ดิฉันหวังว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะเป็นบทเรียนอันเลอค่าที่จะสอนให้คุณฟักยั้งคิดตั้งสติก่อนสตาร์ท ไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ก่อนจะดับเครื่องชนชะนีที่ไหนอีก
เลิกซะไอ้นิสัยคลำไม่มีหางก็ฟาดเรียบ กรุณาคลำให้เจอหำก่อนค่อยฟาด เข้าใจนะยะ!!
เบ๊ะปากใส่รัวๆ

เรื่อง :: ไม่มีรุกแท้ในหมู่เกย์ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
ข้อ 25 : ชะนีหล่อนฟังนะ
ไม่ใช่แค่ชะนีตัวเดียว แต่เพียงหนึ่งประโยคไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถกำจัดชะนีได้เป็นเผ่า
“น้อง น้องพัชเป็นหมันเหรอคะ? ถ ถ้า งั้น”
ฟักนิ่งเงียบ เขาไม่แสดงท่าทีอื่นนอกจากความเบื่อหน่าย ยัยชะนีนี่มันมโนได้แก้วแหวนเงินทองจริงๆ ถ้าไม่ติดที่ว่าเขาเป็นคนเรียบร้อยและจิตใจดี ป่านนี้คงลงไปกระชากผมกันเข้าให้แล้วแน่ๆ
“พะ พี่ พี่พัช กะ โกหก!”
คนในบริษัทเริ่มสับสน แต่อย่างหนึ่งที่ฟักมั่นใจคือหลายๆคนเริ่มเอนเอียงมาทางเขามากขึ้นแล้ว พี่ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายน้ำขมวดคิ้วหนัก เธอไม่เริ่มสงสัยและสับสนมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อได้ฟังบวกกับภาพการแสดงออกของคุณฟักที่แลดูจะเป็น‘จริง’ขนาดนี้
ไม่ปล่อยให้ขบคิดหรือสงสัยนาน
“โอเคครับ” ฟักตั้งสติก่อนรีบพูดต่อ เขากำหนดลมหายใจเข้าออก ท่องรายชื่อผัวเก่าในใจ “เอายังงี้นะ น้องน้ำ พี่อยากให้น้ำใจเย็นๆ แล้วค่อยๆพูดจา ดีไหม?...หลังจากนั้นเมื่อน้ำดีขึ้น เดี๋ยวพี่จะพาน้ำไปโรงพยาบาลเอง…ตกลงมั้ยครับ?”
ไม่ใช่หรอก
แม้ฟักจะเป็นกุลเกย์ที่ดีราวกับผ้าที่รีดเสร็จแล้วพับไว้ในตู้ แต่ทุกอย่างที่เขาทำมันมีบางสิ่งแฝงไว้เสมอ น้ำไปหมดสำหรับสติและการควบคุมอารมณ์ เพราะอย่างนั้นถึงฟักพูดเสียงนุ่มที่สุด ปลอบประโลมโอนอ่อนตามที่สุด แต่เธอย่อมไม่เข้าใจและสติแตกลูกเดียว
“กรี๊ดดดดด ไอ้ พี่พัช! พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง! ไอ้!”
เมื่อถูกทำให้หน้าชาเข้ามากๆ น้ำทนไม่ไหว การเจรจาไม่เป็นผล เธอวิ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายเขา ฟักยอมแต่โดยดี เขาไม่ทำการอันคืนเธอเลยนอกจากแสร้งเป็นว่าตั้งหลักไม่ทันและพยายามจับแขนเธอไว้ไม่ให้ทุบตีเขาเท่านั้น
เป็นไปตามคาด
“น้ำ น้ำใจเย็นๆ นี่มันที่ทำงานนะคะ! หยุดเดียวนี้!”
หลังจากหายจากอาการช็อก คนรอบข้างจึงเริ่มเข้ามาแยกน้ำออกจากฟัก ทันทีที่เป็นอิสระ ฟักได้ยินเสียงลอยมาจากพี่คนหนึ่งในบริษัทบอกว่าให้เขาออกไปให้พ้นหน้าชะนีตนนี้ก่อนดีกว่า
ไม่ต้องบอกเขาก็อยากทำอย่างนั้นมานานแล้ว หรือไม่ต้องรอให้หัวหน้าออกมาด่าหรอก ก่อนจากมา เขาหันไปบอกเธอ เผื่อว่ามันอาจจะช่วยให้ใจเย็นขึ้น
“พี่มีใบรับรองแพทย์นะ จะดูมั้ย?”
ก็ไม่เข้าใจ ทำไมชะนีกรี๊ดหนักกว่าเดิม
ไม่นาน ฟักก็ถึงบ้าน เขาคลายเนกไทออก ก่อนจะนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง ช่วงนี้เขาใช้พลังงานเยอะไปกับเรื่องไร้สาระโดยใช่เหตุเกินไปแล้วจริงๆ ถ้าทำอย่างอื่นจะไม่ว่าเลยให้ตายสิ นี่ต้องมานั่งสู้รบกับชะนี โอ๊ย ปวดหัว
(เป็นไงบ้างวะ)
“เกือบตายเหมือนกันว่ะ” ฟักยกหูโทรศัพท์อย่างเหนื่อยอ่อน ดีที่ก่อนหน้านี้ซื้อเบอร์มาใหม่ ส่วนเบอร์เก่าคงต้องลาขาด
(แล้วมึงสดเหรอ ไอ้ห่า ผู้หญิงเขาถึงตามขนาดนี้)
“ไม่รู้ จำไม่ได้” ได้ยินประโยคก่นด่ามาจากปลายสายชนิดที่ว่าไม่เบา ฟักหัวเราะหน่อยๆ ก็มันจำไม่ได้จริงๆ จะให้ทำยังไง?
(สัด จำไม่ได้ ตอบมาได้นะมึง มึงเป็นเกย์ไม่ใช่เหรอวะ จนถึงตอนนี้กูยังงงอยู่เลย คือมึงเอาผู้หญิงเป็นด้วยเรอะ)
“กูละเมอมั้ง” อาจจะละเมอจริงๆนั่นแหละ
ไอ้นี่มันชื่อ‘ต๊อบ’ เพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาเป็นเกย์ คบกันมาตั้งแต่ประถมยันมหาลัยจนปัจจุบันก็ยังติดต่อเป็นระยะ และก็เป็นไม่กี่คนนั่นแหละที่คุยหยาบๆคายๆ แมนๆ เตะบอลกับฟัก แต่แค่อีกฝ่ายเป็นผู้ชายทั้งแท่งเกินไปหน่อย จึงดูน่าแปลกใช่ไหมล่ะ ที่ดันมาสนิทกันได้และมันก็ไม่คิดมากเรื่องพวกนี้เลยสักนิด
มันมีเหตุที่ว่าฟักเคยไปช่วยต๊อบตอนกำลังจะถูกรุมแกล้ง หลังๆมาเลยสนิทกันและหลายๆอย่างที่คอยช่วยเหลือทำให้แม้ว่ารสนิยมทางเพศจะต่างกันแต่พวกเขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไม่เปลี่ยน
ฟักเคยแอบชอบเพื่อนคนนี้ตอนประถมสี่ ทว่าหลังจากที่มีนักเรียนชายแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศเข้ามาเรียนสามอาทิตย์ ก็ทำให้ฟักรู้ว่าไอ้อารมณ์ที่เห็นว่าไอ้ต๊อบมันหล่อ เป็นเพียงแค่อารมณ์หน้ามืดแบบชั่ววูบ อาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นฝึกปรือสมาธิไม่มั่นคงพอ
ที่บ้านมันเปิดอู่ซ่อมรถ หน้าตาเถื่อนๆกับผิวแทนๆที่ถูกใจฟักไม่น้อย แต่ติดที่ว่าดันเป็นเพื่อนกัน รู้สันดานมามาก บางครั้งจึงเห็นแล้วก็กลืนไม่ค่อยจะลงเท่าไหร่ ยกเว้นพี่ชายไอ้ต๊อบ คนนั้นน่ะ ทั้งน่ารักน่ากิน แถมยังนิสัยดี ทว่าตั้งแต่พี่มันจบหมอมา เขาก็แทบไม่ค่อยได้เห็นหน้ากันอีกเนื่องจากเวลาที่ไม่ค่อยจะมี
“เออมึง ฝากขอบคุณพี่ติ๊กด้วย เรื่องใบรับรองแพทย์”
แต่ก็เพิ่งเจอไปหมาดๆนี่แหละ
ก่อนหน้านี้ ฟักไปหาต๊อบถึงอู่เพราะมีเรื่องจะปรึกษา ฟักคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจเล่าให้เพื่อนคนนี้ฟังเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของช่วงนี้ ซึ่งดูเหมือนจะไปให้มันด่ามากกว่า ทว่าอย่างน้องฟักก็เริ่มสบายใจเมื่อได้ระบายออกมาบ้าง
(แล้วเด็กมึงอะ)
แต่สิ่งที่ต๊อบมันไม่เคยรู้คือ ฟักเป็นเกย์ที่มุ่งแสวงหาผัว(มาโดยตลอด) ถึงช่วงหลังๆจะมีออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง ฟักใช่ว่าจะฉลาดทุกเรื่อง เห็นๆกันอยู่ว่าโง่ขนาดไหน แต่นานๆทีที่เขาจะจนมุมคิดอะไรไม่ออกถึงขนาดต้องเอ่ยปากเล่าให้คนอื่นฟัง
“ยังไม่ได้คุยเลย วันนี้คุยก็ไม่ทันจะรู้เรื่อง”
(มึงชอบน้องเค้ามั้ย)
ฟักนิ่งไป ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรกับอีกฝ่ายและตัวเอง
ใช่ว่าเขาจะไม่ชอบพาย เขาก็ชอบ…ในระดับหนึ่ง น่ะ
“กู ควรง้อมั้ย”
(เออ งั้นกูเปลี่ยนคำที่ใช้นะ มึงอยากเอากับน้องมันอีกมั้ย?)
ฟักกระแอมกระไอในลำคอ เขาส่ายหน้ากับภาษาที่ได้ฟังรวมไปถึงความตรงไปตรงมาเกินไปของอิต๊อบ
แต่บางทีเขาก็อิจฉาความหน้าด้านของมันอยู่เหมือนกัน
(ถ้ายังอยากเอาก็ไปง้อ แค่นั้นแหละ)
มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฟักถึงมายืนอยู่ตรงนี้
เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไง ถ้าบุกไปถึงบ้าน นอกจากอาจจะเจอพายแต่คงไม่วายเจอพีทด้วย
ถ้าเปลี่ยนเป็นอยากโดนเอาอันนี้พอจะฟังดูเข้าทีกว่าไหม
ฟักนั่งลงจิบกาแฟไปพลางๆ ทั้งๆที่เวลานี้แทบกินอะไรไม่ค่อยลื่นคอเท่าไหร่
เขาจ้างคนให้ติดตามพายพร้อมกับวานส่งของเล็กๆน้อยที่เด็กคนนั้นชอบไปให้บ่อยๆ เขาจึงรู้ทั้งพฤติกรรมและช่วงเวลาที่พายทำอยู่ อย่างเช่น เวลาประมาณนี้พายจะกลับบ้านเร็วหน่อย เด็กน้อยไม่ค่อยแวะไปที่ไหนอีกแล้วอาจเพราะใกล้จะสอบ ถึงแม้ของขวัญที่มาจากเขาจะถูกพีทเขี่ยทิ้งลงถังขยะแทบทุกครั้ง แต่ฟักก็ไม่ยอมแพ้
‘ให้น้องพาย’
ฟักเขียนการ์ดเองแทบทุกใบ เขาหมดกับการทำเรื่องไร้สาระนี้ไปมากพอสมควร แต่มันเป็นความสมัครใจเชิงบีบบังคับตัวเองนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าไม่ลำบากมาก
มีครั้งหนึ่ง เขาลองไปให้ด้วยตัวเอง หลังจากวางขนมไว้ เขาก็ลองหามุมแอบอยู่สักพัก จังหวะที่พายกลับมาพอดี แวบหนึ่งเขาเห็นรอยยิ้มเล็กๆจากแด็กนั่นด้วย
แสดงว่าก็ยังพอมีหวัง
แน่ล่ะ มีอยู่แล้ว
พายชอบเขา ทำไมฟักจะไม่รู้ แต่สิ่งที่ถูกกระทำทำให้มีช่องว่างระหว่างความรู้สึก จะกลับมาผูกกันใหม่คงยากไป
ทำไมต้องทำขนาดนี้ แค่เด็กคนเดียว ทิ้งไปซะให้จบๆแล้วไปหาคนใหม่ง่ายกว่าไหม
ทำไมน่ะเหรอ
ก็บอกไม่ถูก
ถ้าเดาไม่ผิด เขาว่าวันนี้พายน่าจะมานั่งอ่านหนังสือที่นี้ เพราะไม่นาน หลังๆเจ้าเด็กคนนี้เริ่มเปลี่ยนเส้นทางจากแต่ที่จะกลับบ้านลูกเดียว ตอนนี้เริ่มแวะที่อื่นบ้างแล้ว และถ้านับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอหน้ากันเรียกได้ว่าเป็นอาทิตย์ๆ พายจึงอาจคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอเขาที่นี่
และเป็นโชคดี เมื่อสิ่งที่หวังไว้ดันเป็นจริงขึ้นมา
เด็กชุดนักเรียน ในมือกำลังถือหนังสือ ผมพายยาวขึ้นมาก แถมหน้าตายังดูเหมือนคนอดนอน ความอิดโรยแสดงชัดเจนจนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ ฟักเดินเข้าไปหาพายอย่างไม่รอช้า ทันทีที่เห็น พายดูตกใจมาก แต่เขาก็ประชิดถึงตัวได้ทัน
“พาย”
“พี่เลิกส่งของไปบ้านผมได้แล้วนะ”
ประโยคแรกที่ทักทาย พายถอยหลังก่อนบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“ทำไมล่ะ พี่ก็เห็นว่าพายชอบมันออกนะ” ฟักถือคติด้านได้อายอด เขายิ้มบางๆ ก่อนทำมือเชื้อเชิญให้พายนั่งลง “ดื่มอะไรมั้ย พี่เลี้ยง”
“ไม่ครับ”
“ไม่เป็นไรครับ”
ไม่เชิงกดดัน แต่ฟักแย่งหนังสือในมือพายไปก่อนจะมองอีกฝ่ายเป็นการเชิญให้นั่งอีกครั้ง พายถอนหายใจอย่างไม่พอใจนัก แต่สุดท้ายก็ยอมนั่งลงโดยดี เขาลอบสังเกตอีกฝ่าย พายดูโตขึ้นหรือเปล่า แถมยังตัวสูงขึ้นสักสองสามเซนได้ ถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง
“ขอเอสเปรสโซ่แก้วนึงนะครับแล้วก็เค้กวนิลาชิ้นนึง”
พายชะงัก อ้อ ใช่ ฟักจำได้ลางๆว่าครั้งแรกที่เจอ พายชอบสั่งเครื่องดื่มอะไร แน่นอน อาจสร้างความหวั่นไหวให้เด็กน้อยของเขาได้ อะไรที่พอจะทำให้ใจอ่อน ฟักเก็บมาใช้ไม่เหลือ
“ขอหนังสือผมคืนด้วยครับ”
“จะสอบแล้วเหรอครับ”
“ครับ”
“มีอะไรถามพี่ได้นะ”
“ขอบคุณครับ”
ฟักทำเป็นไม่สนใจสีหน้าบึ้งตึงของพาย ฟักแอบอมยิ้มด้วยซ้ำที่พายพยายามทำเป็นใจแข็งโกรธเขา ฟักยังไม่ส่งหนังสือคืนไป เขาแกล้งเปิดอ่านมัน แล้วพูดถึงเนื้อหาที่พายน่าจะอ่านไว้ๆ แต่ที่แน่ๆจุดประสงค์ฟักเพียงต้องการยื้อตัวอีกฝ่ายไว้นานๆ
“พี่ลาออกจากงานแล้วนะ”
เป็นอีกครั้งที่พายชะงัก เด็กน้อยเสหน้าหนีไปอีกทาง
“บอกผมทำไม”
“อยากให้รู้เฉยๆ”
ไม่ต้องห่วง ฟักมีงานรองรับอยู่แล้ว แต่ที่เขาเปลี่ยนงาน แน่นอนปัญหาคือน้ำ เรื่องในวันนั้นเขาเรียกได้ว่าหลบหน้าเธอก็ไม่เชิง เห็นว่าเธอตามหาฟักให้วุ่น เขาแค่ไม่อยากเจอเดี๋ยวจะเป็นเรื่องราวขึ้นมาอีก ฟักโทรหาหัวหน้าและขอนัดเจอก่อนจะเข้าไปขอโทษโดยตรง ส่วนน้ำแค่ถูกตักเตือนเฉยๆ เธอถูกพักงานไปสักพัก แต่ไม่ได้ถูกเชิญออก ซึ่งต่อไปนี้ก็แล้วแต่ว่าจะอยู่ทนต่อเสียงรอบข้างไหวไหม ฟักไม่แปลกใจ น้ำอาจจะมีเส้นจริงๆอย่างที่คิดไว้ เพราะเรื่องที่เธออาละวาดมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
“เค้กอร่อยนะ ไม่กินเหรอครับ” ฟักตักเค้กเข้าปาก ก่อนจะตักอีกคำยื่นไปทางพายเล็กน้อย
“พี่พัชมีอะไรก็พูดมาดีกว่าครับ” อีกฝ่ายปฏิเสธหน้างอ
“ในที่สุดก็มองหน้าพี่สักที” ฟักยิ้ม “ไม่เอาน่า อย่าหลบตาพี่สิครับ” เขาหยอก แม้รู้ดีว่าเวลานี้พายกำลังโกรธอยู่ขนาดไหน การไปกระตุกอารมณ์ตอนนี้อาจจะไม่เกิดผลดี
“พี่พัชมีอะไรครับ สักทีเถอะ ไม่งั้นผมจะได้กลับ พรุ่งนี้ผมมีสอบ”
“โอเคครับโอเค พี่แค่อยากมาขอโทษพาย”
ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่เป็นปมปัญหาที่ค้างอยู่ในใจทั้งคู่ ฟักไม่ชอบแบบนี้เลย เขารู้สึกไม่เป็นตัวเองสักนิด ถึงยังไงก็ตาม เขาแค่อยากมาเจอพายเฉยๆมั้ง
พายเงียบ ฟักอยากเอื้อมมือไปจับมืออีกฝ่ายไว้ เวลาพูดอาจจะได้สื่อสารกันง่ายมากขึ้น อย่างน้อยภาษากายอาจช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับเวลานี้คงยาก พายนั่งตัวตรงกอดอกไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ทำอะไรง่ายๆ ความเงียบระหว่างฟักกับพายเกิดขึ้นนานเกือบห้านาที เอสเปรสโซ่ที่สั่งให้เด็กตรงหน้าไม่พร่องลงเลยเพราะพายแทบไม่แตะ
“…พาย…” กระทั่งเขาตัดสินใจ เอื้อมมือช้าๆไปแตะบนฝ่ามือของเด็กชุดนักเรียน “พี่ไม่เคยโกรธพายเลยนะ และพี่ก็หวังลึกๆว่าพายจะไม่โกรธพี่เหมือนกัน มันพอจะมีโอกาสมั้ยครับ…?” ฟักลอบถอนหายใจ นี่มันไม่ใช่ตัวเขาสักนิด เสแสร้งชัดๆ
พายตัวสั่น สีหน้าเคร่งเครียดและกำลังสับสนไม่ต่างกัน
ฟักบีบเบาๆที่หลังมือพาย
หัวใจเขาเต้นเร็วขึ้น ต่างจากภายนอกที่ต้องพยายามแสดงออกว่านุ่มนวล พายกำลังใจอ่อน นั่นคือสิ่งที่ฟักกำลังลุ้นอยู่
เกือบสำเร็จแล้ว
“พี่พัช!”
ถ้าไม่ติดที่ว่ามีเสียงตวาดแว้ดหนึ่งเรียกชื่อเขา
“…น้ำ?!”
ดวงตาฟักเบิกกว้างเมื่อเห็นเธอ อดทึ่งไม่ได้ นี่เธอตามหาเขาเจอได้ยังไงกัน ฟักได้แต่สบถ เขาไม่อยากเชื่อว่าจะถูกตามขนาดนี้ พายรีบปัดมือฟักออก เด็กน้อยหยิบหนังสือแล้วลุกขึ้น ฟักละความสนใจจากหญิงสาวแล้วรีบคว้าแขนพายไว้ ให้ตาย ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี ทำไมต้องมีอะไรมาขัดตอนนี้ด้วยวะ
“พ พาย พายเดี๋ยว”
“พอเหอะพี่” พายว่าเสียงสั่น ทำเอาคนฟังใจอ่อนยวบ
น้ำเข้ามากระชากแขนฟัก พายเดินหนีออกไป ฟักสะบัดมือน้ำแล้ววางเงินลงก่อนจะวิ่งออกไปจากร้าน
“พาย พาย พายเดี๋ยวก่อน ฟังพี่ก่อน!”
ฟักวิ่งตามไปอย่างไม่ลดละกระทั่งขายาวๆของเขาก้าวตามทัน ฟักรีบฉุดแขนพายไว้ก่อนดึงให้อีกฝ่ายหันฟน้ามา พายเหมือนจะร้องไห้และสีหน้าแสดงออกชัดเจนว่ากำลังแย่ หน้าอกฟักเจ็บแปลบแปลกๆ หรือว่าอายุที่มากขึ้นจะส่งผลให้เขามีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ พายพยายามดึงตัวเองออก เขาแทบอยากจะกอดพายไว้โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
“พี่พัช พี่คิดว่าจะหนีพ้นเหรอ!?”
น้ำตามมา เธอกระชากแขนฟักอีกครั้ง คราวนี้เขาได้เห็นพายร้องไห้สมใจแล้ว
“น้ำ น้ำเลิกตามพี่สักทีได้มั้ย!”
ไม่บ่อยนักที่ฟักจะขึ้นเสียงใส่คนอื่น ฟักหันไปตวาดใส่น้ำ แต่มือเขาเองก็จับแขนพายแน่นราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีไป แม้รู้ว่าที่ทำอยู่มันเห็นแก่ตัว น้ำไม่รู้ความสัมพันธ์ของเขากับพาย แน่นอน เธอไม่รู้หรอก เธออาจะไม่เห็นคนอื่นเลยด้วยซ้ำนอกจากต้องการคุยกับเขาเพียงคนเดียว
“ก็ น้ำรัก พ พี่พัช!”
“แต่พี่ไม่ได้รักน้ำ เข้าใจมั้ยครับ?”
“คนที่พี่ชอบ คือเขา”
ฟักชูมือที่จับแขนพายไว้ เขาสบตาแดงก่ำของเธอ
“เข้าใจหรือยัง?”
และเป็นครั้งแรกจริงๆที่ฟักพูดเรื่องบ้าบอแบบนี้ออกไป
“ว่าต้องเป็นเขาคนเดียว”
TBC
[01/02/2558]