ครืด! ครืด! ครืด!
~ถ้าวันหนึ่งฉันเลิกกับเขา แล้วเราจะมารักกันได้ไหม ถึงรู้ว่าผิด หัวใจก็สั่งให้ทำอย่างนี้~
ครืด! ครืด! ครืด!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะการทำอาหารของผมอย่างจัง
ผมวางชามที่ใส่กุ้งไว้ที่เดิมก่อนที่จะล้างมือแล้วซับมือกับผ้าเช็ดมือข้างๆประตูห้องครัว
ครืด! ครืด! ครืด!
~ถ้าวันหนึ่งฉันเลิกกับเขา แล้วเราจะมารักกันได้ไหม ถึงรู้ว่าผิด หัวใจก็สั่งให้ทำอย่างนี้~
ครืด! ครืด! ครืด!
ผมมองหาจะเครื่องมือสื่อสารที่กำลังสร้างความน่าลำคานกับผมอย่างหัวเสียนิดๆ นั้นไงมันสั่นอยู่บนโซฟา เห็นแบบนั้นผมเลยต้องเดินตรงไปหยิบกดรับสายด้วย อารมณ์หงุดหงิดเล็กๆ จนไม่ทันดูชื่อที่หน้าจอ
“ฮโหลครับ”
(......)
“ฮโหลครับ”
(...วันนี้กูพาเพื่อนไปบ้าน )
“มาทำอะไรกันเหรอครับสมาร์ท”
(กูนัดกันไปทำรายงาน อีก20นาทีถึงบ้าน)
“โอเคครับ สมาร์ทอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม”
(ไม่ต้องเสือก แล้วก็อย่าทำอะไรให้กูอาย เข้าใจไหม!)
“ครับ เอ่อสะ..อ้าวตัดสายไปแล้ว”ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ เขานี้นิสัยเหมือนผมจัง จะว่า เขานิสัยเหมือนผมเกือบทุกอย่าง แต่เขาไม่รู้สึกตัวหรอ
ผมปัดเรื่องวุ่นๆในหัวออกแล้วกลับไปทำอาหารต่ออย่างเร่งรีบ เพราะเดี๋ยวสมาร์ทกับเพื่อนจะมาถึงบ้านแล้ว
ในที่สุดผมก็ทำอาหารเสร็จ มีของโปรดสมาร์ทหลายอย่าง ผมคิดว่าเขาคงชอบ แต่เขาต้องชอบเซอร์ไพร์ของผมมากกว่าแน่ๆ ผมจัดเตรียมอะไรๆ สนุกๆไว้เยอะพอดู
กริ้ง!
กริ้ง!
เสียงออดหน้าบ้านทำให้ผมต้องละมือจากการอ่านนิตยสารอย่างเสียมิได้ แล้วลุกขึ้นออกไปเปิดประตูรั้วให้รถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านขับเข้ามา ผมยืนรอสักพักพวกเพื่อนๆของสมาร์ทก็ลงจากรถกันอย่างทุลักทุเล
“โห่! สมาร์ทบ้านเมียมึงนี้สวยจังวะ”เสียงห้าวๆของ เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาที่ผิดระเบียบทั้งตัว ทำให้ผมยิ้มเอ็นดูเขานิดนึ่ง
“ไม่ต้องเห่ามากเข้าบ้านๆ กูร้อนจะตายห่าละ”
สมาร์ทที่ลงจากรถแล้วเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าบ้านไปโดยไม่สนใจผมเลย
“อ้าว! ไอ้มาร์ทรอกูด้วย”เพื่อนอีกคนของสมาร์ทร้องทักแล้วหันมายิ้มให้ผมด้วยท่าทีเป็นมิตร
“ผมต้านะพี่”เด็กหนุ่มที่แต่งตัวผิดระเบียบเอ่ยกับผมแล้ววิ่งตามสมาร์ทเข้าบ้านไปเหลือหนุ่มๆอีก2คนที่ยกมือไหว้ผม
“สวัสดีครับพี่/ดีครับพี่”
“ดีครับ”ผมยิ้มนิดหน่อยแล้วเดินเข้าบ้านมาโดยมีเพื่อนสมาร์ทอีกสองคนเดินตามหลังมา
หลังจากที่สมาร์ทและเพื่อนๆขึ้นไปข้างบนกันหมดแล้ว ผมจึงจัดโต๊ะอาหาร อย่างอารมณ์ดีผมไม่เคยเครียดกับชีวิต ผมรู้ชีวิตคนเรามันสั้น ต่อให้สมาร์ทด่าผมต่อหน้าเพื่อนๆของเขา ผมก็ยิ้มได้ ผมไม่ได้บ้านะ ผมแค่มีความสุขที่ได้อยู่กับคนที่ผมรัก
ผมจำได้ไม่ลืมเลยวันที่ผมเจอสมาร์ครั้งแรกในวันรับน้องตอนมัธยม ตอนนั้นผมอยู่แค่ ม.4 สมาร์ทเขาอยู่ ม.1 ผมเฝ้ามองเขาและรอยยิ้มของเขา ผมได้ข่าวของสมาร์ทจากเพื่อนที่เป็นเด็กบาสเก็ตบอล เพราะสมาร์ทเป็นเด็กบาสเก็ตบอลโรงเรียน ต้องแต่อายุยังน้อย ผมเลยอาศัยเพื่อนไปนั่งเชียร์เขาที่สนามแข่งเสมอ จนวันหนึ่งที่ผมก็เลิกไปมันสะเฉยๆ เพราะ ตอนนั้นผมได้ข่าวมาว่าสมาร์ทเขามีแฟน โลกทั้งใบของผมมันเหมือนถล่มลงตรงหน้า ผมแพ้ตั้งแต่เริ่ม ผมเคยคิดที่จะสภาพรักกับสมาร์ท แต่ผมไม่กล้าเพราะเพื่อนของผมบอกว่าสมาร์ทเกลียดเกย์และตุ้ดมาก ทำให้ผมหมดหวัง แต่ผมก็ยังมีความสุขที่คิดว่าสมาร์ทยังไม่มีคนรัก ก็แปลว่าเขาก็ยังเป็นของผม แต่สมาร์ทก็แฟนจนได้ ผมเศร้านะ แต่ก็ไม่นาน เพราะผมรู้ว่าสมาร์ทคือเนื้อคู่ของผม ต่อให้สูญเสียอะไรไป ผมก็พร้อมที่ทำให้สมาร์ทเป็นของผม
บางครั้งพรมลิขิตก็แค่เขียนให้คนเรามาเจอกัน แต่ผมจะเขียนให้เขาอยู่กับผมตลอดไป
ผมยิ้มนิดๆกับความหลังและอดีตที่ยังจดจำไม่เคยลืม ได้เวลาแล้ว ผมคงต้องไปเรียกสมาร์ทกับเพื่อนของเขาลงมากินข้าวก่อน
ผมเดินขึ้นไปชั้นบนแล้วเคาะประตูห้องของสมาร์ท
แอ็ด!
“อ้าว! พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ”เพื่อนของสมาร์ทที่ผมจำได้ว่าเขาชื่อต้าเอ่ยขึ้นหลังจากที่เปิประตู
“พี่มาเรียกพวกเราไปกินข้าวนะ หิวกันหรือยังครับ”ผมบอกน้องเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ขอบคุณครับพี่ เห้ย! ไอ้มาร์ทไอ้โจ๊กไอ้โก้ ไปแดกข้าวพี่เกมส์สุดน่ารักของกู เอ้ย! ของไอ้สมาร์ทมาเรียกแล้วเว้ย”น้องต้าพูดขอบคุณผม แล้วหันไปตะโกนเรียกเพื่อนๆในห้อง ผมยิ้มขำๆกับท่าทีของน้องต้าแล้วเดินลงไปนั่งรอพวกเขาและแขกคนสำคัญของผมในวันนี้อีก 2 คน
หลังจากที่ผมนั่งได้ไม่นาน สมาร์ทและน้องต้า น้องโจ๊ก น้องโก้ ก็ลงมา พวกเราห้าคนก็ลงมือรับประทาน ทั่งโต๊ะมีแต่เสียงขำและหัวเราะของผมกับน้องๆเขา แต่สมาร์ทกับนั่งรับประทานอาหารนิ่งๆ ผมสังเกตเห็นขาดูเหม่อแปลกๆ แต่ก็ไม่ทักกลัวเขาจะกินข้าวไม่ลงถ้าผมถามด้วยความเป็นห่วง
ผมเลิกสนใจท่าทีแปลกๆของสมาร์ทแล้วคุยโต้ตอบกลับน้องๆต่ออย่างมีความสุข แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมมีของขวัญให้สมาร์ท
กริ้ง!
นั้นไงพูดยังไม่ทันขาดคำของขวัญชิ้นใหญ่ก็มาส่งแล้ว ผมเตรียมลุกจะไปเปิดประตู แต่น้องโก้อาสาจะไปเปิดให้ทำให้ผมต้องนั่งลงทีเดิม
น้องโก้ออกไปไม่นานก็เดินนำหน้า ชายหญิงคู่หนึ่งเข้ามาในบ้าน ผมยิ้มให้กับชายหนุ่มผู้มาใหม่ แล้วหันไปยิ้มมุมปากให้กับฝ่ายหญิง แต่คนที่ดูจะตกใจมากกับเป็นสมาร์ท เขาดูอึ้งกับผู้หญิงตรงหน้ามาก
“สวัสดีครับพี่ไนท์”ผมเอ่ยทักทายคนมาใหม่อย่างสนินสนม
“ดีเจ้าเกมส์ โทษทีนะที่พี่นัดเกมส์คุยเรื่องเรือนหอพี่วันนี้”พี่ไนท์พูดขอโทษขอโพยผมพร้อมเอ่ยเรื่องสำคัญที่ทำให้เขามาหาผมที่บ้านในวันนี้
“ไม่เป็นอะไรครับพี่ พี่ชายทั้งคนผมว่างเสมอ”ผมตอบพี่เขาแล้วหันไปสบตากับผู้หญิงที่กอดแขนพี่ไนท์แน่น
“อ้าว! น้องสมายด์มาด้วยเหรอเนี้ย โทษทีเมื่อกี้พี่ไม่เห็นครับ”ผมทำท่าตกใจแต่พองามแล้วพูดกับเธออย่างคนสำนึกผิดนิดๆ แต่หน้าของผมกับยิ้มเหยียดอย่างไม่น่าให้อภัยนัก
“สวัสดีค่ะพี่เกมส์”ผมเห็นว่าเธอพยายามไม่หลุดคำพูดต่ำๆตามนิสัยของเธอออกมากอย่างสุดชีวิต แต่ก็เท่านั้น สายตากับกิริยาท่าทางของเธอนั้น บ่งบอกว่าเธออยากจะเอากระเป๋าหลุยติ๋งต๋องฟาดหน้าผมสัก3ที
“เกมส์รู้จักคู่หมั้นพี่ด้วยเหรอ รู้จักกันก็ดีแล้วจะได้คุยกันง่ายหน่อย”
“ก็รู้จักกันแค่เผินๆน่ะครับ นี้ครับพี่ไนท์ สมาร์ทแฟนผม แล้วน้องต้าน้องโจ๊กแล้วก็น้องโก้ เพื่อนแฟนผมเอง”ผมเอ่ยแนะนำสมาร์ทแล้วก็น้องๆให้กับพี่ไนท์
“สวัสดีครับพี่ไนท์/ดีครับพี่”ทั้ง4คนประสานเสียงสวัสดีพี่เขาอย่างยิ้มแย้ม แต่ยกเว้นสมาร์ทที่เขาดูแปลกๆไป เขาอาจจะกำลังตกใจกับของขวัญชิ้นใหญ่ของผมอยู่หรือเปล่า นี้ผมอุตสาห์ทำให้น้องสมาร์ทเลยนะ แต่ดูทำหน้าเข้าสิอย่างกับไปโกรธใครมาสักร้อยชาติแน่ะ
“สวัสดีครับน้องๆ”
“งั้นเราไปคุยเรื่องเรือนหอกันในห้องรับแขกดีกว่าไหมครับ”ผมเอ่ยแนะนำ
“เอาสิไปกันครับน้องมายด์”พี่ไนท์กับน้องสมายด์ออกรอผมปที่ห้องรับแขกก่อน
ผมมองตามหลังทั้งคู่ไปแล้วหันกลับไปจัดการข้าวบนจานของตัวเองให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยปากบอกกับน้องๆทั่งสามเพราะสมาร์ทขึ้นห้องไปเรียบร้อยหลังจากที่พี่ไนท์กับน้องสมายด์ไปรออยู่ที่ห้องรับแขกได้ไม่นาน ผมขอแรงน้องๆเขายกจานกับชามอาหารไปเก็บแต่ผมกำชับว่าไม่ต้องล้างเพราะเห็นน้องโจ๊กอาสาจะล้างให้ แต่ผมบอกน้องเขาว่าเดี๋ยวผมออกมาล้างเอง ผมรอน้องๆเลยขึ้นห้องไปจนหมดแล้วไปจัดการธุระต่อ
ผมคุยรายละเอียดเกี่ยวกับเรือนหอของพี่ไนท์คราวๆ แต่ดูน้องสมายด์จะดูมีปัญหาทุกเรื่อง ตั่งแต่ทางเข้าเรือนหอไปยันหน้าต่าง ถึงจะทำให้ผมปวดหัวเล็กๆ แต่ก็แลกกับความจริงบางเรื่องที่สมาร์ทควรได้รับรู้ ผมก็ว่ามันคุ้มค่ามาก ผมรู้มานานแล้วว่าสมายด์คบพี่ไนท์และหมั้นกับพี่ไนท์ แต่เพราะพี่ไนท์โตกว่าและไปเรียนเมืองนอก เลยทำให้สมายด์แอบไปคบกับสมาร์ท ผมก็เห็นใจสมาร์ทนะครับ แต่ทำไงได้ผมก็อยากให้เขาเห็นท่าแท้ของนางฟ้าที่เขาเทิดทูนว่าเธอหลอกลวงและหลายใจมากแค่ไหน แต่มันก็เท่านั้นละครับผมรู้สมาร์ทเขารักแฟนเขามากแค่ไหน ต่อให้เขาให้รู้เรื่องนี้ เขาก็ต้องพยายามหาเหตุผลมาแก้ต่างให้แม่นางฟ้าแสนดีของเขาจนได้ละครับ
ผมถึงบอกไงว่า คนไม่ใช่ทำอะไรมันก็ผิด และต่อให้คนที่รักทำเรื่องสารเลวกับตัวเขาเองไว้มากแค่ไหน เขาก็แค่แกล้งโง่และรักเธอต่อไป
ตรรกะง่ายๆของคนโง่ไงครับ
ผมคงต้องหาอาหารเสริมมาให้สมาร์ทกินแล้วละครับ ผมยังไม่อยากมีแฟนเป็นควาย แต่ก็นั้นอีกละครับ คนมันรักนี้เนอะ เขาก็ไม่ต่างจากผม ที่รักคนที่เขาทำร้ายเรา แต่อย่างน้อย เขาก็ยังได้รับความรักตอบกลับบ้าง แต่ผมมีแต่หางตาเขายังไม่อยากมอง
เมียหลวงเหรอ ทำไมวันนี้ผมพูดคำนี้อย่างหดหู่จังนะ ทำไมผมไม่มีความสุขเลย หรือผมควรจะพอ
ผมหลับตาลง แล้วฉุกคิดขึ้นได้ ผมเดินมาไกลเกินไปผมหันหลังกลับไม่ได้แล้วละ มีเพียงทางเดียวคือผมต้องเดินไปให้สุดทาง แม้สุดท้ายแล้วมันจะว่างเปล่าก็เถอะ
“ชีวิตคนเรามันสั้น”อยากทำอะไรก็ทำสะ ผมยิ้มอีกครั้งเมื่อได้ยิ้มคำนี้แว่วๆในห้วงของความฝัน
ขอบคุณค่ะ
มาต่อแล้วค่ะ หายไปนาน การบ้านเยอะค่ะ แต่จะพยายามปั่นให้นะค่ะ