#เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"  (อ่าน 13592 ครั้ง)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************

▼สารบัญนิยายข้าพเจ้า►

•••เรื่องสั้นตอนเดียวจบ (หน่วงทุกเรื่อง)
♥แฟนดารา♥
-มีแฟนเป็นดาราต้องอดทน- (คิดว่าหน่วงน้อยสุด)
◘หนี◘
-เมื่อแฟนต้องแต่งงาน-
•ของตาย•
-ของตาย ใครเขาจะมองเห็น-
♦It’s You♦
-เมื่อนายกลับมา-
☻เพราะอะไรmpreg☻
-ทำไมผมต้องท้อง  ทำไมเขาไม่เคยฟัง-
•••เรื่องยาว
☺เรื่องของหนู หม่าม้า และปะป๊า☺
-หนูไม่อยากให้ป๊าม้าทะเลาะกันเลย-



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2015 03:20:08 โดย mukmaoY »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: It's you
«ตอบ #1 เมื่อ07-03-2015 22:28:00 »


It is you.

“ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ย?”






เพียงแค่ประโยคเดียว  ประโยคเดียวเท่านั้น  ผมก็ปล่อยให้ใครบางคนเข้ามาในห้องส่วนตัว  บนอพาร์ทเม้นท์โทรมๆที่ไม่เหลือใครเช่านอกจากห้องแรกชั้นสอง 
ผมกลั้นหายใจขณะที่เขาเดินผ่านผมไปนั่งบนโซฟาเก่าๆ เพราะกลิ่นบุหรี่ฉุนจัด หรือเพราะหัวใจที่กำลังทะลุออกมานอกอกก็ไม่รู้   
ชายร่างสูง ผมยาวระคอดูยุ่งเหยิง ใบหน้าไร้อารมณ์ มีเพียงรอยยิ้มบางๆราวกับขอบใจที่ปล่อยให้เข้ามาง่ายๆ การแต่งตัวเหมือนคนจรจัด ปลายกางเกงขาดวิ่นทั้งสองข้าง เสื้อสีขาวถูกสวมทับด้วยแจ็กเกตสีเทาซึ่งดูเหมือนเพิ่งออกมาจากกองขยะ  ในมือถือกระเป๋าใบใหญ่ที่ดูจะเป็นสิ่งที่ใหม่ที่สุดในตัวของเขา

“นั่งแล้วทำไมไม่วางกระเป๋าล่ะ” ผมเอ่ย  คิดว่ามันคงหนักพอดู แต่ทิฐิของคนๆนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน     เหมือนเมื่อสิบปีก่อน.....





“จะเป็นไรมั้ย ...ถ้าจะขออยู่สักพัก” 

ประโยคบอกเล่า......ไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องหมายปรัศนีไว้หลังประโยค

สักพักของนายมันเท่าไหร่กันล่ะ  ?
เอาเถอะ....อยู่เท่าที่อยากอยู่ละกัน

ผมพยักหน้าให้โดยไม่พูดอะไรออกไป   ดูเหมือนการพบกันที่เกินความคาดหมายวันนี้จะทำให้ผมเหนื่อยมาก ผมอาบน้ำในห้องน้ำเล็กๆที่แสนโสมมเพียงสิบนาที 
ผมก้าวออกจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว
เขาเดินมาหาผม  ผมรู้สายตานั้น 
ผมหันหน้าหนี  พยายามเดินเฉียงไปที่ตู้เสื้อผ้า
เดินยังคงเดินตามผม  ให้ตายเถอะ! ผมจะไม่ไหวแล้วนะ!

“ให้ฉันกอดไม่ได้เหรอ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน”

ตั้งนานของนาย....นายไม่รู้หรอกว่ามันกี่ปี กี่วัน กี่เดือน  นายก็แค่บอกว่ามันนาน  ใช่! มันนานมาก นานจนฉันลืมไปแล้ว นานจน.....


“ทำไมเย็นชานักล่ะ หนุ่มออฟฟิศเป็นงี้กันหมดทุกคนเลยหรือเปล่า”

ในที่สุดเขาก็เข้ามาถึงตัวผม  โอบกอดผม  ความอบอุ่นแผ่ซ่าน  แต่ผมจะไม่ลุ่มหลงไปกับมันหรอกนะ  ถึงตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองตัวสั่น  แต่ผมจะไม่หลั่งน้ำตา

“ให้ฉันกอดนายนะ” 

เขาเลียติ่งหู  มือป่ายสะเปะสะปะ  จับหน้าอกผม บีบเค้นตุ่มไตทั้งสองข้าง  ผมพยายามผลักไสเขาออกไป

“ทำไมล่ะ”

เขาหันมาถาม  แววตาดูเศร้าหมอง ใจผมวูบหล่น   แต่ผมจะไม่สน  ผมไม่สนแววตาคู่นี้อีกต่อไปแล้ว....

“เออก็ได้!”  น้ำเสียงกึ่งตวาด

ผมรู้ว่าเขาเสียหน้ามาก  อีกสักพักเขาคงออกไป 



ผมมองดูเขาถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น ทีละชิ้น  เนิบนาบ แต่ไม่น่าเบื่อ  กล้ามกำยำใต้ร่มผ้านั้นทำให้ใจเต้นไม่เป็นส่ำ  ผมพยายามแสดงสีหน้าที่เรียบนิ่ง  นั่นทำให้เขาโมโหมาก   

เขาโยนกางเกงในของตัวเองใส่ผมแล้วเดินเข้าห้องน้ำ...

........................

“กลับล่ะนะ”  ผมบอกเพื่อนร่วมงาน  นี่เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว  ผมทำงานเกินเวลามานิดหน่อยนั่นเพราะถ้างานไม่เสร็จผมจะไม่กลับ  มันเหมือนถ้าเรากลับไป ผมจะกลับมาสานต่องานที่ค้างในอีกวันไม่ได้  แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีงานไม่ค้างไม่ซะทุกวัน  บางครั้งผมต้องยอมจำนนต่อความยากไม่ก็ความน่าเบื่อของมันอยู่บ้าง



ผมแวะซื้อข้าวที่ร้านอาหารตามสั่ง  โชคดีที่ร้านปิดดึก ผมจึงเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ไปโดยปริยาย  สองอาทิตย์แล้วที่เขาอยู่ที่บ้าน  เขาไม่ได้พูดอะไรกับผมอีกนับแต่วันแรกที่เจอกัน  ดูเหมือนเขาจะไม่พยายามตื๊ออะไรอีก  จนกระทั่งเมื่อเช้า เขาบอกแค่ว่าให้ซื้อกับข้าวมาให้หน่อย  วันนี้ผมจึงต้องซื้อข้าวเพิ่มอีกอย่างเผื่อเขา
“กลับมาแล้วเหรอ” 
ใบหน้ามีแต่หนวดเคราเปิดประตูต้อนรับผม

“ซื้ออะไรมาล่ะวันนี้”  เขาเดินตามเหมือนลูกหมา  หยิบถุงข้าวไปแกะใส่จาน

“เอ๋...?  ไม่มีข้าวเหรอ”  ผมสะอึก  ก็ทุกทีเราจะหุงข้าวไว้นี่นา  ผมเดินไปที่หม้อข้าวเก่าๆ  แต่มันกลับว่างเปล่า

“นายล้างหม้อข้าวแต่ทำไมไม่หุงข้าว”  ผมหยิบหม้อข้าวเอามาจัดการทำเองซะ  นี่กลับมาก็ดึกแล้ว ท้องก็หิว  พึ่งพาไม่ได้   แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ เพราะผมลืมหุงเอง

“หุงไม่เป็น  เมียทำให้ตลอด”



ไม่รู้ว่าเมื่อกี๊เขาจะเห็นอาการแน่นิ่งของผมมั้ย  แต่หวังว่าจะไม่ เพราะเขาไม่ได้สนใจอะไรนอกจากฟุตบอลในทีวี

“ไม่มาดูด้วยกันล่ะ กว่าข้าวจะสุกอีกตั้งนาน”
ผมไม่ชอบดูบอลนัก  และไม่อยากอาบน้ำ  ผมเคยได้ยินมาว่าถ้าอาบน้ำก่อนกินข้าวมันจะไม่ดี  ดังนั้นผมจึงไม่เคยอาบน้ำก่อนกินข้าว  ผมหยิบหนังสือที่ชั้นมาเล่มหนึ่ง แล้วเลือกมุมอ่านที่ปลายเตียง  เขาไม่ได้สนใจอะไรอีก   เราสองคนกินความเงียบแทนข้าวอยู่นาน

...................

ตั้งแต่วันนั้นที่เขาเริ่มคุยกับผม  เขาก็มักจะสั่งให้ผมซื้อของที่เขาอยากกินหลังเลิกงานทุกวัน  เราไม่เคยคุยอะไรกันนอกจากเรื่องกับข้าว   แต่วันนี้เขาสั่งของอีกอย่างนั่นคือที่โกนหนวด
บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่าเราเป็นคนรับใช้ของเขาหรือเปล่า


“ทำไมซื้อยี่ห้อแพงจัง” 
เขาหยิบห่อที่โกนหนวดยี่ห้อแพงที่สุดในร้านที่ผมซื้อไปแกะอย่างทะนุถนอม  ผมอมยิ้มให้กับเขา

“อยู่มาเกือบสามอาทิตย์แล้ว แต่เมียไม่โทรตามเลยแฮะ  สงสัยทิ้งฉันจริงๆแหงม”

ที่ผ่านมาเขามักจะบ่นเรื่องภรรยาของเขาเป็นประจำ  จนเมื่อวันก่อนเขาก็หลุดปากจนได้ว่านอกใจภรรยาจนทะเลาะกัน

“แต่อยู่กินกันมาตั้งสิบปี เขาไม่น่าทิ้งฉันง่ายๆอย่างนี้นะ”  เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ  แต่ผมไม่สบายด้วย  รู้สึกของเหลวมันเอ่อที่ขอบตา  แต่ผมอาจจะคิดไปเอง
ผมเดินเข้าห้องน้ำ  ปิดประตูสนิท  ยืนพิงประตูอยู่อย่างนั้น จนเนิ่นนาน....ผมจึงได้ยินเสียงเคาะประตู

“นายลืมผ้าขนหนูรึเปล่า”  ฝ่ามือหนาจับผ้าขนหนูสีเหลืองหม่นที่เคยขาวยื่นมาให้ทางประตูที่แง้มเพียงเล็กน้อย  ผมรับมันไว้   ในเมื่อเขาเอามาให้ ก็อาบน้ำไปเลยแล้วกัน

น้ำเย็นๆจากฝักบัวเปิดแรง  ผมเอาเท้าแหย่เข้าไปในแอ่งน้ำเย็นก่อนส่งตัวเองเข้าไป  ผมทำเช่นนี้ทุกครั้ง เพราะกลัวว่าหากเอาหัวรับน้ำทันที ตัวผมเองอาจจะช็อกก็ได้
แต่น้ำที่ว่าเย็น ดูเหมือนเมื่อรดหน้าผมแล้วมันอุ่นขึ้นนะ  โดยเฉพาะที่ขอบตา....

“มึงกับกูอ่ะ พอเป็นแฟนกันแล้วน่าจะมาเรียกอะไรที่มันดูดี ดีป่ะ?” เขาถามผมแผ่วเบา
“ก็...งั้น ‘นาย’ ‘ฉัน’ ดีมั้ย?”  ผมเสนอ

“โว๊ะ..เหมือนพวกเกย์ในละครเลยว่ะ ฮ่าๆ”  ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เขาก็ตกลง

...
“ไม่อยากแล้วว่ะ”  จู่ๆเขาก็พูดวลีนี้ขึ้นมาท่ามกลางแสงเทียนที่ผมทำขึ้นเซอร์ไพรส์เขาในวันครบรอบห้าปีของเราพร้อมๆกับวันที่เราเรียนจบด้วยกันมาครบสองปี
“ไม่อยากอะไร ไม่อยากกินเหรอ ร้านประจำเราสองคนไง”
“เป็นเกย์อ่ะ ทำอะไรก็ไม่ได้ จะอวดแฟนตัวเองต่อหน้าคนอื่นก็ไม่ได้ บอกพ่อแม่ก็ไม่ได้” 

ผมจ้องหน้าเขาด้วยความตะลึง

“เราเลิกกันดีกว่า ฉันจะแต่งงานแล้ว”

ผมแทบอยากจะเอามีดในครัวปักเขาเสียแต่ตอนนั้น หากแต่ยังพอมีสติ
“อ่า ตกลงนายอยากเลิกเพราะอึดอัดที่เป็นเกย์หรือว่าเพราะจะแต่งงานกันแน่” ผมตัดพ้อ แต่ยังคุมสีหน้าเรียบนิ่ง

“ช่วยร้องไห้อ้อนวอนได้มั้ย ฉันจะได้คบกับนายต่อ”
“อ้าว”
“รู้ตัวมั้ย นายน่าเบื่อเป็นบ้า”
“ตกลงอยากเลิกเพราะเบื่อฉันเหรอ”
“อืม”

คืนวันนั้นเขาจากไปพร้อมทิ้งซองสีชมพูหวานไว้หน้าประตู


“นายไปอาบสิ”  ผมบอกเขา ก้าวออกมาจากประตูห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว โดยลืมมองว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่

“จ้า ปะป๊าอยู่บ้านเพื่อน บอกหม่าม้าด้วยว่าคิดถึง เลิกโกรธป๊าได้แล้ว อ๊ะ แค่นี้นะ จุ้บ!”
เขาวางโทรศัพท์ เก็บมันไว้ในซอกกระเป๋าเดินทาง

“ฉันกินข้าวเสร็จแล้วนะ ไปกินดิ”  เขาเดินเข้ามาหา  แต่ก็แค่ผ่านตัวผมเข้าไปในห้องน้ำ

“ถ้ามีคนโทรมาก็คงลูกฉันนั่นแหละ ไม่ต้องรับนะ”
ผมพยักหน้า ส่งยิ้มให้
เอ๊ะ...ดูเหมือนน้ำอุ่นบนหน้ามันยังเช็ดไม่หมดนะ

...............

ผมนอนตัวสั่นอยู่บนเตียงเล็กๆ  ในห้องเล็กแค่นี้ แอร์ตัวเดียวก็ทำผมหนาวได้  ผมเพิ่งติดมันเมื่อเดือนก่อน เพราะฉะนั้นมันจึงหนาวจับขั้วหัวใจ  ผู้ชายร่างสูงคนนั้นนอนอยู่ข้างเตียง  คือตัวการที่ทำให้ผมหนาว ตอนตีสองสี่สิบสามนาที  เขาละเมอขึ้นมาหยิบผ้าห่มของผมไป  ผ้าห่มของผมหนากว่าของเขา อบอุ่นกว่าของเขา  ผมไม่กล้าดึงมันกลับมา จึงต้องนอนหนาวอยู่อย่างนี้  ผมมักจะไม่กล้าทำอะไรหลายๆอย่าง  เพราะผมกลัวว่าถ้าเราทำอะไรเกินตัว มันจะไม่สำเร็จ เหมือนกับที่ผมไม่กล้าอ้อนวอนให้เขากลับมานั่นแหละ

ตีสามห้าสิบสี่นาทีแล้ว  ผมยังหลับตาไม่ลง  เพราะมันหนาวเหลือเกิน  ผมกำนาฬิกาข้อมือไว้ หน้าปัดมันเรืองแสงได้ มันคือนาฬิกาเรือนเดียวในห้องนี้  บางทีผมก็รู้สึกว่าตัวเองโรคจิตที่เอาแต่นอนกำนาฬิกา ไม่ยอมทำอะไร แม้แต่การขยับตัว

ตีสี่แล้ว  ผมได้ยินเสียงพลิกตัว แต่ไม่กล้าหันไปดู  คงเป็นเขานั่นแหละ  เขามักตื่นตอนตีสี่เพื่อเข้าห้องน้ำ ช่างเป็นคนตรงต่อเวลาจริงๆ
ตอนที่เขาลุกขึ้น ผมแกล้งหลับตา แกล้งผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ข่มตัวเองไม่ให้สั่น  มันสำเร็จ เขาไม่สนใจอะไร  แต่เมื่อเขาออกมาก็สังเกตเห็น  เขาเอาผ้าห่มผืนบางกว่าของเขามาห่มให้ผม  เขาห่มและล้มตัวลงมากอดผมไว้  ดูเหมือนตัวเขาสั่นนิดๆ ผมเผลอคิดไม่ได้ว่าเขาอาจกำลังร้องไห้  มันทำให้ผมรู้สึกอยากร้องตามนะ

“ขอบคุณ”  เขาจูบแก้มผม แล้วลงไปนอนยังที่ของเขา

คราวนี้ผมร้องจริงๆ

....................................

ผมตื่นเช้ามาด้วยตาบวมเป่ง ดีที่เขายังไม่ตื่น ผมรีบทำภารกิจยามเช้าก่อนที่เขาจะตื่นมาเห็นตาของผม   ขณะที่ผมเปิดประตูออกจากห้อง เสียงของเขาก็ออกมาข้างนอก

“วันนี้ฉันจะกลับละนะ”

ผมปิดประตู รีบวิ่งออกไป  ไม่หันไปมองอพาร์ทเม้นท์เก่าๆที่ผมลงทุนซื้อมาจากเจ้าของคนเดิมเพื่อรอเขา  ไม่หันไปมองห้องเก่าๆที่ผมไม่ยอมย้ายไปไหน  ผมไม่อยากไปทำงาน แต่ผมไม่ใช่คนที่จะเอาเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมาปนกัน ตลอดสิบปีที่ผมทำงานอยู่ที่เดิม กับเจ้านายคนเดิม ผมก็ไม่เคยมีเรื่องความรักให้ท่านหนักใจ ผมไม่เคยลางาน ผมทำงานตัวเป็นเกลียวเพียงเพื่อจ่ายค่าอพาร์ทเม้นท์หลังเก่าๆ

ผมเดินอย่างไร้วิญญาณเข้าตึกทำงานของผม  เจ้านายมักจะนั่งอยู่ที่ม้านั่งหน้าตึกเพื่อมองดูหน้าพนักงาน และทักทาย 
“อรุณสวัสดิ์ศศิน” ท่านยิ้มให้ผมอย่างคนแก่ยิ้มให้หลานๆ
“ครับ” ผมยิ้มให้ท่านเช่นกัน  ตอนที่ค้อมตัวผ่าน ท่านจับแขนผมไว้
“นั่งคุยกันก่อน”  ผมนั่งลงข้างๆท่าน พนักงานที่ผ่านเข้าตึกเหลือบมองผม
“ตาเป็นอะไร”
“ไม่รู้สิครับ”  ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรมากกว่า ผมว่าท่านรู้ ก็แค่ถามตามมารยาท
“รู้ไหมสิบปีมานี้ศศินเป็นคนที่ขยันที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จักเลย”
“ขอบคุณครับ”
“เมื่อวานฉันไปนั่งเปิดรูปเก่าๆ งานแต่งลูกชายฉันน่ะ เห็นเธอด้วยนะ”
“ครับ ผมเป็นเพื่อนเขา”
“แล้วฉันก็เห็นรูปของเธอกับลูกชายฉัน  ตอนเด็กๆเธอหล่อกว่าลูกชายฉันอีก ตอนนี้ก็ด้วยนะ”
“ขอบคุณครับ”
“รู้ไหมรูปนั้นมันแทรกอยู่หลังรูปงานแต่ง  ฉันหยิบออกมา พลิกข้างหลัง”
“ครับ”  ผมใจสั่น
“มันเขียนว่า  “ขอโทษ” มันหมายความว่าอะไรเหรอ”
“ผมไม่รู้สิครับ ทำไมไม่ลองถามลูกชายคุณล่ะ”
“ลูกชายฉันทะเลาะกับเมียมันน่ะสิ ป่านนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ศศินรู้มั้ย?”
“ผม...ไม่...ทราบ  คุณท่านครับ วันนี้ผมขอลาหยุดได้มั้ย”
เจ้านายผมเงียบไปชั่วอึดใจ พิจารณาใบหน้าของผมก่อนตอบตกลง 
ผมลุกออกจากม้านั่ง  เดินออกมา เดินไปเรื่อยๆ  ผมไม่อยากผ่านที่ๆผมเคยผ่าน  ไม่อยากรับรู้อะไรอีก  ผมว่านี่คือวิธีระงับจิตใจที่ดีที่สุดแล้ว  ไม่ต้องทำงาน  ไม่ต้องรอเขาอีก  ผมว่าผมจะขายอพาร์ทเม้นท์ทิ้ง กลับไปอยู่ต่างจังหวัด ถึงพ่อแม่จะตายจากไป แต่ผมยังมีญาติที่อยู่บ้านของผม  แค่ผมคนเดียว เขาคงให้ผมอยู่ได้ คนต่างจังหวัดไม่ใจร้าย ไม่เหมือนคนที่นี่...

“You are my sunshine, my only sunshine
You make me happy when skies are gray
You'll never know dear, how much I love you
Please don't take my sunshine away”*
“เพราะมั้ย?” เขาถาม ผมหัวเราะให้เขา
“หัวเราะทำไม” เขาขยี้หัวผมทีนึงก่อนหัวเราะตาม
“เป็นเสียงที่ขาดๆเกินๆ แต่ก็เพราะดี ความหมายก็ดี”
“ช่าย ฉันให้นายนะ แค่เฉพาะท่อนนี้ล่ะ”
“อืม ขอบคุณนะ” ผมพยักหน้ายิ้ม
“ให้เพลงฉันบางดิ ร้องเลย”
“อ่า....ฉันไม่มีเพลงให้นายหรอกนะ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่รักหนิ” ผมทิ้งท้ายอย่างเขินๆ เขาขยี้หัวผมอีกครั้ง แล้วกดผมลงบนเตียง....

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2015 23:11:42 โดย mukmaoY »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: It's you
«ตอบ #2 เมื่อ07-03-2015 22:29:33 »

ผมเดินมาเรื่อยๆตามที่ใจปรารถนา  หยุดที่ร้านกาแฟร้านเล็กๆข้างทาง  ดูคนไม่มากนัก ผมก้าวเข้าไป สั่งกาแฟดำหนึ่งถ้วย  แต่พอมันมาวางอยู่ที่โต๊ะผมกลับไม่แตะ เพราะผมไม่ดื่มกาแฟดำ ผมเพียงแค่สั่งให้เขา...
ผมมักจะมองเขาดื่มอย่างละเมียดละไม
แล้วเขาจะเหลือบตามามองผม
เขามักจะวางแก้ว แล้วยื่นหน้ามาจูบผม
พอผมรับรสของกาแฟดำอย่างพอใจ เขาจะถอนปากออกไป
ใบหน้าเหยเกของผม ลิ้นที่ขมปร่า  ทำให้เขาพอใจทุกครั้ง

ทำไมผมต้องจำเรื่องราวของเขาด้วย  สิบปีมาแล้ว ผมพยายามใจแข็ง  แต่เขาก็กลับทำให้ผมจำได้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  บางทีมันอาจจะผิดตั้งแต่ที่ผมไปงานแต่งเขา ร่วมยินดีกับเขา  เขาถึงคิดว่าผมอภัยให้เขา....

กริ๊ง     กริ๊ง
เสียงกระดิ่งหน้าประตูยามมีลูกค้าเข้ามาในร้าน  ผู้หญิงคนหนึ่งจูงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ  นั่งลงที่โต๊ะข้างๆ โต๊ะผม  ผมจำได้ทันทีว่าเธอคือใคร   ผมอยากจะลุกขึ้น  แต่บางอย่างก็ดูอ้อยอิ่งเกินกว่าจะทำอะไรได้  เสียงเพลงของนักร้องสมัยใหม่เปิดคลอในร้าน  เสียงของเธอช่างเศร้าหมองจนผมอยากร้องไห้ ผมว่าเธอร้องแต่เพลงเศร้ามากเกินไป ผมจึงอยากร้องไห้ให้กับเธอเหมือนกัน

But i won't cry myself to sleep, like a sucker.
I won't cry myself to sleep, if i do, i'll die.
Now you fall asleep with another, damn you, damn you.**

ผมยิ้มให้กับตัวเอง เป็นเพลงที่แรงจริงๆ และหยุดความคิดอยากร้องไห้ของผมได้ชะงัดนัก  แต่สักพักใครบางคนก็ก้าวเข้ามา  เสียงกระดิ่งก้องกังวานอยู่ในหูผม  ผมเสหน้าไปทางอื่น ทำเหมือนกับว่าไม่เห็นเขา   เขาเดินมาหาและเบี่ยงตัวไปนั่งโต๊ะข้างๆ ที่ๆมีภรรยาของเขานั่งอยู่  ผมว่าผมควรออกไป

ผมเดินออกมาจากร้าน  ขณะที่เดินมาเรื่อยๆ  ผมก็นึกได้ว่ากาแฟที่ตัวเองสั่งนั้นมันยังวางอยู่ที่โต๊ะ  เขาคงสังเกตเห็นแน่ๆ  ทำไมผมไม่ฝืนดื่มมันให้หมดนะ

RRRR  RRR

มือถือเครื่องเล็กสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง เป็นเบอร์ใหม่ ผมลองกดรับ
“นายอยู่ที่ไหนเหรอ” เขานั่นเอง
“ทำงานอยู่”
“เมื่อกี๊ฉันว่าฉันเห็นนายด้วยแหละ โทรมาจะขอบคุณอ่ะ นี่จะให้คุยกับลูกสาวฉันด้วยนะ พิมพ์บอกว่าอยากขอบคุณเพื่อนของปะป๊า คุยหน่อยนะ”  เสียงเงียบหายไป  มีเพียงเสียงกุกกัก

“คุณอา”
“ครับ”
“ขอบคุณคะ ป๊ากับม้าดีกันแล้ว คุณอาพูดไฟท์โต้ดิ๊” 
ผมอึกอัก แต่เด็กคนนี้พูดไฟท์โต้ซ้ำไปซ้ำมา  “ฟะ ไฟท์โต้”  ผมพูดให้ตัวเองฟัง

“บอกรักฉันหน่อยดิ”  เขาก้มลงจูบผม แล้วพร่ำบอกฉันรักนายไม่หยุด
“บอกบ่อยๆจะสำคัญมั้ย”
“นายน่ะมันปากแข็ง ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ดิ” จมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ติ่งหู
“อยากบอกเดี๋ยวจะบอกเอง”
“น่านะ สู้ๆหน่อยสิ ไฟท์โต้”  เขาขบเม้มที่ต้นคอ
“ไม่บอกหรอก”
“อืม”  แล้วเขาก็หยุด  จากนั้นก็ออกจากห้องไป


ผมเดินกลับมาที่ห้องของตัวเอง  ไม่มีของๆเขาอีกต่อไปแล้ว....

.........................

ผมกลับมาเป็นมนุษย์เงินเดือนอีกครั้ง  ผมพยายามลืมเรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อนโดยการกินแต่กาแฟดำ  รสชาติของมันขมปร่า  พอผมดื่มมัน  ผมจะรู้สึกแต่ความขม  ผมจะคิดแค่ว่ามันขม และทำยังไงผมจึงจะหายขม  วิธีนี้ช่วยการลืมเขาได้มาก  แต่สิ่งเดียวที่มันช่วยไม่ได้คือเรื่องที่เขาชอบดื่มกาแฟดำ

วันนี้เป็นวันหยุด ผมมักจะหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน  ผมไม่เคยมีใครมาปลอบโยน ผมอยู่กับตัวเองมาสิบปีจนชิน
 เสียงข้อความเข้า  ผมกดอ่าน  ‘เปิดประตูห้องหน่อย’

“ขออยู่ด้วยสักพักนะ”  ชายร่างสูง หนวดเคราเฟิ้มยิ้มให้ผม  เขาก้าวเข้ามาในห้องโดยที่ผมยังไม่อนุญาต เขาวางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลง ก่อนจะหันมาหาผม กอดผม  จูบผมแผ่วเบา

“ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ”
“ช่าย ครั้งนี้แรงไปหน่อย ว่าจะหย่าเลยอ่ะ” เขายังคงคลอเคลียผม
“นายไม่น่าทำแบบนี้นะ”  ผมเริ่มขืนตัว
เขาไม่สนใจ “รู้มั้ยว่าครั้งนี้เมียฉันเจอฉันนอนกับผู้ชายแหละ”
“นายเป็นโรคขาดเซ็กส์ไม่ได้เหรอ”
“เปล่า”
“แล้วนายทำเหมือนอยากนอนกับฉันทำไม”
“ฉันนอนได้กับทุกคนนั่นแหละ”  เขาผลักผมลงกับเตียง
“นายยังรักฉันใช่ไหม”  เขาถาม ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้น ขณะที่ผมตัวแข็งทื่อ
“ตั้งสิบปี นายยังอยู่ที่เดิม ทำงานที่บริษัทพ่อ” เขาเลิกเสื้อผมขึ้น  ดูดดุนตุ่มไตเล็กที่มีไม่เท่าผู้หญิง  มืออีกข้างเลื่อนต่ำลง ดึงกางเกงบอลออกอยากง่ายดาย

“ทำไมนายไม่ลืมฉัน?”  เขาดึงชิ้นส่วนปกปิดสุดท้ายบนร่างกายผมออกไป  เดินไปหยิบโลชั่นทาตัวธรรมดาๆมาจากโต๊ะเครื่องแป้ง  ป้ายมันลงที่จุดต่ำสุด
“ทำไมนายถึงอยากเอาฉัน” ผมลุกขึ้นนั่ง
“ตอบคำถามฉันก่อนสิ” เขาผลักผมลงไปแบบเดิม  หยิบถุงยางมาจากกระเป๋าเดินทาง  ยกขาผมขึ้น แล้วสอดแก่นกายเข้ามาสุดลำ  ผมรู้ว่ามันจะต้องเจ็บมาก  มันไม่เคยถูกใช้งานมาตั้งสิบปี  ผมจึงกัดปากตัวเองเอาไว้  ผมจะไม่ปล่อยให้ตัณหาของเขามาครอบงำผม  ถึงผมจะเจ็บ แต่ผมจะจำแค่ว่าผมเจ็บปากเท่านั้น

“ร้องเซ่! นายไม่เคยร้องไห้ให้ฉันเห็นเลยนะ” เขากระแทกเข้ามาซ้ำๆ รุนแรงเหมือนสัตว์ป่า  เขาไม่ช่วยผมให้รู้สึกดีไปกับเขา  เขาปลดปล่อยความต้องการของตัวเองหลายครั้ง  ขณะที่ปากผมมีแต่เลือด เขาจึงไม่คิดจะจูบ
จวบจนครั้งที่สี่  เขาเสร็จสม  เขาเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ
เขาเดินออกมาพร้อมผ้าชุบน้ำเปียกๆ  เช็ดลงที่ปากผม เลือดเต็มผ้านั้น
เขาใช้ผ้าผืนเดิมเช็ดที่หว่างขา   มันมีแต่คราบน่ารังเกียจ

เขาผ่อนแอร์ ก่อนเอาผ้าห่มผืนบางมาห่มให้
ผมหลับตาลง

“นายมันก็น่าเบื่อเหมือนเดิมนั่นแหละ”

.....................

ผมจับไข้ 
ผมตื่นเช้ามาโดยที่เขากำลังเช็ดตัวให้

“อยากกินอะไร” เขาถาม
“โจ๊ก”  ผมตอบไปส่งๆ เป็นอาหารเช้าอย่างเดียวที่ผมนึกออก แล้วเขาก็ออกไป
ผมเคลิ้มหลับอีกครั้ง  จนเมื่อตื่นขึ้นมาก็สิบโมงกว่าแล้ว  เขายังไม่กลับมา
ผมเดินออกไป หวังรับลม  แต่ก็เห็นถุงโจ๊กกับยาแขวนไว้หน้าประตู 
ผมกลับไปที่ห้อง     กระเป๋าเขาหายไปแล้ว

.....บางทีผมก็รู้สึกว่าสักวันหนึ่งผมอาจจะทิ้งตัวเองลงจากอพาร์ทเม้นท์ก็ได้  ดังนั้นผมควรจะไปจากที่นี่จริงๆจังๆสักที
ผมกำลังเก็บข้าวของลงกล่องลัง  ยังไม่ได้ขอลาออกจากงาน  ลูกน้องโทรมาหาผมสิบกว่าสาย แต่ผมก็ไม่ได้รับ  ผมแค่ไม่อยากถูกอะไรรบกวน เพราะการที่เราเก็บของไม่เสร็จ ก็เท่ากับว่าเราจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้

เสียงเคาะประตูดังขึ้น  ผมลุกไปเปิด

“ขอเข้าไปหน่อยนะ”  เขาเข้ามา  ไม่มีกระเป๋าเดินทาง มีแต่ตัวเปล่า

“ทำอะไรอ่ะ หายไข้แล้วเหรอถึงลุกมาเก็บของแบบนี้”  เขาเดินมาแตะหน้าผาก
“กินยาหรือยัง”
“กินแล้ว” ผมนั่งลงแพ็คกล่องต่อ
“จะไปไหน?”
“จะย้ายแล้ว”
เขาไม่พูดอะไรต่อ  แค่นั่งลงที่โซฟา เปิดทีวี  ช่องเคเบิลสรรหาเพลงเก่าๆมาเปิด แต่ทำไมต้องเป็นเพลงนี้

You are my sunshine, my only sunshine
You make me happy when skies are gray
You'll never know dear, how much I love you
Please don't take my sunshine away

I'll always love you and make you happy,
If you will only say the same.
But if you leave me and love another,
You'll regret it all some day.

“นายไม่รู้หรอกว่าฉันเคยรักนายมากแค่ไหน”  นายต่างหากที่ไม่รู้...
“นายเคยเสียใจมั้ยที่เลิกกับฉัน” ผมถาม
“ไม่นะ” เขาตอบแทบจะทันที
“นายเขียนที่รูปของเราว่าขอโทษทำไม” 
เขาทำท่าคิด  “ขอโทษที่ทำให้นายเสียเวลากับคนอย่างฉัน”
“เพลงเพราะนะ” ผมอมยิ้ม
“แต่สุดท้ายเนื้อเพลงมันเศร้านะ”   
“ฉันก็ว่างั้น”

You told me once, dear, you really loved me
And no one else could come between.
But now you've left me and love another;
You have shattered all of my dreams.....



“นายจะไปแล้วจริงๆเหรอ?”  เขาเอ่ยขึ้นหลังจากเราเงียบอยู่นาน
“อื้ม ฉันจะขายที่นี่”
“ฉันซื้อต่อนะ เอาไว้อยู่หลังเลิกกับเมีย”
“นายไม่สงสารลูกเหรอ” ผมแพ็คของเสร็จแล้ว
“ก็สลับกันเลี้ยงสิ ง่ายจะตาย”
“นายนี่ใช้ชีวิตเรียบง่ายจังนะ”
“ใครจะน่าเบื่อเหมือนนายล่ะ”
บางทีผมก็รู้สึกอยากกระโดดลงจากที่นี่จริงๆ

“นายจะไปไหน?” เขาคว้ามือผมไว้  และผมก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองกำลังเปิดประตู
“เอ่อ นั่นสิ”  ผมยิ้มเจื่อน เดินกลับมานั่งโซฟา เปลี่ยนช่องทีวี
“ฉันนึกว่านายจะไปกระโดดตึก”
“นั่นสิ”
ผมว่าผมจะทำจริงๆนะ


...................

สุดท้ายแล้ว เพราะเขายังไม่ยอมออกจากห้อง นั่นทำให้ผมไปจากที่นี่ไม่ได้  ผมอดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจจะอยากให้ผมอยู่  แต่ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเองขนาดนั้น  ผมไม่อยากเป็นคนแบบนั้น
ตีหนึ่งสิบนาที ผมรู้สึกเวียนหัว รู้สึกว่าของในกระเพาะกำลังเคลื่อนที่มาจุกคอหอย  ผมวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปที่ห้องน้ำ  โก่งคออาเจียน  พยายามกลั้นเสียงอาเจียนอย่างยากลำบาก ผมกลัวเขาจะตื่น
ผมทรมาน เหมือนหัวจะแตกเป็นล้านๆชิ้น  รสขมปร่าจนอยากอาเจียนใหม่อีกรอบ  ผมเกลียดอาเจียนที่สุด เกลียดการที่ต้องโก่งคอ เกลียดกลิ่นของมัน  ผมกดชักโครก  นั่งหอบแฮ่กอยู่ในห้องน้ำ

“ทำไมต้องฝืนตัวเองล่ะ เสียงแม่งฟังแล้วทรมาน”  เขาเดินเข้ามาหาผม ผมกระเถิบหนี ผมกลัวว่าเขาจะได้กลิ่นอาเจียน  ผมรู้ว่าเขาไม่ชอบ  แต่เขาก็นั่งลงข้างๆ ลงมือขยี้หัวผม หัวเราะเหมือนสะใจ

“ตอนที่เราเจอกันครั้งแรกนายก็อ้วกนะ”

มันน่าสมเพช   ผมเห็นอาเจียนของใครก็ไม่รู้กองกระจายอยู่เต็มพื้น  ผมตกใจจนตัวสั่น  พยายามวิ่งหนี แต่ผมชนเข้ากับใครบางคนจนล้ม  มื้อเปื้อนอาเจียน แล้วผมก็อาเจียนออกมา
“นายกลัวอ้วกเหรอ”
“ใครไม่รังกียจบ้าง”
เขาพาผมมาล้างมือล้างหน้าที่ห้องน้ำ  เขาทะนุถนอมผม เขาดูแลผม เพียงแค่ไม่กี่นาที ก็ทำให้ผมใจสั่นได้
“ฉันก็เกลียดมันนะ” เขายิ้มปลอบ ผมจึงยิ้มตาม



แต่ครั้งนี้ต่างออกไป  เขาไม่สนใจผมอีกแล้ว  เขาก็แค่นั่งข้างๆ ฟังผมหอบ คล้ายจะร้องไห้ แต่ก็ไม่ร้อง  ผมเหนื่อย  เหนื่อยมาก  ผมอยากนอน
“อยากนอนมั้ย”
“อื้ม” 
เขาพยุงตัวผม   วางลงบนเตียง  สาบเสื้อเลิกขึ้น ผมเห็นสายตาของเขา
“นายจะเอาฉันก็ได้นะ”
แล้วเขาก็โน้มตัวลงมา
เขาไม่จูบผม  คงเพราะกลิ่นอ้วก  เขารักษาระยะห่างระหว่างใบหน้าของผมกับหน้าเขาไว้   เขาแค่ทำแบบเดิม  หยิบโลชั่น  หยิบถุงยาง  กระแทกกระทั้นเข้ามา  ทำเหมือนผมเป็นไอ้ตัวคนหนึ่ง เป็นโถส้วม เป็นที่ปลดปล่อย 
แค่นั้นก็พอ
อย่าให้ผมรู้สึกอะไรกับเขาอีก    .... แค่นั้นก็พอ....



ตีสามสามสิบเจ็ดนาที  ผมลืมตาขึ้นมามองดูนาฬิกาที่กำเอาไว้   เขากำลังนอนกอดผมอยู่จากด้านหลัง  ลมหายใจสม่ำเสมอ  ผมอยากหันหน้าไปมองเขา   แต่กลัวเขาตื่นและได้กลิ่นอ้วก
“The other night dear, as I lay sleeping
I dreamed I held you in my arms~”
ผมฮัมเพลงเบาๆ ถึงผมจะไม่ได้กอดเขา แต่ท่อนนี้ก็เหมาะที่สุดแล้ว  ผมไม่เคยร้องเพลง ไม่เคยหาความสุขใส่ตัวเอง  แต่ตอนนี้ผมรู้สึกหัวใจพองโต  นึกถึงวันเก่าๆ เมื่อสิบปีก่อน

“เพราะดีนี่” จู่ๆเขาก็พูด ผมตกใจ ผมไม่อยากให้เขาได้ยินเลย
“ทำไมนายไม่ลืมฉันสักที....” เขากล่าว แล้วเงียบไป
ฉันอยากลืมจะตาย   แต่นายนั่นแหละกลับเข้ามาเอง....


ตีสี่  เขาลุกไปเข้าห้องน้ำ   แล้วกลับมานอนกอดผมต่อ
“ฉันเคยรักนายมากนะ” เขาพูดเสียงแผ่วเบา
เขาจะตอกย้ำผมทำไม

“นายบอกว่าฉันน่าเบื่อ แต่นายคบกับฉันทำไมเหรอ?” ผมนอนไม่หลับแล้ว
“ฉันชอบคนน่าเบื่อ”
ผมหัวเราะแห้งๆ
“ทำไมนายถึงกลับมา”
“ฉันอยากเห็นหน้านาย”
“อยากเห็นว่ายังเป็นคนอยู่รึเปล่าเหรอ”
คราวนี้เขาหัวเราะแห้งๆบ้าง
“ตั้งสิบปีนะกันต์”  ผมไม่อยากพูดอะไรต่อแล้ว ตั้งสิบปี  เขาเพิ่งคิดได้เมื่อสิบปีผ่านไปหรือยังไง
 “เราสามสิบกว่ากันแล้วนะ ฉันรู้ แต่คนบางคนก็ต้องให้เวลาเขาบ้าง” เขาจูบไหล่ผม

“ฉันเคยรักนายมากนะ แต่นายอ่ะ รักฉันน้อยไป”

คนบางคน....นายก็ต้องให้เวลาเขาทบทวนหัวใจด้วยนะ


..........................

ตัวผมร้อนผ่าว  ผมแทบไม่มีแรงพยุงหัวตัวเองขึ้นมามองเขาแกะข้าวของของผมออกจากลัง  จัดมันกลับเข้าที่เดิม  เขาทำอยู่ทั้งวัน ทั้งดูแลผมไปด้วย  ผมอาเจียนไปสองรอบหลังอาหาร  รู้สึกว่าท้องโล่ง  แต่ไม่อยากกินอะไรแน่นอน  ผมไม่อยากไปหาหมอ  พูดง่ายๆคือกลัวหมอ  ไม่อยากให้ใครเห็นสีหน้าตอนป่วย  มันคงน่าสมเพช  ผมอยากรู้ว่าเขาจะจากไปอีกเมื่อไหร่  จะทิ้งผมไปอีกเมื่อไหร่  จะเบื่อผมอีกเมื่อไหร่

“กินข้าวซะเอ้า”  เขายื่นช้อนสีเงินมาให้  แต่ผมไม่อ้าปาก  หัวผมหนักอึ้ง  ผมอยากกระโดดลงไปให้มันกระแทกพื้นซะให้รู้แล้วรู้รอด
“นายอ้วกไปสองครั้งแล้ว นายต้องกินข้าวแล้วกินยาสิ”
“นายไม่ต้องดูแลฉันหรอก” ผมตอบอย่างเหม่อลอย
“แต่ฉันทำนายไม่สบายนะ”
“ถ้านายไม่ได้เป็นคนทำ นายจะไม่ดูแลฉันใช่มั้ย”
“บ้าน่า  เป็นไข้แล้วเพ้อรึเปล่าเนี่ย ดราม่าว่ะ”
“เมื่อไหร่ที่นายจะทิ้งฉันไปอีกเหรอ”
เขายกมือกุมขมับ
“สิบปีที่ผ่านมา นายนึกถึงฉันตอนทะเลาะกับแฟน นายกลับมา แล้วก็ทำให้ฉันเจ็บทั้งกาย ทั้งใจ ฉันรู้ว่าถ้าฉันหาย นายก็จะหายไปด้วย”

เขาวางข้าวลงกับพื้น ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นี่ตั้งสิบปี ฉันทะเลาะกับเมียทุกปีนั่นแหละ”

“แล้วทำไมต้องรอถึงสิบปี”
“ไม่รู้”
“นายจะรอจนฉันแก่ตายก็ได้นะ ค่อยมาหาฉัน”
“อย่าประชดน่า กินข้าวเถอะ”  เขาเปลี่ยนเรื่อง

“นายช่วยฉันหน่อย” ผมยื่นมือไปจับมือเขา
“จับฉันโยนลงไปจากที่นี่ที”
เขาสะบัดมือทิ้ง ยัดช้อนเข้ามาในปากอย่างแรง  ผมไม่มีแรงแม้แต่จะร้องโอย  ปากที่บวมอยู่แล้ว โดนช้อนกระแทก โดนข้าวอุ่นๆ  ผมอยากจะอาเจียน
น้ำอุ่นไหลเป็นทาง ตกลงสู่หมอน
เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นน้ำตาของผม  เขาเบิกตาโพลง  รีบเอามือมาปาดมันออก

“นายเอาฉันที”
“ไม่เอาแล้ว”
“เพราะนายจะทิ้งฉันอีกแล้วใช่มั้ย”
“นายไม่เคยพูดมากขนาดนี้เลยนะ”  เขายัดข้าวเข้ามาอีกคำ
กินข้าวกับน้ำตามันเป็นอย่างนี้นี่เอง  ไม่อร่อย  ขมขื่นยิ่งกว่ากินมะระเข้าไปทั้งลูก  แรงเคี้ยวก็ไม่ค่อยมี ปากบวมเป่ง จนรู้สึกรสเลือด  ไม่อร่อยสักนิด

.......................

สองวันให้หลัง ผมหายดีเป็นปลิดทิ้ง  ผมมองดูเขากำลังเปิดประตูออกไป  ผมอยากรั้งเขาไว้  แต่ก็เหมือนๆเดิม ผมไม่มีความกล้ามากพอ  ในเมื่อเขาไม่ได้รักผมอีกแล้ว เราก็ไม่ควรรั้งเขาไว้ ถูกไหม?

ประตูปิดลง  เอาแสงสว่างออกไปจากห้อง  เสียงฝีเท้าของเขาจางหายไป จางหายไป

“นายทิ้งฉันอีกแล้วนะ”




ผมกลับมาเป็นหุ่นยนต์  ตื่นเช้าไปทำงาน ตกเย็นกลับบ้าน แล้วก็นอน  ทำอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมา  บางทีผมอาจจะเป็นหุ่นยนต์จริงๆก็ได้  แต่สิ่งที่เตือนผมเสมอว่าตัวเองไม่ใช่หุ่นยนต์ ก็คงจะเป็นเสียงหัวใจกระมัง 
ตอนที่เคยคบกัน ผมรู้ตัวว่าผมค่อนข้างเก็บความรู้สึกมากไป แต่เขามักจะยิ้มและหัวเราะเวลาที่ผมแสร้งเก็บอารมณ์   เขาเข้าใจผม  และผมก็เข้าใจเขา

วันนี้วันหยุด ผมนอนอยู่บ้านเช่นเคย  ส่วนลึกข้างใน ผมก็อยากให้เขากลับมา  แต่ใครจะทนกับคนน่าเบื่อละ  เขาหน้าตาดี มีมนุษย์สัมพันธ์  อยากคบกับใครก็สมหวังไปเสียหมด
ผมเฝ้ารอแต่เสียงเคาะประตู  ......... ทุกวัน
บางวันผมก็หลอนตัวเอง  ว่าได้ยินเสียงนั้น  ผมเดินไปเปิด  และพบกับความว่างเปล่า  ดังนั้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู  ผมจะไม่เปิดทันที ผมต้องรอ  รอให้มีเสียงอีก จึงจะเปิด

ก๊อก.ๆ...

ผมไม่สนใจ

“เปิดหน่อย”

หุ่นยนต์อย่างผมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย 
ชายร่างสูง ใบหน้าไร้หนวด  ผมก็ดูสั้นลง ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
“ขอเช่าสักห้องสิ”  เขานั่งลงบนโซฟา วางกระเป๋าลง

“ไม่เปิดให้เช่า”

“แต่นี่มันอพาร์ทเม้นท์นะ”

“ฉันกำลังปรับปรุง”  ผมนั่งลงข้างเขา

“ทำไมนายรอฉันล่ะ”
“ใครบอก”
“นายบอกว่าจะย้าย จะขาย แต่ก็ยังอยู่” เขายิ้ม จับมือผมไปนวดคลึง
“นายแค่เคยรักฉันจริงๆเหรอ” ผมหันไปถาม
“รสนิยมชอบคนน่าเบื่อของฉันยังไม่เปลี่ยนหรอกนะ”  เขาวางมือผมลง

“นายมีอะไรจะพูดมั้ย”
มีสิ....แต่ไม่กล้า
“นายน่ะ ไม่เหนื่อยเหรอ”
เหนื่อยสิ
“สิบปีแล้ว นายยังคิดไม่ได้อีกเหรอ”
ขอโทษนะ...
“ฉันหย่าแล้วนะ ฉันว่าบางทีคนเราสัญญาอะไรไว้ก็ต้องทำตามสัญญา แล้วนายล่ะ?”


แหวนสีเงินเกลี้ยงถูกสวมที่นิ้วนางข้างซ้าย
“ถ้ามีกฎหมายเพศเดียวกันแต่งงานกันได้เมื่อไหร่ เราต้องแต่งงานกันนะ”
ผมพยักหน้า ตื้นตันจนพูดไม่ออก
“พรุ่งนี้นายไปเลือกแหวนให้ฉันนะ”
“อื้ม”
“รู้รึเปล่าว่าฉันอ่ะ อยากอยู่กับนายจนตายเลย เราจะมีบ้าน มีลูก ถ้ามีได้อ่ะนะ” เขากอดผมแน่นและหัวเราะกับสิ่งที่ตัวเองพูด


ผมเดินไปหยิบกล่องไม้เก่าๆที่อยู่บนชั้นหนังสือมาเปิด  ข้างในมีแหวนสีเงินกลมเกลี้ยงวงหนึ่ง  เขาหยิบมันขึ้นมา  ไม่ทำอะไรไปมากกว่านั้น  ผมหลุบตาต่ำลง  มองเท้าตัวเอง ฝ่ามือมีแต่เหงื่อ กำกล่องไม้
“สวยดีนะ” เขาเอ่ย
“ฉันขอได้มั้ย”   ผมพยักหน้าให้
เขาจับกระเป๋า  ลากมันออกไปที่ประตู  ผมเหมือนจะตัวสั่น  แต่ผมก็ยังคงนั่งอยู่ที่โซฟา  เขามองผมอนู่นาน  แสงสว่างค่อยๆหายไป

“กันต์!!!”
ประตูหยุดชะงัก  ผมล้มลงอยู่ตรงหน้าเขา






“ฉันยังรักนายนะ อยู่กับฉันเถอะ”

เขาหัวเราะแผ่วเบา ทิ้งตัวลงมาโอบกอดผม  ผมร้องไห้ในอ้อมอกเขา
เป็นครั้งแรก และครั้งเดียวที่ผมร้องไห้มากที่สุดในชีวิต

In all my dreams, dear, you seem to leave me
When I awake my poor heart pains.
So when you come back and make me happy
I'll forgive you dear, I'll take all the blame.


......
*You’re My Sunshine-Johny Cash
**Damn You-Lana Del Rey



เป็นนิยายที่แต่งไว้นานนนนนนแล้ว
เคยลงมาแล้ว
และน่าจะถูกลบไปแล้ว
เสียดายคอมเม้นท์เก่ามากๆ   :mew4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2015 23:14:25 โดย mukmaoY »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
Re: It's you
«ตอบ #3 เมื่อ07-03-2015 23:27:16 »

หน่วง.อย่าบอกนะว่าที่ทิ้งไปเพราะ ไม่เอ่ยคำว่ารัก.แค่นั้น? ลองใจ? พูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ. :o12:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
Re: It's you
«ตอบ #4 เมื่อ08-03-2015 09:20:33 »

 :sad4:  ทำไมมันเศร้าอย่างนี้ เจ็บแค่ไหนก็ยังรัก

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: It's you
«ตอบ #5 เมื่อ08-03-2015 10:28:31 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #6 เมื่อ02-05-2015 15:18:04 »

เศร้าจัง .... ขอให้เป็นแค่เรื่องแต่งอย่าให้เกิดขึ้นกับใครเลย คงทรมานแน่ ๆ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ piengtavan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • UEDA_ARAMORD
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #7 เมื่อ19-06-2015 10:44:36 »

เวรกรรม ทำไมไม่เอาส่ง รพ วะ หาาา มานั่งทำซึ้ง มันจะรอดไหมวะ?? แม่มมมมม
แล้วถ้ารอดนะ เลิกได้แล้ว สิบปีที่ไม่เปลี่ยนแปลง บอกอะไรกับมันไม่ได้นี่แดกหญ้าขนแทน้มล๋ดข้าวเถอะ เราเสียใจแทนชาวนา หึยยยยยยย
ขึ้นๆๆ อินมากๆ

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #8 เมื่อ20-06-2015 20:40:51 »

 :katai1:อ่านแล้วอิน. หน่วงมากๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #9 เมื่อ21-06-2015 13:10:53 »

เราไม่ค่อยเข้าใจความคิดของกันต์แฮะ แต่คู่นี้ก็ดูออก sm อยู่ ไม่ได้หมายถึงด้านร่างกายนะแต่หมายถึงกระทำทางด้านความรู้สึก แต่นิยายสนุกดีค่ะ สั้นกระชับและจบได้ชัดเจนดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
« ตอบ #9 เมื่อ: 21-06-2015 13:10:53 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ped-noi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #10 เมื่อ17-07-2015 13:38:07 »

เศร้าจัง คนหนึ่งอยากให้บอกว่าอย่าไป อีกคนก็ไม่พูดสักที  :ling1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #11 เมื่อ26-07-2015 21:56:51 »

รักแบบนี้มีความสุขมั้ย :pig4:

ออฟไลน์ Aumy8059yaoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #12 เมื่อ27-07-2015 09:15:41 »

หน่วงได้อีก!!!!!!  :katai1:
แต่เค้าไม่เข้าใจความคิดอิกันต์อ่ะ!!!! :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #13 เมื่อ30-07-2015 09:49:26 »

สุดยอดของความเศร้า
ต้องใช้เวลาอีกกี่ปี
กว่าความเศร้าจะจางไป

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #14 เมื่อ14-10-2015 23:32:12 »

ดราม่าขนาดนี้
ตัดคอทิ้งเลยเหอะ

ชอบ..สุดสุด
+1 เล๊ยยย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #15 เมื่อ15-10-2015 14:00:15 »

ทั้งอยากด่า ทั้งสงสาร :hao5:
สิบปีนานไปไหมอ่ะ ยิ่งตอนเหมือนคิดจะโดดตึกตายนี่บีบหัวใจจัง  :mew6:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #16 เมื่อ18-03-2016 01:27:15 »

เรื่องนี้เศร้าจริงๆ เราร้องไห้ทั้งเรื่องเลย

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #17 เมื่อ18-03-2016 10:29:48 »

 :ling1:

เรื่องหน่วงหัวใจมาอีกเรื่องแล้ว

สิบปีที่ผ่านไป กันต์มีลูก มีครอบครัว

ทำไมถึงกลับมาหาศศินทำไม?

ถึงบอกว่าทำตามสัญญา แต่ทรมานศศินมาจนถึงตอนนี้ยังไม่ปล่อยเขาไปอีกเลย

เหอะๆ  :ling2: :ling2:

ออฟไลน์ Cloudnine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 730
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #18 เมื่อ26-08-2016 10:50:34 »

 :mew5: นายกันต์!! ค่าน้ำมันรถมันถูกนักเรอะ! นึกจะมาก็มา จะไปก็ไป

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #19 เมื่อ28-08-2016 01:27:20 »

หน่วงได้ซะใจมากชอบนิยายหน่วงๆแบบนี้  :katai4:
 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
« ตอบ #19 เมื่อ: 28-08-2016 01:27:20 »





ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #20 เมื่อ03-11-2017 04:27:44 »

ยอมแพ้ความซาดิสม์ทางอารมณ์ของสองคนนี้เลยค่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 574
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #21 เมื่อ24-01-2018 21:16:32 »

คนเขียนเขียนดีจัง
ทั้งสองคนน่ากลัวตรงการกระทำและความคิดในคนละแบบ
อ่านแล้วรู้สึกทรมาณ เหมือนจะหายใจไม่ออกเลย
 :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #22 เมื่อ25-01-2018 07:48:49 »

 :hao5:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #23 เมื่อ25-01-2018 10:07:07 »

ในหัวมีคำว่า อะไรวะ อะไรวะ อะไรวะ อะไรวะ อะไรวะ อะไรวะ อะไรวะ เต็มไปหมด
ชีวิตต้องเศร้าขนาดนี้ไหม โอยยยยยยยยยยยย สงสารตัวเอกชิบหาย  :serius2:

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ "It's you"
«ตอบ #24 เมื่อ07-02-2018 01:44:15 »

ฮื่อหน่วงมากก ต้องปล่อยให้ผ่านไปอีกกี่ปี :ling3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด