พอสักแป๊บผมก้อมาถึงออฟฟิซ แล้วรีบวิ่ง สี่คูณร้อย ไปที่โต๊ะตัวเอง แล้วปั่นงานอย่างที่นังลูกค้าชะนีศรีสวรรค์ต้องการ ( เปลี่ยนชื่อตามอารมณ์ อย่าว่าผมน่ะ ก้อคนมันโกรธนี่ ) จะบ้าตาย ถ้าทำงานดึกผมไม่เคยบ่น แต่ทำงานเช้านี่สิ โอ๊ยยยย นรกชัดๆ นี่ก้อเพิ่งหกโมงสี่สิบห้าเอง ทำไปได้สักพักงานผมก้อเสร็จ แล้วจัดการส่งไปให้ชีด้วยความรวดเร็ว เฮ้ออออออเหนื่อยชะมัด
“ คุณแอ๋วใช่ไหมครับ นี่อี้น่ะครับ ผมส่งงานไปให้คุณแล้วน่ะครับ รบกวนเช็คด้วยน่ะครับ “
“ ได้ค่ะ แหม ขอบคุณมากน่ะค่ะ ไม่นึกว่าคุณอี้จะมาทำให้จริงๆ เดี๋ยวงานนี้แอ๋วจะดันให้น่ะค่ะ “ หล่อนพูดเสียงสดใส
“ ไม่เป็นไรครับ มันคือหน้าที่ ลูกค้าคือพระเจ้า สั่งอะไรมา ผมย่อมต้องทำตามอยู่แล้วครับ “ ผมแอบกัดไป “ เรื่องดันไม่ดัน ก้อสุดแล้วแต่ทางลูกค้าจะพิจารณาแล้วล่ะครับ ผมก้อได้แต่หวังว่า จะได้งานนี้จริงๆ เพราะว่าผมต้องทำงานนอกเวลาปกติ “ แอบกัดอีกแล้ว ก้อคนมันโมโหนี่นา
“ ค่ะๆๆๆๆ ยังไงก้อขอบคุณน่ะค่ะ งานนี้ถ้าได้ คุณได้เป็นล้านเลยน่ะค่ะ “ เธอตอบกลับมาเสียงหวานอย่างไม่รู้ว่าผมกัดเธอไป
“ ขอให้ได้เหอะครับ ถ้าได้เจ้านายผมคงรักผมตายเลย แค่นี้ก่อนน่ะครับ ทราบผลยังไงโทรมาบอกผมด้วยน่ะครับ “ ผมรีบตัดบท
ตู๊ดๆๆๆๆๆๆ อะไรนี่สายตัดไป ยัยนี่ไม่มีมารยาทเอาซะเลย จากนั้นผมก้อทำงานอื่นๆของผมไป ง่วงนอนชะมัดเลย แต่ก้อนอนไม่หลับอ่ะ เลยไปชงกาแฟมาดื่มซะหน่อย
จากนั้นวันนั้นทั้งวัน เป็นเหมือนนรกสั่ง หรือสวรรค์แกล้งก้อไม่ปาน มีแต่ปัญหามากมายให้แก้ ผมล่ะเซ็งมากๆ เจ้านายตัวดีก้อไม่มาออฟฟิซอีก
ผมก้อต้องแก้ปัญหาแทนเค้าอีก เบื่อชะมัดยาด แล้วดันมามีงานจ๊อบนอกอีกจากพี่ก๋อม โทรเข้ามาบอกว่าให้ไปช่วยงานหน่อย วันนี้มีฟังค์ชั่นงานแสดงเพชรไม่มีคนแต่งหน้า และคนจัดเสื้อผ้า ผมไม่อยากรับ แต่พี่ก๋อมบอกว่าช่วยๆหน่อย งานนี้เค้าให้เยอะน่ะ พอพูดเรื่องเงินปุ๊บ ผมก้อรับปากทันที ก้อทำไงได้ล่ะ คนมันอยากได้เงินนี่ เสร็จแล้วผมก้อทำงานต่อไป จากนั้นช่วงบ่าย นังลูกค้าชะนีศรีสวรรค์ก้อโทรมาอีก บอกว่าจะคอมเฟิร์มงาน แต่ขอต่อราคาหน่อย เพราะว่าลูกค้าสู้ไม่ไหว ผมบอกไปว่าราคานี้ผมไม่ได้เป็นคนตั้ง ลูกค้าต่างหากเป็นคนตั้ง ชีบอกว่า ถ้าไม่ลด ลูกค้าจะเลือกของอีกที่นึง แล้วถ้าเจ้านายผมรู้ ผมก้อคงโดนด่า หรืออาจจะ...... แหมมาขู่อีก ผมเลยตอบตกลงไป อยากจะบ้าตาย ทำไมลูกค้าสมัยนี้เห็นแก่ได้ เอารัดเอาเปรียบกันจัง
นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนน่ะ ผมไม่ยอมหรอก ถ้ารู้ว่าไม่คุ้ม แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว เราไม่ทำคนอื่นก้อทำ เฮ้อ ก่อนจะตกลงกันชียังมีหน้ามาบอกว่า เงินมีให้แค่นั้น แต่จะเพิ่มให้ผมต่างหากอีกห้าหมื่น ดูสิๆ มีใต้โต๊ะไป แต่ผมปฏิเสธไปเพราะว่า แม่สอนไว้ว่า คนเราจะดี จะชั่ว จะอยู่ได้นานเพราะความซื่อสัตย์นี่หล่ะ
ยัยนั่นยังมีหน้ามาบอกว่าผมเป็นคนดีจริงน๊า แหมเป็นคนอื่นคงรับไปแล้ว ผมบอกเธอไปว่า เธอไม่ควรทำอย่างนี้น่ะ ถ้าคนอื่นรู้จะเสียเอา ชีก้อหัวเราะ
ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย คนสมัยนี้ เงินตรามันกำหนดบัลดาลทุกอย่างได้จริงๆ ทำคนดีให้เป็นคนเลว แต่เงินน่ะ ซื้อผมไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆๆ
“ คำถามสุดฮอต อีหยังคึ๊ดฮอด แต่กอดบ่ได้..... “ เสียงมือถือผมดังขึ้น เสียงเพลงนี้ผมตั้งไว้กับเบอร์สุดที่รักของผม( แฟนผมชื่อ อ้วนครับ )
“ หวัดดีครับ อ้วน ว่าไงครับ “ ผมพูดออกไปด้วยเสียงหวาน แหมขอนิดนึงเครียดมาทั้งวัน แฟนโทรมาก้อดีใจเป็นธรรมดา
“ แหมคิดถึงนี่ครับ เย็นนี้ตัวเองว่างไหม เราไปกินข้าวกันน่ะ “ แฟนผมตอบกลับมาด้วยเสียงหวานพอๆกัน ( เพื่อนๆอย่าเพิ่งอ้วกน่ะครับ )
“ เค้ามีงานรับจ๊อบตอนหกโมงอ่า เอาไงดีอยากเจอตัวเองเหมือนกัน เอางี้ไหม ตัวเองออกจากออฟฟิซเร็วหน่อยได้ไหม เจอกันซักบ่ายสี่โมงครึ่ง
แล้วเราไปหาอะไรอร่อยๆกินกินดีไหมครับ “ ผมเสนอไป เพราว่าถึงจะยุ่งยังไงก้ออยากเจอแฟนอยู่ดี
“ อืมได้ครับๆ แล้วยังไงเจอกันน่ะครับ วันนี้เค้ามีของจะให้ด้วย “
“ โอเคครับ แล้วเจอกันน่ะ อยากรู้จักว่าตะเองจะเอาอายัยให้เค้าอ่ะ แต่ตอนนี้ขอทำงานก่อนน่ะ เดี๋ยวคนแถวนี้ว่าเอา ยิ่งฟันคมๆกันอยู่ “
พอวางสายแล้วก้อทำงานต่อ เพราะว่าไม่อยากคุยนาน เดี๋ยวคนที่ทำงานจะแขวะเอา บางคนก้อแขวะเล่น บางคนก้อแขวะจริง ผมล่ะไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ว่าทำไมคนเราต้องพูดเรื่องของคนอื่นด้วย ถ้าไม่พูดก้ออยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้าน เฮ้ออออ แต่เรื่องอย่างนี้มันมีทุกที่ในสังคมแหละ ทนๆเอาหน่อยล่ะกันว่าแต่ว่า ไม่ใช่ทกคนในออฟฟิซจะแย่หรอก คนเราก้อมีดีมีร้ายบ้าง ที่ออฟฟิซผมมีอยู่ สิบคน สามคนทำแผนก ต่างประเทศ สองคนทำแผนกในประเทศ คนนึงทำบัญชี คนนึงทำกราฟฟิคและถ่ายรูป คนนึงคือเมสเซนเจอร์ คนนึงเป็นแม่บ้าน และเจ้านายผม ปกติเจ้านายก้อจะทำหน้าที่เดียวกับผม หลังๆมานี้แกวุ่นวายกะน้องๆแกมากไปหน่อย เลยไม่มีเวลาทำงานซะงั้น แล้วก้อยกลูกค้าทั้งหมดมาให้ผมทำซะงั้น แกบอกว่าผมเอาลูกค้าอยู่ทำๆไปเหอะ แต่ผมว่าอีกนัยนึงแกก้ออยากให้ผมยุ่งๆ จะได้ไม่ต้องออกรับจ๊อบ แต่ผมน่ะไม่ได้หรอก ผมทำงานควบคู่กันได้ เพราะคำว่าเงินตัวเดียว
พอสักเกือบๆเวลานัด ผมก้อขอเพื่อนๆที่ทำงานกลับก่อน ผมอ้างว่าวันนี้ผมมาทำงานแต่เช้า เค้าก้อบอกว่า แหมๆๆๆ มาเช้าหน่อยเดียวทำเป็นทวง
จะไปหาแฟนก้อไปเหอะ ผมก้อยิ้มๆแล้วรีบออกมาเจอกับแฟนที่นัด ร้านที่ผมจะไปเป็นร้านอาหารกึ่งผับ จัดที่นั่งทั้งในตัวอาคาร และมีโต๊ะจัดสวยๆ ข้างนอกร้าน ที่ร้านบรรยากาศดีมากๆ มีวงดนตรีสดเล่นด้านหน้าร้าน ที่ร้านนี้จะตกแต่งสไตล์โมเดิร์นหน่อยๆ มีน้ำตก มีรูปปั้นโชว์เก๋ๆ ผมเลือกนั่งรอตรงโต๊ะด้านนอกตัวร้านใกล้ๆน้ำพุ โรแมนติค ค๊อดๆ ( ขออนุญาตใช้ศัพท์เฉพาะหน่อยน่ะครับ แบบว่าถ้าพูดตรงๆมันจะหยาบไปหน่อย ) ผมนั่งรอสักสิบนาทีแฟนผมก้อเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในร้าน แฟนผมนี่ครับ ลักษณะรูปร่างก้อ ขาวๆ หน้าตี๋ๆ ท้วมๆหน่อย ( สเป็คผมเลย )
“ รอนานไหมครับที่รัก รถติดมากมายอ่ะ “ อ้วนแฟนผมพูดขึ้น
“ ไม่นานหรอกครับ อีกอย่างเค้าก้อมาก่อนเวลาด้วย ก้อมันใกล้ที่ทำงานนี่ “
“ สั่งอะไรกันกินดีล่ะ ผมหิวมากเลยน่ะ หิวข้าว แล้วก้อหิวตัวเองด้วย อิอิ เมื่อไหร่น๊า “ อ้วนพูดขึ้นขำแต่แฝงไปด้วยความทะลึ่ง
“ นี่ๆๆ น้อยๆหน่อย นี่ร้านอาหารน่ะ เก็บอาการหื่นด้วยน่ะ เดี๋ยวมาปล้ำเค้าในร้านทำไงอ่า “ ผมแย้งขึ้นมา
“ ก้อไม่เห็นสนใจเลย “ แหน่ะๆๆๆ มิได้นำพาเลย
“ พอเลย น้องครับสั่งอาหารหน่อย พี่เอา กุ้งแช่น้ำปลา ปีกไก่แช่เหล้า ปลากะพงทอดน้ำปลา เอา...... “ ผมสั่งอาหารไปแต่อ้วนเบรกเอี๊ยดดด
“ ตะเอง กินไรนักหนาอ่ะ แล้วจะกินหมดไหม” เค้าขัดแล้วเปลี่ยนมากระซิบ “ เค้ามีเงินไม่เยอะน่ะตะเองก้อรู้อยู่ “ เค้ากระซิบเสียงค่อยมาก
“ โอ๊ยยยยย อย่างกหน่อยเลย ทีเวลาเอาไปทำอย่างอื่นยังทำ ได้เลย ไม่เป็นไร เค้าจ่ายเยอะกว่าก้อได้ เบื่อจัง “ ก้อจริงอย่างที่ผมพูดน่ะครับ แฟนผมน่ะชอบงกอะไรไม่เป็นเรื่อง แต่พอมีบางเรื่องไม่สมควรดันจ่ายซะงั้น คือผมไม่ค่อยชอบคนไม่สปอร์ต แต่อย่างอื่นเค้าดีหมด
หลังจากสั่งอาหารมาแล้ว เราก้อลงมือทานอย่างเอร็ด อร่อย อาหารร้านนี้เค้าขึ้นชื่อมาก เราทานไป ก้อคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย เค้าก้ออ้อนผมอย่าง
นั้น อย่างนี้ ผมน่ะก้อชอบหรอก แต่แบบว่าบางทีมันเลี่ยนไง แบบว่าผมส่วนมากผมเป็นคนพูดตรงๆ เลยไม่ค่อยชินคำพูดอะไรอย่างนี้ ( ขอรวบรัดหน่อยน่ะครับ เนื่องจากถ้าอธิบายจริงๆแล้ว ไดอะล็อคมันค่อนข้างยาวน่ะครับ ) ทานกันเสร็จ อ้วนก้อบอกว่ามีอะไรให้ผม พร้อมกับ หยิบกล่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาจากกระเป๋า ใช่เลยสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผมชอบ เครื่องสำอางนั่น ขอบอกว่าผมเป็นคนบ้าเครื่องสำอางมั๊กมากกกกก ก้อผมเป็นช่างแต่งหน้าด้วยนี่ครับ เลยสนใจเรื่องของพวกนี้ด้วย ผมก้อขอบคุณไป ยังไม่ได้ทันของ เค้าก้อพูดว่าผมยังจำได้ไหม ว่าผมเคยสัญญาว่า ผมจะยอมเค้าจริงๆ ไม่ใช่แบบที่ผ่านๆมา คือ ผมจะเป็นคนไม่ชอบมีเซ็กส์เท่าไหร่อ่ะครับ ผมว่าคนเรารักกัน กอดกันก้อน่าจะพอ แต่ถ้าอยากปลดปล่อยก้อช่วยกันได้บ้าง ผมน่ะในอดีตก้อเคยมีอะไรกับแฟนบ้าง แต่ไม่บ่อย บอกตรงๆผมไม่ค่อยชอบ อีกอย่างผมกลัวโรคอ่ะ แม้ว่าจะรู้ว่าแฟนผมแต่ละคนจะสะอาดแค่ไหนผมก้อกลัวน่ะครับ แล้วแต่ละครั้งผมก้อจะเป็นคนกระทำ ผมไม่ยอมเป็นฝ่ายโดนกระทำหรอก แต่อ้วนนี่สิเค้าก้อเป็นคนกระทำเหมือนกัน ที่ผ่านมาผมและเค้าก้อช่วยๆกันบ้าง แต่เค้ามักจะขอข้างหลังผมเสมอ ผมก้อบ่ายเบี่ยงมาตลอด แต่มาวันหนึ่งเค้าบอกว่าเค้ารักผมมาก ทำยังไงผมถึงจะยอมให้เค้ากระทำข้างหลังผมซักที ผมบอกว่าวันเกิดเค้าปีนี้ ไม่แน่ผมอาจจะยอม อ้วนเลยมาทางถามผม ผมเลยบอกว่าไปว่า ไว้ถึงวันเกิดเค้าค่อยว่ากันอีกที เค้าบอกว่าเค้าใจร้อนรอถึงวันนั้นไม่ไหวหรอก ขอผมก่อนคืนนี้เลย ผมบอกว่าถ้ารอไม่ไหวก้อไม่ต้องรอ หาคนอื่นไปก่อน( ปากดีอีกต่างหาก ) เค้าก้อบอกว่า เค้าไม่เคยคิดมีใคร เค้ารักผมคนเดียวอย่างนั้นอย่างนี้ ผมเลยบอกว่าค่อยว่ากัน
จากนั้นผมก้อดูนาฬิกาแล้วก้อบอกเค้าไปว่า ใกล้เวลาแล้วผมต้องรีบไป ถ้ายังไงจะโทรหา แล้วผมก้อสั่งเช็คบิล สรุปแล้วผมออกเองทั้งหมด เฮ้อออออ ช่างเหอะ จากนั้นผมก้อรีบไป นั่งมอไซค์เลยครับ เพราว่ารถติดมากกกกกก วันนี้เป็นวันศุกร์สิ้นเดือนด้วย คนคงจะออกไปเที่ยวกัน แต่ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วย พอนั่งไปซักพักนึง โอ้ววววว์พระเจ้ายอด มันจอร์จมาก ฝนดันตกอีกหนักด้วย ตอนแรกที่วินถามว่าจะฝ่าไปไหม ผมบอกว่าผมรีบต้องฝ่า เดี๋ยวเพิ่มเงินให้ แล้วนั่งไปอีกซักหน่อยฝนก้อตกลงหนักมากๆ จนพี่วินบอกว่า ถ้าไม่พักก่อนเค้าก้อจะไม่วิ่งผมก้อเลยต้องยอม ทำไงได้ล่ะ ตอนนี้เลือกอะไรไม่ได้เลย ผมพักอยู่สักสิบห้านาที ฝนไม่มีทีท่าจะหยุด มองดูเวลาก้อเลยมาสิบนาทีได้แล้วด้วย ตายๆๆๆๆ ผมเลยบอกพี่วินว่า พาผมฝ่าไปหน่อยเหอะ เย
เดวชะตาผมขาด เค้าบอกว่ารออีก5นาทีได้ไหม ถ้าเบาลงจะพาฝ่า และแล้วสวรรค์ก้อไมได้แกล้งผมซะทีเดียว ฝนก้อตกเบาลงเป็นตกปรอยๆ พี่วินเลยพาผมขับฝ่าไป สัก 20 นาทีได้ก้อถึงที่หมาย รถติดชะมัดยาด นี่ถ้าผมมาแท็กซี่คงถึงซักสามทุ่มได้ สถานที่ที่ผมไปทำงานนี่คือสถานที่ที่หนึ่งที่พวกออร์กาไนซ์มักจะมาจัดงานโชว์ หรือแสดงสินค้าต่าง เรียกได้ว่าราคาค่าเช่าแพงมากๆ ผมเคยมาทำงานที่นี่หลายครั้ง บ้างก้อมาแต่งหน้า บ้างก้อมาช่วยเค้าจัดงานบ้าง เลยค่อนข้างคุ้นเคยกับสถานที่นี้ดี สถานที่นี้อยู่แถวๆสุขุมวิท เป็นเหมือนหอประชุมใหญ่ๆ ตกแต่งอย่างสวยงาม มีลานจอดรถที่กว้างขวางเพราะว่า คนที่มาดูการแสดงสินค้าที่นี่นั้น ส่วนมากจะเป็นคนรวย หรือคนมีรถมาชมทั้งนั้น ผมถึงที่นั่นปุ๊บ ผมก้อวิ่งด้วยความรวดเร็วเข้าไปในตัวอาคาร โดยวิ่งอ้อมไปด้านข้างเพื่อเข้าไปยังหลังตัวอาคารซึ่งถูกจัดไว้ให้เป็นที่แต่งตัว แต่งหน้า พอผมไม่ถึงปุ๊บ ยัยพี่ก๋อมก้อรอผมอยู่ข้างหน้าห้องอยู่แล้ว ท่าทางกระวนกระจาย สงสัยรอผมนานแน่ๆ พอเห็นผมพี่ก๋อมก้อถามว่าทำไมมาช้า รู้ไหมเนี่ยะเจ้าของบริษัทมาจัดงานเองเลยน่ะ เค้าโกรธมาก ผมบอกไปว่า พี่น่าจะเห็นสภาพผม อย่างกะลูกหมาชิวาว่าที่น่ารักตกน้ำ ช้าไปซักครึ่งชั่วโมงคงไม่เป็นไรหรอก พอไปถึงข้างในผมก้อโดนเลย
“ นายใช่ไหมชื่ออี้ แล้วนี่ทำไมมาช้าจัง งานนี้เป็นงานที่คุณกับผมทำด้วยกันครั้งแรกน่ะ จะไม่ทำให้ผมประทับใจหน่อยรึไง “ เจ้าของบริษัท ออร์กาไนซ์ ที่มารู้ทีหลังว่าชื่อ คุณกรณ์ ( หล่อชะมัดยาด สูง ขาว หุ่นน่ากอด หน้าตาหล่อแบบไทยๆ อินเตอร์หน่อย อายุน่าจะไม่เกินสามสิบปี แต่ทำไมไม่ยิ้มไม่แย้มเลยน่ะ ทำตัวแก่ไปได้ ) ใส่ผมเป็นชุดเลย พอดีผมกำลังจะอ้าปากพี่ก๋อมก้อตัดผมขึ้นก่อน
“ เอ่ออออ คุณกรณ์ขา คือข้างนอกฝนตกหนักมากค่ะ อี้เค้าก้อนั่งมอไซค์ฝ่าฝนมา รถก้อติดอีก ขับเร็วไม่ได้ ขอโทษทีน่ะค่ะ “ พี่ก๋อมกระเทยสาวร่างท้วมแสดงออก เอ่ยแก้ตัวแทนผม ผมจะพูดแล้วน่ะ แต่พี่ก๋อมคงรู้ว่าผมเป็นคนตรงไปตรงมา มีเหตุผล กลัวว่าผมจะเถียงเค้าไป ที่จริงผมก้อไม่ขนาดเถียงแบบไม่ลืมหู ลืมตาหรอก ถ้าผมผิดผมก้อว่าไปตามผิด และขอโทษ
“ ไม่ต้องมาแก้ตัวแทนกัน เป็นอะไรกันรึป่าว พอล่ะ พาเค้าไปเช็ดเนื้อเช็ดตัวก่อนเลย สภาพอย่างนี้ นางแบบเห็นคงขยาดแน่ๆ จะพาลนึกว่าผมจ้าง
ตัวอะไรไม่รู้มาทำงาน เสียชื่อเสียงหมด “ โอ๊ยยยยยดูเค้าพูดสิ ทำเหมือนผมฆ่า ไปแกงใครมา ว่าซะผมเสียหายเลย จากนั้นพี่ก๋อมก้อไม่ตอบอะไรลาก ผมใช้คำว่าลากเลยเพราะตอนนั้นผมเริ่มมีอารมณ์แล้วมองหน้าเค้าด้วยสวยตาโกรธ แต่ผมก้อต้องยอมให้พี่ก๋อมลากไป เดี๋ยวไม่ได้ทำงานกัน
จากนั่นพี่ก๋อมก้อพาผมไปเช็ดตัว ปากก้อพลางบ่นว่า อย่าไปต่อปากต่อคำกับคุณกรณ์น่ะ คนๆนี้ไม่เคยมีใครกล้าหือ อีกอย่างเค้ามีงานเยอะ เผื่องานหน้าๆจะได้เรียกใช้อีก ผมบอกว่าไม่สนหรอก คนอะไรไม่มีเหตุผลบ้างเลย ผมไม่ได้อยากมาช้าเลยน่ะ จากนั้นเราก้อไปจัดแจงเสื้อผ้า โอ้วววว์ อะไรมันจะมากมายขนาดนี้ เดินกี่คนเนี่ยะนับดูแล้วน่าจะสามสิบชุดได้ แล้วนางแบบจะมีกี่คนเนี่ยะ จะใส่คนล่ะกี่ชุด ผมพลางคิดไปถึงเรื่องแต่งหน้า เพราะว่าผมกลัวแต่งไม่ทัน ผมใช้เวลาแต่งหน้าพอสมควรเลยล่ะครับ เพราะไม่อยากทำลวกๆเดี๋ยวงานออกมาไม่ดี จากนั้นผมก้อเตรียมชุดไป เตรียมเครือ่งมือแต่งหน้าไป วันนี้มีช่างแต่งหน้ามาแต่งงานนี้ สี่คน ก้อดีช่วยๆกันไป ทำไปพลางพี่ก๋อมก้อชวนผมคุยไป แกก้อถามนั่นถามนี่ ถามเรื่ิองฟงเรื่องแฟน แกบอกว่าหน้าตาดีๆอย่าผมน่ะ หาแฟนที่ดีกว่าอ้วนกี่คนก้อได้ นี่อะไร หน้าตาก้องั้นๆ ฐานะก้อไม่รวย และดูเหมือนแฟนผมชอบสร้างภาพ ผมก้อบอกไปว่า ผมไม่ได้รักใครที่หน้าตา หรือฐานะ ถ้าผมชอบคนอย่างนั้น แต่นิสัยไปกันไม่ได้ ก้อจบ จากนั้น.......