สตูดิโอขนาดใหญ่สำหรับการถ่ายงานต่างๆคือที่ๆมิถุนามาเหยียบหลายต่อหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งมิถุนาจะมาด้วยรอยยิ้มที่แจกจ่ายให้กับคนอื่นไปทั่ว ยกเว้นแค่ครั้งนี้...ดวงตากลมโตช่างหม่นแสง มิถุนายิ้มไม่ออกหรอก กับการที่มีวิคเตอร์เดินนำทัพบอร์ดี้การ์ดกว่าห้าคนตามเขาแทบทุกที่ขนาดนี้ รู้ว่าปฏิเสธไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าชีวิตของเขาไม่เคยเป็นของเขาอีกต่อไปแล้ว...
นายแบบคนเก่งเดินไปยังสตูดิโอที่นัดหมาย เขามองประตูเหล็กบานใหญ่ตรงหน้าอย่างท้อแท้...มิถุนาไม่อยากเข้าไปเลย เขาไม่อยากพบใครทั้งนั้นในตอนนี้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะรู้หรือไม่รู้ก็ตามว่ามิถุนากลายเป็นเด็กของจอมทัพไปเสียแล้ว แต่ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ มิถุนาไม่เคยหนีมันไปได้ และจอมทัพก็คือความจริงนั่นที่มิถุนาต้องเผชิญหน้าตลอดเวลา ไม่มีทางไหนที่จะหลีกเลี่ยงไปได้เลย...
วิคเตอร์เบี่ยงตัวมาเปิดประตูให้ทันทีที่มิถุนาเอื้อมมือจับที่ดึง มิถุนาพยักหน้าและยิ้มฝืดๆให้แทนคำขอบคุณ ทันทีที่ประตูเปิดออก สิ่งที่มิถุนาไม่อยากเจอก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ทั้งกองถ่ายพร้อมใจกันมองหน้าเขาอย่างพร้อมเพรียง แน่นอนว่าไม่ใช่แค่มิถุนาคนเดียวเท่านั้น ทั้งวิคเตอร์และลูกน้องก็เป็นที่จับจ้องเช่นกัน มิถุนาฝืนยิ้มอีกครั้ง ทั้งๆที่ไม่เชื่ออีกต่อไปแล้วว่ารอยยิ้มจะทำให้อะไรต่อมิอะไรดีขึ้น เขาแจกจ่ายรอยยิ้มทั้งๆที่ไม่อยากทำ ทั้งๆที่มันน่าร้องไห้ที่ทุกคนมองหน้าเขาราวกับดูถูก ราวกับรู้อยู่แล้วว่ามิถุนาหน้าโง่ที่ยอมเป็นของเล่นของจอมทัพ อีกไม่นานคงถูกทิ้ง ทั้งๆที่มิถุนาไม่เคยมีโอกาสได้ปฏิเสธเลยสักนิดว่าเขาไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้
“มิ...”
พี่นัชชาแทบบินมาหาเขาทันทีที่เห็นหน้ากัน มิถุนาอยากจะโกรธก็โกรธไม่ลง คนตัวเล็กๆกับมาเฟียใหญ่คับฟ้าอย่างจอมทัพ พี่นัชชาที่ติดต่อเขาไม่ได้คงร้อนใจน่าดู มิถุนาได้แต่ส่งแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกขอโทษไปให้
“มิ ทำไมปิดโทรศัพท์ล่ะ พี่ติดต่อไม่ได้เลย แล้วนี่...ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” พี่นัชชารัวคำถามใส่ยาวเหยียด มิถุนากุมมือผู้จัดการเอาไว้ราวกับบอกให้ใจเย็น
“ไม่เป็นไร ขอโทษที มือถือมิแบตมันจะหมด" ปดไปเช่นนั้น เพราะมิถุนาก็ไม่รู้จะหาคำอะไรที่ดีไปกว่านี้ "นี่...คุณวิคเตอร์ เลขาคุณจอมทัพ" มิถุนาไม่ลืมแนะนำหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา วิคเตอร์ก้มหัวทักทายทันที
“แล้วนี่มายังไง?”
“...เขามาส่ง" มิถุนาบอกเบาๆ พี่นัชชาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่มิถุนาคงผ่านอะไรมาเยอะและเข้มแข็งกว่าโดยไม่ต้องสงสัย เขาเดินตามพี่นัชชาไปด้านในท่ามกลางสายตาของคนในสตูดิโอ วิคเตอร์ไม่ได้เดินตามมา เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูนั่นนิ่งๆ
พี่นัชชาพยายามชวนมิถุนาคุยเพื่อไม่ให้น้องชายที่เขารักเหมือนน้องแท้ๆจะต้องคิดมากกับสิ่งรอบๆตัว มิถุนาถูกพามานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะกระจก เขาเห็นสต๊าฟฟ์หลายคนซุบซิบกัน คงไม่พ้นเรื่องเขาหรอก สมัยเมนี่ควงคุณจอมทัพใหม่ๆ ทั้งห้องแต่งตัวก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน มิถุนาพยายามบอกให้ตัวเองเลิกสนใจกับบรรยากาศตรงหน้าและชินกับมันเสีย แต่ก็คงอ่อนหัดเกินไป เพราะทำไม่ได้จริงๆ
“มิ...เดี๋ยวแต่งหน้าทำผมก่อนนะจ๊ะ แล้วทานอะไรมาหรือยัง พี่สั่งอะไรให้ไหม?” พี่นัชชาเอ่ยถาม มิถุนาไม่หิวเลย ทั้งๆที่เมื่อเช้าก็แทบไม่ได้แตะอาหาร แต่วินาทีนี้ เขากลืนอะไรไม่ลงจริงๆ
“ขอน้ำสักแก้วก็พอแล้วครับ"
“งั้นน้ำส้มนะ พี่ไปสั่งให้ อ๊ะ...” พี่นัชชาเอื้อมมือดึงหนังสือพิมพ์ตรงหน้ามิถุนาไปซ่อนไว้ด้านหลังตัวเองแทบจะทันที "พี่จะไปเข้าห้องน้ำด้วย มีอะไรโทรตามนะจ๊ะ"
มิถุนามองตามแผ่นหลังบางของผู้จัดการไปอย่างไม่เข้าใจ พี่นัชชาเหมือนจะปิดบังอะไรเขาเอาไว้ ปกติมิถุนาคงไม่สนใจ แต่คราวนี้คงไม่พ้นเรื่องของตนเองแน่ๆ มิถุนาเห็นพี่นัชชาโยนหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นทิ้งไว้ที่โต๊ะสำหรับทานอาหารของกองถ่าย คิ้วเรียวขมวดมุ่นแล้วทำท่าจะลุกขึ้นไปหยิบ แต่ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองกลับเดินเข้ามาเสียก่อน
“สวัสดีค่ะน้องมิ...ไม่เจอกันนานเป็นยังไงบ้างคะ?” พี่พิชชี่ส่งยิ้มให้เขาผ่านกระจกแล้วกดตัวเขาไว้กับเก้าอี้ พี่พิชชี่ดูอึดอัดนิดหน่อยที่จะคุยกับเขา ไม่ต้องสงสัยหรอก เพราะมิถุนายังอึดอัดกับตัวเองเลย
“สบายดีครับ นี่พี่พิชชี่มาทำกองนี้ด้วยเหรอครับ?”
“ค่ะ...นัชชาโทรดีลพี่มาค่ะ"
“อ๋อครับ" มิถุนายิ้มบางๆ "เอ้อ...พี่พิชชี่ครับ รบกวนหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ให้มิหน่อยสิครับ" เสียงใสเอ่ยขอร้อง พิชชี่ดูกระอักกระอ่วนขึ้นทันที
“น...หนังสือพิมพ์เหรอจ๊ะ"
“ครับ ตรงโต๊ะอาหาร"
พี่พิชชี่พยักหน้ารับแกนๆก่อนเดินออกไปที่โต๊ะอาหารตามที่มิถุนาบอก ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองดูจะพิจารณาปึกกระดาษหลากหลายบนโต๊ะอยู่นาน ก่อนหยิบมันขึ้นมา มิถุนาถอนหายใจเบาๆที่พี่พิชชี่ดันหยิบหน้าหนึ่งขึ้นมาแทนที่จะเป็นหน้าบันเทิง เขาจึงออกปากอีกครั้ง
“หน้าบันเทิงครับ"
ทันทีที่มิถุนาเอ่ยขึ้น ทั้งห้องก็เงียบกริบเหมือนมีใครปิดสวิชต์ แต่มิถุนาไม่ใส่ใจนัก เขาส่งสายตากดดันพี่พิชชี่ จนอีกฝ่ายต้องยอมหยิบสิ่งที่เขาต้องมาให้ พี่พิชชี่เดินกลับมาพร้อมสีหน้าเจื่อนๆ แต่มิถุนากลับยิ้มขอบคุณอีกฝ่าย
“น้องมิขาาา...อย่าไปอ่านเลยค่ะ ฉบับวันนี้นะ ไม่เห็นมีข่าวอะไรแซ่บๆเลย มีแต่ข่าวนางเอก ว. แย่งผัวชาวบ้าน พระเอก ต. เป็นเกย์ แล้วก็...น้องมิขา...มาๆๆๆ ให้เจ๊แต่งหน้าเถอะค่ะ"
“แปปนะครับ" มิถุนาไม่ใส่ใจฟังกระเทยสาวเลยสักนิด กลับกันเขาเปิดหน้าหนังสือพิมพ์ออก แล้วก็แทบนิ่งสนิทเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า...มิถุนาคิดว่าตัวเองเตรียมใจพร้อมแล้วนะ แต่การเห็นภาพตนเองกับจอมทัพหราบนหน้าหนังสือพิมพ์ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาพึงประสงค์และรู้สึกดีใจไปกับมันเลยสักนิด...
“รันเวย์สะเทือน! 'มิถุนา' ฉก 'จอมทัพ' จากอก 'เมนี่' - ควงรับกันถึงหลังเวที"
มิถุนาหน้าเจื่อนลงทันที เขาจุกจนพูดไม่ออก ภาพของเขาที่ถูกจอมทัพโอบเอวท่ามกลางลูกน้องนับสิบช่างน่าอายนัก แถมใบหน้าเขาที่โชว์หรานั่นอีก...มิถุนาอยากจะร้องไห้ แต่มันคงหมดเวลาสำหรับคนอ่อนแอแล้ว...มือบางพับหนังสือพิมพ์เก็บก่อนวางมันลงตรงหน้า...
พี่พิชชี่มองใบหน้าสวยอย่างไม่ใคร่สบายใจนัก ก่อนเลื่อนมือกุมมือมิถุนาเอาไว้...
“อย่าคิดมากนะคะ เจ๊ว่าเจ๊รู้จักหนูดีที่สุด หนูไม่ได้แย่งเขามาอย่างแน่นอน...แล้วหนูก็คงไม่ได้เต็มใจด้วยใช่ไหมคะ?”
“...ครับ...ผมไม่เป็นไร"
“สู้ๆนะคะ มาทำงานกันดีกว่าค่ะ" พี่พิชชี่ยิ้มให้กำลังใจ มิถุนาเองก็ยิ้มให้กับตนเองอย่างขมขื่น พี่พิชชี่คงนำ้ท่วมปาก มีอะไรอยากจะพูดไปหมดแต่ก็พูดไม่ได้ เพราะว่าเขา คือคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าพี่พิชชี่ในตอนนี้...
มิถุนาบอกตัวเองเสมอว่าเขาคือมืออาชีพ แม้ว่าจะมีหลายสิ่งประเดประดังเข้ามาจนแทบรับไม่ไหว แต่งานก็คืองาน สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะยิ้มสู้กล้องเหมือนทุกๆครั้ง การทำงานในครั้งนี้กินเวลานานพอสมควรเพราะว่ามิถุนาถ่ายแฟชั่นโฟโต้หลายเซ็ต ตอนพักกลางวันนายแบบคนเก่งถึงกับต้องเดินไปเรียกวิคเตอร์และคนอื่นๆมาทานอาหารเพียงเพราะเห็นคนเหล่านั้นยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่มาถึง ซึ่งวิคเตอร์เองก็ไม่ปฏิเสธ
มิถุนาเป็นคนเช่นนี้อยู่แล้ว...เขามักจะเป็นห่วงคนไปทั่ว แม้กระทั่งคนที่ไม่สมควรห่วงก็ตามที อันที่จริงเขาไม่มีความจำเป็นต้องมีน้ำใจกับวิคเตอร์ ลูกน้องของคนที่เขาเกลียดสุดหัวใจ แต่เพราะวิคเตอร์ไม่เคยร้ายกับเขา มิถุนาจึงไม่คิดว่าจะต้องทำตัวร้ายใส่วิคเตอร์เช่นกัน...
กว่างานทั้งหมดจะเรียบร้อยก็ปาไปเกือบๆสี่โมง เพราะคนในกองถ่ายคุยเล่นกันเยอะด้วยทำให้เสียเวลามากกว่าปกติ แต่ก็ทำให้มิถุนารู้สึกดีขึ้นที่ทุกคนกลับมาเป็นเหมือนเดิม ทั้งๆที่ตอนแรกบรรยากาศอึมครึมขนาดนั้น แต่ก็ดีแล้ว มิถุนาไม่เคยอยากให้ใครต้องมาอึดอัดเพราะเขาสักนิด
เมื่องานจบลง มิถุนาก็ต้องกลับสู่โลกความจริงอันโหดร้ายอีกครั้ง วิคเตอร์เดินเข้ามาหาเขาทันทีที่เปลี่ยนชุดเสร็จ มิถุนายิ้มและพยักหน้าให้อีกฝ่าย เป็นคำตอบว่ารับรู้แล้วว่าเขาต้องกลับไปกับคนพวกนี้ พี่นัชชาเดินเข้ามากอดมิถุนาไว้แน่น ถึงไม่บอกว่าขอโทษ มิถุนาก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายคงอยากจะพูดคำๆนี้ใจจะขาด มิถุนาได้แต่บอกพี่นัชชาว่าเขาไม่เป็นอะไร และฝากบอกไปถึงทั้งเฌอปรางและตะวัน รวมถึงคุณท็อปด้วย
“ไปแล้วนะครับ" มิถุนาล่ำลาผู้จัดการส่วนตัวด้วยรอยยิ้มเหมือนทุกครั้ง
“ดูแลตัวเองนะ แล้วเดี๋ยวพี่จะโทรหา"
“ครับ ขับรถดีๆนะครับพี่นัชชา" มิถุนาเอ่ยบอกกับหญิงสาว ก่อนเดินไปหาวิคเตอร์ที่เปิดประตูสตูดิโอรออยู่แล้ว มิถุนาพยักหน้าให้เลขาหนุ่มนิดหน่อยก่อนก้าวเดินไปตามทางเดินที่คุ้นเคยอีกครั้ง...
เพราะสตูดิโออยู่นอกเมือง ทางกลับไปยังเซฟเฮ้าส์คือต้องใช้สะพานกลับรถ แต่มิถุนากลับต้องประหลาดใจเมื่อวิคเตอร์พาออกเส้นทางนอกเมืองและวกกลับเข้าไปยังเขตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาแทน มิถุนาไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่เพราะมัวแต่นั่งเหม่อจนกระทั่งเงยหน้าขึ้นมาอีกที ก็ถูกพามาอยู่ในที่ๆไม่คุ้นเสียแล้ว ภายในห้องโดยสารหรูมีเพียงวิคเตอร์และมิถุนาสองคนเท่านั้น ถ้ามิถุนาสงสัย ก็คงเอ่ยปากถามได้แค่วิคเตอร์ แต่เขากลับไม่กล้าถามออกไป แต่ดูเหมือนวิคเตอร์จะเห็นแววตาของเขาผ่านกระจก เลขาหนุ่มจึงตอบคำถามที่คาใจของมิถุนาให้โดยไม่ต้องเอ่ยปาก
“เรากำลังจะไปท่าเรือส่งของของนายท่านกันครับ วันนี้นายท่านมีตรวจงาน นายท่านสั่งให้พาคุณไปด้วย"
“เหรอครับ" มิถุนาพูดลอยๆ ไม่ได้เป็นทั้งประโยคคำถามและประโยคบอกเล่า
“หิวหรือเปล่าครับ?”
“ไม่ครับ แต่ถ้าคุณวิคเตอร์หิวจะหาอะไรทานก่อนก็ได้ครับ"
วิคเตอร์ไม่ได้ยิ้มออกไป แต่ก็อดนึกชื่นชมคนๆนี้ในใจไม่ได้ ที่ผ่านมาเขาเคยเจอแต่คู่ควงจอมเหวี่ยงที่รับมือได้ยากสุดขีดของเจ้านาย แต่มิถุนาไม่ใช่ ทั้งๆที่วูบแรกเขานึกว่าจะร้ายกาจจนเขาต้องปวดหัว แต่มิถุนากลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น ไม่เคยเลยด้วยซ้ำ แถมคอยเอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบเขากลับเสมอทั้งๆที่ไม่จำเป็น และวิคเตอร์ก็รู้ดีว่ามิถุนาเกลียดเจ้านายเขาแค่ไหน "ไม่ครับ ผมไม่หิว"
วิคเตอร์ตอบ ระหว่างนั้นมือถือของเขาก็ดังขึ้น เลขาหนุ่มกดรับจากบลูทูธที่เสียบไว้ที่หู มิถุนาได้ยินวิคเตอร์เรียกชื่อปลายสายว่าเจย์ พลันหัวใจกระตุกวูบเมื่อนึกถึงใครอีกคนที่คงอยู่กับมือขวาด้วย
“ว่าไงเจย์"
“...อะไรนะ...ของหายเหรอ? โอเค กำลังจะรีบไป"
“ใช่ อยู่กับคุณมิถุนา"
“โอเค ได้ รับทราบ"
พอวางสายไปเรียบร้อยแล้ว วิคเตอร์ก็ดูจะเร่งความเร็วในการขับรถมากขึ้น โดยใช้เวลาไม่นานมากนัก วิคเตอร์ก็พามิถุนามาหยุดลงตรงหน้าโกดังขนาดใหญ่และตู้คอนเทนเนอร์นับสิบที่เรียงกันเป็นตับ ดูก็รู้เลยว่านี่คืออาณาจักรของจอมทัพอีกที่ กายขาวลงจากรถทันทีที่วิคเตอร์เปิดประตูรถให้ มีชายในชุดสูทเกือบยี่สิบคนยืนเรียงเป็นหน้าตับที่ด้านหน้าทางเข้า พวกเขาก้มหัวให้มิถุนาทันทีที่มิถุนาปรากฏตัว เขารู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูกเมื่อโดนกระทำแบบนี้ แต่แล้วก็ต้องเสียวไปทั้งสันหลัง มิถุนากลืนน้ำลายเอื้อกทันทีที่เห็นมือซ้ายร่างใหญ่หยิบปืนพกบาร์เร็ตต้าสีดำสนิทออกมาจากด้านในสูท มิถุนาแทบไม่กล้าขยับตัวไปไหนเลย
“มาครับ เข้าไปด้านในกัน"
มิถุนาพยักหน้ารับเบาๆก่อนเดินตามหลังวิคเตอร์เข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆ ทั่วบริเวณดูเงียบสนิทราวกับไม่มีคนทำงาน ทั้งๆที่ท่าเรือควรมีคนงานประจำตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ มิถุนาไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเลยสักนิด ทั้งๆที่มีบอร์ดี้การ์ดนับสิบเดินตาม เพราะเขาไม่รู้ว่าวันไหนจะโดนยิงทิ้ง วันไหนจะโดนดับชีวิตหากไปทำอะไรให้มาเฟียเขาไม่ถูกใจเข้า มิถุนาไร้ซึ่งการตัดสินใจของตนเองมานานแล้ว...
เสียงหวูดเรือดังมาจากริมแม่น้ำ มิถุนาหยีตาเล็กน้อยเมื่อแสงอาทิตย์ตอนเย็นสาดเข้าในดวงตา เขาเดินตามวิคเตอร์ไปเรื่อยๆราวกับว่าแผ่นหลังคนตรงหน้าคือสถานที่ๆปลอดภัยที่สุดในเวลานี้ นายแบบหนุ่มพยายามกระพริบตาถี่ๆเมื่อแสงอาทิตย์แยงตาจนแทบมองไม่เห็นอะไร และแล้วภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือภาพของคนงานกว่าร้อยคนที่ถูกเรียกมารวมตัวกัน โดยมีจอมทัพยืนอยู่ตรงหน้า เขาตัวสูงใหญ่อย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับร่างที่สูงตามมาตรฐานของเจย์ ภาพทั้งหมดถูกย้อมด้วยสีส้มของอาทิตย์ที่กำลังอัสดง มิถุนาไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกไป จริงๆแล้วไม่กล้าหายใจเสียงดังด้วยซ้ำ
ตรงหน้าจอมทัพคือคนงานวัยหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งคุกเข่าราวกับร้องขอชีวิต มาเฟียหนุ่มยกปืนขึ้นจ่อคนตรงหน้า มิถุนาเบิกตากว้างเมื่อเขาหยุดลงด้านหลังจอมทัพแล้วถูกท่อนแขนของเจย์กันเอาไว้ เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดเร็วมาก มิถุนาตัวชาดิกเมื่อเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด
ปัง! กายขาวสะดุ้งเฮือก เขาหลับตาปี๋ไม่กล้าลืมตาขึ้นแม้แต่นิดเดียว มิถุนาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาถลันเข้าคว้าแขนจอมทัพตั้งแต่เมื่อไหร่ สิ่งแรกที่ลืมตานั่นคือเลือดที่ไหลรินจากร่างที่ฟุบหมอบตรงหน้า
“อย่า!!!” เสียงหวานหวีดลั่นท่ามกลางความตกใจของทุกคน วิคเตอร์รีบพุ่งไปดูร่างที่กองอยู่กับพื้น กระสุนเปลี่ยนวิถีเพราะมิถุนา คนงานคนนั้นไม่ตาย เพียงแต่โดนกระสุนเจาะเข้าเต็มไหล่
จอมทัพยังคงอึ้ง เขามองคนที่กอดเขาแน่นจากทางด้านหลังอย่างไม่เข้าใจ มิถุนาร้องไห้โฮอยู่กับตัวเขา ทั้งกอด ทั้งรั้งเขาไว้แน่น
“อย่าฆ่าเขา ได้โปรด ผมไม่อยากให้คุณฆ่าใคร คุณจอมทัพ อย่าฆ่าเขา!”
มิถุนาตะโกนทั้งน้ำตา ร่างกายชาดิก ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น...วิคเตอร์ดึงปืนออกมาเตรียมเล็งอีกครั้งเมื่อเห็นว่าความต้องการของเจ้านายไม่บรรลุผล
จอมทัพเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าทุกอย่าง ร่างกายอุ่นๆที่กอดแนบเขาเอาไว้ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีชีวิต มิถุนาตัวสั่นเทิ้มจนรู้สึกได้...
“พอแล้ว! พามันไปทิ้งไว้ที่ไหนก็ได้ อย่าให้มันกลับมาอีก!”
ประกาศิตของเจ้านายทำให้วิคเตอร์ลดปืนลง เขาพยักหน้าให้ลูกน้องหิ้วปีกคนงานคนนั้นออกไปด้านนอก จอมทัพยังคงยืนนิ่งโดยมีมิถุนาที่ตัวสั่นไม่หยุดกอดเขาไว้แน่นจากทางด้านหลัง มือเล็กๆที่โอบเขาเอาไว้ จอมทัพเผลอตัวยกมือขึ้นทาบทับอย่างไม่ได้ตั้งใจ...
“คุณ...ฮึก...คุณเห็นชีวิตคนอื่นเป็นเหมือนสิ่งไร้ค่าได้ยังไง คุณยิงเขาทำไม ฮึก"
จอมทัพยืนนิ่ง เขารู้สึกเหมือนไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากตอบคำถามมิถุนา ทั้งๆที่เขาคือจอมทัพผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ต่ออะไรมาก่อน "เพราะมันทรยศฉัน"
“แต่...ฮึก...คุณไม่จำเป็นต้องฆ่าเขา ไม่เข้าใจหรือไง!”
มาเฟียหนุ่มยืนนิ่งไม่ขยับ เขาไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยสักนิด ไม่มีใครรู้ว่าจอมทัพคิดอะไรในเวลานี้ แต่ทันทีที่เขาส่งปืนให้เจย์และแกะมือของมิถุนาออกพร้อมรั้งอีกฝ่ายให้เข้ามาในอ้อมกอด ลูกน้องทุกคนของเขาก็พร้อมใจกันหยุดนิ่งแทบจะทันที มิถุนาสะอื้นหนักอยู่ในอ้อมกอดกว้าง มันไม่เคยอุ่น แม้แต่ตอนนี้มิถุนาก็ไม่รู้สึกว่ามันอุ่น หรือแม้กระทั่งมันจะปลอดภัยด้วยซ้ำ แต่เขากลับยอมอยู่นิ่งอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคนที่เกือบจะฆ่าคนๆหนึ่งทิ้งราวกับผักปลาเมื่อครู่นี้...
วิคเตอร์ที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาเลิกคิ้วให้กับคู่หูเลิกน้อย เจย์เองก็ไร้คำตอบเช่นกัน
“ฉันไม่ได้จะฆ่านายสักหน่อย นายจะร้องไห้ทำไม"
จอมทัพในฐานะมาเฟีย ผ่านทั้งคาวเลือด คราบน้ำตา เขม่าดินปืน และกระสุนนับพันนัด เขาไม่เคยพ่ายแพ้เลยสักครั้ง ไม่เคยมีใครล้มความตั้งใจของเขาได้...แต่นี่คือครั้งแรก...และครั้งเดียว ที่คนตัวเล็กๆอย่างมิถุนารั้งเขาเอาไว้ และรั้งได้สำเร็จ จอมทัพเกิดคำถาม เขาไม่เข้าใจตัวเอง เขาโอบกอดมิถุนาไปทำไม เขาเกลียดน้ำตา มันน่ารำคาญ ผู้หญิงที่บีบน้ำตาเรียกความสนใจจากเขามันน่ายิงทิ้งนัก
แต่จอมทัพอาจจะลืมไปว่ามิถุนาไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นกระต่ายของเขา
และแน่นอน...จอมทัพลืมไปอีกอย่าง ว่า
"มาเฟีย" ไม่ควรมีหัวใจด้วยซ้ำ
tbc.
ไม่รู้ป๋าจะได้ใจจากคนอ่านบ้างไหม ฮือๆ
วันนี้ได้เวลาพักช่วงบ่ายเลยปั่นต่อให้เสร็จ เมื่อคืนนอนตั้งแต่สี่ทุ่มครึ่ง ฟินมาก ตื่นหกโมง
แต่เย็นนี้มีคุยงานต่อ ไม่รู้ลากยาวขนาดไหน แต่ท่าทางจะไม่จบง่ายๆ ฮ่าๆๆๆ มาแปะไว้ให้ก่อนจ้ะ
อาจจะมีคำผิดแต่ไม่ทันแล้ว ต้องเข้าเมืองฝ่ารถติดไปให้ทันเวลา ขอโทษน้า ไว้เดี๋ยวมาดิททีหลังจ้า
Have a good friday ka.