Special…….ดวงตะวันผมขับรถผ่านรั้วสีขาวขนาดใหญ่ เข้าไปในบริเวณบ้านหรู กลางใจเมือง
พี่นัทออกมาต้อนรับผมเช่นเคย ผมกับมูหิ้วข้าวของที่ซื้อมาออกจากรถ
“อ้าว...ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย...พี่ก็เตรียมไว้”
“สวัสดีครับพี่นัท...เป็นอย่างไรบ้างครับ”
“อืม...ก็เรื่อยๆ นะ จะเข้าบ้านก่อนหรือไปหาตินก่อน”
“ผมไปหาตินก่อนดีกว่าพี่ คิดถึงมัน” พี่นัทพยักหน้า เรียกเด็กมาช่วยผมยกข้าวของไปไว้ด้านใน
ผมจูงมือมู เดินไปด้านหลังบ้านพี่นัท
........ที่ตรงนั้น................ สถูปแก้วขนาดกลาง สะท้อนแสงแดดยามเย็น ส่องประกายระยิบระยับ
ตั้งอยู่ท่ามกลาง สวนดอกไม้หลากหลายพันธุ์ .....ที่นั่น มีรูปตินที่ส่งยิ้มมาให้....
พื้นที่โดยรอบสะอาดสะอ้าน...บ่งบอกถึงความใส่ใจที่เจ้าของบ้านมีให้ผู้ที่จากไปได้เป็นอย่างดี
ผมกับมูก้าวเดินไปหยุดตรงหน้าสถูปนั้น ……
เจ้าไม้ขีดไฟก้านน้อยเดียวดาย.....
เสียงเพลงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากกล่องดนตรี ที่มีเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวของคนที่เข้ามาใกล้
“หวัดดี...ติน...เราไม่ได้มาเยี่ยมนานแล้วนะ แกคงสบายดี” ผมกลั้นน้ำตาไว้เต็มความสามารถ
“ตอนนี้....ฉันกับมูไปบอกพ่อกับแม่แล้วนะว่าเราคบกัน.....พ่อกับแม่โกรธฉันน่าดู
แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ...แกไม่ต้องห่วงเรื่องของฉันแล้วนะ” ผมค่อย ๆ สูดลมหายใจช้าๆ
“ฉันและมูยังรักกันเหมือนเดิม...ขอบใจที่ทำเพื่อฉันมาตลอด ฉันจะรักษาความรักที่ฉันมี
ไว้ให้ได้เหมือนที่แกพยายามรักษามันไว้ให้ฉัน....ฉันรักแกเสมอนะ...ติน” มูที่ยืนข้างผมสะอื้นออกมา
“ติน...มูรักทินมากนะ ...มูจะไม่ทำให้ตินผิดหวัง......มูจะดูแลรักษาหัวใจ.... ที่ตินไว้ใจให้มูรักษา...อย่างดี ทั้งสองดวง”
“ติน...พวกเราสองคนรักตินมากนะ.....” ผมคว้าคนข้าง ๆ มากอดไว้ ให้คลายสะอื้น
“ส่วนเรื่องพี่นัทนะติน....พี่นัทแกไม่ยอมมีใครอ้ะ...แกทำแต่งานจนเงินจะทับตายแล้วเนี่ย...
ฉันก็พยายามจะแนะนำสาวๆ ให้แล้วนะ แต่แกไม่สนใจเลยว่ะ....พี่นัทก็รักแกมากนะ”
“อ่ะ แฮ่ม...นินทาอะไรพี่” พี่นัทที่เดินตามมาพูดขึ้น...
“ผมเปล่านินทานะพี่....ผมแค่บอกให้ตินมันรู้ว่าพี่รักมันแค่ไหน” พี่นัทยิ้ม
“ไม่ใช่แค่พี่ที่รักติน...เราทุกคนต่างหากที่รักติน” สายตาพี่นัทที่ทอดมองรูปใบเล็กนั้นอ่อนโยน
เต็มไปด้วยความรู้สึก ผมได้แต่ยิ้ม ...ตินมันจะรู้ไหม...ว่ามีคนที่รักมันขนาดนี้...
ผมนั่งกินข้าวที่บ้านพี่นัท เราพูดคุยกัน หลายๆ เรื่อง
พี่นัทชอบเล่าให้ฟังว่าตอนที่อยู่ที่นิวซีแลนด์ตินทำอะไรบ้าง
ผมไม่เคยเบื่อที่จะฟัง ....
อัลบั้มรูปหลายอัลบั้มของตินที่พี่นัทถ่ายไว้ตอนอยู่นิวซีแลนด์ ถูกนำมาเปิดดู
รูปถ่ายมีตั้งแต่วันแรกที่ตินไปที่โน่น
ภาพตินเล่นหิมะ...ภาพตินยืนยิ้มท่ามกลางทุ่งดอกไม้
และภาพท่าทางประหลาดๆ ที่ตินชอบทำเวลาถ่ายรูป
มีแม้กระทั่งภาพตินที่เริ่มเข้ารับการรักษา.....
ร่างกายบอบบาง ผ่ายผอมจนน่ากลัว....
มีจนกระทั่งวันสุดท้ายของตินที่....จากไป....
พี่นัทบอกว่า..ตินให้ถ่ายไว้...ตินว่าพี่นัทจะได้ตัดใจจากตินได้ง่ายๆ
เวลาเห็นสภาพที่โทรมสุดๆ ของติน
แต่พี่นัทบอกว่ายิ่งเห็นก็ยิ่งรัก ยิ่งสงสารมากกว่า......
พี่นัทพูดถึง......นิยายทุกเรื่องของตินที่ได้ตีพิมพ์ในระยะเวลา 5ปีที่ผ่านมา พี่นัทมีหมด
ที่ไม่ได้ตีพิมพ์ พี่นัทก็ไปจ้างโรงพิมพ์พิมให้ แล้วเอามาแจกพวกเพื่อน ๆ
ผมก็ได้รับเช่นกัน......มีเพียงเรื่องสั้นเรื่องสุดท้าย....ที่พี่นัทไม่ได้เอาไปรวมเล่ม
เรื่องราวที่แสนพิเศษ เรื่องราวของติน ที่มีเพียงเราสามคนที่จะได้รับรู้....
เรานั่งคุยกันจนดึกเช่นเคย ผมจึงลากลับ......
ผมไม่ได้ตรงกลับบ้านเหมือนเช่นทุกที....ผมตรงไปยังสะพานเดิม……
........สะพานที่ตินทำให้ผมและมูได้เปิดใจ………….
.......สะพานที่ตินยอมฉีกหัวใจตัวเอง เพื่อผม……
ผมและมู จับมือกันเดินไปที่กลางสะพาน
ผมสบตากับร่างเล็กตรงหน้า
“มู....ทินรักมูนะ รักมาก...”
“เราก็รักทิน......รักมากเท่ากับเราและตินรวมกัน...” ผมยิ้มก่อนจะคว้าร่างบางมากอดไว้
....ขอบคุณติน...ขอบคุณที่ทำให้มีวันนี้....ขอบคุณที่ทำเพื่อกัน.....
........หลับให้สบายเถิดเพื่อนรัก......
------END------
