กองทัพถูกเตรียมพร้อมทันที นับว่าเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้วที่นันทานครไม่ได้ทำศึกที่เมืองหลวงแบบนี้หลังจากวันที่วิรัลปรากบฏจนหมดสิ้นแผ่นดิน องค์วิรัลโดดเด่นอยู่บนกำแพงเมือง คุชและธันแยกตัวไปดูกองกำลังของตน โชบุชุนที่เตรียมพร้อม สหัสที่กลับมาอยู่ในร่างของสิงห์ราเต็มตัว ยืนประกบอยู่ด้านหลังเธราที่ตอนนี้ถูจับเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพิธีการเต็มตัว ใบหน้าแสนธรมดาเรียบนิ่งมีผ้าพันคอสีเข้มผืนใหญ่ปักลายอย่างสวยงามเข้ากับชุดที่สวมอยู่ ผมสีน้ำตาลถูกจัดแต่งให้เรียบร้อบเครื่องประดับที่เข้าชุดกัน ทำให้เธราดูน่าเชื่อถือกว่าเวลาปกติมากพอดู
“ข้าในนามของราชาแห่งนันทานคร ผู้สืบทอดบัลลังค์ที่เกรียงไกรมีสิทธิ์ในของคู่บัลลังค์และแผ่นดินนันทา ไม่ว่าจะเป็นกองทัพจากที่ไหนก็ไม่มีสิทธิรุกราน หากมันหน้าใหนกล้าล่วงเข้ามาทั้งที่เราไม่ได้เชิญ เราจะไล่มันออกไป” เสียงกังวานขององค์วิรัลเรียกกองทพให้ลุกฮือได้ทันที เสียงดาบกระทบโล่ดังลั่นพร้อมกับเสียงกู่ร้องของเหล่าทหารหาร
“กองทัพเลือดที่เกรียงไกรวันนี้จะพ่ายแก่เรา ญาณบริสุทธิ์แห่งมาลันเคียจะชี้ทางให้เรา” วิรัลตะโกนก้องแขนแกร่งรวบตัวของเธราก่อนยกขึ้นมาอุ้มไว้ก่อนยกร่างของเธราให้ขึ้นไปยืนที่ขอบกำแพงเมือง
คนถูกอุ้มผวาจับไหล่องค์วิรัลทันทีผ้าพันคอผืนสวยปลิวไสวตามสายลมแรง วิรัลจับเอาชายผ้าที่ปลิวไปมาไว้ก่อนจรดริมฝีปากลงไปแผ่วเบาทั้งที่สายตายังคงจับจ้องไปที่เจ้าของผ้า
“ได้โปรดมอบคำทำนายที่เป็นชัยชนะแก่นันทานครด้วยเถอะ เธราพระสนมของข้า” คนถูกขอให้ทำในสิ่งที่ทำไม่ได้ยืนนิ่งก่อนจ้องกลับลงไปในดวงตาสีรัตติกาลขององค์วิรัล ร่าสูงโปร่งของเธราขยับตัวเล็กน้อยก่อนหันหน้าออกไปนอกกำแพงที่เต็มไปด้วยกองทัพทหารจากทั้งนันทานครและเมืองในปกครองที่ส่งมาช่วย ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มนิ่งสนิทมือเรียวยกขึ้นสูง ก่อนหลับตานิ่งราวกับกำลังรับฟังบางสิ่ง
“จงรบด้วยจิตใจที่หาญกล้า ปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเวทจะทำอะไรพวกเจ้าไม่ได้ เทพแห่งชัยชนะจะอยู่ฝั่งผู้ที่มีหัวใจแข็งแกร่งเสมอ ปฐพีจะหนุนนำ เตโชจะแผดเผาศัตรู อาโปจะปกป้อง วาโยจะเคียงข้าง จงรบเพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของเจ้า เพื่อคนที่รอคอยการกลับไป ข้าขออวยพรให้ชัยชนะป็นของพวกเจ้า” คำอวยพรที่ดังก้องนั้นเรียกความเงียบสนิทมาสู่กองทัพอันยิ่งใหญ่ได้ทันที และเมือเธราแสดงความเคารพแก่องค์วิรัลพร้อมกับยกเอาหลังมือของราชาแห่งนันทานครขึ้นมาจุมพิษราวอวยชัย เสียงอื้ออึงของเหล่าทหารที่โห่ร้องด้วยกำลังใจที่ล้นเหลือก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ไม่เห็นทำนายอะไรเลย” โชบุกระซิบกับชุนใบหน้าครึ่งอสรพิษพยักเพยิด
“เอาน่าแค่นี้ก็เรียกขวัญกำลังใจได้มากพอดูแล้ว ไอ้ตัวเล็กมันทำนายอะไรได้ที่ใหน ดูสิขาสั่นพับๆแล้วนั่น” ชุนพูดอย่างติดตลกทั้งที่สถานการณ์กำลังตึงเครียด
“ใช้ได้ไหมกระหม่อม” เธราหันไปกระซิบถามองค์วิรัลที่อุ้มเขาลงมาจากของกำแพงเมืองแต่ยังไม่ยอมวางเขาลงให้ยืนดีๆ แต่กลับใช้แขนข้างหนึ่งอุ้มร่างเขาไว้ราวอุ้มเด็กน้อย
“ก็...พอได้” วิรัลตอบง่ายๆ ก่อนหันไปมองหน้าเธราที่ดูเหมือนจะอึดอัดกับการสัมผัสแนบชิดต่อหน้าคนอื่นแบบนี้
แต่แล้วคนที่ถูกอุ้มอยู่ดีๆก็ก้มลงกอดเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เธราดึงเอาวิรัลมากอดไว้แน่น “พระองค์ต้องปลอดภัยสัญากับหม่อมฉันสิ” เธราพูดยื่นข้อเสนอให้วิรัลสัญญา ซบใบหน้าลงไปบนกลุ่มผมสีดำสนิมของคนในอ้อมกอดอย่างกังวล
“ข้าจะไม่ตาย”
“ท่านต้องไม่เป็นอะไร”
“การรบเราจะบังคับคมดาบศัตตรูไม่ได้หรอกเธรา” วิรัลท้วงคนที่เริ่มรั้นให้เขาสัญญาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ วิรัลรู้สึกถึงแรงกอดที่มากขึ้น เขาเองก็ไม่ได้ติดขัดอะไรหากคนตรงหน้าอยากจะกอดมากว่านี้หากบรรยากาศรอบตัวนั้นเริ่มกดดันมากขึ้น ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยกลุ่มเมฆสีดำเริ่มมีสายฟ้าแล่บไปมาทั้งที่ไม่มีเสียงฟ้าร้องหรือท่าทีของฝนจะตกสักนิด หากยังไม่ทันได้ขยับตัวไปมากกว่านี้ลูกธนูพุ่งมาจากท้องฟ้าตรงมายังร่างของเธราที่ถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนเร็วเท่าความคิดวิรัลหันเอาตัวบังคมธนูทันทีแต่ดูเหมือนคนที่ถูกอุ้มจะเร็วกว่าเธราผละตัวออกมามือเรียวคว้าดาบของวิรัลที่เหน็บอยู่ที่เอวขึ้นมาปัดธนูให้พ้นจากตัวเองและราชาแห่งนันทานครทันที
“ข้าบอกแล้วว่าอย่าเจ็บเอาตัวมาบังธนูให้ข้าทำไม” เธราหันไปตวาดองค์วิรัลทันที ร่างสูงโปร่งขืนตัวออกห่างทันทีพร้อมส่งดาบคืนเจ้าของใบหน้างอง้ำบ่งบอกว่าไม่พอใจชัดเจน
“หวายกลัวเมียว่ะ ฮ่าๆ” โชบุหันไปพูดส่หน้าวิรัลอย่างสะใจ
“อะไรน่ะ” ชุนที่อ้าปากจะห้ามโชบุไม่ให้กวนอารมณ์องค์วิรัลเอ่ยถามขึ้นก่อนก้มลงหยิบดอกธนูขึนมาดู เส้นผมสีอ่อนถูกพันไว้กับดอกธนูยาวเพียงคืบ “ผมใครกัน” ชุนหันไปถามวิรัล
“คาเซ ทหารลงไปเอาตัวาเซที่คุกใต้ดินขึ้นมาเดี๋ยวนี้” วิรัลสั่งการทันที ใบหน้ามีแววเคร่งเครียด ถ้าเขาคิดไม่ผิด คาเซคือเจ้าของหัวใจของกบฏผู้สำนึกผิดสินะ
และทันทีที่สิ้นคำสั่งของวิรัล ท้องฟ้าทีมืดครึ้มก็เคลื่อนไหวไปมาราวพายุหมุนก่อนจะค่อยๆปรากฎร่างของเหล่านักรบปีศาจลอยลงมาจากท้องฟ้า ร่างแห้งกรังที่ไร้ชวิตพร้อมกลิ่นสาบสางที่ลอยมาตามลม
“สวัสดีองค์วิรัลแห่งนันทานคร หึหึหึ” เสียงกังวานที่ดังลงมาจากท้องฟ้า พร้อมกับร่างของรันตราค่อยๆปรากฏขึ้นมาท่ามกลางบรรดานักรบปีศาจ
“รันตรา” เธราเอ่ยชื่อของปีศาจผู้มีรูปโฉมงดงาม มือเรียวรับเอาธนูมาถือไว้ เธรมององค์วิรัลที่ยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเขา เขาดื้อรั้นจะช่วยพารัม เรื่องทุกอย่างจึงเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ใบหน้าแสนธรรมดามองเหล่าทหารนับไม่ถ้วนที่มีท่าทีหึกเหิม อย่างกกังวลแม้เพียงสักหนึ่งชีวิตเขาก็ไม่อย่างให้ใครต้องเสียสละ
“เวลาเพียงน้อยนิด เกณไพร่พลได้มากขนาดนี้สมเป็นองค์วิรัลแห่งนันทาจริงๆ” รันตราเอ่ยออกมาพลางกวาดสายตามองเหล่าทหารมากมายตรงหน้า
“เจ้าฆ่ากษัตย์แห่งวูธสินะเจ้าปีศาจ” วิรัลตะโกนถามรันตรา
“ทำไมข้าต้องฆ่าราชาแห่งวูธกันเล่า” รันตรายังคงยียวน
“เพราะราชาแห่งวูธคือ เจ้าของ หัวใจของผู้ที่ฆ่าดวงใจตนเอง น่ะสิ”
แปะๆ “เจ้านี่เก่งกว่าที่ข้าคิดนะองค์วิรัล รู้จักหัวใจที่ปวดร้าวทั้งสามเสียด้วย แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ในเมื่อสัตว์เลี้ยงของสนมท่านเป็นถึงสิงห์รา....ชั้น...สูง” รันตราลากเสียงก่อนมองไปที่สิงห์สหัส
“หุบปาก” สหัสตวาดลั่น ร่างสิงห์รานั้นเตรียมพร้อมฉีกร่างของรันตราทุกเมื่อ
“จริงๆข้าก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ องค์วิรัลแห่งนันทานคร ข้าแค่โปรยเมล็ดกาฝากแห่งความในลงไปในไวท์เลิศรสของนันทาเท่านั้น พวกเจ้าเอาไวล์พวกนั้นมาเฉลิมฉลองในงานกันเอง แล้วกาฝากของข้าก็ทำหน้าที่ได้ดี เสียจน...ราชาผู้หน้าบางทนอับอายที่ลูกสาวร่านสวาทไปทั่วไม่ไหว จนเกิดทะเลาะกันข้าแค่เอาดาบไปเสนอให้ไว้ใกล้ๆมือเท่านั้นเองนะ” รันตราพูดออกมาอย่างติดตลก “แต่ก็ช่วยไม่ได้จะปล่อยให้คนอื่นรู้ได้ยังไงว่าฆ่าลูกตัว การโยนบาปให้คนโง่อย่างพระสนมของท่านน่ะเหมาะสมที่สุดแล้ว” รันตราบอก “เธราเจ้ายืนอยู่ผิดที่เอง ข้าไม่ได้อยากฆ่าเจ้าสักนิด ถ้าเจ้าไม่เข้ามายุ่งตั้งแต่แรกเรื่องทั้งหมดก็จะไม่เกิด”
เธราไม่พูดอะไรเขายกคันธนูขึ้นง้างก่อนปล่อยธนูออกไปโดยไม่ลังเล ไม่มีการเตือน ไม่มีท่าทีลังเล ลูกธนูฉียดผ่านหน้ารันตราไปเพียงนิด
“ลงมา!” เธราตะโกนก้องใบหน้าแสนธรรมดานิ่งสนิท “ลงมาสู้กับข้า อยากได้ชีวิตข้าก็ลงมาเอามันไปอย่าให้ใครต้องมาบาดเจ็บล้มตายเพราะความอำมหิตของเจ้า บอกว่าข้าทำให้เกิดเรื่องก็ลงมาทำให้มันจบที่ข้า รันตราลงมา” เธราตะโกนก้อง
“โมโหแล้วสินะ” สหัสเอ่ยออกมา
“ไอ้ตัวเล็กนี่มันไม่กลัวตายจริงๆ” โชบุเอ่ยออกมา พลางส่ายหัวในนิสัยข้อนี้ของเธรา
“เธราไม่กลัวตาย แต่คนที่กลัวเธราจะตายอยู่นั่น” ชุนบุ๋ยปากไปยังองค์วิรัลที่ยืนเคียงข้างเธรา ร่างสุงใหญ่พยายามเอาตัวมาบังเธราไว้แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่ยอม
“หลบไป” เธราพูดอย่างลืมมารยาท
“เธราทำ” วิรัลถามแบบเดียวกับที่เคยพูดกับเธราที่บันกุ เขาไม่เคยคาดเดาการกระทำของเธราได้จริง
เธราไม่ตอบสายตานิ่งสนิทจ้องมองไปที่รันตราที่ลอยตัวลมมาใกล้มากขึ้นตอนนี้ร่างของปีศาจรันตรา ลอยอยู่เหนือกำแพงขึ้นไปเพียงนิด
“จะสู้กับข้ารึ” รันตราเลิกคิ้วอย่าวนึกไม่ถึงกับคำท้าของเธรา
“ใช่ กลัวอะไรกันเป้นถึงรัชทยามแห่งกัชธา องค์รัชทายาทรันตราผู้เต็มไปด้วยพลังเวทอันแข็งแกร่ง กลัวที่จะต้องสู้กับข้ารึไง” เธราท้าทาย
“หุบปาก” รันตราโมโหที่เราเอ่ยถึงตัวเขา
“รัชทายาทนอกคอกที่ทำให้กัชธาหลบซ้อนตัวเองอยู่หลังม่านหมอก เจ้าต้องเลวถึงขนาดใหกันนะถึงทำลายเมืองของตัวเองได้ขนาดนั้น” เธรานยังคงพูดต่อย่างไม่ยี่หระ ใบหน้าแสนธรรมดาเชิดขึ้นราวท้าทาย
และเหมือนเธราจะพูดได้ตรงจุด รันตราลงมายืนเผชิญหน้ากับเธราทันที ใบหน้าสวยงามฉายแววไม่พอใจเต็มเปี่ยมดวงตาสีฟ้านั้นวาววับ
“ข้าจะทำให้เจ้าหุบปาก” รันตราเอ่ยออกมาก่อนบรรยากาศจะทวีความกดดันมากขึ้น ผมสีทองสยายยาวมากขึ้นก่อนจู่โจมเธราทันที
เธราขยับตัวหนีทันที วิรัลฟันดาบลงไปที่เส้นผมของรันตราทันทีแต่ดาบธรรมดาไม่สามารถทำอะไรปีศาจได้ นี่สินะรัตราถึงให้คาเซเอาของประจำตัวราชาไปซ้อนไว้
“กองทัพเลือดของข้า จัดการพวกมัน” รันตราเอ่ยปากพียงเท่านี้บรรดานักรบปีศาจ ก็พุ่งตัวลงมาจากท้องฟ้า เสียงการโรมรันของเหล่าทหารดังขึ้นทันที
สหัสเข้าจู่โจมรันตราแต่ก็ต้องสะดุดเมื่อเหล่านักรบปีศาจเข้ามาขวาง โชบุกับชุนก็ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไปใกล้ตัวรันตราได้ การต่อสู้ที่ดูจะไม่มีใครยอมใคร แต่ทุกคนรู้ดีว่าทันทีที่ตะวันตกดินเมื่อไหร่ พวกมันจะมีพลังมากขึ้นกว่าเดิม และทุกอย่างจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม
วิรัลพยายามฝ่าเข้าไปให้ถึงตัวรันตราแม้จะยากเพราะมีเหล่านักรบปีศาจไร้ชีวิตเข้ามาขัดขวาง คมดาบของเขาฟาดฟันจนเหล่านักรบไร้ชีวิตขาดเนท่อน ร่างแล้วร่างเล่า แต่ดูเหมือนจะไม่มีทางจบสิ้นสักที
“อ๊าก!” เธราที่ถูกเส้นผมของรันตรารัดร่างกายแล้วยกขึ้นสูงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เมื่อถูกฟาดลงมาที่พื้นอย่างแรง
วิรัลพาตัวเองไปหาเธราทันที แขนแกร่งตวัดดาบไปมาราวอวัยวะชิ้นหนึ่งของร่างกาย “เธราเป็นอะไรรึเปล่า” วิรัลเอ่ยถามคนที่พยุงตัวเองลุกขึ้น
“ไม่เป็นไรกระหม่อม” เธราบอกก่อนมองสำรวจวิรัลว่ายังปลอดภัยดีหรือไม่
“เจ้าหลบไปก่อน สิ่งที่มันต้องการคือชีวิตเจ้า” วิรัลบอกก่อนยกดาบรับการจู่โจมของนักรบปีศาจ
“สหัส” เธราที่ดูเหมือนจะไม่ฟังคำของวิรัลเท่าไหร่ เอ่ยปากเรียกนามของสิงห์ราดังลั่น
“โฮกกกกกกกกกกกก” เสียงคำรามของสิงห์ราดังสนั่นไปทั่วบริเวณ กรงเล็บขย้ำลงไปที่ร่างของนักรบปีศาจจะฉีกขาดกระจายไปทั่ว ใบหน้าครึ่งสิงห์แยกเขี้ยวราวสำแดงเดชแห่งเผ่าพันธุ์ ร่างสูงใหญ่กว่ามนุษย์มุ่งตรงมายังนายแห่งตนอย่างรวดเร็ว
“คุ้มกันข้าด้วย” เธราบอกกับสหัส ก่อนหยิบเอาบางอย่างออกมา กริชที่พวกนักรบปีศาจใช้ทำร้ายสหัส กริชที่มาจากเมืองแห่งเวท เมื่อสิ้นคำสั่งที่กล่าวกับสหัสเธราก็พุ่งตัวออกไปทันที
วิรัลยกดาบป้องกันตน ทั้งสายตายังคงจับจ้องไปที่เธราอย่างเป็นห่วงบางทีเขาอาจต้องทำใจว่าคนรักของเขาไม่ใช้คนที่จะรอให้เขาปกป้องแต่เพียงฝ่ายเดียว “พลธนู” วิรัลตะโกนสั่งทันที ประตูกลที่ฝังอยู่ก็เปิดขึ้นมาพร้อมกับพลธนูไฟ
ที่เตรียมพร้อมทำหน้าที่ของตนอยู่แล้ว ธนูไฟที่พุ่งมาทำลายล้างนักรบปีศาจอย่างแม่นยำ
เธราพาตัวเองมาใกล้รันตรามากขึ้น โดยมีสหัสคอยระวังให้ร่างสุงโปร่งแทงกริชลงบนร่างของนักรบปีศาจ และทันทีที่รั้งกริชออกมาร่างของมันก็สลายหายไป เธรามองกริชในมือก่อนเหลือบมองรันตรา ช่วงเวลาที่ถูกกักตัวอยู่ที่ตำหนักหยาดหมอกเขาอ่านตำนานเมืองต่างๆอย่างไม่รู้จะทำอะไร แต่ในตำนานเหล่านั้นเขากลับพบบางสิ่งบางอย่างที่พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง ดั่งเช่นสิงห์ราที่แพ้เขี้ยวสิงห์ ชาวเวทจะหลั่งเลือดได้ก็ต่อเมื่อถูกคมอาวุธที่มาจาดเมืองแห่งเวทเท่านั้น เธรากำกริชในมือแน่น ตอนนี้แม้รันตราจะเป็นปีศาจ แต่ครั้งหนึ่งคนตรงหน้าก็คือชาวเวท ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้ คิดได้ดังนั้นเธราก็พุ่งตัวออกไปทันที

ตอนนี้ยาววกว่าทุกตอนเพราะเฉลยหลายอย่าง
ฝากด้วยน้าาาา #วิรัลลืมเมีย