากความหวังเอาไว้กลับไปคบหากับผู้ชายคนนั้น…คนที่มี ‘ชื่อเสีย’ ฉาวโฉ่ไปทั้งเมือง!...
…ไม่มีทาง เธอไม่มีวันยอมให้น้ำทิพย์เดินซ้ำรอยเดิมกับชีวิตคู่ที่ล่มสลายแบบที่แม่เป็น!...
………………………….
‘จอมขวัญ วิมลกิตติ’ กำลังคิดถึงชื่อตัวเองขณะขับรถกลับบ้านอย่างเหนื่อยอ่อนไปทั้งหัวใจ
ป่านนี้คุณรุ่งทิพอาจจะกำลังก่นด่าชื่อเขา ตัวตนของเขา และประวัติชีวิตของเขาจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร
…แม่ของน้ำทิพย์ไม่ชอบหน้าเขาแค่ไหน เขารู้ดี และที่ไม่ชอบมากที่สุดก็คือชื่อเสียงเสียหายที่ติดตัวเขามาตั้งแต่อายุเพิ่งจะสิบหก…
จอมขวัญรู้…รู้ว่าแม้เขาจะร่ำรวยแค่ไหน หรือใช้นามสกุลที่ยิ่งใหญ่เพียงใด…แต่สิ่งเดียวที่คุณรุ่งทิพต้องการคือการที่เขาเป็นคนดีมาแต่อ้อนแต่ออก หากแต่เขาให้ไม่ได้…ตั้งแต่อายุสิบหก หรือก่อนหน้านั้นอีก เขาก็ขึ้นชื่อลือชาไปทั่วทั้งสังคมไฮโซว่าลูกหลานตระกูลวิมลกิตติมี ‘คนหนึ่ง’ ทำตัวเป็นกาดำ เที่ยวกลางคืน มั่วผู้หญิง และท้ายที่สุด ถูกส่งไปชุบตัวที่เมืองนอก แม้ปัจจุบันจะมีงานมีการทำในโรงแรมหรู แต่ก็เป็นเพราะโรงแรมนั้นอยู่ใต้การบริหารของคุณชัย วิมลกิตติ ลุงแท้ๆของเขา
…เรื่องนี้ก็อีก…พ่อแม่เขาจากไปตั้งแต่จอมขวัญอายุได้สิบสี่…นับจากนั้นก็มาอยู่ใต้การอุปการะของลุงชัยและป้าพัชรี มีลูกของลุงและป้าเปรียบเสมือนพี่ชาย ส่วนญาติคนอื่นๆ เขาตัดทิ้งจากสารบบชีวิตนานแล้ว นับตั้งแต่พวกนั้นหมายจะเข้ามายุ่งกับเงินประกันชีวิตของพ่อและแม่
เพราะมาอยู่กับครอบครัวอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ คุณรุ่งทิพก็เลยมองว่าเขาไม่ถูกอบรมทางมารยาทหรืออย่างดีที่สุดก็แค่ ‘เถื่อๆ’
…เป็นไอ้ผู้ชายประวัติแย่ๆ เจ้าชู้เกเรและไม่มีอะไรดี…พออยากกลับมาเป็นคนเต็มคนและมารักกับผู้หญิงดีๆอย่างน้ำทิพย์ ก็ถูกมองว่าเข้ามาเพื่อหวังฟันพรหมจรรย์
ชายหนุ่มยิ้มอ่อนล้ากับตัวเอง แล้วพยายามสลัดเรื่องของมารดาคนรักออกจากใจ โดยไม่ได้รับรู้แม้แต่น้อยว่าบ้านหลังเล็กของน้ำทิพย์ที่เขาเพิ่งจะจากมา กำลังมีคลื่นใต้น้ำลูกใหญ่ก่อตัว และหมายจะพลัดพรากน้ำทิพย์ไปจากเขาชั่วชีวิต!!
………………………..
จอมขวัญพยายามไม่ใส่ใจการแสดงออกของมารดาของน้ำทิพย์ ไม่ว่าจะไม่รับไหว้ ไม่พูด ไม่ทัก หรือไม่แม้แต่จะเหลือบมอง แต่เขาก็ทนมาได้ตั้งปีเศษ หากจะต้องทนต่อไปเพื่อความรักของเขา ก็คงไม่ลำบากลำบนเสียเท่าไหร่
“สวัสดีครับ”
วันนี้วันเสาร์ เขานัดกับน้ำทิพย์ว่าจะพาไปดูหนังที่เธออยากดู จึงมารับที่บ้านตอนสิบเอ็ดโมง หมายจะพาไปดูหนังรอบบ่าย แล้วจบที่มื้อค่ำหวานๆ หากแต่ทุกอย่างจะมาชะงักก็เพราะคนที่ออกมาต้อนรับเขาที่หน้าประตูรั้วคือคุณรุ่งทิพ
“มารับน้ำเหรอ” วันนี้มาแปลก…จอมขวัญเลิกคิ้วกับตัวเองเล็กน้อยเมื่อถูกถาม แต่ก็คิดเสียว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี เขาก็เลยส่งยิ้มตอบกลับไป
“ครับ”
“ดี ถ้าอย่างนั้นพาลูกชายเพื่อนของฉันไปดูด้วยนะ” รอยยิ้มของชายหนุ่มเหือดลงในวินาทีนั้นอย่างไม่เข้าใจ จนกระทั่งน้ำทิพย์เดินออกมาจากบ้านพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อีกคนที่จอมขวัญไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน หญิงสาวหน้าเสียพูดไม่ออกเพราะรับรู้ตั้งแต่เมื่อเช้าว่าเดทนี้ของเธอและคนรักจะมีใครอีกคนตามไปด้วย
“ฉันรับปากอธิปเอาไว้ว่าน้ำจะไปดูหนังกับเขา ลืมไปสนิทว่าเธอก็ต้องพาน้ำไปดูเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นก็ไปทีเดียวสามคนเลยแล้วกัน” หญิงวัยกลางคนร่างผอมบางพูดหน้าตายก่อนจะหันไปยิ้มให้กับชายหนุ่มที่จอมขวัญไม่รู้จัก
“อธิป ถ้ายังไงน้าฝากน้ำด้วยนะจ๊ะ ไปน้ำ ไปขึ้นรถกับพี่อธิป แล้ว…เธอ ขับรถตามไปนะ” ว่าแล้วมารดาของน้ำทิพย์ก็จัดแจงให้หญิงสาวขึ้นรถไปกับ ‘อธิป’ ส่วนจอมขวัญที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของเธอก็ถูกสั่งให้เป็นฝ่าย ‘ขับรถตาม’ อย่างที่ไม่มีใครสักคนกล้าขัดคำสั่งเผด็จการเหล่านั้น
………………………..
หนังไม่สนุก
จอมขวัญบอกตัวเองแบบนั้นนับตั้งแต่เหลือบมองคนที่นั่งข้างกายในโรงภาพยนตร์อันแสนมืด และพบว่าที่นั่งที่ควรเป็นของน้ำทิพย์กลับเป็นของไอ้ผู้ชายตัวโตที่ชื่อ ‘อธิป’ ไอ้หมอนั่นมันนั่งขวางกลางระหว่างเขากับคุณน้ำจนแทบมองไม่เห็นกันอยู่แล้ว
ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหมดอารมณ์ นี่คงเป็นแผนของคุณรุ่งทิพ แม้แต่เด็กอนุบาลก็คงมองกันออก แต่ที่มองไม่ออกคือคุณรุ่งทิพตั้งใจจะให้ไอ้หมอนั่นเข้ามาแยกเขาและน้ำทิพย์ออกจากกันเฉยๆ หรือต้องการยัดเยียดมันให้น้ำทิพย์ด้วย ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าเจ็บใจ อยู่ดีๆมันก็โผล่เข้ามาแบบนี้ จอมขวัญสังหรณ์ลึกๆว่าไอ้หมอนี่จะขวางกลางชีวิตเขาไปอีกนาน!!
“คุณจอมคะ” เสียงเรียกทำให้เขารู้สึกตัว จอมขวัญหันมองเจ้าของเสียงสดใสก่อนจะยิ้มให้เล็กน้อย
“ไปหาอะไรทานก่อนกลับบ้านดีมั้ยคะ” ทั้งๆที่เขาตั้งใจว่าหลังจากหนังจบ จะพาเธอไปทานมื้อค่ำอร่อยๆและต่อด้วยการฟังเพลง แต่เพราะก้างขวางคอชิ้นโตอย่างไอ้หมอนี่ที่มันยืนมองเขาอยู่ จอมขวัญเลยต้องจำใจหาอะไรทานแล้วแยกย้ายกันกลับบ้านตามที่หญิงสาวเสนอ
“ครับ คุณน้ำอยากทานอะไร” เขาหันมาถามให้หญิงสาวมองร้านอาหารที่เรียงรายรอบตัวราวกับกำลังตัดสินใจ แต่ชายหนุ่มรู้ดี เธอจะจบที่ร้านอาหารจีน น้ำทิพย์ชอบทานติ่มซำและอาหารจีนทุกชนิด ทุกครั้งที่นัดเดทมักจะจบที่ร้านอาหารจีนเสมอ
“อาหารจีนแล้วกันค่ะ” เห็นมั้ยเล่า ชายหนุ่มเบือนสายตาจากร้านที่ตัวเองอยากทาน มามองป้ายร้านอาหารจีนที่น้ำทิพย์เป็นคนเลือก
ได้ยินเธอหันไปถามความสะดวกใจของ ‘แขกผู้มีเกียรติ’ ที่มาร่วมดูหนังด้วยกัน อีกฝ่ายก็ยอมตกลงจะตามใจเธอ น้ำทิพย์จึงเป็นคนเดินนำเข้าร้าน มีเขาเดินตามโดยทำลืมส่วนเกินของการเดทครั้งนี้ไปเสียสนิท แต่เมื่อเขาเดินผ่านฝ่ายนั้นเพื่อตามน้ำทิพย์เข้าร้าน เสียงทุ้มกลับดังเบาๆให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน
“ทำแบบนี้บ่อยเหรอ ประเภทเทิดทูนทุกอย่างที่น้ำเลือกทั้งที่ตัวเองไม่อยาก” จอมขวัญหันมองตาขวาง แต่ใบหน้าหล่อเหลาของอธิปยังคงเรียบเฉย ทำเพียงแค่ปรายตามองเขา แล้วเป็นฝ่ายก้าวขาออกเดินตามน้ำทิพย์เสียเอง
แล้วจอมขวัญก็บอกตัวเองว่ามื้อนี้ของเขาก็คงไม่อร่อยเหมือนที่ดูหนังไม่สนุกนั่นล่ะ
…………………………
ชายหนุ่มก้าวขาลงจากรถ หลังจากแยกย้ายกับน้ำทิพย์และหมอนั่น
…มันชื่อ อธิป…
เขาเพิ่งรู้จักอย่างเป็นทางการตอนทานอาหาร เลยได้รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทคุณรุ่งทิพ มีพ่อแม่ครบถ้วนและไม่เคยมีเรื่องเสียหายในแบบที่เขาเป็น คุณสมบัติครบสูตรเข้าตามารดาของน้ำทิพย์แน่
จอมขวัญได้แต่ปวดลึกในอก เมื่อรู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้ไม่ว่าจะแง่ไหน แม้ก่อนหน้านี้คุณรุ่งทิพจะไม่เคยสนใจใยดีเขา แต่ก็ไม่เคยมาเจ้ากี้เจ้าการส่งผู้ชายหน้าไหนเข้ามาแย่งน้ำทิพย์ไปจากเขาเช่นกัน หากแต่ครั้งนี้…ไม่ใช่อย่างนั้น
ดูท่าทีเทคแคร์ของอธิปที่มีต่อน้ำทิพย์แล้ว จอมขวัญก็บอกได้เลยว่าฝ่ายนั้นคิดจะแย่ง ‘คุณน้ำ’ ไปจากเขา
“ของขวัญ ไปทำอะไรตรงนั้น ทำไมไม่ขึ้นบ้าน”
เสียงเรียกทำให้คนชื่อเล่นว่า ‘ของขวัญ’ ต้องหันมอง
ชื่อเล่นของจอมขวัญมีแต่ลุงชัย ป้าพัชรี และลูกชายของพวกท่านที่เรียกเขาแบบนี้ ส่วนคนอื่นนอกจากนั้นจอมขวัญไม่เคยบอกใครว่าตัวเองมีชื่อเล่นน่ารักน่าชัง ไม่ใช่ว่าเขาอายหรอก ระดับนายจอมขวัญ วิมลกิตติไม่เคยอับอายกับสิ่งที่เป็น แต่ที่เขาไม่บอก เพราะหมายจะให้ชื่อนี้ตายไปกับพ่อและแม่เท่านั้น
“จะขึ้นแล้วป้า” เขายิ้มให้หญิงร่างอวบผิวขาวที่ยังยืนเท้าเอวอยู่ที่ชานเรือนไทย ป้าพัชรีเป็นผู้อุปการะเขานับตั้งแต่พ่อแม่จากไป ชายหนุ่มมาดดีต่อหน้าใครๆ แต่เมื่ออยู่ที่บ้านเรือนไทยหลังนี้แล้ว กลับกลายเป็นเพียง ‘เด็กชายของขวัญ’ นิสัยซนๆที่ชอบวิ่งขึ้นลงบันไดให้ป้าพัชรีต้องคอยดุคอยตี และครั้งนี้ก็ตีเข้าที่แขนดังเพี๊ยะเมื่อหลานชายสุดที่รักวิ่งขึ้นบันไดมายืนยิ้มแก้มแทบปริอยู่ข้างเธอ
“สอนยากนักนะ ของขวัญ! ป้าบอกว่าห้ามวิ่งขึ้นลงบันได! แล้วนี่ทานอะไรมารึยัง ทำไมกลับเร็ว ไหนว่าจะไปเที่ยวกับหนูน้ำ” ความสัมพันธ์ป้าหลานนั้นแนบชิดราวกับแม่ลูกเพราะไม่เพียงแค่ป้าพัชรีจะยื่นมือเข้ามาอุปการะเขาหลังจากพ่อแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ แต่ป้าอยู่กับเขามาตั้งแต่เขาเกิด ช่วยเลี้ยง ช่วยสอน ช่วยแม้กระทั่งตีนั่นแหละ
“ก็แม่คุณน้ำน่ะสิ เขาหาผู้ชายมาให้คุณน้ำดูตัว วันนี้ก็หอบไปเที่ยวกันสามคน เซ็งชะมัดเลย” แม้จะไม่พูดโต้งๆแต่จอมขวัญไม่ใช่เด็กอมมือที่จะไม่รู้อะไรเลย คุณรุ่งทิพคงคิดจะลากลูกชายเพื่อนเข้ามาในชีวิตของลูกสาว ไม่จะรู้จะลากเข้ามาเพื่อผลระยะยาวคือการแต่งงานของคนทั้งคู่ หรือเข้ามาระยะสั้นเพียงเพื่อกันเขาออกไป
“ถ้ารู้แต่แรกว่าเขาชอบลูกเขยเหนียมๆ ขวัญจะทำตัวให้ดีตั้งแต่ออกจากท้องแม่เลย”
“หื้อ! คิดอะไรแบบนั้น ป้าสอนกี่ทีแล้วว่าอดีตมันแก้ไขไม่ได้” จอมขวัญยิ้มให้ป้า ก่อนจะเข้าไปโอบรอบเอวอวบๆของคุณพัชรีเอาไว้
“คิดเล่นๆเอง ขวัญรู้หน่าว่าอดีตมันกลับไปไม่ได้ หือ? ป้ารีทำขนมเหรอ หอมๆ” เขาทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นขนมจากร่างอวบที่อยู่ในอ้อมแขนเขา
“ถ้าจะกินก็ไปล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวป้าตักให้” จอมขวัญยิ้มทะเล้นแล้วหอมแก้มคุณพัชรีไปที พลางงึมงำว่าน่ารักที่สุดให้คนเป็นป้าต้องรีบตีแขนหลานชายตัวดี ฝ่ายนั้นถึงได้ยอมเผ่นเข้าห้องตัวเองอย่างเร็ว ทิ้งไว้เพียงสายตาของหญิงวัยปลายผู้มีเส้นผมสีดำที่แซมด้วยขาว
เธอถอนหายใจเบาๆด้วยความสงสาร แม้จะรู้แก่ใจว่าคุณรุ่งทิพเป็นเพียงแค่แม่ที่ต้องการให้ลูกตัวเองได้สิ่งที่ดีที่สุด และเมื่อหลานชายของคุณพัชรีมีตำหนิด่างพร้อย ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือเป็นเรื่องที่เกิดเมื่อนานมาแล้ว แต่มันก็ถูกขยายด้วยสายตาอคติของคุณรุ่งทิพจนเป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ของสองหนุ่มสาวไม่อาจพัฒนาได้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะรักกันมากเพียงใดก็ตาม
……………………..
“มันชื่ออธิป”
จอมขวัญในชุดอยู่บ้านสบายๆได้แก่กางเกงเลและเสื้อยืดเนื้อบางกำลังตักซาหริ่มเข้าปากแล้วเล่าด้วยความเซ็ง
“เห็นว่าเป็นลูกชายเพื่อนของแม่คุณน้ำ การศึกษาดี มาดดี ท่าทางดี เสียอย่างเดียว มันทำท่าจะมาแย่งคุณน้ำไปนี่ล่ะ” ชายหนุ่มเล่าต่ออย่างอดหงุดหงิดไม่ไหว คิดถึงตอนที่หมอนั่นนั่งตรงกลางขวางเขาและคุณน้ำแล้ว ก็ยิ่งพาลหนัก
“คิดในแง่ดี เขาเองก็อาจจะถูกบังคับมาเหมือนกันก็ได้ ป้าเห็นบ่อยๆในละคร” คำพูดของคอละครทำเอาจอมขวัญตวัดสายตาขุ่นๆไปมอง
“แล้วในละครตอนจบ คนที่ถูกบังคับก็ดันรักกันด้วยใช่มั้ย ป้ารีอยู่ข้างใครเนี่ย!” คุณพัชรีหัวเราะร่วนเมื่อหลานชายของเธอพาลพาโลงอแงเป็นเด็กๆ
“ป้าก็ต้องอยู่ข้างของขวัญแล้ว แต่…สงสัยงานนี้คุณรุ่งทิพจะทุ่มทุนสร้างยิ่งกว่าผู้กำกับมือทองอีกนะ พระเอกเพอร์เฟ็คอย่างคุณอธิปน่ะ หาไม่ได้ง่ายๆ!” รอบที่สองที่ไม่เข้าข้างหลานแท้ๆ จอมขวัญทำหน้าบูด
“ถ้าอย่างนั้นมันต้องเป็นละครที่เรตติ้งไม่ดีที่สุด ถ้าอยากให้เรตติ้งดีๆ พระเอกต้องเป็นขวัญเท่านั้น ถ้าเป็นนายอธิปนั่นนะ ล่มจม!” ไม่วายยังพูดเข้าข้างตัวเองจนคนเป็นป้าหัวเราะลั่นแล้วลูบศีรษะหลานชายที่เธอเลี้ยงดูมา แม้จอมขวัญจะผิดพลาด จะมีร่องรอยตำหนิในชีวิต…แต่จอมขวัญก็ยังเป็นหลานชายที่เธอรักและเอ็นดู
“พระเอกต้องเป็นใครนะ?!” เสียงทุ้มดังลั่นมาแต่ไกล จนสองป้าหลานต้องหันไปมอง ชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ำดำแดดหน้าระรื่นยิ้มโชว์ฟันขาวขณะเดินเข้ามาร่วมวงที่กลางเรือนไทยด้วย
