=== ตอนที่ 8 ===
“ฟู่.........” ผมเป่าลมออกจากปากเบาๆเพื่อระบายความร้อนในตัว แต่....ระบายความร้อนแบบนี้....น้องหมา น้องแมว น้องตะเข้เค้าทำกันนี่นา แต่ช่างมันเถอะ ผมเกาะขอบหน้าต่างข้างยิมแล้วมองท้องฟ้า อืมมมม กลิ่นหลังฝนตกเนี่ยะหอมดีจัง ไอดิน กลิ่นหญ้า ลมพัดเบาๆปะทะหน้าผม สบายดีจัง
“เฮ้ออออออ….วันนี้อากาศเย็นดีจังน๊า” น้องบีเดินมาเกาะหน้าต่างบานเดียวกันกับผมตั้งแต่ไหร่ไม่รู้
“อื่อ” ผมเอื้อมมือไปจับมือน้องบีแล้วก็ใช้นิ้วลูบหลังมือน้องไปมาเบา
ผมกับน้องบียืนอยู่ตรงนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ผมจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ ผมดึงเก้าอี้มานั่ง บีก็เดินตามมาแล้วก็นั่งลงบนพื้นข้างๆแล้วก็นั่งพิงขาผม แถมเอาสายผมงับเล่นไปพลางๆอีกต่างหาก พักหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นเอามือผมไปเล่นแทน จนกระทั่ง หกโมงครึ่ง พี่ป้อมเลยขอตัวกลับก่อน ทิ้งผมกับน้องบีอยู่กันสองคน
พอพี่ป้อมขับรถออกไปน้องบีก็ดึงเก้าอี้มาอีกตัวมานั่งแล้วก็เอนตัวมาพิงผมเอาหัววางบนบ่าซ้ายผม แล้วน้องก็เอามือผมขึ้นไปกอดตัวเค้าเบาๆโดยที่มือน้องยังทับมือผมไว้อยู่
“อากาศเย็นจัง” น้องบีพูดเบาๆ ผมเป่าลมลงบนบ่าน้องเบาๆ หันหน้าเข้าหาน้องแล้วก็หายใจรดใส่ต้นคอน้อง
“อิอิ จั๊กจี๋” น้องหัวเราะเบาๆ แล้วผมก็มองไปที่มือของน้อง ผมไม่เห็นน้องใส่สายคาดเอวแฮะ
“สายล่ะ” “ถอด อึดอัด” น้องตอบมาเบาๆ
“พี่” น้องหันหน้ามาหน่อยหนึ่ง
“ครับ”“รู้ป่ะทำไมผมอยากอยู่ค่ำๆ”“ทำไมอะ อยากซ้อมเพิ่มเหรอ?”“ม๊ายยยยยยยย”“แล้วทำไมถึงอยากอยู่ดึกล่ะ”“ไม่รู้ซิครับ ไม่รู้ทำไม แต่อยากอยู่อะ......” น้องพูดจบผมก็ก้มลงไปหอมหน้าผากน้องบีเบาๆ
ผมเอามือขวาขึ้นมาลูบแก้มน้องเบาๆ ผมตั้งใจลูบให้นุ่มนวลสุด ผมไม่รู้ว่าน้องชอบไหม แต่ผมชอบแก้มน้องนะ นุ่มดี แล้วผมก็ลูบไปข้างหน้า ลูบปากน้องเบาๆ ริมฝีปากสีแดงๆ นุ่มๆ ชุ่มชื่น ผมเอานิ้วชี้ลูบไปลูบมาเบาๆ ผมก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าน้องชอบไหม ผมรู้แต่ว่าผมชอบอะ แฮะๆๆแล้วน้องก็พูดขึ้นว่า
“พี่รู้ไหม ทำไมวันนี้ผมถึงไม่ได้โทรบอกให้ที่บ้านมารับ”“ทำไมเหรอ”น้องหันหน้าเข้าหาผมแล้วพูดว่า
“ก็ผมอยากให้พี่ไปส่ง” น้องยิ้มๆแล้วก็หันกลับไปคืน
ตอนหันกลับผมไม่ทันตั้งตัวนิ้วนี้ผมที่กำลังลูบริมฝีปากปากน้องอยู่หลุดเข้าไปในปากน้องบีซะงั้น แต่.ไม่ได้ลึกมากมายแค่หนึ่งข้อกว่าๆ......ส่วนน้องก็ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจอะไรออกมา ผมเอานิ้วออกมาช้าๆ...
“ข้างในปากน้อง....อุ่นจัง” ผมคิดในใจ ผมเอานิ้วที่เปื้อนน้ำลายน้องหน่อยๆไปเช็ดเบาๆกับชายเสื้อน้องระหว่างที่เช็ดผมรู้สึกอยากจะลองลูบๆตัวน้องบีดูจังเลย ผมก้มลงหอมแก้มน้องเบาๆ ใช้ริมฝีปากขบใบหูน้องบีเบาๆ แล้วก็ค่อยๆสอดมือเข้าไปในเสื้อ น้องไม่ได้ขัดขืนอะไร ผมลูบท้องน้องเบาๆ
“อุ่นจัง” ผมคิดในใจ ก่อนที่จะค่อยๆลูบสัมผัสสูงขึ้นมาเรื่อย ผิวของน้องบีเนียนมากเลยครับ ขนาดเพิ่งเล่นกีฬามามีเหงื่อบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกถึงความเนียนนุ่มได้ขนาดนี้ ผมพยายามลูบให้เบาที่สุด ตอนนั้นก็อีกแล้ว ผมไม่รู้ว่าน้องชอบไหม แต่ผมอยากอะ ฮ่าๆๆๆ ผมลูบเบาๆให้ปลายนิ้วผมสัมผัสกับผิวน้องให้นุ่มนวลละมุนละไมที่สุด ผมลูบไล่ขึ้นมาถึงอกน้องผมใช้นิ้วชี้วาดไปรอบๆเบาๆผมว่าน่าจะทำให้น้องรู้สึกเพลินเหมือนที่เวลาเราชอบให้คนมาเขียนหลัง นิ้วชี้ของผมวาดไปเรื่อยๆช้าๆตามร่องอกแล้วก็ราวนมของน้องข้างซ้ายผ่านไปข้างขวาลงมาหน้าท้อง ท้องน้อย ลากกลับขึ้นไปที่อกคืน ผมเอานิ้วลูบบนแผ่นอกของน้องไปเรื่อยๆจนไปถูกนมน้องเข้าโดยตั้งใจ
“อ๊ะ อิอิ จั๊กจี๋” น้องหัวเราะขึ้นมาเบาๆ
ผมเอานิ้วชี้วาดรอบๆหัวนมน้องเบาๆ สลับไปมาซ้ายขวา เหมือนว่าน้องจะชอบนะ แล้วผมก็เอานิ้วชี้ลูบเล่นเบาๆที่หัวนมของน้อง ไม่นานหัวนมของน้องก็ตั้งขึ้น แต่......
ข้างล่างก็ขึ้นด้วยแฮะ ผมสังเกตที่กางเกงน้อง น้องชายตัวเล็กของน้องบีค่อยๆดันผ้าลุกขึ้นมาช้าๆ ตัวน้องเริ่มร้อนขึ้นมาอีกแล้ว หายใจหอบ หูเริ่มแดง ผมใช้ปลายลิ้นเลียใบหูน้องเบาๆ แล้วเอียงดูหน้าน้อง.....
น้องบีกำลังหลับตา ปากแดงๆของน้องกำลังอ้านิ๊ดหน่อย แก้มขาวๆตอนนี้แดงเลย
“น่ารักชะมัด” ผมคิดในใจ ผมแอบก้มลงไปหอมแก้มน้องเบาๆ นิ้วที่กำลังลูบปากน้องอยู่รู้สึกได้เลยว่าหัวใจน้องบีเต้นแรงขึ้น แล้วผมก็เอานิ้วลูบไปเบาๆที่ข้างๆตัวน้อง ลูบท้อง ลูบอกน้องเบาๆ ก่อนจะค่อยๆเอามือออกมาช้าๆ แล้วผมก็มาลูบริมฝีปากน้องบีอีกครั้ง
“พี่.......ปะ” น้องบีพูดขึ้นเบาๆ เสียงน้องฟังดูนุ่มนวลมากมาย ผมไม่เคยได้ยินน้องพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มขนาดนี้มาก่อน ผมก้มลงหอมแก้มน้องเบาๆอีกครั้ง
“อื่อ ทุ่มกว่าแล้วเดี๋ยวป๊าว่าเอา” แล้วผมก็ดันตัวน้องขึ้นเบาๆน้องก็ลุกตาม
“ฟิ่ววววววววววว ฟิ้ววววววววววว” เสียงลมดังขึ้นเบาๆ ขณะที่ผมขับรถจักรยานยนต์ ไปช้าๆ
“บี”“ครับ” น้องหันกลับมาตอบ ผมหอมหน้าผากน้องเบาๆ แต่จู่ๆน้องก็หันหลบ ซะงั้น
“พรุ่งนี้......”“ทำไมเหรอครับ”“เปล่าไม่มีอะไร” ผมยิ้มๆ น้องบีก็หันมาทำหน้า งงๆ จริงๆผมว่าจะชวนน้องบีไปดูหนังหน่ะครับ แต่มันดึกผมว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่ เลยไม่ชวนดีกว่า
“ถึงแล้ว”บีหยิบของออกจากหน้ารถเสร็จก็พูดว่า
“ขอบคุณครับ” “พรุ่งนี้เจอกัน” ผมยิ้ม น้องบียิ้มรับแล้วก็วิ่งเข้าบ้านไป
----------------------------------------------------------------------------
“วันนี้ร้อนชะมัดเลยแฮะ เมื่อวานฝนพึ่งตกไป มาวันนี้ร้อนตับแตกเลยทีเดียว สงสัยต้องพาน้องซ้อมเบาหน่อย” ผมคิดในใจ ขณะที่กำลังยืนมองท้องฟ้าที่ไม่ค่อยจะมีก้อนเมฆเท่าไหร่ แล้วขณะที่ผมกำลังจะเดินเข้ายิม น้องต้นกล้าก็เดินสวนออกมา
“พี่หวัดดีครับ” น้องต้นกล้ายกมือไหว้อย่างสวยงามราวกับประชดเลยทีเดียว สงสัยเป็นกับเมื่อคราวก่อนผมดุน้องเรื่องทำความเคารพล่ะมั้ง
“อืม ดีๆ ไหว้สวยขนาดนี้เดี๋ยวพี่ส่งประกวดเลยแล้วกัน” ผมแซวน้องต้นกล้าไป พลางหัวเราะไปด้วย น้องกล้าพอรู้ว่าผมแซวก็เลยยิ้มๆ
“ใครมาบ้างแล้วอะ”กล้ามองขึ้นฟ้า
“อืม.....ก็มีบี กับ มิว แล้วก็ ผม” น้องกล้าหันหน้าลงมาคืนแล้วมองผม
“กล้า เมื่อกี้ทำหน้าคิดเหมือนกับมากันเป็นสิบเลยอะ “ ผมหัวเราะเบาๆ กล้าเองก็ยิ้มเขินๆ
“พี่ ผมไป____เดี๋ยวมา เอาอะไรไหมครับ”“อืมมม แล้วสองคนนั้นเค้าทำอะไรกันอยู่อะ”“เล่นการ์ดยูกิ”“ห๊า จริงดิ” “ครับ”“เออๆ ไปซื้อของเหอะพี่ไม่เอาอะไรหรอก” แล้ว ต้นกล้าก็วิ่งไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆ ( ไม่ให้ค่าโฆษณา ไม่พูดชื่อ )
ผมเดินเงียบๆไปแอบดูอยู่ที่หน้าต่างผมเห็นมิวกับบีกำลังเล่นการ์ดกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งพูดก็พูดนะ การ์ดพวกนี้ผมเล่นไม่เป็น
“เฮ่ยยยยย โกงงงง” บีตะโกนขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่การ์ดใบหนึ่ง
“โกงอะไร”มิวตอบกลับไป
“ตัวนี้ค่าabc น้อยกว่า ทำไมถึงdfg ล่ะ” บีถามมิว
“อ่าวก็ระดับดาวมันต่างกันไง” มิวอธิบาย
“โหยยย ไม่บอกอะ โกงดิเนี่ยะโกงเลย” บียังยืนยันว่ามิวโกง
“เอาๆ โกงก็โกงเล่นใหม่ๆ” สมกับเป็นมิว ยอมความกันง่ายๆ
ผมยืนมองดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ผมมองเค้าเล่นกันไปกันมาอยู่พักหนึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าบี กับ มิว จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะบีเป็นคนร้อน ส่วนมิวเป็นคนเย็นทั้งคู่จะเติมเต็มให้กันในสิ่งที่ขาด หลังจากวันนั้นทุกครั้งที่มีเหตุอะไรก็ช่าง บีจะเข้ามาปกป้องมิวตลอด ส่วนมิวเวลาเห็นบีทำอะไรไม่ดีก็จะคอยบอกคอยเตือนอยู่เรื่อยๆ ซึ่งมิวก็น่าจะรู้ว่าบีไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดหรอก ถึงจะไม่แสดงท่าทางหรือ พูดออกมาว่ายอมรับ แต่บีก็ฟังคำเตือนของมิว
“ไงสองคนทำอะไรกันอยู่” ผมเดินเข้าไปในยิมวางกระเป๋าแล้วก็ทักให้น้องๆรู้ว่าผมมาแล้ว
“พี่เอดีครับ” มิวหันมายกมือไหว้
“พี่เอมาแล้วเหรอ” น้องบีตะโกนขึ้น แล้วก็ลุกวิ่งมากระโดดกอดเหมือนที่เคยทำ
“ดีกันแล้วไง” ผมถามบีเบาๆ บีไม่ตอบแต่ยิ้มกลับมาแทน
แล้วมิวก็ลุกขึ้นมา ตอนนั้นผมนั่งอยู่ริมโต๊ะ มิวก็มายืนข้างๆแล้วก็เอาการ์ดมาอวดผม ส่วนบีก็มายืนเบียดมิวอีกที เพราะทางขวามือผมยืนไม่ได้ติดกำแพง มิวพูดถึงเรื่องการ์ดอย่างสนุก อยากจะบอกน้องว่าผมไม่รู้เรื่อง แต่ไม่พูดดีกว่า บี เองก็ถามเรื่องการ์ดจากมิวอย่างสนใจ นี่เป็นครั้งแรกผมเพิ่งเคยเห็นบียิ้มเวลาคุยกับมิวนอกจากยิ้มหลังแกล้งสำเร็จ
“พี่” บีทักผม
“หือ”“เมื่อวานมีอะไรป่าวอะ” โห....น้องยังติดใจคำพูดที่ผมพูดไม่จบจากเมื่อวานด้วยแฮะ
“เปล่า”“ไม่ๆ มีอะไร บอกๆๆๆๆ” น้องบีเดินมาเกาะขาผมแทนแล้วเงยหน้าขึ้นมามอง พลางงับสายคาดเอวผมไปด้วย มิวเองก็มองทำหน้าตาสงสัยใส่อีก จริงๆผมไม่ตอบก็ได้นะ แต่ว่าจู่ๆก็อยากแกล้งเด็กอะ อิอิอิ
“ก็ว่าจะถามว่า วันนี้ว่างป่าว พี่ว่าจะไปดูหนัง เลยจะชวน” พูดจบมิวก็มาเกาะขาผมอีกข้างหนึ่ง ท่าเดียวกับบีเลย ผมบอกไปเพราะรู้ว่าบอกวันนี้น้องก็ไปด้วยไม่ได้ แต่อยากแกล้งเด็ก แล้วก็เป็นดั่งคาด บี กับ มิว มีการตอบสนองต่อคำชวน
“กี่โมง” บีถาม
“สามทุ่มครึ่ง”“ดึกจัง” มิวพูดขึ้น
“ทุ่มครึ่งได้ไหมอะ” บีต่อรอง
“ทุ่มครึ่งแต่กว่าหนังจะจบก็ปาไปสามทุ่มนะ ที่บ้านจะให้ไปเหรอ โทรถามที่บ้านก่อนแล้วกัน ถ้าที่บ้านให้ไปพี่ก็จะพาไป” ผมก็ยังมั่นใจว่าทางบ้านน้องจะไม่ให้ไปเพราะมันดึก
“งั้นแป๊บเดี๋ยวผมถามที่บ้านก่อน” บีพูดจบก็ลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ มิวก็ด้วย ณ ตรงนั้นผมก็ยังมั่นใจอยู่ว่าน้องทั้งสองไมได้ไปด้วยแน่ๆ
“พี่” บีวางโทรศัพท์ลงในล๊อกเกอร์เสร็จก็หันมาเรียกผม
“ว่าไง”“ป๊าให้ไป” น้องบียิ้ม แล้วก็วิ่งมาเกาะขาผม อ๊า งานเข้าล่ะ ยังๆมิวอีกคน ตอนนั้นผมเห็นมิวกดวางสายพอดี สงสัยจะคุยเสร็จแล้วผมเลยถามไปว่า
“มิวอะ”“ม๊าให้ไป” มิวยิ้ม แล้วก็วิ่งมาเกาะขาผมตามบี
“อ่า งานเข้ากรูแระ”วันนั้นผมเลยต้องเลื่อนเวลาดูหนังจากที่ปรกติผมชอบดูตอน 21.30 น. มาเป็น 19.30 น. ซะงั้น จริงๆผมไม่ชอบรอบนี้อะเด็กๆเยอะเสียงดัง
----------------------------------------------------------------------------------
พอเข้าโรงหนังผมให้บีนั่งขวา มิวนั่งซ้าย บี กับ มิวคุยกันไปมาเป็นที่สนุกสนานกันเลยทีเดียวแล้วเมื่อแสงไฟในโรงหนังมืดลงเพื่อเตรียมจะฉาย บีก็เอามือมาจับมือผมไว้ เมื่อตัวอย่างหนังผ่านไป และ บทเพลงสรรเสริญพระบารมีจบลงก็มีการแสดงเรตของภาพยนตร์ แล้วก็มีคำพูดขึ้นว่า
“ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจมีคำพูด ภาพ และ เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ควรได้รับคำแนะนำ”
ส่วนตัวหนังสือที่หน้าจอก็ขึ้นว่า
“ภาพยนตร์ไม่เหมาะกับผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี”
แล้วน้องบีก็พูดว่า
“ผมเพิ่ง 13 เอง”ผมเลยเสริมไปว่า
“งั้นกลับปะ เดี๋ยวอีก 2 ปีค่อยมาดู” ผมไม่รู้ว่าประโยคที่ผมพูดกับบีฮาขนาดไหน แต่ว่าคนที่นั่งข้างหลังสี่คนนั่งหัวเราะอยู่เกือบๆ 5 นาที ทั้งยังหลุดคำว่า
“ ฮ่าๆๆ อีก 2 ปี ค่อยมาดู ฮ่าๆๆๆๆ” ออกมาอีก
“ทำฮาขนาดนี้เปิดคณะตลกน่าจะรุ่งนะ” มิวพูดแล้วยิ้มๆ
ตลอดการดูหนังเรื่องนี้ ผมกับบีจับมือกันตลอดทั้งเรื่อง รู้สึกเหมือนออกมาเดตกันยังไงก็ไม่รู้
Thx น้องต่ายที่ตรวจตักอักษรให้นะครับ