Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love] อัพตอน20 (12/09/59) End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love] อัพตอน20 (12/09/59) End  (อ่าน 65052 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม





*****************************************************************************************
ผลงานจางบิวตี้

เซต ครอบครัวเทพพยัคฆ์
Dragon's Love รักร้ายนายมังกร (จบแล้ว)
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51339.0

Lion's Love รักร้ายนายเย็นชา (จบแล้ว)
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52668.0

Tiger's Love รักร้ายนายเพลย์บอย
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54447.0

Fox's Love รักร้ายนายเจ้าเล่ห์
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55655.0




เซต Poor Boy
Poor Boy รักนี้ไม่มีเสียง (จบแล้ว)
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51770.0

Poor Boy รักไม่ได้
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54025.0


Poor Boy รักที่มองไม่เห็น
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55595.0




เซต Sex toy
Sex Toy ผมถูกบังคับให้ขายตัว (จบแล้ว)
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52620.0

Sex Toy ผมไม่ได้ขายตัวเว้ย!
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54540.0


Sex Toy ผมขายตัวครับ!
V
V
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55704.0
[/color][/size]

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2016 22:43:09 โดย Jang_B2UTY »

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Re: Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love]
«ตอบ #1 เมื่อ26-05-2016 16:33:56 »

Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love]

Open : 26/05/59
Close : 12/09/59



Sam : พิการแต่แม่งเสือกแรด มึงมันก็ไม่ต่างอะไรจากแม่มึงจริงๆ!

Smile : ฮึก...คุณจะว่าผมยังไงก็ได้แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าแม่ของผม!






เปิดเรื่องที่สองของเซต Poor Boyค่า!!! ทั้งสองเรื่องไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันนะคะแต่เป็นคอนเซ็ปตามชื่อเรื่องเท่านั้นคือ Poor Boy

ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ดราม่า(?) ไม่แพ้เรื่องน้องเทียนกับพี่วินแน่นอน เผื่อจะมีคนชอบแนวนี้ อิๆ ^ ^
___จางบิวตี้___



[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2016 21:04:25 โดย Jang_B2UTY »

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Re: Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love]
«ตอบ #2 เมื่อ26-05-2016 16:36:39 »

Intro

...1 ปีก่อน...


‘มึงสินะไอ้เป๋ที่มาเป็นกาฝากอยู่ในบ้านของกู’

‘ผมชื่อสไมล์ ไม่ได้ชื่อเป๋’

-------------------------------------------------------------------------

‘แรด ร่าน คิดจะมาอ่อยพี่ชายกู มึงอย่าได้ฝันสูง!’

‘ผมไม่เคยทำแบบนั้น ไม่เคยแม้แต่คิด’


-------------------------------------------------------------------------
...1 ปี ต่อมา...

‘คุณเคยเกลียดผมไม่ใช่เหรอ อย่ามากลืนน้ำลายตัวเองก็แล้วกัน!’

‘มะ...มึง’


-------------------------------------------------------------------------

‘ยั่วนักใช่มั้ย เดี๋ยวกูจะกระแทกให้เอวหัก!’

‘ถ้าคุณยอมกลืนน้ำลายตัวเองก็ลองดู ’


-------------------------------------------------------------------------

‘คุณก็รู้ว่าเรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ เรารักกันไม่ได้!’

‘แค่มึงรักกู กูรักมึงก็พอ คนอื่นไม่มีสิทธิ์ตัดสิน!!’

















Intro งงๆอีกแล้ว 55555 คือคล้ายๆเรื่องน้องเทียนกับพี่วินนะคะมีทั้งอดีตและปัจจุบันแต่นี่แค่ปีเดียวพอ คู่นั้นมันนานเกินไป  ยัง

ไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ จุ๊บๆ
___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love]
«ตอบ #3 เมื่อ26-05-2016 18:36:12 »

ติดตามตลอดค่ะ :mew2:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love]
«ตอบ #4 เมื่อ26-05-2016 20:16:16 »

รอออออ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Re: Poor Boy…รักไม่ได้ [Yaoi Boy’s Love]
«ตอบ #5 เมื่อ01-06-2016 18:32:52 »

Poor Boy 1

 

          เสียงหัวเราะเจือยแจ้วดังออกมาจากรถยนต์คันหรูที่กำลังขับกลับบ้านหลังจากที่ไปเที่ยวพักร้อนด้วยกันทั้งครอบครัว

‘สไมล์’ หนุ่มน้อยวัยสิบแปดปีที่กำลังพูดไปหัวเราะไปอย่างน่ารักจนผู้เป็นพ่อและแม่ที่นั่งอยู่ข้างหน้าอดที่จะหัวเราะตามด้วย

ไม่ได้

          “สไมล์พูดจริงนะครับพ่อ นะครับแม่สไมล์จะเรียนหมอฟัน” สไมล์ว่า เขาพึ่งจบม.6ไปได้ไม่กี่วันและอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ก็จะเป็นเทศกาลที่เคร่งเครียดของเด็กม.6หรือที่เรียกว่าแอดมิชชั่นนั่นเอง สไมล์แน่วแน่ไว้แล้วว่าเขาจะแอดคณะทันตแพทย์

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง สมองดีระดับต้นๆของห้องแต่มันคือความใฝ่ฝันของเขาตั้งแต่เด็กๆ

          “จะไหวรึ เป็นหมอแบบพ่อเหนื่อยจะตายนะ” ผู้เป็นพ่อว่า

          “โหยยย อย่าพึ่งขู่กันสิครับ” สไมล์ย่นจมูก

          “พ่อเขาไม่ได้ขู่นะ ไม่เห็นพ่อหรือไงยุ่งตลอดเวลากว่าจะปลีกตัวมาเที่ยวกับพวกเราได้ ผลัดแล้วผลัดอีก” ผู้เป็นแม่พูด

บ้างออกแนวทำนองแซะสามีเล็กๆ

          “โธ่คุณ ผมเป็นหมอนี่หน่า มีหน้าที่ช่วยชีวิตคุณ”

          “เพราะอย่างนี้ไงครับสไมล์ถึงอยากเป็นหมอแบบพ่อแม้ว่าจะเป็นแค่หมอฟันก็เถอะ” สไมล์พูดขึ้นบ้าง

          “สไมล์อยากให้คนไข้ที่มาทำฟันกับสไมล์มีรอยยิ้มที่สวย กล้าที่จะยิ้มให้กับคนอื่นๆเหมือนชื่อของสไมล์ไงครับ คึๆ” ส

ไมล์ว่าต่อ สิ้นเสียงใสนั่นก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของผู้เป็นพ่อและแม่

          “คุณคะ ข้างหน้าขับช้าๆนะคะ ในแผนที่บอกว่าเป็นโค้งอันตราย” แม่ของสไมล์ผู้ที่ถือแผนที่อยู่ว่า เพราะนี่ก็เป็นเวลา

กลางคืนแล้วแม้ว่าจะยังไม่ดึกแต่ถนนสายนี้ก็เงียบมากเพราะเป็นทางขึ้น-ลงเขาทำให้อันตรายไม่ใช่น้อย

          “ครับ คุณไม่ต้องห่วง” ผู้เป็นสามีรับปากก่อนจะค่อยๆขับรถต่อไป ผู้เป็นสามีมองแสงไฟตรงหน้าที่ส่องเข้ามาเต็มตาจน

อดหงุดหงิดในใจไม่ได้ นี่มันถนนส่วนตัวหรือไงถึงได้เปิดไฟสูงอย่างนั้นผู้เป็นสามีขยี้ตาเบาๆเพราะความแสบตาทำให้ไม่ได้มอง

ถนนตรงหน้าว่าเป็นทางโค้งเหวลึกน่ากลัว

          “คะ...คุณ กรี๊ดดดดดดดดด” เสียงของภรรยาดังขึ้นทำให้ผู้เป็นสามีตั้งสติแล้วหักพวงมาลัยไม่ให้ตกเหวอย่างเร็วจนลืมไป

ว่ามีรถขับสวนมาด้วย

 

เอี๊ยดดดดดด!!!

 

โครมมมม!!

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น สไมล์ที่กำลังก้มหน้ากดโทรศัพท์ตอบแชทเพื่อนพอเงยหน้าขึ้นมา รถของ

เขาและคันที่ขับสวนมาก็ปะทะกันอย่างแรง

          “แค่กๆ พ่อ...แม่” สไมล์สำลักเป็นเลือดออกมา ตากลมพยายามมองพ่อกับแม่ที่เบาะข้างหน้าแต่สิ่งที่เขาเห็นคือพ่อและ

แม่ที่ร่างกายเป็นไปด้วยเลือด ตากลมเบิกกว้างเพราะความช็อคก่อนร่างบางจะหมดสติไปในที่สุด...

          “พ่อครับ แม่ครับ” เสียงใสตะโกนเรียกพ่อกับแม่ในที่ที่หนึ่งที่เขาไม่คุ้นเคยรอบตัวเขามีแต่สีขาวเต็มไปหมด ไม่มีทางเข้า

หรือทางออกใดๆ ที่นี่คือที่ไหนกัน?

          “พ่อ แม่!!” สไมล์เรียกเสียงดัง เขาจำแผ่นหลังของพ่อกับแม่ได้แต่พอร่างบางจะวิ่งไปหาท่านทั้งสองร่างบางก็ต้องทรุด

ตัวลงกับพื้นเพราะขาทั้งสองข้างของเขามันไม่มีแรง มันเหมือนจะขยับไม่ได้

          “พ่อ แม่ครับ!” สไมล์ตะโกนเรียกท่านทั้งสองอีกครั้งแต่ท่านทั้งคู่ก็เดินออกห่างสไมล์ไปเรื่อยๆ ร่างบางร้องไห้โฮแทบ

ขาดใจ เขาไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน เขาไม่รู้ว่าพ่อกับแม่กำลังจะไปที่ไหนเพียงแต่เขาไม่ชอบเลย ไม่ชอบที่พ่อกับแม่หันหลังให้เขา

แบบนี้เลย

          “ฮือออออ พ่อครับ แม่ครับ ฮือออออออ”...ตากลมค่อยๆลืมตาขึ้นมาด้วยความรู้สึกมึนงง เพดานสีขาว กลิ่นยาที่คละคลุ้ง

ไปทั่วแบบนี้ โรงพยาบาลสินะ...

          “ฟื้นแล้วเหรอคะ” เสียงหนึ่งพูดขึ้นทำให้สไมล์หันไปมอง

          “หิว...น้ำ” สไมล์ว่าเสียงแหบพร่า พยาบาลสาวจึงรีบรินน้ำใส่แก้วให้ร่างบางทันที หลังจากที่กินน้ำเสร็จสไมล์ก็พยายาม

นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

          “คุณพยาบาลครับ พ่อแม่ผมล่ะ พ่อแม่ผมอยู่ไหน” สไมล์ถามพยาบาลด้วยความร้อนรนทันที ตอนนี้ในใจของเขามันร้อน

รุ่มไปหมด ความรู้สึกกลัวกัดกินทุกพื้นที่ในหัวใจ

          “คนไข้อย่าพึ่งขยับตัวแรงสิคะ ใจเย็นๆนะคะ” พยาบาลสาวว่า

          “แต่ผมจะไปหาพ่อกับแม่” สไมล์ว่าน้ำตาคลอ พยาบาลสาวทำหน้าลำบากใจทันที

          “คนไข้พึ่งได้สติ ดิฉันว่าควรจะพักผ่อนก่อนนะคะ” พยาบาลสาวพยายามเกลี้ยกล่อม สไมล์ส่ายหน้าพยายามพยุงตัวเอง

เพื่อจะลงจากเตียงแต่ทำไม...ทำไมขาของเขาถึงขยับไม่ได้ สไมล์หน้าเสียทันที ความฝันบางอย่างย้อนคืนมาในหัวอีกครั้ง ความ

ฝันที่ในฝันพ่อกับแม่หนีเขาไปและขาของเขาก็ขยับไม่ได้

          “ขาผม...คุณพยาบาลครับ ขาผม” สไมล์มองหน้าพยาบาลอย่างมีคำถามพยาบาลทำท่าอึกอัก

          “ฮึก ทำไมขาผมขยับไม่ได้” สไมล์น้ำตาไหลออกมา มือบางที่ไร้สายน้ำเกลือเอื้อมไปจับขาตัวเอง ขนาดเขาบีบเขาหยิก

ขนาดนี้ทำไมมันไม่รู้สึกอะไรเลย ทำไม...

          “ดิฉันว่าคนไข้ใจเย็นๆนะคะ ดิฉันเชื่อว่ามันต้องมีทางรักษา” พยาบาลสาวพยายามปลอบใจร่างบาง

          “ผมพิการเหรอครับ ฮึก ผมจะเดินไม่ได้อีกแล้วใช่มั้ยครับ”...อีกด้านหนึ่งของมุมโลก...

          “อ๊ะ...อ๊า...ซี๊ดดด...อ๊า...โอ้ววว...อ๊า...” เสียงครางกระเส่าดังออกมาจากโรงแรมชื่อดัง เตียงขนาดคิงไซด์กระแทกผนัง

ห้องอย่างแรงจนกลัวข้างห้องจะไม่รู้ว่าห้องนี้กำลังมีกิจกรรมอะไร เอวสอบกระแทกเข้าออกอย่างแรงก่อนจะปลดปล่อยออกมา

          “ยูจะไปแล้วเหรอ” เสียงหนึ่งถามขึ้นทำให้ร่างสูงที่กำลังใส่กางเกงอยู่ที่ปลายเตียงนอนหันมามอง

          “อืม พรุ่งนี้ไอมีเรียน” ‘สาม’ ลูกชายคนเล็กของเศรษฐีใหญ่เจ้าของร้านทองชื่อดังในประเทศไทยที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมา

เรียนไฮสคูลที่ประเทศอังกฤษตอบแม่สาวผมบอนด์ทรงโตไป

          “แต่ไออยากอยู่กับยูนี่หน่า” สาวผมบอนด์ว่าพร้อมลุกจากเตียงมากอดเข้าที่แผ่นหลังกว้างของอีกคน ใช้หน้าอกหน้าใจ

ขนาดคัพDบดเบียดไปเพื่อให้อีกคนเกิดอารมณ์

          “ไอบอกว่าไม่ก็ไม่สิแอนนีต้า อย่าทำไอหงุดหงิด” สามหันมาบอกอย่างไม่สบอารมณ์ทำให้สาวผมบอนด์หยุดทันที

          “โอเคๆ ไอเข้าใจละ” แอนนีต้าว่าก่อนจะกลับไปนอนที่เตียงดังเดิม

          “แล้วพรุ่งนี้ยูจะมาหาไอหรือเปล่า” แอนนีต้าอดที่จะถามไม่ได้

          “ไม่รู้ ถ้ามีอารมณ์ก็มา” พูดจบร่างสูงก็เดินออกไปทันทีอย่างไม่แคร์ ทำไมเขาจะต้องแคร์ก็แค่คู่นอนที่สนุกด้วยกันทั้งสอง

ฝ่าย ไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีข้อตกลงอะไรทั้งนั้น น้ำแตกก็แยกทาง จบ!

