ตอนที่ 19
“แล้วทีนี้เว่ย พวกกูก็เสี้ยนมะม่วงเปรี้ยวมาก เลยปีนสวนเขาเลย …”
ปุ้นฝอยน้ำลายฟองแตกกับเรื่องเล่าตอนไปค่ายที่สวนผลไม้ต่างจังหวัด มีพวกศิลปกรรมคอยผสมโรงเรียกเสียงเฮฮา ไม่มีใครสนใจว่าเรื่องจริงเรื่องแต่ง รู้แต่ว่ามันส์
“ชาร์ล”
“หือ ใครเรียกกูวะ เอ้า เชอร์”
ทุกคนหันไปที่คนมาใหม่ ผู้ชายร่างสูงโย่งไม่ต่างกันเว้นแต่….ปุ้น หรือ ชาร์ล ผมสั้นหยักโศก…แต่คนนี้ผมสีดำสนิทยาวระบั้นเอว หน้าดูเป็นฝั่งเอเชียมากกว่าและมีไรหนวดจางๆขึ้นเหนือริมฝีปาก ทำให้ดูโดดเด่นแม้จะอยู่ในชุดเสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงเดฟขายาวสีดำ
“ทุกคนนี่พี่กูเองชื่อเชอร์เบต อยู่สถาปัตย์ เป็นไงใครหล่อกว่า”
“หน้าไม่เห็นเหมือนเลยว่ะ”
เต็งหนึ่งเลิกคิ้ว
“ห่า พี่น้องนะสัสไม่ใช่ฝาแฝด กูจะเหมือนพ่อแล้วมันเหมือนแม่ไม่ได้รึไง แล้วมากับใครวะเชอร์”
“กับเพื่อน มึงไม่รับโทรศัพท์กู กูว่าจะไปนอนคอนโดมึงเพราะมึงอยู่หอ”
“เอ้า แล้วไอ้เฌอล่ะ? อย่าบอกว่างอนกัน?”
“เออน่า ไม่เสือกดิ”
“สาส ไว้เอาไปให้ รีบปะ”
“ไม่ กูรอได้”
บอกลากันเรียบร้อย ปุ้นก็โดนเข้าชาร์จทันทีด้วย อีชุ๊ คนเดิม…เพิ่มเติมคือเพื่อนอีกสามคน
“ปุ้นนนนนนนนนนนนนน หล่ออ้ะ นั่นเชอร์เบตป้ะ เดือนสถาปัตย์ กริ๊ดดด เค้าเป็นไรกับมึง”
“อ๋อ คนใช้กูเอง เนี่ยพึ่งสั่งให้มันล้างคอห่านให้”
“อี๋ บ้านมึงยังไม่มีชักโครกอีกหรอ อีดอก หน้ามึงเหมือนคอห่านบังอาจหาว่าเชอร์เบทกูเป็นคนใช้ อีไก่มีนม”
ทั้งกลุ่มฮาครืน…
“เอกอยู่นิ่งๆดิ”
ถอนหายใจแต่ก็ไม่ปล่อยคนเมาจนเดินไม่ไหว ค่อยๆพยุงไปที่รถ ช่วงนี้ให้เอกเลิกใช้มอไซต์แต่เปลี่ยนไปรับไปส่งแทน ถ้าวันไหนติดทำฟอมูล่าก็จะให้แมทหรือปุ้นพามาส่งที่คณะ ปลอดภัยกว่า
“อื้อ….”
“เฮ้ยอย่างอแงน่า”
“หนึ่ง…. อยากกินเค้ก”
เวลาเมา…มันพูดมาก
“เดี๋ยวพาไปกินคร้าบ”
“เอาชาเขียวด้วย”
“ได้ๆ เดินก่อน”
“เอาช็อคโกแลตอีก”
“เออให้หมดเลย”
“เอาชิ้นใหญ่ๆๆๆๆๆๆ”
“ใหญ่เท่าบ้านก็ได้”
ทั้งฉุนทั้งขำ…คนหน้านิ่งตลอดตอนนี้ทั้งทำหน้าอ้อนทั้งกระพริบตาปริบๆ
“หนึ่ง…”
“อยู่นี่ เอ้ายืนแปปถึงรถแล้ว”
จับพิงรถไว้แล้วล้วงกระเป๋าหารีโมท
หมับ…
ถูกกอดจากด้านหลัง ลมหายใจอุ่นๆปะทะกับใบหูจนรู้สึก…หวามไหว
“หนึ่ง…จูบหน่อย”
“เดี๋ยวก่อน…”
“ไม่รักกันแล้วหรอ”
เอียงหน้ามาถามด้วยอีกแน่ะ
“ขึ้นรถก่อน เดี๋ยวให้จูบ”
เปิดรถได้ในที่สุด แต่คนเมา….ก็คือคนเมา
“จูบก่อน”
“เอก…”
“ไม่รักกันแล้วอ่ะดิ๊!”
นั่งลงกับพื้นกอดเข่า…คนสติดีแทบกุมขมับ
“รักดิ รักเหมือนเดิม”
นั่งลงข้างๆดึงอีกคนมากอด
“รักแล้วทำไมไม่จูบ ฮึก….”
งอแงด้วยอีกแน่ะ
“เดี๋ยวคนอื่นเห็นไง….”
“อายหรอ”
เงยหน้ามามอง
“ไม่ได้อาย”
“คบกับกูอายหรอ”
“เปล่า…เฮ้ย”
โดนดันให้พิงประตูรถแล้วอีกฝ่ายก็ขยับขึ้นนั่งคร่อมตัก
“เอกใจเย็น…”
มองซ้ายมองขวา แถวนี้ก็ใช่ว่าจะปลอดคน
“จูบ…”
“เดี๋ยว…อื้อ….”
เรียวปากอุ่นทาบทับลงมาทันที สอดลิ้นร้อนเข้ามาดูดดึง ทั้งกัดทั้งขบแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุด….ถอนหายใจแล้วจูบตอบอย่างช่วยไม่ได้
“แฮ่ก…”
คนเมาหอบแฮ่กๆกับบ่ากว้าง ก่อนจะทุบอกแกร่งดังพลั่กไปหลายที
“กลับได้ยัง หือ?”
กอดเอวคนตัวซีดก้มหน้าลงหอมขมับชื้นเหงื่ออีกสองสามที…กลิ่นเหงื่อไม่ได้หอม…แต่พอเป็นคนนี้ก็ไม่เคยรังเกียจ
“กลับไหน…”
“บ้านเรา”
“ไป.. หนึ่ง…กอดหน่อย”
เงยหน้ามาทำหน้าอ้อนอีกรอบ…รู้ได้ทันทีว่าอยากให้ ‘กอด’
“กลับบ้านก่อน จะกอดทั้งคืน”
ยอมกลับในที่สุด…แต่คนรับปากก็ต้องเหนื่อยทั้งคืน
เป็นเอกตอนเมา… พูดเก่ง…อ้อนเก่ง….แถมยัง….อ่อยเก่ง
ยันฟ้าสาง….
ตื่นมานั่งดูการ์ตูนตอนบ่ายกว่า ดีที่ไม่มีเรียน…ส่วนคนที่ปกติควรจะนอนซมอยู่บนเตียงกลับกลายเป็นหน้าตาอิ่มเอิบไปเรียนแต่เช้าพร้อมนทีที่ขับรถมารับ
สงสัยเพราะสูบวิญญาณไปเยอะ เลยอิ่มหนำสำราญสินะ….
บ่นในใจเพราะถึงยังไงก็ไม่กล้าไปบ่นกับเจ้าตัว
ถึงจะวันหยุดแต่บ่ายสี่ก็ต้องไปทำฟอมูล่าต่อให้ทันโชว์งานเปิดบ้านพ่วงกับงานแข่งฟอมูล่าทั่วประเทศที่จะจัดติดๆกัน เป็นเอกวันนี้ไม่ต้องซ้อมแล้วก็คงกลับบ้านมาอ่านหนังสือเพราะใกล้สอบ
“หนึ่งๆ มีคนจากสภากลางตามตัวมึง เขาบอกถ้ามึงมาแล้วให้ไปที่สภาหน่อย”
สภามหาลัยจะตามหาตัวไปทำไม?
“มีไรวะ”
“ไม่รู้ ไปก็รู้เอง เห็นว่าเอกก็โดนตาม เห็นว่านัดสี่โมงนี่ก็ใกล้แล้วมึงไปก่อนดิ”
แมทบอกก่อนจะจัดการกับล้อฟอมูล่าต่อ เด็กติดเกมส์กลายเป็นช่างยนตร์มีคราบน้ำมันเลอะเทอะ
“งั้นเดี๋ยวกูมา”
คนพึ่งมาถึงบิดเวสป้าออกไปอีกรอบที่อาคารสภานิสิต คงไม่ใช่ให้ไปถ่ายแบบอะไรอีกนะ?
“อุ้ยพี่เต็งหนึ่ง สวัสดีค่า เชิญห้องประชุมเลยค่ะ นี่กำลังจะออกไปตามอีกรอบพอดีเลย ทุกคนมาครบแล้วค่ะ”
“มีเรื่องไรหรอครับ”
“เข้าไปก็รู้เองค่ะ แบบว่าเรื่องใหญ่นิ้ดดดดดดนึง”
เดินตามรุ่นน้องที่เป็นหนึ่งในสภาไปจนถึงห้องประชุม ที่เหมือนห้องโล่งๆ….แต่ดันมีคนนั่นเต็มไปหมดตามจุดต่างๆ นับได้นี่คงเกินห้าสิบคน
“พี่มึง ทางนี้โว้ย”
เสียงเรียกจากมุมหนึ่ง… ปุ้น นที เป็นเอก เชอร์เบท…และผู้ชายที่หน้าเหมือนเชอร์เบทอีกคน
“เขาให้มาทำไรวะ”
“เนี่ยรอฟังอยู่”
พยักหน้าให้นที ก่อนจะไปยืนข้างคนหน้านิ่งที่อ้าปากหาววอด
“เมื่อคืนไม่ได้นอนรึไง?”
ยักคิ้วกวน
“…”
มองเอือม
“เอ้า ถามดีๆก็ตอบดิ”
“เสือก”
“เป็นผู้ชายต้องขี้เสือก”
กลอกตาแล้วเดินหนี…แต่ก็โดนดึงกลับมายืนข้างกันเหมือนเดิม
“ไม่งอนน่า…”
กระซิบเบาๆ
“ปล่อย”
ดึงแขนออกแต่ก็ดึงไม่หลุด
“รักนะ”
“….”
ยอมยืนนิ่งๆ…แต่แก้มร้อนผ่าว
“หึหึ”
“เอ่อ … งดจีบกันได้ปะสัส กูก็ไม่อยากเข้าไปมีบทนะแต่กูยืนติดพวกมึงขนาดนี้….”
สะดุ้งเมื่อปุ้นแทรกเสียงขึ้นมา เป็นเอกหน้าเห่อร้อนแต่คงไม่เท่าคนขี้เขินที่ตอนนี้เกาหัวแกรกๆ ทำท่าไม่ถูก
“คือกู…”
“หึหึ เอาน่า …. กูไม่ล้อหรอก”
ปุ้นตบไหล่คนเขินดังป้าบๆ เต็งหนึ่งยอมแพ้รีบหลบไปยืนหลังเอก ดึงเอวบางกว่ามากอดไว้หลวมๆ
….รอยยิ้มจางๆ…บนเรียวปากบาง
“สวัสดีครับ ผมประธานสภานิสิต ต้องขอบคุณทุกคนที่มาประชุมในวันนี้เพราะถือว่ากระชั้นชิดมากแต่ อธิการมหาลัยท่านรีเควสมาว่า อยากให้มีเดินพาเหรดสร้างสีสันตอนพิธีเปิดงาน ซึ่งระยะการเดินก็จะแค่ช่วงกลางมหาลัย ให้พอเป็นพิธี นี่คือเส้นทางนะครับ”
ภาพระยะการเดินขึ้นบนโปรเจคเตอร์…เสียงร้องโหดังมาจากคนที่นั่งอยู่ เพราะในภาพมันดูเล็กแต่จากประสบการณ์ทุกคนคือ…แม่งจะเดินเยอะไปไหน
“ก็ที่เรียกมาก็คือจะให้ช่วยเดินขบวนหน่อยนะ ซึ่ง…ส่วนมากก็เป็นพวกดาวเดือนคณะต่างๆ พวกหน้าตาติดอันดับโพลแล้วก็พวกชมรมที่เกี่ยวข้อง อธิการรีเควสมา รู้ว่าบางคณะกำลังจัดสอบแต่….ต้องมาช่วยจริงๆว่ะ”
“มัดมือชกพวกกูว่างั้นเหอะ?”
นทีตะโกนถาม
“จะว่างั้นก็ได้…เอาน่ามีหน่วยกิจกรรมให้ มีคะแนนเสริมพวกวิชาศึกษาทั่วไป”
“มึงจะบ้าเรอะ พวกกูปีสองมันมีวิชาศึกษาทั่วไปตรงไหนวะ มีแต่วิชาเจอร์เนี่ย !! ตัวหลักครบทุกตัว คะแนนจะไปงอกตรงไหนวะห้ะ”
ปุ้นเกาหัวแกรกๆ
“เออน่า เพราะยังไงมึงก็ต้องเดินอยู่ดี อย่าบ่น”
“ห่า แล้วจะให้ความหวังกูทำไม”
เสียงฮากระจาย…
“อะแฮ่มๆ เอาล่ะๆ นี่คือแปลนตำแหน่งนะ ล็อคไว้หมดแล้ว ป้ายมหาลัยจะทำใหญ่เลย เป็นของสามสาวเดือนปีสี่คณะ บริหาร
เศรษฐศาสตร์ แล้วก็ มนุษย์ศาสตร์”
“วิดวิ้วววว”
หนุ่มๆก็เฮกันใหญ่
“ส่วนธงมหาลัยก็คงจะต้องเป็นคนที่หล่อที่สุดในมหาลัย เต็งหนึ่งนะครับ”
“เฮ้ย ไม่เอา กูไม่อยากเดินคนเดียว”
เดินตามสามสาว แถมเดินหน้าสุด จะบ้าเรอะ เด่นชิบหาย
“เฮ้ย หล่อสุดแล้ว”
“กูไปถือบ้าถือบออะไรก็ได้ ไม่อยากเดินคนเดียวโว้ย”
“อะแฮ่มๆ… คือ ก็อยากให้ไปเดินกับเป็นเอกที่รักของมึงอยู่หรอกนะ แต่… ตำแหน่งเอกแม่งต้องใช้ผู้ชายตัวสูงๆ กูไม่ได้ว่ามึงเตี้ยนะ แต่มึงสูงไม่พอ…”
เงียบ…รังสีออร่าความโกรธปะทุจนทุกคนกลืนน้ำลายแม้แต่ประธานสภา…
“ไอ้สัส มึงว่ากูเตี้ยหรอหา !!!!!!!”
แทบถลาไปหน้าเวที แต่คนไวกว่าคือเป็นเอกที่หันหน้ายืนกางแขน ปุ้นจึงได้โอกาศกระชากผมยาวๆให้กลับมายืนที่เดิม
“พี่มึง ใจเย็น”
“กูวัดล่าสุด กูเตี้ยกว่าเอกแค่สามเซ็นต์นะโว้ย!!! สามเซ็นต์ !!!!”
ใครใช้ให้ไอ้เอกมันสูงไป 180 เป๊ะ แล้วเขาสูง 177 ล่ะวะ!!
“เอกต้องเป็นดรัมเมเยอร์ไง แล้วมึงหันไปดู เชอร์เบทกับเฌอแตมดิ สูงคนละ 185 ไอ้เอกมันเกือบหล่นมาตฐานแล้วนะโว้ย!!!”
คนโดนอ้างชื่ออีกสองคนเลิกคิ้วมองหน้ากัน
“มึงเอาส้นตีนไรคิดเนี่ยยยยยยยยยยย !!!”
“หนึ่ง…”
“อะไร”
เสียงอ่อนลงนิดหน่อย
“ไม่…”
“ไม่อะไร”
“ไม่น้อยใจสิ”
เต็งหนึ่งโวยวาย คือ เต็งหนึ่งน้อยใจ …. ตรรกะของเป็นเอก
“เออออ ไม่น้อยใจนะพี่มึง ถือธงก็หล่อ เด่นดี เขาไม่รู้ด้วยว่าเตี้ย”
“ไอ้เชี่ยปุ้น!!!!”
“ตกลงมึงถือธง จบ”
“เออก็ได้วะแม่ง!!! กูไปละสัส”
“เฮ้ยมาซ้อมด้วยทุกวันสี่โมงถึงหกโมง”
“เออ !!!”
คนน้อยใจกระแทกเท้าเดินออกไปจากห้อง นทีกับปุ้นยืนขำก๊าก ส่วนคนตรรกะน่ารักก็ได้แต่ถอนหายใจ …เต็งหนึ่งขี้น้อยใจจริงๆ
“เอาล่ะมาว่ากันต่อ ส่วนขบวนเราก็จะมีจำพวกชุดไทย ก็คงเป็นนทีใส่ชุดแบบโจงกระเบน ไม่ใส่เสื้อแต่ใส่พวกเครื่องประดับนั่งบนเสลี่ยงคู่กับดาวคณะ….”
“ทำไมกูต้องถอดเสื้อวะ”
“เพราะมึงเป็นนักมวยทีมชาติไงสัส!! พวกมึงนี่จะถามไรนักหนาหา !!!”
“กูพึ่งติดทีมชาติอาทิตย์ก่อนมึงรู้ได้ไงเนี่ยไอ้ประธาน มึงขี้เสือกชิบหายเลยว่ะ”
บ่นแล้วจะเดินออกจากห้องไปอีกคน
“เดี๋ยว มึงไปไม่ได้”
“แล้วทำไมพี่หนึ่งไปได้?”
“มึงต้องวัดตัวโว้ย ตัดชุดอ่ะตัดชุด กลับมา !!!”
เดาะลิ้นก่อนจะจิ๊ปากด้วยความไม่พอใจแต่ก็กลับมาที่เดิม
“โอ้ยนี่พวกมึงทำกูปวดหัว จับปูใส่กระด้งรึไงวะ!!! เอาพวกมึงก่อนเลยจะได้ไปไหนก็ไป เป็นเอก เชอร์เบท เฌอแตม เตโช แล้วก็ชาร์ลเลอร์ ชื่อใครวะ?”
“กูเอง นายชาร์ลเลอร์ …. ญาติพวกไอ้สองเชอร์นั่นไง”
“มึงเนี่ยนะปุ้น”
“เออน่า หน้ากูเหมือนคนเกิดมาชื่อปุ้นเลยรึไง เร็วๆกูรีบ!!!”
“พวกมึงห้าคน นำขบวนหน้าสุด เดินนำวงโยเลย เป็นดรัมเมเยอร์ ธีมจุฑาเทพ !!!”
“กูลาออก”
“เชอร์ไม่ได้ดิวะ อาจารย์เค้ารีเควสมึง กูก็ต้องทำตาม”
“กูขี้เกียจมัดผม”
คนผมยาวถึงขอบกางเกงทำหน้าเซ็ง
“เรื่องมาก”
เสียงคนหน้าเหมือนกัน แต่อีกคนผมสั้นและไม่มีไรหนวดจางๆเหนือริมฝีปากพูดลอยๆ….แต่ดังทั่วห้อง
“มึงไม่เรื่องมากก็ทำไปคนเดียว”
ฝาแฝด…คนละขั้ว
“เออน่า พวกมึงทั้งคู่ต้องทำ เฌอแตมมึงด้วย ถึงมึงจะเรียนหมอแต่…โอเคนะคณะแพทย์ส่งมึงมา เพราะมึงเป็นเดือนคณะ คู่กับน้องจอย น้องจอยไปใส่ชุดไทยคู่นทีนะครับ โอเค๊?”
“ทีกับพวกผู้ชายเรียกมึงเรียกกู … ทีกับสาวล่ะหูดำ แม่งประธานสภาเราหน้าหม้อจังวะ”
หันไปซุบซิบกับนทีแต่เสียงไม่เบา…
“ไอ้เชี่ยปุ้น!!!”
“เฮ้ยได้ยินด้วยหรอวะ”
เป็นเอกกลอกตาเดินออกมาเป็นคนที่สอง….ไปหาคนขี้น้อยใจดีกว่า
=============================================
เอ่ยถึงเฉยๆนะ เชอร์เบท กับ เฌอแตม ไม่ได้ตั้งใจจะบอกเลยนะว่าเป็นตัวละครเรื่องหน้า เปล่าเลยนะเปล่าาาาาาา 55555+
อยากให้เป็นเอกเมาบ่อยๆจุง - .-
ช่วงนี้จะอัพติดๆ เพราะเราจะดองงง เกษตรสอบกลางภาคค่ะ ฮือออ T____T