“ทำไมกลับเร็วล่ะจักร” จักรกฤษณ์ยิ้มให้มารดาขณะทรุดตัวลงนั่งข้างน้องชายลูกพี่ลูกน้อง แล้วคว้าช้อนในถ้วยซ่าหริ่มของจอมขวัญมาตักเข้าปาก
“โยนงานให้พ่อทำน่ะแม่” เขาตอบแค่นั้น แล้วตักเข้าปากอีกจนเจ้าของถ้วยเริ่มเหล่ตามอง
“มองพี่ทำไมไอ้ขวัญ…แล้วเมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ ใครเป็นพระเอกอะไรสักอย่าง” จักรกฤษณ์เงยหน้าขึ้นมาถามด้วยน้ำเสียงทะเล้น
“อยากรู้เหรอ” จอมขวัญย้อนพี่ชายหน้าตาย จักรกฤษณ์พยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว แต่คนเป็นน้องกระตุกยิ้มมุมปาก แล้วเอ่ย
“ไม่บอก” คำว่าไม่บอกของชายหนุ่มผู้น้องทำเอาคนถามเข่นเขี้ยวอยากไล่เตะมันสักที
“…สงสัยจะเป็นเรื่องคุณแฟนสาวแม่ดุแน่ๆ…ไม่ยอมบอกเพราะมันยอกในอกใช่มั้ยน้อง” คำถามน้ำเสียงกวนประสาทหวิดจะทำให้ถ้วยซ่าหริ่มในมือจอมขวัญไปฟาดใส่หน้านั่นสักที
“พี่ช่วยเอาม้า?...” จักรกฤษณ์ว่าแล้วขยิบตา แต่คนเป็นน้องโบกมือทันที
“ช่วยให้ยุ่งอ่ะดิ พี่จักรไม่ชอบคุณน้ำนี่” นอกจากมารดาของน้ำทิพย์จะไม่ชอบหน้าเขาแล้ว ลูกพี่ลูกน้องที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายของเขาคนนี้ก็ไม่ชอบหน้าน้ำทิพย์เหมือนกัน จักรกฤษณ์เคยบ่นว่าคนรักของเขาเป็นผู้หญิงบื้อและไม่มีปากมีเสียง อยู่ด้วยแล้วเหมือนนั่งเล่นในป่าช้า
“อ๊ะ! แน่นอน…ผู้หญิงอย่างงั้นไม่เหมาะกับแกหรอก ไอ้ขวัญ ฉันช่วยหาให้ใหม่ดีกว่า”
“ไม่เหมาะแต่รัก โอเคมั้ย”
“โฮ โคตรน้ำเน่า!” จักรกฤษณ์ทำปากเบ้ ก่อนจะขยับไปหยิบหม้อซ่าหริ่มที่วางบนโต๊ะมาตักเติมลงไปในถ้วยเพื่อแบ่งกันกินกับน้องชายลูกพี่ลูกน้องที่ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน
“เออ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าแกเข้าไปดูห้องจัดเลี้ยงด้วยนะไอ้ขวัญ” คนพี่เริ่มคุยเรื่องงาน คนน้องก็พยักเพยิดขณะตักซ่าหริ่มเข้าปาก คุณพัชรีมองลูกชายและหลานชายที่รักใคร่กันยิ่งกว่าพี่น้องแท้ๆแล้วก็เบาใจไปเปราะ ต่อให้จอมขวัญจะไม่มีใครรักเพราะอดีตอันด่างพร้อย แต่อย่างน้อย…ขอให้ที่บ้านหลังนี้เป็นที่พักใจพักกายของจอมขวัญก็พอ…
“กินไปก่อนนะ แม่จะลงไปดูข้าวเย็นที่ครัวก่อน” เธอว่าอย่างนั้นกับสองหนุ่ม ก่อนจะเดินลงจากเรือนไป จอมขวัญมองส่งจนลับสายตา ก่อนจะหันมาทางพี่ชายลูกพี่ลูกน้อง
“พี่จักร ช่วยขวัญอย่างนึงดิ”
……………………….
ในขณะที่จอมขวัญกำลังหาตัวช่วยเพื่อพิชิตภารกิจไม่ชอบหน้าว่าที่ลูกเขยของคุณรุ่งทิพ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เจ้าของชื่อ ‘อธิป’ นั้นเพิ่งจะเสร็จสิ้นจากการไปส่งน้ำทิพย์ชนิดที่ต้องร่วมมื้อของว่างด้วย ถึงจะกลับบ้านมาได้
เขาถอนหายใจเล็กน้อยอย่างเหนื่อยหน่ายขณะเดินเข้าบ้าน ก่อนจะนิ่งไปเมื่อเห็นมารดากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่นทั้งๆที่เวลานี้ควรจะเป็นเวลาที่คุณกนกนุชนั่งติดโทรทัศน์ให้สมกับที่เป็นคอละครหลังข่าว
“โต เป็นยังไงบ้าง” คุณกนกนุชเงยหน้าจากหนังสือเมื่อได้ยินฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ เธอวางหนังสือลงข้างกายแล้วตั้งคำถามอย่างห่วงใย อธิปมองมารดาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเคียงข้างพลางถอนหายใจเบาๆ
ใช่…เขาอึดอัดกับการกระทำของตัวเอง แต่ก็ไม่อยากขัดใจคุณรุ่งทิพ อย่างน้อยๆบิดาของคุณรุ่งทิพก็เคยช่วยเหลือครอบครัวเขามาก่อน เมื่อครั้งนี้เป็นฝ่ายคุณรุ่งทิพที่เดือดเนื้อร้อนใจจนต้องหอบน้ำตามาขอความช่วยเหลือ ทั้งเขาทั้งมารดาจึงไม่อยากปฏิเสธ
“ก็…คงพอไหวครับ แต่แฟนของน้ำก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไรเท่าไร”
คุณรุ่งทิพบอกกับเขาว่าแฟนของน้ำทิพย์เป็นผู้ชายปอกลอกและหวังฟัน นอกจากนั้นยังนิสัยแย่และมารยาททราม ครั้งแรกที่ได้ยินเขาถามตัวเองว่าถ้าผู้ชายมันเลวขนาดนั้นแล้วน้ำทิพย์ไปรักลงได้อย่างไร แต่เมื่อเจอวันนี้ จากท่าทางภายนอกที่เขาสังเกตก็บอกได้คำเดียวว่าคุณรุ่งทิพพูดเกินจริงไปมากโข
จอมขวัญ วิมลกิตติไม่ได้ดูเหมือนผู้ชายรุ่มร่ามหัวงูหมายจะลวนลามน้ำทิพย์ ซ้ำยังระวังตัวที่จะไม่ล่วงเกินหญิงสาวเข้า นอกจากนั้นเรื่องมารยาท…เขาเห็นจากดวงตาเรียวๆคู่นั้นว่าแสดงความไม่พอใจเอาไว้มากแค่ไหนที่เดทวันนี้มีเขาติดสอยห้อยตามไปด้วย หากแต่ฝ่ายนั้นเลือกที่จะเงียบและเบนความสนใจทั้งหมดไปที่น้ำทิพย์แทน ส่วนเรื่องรักหวังฟัน…อธิปก็ตอบไม่ได้เพราะเพิ่งรู้จักวันนี้วันแรก
“แฟนหนูน้ำใช่คนที่เป็นลูกหลานเครือ วิมาลา รึเปล่า” มารดาเอ่ยปากถามอย่างสงสัย
“ครับ จอมขวัญ วิมลกิตติ หลานชายคุณชัยเจ้าของเครือโรงแรมวิมาลา” ตอนที่ต่างฝ่ายต่างทำความรู้จักกันในร้านอาหารจีน เพียงแค่จอมขวัญบอกชื่อและนามสกุล เขาก็พอจะรับรู้ถึงฐานะทางการเงินและชีวิตของอีกฝ่าย เครือโรงแรมวิมาลาถือว่าเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศไทย บริษัทของทางบ้านเขาเองก็เคยใช้โรงแรมนี้เป็นสถานที่จัดงานอยู่บ่อยๆ
“ใช่คนที่เราเจอบ่อยๆตอนดีลงานรึเปล่า” อธิปส่ายหน้า
“ไม่ใช่ครับ คนนั้นเป็นลูกชายแท้ๆของคุณชัย ชื่อจักรกฤษณ์” คุณกนกนุชพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเอ่ยปากต่อ
“วันนี้แม่ลองถามเพื่อนๆดู เขาว่าหลานชายของคุณชัยน่ะ เคยทำผู้หญิงท้องตอนอายุสิบหก แล้วฝ่ายหญิงก็ดันแท้ง หลังจากนั้นคุณชัยก็ส่งหลานไปเรียนเมืองนอกเสียเลย” นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณน้ารุ่งทิพไม่พอใจกับประวัติชีวิตของฝ่ายนั้น
…ทำผู้หญิงท้องตอนอายุสิบหก…
ชายหนุ่มโคลงศีรษะไปมา อดีตแบบนั้นถึงใครจะลืม หากแต่คนที่จ้องจับผิดก็สามารถเอามาเป็นชนวนได้ไม่ยากหรอก
“ยิ่งไปกว่านั้น…ผู้หญิงที่ท้องน่ะ เป็นแฟนเก่าลูกชายคุณชัยเอง” ผู้เป็นมารดาเล่าแล้วก็อึดอัดในอก ก่อนจะถอนหายใจแผ่ว
“…ใจจริงแม่ไม่อยากให้โตไปยุ่งกับเรื่องนี้เลย”
เขาเองก็ไม่อยากยุ่ง แต่อย่างไรเสียครอบครัวคุณรุ่งทิพก็เคยมีบุญคุณกับครอบครัวของเขา จะไม่ดูดำดูดี แล้วเกิดเจ้าหมอนั่น ‘มือไว’ จนน้ำทิพย์ท้องล่ะ?
แต่…แบบนั้นน่ะหรือ แบบที่ยืนมองร้านอาหารที่ตัวเองอยากทานตาละห้อย แต่พอน้ำทิพย์บอกจะทานอาหารจีนก็ยอมว่าง่ายไม่ขัดใจ…คนที่แค่จะแตะตัวคนรักของตัวเอง ยังทำอย่างสุภาพด้วยการแตะที่แขนเบาๆแบบนั้นน่ะหรือ?...
“โต เป็นอะไรรึเปล่า” คำถามของมารดาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัว เขาปฏิเสธเบาๆ แต่ทั้งอย่างนั้นตัวเขาเองกลับรู้ดีว่าภาพนั้นยังสลัดออกจากหัวไม่ได้แม้แต่น้อย
…ภาพตอนที่จอมขวัญยืนมองร้านอาหารที่ตัวเองอยากทาน แม้สายตาจะไม่ถึงขั้นโหยหา แต่ถ้าลองน้ำทิพย์ได้เห็น เขาทายได้เลยว่าหญิงสาวอาจจะไม่เรียกร้องทานอาหารจีนอีกตลอดชีวิตเพราะอยากตามใจคนตาละห้อยรายนั้นมากกว่า
ติดตามตอนต่อไป…(พฤหัสหน้านะจ๊ะ)
แฮ่ม…เรื่องใหม่…
จริงๆแล้วคิดพล๊อตไว้ประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว แล้วก็ทิ้งค้างเอาไว้ ไม่ได้เขียนต่อ (ตามนิสัยขี้เกียจนั่นเอง อิอิ
)
คาดว่าเรื่องนี้จะดราม่า(นิดหน่อย ฮ่าฮ่า ดราม่าเยอะไม่ได้ เพราะเราชอบความชิลลลลลล์
)
ยังไงก็ฝากเรื่องใหม่ด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
ป.ล. ว่าแล้วว่าลืมอะไร
ลืมแปะกฎบอร์ดนี่เอง ขอบคุณมากๆที่เตือนนะคะ