ตอนที่ 9
“ช่วงนี้มึงติดใจอะไรปลาโลมาปะวะ”
สก๊อตมองยางรัดผมสีน้ำเงินที่มีปลาโลมาตัวเล็กห้อยอยู่ด้วยบนหัวของเต็งหนึ่งแล้วมันขัดใจแปลกๆ
“เออ ซื้อมาแพคใหม่”
“กูว่ามันไม่เข้ากับมึงเลยเพื่อน”
“กูว่ามันก็แปลกดี อยู่บนหัวไอ้หนึ่งยิ่งแปลก”
ก็ไม่ขนาดมองเห็น แต่พอระยะสายตาก็ชัดเจน
“เชี่ย เลิกยุ่งกับปลาโลมากูน่า”
“ฮ่าๆ ตลกว่ะ แต่ผมมึงยาวละเนี่ย จะตัดปะวะหรือจะยาวเลย”
“คงยาวเลยมั้ง หนังยางใหม่ๆจะได้ใช้นานๆ”
“งกชิบหายเส้นละกี่บาทไอ้สัส ตลาดนัดมอเราก็มีขาย กูให้เต็มที่ห้าสิบเลย แพงปลาโลมามึงเนี่ย”
คันปากยิบๆอยากจะสวนว่าหน้าแบบไอ้เอกมันใช้ของตลาดนัดรึไงล่ะ
หนังยางธรรมดาจากห้างที่บังเอิญจัดงานอัญมณี ซึ่งถ้าดูดีๆไอ้ตาปลาโลมามีพลอยสีดำติดอยู่….
“แดกข้าวโรงอาหารกัน”
เปลี่ยนเรื่อง…
“เออไปๆ”
ช่วงนี้เต็งหนึ่งกลับห้องช้ามาก บางวันก็ตีหนึ่งตีสองเพราะงานเปิดบ้านมหาลัยใกล้เข้ามาทุกที วันแข่งฟอมูล่าก็เหมือนกัน อาจารย์เลยให้โชว์ฟอมูล่าที่งานมหาลัยด้วยเลย ทีมทำรถสิบคนเป๊ะก็เลยต้องรุมทึ้งเครื่องยนต์กันอยู่ที่คณะจนหน้าดำทุกวัน บอลอะไรนั่นให้ชาวบ้านชาวช่องไปแข่งแทน
ร่างสูงในคราบเลอะเทอะกลับมาบ้านตอนตีหนึ่งพอดี มือถือแบตหมดหลังจากลืมชาร์จมาสองคืน…แต่เป็นเอกก็ไม่อยู่ห้อง
เดินตามหาทั่วห้องไม่เจอจึงหยิบโทรศัพท์ไร้สายขึ้นมากดโทรหา
“อือ”
“จะตีสองแล้ว อยู่ไหนน่ะมึง”
“หอประชุมกลาง”
“อะไรวะยังไม่กลับหรอ? ทำไรน่ะ”
“ซ้อม”
“ซ้อมไรล่ะ”
ไอ้นี่มันจะตอบเต็มๆไม่ได้รึไงวะ
“ซ้อมละครเวที”
“ห๊ะ? งานเปิดบ้านหรอ?”
“อือ ของสโม”
แปลกใจเล็กน้อยเพราะตอนละครเวทีที่เล่นด้วยกันตอน ม.ปลาย พวกสภานักเรียนเดินไปตื้อมันเป็นอาทิตย์กว่าจะยอมมารับบทเจ้าชายแห่งกาลเวลา
“เล่นบทไรละน่ะ คราวนี้”
“เปล่า”
“แล้วมึงไปทำอะไรวะ”
“เล่นเปียโน”
“ละครเพลงหรอ”
“อือ”
“แล้วจะกลับตอนไหน?”
“ฝนตก”
แถวนี้ไม่ตก
“หนักมั้ย”
“อือ”
ไอเดียบางอย่างแวบเข้ามาในหัว
“งั้นเดี๋ยวเอารถไปรับ”
“หนึ่ง…”
“กูเหนื่อยมาก ทำรถทั้งวัน กูไม่ได้นอนกับมึงตอนนี้กูนอนไม่หลับ ครั้งเดียวไม่ได้หรอวะ… กูปวดหัว”
“แต่…”
“กูนอนไม่ได้”
โกหก…หาเรื่องให้เป็นเอกยอมใช้รถพ่อ
“อือ”
“รอนะ”
“อือ”
ไม่รู้ว่ามันทำหน้าแบบไหน แต่ก็ตัดสินใจเปิดลิ้นชักหน้าทีวีหยิบกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินออกมาเปิด…รีโมทรถสิบกว่าคันวางเป็นระเบียนในช่องเฉพาะของตัวเอง
ตัดสินใจหยิบลัมโบกินี่ออกมา…ความอยากขับของตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง
ถนนโล่งมากทำให้รถได้แสดงศักยภาพความเร็วออกมาเต็มที่… ใช้เวลาไม่นานก็เริ่มเข้าเขตฝนตกหนักของมหาลัยจนกระทั่งมาถึงหน้าหอประชุมกลาง ไฟข้างในยังเปิดอยู่
ร่างสูงลงรถออกมา ชอปถูกถอดทิ้งไว้ที่บ้านแล้วเหลือแต่เสือยืดสีเทาคอวีกับกางเกงยีนส์และคอนเวิร์สเน่าๆคู่เดิม ลากเท้าเข้าไปในหอประชุมช้าๆ
บนเวทีกำลังซ้อมกันอยู่ ที่มุมขวาสุดของเวทีมีแกรนด์เปียโนสีดำตั้งอยู่พร้อมคนเล่นหน้าคุ้นเคย
เป็นเอกนั่งลงอยู่ข้างผู้ชายคนหนึ่ง
คิ้วเข้มขมวดเพราะผู้ชายคนนั้นส่งยิ้มและหัวเราะกับไอ้คนพูดน้อยของตัวเองที่ไม่ได้มีท่าทีรำคาญแม้แต่นิดเดียว แถมยังพยักหน้าตาม
ด้วยบางที
“ไอ้ปุ้น มาซ้อมโว้ย!!!”
เสียงคนที่กำลังคุมนักแสดงบนเวทีตะโกนดังลั่นมาทางหลังหอประชุม
“เออออออออออออออ”
ไอ้ปุ้นงัวเงียขึ้นมาจากพื้นที่พึ่งนอนแผ่หลากลับเป็นตาย สภาพผมหยักศกระต้นคอที่ไอ้แมทก็เวอร์ไปเรียกมันไอ้หัวฟู มีคาดผมสีชมพูเสยเปิดหัวเดินขึ้นไปบนเวที
เต็งหนึ่งยืนกอดอกพิงขอบประตูหอประชุมมองความวุ่นวายภายใน มีทั้งกลุ่มพวกนักศึกษาที่ดูจะอาร์ตตัวพ่อตัวแม่นั่งวาดฉากขนาดใหญ่อยู่มุมหนึ่ง อีกฝ่ายก็บรรดาสาวแท้สาวเทียมกำลังวัดตัวกัน..คงฝ่ายเสื้อผ้า
บางคนก็นั่งอ่านบท
บางคนก็นั่งหาว
บางคนหลับไปแล้ว
และบางคนกำลังนั่งคุยกับเป็นเอกไม่เลิกสักที!
คิ้วกระตุกเมื่อไอ้คนที่ว่ายกมือขึ้นปัดผมเป็นเอกแล้วลูบหัวเบาๆ ขายาวพาตัวเองก้าวไปหน้าเวทีทันที
“เอก”
ตาสวยหันมามองพร้อมใบหน้ายิ้มค้างของคนนั่งข้างๆ
“จะกลับยังอ่ะ”
“เพื่อนหรอ”
เต็งหนึ่งไม่ตอบ เป็นเอกไม่ตอบ
“เอ…หรือแฟน?”
“เสือกไรล่ะ”
คนหงุดหงิดพาล
“หนึ่ง”
เสียงเรียบปราม
“อ้าวพูดดีๆก็ได้ เอกกลับก่อนก็ได้วันนี้เอาโน้ตเพลงไปซ้อมต่อก่อน ถ้าเปลี่ยนท่อนไหนอีกค่อยมาดูอีกที”
“ครับ”
เป็นเอกลุกขึ้นเดินลงมาจากเวทีพร้อมแฟ้มโน้ตเพลง
“บิ๊กไบท์มึงทิ้งไว้นี่แหละ”
มือหนากำรอบข้อมือซีดลากให้เดินตามมา ไม่สนว่าใครจะมองเพราะตอนนี้หงุดหงิด! ไอ้บ้านั่นก็ยังยิ้มตามมาจากเวที มันลุกขึ้นยืนแล้วถึงรู้ว่าตัวสูงเหมือนกันแถมมันหล่อด้วย!
วิ่งกระชากลากถูกันมาถึงรถ เป็นเอกก็ชะงักไม่กล้าเข้าไปแต่ก็ถูกยัดเข้าไปในที่สุด ก่อนเต็งหนึ่งจะวิ่งอ้อมมานั่งฝั่งคนขับ ตัวเปียกโชกกันทั้งคู่
รถกระชากตัวออกอย่างแรงตามอารมณ์ที่ขุ่นเคืองขั้นสูงสุดของเต็งหนึ่ง…
ขับออกมาได้สักพักเป็นเอกก็ไม่รู้จะต้องทำยังไงให้คนหงุดหงิดอารมณ์ดีขึ้นเพราะตอนนี้ก็ยังรู้สึกโหวงแปลกๆที่ต้องมานั่งรถของพ่อ…
“หนึ่ง…”
“เออ”
“จับมือ”
มือหนาเลื่อนมือจากเกียร์มากุมไว้ทันที คนตัวซีดทิ้งตัวพิงไหล่กว้าง
“หนาวมั้ย”
“ไม่มาก”
“เดี๋ยวถึงบ้านแล้วรีบอาบน้ำ”
“โกรธ?”
“เปล่า”
เปล่า…แต่ได้ยินเสียงขบกรามแน่น
ใบหน้าซีดเงยขึ้นจูบเบาๆที่ปลายคาง
“หนึ่ง..”
“เออ..โกรธ”
“เรื่อง?”
“ไอ้หน้าจืดนั่นเป็นใคร ที่นั่งข้างมึง”
“พี่จิ”
เป็นเอกทิ้งตัวพิงไหล่หนาเหมือนเดิม
“ไปให้มันลูบหัวได้ไง”
“เปล่า”
“ก็เห็นว่ามันลูบอยู่ชัดๆ”
“เขา..อยากตัดทรงนี้”
“ตอแหลสุดๆ มึงก็เชื่อมันอะนะ หลอกจับมึงชัดๆ แล้วก็ไปยอมอีก”
“หึงหรอ”
“มาก นี่กูไม่หึงมั้ง”
“ไม่มีอะไร”
ปากบางยิ้มน้อยๆเงยหน้าขึ้นหอมแก้มสากอีกที
“อย่าให้มีนะ”
“อือ”
มือหนายกมือซีดขึ้นจรดปลายจมูก…จูบเบาๆ
“ของกูนะเอก ทั้งตัวมึงเลย”
“อือ ของมึง”
ตีสาม…สองร่างเปลือยเปล่านอนเกยกันอยู่บนเตียง…คนผิวซีดนอนซุกอยู่ที่แผ่นอกหนาสีเข้ม เรียวขาก่ายเกยกันไปมา
ร่องรอยรักบนผิวซีดเห็นชัดไปทั้งตัว
การตีตราความเป็นเจ้าของตามแรงอารมณ์ผสมความหึงหวง
กลิ่นไอรักซาบซ่านไปทั่วห้อง
ไข้ขึ้น… เต็งหนึ่งกุมขมับตัวเองเมื่อตื่นมาพบว่าไอ้คนตัวซีดมันซีดกว่าเดิมเพราะไข้ขึ้น
ทั้งตากฝน นอนดึก ละยังโดนเอาแต่ใจทั้งคืน…
ความรู้สึกผิดหล่นทับจนต้องรีบหากะละมังชุบน้ำมาเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า
“หนึ่ง..”
เสียงแหบพร่ามาพร้อมกับตาปรือ
“นอนเลย ไม่ต้องไปเรียน กูก็จะไม่ไปอยู่ดูมึงนี่แหละเผื่อต้องไปโรงพยาบาล”
พยักหน้าเล็กน้อย
“เดี๋ยวกินข้าวนะ กูสั่งข้าวไว้แล้ว จะได้กินยา”
“อื้อ”
เต็งหนึ่งก้มหน้าลงแนบหน้าผากตัวเองกับคนมีไข้ ก่อนจุ้บปากย้ำๆ
“ขอโทษ…กูทำมึงป่วย”
“อือ…”
สักพักข้าวก็มาส่ง…ข้าวต้มกุ้ง
พยุงคนป่วยขึ้นมากินจนครึ่งชามก็กินต่อไม่ไหว เลยให้กินยาแล้วนอนต่อ แปะแผ่นคูลฟีเวอร์ให้เพื่อช่วยลดไข้ …แล้วทั้งวันของเต็งหนึ่งก็เข้าๆออกๆห้องนอนพร้อมกับคุยงานกับเพื่อนผ่านโทรศัพท์แทน
ผ่านไปค่อนวันมือถือของเป็นเอกที่วางอยู่ก็ดังขึ้นครั้งแรก
“สวัสดีครับ”
“เป็นเอก นี่พี่จินะ”
“เอกหลับครับ”
“หืม… วันนี้เป็นเอกไม่มามหาลัยหรอครับ”
หงุดหงิด…
“มันป่วย แค่นี้นะ”
ตัดสายทันที มือเกือบปามือถือทิ้งถ้าไม่ติดว่าไม่ใช่ของตัวเอง สนิทขนาดมีเบอร์กันตั้งแต่ตอนไหน!! ไอ้จิเดี๋ยวมึงตาย!!
เกือบสามโมงเย็นเป็นเอกก็ลุกขึ้นจากเตียงจนได้ อาการดีขึ้นแต่ตัวยังรุมๆ หมอจำเป็นเลยยอมให้ลงมานอนอ่านการ์ตูนที่โซฟาได้ จนสุดท้ายแมทก็โทรมาบอกว่ารถมีปัญหาคงต้องให้เข้ามาช่วยแก้
“เอก ไปมอกับกูหน่อย กูต้องเข้าชอปว่ะ”
ปล่อยไว้คนเดียวไม่ไว้ใจ เอาไปมอด้วยอย่างน้อยก็อยู่ในสายตา ห้องพักข้างชอปก็มีแอร์เย็นๆ
“ด่วนหรอ”
“อือ รถมีปัญหานิดหน่อยคงต้องเข้าไปดู”
“ให้ไปคณะมึง?”
“อือ ทำไมวะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว เอาการ์ตูนมึงไปด้วย”
“แล้วเพื่อนล่ะ?”
“ก็อยู่ครบ นี่ไงไปรู้จักเพื่อนกูเลยวันนี้จะได้เลิกคิดว่ากูอายที่คบมึง”
เป้คอนเวิร์สใบเดิม ใส่หนังสือการ์ตูนและไอแพดถือขึ้นรถลัมโบกินี่คันเดิมพร้อมกาแฟจากร้านสตาร์บัคใต้คอนโดสองแก้ว
คนขับในชุดช็อปและคอนเวิร์สเน่าๆ…กับตุ๊กตาหน้ารถในชุดเสื้อแขนยาวสีน้ำตาลอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินและรองเท้าอาดิดาสซุปเปอร์สตาร์คู่ใหม่
ครั้งแรกที่จะมีเพื่อนรู้…ว่าเป็นแฟนกัน
คนหนึ่ง…ตื่นเต้นที่จะได้แนะนำแฟนครั้งแรก
คนหนึ่ง…คิดว่าควรพาแฟนไปรู้จักเพื่อนเหมือนกัน
-------------------------------------------------
ตัวละครใหม่ -....-
กลับมาแล้วค่าา คิดถึงทุกคนจังเลย
ส่วนคู่รองดูๆก็พอจะรู้เนอะว่ามีชื่อใครโผล่มาสองตอนแล้ว 5555555555