..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9  (อ่าน 66098 ครั้ง)

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*************************************




เรื่อง
[/color]

ขอผมได้รัก..


รู้ไว้ซะว่าเคยร้ายได้แต่ก็รักได้เหมือนกัน...

.
.
.

บทนำ


       ความคิดของคนที่เรียนจบระดับปริญญาตรี คือ การเก็บเกี่ยวช่วงเวลาความสุข สนุกเหล่านี้โดยใช้ชีวิตให้เต็มที่ ทิ้งทวนความสนุกในวัยนักศึกษา เริ่มต้นเข้าสู่วัฏจักรแห่งการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน

       ท็อปจึงชักชวนเพื่อนๆในกลุ่มของเขาที่มีกันอยู่สามคนไปเที่ยวทะเลภาคใต้กัน จากนั้นก็ไม่พลาดที่จะไปดื่มกันที่บาร์และเมาปลิ้นเสียเต็มที่

      แต่ใครเลยจะรู้ว่าโทษของความเมา จะทำให้เราทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัวแล้วที่สำคัญ มักบ้าบิ่นและกล้าหาญกว่าที่คิด เช่นตอนนี้ ที่ท็อปมารู้ผลลัพธ์เอาเมื่อสาย...

"เฮ้ย! เหี้ยไรวะ"

    ชายหนุ่มผิวขาวอย่างผู้ดี รูปร่างไม่ผอมแห้งจนเกินไป กำลังสำรวจตัวเองที่ในตอนนี้ นอนอยู่ในสภาพเปลือยมีเพียงอันเดอร์แวร์ตัวเดียวเท่านั้น
 
    ท็อปกวาดสายตามองรอบห้อง จนกระทั่งสายตามาหยุดอยู่ตรงข้างกายนั่นจึงทำให้เขาตกใจกว่าเดิม


" มึงเป็นใครวะ โอ้ย!ปวดหัว" ท็อปกุมขมับตัวเองทันที คล้ายอาการแฮงค์จะเข้ามาแวะเวียนให้อยากอาเจียนอย่างบอกไม่ถูก

 
"ตื่นแล้วหรือ" ชายหนุ่มแปลกหน้าลืมตาขึ้นมามองคนที่นั่งตัวงอ โดยไร้เสื้อผ้า อาภรณ์ใดๆ


"ที่นี่ที่ไหน กูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"


"ห้องพี่เอง"

 

       คนปริศนาพูดจบก็ลุกจากเตียงโดยไม่รอให้ถามต่อ ยิ่งทำให้ท็อปตาโต เมื่อเห็นชัดเจนว่าคนที่ลุกไปใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว

 
        ท็อปเข้าใจได้ดีว่าการที่ผู้ชายสองคนนอนถอดเสื้ออยู่บนเตียงด้วยกัน มันคงจะไม่มีอะไรในกอไผ่ ถ้านั่นคือเพื่อนสนิทที่ท็อปไว้ใจ แต่สถานการณ์นี้ ท็อปอยู่กับคนแปลกหน้า สภาพร่างกายเขายังปลอดภัยอยู่ไหม?


ปังๆๆๆ!!


     ทันใดที่สมองประมวลผลได้ ท็อปรีบทุบประตู ด้วยความอยากรู้เหตุผล


"มึงทำอะไรกู"


     ร่างสูงที่อยู่ด้านในห้องน้ำจำใจเอื้อมมือไปเปิดประตู เพราะทนเสียงดังอันน่าหนวกหูนี้ไม่ไหว


"เราต่างหากที่ทำอะไรพี่"


"เอาดีๆ มึงอย่ามาเล่นลิ้น"
ท็อปขึ้นเสียงใส่อย่างไม่พอใจ สถานการณ์แบบนี้ ไม่มีเหตุอันใดชวนให้ขำสักนิด


"ก็......." ชายหนุ่มใช้สายตาเจ้าเล่ห์ไล่มองสำรวจร่างกายอีกฝ่าย ตั้งแต่หัวจรดเท้า


"แค่ต่างฝ่ายต่างช่วยกันและกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น"
 

"ช่วยหรอ? มึงอย่าบอกนะว่า.....เหี้ยเอ้ย!"
ท็อปทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นทันที ปวดหัวก็ปวดนะ แต่เจอประโยคนั้นเข้าไป ท็อปก็ไม่โง่ แต่แค่จุกจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว


       นี่ท็อปต้องสูญเสียความเป็นชาย เพราะมันช่วยให้จริงๆหรอวะ? ท็อปต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หากเพื่อนๆรู้ เขาคงต้องอายจนแทรกแผ่นดินหนีแน่ๆ


       เมื่อตั้งสติได้ ท็อปไม่สนเรื่องอาการปวดหัวของตัวเอง แต่ลุกขึ้นเหวี่ยงหมัดเข้าใส่อีกฝ่าย จนร่างสูงถึงกับเซถลา เพราะไม่ทันตั้งตัว

 
       ท็อปรีบสวมกางเกงผ้าขาสั้น พร้อมคว้าเสื้อ โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ ออกจากห้องนี้ไปทันที
 

"ไอ้กราฟ ตอนนี้มึงอยู่ไหน มึงมารับกูทีดิ"


       ขณะที่เดินออกจากห้องได้ ท็อปก็โทรบอกให้เพื่อนมารับกลับห้อง โดยวันนั้นทั้งวัน ท็อปไม่ได้ทำอะไร นอกจากหลับเป็นตาย และต้องการเลี่ยงการตอบคำถามจากเพื่อนๆในเรื่องเมื่อคืนว่าท็อปหายไปไหน...




      วันถัดมาที่ทุกคนเตรียมเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร


      ตลอดทางการนั่งรถกลับมาบ้าน กราฟและพลพูดถึงวีรกรรมความมันส์หยดของคืนนั้นกันอย่างเมามันส์ เนื่องจาก ทั้งสองได้ผู้หญิงมานอนด้วย แต่คนที่ดูจะนิ่งเงียบ ไม่หือ ไม่อืออะไร ทำได้แค่รับฟัง คงหนีไม่พ้นท็อป เพราะไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรไปพูดโม้ โอ้อวดบ้าง เพราะเขาไม่ได้ผู้หญิงร่างบางมานอนกกเหมือนเพื่อน แต่กลับกลายได้ผู้ชายมานอนด้วยแทน แล้วอย่างนี้ ใครจะกล้าเล่า ต่อให้หัวเด็ด ตีนขาดอย่างไร เรื่องนี้จะไม่มีวันแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด...

 

      ผ่านไปแล้ว สองอาทิตย์ ก้าวเข้าสู่เดือนใหม่แห่งการเริ่มทำงานของทั้งสาม

 
      กราฟ พล และท็อป ได้เริ่มงานในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งแต่ละคนก็ทำงานคนละบริษัท แต่เพราะทั้งสามเรียนจนด้านการออกแบบโฆษณามาก็เลยได้อาชีพที่ไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่นัก  โดยท็อปได้งานที่เป็นบริษัทเอเจนซี่ที่งานหลากลหาย แต่แผนกของท็อปนั้น เน้นด้านสิ่งพิมพ์ อาทิพวก นิตยสารแจกฟรี รวมถึงงานสื่ออย่างดิจิตอล มีเดีย คือการสร้างคอนเทนต์ลงเว็บไซต์ออนไลน์ ซึ่งท็อปทำหน้าที่ในส่วนของกราฟิก ดีไซน์เฉพาะสิ่งพิมพ์เท่านั้น

 
     วันนี้เป็นวันแรกของท็อปจึงมาทำงานเช้ากว่าปกติ แม้เขาจะมาเช้าแล้วแต่ก็ยังมีคนมาเช้ากว่า นั่นคือ หัวหน้าแผนก เขาจึงไปแนะนำตัวเองเพื่อไม่ให้เสียมารยาท


"มาเช้าดีนี่ เดี๋ยวรอให้คนอื่นๆมาก่อนนะ พี่จะไปแนะนำให้รู้จัก"

 

"ได้ครับพี่ดล" ท็อปจำชื่อพี่ดลได้ตั้งแต่ที่เขาเคยสัมภาษณ์ท็อปเมื่อคราวก่อน


"อยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องเกร็งอะไรนะ เราอยู่กันแบบพี่น้อง มีอะไรไม่เข้าใจ สงสัยถามพี่ได้ หรือจะเป็นหัวหน้าของท็อปเอง พี่เขาก็ใจดีอยู่ที่เพราะพี่เขาจะดูในส่วนของงานสิ่งพิมพ์ แต่พี่จะดูโดยรวมทั้งหมด"

 

"ครับ" ท็อปตอบรับอย่างว่าง่าย


"นั่นไงมาแล้ว หัวหน้าท็อป ฆีน มาแนะนำตัวหน่อยสิ"


      ขณะที่ท็อปนั่งหันหน้าไปคุยกับพี่ดลอยู่นั้น ด้วยสัญชาติญาณที่มีคนเรียกบุคคลที่มาใหม่ ทำให้ท็อปหันหลังไปตามเสียงเรียก


"เฮ้ย!" ท็อปอุทานเสียงดังด้วยความตกใจ


       ฟากฆีนชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเด็กใหม่ที่มาอยู่ในความปกครองของเขาจะเป็นคนเดียวกับที่ต่อยเขาครั้งที่ไปทะเลคราวนั้น
 

"อุทานเสียพี่ตกใจหมด รู้จักกันหรือ?" ดลถาม

 
"ไม่ครับ" ท็อปรีบเอ่ยออกมาโดยไม่ต้องคิดใดๆ ด้วยความกลัวว่าเรื่องครั้งนั้นจะหลุดมาได้


       ส่วนฆีน ก็ได้แต่ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ เหมือนคนคิดอะไรอยู่


"ฆีนพาน้องไปนั่งที่โต๊ะหน่อยสิ"
 

      ฆีนพยักหน้ารับและพาไปนั่งโต๊ะที่เยื้องกันกับเขา แม้จะหันหลังให้แต่ก็ดี เขาจะได้เป็นฝ่ายแอบมองได้อย่างสบายใจ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เด็กคนนี้ถูกใจฆีนไม่น้อย แม้ว่าจะดื้อรั้น บ้าบิ่น ห่าม แต่ก็น่ารักได้ในเวลาเดียวกัน


"ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ พี่ดีใจนะที่ได้เจอเราอีก" ฆีนจงใจแกล้งพูดกระซิบใกล้หู จนทำให้ท็อปหันขวับ! แต่คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เพราะที่นี่คือบริษัทที่เขาเพิ่งเริ่มทำงานวันแรก...




....................................



อ่านแล้วถูกใจไม่ถูกใจบอกกันได้นะคะ

เพิ่งเขียนแนวนี้เป็นเรื่องแรกค่ะ

ขอบคุณค่า






Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2017 23:04:31 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ Lay Kin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ขอผมได้รัก...{บทนำ} [9-1-1-60]
«ตอบ #1 เมื่อ09-01-2017 21:49:47 »

เปิดฉากมาก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันเลย ดีครับ  :hao6:

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่1.1} [10-1-60]
«ตอบ #2 เมื่อ10-01-2017 22:27:22 »

 

ตอนที่ 1 เกลียดขี้หน้า


 

 

"กูจะลาออก"

 
"เฮ้ย!” กราฟและพลอุทานพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย


       ตอนนี้ทั้งสามอยู่ที่ร้านอาหารปิ้งย่างเกาหลีย่านใจกลางเมือง สาเหตุที่มารวมตัวกันก็เพื่อถามไถ่สารทุกข์ สุขดิบว่าแต่ละคนทำงานเป็นอย่างไรกันบ้าง

 
“มึงมันบ้าไอท็อป" เป็นกราฟที่เสริมขึ้นมาต่อ หลังจากที่คีบกระบังลมหมูเข้าปากเสร็จสรรพ

“กูขอเหตุผล" พลถามขณะที่เคี้ยวตุ้ยๆ
 
     ท็อปยังคงเงียบอยู่นานไม่ยอมตอบ แถมเวลานี้เขากินอะไรไม่ลงจริงๆ จะโกหกเพื่อนว่าลาออกเพราะอะไรดี ขืนไปบอกความจริงว่า อ๋อ! กูเจอคนที่มันเคยรูดน้องชายกูตอนไปทะเลอยู่ที่ทำงานเดียวกัน ก็ดูเหตุผลจะย่ำแย่และน่าอายไปอีก
 
“เฮ้อ!”


“ตั้งแต่นั่งมา กระผมเห็นคุณท็อป ถอนหายใจนับสิบครั้งได้กระมัง บอกสักทีสิขอรับ พวกกระผมจะได้ช่วยหาทางแก้ไข”
กราฟพูดจายียวน กวนประสาทเพื่อน ก็ตั้งแต่เข้ามาในร้าน ท็อปไม่พูดอะไรเลย ล่าสุดก็คือคำว่าลาออกคำเดียวนั่นแหละ และนับแต่นั้นมา ท็อปก็นั่งเงียบ เอาแต่ถอนหายใจจนเพื่อนๆทุกคนอยากรู้จะเป็นบ้าอยู่แล้ว
 
“กูไม่ชอบหัวหน้าว่ะ กูทำงานของกูอยู่ดีๆ ก็หาเรื่องแกล้งกู คงหมั่นไส้มั้ง ทั้งพูดจาแขวะ ถากถางทุกอย่าง ใช้งานหนัก โอ้ยสารพัดว่ะ”


 
      คำตอบนี้ คงเป็นเหตุผลที่น่าจะดีที่สุดแล้ว การโดนเจ้านายกลั่นแกล้ง เป็นสิ่งที่ทรมานหัวใจในการทำงานเป็นอย่างยิ่ง เพื่อนๆเขาคงเข้าใจดี

 
      ท็อปว่าจบ กราฟหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด ก่อนถาม


“ไอ้ท็อปแน่ใจนะว่าเรื่องนี้ มึงเพิ่งเริ่มงานได้อาทิตย์เดียว เจ้านายมึงโขกสับได้ขนาดนั้นเลย?”
“เออ”


“แต่ถึงเป็นอย่างนั้นจริงๆเราก็ควรอดทนไม่ใช่หรอวะ การทำงานมันไม่ใช่สมัยเราเรียนมหาวิทยาลัยนี่หว่า ทนๆเอาหน่อยเถอะ เขาจะได้ไม่ว่ามึงทีหลังได้ ว่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ”


"ไม่รู้แหละ กูจะลาออก” ท็อปยืนกรานเสียงหนัก

“ตามใจ แล้วนี่มึงได้งานใหม่หรือยัง?” กราฟถาม

“ยัง”


“อ้าว ยังไม่ได้งานใหม่ แล้วห้าวจะออก กูว่ามึงควรอดทนและรอให้ได้งานใหม่ก่อนคงดีกว่า สมัยนี้งานหายากจะตาย”
พลบอกเพื่อน

“กูเห็นด้วยกับพล”


 
      ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเพื่อนจะไม่มีใครเข้าข้างท็อปสักคนสำหรับเรื่องการลาออก หรือเขาควรบอกความจริงไปเลยดี

     โอ้ย! อึดอัดจนอกจะระเบิด ท็อปนั่งคิดและเครียดอยู่ในใจ ถ้าไม่ติดว่าอาย ท็อปก็อยากบอกความจริงให้เพื่อนรู้จะแย่อยู่แล้ว สุดท้าย การลาออกของท็อปก็ดูจะไม่ใช่เหตุผลที่ดีเท่าไหร่ เมื่อเพื่อนทุกคนไม่มีใครเห็นด้วย แต่ท็อปไม่สนใจ  อย่างไรเขาก็จะลาออกให้ได้



………..

 


      ผ่านมาแล้วหลายวัน ที่ท็อปทำงานอย่างมุ่งมั่น โดยพยายามไม่สนใจใครบางคน  โชคดีที่ท็อปได้อาร์ต ไดเร็กเตอร์ คือพี่กั๊กเป็นพี่เลี้ยงช่วยสอนและให้คำปรึกษาด้านงานออกแบบอีกคน ท็อปจึงไม่ต้องเข้าหาหัวหน้าอย่างไอ้พี่ฆีนให้มากนัก แต่ช่วงนี้ดีหน่อย ที่พี่ฆีนเว้นระยะห่างให้ท็อปโดยไม่ก้าวก่ายหรือเข้ามายุ่ง วุ่นวายให้ท็อปลำบากใจสักเท่าไหร่

      ในขณะที่ใกล้เวลาเลิกงาน ท็อปนัดแนะกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มคลายเครียดกันสักหน่อย ซึ่งทุกคนตอบตกลงเนื่องจากไม่มีทำธุระที่ไหนกันพอดี

       จนกระทั่งได้เวลานัดหมาย ผองเพื่อนก็มาในเวลาที่ไม่ห่างกันมาก ทั้งสามจัดแจงสั่งเครื่องดื่มและกับแกล้มเสร็จสรรพ ก็ตั้งวงสนทนาคุยกันไปเรื่อยๆ
 
        โดยส่วนใหญ่จะเป็นกราฟที่เล่าเรื่องของตัวเองเสียมากกว่า ก็เพราะเริ่มงานได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีผู้หญิงมาติดพัน กราฟยืดอกภูมิใจ วางมาดเสมือนว่าตัวเองฮอตและหล่อมากเสียจนเพื่อนๆหมั่นไส้

 
        หลังจากที่คุยสลับกับนั่งดื่มกันไปพอสมควร ท็อปขอตัวเพื่อนๆไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่ทำธุระเสร็จเรียบร้อย ได้มีเสียงข้อความไลน์ดังขึ้น ทำให้ท็อปล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถืออกมาเช็คดูว่าเป็นใครกันที่ส่งข้อความมาหา
 
       และคงเป็นเพราะเขามัวแต่ก้มหน้าดูโทรศัพท์จึงไม่ชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง


"เหี้ย!..เอ้ย...ขอโทษครับ"
ท็อปปากไวไม่รู้ตัว เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะหาว่าด่าจึงรีบเอ่ยปากขอโทษต่อจากนั้น

"ไม่เป็นไรครับ" เสียงทุ้มดังขึ้น ท็อปเงยหน้ามามองก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเป็นใคร

 
         เพิ่งเข้าใจจริงๆ ว่าคนที่ชอบพูดว่า ‘โลกกลม’ มันเป็นอย่างไร ก็ตอนนี้นี่เอง

         ท็อปมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ นอกจากจะเจอกันที่ทำงานแล้ว ท็อปยังต้องมาเจอสถานที่อโคจรแบบนี้อีกหรือ? นี่...เขาจะหนีมันไม่พ้นจริงๆใช่ไหม?


"ร้านก็ตั้งเยอะแยะ ทำไมกูยังต้องมาเจอมึงอีกวะ"


"พอไม่ใช่เวลางาน ก็ลืมเรียกพี่กันเลยหรือครับ?"
พี่ฆีนถามพลางล้วงกระเป๋าจ้องท็อปนิ่ง

"ถอย จะออกไป" ท็อปไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนั้น เขาเบี่ยงตัวก่อนจะเดินออกไปข้างนอก

"ปากดีแบบนี้ พี่ควรต้องสั่งสอนให้หลาบจำหรือเปล่า?"



       พี่ฆีนโน้มกระซิบข้างหู จนท็อปผงะก้าวถอยหลัง

 
"ลองสิ กูก็มีมือ มีตีนนะ คิดว่ากลัวรึไง"


"หึหึ!! ทำไมผิดกับวันนั้นเลยนะ วันนั้นเอาแต่ร้องขอพี่"


 
         ฆีนว่าจบ ท็อปตาโตที่เห็นอีกฝ่ายเอาเรื่องอดีตมาตอกย้ำให้เขารู้สึกหวาดๆ คนที่มีความหลังฝังใจ จะทำอะไรก็ย่อมมีพิรุธ ท็อปผลักอกฆีน แต่คราวนี้ ฆีนจับข้อมือท็อปแน่น
 

“พี่ไม่ปล่อยให้ท็อปทำร้ายพี่ครั้งที่สองหรอกนะ”
ฆีนยังจำครั้งที่ท็อปต่อยเขาได้ขึ้นใจ

"มึงก็ปล่อยแขนกูสิ กูไม่ใช่เกย์ อย่ามายุ่งกับกู"


"ท็อปไม่รู้ใจตัวเองหรือเปล่า?"


            ในระหว่างนั้นเอง...
 
"เฮ้ย! ไอท็อป ทำไมนานจังวะ...  อูย!! ขอโทษครับ ไม่รู้ว่าคุยธุระกันอยู่"
พลที่เดินมาตามเพื่อนถึงกับอึ้ง เมื่อเห็นท็อปยืนอยู่กับใครอีกคน และทำหน้ากระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก

"ไม่เป็นไรครับ พี่คุยธุระเสร็จพอดี ขอตัวครับ"
ฆีนปล่อยมือท็อปและเดินออกจากห้องน้ำไปก่อน ทิ้งให้ท็อปยืนตาเขียว จนพลสงสัย

"ใครวะท็อป รุ่นพี่มึงหรอ? เท่ดีว่ะ"


"มึงอย่าพูดแบบนี้ให้กูได้ยินอีกนะ กูโกรธมึงจริงๆด้วย"


"อ้าว กูผิดอะไรวะ...." พลยืนเกาหัวตัวเอง

“ก็คนที่มึงเห็นนั่นน่ะ หัวหน้ากู”

"ห้ะ!"
จะไม่ให้พลตกใจได้อย่างไร ตอนที่ท็อปบอกมาว่าเจ้านายโหดอย่างนั้นอย่างนี้ ใช้งานหนักก็นึกว่าจะเป็นหัวหน้าที่บุคลิกเนี๊ยบๆเนิร์ดๆ บ้างาน ใส่แว่นหนาเตอะ แต่งตัวเชยๆ แล้วนี่คืออะไร? บุคลิกดูเท่ คมเข้ม สมาร์ท แต่งตัวดี แถมดูแล้วหน้าตาหล่อเหลาแบบนี้ น่าจะเป็นคนเอาใจเก่งเสียด้วย
 
"เฮ้ยยยย!! เท่ว่ะ"


"ไอ้พล เมื้อกี้ กูบอกว่าอะไร"
ท็อปเสียงเข้มใส่เพื่อน ก่อนจะเดินฮึดฮัดหัวเสียออกไป ปล่อยให้พลยืนงุนงงก่อนจะไปทำธุระส่วนตัวต่อ
 

     ท็อปที่เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนเพื่อน พอทิ้งตัวลงนั่งถึงเห็นว่าพี่ฆีนนั่งโต๊ะที่ไม่ไกลจากกันเท่าไหร่ ทำไมตอนแรกท็อปไม่เห็น หรือเป็นเพราะพอเวลาไม่สนใจก็เลยไม่เห็น แต่พออยู่ในสายตาเท่านั้นแหละเห็นชัดเจนเต็มสองตาเลย


     คงเป็นจังหวะที่ท็อปมองนานไปหน่อยจนพี่ฆีนกวาดสายตามองมาจนสายตาประสานกัน ท็อปรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

      ไม่นานนักที่พลเดินออกมาจากห้องน้ำก็ดูตื่นเต้นที่จะได้เล่าเรื่องหัวหน้าของท็อปให้กราฟได้ฟัง และยังย้ำกับกราฟว่าพี่ฆีนดูไม่เหมือนที่ท็อปเคยกล่าวไว้สักนิด

 
        ท็อปได้แต่ลอบถอนหายใจ เพราะขี้เกียจอธิบาย แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ท็อปไม่คาดคิด เพราะอยู่ดีๆ พี่ฆีนเดินเข้ามาหาที่โต๊ะ

 
        พี่ฆีนเดินถือแก้วเพื่อมาชนกับท็อปและเพื่อนๆโดยเฉพาะ อีกทั้งยังแนะนำตัวเองเสร็จสรรพว่าเป็นหัวหน้าของท็อปด้วย

 
         เพื่อนๆทุกคนดูนอบน้อมพี่ฆีนเป็นพิเศษ จนท็อปหมั่นไส้  เพราะตัวท็อปเอง หากไม่มีเรื่องงานมาเกี่ยวข้อง ท็อปไม่เคยมองว่ามันเป็นหัวหน้า และไม่คิดจะมีสัมมาคารวะกับคนแบบนี้ ถึงกล้าขึ้น ‘มึง-กู’ อย่างไม่เกรงกลัวหรือสนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร

         ท็อปมองคนตีเนียนที่มานั่งอย่างไม่รู้สึก รู้สาอะไรเลย อันที่จริง เขาสมควรลุกจากโต๊ะไปได้แล้ว แม้ท็อปจะอยากเอ่ยปากไล่แค่ไหนก็คงไม่เป็นผล เมื่อตอนนี้ ทั้งกราฟและพลดูจะติดใจชวนพี่ฆีนคุยอย่างออกรส จนกระทั่ง เพื่อนๆของเขาหมดคำถาม  พี่ฆีนจึงหาเรื่องชวนคุยต่อ โดยสิ่งที่เขาพูดนั้นมันเหมือนหาเรื่องให้ท็อปเสียแล้ว เมื่อเขาเกริ่นขึ้นมาว่า...

 
“อืม แล้วท็อปได้บอกเพื่อนหรือเปล่าว่าก่อนที่ท็อปจะมาทำงานที่นี่ เราเคยเจอกันมาก่อน”






****1.1****



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2017 23:00:44 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ขอผมได้รัก...{บทนำ} [9-1-60]
«ตอบ #3 เมื่อ10-01-2017 22:42:18 »

น่าติดตามนะครับ,,,

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่1.1} [10-1-60]
«ตอบ #4 เมื่อ11-01-2017 00:49:26 »

รออ่านตอนต่อไปคับ ลุ้นใครจะรุกใครจะรับ 555

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่1.2} UPDATE [12-1-60]
«ตอบ #5 เมื่อ12-01-2017 22:50:36 »

ตอนที่ 1 เกลียดขี้หน้า (2)



ท็อปหันขวับไปหาคู่กรณีทันที นี่มันจงใจหาเรื่องกันใช่ไหม? ท็อปพยายามรักษาอาการให้เป็นปกติที่สุด ก่อนตอบ
 

“มันไม่สำคัญที่จะต้องบอก”

“ไอ้ท็อปไม่บอก พี่ฆีนบอกพวกผมก็ได้พี่ว่าเจอกันที่ไหนมาก่อน?” พลถามขึ้นด้วยสีหน้าที่สนใจเป็นพิเศษ เพราะตอนนี้พลแอบเริ่มสงสัยในตัวเพื่อน ที่ตอนแรกท็อปเอาแต่บ่นเรื่องหัวหน้าให้ฟังอย่างนั้นอย่างนี้ แต่กลับไม่ยักกะยอมเล่าว่าเคยเจอหน้ากันมาก่อน

       ฟากคนอายุน้อยจ้องหัวหน้าเหมือนขู่ แต่ดูเหมือนฆีนจะไม่สนใจในสายตาที่ส่งมาหาเท่าไหร่นัก เขายกยิ้มมุมปากและหันไปหาคนถาม

“พี่เจอท็อปตอนไปทะเลที่กระบี่ครับ”

“มึง...” ท็อปอุทานขึ้นมา

“เฮ้ย!...ไอ้ท็อปใช้ทริปเดียวกันหรือเปล่าวะ? คืนที่มึงเมาแล้วไม่ยอมกลับห้องน่ะ” กราฟดูเหมือนไม่ได้ยินที่ท็อปอุทาน แต่กลับถามในสิ่งที่นึกขึ้นได้  ฟากท็อปออกอาการอึกๆอักๆ

“พี่ว่าน่าจะใช่นะเพราะคืนนั้นท็อปมานอนค้างห้องพี่เอง” ไม่ใช่ท็อปที่ตอบ แต่กลับเป็นฆีนที่เสนอหน้าตอบให้

"มึง!!"

      จากที่เก็บอาการมานาน ทำตัวให้นิ่งเงียบ แต่พอสิ้นเสียงนั้น ท็อปโถมตัวข้ามฟากไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย จนเพื่อนๆทั้งสองยกมือปัดป่ายห้ามทัพครั้งนี้

“ไอ้ท็อปใจเย็น มึงเป็นอะไรวะ กูไม่เห็นมีประโยคไหนที่ทำให้มึงต้องอารมณ์ขึ้นขนาดนี้เลย ทำตัวเหมือนคนมีความผิดไปได้”

      เหมือนคนเป็นโรควิตกจริตไปแล้ว ท็อปกลัวจับจิตจึงคิดเป็นตุเป็นตะว่ามันกำลังจะพูดบางอย่างไป ทำให้ท็อปเผลอสติหลุด สาดอารมณ์ใส่ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงเพื่อนตวาดขึ้นมา

      ท็อปทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรง ส่วนฆีนก็จับปกคอทั้งดึงเสื้อเชิ้ตให้กลับมาในสภาพปกติอย่างใจเย็น

“ผมขอโทษแทนไอ้ท็อปมันด้วยนะพี่”

“ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจอารมณ์เด็กๆน่ะ ตอนนอนค้างที่ห้องพี่ก็เมาแล้วฉุนเฉียวแบบนี้แหละ แต่ไม่นานก็เงียบและหลับไปเอง”
ฆีนบอกมาแค่นั้น ทำให้ท็อปรู้สึกโล่งอกไปหน่อย ที่มันไม่เอาเรื่องนั้นมาพูด

       เออ! ใช่ ท็อปเพิ่งนึกได้ว่า เรื่องราวที่ไอ้พี่ฆีนเคยพูดมาคราวก่อนนั้นอาจไม่เป็นความจริงก็ได้ มันคงพูดป่วนประสาทเฉยๆ  ทั้งหมดทั้งมวล เขาอาจคิดมากและตื่นตูมไปเอง


       เมื่อคิดไป คิดมาในเวลานี้ ท็อปชักปวดหัว เขาขอสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งออกไปก่อน เและกลับไปใคร่ครวญเพียงลำพังที่บ้านคงดีกว่า ท็อปจึงเอ่ยลาเพื่อน

"วันนี้กูไม่มีอารมณ์แดกต่อละ กลับบ้านก่อนนะ"


      ท็อปลุกขึ้นพร้อมยื่นเงินให้เพื่อน ฝั่งกราฟยืนตามแล้วกดไหล่เพื่อนให้นั่งลงเหมือนเดิม แต่เพื่อนยังดื้อดึงดัน ไม่ยอมนั่งเสียอย่างนั้น

“วันนี้มึงเป็นอะไรวะ ดูท่าทางมึงแปลกๆตั้งแต่เจอพี่ฆีน กูถามจริงๆมึงมีปัญหาอะไรกับพี่ฆีนวะ” กราฟกระซิบข้างหูเพื่อนเหมือนอยากรู้เรื่องที่ทำให้คาใจอยู่ตอนนี้ ฟากท็อปไม่ตอบคำถาม กลับสะบัดมือเพื่อนที่เกาะไหล่เขาอยู่แล้วเบี่ยงประเด็นพูดเรื่องอื่นแทน

“กูกลับละ พวกมึงอยู่คุยกับหัวหน้ากูไปเถอะ”

     ฆีนถอนหายใจที่เห็นท็อปเอาแต่ฟาดงวงฟาดงาใส่ เขาอาจรุกท็อปมากเกินไป คราวนี้ ฆีนยอมถอยให้ก่อนแล้วกัน

“พี่ว่าไม่กวนแล้วดีกว่า พี่ขอโทษทุกคนที่ทำให้หมดสนุก เพราะพี่คนเดียวแท้ๆ พี่กลับโต๊ะก่อนนะครับ”
 
     กราฟและพลมองหน้ากันเลิกลั่กๆด้วยความเกรงใจผู้ใหญ่ที่ต้องมาขอโทษเด็ก แต่สุดท้าย ทั้งกราฟและพลทำได้แค่ยกมือไหว้ลา และรีบจับท็อปที่ยืนนิ่งค้างให้นั่งลงเพื่อเคลียร์กัน


"ไอ้ท็อปกูว่ามันไม่ใช่แค่ปัญหาหัวหน้ากับลูกน้องแล้วว่ะ พวกกูเป็นเพื่อนมึงหรือเปล่า? มึงบอกมาสิวะ ว่าที่จริงมันคือเรื่องอะไร?” กราฟก็พอจะจับอาการบางอย่างได้ แต่แค่อยากได้ความจริงจากปากเพื่อนเพื่อความชัวร์มากกว่า

       ส่วนคนที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับ ได้แต่นั่งนิ่งเงียบ เพราะความเป็นกระต่ายตื่นตูมของท็อปแท้ๆ ถึงทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนเพื่อนๆคาดคั้นเอาคำตอบ ทำเขาเหมือนเป็นนักโทษที่กำลังโดนตำรวจสอบสวนอย่างไรอย่างนั้น

      ท็อปใช้เวลาครุ่นคิดสักพักกว่าจะตอบกลับ

“เออ ขอให้กูใจเย็นกว่านี้ก่อน กูบอกพวกมึงสองคนแน่”


        ท็อปว่าจบ เขาเลือกหนีปัญหาด้วยการยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอย่างเดียว โดยไม่พูดไม่จากับใคร

        กราฟและพลส่ายหน้าระอาที่เห็นเพื่อนงี่เง่าเอาแต่ใจมากที่สุดก็คราวนี้

        ไม่น่าเชื่อว่าผลพวงจากการประชดผสมความน้อยใจที่เพื่อนๆเข้าข้างไอ้พี่ฆีนมากกว่าตัวเอง ท็อปดื่มอย่างหนักจนลืมนึกถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ทำให้ตอนนี้ ท็อปเมามายไม่ได้สติ จนพลและกราฟบ่นอุบกับความเอาแต่ใจของเพื่อน

         อีกฟากโต๊ะหนึ่ง มีชายหนุ่มที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้แต่ลอบถอนหายใจ และนี่คือสาเหตุที่ฆีนยังไม่ยอมกลับบ้าน เพราะมันเป็นอย่างที่ฆีนคาดคิดไว้จริงๆ  ท็อปเมาไม่รู้เรื่องอีกแล้ว ฆีนบอกลาเพื่อนๆในกลุ่ม ก่อนจะเร่งฝีเท้าไปหาพลและกราฟที่ประคองท็อปให้ยืนตรงๆอยู่

"น้องๆไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่ไปส่งท็อปเอง" ฆีนเข้าเรื่องโดยไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมค้อมให้เสียเวลา

"อะ...เอ่อ...จะดีหรอพี่  ผมกลัวไอ้ท็อปมันจะอาละวาดใส่พี่อีกสิครับ" พลที่มีอาการมึนเมาน้อยสุด ได้แต่พูดอ้อมแอ้มอย่างกลัวใจว่าเพื่อนตัวเองจะไปทำนิสัยเสียใส่ผู้ใหญ่อีกหน

"ไม่เป็นไรหรอก พี่คิดว่าพี่เอาอยู่"

"เอ่อ แล้วพี่รู้จักบ้านมันหรอ?"


"พลก็บอกพี่มาสิครับ พี่จะได้ไปส่งถูกไงครับ"



     พลยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนบอกพิกัดแก่คนอายุมากกว่า จากนั้น พลได้พูดทิ้งท้ายตอนร่างเพื่อนถูกใครอีกคนประคองไว้แล้ว

"ผมฝากเพื่อนด้วยนะครับ พี่ฆีน"


       ฆีนพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถ เพื่อขับรถไปยังที่หมายซึ่งไม่ใช่บ้านของท็อปแต่เป็นคอนโดของเขาเอง


        กินเวลามากพอสมควร กว่าฆีนจะพาท็อปมาถึงคอนโดของตัวเอง นาทีนี้ ร่างหนุ่มน้อยถูกปล่อยลงบนเตียงนอนกว้าง ฆีนพ่นลมออกจากปาก ยกมือ บิดตัว ยืดเส้นยืดเส้น ยืดสาย เพราะการแบกร่างคนเมามาทำเขาปวดบ่า เมื่อยไหล่ไม่น้อย


        แม้จะเหนื่อยสักแค่ไหน แต่ฆีนไม่หยุดพัก เขาคว้าผ้าขนหนู พร้อมตักน้ำใส่กะละมัง เตรียมเช็ดตัวให้ท็อปต่อ จนกระทั่งเขาทำความสะอาดพร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ท็อปเสร็จสิ้น ฆีนจัดท่าทางท็อปให้นอนได้อย่างสบาย ก่อนจะนั่งมองใบหน้าได้รูปนั้นอย่างพินิจพิจารณา

       พอเวลาสิ้นฤทธิ์ ในสายตาของเขา ท็อปเป็นผู้ชายน่ารักและมีเสน่ห์ไม่เบาเลย


       ฆีนใช้ปลายนิ้วลูบไล้เหนือคิ้วเข้มนั้นไล่ไล้ช่วงโครงหน้าลงมาจบที่ริมฝีปากอิ่มของอีกฝ่ายและหยุดชะงักค้างอยู่อย่างนั้น


       เมื่อตัวเลขอายุได้ก้าวผ่านจากเลขสองสู่เลขสาม ไม่น่าเชื่อว่าความคิด ความอ่านก็จะเปลี่ยนไปตามลำดับ อาจไม่ใช่แค่เรื่องของชีวิตประจำวัน หรือหน้าที่การทำงานเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงชีวิตรักของฆีนด้วย


      โดยปกติ ฆีนก็ไม่ใช่คนเจ้าชู้ รักง่ายหน่ายเร็วอยู่แล้ว การจะเปลี่ยนคู่ควงให้ง่ายเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า เขายิ่งไม่ถนัดเท่าไหร่ นั่นแหละยิ่งทำให้ฆีนลำบากใจเวลาที่เขาถูกชะตากับใคร ก็ยากที่จะถอนตัวกลับได้ เหมือนเรื่องของท็อปที่เป็นอยู่ตอนนี้ 


       ฆีนยังจำครั้งแรกที่เจอท็อปได้ ท็อปยิ้มหวานแถมหน้าแดงๆเพราะเมาเดินตามเขากลับห้อง ด้วยสาเหตุที่บอกว่าเพื่อนหนีกลับกันหมดแล้ว ฆีนจึงพามาที่ห้องด้วยกัน ท็อปในวันนั้น เป็นเด็กกวนประสาทแถมคุยสนุกกว่าที่คาดไว้


      และใครจะคิดล่ะว่า หนุ่มน้อยช่างเจรจา เฮฮาแบบนั้น จะเปลี่ยนไปเมื่อฆีนปิดประตูห้องลง ท็อปผลักฆีนแล้วประกบจูบทันที แม้ฆีนจะสนใจในตัวท็อปจริง แต่จังหวะนั้น ฆีนผลักออก เพราะเขาอยากให้ท็อปจูบเขาด้วยความเต็มใจมากกว่าการจูบแบบเมาไม่ได้สติแบบนี้ นั่นจึงทำให้ท็อปไม่สบอารมณ์ เลยเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งมาที่น้องชายเขาแทน

     หลังจากนั้น ความปรารถนาของทั้งคู่ก็พลุ่งพล่านจนต่างฝ่าย ต่างช่วยกันสร้างความสุขสมให้ถึงฝั่ง เพียงแต่ยังไม่ถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งก็เท่านั้น

       เพราะสิ่งที่ท็อปทำมาทั้งหมด ฆีนจึงคิดว่าน้องเขามีใจ ตื่นเช้ามาฆีนจึงตั้งใจจะขอเบอร์ติดต่อเพื่อไว้ทำความรู้จักกันต่อ แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่า ท็อปกลับจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ แถมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือจนฆีนไม่อยากจะเชื่อ


      การจากกันด้วยไม่ดี แถมไม่มีเบอร์หรือตัวช่วยในการสานสัมพันธ์กัน ก็ทำให้ฆีนถอดใจแล้วว่าคงไม่ได้เจอท็อปอีก แม้ใจจะพยายามลืมมาตลอด แต่ลึกๆก็ภาวนาขอให้ได้มีโอกาสเจอท็อปอีกสักครั้ง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า สิ่งที่ฆีนอธิษฐานในใจจะเป็นจริง เมื่อตอนที่เห็นท็อปอยู่ในที่ทำงาน นั่นจึงเป็นชนวนสำคัญที่ฆีนรวมรวบความกล้า รุกเดินหน้าตามจีบเฉกเช่นตอนนี้


      เขาปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับเรื่องของท็อปนานเท่าไหร่แล้ว ขืนท็อปตื่นมาตอนนี้ มีหวังได้ด่าฆีนหูชาอีกแน่

     ฆีนละมือออกจากใบหน้าได้รูปนั้น


“ถ้าพี่ไม่ชอบก็คงไม่ยอมขนาดนี้”

      สิ้นเสียงนั้น รอยยิ้มจางๆที่มาพร้อมความเหนื่อยล้าก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้า ฆีนคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำหวังจะไปอาบน้ำให้สบายตัวบ้าง

 

 

 

.....................

 



          เช้าวันรุ่งขึ้น


"ไอกราฟ อยู่ไหนว่ะ"


        เสียงที่เปล่งออกมาแผ่วเบา ในขณะที่ยังนอนแผ่หราอยู่บนเตียงกว้าง


        ท็อปเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ด้วยอาการสะลึมสะลืออยู่ พอสติเริ่มเข้าที่ เขาก้มมองตัวเองที่ไม่ได้สวมเสื้อ มีเพียงกางเกงนอนขายาว...ท็อปลุกจากเตียงด้วยสีหน้าประหลาดใจ

         นี่มันไม่ใช่บ้านกราฟหรอกหรือ? แล้วนี่ท็อปอยู่ที่ไหนกัน?

        สองตากวาดมองรอบห้องอย่างงุนงง ท็อปรีบเดินไปเปิดประตู ก็ได้กลิ่นอาหารหอมฟุ้งที่ลอยมาเตะจมูก
 

"เหี้ย!! มึงอีกแล้ว" ท็อปตะโกนดังลั่น ทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งนิดๆก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าที่แต้มรอยยิ้ม


"ตื่นแล้วหรือ?"


       ท็อปก้าวท้าวยาวๆ ไปผลักอกรุ่นพี่อย่างแรง จนกระทะที่ฆีนถืออยู่เกือบหลุดมือ

"มึงมันเลว มึงทำอะไรกูอีก บอกมาดิ้"

 
"พี่ไม่ทำคนที่นอนนิ่งๆ ไม่รู้สึกตัวหรอกนะ เมื่อคืนเราเมามาก พี่ก็ให้เรามาพักที่ห้องพี่ก่อน พี่ไม่รู้จักบ้านท็อปนี่ ใจเย็นสิ"


      ท็อปหรี่ตามองคนตรงหน้าที่พูดได้อย่างไหลลื่น ไม่มีพิรุธ

"แต่กูมากับเพื่อนกู ทำไม่กูถึงกลับมากับมึงได้"


"กราฟกับพลก็มึนๆเหมือนกัน เรื่องมันผ่านมาแล้ว ช่างมันได้ไหม พี่กำลังทำกับข้าวอยู่ ใกล้เสร็จแล้ว ไปอาบน้ำเถอะท็อป จะได้ออกมากินด้วยกัน” แม้จะโดนหาเรื่อง วีนเหวี่ยงใส่แค่ไหน ฆีนยังคงใจเย็นได้อย่างน่าประหลาด

        ท็อปยังมีคำด่าอีกมากมายอยู่ในหัวสมอง แต่พอคนตรงหน้าส่งยิ้มแถมทำเสียงนุ่มเหมือนปกติ ท็อปก็อ้าปากต่อว่าไม่ออก เขาไม่เสียเวลาไปเถียงอะไรอีก ขออาบน้ำให้สบายตัวสักหน่อยเสร็จแล้วจะได้รีบกลับบ้าน

        ใช้เวลาไม่นานที่ท็อปแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาคว้าของสำคัญติดตัวไปอย่างครบถ้วน ท็อปเหลือบมองคนอายุมากกว่านั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร แต่เขาไม่สนใจ กลับเดินดิ่งไปยังประตู พร้อมสวมรองเท้าเตรียมออกจากห้อง


“เดี๋ยว พี่รอกินข้าวอยู่นะ” ฆีนกะอยู่แล้วว่าท็อปต้องเล่นแง่ เขาถึงนั่งหันหน้าไปทางประตูห้องนอน

“กูไม่หิว”

“ท็อปเกลียดอะไรพี่นักหนา ไม่ลองให้โอกาสทำความรู้จักกันเพิ่มหน่อยหรือ? ไหนๆเราก็ทำงานที่เดียวกันด้วย”


"หึๆ อยู่ด้วยกันอีกไม่นานหรอก เดือนหน้ากูจะลาออก รู้ไว้เลย"


       ฆีนชะงักไปครู่หนึ่ง คำพูดที่ดูธรรมดาในสายตาคนอื่น แต่ถ้าเป็นคนที่เราชอบ มันทำให้ใจวูบโหวงไม่น้อยเลย แต่ดูเหมือนฆีนจะไม่ลดละความพยายาม เขายังคงแสดงความจริงใจออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้อยู่เสมอ

"พี่ชอบท็อปนะ"

"มะมึง..เป็นบ้าหรือไง"

"พี่พูดจริง"


"กูเป็นผู้ชาย ไม่ใช่เกย์" ท็อปยืนกรานเสียงหนัก

"แต่พี่เป็น"

     ท็อปก็เดาไม่ผิดอยู่แล้วล่ะ แต่ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะกล้าเผยเพศสภาพตัวเองชัดเจนขนาดนี้

"แต่กูไม่ได้ชอบมึง"

"ตอนนี้อาจจะยัง แต่อนาคตก็ไม่แน่ อย่างที่บอกในตอนแรก พี่ขอแค่โอกาส" ฆีนยังคงยืนยันว่าต้องเอาชนะใจท็อปให้ได้ เพราะเขายังจำตอนที่เจอกันครั้งแรก ถ้าท็อปไม่ชอบผู้ชายแล้วทำไมเขาถึงไม่รังเกียจที่ต้องทำแบบนั้น

"ถ้าอย่างนั้นกูขอถามอะไรหน่อย คืนนั้นมึงไม่ได้ทำอะไรกูใช่ไหม? มึงแค่พูดเล่นให้กูตกใจใช่ไหม?”


       ฆีนเห็นสีหน้าท็อปที่ดูเหมือนคาดหวังว่าสิ่งที่เขาต้องตอบออกไปจะเป็นสิ่งเดียวกับที่ท็อปต้องการ
 

       เพราะบางครั้ง ความจริงอันโหดร้ายอาจทำให้ใครบางคนเสียความรู้สึก ดังนั้น เรื่องบางเรื่อง การโกหกคงดีกว่า


       ในเมื่อท็อปยังรับความจริงไม่ได้ ฆีนคงต้องปล่อยให้ท็อปเข้าใจแบบนั้นไปก่อน

"พี่พูดเล่น พี่ตั้งใจจะแกล้งเราเฉยๆ"


      ฟากท็อปถอนหายใจคล้ายโล่งอก  ถึงแม้จะได้คำตอบอันน่าชื่นใจว่ามันไม่ได้ทำอะไรท็อปจริงๆ แต่ท็อปก็ยังมีเรื่องเครียดใหม่เพิ่ม เมื่อมันมาบอกว่าชอบ ยิ่งทำให้ความเกลียดขี้หน้านั้นไม่ลดลงเลย

        เพราะท็อปไม่ชอบผู้ชาย และคิดว่าไม่มีวันจะชอบผู้ชายด้วย

"แล้วเรื่องนั้น....สรุปท็อปจะลองให้โอกาสพี่ไหม?"


"เรื่องของมึงแล้วกัน มึงเตรียมใจอกหักได้เลย!"


       น่าแปลกที่ประโยคทิ้งท้ายช่างดูไร้เยื่อใย แต่ฆีนกลับผุดรอยยิ้มบางเบาขึ้นมา

       ดูเหมือนว่าฆีนจะได้งานยากสักหน่อย เพราะดันเผลอใจไปชอบคนฤทธิ์มากก็ทำใจลำบากล่ะงานนี้ แต่เพราะฆีนรู้ตัวเองดีว่าเขาก็ไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆซะด้วยสิ....

 

 
***************************

ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านและคอมเมนท์นะคะ
 แล้วเจอกันกับตอนต่อไปจ้า
[/color]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2017 00:16:55 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่1.2} UPDATE [12-1-60]
«ตอบ #6 เมื่อ12-01-2017 23:15:10 »

เอาล่ะสิ,,,

เปิดโอกาสขนาดนั่น

ฆีนเดินหน้าเลย,,,

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 2.1} UPDATE [14-1-60]
«ตอบ #7 เมื่อ14-01-2017 18:21:38 »


ตอนที่ 2 เป็นห่วง





       สองสัปดาห์แล้วที่ท็อปเต็มที่กับการทำงานโดยเรื่องลาออกก็ยังไม่ได้ปริปากบอกแต่อย่างใด ยังคงเก็บเอาไว้อยู่ในใจ ด้วยเหตุผลที่พร่ำบอกกับตัวเองว่า ถ้าลาออกไปตอนนี้ เขาจะสูญเสียมิตรภาพจากเพื่อนร่วมงานรวมถึงสังคมดีๆที่ท็อปไม่รู้ว่าถ้าไปที่ใหม่จะได้เจอแบบนี้หรือเปล่า?

     เมื่อเห็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย ท็อปก็จะพยายามลืมเรื่องที่เขารู้ดีแก่ใจนั้นทิ้งไป 

     ใกล้ช่วงเวลาที่ต้องเตรียมนำส่งไฟล์งานเข้าโรงพิมพ์ในส่วนของงานสิ่งพิมพ์ ทุกคนจึงทำงานของตัวเองกันอย่างบ้าคลั่ง เช่นเดียวกับวันนี้ที่ทุกคนจัดการทำหน้าที่ของตัวเองกันจนเวลาล่วงเลยมาถึงสองทุ่ม ก็ยังไม่มีใครกลับบ้าน

"พี่จะลงไปซื้อน้ำสักหน่อย ใครสนใจเอาอะไรไหม?" ฆีนเห็นว่ามันดึกเกินเวลางาน แต่ทุกคนยังคงทำงานกันอย่างไม่มีใครคิดจะลงไปหาอะไรรองท้อง ด้วยความเป็นห่วงน้องๆจึงเอ่ยถาม

“พี่ฆีนเลี้ยงหรือคะ?”  น้องแพรฝ่ายประสานงาน เอ่ยแซวเสียงหวาน จนฆีนขำพลางส่ายหน้า

“ถ้ายังไม่รีบบอกกันตอนนี้ ก็จะให้จ่ายกันเองแล้วล่ะ"


      สิ้นเสียงนั้น แพรตะโกนโหวกเหวกวายวายถามคนในแผนกให้รีบตัดสินใจกันด่วนๆเพราะเดี๋ยวเจ้ามือจะเปลี่ยนใจไปเสียก่อน

      เสียงแย่งกันพูดผุดขึ้นมาจนฟังไม่ได้ศัพท์ ทำฆีนยกมือกุมขมับกับรายชื่อขนม นมเนย ที่ทุกคนพูดออกมายาวเป็นหางว่าว

"ถ้าจะเยอะขนาดนั้น พี่ว่าแพรจดเถอะ..."
ฆีนตัดบทด้วยการยื่นกระดาษให้แพรทำหน้าที่เป็นคนสรุปมา

      ขณะที่ทุกคนเอ่ยบอกถึงความต้องการของตนเอง พี่กั๊กเห็นท็อปยังไม่พูดอะไร จึงหวังดีถามอีกฝ่าย

"ไอ้ท็อป ไม่หิวหรอ? ไม่เห็นสั่งอะไรเลย"
พี่กั๊กทักท็อป จนเขาสะดุ้งนิดๆ

"ตอนนี้ ยังไม่หิวอะพี่ เดี๋ยวผมค่อยลงไปกินทีหลังก็ได้"
ท็อปรักษาอาการให้เป็นปกติ โดยไม่คิดจะมองคนที่ยืนรอลูกน้องจดรายการสินค้าอยู่ไม่ไกลนัก

"ท็อปถ้าจะลงอยู่แล้วก็ไปพร้อมพี่ฆีนเลยสิ จะได้ไปช่วยพี่เขาถือด้วย ที่สั่งๆ ดูไป ดูมาเยอะเลยล่ะ พี่ฆีนคงถือไม่ไหวแน่ๆ"
พี่แพรพูดขึ้นมาหลังจากได้ยินท็อปบอกอย่างนั้นกับพี่กั๊ก ทำให้ท็อปออกอาการไม่ค่อยพอใจว่าทำไมต้องไปช่วย จึงปากไวไปหน่อย

"อยากอาสาซื้อให้คนอื่น ก็ต้องถือให้ได้สิ"


"ท็อปว่าอะไรนะ!!"
พี่กั๊กถามทำหน้าประหลาดใจเหมือนได้ยินไม่ถนัดนัก

      ฟากท็อปทำหน้าไม่ถูก เป็นจังหวะที่เบือนหน้าหันไปสบสายตากับพี่ฆีนพอดี ก็เห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าน้อยๆเหมือนส่งสัญญาณว่าไม่ควรพูดแบบนั้น ก่อนจะเป็นคนแก้สถานการณ์ให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ด้วยการแสร้งหัวเราะขึ้นมาก่อน

"แพรเห็นพี่เป็นคนอ่อนแอหรือไง ถือของแค่นี้สบายมาก"


      ท็อปเห็นพี่กั๊กยังคงมองมา ส่วนพี่แพรก็ดูจะฝืนหัวเราะตามน้ำ ท็อปไม่อยากให้ทุกคนเอะใจในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขาและพี่ฆีน รวมถึงไม่อยากให้คนอื่นมองท็อปไม่ดีจึงตัดสินใจตอบตกลงไป

"เดี๋ยวผมไปด้วยครับพี่ฆีน"


"แน่ใจหรือ?"
ฆีนถามอีกครั้ง เพราะไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน


"เอ่อ...ครับ"
ท็อปตอบไม่เต็มเสียง


       ฟากฆีนไม่อยากเซ้าซี้อีกฝ่ายให้เป็นกังวล ทำได้แค่รับกระดาษขนาดเท่าฝ่ามือมาจากน้องแพรยัดใส่กระเป๋าเสื้อ ก่อนจะเดินผลักประตูออกไป โดยมีท็อปเดินตามหลังไม่ห่าง


       ภายในลิฟต์ พื้นที่สี่เหลี่ยมแคบๆที่นอกจากจะชวนให้อึดอัดแล้ว การยืนอยู่ด้วยกันสองคนแล้วไม่พูดอะไร ชวนให้อึดอัดยิ่งกว่า ฆีนหันไปมองรุ่นน้อง ก็เห็นอีกฝ่ายทำเป็นเล่นโทรศัพท์เหมือนจงใจให้รู้ว่าไม่อยากเสวนาด้วย


      ฆีนตัดสินใจทำลายความเงียบด้วยการพูดขึ้นมา แม้รู้ดีว่าไม่ถึงนาที ลิฟต์ก็คงเคลื่อนถึงชั้นที่หมาย


"พี่ชอบทุกครั้งนะ เวลาท็อปเรียกว่า พี่ฆีน"
เหมือนจะเป็นประโยคที่พูดลอยๆ แต่อันที่จริงก็อยากให้ใครบางคนได้ยินและรับรู้

"หึๆ"

"จริงๆก็ควรเรียกพี่ให้ตลอดนะเพราะพี่ว่าใครๆก็คงดูออกว่าอายุเราห่างกัน ถ้าคนอื่นได้ยินเข้าจะมองว่าเราเป็นเด็กไม่มีมารยาท ไม่เคารพผู้ใหญ่"


"มึงว่ากูหรอ?" ท็อปยังคงสติหลุดได้อย่างง่ายดาย เขาเผลออารมณ์ร้อนจนเดินไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย

"พี่เตือนเพราะพี่หวังดีกับเรานะ ท็อป"


     รุ่นพี่เอ่ยเสียงเรียบอย่างใจเย็น โดยไม่หงุดหงิดหรือโมโหไปตามอารมณ์ของอีกฝ่ายเลย

     ท็อปหงุดหงิดใจที่แม้จะต่อว่า ด่าทอแรงๆแค่ไหน อีกฝ่ายก็ดูเหมือนไม่ถือสาอะไร จนท็อปเผลอผลักอกพี่ฆีนด้วยความหมั่นไส้ แต่เป็นจังหวะที่ลิฟต์เปิดอ้าออกพอดี


ตึ้ง!


"คุณฆีน เกิดอะไรขึ้นคะ!"
  เสียงแหลมสูงดังขึ้นเหมือนตกใจที่เห็นการกระทำของท็อปเมื่อครู่

"เอ่อ..สวัสดีครับ คุณไอริน"

      ฆีนดึงชายเสื้อให้ตึง ก่อนก้าวออกจากลิฟต์ พร้อมส่งรอยยิ้มเป็นมิตรให้สาวสวยหัวหน้าฝ่ายการตลาดที่เจอฆีนที่ไหน ก็ทักทายอยู่เสมอ

      ฟากท็อปไม่รู้จักผู้หญิงตรงหน้า เพราะอยู่คนละส่วนงาน จึงไม่ได้ยกมือไหว้และหวังจะเดินนำไปก่อน เพื่อให้ทั้งสองยืนคุยกันเป็นส่วนตัว แต่ทว่า เขากลับถูกรั้งแขนไว้


"น้องชื่ออะไรคะ"

      พี่ฆีนมองหน้าท็อป เหมือนดูท่าทีอีกฝ่ายจะตอบแบบไหน

"ท็อปครับ"


“เป็นลูกน้องฆีนใช่ไหม?”
ไอริณหันไปเอาคำตอบจากฆีน ฟากฆีนพยักหน้า
 
"ทำไมผลักอกฆีนแบบนั้น ไม่รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่หรือไง ฆีนต้องบอกเจ้านายนะคะ"
คำพูดเสียงท้าย ไอริณหันไปหาคุณที่โดนกระทำ


"ไม่ต้องหรอกครับ เมื่อกี้ผมเผลอแซวเรื่องส่วนตัวน้องเขาเลยไม่พอใจ ผมผิดเอง"
ฆีนพูดปกป้องเชิงบอกไอริณกรายๆว่ามันเป็นเรื่องเล็กที่ไม่ถึงกับคอขาดบาดตายอะไร

 "ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรทำ...ฆีนยังคิดเข้าข้างเด็กนี่อีกหรือคะ ให้ท้ายกันแบบนี้ แล้วลูกน้องที่ไหนจะเชื่อฟัง"
ไอริณมองหน้าท็อปอย่างไม่พอใจ เพราะเห็นท็อปชักสีหน้าใส่ก็ดูรู้ว่าไร้มารยาท


"ผมขอโทษครับที่ทำตัวแย่ๆ จนพี่สาวต้องเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่นเสียได้”
ท็อปบอกมิวายส่งยิ้มยั่วโมโหอีกฝ่าย

"น้องคะ!!" ผู้หญิงตวาดใส่เพราะรู้ว่าเด็กหนุ่มจงใจว่าสาระแนทำนองนั้น

"เอ่อ..คุณไอรินครับ ผมขอโทษแทนเด็กผมด้วย เขาอาจจะยังวางตัวไม่ถูกเพราะน้องเพิ่งทำงานที่นี่ที่แรก เอาเป็นว่าผมจะไปคุยกับพี่ดลเพื่อพิจารณาตอนประเมินการทำงานแล้วกัน อย่าให้ถึงเจ้านาย จนกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยนะครับ"


"ก็ได้ค่ะ ไอริน ทำเพื่อตัวคุณฆีนนะคะ เพราะไอริน ก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว ดูแลเด็กในปกครองให้ดีแล้วกัน ระวังต่อไปจะเล่นหัวจนไม่รู้ตัว"


     พี่ฆีนได้แต่ส่งยิ้มให้ แต่ในมือกำแน่นเพราะรู้สึกเหมือนโดนฉีกหน้า

      สาวแสนสวยเดินลับตาไปแล้ว ฆีนได้แต่ถอนหายใจยาวที่คิดอยู่แล้วว่า เพราะความอารมณ์ร้อนของท็อปจะนำมาซึ่งปัญหาแล้วมันก็เป็นเรื่องจริง

      ฆีนนึกอยากโกรธตัวเองเหมือนกัน ที่ปล่อยให้เด็กดื้ออย่างท็อปเข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจเขาได้ถึงเพียงนี้ ถ้ามันเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่นง่ายๆก็คงดี

      หรือความจริง ที่ฆีนยอมทุกอย่างคงเพราะความชัดเจนของท็อปล่ะมั้งที่รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกมาอย่างนั้น จึงทำให้ฆีนรู้ว่าอย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่ทำตัวเสแสร้งเหมือนคนอื่นๆที่ฆีนได้พบเจอมา

     หรืออีกนัยหนึ่งแล้ว ฆีนอยากเห็นรอยยิ้มของท็อปอีกครั้ง หลังจากที่เคยเห็นเมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรกก็เป็นได้เช่นกัน

 
     ส่วนท็อปละล้าละลัง ทำตัวไม่ถูก ปล่อยให้ตัวเองยืนชะงักอยู่ที่เดิม โดยใครอีกคนเดินล่วงหน้านำไปก่อนแล้ว ท็อปมองแผ่นหลังนั้นอยู่นานจนเหลือเพียงจุดเล็กที่ค่อยๆหายไปกับตา


      ท็อปไม่เข้าใจว่าไอ้พี่ฆีนทำไมถึงยังปกป้องคนผิดอย่างเขา

      แต่อีกความคิดของท็อปก็แล่นเข้ามาบอกว่า ช่างเถอะ! จะไปสนใจทำไม ถ้าไอ้พี่ฆีนอยากปกป้องและทำตัวเหมือนเป็นพระเอกก็ทำให้ได้ตลอดแล้วกัน

      กว่าท็อปจะเดินมาถึงร้านสะดวกซื้อ ก็เห็นพี่ฆีนหยิบของใส่ในตะกร้าได้จำนวนหนึ่ง ท็อปเก้ๆกังๆ เพราะไม่รู้จะเริ่มบทสนทนาแบบไหนดี เมื่อรู้ว่าตัวเองก็ทิฐิสูงเสียด้วย

      ท็อปโยนกาแฟกระป๋องลงไปในตะกร้า ฆีนเงยหน้ามามองท็อปก่อนจะก้มลงไปดูรายการในกระดาษ
 

“ไม่มีที่เขียนไว้”

“ของกูเอง”
ท็อปตอบแผ่วๆแต่ทำกิริยาเชิดหน้า วางมาดเคร่งขรึม จนฆีนอดอมยิ้มไม่ได้ เขาจ้องมองรุ่นน้อง

“กินตอนนี้ แล้วดึกๆจะนอนหลับหรือ?”

"เรื่องของกู"



       ฟากท็อปไหวไหล่ไม่สนใจ แต่ฆีนก็ยังหุบยิ้มไม่ลงอยู่ดี เพราะนึกขำกับการกระทำของคนตรงหน้า

       สำหรับฆีนทำไมถึงดูว่าท็อปน่ารักไปได้นะ...


        เมื่อได้ของครบถ้วนทุกรายการ  ฆีนจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองเดินกลับเข้าออฟฟิสด้วยกัน ในระหว่างนั้น ท็อปยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องพี่ฆีนและปัญหาก่อนหน้า

       ท็อปรู้ดีว่าการแสดงออกของตัวเองในสายตาคนอื่น อาจดูเป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะ ท็อปหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร เพียงเห็นพี่ฆีน ท็อปก็เกิดอาการขัดใจ ไม่อยากคุยขึ้นมาดื้อๆ

      ที่ผ่านมา ท็อปคิดดีแล้วว่าเขาเป็นแบบนี้กับพี่ฆีน แค่คนเดียวจริงๆ...


       ท็อปจิ๊ปากในลำคอด้วยความไม่พอใจตัวเองที่ยังคิดวนเวียนถึงเรื่องนี้อยู่ได้....ถึงกับต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาอะไรทำแก้ฟุ้งซ่าน  ก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ไป โดยไร้บทสนทนาของทั้งคู่ ปล่อยให้ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง...


****1.1****



 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2017 20:42:28 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.1} UPDATE [14-1-60]
«ตอบ #8 เมื่อ14-01-2017 19:08:51 »

ติดตามจ้า

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.1} UPDATE [14-1-60]
«ตอบ #9 เมื่อ15-01-2017 14:18:33 »

รออ่านน่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.1} UPDATE [14-1-60]
« ตอบ #9 เมื่อ: 15-01-2017 14:18:33 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.1} UPDATE [14-1-60]
«ตอบ #10 เมื่อ15-01-2017 23:46:07 »

น่าอ่านนะครับ

รีบๆมาต่อนะครับ,,,

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.1} UPDATE [14-1-60]
«ตอบ #11 เมื่อ16-01-2017 07:46:26 »

ท๊อป ไม่น่ารักเลย ส่วนพี่ฆีน ก็ แย่ เขาบอกแล้วไม่ชอบผช ไม่ใช่เกย์ พีายังจะยัดเยียดความเป็นเกย์ให้เขาอีก ไม่ดีคะ พอ ๆ แยกย้าย จบ

ท๊อปยิ่งกว่าคำว่าไม่มีมารยาท บ่งบอกไปถึงการอบรมเลี้ยงดู เอาตามตรง คุณเมาของคุณเอง แทบจะสมยอม แต่เสือกจำไม่ได้ แย่ ๆ ไม่ปลื้มเลยซะจริง

  อีกอย่าง ยังไงก็ในเวลางาน ที่ทำงาน ทำแบบนี้ จะเป็นแบบไอริณว่า เด็กมันจะถอนหงอก เอาเรื่องส่วนตัวปนกับงานชัด ๆ แย่เข้าไปอีก

   สุดท้ายแค่อยากบอก ชอบคะ อิน 555 อย่านอยด์กับเม้นเรานะ แปลว่าคุณคนเขียนเขียนดีไง เราอินตามเลยเห็นเปล่า


      แต่มาคิดอีกตลบ เกย์ อะ ผชเดินตาม จับจูบ ลูบไล้ มันก็คิดไกลปะวะ ว่าสนใจ เข้าข้างพี่ฆีนเรื่องนี้พี่ฆีนไม่ผิด แต่พี่ควรเปลี่ยนใจ แล้วสั่งสอนไอ้เด็กปากดีแบบท๊อปเถอะคะ ก่อนพี่จะเสียคน

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.2} UPDATE [16-1-60]
«ตอบ #12 เมื่อ16-01-2017 19:52:21 »


ตอนที่ 2 เป็นห่วง (2)





         เวลาผ่านไปถึงตีสองกว่า พนักงานที่ยังนั่งทำงานจนถึงตอนนี้ เหลือเพียง ฆีน ท็อป และกั๊ก เท่านั้น แม้พนักงานที่กลับบ้านกันก่อนหน้าจะบอกกล่าวแก่พี่ฆีนว่า อันที่จริงพี่ฆีนไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ดึกถึงขนาดนี้ก็ได้ เพราะงานในส่วนที่เขาต้องดูความเรียบร้อยนั้น มันยังไม่มาถึง แต่ฆีนก็สามารถหาข้ออ้างที่ทุกคนไม่ได้สนใจที่จะถามต่อได้


       เมื่อเห็นว่างานคืบหน้าไปได้ไกลพอสมควร ฆีนจึงบอกน้องๆว่าให้กลับบ้านไปพักผ่อนแล้วมาลุยงานต่อในวันพรุ่งนี้ดีกว่า กั๊กทำตามคำสั่งของหัวหน้า ก่อนจะออกไปเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าล้างตาสักหน่อย

       ฆีนมองว่ากั๊กเดินออกไปแล้ว เขาสาวเท้ายาวๆไปหาท็อปใกล้ๆ มือหนาแตะช่วงไหล่อีกฝ่ายเบาๆ แต่ท็อปกลับสะดุ้งเหมือนไม่คุ้นชิน


"ดึกขนาดนี้ กลับบ้านยังไง"

"แท็กซี่"

"ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพี่ไปส่ง"


"ไม่ต้อง"


"อย่าทำให้พี่เป็นห่วง”
ฆีนยังคงรักษาความใจเย็นไว้ได้อย่างเดิม

"มึงคงลืมว่ากูเป็นผู้ชาย ไม่ได้อ่อนแอและดูแลตัวเองได้"

"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ"
ฆีนยังคงตื้ออีกฝ่าย แต่ในจังหวะที่ท็อปอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรต่อก็เงียบกริบเมื่อเห็นพี่กั๊กก็เดินเข้ามา โดยฆีนแค่ปรายตามองแล้วทำสีหน้าเป็นปกติ ก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเองเหมือนเช่นเคย


       เวลานี้ ทุกคนพร้อมใจปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน ในระหว่างที่เดินลงมา พี่กั๊กถามไถ่ว่า บ้านท็อปอยู่ไหน จะอาสาไปส่ง แต่พอท็อปบอก พิกัดไปเท่านั้นแหละ ดูเหมือนพี่กั๊กคงจำเส้นทางไปบ้านพี่ฆีนได้จึงโพล่งออกมากึ่งมัดมือชกว่าให้ท็อปกลับบ้านกับพี่ฆีนเลยแล้วกัน


       มันก็ดีอยู่หรอกที่พี่ๆทุกคน ห่วงใยรุ่นน้องคนหนึ่ง แต่ท็อปก็อยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาเป็นผู้ชาย รูปร่างก็ไม่ได้อ้อนแอ้น อรชรเหมือนร่างหญิงสาวที่บอบบางจนเป็นจุดล่อสายตาให้มิจฉาชีพ แต่เพราะไม่อยากต่อความยาว สาวความยืด เขาจึงเงียบและเดินตามพี่ๆทั้งสอง โดยหวังว่าถ้าแยกกับพี่กั๊กได้เมื่อไหร่ เขาจะวิ่งหนีหายไปขึ้นแท็กซี่ให้ได้


        แต่ใครจะคิดล่ะว่าทั้งสองจอดรถใกล้กันจนท็อปหาทางเลี่ยงลำบาก ท็อปร่ำลาพี่กั๊กก่อนจำใจไปขึ้นรถพี่ฆีนอย่างปฏิเสธไม่ได้


       สุดท้าย ท็อปถึงมานั่งจุมปุ๊กอยู่ในรถพี่ฆีนแบบนี้ เมื่อเห็นรถเตรียมเคลื่อนตัวออกเดินทาง ท็อปรีบบอกเส้นทางไปบ้านของตนเองคร่าวๆ ก่อนจะชิงหลับแบบไม่สนใจใยดี...

       ฆีนไม่อยากเซ้าซี้อีกฝ่ายให้รำคาญ ระยะเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันแม้จะยังไร้ความรู้สึกผูกพัน มีแต่ความเกลียดขี้หน้า สำหรับฆีนมองว่าก็ยังดี ดีกว่าที่ไม่มีโอกาสใกล้ชิดอะไรเลย

"เวลาเรานิ่งแบบนี้ก็น่ารักดีนะ" ฆีนตั้งใจพูดขึ้นเผื่อว่าอีกฝ่ายที่แกล้งหลับจะได้ยิน แต่ดูเหมือนทางนั้นคงหลับจริง ถึงไม่มีเสียงดังโวยวายให้น่าหนวกหู


        ภายในรถยนต์มีเสียงเพลงสากลคลอเคล้าเพื่อเพิ่มสุนทรียภาพแก่คนขับรถ และดูท่าจะทำให้ชายหนุ่มใจเย็นผู้นี้มีความสุขได้ดีทีเดียว เขาเคาะนิ้วลงบนพวงมาลัยพลางฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดี ทั้งๆที่ไม่ใช่ช่วงเวลาน่ารื่นรมย์เท่าไหร่ ยามตีสามกว่าๆ ตอนนี้ เขาควรจะนอบหลับพริ้มอยู่บนเตียงได้แล้ว แต่จากการยกยิ้มไป ฮัมเพลงไป คงเป็นเพราะคนข้างกายที่นอนอยู่ล่ะมั้ง ทำให้ฆีนหายเหนื่อยจากงานเป็นปลิดทิ้ง

      เด็กดื้อ เด็กร้าย เด็กปากดี ที่ไม่รู้ไปแอบเล่นคุณไสยมาหรืออย่างไร แผลงฤทธิ์ขนาดนี้ เขาก็ยังไม่คิดจะหนีไปไหนเลย

      ลึกๆแล้ว คงเป็นเพราะฆีนเห็นความหวังจากเหตุการณ์ครั้งแรกที่เจอกัน มันไม่เคยหายไปจากหัวสมอง ทุกครั้งที่ได้เจอหรือคุยกับท็อป ภาพเหล่านั้นจะผุดซ้อนขึ้นมาให้หวนนึกถึงได้ตลอด

    ใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาที เส้นทางที่ท็อปบอกกับฆีนก็ดูเหมือนจะลางเลือนเริ่มจำไม่ได้ เขาหักเลี้ยวเข้าข้างทางเพื่อตั้งใจจะปลุกคนข้างๆเพื่อสอบถามเส้นทางสักหน่อย

"ท็อป"

"อื้อ"
ท็อปส่งเสียงครางคล้ายหงุดหงิดที่มีคนมากวนใจในช่วงนิทราและเปลี่ยนท่าทางจากตะแคงหน้าไปฝั่งกระจก ก็ตะแคงมาทางฝั่งคนขับแทน


       สงสัยจะเป็นเด็กขี้เซา เรียกแล้วก็ไม่ยอมตื่น ฆีนโน้มตัวหวังจะแกล้งเด็กหนุ่มด้วยการตะโกนใกล้หู แต่ดูเหมือนจะแกล้งหัวใจตัวเองเสียมากกว่า เพราะเพียงเข้าใกล้ท็อปนั้น ฆีนกลับชะงัก

       ไม่รู้ว่าความรู้สึกตัวเองมันอัดอั้นขนาดนั้นเชียวหรือ? ถึงเผลอมือไวไปแตะแก้มของอีกฝ่ายจนสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบบนผิวหน้า...

       ฆีนนั่งมองหน้าเด็กปากดีนอนหลับตาพริ้มจนอดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาไล้มือพร้อมไล่สายตามองผมสีดำขลับที่ปรกหน้าลงมา คิ้วเข้มที่ไม่หนาจนเกินไปรับกับจมูกโด่งเป็นสันกำลังดี ไหนจะใบหน้าขาวเนียนตัดกับริมฝีปากสีแดงระเรื่อที่เผยอออกชวนให้มากกว่ามอง เพราะอยากลองลิ้มรสริมฝีปากนั้น


       ยิ่งจ้องมองริมฝีปากนั้น ก็ยิ่งเพิ่มความท้าทายว่าจะทำอย่างไร  ฆีนจะได้เห็นท็อปยิ้มอีกครั้ง


      สิ่งใดที่ได้มายากๆ ล้วนมีคุณค่าเห็นจะจริง...เรื่องแค่นี้เอง ทำไมฆีนจะทำไม่ได้ล่ะ

 
      ขณะที่ปล่อยสมองคิดเรื่องท็อปไปไกล เป็นจังหวะที่ท็อปขยุกขยิกตัว ฆีนรีบชักมือกลับก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าตอนแรก


"ท็อปตื่นก่อน พี่ว่าน่าจะใกล้ถึงบ้านท็อปแล้ว แต่ไม่รู้ต้องเลี้ยวหรือตรงไป”


       ท็อปขยี้ตาตัวเอง ก่อนจะกวาดตามองรอบๆ

"ตรงไป เจอแยกไฟแดงข้างหน้าค่อยเลี้ยวซ้าย...”

"ครับ"
ฆีนตอบรับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


     จะว่าไป ฆีนก็โรคจิตอยู่เหมือนกัน เพราะบางครั้ง เขาอยากสัมผัสตัวท็อปต่อหน้า อยากเห็นอากัปกิริยาว่าจะมีอาการอย่างไร จะต่อว่า ฮึดฮัดใส่ หรือเขินจนหน้าแดงลามไปถึงหูกันแน่?

     คิดเรื่องเหล่านี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้


"เป็นบ้าหรอวะ ยิ้มคนเดียว"

      แม้เสียงที่เอ่ยออกมานั้นไม่ได้น่าชวนพิศมัยสักเท่าไหร่ แต่ทำไมฆีนถึงกับยิ้มกว้างกว่าเดิม


      ฆีนละสายตาจากท้องถนนตรงหน้า หันไปถามคนข้างๆ

"แอบมองพี่หรือ? ถึงรู้ว่ายิ้มคนเดียว"


     ท็อปไม่ตอบ แต่กลับชูนิ้วกลางขึ้นใส่คนตรงหน้า ฟากฆีนส่ายหน้าน้อยๆ กับความร้ายของเด็กนี่ สงสัยต้องหาทางกำหลาบบ้างแล้วล่ะ ขืนเป็นอย่างนี่ ถ้าท็อปไปเจอคนอารมณ์ร้อนรุนแรง คงไม่มีชีวิตรอดให้เขาได้เห็นหน้าอีกแล้วแน่ๆ

      ไม่นานนัก ก็มาถึงหน้าหมู่บ้านของท็อป บริเวณหน้าป้อมยาม โดยเด็กหนุ่มยืนยันว่าจะลงตรงนี้และเดินเข้าไปเอง ฆีนเข้าใจว่าท็อปคงไม่อยากให้รู้จักบ้านจึงไม่อยากเซ้าซี้และปล่อยให้ท็อปลงรถไป

      ขณะที่ฆีนเคลื่อนรถจนพ้นตาไปแล้วนั้น ท็อปยังยืนอยู่กับที่และพูดด้วยน้ำเสียงแสนแผ่วเบาจนแทบจางหาย


"ขอบใจ"

 



……………………

 



      เก้าโมงเช้าที่ท็อปมาถึงเป็นคนแรก แน่นอนล่ะ ว่าเพราะอยู่ในช่วงการทดลองงาน ท็อปก็ต้องทำตัวดีสักหน่อย แม้ในแผนกจะรู้กฎระเบียบกันอยู่ข้อหนึ่งที่ยืดหยุ่นกันได้ว่าหากทำงานเกินเที่ยงคืนเป็นต้นไป วันรุ่งขึ้นสามารถมาทำงานสายได้ไม่เกินเที่ยงวัน แต่ท็อปยังเป็นเด็กใหม่จึงไม่อยากทำตัวแบบนั้น

       เมื่อเห็นว่าไม่มีใครมา ท็อปขอฟุบหลับหน่อยแล้วกัน

       ไม่รู้หรอกว่านานเท่าไหร่ แต่ขณะที่กำลังเคลิ้มหลับอย่างสบายใจก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อรู้สึกถึงความเย็นเฉียบบริเวณท้ายทอย

"อ้ะ!!"
ท็อปผงกหัวขึ้นมาจากโต๊ะทำงาน

"พี่ซื้อกาแฟมาฝาก"
ฆีนยื่นกาแฟให้ท็อป

"กูไม่กิน"


"ไม่ชอบกาแฟ หรือไม่อยากกินเพราะพี่ซื้อ"

"ทั้งสอง"

"ชัดเจนดี แต่อย่าคิดว่าพี่ยอมแพ้ล่ะ"


         ท็อปมองแผ่นหลังร่างสูงเดินกลับไปโต๊ะของตัวเอง เสียดายไหมก็เสียดาย เพราะกาแฟที่ถือมาก็แบรนด์ดังใช่ว่าราคาจะถูกๆ แถมง่วงแบบนี้ กินกาแฟก็น่าจะเป็นตัวช่วยได้ดีเลยล่ะ แต่ท็อปยังไม่ทันอ้าปากว่ากูเอาก็ได้ แก้วกาแฟนั้นก็ตกลงไปในถังขยะใบน้อยของไอ้พี่ฆีนแล้ว


"ใจเด็ดเหมือนกันนี่หว่า" ท็อปพึมพำเบาๆ แต่เขานึกว่าไอ้พี่ฆีนจะเสียความรู้สึก เจ็บปวดรวดร้าวไปแล้ว แต่เปล่าเลย ไอ้พี่ฆีนเดินมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วก้มลงมาจนหน้าห่างกันราวหนึ่งฟุต

"บอกหน่อยสิ ไม่กินกาแฟแล้วกินอะไร”

"ทำไมกูต้องบอก" ท็อปตอบแต่ไม่มองหน้าอีกฝ่าย สายตากลับจ้องมองคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งจะเปิดเข้าโปรแกรมตกแต่งภาพ

"ไม่บอกไม่เป็นไร พี่ชอบเกมทายใจซะด้วยสิ” จบประโยค พี่ฆีนแกล้งเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ท็อปมากกว่าเดิม จนปลายจมูกหัวหน้าเฉียดแก้มท็อปไปนิดเดียว


       เด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่แตะโดนแก้มเมื่อสักครู่รวมถึงความอุ่นของลมหายใจที่เป่ารดไม่ห่าง ยิ่งเพิ่มความโมโหพุ่งพล่าน จนท็อปหันขวับ แต่คงลืมตัวว่าใบหน้าทั้งสองยังชิดใกล้ ทำให้ริมฝีปากทั้งสองแตะกันจนสัมผัสได้อย่างตราตรึง

      แต่ในวินาทีนั้นเอง มีเสียงผลักประตูดังขึ้น ทำให้ฆีนยืดตัวตรงเดินเข้ามาและคิดว่าคงไม่น่ามีใครเห็นเหตุการณ์นั้นทัน ฆีนทำตัวปกติก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเองตามเดิม

       ท็อปหน้าเหวอไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติและสวัสดีพี่แพร ที่มาถึงออฟฟิศเป็นคนที่สาม


       ขณะที่ท็อปแสร้งตีหน้าเครียดเปิดไฟล์งาน เตรียมลงมือทำนั้น ก็เห็นมือหนาวางกระดาษโพสต์อิทสีเหลืองที่ถูกพับไว้และเลื่อนมันมาตรงคีย์บอร์ด

      ท็อปไม่ได้เงยหน้ามองคนข้างกาย เพราะหางตาเห็นหลังไวๆว่าเขาคงเดินกลับโต๊ะตัวเองไปแล้ว ท็อปค่อยๆคลี่กระดาษนั้นแล้วอ่าน


'เมื่อกี้มันเป็นอุบัติเหตุ พี่ไม่ได้ตั้งใจ แต่จะว่าไป ปากท็อปนุ่มดีนะ'

        ท็อปไม่รู้หรอกว่าที่ตัวเองออกอาการหน้าร้อนและใจเต้นแรงมันเพราะความโกรธหรือความเขิน แต่สิ่งที่ท็อปรู้อยู่อย่างเดียว ไอ้พี่ฆีน แม่งไม่ใช่คนนิ่งๆเงียบๆอย่างที่เห็นแน่ๆ...



****************************

เขาจะรักกันได้ไหม ก็ต้องคอยเอาใจช่วยกันล่ะนะ..

ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่าน และทุกคอมเมนท์นะคะ จะบอกไว้แค่ว่า

....ทุกการกระทำมันมีที่มาค่ะ....
^_________^
[/color]





 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2017 20:17:13 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.2} UPDATE [16-1-60]
«ตอบ #13 เมื่อ16-01-2017 20:58:45 »

ติดตามต่อไปว่าจะรักกันเมื่อไหร่

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.2} UPDATE [16-1-60]
«ตอบ #14 เมื่อ18-01-2017 19:44:18 »

ลุ้นต่อน่ะ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 3.1} UPDATE [26-1-60]
«ตอบ #15 เมื่อ26-01-2017 23:41:46 »

ตอนที่ 3 ตื้อ (1)




          อีกสัปดาห์เดียวก็จะผ่านพ้นการทำงานอันหนักหน่วงไปได้  เพราะหลายวันมานี้ ท็อปกลับบ้านดึกจนเกือบสว่าง บางวัน เป็นจังหวะที่พระเดินออกมาบิณฑบาตเลยด้วยซ้ำ

         ท็อปเพิ่งรู้ซึ้งแล้วว่าการทำงานอย่างเต็มรูปแบบนั้น มันหนักจริงๆ...


          วันนี้ มีพี่คนอื่นๆที่สะสางงานเสร็จได้กลับบ้านตามเวลาปกติ แต่ท็อปทำในส่วนของงานออกแบบซึ่งยังคงค้างอีกพอสมควรจึงกลับดึกเช่นเคย


         เมื่อใช้สมองเยอะ เครียดจัด อยู่ดีๆความอยากอาหารของท็อปก็มีเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทั้งๆที่เพิ่งลงไปกินข้าวเมื่อตอนหกโมงเย็น ตอนนี้ เวลาสองทุ่มครึ่ง ท็อปก็หิวอีกครั้ง

        ท็อปยกมือบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองพี่กั๊ก พี่ดล และพี่ฆีน ที่ยังนั่งทำงานอยู่เช่นเดียวกัน 

       เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท ท็อปจึงเดินไปถามพี่กั๊กและพี่ดลว่าต้องการฝากซื้ออะไรหรือเปล่า?  ซึ่งทั้งสองคนนั้นตอบ ปฏิเสธ ส่วนพี่ฆีน ท็อปเลือกถามเป็นคนสุดท้าย แม้ลึกๆแล้วไม่ค่อยอยากถามสักเท่าไหร่ แต่เพราะมีคนอื่นอยู่ในห้องด้วย เขาจึงจำใจถามอย่างเลี่ยงไม่ได้

        ท็อปไม่คิดหรอกว่าอีกฝ่ายดันให้คำตอบมาว่าจะลงไปด้วย ทำให้ท็อปกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ท็อปไม่อยากทำตัวมีพิรุธจึงพยักหน้าและก้าวเดินออกจากห้องนำไปก่อน


        เมื่อทั้งสองเข้าลิฟต์ได้แล้วนั้น

"เมื่อวานกลับบ้านดึกไหม?"

 

        ฆีนถามเพราะเมื่อวาน เขาไม่ได้เข้าบริษัทเลย เนื่องจากมีงานสัมมนาข้างนอก

“ตีสาม”

 
"วันนี้พี่รอ เดี๋ยวไปส่งที่บ้าน"

 
"ไม่ต้อง"

 
"พี่ก็เคยไปส่งเราแล้ว หรือท็อปกลัวพี่จะทำอะไรรึไง?"

 
"กลัวทำไม กูมีมือ มีตีน สู้มึงได้แล้วกัน"

 
"หึๆ พี่รู้ว่าเรามี แต่ทำไมคราวนั้น มือท็อปที่ว่ามันไม่ยักกะต่อสู้หรือทำร้ายพี่น่ะสิ แต่มันทำรักจนพี่เคลิ้มเลย"


       สำหรับฆีนแล้ว โรคนี้คงแก้ไม่หายแน่นอน โรคยั่วโมโหโดยเฉพาะคนที่ฆีนแอบชอบอยู่ตอนนี้  ถ้ายั่วให้อีกฝ่ายโกรธจนควันออกหูได้เมื่อไหร่ ฆีนมักสนุกและอารมณ์ดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ฟากท็อปหน้าดำ หน้าแดงด้วยความโกรธ เขากำลังง้างหมัดจะต่อย
 
"ไอ้...."


“ชู่ววววว์ ระวังเจอคุณไอริณอีกหรอก” ฆีนร้องห้ามก่อนจะใช้นิ้วชี้ไปแตะริมฝีปากอีกฝ่ายที่กำลังจะอ้าปากด่า ท็อปหุบปากฉับ เพราะกลับรู้สึกร้อนหน้าเมื่อสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วอุ่นนั้น


         ท็อปจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด งุ่นง่านที่พออยู่ในบริษัทก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ เลยรีบเดินดุ่มๆไปร้านอาหารที่อยากกิน โดยไม่ถามคนอายุมากกว่าเลยว่าอยากนั่งร้านไหน

         ท็อปทิ้งตัวลงนั่งร้านอาหารตามสั่ง ก้มหน้าดูเมนูอยู่สักพักก็ได้อาหารจานโปรด จึงเดินไปสั่งแล้วกลับมานั่งตรงที่เดิม ส่วนฆีนก็เดินไปสั่งของตนเองบ้างเช่นกัน

         ในระหว่างที่รออาหารมา ท็อปไม่พูดอะไร เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือ ฆีนจึงใช้โอกาสนี้ แอบมองหน้าอีกฝ่าย

         แค่ได้มอง ได้อยู่ใกล้ชิดกันในช่วงเวลาสั้นๆ ก็สุขใจ…

 

         ไม่นานอาหารก็มา ทั้งสองก็เริ่มจัดการอาหารตรงหน้าอย่างไม่รีรอ

"แล้วเป็นอย่างไรบ้าง ปรับตัวกับการทำงานได้หรือยัง?
" ฆีนถาม

“ก็ปรับตัวได้”


"ดีแล้ว ท็อปเรียนรู้ให้เยอะแล้วกัน เผื่อถ้าวันหนึ่งต้องลาออกจากที่นี่ไปจริงๆ จะได้ไม่ลำบาก" ฆีนพูดจบ ท็อปเงยหน้ามองอีกฝ่าย ก็เห็นวูบหนึ่งที่สายตาคนตรงข้ามฉายแววหม่นๆ


          ท็อปเคี้ยวข้าวเสร็จก็นิ่งไปนิด ก่อนถามพี่ฆีนอีกครั้งเพื่อความชัดเจน

“นึกไง มาชอบกู”



         ฆีนชะงัก เพราะคงคิดไม่คิดว่าท็อปจะถามถึงเรื่องนี้ ฆีนยกยิ้มก่อนเอ่ย

"เอาจริงๆนะพี่ก็ไม่รู้จะบอกอย่างไรเหมือนกัน มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายยาก พี่รู้แค่ว่าตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน..และตอนที่เรา...เอ่อ...ช่างมันเถอะ...นั่นแหละ มันทำให้พี่รู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดอยากเข้าหาท็อป สนใจจนนึกถึงท็อปตลอดเวลา พี่ว่า....เอ่อ...เล่าแค่นี้ดีกว่า”


       ท็อปไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม? ที่เห็นว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังเขิน? แล้วไม่ใช่ผู้ชายร่างเล็ก บอบบาง เหมือนผู้หญิงด้วยนะ แต่เป็นผู้ชายบุคลิกร่างสูงใหญ่ ที่หล่อเข้มมากกว่าจะดูว่าน่ารัก ทำให้ท็อปยิ่งดูแล้วขัดหู ขัดตาอย่างบอกไม่ถูก

      แต่ในความอคตินั้น ลึกๆแล้ว ท็อปเผลอคิดไปว่าอิจฉาความหล่อของพี่ฆีนเหมือนกัน จนถึงกับก้มมองดูสารรูปตัวเองที่หุ่นผอมกว่าอีกฝ่าย ส่วนหน้าตาก็ไม่ได้คมเข้มเหมือนพี่ฆีน ตรงกันข้าม ท็อปมีผิวขาวยิ่งทำให้ภาพรวมของเขาดูจืดชืดเกินไป ซึ่งเขาไม่ชอบตัวเองเท่าไหร่  แต่ส่วนใหญ่ เพื่อนผู้หญิง บอกเขานี่แหละ สเป็กผู้หญิงหลายคนเลย...

       เขาสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปก่อน และกลับมานั่งมองคนหน้าแดงที่ลามไปถึงหูแถมมือไม้ดูกลายเป็นส่วนเกิน พี่ฆีนเหมือนทำอะไรไม่ถูกเอาแต่เขี่ยข้าวและอมยิ้ม


     เด็กปากดี ได้แต่กระพริบตาปริบๆ ก่อนตอบ     

“จนถึงตอนนี้ กูก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร มึงควรหยุดก่อนจะเสียใจไปมากกว่านี้”


        ฆีนก็ยอมรับแหละว่าการกระทำของท็อปที่เห็นทุกอย่างในวันนี้มันชัดเจนทีเดียวว่าไม่สนใจกัน แต่ฆีนยังลังเลสงสัยจึงอยากขอเวลาเจาะลึกลงไปในใจของท็อปอีกสักหน่อย เผื่อมีเสี้ยวหนึ่งที่ท็อปอาจสนใจ แต่กำลังกดความรู้สึกตัวเองข้างในเอาไว้ก็เป็นได้  เพราะวันแรกที่เจอกัน ฆีนจำได้แม่นยำว่าครั้งนั้น ท็อปทำทุกอย่างให้เขาดีเสียจนแปลกใจว่าทำไมปัจจุบันท็อปเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

         ฆีนคิดว่าไม่เป็นไร...เพราะเขาถือคติ เป้าหมายมีไว้พุ่งชน เรื่องแค่นี้ ฆีนไม่ท้อง่ายๆหรอก

 
“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอโอกาสอีกสักเดือน ถ้าพี่เห็นว่าไม่มีวี่แวว พี่จะถอยเอง”



“ตื้อดีเนอะ"


“เคยได้ยินไหม? ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก”
ฆีนพูดอย่างยิ้มๆ ฟากท็อปมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะหลุบสายตาลงต่ำแล้วจัดการอาหารตรงหน้าจนไม่เหลือ


    ไม่นานทั้งสองก็เดินขึ้นห้องไปทำงาน และสุดท้าย ตอนกลับก็เป็นฆีนที่เป็นสารถีไปส่งท็อปที่บ้านอีกจนได้




.....................

 

     วันถัดมา...
 
     ท็อปยังคงทำงานหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น ซึ่งวันนี้พี่ฆีนไปงานแถลงข่าวเปิดโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์แห่งใหม่ตั้งแต่เช้า เขาจึงไม่ได้เข้าบริษัท

 
      ท็อปไม่ได้สนใจอะไรว่าพี่ฆีนจะมาหรือไม่มา เขาขอแค่เร่งทำงานให้ได้มากที่สุด เผื่อว่าวันนี้ จะได้กลับบ้านเร็วๆอย่างคนอื่นเขาบ้าง

 
      ราวๆสองทุ่มครึ่ง ท็อปลงมากินข้าวคนเดียว เพราะพี่ๆคนอื่นกินกันไปตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว


      ชายหนุ่มสั่งอาหารเสร็จสรรพ จนกระทั่งอาหารมา ขณะที่กำลังตักคำแรกเข้าปาก ก็มีเสียงโทรศัพท์แทรกขึ้น
 

"อยู่ไหนครับ"
 
“ใคร?”
ท็อปถามเพราะเห็นว่าเบอร์ที่ปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์ มันไม่คุ้นเคย
 
“พี่ฆีนเอง”

 
        ท็อปไม่ถามต่อหรอกว่ารู้เบอร์โทรศัพท์ได้อย่างไร การทำงานที่เดียวกันจะมีเบอร์ไว้ติดต่อหากันก็คงไม่แปลก

"ร้านข้าวข้างบริษัท"
 
"งั้นหรือ? พี่กำลังจอดรถน่ะ เดี๋ยวพี่ไปหานะ กินข้าวอยู่คนเดียวรึเปล่า?"


         การกินข้าวด้วยกัน เป็นโอกาสเดียวที่ฆีนจะได้ใช้เวลาอย่กับท็อปสองต่อสอง มีหรือ? ที่ฆีนจะปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปง่ายๆ
 
"มึงยังเข้าบริษัทอีกหรอ?"

 
"ครับ แวะเอาของมาทิ้งไว้สักหน่อยน่ะ"


         มันก็เป็นข้ออ้างของคนแก่ที่อยากเจอเด็กปากดีก็เท่านั้นเอง...


         ฟากท็อปตอบเออออกลับไป ฆีนวางสายและรีบเร่งฝีเท้าให้ไวเพื่ออยากเจอหน้าคนที่เขาไม่ได้เจอมาทั้งวัน

 
        ไม่นานเท่าไหร่นัก พี่ฆีนเดินมาหาพร้อมหิ้วถุงมากมาย
 
"ซื้ออะไรมาเยอะแยะวะ"  ท็อปถามจังหวะที่พี่ฆีนทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม
 
"ซื้อมาฝากพวกน้องๆน่ะ"

 
        มีน้ำใจเหมือนกันนี่หว่า... ท็อปคิดในใจ
 

"แต่พี่มีของฝากเราเป็นพิเศษด้วยนะ"


        ท็อปเลิกคิ้วขึ้นสูง ของพิเศษอย่างนั้นหรือ? พูดจบ พี่ฆีนยื่นถุงมาวางบนโต๊ะ ท็อปมองโลโก้ที่ประดับอยู่หน้าถุงเป็นแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังเสียด้วย
 
"พี่เห็นว่าเราเป็นคนชอบแต่งตัวน่าจะชอบ"
 
       ท็อปมองหน้าพี่ฆีนนิ่ง จนอีกฝ่ายต้องรีบโบกมือส่ายไปมาแล้วยิ้ม
 
"ไม่ต้องกลัว พี่ซื้อเสื้อยืดลวดลายก็ปกติทั่วไปนั่นแหละ แต่พี่คิดว่าท็อปน่าจะชอบนะ"


"แล้วมึงรู้ไซส์กูหรอ? กูชอบใส่เสื้อพอดีตัว ไซส์ใหญ่เกินไป กูไม่ใส่หรอกนะ"


"เอ่อะ ...เท่าที่เคยสัมผัสมา พี่น่าจะเดาถูก"


        ฆีนยกมือลูบต้นคอเหมือนเขินๆ ส่วนท็อปหน้าร้อนฉ่า คิดว่าจากนี้คงกินไม่ลงแล้วแน่ๆ เขาลุกขึ้นไปจ่ายเงินทันที
 
"ท็อป ไม่รอพี่หน่อยหรือ?"


"กูกินคนเดียวได้ มึงก็กินคนเดียวได้มั้ง"


        ในระหว่างที่ทั้งสองจ้องตากัน เหมือนจะพูดอะไรต่อ ก็มีเสียงหญิงสาวดังแทรกขึ้นมา

"คุณฆีนคะ"
 
         ฆีนละสายตาจากท็อปหันไปมองหน้าคนที่เพิ่งเดินมาใหม่

"สวัสดีครับคุณไอริณ"

 
"คุณฆีนกินข้าวอยู่หรอคะ ไอริณขอนั่งรอน้องตรงนี้ด้วยคนได้ไหมคะ พอดีน้องแวะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ไอริณขี้เกียจเดินไปด้วยน่ะค่ะ"

 
"ได้สิครับ"  ฆีนยิ้มละมุนใส่อีกฝ่าย จนท็อปเผลอเบ้ปาก

         
         ท็อปเห็นคุณไอริณมองมาจึงยกมือไหว้ แต่หล่อนพยักหน้าตอบรับแบบขอไปที…ทำให้ท็อปรู้สึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก ในเมื่อจะประกาศความเป็นศัตรูอย่างนี้ ท็อปก็เลยไม่ลุกไปไหนแล้ว เขาทิ้งตัวลงนั่งต่อซะเลย อยู่ให้อีกฝ่ายชิงชังเล่นดีกว่า...
 

"น้องคนนี้ ดูสนิทกับฆีนจังนะคะ เห็นมาด้วยกันบ่อยละ" ไอริณพูดพลางปรายตามองท็อปอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานให้ฆีน
 
"พอดีน้องเขามาใหม่ครับ อาจไม่ค่อยรู้อะไรมาก ก็เลยต้องคุมเป็นพิเศษน่ะครับ"

"อ่อค่ะ เป็นหัวหน้าที่รักลูกน้องดีจังเลยค่ะ ไอริณอิจฉาเลย"
ไอริณพูดยิ้มๆ

         ท็อปชะงักจากการดูดน้ำ เมื่อเหลือบเห็นสายตาที่พี่ฆีนมองมาช่างพราวระยับ วาววับเหลือเกิน ใบหน้าหล่อยังคงจ้องมองท็อป แล้วตอบไป
 
“ใช่ครับ ผมรักเขา...” ฆีนเห็นท็อปทำหน้าเหวอ อ้าปากค้าง จนฆีนตั้งสติได้ว่า เขาตอบอะไรออกไป
 
“เอ่อะ...ผมหมายถึงว่า...ถ้าเรารู้จักมอบความจริงใจและความรักให้ลูกน้องก่อน ลูกน้องก็จะตอบแทนด้วยการจงรักภักดีและรักเรากลับเช่นกันนะครับ...แผนกนี้ เราอยู่กันแบบพี่ น้อง ที่มีอะไรก็ปรึกษากันได้ คุยเล่นได้ทุกเรื่อง เวลาทำงานจะได้ไม่อึดอัดน่ะครับ"


"เป็นความคิดที่ดีค่ะ ไม่น่าล่ะ เพราะคุณฆีนเป็นคนอย่างนี้ ถึงมีแต่คนหลงรัก"

 
"ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ คุณไอริณไม่ต้องอวยผมมากก็ได้"

"ไอริณพูดจริงๆไม่ได้อวยนะคะ ก็ไอริณนี่แหละ ยังช...อ..."


         ไอริณยังพูดไม่จบประโยครุ่นน้องของเธอก็เดินมาเรียก ทำให้ไอริณเงียบเสียงไปครู่ ก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ

         พอผู้หญิงคนนั้นเดินลับตาไปท็อปได้แต่หัวเราะหึในลำคอ
 
"เราไม่ไปแล้วหรือ?" พี่ฆีนถามขณะที่เห็นว่าท็อปยังนั่งอยู่
 
"ก็มึงบอกให้รอ"
 

          เด็กปากดีว่าจบ ฆีนอมยิ้ม และชวนคุยเรื่องอื่นแทน

"แล้วไม่แกะดูของที่พี่ซื้อให้หน่อยหรือ?"
 
"กูกลับไปแกะที่บ้าน เออ... ลืมขอบใจ..."

 
"ไม่เป็นไรครับ ใส่มาให้พี่ดูด้วยนะ แต่ถ้าไม่อยากให้ใครเห็น จะใส่ให้เห็นกันสองคนพี่ก็ไม่ว่านะครับ"
 
"พูดมากว่ะ รีบๆกินซะ กูจะขึ้นไปทำงานต่อ"

       แม้คำพูดนั้น ดูเหมือนปัดรำคาญ แต่ฆีนไม่อยากเข้าข้างตัวเองเลยว่าท็อปเขินคำที่เขาพูด ก็ดูสิ หูแดง หน้าแดงลามไปทั่วเลย
 
       น่ารักดีแฮะ...
 
        ว่าจบ ฆีนรีบกิน รีบไป เพราะไม่อยากให้ท็อปรอนาน...

        แต่ในขณะที่ตักข้าวเข้าปาก ทุกคำนั้นเจือไปด้วยรอยยิ้ม เพราะฆีนกำลังนั่งคิดถึงเรื่องท็อป...


         แม้ความเกลียดชังของท็อปยังดูเสมอต้น เสมอปลาย แต่ฆีนเชื่อว่าอย่างน้อยที่เห็นได้ชัด คือ ความห่างเหินระหว่างทั้งคู่ที่เคยมีมันถูกย่นระยะจนเข้ามาใกล้กันเรื่อยๆ
 
        ฆีนรู้สึกเช่นนั้น....
 


****1.1****

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่3.1} UPDATE [26-1-60]
«ตอบ #16 เมื่อ30-01-2017 11:02:26 »

อีกไม่นานหรอก,,,

จีบติดแน่ๆ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่3.2} UPDATE [30-1-60]
«ตอบ #17 เมื่อ30-01-2017 22:40:08 »

ตอนที่ 3 ตื้อ (2)



       เมื่องานในส่วนของท็อปเสร็จสิ้น ชายหนุ่มก็ดูจะโล่งไปอีกเปราะ เพราะหลายวันที่ผ่านมา ท็อปทำงานหนักและหักโหมจนลืมดูแลตัวเอง รู้ตัวอีกทีก็มาถึงบริษัทโดยที่ร่างกายจวนจะยืนไม่ไหว

 
       ในขณะเดียวกัน ด้านนอกของห้องทำงานมีร่างสูงใหญ่ก้าวเท้าไวๆเพื่อนำโกโก้เย็นมาฝากเด็กปากดีเช่นทุกครั้ง


        ฆีนก็แค่อยากรู้ว่า ท็อปจะใจแข็งไปอีกนานแค่ไหนกันเชียว...

 
        ฆีนใช้ไหล่ดันประตูเข้ามา ซึ่งภายในห้องที่ฆีนกวาดสายตามองมีเพียงท็อปที่นอนฟุบลงกับโต๊ะ…

 
       ร่างสูงใหญ่เร่งฝีเท้าเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ และเอื้อมมือไปแตะแขนท็อปเพื่อปลุก แต่ทันใดนั้น ฆีนหุบยิ้มเมื่อรู้สึกถึงความร้อนผ่าวแผ่ซ่านมาจากร่างกายคนตรงหน้า


“ท็อปๆ”



       ฆีนไล่แตะตามลำคอและพวงแก้ม ท็อปตัวร้อนเหมือนมีไข้

 
       ฆีนดึงไหล่สองข้างอีกฝ่ายให้พิงพนัก เพื่อจะได้เห็นหน้าท็อปด้วย ในจังหวะนั้น ท็อปปรือตาขึ้นมามองก็ทำท่าจะปัดมือออก


“ท็อปไม่สบายหรือเปล่า? ไหวไหม?”


“วันนี้กูขอลาได้ไหม?  ปวดหัว ถ้าได้นอนคงดีขึ้น”
เสียงแหบแห้งพูดออกมาช้าๆ  ทางฝั่งฆีนพยักหน้า
 

“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”


“ไม่ต้อง”
ท็อปยังจะตะเบงเสียงและดันตัวลุกขึ้นมาแต่ก็เกือบล้มเพราะรู้สึกมึนหัวและวูบๆ

 
      อาการตอนนี้ มันปวดหัวรุนแรงเหมือนคนนำคีมเหล็กขนาดยักษ์มาบีบขมับจนลามมายังมายังรอบกระบอกตา แถมท็อปรู้สึกอยากจะอาเจียนร่วมด้วย


“ท็อปนั่งก่อนนะ”

 
       ฆีนกดไหล่ให้อีกฝ่ายนั่ง ก่อนจะจัดการปิดคอมพิวเตอร์แล้วคว้ากระเป๋าสะพายของท็อป พร้อมพยุงร่างบางให้ลุกขึ้น

        แม้ท็อปอยากจะขัดขืนแต่ยอมรับว่าเขาสู้ไม่ไหวในสภาพอ่อนแอแบบนี้ ท็อปจึงจำใจทำตามที่พี่ฆีนสั่งอย่างว่าง่าย


        และแล้ว ฆีนก็ลากท็อปมาถึงรถจนได้ และโทรบอกพี่ดลเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้ ทั้งฆีนและท็อปลาหยุด ซึ่งพี่ดลไม่ได้ว่าอะไร


       กว่าจะถึงห้องของฆีนได้ เล่นใช้เวลาพอสมควร เพราะเรื่องของเรื่อง ฆีนพาท็อปไปถึงโรงพยาบาล แต่ท็อปดึงดันไม่ยอมลง เพราะบอกไม่ชอบกลิ่นที่โรงพยาบาลจนฆีนยกมือกุมขมับ ฆีนใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน กว่าท็อปจะยอมไปพบคุณหมอได้ 


      ในตอนแรกที่ฆีนขับรถมุ่งตรงมายังห้องของเขานั้น ท็อปบ่นนิดหน่อย แต่เพราะฆีนบอกท็อปว่าไม่สบายเพราะเกิดจากการทำงาน เขาเป็นหัวหน้า ดังนั้น เขาต้องมีส่วนดูแลและรับผิดชอบ


        เวลานี้ ฆีนจัดแจงให้ท็อปนอนบนเตียงดีๆ พร้อมนำผ้าที่ชุบน้ำจนเปียกมาเช็ดตัวให้

 
        ตลอดเวลาที่ฆีนเช็ดตัวให้นั้น ท็อปเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างไม่กล้าสบตา


        ฆีนอมยิ้มที่ไม่รู้ว่าผิวที่ขึ้นสีระเรื่อนั้น มาจากการป่วยไข้หรือขัดเขิน  ฟากท็อปยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร บางทีการป่วยก็ทำให้เด็กหนุ่มดูสงบปาก สงบคำมากขึ้น

 
       ไม่นานมากนัก ฆีนเช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยาให้ท็อปเสร็จสรรพ

"พี่จะรอให้เราหลับก่อน แล้วค่อยออกไปข้างนอก"


       ท็อปพยักหน้าช้าๆเป็นคำตอบ
 

       ตอนนี้ ฆีนแค่นั่งมองท็อปโดยไม่ได้สัมผัสร่างกายอีกฝ่าย เพราะกลัวท็อปคิดว่าเขาจะใช้โอกาสนี้ลวนลามอีก

        จากที่กึ่งนั่งกึ่งนอน ท็อปก็ไถลตัวลงนอน แม้เปลือกตาจะปิดลง แต่สมองดันครุ่นคิดไปถึงการกระทำที่พี่ฆีนทำให้ในวันนี้ เขาไม่รู้ว่าใช้เวลาคิดไปเนิ่นนานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ภาพตัดเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งนิทราไปแล้ว

 
         กว่าห้าชั่วโมงที่เด็กหนุ่มหลับใหล จนบัดนี้เวลาปาไปทุ่มเศษ


        ท็อปที่พอพักผ่อนเต็มที่ อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ ไข้ลดลงแถมอาการปวดหัวก็มลายหายไป


         เด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องนอนเห็นพี่ฆีนนอนตะแคงอยู่บนโซฟา เขารีบสาวเท้ายาวๆไปหาพลางทิ้งตัวลงนั่งยองๆจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ ดูท่าแล้วพี่ฆีนก็คงจะเพลียอยู่เหมือนกันถึงหลับสนิทขนาดนี้ เด็กหนุ่มนั่งอย่างนั้นอยู่นาน ก่อนจะลุกขึ้นไปหาน้ำในตู้เย็นมาดื่ม

 
       แหละอะไรไม่รู้ดลใจให้ท็อปอยากก่อกวนคนหลับ เขาทิ้งตัวลงนั่งทับบนเท้าพี่ฆีนที่นอนเหยียดอยู่บนโซฟา

 
        ฆีนรู้สึกตัวทันทีจึงปรือตาขึ้นมามอง กระพริบตาปริบๆอยู่สองสามที ก่อนจะเห็นเด็กหนุ่มมานั่งบนโซฟาด้วยกัน เขารีบยันกายขึ้นนั่ง

 

“ท็อปดีขึ้นแล้วหรือ?”



“อืม”

 
       ท็อปตอบและดื่มน้ำไปอีกหลายอึก วินาทีนั้น เจ้าท้องดันทรยศเกิดส่งเสียงร้องดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบเมื่อสักครู่


        ฆีนหลุดหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยออกมา


“หิวหรือ? เดี๋ยวพี่ทำอะไรให้กินนะ เอาอะไรดี”


"มึงทำมาเถอะ แต่กูกินเสร็จกูกลับบ้านนะ”
ท็อปตอบแต่หันหน้าหนีไปทางอื่น เพราะรู้สึกขัดเขินที่ตัวเองเสียฟอร์ม

 
       ฆีนพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะลุกไปทำอาหารให้เด็กปากดีได้กินสักหน่อย

 
       ใช้เวลาไม่นาน อาหารที่ฆีนทำก็เสร็จเรียบร้อย เขาถือมาสองจานทั้งของตัวเองและของเด็กหนุ่มวางบนโต๊ะอาหารและเดินไปเรียกท็อปที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟา


       เมื่อท็อปทิ้งตัวลงนั่งมองอาหารตรงหน้า ใช้เวลาไม่นานเลย ท็อปรีบตักกินด้วยความหิว ไม่กี่คำที่ได้กินไปเขาสัมผัสได้ถึงความอร่อย แม้จะเป็นเมนูง่ายๆอย่างข้าวผัดกระเพราไก่กับเมนูไข่น้ำ แต่ท็อปไม่อยากบอกเลยว่าติดใจ


"อร่อยไหม?"

"ก็แดกได้"



       แม้ฆีนจะเห็นความเก๊กขรึมเต็มใบหน้าน่ามอง แต่เขาก็ยังรู้สึกดีได้ เพราะแววตาครู่หนึ่งมันเบิกตาโตเหมือนรู้สึกดีกับรสอาหารอันโอชะ


       ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังจัดการอาหารตรงหน้า ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น ฆีนชะงักและเดินออกไปดูที่หน้าประตูด้วยความสงสัยว่าใครกันมาเวลานี้

 
"ไฮ พี่ฆีน"



"ฆิต มาได้ไง"
ฆีนมองหน้าน้องชายด้วยความสงสัย เพราะปกติ ฆิตจะไม่ค่อยมาหาเขาสักเท่าไหร่หรือถ้ามาจริงๆ ฆิตจะโทรมาบอกก่อน


"ให้เพื่อนมาส่งน่ะ รู้สึกเบื่อๆเซ็งๆเลยขี้เกียจกลับห้อง ขอมานั่งเล่นสักหน่อย โห...ทำอะไรกินหอมว่ะพี่"

 

      ฆีนยังไม่ทันเอ่ยปากบอกว่ามีแขกคนสำคัญ ฆิตก็เดินนำหน้าไปยังโต้ะอาหารแล้ว

 
"อ้าว พี่มีแขกหรอกเหรอ?"

 
"อืม"


       ฆีนตอบและเดินไปตักข้าวให้น้องชายบ้างที่บ่นว่าหิว โชคดีที่ฆีนทำไว้เป็นจำนวนมาก เพราะตั้งใจอยากให้ท็อปได้กินอิ่มๆ


"สวัสดีครับ ชื่ออะไร"
ฆิตนั่งลงตรงหัวโต๊ะ ยกยิ้มมองผู้ชายหน้าหยิ่งๆ ฆิตฉลาดพอที่รู้ว่าคนที่จะมาห้องพี่ฆีนได้ก็ต้องคนสำคัญเท่านั้น

 
"ท็อปครับ" ท็อปตอบน้ำเสียงราบเรียบ นั่งมองคนมาใหม่ที่ดูนิสัยน่าจะเป็นมิตรและเข้ากับคนง่าย ที่สำคัญ ดูน่าจะเป็นคนกวนประสาทใช้ได้เลย

 
"ชื่อฆิต นายอายุเท่าไหร่น่ะ"

 
"ยี่สิบสาม"



      จังหวะนั้น ฆีนยกจานข้าวมาวางให้น้องชายพอดี

"อ้าว...อ่อนกว่าสามปีนี่หว่า พี่อายุยี่สิบหก เป็นน้องชายพี่ฆีนที่อายุสามสิบสาม"

 

"นายไม่ต้องบอกอายุฉันก็ได้นะ" ฆีนเผลอถอนหายใจพลางทิ้งตัวลงนั่ง

       ท็อปหน้าเหวอไปครู่หนึ่ง อันที่จริงเขาไม่เคยถามอายุพี่ฆีนเลย รู้แค่ว่าแก่กว่าแต่ไม่นึกว่าพี่ฆีนจะห่างกว่ากันถึงสิบปี เขาดูจากใบหน้า นึกคร่าวๆว่าพี่ฆีนจะอายุยี่สิปแปดย่างยี่สิบเก้าเสียอีก

 
       ท็อปเริ่มรู้สึกผิดในใจที่อีกฝ่ายแก่กว่าเขามากโขแต่ไม่เคยเรียกพี่ ก็ทำอย่างไรได้ ทั้งสองเริ่มความสัมพันธ์แบบไม่ดีมาก่อน เขาเลยไม่ชอบใจที่ต้องเรียกคู่กรณีว่าพี่


        เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรพี่ฆิตอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตากินข้าวของตัวเอง

 
        ฆิตจ้องหน้าท็อปอยู่นานแล้ว อมยิ้มคนเดียว จนท็อปเงยหน้ามามองและปะทะเข้ากับสายตาพี่ฆิตพอดี

 
"พี่มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ?" ท็อปถาม


        ฆิตยิ้มและรีบยกสองมือส่ายไปมา
 

"เฮ้ย! อย่าหาเรื่องกันสิ พี่แค่มองว่า..."
ฆิตยิ้มมุมปากแล้วเหลือบมองพี่ชายตัวเอง

 
"นายน่าจะโคตรดื้อเลยรึเปล่าวะ?"


        ท็อปชะงัก


"เอาน่า พี่เป็นคนปากหมาเสมอต้น เสมอปลาย อย่าถือสาพี่แล้วกัน"

"กินได้แล้วฆิต พูดมาก"
เป็นฆีนที่ตัดบทเสียก่อน


"โธ่ พี่ฆีน ผมรู้..."

"ถ้านายคิดอะไรอยู่ล่ะก็เงียบไปซะ"
ฆีนรีบพูดแทรกอย่างกลัวว่าฆิตจะพูดอะไรที่เข้าตัวเขาอีก

"อะไรวะ" ฆิตเกาหัวแกร็กๆ


       จากนั้น ฆิตชวนท็อปคุยอีกรอบ

"ท็อป ปกติชอบถ่ายรูปรึเปล่า?"


"ก็ชอบนะครับพี่ แต่ผมไม่เก่งหรอก"

 

"นี่...พี่เปิดสตูดิโอหุ้นกับเพื่อนๆ ว่างๆไปดูพวกพี่ถ่ายงานหรือไปนั่งเล่นได้นะ"

 
"จริงหรือครับพี่?"

 
"จริงสิ...และเวลาพวกพี่ถ่ายงานเสร็จ ได้จบที่วงเหล้าทุกที ถ้ามีเพื่อนใหม่ๆก็คงน่าสนุกดี เอาเพื่อนนายไปด้วยก็ได้"

 
"น่าสนใจดีนะพี่"


"ถ้าอย่างนั้น เราแลกเบอร์กัน"



"อะแฮ่ม!" ฆีนกระแอมไอ จนทั้งสองหันมามองพร้อมกัน


"อะไรติดคอหรือครับพี่ฆีน" ฆิตถามพี่ชายอย่างยียวน

"ก้างขวางคอน่ะ" ฆีนตอบเสียงแข็งแถมถลึงตาใส่ จนน้องชายเข้าใจได้ดี


"ฮ่าๆ ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง โอเคท็อปไว้เดี๋ยวพี่ขอเบอร์นายจากพี่ฆีนทีหลังก็ได้"


"ครับ"

 

      ภาพที่ปรากฎขึ้นตรงหน้า ทั้งน้องชายและท็อปที่คุยกันถูกคอ ยิ่งอยากให้ท็อปชอบเขาและตกลงคบกัน มันคงดีมีความสุขไม่น้อย ที่คนรักได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

      พอพูดถึงครอบครัว ก็ทำให้ฆีนนึกถึงความโชคดีของตัวเองที่พ่อและแม่ไม่ปิดกั้นความคิดและใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเสรี   


       ฆีนรู้ตัวตั้งแต่มัธยมต้นแล้วว่าตัวเองไม่ได้ชอบผู้หญิง  ฆีนไม่โทษฟ้าหรือโชคชะตาหรอก ที่ทำให้เขาเป็นเพศทางเลือก เขากลับมีความสุขมากๆเลยด้วย


        ในเวลาต่อมา ฆีนรวบรวมความกล้าบอกแม่ ก่อนบอกพ่อ เพราะคิดว่าผู้หญิงน่าจะเข้าใจความรู้สึกและใจอ่อนกว่า น่าแปลกที่ท่านทั้งสองกลับไม่ว่าอะไรเลย ปล่อยให้ฆีนกลัวหัวหดอยู่ได้ตั้งนาน แถมแม่ยังบอกว่า ฆิตชิงตัดหน้ามาบอกฆีนก่อนแล้วด้วยว่าตัวเองเป็นอะไร ทำให้ฆีนหลุดหัวเราะออกมา


       ฆีนไม่คิดว่าเรื่องนี้ เป็นปมด้อย เพราะที่ผ่านมาครอบครัวเขายังรักกันดี และรักกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม้พ่อและแม่จะฝากฝังให้มีลูกสืบเชื้อสายต่อไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เมื่อคนเราเกิดมาก็ต้องตาย จะเครียดมากไปทำไม

 
       ฆีนโชคดีที่ครอบครัวปล่อยให้เขาได้ทำตามหัวใจ แต่เขากลับอาภัพอับโชคด้านรักไปสักหน่อย เมื่อแฟนที่ฆีนคบมาแต่ละคน ไม่เคยมีใครจริงจังกับเขา ไม่หลอกเงิน ก็มองเป็นของเล่นแก้เหงาที่ฆีนก็ไม่เคยเข้าใจ ว่าทำไมทั้งๆที่เขาจริงใจกับอีกฝ่ายมาโดยตลอด แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือการลวงหลอกแทบทุกครั้ง


      คิดเป็นตุเป็นตะเรื่องครอบครัวและตัวเองไปเสียนาน ทำให้เขาดึงสติกลับมามอง เด็กหนุ่มทั้งสองคนที่ยังคุยกันไม่หยุด 


       ถ้าท็อปรู้ความจริงว่าฆิตก็เป็นเกย์ เขาจะรู้สึกเกลียดขี้หน้าน้องชายเหมือนที่เกลียดฆีนไหม?

 
       บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ตอนนี้ มีแต่เสียงของท็อปและฆิตหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน กลายเป็นฆีนที่ดูเหมือนส่วนเกินอย่างบอกไม่ถูก


"พี่ฆีน ผมกลับแล้วพี่ไว้ว่างๆจะมาใหม่"

"อืม"

       นี่คืออะไร...แค่มาหาข้าวกินรองท้องแล้วกลับเลยอย่างนั้นหรือ ไอ้น้องชาย? ฆีนคิดอยู่ในใจ
 

"ไว้ว่างๆจะโทรชวนกินเหล้า" ฆิตบอกท็อป


"ได้ครับพี่" ท็อปตอบแล้วยกมือไหว้สวัสดีพี่ชายคนใหม่

 
       ฟากฆีนเดินออกมาส่งน้องที่หน้าประตู จู่ๆฆิตก็ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วโน้มตัวมาพูดกระซิบ
 
"อย่ามองผมแบบนั้นสิ หึงเหรอ?"

 
"นายนี่มันกวนประสาทตลอดเลยนะฆิต"

 
      ฆิตที่มีความสูงไล่เลี่ยกับพี่ชาย แต่หน้าตาดูร้ายกว่าถึงกับหัวเราะร่าและตบบ่าพี่ชายสองสามที

"นี่ผมช่วยพี่อยู่นะ ดูก็รู้ว่ายังจีบท็อปไม่ติดใช่ไหมล่ะ?"

"พูดมาก รีบออกไปได้แล้ว"
ฆีนตอบบ่ายเบี่ยง

 
"ถ้ายังจีบไม่ติดแบบนี้ น้องขโมยไปจีบเองอย่าว่าแล้วกัน"


"ฆิต!!"


"ฮ่าๆ ใจเย็นๆพี่ ผมล้อเล่นน่า พี่ก็รู้ผมชอบแบบนี้ที่ไหนกัน ของผมต้องตัวเล็กๆปากแดงๆนู่น ไปละๆ มีอะไรให้ผมช่วยก็บอก"


        ฆีนถอนหายใจพลางส่ายหน้าระอากับการกระทำน้องชาย


        แม้ฆิตจะเข้ามาวุ่นวาย กวนประสาท แต่ฆีนต้องขอบใจน้องชายจริงๆ เพราะตั้งแต่ฆิตมาก็ดูสีหน้าของท็อปเต็มไปด้วยรอยยิ้มและไม่ตึงเครียดเหมือนทุกที...


 

**********************



มีตัวละครโผล่มาใหม่แล้วค่ะ เขามีคู่ด้วยนะ ^^
[/color]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2017 22:51:27 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4} UPDATE [4-2-60]
«ตอบ #18 เมื่อ04-02-2017 19:41:42 »

 


ตอนที่ 4 ไม่แน่ใจ





      หลายวันถัดมาหลังจากที่ท็อปป่วยคราวนั้นเขาก็ไม่ค่อยเจอหน้าพี่ฆีน เพราะเป็นจังหวะที่พี่ฆีนออกไปงานข้างนอกกับพี่ดลตลอด และวันนี้ ท็อปมาทำงานตามปกติ แต่สิ่งที่แปลกไป คือ จังหวะที่เดินเข้ามาเห็นพี่ดลคุยกับพี่ฆีนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท็อปสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันอึมครึม ในขณะที่พี่ทั้งสองหันมาเห็นท็อป จึงถูกเรียกพบด้วยเช่นกัน

 
"สวัสดีครับ พี่ดล" ท็อปทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามและยกมือไหว้สวัสดี


      ดลพยักหน้าและเอ่ยถาม

 
"ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง"

 
"ก็ดีครับ"

 
"อยู่พร้อมกันก็ดี พี่ได้ข่าวมาว่าท็อปผลักอกฆีน จริงหรือเปล่า?"

 
     และแล้ว เหตุการณ์ที่เคยผ่านไปนานก็ถูกพูดถึงอีกครั้ง สาเหตุที่พี่ดลรู้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้หญิงคนที่ฆีนและท็อปก็รู้กันอยู่แก่ใจ

 
"ผมขอเป็นคนอธิบายครับ"  ท็อปยังไม่ทันอ้าปากตอบ ฆีนก็โพล่งขึ้นมาจนดลโคลงศรีษะมองอย่างไม่เข้าใจ

 
"ผมไม่ได้ใส่ใจแล้ว เพราะเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อีกอย่างผมกับท็อปเคลียร์กันเรียบร้อยแล้วครับ" ฆีนตอบ

 
"พี่รู้นะฆีนว่าเรากำลังปกป้องเด็กใหม่อยู่ พี่ไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องมันร้ายแรงขนาดต้องใช้กำลังแบบนั้นเลยหรือเปล่า? แต่นี้คือที่ทำงาน ให้มองอย่างไรก็ดูไม่ดี พี่เป็นห่วงเรานะฆีน พี่ไม่อยากให้ภาพลักษณ์เราเสีย เข้าใจใช่ไหม?"

 
"ครับ" ฆีนก้มหน้าตอบ

"แล้วเราล่ะท็อป คิดว่ามีคำอธิบายเรื่องนี้ยังไง"


      ขณะที่ท็อปมองหน้าพี่ฆีนอยู่ พอโดนโยนคำถามเข้าใส่ เขาละสายตาจากคนข้างกายหันไปมองหน้าพี่ดลแทน
 
"ผมขอโทษครับ ผมผิดเองที่ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์  พี่ดลจะให้ผมทำอะไรชดใช้ความผิดนั้นก็บอกมานะครับ"

 
"พี่ไม่รู้ว่าท็อปไม่ชอบขี้หน้าหรือไม่พอใจฆีนรื่องไหน แต่พอทำงานเราต้องข่มอารมณ์เก็บไว้ เพราะถ้าอย่างเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ พี่ไม่รู้ว่าเราจะผ่านการทดลองงานหรือเปล่านะ”

 
“ผมทราบครับ” ท็อปตอบ


      จากนั้นพี่ดลก็บอกว่าพรุ่งนี้มีงานแถลงข่าวจัดโครงการประกวดออกแบบห้องนั่งเล่นของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชื่อดัง ให้ท็อปไปกับพี่ฆีนเพื่อจะได้พูดคุยกันให้มากขึ้น การออกไปข้างนอกอาจทำให้ไม่เครียดเท่าที่อยู่ในห้องทำงานสี่เหลี่ยมเล็กๆ

       ท็อปตอบตกลง ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง





 



................

 

        วันถัดมาที่ทั้งสองมาร่วมงานแถลงข่าวการประกวดออกแบบห้องนั่งเล่น ที่เปิดรับสมัครเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น โดยภายในงานก็พูดถึงรายละเอียดและวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ ตลอดจนเรื่องของค่าตอบแทนที่เป็นเงินรางวัลมูลค่ารวมถึงหนึ่งล้านบาท
 
       ใช้เวลาไม่นาน งานแถลงข่าวก็เสร็จสิ้น ซึ่งฆีนเห็นว่ามันเป็นช่วงบ่ายโมงพอดี เขาจึงชวนท็อปไปกินข้าว

 
        เมื่อทั้งสองถึงร้านอาหาร ต่างฝ่าย ต่างก็จัดแจงสั่งอาหารกันไป ในระหว่างที่รออาหาร
 
"ฆีน”
 

        ฆีนละสายตาจากโทรศัพท์มือถือ เงยหน้ามองท็อปที่เรียกสรรพนามเขาต่างจากแต่ก่อน

"ขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อวาน" ท็อปเอ่ย เพราะเมื่อวานไม่มีโอกาสได้พูด เนื่องจากต่างฝ่ายต่างทำงาน

"ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ อย่าเอามาเครียดข้ามวันเลย" ฆีนตอบอย่างยิ้มๆ เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? ที่ท็อปขอโทษเขาก่อนและสายตานั้นเจือไปด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ

      ท็อปพยักหน้าแกนๆกลับไป ตั้งแต่มีพี่ฆีนเข้ามาวุ่นวายในชีวิต ท็อปมีความรู้สึกสับสนปนเปจนหาคำมาอธิบายไม่ถูก ความเกลียดก็ยังมีอยู่แต่น้อยลงกว่าเมื่อก่อน

“ฆีนชอบกูจริงเหรอ?"
 
"เฮ้อ!...จะให้พี่พูดอีกกี่รอบ คิดว่าพี่เจ้าชู้ ชอบใครไปทั่วหรือไง"
ฆีนเป็นคนจริงจังกับความรัก เขาจึงไม่ค่อยชอบเวลาโดนใครเซ้าซี้ มันเหมือนโดนดูถูกหรือไม่มั่นใจในความรู้สึกที่มอบให้

      ท็อปมองพี่ฆีนที่สบตามองอย่างเคร่งขรึม ทำให้เขาเลือกจะไม่พูดอะไรอีก ก่อนจะก้มหน้า ก้มตากินข้าวต่อไป จนกระทั่งจัดการอาหารเสร็จ พี่ฆีนอาสาเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารมื้อนี้ 

       ในขณะที่ทั้งสองออกจากร้านได้ไม่ไกล ฆีนแย้งขึ้น
 
“ท็อปดูหนังกันไหม?”


      ท็อปมองมือพี่ฆีนที่จับแขนเขาอยู่ ก่อนจะชำเลืองมองหน้าอีกฝ่าย จนฆีนปล่อยมือออก

“อืม...ดูก็ดู”

      ฆีนยิ้มกว้าง เพราะไม่คิดว่าท็อปจะตอบรับอย่างว่าง่าย
 

      ทั้งสองเลือกหนังแนวฆาตรกรโรคจิตที่เข้าฉายช่วงนี้ ก่อนจะเดินไปซื้อตั๋วภาพยนตร์แล้วมานั่งรอบริเวณด้านหน้าเพราะหนังที่เลือกมีรอบใกล้เวลาที่ทั้งสองไปซื้อพอดี

      ท็อปนั่งมองคนข้างๆที่เล่นโทรศัพท์ไม่สนใจกัน แม้ท็อปจะเงียบใส่ แต่ฆีนกลับดีใจที่ได้อยู่ใกล้ๆและท็อปดูอ่อนลงและไม่ค่อยเถียงเหมือนทุกที

      จากภายนอกของคนที่มองมา คงดูเหมือนพี่น้องมาเที่ยวกันตามประสาทั่วไป...แต่ใครจะรู้ว่าลึกๆแล้วฆีนตั้งใจแสดงความเป็นเจ้าของมากแค่ไหน? เขาพยายามเข้าใกล้และมองท็อปตลอดเวลา...ทุกการกระทำที่ท็อปจะทำอะไร เดิน ยิ้ม พูดคุยอยู่ในสายตาเขาหมด

 
      เมื่อได้เวลาของการชมภาพยนตร์ ทั้งสองก็เข้ามานั่งด้านในตามเลขที่นั่งระบุไว้

      จนกระทั่ง หนังดำเนินเรื่องไปได้สักพัก ฆีนลอบมองคนข้างๆที่ดูจะตั้งอก ตั้งใจกับการดูหนังเป็นพิเศษจนผุดรอยยิ้มขึ้นมา


      ท็อปที่รู้สึกตัวมาได้สักพักว่าคนข้างกายแอบมองอยู่ จึงหันไปถาม
 
"มองอะไรนักหนา ไม่ดูหนังแล้ว?"


"พี่มีความสุข"
 
"???"
 
"ที่ได้อยู่กับท็อป”
 
!!!!!
 
     จากนั้นท็อปก็ไม่พูดอะไร ได้แต่ยกแขนขึ้นวางพนักจนไปโดนแขนอีกฝ่ายโดยไม่ตั้งใจ

     ฆีนใช้หลังมือแตะไปที่แขนท็อปก็เห็นว่าเย็นเฉียบ
 
"หนาวเหรอ?"
 
"เปล่า"

 
      ฆีนเอียงคอมอง ก่อนจะถือวิสาสะเข้าไปกุมมืออีกฝ่ายเพื่อเช็ค จนท็อปกระตุกมือด้วยความตกใจ

"มือเย็นขนาดนี้แล้วยังบอกไม่หนาวหรือ?"

      ท็อปเงียบไม่ตอบ แต่อยู่ดีๆหัวใจกลับเต้นไม่เป็นส่ำ

      ฆีนเห็นท็อปนิ่งเกร็ง เขาจึงชักมือออก ส่วนท็อปดึงมือตัวเองกลับไปกอดอกแทน

      เผลอมือไวไปเสียได้ โชคดีแค่ไหน...ที่ครั้งนี้ท็อปไม่ด่าหรือวีนเหวี่ยงใส่ แต่อย่างน้อยๆก็ได้รู้ว่าท็อปมือนิ่มกว่าที่คิดไว้

      ฆีนละสายตาจากคนข้างกาย แล้วไปชมภาพยนตร์ที่กำลังดำเนินเรื่องราวไปอย่างเข้มข้น
 
      สองชั่วโมงผ่านไป ทั้งสองก็เดินออกมาจากโรงภาพยนตร์
 
 
"อยากไปไหนต่อไหม?"


"ไม่"

"ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพี่ไปส่ง"

 
"ฆีนอย่าทำเหมือนกูเป็นเด็ก"
 
"อย่าเถียงสิ ยังไงเราก็เด็กในสายตาพี่อยู่ดี จริงไหม?"


    ตอนที่ฆีนว่ามาอย่างนั้น เขาเคลื่อนหน้าไปใกล้ จนท็อปชะงัก

    ในจังหวะนั้นเอง...
 
“อ้าว...ไอ้ท็อป”

     กราฟเดินเข้ามาหาเพื่อน แต่เพิ่งสังเกตเห็นคนข้างๆและจำได้คลับคลาย คลับคลาว่านี่คือใคร
 
“อ้าวพี่ฆีน สวัสดีครับ”


      พี่ฆีนส่งยิ้มพลางพยักหน้า ฟากท็อปหน้าซีดไปนิดเพราะไม่คิดว่าจะเจอเพื่อน เขากระเถิบตัวออกห่างจากพี่ฆีนทันที
 
“มาดูหนังกันหรอ?”
 
“อะ เออ มึงมาทำอะไร”
 
"กูเพิ่งเดินเอาของมาให้เพื่อนน่ะ กูว่าจะโทรชวนมึงกินเหล้าพอดี"
กราฟตอบ
 
“ดีเลย กูอยากอยู่เหมือนกัน กูกลับกับกราฟนะ” ท็อปบอกฆีนเพียงแค่นั้น ก็กอดคอเพื่อนเดินจากไปทันที
 
       
 
****1.1****

 :katai2-1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2017 19:44:53 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4} UPDATE [4-2-60]
«ตอบ #19 เมื่อ04-02-2017 21:33:05 »

คนหนึ่งตื้อ อีกคนเอาแต่หนี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4} UPDATE [4-2-60]
« ตอบ #19 เมื่อ: 04-02-2017 21:33:05 »





ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4} UPDATE [4-2-60]
«ตอบ #20 เมื่อ04-02-2017 22:28:11 »

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4} UPDATE [4-2-60]
«ตอบ #21 เมื่อ05-02-2017 23:23:10 »

ได้ไง ชิ่งหนีเลยนะท๊อป,,,

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4.2} UPDATE [8-2-60]
«ตอบ #22 เมื่อ08-02-2017 20:56:05 »

ตอนที่ 4 ไม่แน่ใจ (2)

 

       ไม่นานนัก ท็อปและกราฟถึงร้าน โดยมีพลนั่งอยู่ก่อนและสั่งเครื่องดื่มทุกอย่างมาไว้อย่างเพียบพร้อม


       เมื่อทั้งสามนั่งดื่มได้ประมาณสิบห้านาที กราฟที่นิ่งเงียบมานานจากการลอบสังเกตอาการของเพื่อน ก็พูดโพล่งขึ้น

"ไหนบอกไม่ชอบขี้หน้ากัน ทำไมไปดูหนังด้วยกันได้"


“ใครวะ” พลที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวก่อนหน้านี้ จึงถามบ้าง

“ไอ้ท็อปไปดูหนังกับพี่ฆีน”

 
     ท็อปก็พอคิดอยู่แล้วว่าเพื่อนต้องวกถามเรื่องนี้ ในเมื่อท็อปหนีความจริงต่อไปอย่างนี้ไม่ได้ ถึงเวลาที่เขาควรเลิกปิดบังและหันหน้ายอมรับกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นสักที

“เขาชอบกู”

 
“ห้ะ! ว่าอะไรนะ”


      กราฟและพลเบิกตากว้างอย่างตกใจ

“ตามที่กูบอก” ท็อปว่าเสียงเรียบ

“พี่ฆีนเป็นเกย์” พลถามเสียงดัง ฟากท็อปพยักหน้า

“เสียดายความหล่อของพี่แกฉิบหายเลย ถ้าเป็นกูนะคงได้ผู้หญิงมานอนไม่เว้นวัน” พลบอก

“แล้วมึงชอบพี่ฆีนหรือเปล่าวะ?” กราฟไม่สนเรื่องที่พี่ฆีนเป็นเกย์ เพราะเขามีสิ่งที่อยากรู้มากกว่านั้น นั่นคือ ความรู้สึกของเพื่อน เนื่องจากกราฟเอะใจตั้งแต่ช่วงแรกๆที่ท็อปเอาแต่นั่งว่าพี่ฆีนแล้ว กราฟจึงพุ่งประเด็นถามอย่างรอคำตอบ

“ไม่ มึงลืมไปหรือเปล่า? ว่ากูเป็นผู้ชายและกูชอบผู้หญิง”


"ไม่เกี่ยวว่ะ กูว่าสมัยนี้ โลกเราเปิดกว้างจะตาย คนเรารักกันมันเกิดจากความรู้สึกที่อยากทำดีเพื่อกันและกัน อยากใช้ชีวิตร่วมกัน มันไม่เกี่ยวกับเพศหรอกเพื่อน" พลพูดตามที่เห็นในยุคสมัยนี้

“ถ้าไม่ชอบพี่ฆีน มึงไปดูหนังกับเขาทำไม?” กราฟเค้นถาม เพราะสถานการณ์มันดูย้อนแย้งในตัว ไม่ชอบแต่ก็ไป? มันต้องมีอะไรซับซ้อนกว่านั้นแน่ๆ แล้วคนอย่างกราฟเรียกง่ายๆว่าชอบสอดรู้ สอดเห็นเรื่องเพื่อนเสียด้วยสิ

“มีคนเลี้ยง ทำไมกูต้องปฏิเสธ”

 
“เดี๋ยวนะ กูขอทำความเข้าใจในตัวมึงสักหน่อย ก่อนหน้า มึงบอกไม่ชอบพี่เขาด้วยเหตุผลมากมายที่มึงเคยพูดมา แต่ตอนนี้ มึงเสือกไปดูหนังกับพี่เขา สรุปมึงยังไม่ชอบขี้หน้าพี่เขาอยู่หรือเปล่าวะ?”

 
"ก็ไม่ชอบ”

 
“ห่าไรของมึงวะ  แล้วไม่ชอบเพราะอะไร?” กราฟถามเพื่อน เหมือนต้องการต้อนให้จนมุม

 
    ท็อปชะงักกึก พอเจอคำถามเพื่อนเข้าไปก็หาสาเหตุไม่ได้จริงๆ จะว่าเป็นเรื่องที่ท็อปและพี่ฆีนเคยสัมผัสกันก็ไม่น่าใช่ ในเมื่อท็อปก็ได้คำตอบจากอีกฝ่ายแล้วว่าไม่ได้ทำอะไร ท็อปกลั้นหายใจอยู่ชั่วครู่ก่อนพ่นลมหายใจออกมา พร้อมกับกระดกสุราจนหมดแก้ว

“กูไม่รู้”


"อ้าว...แล้วที่มึงหงุดหงิด ตีโพยตีพาย ด่าเขาก่อนหน้านั้น เพราะมึงไม่ชอบขี้หน้าทั้งๆที่ไม่รู้เหตุผลเนี่ยนะ" เป็นพลที่ถามและเกาหัวแกรกๆ เริ่นงุนงงในตรรกะทางความคิดของเพื่อนเหลือเกิน

“มึงสับสนอะไรในชีวิตหรือเปล่าวะไอ้ท็อป? กูว่าตั้งแต่พี่แทนตายไป มึงดูเขวๆไปนะ เหมือนคนไม่มีหลักยึดเหนี่ยว แถมทำอะไรก็กลายเป็นเด็กเอาแต่ใจยังไงไม่รู้"


      เพียงกราฟพูดชื่อพี่แทนขึ้นมา ความเจ็บจี๊ดๆและปวดหน่วงหนึบก็จู่โจมหัวใจอย่างน่าประหลาด จนท็อปต้องยกมือบีบอกข้างซ้าย ก่อนจะคลายมือออกและคว้าแก้วขึ้นดื่มอีกครั้ง

“กูมาแดกเหล้า ไม่ได้มานั่งเป็นนักโทษให้พวกมึงสอบสวน แล้วคำพูดของมึงนะไอ้กราฟ ดูจะเข้าข้างไอ้ฆีนเหลือเกินนะ”

 
       ท็อปรำคาญที่เพื่อนนั่งคาดคั้นหาคำตอบ จึงพูดตอบกลับอย่างไม่พอใจ

"เออ...ไอ้เหี้ยกูไม่ถามก็ได้วะ  กูเห็นว่ามึงเหมือนคนกำลังไม่แน่ใจอะไรในตัวเอง กูเลยเป็นห่วงความรู้สึกมึง  แต่มึงจำเอาไว้นะไอ้ท็อป ถ้ามึงไม่ชอบเขาก็ปฏิเสธไปดีๆ ไม่ใช่เอาแต่ด่าไล่ ทำเหมือนเขาเป็นขี้ คนเราถ้าโดนอีกฝ่ายแสดงท่าทีรังเกียจหรือไม่ชอบใจบ่อยๆ โดยเฉพาะเป็นคนที่ชอบด้วยแล้ว แม่งเจ็บ เชื่อกูเถอะ..."

 

!!!

       ท็อปนั่งนิ่ง เขาเบี่ยงหน้าหนีตลอดเวลาที่เพื่อนระบายอารมณ์มา

       พลเริ่มหน้าเสียที่ดูเหมือนประเด็นของบุคคลที่สาม กำลังทำให้เพื่อนทั้งสองคนบึ้งตึงใส่กัน พลจึงชวนคุยเรื่องไร้สาระ ช่วยสานความสัมพันธ์ไม่ให้เกิดความบาดหมางขึ้น

       แต่คุยได้ไม่นาน เครื่องมือสื่อสารของท็อปก็แผดเสียงร้องขึ้น...

      ท็อปหยิบขึ้นมามองหน้าจอโทรศัพท์ตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนรับสาย

"สวัสดีครับ"

[ท็อปอยู่ไหน?]
"นั่นใครครับ?"

[พี่ฆิตเอง ขอเบอร์มาจากพี่ฆีนน่ะ]
"อ้อ ว่าไงครับ"

[อยู่ไหน?]
"อยู่ร้านเหล้าครับพี่"

[ไปหาได้ไหมวะ]
"สักครู่นะครับ"

 
    ท็อปดึงโทรศัพท์ออกห่าง และถามเพื่อน

"มีพี่ที่กูรู้จักเขาจะมาหาได้รึเปล่า?"

 
"เรื่องของมึงสิ" พลเป็นฝ่ายตอบ ท็อปจึงบอกพิกัดร้านแก่ปลายสายทันที


     เวลานี้ ทั้งสามเริ่มมึน แต่คนที่เมามากกว่าใครเห็นจะเป็นท็อป เพราะตั้งแต่ เพื่อนพูดจาไม่เข้าหูเรื่องพี่ฆีน ท็อปก็ประชดด้วยการยกดื่ม ยกดื่มอยู่อย่างนั้น

     ไม่นานเท่าไหร่นัก พี่ฆิตก็มาถึงพอดี ท็อปจึงแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จัก

      ฆิตทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและเป็นฝ่ายชวนคุยก่อนอย่างเป็นกันเอง

     ต้องยอมรับว่าฆิตเป็นคนที่เข้ากับผู้อื่นได้ง่ายเหลือเกิน เผลอแป๊ปเดียว  พลและกราฟก็คุยกับพี่ฆิตอย่างออกรสและสนิทสนมราวกับรู้จักกันมาแต่ชาติปางก่อน

"เฮ้ย พวกมึงกวนตีนดีว่ะ ว่างๆไปนั่งเล่นที่สตูฯกัน ที่นั่นเหล้าเพียบ" ฆิตเอ่ย

"ได้พี่ ฟรีใช่รึเปล่า?" กราฟแซว เพราะรู้สึกว่าพี่ฆิตดูเป็นคนที่หยอกเล่นด้วยได้

"ท็อปเพื่อนมึงขี้งกเนอะ" ฆิตแกล้งหันไปหาท็อป เหมือนหาพวกเข้าข้าง ฟากท็อปหัวเราะ

"โห! พี่ฆิต เปิดสตูถ่ายภาพก็รวยหรือเปล่าวะ พวกผมยังเป็นมนุษย์เงินเดือนต๊อกต๋อยอยู่เลย"
กราฟว่า ทำหน้าหงอย จนฆิตต้องดีดหน้าผากอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้ โดยที่กราฟก็ไม่นึกโกรธอะไร ได้แต่ยกมือลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ

"มึงไม่ต้องให้กูเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นเลย เออๆ กูเลี้ยงก็ได้"

 
"ขอบคุณนะครับพี่ที่เลี้ยงมื้อนี้ด้วย"

"เนียนดีเนอะ ไอ้กราฟ ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูขอเงินป๋าฆีนเอง"

 
     เพียงแค่ชื่อนี้หลุดออกมาจากปากของฆิต ท็อปชะงักเพราะไม่ได้บอกเพื่อนว่าพี่ฆิตเป็นน้องชายของพี่ฆีน ส่วนพลและกราฟมองหน้าพี่ฆิตอย่างเหวอๆ ก่อนที่กราฟจะหันไปถามท็อป

“พี่ฆีน คนเดียวกับที่มึงรู้จักหรือเปล่าวะท็อป?”

 
“อืม” ท็อปทำหน้าหน่ายๆ

“อ้าว พี่ขอโทษที นึกว่าท็อปบอกกับเพื่อนก่อนแล้วว่าพี่เป็น....”
เรื่องนี้ ฆิตไม่รู้จริงๆ เขาถึงเผลอพูดชื่อพี่ชาย

“ไม่เป็นไรพี่ ไม่ใช่เรื่องใหญ่” ท็อปเห็นพี่ฆิตหน้าเสีย จึงไม่อยากให้พาเสียบรรยากาศ

    เมื่อฆิตเห็นว่าท็อปไม่ได้ขุ่นเคืองอะไรแล้วจึงเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการถามเรื่องอื่น

"เออ แล้วปกติกินเหล้ากันบ่อยๆแบบนี้ แฟนไม่ว่าบ้างหรือวะ?"

 
"พวกผมยังไม่มีแฟนกันเลย ชอบใช้ชีวิตโสดน่ะ" พลบอก

"งั้นเหรอ? แต่พี่ว่ามีแฟนก็ดีนะ จะได้มีความทรงจำร่วมกัน มีคนคอยห่วง คอยใส่ใจ"

 
"แหนะ พูดแบบนี้พี่มีแล้วดิ" กราฟถามอย่างรอคำตอบ

"ยังว่ะ แต่อยากมี"

 
"โธ่! ที่แท้ก็เป็นผู้ชายขี้เหงานี่เอง" กราฟแซวอีก จนพี่ฆิตชะงักกึกอย่างเห็นได้ชัด

"เฮ้ยๆ เปลี่ยนเรื่องเถอะว่ะ คุยเรื่องรักแล้วเศร้า แดกเหล้าดีกว่า" ฆิตเปลี่ยนเรื่อง และทำท่ายกแก้วขึ้นเพื่อชนทุกคนจึงทำตาม

     ใช้เวลานั่งดื่มพร้อมแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตจนเต็มเปี่ยม ทุกคนก็ลงความเห็นว่ากลับบ้านกันดีกว่า


      แต่ในระหว่างที่กำลังแยกย้ายกัน คนที่ดูเหมือนยังติดใจในอรรถรสของการสนทนาและรสสุรา เห็นจะเป็นฆิต เพราะเขาเดินเข้ามากอดคอท็อป และยื่นหน้าไปมองพวกพลและกราฟที่เดินอยู่ข้างๆเด็กหนุ่ม


"เฮ้ย!..คุยกับพวกมึงแล้วสนุกดีว่ะ ไปห้องกูต่อไหม? เดี๋ยวเป็นเจ้าภาพเอง"

"ไปพี่”
กราฟตอบโดยไม่คิดจะถงจะถามเพื่อนสักคำว่ายังอยากไปต่อหรือเปล่า?

 
     พลหน้านิ่ง ก่อนจะตบปากรับคำ ส่วนท็อปไม่อยากไปต่อ เพราะรู้สึกว่าเมามากแล้วถ้าได้ดื่มอีก มีหวังพรุ่งนี้ อาจตื่นขึ้นมาแล้วปวดหัวก็เป็นได้ แต่ไม่ทันได้พูดอะไร เพื่อนๆก็ลากคอท็อปขึ้นรถพี่ฆิตเรียบร้อยแล้ว

     ในระหว่างที่เดินทางไปยังคอนโดแห่งการสังสรรค์ ฆิตบอกพวกน้องๆว่า พี่ฆีนจะแวะมาเอาของนิดหน่อย ซึ่งทุกคนไม่ติดใจอะไร รวมไปถึงท็อปเองที่ไม่หือไม่อือ ได้แต่เอนหลังพิงเบาะและหลับตาลงในขณะที่สมองยังครุ่นคิดอยู่

     เด็กหนุ่มไม่ได้สนใจ การมาของพี่ฆีน แต่สนใจตัวเองมากกว่าเพราะเวลาที่ท็อปเมา เขามักควบคุมตัวเองไม่ได้อีกเช่นเคย...


.......................

 :ruready สับสนมึนเบลอในชีวิตก็อย่างนี้แหละหนา...ไหวไหมท็อป???
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2017 21:08:05 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4.2} UPDATE [8-2-60]
«ตอบ #23 เมื่อ08-02-2017 22:34:34 »

พี่ฆิตดูจะเริ่มมีหวังนะ
 :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4.2} UPDATE [8-2-60]
«ตอบ #24 เมื่อ09-02-2017 00:02:52 »

เอาล่ะสิ งานนี้. สนุกแน่ๆ

ออฟไลน์ Anong2013

  • พ่อค้าขนหวาน Versions 1
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • www.thaiboyslove.com
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4.2} UPDATE [8-2-60]
«ตอบ #25 เมื่อ09-02-2017 02:42:10 »

สนุกละสิงานนี้ จะเกิดอะไรขื่นติดตามอ่านนะค่ะ มาเร็วๆวนะค่ะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4.2} UPDATE [8-2-60]
«ตอบ #26 เมื่อ11-02-2017 08:40:23 »

ท็อปเมาแล้วน่ะพี่ฆีน มารับน้องด่วน ตอนนี้แระจัดเลย ฮ่าๆๆๆๆ

พี่ฆิตจะคู่ใครเนี่ยออกมายังน่ะ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5} UPDATE [12-2-60]
«ตอบ #27 เมื่อ12-02-2017 21:29:40 »

ตอนที่ 5 เมา





"ห้องพี่เท่วะ"



      กราฟพูดขึ้นคนแรกตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าห้องรุ่นพี่ เขาพลางกวาดสายตามองรอบๆอย่างพินิจพิจารณา อาจเป็นเพราะตัวกราฟเองก็ชื่นชอบการตกแต่งห้องแนวดิบ เท่อย่างสไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์เหมือนกัน กราฟจึงสนใจเป็นพิเศษและเดินดุ่มๆไปมุมทำงานที่ออกแแบบเป็นโต๊ะไม้ยาวเชื่อมต่อกับส่วนของผนังสามารถนั่งหันหน้าออกไปมองวิวรอบนอกได้อย่างสบายตาทีเดียว


"เบื่อก็มานั่งเล่นได้ มีแต่ห้องนอนที่กูหวง ห้ามเข้า" ฆิตว่าพลางวางกุญแจและกระเป๋าสตางค์ไว้ที่โต๊ะกลาง ก่อนจะเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาให้พวกน้องๆ

"ซ่อนหนังโป๊ไว้ใช่หรือเปล่า?" กราฟพูดอย่างยิ้มๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา

"ทะลึ่งแล้วมึง หน้าอย่างกูไม่ต้องพึ่งของพวกนี้หรอก กูมีที่ระบายว่ะ"


"วู้วว! หล่อเลือกได้" กราฟแซว ฆิตถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย รู้สึกว่ายิ่งคุยกับกราฟ ฆิตยิ่งเหนื่อยต่อกรกับคำยียวนของเด็กคนนี้เหลือเกิน

"พี่เป็นคนตลกดีนะครับ"
พลบอก

"กูก็อย่างนี้แหละ"

"คารมดีแบบนี้ หญิงเพียบแน่ๆ"
กราฟถามอีก แต่คราวนี้ฆิตไม่ตอบแต่ไหวไหล่ท่าทางยียวน จนท็อปที่เงียบมานานถึงกับพูดแทรก เพราะรู้สึกว่าฤทธิ์สุรากำลังทำให้กราฟพูดมากกว่าเดิม

“เงียบแล้วแดกซะ”
กราฟหันขวับไปหาท็อปที่ยื่นกระป๋องเบียร์มาให้ก่อนจะรับมาเปิดและยกขึ้นดื่มอย่างหงุดหงิดหัวใจ

“ขอบใจท็อปมากที่พูดแทนความในใจของพี่”
ฆิตยิ้มให้ท็อป ส่วนกราฟเห็นแล้วหมั่นไส้จึงเถียงอีก

“โหอะไรวะ คุยกับท็อปแทนตัวเองว่าพี่ คุยกับพวกผมแทนตัวเองว่ากู”

 
“มึงงอน?” ฆิตถามพลางเลิกคิ้ว

       กราฟชะงักกึกไม่ยอมตอบ ก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมากระดกอีกครั้ง


       ฆิตนั่งจ้องหน้ากราฟอย่างกดดัน แต่มีเสียงกริ่งหน้าประตูดังแทรกขึ้นเสียก่อน  ฆิตยกยิ้มมุมปากและลุกไปเปิดประตูให้คนที่ฆิตก็รู้ว่าใคร?

 
      ในยามวิกาล ดึกดื่นเช่นนี้ ฆีนสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ โดยไม่มีความจำเป็นต้องบึ่งรถออกมาข้างนอกด้วยซ้ำ แต่เพียงแค่น้องชายบอกว่าท็อปมานั่งดื่มที่ห้องเท่านั้น ทำให้ฆีนมาโดยไม่ลังเล แม้อันที่จริง ฆีนเพิ่งเจอท็อปเมื่อช่วงบ่ายไปแล้วก็ตาม

      ทั้งสองเดินเข้ามา ฆิตจัดแจงให้พี่ชายนั่งลงตรงโซฟาเดี่ยวที่อยู่ข้างกัน ส่วนฆิตนั่งโซฟายาวสามที่นั่งที่มีท็อปและกราฟนั่งอยู่ด้วย

 
       กราฟและพลยกมือไหว้ มีเพียงท็อปที่เอาแต่นั่งมองอีกฝ่ายนิ่ง จนฆีนที่หันมาเจอสายตาอีกฝ่ายถึงกับโคลงศรีษะพลางเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

 
      ฆีนมองเด็กหนุ่มที่หน้าแดง ตาแดงก่ำ คงดื่มแอลกอฮอลล์มากไปสินะ ฆีนคิดในใจ ท็อปจะรู้ตัวไหมว่าเวลาท็อปเมา ท็อปมีใบหน้าเย้ายวน รัญจวนใจแค่ไหน?


      และเป็นฆิตเองที่ขัดจังหวะด้วยการยื่นกระป๋องเบียร์มาให้ ทำให้ท็อปเป็นฝ่ายละสายตาก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนแทน


      คงเป็นเพราะฆีนไม่ได้แวะไปเมาที่ไหนมาก่อน จึงมีสติมากกว่าใคร  เขาถึงเห็นกิริยาและอาการของคนอื่นๆ ที่เมื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เข้าไปก็ทำให้คนเราเปลี่ยนเป็นคนละคนได้ ตอนนี้ ฆีนมองแต่ละคนที่กล้าพูด กล้าแสดงออกและดูเฮฮากันอย่างสนุกสนานเกินเหตุ 


      ไม่นานนัก ที่ฆีนกระซิบบอกน้องชายขอตัวไปรับลมที่ระเบียงสักหน่อย

 
      ฆีนถอนหายใจยาว จะไม่ให้ออกมาก็คงอึดอัดตายแน่ๆ เพราะตั้งแต่ที่ฆีนนั่ง เขาเห็นท็อปหัวเราะกับเพื่อนเหมือนปกติ แต่สายตากลับเหลือบมองมาเป็นระยะๆ นั่นทำให้เขาใจสั่น หวั่นไหว


      เพราะเวลาเมา ท็อปทำเหมือนว่าชอบกัน


      ฆีนจำได้ดี เวลาท็อปเมาจะแตกต่างจากตอนปกติ ท็อปกล้ามอง กล้าสบตา จนกลายเป็นฆีนเกือบทุกครั้ง ที่ประหม่าและหลบตาไปก่อน


      ฆีนเท้าสองแขนพาดลงขอบระเบียง ทอดสายตามองไปไกลอย่างไร้จุดหมาย  ในขณะที่ยืนเหม่อและครุ่นคิดอยู่ เสียงประตูกระจกเลื่อนดังขึ้น เขาเอี้ยวตัวมองก็เห็นว่าเป็นท็อปที่เดินคีบบุหรี่ออกมา

"เมาหรือยัง?" ฆีนกลับมายืดตัวตรงหันไปถามคนที่ยืนพิงผนัง มองมาทางเขาเช่นกัน

"คิดว่าไง"

"เมา"


"คงอย่างนั้น" ว่าจบ ท็อปจุดบุหรี่ขึ้นสูบ

 
       แสงจากด้านนอกสาดลงมากระทบเสี้ยวหน้าของเด็กหนุ่ม ทำให้ท็อปดูมีมิติและมีเสน่ห์ได้อย่างน่าประหลาด
 
       อาจเป็นเพราะมองหน้าท็อปหรือหลงอยู่ในห้วงของความคิดตัวเองก็ชักไม่แน่ใจ ฆีนถึงไม่รู้ตัวว่าอีกฝ่ายเดินมายืนใกล้กันพร้อมกับบุหรี่ที่ยกมาจะติดริมฝีปากเขาแล้ว


"สูบไหม?"

 
"พี่ไม่สูบบุหรี่" เสียงนุ่มเอื้อนเอ่ย

"หึๆ อย่างนี้คงไม่ชอบกลิ่น"

 
"เฉยๆมากกว่า" ฆีนว่าจบ ท็อปหันไปมองวิวเมืองกรุง และสูบบุหรี่เพิ่มปริมาณนิโคตินเข้าสู่ปอดอยู่หลายครั้ง


      ท็อปยกยิ้มร้าย ก่อนจะหันไปพ่นควันใส่หน้าอีกฝ่าย จนฆีนยกมือปัดป่ายไปมา ทั้งยังเบี่ยงหน้าหนี

"นี่แกล้งพี่หรือ?" ฆีนแกล้งขู่ทั้งยังเคลื่อนใบหน้าคมคร้ามเข้าใกล้จนห่างกันไม่ถึงคืบ ถ้าเป็นปกติ เด็กหนุ่มคงต่อว่า ทว่า คราวนี้ท็อปกลับยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์และไม่หลบหน้าเหมือนทุกที


       ทันใดนั้นเอง.....

 
       ท็อปใช้มือที่ว่างรั้งต้นคอพี่ฆีนลงต่ำแล้วกัดเข้าที่ซอกคอ ก่อนจะขบเม้มดูดหนักๆจนขึ้นเป็นรอย ฆีนจับไหล่ทั้งสองข้างดันออกห่าง

 
"ท็อปทำแบบนี้ทำไม" ฆีนถามเสียงเข้ม เพราะการกระทำนั้น ทำให้หัวใจเขาเต้นโครมครามอย่างหนักและดันกระตุ้นอารมณ์เสียวซ่านได้ดีทีเดียว

      เด็กปากดีไม่สนใจในคำถามก่อนหน้า เขาปัดมือพี่ฆีนที่จับไหล่ และขบเม้มริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนผละออก


"กูเมาว่ะ"

 

       ว่าจบ ท็อปกดบุหรี่ใส่ลงที่เขี่ยบุหรี่ที่วางอยู่ตรงขอบระเบียง ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ฆีนยืนมองท็อปด้วยความไม่เข้าใจ เขาลูบต้นคอตัวเองที่โดนอีกฝ่ายทิ้งร่องรอยไว้

 
       ฆีนระบายลมหายใจออกมา ใช้เวลานานเหมือนกันกว่าฆีนจะเดินกลับเข้ามานั่งในห้องทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 
       และในขณะที่ฆีนดื่มเบียร์อยู่นั้น เหมือนมีคนจับสังเกตบางอย่างได้

 
"พี่ฆีน โดนอะไรมา" ฆิตที่นั่งข้างพี่ชายสามารถเห็นรอยตรงต้นคอซ้ายได้ชัดกว่าใครก็เอ่ยทัก เพราะก่อนหน้านี้ฆิตไม่ยักเห็น


          ฆีนชะงัก และเป็นจังหวะที่ท็อปคงได้ยินน้องชายถามถึงหันมามองฆีน
 

"สงสัยยุงกัดน่ะ ข้างนอกยุงชุม" ฆีนพูดแค่นั้น


         ฆิตยังไม่ทันได้ถามต่อ ท็อปพูดแทรกและลุกขึ้น


"พี่ฆิต ผมขอผ้าเช็ดตัวหน่อยได้ไหมครับ? ผมอยากอาบน้ำนอนแล้ว"

 
      ฆิตละสายตาจากพี่ชายตัวเอง ก่อนจะแซวท็อปอย่างไม่อยากให้เสียบรรยากาศ

"อ่อนว่ะ วัยรุ่นอย่างเรา ต้องไม่นอนดิ กินยันเช้าเลย"

 

      ท็อปหัวเราะ

"ไม่ไหวว่ะพี่ ผมเมามากกว่านี้แล้วจะเป็นคนละคน พี่คงไม่อยากเจอผมในสภาพแบบนั้นหรอก"



     ฆีนได้แต่นั่งคิดในใจกับคำพูดท็อปว่านี่ยังไม่เมามากอีกหรือ? สำหรับฆีน ถือว่าเมามากเลยนะนั่น...

“เออ....เดี๋ยวไปเอาให้”


      ไม่นานนัก ฆิตเอาผ้าเช็ดตัวไปให้ท็อปที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ และเร่งฝีเท้ากลับมาทิ้งตัวลงนั่งบนพนักแขนโซฟาที่พี่ชายนั่งพลางกระซิบถาม

"ท็อปทำหรือ?"

 
        ฆิตถามและใช้นิ้วจิ้มไปที่หลักฐาน

        ในบรรดาคนที่ไปสังสรรค์กันมาที่ร้านก่อนหน้า ตอนนี้ ฆิตคงสติได้ดีที่สุด เพราะเขาค่อนข้างคอแข็ง หรือเรียกง่ายๆว่าไม่ใช่คอแข็งเพียงอย่างเดียว แต่ที่ยังอยู่ได้ท่ามกลางวงเหล้านานๆ เพราะเขาชอบยุให้คนอื่นดื่มเยอะๆแต่ตัวเองแค่จิบๆเลยทำให้เมาช้ากว่าชาวบ้าน

        ฆีนเบี่ยงยกแก้วขึ้นดื่ม ไม่ตอบน้อง จนฆิตเขย่าไหล่พี่ชาย

"พี่ไม่บอก ผมถามไอ้ท็อปเองนะ"


"จะอยากรู้ไปทำไม?"

 
"ก็ดูน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีนี่หว่า ทำขนาดนี้"

 
"สนใจเรื่องตัวเองเถอะ"

 
"โห! อะไรวะ คนจะช่วย"

 
"พูดกับพี่ดีๆ"

"ขอโทษที เอ้...หรือผมจะยอมสละห้องให้ไอ้ท็อปกับพี่นอนด้วยกันดีนะ"

 

     ขณะที่ฆีนจะอ้าปากบอกน้องว่าเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน ก็มีเสียงกราฟแทรกขึ้น

"เออ....พี่ฆีนชอบ....อื้ออ"

 
      ฆีนหันไปหาคนถาม เพราะได้ยินไม่ค่อยถนัด และพอเขาจะถามต่อก็เห็นพลยกมือปิดปากเพื่อนและบอกว่าไม่มีอะไร ฆีนจึงไม่ถามต่อ และเลือกจะยกเบียร์ขึ้นดื่มแทน


     ขณะที่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ไหลลงคออยู่ ฆีบแทบสำลักเมื่อเห็นเด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำ

"พี่ฆิตครับ ผมขอยืมเสื้อใส่หน่อย เสื้อหล่นพื้น เปียกหมดเลย"

 

      ฆีนวางกระป๋องเบียร์ลงบนโต๊ะ เมื่อตอนนี้ ท็อปเปลือยช่วงบน จนฆีนอยากลุกไปบังร่างกายเด็กหนุ่มไม่ให้ใครเห็น แต่เพราะเขาไม่ใช่เจ้าของและไม่ได้เป็นอะไรกับท็อป ถึงทำแบบนั้นไม่ได้

"ฆิต!" ฆีนถองสีข้างพลางเรียกน้องชายราวกับเรียกสติที่แม่งไม่กระพริบตาสักวินาทีเดียวเลยให้ตายเถอะ...

"เอ่อะ เดี๋ยวไปหยิบให้นะ" ฆิตตอบเสียงเบาหวิว


      ผิวที่เคยขาวสว่างตอนนี้แดงจัด ไหนจะดวงตาที่ฉ่ำปรือมองมาเหมือนต้องการท้าทายอะไรบางอย่าง องค์ประกอบโดยรวมของเด็กหนุ่มตรงหน้า กำลังทำให้ฆีนหมดความอดทน

        ทั้งสองจ้องมองกันอย่างไม่มีใครละสายตา ท็อปยังยืนรอฆิตอยู่ด้วยรอยยิ้มที่มองมาทางพี่ฆีน ไม่นานนัก ฆิตนำเสื้อไปให้ท็อปก่อนเด็กหนุ่มจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

       ฆีนนั่งถอนหายใจ เพราะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ท็อปทำอยู่นี้ ต้องการอะไรกันแน่...


        และขณะที่นั่งคิดถึงการกระทำท็อป น้องชายก็พูดคำที่ไม่ค่อยรื่นหูสักเท่าไหร่


"ท็อปแม่งโคตรขาวเลยว่ะพี่...และหุ่นแม่งแบบ..."

"อยากตายใช่ไหม?"
ฆีนหันขวับมองฆิตที่ดูไม่สะทกสะท้านในคำขู่ กลับหัวเราะเริงร่าอย่างน่าเขกกระโหลก

"หวง...เว้ย...หวง"

 
    ฆีนขี้เกียจเถียงน้องชาย เพราะเขามีเรื่องให้คิดมากกว่านั้น นั่นคือ เรื่องการเมาของเด็กหนุ่ม เพราะเขาได้แต่กลัวและไม่อยากให้ท็อปเมาโดยไม่มีฆีนอยู่ด้วยอีกแล้ว


****1.1****


คำเตือน :

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สติสัมปชัญญะลดลง

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ... :hao6: :hao6:

ท็อปหนอท็อป

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-02-2017 21:38:55 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5} UPDATE [12-2-60]
«ตอบ #28 เมื่อ12-02-2017 23:16:52 »

จะรอดมั้ย คืนนี้

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5} UPDATE [12-2-60]
«ตอบ #29 เมื่อ13-02-2017 11:06:35 »

ท็อป  ยังไงกันเนี่ย  เหอๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด