♥ [เรื่องสั้น] เหนือฝัน ตอนที่ 4 (จบ) 20/07/12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ [เรื่องสั้น] เหนือฝัน ตอนที่ 4 (จบ) 20/07/12  (อ่าน 143243 ครั้ง)

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0






งานเขียนที่ผ่านมา
01 - Friend's brother, brother's friend  เมื่อเพื่อนสงสัยว่าพี่ชาย... [End]
02 - เรื่องสั้น เหนือฝัน [End]
03 - รักเร่  Dalhia [End]
04 - เรื่องสั้น หลบรัก [End]
05 - คำประกาศของความรู้สึกใหม่ Adore you [End]
06 - Special Happiness ฝากรักไว้ข้างบ้าน [End]
08 - When the wind blow back [End]
09 - โอบตะวัน [End]
10 - candy [End]
11 - At first sight [End]
12 - สู่กลางใจ | a tu co ra zon [End]
13 - หลังม่าน | behind the scene [End] ***Ft. Afterday
14 - กลพยัคฆ์ [Continued]



เ ห นื อ ฝั น


content
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-01-2017 00:59:35 โดย -west- »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

ออฟไลน์ Pakbung Mazo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
มารอค่ะ

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
ตอนที่ 01



ปานฝันเข้าใจว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า และไร้ญาติขาดมิตรตั้งแต่ปานวาดผู้เป็นแม่จากไปเมื่อหลายปีก่อน กระทั่งได้รับโทรศัพท์จากสายนิรนามซึ่งติดต่อมาจากทางภาคเหนือโดยชายผู้อ้างตัวว่าเป็นพ่อเลี้ยง ที่เขามีเพียงภาพความทรงจำอันเลือนรางเหลือเกินอยู่ในหัว


ภาพวันที่แม่ร่ำร้องแทบขาดใจตอนที่พ่อเดินจากไป แม้วัยนั้นเขายังเล็กเหลือเกินก็ยังพออ่านออกถึงความรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกันในแววตาของบุรุษผู้ทิ้งเขากับแม่ไว้เบื้องหลังได้เป็นอย่างดี



ฝันไม่โกรธพ่อหรอกที่เลือกทำเช่นนั้น เมื่อคนเรามาถึงทางแยก สิ่งที่ต้องทำคือตัดสินใจ
ในเมื่อแม่เป็นคนมาที่หลังดังนั้นพ่อจึงต้องหันกลับไปดูแลภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายซึ่งกำลังจะให้กำเนิดลูกชายในสายเลือด ไม่ใช่เขา ที่เป็นแค่ลูกติดเมียน้อย


มันถูกต้องโดยไม่ต้องคิดทบทวนให้เสียเวลา เพราะถ้าเป็นฝัน เขาก็จะทำเช่นเดียวกันกับชายแก่
แต่ปานฝันก็อดคิดไม่ได้ว่าบางทีพ่ออาจเคยลืมไปแล้วว่ายังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของสตรีอันเป็นที่รักอยู่ กระทั่งที่เจอกันอีกหนในงานศพของแม่เมื่อวันเวลาผ่านมาร่วม 20 ปี
ถึงคราเดือดร้อน ต้องพึ่งพาใครสักคนให้ไว้ใจในมหานครใหญ่ ภาพของชายหนุ่มวัย 24 ผู้มีแววตาโศกกับกระจับปากได้รูปละม้ายว่าถอดแบบจากมารดา จึงปรากฏสะท้อนขึ้นมาในตาพร่างของชายวัยกลางคน
   

ปานฝันก้มหน้าลงมองนาฬิกาคาสิโอที่เขาซื้อตอนลดราคา 30%อีกครั้ง หลังจากเลยเวลานัดหมายมาราว 20 นาที วันนี้ฝนตกหนักดังนั้นฝันจึงไม่แปลกใจสักนิดถ้าเครื่องจากเชียงใหม่จะลงจอดที่สนามบินดีเลย์ กระนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องยืนขาแข็งถอนหายใจรอน้องชายต่างสายเลือดอีกนานแค่ไหน กระทั่งผู้ชายผิวขาวเหลืองค่อนไปทางซีดจัด สวมเสื้อยืดสีชมพูบานเย็นและแว่นกันแดดสีเดียวกับเส้นผมตลอดจนกางเกงยีนส์ขาเดฟซึ่งเป็นลักษณะคร่าวๆที่อีกฝ่ายบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของคิมหันต์ ลูกชายในไส้เพียงคนเดียวของพ่อปรากฎตัว  และอย่างที่ชายแก่บอกไว้ ว่าแม้การแต่งกายของคิมหันต์จะดูเหมือนคนปกติทั่วไปแต่ปานฝันจะสังเกตน้องและจดจำได้เองราวถูกมนต์สะกด และมันก็เป็นเช่นนั้นจนชายหนุ่มนึกว่ามันประหลาด


“พี่ฝัน?”

เด็กชายที่ได้รับการฝากฝังเอ่ยทักให้เจ้าของชื่อรู้สึกตัว ปานฝันรับคำในลำคอก่อนยื้อกระเป๋าลากใบเล็กมาถือนำน้องชายเดินออกจากสนามบิน ข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่ปานฝันได้จากบิดาคือคิมหันต์ถูกเลี้ยงดูอย่างค่อนข้างเข้มงวดและเป็นระเบียบ ฟูมฟักทะนุถนอมราวไข่ในหินตั้งแต่ลืมตาดูโลกจวบจนปัจจุบันที่ได้งานพลัดมาต่างถิ่นแถมยังเป็นนครแห่งแสงสีที่มีอันตรายล้อมรอบทุกลมหายใจเสียด้วย ดังนั้นพ่อและแม่ของเด็กหนุ่มจึงกังวลจนแทบจะให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไม่รับงานในบริษัทยักษ์ใหญ่แล้วนอนตีพุงกินสมบัติเก่าอยู่บ้าน จนเจ้าตัวต้องรั้นเอ่ยถามกับบุพการีว่าถ้าวันหนึ่งเขาไม่มีพ่อแม่คอยหนุนหลังแล้ว คิมหันต์จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกอันแสนโหดร้ายนี่ได้อย่างไร

ดังนั้นคุณหญิงยศวดีจึงยอมปล่อยให้ลูกชายย้ายมาทำงานที่กรุงเทพภายใต้ความดูแลของอดีตหนามยอกอกหล่อน

เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนานเหลือเกิน อีกทั้งปานวาดก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับมาร่วม4ปีแล้ว คุณหญิงจึงขออโหสิกรรมให้ครอบครัวของปานฝันที่ตอนนี้เหลือเพียงเขา ตัวคนเดียว



นิวบีทเทิลสีฟ้าเป็นสมบัติชั้นล่าสุดที่ปานวาดซื้อก่อนสิ้นใจซึ่งงวดสุดท้ายยังทิ้งภาระเอาไว้ให้ลูกชายผ่อน จวบจนบัดนี้มันกลายเป็นสมบัติของบุรุษหนุ่มเต็มตัว เพื่อนฝูงมักแซวกันสนุกสนานว่ารถดูน่ารักผิดกับคนใช้ซึ่งมีออร่าสีทมึนแผ่กระจายรอบกายตลอดเวลา ทว่าฝันก็ยังคงใช้อย่างทะนุถนอมจนแม้มันตกรุ่นแล้วเขาก็ยังรักษาไม่ให้เกิดร่องรอยขีดข่วนสักนิดเหมือนสมัยที่แม่ยังมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกับสมบัติชั้นอื่นๆที่เป็นตัวแทนของมารดา

ปานฝันกับแม่ เป็นครอบครัวน่ารักๆที่อยู่ด้วยกันเพียงสองคนและสัญญาว่าจะดูแลซึ่งกันและกันจนกว่าจะสิ้นใจ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ทั้งคู่โอบกอดกันด้วยความสิ้นหวังและเจ็บปวด ตั้งแต่พ่อแท้ๆกับปานวาดเลิกรากันไป กระทั่งชายผู้มาจากทิศเหนือสร้างรอยยิ้มให้แม่และเขาอีกครั้ง ก่อนจะกรีดลงบนแผลเดิมของหญิงสาวให้เผชิญกับความโดดเดี่ยวแทบขาดใจ


ถึงตอนนี้ ฝันกลับรู้สึกดีใจที่ปานวาดด่วนจากไป เพราะถ้าเขาต้องเป็นฝ่ายทิ้งปานวาดไปก่อน ฝันไม่รู้เลยว่าเขาจะให้อภัยตัวเองที่ทำร้ายแม่เป็นคนที่ 3 ได้อย่างไร


“พ่อบอกว่าบ้านพี่ฝันอยู่ใกล้ bts "

ทันทีที่นิวบีทเทิลเคลื่อนตัวออกจากสนามบิน เด็กหนุ่มชาวเหนือก็หันมาถามทำลายความเงียบซึ่งกำลังทำให้ทั้งคู่เริ่มอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกเสียก่อน ปานฝันยังคงตอบรับในลำคอเท่านั้นไม่สานต่อเรื่องราวให้มากความ


“ที่ทำงานของพี่ฝันก็อยู่ใกล้บริษัทเหนือใช่ไหมครับ”

ปานฝันเหลือบตามองเด็กหนุ่ม อันที่จริงคิมหันต์ดูเหมือนจะพอรู้เรื่องราวโดยคร่าวของเขามาก่อนเช่นกันถึงได้ชวนคุยในเรื่องส่วนตัว ทว่าชายหนุ่มยังคงให้ความเงียบเป็นเครื่องมือสื่อสาร เขาไม่ใช่คนถนัดที่จะพูดพร่ำอะไรให้มากความซึ่งเป็นนิสัยเดิมตั้งแต่ยังเล็ก ปานฝันจองจำตัวเองอยู่ในความเงียบสงัดเพราะคิดว่าการสานสัมพันธ์มันเจ็บปวดและน่ารำคาญ

เจอ พบ จบ จาก...

เขาไม่เคยเป็นที่จดจำของใคร และไม่ได้อยากเป็น ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยหากปานฝันจะไม่มีคนที่คบหากันในรูปแบบของคนรักแม้วัยจะใกล้เลขสามเข้ามาทุกที ผิดกับอีกคน ที่ถึงแม้เขาจะนิ่งเฉยใส่เท่าไร แต่กลับดูเหมือนคิมหันต์ไม่ได้สะทกสะท้านหรือเหน็บหนาวในปฎิกิริยาที่ไม่ได้เป็นมิตรนักของพี่ชายเลยสักนิด เขายังชวนปานฝันคุยต่อแบบไม่รู้สึกประหม่า


“วันนี้พี่ฝันพาเหนือเที่ยวกรุงเทพหน่อยได้ไหมครับ”

เหนืออ้อนขอ สายตาสกราวจ้องออกไปนอกตัวกระจกที่มีหยดฝนเกาะพราว เม็ดของน้ำฝนเริ่มตกหนัก ถี่ และใหญ่ขึ้นกว่าช่วงที่ออกจากสนามบินในตอนแรก มันบดบังทัศนียภาพของตัวเมือง หนำซ้ำยังเร่งให้แอร์ในรถเย็นจัดจนไหล่บางของคิมหันต์ต้องห่อตัวลง


“ไว้วันหลังแล้วกัน ฝนตกไปเที่ยวไหนก็ไม่สนุก”

ปานฝันตอบ เขาเลื่อนมือไปปรับแอร์ให้อุณหภูมิในรถสูงขึ้น  ตาคมเหลือบมองน้องชายที่สะท้อนภาพอยู่ในกระจกมองหลังนิ่ง


“ครับ”

เหนือรับคำอย่างว่าง่าย พลันหลุบสายตาลงต่ำเมื่อสบตากับพี่ชายในเรือนกระจกด้วยความบังเอิญ






บ้านหลังที่นิวบีทเทิลสีฟ้าอ่อนเลี้ยวเข้ามาจอดเป็นบ้านเดี่ยวขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับบ้านที่เชียงใหม่ของคิมหันต์ หากแต่ทำเลใจกลางเมืองหลวงขณะที่ผู้คนยังต้องเบียดเสียดหาที่อยู่กันบนอากาศก็ทำให้เหนือรู้ว่าคุณวาดกับลูกชายมีฐานะที่มั่นคงพอตัว ปานวาดทำงานในโรงเรียนสอนดนตรี ขณะที่ปานฝันลูกชายคนเดียวของหล่อนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เรียกได้ว่าเป็นลูกไม้ที่งอกออกจากต้นเลยก็ว่าได้ ในเมื่อปัจจุบันปานฝันเป็นบุคลากรวัยหนุ่มของมหาวิทยาลัยชื่อดังในคณะดุริยางคศิลป์ อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษางานเพลงของค่ายดนตรียักษ์ใหญ่ด้วยวัยเพียง 28

ตอนที่เหนือได้ยินเรื่องราวของพี่ชายจากปากพ่อ เขายังอดร้อง "ว้าว..." ในความมหัศจรรย์ของปานวาดที่เลี้ยงดูพี่ฝันมาเพียงคนเดียวให้เป็นดั่งฝัน สมชื่อมาได้ขนาดนี้


คิมหันต์ถอดรองเท้าผ้าใบไว้ตรงประตูทางเข้า เดินตามพี่ชายเข้าบ้านพลางกวาดสายตาไปโดยรอบห้องโถง มีแกรนด์เปียโนขนาดใหญ่กับเชลโล่วางอยู่ในมุมที่สะดุดตาถ้ามองจากประตูบ้าน ไม่ไกลกันนักเป็นตู้หนังสือที่จุไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีดนตรีเกือบทั้งหมดซึ่งถูกจัดวางเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ โซฟาหนังแบบปรับเอนได้ถูกตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือของตู้หนังสือ มีโต๊ะเล็กซึ่งวางขวดโหลใส่ปลาทอง 2 ตัวไว้ภายใน นอกจากนั้นยังมีชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมประตูฝั่งที่เป็นทางเชื่อมจากห้องโถงไปยังส่วนอื่นของบ้าน


น่าแปลก ที่บ้านหลังนี้ไม่มีโทรทัศน์? เห็นทีปานฝันและปานวาดคงเป็นคนสุนทรีย์ประเภทที่ไม่ชอบเสียงจอแจเสียกระมัง


"ห้องทางซ้ายเดิมเป็นของฉัน แต่เมื่อวานฉันย้ายสัมภาระทั้งหมดไปอยู่ห้องแม่แล้ว เหลือเตียง ตู้เสื้อผ้า กับโต๊ะเขียนหนังสือเอาไว้ ของขาดเหลือหรือจะตบแต่งอะไรก็หาซื้อเพิ่มเอาเองเลย ห้องนั้นฉันยกให้"

ปานฝันยื่นดอกกุญแจสีเงินที่สะท้อนกับแสงไฟวาวให้น้องชาย คิมหันต์รับไว้ในมือขณะที่เจ้าบ้านเริ่มพูดต่อ


"ห้องครัวอยู่ด้านหลัง ตั้งแต่แม่ไม่อยู่ฉันก็ไม่ค่อยได้ทำอาหาร มีโจ๊กซอง มาม่า พวกของแห้งอยู่ในชั้นกับข้าว ส่วนตู้เย็นจะเก็บน้ำดื่มกับเบียร์กระป๋องเป็นส่วนใหญ่ อยากจะกินก็แกะได้ ตามสบาย"

"เหนือไม่ดื่มแอลกอฮอลล์"

ปานฝันกดยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ไม่แปลกใจสักนิดที่คิมหันต์จะไม่เคยดื่มเบียร์ เพียงแค่พูดเผื่อไว้ว่าหากเจ้าเด็กที่อยู่ในกรอบจริยธรรมดีงามจะอยากรู้อยากลองเสียบ้างเขาก็ไม่ห้าม ปานฝันไม่ได้ตั้งใจจะดูแลคิมหันต์อย่างเข้มงวดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  เหมือนแม่ ที่ไม่เคยกำหนดกฎเกณฑ์อะไรในชีวิตชายหนุ่มสักครั้ง ซึ่งปานฝันคิดว่ามันทำให้เขารู้สึกเข้มแข็งเวลาที่ปานวาดจากไป


"ส่วนบุหรี่ ถ้าอยากสูบก็ไปหลังบ้าน ฉันไม่อยากให้ควันติดผ้าม่านมันกำจัดกลิ่นยาก"

"ผมไม่สูบบุหรี่" เหนือแย้งอีกครั้ง หากแต่พี่ชายหันกลับมาบอกเขาเสียงนิ่ง

"ฉันพูดว่า 'ถ้า'.."

คราวนี้คิมหันต์พยักหน้าลงหงึกหงัก ปานฝันเดินไปเปิดไฟตรงทางเดินเชื่อมระหว่างห้องนอน 2 ห้องและห้องครัว อย่างที่เจ้าบ้านเกริ่นแต่แรกว่าห้องนอนทางซ้ายเป็นของเหนือ ดังนั้นห้องนอนทางขวาก็จะเป็นของฝัน ตรงไปจากห้องโถงเป็นครัวและห้องน้ำ ทว่าสิ่งที่สะดุดตาคิมหันต์กลับเป็นภาพไวนิลใส่กรอบหลุยส์บนผนังสีขาวสะอาดต่างหาก  ขาเล็กเผลอเดินก้าวผ่านหน้าเจ้าบ้าน และยกมือขึ้นวางบนรูปถ่ายขนาดใหญ่ราวถูกสะกด

ภาพของชายหนุ่มซึ่งกำลังเปาแซ็กโซโฟนกับสตรีที่ยังดูสวยสง่ายามบรรเลงเปียโนทำให้ตาของเหนือเป็นประกายวาววับ


"คุณวาดสวยมากครับ พ่อบอกว่าดวงตาของคุณวาดดึงดูด ถ้าได้สบแม้เพียงครั้งเดียวจะรู้สึกราวต้องมนต์"

"เพราะแบบนั้นถึงได้ชื่อปานวาดยังไงล่ะ"

คิมหันต์พยักหน้าเห็นด้วยกับชายหนุ่ม จริงอย่างที่พี่ฝันว่า คุณวาดงดงามราวกับเป็นภาพวาดจากสรวงสวรรค์ และสิ่งที่ดึงดูดมากที่สุดคือดวงตาสีดำขลับซึ่งสะท้อนแววเศร้าซึมเอาไว้


ช่างเหมือนกันกับ...


คิมหันต์เหลือบตามองเสี้ยวหน้าพี่ชายที่ยังคงมองภาพถ่ายของตนกับแม่ในงานแสดงดนตรีเมื่อ 5 ปีก่อนด้วยความคิดถึง มันเป็นงานแรก และสุดท้ายที่ฝันกับคุณวาดได้ขึ้นเวทีร่วมกันก่อนโรคมะเร็งจะรุมเร้าพรากสังขารไปจากผู้หญิงที่ใจดีที่สุดในความคิดของฝันไปอย่างไม่มีวันกลับ


"พี่ฝันรักคุณวาดมากเลยนะครับ"

"ใครบ้างไม่รักแม่.."

ปานฝันเอ่ย นัยน์ตาชายหนุ่มยังเปี่ยมไปด้วยความทรงจำมากมายระหว่างเขากับมารดาในบ้านหลังนี้ ที่เปียโนตัวนี้ และเชลโล่ซึ่งแม่มักเล่นก่อนนอนเป็นประจำซึ่งเขายังหยิบขึ้นมาสีบรรเลงเพลงของแม่บ้างเป็นครั้งคราว


"เหนือไม่เคยเห็นคนที่รักแม่กระทั่งไม่ยอมมีแฟนเพราะกลัวมีเวลาให้แม่น้อยลงแบบพี่ฝันนี่ครับ"

คิมหันต์พูดกลั้วหัวเราะเชิงหยอกล้อ แต่มันกลับเป็นความจริงอย่างไม่น่าเชื่อ ปานฝันไม่เคยชายตามองใคร เขาฝักใฝ่ที่จะเรียนในงานดนตรีที่แม่รักส่วนเวลาที่เหลือทั้งหมดเขายกให้ปานวาด สตรีผู้โดดเดี่ยวของเขาราวกับจะเป็นคนเติมเต็มความอ้างว้างในใจมารดาได้  จวบจนบัดนี้เพื่อนหลายคนลั่นระฆังวิวาห์ไปแล้ว ทว่าปานฝันกลับไม่เคยรู้สึกอิจฉามิตรสหายที่มีแม่บ้านเป็นของตัวเองกันแล้วเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มแค่นยิ้มพลันหลุบสายตาลงต่ำ


"พื้นฐานครอบครัวแต่ละคนมันต่างกัน เหนือ ฉันกับแม่ เรามีกันแค่ 2 คน"

ปานฝันคิดว่าน้องชายที่มีทุกอย่างเพรียบพร้อมอย่างคิมหันต์คงไม่เข้าใจ เด็กหนุ่มที่เติบโตมาพร้อมความรักและใส่ใจจากคนรอบข้างคงมีความรักมากพอที่จะแจกจ่ายให้ใครต่อใครโดยไม่ต้องลังเล


แต่สำหรับฝัน มันไม่ใช่แบบนั้น..


ชายหนุ่มแตะมือวางลงบนรูปถ่ายของปานวาด ซึ่งแม้แต่ยามยิ้มยังดูเศร้าจนเขาอยากจะร้องไห้ไปด้วย แม่มีแค่เขา และเขาก็มีแค่แม่
ถึงตอนนี้ เขาจะต้องใช้ชีวิตตามลำพัง แต่ปานฝันก็คิดว่าเขาคงไม่เจอผู้หญิงที่ประเสริฐขนาดปานวาดอีกแล้ว นั่นเป็นอีกเหตุผลที่เขายังปิดหัวใจให้ตายอย่างสงบบนอกด้านซ้ายของตัวเอง


"เพราะแบบนั้นผมถึงมาที่นี่..."

ปานฝันสะดุดในแววตาเมื่อประโยคนั้นของน้องชายจบลง เขายังคงแน่นิ่งไม่ไหวติง กระทั่งมือหยาบถูกคิมหันต์ดึงมาแนบแก้มใส


"ต่อไปนี้ไม่ต้องเหงาแล้วนะ"






--------------------------------


To be continue


ฝากเรื่องสั้นด้วยค่ะ   4 ตอนจบ เป็นรักเหงาๆที่ชื่อเรื่องสิ้นคิดมาก  :m23:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2012 21:32:30 โดย -west- »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ออกแนวหน่วงนิดๆ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ตอนท้ายๆรู้สึกจะลงซ้ำนะ

ฝันดูอึมครึมได้ใจ

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
ตอนท้ายๆมันซ้ำรึป่าวค่ะ.  น่าติดตามมากค่ะเดาไม่ถูกว่าใครจาเป็นรับดีนะใจอยากให้ฝันเป็นแต่น้องชายก็ดูจะเด็กอยู่.

เปนกำลังใจค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
ตอนท้ายๆรู้สึกจะลงซ้ำนะ

ฝันดูอึมครึมได้ใจ

ตอนท้ายๆมันซ้ำรึป่าวค่ะ.  น่าติดตามมากค่ะเดาไม่ถูกว่าใครจาเป็นรับดีนะใจอยากให้ฝันเป็นแต่น้องชายก็ดูจะเด็กอยู่.

เปนกำลังใจค่ะ :กอด1:


ขอบคุณที่เตือนค่ะ แก้แล้วๆ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อ่านไป ถอนหายใจไป

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
เหมืนฝันจริงๆอึมครึม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
 :-[ :-[ :-[  อร๊ายยยยยย  พี่ฝันกะน้องเหนือ   :o8: :o8:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
เรื่องนี้อิทธิพลมาจากช่วงที่ฝนตกและเพลงนี้ค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=_eTAbIWSlnE

ฝากด้วยนะคะ

ตอนที่ 02




ปลายเดือนมิถุนายน พายุหอบเอาเม็ดฝนหยดรินตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันจวบจนพระอาทิตย์ตก กระทั่งบัดนี้แม้เข็มนาฬิกาจะบ่งบอกว่าควรแก่เวลานอนของเหนือแล้ว เสียงของน้ำฝนดังคงดังเปาะแปะยังสะท้อนมาในห้องนอนซึ่งถูกปิดไฟมืดสนิทให้เจ้าของห้องนอนลืมตาโพลง

แค่ลำพังเสียงฝนตกตอนกลางคืนสำหรับคนต่างถิ่นก็ทำให้รู้สึกเคว้งคว้างอยู่แล้ว ยิ่งยามมันเคล้ามากับเสียงเชลโล่ในห้องโถง ยิ่งทำให้หัวใจเล็กบีบตัวลงอย่างประหลาด เหนือไม่แน่ใจว่าเขาเหงา กำลังคิดถึงบ้าน ตื่นเต้นกับงานวันพรุ่งนี้ แปลกที่ หรือเป็นเพราะประโยคบ้าๆที่ตัวเองพูดเมื่อสบเข้ากับดวงตาไร้แววคู่นั้นของพี่ชายเป็นครั้งที่ 2 ของวันกันแน่


บางทีทั้งหมดอาจเป็นเหตุผลทำให้เหนือนอนไม่หลับ

ร่างกายบอบบางขยับพลิก แล้วถอนหายใจออกมาเสียงแผ่ว เขาเฝ้าจินตนาการถึงการมีพี่ชายสักคนไว้ปรึกษา ชวนทำเรื่องพิเรนทร์ๆนอกกรอบคุณแม่ มีชีวิตอิสระเป็นของตนเองมาตั้งแต่เล็ก หากแต่เพราะตัวเป็นลูกชายคนเดียวที่ผ่านการทำกิ๊ฟท์มาครั้งแล้วครั้งเล่าของคุณหญิงยศวดี ดังนั้นถึงถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดมาตั้งแต่เด็ก
คิมหันต์เกิดในฤดูร้อน และคุณหญิงอยากให้สามีของหล่อนพึงระลึกไว้ว่ามีลูกชายอยู่เมืองเหนือหล่อนจึงตั้งชื่อให้เขาเช่นนี้ การถือกำเนิดของบุตรชายเป็นเรื่องที่ดีเพราะมันทำให้สามีของหล่อนกลับบ้านและเลิกรากับภรรยาลับจากเมืองกรุงได้ในที่สุด

กระนั้นเหนือก็รู้ดีว่าพ่อรักคุณปานวาดมากเพียงใด เขารับฟังเรื่องราวต่างๆของญาติที่ไม่เกี่ยวพันกันทางสายเลือดผ่านปากของชายวัยกลางคนตั้งแต่เล็ก รูปภาพของคุณปานวาดกับพี่ปานฝันถูกเก็บไว้อย่างดีลับตาคุณหญิง กระนั้นวันที่โทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลในกรุงเทพดังขึ้น บิดาก็เร่งเก็บเสื้อผ้าจองตั๋วเครื่องบินหอบเขาซึ่งยังอยู่ในเครื่องแบบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มางานศพของหญิงในตำนานกันตามลำพังโดยไม่ให้มารดารู้

คิมหันต์มองพี่ชายอยู่ห่างๆ เขาไม่รู้จะไปแนะนำตัวกับผู้ชายที่นั่งเรียบร้อยหน้าโลงศพนั้นว่าอะไร
ตาคู่นั้นของปานฝันไร้แวว ไม่มีหยดน้ำตาแต่กลับทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดและโดดเดี่ยวได้อย่างชัดแจ้ง


“ถ้าเหนือเรียนจบ เหนือจะมาอยู่กับพี่ฝันได้ไหม?”

คิมหันต์ถามบิดาขณะที่นั่งเครื่องกลับเชียงใหม่ สายตาของพ่อเหม่อลอยออกไปด้านนอกซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเมฆสีขาวตัดกับพื้นสีฟ้า ไม่มีคำตอบจากบิดาจนเหนือคิดว่ามันคงเป็นเพียงฝันลมๆแล้งๆของเขาอีกครั้ง


เหมือนกับฝันว่าจะได้เรียนโรงเรียนสหศึกษา เหมือนกับฝันว่าจะมีเพื่อนในรูปแบบที่ต่างไป เหมือนกับฝันที่เขาจะได้นั่ง2แถวกลับบ้านเหมือนคนอื่นบ้าง เหมือนกับฝันว่าเขาจะมีแฟนสาวน่ารักๆสักคน


คิมหันต์เป็นลูกคุณหนูโดยสมบูรณ์แบบกระทั่งบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นติดต่อมาหลังจากเรียนจบ มันเป็นโอกาสอันดีของเขาทั้งในเรื่องหน้าที่การงาน จวบจนไปถึงชีวิตประจำวัน

แต่เมื่อได้ใช้ชีวิตกับปานฝัน  กลับไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาจินตนาการไว้
เขาไม่ได้รับการเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายของตน แต่กำลังถมบ่อเหวแห่งความเคว้งคว้างให้อีกฝ่ายต่างหาก

พี่ฝันไม่ใช่พี่ชายที่จะพาเขาเตะบอลและเล่นโคลนสนุกๆ แต่กลับเป็นชายหนุ่มที่เขาอยากจะเอื้อมมือไปจับเอาไว้ไม่ให้มันสั่นไหวพร้อมกับบอกว่า “ไม่ว่าจะต่อไปจะเป็นยังไง พี่ฝันก็ยังมีเหนือนะ...”

ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง เขาพลิกตัวมากอดหมอนข้างใบสีขาว เสียงเชลโล่สงบลงแล้วเหลือเพียงเสียง แต่ก แต่ก ของเข็มนาฬิกาสลับกับเสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาดังเปาะแปะเท่านั้น


ประตูห้องสีขาวถูกเปิดออก คิมหันต์ปิดตาหลับแทบไม่ทัน เขาไม่เข้าใจตัวเองสักนิดเดียวว่าทำไมต้องแกล้งทำเป็นนอนแล้วทั้งๆที่พี่ฝันไม่ได้จะเข้ามาดุที่เขาพลิกตัวไปมาไม่รู้จักหลับจากนอนทั้งๆที่พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าสักหน่อย เปลือกตาอ่อนสงบนิ่งอยู่นาน เขารอให้แสงไฟที่ลอดมาจากด้านนอกมืดลงทว่าเวลาผ่านไปนานนับนาทีประตูก็ยังคงเปิดทิ้งไว้อยู่

คิมหันต์ลังเลว่าเขาควรลืมตาขึ้นหรือไม่ ทว่าสัมผัสอ่อนโยนจากมืออุ่นที่แตะลงบนเส้นผมทำให้เด็กหนุ่มตัดสินใจแกล้งหลับต่อ

ไม่มีเสียงพูดใดๆหลุดออกมาจากปาก ปานฝันเดินออกจากห้องน้องชายต่างสายเลือดไปอย่างเงียบเชียบ ทิ้งไว้เพียงแววตาสับสนของคนบนเตียงที่ปรือเปิดมองบานประตูค่อยๆปิดลงอย่างเชื่องช้าเท่านั้น





คิมหันต์ค่อนข้างเป็นที่ถูกใจของเพื่อนร่วมงานหลังจากเริ่มงานวันแรก รูปร่างหน้าตาอินเทรนด์ราวหนุ่มเกาหลีจวบกับผิวขาวของชาวเหนือทำให้ป้าแก่ๆตลอดจนเสือสิงห์กระทิงแรดครึกครื้นกันใหญ่ หลังเลิกงานพนักงานและหัวหน้าถึงกับกระตือรือล้นเหลือเกินที่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับคุณหนูในร้านอาหารที่เป็นผับแอนด์เรสเตอรองค์ใกล้สำนักงาน คิมหันต์กดโทรศัพท์บอกพี่ชายที่ตกลงว่าจะมารับในช่วงสัปดาห์แรก เป็นระยะเวลานานกว่าอีกฝ่ายจะรับสาย


“ว่าไง”

“พี่ฝันรับสายช้า”

“สอนอยู่ เพิ่งเลิก อีก 20 นาทีรอแถวออฟฟิศไปก่อน”

ปานฝันคิดว่าคิมหันต์โทรเร่ง เขารีบเก็บเอกสารการสอนลงกระเป๋าโดยใช้คอเอียงหนีบโทรศัพท์เอาไว้


“เปล่าๆ เหนือไม่ได้เร่ง จะบอกว่าวันนี้ที่ออฟฟิศมีเลี้ยงที่ร้าน the cafe สัก3ทุ่มค่อยมารับเหนือได้ไหม?”

ปานฝันยกแขนขึ้นมาดูเวลา เขาเกือบจะตอบรับคำในลำคอแล้วแต่ดูเหมือนน้องชายจะเปลี่ยนใจเสียก่อน “หรือพี่ฝันจะมาทานด้วยกัน?”


“ไม่ล่ะ นายอยู่กับเพื่อนดีกว่า”

“แล้วพี่ฝันจะทานมื้อเย็นกับใคร?”

กับใคร? อย่างนั้นหรือ? คิ้วหนาของปานฝันขมวดเข้าหากันเล็กน้อย โดยปกติแล้วเขามักเจียวไข่กินง่ายๆที่บ้านต่อด้วยเบียร์ซักกระป๋องแล้วนั่งอ่านหนังสือหรือเล่นดนตรีจนกว่าจะเข้านอน ลืมนึกไปแล้วว่าบางทีคนเราก็ควรมีเพื่อนกินข้าวในบางมื้อบ้าง


“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันกลับไปกินที่บ้านเอง”

“ถ้าพี่ฝันจะกลับบ้านแล้วเดี๋ยวเหนือให้พี่ที่ออฟฟิศไปส่งก็ได้ จะได้ไม่ต้องวนรถกลับไปกลับมา”

“จำทางกลับได้แล้วหรือไง?” ปานฝันถาม คราวนี้ปลายสายเงียบไปซึ่งเป็นคำตอบให้พี่ชายอย่างดีว่าเหนือยังไม่คุ้นทาง คิมหันต์ถอนใจหนักด้วยความเกรงใจพลางกระชับโทรศัพท์ในมือแน่น


“ถ้าอย่างนั้นพี่ฝันมาด้วยกันเถอะ จะได้รู้จักเพื่อนๆเหนือด้วย คนอื่นไม่ว่าอะไรหรอก”

คิมหันต์ลองอ้อนอีกครั้ง ปลายสายเงียบไปพักใหญ่ให้คนขอใจเต้น สุดท้ายแววตาสับสนของปานฝันก็สงบลงพร้อมกับคำตอบซึ่งเป็นที่พอใจของน้องชาย


“อีก20นาทีเจอกันที่ร้านก็แล้วกัน...”


ฤดูฝนยังคงทำหน้าที่ของมันไม่ขาดตก แม้เวลาล่วงมาดึกดื่นจนเริ่มเข้าวันใหม่แล้ว เม็ดฝนก็ยังโปรยปรายไม่รู้จักหลับนอน
นิวบีทเทิลคันสีฟ้าแล่นผ่าละอองฝน ไฟหน้าสีส้มเหลืองสาดกระทบหยดน้ำให้เห็นท่ามกลางความมืด ล้อยางคุณภาพดีค่อยๆบรรจงหยุดอย่างนิ่มนวลเมื่อเข้าสู่โรงรถชายคาบ้านหลังที่เขาใช้พำนักพักพิงเป็นประจำ


“....เหนือ”

สารถีหันไปเรียกน้องชายต่างสายเลือดเบาๆ เขาสะกิดที่เสื้อแขนยาวสีขาวแต่เด็กหนุ่มก็ไม่ยอมลืมตาเปิด กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคละคลุ้งตลบภายในรถนั่นไม่ใช่ของปานฝัน เขาไม่ดื่มโดยให้เหตุผลกับเพื่อนพนักงานของคิมหันต์ว่าต้องขับรถ อีกทั้งยังต้องดูแลเหนือซึ่งคงไม่แคล้วถูกรับน้องจากเพื่อนร่วมงานด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งแรกในชีวิต

สุดท้ายก็ไม่ต่างจากที่เขาคาดการณ์ คิมหันต์เมามายไร้สติตั้งแต่เดินออกจากร้านจนบัดนี้ก็ยังไม่สร่าง

ชายหนุ่มถอนหายใจ สัดท้ายก็ต้องหิ้วปีกพยุงคิมหันต์ให้ลุกเดินอย่างทุลักทุเลเข้ามาในห้องนอน วางร่างเล็กลงบนเตียงนุ่มเบามือแล้วเลื่อนไปปัดเกลี่ยผมเส้นเล็กที่ร่วงลงปาปกใบหน้าค่อนไปทางหวานซึ่งกำลังเห่อแดงไปจนถึงใบหู


“เป็นยังไงบ้าง?”

ตากลมโตเหมือนลูกหมาของคิมหันต์ปรือเปิด เขาส่ายหัวเมื่อพี่ชายเอ่ยถามด้วยความไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี ทั้งชาและร้อนไปทั้งหน้า ลำคอ หัวใจก็เต้นถี่จนสมองปวดมึนไปหมด


“เดี๋ยวฉันเอาผ้ามาเช็ดหน้าให้ อยากอ้วกไหม?”

คิมหันต์ส่ายหน้าอีกครั้ง ปานฝันจึงลุกไปเตรียมผ้าเช็ดตัวชุบน้ำพอหมาดในห้องน้ำ นานมากแล้วที่ชายหนุ่มไม่ได้ดูแลใครสักคน เป็นเวลาร่วม 4 ปีที่เขาหายใจตามลำพัง ทว่าพอกลับเข้ามาในห้องที่เปิดเพียงไฟโคมเอาไว้ เจ้าบ้านกลับไม่พบร่องรอยของน้องชายอย่างทีแรก


ติ๊ง - - -


เสียงเปียโนดีดกังวาฬจากห้องโถง ปานฝันถือผ้าเช็ดตัวกับกะละมังเล็กเดินตามเสียงไป อย่างที่คิดคือคิมหันต์นั่งตาปรือปรอยโงนเงนอยู่หน้าแกรนเปียโนสีดำซึ่งเป็นที่รักยิ่งของมารดา


“เหนืออยากฟังพี่ฝันเล่นเปียโน”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาพูด ปานฝันวางกะละมังพลาสติกไว้บนโต๊ะเล็กข้างโหลปลาทองแต่หยิบผ้าเช็ดตัวยื่นให้คนเมา คิมหันต์รับมาเช็ดหน้าตัวเองแรงๆไล่ลงมายังลำคอที่ปานฝันไม่สังเกตในทีแรกว่ามันแดงเถือกไม่ต่างกัน


“เพลงที่พี่ฝันเล่นกับคุณวาด เหนืออยากฟัง”

ปานฝันนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดียวกันกับคิมหันต์เพียงแต่คนละทิศกัน ปานฝันหันหน้าเข้าหาเปียโนตัวใหญ่ขณะที่น้องชายหันหลังให้


“เสียดายที่นายไม่มีโอกาสได้ฟังเสียงของแม่...”



“เป็นเพลงที่แม่ชอบที่สุด”

ปานฝันยิ้มเมื่อความทรงจำที่ว่าเพลงนี้เขาได้ยินมันเกือบทุกคืนจากปากกระจับของแม่นับตั้งแต่วันที่พ่อของคิมหันต์จากไป บางทีแม่ก็ร้องเพลงจนจบ บางทีก็ร้องไห้ก่อนมันจะจบ

และบางที ก็ไม่มีเสียงร้องไห้หรือร้องเพลงหลุดออกมาจากปากของแม่เลยสักนิด กระนั้น เขาก็ยังจำความหมายของเพลงได้อย่างขึ้นใจ



ในวันนี้มีเพียงเสียงเปียโนเท่านั้นที่ตอบรับฉัน

และเชลโล่เก่าๆตัวนั้นช่างเงียบเหลือเกิน

มันทำให้ฉันเดาได้อย่างแน่นอนเลยว่า เธอตัดสินใจที่จะจากฉันไป

ฉันไม่เชื่อเธอที่บอกกับฉันว่าเสียใจเหลือเกินที่ต้องจากกัน

แต่แม้อยากจะอยู่ด้วยกัน จูงมือเธอและกอดเอาไว้เหมือนในวันวาน ฉันก็ทำไม่ได้แล้ว...

ได้เพียงแต่หวัง ว่าใครคนนั้นจะรักเธอได้มากกว่า

และสิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้คือจากเธอไป

เธออยากจะให้ฉันพูดอะไรล่ะตอนนี้?

ฉันแค่ไม่อยากที่จะต้องเดินต่อไปคนเดียว

ทำไมเธอมักจะทำให้ฉันต้องยิ้มในเวลาที่ฉันไม่ต้องการ

ฉันทนมองเธอตอบรับความรักเขาไม่ได้

แต่อย่ากังวลไปเลย

ฉันจะอยู่ต่อไปโดยไม่มีเธอ

ในเมื่อเธอจากไปไกล

ฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่

แต่กับแค่เธอจากไป ทำไม่ฉันถึงไม่สามารถลืมความเจ็บปวดนี้ได้นะ

ฉันไม่สามารถทำได้สักครั้ง

ได้แต่ปล่อยให้มันผ่านไปอย่างเงียบๆ

ฉันต้องเรียนรู้ที่จะหักห้ามใจไม่ให้รักเธอ

นั่นเพราะฉันรักเธอ...



คิมหันต์หลับตาลง เขารู้สึกเจ็บปวดและเคว้งคว้างกับความรู้สึกว่างเปล่าของปานฝัน ทุกห้วงทำนองเมโลดี้กัดกินใจจนแม้พี่ชายจะใช้เพียงเสียงดนตรีเป็นเครื่องมือสื่อสารยังทำให้เหนือรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ขอบตา

ดนตรีจบลงแล้ว เหลือไว้ซึ่งเสียงฟ้าร้องครืนอยู่บนท้องนภา

ปานฝันหันเอียงหน้ามาหาน้องชาย ขณะเดียวกัน คิมหันต์ก็เอี้ยวตัวไปหาอาจารย์หนุ่ม ตาของเหนือปรือปรอยด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ผสานกับดนตรีซึ้งกินใจทำให้มันดูหวานหยดเป็นพิเศษ ขนตาเป็นแพของน้องชายตัวเล็กงอนงามเหลือเกินเมื่อได้จ้องเข้าไปใกล้  เช่นกัน นี่เป็นครั้งที่สามที่คิมหันต์ได้สบตากับปานฝัน


และเหนือก็ถูกสะกดดังคำพ่อกล่าว..


ระยะห่างระหว่างใบหน้าของชายหนุ่มทั้ง 2 ลดน้อยถอยลงราวกับกำลังดึงดูดซึ่งกันและกัน เปลือกตากลมโตของคิมหันต์ค่อยๆปรับระดับลดลงกระทั้งปิดสนิทอย่างรู้งาน ปานฝันจรดริมฝีปากลงบนกลีบปากแดงฉ่ำอย่างเชื่องช้าราวต้องมนตร์ บัดนี้โลกอันเปล่าเปลี่ยวของพี่ชายค่อยๆเปิดออกให้คนตรงหน้าก้าวเข้ามาช้าๆด้วยรสจูบ


“..................”

แม้แรกสัมผัสยามกลีบปากประกบลงไปจะแผ่วเบาทว่ากลับวาบหวามขึ้นมาในหัวใจแห้งผาก รสชาดหวานฉ่ำชุ่มลิ้นค่อยๆมัวเมาให้ปานฝันไม่อาจหยุดแค่แตะเพียงแผ่วเบา กลิ่นลมหายใจผสานกับแอลกอฮอล์ที่ผ่อนออกมาของน้องชายยั่วเย้าให้ปานฝันติดกับ การเคลื่อนไหวของริมฝีปากค่อยๆขยับไปอย่างนุ่มนวลราวกับกลัวว่าปากสีสดของอีกฝ่ายจะเจ็บช้ำ ปานฝันไม่เคยใช้ริมฝีปากนี้จูบใคร แต่น่าแปลกที่เขากลับจุมพิตคนตรงหน้าได้อย่างช่ำชอง ช่วงชิมรสหวานที่ขยับรับเก้ๆกังๆได้อย่างไม่มีเบื่อ เขาสั่งให้คิมหันต์ค่อยๆเผยอกลีบปากออกจากกันด้วยลมหายใจอุ่น ใช้มือข้างหนึ่งนวดคลายอาการเกร็งตัวลงบนท้ายทอยเหนือแล้วเอียงคอให้ปลายลิ้นค่อยๆสอดเข้าไปตามหารสหวานเหมือนภุมรีย์เฝ้าฝักใฝ่น้ำหวานจากมวลดอกไม้


“อืม.....”

เหนือเผลอร้องครางออกมาอย่างลืมตัว ตอนนี้เขาเหมือนเป็นแมวเชื่องๆที่ถูกเจ้าของลูบคางให้เคลิบเคลิ้ม ปลายลิ้นของปานฝันตวัดเลียและดึงดูดช่วงชิงเอาลมหายใจของคิมหันต์ไป ยิ่งเมื่อถูกจูบลึกเข้ามาแค่ไหน เด็กหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงขึ้นสูงมากเท่านั้น


“ฮื้อ....อื้ม....”

ทั้งอึดอัดและผ่อนคลาย ยิ่งเมื่อปลายนิ้วของปานฝันสอดสางเข้าไปในไรผมเล่นยิ่งทำให้สมองว่างเปล่า หัวใจเต้นถี่แรงจนไม่กล้าปรือตาเปิด กระทั่งอีกฝ่ายถอนริมฝีปากออกไป

เหนือมองตามปากที่แดงจัดของพี่ชายแล้วยกมือขึ้นมาจับตรงอกด้านซ้ายของตัวเอง มันเต้นตุบ ตุบ ราวกับจะหลุดออกมาอยู่รอมร่อ ขณะที่ปานฝันยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเองแล้วเบือนหนีไปอีกทาง


“เข้านอนซะ”

เจ้าบ้านเอ่ยกับน้องชายเสียงนิ่ง คิมหันต์พยักหน้าลงหงึกหงักผุดลุกเข้าไปในห้องนอนของตัวเองลงกลอนอย่างดิบดี ขณะที่ปานฝันกลับมีแววตาสับสนอยู่หน่อยๆตามลำพัง






--------------------------------


To be continue

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2012 23:08:53 โดย -west- »

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
มันจะเป็นความรักระหว่างพี่น้องต่างสายเลือดใช่มั้ย^^

ปานฝัน ผู้ชายที่ดึงคนอ่านเข้าไปในโลกอึมครึมแต่ก็หวาบหวาน
รอติดตามต่อไป

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
อึนๆ จริงๆเลย

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
บรรยากาศมัวจริงๆ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
อึมครึมได้อีก

 :o11:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
รอตอนต่อไปจ้า :really2:

ออฟไลน์ Pakbung Mazo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
จูบแล้วววววววววววววววว!!

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook

ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
 :-[ :-[ :-[  อ่านตอนนี้แล้วเคลิ้ม  :man1: :man1:




 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
รักแบบอึมครึม

ออฟไลน์ Onlymin

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-4
ดัน ดัน

นานแล้วเน้อ.....

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
bitter sweet ...

จะรักกันได้ไหมน้าาา...?

ออฟไลน์ หนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เป็นเรื่องที่บรรยากาศอึมครึม อบอวลไปด้วยความเศร้า ความเหงา

แต่...ลงตัวมากๆ เลยค่ะ...สมชื่อเรื่อง ว่า เหนือฝัน จริงๆ...

ยิ่งเป็นคู่พี่น้องต่างสายเลือดด้วย.....

ชอบมากเลยค่ะ แล้วจะรออ่านต่อนะคะ >____<

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
ตอนที่ 03



“ถ้ามันจะยุ่งยากขนาดนี้ออกไปหาอะไรกินข้างนอกก็ได้มั้ง”

ปานฝันกับคิมหันต์ใช้เวลาวันเสาร์อยู่ด้วยกันที่บ้าน ซึ่งเหมือนว่าชีวิตถูกตั้งนาฬิกาปลุกด้วยความเคยชินไปแล้วว่าทั้งคู่จะต้องตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ น้องชายอาสาลุกออกไปตลาดหน้าปากซอย ซื้ออาหารสดกลับมาพะรุงพะรังเต็มสองมือด้วยความตั้งใจว่าจะทำกับข้าวกินเองที่บ้านเสียบ้าง

ตลอดเวลาตั้งแต่ที่ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ เหนือก็กลายเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไปที่ตื่นมาดื่มกาแฟเป็นมื้อเช้า เที่ยงวันลงมากินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกใต้สำนักงาน ส่วนตอนเย็นก็เป็นป้าในตลาดที่คอยทำกับข้าวใส่ถุงให้เขาซื้อกลับมากินกับพี่ชาย
ปานฝันกลับบ้านไม่เป็นเวลานัก แต่ไม่เคยกลับดึก บางวันเลิกสอนตั้งแต่เที่ยงก็เข้าบริษัทเพลง บางทีก็ไม่ไปสอนแต่หิ้วเอกสารมาตรวจเช็คที่บ้าน ดังนั้นนอกจากอาหารมื้อเย็นที่เหนือต้องคอยซื้อกลับมาแล้วเด็กหนุ่มยังอดไม่ได้ที่จะเหมาขนมปังรวมไปถึงผลไม้มาติดบ้านเผื่อว่าพี่ชายหิวจะได้ไม่ต้องฝากท้องไว้กับอาหารกึ่งสำเร็จรูปหรือเมนูไข่ที่กินมาตลอด 4 ปี


“ทำเป็นจริงๆหรือ?”

ปานฝันเกยคางกับไม้ถูพื้น เขาทำความสะอาดบ้านทุกวันเสาร์เป็นกิจวัตร ปัดกวาดเช็ดถูฝุ่น ล้างขวดโหลใส่ปลาและซักผ้า ชายหนุ่มไม่แปลกใจสักนิดถ้าเหนือจะทำความสะอาดบ้านไม่เป็น คุณหนูคงมีคนงานคอยเก็บกวาดเช็ดถูให้จนเคยตัว แต่ที่จู่ๆเจ้าตัวกลับรั้นบอกว่าจะทำข้าวซอยให้เขาทานเป็นมื้อเที่ยงนี่ เป็นสิ่งที่ปานฝันไม่อยากจะเชื่อ


“ตอนอยู่เชียงใหม่เหนือเป็นลูกมืออันดับหนึ่งของพี่เตยเลยนะ พี่ฝันไปทำอย่างอื่นเถอะเดี๋ยวเสร็จแล้วเหนือเรียก”

“อย่าเผาครัวฉันเชียว เตะโด่งออกจากบ้านจริงๆด้วย”

คิมหันต์ยิ้มกว้างให้พี่ชายให้วางใจแล้วหันไปเทขิงปลอกเปลือกแล้วซึ่งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงครก โขลกละเอียดจากนั้นก็ตักน้ำพริกแกงเผ็ดใส่ตามลงไป


“ไม่ต้องห่วงจริงๆ เครื่องซักผ้าร้องแล้วเอาผ้าไปตากเถอะ”

ปานฝันเหลือบมองน้องชายด้วยหางตา เห็นท่าทางโขลกพริกแกงคล่องแคล่วใช้ได้คงเป็นลูกมืออันดับ 1 ในครัวอย่างที่เจ้าตัวโม้ไว้จริงเขาจึงยอมเดินออกมา เครื่องซักผ้าหน้าห้องน้ำยังร้องส่งสัญญาณเสร็จสิ้นการทำงานไม่หยุดกระทั่งฝันเดินไปเปิดฝาออก เสื้อผ้าที่ซักเขาไม่ได้แยกระหว่างของตัวเองกับน้องชายแต่แยกเป็นผ้าขาวและผ้าสีเท่านั้น

ชายหนุ่มยกตะกร้าผ้าผ่านพ่อครัวหัวป่า ด้านหลังที่ต่อจากครัวมีราวตากผ้าวางอยู่ มือใหญ่สะบัดเสื้อเชิร์ตแล้วแขวนเข้ากับไม้ เสื้อผ้าของปานฝันกับคิมหันต์แค่หยิบมาก็รู้แล้วว่าชุดไหนเป็นของใคร ไม่ใช่แค่เพราะความชินตา แต่ขนาดตัวที่ต่างกันอย่างชัดเจนต่างหาก
ฝันแขวนเสื้อตัวสุดท้ายยกขึ้นเกี่ยวกับราว พาลนึกถึงตอนสมัยที่แม่ยังอยู่ งานทำความสะอาดบ้านจะตกเป็นของปานวาด ฝันอาสากับแม่หลายครั้งแต่สุดท้ายก็ได้แต่จับโน่นนิดจับนี่หน่อย

เขาถามปานวาดว่าไม่เหนื่อยบ้างเหรอ? นอกจากงานที่โรงเรียนแล้วเสาร์อาทิตย์ยังต้องมาทำความสะอาดบ้านอีก คำตอบที่เขาได้ตอนนั้นคือมันก็เพลินดีที่เราจะได้ทำอะไรดีๆให้กับตัวเองและคนที่เรารัก เวลาที่เดินเข้ามาในบ้านที่เรียบร้อย  เวลาได้เห็นปานฝันสวมเสื้อผ้าสะอาดรีดกลีบคมกริบ เวลาที่ปานวาดกับลูกชายได้อยู่ร่วมกันในสภาพแวดล้อมที่ดีทำให้หล่อนสบายใจ

เวลาที่ได้ทำกับข้าวแล้วปานฝันทานจนหมดก็เช่นกัน มันทำให้ปานวาดรู้สึกดีจนหายเหน็ดเหนื่อย

ปานฝันเผลอยิ้ม บางทีเขาก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของปานวาดก็ตอนนี้


“ข้าวซอยเสร็จแล้วนะครับพี่ฝัน”

คิมหันต์สวมผ้าคลุมกันเปื้อนสีฟ้าลายจุดออกมาชะเง้อเรียก พี่ชายยกตะกร้าผ้าเข้าบ้านตามเหนือเข้าไปติดๆ บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาวางถ้วยใส่ข้าวซอยไก่ไว้  2  ชาม กับผักดองอีก 1 จาน เหนือนั่งขัดสมาธิลงบนพื้นฝั่งตรงข้ามฝันพลางยิ้มกว้างขวางเมื่ออีกฝ่ายจับช้อนขึ้นมาตักชิมรสชาดน้ำข้าวซอยจากฝีมือคนท้องถิ่น

ปานฝันนิ่งอยู่พักใหญ่หลังจากแตะลิ้นลงชิมแล้วพยักหน้าหงึกหงัก  ถือว่าเป็นข้าวซอยรสชาดเยี่ยมเลยทีเดียว ไม่มีคำพูดเอ่ยชม แต่พี่ชายกลับตั้งหน้าตั้งตากินข้าวซอยฝีมือคิมหันต์ให้พ่อครัวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่


“เย็นนี้เหนือจะทำไก่น้ำแดงกับต้มจืดตำลึง พี่ฝันอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?”

“หืม? ไม่หรอก แต่จะทำกับข้าวกินเองทุกมื้อเลยหรือ?”

“แค่เสาร์อาทิตย์น่ะครับ กินข้าวนอกบ้านทุกวันน่าเบื่อออก ยิ่งฝนตกแบบนี้กินข้าวที่บ้านอิ่มๆจะได้นอนหลับต่อเสียเลย สบายดี”

ปานฝันเห็นด้วยกับน้องชาย ทั้งคู่ทานมื้อเที่ยงกันเงียบๆไม่มีบทสนทนาต่อจากนั้นกระทั่งข้าวซอยในจานหมดเกลี้ยง คิมหันต์ยกจานเข้าไปเก็บในครัว ฝนเริ่มลงเม็ดอีกแล้วโชคดีที่บริเวณราวตากผ้ามีหลังคาคลุม แต่ผ้าที่ซักในช่วงนี้คงมีกลิ่นอับหน่อยๆ เหนือส่ายหัวเขาไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือเกลียดฤดูฝนมากกว่ากัน

เสียงเชลโล่ดังแว่วมาจากห้องโถงอีกครั้ง เหนือไม่สงสัยสักนิดที่พี่ฝันจะเป็นคนดนตรีมือฉมัง เพราะการดำเนินชีวิตปัจจุบันของปานฝันมันคือเสียงดนตรีมากกว่าการพบเจอผู้คนเสียอีก
คิมหันต์เคยใช้เวลาส่วนใหญ่ทุ่มเทไปกับการเรียนและทำตัวเป็นลูกที่ดีของพ่อและแม่ ขณะเดียวกันเขาเห็นคนส่วนมากใช้ชีวิตเกินครึ่งไปกับสื่อบันเทิงชนิดต่างๆโดยเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์ค ปัจจุบันคนเราต้องการเป็นที่มองเห็นของใครหลายๆคนที่เราไม่รู้จักเพียงเพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าเรายังมีตัวตนอยู่ อันที่จริงในเคสของเขาและคนอื่นๆจัดอยู่ในประเภทเดียวกันคือต้องการเป็นที่รักและสนใจ

ขณะที่พี่ฝันต่าง เขาชอบใช้ชีวิตแบบไม่ให้ใครมองเห็น ตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อยากให้ใครมารัก และไม่ได้ต้องการคนมาสนใจ เขาเลือกที่จะสละเวลามากกว่าค่อนชีวิตไปกับเครื่องดนตรีให้เป็นเพื่อนคอยขับกล่อมและปลอบประโลม

พี่ฝันไม่ได้เข้มแข็งหรอก เขาอ่อนแอ

คิมหันต์ยิ้มละมุนเดินเข้ามาภายในห้องสี่เหลี่ยม เสียงของเชลโล่กับเสียงหยดน้ำเปาะแปะด้านนอกช่างทำให้บรรยากาศดูเย็นยะเยือกอย่างประหลาด เขามองภาพชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นัยน์ตาเศร้าสีเครื่องดนตรีเงียบๆ กระทั่งเพลงที่ปานฝันเล่นจบลง
มันไม่ใช่เพลงนั้นที่พี่ฝันเล่นวันที่เขาเข้ามาที่นี่ครั้งแรก และไม่ใช่เพลงที่พี่ฝันบรรเลงก่อนที่จะจูบกัน..


คิมหันต์ยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากอย่างลืมตัว ตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่มีใครพูดถึงมันอีกราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กระนั้น เหนือก็ไม่ได้คิดจะทวงหาเอาความรับผิดชอบจากชายผู้ช่วงชิงจุมพิตแรกของเขาไปหรอก

แค่ให้มีเก็บไว้ในความทรงจำ ก็เกินพอแล้วสำหรับเหนือ

เขาเผลอยิ้ม เมื่อปานฝันเงยหน้าขึ้นมาสบตา


“มีอะไร?”

“ผมอยากลองเล่นเชลโล่ พี่ฝันสอนผมได้หรือเปล่า?”

ปานฝันมีสีหน้าลังเลอยู่ครู่หนึง เชลโล่ตัวนี้เป็นเชลโล่ที่ปานวาดรักมาก ช่วงที่แม่ยังมีชีวิตอยู่เขาเองยังมีโอกาสได้แตะมันค่อนข้างน้อย ปานวาดไม่ได้ดุว่า แต่เพราะฝันรู้ว่ามารดาค่อนข้างหวงเครื่องดนตรีชิ้นนี้เขาจึงไม่ค่อยเข้ามายุ่มย่ามสักเท่าไร

ถึงปานวาดไม่อยู่แล้ว เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าควรจะสอนคิมหันต์ดีหรือไม่


“ได้ไหมครับ?”

เหนือถามซ้ำ เมื่อปานฝันสบตากลมโตที่กำลังร้องขอ สุดท้ายเขาก็พยักหน้าลงรับคำ


“มานั่งนี่สิ”

คิมหันต์กระพริบตาปริบ 'นี่' ที่ฝันพูดถึงหมายถึงที่ว่างตรงหว่างขาซึ่งเดิมเป็นที่วางเชลโล่  ที่จริงเหนือก็รู้อยู่หรอกว่าท่าทางเวลาเล่นเครื่องสีดังกล่าวมันค่อนข้างดูไม่เรียบร้อยสักเท่าไร แต่เขาก็ไม่ได้นึกว่าต้องมานั่งซ้อนหน้าผู้สอนซึ่งมันละม้ายกับเขาขึ้นไปนั่งบนตักปานฝันอยู่รอมร่อ

หากเหนือเป็นแค่ลูกศิษย์ คงไม่ยืนหน้าแดงก่ำเขินครูของตัวเองเป็นแน่ แต่เขาให้ฝันสอนเพราะคิดว่าถ้าดนตรีเป็นชีวิตของพี่ชาย เขาก็อยากทำความรู้จักปานฝันมากกว่านี้


"มาสิ.."

ชายหนุ่มเร่งเร้า คิมหันต์ขบริมฝีปากตัวเองเข้าหากัน เดินไปนั่งตรงตำแหน่งว่าง ให้แผ่นหลังตัวเองชนกับอกหนาของอาจารย์ผะแผ่ว


"กางขาออก เอาเชลโล่วางตรงนี้ ถนัดขวาใช่ไหม งั้นเอียงพาดมา  ขยับตัวให้ถนัดจะได้ไม่ต้องเกร็ง..."

ปานฝันอธิบายพร้อมวางเครื่องดนตรีอันเป็นที่รักของแม่วางทำมุมอย่างเบามือ เขาคว้ามือนุ่มของน้องชายขึ้นมาจับคันชัก ส่วนอีกข้างสอนให้เหนือไล่คอร์ดลงบนเส้นสาย

คิมหันต์มองฝ่ามืออุ่นที่ซ้อนเขาไว้ทั้งมือ ไม่เคยคิดว่าตัวเองตัวเล็กกระทั่งได้นั่งเทียบตัวแนบชิดกับปานฝันตอนนี้นี่แหละ  เหนือแทบจะจมไปกับอ้อมอกกว้างของพี่ชายไปทั้งตัวแล้วด้วยซ้ำ

ปานฝันก้มหน้าลงมองมือที่บังคับปลายนิ้วน้องชายจับคอร์ด จมูกเป็นสันได้กลิ่นอ่อนๆเฉพาะตัวของคิมหันต์  กลิ่นที่หวานถูกจมูกเหมือนวันที่เขาจูบเหนือ เพียงแต่วันนี้มันไม่เจือกลิ่นละมุดหมักมาด้วย

ปานฝันตั้งใจเหลือบตาขึ้นมองหน้าคิมหันต์ แต่เมื่อช้อนตาขึ้นกลับพบว่าตัวเองถูกมองก่อนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว


"...ตั้งใจหน่อย"

ฝันพูดแก้เก้อ เหนือรับคำในลำคอแล้วหลุบสายตาลง  แก้มขาวแดงปลั่ง น่ารักจนพี่ชายต้องลอบยิ้ม


"ท่าทางนายไม่เหมือนคนที่จะสนใจดนตรีสักเท่าไร"

ชายหนุ่มพูดตามที่คิด ผลก็คือน้องชายรับสารภาพพยักหน้าหงึกหงัก


"ทำไมถึงอยากให้สอนล่ะ"

"ก็ดนตรี  คือพี่ฝัน..."


ตากลมช้อนขึ้นมองพี่ชายผ่านม่านขนตา

"แล้วเหนือ  ก็ชอบพี่ฝัน"


ปานฝันชะงัก ตาดำนิ่งสนิทเมื่อน้องชายเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงโทนอ่อน ปลายตาคมของชายหนุ่มเห็นภาพคิมหันต์คลี่ยิ้มบางเบาแล้วหลุบตาลงอีกครั้ง

“เหนือเลยชอบดนตรี...”

มันเป็นตรรกะง่ายๆตามแบบฉบับคิมหันต์ เสียงเม็ดฝนหล่นเปาะแปะช่างดูไพเราะเหลือเกินเมื่อผสานรวมกับอ้อมกอดอบอุ่น

ใช่.. เมื่อประโยคนั้นจบลง มือของปานฝันก็ละสัมผัสจากหลังมือของน้องชายเลื่อนมาโอบรัดรอบเอวคอดช้าๆ สันคางของอาจารย์หนุ่มวางเกยลงบนไหล่เล็ก ตาคมกริบปิดลงเงี่ยหูฟังเสียงเม็ดฝนโปรย พัดลมแขวนพัดเป่าให้ปลายผมของเหนือปลิวว่อนแผ่วเบาระมาโดนใบหน้าหล่อเหลาของปานฝัน

เหมือนเป็นจุมพิตจากสายลมผ่านเส้นผมเพียงชั่วครู่ให้ชุ่มฉ่ำในหัวใจ อ้อมแขนของปานฝันโอบรัดอีกฝ่ายแน่นขึ้น

นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้กอด..

นานแค่ไหนแล้วที่ไม่รู้สึกถึงความอบอุ่น..


หากคิมหันต์โตมาพร้อมความรักที่ถูกเติมเต็ม เขาคงเก็บความรักที่ถูกมอบให้ไว้จนล้นปรี่
หากปานฝันโตมาพร้อมความอ้างว้าง เขาคงอยากที่จะแชร์ความรู้สึกรัก ได้รับและถ่ายทอดให้ใครสักคนอย่างเชื่องช้าและค่อยเป็นค่อยไป


พ่อของคิมหันต์เป็นคนที่ทำให้เหนือชื่นชมพี่ชายต่างสายเลือดตั้งแต่ที่ยังไม่พบเจอ ขณะเดียวกัน ปานฝันก็อดคิดไม่ได้ว่า ปานวาดเป็นคนที่ทำให้คิมหันต์มาอยู่ที่ตรงนี้

อยู่ในอ้อมกอดของเขา



“เหนือมีความสุขมากที่ได้อยู่กับพี่ฝัน”


อาจเป็นเพราะชายหนุ่มปิดตา เขาจึงได้ยินเสียงคิมหันต์พูดชัดเจนดังก้องกังวาล


“ฉันก็มีความสุข...”


ฝันตอบ..






--------------------------------


To be continue

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
เพิ่งกดเข้ามาอ่านอีกรอบเมื่อกี๊แล้วคุณคนแต่งก็มาอัพพอดีเลย อะไรจะใจตรงกันปานนั้นนน  :-[

น่ารักจัง...มันดูเหงาๆ เศร้าๆ อึมครึมๆ แต่ในความหม่นมันก็หวานๆแบบบอกไม่ถูก...

ยังไงก็ได้ขอให้ได้รักกัน ขอให้มีความสุขก็พอ :]

ขอบคุณมากค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ชอบอะครับ มาต่อไวๆนะครับ

ออฟไลน์ หนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ตอนนี้แม้จะยังหม่นๆ แต่...หวานมากกก เลยค่าาาา
 
 :-[ :-[ :-[

เอาไปเลย + เป็ดค่าาา > <

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
งืมมม ทั้งคู่ชอบกัน

เป็นรักที่เหงาดีเนอะ

คุณแม่จะมาพาเหนือไปไหม คงไม่หรอกเนอะ *0*

ออฟไลน์ Pakbung Mazo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
อ่านไปเขินนนนไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด