#คุยกับฟัก
มาหาว่าฉันไร้ศักยภาพ ออนคงออนคาร์ พวกหล่อน ฉันรับนะ รับ รับ รับ บอกให้เสียบเด็กคือระ ตอบ!
เรื่อง :: ไม่มีรุกแท้ในหมู่เกย์ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
ข้อ 15 : เป็นเบี้ยนก็ยอมรับสิยะว่าเป็นเบี้ยน
“แฮ่ก”
หอบแดก
บอกเลย
ฟักนั่งขยับข้อมือด้วยอารมณ์หอมปน
เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่
แต่มันผสมกันมัวเละเทะ เหลือแค่เพียงความต้องการที่จะขยับข้อมือเร็วขึ้นอีก ในหัวเขามีแต่ภาพเด็ก เสียงเด็ก กลิ่นเด็ก สัมผัสที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของเด็ก ให้ตายสิ ภาพตอนตัวกอดเจ้าของร่างนั้นอยู่เต็มหัวไปหมด มือก็ยิ่งขยับไปเองเร็วควบคุมไม่ได้ราวกับรู้ใจ
กัดฟันเบาๆพร้อมกับความรู้สึกหมั่นเขี้ยวไม่หาย เขาอยากจะกู่ร้องให้โลกรู้ว่ากูมีอารมณ์ทางเพศสุดๆเลยโว้ยซะจริงๆ
พายแล่นเข้ามาในหัวมากเท่าไหร่ ข้อมือจากที่เร็วอยู่แล้วก็ยิ่งเร็วยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อเวลาผ่านไปน้ำสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนมือจนเหนียวเหนอะหนะ
ถ้านับจากประวัติการในการเล่นงูของเขา ก็ประมาณวันเว้นวันได้ มีครั้งนี้แหละที่ปล่อยไวสุดๆ
อาจเป็นเพราะอารมณ์ที่กักตุนมันพล่านเหมือนโดดน้ำร้อนลวก
การช่วยเหลือตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ได้น่าอายด้วย มันเป็นเรื่องธรรมชาติ อย่ามาตอแหลไปหน่อยเลย อีกอย่าง งานที่เขาทำอยู่มันก็ค่อนข้างหนัก ส่งผลถึงอารมณ์ จิตใจและร่างกายอยู่แล้ว เขาอาจเครียดตายได้ถ้าหากไม่หาทางปลดปล่อยซะบ้างหรือลองผ่อนคลายสมอง
หลังกลับมาบ้านได้ไม่นานรวมไปถึงวันถัดๆมา น้องพายคนน่ารักก็พยายามหาทางติดต่อเขาตลอด ทั้งโทรเข้ามา ส่งข้อความ ทุกวิถีทางที่คิดว่าจะเป็นการติดต่อเขาได้
‘พี่พัชอ่านแล้วตอบผมหน่อยสิครับ…รับสายก็ยังดี’
‘พี่พัช ผมขอโทษ พี่พัชออกมาเจอกันหน่อยได้มั้ยครับ ผมอยากคุยอยากอธิบายเรื่องทั้งหมด……..’
นั่นแหละ ข้อความที่เหลือเขาขี้เกียจอ่าน และเขาก็ไม่เคยตอบกลับไปเลยสักครั้งนับจากวันนั้น
เห็นเด็กดิ้นมีความต้องการขาดเขาไม่ได้นี่มันเป็นอะไรที่แอบแฉะไม่น้อย เขาเล่นตัวเสียยิ่งกว่าเล่นตัว แม้ในใจยังไม่ทันได้อ่านข้อความแต่แค่เห็นว่าใครส่งมาเพียงเท่านั้นก็แทบจะเก็บอาการไม่อยู่
เสียดายไหม
เสียดายสิวะ
หล่อนคิดว่ายังไงล่ะ เด็กกางเกงน้ำเงินหน้าตาจิ้มลิ้มซะขนาดนั้น อีกกี่ชาติจะได้แอ้มอีก ถามหน่อย!
ถึงจะผิดแผนกับที่วางไว้สุดๆ
เขาไม่ได้อยากจะเสียบไสใส่เด็กสักนิด
แต่ก็นะ ไหนๆก็ไหนๆ อุตส่าห์ได้เปิดเป็นคนแรก แต่เสือกทำไม่เสร็จและไม่แตกในด้วย แม่งเอ๊ย เสียของ แค่คิดก็อยากจะกลับไปตบกบาลตัวเอง ถ้าเขารู้ว่าเด็กมันจะหลอกกันแน่ๆ เขาจะได้เยๆให้เสร็จเอาให้สะใจกันไปข้าง เอาให้คุ้มค่าโง่ อีพีทจะขึ้นมาเห็นก็ช่างหัวมันแล้ว บ้านแตกก็เรื่องของพวกมึงเถอะ
ฟักแทบจะกัดลิ้นตัวเอง
ทว่าหากมาคิดอีกทีก็ดีแล้วที่แผนน่าจะยังไม่แตก ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดพวกมันเป็นพวกต้มตุ๋นหลอกเขาแบล็คเมล์เรียกค่าเสียหายเพราะเด็กมันยังไม่พ้นสภาพผู้เยาว์ล่ะ เขาก็ซวยอีกนั่นแหละ ทั้งขึ้นทั้งร่อง ดีไม่ดีมันแจ้งตำรวจ เป็นข่าวถึงที่ทำงาน เสียหายเป็นแท้และคงไม่พ้นถูกไล่ออก พูดแล้วก็คับแค้นใจ
เขาไม่ติดต่อกับเด็กน้อยกลับไปเลยหลังจากนั้นทำให้พีทกลายเป็นขาดการรับรู้ไปด้วยเช่นกัน ยังไงซะเขาเดาว่าพายคงไม่ยอมให้พีทรู้เรื่องเขาแน่ๆ ภาวนาเพียงอีสองศรีพี่น้องคู่นี้จะไม่ซักกันไปซักกันมาจนกลายเป็นว่าความจริงถูกเปิดกันเองก็เพียงพอ
เพราะคนซวยน่ะมันเขาทั้งนั้น
ฟักตั้งสัจไว้ว่า เขาจะกลับมาตั้งใจทำงานมากกว่าเก่าเพื่อหาเงินไปซื้อกินให้รู้แล้วรู้รอด
แต่การจะหาคนถูกใจมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เข้าใจไหมว่าเขาอยากได้เด็กคนนี้ๆๆๆ
“พี่พัช วันนี้ที่บริษัทพวกพี่เอ๋เขาจะไปดื่มกัน เย็นนี้พี่ไปด้วยกันมั้ยคะ”
ชะนีหนึ่งในเพื่อนร่วมงานและรุ่นน้องชวนเขาด้วยสายตาหวานหยด
เขาดูออกว่านางหวังจะฟันเขาอยู่
แต่ด้วยเหตุจำเป็น หน้าที่การงาน สังคม และสิ่งแวดล้อมทางการเมืองในบริษัท ฟักคิดว่าอยู่แบบนี้คงเป็นการดีที่สุดสำหรับตัวเขาเองแล้ว จะให้เปิดเผยร่างอันแท้มันก็ดูเหมือนจะกลับลำไม่ทัน อีกอย่างเขาเกลียดการซุบซิบนินทาหาเรื่องชาวบ้านไปวันๆของเหล่าชะนีมาก อย่าว่าแต่ชะนีเลย ตุ๊ดด้วยกันล่ะตัวดี คนแบบนี้มีทุกที่ทุกเพศทุกวัย ทำให้ฟักไม่ค่อยอยากยุ่มย่ามอะไรมากนักหรือเป็นข่าวเด่นในบริษัท
ยังดีที่เพศสภาพเขาเป็นผู้ชาย แถมหน้าตาดีเป็นที่ต้องการของตลาด แรงอาฆาตจึงน้อยกว่าแรงพิศวาสที่รุมล้อมมากนัก
จำได้ว่าวันแรกในการทำงานก็เล่นออกตัวซะแมน
ฟักทำเป็นหยุดจากงาน หันมาให้ความสนใจกับผู้มาขัดจังหวะ แม้ในใจเขาจะไม่ได้จดจ่อกับงานก็ตามแต่ เหตุเพราะในหัวมีแต่เรื่องที่ว่าจะทำยังไงให้ได้ให้โดนสักที นี่เขาซีเรียสนะ มันไม่ขำนะหล่อน มันไม่ขำ
‘พี่พัชครับ ผมรออยู่ที่ร้านเดิมนะ……..’
ข้อความจากเด็กน้อยส่งเข้ามาหาพอดิบพอดี
ฟักเหลือบสายตา
“ทำไงดีล่ะ…เย็นนี้พี่ว่าพี่จะไปดื่มกาแฟสักหน่อย” เขาพูดเสียงนุ่มกับหญิงสาวตรงหน้า แสดงถึงความเกรงอกเกรงใจหากจะปฏิเสธ
นีน้อยหน้าสลดด้วยความเสียดาย
“แต่ถ้าอย่างนั้น…”
“น้องน้ำสนใจไปดื่มกาแฟกับพี่มั้ยล่ะครับ”
“ป ไป กัน สองคน เหรอคะ?”
“ครับ”
ยิ้มละไม
“สองคน”
ไม่คิดมาก่อนในชีวิต
“น้องน้ำชอบทานไส้กรอกเหรอครับ”
จะต้องมาเดินหิ้วถุงกับข้าวให้ชะนี
“ง่า…ดูออกขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” หล่อนเล่นแดกสวบๆเป็นปอบลงซะขนาดนั้น แทบอยากจะเดินทิ้งระยะห่างสักสองเมตร
“ครับ เห็นน้องน้ำกินใหญ่เลย” เขาแสร้งหัวเราะเบาๆ “น่ารักดีครับ”
พูดไม่ทันจบ สาวเจ้าก็พยายามหุบยิ้มจนรูปหน้าออกมาแปลกๆ ท่าทางขัดๆเขินๆทำเอาเขาเลิกคิ้วสงสัย
เขาชมไปตามมารยาทเท่านั้นแหละ หยุดมโนได้แล้ว ตื่น
ฟักพารุ่นน้องไปที่ร้านกาแฟร้านเดิม ร้านที่ที่เก็บความทรงจำมากมายของเขาไว้ เรื่องมันเศร้าไม่อยากจะบอก เล่าที่นี้ต้องย้อนกันไปหลายตอนเลยทีเดียว เดินเข้ามาในร้านปุ๊บ ภาพในอดีตซึ่งเขาได้เคยนั่งกับน้องลีวายส์คนเก่าฉายชัดเป็นฉากๆ ภาพที่พวกเราเจอกันครั้งแรก ในวันฝนพร่ำ วันที่ฟักได้สัมผัสมือขาวๆนั่น หรือจะวันที่พวกเขานั่งติวหนังสือด้วยกัน
พูดแล้วน้ำตาเขาเกือบไหลเชียว
“พะ พี่พัช”
เมื่อกวาดตามองในร้านอย่างชัดๆ ฟักพบว่าน้องพายมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เสียงที่เอ่ยชื่อเขาเบาหวิว แต่เขาลอบอ่านจากริมฝีปากเล็กนั่นได้ พายอยู่ในชุดลำลองกางเกงน้ำเงินของโรงเรียนกับเสื้อยืดสีขาว สีหน้าแววตากังวล เป็นไปตามคาด พายมาดักรอเขาอยู่ก่อนแล้วตามข้อความทางโทรศัพท์
ฟักหักห้ามใจไม่ให้เข้าไปลากเด็กมาฟัดสักทีสองทีให้หายคิดถึง เขาส่งยิ้มให้สาวข้างกายก่อนเชิญเธอนั่งลงอีกโต๊ะนึง
“น้องน้ำดื่มอะไรมั้ยครับ”
“อ่า ขอเอสเปรสโซ่ล่ะกันค่ะ” ยิ่งเขาวางตัวสุภาพบุรุษ เธอยิ่งยิ้มเอียงอาย
ฟักลุกไปสั่งเครื่องดื่มให้ทั้งเขาและเธอผู้ร่วมโต๊ะ
การวางตัวว่าไม่รู้จักและมองผ่านเลยส่งผลให้พายทำหน้าเหมือนจะร้องไห้มากกว่าเก่า
กระทั่งกลับมาอีกครั้งพร้อมเครื่องดื่มอย่างเร็วไว เขาพูดคุยกับรุ่นน้องด้วยความอารมณ์ดี การแสดงออกอย่างธรรมชาติและมีความสุภาพแฝงอารมณ์ขัน ทำให้บทสนทนาราบรื่นกว่าที่คิด ส่วนใหญ่แล้วเริ่มกลายเป็นเขาที่เป็นฝ่ายเปิดประเด็น
“ที่พี่พัชไม่ค่อยไปเที่ยวกับพวกพี่เอ๋แล้ว เพราะมานั่งอย่างนี้เกือบทุกเย็นหรือเปล่าค่ะเนี่ย” ชะนีแซว
“ก็ประมาณนั้นแหละครับ พี่แบกงานมาทำด้วยน่ะ ค่ำกว่านี้นิดนึงก็กลับแล้วครับ เหนื่อยด้วย ไปดื่มไม่ไหวหรอก พวกนั้นเขาคอแข็งกันจะตาย”
โดยเฉพาะตั้งใจให้มันดูสนุกสนานเกินจริง
“อ่า…น้องน้ำ”
เพียงเพราะอยากแกล้งเด็กอีกคนข้างๆ
“กาแฟเปื้อนครับ” เขายิ้มนิดๆ ยกนิ้วเรียวแตะข้างริมฝีปากตนเอง
น้องน้ำรีบหยิบทิชชูเช็ดด้วยความเคอะเขิน เธอดูไม่เป็นตัวเองจนหลุดอากัปกริยาโก๊ะๆหลายครั้ง
หัวเราะเล็กน้อยกับอาการของหญิงสาวตรงหน้า ในทีแรกกะจะลองทำตามละครน้ำเน่า ใช้ปลายนิ้วเช็ดให้ถึงที่อะไรอย่างนั้น แต่มันก็ไม่เหมาะเกินไป นี่มันเรื่องจริงนะ เดี๋ยวคราวนี้ไม่ใช่แค่เด็กจะแตกตื่นชะนีตรงหน้าเขาคงได้แตกตื่นตามไปด้วย ปัญหาคาราคาซังหนักกว่าเดิมต้องมาตามแก้ ปวดหัวตาย
แม้ในใจไม่ได้ขำ แต่มันก็ส่งผลต่ออีกคนไปเต็มๆ
พายหน้างอ ลุกขึ้นตึงตังออกไป
ใบหน้าหงุดหงิดที่ฟักไม่ค่อยได้เห็นนัก ดีที่น้องมันไม่พกน้ำกรดมาสาดทั้งเขาทั้งชะนีที่นั่งหัวโด่กันอยู่ตรงนี้ ความจริงเขาก็ลุ้นไม่น้อยกับปฏิกิริยาของพายว่าจะออกมาในรูปไหนยังไง
แวบหนึ่งเขาแอบเห็นเด็กยกหลังมือเช็ดดวงตา
นั่นถือว่าเป็นการแสดงอย่างหนึ่งหรือเปล่า
เขาได้แต่สงสัยในใจ ไม่อาจพูดออกไปได้ นอกจากสร้างกรอบยิ้มให้ตัวเอง
ภารกิจเสร็จสิ้น พายจากไปแล้ว ณ ตอนนี้ ชะนีตรงหน้าหมดประโยชน์ในทันใด
“นี่ก็ค่ำแล้ว เดี๋ยวพี่ไปส่งนะครับ”
“เอ่อ จะดีเหรอค่ะ บ้านพี่พัชอยู่คนละทางกับน้ำเลย”
“ไม่เป็นไรครับ ไกลที่ไหน แปบเดียวเอง ผู้หญิง กลับบ้านคนเดียวอันตรายออกนะ”
ฟักยิ้มเช่นเคย เขารีบตัดบทจบทันทีเพื่อจะได้กลับบ้านนอนพร้อมกับไปปลดปล่อยความชั่วร้ายที่บ้าน เขารู้ว่าที่ทำอยู่มันค่อนข้างเด็กน้อยร้อยมาลัยสุดๆ ไร้สาระแทบไม่มีประโยชน์ แต่มันเป็นเรื่องของฟีลลิ่ง ซึ่งเขาก็ไม่ใช่คนที่จะปล่อยปละละเลยอารมณ์ของตัวเองอยู่แล้ว
พายหลอกเขา นั่นคือเรื่องที่รู้ แต่เขาจะไปเอาเรื่องกับใครก็คงไม่ได้ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ว่าใครจะไวกว่ากันเท่านั้นเอง จะให้แจ้งความเพื่ออับอายขายขี้หน้าชาวบ้านเขาเรอะ แถมเผลอๆติดตารางข้อหาพรากผู้เยาว์อีก เสียกับเสีย
เหมือนจะใจแข็งแต่ก็ไม่ เขาไม่ได้เป็นเหมือนภายนอกที่แสดงให้เห็นสักนิด
สองจิตสองใจ
เขาไม่รู้ว่าควรจะตัดขาดตั้งแต่ตอนนี้เลยดีหรือไม่ เพื่อปัญหาที่อาจเกิดในภายภาคหน้า แน่นอนว่ามันต้องเกิดและคงหนักเอาการ
แต่อีกใจคือ
เขาเสียดายพายนะ เสียดายมากด้วย
จะเก็บไว้เล่นอีกสักหน่อย แต่มันก็แอบแค้นอยู่เล็กๆ
เอาเป็นว่าช่วงนี้เขาขอเวลาเล่นตัวไว้คิดไปเรื่อยๆเป็นดีกว่า อย่าเพิ่งรีบร้อน เผื่อมีอะไรๆหลงเข้ามาแล้วถูกใจ ประมาณว่าฟ้าหลังฝนอีกครั้งและอีกครั้งไม่น่าสาย
เมื่อถึงจุดหมายคือบ้านของชะนีน้อย
จู่ๆก็เกิดความเงียบที่เขาเพิ่งนึกสังเกตได้
น้องน้ำไม่ยักจะลงไป ถึงบ้านหล่อนแล้ว นั่งแช่รออะไรอยู่?
“เข้าบ้านดีๆนะครับ” เขาหันไปบอกเธอ
“ขอบคุณนะคะพี่พัช”
ฟักส่งยิ้มนุ่มนวลให้ มันเป็นรอยยิ้มปกติที่ใครเห็นเขาเชื่อว่าหล่อนต้องแอบละลาย
“ค คือ ความ จ จริงแล้ว บ้า น บ้านน้ำ ในบ้าน”
“ครับ?” เลิกคิ้ว รอฟัง แผ่นเสียงไม่ดีหรือยังไง
“พี่พัช มา กิน เอ่อ น้ำเพิ่งคิดสูตรใหม่ได้พอดี แต่ ยังไม่ได้ให้ใครลองชิมเลย” น้องน้ำพูดเสียงติดขัด เธอหน้าแดงสลับกับสายตาที่ไม่นิ่ง ฟักตัวเย็นขึ้นทันที ดวงตาแข็งค้างพร้อมกับรอยยิ้มที่หุบไม่ลง เพียงแต่เวลานี้เขากำลังเก็บอาการเท่าที่จะมากได้
กระโปรงแน่นตึง
เผยให้เห็นขาอ่อนขาวเรียวเล็กของเธอ
“น้ำอยู่คนเดียว”
อะไรนะยะ
“ถ้าไม่รบกวน น้ำอยากขอบคุณที่พี่มาส่ง เข้าไปกินคัพเค้กด้วยกันก่อน…นะคะ”
TBC
[31/08/2557]