ที่พิมพ์ไว้หาย อิอิ อีกรอบ
][GobGab][
หมูพูห์ ได้ข่าวมาอีกแล้วนิน่า ขอบคุณมากๆเลยครับที่เข้ามาให้กำลังใจผมอยู่ตลอด
GoneOn หายไปไหนหวา
มูมู่น้อย แอบฝันว่าอยากมีซะคนรึป่าว หาเอานะแถวห้องสีชมพู เอิ้กๆ
***********************************************************************************************
อยากหลับฝัน
แพท สุธาสินี พุทธินันทน์
[wma=300,50]http://mywebpage.netscape.com/blueberrycpie/Pat+Suthasinee+-+02.wma[/wma]******************************************************************************************
บทที่ 5 ตำแหน่งเลขาที่มาพร้อมกับหัวใจ
............................................ณ เมืองพิมานเหนือธารแม่ปิง
............................................อิงแอบภูพิงค์พนาสวรรค์
............................................ฉายเวียงเชียงใหม่ สดใสดังดวงตะวัน
............................................ประทีปสวรรค์ แสงแห่งการศึกษา
............................................ทุกคนภาคเพียรสอนเรียนสุขในใจ
............................................ไปสู่จุดหมายด้วยใจศรัทธา
............................................เพื่อตนเพื่อชาติ เพื่อแคว้นดินแดนลานนา
............................................นี่คือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
(ประทีปลานนา....เพลงประจำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่)
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.........บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ สถานที่ประดิษฐานพระบรมธาตุดอยสุเทพ ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และสำคัญต่อเมืองเชียงใหม่เพราะเป็นที่มั่นของความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาของคนทั่วไป
ด้วยความศรัทธาที่เต็มเปี่ยมในดวงใจของลุกช้างรุ่นแรกๆ ภายหลังจากก่อตั้งมหาวิทยาลัย จึงได้ริเริ่มชวนกันเดินขึ้นดอยไปนมัสการพระบรมธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคลและขอพรให้ประสบความสำเร็จทางการศึกษา
หลังจากนั้นเป็นต้นมาได้มีการสืบทอดกิจกรรมนี้เนื่องมาทุกปี จนกลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กิจกรรมเดินขึ้นดอยสุเทพ หรือ ที่เรียกว่า “ลูกช้างขึ้นดอย” จะจัดขึ้นทุกปีก่อนสอบกลางภาค โดยมีนักศึกษาปัจจุบันเข้าร่วมพิธี รวมถึงบรรดารุ่นพี่ที่จบการศึกษาแล้วพากันกลับมาร่วมกิจกรรมกับรุ่นน้องหรือไม่ก็กลับมาเยือนมหาวิทยาลัย.....บ้านที่จากไปนานอีกครั้ง
การเดินเท้าของนักศึกษาทุกคณะรวมทั้งสิ้นเกือบหมื่นคน เริ่มแต่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยจนกระทั่งหยุดลงที่บริเวณหน้าพระธาตุเป็นระยะทางกว่า17 กิโลเมตร จำเป็นต้องใช้ความสามัคคี.... ความอดทน....มิตรภาพ....และ พลังกายรมถึงแรงใจอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้การเดินทางบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
การเดินขึ้นดอยของคณะวิทยาศาสตร์เป็นไปด้วยความยากลำบากและเน้นการดูแลจัดการมากเป็นกรณีพิเศษ เพราะเป็นคณะใหญ่ มีนักศึกษามากกว่าสองพันคน ภูผาและเพื่อนๆรวมถึงพี่ๆทุกชั้นปีจึงต้องพยายามช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันเพื่อให้การเดินทางแห่งความเพียรและมิตรภาพประสบความสำเร็จ
บ่อยครั้งที่เพื่อนผู้หญิงหลายคนเป็นลมหรือไม่สบาย ก็จะมีเพื่อนทั้งชายและหญิงหรือรุ่นพี่ที่เดินขนาบข้างคอยให้ความช่วยเหลือ ทำการปฐมพยาบาลอย่างทันท่วงที .......ภาพที่เกิดขึ้นสามารถถ่ายทอดความห่วงใย....ความรัก....และความงดงามของเพื่อนต่อเพื่อน...และพี่ต่อน้องได้ชัดเจน อีกทั้งยังตราตรึงเข้าไปในหัวใจของภูผา
ดังถ้อยคำที่ว่า....เกียรติศักดิ์ของวิทยา....คือเกียรติแห่งรัก.....คือเกียรติแห่งมิตรภาพที่ยั่งยืน......
หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมเดินขึ้นดอยแล้ว นักศึกษาทุกชั้นปีก็ต้องเตรียมตัวที่จะสอบกลางภาคในอีกหนึ่งเดือนถัดมา โดยที่ช่วงสองสัปดาห์ก่อนสอบกลางภาคเรียนที่หนึ่งนั้นถือเป็นเวลาที่เคร่งเครียดสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เกือบทุกคน เนื่องจากต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ และด้วยความที่ข้อสอบนั้นจะแตกต่างจากการสอบในสมัยมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นอย่างมาก ประกอบกับหลายๆวิชามักจะใช้ข้อสอบอธิบายเป็นหลัก จึงทำให้นักศึกษาต้องอ่านหนังสือหลายรอบเพื่อที่จะสามารถตอบอธิบายหลักการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับคำถามในข้อสอบได้
ดังนั้นยามค่ำคืนทั่วมหาวิทยาลัย.......ม้าหินอ่อนใต้หอทุกหอรวมถึงภายในอาคารเรียนคณะต่างๆ จะถูกจับจองโดยนักศึกษาเป็นกลุ่มๆ เพื่อนั่งอ่านหนังสือและติวหนังสือร่วมกัน สำหรับเด็กเอ็นทรานส์ที่มาจากต่างจังหวัดด้วยแล้ว การเข้ากลุ่มติวหนังสือกับเพื่อนๆนั้นอาจจะเกิดปัญหาอยู่บ้าง เพราะเด็กเกือบครึ่งคณะเป็นเด็กโควตาที่จบมาจากโรงเรียนในเขตภาคเหนือ ซึ่งพบว่า บ้างก็ยกกลุ่มจากโรงเรียนเดิมเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดังนั้นพวกนี้จึงสนิทสนมกันก่อนแล้ว
ภูผาไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเข้ากลุ่มเพราะเขาก็สนิทกับกลุ่มเด็กที่เอนทรานส์เข้ามาด้วยกัน บ่อยครั้งที่คิมและเปียโนสองคู่ซี้ชื่อดังแห่งคณะวิทย์ รวมถึงเพื่อนในกลุ่มต่างออกปากชวนภูผาไปติวหนังสือด้วยกันซึ่งภูผาก็มิเคยตอบปฏิเสธแต่อย่างใด
ทุกครั้งหลังจากที่ติวหนังสือเสร็จ ภูผาจะกลับมาอ่านหนังสือทบทวนอีกรอบในห้องพักตนเอง และก็เพื่อจะรอนอนพร้อมกับฟ้าลั่นนั่นเอง
เพราะระบบโซตัสของคณะวิศวกรรมศาสตร์ทำให้ฟ้าลั่นต้องอยู่รวมกับเพื่อนเป็นกลุ่ม และช่วยติวหนังสือสอบให้เพื่อนๆหลายคน พอหลังจากติวให้เพื่อนเสร็จแล้ว เขาก็กลับมานั่งอ่านหนังสือต่อในห้องกับภูผา.....หมอนข้างหน้าหวานของเค้าเสมอ
“อ่านอะไรอยู่หรือหมอก” ฟ้าลั่นเปิดประตูห้องเดินเข้ามา พลางส่งคำถาม หลังจากเพิ่งกลับมาจากติวหนังสือให้เพื่อน
“แคลคูลัส .....วิชาอะไรก็ไม่รู้ยากมากๆ ยิ่งไม่เคยเรียนมาด้วย.....งงจริงๆ” ภูผาเอ่ยปากบ่นทันที
“อ้าว แล้วไม่ได้เรียนมาตอนมอหกเหรอ.......อ๋อ ลืมไปว่านายสอบเทียบเลยไม่ได้เรียน.....ไหนดูหน่อยซิ.....เดี๋ยวจะสอนให้” ฟ้าลั่นเสนอตัวพร้อมกับหันไปมองหน้าหมอนข้างพูดได้ของตนเอง เขาจึงได้เห็นแววตาดีใจที่เปล่งประกายออกมารวมถึงรอยยิ้มหวานที่แถมมาให้อีก
ฟ้าลั่นอธิบายหลักการคร่าวๆในหัวข้อที่ภูผาไม่เข้าใจเพียงไม่กี่นาที เขาก็พบว่าภูผาสามารถต่อยอดและทำแบบฝึกหัดทบทวนต่อไปได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จนกระทั่งเขาต้องออกปากชมว่า
“เก่งจังหมอก เราอธิบายนิดเดียว นายก็ทำได้แล้ว”
“แหม....... ชั้นนี้แล้วครับ คุณฟ้าลั่น แค่นี้ทำไม่ได้ก็ไม่ใช่นายภูผาผู้น่ารักแล้ว” คำพูดและท่าทางภูมิใจตนเองของภูผาซึ่งคล้ายกับเด็กๆยามถูกผู้ใหญ่ชมเชย ทำให้ฟ้าลั่นหัวเราะออกมาเบาๆ......บุคลิกแบบนี้เองของภูผา ทำให้ฟ้าลั่นอดคิดไม่ได้ว่าเค้าคงได้น้องชายตัวเล็กๆหน้าตาน่ารักมาอยู่ข้างกายจริงๆ
ฟ้าลั่นเดินหยิบหนังสือมาอ่านบนโต๊ะของตนเองที่ติดกับภูผา ด้วยความที่อยากเรียกร้องความสนใจจากภูผาบ้าง เขาจึงทำเป็นไม่เข้าใจวิชาภาษาอังกฤษที่ตนเองอ่านอยู่
“หมอก ดูหน่อยซิ ว่าข้อนี้ทำไมต้องใช้ present prefect continuous ล่ะ”
ภูผาเงยหน้าจากแบบฝึกหัดแคลคูลัส หันมามองหนังสือที่ฟ้าลั่นยืนมาให้ดู
“อืม...... ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่อ่านแล้วมันต้องใช้ tense นี้อ่ะ” ภูผาตอบตามที่ใจคิด
“อ้าว..... ทำไมอธิบายไม่ได้ล่ะ เห็นไปเรียนอังกฤษตั้งสองปี” ฟ้าลั่นแกล้งทำเป็นสงสัย
“ก็อ่านแล้วมันต้องใช้แบบนี้น่ะ...... อธิบายไม่ได้อ่ะ” คนตอบกำลังหงุดหงิด เพราะไม่สามารถให้คำอธิบายได้กระจ่างชัดนัก ด้วยความที่ตนเองเรียนภาษาอังกฤษโดยผ่านการใช้งานจริงขณะที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนใน High School ที่ประเทศอังกฤษ จึงทำให้ไม่สามารถอธิบายหลักไวยากรณ์ได้อย่างแม่นยำนัก
“ก็เพราะมันใช้ในกรณีที่เหตุการณ์เกิดอย่างต่อเนื่องในอดีตแล้วยังคงดำเนินต่อจนกระทั่งบัดนี้น่ะซิ.....แค่นี้ก็ตอบไม่ได้” คนที่แกล้งถามกลับอดไม่ได้ที่ตอบคำถามตนเสียเอง
“เอ๊ะ......นายรู้แล้วมาถามทำมัย......แกล้งเราเหรอ.......ไอ้ฟ้าลั่นบ้า..................ดีงั้นคืนนี้ไม่ต้องมากอดเลย นอนคนเดียวไปแล้วกัน” หนุ่มหน้าหวานกล่าวอย่างงอนๆ พลางก้มหน้าตั้งใจอ่านหนังสือของตน
“โอ๋....โอ๋....อย่างอนเลยนะหมอกน๊า....... น้องหมอกคนดี........เราไม่อยากนอนคนเดียวอ่ะ” ฟ้าลั่นเริ่มง้อ พร้อมกับลุกจากเก้าอี้มายืนข้างหลังภูผา ก่อนเอาคางวางบนศีรษะแล้วก็กอดหมอนข้างพูดได้ของเขา ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นน้องชายเขาจริงๆเข้าเสียแล้ว
“ปล่อยๆ ปล่อยได้แล้ว” เจ้าตัวดีร้องบอก พลางแกะมือฟ้าลั่นออกจากตัว
“เดี๋ยวใครเห็นเค้าก็คิดว่าเรากับนายมีอะไรกันพอดี...... ไม่ได้นะ เราก็อดมีแฟนซิ......ม่ายเอา.....อย่ามากอดเค้าซิ.......” ภูผาส่ายศีรษะไปมา พร้อมกับเคียงคอส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้ฟ้าลั่นที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา เนื่องจากต่างฝ่ายยังอยากจะมีแฟนด้วยกันทั้งคู่
ช่วงสัปดาห์สอบกลางภาคผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาฟ้าลั่นและภูผาก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ จนหลายๆคนเห็นเป็นภาพชินตา เมื่อเห็นฟ้าลั่นก็ต้องเห็นภูผา เมื่อเห็นภูผาก็ต้องเห็นฟ้าลั่น......แม้หลายคนจะสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ก็คิดไปว่าทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันเท่านั้น
สองสัปดาห์หลังจากการสอบกลางภาคเป็นเวลาของเสียงหัวเราะและน้ำตา เนื่องจากจากมีการประกาศคะแนนสอบ .......ที่เรียกว่าเวลาแห่งเสียงหัวเราะก็สำหรับพวกที่ได้คะแนนผ่าน mean แน่นอนว่ารวมภูผาและฟ้าลั่นเข้าไปด้วย ..........และที่เรียกว่าเวลาน้ำตา เพราะหลายคนที่ต้องผจญภัยใต้ mean ยิ่งดำลึกมาก หมายความว่าตก mean มากๆ ก็จะร้องไห้มากกว่าธรรมดา........
ศิวะติดตามดูคะแนนสอบของภูผามาตลอด ก็รู้สึกประทับใจกับคะแนนที่ภูผาได้ในระดับเกือบท๊อปทุกวิชา รวมถึงประทับใจในอัธยาศัยที่เสมอต้นเสมอปลายของภูผา.....สำหรับศิวะแล้ว...ภูผาน่ารักสำหรับหัวใจเขาเสมอ
เมื่อศิวะทราบว่าภูผาเป็นเด็กเรียนเก่ง เขาจึงมีความคิดที่จะชวนให้ภูผามาทำงานสโมสร และเพื่อให้ตนเองได้มีโอกาสใกล้ชิดภูผามากขึ้น โดยที่สักวัน....เขาอาจจะได้เป็นคนครอบครอง...หัวใจที่งดงามของภูผาดวงนี้
เย็นวันหนึ่ง หลังเลิกเรียนวิชาเคมี..... ภูผาเดินผ่านสโมสรนักศึกษาที่อยู่ชั้นล่างของตึก เมื่อศิวะที่นั่งทำงานอยู่ในสโมสรเห็นภูผาจึงรีบเดินเข้ามาคุยด้วยทันที
“น้องหมอกครับ” ศิวะเรียกเบาๆ
“น้องหมอกมีเวลาว่างให้พี่มั้ยครับ”
“ครับ พี่เสือมีอะไรหรือเปล่าครับ” ภูผาถามพร้อมส่งยิ้มให้
“คือพี่อยากให้น้องหมอกมาเป็นเลขาสโมสรน่ะครับ เนื่องจากเลขาพี่คนเก่าเค้าประสบอุบัติเหตุทางการศึกษาน่ะครับ” ศิวะพูดต่อ แต่แล้วก็ต้องยิ้มออกมาเพราะคนฟังกำลังทำคิ้วผูกโบว์เพราะความสงสัย
“ก็ประสบอุบัติเหตุทางการศึกษา ก็คือ โดนรีไทร์งัยครับน้องหมอก”
“อ๋อ.......” ภูผาลากเสียงยาวแสดงความเข้าใจ
“ทำไมถึงเลือกผมละครับ รุ่นพี่คนอื่นก็มีตั้งเยอะไม่ใช่หรือครับ” ภูผาถามด้วยความแปลกใจ
“ก็พี่อยากให้น้องหมอกมาช่วยงานพี่นี่ครับ” ศิวะยังคงยึดวัตถุประสงค์เดิม
“พี่แค่อยากให้น้องหมอกมาอยู่ใกล้ๆพี่ มาทำงานกับพี่นี่ครับ” ศิวะพูดต่อเบาๆอย่างอายๆ เนื่องจากยังเห็นภูผาแสดงทีท่าสงสัยอยู่
ในที่สุด....ศิวะก็รวบรวมความกล้าครั้งสุดท้าย กระซิบเบาๆกับภูผา
“พี่ชอบน้องหมอกครับ..... อยากให้น้องหมอกมาอยู่ใกล้ๆพี่นี่ครับ” ศิวะพูดออกไปด้วยความยากลำบาก เพราะไม่เคยเป็นฝ่ายบอกความในใจของตนแก่คนอื่นๆ เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีสาวๆหรือหนุ่มๆรุ่นน้องมาบอกรักตนเองก่อนเสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่ตนเองตัดสินใจพรั่งพรูความในใจออกมาก่อน แถมยังต้องบอกกับผู้ชายเสียอีก งานนี้จึงเป็นงานที่ค่อนข้างยากสำหรับตัวเขาที่สุด
หลังจากได้ยินศิวะกล่าวมาตามตรง ก็ทำให้ภูผาตกใจและประหลาดใจอย่างมาก เพราะไม่เคยคิดว่าพี่เสือผู้ใจดีและอ่อนโยนจะมาหลงรักตน เนื่องจากได้ข่าวว่าพี่เสือหรือศิวะมีแฟนหลายคนมาก
แม้ภูผาจะยังรู้สึกยังสับสน เพราะส่วนหนึ่งก็ประทับใจในความอ่อนโยนของพี่เสือ แต่ก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าเขาชอบศิวะหรือไม่
“เอาเป็นว่าผมยินดีช่วยงานพี่เสือครับ”
“แต่หัวใจของผม.....มันอาจจะยังไม่มีใครในตอนนี้ .....แต่ก็ให้โอกาสคนที่จะมาคว้ามันไปเสมอครับ” คำตอบที่กลั่นกรองออกมาจากจิตใจของภูผา ทำให้ศิวะโล่งอกและยิ้มออกมา เนื่องจากกลัวว่าภูผาจะโกรธหรือบอกปฎิเสธเพราะว่าตนเองมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ซึ่งศิวะหมายถึงฟ้าลั่นนั่นเอง เนื่องจากเห็นสองคนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ
“พี่จะพยายามครับ” ศิวะกล่าวตอบอย่างหนักแน่น พร้อมรอยยิ้มกว้าง และถือโอกาสเดินเข้ามาโอบไหล่ภูผาเบาๆ
หัวใจดวงน้อย.....เฝ้าคอยใฝ่หา....
รักแท้เติมเต็ม....นำพา.....
บรรจุอุรา...ให้อิ่มใจ.....
จะใช่คนที่ฝันถึงหรือไม่....ใคร่จะรู้
ได้แต่เฝ้าถามดู...ดาราเอ๋ย....
จันทร์เจ้ากลับบอกแทน....เป็นคำเปรย....
ว่าเจ้าเอย....เจ้าจะพบรักแท้......ในเร็ววัน......