 

ครืดๆๆ

คิ้วหนาขมวดก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา

          “คร้าบม๊า คิดถึงผมหรือไงถึงได้โทรมาเนี่ย” สามรับสายอย่างอารมณ์ดี

          (“ได้ข่าวว่าที่อังกฤษดึกไม่ใช่เหรอคะคุณลูก ทำไมเสียงยังสดใสอยู่เลย”) ผู้เป็นแม่ถาม

          “แฮะๆ” สามหัวเราะเมื่อถูกจับได้

          (“จะทำอะไรม๊าไม่ว่าค่ะแต่ต้องป้องกันนะ ม๊าไม่อยากอุ้มหลานตอนนี้”)

          “คร้าบ ม๊าไม่ต้องห่วงนะครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับกำลังจะขับรถ จุ๊บๆ” พูดจบสามก็กดวางสายทันที เขาเป็นลูกรักของแม่

ในบรรดาพี่น้องสามคนเพราะเป็นลูกคนเล็กแม่โอ๋และตามใจ ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้มาเรียนเมืองนอกแบบนี้หรอก ก็รู้นะว่ามา

เรียนเมืองนอกตัวคนเดียวแบบนี้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วงแต่สามถือว่ามันเป็นความท้าทายในชีวิต อีกไม่ถึงเดือนเขาก็จะจบไฮสคูล

แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะต่อมหาวิทยาลัยที่นี่หรือกลับไทยดีเพราะแม่คะยั้นคะยอให้กลับเสียเหลือเกิน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนแรกไม่มีอะไรมากนะคะเปิดตัวพระเอกกับนายเอกเท่านั้นเอง ฮือออออออ สงสารน้องสไมล์มาก ชีวิตนี่โคตรแตกต่างจากนัง

สามมาก ยังไงก็ฝากให้กำลังใจน้องด้วยนะคะ

 

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 2

 

          สไมล์ตื่นมาอีกครั้งในตอนเที่ยงของอีกวัน ร่างบางพยายามเค้นถามพยาบาลสาวเกี่ยวกับอาการของพี่แม่ของเขาแต่หญิง

สาวก็ไม่ปริปากบอก บอกแค่ว่าให้เขาทานยา ทานยาให้ครบเท่านั้น


          “คุณพยาบาลครับให้ผมไปหาพ่อกับแม่เถอะนะครับ” สไมล์พูดอีกครั้งพยาบาลสาวมีสีหน้าลำบากใจแต่ก่อนที่จะได้พูด

อะไรต่อประตูห้องก็เปิดก่อนที่ผู้ชายวัยกลางคนท่าทางมีภูมิฐานจะเดินเข้ามา สไมล์ไม่รู้จักคนตรงหน้า ไม่แม้แต่คุ้นเคย


          “หนูสินะสไมล์ลูกชายของศศิ” คนตรงหน้าพูดทำให้สไมล์เบิกตากว้างทันที คุณลุงคนนี้รู้จักกับแม่ของเขา


          “ใช่ครับ คุณลุงเป็นเพื่อนกับคุณแม่ใช่มั้ยครับ คุณลุงครับ คุณลุงพาสไมล์ไปหาคุณพ่อกับคุณแม่ทีครับ สไมล์อยากเจอ

คุณพ่อกับคุณแม่” สไมล์ว่าพร้อมมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเว้าวอน หนุ่มวัยกลางคนหันไปมองหน้าพยาบาลสาวด้วยสีหน้า

ลำบากใจก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆร่างบางที่อยู่บนเตียง


          “ครับ ลุงชื่อนทีเป็นเพื่อนของแม่ของสไมล์” นทีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


          “งั้นเราไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ด้วยกันนะครับ ไปครับ” สไมล์ว่าแต่เมื่อร่างบางสังเกตเห็นถึงสีหน้ากระอักกระอ่วนใจของ

คนตรงหน้าก็ทำให้ร่างบางหัวใจเต้นรัวมือเย็นเฉียบ


          “คุณลุงนที พ่อของแม่สไมล์...” สไมล์พยายามเค้นเสียงถามแม้ว่าจะยากลำบากมากก็ตาม


          “ไปอยู่กับลุงนะสไมล์” สไมล์น้ำตาไหลพรากทันที ไม่มีแม้แต่เสียงสะอึกสะอื้นออกมาจากปากบางมีเพียงน้ำตาที่ไหลลง

มาจากดวงตากลมโตไม่ขาดสาย นทีสงสารเด็กตรงหน้าสุดใจ ไม่คิดว่าเด็กอายุเพียง18จะต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้...เมื่อคืน

เขาได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลโดยคนที่ติดต่อเขาก็คือศศิ ศศิไม่ใช่แค่เพื่อนของเขาแต่เธอยังเป็นรักแรกของเขา รักแรกที่

เขาไม่เคยลืมและยังคงฝังใจแต่เพราะทางครอบครัวของเขาที่กีดกันและคลุมถุงชนให้เขาแต่งงานทำให้เขากับศศิต้องเลิกรากัน

และอีกคนก็ได้ไปพบกับพ่อของสไมล์ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจนมีสไมล์ เขาไม่ได้ติดต่อกับศศิมาเกือบ10ปีแต่มา

บังเอิญเจอกันทำให้แลกเบอร์ติดต่อกันไว้แต่ไม่คิดว่าครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เมื่อคืนเขามาโรงพยาลเพื่อดูใจศศิเป็น

ครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะฝากฝังสไมล์ให้เขาช่วยดูแล ศศิไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนส่วนญาติฝ่ายสามีก็อยู่ต่างประเทศตัดขาดกันมา

นานแล้วทำให้สไมล์ไม่เหลือใครอีกแล้ว


          “ลุงจะดูแลสไมล์เองนะ” นทีว่าพร้อมลูบหัวเด็กหนุ่มด้วยความสงสาร สไมล์ยังคงร้องไห้แบบไร้เสียงสะอื้นแต่ใครจะรู้ว่า

ข้างในของเขาบอบช้ำแค่ไหน


          ...คฤหาสน์เพชรวงไพบูลย์...


          “ไปไหนมาคะ” เสียงหนึ่งถามขึ้นขณะที่นทีกำลังเดินเข้าบ้าน


          “ไปทำธุระมา” นทีตอบเสียงเรียบแต่นั่นก็ทำให้ผู้เป็นภรรยาไม่พอใจอย่างมาก


          “ผู้หญิงคนนั้นติดต่อคุณมาทำไม ตอบฉันมานะ มันติดต่อคุณมาทำไม” หญิงวัยกลางคนว่าด้วยความไม่พอใจ เธอรู้ทุก

เรื่อง รู้แม้กระทั่งเรื่องของผู้หญิงที่เป็นรักแรก รักฝังใจของสามีของเธอ


          “อย่ามาเรียกศศิว่ามัน” นทีว่าเสียงเข้มด้วยความไม่พอใจซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ผู้เป็นภรรยาโกรธมากขึ้น


          “ใช่สิ มันรักแรกของคุณนี่ รักมันมากสินะ รักมันมากแล้วมาแต่งงานกับฉันทำไม!” คุณหญิงจินดาตะหวาดเสียงดังจน

สาวใช้ที่ผ่านไปผ่านมาสะดุ้ง นทีถอนหายใจก่อนจะเดินหนีแต่ก็ไม่วายมีเสียงโวยวายของผู้เป็นภรรยาตามมา


          “เกิดอะไรขึ้นครับม๊า” ‘หนึ่ง’ ลูกชายคนโตของตระกูลที่พึ่งกลับจากบริษัทถามขึ้น


          “ป่าวไม่มีอะไร” ผู้เป็นแม่ว่าก่อนจะเดินหนีไป หนึ่งถอนหายใจออกมา ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันและ

คนที่ก่อเรื่องก็คือแม่ของเขาเสมอ...หลายวันผ่านไป...นทีหมั่นมาเยี่ยมสไมล์ที่โรงพยาบาลตลอดแต่สิ่งที่เขาพบคือเด็กหนุ่มที่

นั่งเหม่อลอย ข้าวปลาไม่แตะและไม่กินยาตามที่หมอสั่ง เขารู้ว่าเรื่องนี้กระทบจิตใจของสไมล์มาก เด็กหนุ่มสูญเสียพ่อกับแม่ไป

พร้อมๆกันแถมยังขาพิการเพราะอุบัติเหตุไม่มีใครรับเรื่องนี้ได้ยิ่งกับเด็กวัย18ปีที่ยังเผชิญโลกได้ไม่เท่าไหร่แล้วด้วย ยิ่งยากที่จะ

รับไหว


          “กินข้าวสักหน่อยนะสไมล์” นทีว่าพร้อมตักข้าวต้มไปที่ปากของสไมล์ ร่างบางนั่งนิ่ง ยังคงมีน้ำตาไหลลงมาจากตากลม

ไม่ลดละ ดวงตากลมโตตอนนี้แดงและบวมเพราะผ่านการร้องไห้มาเป็นอย่างหนัก


          “ผมควรทำยังไงดีครับคุณพยาบาล” นทีหันไปปรึกษาพยาบาลที่ดูแลสไมล์


          “คุณหมอแนะนำว่าน้องสไมล์ต้องได้รับการบำบัดทางจิตก่อนค่ะ ตอนนี้สภาพจิตใจน้องแย่มาก” นทีพยักหน้ารับ ไม่ว่า

ยังไงเขาต้องทำให้เด็กคนนี้เป็นปติให้ได้เขาให้สัญญากับศศิไว้แล้วว่าจะดูแลลูกของเธอให้ดีที่สุด...หนึ่งเดือนผ่านไป...แม้ว่าจะ

ผ่านมรสุมที่หนักหนามาแต่วันหนึ่งท้องฟ้าก็ต้องแจ่มใส สไมล์กลับมาพูดและกินข้าวกินยาอีกครั้งหลังจากที่ได้รับการบำบัดทาง

จิตจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นทีดีใจไม่ใช่น้อยแถมหมอยังบอกอีกว่าไม่กี่วันสไมล์จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว


          “สไมล์จะไปอยู่กับคุณลุงได้จริงๆเหรอครับ” สไมล์ถามขึ้นอย่างลังเล แม้ว่าตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาคุณลุงใจดีคนนี้จะ

ทำให้เขาไว้ใจและเชื่อใจแต่เขาก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี


          “ลุงรับปากแม่ของสไมล์ไว้แล้ว ลุงจะทำทุกอย่าง รักษาสไมล์ทุกทางให้เรากลับมาเดินได้อีกครั้ง” นทีว่า สไมล์พยักน้า

รับก่อนจะมองที่ขาทั้งสองข้างของตัวเองเขาจะกลับมาเดินได้อีกครั้งจริงๆใช่มั้ย เขาจะไม่พิการตลอดชีวิตใช่มั้ย


...คฤหาสน์เพชรวงไพบูลย์...


          “คุณว่ายังไงนะ!” จินดาถามเสียงดังหลังจากที่ได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากของสามี


          “ผมจะพาสไมล์มาอยู่ที่นี่” นทีว่าอีกครั้ง


          “ไม่มีทาง ฉันไม่ยอม ฉันไม่ยอมให้ไอ้เด็กกาฝากมาอยู่ที่นี่” จินดาค้านด้วยความไม่พอใจ เธอรู้เรื่องของผู้หญิงคนนั้น

แล้วออกจะสะใจด้วยซ้ำที่ตายๆหายไปจากชีวิตของสามีเธอได้แต่ทำไม...ทำไมต้องมีไอ้เด็กกาฝากนั่นด้วย


          “ผมไม่ได้ขออนุญาตคุณแต่ผมแค่บอก” นทีว่า


          “แต่ฉันเป็นภรรยาของคุณ คุณได้ยินมั้ยว่าฉันเป็นภรรยาของคุณ”


          “ใช่ คุณเป็นภรรยาของผม...” นทีมองหน้าผู้เป็นภรรยา


          “...ภรรยาที่ยัดเยียดมาให้ผม”...อีกด้านหนึ่ง...สามที่กำลังจะไปโรงเรียนก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อมีสายโทรเข้าจากแม่ ปกติ

แม่ของเขาจะโทรหาตอนเย็นไม่ก็ตอนค่ำของที่นี่เพราะรู้เวลาของเขาดีแต่โทรมาตอนนี้แปลว่าต้องมีอะไรด่วนแน่ๆ


          “ว่าไงครับม๊า” สามรับสายด้วยความร้อนใจ


          (“ฮึก สาม”) สามมือสั่นทันทีที่ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นจากปลายสาย


          “เกิดอะไรขึ้นครับม๊า”


          (“ม๊า ฮึก ม๊าเกลียดมัน”) ผู้เป็นแม่พูดออกมา สามขมวดคิ้วทันที เขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้แม่ของเขาร้องไห้ออกมาขนาดนี้

น้อยครั้งที่ผู้หญิงที่เขารักและเทิดทูนจะมีน้ำตาแปลว่ามันต้องหนักหนามากจริงๆ


          “ม๊า เกิดอะไรขึ้นกันแน่” สามถามด้วยความร้อนใจก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกับเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้

ลูกชายสุดที่รักฟัง สามกำโทรศัพท์แน่นหลังจากที่ได้รับฟัง เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ไม่เคยรู้เรื่องรักแรกบ้าบออะไรของพ่อและ

เด็กคนนั้น


          “ม๊าใจเย็นนะครับ ม๊าห้ามร้องไห้เด็ดขาด” สามว่าออกมา


          (“แต่ม๊า ฮึก มันจะเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา ม๊า ฮึก”)


          “ม๊าไม่ต้องห่วงนะครับ อีกไม่นานผมจะเรียนจบแล้ว ผมจะกลับไทย กลับไปจัดการกับกาฝากนั่นเอง”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนนี้ไม่มีอะไรมากนะคะ เหตุการณ์รวดเร็วทันใจมาก 5555 ยังคงคอนเซ็ป Poor Boy ยังไงก็ฝากติดตามให้กำลังใจน้อง

สไมล์ด้วยนะคะ

 

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอคะน่าติดตาม :mew2:

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: รออ่านตอนต่อไปนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 3

 

          ...คฤหาสน์เพชรวงไพบูลย์...     

          สไมล์มองคฤหาสน์หลังใหญ่ตรงหน้าด้วยความประหม่า บ้านเก่าของเขาเป็นเพียงบ้านขนาดกลาง หลังย่อมๆเหมาะ

สำหรับครอบครัวเล็กๆแต่ไม่คิดว่าคุณลุงใจดีตรงหน้าที่มีศักดิ์เป็นเพื่อนของแม่ของเขาจะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีแบบนี้


          “ไม่ต้องกลัวนะ เข้าบ้านกันเถอะ” นทีว่าก่อนจะเข็นรถเข็นของสไมล์เข้าไปในบ้าน สาวใช้ปรี่เข้ามาช่วยคุณผู้ชายของ

บ้านถือของก่อนจะถูกสั่งให้เอาไปเก็บที่ห้องของสไมล์ที่จัดเดตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว


          “ไปตามคุณหญิง คุณหนึ่งและก็คุณสองมา” นทีหันไปพูดกับสาวใช้


          “ลูกคุณลุงเหรอครับ” สไมล์ถามขึ้นก่อนจะมองไปที่รูปถ่ายที่ฝาผนังขนาดใหญ่ที่มีคนห้าคนอยู่ในรูป


          “ใช่แล้วล่ะ พี่หนึ่งน่ะแก่กว่าสไมล์หกปี ส่วนพี่สองแก่กว่าสไมล์สามปี ส่วนสามรุ่นเดียวกับสไมล์แต่ตอนนี้ไปเรียนที่

อังกฤษ” นทีอธิบายให้ฟัง สไมล์ยิ้มรับก่อนจะหันกลับไปมองที่รูปถ่ายต่อ ตากลมจดจ้องไปที่รูปของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ในรูปน่า

จะอายุประมาณ13-14 ซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นคนที่ชื่อว่าสาม น้องชายคนเล็กของบ้าน ตาคมดูดุต่างจากสายตาอ่อนโยนของลุงนที


          “เอ่อ...คุณหญิงไม่มาค่ะ” สาวใช้ว่า นทีขมวดคิ้วทันทีก่อนจะมองไปที่ลูกชายทั้งสองคนที่กำลังเดินลงมา


          “ใครกันครับคุณพ่อ” ‘สอง’ ลูกชายคนที่สองของบ้านถามขึ้น ก่อนที่ตาเฉี่ยวคมจะมองไปที่ร่างบางที่นั่งอยู่บนรถเข็น

อย่างไม่เป็นมิตร


          “น้องสไมล์เป็นลูกของเพื่อนพ่อ เขาจะมาอยู่ที่นี่” นทีตอบลูกชาย


          “แล้วทำไมต้องมาอยู่บ้านเราล่ะครับ บ้านเขาไม่มีหรือไง” สองว่าอย่างไม่พอใจนัก


        “สองพูดดีๆ” หนึ่งปรามน้องชายก่อนจะหันไปมองร่างบางที่นั่งบนรถเข็น สไมล์หลบตาทันทีเพราะจากที่เห็นท่าทาง

ของสองแล้วดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่ต้อนรับเสียเลยตากลมสั่นระริกน้ำตาหน่วงคลอทันที


          “พี่ชื่อหนึ่งนะครับ ขอโทษแทนสองด้วยที่พูดไม่ดี” หนึ่งว่าอย่างอ่อนโยนทำให้สไมล์ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองอีกคน หนึ่ง

ยกยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร ตาคมที่ถอดแบบออกมาจากลุงนทีทำให้สไมล์รู้สึกอบอุ่น


          “ชิ นี่ใช่มั้ยครับที่ป๊าให้พี่ก้อยไปตาม งั้นสองขอตัวครับ” สองว่าก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไป


          “คงจะมีแค่หนึ่งสินะที่เข้าใจป๊า” นทีหันไปพูดกับลูกชายคนโตซึ่งถือว่าเป็นลูกที่เขาสนิทมากที่สุดเพราะนิสัยคล้ายๆกัน


          “ผมเข้าใจป๊าครับ...น้องสไมล์ครับไม่ต้องกลัวนะ ทำตัวตามสบายเถอะ” หนึ่งหันไปพูดกับร่างบางที่เห็นว่ายังคงนั่งเกร็งอยู่


          “งั้นหนึ่งต้องช่วยป๊าดูแลน้องแล้วล่ะ”


          “ด้วยความยินดีครับป๊า”...หลายสัปดาห์ผ่านไป...สไมล์รู้สึกสนิทกับหนึ่งขึ้นมาบ้างเมื่ออีกคนมาช่วยดูแลเขาทุกวัน

แม้ว่าหน้าที่ดูแลเขาจะเป็นของสาวใช้แต่พี่หนึ่งก็ยังเจียดเวลามาช่วยดูแลเขาหลังจากที่กลับมาจากบริษัท มานั่งคุยเล่นกับเขา

ไม่ให้เขารู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว ส่วนพี่สอง...รายนั้นไม่แม้จะเหยียบเข้ามาในโซนห้องของเขา ถ้าเจอกันก็มีพูดแขวะเขาบ้าง

มองด้วยหางตาบ้างแต่เขาก็พยายามจะไม่ถือโทษโกรธอะไรเพราะพี่สองคงไม่พอใจที่อยู่ๆก็มีคนพิการอย่างเขาเข้ามาอยู่ในบ้าน

ส่วนคุณหญิงจินดา ภรรยาของคุณลุงนที...เกลียดเขา ใช่แล้วล่ะ คุณหญิงเกลียดเขาซึ่งเขาเองก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน


          “วันนี้เดี๋ยวพี่จะเป็นคนอาบน้ำให้สไมล์เองนะ” หนึ่งพูดขึ้นหลังจากที่กินข้าวพร้อมกับอีกคนเสร็จ


          “เอ่อ...” สไมล์หน้าแดงทันที


          “ฮ่ะๆ พี่ล้อเล่น พี่หมายถึงพี่จะเป็นคนพาสไมล์ไปอาบน้ำแล้วรอเอง” ไสมล์ถอนหายใจออกมาทันที แม้ว่าจะเป็นผู้ชาย

เหมือนกันแต่มันก็อดกระดากอายไม่ได้แม้ว่าเวลาช่วยเขาอาบน้ำหรือแต่งตัวยังไงก็ต้องเห็นเขาเปลือยอยู่ดี เวลาที่เขาอาบน้ำ

นั้นต้องมีคนพาไปนั่งที่อ่างและพอเขาอาบเสร็จเขาก็จะเรียกคนที่รออยู่ข้างนอกเพื่อพาเขาออกจากห้องน้ำและแต่งตัว


          “รู้สึกว่าแกจะดูแลไอ้เด็กนี่ดีจังนะ” เสียงหนึ่งว่าทำให้หนึ่งและสไมล์หันไปมอง


          “ม๊า”


          “ยังไงล่ะแก เป็นภาระให้สาวใช้ในบ้านฉันไม่พอยังเป็นภาระให้ลูกชายฉันอีก”สไมล์นั่งก้มหน้าทันทีไม่กล้าสบตาคุณ

หญิงของบ้าน เป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากัน


          “ผมเต็มใจช่วยน้องครับ” หนึ่งบอกกับผู้เป็นแม่


          “เฮอะ แกมันก็เหมือนป๊าแก ใจดีกับพวกกาฝาก เฮอะ” พูดจบคุณหญิงของบ้านก็เดินออกไป สไมล์นั่งน้ำตาคลอกับคำ

พูดของอีกคน เขารู้ว่าเขาเป็นภาระเป็นกาฝากของบ้านแต่เขาไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ


          “อย่าไปสนใจม๊าเลยนะ ไปอาบน้ำกันเถอะ” หนึ่งว่าเพื่อให้สไมล์สบายใจแต่พอร่างบางเงยหน้ามาเขาก็ต้องใจกระตุกเมื่อ

ใบหน้าใสเต็มไปด้วยน้ำตา


          “ฮึก ผมเป็นภาระ ฮึก มากเลยเหรอครับ”


          “ไม่ใช่อย่างนั้นนะสไมล์” หนึ่งว่าพร้อมลูบหัวอีกคนอย่างปลอบโยน


          “แต่คุณหญิง ฮึก”


          “พี่เชื่อว่าสักวันม๊าจะเลิกอคติกับสไมล์นะ”...อีกด้านหนึ่ง...วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่สามจะอยู่ที่อังกฤษเพราะเขามีเรื่อง

สำคัญต้องกลับไปจัดการที่ไทย เขานับวันรอที่ตัวเองจะเรียนจบและกลับไปเจอหน้าไอ้เด็กกาฝากนั่นที่ทำให้แม่ของเขาต้องทุกข์

ใจ 


          “ยูจะกลับจริงๆเหรอ” หญิงฝรั่งทรงโตถามขึ้นขณะที่กำลังจัดปาร์ตี้เลี้ยงส่งสามกันอยู่ที่ร้านเหล้าชื่อดัง


          “อืม” สามว่าพร้อมกระดกเหล้าเข้าปาก


          “ถ้ายูกลับแล้วใครจะ...” มือเรียวค่อยๆไล้ไปที่กระดุมเสื้อของสามอย่างยั่วยวนแต่ตอนนี้สามไม่มีอารมณ์อะไรทั้งนั้น ใน

หัวคิดแต่เรื่องของไอ้เด็กกาฝากนั่นที่แม่เขาโทรมาเล่าให้ฟังตลอด ตอนนี้พี่ชายคนโตของเขาไปรักไปเอ็นดูมันแล้ว


          “ไอไม่มีอารมณ์” สามว่าพร้อมปัดมือหญิงสาวออก หญิงสาวฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ก็ไม่กล้าโวยวายอะไรเพราะรู้ดีว่าสามนิสัย

ยังไงถ้าบอกว่าไม่ก็คือไม่


          “ไอ้สัสกลับจริงดิ” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงใบหน้าหล่อบ่งบอกของความเป็นลูกครึ่งจะเดินเข้ามาที่โต๊ะ


          “มาช้าสัส” สามว่าพร้อมยื่นแก้วเหล้าให้เพื่อนสนิท


          “มาช้าเพราะ...” ‘แกรมม่า’ เพื่อนสนิทของสามว่าก่อนจะชูพาสปอร์ต


          “จะไปกับกู?” สามเลิกคิ้ว


          “เออ เบื่อที่นี่เหมือนกัน กลับไปหาตากับยายบ้างช่วงปิดเทอมด้วย” แกรมม่าตอบ สามกระตุกยิ้ม


          “ก็ดี กูจะได้มีเพื่อนเที่ยวต่อ” สามว่า แกรมม่ายักไหล่ เขาสองคนสนิทกันตั้งแต่ขึ้นไฮสคูล แกรมม่าเป็นเพื่อนคนแรกที่

สามรู้จักเมื่อมาอยู่ที่นี่และเพราะนิสัยชอบเที่ยวเจ้าชู้ เพลย์บอยเหมือนกันทำให้คบกันได้ เขาสองคนแลกคู่นอนกันออกจะบ่อย

บางครั้งสวิงกิ้งก็ยังเคย


          “ว่าแต่คืนนี้ไม่ไปส่งท้ายกับแอนนีต้าเหรอวะ” แกรมม่าถามพร้อมปรายตาไปที่ฝรั่งสาวทรงโตที่ทั้งเขาและสามเคยนอน

มาด้วยแล้วทั้งคู่


          “ไม่ค่อยมีอารมณ์” สามตอบ


          “เอาน่ะ ส่งท้ายสิมึง” แกรมม่ากระตุกยิ้มก่อนจะเข้าไปหาแอนนีต้าพร้อมพูดอะไรบางอย่าง หญิงสาวยิ้มทันทีก่อนจะ

กระซิบแกรมม่ากลับมา


          “ห้องชั้นบนพร้อมเว้ย” แกรมม่าพูดกับสามก่อนที่คนทั้งคู่จะกอดคอกันเดินขึ้นไปที่ห้องดังกล่าวโดยมีแอนนีต้าตาม

มา...เสียงครางกระเส่าดังขึ้นไม่ขาดพร้อมกับกิจกรรมเข้าจังหวะที่กินเวลากว่าสองชั่วโมงแต่ดูเหมือนสองหนุ่มกับหนึ่งสาวจะยัง

ไม่หมดแรง ปากบางของฝรั่งสาวอมเข้าที่แก่นกายใหญ่ของสามพร้อมกับช่องทางของเธอที่มีแกรมม่ากำลังขยับกายเข้าออกอยู่

สามนอนมองหญิงสาวที่กำลังใช้ปากให้เขาด้วยสายตานิ่งๆ เสียวมั้ยก็บอกได้เลยว่าเสียวแต่มันก็เดิมๆ อะไรเดิมๆมันก็ไม่ค่อย

สะใจเท่าไหร่ว่ามั้ย


          “กูจะเสร็จละ มึงจะต่อมั้ย” แกรมม่าถามขึ้นเมื่อใกล้จะนึกจุดหมาย สามส่ายหน้า


          “ไม่ว่ะ กูเสร็จครั้งนี้ก็พอละ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แรกๆนี่น้ำเน่าเหมือนละครหลังข่าวมากแต่หลังๆคือ? 555555 อย่าพึ่งด่าพระเอกกันเนอะเป็นธรรมดาของผู้ชายนี่หน่า 55555

ฝากติดตามด้วยนะคะ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 4

 

        “ทำไมผมต้องช่วยมันด้วย” เสียงโวยวายของสองดังขึ้นแต่เช้าเมื่อพี่ชายคนโตไหว้วานให้เขาเป็นคนพาสไมล์ไปอาบน้ำ

เนื่องจากหนึ่งมีประชุมด่วนแต่เช้า ครั้นจะให้อีกคนรอจนกว่าเขาจะกลับมาก็กลัวว่าจะหลายชั่วโมง


          “อย่าใจร้ายนักน่ะสอง ถ้าพี่ไม่ติดงานจริงๆพี่ก็ไม่อยากไหว้วานเราหรอกนะ”หนึ่งพูดเสียงเรียบ สองฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ

แหงแหละ...ตั้งแต่สไมล์เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาพ่อของเขา พี่ชายของก็ประคบประงมอีกคนประดุจไข่ในหิน สองไม่ได้

เกลียดสไมล์หรืออะไรหรอกนะแต่เขาแค่หมั่นไส้ หมั่นไส้ในตัวตากลมใสแจ๋วที่ดูไร้เดียงสาและริมฝีปากบางนั่นที่มีแต่รอยยิ้ม

ตลอดเวลาเห็นแล้วมันหงุดหงิด


          “เดี๋ยวนี้พี่หนึ่งอะไรๆก็สไมล์ ถามจริงผมหรือมันเป็นน้องชายพี่กันแน่” สองถามหน้าหงิกหน้างอ


          “เราก็คือน้องชายพี่ไงส่วนสไมล์...” พอพูดถึงชื่ออีกคนหัวใจของคนเป็นพี่ชายคนโตของบ้านก็รู้สึกสั่นไหวแปลกๆ


          “จะยังไงก็เถอะพี่ฝากสไมล์ด้วยแค่ช่วยพยุงเขาเข้าห้องน้ำ ออกจากห้องน้ำและแต่งตัวก็พอ” หนึ่งว่า


          “ชิ รู้ละ” สองก็ต้องรับหน้าที่โดยปริยาย...สไมล์ที่พึ่งตื่นนอนนั่งอยู่บนเตียงตาใสแจ๋วเพื่อรอเวลาที่พี่หนึ่งจะพาเขาไป

อาบน้ำแต่วันนี้กลับผิดคาดเพราะคนที่เปิดประตูเข้าหากลับเป็นพี่สองแทน


          “พี่สอง” สไมล์เรียกอีกคนอย่างงุนงง


          “พี่หนึ่งมีประชุมด่วน ฉันจะพานายไปอาบน้ำเอง” สองว่า สไมล์พยักหน้ารับอยากจะถามถึงพี่หนึ่งว่าจะกลับมาตอนไหน

แต่สีหน้าบึ้งตึงของอีกคนที่แสดงออกมาทำให้สไมล์ต้องเก็บคำถามเอาไว้ในใจแทน เขารู้ว่าพี่สองไม่ชอบขี้หน้าเขา อีกคนไม่

แม้จะปรายตามองเขาเลยสักนิด


          “อาบเสร็จแล้วก็เรียก” สองว่าหลังจากที่พาสไมล์มานั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำแล้วแม้จะกระดากอายไปหน่อยที่ต้องมีอีกคน

ที่มาเห็นเขาเปลือยแต่ทำยังไงได้คนพิการอย่างเขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้นี่หน่า...ขณะเดียวกัน...ขายาวภายใต้กางเกง

ยีนส์สีซีดราคาแพงเดินลากกระเป๋าเดินทางพร้อมกับเพื่อนสนิทหัวบอนด์ออกจากสนามบินซึ่งความหล่อเหลาของคนทั้งคู่ทำให้

ถูกจับจ้องตลอดทางที่เดินมา นายแบบเหรอ? ดาราหรือเปล่า? หรือว่านักร้อง? เชื่อว่าทุกคนต้องมีความคิดแบบนี้


          “มึงจะไปบ้านตากับยายมึงเลยป่ะหรือจะแวะไปบ้านกูก่อน” สามถามเพื่อนสนิทขึ้น


          “คงไปบ้านตากับยายเลยว่ะ เดี๋ยวค่อยนัดเจอกันทีหลัง กูแม่งง่วงชิบหาย” สามพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะเขาเองก็รู้สึก

ง่วงเหมือนกัน เพราะตลอดเวลาที่นั่งเครื่องบินมาก็ไม่ได้นอนเลย ตอนแรกกะจะโทรหาพี่ชายให้มารับแต่คิดไปคิดมากลับไป

เซอร์ไพรส์ดีกว่าเพราะไม่มีใครรู้ว่าเขาจะกลับวันนี้  ว่าแล้วสามก็เรียกแท็กซี่เดินทางไปที่บ้านของตัวเองทันที


          “เซอร์ไพรส์ครับม๊า!” เสียงทุ้มดังขึ้นทำให้คุณหญิงของบ้านที่กำลังนั่งอ่านนิตยสารอยู่หันไปมองด้วยความตกใจ ก่อนที่

ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดจะคลี่ยิ้มกว้าง


          “ตายแล้วลูกชายของม๊า มาทำไมไม่บอกเนี่ย” จินดาว่าอย่างดีอกดีใจพร้อมกับโผกอดลูกชายที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือน

นับจากที่เธอบินไปหาที่อังกฤษ


          “เซอร์ไพรส์ไงครับ แล้วคนอื่นล่ะ” สามมองหาผู้เป็นพ่อและพี่ชายอีกสองคน


          “เฮ้ย นี่มาไงอ่ะ” สองที่พึ่งเดินลงมาจากชั้นบนของบ้านถามด้วยความตกใจก่อนจะรีบวิ่งเข้ามากอดน้องชายตัวดีเต็มรัก


          “พี่ตัวเล็กจังวะ” สามว่าอย่างขำๆทั้งๆที่อีกคนแก่กว่าเขาตั้งสองปีแต่ดูสิ เตี้ยกว่าเขาเป็นสิบเซ็น


          “แกมันสูงนี่ แต่สูงจริงๆนะ ตัวพอๆกับพี่หนึ่งเลย” สองว่า


          “แล้วพี่หนึ่งกับป๊าล่ะ” สามถามถึง


          “เข้าบริษัทแต่เช้าละมีประชุมด่วน” สามพยักหน้ารับก่อนจะขอตัวเอาของขึ้นไปเก็บบนห้องและพักผ่อนแต่แล้วตาคมก็

เหลือบไปเห็นประตูห้องนอนห้องหนึ่งที่เปิดคาไว้ ถ้าจำไม่ผิดห้องนั้นไม่มีคนอยู่ไม่ใช่หรือไง ว่าแต่ร่างสูงก็เดินตรงไปยังห้องดัง

กล่าวทันที...ไม่รู้ว่าสไมล์เรียกสองกี่ครั้งแล้วแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าอีกคนจะเข้ามาพาเขาออกจากห้องน้ำ จากสิบนาทีเป็นยี่สิบนาที

จากยี่สิบนาทีเป็นครึ่งชั่วโมงที่สไมล์นั่งแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำจนเขารู้สึกหนาว ถ้าเขายังคงนั่งอยู่ในนี้เขาต้องจับไข้ ไม่สบายแน่ๆ

ว่าแล้วร่างบางก็พยายามพยุงตัวเองเกาะขอบอ่างเพื่อจะได้ออกจากอ่างอาบน้ำเสียทีแต่ก็นะคนขาพิการอย่างเขานอกจากกำลังขา

จะไม่มีแรงแล้วมันก็ไม่สามารถขยับได้เลยสไมล์นั่งน้ำตาคลออย่างนึกสมเพสตัวเอง


          “อย่ามายอมแพ้อะไรง่ายๆสิสไมล์” สไมล์พูดกับตัวเองก่อนจะพยายามดันตัวเองลุกขึ้นด้วยเรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดซึ่งนั่นก็

ทำให้สไมล์ล่วงลงจากอ่างอาบน้ำทันทีสไมล์หลับตาปี๋เพราะคิดว่าหน้าต้องฟาดกับพื้นห้องแน่ๆแต่...



ตุบ

เหมือนกับตัวของเขาล้มทับอะไรบางอย่างไว้ซึ่งทำให้ไม่เจ็บแม้แต่นิดเดียว ตากลมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะพบกับ...ใบหน้า

หล่อของใครคนหนึ่ง สไมล์ไม่รู้จักเขาคนนี้ไม่แม้แต่เคยเห็นหน้าแต่หัวใจกลับเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ สามเองก็มองใบหน้าหวาน

ของคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ เขาเดินเข้ามาในห้องดังกล่าวแล้วได้ยินเสียงดังออกมาจากในห้องน้ำเลยเดินไปดูทำให้เขาได้พบกับ

ร่างบางนี้...เขาไม่รู้หรอกนะว่าอีกคนเป็นใครแต่สิ่งที่เขาสนใจคือใบหน้าหวานใส ร่างกายบอบบางที่เปลือยเปล่าทำให้เห็นทุก

สัดส่วนของร่างกายอย่างชัดเจนซึ่งนั่นก็กระตุ้นอารมณ์ดิบในตัวของเขาอย่างมาก ว่าจะทำเป็นไม่สนใจเพราะอาจจะเป็นเด็กใน

สต็อกของพี่ชายแต่พอเห็นอีกคนหน้าทิ่มลงจากอ่างอาบน้ำเลยเข้าไปช่วย


          “เอ่อ...คือ” สไมล์กลืนน้ำลายคงคออึกใหญ่อย่างพูดไม่ออกเมื่อสายตาคมของอีกคนมองสำรวจร่างกายของเขาที่มัน

เปลือยเปล่า ใบหน้าใสแดงจัดด้วยความเขินไหนจะมือหนาที่จับอยู่ที่เอาของเขาอีกมันรู้สึกร้อนผ่าวไปหมด 


          “อ๊ะ” สไมล์สะดุ้งเมื่อมือหนาค่อยๆลูบคลำร่างกายของเขา ดวงตากลมสั่นระริกอย่างตื่นกลัวทำท่าจะร้องเรียกหาให้คนอื่น

ช่วยแต่ก็ถูกปากหนาของอีกคนประกบเข้าเสียก่อน


          “อื้ออออออ” สไมล์ครางออกมาพร้อมกับพยายามดิ้นรนแต่ดูเหมือนความเชี่ยวชาญของอีกคนจะทำให้สไมล์อ่อนระทวย

มือบางเกาะที่ไหล่หลาของอีกคนอย่างหาที่ยึดเหนี่ยว


          “อ๊ะ...อื้อ...อ๊า” สไมล์ครางออกมาเมื่อปากหนาเริ่มซุกไซ้ซอกคอของเขาและขบกัดจนรู้สึกเจ็บไปหมด อยากจะร้องห้าม

อีกคนแต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงหัวสมองขาวโพลนไปหมดเช่นเดียวกับสาม...ตอนนี้เขาไม่คิดอะไรแล้วต่อให้คนตรงหน้าเป็นใครแต่

ร่างกายหอมหวานขนาดนี้ เขาไม่ปล่อยไว้แล้ว ว่าแล้วร่างสูงก็ดันอีกคนให้นอนราบไปกับพื้นห้องน้ำก่อนจะขึ้นคร่อม ปากหนา

ครอบครองยอดอกสีชมพูของอีกคนทันทีซึ่งนั่นก็ทำให้สไมล์ครางเสียงสั่น สามอดยกยิ้มอย่างพึงพอใจไม่ได้ก่อนที่มือหนาจะขับ

ขาเรียวทั้งสองข้างพาดบ่าแล้วค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางด้านหลังของอีกคน



ตุบ

แต่ขาเรียวกลับล่วงลงพื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก สามขมวดคิ้วอย่างขัดใจก่อนจะจับขาเรียวของอีกคนมาพาดไหล่อีกครั้ง



ตุบ

และก็เหมือนเดิมขาเรียวล่วงลงพื้นอีกครั้ง คิ้วหนาขมวดเป็นปมทันทีเหมือนกับจะนึกอะไรออก...ร่างบางนี่คือใครก็ไม่รู้ที่เขาไม่

เคยเห็นหน้าแต่กลับเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาและขาของอีกคนก็ไร้ความรู้สึก...ใช่ พิการ อีกคนขาพิการ สามมองหน้าสไมล์ทันที

ตากลมของอีกคนหน่วงคลอไปด้วยน้ำตาพร้อมกับตัวสั่นอย่างหวาดกลัว สามเองก็รู้สึกหัวเสียไม่ใช่น้อยกับสิ่งที่พึ่งรับรู้


          “มึงสินะไอ้กาฝาก!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เจอกันแล้วค่าพระเอกกับนายเอกของเราแต่เกือบเสียตัวมั้ยล่ะ 5555555 ต่อไปเตรียมด่าอินังสามได้เลยค่ะ นางร้าย เลวไม่น้อย

กว่าอิพี่วินแน่ๆ ฝากติดตามด้วยนะคะ จุ๊บๆ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
แม่มเอ๊ยยยย อิพี่สามนิสัยไม่ดี เจอหน้าน้องสไมล์ก็จะปล้ำเค้าเลยรึไง :m16:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
จะปล้ำเค้าแล้วยังจะ....  :beat:

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ติดตามค่ะคือแบบดูร้ายๆๆดีชอบ :mew2:

ออฟไลน์ astxy_original

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ปักหมุดรอค่ะ

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 5

 

        สไมล์นั่งหลบสายตาคมที่จ้องมาที่เขาอย่างไม่ลดละด้วยอาการตัวสั่นนิดๆเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันยังคงวนเวียน

เข้ามาในหัวของเขาไม่ลดละ พอร่างสูงรู้ว่าเขาเป็นใครก็ผละออกจากเขาแล้วทิ้งเขาไว้ในหัวน้ำแบบนั้นเขาที่ทำอะไรไม่ได้

นอกจากคลานเข้ามาในห้องแล้วเอาผ้าห่มห่อหุ้มตัวให้ร่างกายอบอุ่นเท่านั้นจนแม่บ้านเข้ามาแล้วบอกว่าคุณสองลืมเขาสนิทแล้ว

เป็นฝ่ายแต่งตัวให้เขาแทน

 
         “นี่สามนะสไมล์เป็นลูกชายคนเล็กของลุง” นทีพูดขึ้นขณะอาหารมื้อเย็นซึ่งวันนี้พิเศษกว่าทุกวันเพราะเป็นการเลี้ยง

ต้อนรับลูกชายคนเล็กกลับจากอังกฤษ

 
         “ครับ” สไมล์พยักหน้ารับนิ่งๆโดยที่ใบหน้าหวานก็ยังคงไม่กล้าเงยขึ้นมามองหน้าอีกคนจนหนึ่งสังเกตเห็นได้แต่ก็ไม่ได้

ถามอะไรออกมา สามกระตุกยิ้มมุมปากกับท่าทางของอีกคน ก็ดี...กลัวเขาจนตัวสั่นแบบนี้ก็ดีจะได้จัดการได้ง่ายๆ เพราะเขาจะ

ไม่มีวันให้ไอ้กาฝากนี่ลอยหน้าลอยตาอยู่ในคฤหาสน์ของเขาอย่างสุขสบายแน่ ถ้ามีเขามันก็ต้องเหมือนตกนรกทั้งเป็น


          “สไมล์กินนี่เยอะๆนะ” หนึ่งว่าพร้อมกับตักอาหารใส่จานร่างบาง สไมล์หันไปส่งยิ้มให้หนึ่งอย่างขอบคุณซึ่งสามก็นึกหมั่น

ไส้ไม่ใช่น้อย อ่อยพี่ชายเขาสินะ


          “รู้สึกว่ามันจะแค่ขาพิการมือไม่ได้พิการนะ” คุณหญิงของบ้านแขวะขึ้นซึ่งนั่นก็ทำให้สไมล์หน้าซีดไปทันที


          “คุณหญิง” นทีหันไปปรามผู้เป็นภรรยา


          “เฮอะ แตะต้องไม่ได้เลยสินะคะ ฉันอิ่มละกินไม่ลง” คุณหญิงของบ้านว่าก่อนจะวางช้อนซ้อมแล้วลุกออกจากโต๊ะอาหาร

ไป


          “ผมก็กินไม่ลงเหมือนกัน ขอตัวนะครับป๊า” สามว่าก่อนจะลงตามผู้เป็นแม่ไปสไมล์รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเป็นคนทำให้บรรยากาศของคนในครอบครัวเสียสินะ เขามันก็แค่คนนอกเป็นแค่กาฝากสำหรับครอบครัวนี้

เท่านั้น


          “สไมล์ไม่ต้องคิดมากนะ” หนึ่งว่าพร้อมกับลูบหัวร่างบางเบาๆอย่างปลอบโยนจนสองที่นั่งอยู่อีกฝั่งอดแขวะไม่ได้


          “รู้สึกพี่หนึ่งจะรักเด็กนี่มากกว่าน้องแท้ๆอย่างพวกผมอีกคน”


          “อยากมาแดกดันน้องอีกคนน่ะสอง” นทีบอกกับลูกชายคนรอง


          “ผมไม่ได้แดกดันเสียหน่อย” สองยักไหล่พร้อมกินข้าวต่อ ก็อย่างที่เคยบอกว่าเขาไม่ได้เกลียดเด็กนี่แต่แค่ไม่ชอบใจว่า

อยู่ๆพ่อของเขาก็พาใครๆไม่รู้เข้ามาอยู่ในบ้านและพี่หนึ่งก็ดูจะรักและเอ็นดูเด็กนี่เสียเหลือเกินแต่เรื่องเมื่อกลางวันที่เขาลืมเด็กนี่

ไว้ในห้องน้ำก็แอบรู้สึกผิดเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเด็กนี่ลงจากอ่างมาได้ยังไงแต่ดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรไม่อย่างนั้นเขาคงโดนพ่อกับ

พี่หนึ่งดุแน่ๆ...หลังจากที่มื้ออาหารเย็นผ่านไปหนึ่งก็เข็นรถเข็นสไมล์มาที่สนามหญ้าหน้าบ้านแบบทุกวันเมื่อมารับลม สไมล์ต้อง

อุดอู้อยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมทั้งวันทำให้ร่างบางต้องรู้สึกอึดอัดมากแน่ๆ ดังนั้นการออกมาสูดอากาศข้างนอก รับลมเย็นๆในช่วง

เย็นแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว


          “เดี๋ยวสไมล์รอพี่อยู่นี่แปบนะเดี๋ยวพี่ไปเอาผลไม้มาให้” หนึ่งว่า


          “ไม่ต้องก็ได้ครับพี่หนึ่ง สไมล์ไม่หิว พึ่งทานข้าวมาเอง” สไมล์ว่า


          “แต่กินผลไม้เยอะๆดีนะ รออยู่นี่ล่ะ” หนึ่งว่าก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในคฤหาสน์ทันที สไมล์มองตามอีกคนไปนิดๆก่อน

จะหันกลับมา ตากลมมองไปที่นกตัวน้อยๆที่บินมาเกาะสายไฟแล้วก็บินออกไปทำให้เขารู้สึกอิจฉา นกตัวนี้มีอิสระที่จะสามารถ

ทำอะไร ไปไหนมาไหนก็ได้ตามแต่ใจของมันต่างจากเขา เขาเหมือนนกตัวน้อยๆในกรงทองซึ่งต่อให้มีใครมาเปิดกรงเขาก็ไม่รู้

เหมือนกันว่าเขาควรจะบินไปที่ไหนดี เขาไม่มีที่ไป มืดมนทั้งแปดด้าน


        “มึงสินะไอ้เป๋ที่มาเป็นกาฝากอยู่ในบ้านของกู” เสียงทุ้มดังขึ้นทำให้สไมล์หันไปมองทันที


        “ผมชื่อสไมล์ ไม่ได้ชื่อเป๋” สไมล์พูดขึ้น


          “กูจะเรียกไอ้เป๋มีอะไรมั้ย” สามว่าอย่างกวนๆ สไมล์มองหน้าอีกคนอย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรออกมา เขาไม่ได้

อยู่ในสถานะที่จะมาต่อปากต่อคำกับอีกคนอยู่แล้ว


        “มึงจะเป็นกาฝากเกาะครอบครัวของกูนานแค่ไหนวะ พูดตรงๆเลยว่ากูไม่พอใจมากที่พ่อเอามึงเข้ามาอยู่ในบ้าน” สาม

ว่า สไมล์ก็ยังคงนิ่ง


          “ไม่สมเพชตัวเองบ้างหรือไงที่ต้องมาเป็นภาระให้คนอื่นแบบนี้ ถ้ากูเป็นมึงหนีตายไปนานแล้ว” สไมล์น้ำตาคลอกับคำ

พูดของอีกคนแต่ก็พยายามสะกดกั้นเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา เขารู้ว่าเขามันเป็นตัวภาระแต่เขาก็คิดว่าการตายก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี

ของชีวิต แม้ว่าตอนที่รู้ว่าเขาไม่เหลือใครแล้วเขาก็เคยคิดที่จะฆ่าตัวตายตามพ่อกับแม่ไปแต่พอนึกถึงยามที่เขาเกิดมา พ่อกับแม่

ดีใจแค่ไหน พ่อกับแม่มีความสุขขนาดไหนที่มีเขาเขาก็ทำไม่ลง เขาต้องสู้ ต้องมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อให้พ่อกับแม่มีมองมาจากบน

สวรรค์ภาคภูมิใจในตัวเขา


          “ผมไม่คิดที่จะหนีปัญหาโดยการตาย” สไมล์พูดขึ้นพร้อมกับมองหน้าสามแม้ว่าดวงตากลมจะยังสั่นๆเพราะตื่นกลัวอีก

คนอยู่ก็ตาม


          “แต่ก็ไม่มีใครอยากจะให้มึงอยู่” สามว่า


          “มีสิ...” สามเลิกคิ้ว


          “...พ่อกับแม่ผมไง” สามร้องเฮอะออกมาทันที


          “แล้วไหนล่ะพ่อกับแม่ของมึง ไม่ใช่หนีตายไปแล้วหรือไง” สไมล์กำมือแน่นอย่างไม่พอใจกับคำพูดของอีกคน


          “อย่ามาพูดถึงพ่อกับแม่ผมแบบนี้” สไมล์ว่า


          “กูจะพูด เพราะมันคือความจริง ความจริงที่กาฝากอย่างมึงต้องสำเหนียกตัวเองไว้ซะว่าบนโลกใบนี้ไม่มีใครต้องการ

กาฝากอย่างมึงอีกแล้ว” สามว่าก่อนจะผลักรถเข็นของสไมล์อย่างแรงโดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นว่าที่ที่รถเข็นอยู่เป็นที่ลาดลงทำให้

พอสามออกแรงผลักรถเข็นก็เคลื่อนที่อย่างแรงยังสามเองยังตกใจ



พลั้ก!!



โครม!!



สไมล์ร้องโอดโอยออกมา แขนบางและขาเรียวเต็มไปด้วยรอยถลอกและเลือดซิบๆสามมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจไม่คิดว่าจะ

ทำให้อีกคนเจ็บตัว เขาแค่หมั่นไส้ในใบหน้าที่หยิ่งทะนงตัวของมันเลยกะจะผลักรถเข็นมันแรงๆเฉยๆไม่คิดว่าจะทำให้รถเข็น

เคลื่อนที่แล้วไปชนกับก้อนหินจนมันล่วงรถเข็นแบบนี้


          “สไมล์!!” หนึ่งเรียกอีกคนเสียงดังก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาทันที


          “นายทำอะไรของนายฮะสาม!” หนึ่งหันไปตะหวาดน้องชายทันทีเมื่อเห็นสภาพของสไมล์


          “ก็อย่างที่พี่เห็น” สามยักไหล่ ในเมื่อพี่ชายเขาดูเหมือนจะรักจะเอ็นดูมันเสียเหลือเกินต่อให้เขาพูดอะไรไปก็คงจะไม่มี

ประโยชน์ จะหาว่าแก้ตัวเปล่าๆ สู้ยอมรับหน้าด้านๆแบบนี้ไปเลยสะใจกว่าเอยะ


          “เดี๋ยวเรามีเรื่องต้องคุยกัน” หนึ่งว่าก่อนจะเข้าไปจับรถเข็นให้ตั้งขึ้นและพยุงสไมล์กลับไปนั่งบนรถ สไมล์มองที่สามด้วย

ความโกรธ ไม่คิดว่าอีกคนจะใจร้ายถึงขั้นทำร้ายร่างกายของเขาแบบนี้แต่สามก็หาได้สนใจไม่ ก็ดี...จะได้ถือเป็นการประกาศ

ศึกกันไปเลย...เสียงทะเลาะกันเสียงดังของหนึ่งกับสามทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ลงมาดูทันที สามถูกพ่อต่อว่าไม่น้อยเรื่องที่ทำ

สไมล์เจ็บตัวซึ่งนั่นก็ทำให้สามไม่พอใจเป็นอย่างมาก พ่อของเขารักมันมากอย่างที่แม่ของเขาเคยบอกจริงๆ

          “สามเห็นแล้วใช่มั้ยว่าป๊ารักมันแค่ไหน ม๊าเกลียดมัน เกลียดมันที่สุด” จินดาพูดกับลูกชายสุดที่รักด้วยความเครียด

แค้น ยิ่งมองใบหน้าไอ้เด็กนั่นที่คล้ายกับแม่ของมันเท่าไหร่เธอก็ยิ่งเกลียด


          “ม๊าไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการไอ้กาฝากนั่นเอง” สามว่าอย่างจริงจัง


          “สามคิดจะทำอะไรลูก” จินดาถาม สามแสยะยิ้มร้ายกาจ


          “ก็ทำให้มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ไงครับม๊า”...อาหารมื้อเช้ามีผู้ร่วมโต๊ะเพียงสี่คนเท่านั้นเพราะคุณ

ผู้ชายของบ้านและลูกชายคนโตของบ้านมีประชุมแต่เช้า สไมล์รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อยที่ต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่เกลียดเขาแบบ

นี้


          “เอ่อ...ผมขอตัวนะครับ” สไมล์พูดขึ้นพร้อมกับรวบช้อนและส้อม สามเลิกคิ้วมองหน้าอีกคน


          “เดี๋ยว” สไมล์ที่กำลังจะเข็นรถกลับก็ชะงัก



ซ่า!

น้ำเปล่าจากแก้วไหลลงจากหัวของสไมล์โดยฝีมือของร่างสูง


          “กินข้าวแล้วก็ต้องกินน้ำด้วยสิ” สามว่าก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก สไมล์มองหน้าอีกคนด้วยความไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้

โต้ตอบอะไรออกมา


          “มองหน้า? หรือจะเอาอีกแก้ว” ว่าแล้วสามก็เทน้ำรดหัวของสไมล์อีกครั้งท่ามกลางเสียงหัวอย่างสะใจของคุณผู้หญิงของ

บ้าน


          “สองแก้วก็พอแล้วค่ะลูก เปลืองน้ำบ้านเราเปล่าๆ กาฝากอย่างมันน้ำล้างห้องน้ำท่าจะเหมาะกว่า น้ำแร่แบบนี้มันราคา

แพงเกินไป” จินดาว่า สไมล์มองสองแม่ลูกน้ำตาคลอ เขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้สองคนนี้เกลียดเขานักหนาแต่เขาก็ทำได้เพียงแต่

นิ่งเท่านั้น มือบางยกขึ้นมาปาดน้ำออกจากใบหน้าก่อนจะเข็นรถเข็นตัวเองไปหาสาวใช้เพื่อให้พาเขากลับไปยังห้องนอน


          “ทำเกินไปหรือเปล่า” สองที่นั่งอยู่ถามขึ้น


          “แกสงสารมันหรือไงฮะตาสอง” จินดาหันไปพูดด้วยความไม่พอใจ


          “เปล่าครับม๊า” สองตอบ


          “พี่ไม่ต้องไปสงสารกาฝากอย่างมันหรอกแค่นี้มันยังน้อยไป มันต้องเจออะไรอีกเยอะ” สามแสยะยิ้มร้าย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เกลียดๆๆๆ มีแต่ความเกลียดสองแม่ลูกคู่นี้!!! นี่พระเอกจริงๆใช่มั้ย? หรือนางร้ายละครหลังข่าว? 555555 ด่าได้ค่ะ ด่าแรงๆ

ด่ารัวๆๆๆ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ด่าอะไรไปก็คงจะไม่สะเทือนสองแม่ลูกนี่หรอก เพราะความเอี้ยมันซึมลึกแทรกเข้ากระดูกซึมเข้าไขสันหลังทะลุสมองไปแล้ว  :m16

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่า :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy
( Grammar x Song )




 
Grammar : ขาว สวย หมวย เอ็กซ์ สเปคผมเลยครับ

Song : ไอ้เด็กเปรต! ถ้าจะเล่นก็ไปเล่นตรงโน้นไป๊!



















คู่รองมาแนวเมะเต๊าะเคะนะคะ 55555 ใครไม่ชอบแนวนี้ก็ทำใจอ่านหน่อยนะคะ ยังไงก็ฝากติดตามทั้งคู่หลักคู่รองด้วยเน้อออออ
___จางบิวตี้___


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 1
( Grammar x Song )


        เพราะน้องชายสุดที่รักพึ่งกลับมาเมืองไทย ‘สอง’ เลยได้โอกาสพาน้องชายไปหาอะไรกินอร่อยๆเสียหน่อย ไปอยู่อังกฤษมาเสียตั้งนานสงสัยจะคิดถึงอาหารไทยไม่น้อยแม้ว่าที่นั่นก็มีร้านอาหารไทยก็เถอะแต่ชีวิตเด็กนักเรียนไฮท์สคูลที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบตลอดเวลาจะมีเวลาไปเสาะหาของอร่อยๆกินได้ยังไง อร่อยที่กินทุกวันก็คงหนีไม่พ้นฟาสฟู้ด



          “คิดไงพาออกมาเลี้ยงข้าวเนี่ย” สามถามพี่ชาวตัวเล็กขึ้นพร้อมกับเดินกอดคอกันอย่างสนิทสนมนี่ถ้ามองจากภายนอกก็คงคิดว่ามาเดทกันเพราะหน้าตาของทั้งคู่ไม่เหมือนกันสักเท่าไหร่ คนหนึ่งหน้าหวานประดุจผู้หญิงส่วนอีกคนหล่อเหลาและมีนัยน์ตาคมที่มีเสน่ห์



          “อยากพามามีไรมั้ย” สองย่นจมูกใส่น้องชาย สามหัวเราะเบาๆกับท่าทางของพี่ชาย จะว่าไปในบรรดาพี่น้องสามคนเขาสนิทกับพี่สองมากกว่าพี่หนึ่งเพราะอายุไล่เลี่ยกัน



          “ไหนๆมาแล้วผมว่าจะซื้อของด้วยเลย” สามว่า สองพยักหน้ารับเพราะเขาเองก็อยากซื้อของหลายอย่างเหมือนกัน ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมชีวิตน่าเบื่อไม่น้อยนอกจากกินๆนอนๆอยู่บ่นก็มีห้างสรรพสินค้านี่แหละที่เป็นที่พักผ่อนอีกอย่างหนึ่งเพราะสำหรับสองการช็อปปิ้งถือเป็นการพักผ่อนที่ดี ถามว่าสองไม่มีเพื่อนงั้นเหรอ? ก็ตอบได้เลยว่าไม่มี สาเหตุก็คงจะมาจากผู้เป็นแม่ที่มักจะบงการทุกอย่างในชีวิตลูกๆแม้กระทั่งการเลือกคบเพื่อน คนนั้นไม่ดี คนนี้ฐานะไม่คู่ควร มักเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากแม่ของเขาเสมอจึงทำให้สองไม่มีเพื่อนที่สนิทใจแม้แต่คนเดียว มีแค่คุยๆกันผ่านๆเวลาเรียนเท่านั้น ถามว่าเหงามั้ยก็คงตอบเลยว่าเหงามากแต่ทำยังไงได้ล่ะ เขาขัดอะไรแม่ไม่ได้อยู่แล้ว



          “พี่สอง”



          “ฮะ” สองทำหน้าเหราหราเมื่อน้องชายเรียกเสียงดัง



          “เหม่ออะไรผมเรียกตั้งหลายรอบ” สามถามพร้อมกับขมวดคิ้ว สองยิ้มนิดๆก่อนจะส่ายหน้า



          “ไม่มีไร กินเถอะๆ” สองว่าเพราะอาหารที่สั่งมาพอดี...หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จสองพี่น้องก็พากันเดินมาที่แผนกเสื้อผ้าและก็แยกกันดูของที่ตัวเองตั้งการโดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาหนึ่งคู่มองมาอยู่ วันนี้ ‘แกรมม่า’ เองก็มาเที่ยวห้างหรูใจกลางเมืองเช่นเดียวกันตอนแรกก็อยากจะเข้าไปทักเพื่อนสนิทนะแต่พอเห็นคนหน้าสวยข้างกายก็เลยไม่เข้าไปเป็นก้างดีกว่า ไม่คิดว่าพึ่งกลับไทยมาไม่กี่วันไอ้เพื่อนตัวร้ายของเขามันได้เด็กข้างกายแล้วแต่ที่น่าสนใจคือเป็นผู้ชาย! สำหรับเขามันเป็นเรื่องปกติเพราะเขาเป็นไบหญิงก็ได้ ชายก็ดีแต่สำหรับไอ้สาม มันเคยแต่ผู้หญิงเท่านั้นซึ่งนั่นก็แปลว่าคนหน้าหวานนั่นต้องมีดีอะไรแน่ๆถึงทำให้ไอ้เพื่อนของเขาหันมาลองข้างหลังได้ หึๆ ถ้าเด็ดจริงๆเอาไว้มันเขี่ยเมื่อไหร่เขาคงต้องขอต่อบ้างเสียแล้ว เมื่อเห็นว่าคนสองคนเดินแยกกันไปดูเสื้อผ้าและเครื่องประดับแกรมม่าเลยจัดการเดินตามคนหน้าสวยเด็กของเพื่อนสนิทไปทันที มองไกลๆว่าสวยแล้วใกล้ๆจะขนาดไหนกัน



พรึ่บ

          “ผมหยิบก่อนนะ” สองขมวดคิ้วทันทีที่มีมือหนามาหยิบนาฬิกาเรือนเดียวกับเขา



          “แต่ผมก็ชอบอันนี้เหมือนกัน” แกรมม่าว่าพร้อมยิ้มร่า ยิ่งเห็นใบหน้าบึ้งตึงของคนตรงหน้าก็ยิ่งถูกใจ มองไกลว่าสวย มองใกล้ๆยิ่งสวยไปใหญ่ ผู้ชายอะไรหน้าหวานขนาดนี้ ตาเรียวๆไม่โตมากของอีกคนมันดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลดี



          “เอ๊ะ คุณนี่” สองมองอีกคนอย่างไม่พอใจ ทั้งท่าทาง คำพูดคำจาและสายตาที่เหมือนกับมองจาบจ้วงเขาอยู่ตลอดเวลา เสียมารยาทชะมัด!



          “งั้นเอางี้ ผมยอมคุณก็ได้แต่...” แกรมม่าเว้นวรรค



          “..บอกชื่อคุณมาก่อน” สองร้องเฮอะออกมาทันทีกับคำพูดของอีกคน ไม่ใช่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายเข้ามาจีบเขา แผนตื้นๆ การเข้าหาแบบตื้นๆสองล่ะเบื่อ!



          “จีบผมหรือไง” แกรมม่าหัวเราะออกมาทันทีกับคำถามตรงๆของอีกคน



          “ถ้าใช่ล่ะ” แกรมม่ายังคงยิ้มแต่ก่อนที่สองจะได้โต้ตอบอะไรกลับเสียงทุ้มก็ดังขึ้น



          “พี่คุยกับใครน่ะ” สามถามขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่ชายตัวเล็กกำลังคุยอยู่กับใครสักคนที่มองจากข้างหลังก็รู้สึกคุ้นไม่ใช่น้อย



          “คนโรคจิต” สองตอบน้องชาย แกรมม่าหัวเราะร่าทันทีก่อนจะหันไปหาสาม



          “อ้าวมึง!” สามเรียกเพื่อนสนิท ทำให้สองขมวดคิ้วทันทีที่ทั้งคู่เหมือนรู้จักกัน



          “รู้จักกัน?” สองถามน้องชาย



          “นี่ไอ้แกรมม่าเพื่อนสนิทที่ตามมาด้วยจากอังกฤษ” สามแนะนำเพื่อนให้กับพี่ชาย สองมองอีกคนนิดๆก่อนจะทำท่าไม่สนใจ



          “ส่วนนี่”



          “เด็กมึงนี่หยิ่งชะมัด” แกรมม่าพูดขัดขึ้นก่อนที่สามจะแนะนำ สองถลึงตาใส่อีกคนทันทีที่ได้ยิน สามหัวเราะออกมากับคำพูดของเพื่อน



          “เด็กพ่องมึงดินี่พี่ชายกู” แกรมม่าขมวดคิ้ว พี่ชาย?



          “ตาถั่ว” สองว่าออกมาแม้จะเบาๆแต่แกรมม่ากลับได้ยินมันอย่างชัดเจน



          “ก็ใครจะไปรู้ล่ะครับพี่ หน้าพี่กับเพื่อนผมไม่เหมือนกันแบบนี้” แกรมม่าว่าอย่างขำๆ



          “ไม่เหมือนตรงไหน ตาถั่วชัดๆ” สองเถียง



          “นี่พี่จะให้บอกจริงๆเหรอ” แกรมม่ายักคิ้วอย่างกวนๆซึ่งนั่นก็ทำให้สองรู้สึกไม่ชอบใจคนตรงหน้ามากขึ้น กวนประสาทที่สุด!



          “นายจะไปไหนกับเพื่อนนายก็ไปนะ พี่ว่าจะกลับละ” สองหันไปบอกกับสามอย่างไม่สนใจอีกคน สามพยักหน้ารับก่อนจะชวนเพื่อนไปหาอะไรดื่มกันโดยแกรมม่าไม่วายหันมาทำท่าโบกมือบ๊ายบายอีกคนอย่างกวนๆ



          “สนใจพี่กูหรือไง” หลังจากที่ลับหลังพี่ชายไปสามก็ถามขึ้น



          “ถ้ากูตอบว่าใช่” แกรมม่าเลิกคิ้ว



          “คงไม่ได้ว่ะ” สามยักไหล่ แกรมม่าขมวดคิ้วมุ่น



          “กูกับมึงรู้สันดานกันดีเพราะฉะนั้นไปหาคนอื่นเถอะ พี่ชายกูไม่เหมาะจะเป็นของเล่นมึง” สามว่าอย่างจริงจัง แกรมม่านิ่งไปสักครู่ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างปลงๆเพราะก็เข้าใจที่เพื่อนหมายความดีแต่ในใจก็ยังอดนึกถึงใบหน้าสวยหวานของอีกคนไม่ได้ สนใจ...รู้สึกสนใจจริงๆ



          “เออๆ ไม่ยุ่งก็ไม่ยุ่ง” แกรมม่าว่า สามกระตุกยิ้มพลางในใจก็คิดว่ามันจะทำได้อย่างที่ปากพูดหรือเปล่าเพราะมองหน้าก็รู้แล้วว่าแม่งสนใจพี่ชายเขาขนาดไหน แม้มันจะเจ้าชู้ กะล่อนไปทั่วแต่ก็ไม่เคยเห็นมันเข้าหาด้วยวิธีแปลกๆแบบนี้ ปกติแค่ส่งสายตา พูดประโยคสองประโยคมันก็ได้แล้ว...ทางด้านของสองที่คิดว่าจะกลับบ้านก็เดินไปที่ลานจอดรถทันทีที่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร้านโดนัทหน้าตาน่ากิน ร่างบางกัดปากนิดๆอย่างชั่งใจแต่สุดท้ายก็เดินเข้าไปในร้านแล้วได้โดนัทมาหนึ่งกล่องกลางๆ พอ  กลับมาถึงบ้านก็พบว่าแม่ของเขาไม่อยู่ไปสมาคมเพชรพลอยกับเพื่อนๆคุณหญิงด้วยกัน สองจึงได้โอกาสเดินเข้ามาในห้องนอนของอีกคนที่เขาไม่ค่อยได้เฉียดกายเข้ามาเท่าไหร่



          “พี่สองมีอะไรหรือเปล่าครับ” สไมล์ถามขึ้นอย่างงงๆที่เห็นอีกคน



          “เอาไป” สองว่าพร้อมกับยื่นกล่องโดนัทให้อีกคน สไมล์มองกล่องโดนัทสลับกับอีกคนก่อนจะยิ้มกว้าง



          “ขอบคุณครับ”



          “ขอบคุณอะไร พอดีได้แต้มสมาชิกแลกซื้อต่างหาก มันหมดเขตวันนี้แล้วก็ไม่รู้จะให้ใคร อย่าหลงตัวเองให้มาก” สองว่าแต่ก็อดอายๆไม่น้อยกับคำโกหกที่แปล่งๆของตัวเอง แม้อีกคนจะพูดแบบนั้นแต่สไมล์ก็ยังคงยิ้มรับ



          “ถึงอย่างนั้นก็ขอบคุณนะครับ ผมจะกินให้หมดเลย” สองทำท่าพยักหน้ารับส่งๆก่อนจะเดินออกไป สไมล์มองไปที่กล่องโดนัทด้วยรอยยิ้ม อย่างน้อยพี่สองก็ไม่ได้เกลียดเขาอย่างที่เขาคิด สองที่เดินออกจากห้องของอีกคนพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากนิดๆ ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาซื้อมาเหมือนกันแต่พอนึกถึงใบหน้าหม่นๆของอีกคนแต่กลับมีรอยยิ้มตลอดมันทำให้เขาตัดสินใจซื้อมาฝาก เขาไม่รู้หรอกว่าแม่กับน้องชายเกลียดเด็กนั่นขนาดไหนแต่สำหรับเขาถ้ามองข้ามความเกลียดชังที่ว่าไปเด็กนั่นก็น่าจะเป็นเพื่อนที่ดีให้กับคนที่ไม่เคยมีเพื่อนอย่างเขาได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สองนางน่ารักนะเออ คือนางแค่ขัดแม่ไม่ได้เลยต้องร้ายตามแต่จริงๆนางน่าสงสาร  ฮือออออ T^T ฝากติดตามทั้งคู่หลักคู่รองเลยนะคะ จุ๊บๆ >3<
   
___จางบิวตี้___
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-06-2016 18:57:39 โดย Jang_B2UTY »

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 6

 

          หลายวันมานี้ที่บริษัทงานยุ่งมากทำให้หนึ่งไม่ค่อยมีเวลามาดูแลสไมล์เท่าไหร่อีกทั้งร่างบางยังขออนุญาตผู้ที่นับถือกันเป็นลุงให้ย้ายห้องนอนเขาให้ลงมาอยู่ชั้นล่างแทนเพราะรู้สึกเกรงใจที่ต้องมีคนคอยพาเขาขึ้นลงตลอดอีกทั้งยังรู้สึกไม่ดีกับคำกระแนะกระแหนของคุณผู้หญิงของบ้านที่หาว่าเป็นแค่คนอาศัยแต่มาตีตัวเสมอ ตอนแรกลุงนทีก็ไม่ยอมให้สไมล์ย้ายลงมาแต่สไมล์ขอร้องจริงๆและยังอ้างเหตุผลอีกมากมายจนลุงนทีต้องยอมเขาในที่สุด แม้ว่าห้องชั้นล่างจะไม่ได้ใหญ่โตและมีเครื่องอำนวยความสะดวกเหมือนชั้นบนแต่สำหรับสไมล์แค่มีที่ซุกหัวนอนเขาก็พึงพอใจแล้ว  หลายวันมานี้สามไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับสไมล์เท่าไหร่อาจจะมีพูดจาไม่ดีใส่บ้างตอนที่ต้องร่วมโต๊ะอาหารแต่นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรเพราะอีกคนไม่ค่อยอยู่บ้านเท่าไหร่เห็นพวกสาวใช้บอกว่าไปเที่ยวกับเพื่อนที่กลับไทยมาด้วยกัน ส่วนพี่สอง...เพียงแค่นึกถึงวันที่อีกคนซื้อโดนัทมาฝากสไมล์ก็อดยิ้มไม่ได้แม้ว่าอีกคนจะไม่ได้มาทำดีหรือพูดจาดีด้วยแต่เขาก็นับว่านั่นเป็นสัญญาณที่ดี



          “ให้สไมลล์ช่วยนะครับ” สไมล์ว่าพร้อมกับเข็นรถเข็นตัวเองเข้ามาในครัวขณะที่พวกสาวใช้กำลังช่วยกันจัดอาหารเย็น



          “โถ่คุณสไมล์ ทำแบบนี้อีกแล้วนะคะ” สาวใช้คนหนึ่งว่าเพราะหลายวันมานี้สไมล์ชอบมาช่วยงานในครัวเล็กๆน้อยๆที่อีกคนพอช่วยได้ตลอด ทั้งๆที่มันไม่ใช่หน้าที่อะไรของอีกคนเลยแต่สไมล์ก็ยังทำเพราะเขาไม่อยากถูกว่าว่าเป็นกาฝากในบ้านอีก

แล้ว อย่างน้อยขอให้ได้ทำประโยชน์อะไรบ้างเล็กๆน้อยๆก็ยังดี



          “สไมล์อยากทำนี่ครับ งั้นสไมล์ช่วยเด็ดผักนะครับ” สไมล์ว่าด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพาตัวเองไปที่โต๊ะที่มีถาดผักวางไว้อยู่ สาวใช้ในครัวพากันมองร่างบางด้วยความเอ็นดูปนสงสารไปด้วย สองเดือนที่ผ่านมาที่รู้จักกันพวกเธอคิดว่าสไมล์เป็นเด็กที่น่ารัก น่าเอ็นดูมากเลยทีเดียวแต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณผู้หญิงของบ้านถึงได้จงเกลียดจงชังอีกคนนัก



          “ทำไมวันนี้อาหารเยอะจังเลยครับ” สไมล์ถามขึ้น



          “ก็วันนี้คุณผู้ชายกับคุณหนึ่งจะกลับมาร่วมโต๊ะด้วยค่ะ” สไมล์ยิ้มกว้างทันทีที่ได้ยิน อย่างน้อยบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็ไม่อึดอัดแบบที่เคยสินะ...อาหารมื้อเย็นผ่านไปและก็เป็นอย่างที่สไมล์คิดพอลุงนทีและพี่หนึ่งอยู่คุณผู้หญิงและสามก็ไม่ได้แขวะอะไรเขามีเพียงสายตาคมที่ชอบมองมาที่เขาอย่างไม่สบอารมณ์เวลาที่พี่หนึ่งคอยเอาใจเขาเท่านั้น แม้จะอึดอัดใจไปบ้างแต่สไมล์ก็พยายามไม่สนใจ...ตกดึก...ไม่รู้ว่าเพราะเขากินข้าวเย็นน้อยไปหรืออย่างไรทำให้ตอนนี้เขารู้สึกหิวไม่น้อย ดีหน่อยที่ย้ายห้องลงมาอยู่ชั้นล่างแล้วทำให้เขาสามารถออกจากห้องเองได้แม้จะลำบากในตัวพยุงตัวเองมาที่รถเข็นหน่อยแต่เขาก็ทำมันได้ สไมล์พาตัวเองมาที่ห้องครัวก่อนจะจัดการเอานมจืดอุ่นใส่ไมโครเวฟเพื่อจะดื่ม ว่ากันว่าดื่มนมก่อนนอนจะทำให้สบายท้องและนอนหลับอย่างสบาย



          “อร่อยจัง” สไมล์ว่าออกมาหลังจากที่กระดกดื่มนมไปหนึ่งอึก เสียงแกร็กที่ดังมาจากหน้าประตูทำให้สไมล์ชะงักไปนิดก่อนที่ตากลมจะหันไปสนใจทางประตูบ้านซึ่งสามารถมองได้จากในห้องครัว ไม่ได้คิดว่าจะมีขโมยอะไรหรอกแต่แค่สงสัยว่าใครกันที่เข้ามาตอนนี้ก่อนที่ความสงสัยจะหายไปเมื่อเห็นหน้าของอีกคน   สามขมวดคิ้วที่เห็นว่าไฟห้องครัวเปิดอยู่ ร่างสูงพึ่งออกไปดื่มกับแกรมม่ามาความจริงกะจะไปต่อกับสาวสวยคนหนึ่งแต่คิดไปคิดมารู้สึกเบื่อเลยตัดสินใจกลับบ้านแทน ร่างสูงสาวเท้าเข้าไปในห้องครัวก่อนจะพบกับคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกำลังนั่งดื่มนมอยู่



          “นึกว่าใครที่แท้ก็มึงนั่นเองไอ้เป๋” สามพูดขึ้น สไมล์ขมวดคิ้วใส่อีกคนกับสรรพนามที่ใช้เรียกเขา



          “คุณสามพึ่งกลับมาเหรอครับ” ว่าจะไม่ถามแต่ก็ถามสักหน่อยเป็นมารยาท



          “ก็เห็นอยู่ว่าพึ่งกลับมา ถามโง่ๆ” สไมล์ถอนหายใจออกมา เขาอุตส่าห์ถามดีๆแต่ดูอีกคนตอบเขาสิ เอาเถอะ...ยังไงอีกคนก็เกลียดเขานี่หน่าจะให้มาพูดดีด้วยคงจะแปลก



          “มีอะไรหรือเปล่าครับ” สไมล์ถามขึ้นเมื่ออยู่ๆอีกคนก็เอาแต่จ้องหน้าเขา สามสะบัดหัวไปมานิดๆไม่รู้ว่าฤทธิ์เหล้าหรือว่าอะไรทำไมถึงได้มองคนตรงหน้า...น่ารักปากบางที่มีคราบนมที่มันพึ่งดื่มเปื้อนขอบปากอยู่ทำให้อีกคนดูเย้ายวนไม่ใช่น้อยสาบานว่าเขาโทษฤทธิ์เหล้าที่พึ่งกินมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพราะถ้าปกติเขาไม่มีทางคิดแบบนี้แน่



          “หรือว่าคุณสามจะดื่มนมครับ” สไมล์ถามก่อนจะยื่นแก้วนมในมือให้อีกคนสามรับมาก่อนจะกระดกดื่มแล้วเดินไปประกบริมฝีปากกับอีกคนทันที สไมล์เบิกตากว้างอย่างตกใจกับการกระทำของอีกคน นมจืดที่เขาพึ่งดื่มเมื่อครู่หลั่งไหลเข้ามาในปากก่อนจะไหลลงมาจนเปรอะเปื้อนไปหมด สามสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของอีกคนพร้อมกับตวัดเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กที่พยายามหลบหนีอย่างเงอะงะ รสชาตินมจืดยังคงคุลกเคล้าอยู่ในโพรงปากของอีกคนแต่นั่นก็ทำให้รสจูบละมุนไม่ใช่น้อย



          “อื้ออออ” สไมล์ครางประท้วงในลำคอเมื่อเริ่มหายใจไม่ออกทำให้สามได้สติร่างสูงรีบผละออกจากอีกคนทันที สไมล์หอบแฮ่กๆโกยอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็วก่อนจะมองอีกคนอย่างไม่เข้าใจกับสิ่งที่ทำกับเขา



          “มองเชี่ยไรวะ” สามโวยวายใส่อีกคน



          “เปล่าครับ” สไมล์ว่า อยากจะถามว่าอีกคนทำแบบนี้กับเขาทำไมแต่เพราะเมื่อกี้ก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวอีกคนก็คาดเดาได้ว่าคงเมาแน่ๆ แต่เมาถึงขั้นต้องทำเรื่องแบบนี้กับเขาเลยหรือไง



          “เลิกมองกูสักทีสัส กูไม่ได้พิศวาสมึง กูเมา” สามว่าก่อนจะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไป สไมล์ถอนหายใจออกมามือบางเผลอยกขึ้นมาจับที่ริมฝีปากตัวเองไม่ได้ ให้ตายสิ...ทั้งๆที่ก็คิดว่าอีกคนเมาแต่ทำไมกลับรู้สึกดีกับจูบเมื่อครู่



          “บ้าๆๆ” สไมล์ว่าออกมาพร้อมส่ายหัวไปมา รู้สึกดีอะไรกัน เขาโดนฉวยโอกาสอยู่นะมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมารู้สึกดีสิ!...เพราะวันนี้เป็นวันหยุดทำให้หนึ่งได้มีเวลาดูแลอีกคนหลังจากที่ช่วงนี้เขาไม่ค่อยมีเวลาดูแลอีกคนเลย หนึ่งมาช่วยสไมล์อาบน้ำแต่เช้าก่อนจะพาอีกคนมากินข้าวและพาไปนั่งเล่นในสวนหลังบ้านในตอนกลางวัน



          “จริงสิ พี่ซื้อหนังสือมาให้สไมล์ด้วยนะ รอแปบนะ” หนึ่งว่าก่อนจะเดินไปที่รถแล้วหยิบถุงใส่หนังสือที่พึ่งซื้อมาเมื่อวันก่อน



          “หนังสืออะไรกันครับ” สไมล์ถามขึ้นพร้อมกับรับถุงจากมือหนามาเปิดดู



          “นี่มัน...” สไมล์ตาสั่นระริกกับสิ่งที่เห็น ข้างในถุงเป็นหนังสือติวเข้มเข้าคณะทันตแพทยศาสตร์ซึ่งสไมล์เคยบอกกับอีกคนไปว่าอยากจะเรียนต่อคณะนี้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสกลับไปเรียนเมื่อไหร่ ตอนนี้ก็ยังรอโอกาสที่จะผ่าตัดขาซึ่งถ้าสามารถกลับมาเดินได้ก็ดีไปแต่ถ้าไม่...สไมล์ก็จะกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต



          “ตั้งใจอ่านนะครับว่าที่หมอฟันคนเก่ง” หนึ่งว่าพร้อมกับยีหัวอีกคนอย่างเอ็นดูสไมล์พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มทำให้หนึ่งยิ้มตามไปด้วย ไม่รู้ว่าร่างบางกลายเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีสไมล์ก็ทำให้เขาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา



          “ทำไมพี่หนึ่งดีกับสไมล์จังเลยครับ” สไมล์ถามขึ้น เขารู้ว่าลุงนทีและพี่หนึ่งดีกับเขามาก อย่างลุงนทีเขาก็พอเข้าใจว่าสนิทกับแม่ของเขาและแม่เขาก็ฝากฝังเขาไว้กับลุงนทีแต่พี่หนึ่งนี่สิ ทำไมถึงดีกับเขาขนาดนี้ ความจริงพี่หนึ่งจะไม่พอใจเขาก็ได้ไม่แปลกเพราะเขาเป็นใครก็ไม่รู้ที่อยู่ๆก็เข้ามาอยู่ในบ้านแต่อีกคนกลับทำตรงข้ามทุกอย่าง

 

         “สไมล์ไม่รู้จริงๆเหรอ” หนึ่งถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ร่างสูงนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าอีกคนที่นั่งอยู่บนรถเข็น สไมล์มองอีกคนอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเบิกตากว้างเมื่ออีกคนเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนริมฝีปากแนบชิดกันก่อนจะค่อยๆถอนออก

 

         “พี่ชอบสไมล์” หนึ่งว่า



          “พะ...พี่หนึ่ง” สไมล์เรียกอีกคนเสียงพร่า เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นแบบนี้เขาไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกอีกคนมาก่อน         

          “สไมล์ยังไม่ต้องให้คำตอบอะไรพี่ตอนนี้หรอกนะ พี่รู้ว่าสไมล์คงตกใจเพราะฉะนั้นตอนนี้สไมล์แค่รับรู้ความรู้สึกของพี่ก็พอ...นะครับ” สไมล์กัดปากอย่างลำบากใจก่อนจะพยักหน้ารับ หนึ่งยิ้มกว้างอย่างพอใจ...เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้ร่างสูงที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงแววตาวาวโรจน์ด้วยความไม่พอใจ แม้จะไม่ได้ยินว่าทั้งคู่คุยอะไรกันแต่ภาพที่เห็นคือพี่ชายของเขาจูบไอ้กาฝากนั่น



          “แรดชิบหาย” สามว่าออกมาพร้อมมองไปที่คนทั้งคู่ด้วยความไม่พอใจ ไม่รู้ว่าอารมณ์คุกกรุ่นที่เป็นอยู่ตอนนี้สาเหตุมาจากพี่ชายจูบอีกคนหรือว่า...อีกคนยอมให้พี่ชายจูบกันแน่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ง้อวววววว เริ่มมีความรู้สึก 555555 โหวตเปลี่ยนพระเอกได้นะคะรู้สึกว่าพี่หนึ่งจะเหมาะกับบทนี้มากกว่า 55555 ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องนี้ด้วยเน้อออออ

         
___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
นายเอกโดนกระทำอีกแล้ว ส่วนพระเอกเลวตั้งแต่เริ่มเลยนะ

ออฟไลน์ felixia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
คุณแม่ก็โตแล้วนะคะ ทำตัวเหมือนเด็กจังเลย  คุณลูกก็โตแล้วเหมือนกันนะคะ อะไรที่ไม่ดีก็ไม่ต้องตามแม่ก็ได้ค่ะ
อยากจะจับสามมานั่งสั่งสอนสักสองชั่วโมง
หงิดดดดดดดดดดดด ทำไมนิสัยแบบนี้  :katai1:

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: ติดตามรออ่านตอนต่อไปอยู่นะ

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Poor Boy 7

 

        ตั้งแต่ที่หนึ่งซื้อหนังสือมาให้สไมล์ก็ตั้งใจอ่านหนังสือเวลาที่มีเวลาว่างไม่รู้ว่าการผ่าตัดที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้าจะทำให้เขาสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้งหรือไม่แต่เขาก็ยังคงแอบหวัง หวังว่าเขาจะกลับมาเดินได้และกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ ไปเรียนมหาวิทยาลัยในคณะที่เขาหวังและตั้งใจเอาไว้ เพื่อนให้พ่อกับแม่ที่มองลงมาจากบนฟ้าภาคภูมิใจในตัวเขา



          “อ๊ะ เอามานะครับ” สไมล์พูดขึ้นเมื่อมือหนาคว้าหนังสือที่เขากำลังอ่านอยู่ไป



          “เฮอะ มึงคิดว่ามึงจะมีโอกาสกลับไปเรียนหรือไง” สามพูดขึ้นหลังจากที่มองปกหนังสือแล้วรู้ว่าอีกคนกำลังอ่านอะไรอยู่



          “ครับ ผมหวัง” สไมล์ว่า



          “มีปัญญาเดินให้ได้ก่อนเถอะ” สามกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเหยียดๆ สไมล์พยายามไม่สนใจคำพูดและท่าทางของอีกคนเพราะมันจะทำให้เขาหมดกำลังใจเสียเปล่าๆ



          “ขอหนังสือผมคืนด้วยครับ” สไมล์ว่าอีกครั้ง



          “อยากได้ก็เดินมาเอาดิ” สามว่าก่อนจะขยับถอยหลังออกห่างจากอีกคนประมาณสามก้าวพร้อมกับชูหนังสือท้าทาย       สไมล์ทำท่าจะเข็นรถเข็นเข้ามาแต่เสียงทุ้มก็ว่าขึ้นมาก่อน



         “ถ้าไม่เดินมากูก็ไม่คืน” สไมล์ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจกับคำพูดของอีกคน ก็รู้ทั้งรู้ว่าเขาเดินไม่ได้แต่ก็ยังพูดแบบนี้อีก     สไมล์มองหนังสือในมืออีกคนที่ยังไงก็ต้องเอาคืนมาให้ได้พี่หนึ่งซื้อให้เขาทั้งที ว่าแล้วร่างบางก็ค่อยๆใช้มือทั้งสองข้างพยุงตัวเองเพื่อจะลุกยืนแต่แล้วก็...



ตุบ

ร่างบางล้มไปกองอยู่กับพื้น สามชะงักไปนิดที่อีกคนล้มไม่คิดว่าจะเดินมาหาจริงๆทั้งที่รู้ว่าตัวเองเดินไม่ได้ หนังสือเล่มนี้มันคงสำคัญมากสินะ คิดได้อย่างนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดยิ่งไปกว่าเดิม



          “ซี้ดด ขอหนังสือผมคืนด้วย” สไมล์ว่าพร้อมกับร้องซี้ดเบาๆด้วยความเจ็บเพราะเมื่อกี้ที่ล้มลงมาหัวเข่าเป็นแผลถลอกจนเลือดซิบ



          “หนังสือเล่มนี้สำคัญกับมึงมากสินะ เฮอะ” สามว่า สไมล์มองอีกคนอย่างไม่เข้าใจในน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ ไม่พอใจอะไรเขาอีกล่ะ เขาอยู่ของเขาเฉยๆแท้ๆมีแต่อีกคนที่มารังแกกัน



          “มากครับ” คำตอบของอีกคนก็ยิ่งทำให้ร่างสูงยิ่งเดือดเข้าไปใหญ่ ร่างสูงเดินเข้าไปหาอีกคนก่อนจะคว้าคางของอีกคนอย่างแรงให้เงยขึ้นมามองหน้า



          “ทำไม เพราะคนที่ซื้อให้สำคัญมากสินะ หนังสือเล่มนี้เลยสำคัญมาก” สามว่าเสียงดัง



          “ครับ เพราะพี่หนึ่งซื้อให้” สไมล์ก็ไม่ได้ปฏิเสธเพราะสำหรับเขาพี่หนึ่งเป็นพี่ชายที่ดีที่สุด แม้ว่าอีกคนจะรู้สึกพิเศษกับเขาก็ตามแต่เขาก็ยังยืนยันในความรู้สึกว่ารักและเคารพอีกคนเหมือนพี่ชาย



          “แรด ร่าน คิดจะมาอ่อยพี่ชายกู มึงอย่าได้ฝันสูง!” สามโวยวายเสียงดัง



          “ผมไม่เคยทำแบบนั้น ไม่เคยแม้แต่คิด” สไมล์ว่า



          “แล้วที่มึงทำอยู่คืออะไร สามวันก่อนที่แม่งอ่อยให้เขาจูบเรียกว่าอะไร!” สไมล์ทำตาโตกับคำพูดของอีกคน



          “คุณเห็น”



          “เออ กูเห็นเต็มสองตาแล้วทีนี้ยังจะกล้าปฏิเสธอีกมั้ยว่าไม่ได้อ่อยพี่ชายกู!”สามว่าด้วยแรงโทสะพร้อมกับบีบคางบางแรงขึ้นจนสไมล์นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ



          “ผมไม่ได้อ่อยพี่หนึ่งและไม่มีวันที่จะคิดแบบนั้น ผมยืนยันคำเดิม” สไมล์มองหน้าสามอย่างแน่วแน่ในคำพูดแต่สามดลับกระตุกยิ้มร้าย



          “งั้นมาดูกันว่าอ่อยไม่อ่อยเดี๋ยวกูพิสูจน์เอง” สิ้นเสียงทุ้มปากหนาก็ประกบลงมาอย่างแรง สไมล์พยายามขัดขืนแต่เพราะอีกคนล็อคคางของเขาเอาไว้ทำให้ไม่สามารถดิ้นหนีได้ ปากหนากัดเข้าที่ริมฝีบางล่างของคนตัวบางก่อนจะสอดแทรกลิ้นร้อนเข้ามาเพื่อเก็บเกี่ยวความหวานภายในโพรงปากอย่างจาบจ้วงและเอาแต่ใจสไมล์ร้องอื้ออึงในลำคอให้อีกคนปล่อยแต่สามก็ไม่ยอมปล่อย



          “ไอ้สาม!!”



ผลั้ก!

หมัดหนักๆปะทะเข้าที่ใบหน้าหล่อของสามทันที หนึ่งกำหมัดแน่นด้วยความโกรธอย่างมากกับสิ่งที่เห็นเมื่อกี้ น้องชายของเขากำลังรังแกคนที่เขารัก!



          “เฮอะ รู้สึกพี่จะโมโหเกินไปนะ นี่แค่คนอาศัย แค่กาฝากบ้านเราไม่ใช่หรือไง”สามว่าพร้อมกลั้วลิ้นในปากอย่างกวนๆ



          “หุบปากหมาๆของนายซะก่อนที่พี่จะต่อยนายอีกหมัด!” หนึ่งว่าเสียงดังแต่สามก็ไม่สะทกสะท้าน



          “ทำไมผมต้องหุบ ผมพูดความจริง เมื่อกี้ที่ผมทำผมก็แค่อยากพิสูจน์ว่าไอ้กาฝากนี่มันมีอะไรพี่ถึงได้ติดใจนักหนาและก็ได้คำตอบละ...แม่งหวานชิบหาย” สามว่าพร้อมเลียริมฝีปากอย่างยั่วโมโหผู้เป็นพี่ชาย



          “ไอ้สาม!”



ผลั้ว!

หนึ่งเข้ามาต่อยสามอีกครั้ง



          “พี่หนึ่งพอเถอะครับ” สไมล์พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มบานปลายไปกันใหญ่



          “เอะอะเสียงดังอะไรกัน” เสียงทุ้มของผู้เป็นประมุขของบ้านดังขึ้นก่อนที่จะเดินมาพร้อมคุณผู้หญิงของบ้านและลูกชายคนที่สอง



          “ตายแล้ว หนึ่งแกต่อยน้องหรือไงกัน” ผู้เป็นแม่หันไปโวยวายใส่ลูกชายคนโตเมื่อเห็นสภาพของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ปากแตกจนเลือดไหล



          “เกิดอะไรขึ้นฮะหนึ่ง” ผู้เป็นพ่อถามก่อนจะเหลือบไปเห็นสไมล์ว่านั่งกองอยู่กับพื้น



          “ทำไมสไมล์เป็นแบบนี้” ผู้เป็นพ่อถามอีกครั้ง



          “ไอ้สามมันรังแกสไมล์ ถ้าผมเข้ามาช้ากว่านี้มันคง...” หนึ่งว่าก่อนจะหยุดพูดเพื่อระงับอารมณ์ที่เดือดดาดของตัวเอง



          “แกทำอะไรสไมล์” ผู้เป็นพ่อหันมาถามสามเสียงเข้ม



          “เปล่าสักหน่อยก็แค่...จูบ” สามว่าหน้าตายแต่นั่นก็ทำให้หนึ่งไม่พอใจสุดๆ



          “ไอ้เด็กกาฝากนี่อ่อยลูกเหรอ ตายแล้ว คิดไว้ไม่มีผิดว่าแกจะต้องเหมือนแม่ของแก” คุณหญิงของบ้านหันไปแวดใส่สไมล์เสียงดัง



          “คุณหญิง! หยุดเข้าข้างลูกชายตัวดีสักที!” ผู้เป็นสามีว่าอย่างไม่พอใจ



          “เฮอะ แตะต้องไม่ได้สินะคะแม่ของมันเนี่ย” คุณหญิงของบ้านเบะปากอย่างไม่ชอบใจ



          “สรุปแกรังแกสไมล์ใช่มั้ยฮะสาม ทำไมแกถึงทำกับสไมล์แบบนี้ ไม่พอใจอะไรนักหนา” ผู้เป็นพ่อหันไปถามสาม



          “ผมก็แค่สงสัย” สามว่า



          “สงสัยอะไรฮะ!” ผู้เป็นพ่อเริ่มขึ้นเสียงในท่าทางยียวนของลุกชายคนเล็ก



          “ก็สงสัยว่ามันมีดีอะไรพี่หนึ่งถึงได้ติดใจ ถึงได้จูบมันเมื่อสามวันก่อน” สามว่าพร้อมกับยิ้มเย้ยหยันพี่ชายประมาณว่าเขาเหนือกว่า ผู้เป็นพ่อหันไปมองหน้าลูกชายคนโตทันที



          “จริงเหรอหนึ่ง”

 

          “ครับ ป๊าครับ...ผมชอบสไมล์” หนึ่งตอบรับอย่างลูกผู้ชาย



          “ไม่ได้! ฉันไม่ยอม แกจะชอบกาฝากอย่างมันไม่ได้!!” เป็นผู้เป็นแม่ที่ค้านขึ้น



          “คุณหญิงนี่มันเรื่องของเด็กๆนะ” ผู้เป็นสามีปราม



          “ช่างเถอะครับม๊า ปล่อยพี่หนึ่งเขาไปเถอะ เพราะหลังจากที่ผมได้พิสูจน์แล้วว่ามันมีดีอะไรผมก็รู้เลยว่า...” สามเว้นวรรคก่อนจะหันไปมองหน้าสไมล์



          “...แม่งก็ง่าย ไร้ค่า ไม่มีดีอะไรเลย”



เพี้ยะ!

มือหนาของผู้เป็นพ่อตบเข้าที่ใบหน้าของลูกชายคนเล้กอย่างแรงด้วยความโมโห



          “แกไม่มีสิทธิ์ว่าสไมล์แบบนี้!!” ก่อนจะตะคอกใส่เสียงดัง



          “แตะต้องไม่ได้สินะครับ ทั้งๆที่ผมเป็นลูกป๊าแท้ๆแต่ผมกลับแตะต้องกาฝากอย่างมันไม่ได้ เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแจ่มแจ้งเลย” สามกระตุกยิ้มก่อนจะเดินออกไปผู้เป็นแม่มองตามสามีอย่างไม่พอใจและหันไปมองสไมล์ด้วยความเครียดแค้นก่อนจะวิ่งตามลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไป



          “ป๊าทำเกินไปนะครับ” สองที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น ผู้เป็นพ่อนิ่งงันไป



          “แต่มันดูถูกสไมล์นะสอง” หนึ่งว่า



          “แต่นั่นน้องชายเรานะครับพี่หนึ่งและนั่น...ลูกชายป๊านะครับ ไม่ใช่สไมล์ที่เป็นลูกของป๊า” สองว่าก่อนจะเดินกลับไปบ้าง ผู้เป็นพ่อทำหน้าเครียดไม่ใช่น้อยกับสิ่งที่พึ่งทำลงไป เขารู้ว่าเขาทำแรงเกินไปจริงๆเพราะตั้งแต่เล็กจนโตเขาไม่เคยทำรุนแรงกับลูกเลยแต่นี่เขาตบหน้าสาม...ตบหน้าลูกชายคนเล็กของเขา



          “ฮึก ขอโทษครับ” สไมล์พูดขึ้นพร้อมกับค่อยๆปล่อยน้ำตาลงมา



          “สไมล์ร้องไห้ทำไม” หนึ่งถามอย่างร้อนใจ



          “เพราะสไมล์เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ฮึก คุณลุงครับ อย่าโกรธคุณสามเลยนะครับ ฮึก สไมล์ขอร้อง” สไมล์ว่า ถึงแม้อีกคนจะรังแกเขาและทำหยาบคายกับเขาก็ตามแต่เมื่อกี้เขากลับเห็นนัยน์ตาที่เสียใจไม่น้อยของอีกคนเมื่อโดนลุงนทีตบ แผ่นหลังกว้างที่เดินออกไปมีแต่ความเสียใจและน้อยใจเขาสัมผัสได้และรู้สึกผิดไม่น้อยที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้อีกคนถูกพ่อตบแบบนี้ ลองคิดกลับกันถ้าเป็นเขา เขาคงจะเสียใจมากถ้าถูกคนที่เขารักมากถึงมากที่สุดอย่างพ่อมาตบหน้า เขาคงทนไม่ไหวแน่ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สรุปสงสารใครดี? 55555 คือน้องสไมล์น้องเป็นคนดีไปป่าวแต่ก็นะ นายเอกนี่หน่ายังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ จุ๊บๆ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
สามปากเสียจริงๆแหละ และถึงแม้จะบอกว่านั่นลูกแท้ๆแต่การที่สามทำก็ไม่ถูก คือถ้าเราเห็นลูกเราไปรังแกคนอื่นเราจะยืนดูเฉยๆเหรอ มันก็ต้องมีตีมีทำโทษบ้างแหละ

ออฟไลน์ Athobutying

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอออ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao4: เราว่าสามก็สมควรโดนจริง ๆ รอตอนต่อไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด