ภารกิจที่ 14 : รุก
“พี่อินผมขอคุยด้วยหน่อย” อินทรีย์และอิฐชะงักฝีเท้า มองคนที่มาดักรอ ท่าทางกวนๆ คุ้นตาหายไปกลายเป็นเด็กหนุ่มท่าทาง
จริงจัง
“ได้สิ อิฐมึงไปก่อน”
“กูไปรอกับไอ้พวกนั้นเสร็จแล้วมึงตามไป”
“อืม” อินทรีย์พยักหน้าให้อิฐ รอจนอีกฝ่ายเดินไปแล้วถึงหันกลับมาหาจุน
“จุนอยากคุยอะไร”
“ที่พี่พูดว่าจะจีบเขียวพี่พูดจริงหรือเปล่า ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”
“ใช่ พี่จีบจริง”
“แต่มันเป็นผู้ชาย”
“พี่ว่าพี่รู้นะ” อินทรีย์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี มองจุนที่พยายามทำท่าขึงขังเหมือนต้องการข่มขวัญเขา
“อย่าหัวเราะสิพี่ผมไม่ขำ พี่อินเป็นเกย์เหรอ”
“เปล่า”
“แล้วทำไมถึงจะจีบเขียว เอาแน่ๆ ชัดๆ ผมเริ่มงงไม่เข้าใจ พี่ไม่ได้เป็นเกย์แต่จีบผู้ชาย”
“พี่ชอบเพื่อนเรา” อินทรีย์ตอบออกมาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เขารู้ใจตัวเองดี เขาสนใจเขียวหวาน และเริ่มสนใจขึ้นเรื่อยๆ
จนมั่นใจว่าเขาชอบ
“ถ้าอย่างนั้นพี่จะกลายเป็นเกย์”
“อาจใช่” อินทรีย์ไม่สามารถตอบได้ เพราะกับผู้ชายคนอื่นเขาไม่มีความสนใจแม้แต่น้อย
“แล้วจะไม่รู้สึกอะไรเหรอถ้ามีคนเอาไปพูด”
“ไม่ ทำไมต้องรู้สึก พี่ก็ยังเป็นพี่”
“มันก็จริง แต่ผมไม่อยากให้พี่ยุ่งกับเพื่อนผม” จุนพูดถึงเหตุผลสำคัญที่มาดักรออินทรีย์ในวันนี้
“บอกเหตุผลได้ไหม”
“โห! ยังต้องบอกอีกเหรอพี่ มีเป็นพันๆ ข้อ พี่อยู่กลุ่มซุปตาร์คนเข้าหาเยอะ พี่มีเสน่ห์ พี่เจ้าชู้ พี่..”
“พี่จะถือเป็นคำชมนะ” อินทรีย์ยวางตัวสบายๆ ยังมีรอยยิ้มติดบนใบหน้าตลอดเวลาที่คุยกับจุน
“เดี๋ยวสิพี่ผมยังพูดไม่จบ พี่ไม่จริงจังกับใคร”
“เรารู้ได้ยังไงว่าพี่ไม่จริงจัง เคยเห็นกับตาเหรอ”
“ผมไม่เคยเห็นแต่ใครๆ ก็พูดกัน”
“ใครๆ ก็พูดกัน ถ้าอย่างนั้นพี่ถามหน่อย จุนเคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนไหม”
“ไม่เคย ผมยังไม่เคยมีแฟน”
“ตอนนี้พี่ก็ไม่มี ดังนั้นจุนจะให้พี่จริงจังกับใคร”
“พี่อินอย่าเอาความฉลาดมาหาทางออก ถ้าพี่จะจีบเพื่อนผมก็เอาความจริงใจมาคุยกัน” อินทรีย์ชะงัก เขาไม่เคยเห็นจุนในมุมนี้
มาก่อน ไม่หุนหันพลันแล่น ไม่โวยวายมีแต่ความมุ่งมั่นและจริงจัง
“ขอโทษที แต่ที่พี่พูดเพราะอยากให้จุนมองภาพให้ออกว่าที่ใครๆ เขาพูดกัน เพราะพี่เป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือแค่เพราะพี่ยังไม่มี
ใครให้จริงจัง พี่ไม่เคยคบซ้อน ไม่เคยโกหก ไม่เคยหลอกลวง พี่ว่าพี่มีความจริงใจและจริงจังพอนะ”
“แล้วพี่จะจริงจังจริงใจกับเพื่อนผมไหม”
“แน่นอน” จุนเงียบไปสีหน้าครุ่นคิด อินทรีย์ยืนรอเงียบๆ ให้อีกฝ่ายตรองให้ตก
“ผมบอกก่อนนะว่าเขียวมันไม่ชอบผู้ชาย ที่ผ่านมามีคนมาจีบมันตั้งเยอะผู้ชายทั้งนั้น มันไม่สนสักคน”
“ขอบใจ”
“ขอบใจอะไร ผมไม่ได้ช่วยพี่ ผมบอกให้รู้พี่จะได้ไม่เสียเวลา”
“ไม่มีคำว่าเสียเวลา”
“มั่นใจเกินไปแล้วพี่”
“เปล่า พี่คิดว่าผลมันจะเป็นยังไงก็ช่าง เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมันไม่เสียเปล่าหรอก”
“......”
“เป็นอะไร” อินทรีย์หัวเราะเมื่อเห็นจุนทำหน้าประหลาด
“เลี่ยนวะ เอาไว้พูดกับเขียวโน่นไม่ต้องมาพูดกับผม”
“แปลว่าเราอนุญาตให้พี่จีบเพื่อนเราได้”
“ผมไม่ได้พูด ผมไม่ได้สนับสนุน” แต่ผมจะไม่ขวาง จุนละประโยคสุดท้ายไว้ เขาจะไม่พูดออกไปให้อีกฝ่ายได้ใจ
“ผมหมดคำถามแล้ว ไปก่อนเดี๋ยวเขียวมันตามหา ผมแอบแว่บออกมา”
“ไปเถอะ”
อินทรีย์มองตามหลังจุนไปจนลับตา เด็กคนนี้เป็นคนดี หวังว่าเพื่อนเขาจะจริงจังเหมือนกัน
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“จุนมีเรื่องอะไร” ประโยคแรกที่เพื่อนรักอย่างทิเบตทักทายอินทรีย์เมื่อเจอหน้า
“มีอะไร?” อินทรีย์แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ นึกขำทิเบตที่ดูสนใจความเป็นไปของจุนเป็นพิเศษ
“เห็นอิฐบอกว่าจุนมารอเจอมึง”
“ก็ใช่”
“อิน!” เสียงใกล้หมดความอดทนของทิเบต ทำให้อินทรีย์หัวเราออกมา
“มึงเป็นพวกอยากรู้อยากเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่วะเบต ร้อยวันพันปีไม่เห็นเคยสนใจถาม”
“มึงจะตอบกูดีๆ ไหม”
“ฮ่าๆ เรื่องของกู”
“ไอ้อิน!” เมื่อเพื่อนเติมไอ้นำหน้าชื่อให้ อินทรีย์ก็รู้แล้วว่าถึงขีดจำกัด ควรเลิกเล่นได้แล้ว
“ดุจริงมึง กูหมายความตามนั้น จุนมาคุยเรื่องของกูมาถามว่าจริงจังกับเรื่องที่พูดไปแค่ไหน”
“เรื่องเขียว?”
“ใช่”
“แล้วมึงจริงจังแค่ไหน” อิฐถามด้วยความสนใจ เขาชอบทั้งเขียวและจุน อดห่วงไม่ได้แต่ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของเพื่อนมากนัก
“มาก”
“เอาที่มึงตอบพวกกู ไม่เอาที่มึงตอบจุน”
“ถ้าตอบพวกมึงกูจะตอบว่า..คนนี้ของกู”
“ชัดไหมครับคุณอิฐ ไอ้คุณอินประกาศแล้วว่าคนนี้พวกมึงห้ามยุ่ง” สิงห์ช่วยแปลคำพูดของอินทรีย์ให้อิฐฟัง
“ใช่คนนี้มึงห้ามยุ่ง แต่ถ้าคนอื่นมึงอยากยุ่งก็ตามใจ”
“หมายถึงใคร” อิฐขมวดคิ้วมองหน้าอินทรีย์ ยิ่งรอยยิ้มคล้ายกำลังขบขันอะไรบางอย่างของเพื่อน ยิ่งทำให้คิ้วขมวดเข้าหากันมากขึ้น
“กูไม่ได้เจาะจงใคร กูหมายถึงทุกคน”
“มึงพูดแล้วห้ามคืนคำ” สิงห์รีบขอคำยืนยันจากอินทรีย์
“กูหมายถึงไอ้อิฐไม่ได้หมายถึงมึง”
“กีดกัน มึงมันรักเพื่อนไม่เท่ากัน กูไม่ง้อ เบตมึงแบ่งมาให้กูบ้าง” สิงห์หันไปตอแยทิเบตที่ยืนเงียบ ทำหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดห
หนัก
“ไอ้เบตเป็นอะไรของมึง”
“ไม่มีอะไร”
“อ้าว แล้วนั่นมึงจะไปไหน” สิงห์งงเมื่อทิเบตคว้ากระเป๋าเป๋ขึ้นสะพาย
“ไปหาวิธีเอารถมึง”
“อะไรของมันวะ แล้วมึงสองตัวจะจ้องตากันอีกนานไหมเดี๋ยวแม่งสปาร์คขึ้นมา เฮ้อ ทำไมกูดูโง่อยู่คนเดียววะ” สิงห์ถอนใจออก
มายาวๆ ยอมรับว่าเขาไม่เข้าใจความคิดเพื่อนในกลุ่มแม้แต่คนเดียว
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ห่วงเพื่อนเหรอ”
“เหี้ย!” จุนอุทานออกมาดังๆ เมื่อได้ยินเสียงกระซิบจากทางด้านหลัง เขาหันกลับไปมองจมูกเกือบชนแก้มทิเบต
“เข้ามาได้ไงวะ” จุนพึมพำกับตัวเอง เหลือบตามองอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าชั้น โชคยังดีที่อาจารย์ง่วนอยู่กับเอกสารไม่ได้หันมา
มองลูกศิษย์
“เดินเข้ามา” ทิเบตทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ว่างข้างจุน เขาชะโงกตัวทักทายเขียวที่นั่งอยู่อีกด้านของตัวจุ้น
“จะเข้ามาทำไม”
“มาดูหน้า”
“ดูทำไม”
“คิดถึง” จุนเหมือนโดนฟาดเข้าที่หัว คนคิดถึงพูดเหมือนชวนคุยเรื่องทั่วไปไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ใช่คำหวาน เป็นแค่คำๆ หนึ่ง
คล้ายสวัสดี ไปไหนมา กินข้าวหรือยัง
“เอางี้เลยเหรอ”
“ทำไม คิดถึงก็คือคิดถึง เหมือนหิวข้าวก็คือหิว” พูดแบบนี้ใครจะเถียงไอ้พี่เบตได้ล่ะครับ
“จะแอบมองทำไมตั้งใจเรียนไป” รู้อีกว่าเขาแอบเหลือบตาไปมอง คนอะไรเข้ามาพูดจาประหลาดเสร็จแล้วนั่งกอดอกสบายใจ
ทำเหมือนเป็นวิชาเรียนของตัวเอง
“จดแบบนี้จะได้เรื่องไหม ถามจริงที่ผ่านมาฟลุคผ่านหรือลอกเพื่อน” เว้ย ใครก็ได้เอาไอ้พี่เบตไปเก็บที ก่อกวนเขาไม่เลิก จุน
อยากไล่ตะเพิดแต่ทำไม่ได้เพราะเกรงว่าเขานี่แหละจะโดนอาจารย์ไล่ตะเพิดออกจากห้องเสียเอง จึงได้แต่สงบเสงี่ยม พูดกัดฟัน
ให้พอได้ยินกันแค่สองคน
“เรื่องของผม”
“วิชานี้ฉันได้เอ” จุนหูผึ่ง อะไรนะเออย่างนั้นเหรอ ในหัวเริ่มคิดสะระตะ ระหว่างเสียหน้ากับได้เกรดดีเขาควรจะเลือกอันไหน
วิชานี้เขายิ่งไม่ค่อยเข้าใจเสียด้วย
“สอนได้ไหม” ทิเบตเผลอยิ้มออกมา เขาชอบจุนก็ตรงนี้ เป็นเด็กที่ต่อให้ร้ายแค่ไหนก็ยังรู้จักคิด
“ได้สิ”
“เขียวด้วยนะ”
“ได้”
“ขอบคุณ” เสียงเบาๆ ที่ดังลอดออกมา ทำให้ทิเบตยิ้มกว้างขึ้น หมู่นี้เขาชักยิ้มเพราะไอ้ตัวจุ้นถี่ไปแล้ว
“เดี๋ยวเลี้ยงข้าว”
“มีเงินเหรอเรา” ทิเบตไม่รู้เลยว่าเสียงของเขาเอ็นดูไอ้ตัวจุ้นมันขนาดไหน
“ตอนนี้ยังไม่มี รอแม่ส่งมาให้สิ้นเดือนก่อน จะเลี้ยง”
“ตกลง” ทิเบตไม่คิดจะให้จุนเลี้ยง แต่เขาตอบรับเพื่อให้จุนคิดว่ามีภาระผูกพันอยู่กับเขาเท่านั้น
“ไปนะ”
“เฮ้ย!” จุนเผลอพูดเสียงดังจนต้องรีบลดเสียงลงมา
“ออกไปตอนนี้เดี๋ยวอาจารย์สังเกต”
“ไม่ต้องห่วง ฉันเอาตัวรอดได้”
“อะไรของพี่วะ มาแค่นี้จะมาทำไม”
“มาให้หายคิดถึง ฉันต้องไปเรียนแล้ว” จุนอยากจะตบปากตัวเอง ไม่น่าเปิดทางให้ไอ้พี่เบตเลย เล่นเขาจนได้ รุกหนักจริงๆ
นี่ขนาดเขารู้เรื่องพนันยังอดหวั่นไหวไม่ได้ สกิลดีเกินไปแล้ว
“เรื่องของพี่เถอะจะไปไหนก็ไป” จุนทำเป็นไม่สนใจ เรื่องอะไรจะแสดงออกให้เห็นว่าสิ่งที่ทิเบตทำได้ผล
“ตอนเย็นอย่าเพิ่งรีบกลับ รอก่อนจะพาไปทานข้าว” โว้ย ทำไมต้องเอนมากระซิบใกล้ๆ ด้วยวะ ตกใจหมด
“รออยู่แล้ว ไม่มีตังค์ มีคนช่วยเลี้ยงก็ดี” หึหึ จุนมั่นใจว่ามุกนี้จะทำให้ทิเบตเสียความมั่นใจ อย่าคิดว่าอ่อยแค่นี้จะได้ผล อีกอย่าง
มันคือเรื่องจริง กระเป๋าของเขาแบนมาก
“ตัวแค่นี้เลี้ยงได้อยู่แล้ว” น้ำเสียงและรอยยิ้มของทิเบตทำให้จุนกลับมาใจเต้นอีกครั้ง บทจะอ่อนโยนก็ทำเอาเขาใจสั่น เดาทาง
ไม่ถูกจริงๆ
“ตั้งใจเรียนนะ” มือใหญ่ลูบลงบนหัวเขา ก่อนเจ้าของมือจะลุกเดินออกจากห้องเรียนไป เงียบพอกับตอนเดินเข้ามา
จุนเผลอยกมือขึ้นแตะศีรษะ เหมือนรู้สึกได้ถึงความอุ่นของมือที่แตะลงมาเมื่อครู่นี้
“มึงแพ้”
“หะ..” จุนหันไปมองตามเสียง เห็นเขียวจ้องเขาอยู่ก่อนแล้ว
“กูบอกว่ายกนี้มึงแพ้ ราบคาบ ไม่ต้องนับคะแนน ชนะใส ไม่มีเสียงค้าน”
“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“เออ”
“สักคะแนน?”
“ไม่มี” เขียวพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจและชัดเจน
“เฮ้อ..กูก็ว่าอย่างนั้น” อย่าคิดว่าจุนไม่รู้ตัว เขารู้ว่าแพ้ตั้งแต่เจอคำว่าคิดถึงแล้ว
“เขียว”
“อะไร”
“กูว่าบีเอ็มของพี่สิงห์ก็ดีนะ ถึงจะรุ่นเก่าก็เถอะ”
“เหี้ยจุน” เขียวหมดคำพูด ได้แต่กรอกตาไปมา
“มึงว่าดีไหม”
“อย่ายุ่งกับกู” เขียวหันกลับไปตั้งใจเรียน ยังได้ยินเสียงจุนบ่นกระปอดกระแปดเรื่องที่เขาไม่สนใจฟัง เวรเอ๊ยเขาคิดอยู่แล้วเชียว
ว่าเรื่องต้องลงเอยแบบนี้
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
** ฝากเรื่องใหม่ด้วยนะคะ ใครชอบนิยายมีเด็ก กดโล้ด แนว feel good เหมือนเดิม
➴➴ กามเทพคูณสอง ♥ ปล.คราวก่อนบอกผิด ยังไม่ถึงเรื่องของเขียวหวาน ตอนหน้าชัวร์
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin