Fox 2
คำพูดเมื่อหลายวันก่อนของฟ็อกซ์ทำเอาสีน้ำคิดมากไม่น้อย ในใจไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่แต่พอเห็นว่าพี่คินกับอีกคนดูสนิทกันก็ยิ่งทำให้คิดว่าเรื่องที่อีกคนพูดต้องเป็นเรื่องจริงแน่ๆ พี่คินมีคนที่ชอบแล้ว? หรือไม่ อาจจะมีแฟนแล้ว? ให้ตายเถอะ...ใครกันวะ!!
“ทำไมทำหน้ายุ่งแบบนั้นล่ะ?” หมอกถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสนิททำหน้านิ่วคิ้วขมวดขณะที่กำลังกินข้าวกลางวันอยู่ที่โรงอาหารใต้ตึกคณะด้วยกัน
“หมอก...ถ้าคนที่เราชอบมีแคนที่ชอบแล้ว หรือไม่...ถ้าคนที่เราชอบมีแฟนแล้วเราจะทำยังไงดี” สีน้ำถามขึ้นพร้อมทำหน้าอย่างจริงจัง หมอกชะงักไปนิดนึงก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา
“ถามแบบนี้แปลว่าไปแอบชอบใครมาใช่หรือเปล่า” สีน้ำทำตาโตทันทีเพราะคิดว่าตัวเองพลาดท่าไปเสียแล้ว ปากบางขบกัดอย่างครุ่นคิดก่อนจะมองหน้าหมอกซึ่งเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของเขา ถ้าพูดไปหมอกจะไม่ไปบอกใครใช่มั้ย?
“อืมเราชอบ...”
“พี่คินสินะ” หมอกพูดขึ้นมาก่อนซึ่งทำให้สีน้ำตาโตขึ้นมาอีกครั้ง
“ระ...รู้ได้ยังไง”
“ก็ครั้งก่อนเราจับสังเกตสีน้ำได้ สีน้ำมองแต่พี่เขา พอเราถามก็ทำอึกอัก แค่นี้เราก็รู้แล้วแหละ แต่ความจริงเราก็สังเกตสีน้ำมานานแล้วแหละ” หมอกว่ายิ้มๆ สีน้ำทำหน้าแหยๆทันทีที่ไม่เคยโกหกอะไรได้แนบเนียนสักครั้ง
“ถึงขั้นนี้ก็คงปฏิเสธไม่ได้” สีน้ำว่าออกมาเสียงอ่อย หมอกยกยิ้มนิดๆ
“เอ่อ...แล้วที่สีน้ำบอกว่าเหมือนพี่คินจะมีแฟนหรือคนที่ชอบเหรอ สีน้ำรู้ได้ยังไง”
“มีคนบอกมาน่ะ แถมยังบอกให้เราสังเกตคนใกล้ตัวอีกด้วย แม่งใครวะที่บังอาจคบกับพี่คิน แม่งๆๆๆ อย่าให้รู้นะเว้ย” สีน้ำว่าพร้อมเอาส้อมจิ้มไข่ดาวในจานข้าวจนเละไปหมดโดยไม่ได้สังเกตสีหน้าของเพื่อนสนิท
“เอ่อ...อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้ ทำไมสีน้ำไม่ถามพี่คินไปเลยล่ะ หรือไม่...ก็เดินหน้าจีบอะไรแบบนี้” สีน้ำทำหน้าซังกะตายกับคำพูดของเพื่อนสนิท
“ดูสภาพเราด้วยดิ...หน้าซีดๆ หัวยุ่งๆ ตัวผอมแห้งอย่างเรา พี่คินไม่มีทางสนใจหรอก ถ้าเราหน้าหวานๆน่ารักแบบหมอก เราจะไม่ว่าเลย”
“ไม่หรอก...สีน้ำก็มีมุมน่ารักนะ ถ้าสีน้ำพูดเก่งๆแบบที่อยู่กับเรากับคนอื่น สีน้ำจะมีเสน่ห์มากเลยนะ” สีน้ำถอนหายใจออกมา เขาก็อยากจะเป็นเหมือนอีกคนนะที่เฟรนลี่ พูดเก่ง สนิทสนมกับคนโน้นคนนี้อย่างง่ายดายแต่มันไม่ง่ายเลย เหมือนกับว่าสิ่งนี้มันเป็นนิสัยของเขาไม่แล้วคือว่าถ้าไม่สนิทกันอย่าหวังว่าจะได้ยินเสียงเขาเลยบรรยากาศเหมือนอยู่ในป่าช้ายังไงยังงั้น แต่ก็นะ...ถ้าแค่นิสัยดี นิสัยน่ารักแต่ถ้าหน้าตายังปอนๆแบบนี้ คนดังของคณะอย่างพี่คินคงไม่มีทางสนใจหรอก
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ...เอ่อ...งั้นให้เราช่วยมั้ย?” หมอกพูดขึ้น สีน้ำมองหน้ามองอย่างงงๆทันที
“ยังไง?” หมอกไม่ตอบแต่กลับยิ้มๆเป็นคำตอบให้กับสีน้ำแทน....และสีน้ำก็พึ่งเข้าใจกับรอยยิ้มของหมอกก็ตอนนี้ เมื่อหมอกให้สีน้ำมายืนอยู่หน้าห้องเรียนที่พี่คินเรียนอยู่หลังจากที่เลิกเรียน ให้ทำเป็นบังเอิญเดินมาเจอแล้วชวนพี่เขาคุยโน่นคุยนี้ ซึ่งสีน้ำอยากจะบ้าตาย ใครมันจะกล้าเข้าไปคุยวะ แค่ยืนใกล้ๆยังมือสั่น ใจสั่นขนาดนี้ถ้าได้พูดคุยกันเขาคงเป็นลมล้มหงายแน่ๆ
“พี่คินมาแล้วๆๆ” หมอกพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่คินกำลังเดินออกมาจากในห้อง สีน้ำยืนนิ่งด้วยความตื่นเต้น ตากลมเห็นว่าอีกคนยิ้มๆมาทางเขา อวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายก็สั่นรัวจนอีกคนเดินเข้ามาใกล้ๆ หมอกก็ดันสีน้ำไปหาพี่คินทันที
“เอ่อ...สวัสดีครับ” สีน้ำพูดขึ้นเมื่อตัวเองมายืนอยู่ต่อหน้าอีกคน คินนิ่งไปนิดๆก่อนจะยิ้มๆ
“ครับ” สีน้ำมองคินด้วยความรู้สึกหวั่นไหว บทในหัวที่หมอกคิดให้มลายหายไปในหัวทันทีพอนึกขึ้นได้กำลังจะถามออกไป...
“ไอ้คิน รถเมล์เรียกมึงให้รีบไปซ้อมน้อง” เสียงเพื่อนของคินดังขึ้น
“เออๆ เดี๋ยวกูตามไป...พี่ไปก่อนนะ” คินหันมาพูดกับสีน้ำพร้อมส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนจะเดินออกไปทันที สีน้ำถอนหายใจออกมาทันทีที่ลับหลังอีกคน
“ทำไมสีน้ำไม่ชวนพี่คินคุยล่ะ ทำไมไม่ถามว่าเรียนหนักมั้ย หรือว่ามีชีทเนื้อหาดรออิ้งอยู่มั้ย อะไรแบบนี้ที่เราคิดให้อ่ะ” หมอกถามขึ้นทันที
“ไม่กล้าอ่ะดิ แค่ยืนใกล้ๆก็จะบ้าแล้ว อีกอย่างมันไม่แปลกไปหน่อยหรือไง พี่รหัสก็ไม่ใช่ สายรหัสก็ไม่ใช่ อยู่ๆมาขอชีทพี่เขา” สีน้ำว่าตามที่ใจคิด
“ไม่เห็นแปลก พี่เขาเป็นคนใจดี เฟรนลี่ ถ้าจะมีรุ่นน้องมาขอชีทน่ะ”
“เฮ้อ...ช่างเถอะๆ วันนี้แค่นี้ก่อนละกัน ไปช่วยเพื่อนทำป้ายต่อเถอะเดี๋ยวแม่งจะหาว่าอู้”...และก็เป็นเหมือนกิจวัตรประจำวันของปี1ไปแล้วที่หลังจากเลิกเรียนจะต้องมาช่วยกันทำป้ายงานประกวดดาวเดือนที่ตอนนี้เสร็จไปแล้วกว่า70เปอร์เซ็นวันนี้สีน้ำและเพื่อนๆเลิกงานกับเกือบๆสี่ทุ่ม สีน้ำมาล้างมือที่ก๊อกน้ำเหมือนทุกวันและวันนี้ก็ได้เจออีกคนที่ไม่ได้เจอหน้ามาหลายวันที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ สีน้ำเดินไปที่ก๊อกน้ำอย่างไม่สนใจอีกคนเพราะไม่ได้สนิทหรือธุระกงการอะไรที่ต้องทักทายกันอยู่แล้ว
“อยู่ใกล้แค่นี้ก็เสือกมองไม่เห็น” ฟ็อกซ์พูดขึ้นพร้อมกับพ่นควันออกจากปาก สีน้ำที่กำลังล้างมืออยู่ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะหันไปมองอีกคนทันที
“อะไร?”
“ก็ที่กูเคยบอกไง แฟนพี่คิน” ฟ็อกซ์พูดออกมาพร้อมเน้นคำว่าแฟนอย่างชัดเจนจนสีน้ำทำตาโต
“ฟะ...แฟนงั้นเหรอ?”
“หึๆ เห็นว่าพึ่งคบกันไม่นานเท่าไหร่แต่พี่แกตามจีบมานานเหมือนกัน แต่แปลกนะคนๆนั้นแม่งรู้อยู่แก่ใจแต่ก็ทำเนียนชิบหาย” ฟ็อกซ์ว่าพร้อมยกยิ้มมุมปากนิดๆซึ่งยิ่งทำให้สีน้ำไม่เข้าใจไปกันใหญ่
“มึงต้องการจะพูดอะไรกันแน่”
“ก็กูบอกให้มึงสังเกตดีๆไง” ฟ็อกซ์ตอบกลับมาพร้อมกับทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้ๆพร้อมหมุนตัวทำท่าจะเดินออกไป
“คนใกล้ตัวอะไรของมึง กูมีหมอกเป็นเพื่อนสนิทอยู่คนเดียว...หมอก...” สีน้ำชะงักไปทันทีเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ คนใกล้ชิด ใกล้แค่เอื้อม...เขามีหมอกที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว
“หึๆ” ฟ้อกซ์หัวเราะในลำคอเบาๆ
“ไม่จริงอ่ะ หมอกก็รู้ว่ากูชอบพี่คิน และอีกอย่างถ้าสองคนเป็นแฟนกันกูต้องรู้ป่ะวะ” สีน้ำเถียงออกมาแม้ว่าในใจจะว้าวุ่นไม่น้อยกับเรื่องนี้
“บางทีคบกันก็ไม่ต้องประกาศให้ใครรู้ไม่ใช่เหรอ? แต่ก็นะ...มึงมันโง่เองด้วย”ฟ็อกซ์ว่าขำๆแต่กลับทำให้สีน้ำโกรธจัด
“กูไม่ได้โง่! และกุก็ไม่เชื่อในสิ่งที่มึงพูด” สีน้ำว่าเสียงดังแต่ก่อนที่ฟ็อกซ์จะพูดอะไรกลับมาก็เหมือนมีเสียงฝีเท้าเดินมาทางเขาสองคน ฟ็อกซ์ที่ยืนอยู่ข้างนอกก็เห็นว่าใครกำลังเดินมา ร่างสูงยกยิ้มก่อนจะหันกลับมาหาสีน้ำแล้วดึงอีกคนไปยังซอกตึกอีกฝั่งทันทีทำเอาสีน้ำตกใจไม่น้อย
“ทำเชี่ยอะไรของมึง”
“เงียบๆและตั้งหน้าตั้งตาดูดีๆ” ฟ็อกซ์ยกยิ้มก่อนจะมองไปทางก๊อกน้ำซึ่งสีน้ำก็มองตามไปเช่นเดียวกันและตากลมก็เบิกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่เดินมาที่ก๊อกน้ำคือพี่คินกับ...หมอก สีน้ำไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกันเพราะมุมที่เขาอยู่ห่างจากตรงที่ทั้งคู่อยู่ก็ค่อนข้างไกลแต่เหมือนกับว่าสองคนนั้นกำลังทะเลาะกันเพราะสีหน้าของพี่คินดูเคร่งเครียดไม่น้อย เหมือนว่าทั้งคู่จะทะเลาะกันอย่างที่สีน้ำคิดเพราะอยู่ๆหมอกก็ทำท่าจะเดินออกไปเพราะไม่พอใจอีกคนแต่ก็ถูกมือหนาดึงไว้ก่อนที่...พี่คินจะประกบจูบหมอก สีน้ำยืนตัวแข็งทันทีกับสิ่งที่เห็น ถ้าเป็นเหตุการณ์ในนิยายรักความแหววมันคงจะโรแมนติกมากสำหรับบุคคลที่สามอย่างเขาแต่สำหรับสีน้ำตอนนี้เหมือนโดนค้อนปอนฟาดหัวอย่างแรงจนมึนงงไปหมด เพื่อนสนิทของเขาที่รู้ว่าเขาชอบพี่คินเพื่อนสนิทของเขาที่เสนอตัวว่าจะช่วยเขาเรื่องพี่คิน เพื่อนสนิทของเขาที่เป็นแฟนกับพี่คิน แม่ง...ทำแบบนี้เพื่อไรวะ เห็นเขาเป็นตัวตลกหรือไง รู้อยู่แก่ใจว่าพี่คินไม่มีทางเอาเขาอยู่แล้วแต่แม่งก็ตีหน้าซื่อทำเหมือนจะช่วยให้เขาสมหวัง แม่งทำแบบนี้ทำไมวะ!! สีน้ำกำมือแน่นกับภาพที่เห็น ทั้งคู่ผละออกจากกันแล้วแต่พี่คินก็ดึงหมอกเข้าไปกอดก่อนจะพูดอะไรกันไม่รู้แล้วทั้งคู่ก็เดินออกไปพร้อมกัน...สวยงามดีเนอะว่ามั้ย?สวยงามจนน่าจะเอาไปแต่งเป็นนิยายเรื่องหนึ่งเลย หึๆๆ
“ภาพระดับHDเลยทีเดียว” ฟ็อกซ์พูดขึ้นหลังจากที่พี่คินและหมอกเดินลับสายตาไปแล้ว
“มึงรู้เรื่องนี้มานานแค่ไหน” สีน้ำถามขึ้นเสียงเรียบ
“เมื่อไหร่น้า” ฟ็อกซ์ทำท่าคิดพร้อมทำเสียงยียวน จนสีน้ำไม่พอใจผลักอีกคนไปชิดผนังอย่างแรง
“กูถามว่ามึงรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่!” ฟ็อกซ์ยกยิ้มกับท่าทางเกรี้ยวกราดของอีกคน ซึ่งดูไปดูมาก็น่ากลัวไม่น้อย
“สามอาทิตย์ก่อน” ฟ็อกซ์ตอบออกมาสั้นๆ สีน้ำกำมือแน่นน้ำตาหน่วงคลอด้วยความเจ็บใจที่รู้สึกเหมือนกับว่าโดนหมอกสวมเขา โดนเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่มีและไว้ใจทำเหมือนเขาโง่เป็นควายและล้อเล่นตลกกับหัวใจของเขา
“ขอบใจที่ทำให้กูเลิกเป็นควาย” สีน้ำว่าสั้นๆก่อนทำท่าจะเดินออกไปแต่ฟ็อกซ์ก็พูดขึ้น
“ถ้ามีอะไรให้กูช่วยก็บอกละกัน กูช่วยมึงได้ หึๆ” สีน้ำหยุดเดินกับคำพูดของอีกคน ก่อนจะหันมาตอบ
“กูไม่ไว้ใจหมาจิ้งจอกอย่างมึงหรอก” ว่าแล้วร่างบางก็เดินออกไปทันที ฟ็อกซ์หัวเราะในลำคอกับคำพูดของอีกคน หึๆ ตอนนี้มึงอาจจะไม่ไว้ใจแต่เดี๋ยวกูจะทำให้มึงไว้ใจเอง เกมส์นี้ต้องดำเนินต่อโดยที่กูเป็นคนควบคุม หึๆ
อิหมาจิ้กจอกจะทำอะไรรรรรรรรร ความเลวค่อยๆเปิดเผยขึ้นมาทีละนิดๆ 555555ส่วนเรื่องคินกับหมอกอย่าพึ่งด่ากันเน้อ ฟังความอีกฝั่งกันก่อน อิๆ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
___จางบิวตี้___