เรื่อง :: ไม่มีรุกแท้ในหมู่เกย์ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
ข้อ 17 : ดูดหลังคอก่อนจะขบเบาๆ
เสร็จสมอารมณ์หมาย
ไม่แน่ใจว่าจะใช้คำได้หรือเปล่า
ครั้งที่สามสำหรับการโดนขืนใจ ชีวิตช่างอาภพ ฟักได้แต่ร่ำไห้ส่งสารตัวเอง
เขาค่อยๆเขี่ยน้องน้ำให้ลงจากอกก่อนค่อยๆลุกขึ้นรีบแต่งตัวหยิบเสื้อผ้าคว้าโทรศัพท์ออกไปโดยด่วนในระหว่างที่ชะนีกำลังหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
เขารู้ว่านี่มันบ้ามาก บ้ามากมากมาก
ท้องฟ้าและผืนดินมีหวังคงโกรธเขาน่าดู ช่วงนี้กินของผิดสำแดงเป็นว่าเล่น ฟักขยี้หัวตัวเองด้วยความสับสนเล็กๆ ทำไปได้ยังไงวะ อารมณ์วูบๆกรุ่นๆตอนกำลังหน้ามืดเหตุเพราะว่าโกรธสติในการยับยั้งชั่งใจจึงทำงานได้ด้อยประสิทธิภาพลง มันก็เป็นความสนุกในช่วงแรกๆดี ใช่ว่าเขาจะไม่เคยยุ่งกับผู้หญิง สมัยรุ่นๆมันต้องผ่านต้องลองมาบ้างล่ะจะได้รู้ว่าอะไรใช่หรือไม่
โทรศัพท์เบอร์ล่าสุดยังคงเป็นเบอร์เดิมกับที่ตัดสายไปหลังจากประโยคเซฟเซ็กส์หลุดจากปาก
การขอถุงมันเป็นเรื่องเสียหายตรงไหน ป้องกันโรคป้องกันท้องป่องมันเป็นเรื่องดีสุดๆเลยไม่ใช่เรอะ ควรจะดีใจและให้การสนับสนุนกันสิถึงจะถูก!
ฟักเดินมาที่รถ แต่สิ่งที่เกินคาดเขาอีกครั้งคือการได้เจอใครสักคนที่กำลังนึกถึงอยู่พอดี
“…พี่พัช…”
“พาย”
น้ำเสียงที่เรียกชื่อเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ มีเพียงคิ้วที่อาจเลิกขึ้นสูงไปหน่อยจากเดิม แม้ว่าจะแปลกใจเมื่อเห็นร่างชุดนักเรียนคุ้นตานั่งกอดเข่าอยู่ตรงหน้ารั้วบ้านของหญิงสาว ซึ่งถ้านับแล้วพายไม่น่าจะมาโผล่แถวนี้ได้เลย เด็กน้อยลุกขึ้นก้าวช้าๆเข้ามาหาเขา กลางค่ำกลางคืนฟักยิ่งคิดย้อนไปว่าคนตรงหน้ามานั่งตั้งแต่เมื่อไหร่กระทั่งตอนนี้
“มาทำอะไรที่นี้” กลายเป็นเขาที่เป็นฝ่ายตั้งคำถาม ความจริงมันก็ควรเป็นเช่นนั้น ฟักยกนาฬิกาข้อมือดู เวลาในขณะนี้ยิ่งทำให้น่าเป็นห่วง “ดึกแล้ว มานั่งทำอะไรแบบนี้?”
เด็กเอาแต่เงียบ หลังจากสบตาเขาได้ไม่นานก็ก้มหน้า
ถอนหายใจสลับกับมองเข้าไปในตัวบ้าน บอกตรงๆว่าในใจตอนนี้เขากลัวอีน้องน้ำมันตื่นขึ้นมาเห็นเข้าก่อนจะได้เผ่นจริงๆ เขาแอบออกมานะ ต้องเข้าใจคำว่าแอบ ชะนีบ้าบอเซ็กส์จัดอย่างกับไม่เคยเกี่ยวเบ็ดเอง ถ้ามาเห็นภาพตรงหน้าและรู้ว่าเขาหนีออกมาโดยไม่บอกความอันตรายจากที่มีมากมายอยู่แล้วมันต้องขึ้นเลยปรอทแหงๆ
“ขึ้นรถ” เขาพูดโดยไม่มองคนฟัง
พายเงยหน้าขึ้นอย่างไม่เข้าใจในประโยคสักเท่าไหร่ ทำให้เขาต้องหันกลับไปย้ำอีกรอบ
“อย่าให้พี่ต้องพูดซ้ำบ่อยๆ”
“เข้ามาสิ” ฟักเดินนำไปเปิดประตู “บ้านพี่เอง”
ฟักวางเสื้อตัวนอกไพล่บนโซฟา มือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกสองสามเม็ด มองผ่านกระจกเห็นได้ว่าผมเผ้ายุ่งเหยิงส่งผลให้ลุคเขาดูดีแปลกตาไปอีกแบบ จากปกติที่ค่อนข้างเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นั่งลงก่อน เอาน้ำมั้ย” บอกกับเด็ก คำว่าน้ำกลายเป็นของสแลงจริงช่วงนี้ พายทำตามอย่างว่าง่ายแม้สีหน้าไม่สู้ดี เด็กตอบเบาๆว่าไม่เป็นไร เขาเดินไปหยิบไวน์องุ่นในตู้เย็นรินใส่แก้ว ยกจิบเล็กน้อยก่อนถามต่อ
“ไปที่นั่นได้ยังไง”
“ผม…แอบตามไป”
“เมื่อไหร่”
“ก็ ก็ตั้งแต่ที่พี่พัชไปกับเขา”
“เพื่ออะไร”
“ผม ไม่รู้”
เขาโน้มตัวลงเท้าคางในมือยังคงถือแก้วไวน์
“พายต้องรู้สิ”
ไม่เชิงคาดคั้น แต่น้ำเสียงทุ้มกลับสร้างความกดดันได้เป็นอย่างดี เจตนาจริงอาจต้องการไล้บี้ซักไซ้หรือแกล้งคนตรงหน้าเฉยๆ จะอะไรก็ตามแต่มันก็บันเทิงใจเขาไม่น้อย สายตายังคงจับจ้อง พายหน้าซีด มันเป็นอาการปกติสำหรับคนที่กำลังรู้สึกไม่ดี รู้สึกผิดรู้สึกพลาดหรืออะไรประมาณนั้นน่ะนะ เขาเองก็พอจะเข้าใจอยู่
“…ผมขอ…ขอโทษครับ…”
“เรื่องอะไรเหรอครับ”
“ท ที่โกหก”
“ครับ โอเค พี่ยกโทษให้” เขาหมายความตามนั้นจริงๆนะ เปล่าประชด แต่พายคงไม่คิดงั้นเสียล่ะมั้งถึงได้ทำหน้าตาย่ำแย่ลงกว่าเก่า
ถ้าให้เดา ตอนนี้ในใจเด็กมันคงคิดประมาณว่า ‘ทำไมอีนี่ไม่ถามถึงเหตุผลกูวะ จะกดดันกูใช่ไหม’
กูตอบเลย ใช่!
เอาให้มันรู้สึกผิดสุดตีนกันไปข้าง อยากบอกให้รู้ว่าเวลาอยู่ฝ่ายถูกแถมยังเหนือกว่ามันเป็นอะไรที่โคตรจุดสุดขั้นที่สุดแล้ว
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกพี่พัช ผมขอโทษที่โกหกเรื่องค่าเทอมเรื่องเงิน ผม ตอนนั้นผมติดหนี้บอล”
อืม…
เป็นไปตามที่คาด เห็นไหม ไม่ผิดสักนิด
เข้าใจได้ เข้าใจได้ ช่วงที่เขาเจอพายก็เป็นเทศกาลบอลโลกอยู่หมาดๆ ตามประสาเด็กผู้ชายวัยคะนองอาจจะเผลอเล่นเพื่อความสนุกตื่นเต้นและลาภลอยอยู่บ่อยๆจนเพลิน
แต่เท่าที่เห็นเด็กมันเล่นบาสนะ ไม่เคยจะเห็นมันแบกลูกฟุตบอลเลย แต่ก็ไม่แปลกหรอก เผื่อว่าคนมันชอบกีฬาจะไปจำกัดความแค่ตาเปล่าตัดสินคนเพียงภายนอกคงเป็นตรรกะที่ย่ำแย่พอดู เพราะเขาเองก็ชอบซื้อของร้านเลขเจ็ดแต่แอบไปเหล่ลูกจ้างขายของชำแถวหน้าบริษัทอยู่บ่อยๆ นี่มันเปรียบเทียบกันได้ยังไงวะ
“แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว ผมเอามาคืน” พายล้วงกระดาษเช็ควางบนโต๊ะตัวเตี้ย
“ทำไมล่ะครับ พายติดหนี้บอลเลยนะ ไม่กลัวโดนเขาทวงอย่างตามที่เป็นข่าวเหรอ”
เด็กก้มหน้าพยักเบาๆ ฟักลุกขึ้นเดิน เล่นแก้วไวน์ไปพลางๆกระทั่งวนไปอยู่ข้างหลังลูกวัวตัวน้อยของเขา หลังคอขาวๆชุ่มเหงื่อรวมไปถึงแผ่นหลัง เพราะสิ่งเหล่านั้นแนบกับเสื้อจนเห็นไปถึงไหน
ถ้ามันติดหนี้บอลจริงๆ ไม่ควรรอดมาจนถึงป่านี้ได้เลยนะ
“ผม ผมมีเงินเก็บอยู่บ้างก็เลยเอาไปใช้คืนเขาก่อนครับ”
ประโยคนี้ทำเขาอ๋อในใจ ฟักโน้มตัวลงใกล้ไหล่ที่เล็กกว่าเขาค่อนข้างมาก หน้าตาพอมีกินอยู่ เขาจะทำเป็นว่าเชื่อๆในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังอ้างมาก็แล้วกัน
“ปรึกษาใครบ้างหรือยัง…พี่ชายเรารู้หรือเปล่า?” พายส่ายหน้าเป็นคำตอบ “แล้วทำไมพายถึงคืนพี่?” เขาชี้ไปที่เช็คกระดาษตรงหน้า
“ผมไม่อยากหลอก พี่พัช ครับ…”
“ทำไมครับ มันเสี่ยงนะ หลอกพี่แปบเดียว ถ้าพายไม่บอกพี่ก็ไม่รู้หรอก ถูกมั้ย”
เขาไม่ได้แสดงท่าทางว่าโกรธแค้นเจ้าหนูนี่สักนิด พูดสีหน้าท่าทางร่าเริงกว่าปกติด้วยซ้ำ พายอยู่ในอารมณ์เครียดอย่างเห็นได้ชัด ฟักรู้ แต่เขาก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจจากเดิม ยังไงซะเขาเองได้เด็กไปแล้วรอบนึง ทว่าจะเรียกเป็นรอบก็กระไรในเมื่อตอนนั้นยังไม่เสร็จซะด้วยสิ หรือจะหลอกเอาอีกรอบดี
อ่า มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วสินะ
พายยังคงเป็นเพื่อนกับความเงียบ ฟักไม่เชิงลวนลามทางสายตา เด็กแค่น่ามองไปหน่อยเอง
ถึงฟักจะเพิ่งเล่นกับชะนีไปแต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคเลย
“มีอะไรอยากพูดอีกหรือเปล่า”
“พี่ พ พี่พัช มีอะไรกับ…เธอ…แล้วใช่มั้ย…ครับ…”
“ก็ จะว่าไงดีล่ะ” เขาแสร้งยิ้มนิดๆพูดเสียงขบขัน “ก็อย่างที่บอกว่าเธอน่ารัก”
ค่อนข้างเป็นชะนีแปลกจริต นึกแล้วขนลุกขนพอง ยี้ยี้ยี้
ถ้าไม่ติดว่ามีเด็กอยู่ เขาคงเข้าคอร์สล้างผิวกำพร้าไปแล้ว อาบด้วยน้ำมนต์ยิ่งดี
พายเบนหน้าหนีราวกับทนไม่ได้ฟังไม่อยากและทำท่าจะลุกขึ้นหนี ฟักกดไหล่ไว้บังคับให้นั่งลงอย่างเดิมแม้การกระทำเขาจะดูนุ่มนวลแต่มันน่าจะเจ็บถึงใจของอีกฝ่ายใช่ย่อย เรื่องอะไรเล่า กลับตอนนี้น่าเสียดายแย่ เขาลูบฝ่ามือไปตามสันหลังถึงช่วงไหล่ด้านหน้าเพื่อหยอกเย้าเด็กเล่นๆ
รอบนี้มาถึงถิ่นเสือ มีหรือจะปล่อยเนื้อนุ่มๆน่าเคี้ยวน่าแดกไปง่ายๆน่ะ
“และน้องพายก็ยังไม่ตอบเรื่องที่แอบตามพี่มาด้วยนะ”
กระซิบเบาข้างหูที่กำลังแดงช้าๆ
“ครับ ว่าไง ตอบพี่สิ”
ใช้มือข้างที่ว่างประคองไล้แก้มเนียนแผ่วเบา แกล้งขบใบหูรวมไปถึงกดจมูกลงหลังคอ เด็กอ้าปากพะงาบๆ เสียงหายไปในลำคอ กว่าจะพูดออกมาได้แต่ละทีบากลำบาก
ตัวสั่นเป็นลูกนก
“ก็ผม…ก็ผมหึง…พี่พัชนี่ครับ”
ฟักมองก่อนจะยกแก้วไวน์ดื่มจนหมด
มารู้ตัวอีกที
ก็ตอนที่เขากำลังขึ้นคร่อมเด็กตรงหน้านี่แหละ
TBC
[17/09/2557]