ตอนที่๓๐ ๕๐% End
เธราเดินสำรวจเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บไปทั่ว ส่วนวิรัลจำเป็นต้องแยกตัวออกไปเพื่อจัดการชี้แจงเหตุผลให้กับกองทัพของวูธ “เจ็บเยอะไหม แล้ว มีใครตายบ้าง” เธราเอ่ยถามคุช
“มีบาดเจ็บางส่วนกระหม่อม ส่วนเสียชีวิตท่านเอรันกำลังช่วยอยู่กระหม่อม” คุชรายงาน
เอรันที่กำลังยืนร่ายเวทอยุ่นั้นดูเคร่งเครียดใบหน้าสวยเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เวทที่ใช้ชุบชีวิตได้นั้นเป็นเวทชั้นสูงไม่ใช่ว่าชาวเวททุกคนจะทำได้ ก่อนที่กัชธาจะปิดตัวลงเธอจำได้ว่ามีเพียงสามคนเท่านั้นที่สามารถทำได้ และตอนนี้คงเหลือเพียงเธอเท่านั้น เอรันสูดหายใจลึกๆ แม้จะเริ่มรู้สึกมึนงง เวทบทนี้กินพลังชีวิตไม่น้อยหากใช้ในทางที่ดีก็สามารถชุบชีวิตหรือแม้กระทั้งดึงวิญญาณกลับมาจากขุมนรกได้ แต่ในทางกลับกันหากผู้ใช้ไม่มีจิตใจที่อยากช่วยอย่างแท้จริงมันก็สามารถทำให้ชีวิตนั้นนิททราไปตลอดกาล เอรันเม้มปากแน่นเธอต้องทำให้ได้ เธราอุตส่าให้อภัยท่านพี่แม้สิ่งที่ท่านพี่รันตราทำจะร้ายแรงแต่เธราก็ยังเมตตาเธอจะไม่มีวันทำให้เธรารู้สึกผิดกับการกระทำครั้งนี้ การรบครั้งนี้จะต้องไม่มีใครเสียชีวิต เอรันตั้งใจแน่วแน่ริมฝีปากร่ายเวทอย่างตั้งใจ
“เอรันดูแย่แล้ว” เธราเอ่ยอย่างเป็นห่วง “ตามทรีสไหม” เขาหันไปถามสหัสที่ยืนอยู่ข้างๆ ตอนนี้สหัสกลับร่งเป็นมนุษย์ปกติตามเดิม สหัสพยักหน้ารับก่อนขอตัวไปทำตามคำสั่ง โชบุกับชุนนั้นออกไปช่วยขนย้ายคนเจ็บไปรับการรักษาอย่างรู้หน้าที่
“หมอยาพอรึเปล่า” เธราเอ่ยถามหมอที่กำลังดูแลคนป่วยอยู่
“ไม่น่าพอกระหม่อม”
“ทำยังไงดี ที่ตำหนักท้ายบึงก็ไม่เหลือ สมุนไพรอะไรแล้ว” เธราเริ่มกังวลแต่ก่อนที่จะได้สั่งการอะไร พารัมก็กระหืดกระหอบวิ่งเข้ามาท่ามกลางเหล่าทหารที่นอนรอรักษาตัว
“พี่เธราๆ พ่อกับแม่ข้ามาล่ะ เอาสมุนไพรมาช่วยเต็มเลย” พารัมเอ่ยบอกก่อนฉีกยิ้มอย่างอวดๆ “ข้าส่งข่าวไปว่าจะมีการรบ บันกุเราไม่มีกำลังพลจะมาช่วยข้าเลยให้เตรียมสมุนไพรมาช่วยแทน” พารัมแจ้วๆบอกออกมา “ข้าเก่งใช่ไหมล่ะ พอเห็นว่าที่ตำหนักท้ายบึงพังหมด เลยคิดว่ายาต้องขาดแน่ๆ
”
“เก่งพารัม เจ้าฉลาดมาก” เธราลูบหัวพารัมเบาๆ อย่างชมเชย พารัมที่ฉีกยิ้มจนแก้มแทบปริ
“เอรัน” เสียงทรีสที่ดังขึ้นเรียกความสนใจของเธราพารัมและคุชได้เป็นอย่างดี “เธราเดินเข้าไปรับร่างของเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมแขน เมื่อทรีสนั้นดูพะวักพะวง
“เอรันดูไม่ดีเลย” เธราบอกออกไปในในนึกเป็นห่วง
“เวทร่ายบุหลัน” ทรีสเอ่ยออกมา ใบหน้าเคร่งเครียด “ข้าไม่คิดว่านางจะใช้เวทนี้อีก มันอันตราย” คำพูดของทริสนั้นยิ่งเรียกความกังวลของทุกคนที่ฟังได้เป็นอย่างดี
แล้วสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่อเหล่าร่างของเหล่าทหารที่สิ้นใจไปแล้วเริ่มขยับได้ แสงสีขาวที่ฉายออกมารอบๆตัวของรันเปล่งแสงเจอดจ้าราวแสงจันทรา ไม่นานทุกคนที่สิ้นใจก็เริ่มได้สติพร้อมกับร่างของเอรันที่ฟุบล้มลงไป ทรีสที่เฝ้ามองเข้าไปรับร่างบอบบางไว้ได้ทันก่อนจะกระชับกอดแน่น
“ข้าฝากเจ้าตัวเล็กด้วย” ทรีสเอ่ยกับเธราก่อนอุ้มเอรันกลับไปยังห้องพัก
------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------
นันทานครนั้นหลังจากการปะทะกับกองทัพเลือดแล้วทุกอย่างก็ดูวุ่วายจนเธราแทบจะปรับตัวไม่ทัน เหล่าหัวเมืองต่างๆส่งของมาบรรณาการและสวามิภักดิ์กับนันทานครมากมายเสียจนเหนือยใจ แต่สิ่งที่ทำเอาเธราหมดแรงมากกว่าทุกสิ่งก็คือข่าวลือเกินจริงเกี่ยวกับตัวเขา ตอนนี้เขาเป็นถึงพระสนมเอกของนันทานครที่เต็มไปด้วยญาณพิเศษที่แสนแม่นยำมีฝีรบที่หาที่เปรียบไม่ได้ เพราะสามารถปราบปีศาจที่แสนร้ายกาจได้ด้วยกริชเพียงเล่มเดียว ข่าวลือที่แสนเกินจริงนั้นส่งผลให้เขาต้องมานั่งฉีกยิ้มฝืดรับของมากมายจากเหล่าบรรดาเมืองต่างๆที่ส่งมาให้อย่างไม่ขาดสายและทันทีที่ได้มีโอกาศกลับมาที่ห้องบรรทมเธราก็ทิ้งตัวลงนอนอย่างไม่สนใจคนที่เดินตามเข้ามาแม้แต่น้อย เขาซุกหน้าลงไปบนหมอนนุ่มก่อนถอนหายใจราวเหนื่อยเสียหนักหนา
“เหนื่อยรึ” วิรัลถามคนที่ดูเหนื่อยทั้งที่นั่งยิ้มเฉยๆเพียงเท่านั้น
เธาพยักหน้าทั้งที่ยังซุกหมอนอยู่ ก่อนเงยหน้าขึ้นมามองวิรัลที่นั่งลงพลางเอนตัวลงมานอนข้างๆเขา วิรัลพลิกตัวนอนตะแคงไปทางเธราก่อนยกมือขึ้นลูบหัวคนเหนื่อยเบาๆ
“เมื่อก่อนตะลอนไปทั่ว ไม่เหนื่อยกว่านี้รึไงนี่แค่นั่งเฉยๆจะเหนื่อยอะไรนักหนาหืม” วิรัลเอ่ยติดตลกหากเธรากลับขยับลุกขึ้นนั่งทันที มือเรียวเอาหมอนมากอดไว้หลวมๆก่อนทำหน้าเหนือยหน่าย
“ข้าเบื่อ” เธราเอ่ยออกมา ทำเอาวิรัลกลั้นหัวเราะเขาว่าแล้วคนที่เคยไปใหนมาไหนตามสบายต้องมาถูกให้ออกรับแขกนั่งปั้นหน้าทั้งวันแบบนี้คนจะเบื่อไม่น้อย
“อยากไปใหนล่ะ” คำถามของวิรัลทำเอาคนขี้เบื่อตาโตเตรียมจะฉีกยิ้มแต่แล้วเหมือนเจ้าตัวจะนึกบางอย่างได้ รอยยิ้มจึงหุบหายไปอย่างรวดเร็ว
“ยังไม่ไปไหนหรอกกระหม่อม ตอนนี้ทุกอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทาง ไหนจะเรื่องของวูธที่ยังเจรจาไม่เสร็จสิ้น ข้ายังไม่ไปไหนหรอก” เธราบอกเสี่ยงอ่อย “แล้ว...เอ่อ...คาเซได้รับการตัดสินรึยังกระหม่อม”
“โทษของคาเซร้ายแรงคงไม่พ้น..ประหาร แต่คาเซนั้นทำคุณต่อแผ่นดินมาไม่น้อยเลยลดโทษเหลือเนรเทศ ตลอดชีวิต” วิรัลตอบเสียงนิ่งเรารู้ดีว่าวิรัลเองก็เจ็บปวดไม่น้อย
------------------------------------------------------------------------------------------------
เธราออกมาส่งเอรันทรีสและลูกน้อยที่ประตูเมืองอย่างเป็นส่วนตัว เธราจูบหน้าผากของเด็กน้อยในอ้อมแขนต้นซ้ำไปมาหลายทีก่อนที่จะคืนเด็กน้อยแก่ทรีส
“เจ้าท่าทางจะชอบเด็กนะเธรา เอาไว้มีเองสักคนสิ” ทริสพูดอย่างติดตลกแต่เธรากลับหน้าเสีย เขาเป็นชายจะมีลูกได้อย่างไรกัน
เอรันมองคนหน้าเสียอย่าเอ็นดู เธราแสนดีจิตใจที่บริสุทธิ์และกล้าหาญนั้นหาได้ยาก เชื้อสายที่แสนดีเช่นนี้ไม่สมควรหายไปเพียงเพราะเธราเป็นชายมีลูกให้องค์วิรัลไม่ได้
“ข้าเอรันผู้ได้ชื่อว่าเป็นชาวเวทที่สูงส่ง ในนามของข้าเพื่อเป็นการขอบคุณท่านเธราที่ไวชีวิตพี่ของข้า หากมีสิ่งใดในโลกหล้าที่ท่านต้องการจากก้นบึ้งของหัวใจ ท่านจะได้มันโดยมิต้องร้องขอ ขอให้พรข้าเป็นจริง” เอรันเอ่ยอวยพรแก่เธรา มือบางแตะลงไปที่แก้มของคนยิ้มเก่งเบาๆริมฝีปากบางร่ายเวทพึมพำก่อนเป่าลงไปที่หน้าผากของเธรา “ไม่ว่าดวงอาทิตย์หรือแสงดาวหากเจ้าประสงค์จากดวงใจจะได้ตามปรารถนา” แสงสีทองสว่างวาบออกมาเบาๆก่อนหายเข้าไปที่หน้าอกด้านซ้ายของเธรา
“ข้าไม่รู้จะเอาดวงอาทิตย์ไปทำอะไรนะเอรันมันร้อน” เธราเอ่ยติดตลก
เอรันเพียงแค่ยิ้มรับเธอไม่ได้ตอบอะไรร่างบอบบางสวมกอดเธราอีกครั้ง ก่อนจะจากไป
------------------------------------------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------
เธราขยับตัวหนีคนด้านบนอย่างอึดอัดใบหน้างอง้ำอย่างขัดใจเมื่อวิรัลนั้นเริ่มเอาแต่ใจจนเขาแทบไปไม่ได้นอน
“ข้าง่วงแล้ว” เธราบอกก่อนดึงผ้าห่มมาคลุมร่างไว้ มือเรียวดันอกวิรัลให้ออกห่าง
“อืม...นอนสิ” แม้จะบอกให้นอนแต่วิรัลกลับไม่ยอมออกห่างร่างของเธราแม้แต่นอยใบหน้าคมจรดริมฝีปากลงไปที่หลังคอเธราเบาๆมือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข
“พอแล้ว” เธราดิ้นยุกยิก “ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ”
คำต่อว่าของเธราเรียกเสียงหัวเราะจากวิรัลได้ไม่ยาก “เพราะเจ้านั่นแหละทำให้ข้าเป็นแบบนี้” วิรัลเถียงทั้งที่ใบหน้ายังไม่ห่างจากผิวคนตรงหน้า
“ข้าไม่ได้ทำอะไรสักนิด” เธราบอกหน้าเริ่มขึ้นสีอีกครั้งเมื่อวิรัลไม่ยอมฟังคำห้ามปราม
“งั้น...ข้าทำเองก็ได้นะ”
“ทะลึ่ง!”
“อ้าวเธรา อย่าดุสิ” วิรัลอารมณ์ดีมากขึ้นไปอีกเมื่อเธราเริ่มโมโห เธราเวลามุ่ยหน้ามุ่ยช่างน่าดูกว่าเวลาทำหน้านิ่งๆเวลาจะก่อเรื่องมากนัก
เมื่อห้ามไม่ฟังเธราจึงได้แน่เอนตัวซบลงไปที่อกของวิรัลเสียงหัวใจที่ดังเป้นจังหวะสม่ำเสมอนั้นฟังแล้วสบายใจสำหรับเธราแค่องค์วิรัลยังคงโอบกอดเขาแบบนี้เขาก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว แต่หากวันใดอ้อมกอดนี้ไม่ใช่ของเขาคนเดียวล่ะ แน่นอนเธรามั่นใจว่าองคืวิรัลรักเขาการกระทำทุกอย่างมันยืนยันได้จากหัวใจ และองค์วิรัลก็ย้ำเสมอว่าจะไม่มีใครนอกจากเธรา แต่ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ราชาจะไม่มีรัชทายาท องค์วิรัลเป็นชายชาตรีจะมาทายาทสักกี่คนสก็ได้เขาต่างหากที่มีทายาทให้องค์วิรัลไม่ได้ เธราสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อองค์วิรัลเริ่มรุกไล้และสัมผัสมากขึ้น แม้จะหลับตาลงแต่ความปั่นป่วนนั้นยังคงไม่หายไปไหน ยิ่งองคืวิรัลรักเขามากไรความเห็นแก่ตัวก็เริ่มครอบงำเธรามากขึ้นเขาไม่อยากแบ่งองค์วิรัลให้ใครผู้ชายคนนี้เขาไม่อย่างแบ่งให้ใคร
เธราลืมตาขึ้นมาเมื่อแสงแดดเริ่มส่องเข้ามาในห้อง ความรู้สึกหนักๆที่ตัวนั้นทำเอาเธราต้องนอนนิ่งๆ องค์วิรัลยังคงหลับอยู่เปลือกตาที่ปิดสนิมพร้อมลมหายใจที่สม่ำเสมอนั้น เป็นภาพที่นอกจากเธราคงไม่มีใครได้เห็น มือเรียวยกขึ้นแตะแก้มของวิรัลเบาๆ ความหวงแหนแล่นเข้ามาในความรู้สึก เธราแอบได้ยินมาว่า เมืองต่างๆเริ่มส่งสารมาติดต่อเรื่องการอภิเษกบ้างแล้ว นันทานครที่เอาชนะกองทัพเลือดได้ยิ่งเป็นที่น่ายำเกรงใครๆก็อยากเกี่ยวดองด้วย แม้องค์วิรัลจะย้ำเสมอว่าจะมีเขาเพียงคนเดียวแต่เธรารู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ นอกจากเขาจะมีรัชทายาทให้นันทานครเท่านั้น
“จะลวนลามข้าอีกนานใหมเรา” องค์วิรัลถามออกมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“เช้าแล้ว” เธราตอบกลับไปเบาๆ วิรัลลืมตาขึ้นมาก็พบกับเธราที่ยังคงลูบแก้มตนเองเบาๆ ใบหน้าแสนธรรมดาที่มองมานั้นช่างน่าหลงใหล
“ถ้ามองแบบนี้วันนี้ข้าจะไม่ให้ออกไปจากห้องเลยนะเธรา” วิรัลพูดติดตลกทำเอาเธราผละตัวออกจากเขาทันที
“ไม่คิดเลยว่าท่านจะเป็นคน ลามกแบบนี้พอเลยพอๆ” เธราบ่นพลางแกะแขนวิรัลที่ตามมากอดจากด้านหลัง เธรายันตัวลุกขึ้น แต่แล้วภาพทุกอย่างก็หมุนราวมีใครมาจับโคลงไปมาจนเธราต้องนั่งลงอีกครั้ง
“เป็นอะไร” วิรัลขยับเข้ามาพยุง เมื่อเห็นว่าเธราลุกขึ้นและนั่งลงท่าทางเหมือนจะเป็นลม เธราส่ายหน้าไปมาอาการมึนหัวเริ่มเข้ามาเพิ่ม
“หมอหลวง ตามหมอหลวงที” วิรัลตะโกนลั่นห้องเมื่อเธราเริ่มมีอาการไม่ดี
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------
เธราที่นั่งนิ่งๆให้หมอหลวงดูอาการ ใบหน้าซีดดูน่าสงสาร
“นี่อง์วิรัลท่านหักโหมไปรึเปล่า” โชบุกระซิบกระซาบกับองค์วิรัลที่ดูเหมือนจะห่วงคนป่วยจนออกนอกหน้า
“ก็ปรกตินะ” วิรัลตอบออกไป จะหักดหมได้ยังไงกันเธรายอมที่ไหนเล่า
“ไอ้ตัวเล็กไม่น่าอ่อนแอแบบนี้นี่นา ลุยป่าลุยดงเห็นสบายดี” ชุนพูดออกมาอย่างเป๋นห่วง ตั้งแต่จบเรื่องเขากับโชบุเองก็เตรียมตัวไปตามทางของตน แต่ดูเหมือนเธราจะไม่ยอม ไอ้ตัวเล็กของเขาทั้งสั่งทั้งอ้อนให้อยู่ด้วยกัน จนสุดท้ายวิรัลที่ดูจะหลงเมียถึงขั้นก่อตังกองกำลังพิเศษที่มีเพียงแต่พวกลูกครึ่ง โดยอ้างว่าอยากจะให้การรังเกียจลูกครึ่งนั้นหายไปจากเมืองมนุษย์สักที และให้เขากับโชบุเป็นคนดูแล ดูเหมือนโชบุเองก็ยังคงอยากจะอยู่ที่นี่ เขาเองเลยไม่ได้คักค้านอะไรสำหรับเขาโชบุอยู่ที่ไหนชุนคนนี้ก็จะอยู่ที่นั้นตลอดมาและตลอดไป
แม้หมอหลวงเองก็หาเหตุผลของการป่วยครั้งนี้ไม่ได้ แต่เธรานั้นนับวันอาการยิ่งหน้าเป็นห่วงอาหารเริ่มกินไม่ได้อะไรที่เคยชอบก็กินไม่ได้ จนวิรัลแทบไม่เป็นอันทำอะไร เพราะห่วงเธรา
“เจ้าดีขึ้นใหม” วิรัลถามเธราตอนนี้เธรานั่งอยู่ที่ตำหนักท้ายบึง สมุนไพรมากมายถูกปลูกขึ้นมาใหม่ ตอนนี้ตำหนักท้ายบึงกลับไปเป็นสภาพเดิมแล้ว และสหัสก็เป็นคนเดียวที่ยังอาศัยอยู่ที่นี่เพราะเธราโดนบังคับให้ไปอยู่กับวิรัลที่ตำหนักหยาดหมอกเรียบร้อย
“ถ้ารารียังอยู่ป่านนี้ท้องคนโตแล้ว อีกไม่กี่เดือนข้าคงได้อุ้มเจ้าตัวน้อย” เธราพูดขึ้นมาตำหนักท้ายบึงนั้นยิ่งมองภาพของรารีก็ฉายชัดขึ้นมา ในโหลขนมที่เต็มไปด้วยจดหมายรักไม่เคยทีจดหมายตอบจากคาเซแม้สักฉบับรักข้างเดียวของรารีนั้นยังคงอยู่จนวันตาย
แต่แล้วเสียงปีกขนาดใหญ่ที่สะบัดไปมากลางสายลมก็ดังขึ้น เธราเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าก็พบกับปักษาสาวอีกครั้ง หลังจากเธอปรากฏตัวขึ้นตอนที่เกิดการต่อสู้กับรันตรา เธราเองก็มัวแต่วุ่นวายจนไม่รู้เลยว่าเธอจากไปตอนไหน ขนาดราซีนยังหายตัวไปโดยไม่กล่าวลา ร่างบอบบางของปักษาสาวในร่างมนุษย์ปรากฏตรงหน้าของเธราทันที่ที่เท้าของปักษาสาวแตะพื้น
เธอทำความเคารพวิรัลและเธรา ก่อนกวาดสายตามองหาใครบางคน แต่เมื่อไม่เห็นเธอก็หันมาบอกบางอย่างแก่เธราตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก
“ถวายบังคมแพคพะ องค์วิรัล พระสนมเธรา”
“ดีเลย วันนั้นข้ายังไม่ได้ขอบใจ ขอยใจมากเลยหากไม่ได้เจ้าวันนั้นไม่รู้จุกจบจะเป็นอย่างไร”
ปักษาสาวก้มหน้ารับคำขอบคุณของเธราเบาๆ
“ข้ามีข่าวจากท่านทรีสและท่านเอรันมาบอกท่าน” นางกล่าวก่อนแย้มยิ้มใบหน้านั้นดูน่ารักไม่น้อย
“เจ้าไปเจอทรีสกับเอรันมาเหรอ เจ้าตัวเล็กโตขึ้นใหมข้าได้ยินมาว่าลูกครึ่งโตเร็ว” เธราถามไถ่
ปักษาสาวยิ้มหากไม่ยอมตอบคำถามของเธรา มือเรียวฉวยเอาถึงผ้าใบเล็กๆออกมาก่อนจะเปิดออกมา ก็ปรากฏลูกแก้วที่มีรัสมีสพทองขนาดเท่าฝ่ามือปรากฏขึ้น มันลอยขึ้นมาสูงก่อนจะค่อยๆลองมาที่เธรา และดวงแก้วสีทองนั้นก็ค่อยๆหายไปที่ท้องของเธรา
“ข้านำดวงจิตมาให้ท่านเมื่อครบร้อยราตรีข้าจะนำร่างมามอบให้ท่านอีกครั้ง และเมื่อดวงจิตกับร่างมาบรรจบกัน สิ่งที่ท่านประสงค์จะสมปรารถนา” เมื่อสิ้นคำพูดปักษาสาวก็โผบินขึ้นกลางอากาศและหายไปจนลับสายตาทิ้งให้เธรากับวิรัลยังคงไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ธ...เธราเกิดอะไรขึ้น” วิรัลหันไปถามเราที่ยังคงมีท่าทีงุนงง ดวงตาสีรัตติกาลมองไปที่หน้าท้องของเธราที่ลูกแก้วสีทองเพิ่งหายเข้าไป บางอย่างทำให้ดวงใจของเขาเริ่มเต้นรัว
“ไม่ทราบกระหม่อมสิ่งที่หม่อมฉันปรารถนาเหรอ...ใช่สิ...เอรันเคยอวยพรไว้ว่าสิ่งใดที่ข้าปรารถนาจากดวงใจข้าจะได้โดยไม่ต้องรอ ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์หรือแสงดสว” เธราบอกออกมาก่อนหันมามองหน้าวิรัล ดวงตาสีน้ำตาลยังมีแววงุนงง
“แล้ว...เจ้าอยากได้อะไร...เธรามีอะไรที่เจ้าอยากได้” วิรัลถามพลางกลืนน้ำลาย เขาจำได้ว่าเรานั้นกังวลเรื่องอะไร
“ไม่มีนี่” เธราตอบออกมาทันทีใบหน้ายังคงเหรอหรา
“เธรา...สิ่งที่เจ้าต้องการ...ต้องการจะมีน่ะ...ไม่มีเลยรึ...ท่าทางอาการของเจ้าตอนนี้มัน...เอ่อ...มันเหมือน” วิรัลเงียบไปสายตาหลุบมองหน้าท้องเธราอีกครั้ง และเหมือนคราวนี้เจ้าตัวจะเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเบิกโตขึ้น แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร ร่างของสหัสก็ปรากฏขึ้น สหัสที่วิ่งมาเต็มฝีเท้ามีหน้าตาตื่นตระหนก
“ท่านเธรา...ท่าน...ท่านมีอีกดวงจิตในตัว...ข้า...ข้ารู้สึกได้” สหัสบอกก่อนมองไปที่วิรัลกับเธราอย่างตื่นตระหนก สหัสรู้ว่าเอรันนั้นอวยพรให้เธรา และคำอวยพรของชาวยเวทนั้นจะศักสิทธิ์เสมอ แต่เขาไม่คิดว่าสิ่งที่เธราต้องการจากหัวใจจะเป็นสิ่งนี้
“มหาดเล็ก!!!เตรียมจัดงานเฉลิมฉลองเดี๋ยวนี้” วิรัลตะโกนลั่น ก่อนหันไปดึงเธราที่ดูเหมือนยังไม่ได้สติขึ้นมากอด “พระสนมได้รับพรศักสิทธิ์ นันทานครกำลังมีรัชทายาท”

จบแล้ววว ไปอ่านบทส่งท้ายกันค่าา