Tiger 1
เสียงดนตรีที่ดังสนั่นพร้อมกับแสงสีของไฟที่ส่องไปมาจนน่าเวียนหัวแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เหล่าผีเสื้อราตรีทั้งหลายหมด
สนุกไปเลย ยิ่งดึกก็ยิ่งสนุก ยิ่งแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดก็ยิ่งคึกคัก ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทุกวันในสถานที่ที่เรียกว่า
ไนต์คลับ
“ชนเว้ยยยยย” เสียงเฮลั่นดังขึ้นพร้อมกับแก้วแอลกอฮอล์หลายแก้วที่มาชนกัน ณ กลางวงก่อนจะถูกเจ้าของที่ถืออยู่ยก
กลับไปกระดกดื่ม ‘ไทเกอร์’ หนุ่มหล่อ เพลย์บอยตัวพ่อ ทายาทคนที่สามของตระกูลเทพพยัคฆ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีกวาดสายตาไป
ทั่วไนต์คลับเพื่อมองหาเหยื่อ ใช่แล้ว...เสืออย่างเขาต้องออกล่าทุกคืน วันไหนไม่มีเหยื่อตกถึงท้องคงจะกระวนกระวายนอนไม่
หลบเป็นอย่างแน่ ก่อนที่ตาคมจะไปสบกับหนุ่มน้อยน่ารักที่กำลังมองมาที่เขาอยู่เช่นกัน ปากหนากระตุกยิ้มก่อนจะชูแก้วเป็นเชิง
ทักทาย ร่างเล้กนั่นก็ชูแก้วกลับเช่นเดียวกัน
“ไอ้สัสไทเกอร์ได้เหยื่อแล้วเว้ย” เสียงของเพื่อนสนิทของไทเกอร์ดังขึ้น ร่างสูงยักไหล่โต้ตอบกลับไป
“มึงทิ้งน้องจีนคนน่ารักไปแล้วเหรอวะ” เพื่อนอีกคนถามบ้าง ‘จีน’ ก็คือหนึ่งในเด็กของไทเกอร์แต่เพราะอีกคนเป็นผู้ชายที่
หน้าตาน่ารักมาก ไม่วุ่นวายและเทคแคร์เขาอย่างดีทำให้ไทเกอร์ควงนานกว่าทุกคนแต่ถึงจะควงนานก็เคยนอนด้วยแค่สองครั้ง
เท่านั้นเพราะใครก็รู้ว่าเสือตัวพ่ออย่างเขาไม่ชอบนอนกับใครซ้ำสองแต่กับจีนให้พิเศษหน่อยนึงก็ได้
“เปล่า แต่ใกล้ละ” ไทเกอร์ตอบสั้นๆ
“หึๆ จะสลัดหลุดเหรอวะ” อีกเสียงหนึ่งถามขึ้น ซึ่งก็คือ ‘แม็กซ์’ เพื่อนสนิทอีกคนของไทเกอร์ซึ่งนับว่าเป็นคนที่สนิทที่สุด
เพราะรู้จักกันว่าตั้งแต่มัธยม พอมามหาวิทยาลัยก็เสือกเรียนคณะเดียวกัน สาขาเดียวกันอีก
“ระดับไหนแล้ววะ” ไทเกอร์ยกยิ้ม เพื่อนในกลุ่มพากันโห่ร้องด้วยความหมั่นไส้ทันทีเมื่อหนุ่มน้อยน่ารักคนเมื่อครู่เดินเข้า
มาหาไทเกอร์
“ว่าไงครับคนน่ารัก” ไทเกอร์ทักทายขึ้นซึ่งนั่นก็ทำให้อีกคนเขินจนหน้าแดงทันที
“ชื่อซีนครับ” เด็กหนุ่มว่า
“ไทเกอร์ครับ” ไทเกอร์แนะนำตัวกลับบ้าง
“ซีนรู้จักพี่ไทเกอร์แล้วล่ะครับ ใครล่ะจะไม่รู้จักพี่กัน” ซีนว่า แหงแหละ...อีกคนทั้งหน้าตาดี ฐานะรวย ตระกูลมีอำนาจ
ขนาดนี้ ทั้งหญิงทั้งชายตบตีแย่งชิงกันเป็นแถวแต่วันนี้ถือเป็นโอกาสของเขาแล้วล่ะที่จะได้ใกล้ชิดหนุ่มเพลย์บอยคนนี้
“งั้นเหรอ...อืม...แล้วสนใจไปทำความรู้จักแบบสนิทแนบเนื้อกับพี่มั้ยล่ะ” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูบางด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่จน
เด็กหนุ่มรู้สึกปั่นป่วนไปหมด ใบหน้าน่ารักพยักหน้าก่อนที่จะถูกไทเกอร์จับมือพาออกไปโดยไม่วายหันหาบอกลาเพื่อนๆ
“กูไปละ”...ปากหนาประกบเข้าที่ปากบางด้วยความร้อนแรงพร้อมกับมือหนาที่ถอดเสื้อของอีกคนออกด้วยความเชี่ยวชาญ
พลั้ก
ตุบ
ร่างเล็กถูกผลักขึ้นไปบนเตียงก่อนที่ร่างสูงของไทเกอร์จะขึ้นคร่อม ตาคมมองอีกคนอย่างเซ็กซี่จนร่างเล็กหัวใจเต้นรัวไปหมด
ซีนเชื่อแล้วว่าไทเกอร์อันตรายจริงๆ...อันตรายต่อหัวใจและช่องทางด้านหลัง แม้ว่าจะรู้ว่าอีกคนวันไนท์สแตนแต่อย่างน้อยขอให้
ได้อยู่ใต้ร่างของอีกคนสักครั้งก็ยินยอม
“อ๊ะ...อ๊า...อื้อ...อ๊า...พะ...พี่...ไทเกอร์...อื้อ...อ๊า...” เสียงหวานครางกระเส่าไม่ขาดปากเมื่อแก่นกายใหญ่ขยับเข้าออกใน
ช่องทางด้านหลัง ความใหญ่โตมันทำให้ซีนจุกเสียดไม่ใช่น้อย แม้ว่าเขาจะไม่ซิงแล้วก็ตามแต่อดรู้สึกดีกว่าของที่เคยๆมาไม่ได้
“อ๊า!!” และแล้วแรงอารมณ์ของทั้งคู่ก็จบลง ไทเกอร์ปลดปล่อยมาจนเต็มถุงยางอนามัยก่อนจะถอนแก่นกายออก
“จะไปแล้วเหรอครับ” ซีนถามอีกคนเมื่อเห็นว่าร่างสูงใส่เสื้อผ้าของตัวเอง
“อืม พรุ่งนี้พี่มีเรียนเช้า” ไทเกอร์อ้าง ความจริงเขามีเรียนบ่ายต่างหาก
“แต่ซีน...” ร่างเล็กลุกออกจากเตียงด้วยสภาพเปลือยเปล่าก่อนจะกอดร่างสูงจากด้านหลังพร้อมกับลูบไล้แผงอกที่ไร้
อาภรณ์ปกปิดอย่างปลุกเร้าอารมณ์
“พี่ไม่มีอารมณ์แล้วครับ เอาไว้มีจะมาหาใหม่” ไทเกอร์ว่าพร้อมแกะมือของอีกคนออกก่อนจะใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไป ซีน
มองตามหลังร่างสูงไปอย่างเสียดาย ก็เขายังอยากต่ออีกสักยกสองยกนี่หน่า...ร่างสูงขับลัมโบกินีคู่ใจกลับมายังคอนโดของ
ตระกูลซึ่งชั้นบนสุดจะมีอยู่สี่ห้องซึ่งเป็นห้องของเขา พี่ชายทั้งสองและน้องชายอีกหนึ่งคน ไทเกอร์ไม่เคยพาใครมาที่คอนโด
เพราะนี่คือที่ส่วนตัวของเขา ส่วนมากก็จัดแถวๆโรงแรม รวดเร็วทันใจหน่อยก็ในรถแม้แต่จีนยังเคยแค่ขึ้นมานั่งเล่น ไม่มีสิทธิ์มา
นอนค้างแต่อย่างใด นี่ก็นับว่าเป็นเวลากว่าตีสามแล้วแต่กรุงเทพมหานครก็ยังเป็นนครที่ไม่หลับใหล แสงไฟยังคงสว่างอยู่ตลอด
เวลา ตาคมมองไปยังท้องฟ้าสีมืดอย่างร่องรอย ไม่อยกาคิดแต่ก็ต้องคิดว่าคนๆนั้นกำลังทำอะไรอยู่...อีกด้านหนึ่ง...
“สปาเก็ตตี้ได้แล้วครับ” สำเนียงฝรั่งเศสแปร่งๆออกมาจากริมฝีปากบางซึ่งถ้าเป็นคนฝรั่งเศสแท้ๆก็พอจะรู้ว่าร่างบอบบางนี่
เป็นชาวต่างชาติแน่นอนแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหามันอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานที่รอยยิ้มตลอดเวลาทำให้แขกของร้านพากันมอง
ตามเป็นแถว
“ที่ร้านนี้คนเยอะเพราะลูกชายเจ้าของร้านสินะ” คำแซวภาษาบ้านเกิดดังขึ้นทำให้ ‘แอล’ หันไปมองค้อนใส่ผู้หญิงร่างอ้วน
ทันที
“พี่พิกเลยแซวผมได้แล้วน่ะ แซวแบบนี้มาหลายปีแล้วนะ” แอลว่าอย่างไม่จริงจังนะ พิกหัวเราะทันที
“ก็มันจริงนี่ ผู้ชายอะไรหน้าหวาน ตาโตแบบนี้ ไหนจะผิวขาวๆนี่อีก โอ๊ย ผู้หญิงอย่างพี่อิจฉาค่ะ”
“คุยอะไรกันอยู่สองคน เอานี่ไปเสิร์ฟเร็ว” แม่ของแอลหรือเชฟประจำร้านเอ่ยขึ้นทำให้บทสนทนาต้องยุติลง แอลและแม่
ย้ายมาอยู่ที่ฝรั่งเศสเมื่อสามปีก่อนหลังจากที่เขาจบม.6 เนื่องจากแม่ของเขากับปิแอร์ พ่อเลี้ยงของเขาตกลงปลงใจแต่งงานกัน
แอลไม่ได้นึกเสียใจอะไรที่แม่แต่งงานใหม่เพราะพ่อกับแม่ของเขาก็หย่าร้างกันตั้งแต่เขาเด็กๆแล้ว การที่แม่จะมีใครมาดูแลสัก
คนมันก็ดีไม่ใช่เหรอแถมปิแอร์ก็เป็นคนดีเสียด้วย การมีอยู่ที่ฝรั่งเศสก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรสำหรับแอลเพราะที่นี่ก็มีคนไทยค่อนข้าง
เยอะ แอลต้องเรียนปรับพื้นฐานภาษาฝรั่งเศสถึงหนึ่งปีเต็มถึงจะได้เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย แอลเข้าเรียนในสาขาวิชาทำ
อาหารเนื่องจากเขาเองก็ชอบทำอาหารและอยากเดินรอยตามแม่แต่สิ่งที่เป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดกับการมาอยู่ที่นี่คือเขาต้องเลิก
กับใครคนหนึ่ง คนที่เขารักหมดใจ แฟนคนแรก รักแรกและรักเดียวของเขาแต่นึกถึงไปก็เท่านั้นเพราะนี่มันก็สามปีแล้วอีกคน
คงจะลืมเขาไปเสียแล้ว บางทีข้างกายอีกคนตอนนี้คงจะมีคนรักที่ดีที่น่ารักอยู่แน่ๆ
“โทรศัพท์จากไทยค่ะคุณอร” เสียงของพิกดังขึ้นทำให้แอลที่ยืนคิดอะไรเพลินๆต้องหันไปสนใจก่อนจะเห็นแม่เขาไปยืน
คุยโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเคร่งเครียดจนแอลนึกเป็นห่วง
“เกิดอะไรขึ้นครับแม่” แอลถามขึ้นเมื่อแม่วางสาย
“คุณยายป่วยน่ะ เมื่อกี้ป้าอิงโทรหา” บังอรว่าอย่างร้อนใจ
“คุณยายเป็นอะไรมากมั้ยครับแม่” แอลเองก็ห่วงยายไปไม่น้อยกว่าแม่เพราะตั้งแต่เด็กยายก็เป็นคนเลี้ยงเขามาเพราะแม่
ต้องออกไปทำงาน
“แม่ก็ไม่รู้ ตอนนี้แม่รู้สึกใจไม่ดีเลย” แอลจับมือของผู้เป็นแม่เอาไว้อย่างให้กำลังใจ แม่ทุกข์เขาก็ทุกข์ไปด้วย
“เราไปไทยกันนะครับแม่ ไปหาคุณยายกัน” แอลว่า...และสองวันต่อมาแอลกับแม่ก็มาเหยียบบนพื้นแผ่นดินไทยอีกครั้งใน
รอบสามปี ร่างบางก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้กลับมาอีกครั้งส่วนมากถ้าครอบครัวทางไทยจะบินไปเที่ยวที่ฝรั่งเศสกันแทนมากกว่า
เวลามีเทศกาลที แอลและแม่มุ่งตรงจากสนามบินมาที่โรงพยาบาลที่ผู้เป็นยายนอนรักษาตัวอยู่ทันที
“พี่อิง” บังอรเรียกพี่สาวที่อยู่ในห้องพักฟื้นคนไข้
“อร” อิงฟ้าโผเข้ากอดน้องสาวทันที เพราะมีกันแค่สองคนจึงทำให้ทั้งคู่รักกันมาก
“แม่เป็นยังไงบ้าง” บังอรถามขึ้น
“แม่ปลอดภัยแล้วล่ะแต่...” อิงฟ้าทำหน้าเศร้าจนทั้งแอลและบังอรอดใจเสียไม่ได้
“...แม่ต้องทำกายภาพเนื่องจากแม่ไม่สามารถเดินได้เองเลยหลังจากผ่าตัด” บังอรพยักหน้ารับด้วยใบหน้าเคร่งเครียด แม่
ของเธอเป็นโรคเส้นเลือดในสมองพอผ่าตัดก็ทำให้ระบบสั่งการของสมองไม่ปกติเหมือนเคย มีผลข้างเคียงในอวัยวะช่วงล่าง แม่
ของเธอไม่ได้พิการแต่ไม่สามารถเดินได้ปกติต้องใช้เวลาในการทำกายภาพ
“พี่โอเคมั้ยต้องดูแลแม่แบบนี้” บังอรถามด้วยความเป็นห่วงเพราะพี่สาวของเธอเป็นโสดแต่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง
นักการที่ต้องมาดูแลแม่ด้วยคงจะลำบากมากแน่ๆ
“พี่ดูแลแม่ได้ อรไม่ต้องเป็นห่วง” อิงฟ้าว่าแต่บังอรก็อดกังวลไม่ได้
“แม่ครับ...ให้แอลอยู่กับยายกับป้าอิงนะ” บังอรและอิงฟ้าหันไปมองแอลทันที
“หมายความว่ายังไงลูก” บังอรถามขึ้น
“ให้แอลอยู่ที่นี่ดูแลคุณยายกับป้าอิงนะครับ” บังอรทำหน้าลำบากใจ
“แต่แอลต้องเรียนนะลูก”
“ดร็อปไว้ก่อนก็ได้นี่ครับ ไม่อย่างนั้นย้ายมาเรียนที่นี่คณะอินเตอร์ภาษาฝรั่งเศสก็ได้” แอลว่าอย่างจริงจัง เขาตั้งใจแล้วล่ะ
ที่จะมาช่วยป้าอิงดูแลคุณยาย
“โธ่หลานป้า ทำไมถึงเป็นเด็กดีแบบนี้กันนะ” อิงฟ้ากอดหลานชายด้วยความซาบซึ้งใจ
“ถ้ามันเป็นความต้องการของแอลแม่จะทำเรื่องดร็อปที่นั่นเอาไว้ก่อนส่วนเรื่องเรียนที่นี่แม่แล้วแต่แอล ถ้าแอลอยากเรียนไม่
อยากปล่อยตัวเองให้ว่างแม่ก็ตามใจ” แอลยิ้มกว้างทันที เขาตั้งใจแล้วล่ะว่าระหว่างที่ดูแลคุณยายเขาจะเรียนภาษาฝรั่งเศสเพิ่ม
เติม ได้ข่าวว่ามีหลายมหาวิทยาลัยที่มีภาคอินเตอร์สอนภาษาฝรั่งเศสโดยตรง
ตอนแรกเรื่อยๆนะคะ ตอนหน้าเจอกันแน่ อิๆ น้องแอลน่ารักน่าหยิกมากเลยค่ะส่วนอินังไทเกอร์ก็น่าหมั่นไส้น่าตบเช่นเดียวกัน
5555 ฝากติดตามด้วยนะคะ จุ๊บๆ
___จางบิวตี้___