ตอนที่ 28
“อะไรนะ มันไม่ตาย?!”
เสียงตะคอกดังลั่นเมื่อลูกน้องเข้ามารายงาน
“ผมตัดสายเบรกแล้วครับแต่…เพื่อนมันเป็นคนขับ …แล้ว…”
“แล้วอะไรอีก!!!”
“ผมไม่รู้มันจะขับรถคันไหน …ผมเลยไปตัดสายเบรกรถทุกคันมันหมด”
“เพล้ง!!!”
กองเอกสารถูกกวาดกระแทกเจกันดอกไม้หล่นลงไปกองกับพื้นจนหมด เจ้าของห้องหัวเสีย
“โง่!!! มันก็รู้หมดสิวะว่ามีคนจะฆ่ามัน!! แล้วคราวหน้าจะเข้าใกล้ตัวมันได้อีกมั้ย!!! ไอ้เด็กชวนันท์ก็เสนอหน้าปกป้องมันขนาดนั้นหา!!!”
“ผะ…ผมขอโทษ นาย…”
“แม่งเอ้ย!!! งั้นก็เก็บแม่งทั้งคู่ เอาไอ้ชวนันท์เลือดชั่วนั่นตายห่าไปก่อน คราวนี้ไอ้เด็กจิตป่วยก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว หึ…เกลียดนักพวกกะเทย!!”
“นาย…คุณธารธารา”
“ช่วงนี้เขาไม่อยู่ประเทศไทย รีบทำให้เสร็จก่อนเขาจะกลับ! อย่าพลาดอีก!”
“เอกวันนี้เดี๋ยวกูไปส่ง”
“ไปเองได้”
เลิกคิ้วก่อนจะมองผ่านกระจกไปยังคนที่นั่งหาวบนเตียง
“อย่าลืมว่าบิ๊กไบท์มึงไม่อยู่”
“ขับรถ”
“เออน่ะเดี๋ยวไปส่ง ตอนเย็นจะไปรับด้วยจะพาไปข้างนอก เค๊?”
ไม่ฟังคำตอบแต่เดินเข้าห้องน้ำไปแต่งตัวเตรียมไปส่งไอ้ตัวซีดไปทำงาน
“เจ๋ง มากินข้าว”
เต็งหนึ่งย่อตัวลงเคาะชามข้าวหมาให้เจ้าหมาอ้วนลิ้นห้อยวิ่งดุ๊กดิ๊กมากินข้าว มุมของเจ๋งคือกำแพงตรงข้ามบันได
“เจ๋ง?”
คนเดินตามลงมาเลิกคิ้ว
“มันชื่อเจ๋ง กูกวนตีนมึงเฉยๆ”
พลั่ก! หน้าพ่อหมาเกือบทิ่มลงไปในชามข้าวเพราะหม่าม๊าหงุดหงิดเดินกระแทกเท้าเข้าครัว
“บ๊อก!”
ปะป๊าทำไมป๊าโดนม๊าถีบ…
“กินไปเลยไม่ต้องมามอง ม๊าเอ็งเมนส์มา”
“อีกทีมะ?”
เสียงเรียบดังกลับมาแม้เจ้าตัวจะเดินไปที่ครัวแล้ว
“ดุสัส…”
ทำไมรู้สึกคิดถึงเพจ พ่อบ้านใจกล้า ขึ้นมาตะงิดๆ
มื้อเช้าที่ไม่ค่อยได้กินพร้อมกัน วันนี้มีกับข้าวที่หนึ่งทำที่ไว้อุ่นไมโครเวฟ แกงจืดเต้าหู้ ไก่ผัดขิง แล้วก็ ปลานึ่งบ๊วย ถึงความอร่อยจะลดลงไปบ้างเพราะค้างคืนก็ตาม
เป็นเอกตักกับข้าวใส่จานเต็งหนึ่งมองอีกคนกินช้าๆเคี้ยวข้าวตุ้ยๆแล้วอมยิ้มจางๆ…
“ยิ้มไร”
เลิกคิ้ว
“เหมือน..”
“เหมือนไรวะ”
“เหมือนเจ๋ง”
“สัส แดกไปเลยอย่ามายุ่งกับลูกกู มึงมันคนอื่น”
“ขี้งอน”
พูดลอยๆ ก่อนจะก้มหน้ากินข้าว
“งอนก็เหี้ยละ”
บ่น…แล้วกินต่อ
เป็นเอกกินเสร็จก่อนเหมือนเดิมก็เอนตัวพิงไหล่คนกินช้า อิงหัวกับบ่ากว้างแล้วเอามือถือขึ้นมากดเล่นรอ
“ลำบากกูอีก”
“บ่นๆ”
“หนักนะเนี่ย มีความสุขนะมึงทำกูลำบาก”
“อื้อ ก็รู้นี่”
ส่ายหัวด้วยความปลงขั้นสูงสุด….
มาถึงบริษัทก่อนเข้างานสิบนาที เป็นเอกส่งหมวกกันน็อคคืนเจ้าของเวสป้าก่อนจะเดินออกมาแต่ก็ถือรั้งข้อมือไว้
“เอก ฟังกู”
“อะไร”
“อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว”
“ทำไม?”
“เดี๋ยวเย็นนี้มารับ แล้วกูจะบอกมึงทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ”
“ได้”
แม้จะไม่เข้าใจแต่เชื่อใจ…เชื่อว่าสิ่งที่เต็งหนึ่งตัดสินใจแสดงว่าอีกฝ่ายคิดว่าดีที่สุดแล้ว…คนๆนี้จะไม่มีวันทำให้เขาเสียใจ
“ตั้งใจทำงานนะ”
“หนึ่ง”
“หือ”
“รัก”
ยิ้มจาง…แต่หน้าคนฟังแดงก่ำ…
“เออออ ไปทำงาน สัส! วุ้ยเลี่ยนชิบหาย”
แกล้งโวยวายแต่ใบหูเริ่มแดง…ก่อนจะบิดเวสป้าออกไป
เป็นเอกมองไปจนสุดสายตาแล้วจึงหันหลังเดินเข้าบริษัท
“ไปจัดเอกสารด้วยกันหน่อยไป”
รุ่นพี่เทรนด์งานคนเดิมเรียกให้ไปช่วย จึงละจากเอกสารที่ต้องเย็บเป็นชุดแล้วเดินตามไปที่ห้องเอกสาร
“เดี๋ยวจัดชั้นข้างนอก กูจะไปจัดชั้นข้างใน ไม่ต้องตามเข้ามาล่ะ ห้องข้างในไม่ให้คนไม่ได้รับอนุญาตเข้า”
พยักหน้ารับ แต่ก็มองด้วยความสงสัย…แล้ววันก่อนที่เอาแฟ้มมาอันนึงจะเป็นไรมั้ย?
แฟ้ม…ยังไม่ได้อ่าน
ต้องรีบอ่านแล้ว แล้วรีบเอามาคืน
จัดเอกสารจนเสร็จก็กลับไปทำงานที่โต๊ะตัวเองต่อ พี่โต๊ะติดกันก็ยังส่งสายตาไม่เป็นมิดมาให้เหมือนเดิม ทุกคนก็เหมือนเดิม…ทำแต่งานตัวเอง แผนกที่ไม่มีชีวิตชีวา
“นายเอก เอาแฟ้มกองนี้ไปให้จัดซื้อหน่อย”
“ครับ”
เดินไปรับแฟ้มเอกสารจากพี่อีกคนกองใหญ่ แบกขึ้นในอ้อมแขนแล้วเดินไปกดลิฟต์…ชั้น4 แผนกจัดซื้อ
“เฮ้ย เอาแบบต้นคริสมาสต์มาดิ๊ไอ้สัสปุ๊”
“อยู่นี่ๆๆๆๆๆ พี่กั้งๆๆๆๆ กระดาษตกลงเอาสีไรเนี่ย”
“เฮ้ยๆๆๆๆ กูเลือกสีไว้แล้วอยู่แฟ้มแปดมั้งไปดูๆ เจ๊!เอาให้พี่ชาเซ็นต์นี่หน่อย เร็วๆดิ๊ อ้วนละยังช้าอีก”
“เอ้าอีนี่เดี๋ยวกูตบ ไหนแฟ้มอะไรเอามาดิ๊”
เป็นเอกมองความวุ่นวายของแผนกจัดซื้อที่ตอนนี้รกเป็นหนู ทั้งกระดาษสีสารพัด ตัวมาสคอตตีมคริสมาสต์อีกหลายตัววางอยู่ตามมุมแผนก ผู้ชายสามคนกำลังโวยวาย…อีกสองกำลังนั่งขัดสมาธิบนพื้นเชครายการอะไรสักอย่าง ส่วนผู้หญิงหน้าดุคนเดิมก็เดินไปรับแฟ้มแล้วส่งต่อให้หัวหน้าแผนกในห้องกระจก
“เฮ้ยเจ้าชาย!”
หนึ่งในคนนั่งพื้นเงยหน้าขึ้นสบตาเป็นเอกแล้วตะโกนลั่น
“อะไรวะไอ้เอ็ม เฮ้ยผู้ชายที่ไหน ว่าไงไอ้น้องมาทำไรแผนกนี้”
เป็นเอกทำหน้าไม่ถูก…คราวก่อนแผนกนี้มีแค่สองคน พี่ผู้หญิงและหัวหน้าแผนก…คุณชา มาวันนี้อยู่กันแน่น
“หล่ออ้ะ…”
“เก็บความเกย์ของมึงก่อนเอ็ม ว่าไงน้องเอกเอาเอกสารที่พี่ขอไปมาส่งหรอ”
“ไมเจ๊รู้จัก! แล้วเอ็มไม่รู้!!”
“เพราะมึงทั้งหมดไปข้างนอกตอนน้องเขามาจีบเจ๊น่ะสิ! เดี๋ยวน้องเอกยกไปให้คุณชาในห้องเลยนะ เดินยากนิดนึงพอดีของที่ไอ้พวกนี้ไปซื้อวันก่อนพึ่งมา”
“ชื่อไรอ้ะ เราชื่อเอ็มนะ….”
เสียงตะโกนไล่หลังตามมา
“มึงพอเห๊อะเอ็ม เดี๋ยวผัวมึงก็ฆ่าปาดคอหรอก”
“ผัวผมจะไปฆ่าน้องเขาทำไมพี่เก้ง มันไม่รู้ววว”
“ฆ่ามึงต่างหาก แรดเกิน!”
เสียงหัวเราะโห่ฮาดังกระทั่งเข้ามาวางเอกสารบนโต๊ะหัวหน้าแผนกที่วันนี้มีแว่นอันโตบังใบหน้า
“วางเลย ขอบใจมาก”
“ครับ”
“พวกนี้มันปากแบบนี้แหละ ขำๆ อย่าคิดมาก”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปนะ”
“หืม…พูดได้แล้วนี่”
“ครับ?”
“เริ่มพูดยาวๆสักที ถึงจะไม่มา หัดๆไว้ล่ะ ไม่รู้จะพูดกับใครก็มานั่งแผนกนี้สักวันสองวันรับรอง คล่อง หึหึ”
“ขอบคุณครับ”
ชามองตามหลังเด็กตัวสูงแล้วส่ายหัว…ก็น่ารักดี
“แหน่ะบอส บอสต้องแย่งกับไอ้เอ็มแล้วนะคะ มันจีบน้องเขาไปละ”
“ใครจะจีบ…ผมก็มองไปเรื่อย”
“จ้า เชื่อจ้า… คิกคิก”
หลังเลิกงานหนึ่งชั่วโมงเป็นเวลาซ้อมการแสดงงานประจำปี ส่วนมากก็เป็นพวกอายุงานยังน้อยและเด็กฝึกงานอย่างเป็นเอก…
“ยกแขนขึ้น…นั่นล่ะแล้วก็หมุน หมุนอีก …นี่นายเอก! หมุนให้มันมีชีวิตชีวาหน่อย ส่ายเอวด้วย ส่ายเอก โอ้ยนี่มันท่อนไม้เดินได้รึไงเนี่ย”
เอกทำหน้ายุ่งแต่ก็พยายามเต้นตามเพลง…แว่นฟ้อหล่อเฟี้ยว
กว่าจะผ่านไปแต่ละท่า…
“เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้กลับบ้านไปซ้อมด้วย แยกย้ายๆ”
ยกมือไหว้ลาทุกคนในแผนกแล้วหยิบของรีบไปรอลิฟต์ …. คนรอป่านนี้เป็นหมีหงุดหงิดไปแล้ว
“หวัดดีเอก…”
“แมท…แล้วหนึ่งล่ะ”
แมททำหน้าลำบากใจ
“ก็…เอ่อ ตามกูมาก่อนแล้วกัน”
เดินข้างแมทไปจนถึงรถยาริสสีดำ…ปุ้นเป็นคนขับ
“ไงเอก”
วันนี้ปุ้นไม่มีวี่แววความอารมณ์ดี มีแต่คิ้วที่ขมวดแน่น
“มีอะไรกันหรอ”
ไม่เข้าใจ….
“เดี๋ยวก็รู้ อย่าพึ่งถามเลยนะ กูพูดไม่ถูก”
ทั้งสามเงียบไปตลอดทางจนกระทั่งถึงโรงพยาบาล โรงพยาบาลที่คุ้นเคยเพราะมารักษาที่นี่ในแผนกวีไอพี แต่วันนี้กลับเดินตามทั้งสองไปที่ห้องพักธรรมดา
หน้าประตูมีชื่อ…นที
“เข้ามาสิ”
แมทเปิดประตูให้…เป็นเอกเดินเข้าไปช้าๆเพราะยังลำดับอะไรไม่ได้…นทีนอนอยู่บนเตียงกลางห้องมีสายระโยงระยางและผ้าพันแผลเต็มตัว
“เอก…”
หมูกับเบียร์นั่งอยู่บนโซฟาลุกขึ้นมาหาเพื่อน
“เกิดอะไรขึ้น”
“นทีรถล้ม…รถมึง”
หมูกัดปาก ไม่อยากจะบอกแต่ก็ต้องบอก
“ล้มได้ยังไง”
นทีขับรถคล่องทั้งมอไซต์และรถยนต์
“เอก…ตามกูมานี่ก่อนแล้วมึงจะเข้าใจ”
แมทเรียกให้เดินตามออกไป
“หนึ่งอยู่ไหน?”
พูดเหมือนหนึ่งที่บอกว่าเย็นนี้จะเข้าใจ แต่ไม่!...ไม่เห็นเข้าใจอะไรเลยสักนิดเดียว
“ตามมาสิ”
คราวนี้เดินตามกันเข้าไปแผนกวีไอพี…ห้องเดิมที่เป็นเอกเคยมาพักประจำ…คราวนี้เป็นเต็งหนึ่งนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
ไม่มีร่องรอยอะไรทักสิ้น เหมือนแค่นอนหลับไป…
“หนึ่ง…โดนยิงที่ชายโครงขวา แต่มันหักรถหลบหมาที่วิ่งตัดพอดีเลยพลาดเป้ามาโดนแค่ชายโครง กูไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมือปืนจะเล็งตรงไหน แต่ตอนมันกุมท้องที่มีแต่เลือดมาที่คณะมันบอกแค่ให้ไปรับมึงตอนเย็นด้วย”
“คนร้ายยิงหน้ามหาลัยเลย อาจารย์เช็คกล้องเห็นหนึ่งโดนยิงตอนจะเลี้ยวเข้าประตูตะวันออกคณะวิศวะ…โหดมาก สัสเอ้ย…”
ปุ้นกัดฟันแน่นด้วยความโมโห
“หนึ่ง…”
เอกนั่งลงข้างเตียง ยกมือขึ้นแตะแก้มสากเบาๆ
“…หมอบอกดีที่ไม่โดนจุดอันตราย เลือดที่มีคนบริจาคไว้ก็พอดีอยู่…ตอนนี้อาจารย์แจ้งความแล้ว แจ้งไปที่พ่อมันแล้ว”
“หนึ่ง…”
เป็นเอกไม่ได้ฟัง…แค่เรีกยคนที่นอนเบาๆ
หนึ่งจะตาย
…หนึ่งโดนยิง
…หนึ่งจะไม่ตื่น…
….หนึ่งเลือดออก…
…หนึ่ง…
ไม่มีใครเห็นแววตาที่ว่างเปล่าของเป็นเอก…ไม่มีใครเห็นว่ามือซีดกำลังสั่งระริกจนกระทั่งวางนิ่งอยู่ข้างเตียง…เหมือนแบตหมด
“เอก … เอก”
แมทเริ่มสังเกตว่าอีกฝ่ายนิ่งไป แค่นั่งนิ่งๆ…อยู่ที่ขอบเตียงจึงเดินเข้าไปหา…
ใจหาย….
เป็นเอกเหมือนเป็นแค่ตุ๊กตาที่ยังกระพริบตาได้….มันดูว่างเปล่า…ว่างเปล่าจนพูดไม่ถูก
“เอก…ได้ยินกูมั้ย”
“….หนึ่ง”
คำเดียวที่หลุดออกมา…
“ปุ้น เอกมันเป็นไรวะ”
“ช็อครึเปล่า…รอสักพักให้มันหายช็อคก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยเรียกหมอ”
“อื้อ…”
แมทนั่งลงที่โซฟามองอย่างไม่เข้าใจ หนึ่งป่วย…เป็นเอกก็เหมือนหลุดไปอยู่ที่ไหนสักที่ เหมือนตุ๊กตาสองตัวอยู่ด้วยกัน ตัวแรกนอนหลับสนิท อีกตัวเหมือนถูกจัดให้นั่งมองอีกตัว
….แมทไม่มีวันเข้าใจ
….ไม่มีเต็งหนึ่ง…เวลาของเป็นเอกไม่เดิน
…นาฬิกาตาย…เป็นเอกก็ตาย…
…ไม่มีเต็งหนึ่ง….ไม่มีเป็นเอก…
===========================
ขอโทษที่มาช้านะคะ T&T