รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ  (อ่าน 344802 ครั้ง)

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


ขอโฆษณาประชาสัมพันธ์ค่า

ในที่สุดหนังสือก็ใกล้จะคลอดแล้วค่ะ ออกกับสนพ.นาบู ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการอุดหนุนนะคะ  :กอด1:




รายละเอียดต่างๆ รบกวนคลิกอ่านที่เพจสนพ.นะคะ

https://www.facebook.com/Nabupublishing?fref=ts

(เว็บฝากไฟล์ภาพจำกัดขนาดน่ะค่ะ ถึงจะ copy ภาพที่มีรายละเอียดมาก็คงจะเห็นได้ไม่ชัดเจน)



สารบัญ

บทนำ   บทที่ 1   บทที่ 2   บทที่ 3   บทที่ 4   บทที่ 5   บทที่ 6
บทที่ 7   บทที่ 8   บทที่ 9   บทที่ 10   บทที่ 11   บทที่ 12   บทที่ 13
บทที่ 14   บทที่ 15   บทที่ 16   บทที่ 17   บทที่ 18   บทที่ 19   บทที่ 20
[/quote]



ป.ล. ขอบคุณ คุณอ๊ายอาย นะคะ สำหรับสารบัญ :L2: :กอด1:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2015 21:05:16 โดย ชุน »

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #1 เมื่อ26-01-2014 21:43:32 »

บทนำ



มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้น... มันเป็นความผิดพลาด

แต่มันก็ตรึงตรา... ยากยิ่งจะลืมเลือน



ผิวกายของชายหนุ่มไม่อ่อนนุ่มเหมือนเรือนร่างของหญิงสาว
แต่ความรู้สึกยามที่ได้ตระโบมโลมลูบกลับให้ความรู้สึกแสนดียิ่งกว่า
นวลเนื้อเนียนมือผสมผสานความแข็งแกร่งอย่างร่างกายของชายชาญ
ชวนให้รู้สึกว่าสามารถคลึงเคล้นเน้นหน่วงตรงช่วงไหนก็ได้อย่างใจปรารถนา
ไม่จำเป็นต้องเก็บกัก ขยักยั้งน้ำหนักมือ ไม่จำเป็นต้องคอยถนอม ยับยั้งเล้าโลมด้วยความทรมาน

เพราะว่าคิดอย่างนั้น จึงได้พลาดพลั้งไป

ธรรมชาติไม่ได้สรรค์สร้างร่างกายของชายหนึ่งให้สามารถรองรับร่างกายของอีกชายหนึ่งได้อย่างง่ายดายนัก
การสอดประสานกายเพื่อผ่อนคลายสลายพิษกำหนัดอันไม่ปรารถนาจึงทำได้ค่อนข้างยากลำบาก
ไฟร้อนที่รุมเร้าอยู่ในร่างกายเรียกร้องการเผาผลาญ ช่องทางอุ่นร้อนจึงถูกเสียดสีจนแทบลุกไหม้
เลือดสดหยดรินเปื้อนผ้าขาวราวกับสาวพรหมจารี แต่เพลิงกำหนัดที่โหมทวีทำให้ไม่มีเวลามาใส่ใจ
ทำได้เพียงเอาแต่ใจตัวเอง สอดใส่เข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั้นกระแทกเข้าออกอย่างเร่าร้อน
จนกระทั่งเพลิงไฟในร่างกายกลายเป็นสายธารอุ่น ทะลักทลายเข้าไปในความแน่นกระชับจนเนืองนอง


เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และปล่อยให้ความรู้สึกผิดหลั่งรินเข้ามาในใจจนเต็มเปี่ยม
คนที่ควรจะได้รับคำขอโทษก็หายไปเสียแล้ว

พระองค์ไม่ทอดพระเนตรเห็นเขาแม้แต่เงา

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #2 เมื่อ26-01-2014 22:03:20 »

บทที่ 1


“ผู้อำนวยการเรียกเจ้าไปเรื่องอะไร”

โรดีอัสถามเพื่อนสนิททันทีที่อีกฝ่ายเดินออกมาจากอาคารสำนักงานโรงเรียนองครักษ์
ฟีเรียสปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า

“ไม่มีอะไร”

“จะไม่มีอะไรได้ยังไงวะ เรื่องสำคัญรึไง หรือว่าเรื่องลับ ถึงบอกเพื่อนอย่างข้าไม่ได้”   

“ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ท่านแค่เรียกไปรับสร้อยคืน”

“สร้อย”

“อืม”

เจ้าของร่างสูงโปร่งยื่นสร้อยเงินเส้นสวยห้อยจี้เงินรูปดาบไขว้กันให้อีกฝ่ายดู

“สร้อยของเจ้าไปอยู่กับผู้อำนวยการได้ยังไง”

“ข้าทำตกไว้ในงานเลี้ยงเมื่อวันก่อน”

สี่วันก่อนผู้อำนวยการโรงเรียนองครักษ์หลวงจัดงานเลี้ยงที่บ้าน นักเรียนองครักษ์บางส่วนจึงถูกเกณฑ์ให้ไปช่วยงาน
โรดีอัสและฟีเรียสเองก็เป็นหนึ่งในบรรดานั้น

“แล้วผู้อำนวยการรู้ได้ยังไงวะว่าเป็นของเจ้า”

“รู้ก็ไม่แปลก” แค่อาจจะต้องใช้เวลาสืบหาอยู่บ้าง

“เออ มันก็ไม่แปลกหรอก ที่ข้าแปลกใจก็คือทำไมท่านไม่ให้คนอื่นเอามาให้วะ เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องเรียกไปพบ”

ฟีเรียสนิ่งเงียบ ไม่ตอบคำ

“ทำเอาข้าใจหายใจคว่ำ คิดว่าเจ้าไปทำอะไรผิดมา”

เงียบไปครู่หนึ่ง เจ้าของร่างที่สูงใหญ่กว่าก็ถามอย่างคลางแคลง

“ว่าแต่แค่เข้าไปเอาสร้อยทำไมถึงเข้าไปนานจังวะ”

“ท่านถามเรื่องทั่วๆ ไปด้วย”

“อ้อ”

โรดีอัสไม่ได้หายสงสัย แต่เห็นว่าเพื่อนไม่อยู่ในอารมณ์อยากจะตอบคำถาม จึงไม่ได้ถามเรื่องนั้นอีก แต่เปลี่ยนเรื่องว่า

“เดี๋ยวจะสอบต่อสู้บนหลังม้า เจ้าไหวรึเปล่า”

“ไหว”

“แน่นะ ไม่ไหวก็สอบทีหลังได้นะเว้ย เจ้าเพิ่งหายไข้”

“ไม่เป็นไร ข้าไหว”

*********************************

ฟีเรียสไข้ขึ้นอีกแล้ว ว่าที่องครักษ์หนุ่มนอนซมอยู่ในตึกพัก กินยาแก้ไข้ที่เพื่อนสนิทซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องด้วยไปขอจาก
อาคารพยาบาลมาให้ แต่ไม่ยอมให้อีกฝ่ายช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เลย ซ้ำยังไม่ยอมถอดเสื้อผ้าต่อหน้าฝ่ายนั้นอีกด้วย

หลังจากเพื่อนร่วมห้องออกไปเรียนแล้ว ชายหนุ่มจึงพยายามประคองตัวลุกขึ้นจากเตียง
เอนหลังพิงหัวเตียงแคบๆ อย่างค่อนข้างลำบาก ไม่ใช่เพราะพิษไข้ที่เร้ารุม
แต่เป็นเพราะอาการปวดแสบระบมบริเวณสะโพกและช่องทางภายใน
ฟีเรียสถอดกางเกงออกเพียงครึ่งเดียว ก่อนจะป้ายยาในตลับสอดเข้าไปทาบริเวณบาดแผลซึ่งอยู่ตรงร่องสะโพก
ยานี้ไม่ใช่ยาเฉพาะ แต่ก็พอจะช่วยรักษาบาดแผลให้ทุเลาขึ้นได้บ้าง ชายหนุ่มแอบไปขอมาจากอาคารพยาบาลตั้งแต่สามวันก่อน
แอบทาทุกวันจนอาการดีขึ้นแล้ว แต่ก็ต้องแย่ลงอีกเพราะการสอบต่อสู้บนหลังม้าเมื่อวานนี้

หลังจากทายาและสวมกางเกงเรียบร้อยแล้ว ฟีเรียสก็ถอดเสื้อออกและเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ตัวเอง
โรดีอัสเอาใจใส่เขาดีและเตรียมสิ่งต่างๆ ไว้ให้พร้อม ทั้งอ่างน้ำ ผ้าสะอาด ยา น้ำสะอาด และอาหารเช้า
ซึ่งเขาปฏิเสธไม่อยากกินเมื่อเช้านี้ แต่ตอนนี้คงต้องกิน แม้ว่ามันจะเย็นชืดไปแล้วก็ตาม เพราะจะต้องกินยาตาม

ฟีเรียสไม่อยากมองร่างกายของตัวเองนัก แต่เขาก็อดมองไม่ได้ แม้ว่าสีผิวของเขาจะออกสีน้ำตาลอ่อน
แต่ก็ยังสามารถมองเห็นร่องรอยการถูกดูดเม้มได้ชัดเจน

ผ่านมาเกือบจะเป็นอาทิตย์แล้ว แต่รอยพวกนี้ก็ยังไม่หายไปเสียที เพียงแต่จางลงเท่านั้น
มือที่สัมผัสถูกสร้อยคอสีเงินทำให้ชายหนุ่มหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้อีกครั้ง

คนที่รอเขาอยู่ในห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ใช่เจ้าของห้อง
แต่เป็นเจ้าชายรามิเรส... เจ้าชายพระองค์ที่หกแห่งไมซีน

แม้ไม่มีกระจกอยู่ตรงหน้า แต่เขาก็รู้ดีว่าตัวเองแสดงสีหน้าตกใจออกไป
แม้เพียงครู่เดียวก่อนจะตั้งสติได้ แต่อีกฝ่ายต้องทรงสังเกตเห็นแน่

หลังจากเขาค้อมศีรษะลงถวายความเคารพตามมารยาทแล้ว คนที่ประทับอยู่หลังโต๊ะทำงานสุดปลายห้อง
ก็ตรัสถามอย่างไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด

“สาเหตุที่เจ้าไม่สบายไปสามวัน เป็นเพราะข้าใช่ไหม”

แม้จะนึกสังหรณ์ใจอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องเสด็จมาเพราะเรื่องนี้ แต่ฟีเรียสก็ยังรู้สึกตกใจ รู้สึกว่าไม่ทันได้ตั้งตัว

... ทำไมพระองค์ไม่ทรงแสร้งลืมมันไปเสีย...

“ขอเดชะฯ” ให้ตายเถอะ เขาไม่ถนัดเรื่องคำราชาศัพท์เอาเสียเลย “กระหม่อมคงจะแพ้อากาศพระเจ้าค่ะ”

ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นคำตอบที่คนรอฟังไม่ทรงคาดว่าจะได้ยิน ดูจากสีพระพักตร์ประหลาดพระทัยเอาก็รู้

“คืนนั้นข้าโดนยาปลุก”

พระสุรเสียงมีแววลังเล ไม่แน่พระทัยว่าควรจะรับสั่งบอกหรือไม่
แต่ฟีเรียสก็ไม่ได้ทูลตอบอะไร เพราะนั่นไม่ใช่ประโยคคำถาม

“ข้า... ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น”

“พระเจ้าค่ะ”

หลังจากนั้นก็เป็นความเงียบอันเนิ่นนาน ความอึดอัดแทรกอยู่ในบรรยากาศจนรู้สึกได้
ในที่สุดผู้ทรงอำนาจราชศักดิ์มากกว่าก็รับสั่งถามถึงสิ่งที่พระองค์ทรงกังวล

“เจ้าไม่ได้บอกเรื่องนั้นกับใครใช่ไหม”

“กระหม่อมไม่ทราบว่าเรื่องอะไรพระเจ้าค่ะ”

“ก็เรื่อง...”

เจ้าชายหกทรงชะงักไปเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองสบสายพระเนตร
หลังจากนั้นสีพระพักตร์ของพระองค์ก็บ่งบอกความเข้าพระทัย ว่าเขาไม่ได้บอกใคร และจะไม่บอก
แปลกที่ฟีเรียสเห็นว่าทั้งสีพระพักตร์และสายพระเนตรของพระองค์คล้ายจะมีรอยละอายพระทัยเมื่อรับสั่งว่า

“ข้าอยากจะให้เจ้าลืมมันไปเสีย”

“กระหม่อมจำไม่ได้จริงๆ พระเจ้าค่ะ ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องลืม”

แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวต้องออกมาทำนองนี้ แต่เขาก็ยังอดรู้สึกหน่วงๆ ในอกขึ้นมาไม่ได้
ความเงียบเข้าครอบครองอยู่อีกชั่วอึดใจ ก่อนที่เจ้าชายรามิเรสจะทรงผ่อนพระปัสสาสะออกมายาวๆ

“ข้าเก็บสร้อยของเจ้าได้ มันตกอยู่บนเตียง”

ฟีเรียสมองสร้อยเงินในพระหัตถ์ จี้เงินห้อยลงมาถึงข้อพระหัตถ์ขาวสะอาด
หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันนิดหนึ่งโดยไม่รู้ตัว

“ของสำคัญของเจ้าหรือ”

“พระเจ้าค่ะ”

กราบทูลไปแล้วเขาก็สงสัยว่าอีกฝ่ายจะทรงคืนให้เขาเมื่อไร

“ถึงเจ้าจะ... จำไม่ได้ แต่ข้าก็อยากจะขอโทษ ขอให้เจ้ารับคำขอโทษของข้าไว้ด้วย”

“พระเจ้าค่ะ”

มองสีพระพักตร์และสายพระเนตรแสดงความจริงใจของอีกฝ่ายแล้ว
ฟีเรียสก็รู้สึกว่าเจ้าชายพระองค์นี้ทรงเป็นคนดีพอสมควร เพราะหากจะทรงลืมไป
ไม่รับสั่งถึงเลยก็ย่อมได้ ทว่าเพียงครู่เดียว ความรู้สึกในแง่ดีที่เขามีให้อีกฝ่ายก็มลายไป

เจ้าชายหกทรงใส่สร้อยของเขาลงไปในถุงผ้าสีน้ำเงินใบหนึ่ง ก่อนจะทรงยื่นประทานให้

“ถือเสียว่าเป็นคำขอโทษจากข้า รับไว้ ถ้าเจ้าไม่ติดใจและรับปากกับข้าว่าจะไม่บอกเรื่องนั้นกับใคร”

ฟีเรียสโกรธที่เขาโดนดูถูก ชายหนุ่มมีสีหน้าเคร่งขรึมขณะรับถุงใบนั้นมาจากพระหัตถ์และแก้ปากถุงออก
ข้างในเป็นเหรียญทองจำนวนมาก แต่เขาไม่ได้พยายามจะคำนวณว่ามันมีราคาสักเท่าไร
เพราะหลังจากควานหาสร้อยเงินเจอแล้ว เขาก็ยื่นถุงเงินถวายคืน

“กระหม่อมจะไม่บอกใครพระเจ้าค่ะ แต่คงรับเงินนี้ไว้ไม่ได้”

“ทำไม”

“กระหม่อมไม่ได้ขายตัว”


tbc

*****************************************************

สวัสดีค่ะ

ขอเอานิยายมาลงด้วยคนนะคะ
เรื่องนี้เริ่มเขียนไว้นานแล้ว ประมาณปี 53
แต่ไปไม่ถึงไหนสักที ก็เลยอยากจะหากำลังใจน่ะค่ะ

เป็นเรื่องใสๆ ไม่มี nc นะคะ (ยกเว้นตรงบทนำหน่อยนึง)
ความสัมพันธ์พระนายจะดำเนินไปแบบช้า... ช้า... ช้า...
เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขียนได้ไม่กระเตื้อง

แต่ก็... หวังว่าจะมีคนชอบนะคะ

ฝากเนื้อฝากตัวและฝากเรื่องด้วยค่ะ (โค้ง)

ชุน

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #3 เมื่อ26-01-2014 22:44:42 »

ตอบกลับได้ดีๆ ติดตามจ้า

ออฟไลน์ heangsure

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #4 เมื่อ26-01-2014 22:58:05 »

 :katai2-1: หวาวๆๆๆ ชอบแนวนี้เลยค่ะ สำนวนดี ไร้ฉากเรทมิมีปัญหา เราเน้นคุณภาพเนื้อเรื่องค่า   :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ yunchun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #5 เมื่อ27-01-2014 07:11:01 »

 o13 ชอบจังองครักษ์กับองค์ชายเนี่ยย

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #6 เมื่อ27-01-2014 10:31:57 »

ชอบค่ะชอบ มาเป็นกำลังใจให้นะคะ  :mew1: :hao7:

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #7 เมื่อ29-01-2014 14:00:25 »

บทที่ ๒   

เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงดำรงตำแหน่งเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบกตั้งแต่ทรงมีพระชนมายุได้ยี่สิบสามพรรษา
และทรงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีมาตลอดห้าปี เวลานี้นักเรียนองครักษ์หลวงผู้หนึ่งซึ่งอายุเพียงยี่สิบปี
กำลังทำให้พระองค์ทรงรู้สึกสับสน เป็นกังวล

ฟีเรียส... ชายหนุ่มผู้นั้นชื่อฟีเรียส

เมื่อวานนี้พระองค์เพิ่งจะได้ทอดพระเนตรเห็นชัดๆ ว่าฝ่ายนั้นเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี
มีเครื่องหน้าเหมาะเจาะ โดยเฉพาะริมฝีปากที่หยักสวย รูปร่างสูงโปร่งพอๆ กับพระองค์
แต่คงจะเตี้ยกว่าเล็กน้อย ผิวสีน้ำตาลอ่อน แตกต่างจากพระฉวีสีขาวสะอาดของพระองค์
และมีผมสีน้ำตาลเข้มตัดสั้นตามระเบียบ

เป็นคนที่... แม้จะเดินผ่านพระองค์ไปหลายรอบ พระองค์ก็คงจะไม่ได้ใส่พระทัยเป็นพิเศษ
เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายที่โดดเด่นสะดุดตา พูดถึงเรื่องหน้าตา... ‘หน้าตา’ ของพระองค์ยังดีกว่าเขาขั้นหนึ่ง

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พระองค์จึงทรงลืมฟีเรียสไม่ลง

เหตุการณ์ในคืนนั้นอาจจะมีส่วน แต่ตอนนี้พระองค์ไม่ได้ทรงระลึกถึงเรื่องในคืนนั้นมากกว่าสีหน้าหยิ่งทระนง
ยามที่เขากราบทูลด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่มีกระแสหนักแน่นจริงจังอยู่ในทีว่า

... กระหม่อมไม่ได้ขายตัว...

อา... พระองค์ไม่ได้ตั้งพระทัยที่จะทรงดูถูกเหยียดหยามเขาเช่นนั้นเลย
คนที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษอย่างพระองค์ไยเลยจะทรงทำเช่นนั้นได้
แต่ถึงกระนั้นประโยคนั้นก็ทำให้พระองค์ถึงกับทรงสะอึกอึ้ง

ที่จริงแล้วพระองค์ทรงทราบว่าเขาเป็นใครตั้งแต่หลังจากเกิดความผิดพลาดเช่นนั้นได้เพียงแค่วันเดียว
แต่ยังทรงพระดำริไม่ตกว่าจะทำเช่นไรดี

เรจิน... องครักษ์คนสนิทซึ่งพระองค์ทรงใช้ให้ไปสืบกราบทูลว่าชายหนุ่มผู้นั้นไม่ได้แพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครรู้
นั่นทำให้พระองค์ทรงโล่งพระทัยขึ้น แต่ข่าวเรื่องการเจ็บไข้ของเขาทำให้พระองค์ไม่สบายพระทัย

แม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นเพราะหลานสาวของผู้อำนวยการโรงเรียนองครักษ์หลวงใช้ให้คน
ใส่ยาปลุกกำหนัดลงในแก้วเครื่องดื่มของพระองค์ แต่กลับติดขัด ปลีกตัวออกมาจากงานเพื่อขึ้นมาบนบ้านไม่ได้
คนที่บังเอิญถูกใช้ให้ประคองพระองค์ขึ้นห้องอย่างฟีเรียสจึงตกเป็นเหยื่อแรงกำหนัดของพระองค์แทน
แต่คนที่ยับยั้งพระอารมณ์ไม่ได้อย่างพระองค์ก็ทรงหลีกเลี่ยงความผิดไม่ได้

ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแล้วจะชดใช้อย่างไรได้

พระองค์ไม่ได้ทรงรังเกียจผู้ชายที่มีสัมพันธ์สวาทกับผู้ชายด้วยกัน แม้ว่าพระองค์จะไม่ได้
เป็นผู้ชายประเภทเดียวกันนั้นก็ตาม แต่ก็ไม่ทรงทราบว่าฟีเรียสคิดอย่างไร

ว่าที่องครักษ์หนุ่มผู้นั้นดูเป็นชายชาตรีคนหนึ่ง แต่ปฏิกิริยา การแสดงออกที่มีต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
กลับไม่ได้เป็นอย่างที่ทรงพระดำริไว้

ที่จริง... พระองค์ก็ไม่ได้ทรงคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าเขาน่าจะแสดงท่าทีอย่างไร
แต่ก็ทรงรู้สึกว่าผิดความคาดหมาย

ฟีเรียสเฉยชาอย่างไม่น่าเชื่อ

พระองค์ทรงโล่งพระทัยที่ฝ่ายนั้นไม่ติดใจเอาเรื่อง ไม่เรียกร้องสิ่งใด เมื่อ ‘การเจรจาต่อรอง’
ที่คิดว่าน่าจะใช้เวลานานกลับจบลงด้วยเวลาอันสั้น พระองค์ก็อดที่จะรับสั่งอธิบายออกไปไม่ได้
ทว่ายิ่งรับสั่ง ก็ยิ่งทรงรู้สึกเหมือนกำลังแก้ตัวและปัดความรับผิดชอบ

ทั้งที่อีกฝ่ายกราบทูลแต่แรกแล้วว่า ‘จำไม่ได้’ พระองค์ก็ยังรับสั่งย้ำให้เขาลืมอยู่อีกหลายครั้ง ราวกับว่าไม่เชื่อใจ

ทั้งที่น่าจะทำลืมๆ ไปเสีย แต่พระองค์ก็ตัดสินพระทัยที่จะพบและพูดคุยกับเขาสักครั้ง

ทั้งที่ได้รับการยืนยันว่าจะไม่บอกใครแล้ว แต่พระองค์ก็ยังไม่สบายพระทัย
เพราะฉะนั้นจึงพยายามทำให้ความรู้สึกนั้นหายไปด้วยการให้เงินชดใช้

แต่สิ่งที่ได้กลับมายิ่งเลวร้ายลงกว่าเดิม

เมื่อวานนี้... ตอนที่ทอดพระเนตรการต่อสู้บนหลังม้าของฝ่ายนั้นจากระเบียงหลังห้องทำงาน
ของผู้อำนวยการโรงเรียนองครักษ์หลวง แล้วเห็นว่าฟีเรียสพลาดพลั้งจนเกือบจะตกจากหลังม้า
พระทัยของพระองค์ก็พลอยวูบไหวไปด้วย แม้จะไกลจนทอดพระเนตรไม่เห็นสีหน้าของฝ่ายนั้น
แต่ก็ทรงอุปาทานไปว่าเขาคงจะกำลังนิ่วหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวดจนเหงื่อไหลโทรม

หยดเลือดที่เปื้อนผ้าปูที่นอนในคืนนั้นไม่ใช่น้อยเลย

วันนี้องครักษ์คนสนิทของพระองค์กราบทูลว่าฟีเรียสขอลาป่วย ข่าวนั้นทำให้พระองค์ไม่ทรงมีสมาธิ
ในการทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ได้แต่ทรงอ่านแฟ้มประวัติของชายหนุ่มซ้ำไปซ้ำมา

*************************************

ฟีเรียสเผลอปัดชามเปล่าตก ขณะเอื้อมมือไปหยิบตลับยา ชายหนุ่มจึงไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่นี้
เขาได้ยินเสียงเคาะประตูหรือไม่ ทว่าเมื่อไม่ได้ยินเสียงเคาะซ้ำ เขาจึงถอดกางเกงออกคาข้อเท้าไว้แล้วชันเข่าทั้งคู่ขึ้น
โรดีอัสกลับมาดูแลให้เขาทานอาหารกลางวันและทานยาหลังอาหารเรียบร้อยแล้วจึงกลับไปเรียนต่อเมื่อครู่นี้เอง
เขาจึงได้โอกาสทายาอีกครั้งหนึ่ง

นิ้วเรียวสีน้ำตาลอ่อนสอดเข้าไปในช่องทางที่ถลอกจนแสบพอดี เมื่อประตูห้องถูกเปิดออกอย่างถือวิสาสะ

“เฮ้ย!”   

เจ้าของห้องอุทานเสียงดังพลางดึงนิ้วออกแล้วรีบสวมกางเกงเป็นพัลวัน
ทว่าเรี่ยวแรงที่มีไม่มากทำให้ยกก้นขึ้นไม่ถนัด คนที่ทรงยืนอยู่หน้าประตูจึงทรงรีบเสด็จเข้ามาแล้วปิดประตู

ฟีเรียสได้แต่ดึงชายเสื้อลงมาปิดส่วนสงวนกึ่งกลางกายเอาไว้ก่อน
 พลางกระถดกายหนีเมื่ออาคันตุกะสูงศักดิ์ดำเนินเข้ามาใกล้
เมื่อเจ้าชายหนุ่มทรงหยุด ว่าที่องครักษ์หนุ่มก็หยุดตาม
ก่อนจะรู้ตัวว่าไม่ควรนั่งอยู่ในท่านี้นาน

“ฝ่าบาท ทรงหันหลังไปก่อนได้ไหมพระเจ้าค่ะ”

ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของคนพูดล้วนแต่ข่มความกระดากอายไว้อย่างเต็มที่
ทว่าดูเหมือนว่าเจ้าชายหกแห่งไมซีนจะไม่เข้าพระทัยประโยคง่ายๆ

“กำลังทายาอยู่หรือ”

นอกจากไม่หันหลังแล้วยังดำเนินเข้ามาใกล้ ฟีเรียสต้องกระถดถอยจนหลังติดผนัง

“ข้าจะช่วย เจ้าทำเองคงไม่ถนัด”

คนรับสั่งไม่ทรงทราบว่าพระองค์รับสั่งเช่นนั้นออกไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร
ในขณะที่คนฟังแทบจะอ้าปากค้าง

ลำพังเขาทำเองก็ดูเหมือนกำลัง ‘ช่วยตัวเอง’ อยู่แล้ว
ถ้าพระองค์ทรง ‘ช่วย’ ด้วยอีกคน จะไม่ยิ่งดูแย่ยิ่งขึ้นไปอีกหรือยังไง

“กระหม่อมขอเวลาแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนพระเจ้าค่ะ”

ฟีเรียสนึกอยากจะลองใส่กางเกงด้วยมือเพียงข้างเดียว
แต่เขาก็รู้มารยาทพอที่จะไม่แต่งตัวต่อเบื้องพระพักตร์ของเจ้าชาย
เจ้าชายเสียอีกที่ดูจะไม่ทรงรู้จักมารยาทเพราะเสด็จมาประทับลงบนเตียงแคบๆ ของเขาแล้ว

“ข้าเอายามาให้ ใช้สำหรับ... แผลแบบนี้โดยเฉพาะ”

สีพระพักตร์ของเจ้าชายรามิเรสมีแววกระอักกระอ่วนอยู่เหมือนกัน
แต่พระองค์ก็ทรงหยิบตลับยาสีเงินออกมาแล้ว ซ้ำยังทรงเปิดตลับแล้วเรียบร้อย

“เอามือออกสิ”

“กระหม่อมทำเองได้พระเจ้าค่ะ”

“ข้าจะช่วย”
เกิดความเงียบขึ้นครู่หนึ่ง ทว่านานพอที่จะทำให้เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงรู้สึกองค์ว่ากำลังทรงทำอะไรอยู่

... ราวกับจะงอนง้อขอดูแลก็ไม่ปาน

“ข้า... เอ่อ ถือว่ามันเป็นเรื่องที่ข้าควรจะรับผิดชอบก็แล้วกัน”

หากว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมอีก พระองค์ก็คงจะทรงวางองค์ไม่ถูกอีกแล้ว

“กระหม่อมทำเองได้พระเจ้าค่ะ” จะให้เขาอยู่ในท่านี้ไปอีกนานเท่าไร แค่นี้ก็แย่แล้ว

... ไม่ยอมจริงๆ เสียด้วย...

“ข้าสั่ง”

ฟีเรียสขมวดคิ้ว

“เป็นคำสั่งของเจ้าชาย เอามือออก”

ว่าที่องครักษ์หนุ่มหน้าตึง ทว่าเมื่ออีกฝ่ายมาไม้นี้ เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ปฏิบัติตามรับสั่ง
เป็นผู้ชายเหมือนกัน เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้เขารู้สึกอะไรนัก แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายต้องบังคับเขาเสียจริง

ฟีเรียสเอามือออกแล้ว ชายหนุ่มกลั้นหายใจเมื่อเจ้าชายหกเลิกชายเสื้อของเขาขึ้น

เจ้าชายรามิเรสเองก็ทรงกระอักกระอ่วนพระทัยเหมือนกัน
ความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะ ‘รับผิดชอบ’ พาพระองค์มาสู่ทางตันเสียแล้ว

จะว่าเชื่องช้าก็ได้ แต่จะดูว่านุ่มนวลก็เหมือนจะไม่ผิด เมื่อพระหัตถ์ขาวสะอาดช้อนอวัยวะกลางลำกายของคนป่วยขึ้น
เพื่อจะได้ทอดพระเนตรเห็นช่องทางที่อยู่ข้างใต้ได้ถนัด

ความบอบช้ำที่ได้ทอดพระเนตรเห็นทำให้พระองค์ทรงลืมเลือนความกระอักกระอ่วน
ในขณะที่เจ้าของร่างกายรู้สึกว่ากำลังจะไข้ขึ้น หน้าร้อนจัดโดยเฉพาะเมื่อได้ยิน ‘คำสั่ง’ ต่อไป

“นอนลงดีกว่า ข้าจะได้เห็นชัดกว่านี้”

รับสั่งออกไปแล้วถึงได้ทรงสะอึก สายตาสองคู่มองสบกันอยู่ครู่หนึ่ง
ต่างฝ่ายต่างทำหน้าไม่ค่อยถูก ก่อนจะเบือนสายตาไปทางอื่นพร้อมๆ กัน

เนื้อยาค่อนข้างเย็น ทว่านิ้วพระหัตถ์ที่สอดใส่เข้ามานั้นอุ่น ความไม่คุ้นเคยทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความรู้สึกสับสน
เรียวนิ้วที่สอดไล้วนเวียนอยู่ภายในทำให้รู้สึกอายแม้จะมองไม่เห็น

เจ้าชายรามิเรสทรงป้ายยาจากตลับออกมาอีก ก่อนจะสอดพระดัชนีเข้าไปตรงช่องทางเดิม
การขมิบตอดรัดสิ่งแปลกปลอมของกล้ามเนื้อตรงนั้นทำให้พระองค์ทรงรู้สึกวูบไหว
ยิ่งเมื่อทรงพระดำริว่าร่างกายส่วนนี้เองที่รองรับความปรารถนาอันดิบเถื่อนรุนแรงของพระองค์ไว้ในคืนนั้น
และทำให้ความทรมานของพระองค์สลายไป ความรู้สึกหวามไหวแปลกๆ ก็ถาโถมเข้ามาในพระทัยเป็นระลอก

ท่วงท่าที่กำลังทอดพระเนตรเห็นอยู่ตอนนี้ก็ชวนให้คิดน้อยอยู่เมื่อไร เรียวขาแข็งแรงและเปลือยเปล่า
ที่กำลังชันขึ้นและแยกออกกว้าง เปิดเปลือยช่องทางกลางสะโพกให้เห็นชัดๆ กับสีหน้ากระดากอายที่แดงก่ำ
ไม่ว่าดูยังไงก็เหมือนว่ากำลังเชื้อเชิญ

ทั้งที่ทรงทราบอยู่แก่พระทัย ว่าฟีเรียสไม่เต็มใจและกำลังเป็นไข้

แต่ไยส่วนอ่อนไหวกลางพระวรกายจึงได้ตื่นตัวขึ้นมาอย่างน่าละอายเสียได้

“เสร็จแล้ว”

ว่าที่องครักษ์หนุ่มรีบหุบขาเข้าหากันจนเกือบจะหนีบเอาพระพักตร์ของผู้เป็นเจ้าชายเข้าไปด้วย
ชายหนุ่มพยายามจะลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกมึนศีรษะ เมื่อรู้ตัวอีกที ร่างกายก็ถูกเจ้าชายหกทรงประคองไว้แล้ว
เนื้อตัวที่เสียดสีกันผ่านเสื้อผ้าทำให้ใจของเขายิ่งสั่นไหว

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

หลังจากรีบกราบทูลเร็วๆ แล้วชายหนุ่มก็ก้มตัวลงดึงกางเกงขึ้นโดยไม่สนใจว่าจะผิดมารยาทหรือไม่
เรื่องที่เกิดขึ้นมันเกินกว่าคำว่า ‘มารยาท’ จะเอาอยู่เสียแล้ว

อย่างไรก็ดี เจ้าชายรามิเรสไม่ได้ทรงช่วยให้สถานการณ์ง่ายดายขึ้นเลยแม้แต่น้อย
การพยายามช่วยสวมกางเกงให้อีกฝ่ายทำให้พระหัตถ์สัมผัสกับผิวก้นเปล่าเปลือยของเขา
ความร้อนผ่าวจากผิวกายนั้นราวกับจะถ่ายทอดไปสู่พระหัตถ์ได้

เหตุการณ์ในคืนนั้นพลันหวนเข้ามาสู่พระดำริวูบหนึ่ง

ฟีเรียสขยับตัวออกห่างอย่างอึดอัด เจ้าชายหนุ่มจึงทรงขยับห่างออกไปบ้าง แต่ยังประทับอยู่บนเตียง

“ฝ่าบาททรงมีพระธุระกับกระหม่อมหรือพระเจ้าค่ะ”

คงจะเป็นธุระด่วนน่าดู... ถึงขนาดเปิดประตูเข้ามาในห้องพักของเขาโดยพลการ

“ข้ามาเยี่ยมเจ้า”

ขณะที่ว่าที่องครักษ์หนุ่มกำลังคิดอยู่ว่า ‘ของเยี่ยม’ คงจะเป็นยาในตลับสีเงิน
เจ้าชายหกก็รับสั่งบอกราวกับจะทรงทราบความคิด

“เอาผลไม้มาเยี่ยม องครักษ์ของข้าถือรออยู่ข้างนอก”

ฟีเรียสเห็นองครักษ์ร่างสูงโปร่งแวบๆ อยู่เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าฝ่ายนั้นจะเห็นหรือไม่ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ในห้อง

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

ชายหนุ่มได้แต่หวังว่าการพูดตอบเพียงสั้นๆ จะทำให้บทสนทนาจบลงอย่างรวดเร็ว

เจ้าชายรามิเรสทรงเงียบไป แม้จะทรงทราบว่าพระองค์สมควรจะเสด็จกลับแล้ว
แต่คำลากลับไม่สามารถออกจากพระโอษฐ์ได้เสียที

“เจ้ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง”

“เหนื่อยพระเจ้าค่ะ อยากจะพักผ่อน”

เขาเหนื่อยจริงๆ ทั้งร้อนและมึนศีรษะ หวังว่าการทูลตอบอย่างไม่นึกถึงมารยาทเช่นนี้
จะทำให้อีกฝ่ายเสด็จกลับไปเสียที

“เหงื่อเจ้าออกมาก นอนทั้งอย่างนี้คงจะไม่สบาย”

ว่าที่องครักษ์หนุ่มขมวดคิ้ว

“ข้าจะ... ช่วยเช็ดตัวให้”

เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงกระอักกระอ่วนพระทัยอยู่เหมือนกัน
เมื่อทอดพระเนตรเห็นสีหน้าตกใจของคนไม่สบาย แต่พระองค์ก็รับสั่งออกไปแล้ว
ทั้งที่ไม่เคยทรงพยาบาลใครมาก่อน

“ไม่เป็นไรพระเจ้าค่ะ กระหม่อมเพิ่งจะเช็ดให้ตัวเองไปเมื่อเช้า”

“เจ้าคงเช็ดไม่ถนัด”

“พอเช็ดได้พระเจ้าค่ะ”

แทนที่เจ้าชายหกจะทรงถือโอกาสลืมสิ่งที่เพิ่งจะทรงพลั้งโอษฐ์ไปเสีย
พระองค์กลับทรงดำเนินไปเปิดประตูแล้วตรัสสั่งให้องครักษ์คนสนิทจัดเตรียมน้ำและผ้าสะอาดมาถวาย
ฟีเรียสได้แต่นิ่งอึ้ง ไม่นานนักคนที่เพิ่งนำผลไม้เยี่ยมไข้มาวางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือก็จัดหาทุกสิ่งมาถวาย
และกลับออกไปนอกห้องดังเดิม

“ถอดเสื้อออกสิ”

“ฝ่าบาท...” พิษไข้ทำให้ชายหนุ่มชักจะหงุดหงิด เมื่อกี้สั่งให้ถอดข้างล่าง ตอนนี้ยังจะสั่งให้ถอดข้างบนอีก

“ข้าสั่ง”

รับสั่งว่าอย่างนั้นแล้วคนที่เป็นแค่นักเรียนองครักษ์อย่างเขาจะทำอะไรได้ ฟีเรียสได้แต่ถอดเสื้อออกตามคำสั่ง
แม้ว่าตอนถอดจะทั้งอึดอัดและรู้สึกอ่อนเพลียทั้งกายและใจ แต่เมื่อเห็นสายพระเนตรที่ทอดจับอยู่บนร่างกาย
ชายหนุ่มก็ชักจะรู้สึกวูบวาบขึ้นมาบ้างเหมือนกัน

“รอยพวกนั้น... ข้าเป็นคนทำหรือ”

ให้ตายสิ! เรื่องแบบนี้ไม่ต้องถามออกมาก็ได้ จะถามเพื่ออะไร

ฟีเรียสไม่ตอบ

ว่าที่องครักษ์หนุ่มคิดอยู่แล้วว่าคนระดับ ‘เจ้าชาย’ อย่างเจ้าชายรามิเรสคงจะทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้เรื่อง
เขาจึงได้แต่ทำใจเมื่อผ้าเปียกๆ ถูกโปะลงมาบนหน้าอกจนน้ำไหลลงไปถึงขอบกางเกง ถ้าจะทำแบบนี้
สู้ให้เขาเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำเสียดีกว่า

ฟีเรียสไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แต่อาการสั่นสะท้านด้วยความหนาว
ก็ทำให้เจ้าชายหนุ่มทรงรู้จักบิดผ้าให้หมาดกว่าเดิม และเช็ดไปตามร่างกายของอีกฝ่ายอย่าง ‘เป็นงาน’ มากขึ้น

ชายหนุ่มเจ้าของเรือนร่างสีน้ำตาลอ่อนเนียนสวยปล่อยให้คนอาสาช่วยทรงจับตัวเขาหันหน้าหันหลัง
ยกแขนขึ้นลง ชักเชิดไปตามพระทัยได้ราวกับตุ๊กตา เขาหลับตาลงอย่างไม่อยากจะรับรู้อะไร
ทว่านั่นยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายทรงสำรวจร่างกายของเขาได้โดยไม่ต้องทรงรู้สึกกระดากพระทัยมากนัก

เรือนร่างที่มีทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับพระองค์นี่เองน่ะหรือ ที่พระองค์ทรงกกกอดไว้ตลอดค่ำคืน
ร่างกายแบบนี้อาจจะทำให้ผู้หญิงเห็นแล้วใจเต้นแรงก็จริง แต่พระองค์ทรงเป็นผู้ชายย่อมไม่ทรงรู้สึกอย่างนั้น

แต่ความรู้สึกแสนอิ่มเอมในค่ำคืนนั้น... พยายามลืมอย่างไรก็ลืมไม่ลงจริงๆ

ที่จริง... พระองค์ไม่ได้ทรงพยายามเสียด้วยซ้ำ

พวกรอยดูดเม้มที่กระจายอยู่ประปรายทั่วแผ่นอกแข็งๆ นั่นพระองค์ทรงทำจริงหรือ
ร่างกายนี้แน่หรือที่พระองค์...

ฟีเรียสลืมตาขึ้นทันทีที่เจ้าชายหนุ่มทรงแตะแอ่งชีพจร... ตรงนั้นมีรอยช้ำสีม่วงจางๆ อยู่รอยหนึ่ง

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

ว่าที่องครักษ์หนุ่มหยิบเสื้อขึ้นมาใส่โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะทรงเช็ดตัวให้เขาเสร็จแล้วหรือยัง

“ฝ่าบาททรงขยับสักนิดเถิดพระเจ้าค่ะ กระหม่อมจะเดินไปส่งเสด็จ”

เขาอุตส่าห์ออกปากไล่อย่างสุภาพแล้ว ถ้าอีกฝ่ายยังไม่เข้าพระทัย ก็คงจะทรงดื้อ ‘ด้าน’ เต็มทน

โชคดีที่คราวนี้เจ้าชายหนุ่มทรงยอมลุก

“ไม่ต้องไปส่งข้าหรอก เจ้าพักผ่อนเถอะ ยาตลับนี้เจ้าเอาไว้ใช้ แล้วพรุ่งนี้... ข้าจะมาใหม่”

“ไม่ต้อง!”

เผลอขึ้นเสียงออกไปแล้วฟีเรียสก็ต้องถอนหายใจเบาๆ

“ขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ แต่ฝ่าบาททรงเป็นเจ้าชาย ทำแบบนี้คงไม่เหมาะ”

“ข้าแค่อยากจะรับผิดชอบ”

“มันเป็นความผิดพลาด กระหม่อมเข้าใจพระเจ้าค่ะ ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องทรงรับผิดชอบ”

ทั้งที่พระองค์น่าจะทรงดีพระทัยที่อีกฝ่ายเข้าใจอะไรง่ายๆ แต่หลังจากทรงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
เจ้าชายหกแห่งไมซีนกลับรับสั่งอย่างคนที่ไม่ยอมเข้าพระทัยอะไรง่ายๆ เสียเอง

“ข้าจะมาทุกวัน จนกว่าเจ้าจะหายดี”

ฟีเรียสปฏิญาณกับตนเองว่า เขาจะต้องหายป่วยก่อนพรุ่งนี้ให้จงได้

tbc.

*********************************

เอาตอนใหม่มาส่งค่ะ ดีใจที่มีคนชอบแนวนี้ ^^

เรื่องนี้ไม่ดราม่าหรอกค่ะ เป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่ดำเนินไปแบบเรื่อยๆ มากกว่า

แล้วก็... ถามนิดนึงค่ะ
จะอัพเดตชื่อเรื่องด้วย เปลี่ยนจากบทที่ 1 เป็นบทที่ 2 แล้วก็เปลี่ยนวันที่ด้วย ต้องแก้ยังไงอ่าคะ ---> แก้ได้แล้วค่ะ
ขอบคุณ คุณ อายทำไม และคุณ chisarachi นะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2014 19:29:35 โดย ชุน »

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #8 เมื่อ29-01-2014 17:03:44 »

 :-[ เจ้าชายติดใจสินะ ได้หลังแล้วลืมหน้าสินะ

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #9 เมื่อ29-01-2014 17:26:27 »

มาแล้ว เจ้าชายเริ่มรุกแล้ว รุกๆๆๆ
เมื่อไหร่เจ้าชายจะรู้ใจตัวเองซักทีนะ  :hao7: :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
« ตอบ #9 เมื่อ: 29-01-2014 17:26:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #10 เมื่อ29-01-2014 17:43:31 »

ดีจังที่พีเรียสมีความหยิ่งในศักดิ์ศรี ให้เจ้าชายแหยงๆ ได้บ้าง ง้อเยอะๆ นะเจ้าชาย :katai2-1:

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #11 เมื่อ29-01-2014 17:48:59 »

มาเจิ่มมมมมเรื่องใหม่ค่ะ
เป็นคนชอบแนวแบบนี้
เจ้าชายน่ารีัก น่าฮักที่สุด
สวนฟีเรียสก้ดูเป็นคนไม่ชอบคนแต่รักความสงบ
แต่ดูเป็นคนม่ีความกวนติงในสายเลือด ฮ่าๆๆๆ

ตอนที่นเขียนจะลงตอนต่อไปมันจะมีพื้นที่ให้ลง แล้วก็มีหัวข้อค่ะทู้ค่ะ  หัวข้อที่เห็นก็คือหัวข้อปัจจุบันที่มองเห็น
ถ้าจะแก้ก็แก้ได้เลย  ชื่อเดิมที่เคยใช้ก็จะเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่่ะ แก้ตรงช่อง "เรื่อง: "

titeaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: รามิเรส : บทนำ + บทที่ 1 (26 ม.ค. 57)
«ตอบ #12 เมื่อ29-01-2014 18:20:48 »

ชอบแนวนี้มากค่ะ มาต่อไวๆนะคะ 55555

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #13 เมื่อ29-01-2014 19:27:24 »

 :กอด1:


เจ้าชายติดใจสินะ

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #14 เมื่อ29-01-2014 20:16:57 »

โอ้ยอายแทน 555555555555555

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #15 เมื่อ29-01-2014 20:25:33 »

น่าร้ากก เขิลจนจิกหมอน  :-[

เจ้าชายหลงเข้ามาในโลกนี้แล้ว ก้าวขาออกไม่ได้แล้วเพคะ  :hao7:

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #16 เมื่อ29-01-2014 20:45:01 »

ชอบครับ ตัวฟีเรียสเนี่ยชอบมาก นิ่งๆและหยิ่งในที o13

ออฟไลน์ yunchun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #17 เมื่อ29-01-2014 20:46:51 »

ชอบองครักษ์มากกกก  :กอด1:

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #18 เมื่อ29-01-2014 23:48:57 »

 :impress2:

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #19 เมื่อ30-01-2014 14:17:57 »


ชอบๆๆ---เจ้าชายติดใจแล้วล่ะสิท่า

คนแต่งสู้ๆ---มาลงจนจบเลยนะ

+ 1 + เป็ดจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
« ตอบ #19 เมื่อ: 30-01-2014 14:17:57 »





ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #20 เมื่อ30-01-2014 15:14:15 »

สงสัยเจ้าชายจะติดใจฟีเรียสเข้าแล้วมั้ง

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #21 เมื่อ30-01-2014 15:49:17 »

 :L2:ชวนอ่านค่ะ  รอนะคะ

ออฟไลน์ lolitar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #22 เมื่อ30-01-2014 16:17:01 »

เจ้าชายความรับผิดชอบสูงกว่าปกติป่าว :hao7: :hao7:

รับผิดชอบอย่างดีเชียว :hao6: :hao6: :hao6:

แอบน่ารักเบาๆ :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #23 เมื่อ30-01-2014 16:52:19 »

ติดตามมมค่า  >< ชอบบบบบบ

ออฟไลน์ maxiyorka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #24 เมื่อ30-01-2014 21:30:43 »

ชอบอ่ะ

แหมๆเจ้าชายดูเหมือนจะติดใจองครักษ์ฟีเรียสเข้าเต็มเปาแล้วซินะ ><

ถ้าติดแล้วคิดจะถอนตัวนี่คงยากหน่อยนะคะท่านเจ้าชาย 5555

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 2 (29 ม.ค. 57)
«ตอบ #25 เมื่อ30-01-2014 22:30:50 »

เจ้าชายขา...  ถ้าอยากรับผิดชอบขนาดนี้ก็รับไปเป็นชายาเลยเถอะค่ะ  อย่าได้รอช้า :hao3:


เรื่องนี้เหมือนจะเดินเรื่องช้าๆ  แต่ขอบอกว่าสนุกมากเลยค่ะ  มาแบบชวนเขินยังไงก็ไม่รู้ 
รีบมาต่อเร็วๆนะคะ  อยากอ่านแล้ว :mew1: (เดี๋ยวกดบวก  เป็นการติดสินบนให้ :katai5: )

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 3 (3 ก.พ. 57)
«ตอบ #26 เมื่อ03-02-2014 17:22:11 »

บทที่ ๓

ว่าที่องครักษ์หนุ่มร่างสูงโปร่งหายไข้มาหลายวันแล้ว
แต่เจ้าชายรามิเรสก็ยังไม่ทรงหายไปจากวงโคจรชีวิตของเขาเสียที
พระองค์เสด็จมาที่โรงเรียนองครักษ์หลวงบ่อยๆ เพื่อทอดพระเนตรการฝึกของนักเรียนองครักษ์ปีสุดท้าย
โรดีอัสเดาว่าเจ้าชายหนุ่มคงจะเสด็จมาทอดพระเนตรฝีมือของพวกเขาเพื่อทรงคัดเลือกไว้เป็นองครักษ์ของพระองค์
ฟีเรียสไม่ได้แสดงความคิดเห็นตอบ แต่เขาไม่เชื่อ

แม้จะพยายามทำเป็นไม่สนใจแล้ว แต่เมื่อใดที่ฟีเรียสมองไปทางที่ประทับ
เขาก็มักจะเห็นว่าพระองค์กำลังทอดพระเนตรมาทางเขาพอดีทุกครั้งไป
บางทีเขาอาจจะคิดไปเอง แต่ถึงไม่คิด ไม่มอง เขาก็ยังรู้สึกอึดอัดใจอยู่ดี

หลายวันต่อมาผู้อำนวยการโรงเรียนองครักษ์หลวงก็สั่งให้ฟีเรียสไปช่วยคุณชายมิทรอส
ซึ่งเป็นบุตรชายของเสนาบดีกลาโหมจัดสวนใหม่ หลังจากรู้เหตุผล โรดีอัสถึงกับหัวเราะเสียงดัง

“เพราะว่าเจ้าเป็นลูกชาวสวนก็เลยคิดว่าเจ้าจะต้องจัดสวนเก่ง ฮะๆๆ มันเกี่ยวกันตรงไหนวะข้าล่ะงง”

ฟีเรียสเองก็รู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่ถูกขอตัวไปช่วยยิ่งสังหรณ์ใจอย่างประหลาด
นี่ถ้าเขารู้ก่อนว่าคุณชายมิทรอสเป็นพระสหายสนิทของเจ้าชายรามิเรส เขาก็คงจะปะติดปะต่อเรื่องได้ตั้งแต่แรก
ไม่ต้องรอให้ไปถึงคฤหาสน์ของท่านเสนาบดีแล้วเห็นเจ้าชายหนุ่มเสียก่อนถึงจะรู้เรื่อง

ว่าที่องครักษ์หนุ่มไม่รู้ว่าคุณชายหนุ่มรู้เรื่องระหว่างเขากับเจ้าชายหกหรือไม่
แต่ฝ่ายนั้นก็ไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติใดๆ ให้เขารู้สึกสงสัย
เจ้าชายหกเองก็ไม่ได้ทรงทำอะไร ‘แปลกๆ’ กับเขาอีก
นอกจากแย้มพระสรวลเป็นเชิงทักทาย

การไปช่วยครั้งนั้นเขาได้รับเงินตอบแทนจากคุณชายหนุ่มด้วย
แม้จะปฏิเสธไม่รับแล้ว อีกฝ่ายก็ยังฝากผู้อำนวยการมาให้เขาได้อยู่ดี

ช่วยไม่ได้เลยที่ชั่วขณะหนึ่งเขาเกิดสงสัยขึ้นมาว่า... เงินนั่นเป็นของใครกันแน่
ไม่แปลกที่เขาจะคิด เพราะใครบางคนมีประวัติเรื่องการชอบชดใช้ด้วยเงินทองอยู่

ครึ่งเดือนต่อมาฟีเรียสได้รับข่าวจากน้องสาวว่ามารดาป่วย ตามกฎระเบียบแล้ว
นักเรียนองครักษ์หลวงจะสามารถกลับไปเยี่ยมบ้านได้เพียงสองเดือนครั้ง
และเขาก็เพิ่งกลับไปเมื่อไม่นานมานี้ ทว่าเมื่อชายหนุ่มลองเสี่ยงดวงขอลากิจดู
ก็ปรากฏว่าได้รับอนุญาตอย่างง่ายดาย

หลังจากนั้นก็มี ‘งานพิเศษ’ เข้ามาอีกหลายครั้งจนเขาวิตกกังวลเพราะไม่แน่ใจว่า
นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือเกิดขึ้นเพราะอิทธิพลของใครบันดาลให้เป็นไปกันแน่

ในที่สุดเจ้าชายรามิเรสก็โปรดให้เขาไปช่วยจัดสวนที่พระตำหนัก
เรื่องการใช้แรงงานนักเรียนองครักษ์นั้นฟีเรียสรู้ดีว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่บ่อยเข้าเขาก็สงสัยเหมือนกันว่าตัวเองจะได้เป็นองครักษ์หรือคนสวน
แม้ว่านักเรียนองครักษ์ที่ไม่ได้เป็นลูกชายขุนนางอย่างเขาจะไม่มีวันได้รับคัดเลือก
ให้เป็นองครักษ์ที่ทำหน้าที่สำคัญ อย่างดีก็คงจะเป็นได้แค่องครักษ์รักษาการณ์
ยืนประจำเวรยามรอบพระราชวังหลวง แต่ถึงอย่างไรก็ยังห่างจากการเป็นคนสวนอยู่ดี

อย่างไรก็ดี ชายหนุ่มถือโอกาสนี้ทูลถามข้อข้องใจจากเจ้าชายหกอย่างตรงไปตรงมา
เจ้าชายหนุ่มทรงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตรัสตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกันว่า

“ใช่ ข้าทำเอง”

“กระหม่อมขอบังอาจทูลถาม ฝ่าบาททรงทำไปเพื่ออะไรพระเจ้าค่ะ”

แม้ว่าตรงนี้จะไม่ใช่ที่รโหฐาน แต่ในสวนแห่งนี้ก็ค่อนข้างโล่งและไม่มีใครอยู่บริเวณใกล้เคียง
ฟีเรียสจึงสามารถทูลถามได้โดยไม่ต้องระมัดระวังมากนัก

“ข้าอยากจะรับผิดชอบ”

ไปๆ มาๆ ทุกอย่างก็วนมาที่คำตอบเดิม

“ถ้ากระหม่อมรับเงินจากฝ่าบาท ฝ่าบาทจะทรงหยุดรับผิดชอบหรือไม่พระเจ้าค่ะ”

คนถูกถามทรงนิ่งเงียบไป พระองค์ทรงซื่อสัตย์ต่อทั้งพระองค์เองและคนอื่นมากพอที่จะไม่รับสั่งโป้ปดว่า ‘หยุด’

“กระหม่อมไม่ต้องการความรับผิดชอบจริงๆ พระเจ้าค่ะ และไม่ต้องการอะไรจากฝ่าบาทเลย มันเป็นแค่ความผิดพลาด”
ประโยคเหล่านั้นก็เหมือนกัน ฟีเรียสไม่รู้ว่าเขาพูดมันออกไปกี่ครั้งแล้ว

“แต่ข้ารู้สึกผิด ถึงเจ้าจะบอกว่าไม่จำเป็น แต่ข้าก็ยังรู้สึกอย่างนั้นอยู่”

ศักดิ์ศรีของผู้ชายเป็นเรื่องใหญ่ ถ้ามีใครมาทำ ‘ผิดพลาด’ อย่างนั้นกับพระองค์บ้าง
พระองค์ก็คงจะทรงลงพระอาญาสถานหนักไปแล้ว

ฟีเรียสเครียด ชายหนุ่มมองสบสายพระเนตร ชั่งใจ อึดอัดใจ
ทว่าในที่สุดก็ตัดสินใจกราบทูลด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“คืนนั้นฝ่าบาททรงถูกยากระตุ้น แต่กระหม่อมไม่ได้ถูกด้วย ฝ่าบาททรงเมา แต่กระหม่อมยังมีสติดี”

เจ้าชายรามิเรสทรงขมวดพระขนง

“พระวรกายของฝ่าบาทมีขนาดพอๆ กับกระหม่อม เรื่องกำลัง... ก็คงจะพอๆ กัน
ถ้ากระหม่อมจะขัดขืนจริงๆ กระหม่อมก็คงจะทำได้”

พระทัยของเจ้าชายหนุ่มเต้นแรงขึ้น ในขณะที่ว่าที่องครักษ์หนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก

“แต่กระหม่อมก็ไม่ได้ทำ”

ฟีเรียสกราบทูลแค่นั้น เขาหวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ทรงรู้สึกผิดอีก แต่เจ้าชายหนุ่มกลับยังไม่ทรงยอมจบเรื่อง

“เจ้าคงจะไม่อยากทำร้ายเจ้าชายอย่างข้า”

คนฟังยิ่งเครียดกว่าเดิม ผู้ชายที่กำลังจะถูกผู้ชายด้วยกันข่มขืนจะมามัวสนใจทำไมว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
ต่อให้เป็นองค์ราชาหรือเทพเจ้าบนสวรรค์ ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่เต็มใจก็เป็นอันต้องถูกถีบกระเด็นหมดนั่นแหละ
ทำไมเรื่องง่ายๆ แค่นี้เจ้าชายพระองค์นี้ถึงไม่เข้าพระทัย

“แล้วข้าก็คงจะใช้กำลังบังคับเจ้าเต็มที่ เจ้าถึงได้...” หนีไม่พ้น และมีเลือดออกมากขนาดนั้น

“กระหม่อมเต็มใจเองพระเจ้าค่ะ”

ฟีเรียสโพล่งออกไปอย่างเหลืออด ทว่าเมื่อเห็นอาการชะงักงันของอีกฝ่าย เขาก็ต้องเบือนหน้าไปอีกทางหนึ่ง

“กระหม่อมยอม กระหม่อมยั่ว กระหม่อมเชิญชวน ฝ่าบาทจะทรงคิดยังไงก็ได้
แต่ไม่จำเป็นต้องทรงรู้สึกผิด ไม่จำเป็นต้องทรงรับผิดชอบ”

ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไปเนิ่นนาน ในที่สุดฟีเรียสก็เป็นฝ่ายหมดความอดทนก่อน
 ชายหนุ่มค้อมกายลงถวายความเคารพแล้วหันหลังเดินจากไปอย่างไม่คำนึงถึงมารยาทอีก

“แล้วเจ้าคิดจะรับผิดชอบข้ารึเปล่า”

ว่าที่องครักษ์หนุ่มหยุดเดิน เขาคิดว่าตัวเองคงจะหูฝาด

เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงโล่งพระทัยที่อีกฝ่ายไม่ได้หันกลับมา เพราะมันทำให้พระองค์สามารถรับสั่งต่อไปได้ว่า

“เจ้าทำให้ข้าลืมไม่ลง เจ้าจะรับผิดชอบข้ายังไง”

นานทีเดียว กว่าฟีเรียสจะหันกลับมา

“กระหม่อมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เกิดความผิดพลาดแบบนี้ขึ้น แต่พระคู่หมั้นของฝ่าบาทคงจะช่วยได้พระเจ้าค่ะ”

***************************

เจ้าชายรามิเรสทรงพยายามลืมฟีเรียส พระองค์เสด็จไปสถานเริงรมย์สำหรับชนชั้นสูง
ตามคำแนะนำของพระสหายสนิท มิทรอสเป็นคนเดียวที่พระองค์ทรงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้ฟัง
และคุณชายหนุ่มก็ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลก

“ผู้ชายกับผู้หญิงมีเสน่ห์กันคนละแบบพระเจ้าค่ะ คนที่มีรสนิยมดี
ย่อมต้องรู้จักเสพสุขกับความเย้ายวนทั้งสองแบบ ไม่แปลกที่ฝ่าบาทจะทรงติดพระทัย”

มิทรอสยังกราบทูลอีกว่าผู้หญิงมีเสน่ห์ตอนไหน ผู้ชายมีเสน่ห์เวลาใด พูดให้ถูกก็คือ
เรือนร่างของผู้หญิงดียังไง และร่างกายของผู้ชายยอดเยี่ยมตรงไหน
เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงฟังและคล้อยตามคำทูลชวนของอีกฝ่าย
ทั้งที่พระองค์ซื่อสัตย์ต่อพระคู่หมั้นมาตลอดสองปี

คุณชายหนุ่มสั่งให้เจ้าของหอบุปผาเลื่องชื่อจัดหญิงสาวมาถวาย
แต่ไม่ได้บอกหญิงวัยกลางคนผู้นั้นว่าเจ้าชายหนุ่มเป็นใคร

เจ้าชายรามิเรสทรงร่วมอภิรมย์กับหญิงสาวผู้นั้นได้ตามปกติ
พระวรกายตื่นตัวและปลดปล่อยตามธรรมชาติเมื่อถูกปลุกเร้า
แต่ไม่มีความสุขนักเพราะกำลังเครียด
ภาพใบหน้าของพระคู่หมั้นและว่าที่องครักษ์หนุ่มคอยวนเวียนอยู่ในพระดำริสลับกันไปมา

ชายหนุ่มอีกสองคนเข้าไปถวายงานต่อจากนั้นโดยเข้าไปทีละคน
คนแรกเป็นชายหนุ่มผิวขาวซึ่งมีรูปร่างเพรียวบางคล้ายผู้หญิง คนที่สองมีรูปร่างและสีผิวแบบเดียวกับฟีเรียส
แต่ก็ถูกเจ้าชายหนุ่มทรงไล่ออกมาจากห้องทั้งคู่

“ไม่โปรดเลยหรือพระเจ้าค่ะ” ผู้เป็นพระสหายทูลถาม

เจ้าชายหนุ่มเพียงแต่สั่นพระเศียรด้วยสีพระพักตร์เครียดๆ

“แล้วทรงลืมนักเรียนองครักษ์คนนั้นได้หรือยัง”

“ยัง”

“งั้นกระหม่อมว่าคงจะเหลือทางแก้อีกวิธีเดียว”

เจ้าชายรามิเรสหันไปทอดพระเนตรหน้าของพระสหาย

“ต้องทรงลองมีอะไรกับเจ้าเด็กนั่นอีกสักทีพระเจ้าค่ะ คราวนี้ทำตอนที่ฝ่าบาททรงมีพระสติดี”

สีพระพักตร์ของเจ้าชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นบอกไม่ถูกทันที พระองค์ไม่เคยปรารถนาจะทำเช่นนั้นเลยสักครั้ง
คืนนั้นพระองค์ทรงเมากำหนัดและน้ำจัณฑ์จึงยับยั้งพระอารมณ์ไม่ได้
แต่หากเป็นตอนที่มีพระสติครบถ้วน... เห็นทีว่าคงจะเป็นไปไม่ได้แน่

อีกอย่าง... ฟีเรียสเองก็คงไม่ยอมให้พระองค์ทำอย่างนั้นกับเขาอีกครั้งแน่ แต่ว่า...

กระหม่อมเต็มใจเองพระเจ้าค่ะ

อา... ประโยคนั้นมีความหมายตรงตัวตามนั้นจริงหรือเปล่า



เจ้าชายหกแห่งไมซีนบรรทมไม่หลับ แม้จะตื่นบรรทมขึ้นมาทรงงานแล้วก็ยังอ่านเอกสารไม่รู้เรื่อง
จึงต้องประทับรับลมอยู่ตรงระเบียงห้องทรงพระสำราญ เสวยน้ำจัณฑ์และชมจันทร์ที่ใกล้จะลับฟ้า
ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์โรแมนติกเลยแม้แต่น้อย

ตอนที่พระองค์เสด็จไปที่โรงเรียนองครักษ์หลวงบ่อยๆ และหางานพิเศษให้นักเรียนองครักษ์ผู้นั้นทำ
ก็เพราะทรงรู้สึกผิดและมีพระประสงค์จะรับผิดชอบจริงๆ

แต่ตอนนี้เมื่อทั้งความรู้สึกผิดและความรับผิดชอบไม่จำเป็นต้องมีแล้ว พระองค์ยังจะเหลืออะไรไว้ให้ยึดเหนี่ยว
ความรู้สึกหวนคะนึงถึงที่ยังอวลอึงอยู่ในพระอุระนี้สมควรจะถูกเรียกขานว่าอะไร

เคยทรงคิดอยู่เหมือนกัน ว่าพระองค์ติดพระทัยในเพศรสแบบใหม่หรือไม่

ก็อาจจะใช่... ความอิ่มเอมในคืนนั้นยังอุ่นอยู่ในพระทัยไม่รู้วาย ทั้งที่ไม่มีพระสติดีนัก

แต่ทำไมจึงทรงทำเช่นนั้นกับชายหนุ่มที่มิทรอสจัดหามาถวายไม่ได้

ไม่ได้รังเกียจ แต่ไม่ได้ก็คือไม่ได้จริงๆ

หรือจะเป็นเพราะว่าพระองค์ทำตอนมีสติไม่ได้

ถ้าอย่างนั้น... ก็คงจะทำกับฟีเรียสไม่ได้เช่นกัน

ปัญหาอยู่ที่ไหนกันแน่ อยู่ที่ ‘เพศ’ หรืออยู่ที่ ‘คน’

ถ้าคืนนั้นคนที่พระองค์ข่มขืนไม่ใช่ฟีเรียส พระองค์จะลืมๆ มันไปได้ไหม
ถ้าคนที่ผู้อำนวยการโรงเรียนองครักษ์หลวงเรียกให้มาเข้าเฝ้าฯ ไม่ใช่ผู้ชายผิวสีน้ำตาลอ่อน
ผู้มีใบหน้าสงบเงียบเรียบร้อย ทั้งยังปฏิเสธความรับผิดชอบของพระองค์ทุกอย่าง
พระองค์จะทรงเลิกคิดถึงเขาได้ไหม

...กระหม่อมไม่ได้ขายตัว...

ประโยคนั้นทำให้พระองค์พระพักตร์ชา แต่เมื่อรวมกับอีกประโยคหนึ่งที่เขารับสารภาพในภายหลังว่า

...กระหม่อมเต็มใจเองพระเจ้าค่ะ...

ก็ทำให้พระองค์อดจะรู้สึกปรีดิ์เปรมขึ้นมาไม่ได้

ประโยคนั้นทำให้ทรงรู้สึกราวกับว่า... เป็นคนพิเศษ

...กระหม่อมยอม กระหม่อมยั่ว กระหม่อมเชิญชวน...

ยอม... ก็คงจะจริง แต่ยั่วกับเชิญชวนนั้นคงไม่ใช่แน่

ไม่ว่าจะยังไง พระทัยของพระองค์ก็เต้นแรงมากเมื่อได้ยิน

ตอนนี้... ก็ยังเต้นแรงอยู่เมื่อมีพระดำริว่า หากฟีเรียสทำเช่นนั้นขึ้นมาจริงๆ พระองค์จะทรงรู้สึกเช่นไร
ชายหนุ่มบอกว่าเขาเต็มใจ ถ้าอย่างนั้น... คืนนั้นเขากอดตอบพระองค์รึเปล่า
รู้สึกมีความสุขเหมือนที่พระองค์ทรงมีบ้างไหม ทำไมพระองค์จึงจำสิ่งที่เขาปฏิบัติตอบพระองค์ไม่ได้เลย
ถ้าเขารู้สึกดีอยู่บ้าง พระองค์จะได้ไม่ต้องทรงรู้สึกผิดมากนัก แต่ถ้าสิ่งที่ฟีเรียสรู้สึกมีแต่ความเจ็บปวดทรมาน

พระองค์ก็อยากจะ...

เห็นทีว่า... คงจะทรงเมาเสียแล้ว



วันรุ่งขึ้นอันธียาซึ่งเป็นบุตรสาวคนเล็กของเสนาบดีคลัง
และเป็นพระคู่หมั้นของเจ้าชายรามิเรสมาหาเจ้าชายหนุ่มถึงพระตำหนัก
หญิงสาวนำขนมที่นางบอกว่าทำเองมาถวาย และเลียบเคียงทูลถามเรื่องที่ได้ยินมา
ว่าเมื่อคืนนี้พระองค์เสด็จไปที่หอบุปผากับมิทรอสมา

“เจ้าได้ยินมาจากไหน”

“คนที่บอกหม่อมฉันเขาห้ามไม่ให้หม่อมฉันบอกฝ่าบาทเพคะ”

เจ้าชายหกเพียงแต่ทรงพยักพระพักตร์แล้วก็ทำเฉยเสีย

“แล้วมันจริงรึเปล่าล่ะเพคะ”

“ไม่จริง”

“ฝ่าบาทไม่ได้เสด็จไปแน่หรือเพคะ”

“อืม”

“แล้วเมื่อคืนเสด็จไปที่ไหนมาเพคะ”

“ไม่ได้ไปไหน ทำงานอยู่ในห้อง”

“ดูท่าจะทรงงานดึกนะเพคะ พระพักตร์เซียวๆ เหมือนคนอดนอน”

“อืม ดึก”

อันธียายังคงทูลถามซักไซ้อยู่อีกสองสามประโยค ก่อนจะเลิกราไป
หญิงสาวเป็นคนสวย มีชาติตระกูลดี และเจ้าชายรามิเรสก็พอพระทัยนางมากพอสมควร
จึงได้ทรงหมั้นหมายตามคำขอร้องของพระมารดาก่อนที่พระนางจะบวชเป็นชี
เจ้าชายหกทรงซื่อสัตย์ต่อพระคู่หมั้นเสมอมา และไม่โปรดการรับสั่งเท็จ
แต่ความจริงที่พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ซ้ำยังมีโทษเสียอีก พระองค์ก็ไม่รับสั่ง

เรื่อง ‘การนอกใจ’ เล็กๆ น้อยๆ นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
พระองค์จึงไม่ทรงทราบว่าอันธียาค่อนข้างขี้หึง
แต่เมื่อนางมาทูลถาม พระองค์ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ
ไม่ได้ติดพระทัยอะไรนัก

เพียงแต่มีพระประสงค์จะทรงทราบขึ้นมาอยู่รำไร
ว่าหากฟีเรียสรู้ว่าพระองค์เสด็จไปสถานที่เช่นนั้นมา
เขาจะรู้สึกอย่างไรบ้าง

หรือว่า... ไม่รู้สึกอะไรเลย


tbc

****************************************************

ที่ว่า 'กระหม่อมเต็มใจ' นั่นน่ะ เรื่องจริงนะคะ ^^

ออฟไลน์ yunchun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 3 (3 ก.พ. 57)
«ตอบ #27 เมื่อ03-02-2014 18:11:06 »

ทำเอาองค์ชายเพ้อกันเลยทีเดียว  :-[

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 3 (3 ก.พ. 57)
«ตอบ #28 เมื่อ03-02-2014 18:16:53 »

ได้อ่านตอนนี้แล้วฟิน  เจ้าชายขาอย่าทรงรอช้า  รีบพิสูจน์ใจตัวเองเถอะค่ะ :katai2-1:

ว่าแต่ฟีเรียสนี่สมยอมจริงหรือเนี่ย  แบบนี้ก็แสดงว่าฟีเรียสแอบมีซัมติงล่ะสิ  (แต่เป็นซัมติงแบบไหนหว่า :m28: )


ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 3 (3 ก.พ. 57)
«ตอบ #29 เมื่อ03-02-2014 18:32:41 »

อ่าาา องค์ชายเพคะ ทรงพระสติสักจานนะเพคะ  :katai3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด