[ต่อจากด้านบน]“อาบน้ำแล้วเหรอ” ทิเบตมองเด็กน้อยที่ใส่ชุดนอนเรียบร้อยนอนกลิ้งอยู่บนเตียง ทิเบตถูกไล่ให้ไปอาบน้ำทันทีที่มาถึง ออกมาก็เจอภาพที่เห็น
“อาบแล้วผมอาบห้องน้ำข้างนอก พี่เบต..”
“ครับ”
“คืนนี้ผมนอนด้วยนะ”
“เราบอกพี่แล้วว่าจะค้าง”
“ไม่ใช่สิ” จุนทำหน้าขัดใจ ลุกขึ้นมานั่งตัวตรง ทำปากยื่นปากยาวใส่เขา
“ผมหมายถึงนอนในห้องนี้ ถ้าไม่ชัดก็นอนบนเตียงนี้ ตรงนี้เนี่ย” จุนตบลงบนหมอนที่วางอยู่คู่กันสองใบ
“เดี๋ยวๆ ไอ้ตัวจุ้นจะโวยวายทำไม พี่ว่าอะไรเราสักคำไหม” ทิเบตอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเจออาการงอแงของตัวจุ้นเข้า เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ
“แล้วไป” ไอ้ตัวดีทำเหมือนกับถ้าไม่ใช่อย่างที่คิดจะกระโดดข่วนหน้าเขาอย่างนั้น
“ไม่ต้องนอนห้องเดียวกับเขียวเหรอ” ทิเบตถามเพราะสงสัย ไม่ใช่ไม่อยากให้ตัวจุ้นนอนด้วย
“โอ๊ยนอนด้วยกันทุกวันเว้นมั่งก็ได้”
“จำได้ว่าเพิ่งเว้นมาสองคืน” เขาพูดยังไม่ทันขาดคำไอ้ตัวจุ้นก็ทำตาขวางใส่
“พูดอย่างนี้ไม่อยากให้ผมนอนด้วยเหรอ หล่อแล้วเล่นตัว”
“ไอ้เด็กบ้า” ทิเบตจะพูดอะไรได้นอกจากคำนี้ ดูสายตาที่ไอ้ตัวจุ้นมองมา ตกลงมันเชื่อจริงๆ ใช่ไหมว่าเขาเล่นตัว
“ขยับหน่อย” ทิเบตแกล้งขึ้นไปนั่งเบียดแกล้งเด็กขี้งอน
“ไม่ขยับ”
“พี่ร้อนไม่สบายตัว”
“เตียงตั้งกว้างมานั่งเบียดผมเอง” มีหรือจุนจะยอม เขาขึ้นมานั่งก่อนถึงทิเบตจะเป็นเจ้าของห้องก็เถอะ
หึหึ ไอ้ตัวจุ้นเอ๊ย ทิเบตดึงร่างเล็กเข้ามากอดรัดแน่นๆ ด้วยความมันเขี้ยวก่อนปล่อยออก
“พี่เบตหายปวดหัวหรือยัง” จุนเปลี่ยนเป็นนั่งคุกเข่าหันหน้าเข้าหาทิเบต ใช้หลังมือแตะลงมาบนหน้าผาก
“ดีขึ้นแล้ว กลัวติดไข้พี่เหรอ”
“เปล่า” ท่าทางปฏิเสธของจุนทำให้ทิเบตหรี่ตามอง ทำไมไอ้ตัวจุนมันดูมีพิรุธชอบกล
“คิดอะไรอยู่”
“หะ! ไม่ได้คิด ใครคิด คิดอะไร ผมไม่รู้เรื่อง” จุนหน้าซีด ทำไมไอ้พี่เบตมันนกรู้นักวะ
“หึหึ ปฏิเสธขนาดนี้แปลว่าคิด จะสารภาพกับพี่ดีๆ หรือจะให้พี่สอบสวน”
“แบบไหน”
“แบบไหนอะไร” ทิเบตยอมรับว่าบางครั้งเขาก็ตามความคิดและคำพูดของไอ้ตัวจุ้นไม่ทัน
“พี่เบตจะสอบสวนแบบไหน ต้องใช้โซ่แส้กุญแจมือหรือเปล่า”
“เดี๋ยวๆ ไอ้โซ่แส้กุญแจมือมันมาจากไหนหะไอ้เด็กบ๊อง”
“อ้าวไม่มีเหรอ แหมะนึกว่าจะได้ลองของแปลก โอ๊ะ!” จุนอุทานออกมา เมื่อจู่ๆ ตัวเขาก็หงายหลังตามแรงผลักก่อนถูกร่างสูงนอนคร่อมเอาไว้
“คิดว่าอย่างพี่ต้องใช้ด้วยเหรอพวกโซ่แส้กุญแจมือของเรา ไม่มีอุปกรณ์พี่ก็ทำให้เด็กบ๊องอย่างเราสารภาพได้แล้ว”
“ไม่ได้ๆ” จุนส่ายหน้าจนผมบนหมอนกระจาย
“พูดแบบนี้อยากลองเหรอ” ทิเบตก้มหน้าลงไปใกล้ แกล้งใช้ริมฝีปากปัดผ่านซอกคอไอ้ตัวจุ้นเบาๆ ร่างเล็กถึงกับเกร็ง
“มะ..ไม่ใช่ ผม..ผมไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ แต่บอกว่าไม่ใช้อุปกรณ์ไม่ได้”
“หือ! อย่าบอกนะว่าเราเป็นพวกชอบความเจ็บปวด” ทิเบตถึงกับชะงัก เรื่องรสนิยมของจุนเขาไม่เคยรู้มาก่อน หรือเจ้าตัวดีจะชอบอะไรแผลงๆ
“บ้าแล้วใครจะชอบ ผมหมายถึงไอ้นั่นต่างหาก”
“ไอ้นั่น? อะไร” ทิเบตขมวดคิ้ว เพราะมัวแต่คิดถึงโซ่แส้กุญแจมือของไอ้ตัวจุนเขาจึงประมวลผลไปคนละทาง
“โธ่เอ๊ย! ไอ้นั่นก็ถุงยางไงแค่นี้ทำไมไม่รู้ เป็นกลุ่มซุปตาร์เสียเปล่า” น้ำเสียงติดโมโหผสมดูถูกดูแคลนของไอ้ตัวจุ้นทำเอาทิเบตเผลอหน้าแดง ไม่บ่อยหรอกที่เขาจะเป็นฝ่ายเขินเสียเอง
“โป๊ก” “โอ๊ย!” จุนร้องลั่นเมื่อโดนทิเบตเขกตัว
“คิดไปถึงไหน”
“คิดไปไม่ไกลหรอกแค่บนเตียงนี่แหละ” ทิเบตอยากจะหัวเราะออกมา ดูท่ากระมิดกระเมี้ยนตอบของไอ้ตัวจุ้นเสียก่อน ดูก็รู้ว่าอายจนหน้าแดงเถือกแต่ก็ยังกล้าพูด
“ถามจริงในหัวคิดอะไรอยู่ บอกพี่มา”
“ไม่เอา” จุนซุกหน้ากับอกของทิเบต เห็นปากดีแบบนี้ก็เขินเป็นเว้ย
“เร็วๆ” ทิเบตจัดการฝังจมูกและปากลงตรงแอ่งชีพจร ดูดเม้มเบาๆ เป็นการกระตุ้นให้อีกยอมแพ้
“ไม่” ร้อยไม่บอกพันไม่บอก ขืนบอกเดี๋ยวได้ใจ
“จุน” ทิเบตสอดมือเข้าใต้เสื้อยืดตัวโคร่งที่จุนสวมอยู่ ไล้มือช้าๆ บนหน้าท้องแบนราบ ร่างเล็กสั่นสะท้านจนเขารู้สึกได้
“จะบอกหรือไม่บอก”
“ไม่บอก” ทิเบตเลิกชายเสื้อจุนขึ้น กดประทับริมฝีปากลงเหนืออก แตะลิ้นร้อนลงไปพอให้อีกฝ่ายสะดุ้ง
“ไม่บอกพี่จับฟัดนะ”
“ฟัดเลย”
“หะ! ฮ่าๆ” ร่างสูงพลิกตัวลงนอนหงาย หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น จุนถึงกับหน้าเหวอ โธ่เว้ยคนอุตส่าห์ทำใจกล้า ใครบอกว่าเขาไม่กลัวกลัวจนสั่นไปทั้งตัวแล้ว
“โว้ยย”
“เป็นอะไร” ทิเบตตกใจเมื่อตัวจุ้นร้องออกมาเสียงดัง ร่างเล็กยกแขนขึ้นปิดหน้า
“ทำไมมันยากอย่างนี้วะ”
“อะไรยาก” ทิเบตตะแคงตัวขึ้นใช้คือค้ำศีรษะไว้ หันหน้ามองเด็กงอแงเอาแต่ใจ
“ก็อ่อยพี่เบตไงโคตรยาก ปกติเวลาอย่างว่าต้องลีลาขนาดนี้เลยเหรอ”
“นี่เราอ่อยพี่อยู่เหรอ ไม่บอกไม่รู้แฮะ”
“โคตรจะอ่อยแล้ว มาฟัดกันเถอะ” ทิเบตนึกอยากได้ยาพาราอีกสักแผงขึ้นมาทันที เข้าใจแล้วว่าทำไมเขียวถึงต้องพกไว้
“บอกก่อนทำไมถึงอยากฟัด” ทิเบตถามเพราะรู้ว่าอย่างไอ้ตัวจุนคงไม่นึกอยากฟัดกับเขาขึ้นมาเฉยๆ ต้องมีความคิดเพี้ยนๆ เกิดขึ้นในสมองเจ้าตัวดีแน่ ซึ่งไม่น่าใช่เรื่องดีนัก เขาไม่อยากให้ตัวจุ้นเชื่ออะไรผิดๆ จึงต้องถามให้รู้เรื่อง
“ก็ถ้าไม่ฟัดกัน เดี๋ยวพี่เบตไปฟัดกับคนอื่น”
“โธ่เอ๊ยไอ้เด็กบ๊อง” ทิเบตทั้งอ่อนใจทั้งเอ็นดู สายตาซื่อๆ ที่มองมายังเขา มันมีทั้งความรัก ความหวง ความดื้อดึง มันคงอยากเอาใจเขาเท่านั้นเอง
“บ๊องที่ไหน พี่เบตพูดเองว่าจะไปหาสาวอกใหญ่ๆ ฟัด”
“เลยจะให้ฟัดนมแบนๆ แทน?” ทิเบตพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้
“อีกล่ะ บอกแล้วว่าถึงแบนก็เร้าใจ” ไม่ยากหรอกที่ทิเบตจะสะกิดต่อมโมโหของตัวจุ้น ทำไมเขาจะไม่รู้จักแฟนของตัวเอง ไอ้ตัวดีพลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมเขา ถอดเสื้อยืดที่สวมอยู่ออก โยนปลิวหวือไปตกอยู่ข้างเตียง จับมือเขาไปวางทาบทับกลางอก
“ไม่สวยเหรอ” ดวงตาหวามไหวที่มองมา ทำเอาทิเบตเกือบดึงตัวเองเอาไว้ไม่ได้ ใจเย็นก่อนเขาต้องค่อยเป็นค่อยไป
“สวย” ทิเบตไล้ปลายนิ้วบนแผ่นอกขาว ลากช้าๆ ลงมาถึงหน้าท้องแบนราบ วนนิ้วเป็นวงกลมรอบสะดือ ก่อนสอดมือเข้าไปในขอบกางเกงขายาวเนื้อนิ่ม
“เดี๋ยว! พะ..พี่เบต”
“ครับ”
“ผม..ผมนั่งไม่ไหวแล้วขามันสั่น” ทิเบตยิ้มอ่อนโยนกว่าที่เคย เขารักทุกอย่างที่เป็นจุน รักเด็กทะลึ่งตึงตังปากไว แต่ใสซื่อที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา
“มานี่ครับ” ทิเบตพลิกร่างจุนลงนอนราบกับพื้น เขาถอดเสื้อยืดของตัวเองออก กักร่างเล็กไว้ในวงแขน เคลื่อนใบหน้าเข้าไปแนบชิด
“จุน”
“ค..ครับ” จุนไม่กล้าสบตา ทำไมสายตาของทิเบตถึงทำให้เขาหวั่นไหวได้มากมายเพียงนี้
“ฟังพี่นะ” ทิเบตประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของจุนเพียงแผ่วเบา ให้รู้ว่าเขาทนุถนอมอีกฝ่ายมากแค่ไหน
“ครับ”
“พี่ไม่อยากฟัดใคร” ริมฝีปากเคลื่อนลงมาสัมผัสกับปลายจมูกรั้น เขาขบเม้มเบาๆ พอให้จุนรู้สึก
“อื้อ”
“ไม่อยากกอดใครทั้งนั้น” คราวนี้เขากดปากลงแนบชิดกับริมฝีปากนุ่ม เคลียเคล้าบดเบียดลงไปให้คนตัวเล็กรู้ว่าเขาต้องการคนที่กอดอยู่มากแค่ไหน
“อะ..อื้อ” จุนเริ่มหายใจหอบ เมื่อริมฝีปากของคนที่รักไล้ไปทั่วใบหน้า มันให้ความรู้สึกวาบหวามแบบที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“นอกจากจุนคนเดียว” ทิเบตกระซิบข้างหูก่อนฝังใบหน้าลงกับซอกคอขาว ดูดเม้มเบาๆ ประทับรอยแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนวนกลับขึ้นมาสอดมือเข้าประคองท้ายทอยของจุนกดริมฝีปากลงไปบดเบียดช้าๆ ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปควานหาความหวานอย่างหิวกระหาย ดูดดึงลิ้นเล็กที่เงอะงะคล้ายจะตอบรับและอยากหนีในเวลาเดียวกัน
"อือ..อื้อ" จุนครางอยู่ในลำคอ ความหวานที่แผ่ซ่านอยู่ที่ปลายลิ้นทำให้เขาเคลิบเคลิ้ม
ปากร้อนเคลื่อนต่ำลงมา ประทับรอยจูบจากปลายคางเรื่อยมาจนถึงยอดอกสีแดงก่ำ ทิเบตสัมผัสมันเบาๆ ด้วยการดูดเม้ม ตวัดปลายลิ้นหยอกเย้าสลับไปมาระหว่างสองข้างจนยอดอกชูชันสู้ มือใหญ่ไล่มาตามเอว บีบเคล้นสะโพกเต็มไม้เต็มมือ
“อะ..พอ..พอก่อน" จุนรู้สึกเหมือนจะขาดใจจนต้องร้องขอให้ทิเบตหยุด เขาตื่นตกใจกับอารมณ์ที่ไม่คุ้นชิน รู้สึกเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้
ทิเบตเปลี่ยนแผนยอมปล่อยยอดอกที่อยู่ในปาก เคลื่อนกายกลับขึ้นมาช้าๆ ประกบริมฝีปากเข้ากับปากของจุน เปลี่ยนจูบร้อนแรงให้กลายเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและแสนหวาน เขาจงใจเคล้าคลึงอ้อยอิ่งอยู่อย่างนั้นเพื่อให้จุนมีเวลาปรับตัว
ทิเบตค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก จุนมองตามริมฝีปากที่ได้ลิ้มรสด้วยความเสียดาย ดวงตาออดอ้อนร้องขอโดยไม่รู้ตัว
"นายนี่มันน่ารักเกินไปแล้ว" ทิเบตประทับริมฝีปากกลับลงไปอีกครั้ง จุนเริ่มตอบรับจูบเขาด้วยความเต็มใจ จากสัมผัสอ่อนโยนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเร่าร้อน ลิ้นสอดเข้าเกี่ยวกระหวัดรัดรึงอย่างไม่มีใครยอมใคร
“อื้อ” จุนเป็นฝ่ายอมแพ้เขาผลักอกทิเบตเบาๆ ให้รู้ว่าเขากำลังจะขาดใจ ทิเบตเปิดทางให้จุนหายใจเอาอากาศเข้าปอด มือร้อนเลื่อนลงวางทาบทับขอบกางเกงแล้วดึงรูดลงช้าๆ กางเกงถูกโยนทิ้งไปที่ปลายเตียงพร้อมกันทั้งสองชิ้น ทั้งเนื้อทั้งตัวจุนจึงไม่มีอะไรปิดกั้น นอกจากฝ่ามือที่เจ้าตัวรีบนำมาปิดเอาไว้
"ขอพี่ดูหน่อยครับ"
"ไม่เอา" จุนใบหน้าแรงเรื่อ อายจนอยากมุดแผ่นดินหนี
"คนดี” จุนเผลอคลายมือเมื่อมือใหญ่แตะลงบนหลังมือเขา พร้อมกับคำเรียกหวานหูที่จุนไม่เคยได้ยินมาก่อน
"น่ารักจริงๆ" ทิเบตก้มลงพรมจูบบนหน้าท้องแบนราบขบเม้มริมฝีปากไปทั่วบริเวณ มือใหญ่ค่อยๆ กอบกุมส่วนอ่อนไหว ขยับลูบไล้ไปมาช้าๆ จุนเหยียดกายด้วยความเสียวซ่าน เขารู้สึกเหมือนรับอารมณ์ที่พุ่งเข้ามาไม่ไหว
"พี่เบต พี่เบต" จุนเรียกทิเบตด้วยเสียงแหบพร่า หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ
“ชอบไหมครับ”
“อื้อ..อื้อ”
“แล้วแบบนี้ล่ะ” ทิเบตเร่งมือให้เร็วขึ้น จุนครางแทบไม่เป็นภาษา บิดกายไปมาด้วยความทรมาน จุนคิดอะไรไม่ออกได้แต่ยอมให้ทิเบตมอบความสุขให้ ไม่นานร่างกายก็ได้รับการปลดปล่อย น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาเลอะหน้าท้องและมือของธิเบต จุนหายใจหอบรู้สึกเหมือนเพิ่งผ่านสมรภูมิรบมา
“พี่เบต”
“ครับ” ทิเบตกดริมฝีปากลงบนขมับที่เปียกชื้นของจุน เกลี่ยนิ้วเพื่อปัดผมที่ตกลงมาระหน้าออกให้
“ผม..คือ..ผม..”
“อะไรครับ”
“หะ..ให้..ให้ผมทำให้พี่เบตไหมครับ” จุนหน้าแดงก่ำ เขาอายมากแต่ไม่อยากเอาเปรียบทิเบตมีความสุขอยู่คนเดียว
“หึหึ ไม่เป็นไรครับ”
“แต่..แต่พี่เบตจะค้าง” จุนยังอดเป็นห่วงไม่ได้
“ไม่ค้างหรอก”
“หือ?” จุนสงสัยแต่ยังไม่ทันถาม ส่วนหลังก็ถูกรุกรานโดยนิ้วของใครบางคนกดแทรกผ่านเข้าไปภายใน
“พี่เบต” จุนเผลอตัวร้องลั่นก่อนจะรีบตะครุบปากตัวเองไว้ ตกใจจนสะดุ้ง
“ชู่ว” ทิเบตกระซิบข้างหู ค่อยๆ ไล้ปลายลิ้นสำเร็จแอ่งเล็กๆ จนทั่ว จุนย่นคอหนี สัมผัสแค่เล็กน้อยก็ทำเขาวาบหวิวไปหมด
“อะ..อ้า” จุนครางทั้งทียังมีมือปิดอยู่ที่ปาก เมื่อนิ้วของทิเบตสัมผัสเข้ากับบางจุดภายในร่างกาย จุนไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่มันทำให้เขาเสียวซ่านจนร่างกายบิดเกร็ง
“พี่เบต ผม..ผมไม่ไหวแล้ว”
“เจ็บเหรอครับ” ทิเบตหยุดมือ กังวลว่าเขาอาจทำให้จุนเจ็บได้ เพราะต่างไม่คุ้นเคย
“ไม่..ไม่ใช่ ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมไม่ไหวแล้วพี่เบตทำอะไรสักอย่างเถอะ นะครับ” ดวงตาจุนรื้นไปด้วยน้ำตา สีหน้าอ้อนวอน คล้ายเจ้าตัวไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี ร่างกายของเขาปวดหนึบขึ้นมาทันที
ทิเบตค่อยๆ ถอนนิ้วออก เขาช้อนมือเข้าใต้สะโพกของจุนยกขึ้นสูง กดส่วนกลางลำตัวเข้าไปช้าๆ จุนผวาเฮือกรับรู้ถึงสิ่งที่ล่วงล้ำเข้ามา ความเจ็บแล่นปราดไปทั่วร่าง ทิเบตหยุดเคลื่อนไหวทันทีที่เห็นสีหน้าของจุน
"อดทนหน่อยนะครับ" เสียงปลอบโยนทุ่มนุ่มทำให้จุนรู้สึกผ่อนคลาย ทิเบตอ่อนโยนจนเขาลืมความหวาดกลัวที่มี จุนพยักหน้าให้ทิเบตรู้ว่าเขาพร้อมแล้ว
ทิเบตค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปจนสุด เขาเริ่มขยับเข้าออกเป็นจังหวะช้าๆ เนิบนาบ มือใหญ่ประคองสะโพกเล็กบีบเคล้นเบาๆ เพื่อลดพายุอารมณ์ของตัวเอง เขาไม่ต้องการให้จุนเจ็บ
“อ้า..อ้า..” ความเสียวซ่านจากการสอดประสานแล่นผ่านตั้งแต่ศีรษะถึงปลายเท้า จุนเชิดหน้าขึ้นสูง ครางออกมาไม่เป็นภาษา สองมือกอดรัดคอของทิเบตไว้แน่น สติกระเจิดกระเจิงจนควบคุมไม่ได้
“เร็ว..เร็วอีก” จุนพูดเหมือนคนละเมอด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น เขาอยากหายจากความทรมานจนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ทิเบตเร่งความเร็วตามคำเรียกร้อง เขายึดสะโพกของจุนไว้แน่นกระแทกเข้าออกสวนทางจนร่างเล็กสั่นคลอน สีหน้าของจุนแสดงออกถึงความสุขสมและปวดร้าวไปพร้อมๆ กัน
“พี่เบต พี่เบต” จุนร้องลั่นเมื่อเขาถึงจุดหมายเป็นครั้งที่สอง ร่างกายเหยียดเกร็งก่อนผ่อนคลายลง จุนทิ้งตัวลงกับที่นอนอย่างหมดแรง ทิเบตเร่งความเร็วสอดใส่ลงในช่องทางอุ่นร้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า โถมกายเข้าหาจุนราวกับไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย หัวใจของเขาเต้นรัว
“อ๊า” ทิเบตรีบดึงส่วนกลางลำตัวออกมา กระตุกเกร็งจนน้ำสีขาวขุ่นพุ่งกระจายเต็มหน้าท้องของจุน
“พี่ขอโทษ” ทิเบตพูดเบาๆ หลังจากร่างกายสงบลง เขาใช้มือกวาดเอาเศษของความสุขออกจากตัวจุน
“ไม่เห็นเป็นไรเลย” จุนอายจนหน้าแดง เจ้าตัวยุ่งบอกว่าไม่เป็นไร แต่ไม่ยอมก้มลงมองหน้าท้องตัวเองหรือมือของเขา
ทิเบตคว้ากางเกงนอนที่กองอยู่ปลายเตียงขึ้นมาเช็ดมือและเช็ดหน้าท้องให้กับจุน เขาโยนกางเกงลงตะกร้าผ้าที่มุมห้อง ก่อนล้มตัวลงนอนข้างๆ ดึงตัวจุ้นเข้ามากอดไว้แนบอก
“มีความสุขไหมครับ พี่มีความสุขที่สุด” ทิเบตจรดจมูกลงบนหน้าผากจุน อีกครั้งที่แก้มและปิดท้ายด้วยการแนบริมฝีปากเข้ากับปากเล็กๆ ที่น่ากลืนกินสำหรับเขา
“ผมก็มีความสุขครับ แต่..”
“แต่อะไรครับ”
“แต่เจ็บ” ทิเบตว่าจะไม่หัวเราะแต่เห็นหน้าโอดครวญเกินจริงของจุนแล้วเขาอดไม่ได้จริงๆ
“เด็กน้อย โดนบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน” ทิเบตลูบหัวตัวจุ้นเบาๆ เป็นการปลอบโยน
“เดี๋ยวๆ นั่นมันไม่ใช่คำปลอบแล้ว” จุนประท้วง มันต้องมีการเข้าใจผิดอะไรแน่ๆ “เหอะทำเป็นพูดดี ไม่โดนเสียบบ้างไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน”
“พี่ไม่อยากรู้” ทิเบตรีบปฏิเสธ เขากลัวไอ้ตัวดีคิดพิเรนทร์หาเรื่องเสียบเขาขึ้นมา ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงไม่ห่วงแต่เป็นตัวจุ้นต้องคิดให้หนัก วันดีคืนดีลืมระวังตัวโดนวางยาขึ้นมาจะทำอย่างไร ไว้ใจได้ที่ไหน
“แต่พี่สัญญาว่าคราวหน้าจะสนุกกว่านี้” ทิเบตใช้ประสบการณ์ที่มีมากกว่าหลอกล่อ
“เคยเสียบผู้ชายแล้วเหรอถึงรู้”
“ไม่เคย” ทิเบตสั่นหน้า
“แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนบ่นนะมีแต่ชอบอยากทำอีก”
“โหยไอ้พี่เบตทำมาเป็นคุย” จุนฟาดมือเข้าเต็มหน้าอกทิเบต ไม่ได้หมั่นไส้ที่คุยโวหรอกแต่โกรธที่พูดถึงผู้หญิงคนอื่น จุนคิดว่าเขาชักขี้หึงมากเกินไปแล้ว แต่จะทำอย่างไรได้เขาดันมีแฟนหล่อมันก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะคิด
“เหนื่อยแล้วใช่ไหม” ทิเบตใช้นิ้วไล้ไปบนแก้มนิ่ม สังเกตจากตาที่ปรือลงของจุน
“อืม” เอาไว้ก่อน ตอนนี้เขาเหนื่อยจริงๆ นั่นแหละ อย่านึกนะว่าจะลืมประเด็นนี้ จุนหมายมาดไว้ในใจ
“มาครับเดี๋ยวพี่พาไปอาบน้ำจะได้สบายตัว” ทิเบตลุกขึ้นนั่ง ก้าวลงจากเตียงก่อนช้อนตัวจุนขึ้นอุ้ม
“พี่เบต! ใส่อะไรก่อนก็ได้ จะเดินโทงๆ เป็นชีเปลือยอย่างนี้เลยเหรอ”
“หึหึ จะอายทำไม”
“ไม่ได้อายแต่มันเขิน”
“ฮ่าๆ แล้วมันไม่เหมือนกันตรงไหน”
“ไม่เหมือน” จุนถือโอกาสซุกหน้ากับอกของทิเบตเป็นการซ่อนสายตาไม่กล้ามองทิเบตหรือแม้แต่ตัวเอง
“เหมือน”
“ไม่เหมือน” จุนยังทู่ซี้เถียงต่อไป แต่ตาจะค่อยๆ หรี่ปรือลง
“จุนครับ”
“อื้อ” จุนครางเสียงอืออา เขาเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ระยะทางสั้นนิดเดียวไม่รู้ทำไมเขาถึงหลับได้
“นอนเถอะเดี๋ยวพี่อาบให้เอง” จุนรู้สึกถึงความเย็นของพื้นผิวที่สัมผัส เขาเดาว่าน่าจะเป็นอ่างอาบน้ำ จุนง่วงงุนจนลืมตาไม่ขึ้น และสติใกล้ดับเต็มที
“พี่เบต” จุนเรียกทิเบตด้วยเสียงคล้ายคนละเมอ
“ครับผม”
“พี่เบตพูดถูกจริงๆ ด้วย” จุนพูดทั้งที่ไม่ยอมลืมตาขึ้นมา รับรู้ได้ว่าตอนนี้เขากำลังนั่งพิงอกของทิเบตอยู่
“หือ? เรื่องไหนครับ”
“เรื่องนั้นไง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ก็ได้จริงๆ ด้วย” จุนพูดได้แค่นั้นเพราะความง่วงเข้าครอบงำ ก่อนที่เขาจะหลับใหลจุนได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของทิเบต หัวเราะอีกแล้วหัวเราะเขาทุกทีเลย
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
** nc เรื่องนี้ใสมากถึงไม่มีเลยนะคะ (เป็นความตั้งใจของคนเขียน)
** ตอนหน้าเขียวหวานมาเต็มค่า
** ใครรอแทนสิงห์ มีประปรายนะคะ อาจไปสรุปที่ตอนพิเศษ ขอดูอีกทีเพราะไม่อยากให้กระทบคู่หลัง
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin