Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1335575 ครั้ง)

ออฟไลน์ Once

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #150 เมื่อ25-03-2016 00:23:02 »

จำไม่ได้ว่า ปอลิน คือใคร ; O ; //แต่คุ้นๆอยู่

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #151 เมื่อ25-03-2016 12:44:55 »

 :katai5:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #152 เมื่อ25-03-2016 14:58:03 »

รออ
สงสารกุนต์ อ่านเเล้วก็เศร้า

ออฟไลน์ basanti

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #153 เมื่อ25-03-2016 17:40:33 »

ขออนุญาตทำสารบัญให้คุณข้าวปั้นนะ  :o8:


ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #154 เมื่อ27-03-2016 00:17:14 »

เป็นกำลังใจให้พี่กุนต์คับ

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.4] pg.4 -- 22/3/59
«ตอบ #155 เมื่อ27-03-2016 01:32:54 »

เราชอบบบบบบ รออ่านนะ สายเปย์เด็ก อารมณ์เหมือนแก่มาก 555555

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #156 เมื่อ28-03-2016 01:22:38 »




Chapter 5



สองอาทิตย์เต็มๆที่กนธีแวะเวียนไปหาใครบางคน จากที่ไม่เคยใช้ชีวิตช่วงกลางคืนเกินสี่ทุ่ม กลายเป็นว่าเขากลับถึงบ้านหรือคอนโดของตนราวเที่ยงคืนมาเรื่อย เขาไม่ได้ทำอะไรมากมายเลย ก็แค่ไปนั่งแกร่วอยู่ในเลานจ์ มองอินทัชจากหน้าเคาน์เตอร์บาร์ จ้องท่าทางและการเคลื่อนไหวของเขา ฟังเสียงนุ่มๆของเด็กหนุ่มเวลาพูดคุยกับลูกค้าทุกคน
   
สองอาทิตย์ที่ว่า กนธีทำได้แค่ดื่มน้ำผลไม้ปั่น ในขณะที่อินทัชเชี่ยวชาญการผสมเหล้า คิดแล้วก็น่าสงสาร สุดท้ายก็ไม่ได้ค่าดื่มจากเขาจนได้ แต่ถ้าค่าทิปจากเพลง เขาไม่เคยเบี้ยว
   
คืนนี้กนธีสั่งเวอร์จิ้นโมจิโต้ รสชาติแบบน้ำสไปรท์ผสมน้ำมะนาว ทั้งเปรี้ยวและหวาน มีกลิ่นของใบสะระแหน่เพิ่มความสดชื่น มะนาวฝานซีกที่ตกแต่งบนขอบแก้วก็ช่วยให้ตาสว่างได้ดีระหว่างที่มองอินทัชผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
   
เด็กหนุ่มสวมเชิ้ตแขนยาวสีเข้ม ผูกเนคไทผ้าไหมทับด้วยเสื้อนอกสีดำพอดีตัวเน้นบ่ากว้างและแผ่นอกตึงแน่นช่วงขาเพรียวยาวสวมกางเกงสแล็คเรียบกริบ เรือนผมตัดซอยรับกับโครงหน้าได้รูป ผิวขาวเนียนและรูปลักษณ์สะอาดสะอ้าน ดูดีภายใต้การแต่งกายแบบผู้ใหญ่ ทุกอย่างช่วยขับให้รูปร่างของอีกฝ่ายดูสง่ามากยิ่งขึ้น
   
เขามองอีกฝ่ายผสมเตกิล่า เหล้าหวานสีฟ้าบลูคูราโซ่ น้ำมะนาว น้ำเชื่อม และน้ำแข็งสี่ถึงห้าก้อนลงในกระบอกเชค เขย่ากระทั่งความเย็นได้ที่ถึงเทเอาแต่น้ำลงในแก้วที่ถูมะนาวและโรยเกลือไว้ก่อนหน้า แขกที่สั่งเป็นหญิงสาวที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง

“บลูมาร์การิต้าครับ” อินทัชยิ้มให้เธอ

กนธีคนแก้วของตัวเองไปมา เท้าคางมองแก้วต่อไปที่แขกสั่ง..ยินโทนิค ดูไม่มีอะไรเท่าไร แค่ใส่น้ำแข็ง เทเหล้ายินกับโทนิคลงไป แต่งสีด้วยน้ำมะนาวกับบลูคูราโซ่ ประดับมะนาวฝานก็เสร็จแล้ว

อินทัชเดินไปเสิร์ฟ จากนั้นก็เตรียมอีกเมนู สาวออฟฟิศตรงกลางโต๊ะสั่งพิ้งค์เลดี้ เป็นส่วนผสมของเหล้ายิน เหล้าหวานแบบใสทริปเพิลเซค น้ำมะนาวและเรดไซรัป เขย่าและรินเฉพาะน้ำลงแก้วค็อกเทล แต่งด้วยลูกเชอร์รี่แดง

“เอาล่ะ..” หนุ่มอ่อนวัยที่ทำงานมือเป็นระวิงได้เวลาพักหายใจตอนที่เสิร์ฟไวท์รัสเซียนให้กับแขกคนสุดท้าย
   
กนธีเลิกคิ้วเมื่ออินทัชเดินมาหยุดตรงหน้า คนตรงข้ามพับแขนเสื้อเชิ้ตตัวยาวขึ้นไปเหนือข้อศอก เท้าโต๊ะ มองด้วยสายตาคู่สวยที่ดูยียวนเล็กน้อย
   
“ผมคิดค่ามองตลอดสองชั่วโมงนี้ วินาทีละยี่สิบบาท”
   
“โอ้โห..โดนเข้าไปตั้งแสนสี่” กนธีเบ้หน้า เคี้ยวใบสะระแหน่เล่น “ล่มจมในพริบตา”
   
“พี่ทำผมเกร็งมากๆ รู้ตัวหรือเปล่า” เด็กหนุ่มพูดทีเล่นทีจริง “แทบก้าวขาไม่ออกแน่ะ”
   
“อะไรกัน แค่มองเอง” เขาเสไปดูแก้วแต่ละแบบที่วางเรียงราย ขวดเหล้าสารพัดและส่วนผสมมากมายชวนให้มึนงงอยู่ตรงชั้นวางด้านหลังบาร์
   
“โดนจ้องเอาๆแบบนี้ ผมก็เขินเป็นนะพี่” อินทัชยิ้ม มองแก้วม็อกเทลที่ว่างเปล่าของลูกค้า “เอาเพิ่มไหมครับ”
   
กนธีหัวเราะแห้งๆ “กลิ่นสะระแหน่ยังค้างในปากอยู่เลย”
 
 “ผมไม่เพี้ยนทำโมจิโต้ให้อีกแก้วหรอกครับ เดี๋ยวทำน้ำส้มคั้นให้นะ” เขารินน้ำเปล่าให้ดื่มไปก่อนอย่างรู้ใจ
   
คนอายุมากกว่าอมยิ้ม เท่าที่รู้จักและพูดคุยกันมาสองอาทิตย์ อินทัชเป็นเด็กที่กวนอารมณ์ ชอบแหย่ หัวแข็ง ดื้อรั้นในบางเวลา แต่ที่แน่ๆคือรู้จักการวางตัว มีกาลเทศะ และรู้ว่าอะไรควรเล่นหรือไม่ควรเล่นตอนไหน กับพวกผู้หญิง อินทัชจะสุภาพ ช่างเอาใจแต่ก็มีขอบเขต กับพวกผู้ชายที่วางท่า เขาก็จะพลิกนิสัยให้เงียบขรึม บริการด้วยความเป็นมืออาชีพ สำหรับคนที่แสดงท่าทีเอ็นดู หรือเป็นแขกประจำ เขาจะเข้าหาง่ายขึ้นและพูดจาเป็นกันเอง
   
“เอาใจเก่งแบบนี้ มีคนมาจีบเยอะไหม” กนธีถามเหมือนผู้ใหญ่ชวนเด็กคุย
   
“เอาที่ไหนล่ะครับ ถ้าเป็นคณะก็ยากหน่อย มีแต่ผู้ชาย” อินทัชส่ายหัว “แต่ถ้าเป็นที่นี่..พี่ต้องคอยเช็กเรทติ้งของผมเอง” เขายักคิ้วให้อย่างล้อเลียน
   
“ป๊อปแน่ๆ” เจ้าตัวหัวเราะ ดูจากรูปร่างหน้าตาและอัธยาศัย จะรอดพ้นไปได้สักกี่มื้อเชียว “มีแฟนหรือยัง”
   
“โสดครับ” เขาตอบเรียบๆ ผสมเหล้ายินกับดรายเวอร์มุทเพื่อทำมาร์ตินีก่อนจะเสิร์ฟให้แขกคนใหม่
   
“ทำไมถึงโสดล่ะ ยังไม่อยากมีแฟนหรือ วัยรุ่นทั่วไปเห็นมีกันให้ควั่ก”

“ความสัมพันธ์มันจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากกับอาชีพที่ทำอยู่ครับ” เขาพูดอย่างไร้อารมณ์ “อีกอย่าง..ผมไม่ชอบการถูกผูกมัดด้วยสัญญาระหว่างคนสองคน คนอย่างผมจะไม่สัญญากับใคร ถ้ารู้ว่าทำไม่ได้”
   
“แต่การมีแฟนก็ช่วยให้เรามองโลกสดใสขึ้นนะ” กนธียิ้มน้อยๆ 
   
“ผมเข้าใจครับ ไม่ได้บอกว่าไม่มีแฟนแล้วจะไม่ได้ชอบใคร” เขาพึมพำ

คนฟังเลิกคิ้ว ทำท่าสนอกสนใจ “หมายความว่า..?”

“ความรักความชอบ เก็บเอาไว้ในใจก็พอครับ..ไม่ต้องแสดงออกก็ได้”

“โอ้..” กนธีเหลียวมองรอบตัว “เป็นพนักงานในนี้ หรือว่าลูกค้าคนไหนหรือเปล่า”

“อย่างหลังตัดทิ้งได้เลยพี่” อินทัชขำ “ผมมีกฎไม่ยุ่งกับลูกค้า”

“ขนาดนั้นเชียวหรือ”

เด็กหนุ่มเพียงแต่ยิ้มรับ

“แล้วถ้าลูกค้ามาจีบ โอ๊ตจะทำยังไง” กนธีสงสัย “ไล่ไปไกลๆก็ไม่ได้ คุณผู้จัดการคงไม่โอเค”

“ผมก็แค่ถอยห่างออกมา รักษาระยะระหว่างกันให้มากขึ้นก็พอครับ”

อินทัชมีข้อตกลงกับตัวเองอยู่ในใจว่าจะต้องระวังเรื่องความใกล้ชิดที่มีกับลูกค้าทุกคน ใครที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เขาจะไม่เข้าไปยุ่ง ใครที่ตื๊อขอซื้อตัวหรือหวังเรื่องเซ็กซ์ เขาจะไม่เข้าไปตอแย และใครก็ตามที่มีทีท่าว่าจะมาชอบพอ อยากพัฒนาความสัมพันธ์ในแบบคู่รัก เขาก็จะไม่บริการต่อเช่นกัน

“รู้ได้ไงว่าคนๆนั้นจะมาจีบ” วันนี้กนธีช่างซักมากเป็นพิเศษ

“เซ้นส์หลงตัวเองของผมมันจะกระซิบบอกเองครับ” อินทัชว่าหน้าตาย แล้วก็ทำให้คนฟังขำออกมาได้

“มันต้องมีอย่างอื่นบ้างสิ”

คนถูกถามครุ่นคิดเล็กน้อย “สัญญาณแรก..คือคนที่ขยันมาบ่อยๆ จงใจมาเจอกันแทบทุกครั้ง”

กนธีสำลักน้ำเปล่าแค่กๆ อีกฝ่ายเลยยื่นทิชชู่ให้ “ที่พี่มาบ่อย..” เขาแก้ตัว “เพราะว่าม็อกเทลที่นี่อร่อยมาก”

“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” อินทัชยิ้มตอนส่งน้ำส้มคั้นให้ “แต่ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่สมัครเมมเบอร์เอาไว้ทั้งที่ไม่ดื่มเหล้า แล้วก็มาทุกวันไม่เคยขาด..เพื่อดื่มน้ำผลไม้..กับน้ำเปล่าสองสามแก้วทุกคืน”

กนธีหัวเราะครึกครื้น นานแล้วที่ไม่ได้รู้สึกสบายๆแบบนี้กับคนแปลกหน้าที่เพิ่งจะรู้จักกันไม่ถึงเดือน
   
“จริงๆก็ไม่ได้มาดื่มอย่างเดียวนะ ที่มาบ่อยก็เพราะว่าเพลงเพราะ หาฟังยากจะตาย”
   
“ไม่ยากหรอกครับ เขียนชื่อหรือเนื้อเพลงให้ใครก็ได้ เขาก็ร้องให้พี่ฟังได้แล้ว” ร่างสูงบุ้ยใบ้ไปที่เวทีกลางดาดฟ้า เป็นนักดนตรีอีกคนที่มาร้องแทนเขาในวันธรรมดา

กนธีพยักหน้าหงึกๆ อมเกล็ดน้ำแข็งจนมันละลาย “งั้น..โอ๊ตช่วยไปบอกน้องเขาได้ไหม ว่าพี่อยากฟังเพลงดังของ Simon & Garfunkel ที่เขาแต่งขึ้นมาตอนอยู่ในห้องน้ำ แต่ชื่อเพลงอะไร พี่ก็ดันลืมอีกแล้ว”
   
“The Sound of Silence” อินทัชยิ้ม “เล่นยากนะครับเนี่ย..ผมว่ารอผมร้องให้ฟังดีกว่านะ”
   
“ของสี่เต่าทองด้วย” กนธีไม่เคยจำชื่อไว้เลยสักเพลง “ที่ร้องว่า..There are places I remember. All my life, though some have changed”
   
“Some forever, not for better. Some have gone and some remain.” เสียงนุ่มๆร้องต่อ “All these places have their moments. With lovers and friends I still can recall. Some are dead and some are living. In my life, I've loved them all”
   
“ใช่เลย..” คนฟังปรบมือให้
   
“In My Life ของ The Beatles ครับ ผมก็ชอบเพลงนี้ ฟังแล้วอุ่นๆเย็นๆดี”
   
กนธีครางในลำคอ “แปลกใจมากที่เด็กคราวลูกฟังเพลงสากลรุ่นพ่อ นี่เป็นหนึ่งในงาน หรือว่าเป็นรสนิยมส่วนตัว”
   
“ผมชอบอะไรเก่าๆน่ะครับ” อินทัชกระซิบ “ผมคิดว่าอะไรที่ผ่านเวลามา มันดูคลาสสิคและมีเสน่ห์ดี”
   
“รวมถึงคนด้วยหรือเปล่า”
   
“โธ่..” เด็กหนุ่มหัวเราะชอบใจ “ขอยกเว้นคนแล้วกันครับ..ผมอยากมีแฟนวัยเดียวกันมากกว่า”
   
“พี่ก็ว่างั้น แค่ชอบของเก่าก็แปลกแล้ว ถ้ามาชอบคนแก่ยิ่งแปลกกว่าเดิม” เขาเอาหลอดเขี่ยเนื้อส้มขึ้นมากิน “ตั้งแต่เจอเด็กๆมา มีอยู่รายเดียวที่เห็นว่าชอบคนแก่..ตลกชะมัด”
   
กนธียิ้มจาง คำพูดของใครคนหนึ่งยังคงก้องอยู่ในความทรงจำ
   
“มีแฟนแก่คิดดีแล้วหรือไง”
   
“อายุไม่ใช่ปัญหาครับ ความรู้สึกของพี่กับผมต่างหาก..ที่เป็นตัวตัดสิน”

   
อินทัชมองคนที่เงียบไป เขาเลยชวนคุย “ใครหรือครับ”
   
กนธีไม่ตอบ ได้แต่ชี้นิ้วขึ้นไปด้านบน อินทัชมองตาม เห็นเพียงแต่ผืนฟ้ากว้างสีน้ำเงินเข้มเหมือนผืนกำมะหยี่ คืนนี้เมฆลอยหายไปตามแรงลม ท้องฟ้าเปิดเห็นพระจันทร์ดวงกลมโต
   
ร่างสูงวกกลับมามองคนที่ก้มหน้านิ่งอย่างไม่เข้าใจ
   
“พี่กลับก่อนนะ” จู่ๆ กนธีก็ตัดบทสนทนาแล้วควักเงินออกมาจ่ายดื้อๆ “ขอบคุณสำหรับชื่อเพลง เอาไว้จะเปิดฟังคืนนี้”
   
“พรุ่งนี้ผมลาหยุดนะครับ” อินทัชบอก “แต่เลานจ์ยังเปิดตามปกติ”
   
“โอเค..ไว้เจอกัน” เจ้าตัวหยิบเสื้อนอกมาสวม ยกสองมือกอดอกก่อนจะเดินจากไป
 
อินทัชมองตาม เขารู้ว่าอากาศบนดาดฟ้ามันเย็นจริง แต่ไม่ถึงกับหนาวแน่ และท่าทางแบบนั้นก็ไม่ได้เหมือนกับคนที่ร่างกายต้องการความอบอุ่นแต่อย่างใด
   
..เหมือนกับคนที่กอดตัวเองเพื่อเรียกกำลังใจกลับคืนมามากกว่า..
   
เด็กหนุ่มเงยหน้ามองท้องฟ้าอีกครั้ง เขากำลังครุ่นคิด
   
กนธีมาที่นี่ติดกันสองสัปดาห์แล้ว เขาคิดว่าอีกฝ่ายจงใจมาเพื่อเจอเขา พรุ่งนี้อินทัชไม่ได้ลาหยุดอย่างที่บอก แต่ถ้ากนธีไม่มา ก็แปลว่าสิ่งที่เขาคิดมันถูกต้อง เขาจะปล่อยต่อไปอีกสักพัก เมื่อไรที่พี่กุนต์มีท่าทีจะติดเขาแจ ตอนนั้นเขาคงต้องถอยออกมาเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องยุ่งยาก
   
ที่เขายังไม่เข้าใจก็คือกนธีไม่ได้แสดงความต้องการโจ่งแจ้งว่าจะเข้ามาหา ทางนั้นเพียงแต่นั่งมองเฉยๆและชวนเขาพูดคุย แต่สายตาที่จ้องเขา เหมือนมองเลยผ่านไปยังคนที่ไม่มีตัวตนอยู่ ณ ตรงนี้
   
..ไม่แน่ว่าบางที พี่กุนต์อาจกำลังใช้เขาเป็นตัวแทนของใครสักคนอยู่ก็ได้..

.

.

.



กนธีกลับมาถึงคอนโดตอนห้าทุ่มตรง เขาซื้อห้องไว้ที่ดิแอดเดรสชิดลม ใจกลางเมืองแบบนี้เดินทางง่าย ถึงจะรถติดน่ารำคาญเป็นส่วนใหญ่ แต่เวลาไปห้างหรือใช้รถไฟฟ้าไปมาก็สะดวกดี
   
ชายหนุ่มกดลิฟท์ขึ้น ห้องที่ซื้อไว้อยู่ตรงมุมตึก ขนาดสองห้องนอน อันที่จริงอยู่คนเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้ที่มากนัก แต่เขาเผื่อไว้สำหรับญาติ หรือเพื่อนคนอื่นที่ค่อนข้างสนิทเวลามาค้างด้วย
   
อีกอย่างหนึ่ง ที่นี่เป็นที่ที่เขาใช้อยู่กับคู่ควงชั่วคราว ไม่เคยมีเด็กคนไหนได้ไปบ้านเขามาก่อน 
   
บ้านที่เขาเคยอยู่กับพ่อและแม่..อยู่กับศรัณย์ เป็นสถานที่ที่มีความทรงจำมากมาย..เฉพาะคนสำคัญเท่านั้น เขาถึงจะชักชวน
ตอนใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าไป เขาเห็นแสงไฟบริเวณห้องนั่งเล่นเลยรู้ว่ามีคนอยู่ ไม่ต้องเดาก็บอกได้ว่าเป็นญาติผู้น้องอย่างพสิษฐ์ที่เขาให้สิทธิ์ในการเข้าออกที่นี่ได้เต็มที่   
   
“พี่กุนต์! โทรไปไม่รับสาย” พอเจอหน้า พสิษฐ์ก็โวย
   
กนธีเลิกคิ้ว มองผู้ชายตัวโตในชุดผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลแก่ ตรงโต๊ะอาหารมีหม้อสุกี้ขนาดย่อมกับผักสดและเนื้อสไลซ์วางเรียงราย “อะไรล่ะนั่น”
   
“แวะมากินข้าวด้วยไง” พักนี้พสิษฐ์ไม่ค่อยว่าง แต่ก็หาเวลามาอยู่เป็นเพื่อนพี่กุนต์ “แล้วพี่ไปไหนมา ผมโทรหาตั้งแต่สามทุ่ม ปิดมือถือทำไม”
   
“แบตหมด ไม่ได้เอาพาวเวอร์แบงค์ไป”
   
“สรุปไปไหนมา ลูกค้าที่ไหนนัดดึกดื่น”
   
ชายหนุ่มหัวเราะ มันซักไซ้เหมือนเป็นพ่อ เขาถอดเสื้อนอก โยนไปพาดที่เก้าอี้ก่อนจะเดินผ่านหน้าน้อง แต่ไอ้ไผ่คว้าแขนไว้ ดึงตัวเขาเข้าไปหาแล้วก้มลง ทำจมูกฟุดฟิดแถวหน้า เล่นเอากนธีมึนตึ้บ
   
“กินเหล้ามาหรือเปล่า ขอดมหน่อย”
   
เขาเลยพ่นลมใส่หน้ามันเข้าให้ “มีแต่สมูทตี้ทั้งนั้นเว้ย”
   
พสิษฐ์หรี่ตามอง “ไปที่นั่นมาอีกแล้วหรือไง”
   
“มันว่างๆน่ะ” กนธีพับแขนเสื้อขึ้น จัดการกดปุ่มต้มน้ำที่หม้อสุกี้แล้วหยิบผักมา ตั้งท่าจะฉีกไว้รอ แต่เจ้าไผ่ลากแขนไปล้างมือก่อน เชื่อน้องมันเลย..จัดการให้ทุกอย่างกระทั่งความสะอาดของนิ้ว 
   
“อย่าสะบัดน้ำลงพื้นนะ เดี๋ยวลื่น” พสิษฐ์ปรามคนที่ไม่ยอมใช้ผ้าเช็ด

พี่กุนต์เป็นคนง่ายๆ หมายรวมถึงมักง่ายสุดๆด้วย ตั้งแต่เข้าห้องมานี่ รองเท้าก็ถอดสะเปะสะปะ เสื้อผ้าถอดทิ้งไว้ตามรายทาง ข้าวของหายบ่อยเพราะห้องทำงานรกเป็นรังหนู บางทีอาบน้ำแล้วไม่เช็ดตัว นอนทั้งที่หัวยังไม่แห้ง

ที่เขาพยายามมากินข้าวด้วย ก็เพราะว่าพี่กุนต์ไม่ค่อยใส่ใจกับแหล่งที่มาของอาหารนัก ปกติถ้าไม่ได้ซื้อมาจากห้าง ก็จะเลือกเอาร้านข้างทาง เรียกได้ว่าเจอร้านไหนก็ร้านนั้น แล้วเลือกกินแต่ผัก วางใจได้ที่ไหนว่าล้างสะอาดดี เขาเคยเจอพี่กุนต์เอาแตงกวามากินแบบจริงจังแทนข้าวเย็น แถมไม่ปอกเปลือกด้วย อย่างวันนี้ถ้าไม่มาหา ก็คิดว่าพี่กุนต์คงรื้อตู้เย็นเอาเต้าหู้ญี่ปุ่นมานึ่งกินกับซีอิ๊วแล้วเข้านอน

พสิษฐ์นึกขอในใจ ให้พี่ชายได้เจอคนที่รักจริงและมาดูแลความเป็นอยู่ของตาแก่นี่เสียที

กนธีเดินไปเด็ดต้นอ่อนทานตะวันที่เขาเพาะไว้ตรงระเบียงมาเข้าปาก เจ้าไผ่มองแล้วส่ายหัวเพราะเขาลืมเอาไปล้างก่อน แค่ปัดๆดินออกก็จบ ปลูกเองจะกลัวอะไร “แล้วโครงการของแกที่ทำกับกิ๊กรูปหล่อคนนั้นไปถึงไหนแล้ว”
   
“บอกว่าเพื่อน!” 
   
“เออ..เพื่อนก็เพื่อน” เขาขำคนที่ปฏิเสธเสียงแข็ง ปกติไผ่มันจะดูนิ่งๆ ใจเย็น มีมาดสุขุมนุ่มลึก แต่เฉพาะคนสนิทเท่านั้นถึงจะรู้ว่าไส้ใน ไม่ได้ ‘คูล’ อย่างที่เห็นหรอก
 
“ไปได้เรื่อยๆ ไม่มีปัญหาอะไร” พสิษฐ์เล่าเรื่องงานที่กำลังทำอยู่กับไอศูรย์ ภาษยวัตให้พี่ฟัง แต่เขารู้ว่ากนธีฟังหูซ้ายทะลุออกหูขวาเพราะท่าทางไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไรนัก..อาจจะเพราะใจลอย คิดถึงใครบางคน
   
ร่างสูงลอบถอนหายใจ ตักเนื้อปลากับไก่ใส่จานพี่กุนต์ ส่วนเนื้อวัวเขากินเอง “ร่างกายคนเราต้องได้โปรตีนบ้างนะ แล้วนี่..เต้าหู้ไข่ กินซะ”
   
กนธีพยักหน้าหงึก พึมพำขอบใจน้อง “นึกยังไงชวนกินสุกี้”
   
“ฉลองที่เด็กเลี้ยงไม่เชื่องของพี่กุนต์ไปจากชีวิตของพี่เสียทีไงล่ะ” พสิษฐ์ยิงตรง “แต่ก็ไม่รู้จะมีคนใหม่ที่นิสัยสูสีกับคนเก่าเข้ามาแทนตอนไหน..หาคนรักแบบจริงจังได้แล้วนะ อายุมากขึ้นทุกทีแล้ว”
   
คนฟังหัวเราะคึ่กๆ “แกก็หาให้พี่สิ”
   
คนน้องทำหน้าเหนื่อย คิดว่าเขาไม่เคยลองมาก่อนหรือไง เป็นพ่อสื่อน่ะมันยาก โดยเฉพาะสื่อรักให้กับคนที่ปิดใจมาร่วมสามปีอย่างพี่ชายตัวเอง เขาอยากให้พี่กุนต์เริ่มต้นใหม่ได้แล้ว ไม่ได้บอกให้เอาใครมาแทนที่แล้วลืมศรัณย์ แต่คนเราสามารถมีรักใหม่โดยเก็บความรู้สึกดีๆของรักเก่าไว้ได้ เขาแค่อยากให้พี่สามารถก้าวผ่านอดีต แล้วใช้ชีวิตปัจจุบันแบบที่สามารถมองเห็นอนาคต ถ้าเป็นแบบนั้น เขาคงเบาใจไปมาก

“พูดเรื่องนี้ก็นึกได้ วันเสาร์ที่จะถึง ไอ้หมอบีมันชวนผมไปเที่ยวเกาะสีชัง ไปด้วยกันไหม”   

“หมอบีไหน” กนธีเคี้ยวสาหร่ายกรุบๆ

“หมอบี นฤเบศร์..เพื่อนผมน่ะ ที่เคยพาพี่กุนต์ไปดูหนังแล้วพี่ก็หลับในโรง จำไม่ได้หรือ” พสิษฐ์กุมขมับ หน่วยความจำของพี่กุนต์มันน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย เพื่อนเขาคนนี้เป็นอีกรายที่เขาวางใจ มันเองก็ดูท่าว่าจะโอเคกับพี่ชายเขา แค่ขอลองคุยดูก่อน มีแต่พี่กุนต์นี่แหละที่ตัดโอกาสทิ้งตั้งแต่เจอหน้ากัน เรื่องเลยจบแค่ตรงนั้น

..มีอย่างที่ไหน คนชวนออกเดท พี่กุนต์ดันหลับทั้งวัน..

“อ้อ..นึกออกแล้ว” กนธีดึงเปลือกกุ้งออกแล้วตั้งท่าจะทิ้งลงบนโต๊ะ แต่เจ้าไผ่ดันจานเปล่ามาให้ใส่

“ไปไหม เสาร์นี้”

“ไม่ว่าง” เขาพึมพำ “วันเสาร์..ครบปีที่สาม”

พสิษฐ์เงียบไปครู่ ทุกๆปีที่ถึงวันครบรอบวันตายของศรัณย์ พี่กุนต์จะไปทำบุญที่วัด ปัดกวาดที่เก็บกระดูกและขับรถไปสถานที่ที่คนทั้งคู่เคยไปด้วยกันเพื่อรำลึกความหลังครั้งเก่า พี่กุนต์ไม่เคยชวนเขาไปด้วย เพราะต้องการใช้เวลาตามลำพัง ปีนี้ เขาลองเสนอทางเลือกอื่น เพื่อให้พี่กุนต์ก้าวออกมาจากวงจรชีวิตเดิมๆ แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดซ้ำ

“รู้หรือเปล่าว่าผมเป็นห่วงพี่แค่ไหน”

กนธียิ้มจาง “พี่สัญญาว่าจะดูแลตัวเอง” เขาคีบเนื้อใส่จานอีกฝ่าย “รีบๆกิน พี่ง่วงแล้ว คืนนี้จะนอนที่นี่ไหม”

“อืม..ขอค้างด้วยคนแล้วกัน”

เจ้าของห้องไม่ว่าอะไร ได้แต่ก้มหน้าก้มตากินต่อ พสิษฐ์ลอบถอนหายใจ ตอนแรกเขาอยากจะให้พี่กุนต์ได้คุยกับนฤเบศร์ คราวนี้ไม่ใช่การจีบ แต่เป็นไปในแบบกัลยาณมิตรที่ช่วยเหลือเพื่อน เพราะมันเป็นจิตแพทย์ น่าจะเข้าใจอดีตที่ยังบีบรัดพี่กุนต์ไม่ปล่อยได้ง่ายกว่าใคร แต่ก็คงต้องคิดหาวิธีอื่นเสียแล้ว

ความรู้สึกผิดและการไม่ยอมให้อภัยตัวเอง คือสิ่งที่ทำให้พี่กุนต์ย่ำอยู่กับที่ ถอยหลังไม่ได้..ก้าวต่อก็ไม่เป็น

ถ้าหากปล่อยให้นานเกิน..ก็คงจะจมลึกลงไปทุกที

.

.

.


[ต่อด้านล่าง]



ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #157 เมื่อ28-03-2016 01:25:32 »

.

.

.


พสิษฐ์ตื่นตั้งแต่หกโมงเป็นกิจวัตร เขาจัดการตัวเองแล้วทำอาหารเช้าทิ้งไว้ให้พี่กุนต์ที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่อง ปกติพี่กุนต์ไม่ใช่คนตื่นสายจนแดดแยงหน้า แต่ก็มีบ่อยครั้งที่งัวเงียปิดนาฬิกาแล้วนอนต่อ วันนั้นก็จะหลับยาวไปถึงสิบเอ็ดโมงกว่า ข้าวเช้าไม่ต้องกินกัน รวบเป็นมื้อเที่ยงได้พอดี
   
เขาทำแกงจืดผักสารพัดอย่าง ใส่กระดูกหมูสามสี่ชิ้นพอให้น้ำซุปหอมเพราะพี่กุนต์ไม่กินเนื้อ ในหม้อเลยมีแต่ผักกาดขาว กะหล่ำปลี แครอท หัวไชเท้าลอยฟ่อง เอาบร็อคโคลี่มาผัดแบบไม่ใส่เนื้ออีกอย่าง เสร็จแล้วก็เอาเต้าหู้ญี่ปุ่นไปนึ่ง ราดซอสโชยุ ซอยต้นหอมและเอาปลาแห้งตัวเล็กตัวน้อยโรยหน้าเสริมแคลเซียมให้คนสูงวัย

พสิษฐ์ยกกับข้าวไปตั้งไว้ที่โต๊ะ เอาฝากล่องครอบปิดก่อนจะเดินไปเคาะประตูห้องนอนของพี่ชาย เมื่อคืนเขานอนอีกห้อง ไม่ได้เข้าไปร่วมเตียงด้วย “พี่กุนต์..” เขาเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ

ชายหนุ่มผลักประตูเข้าไปด้านใน ม่านยังปิดมืด เห็นเงาอีกฝ่ายนอนขดอยู่ในผ้านวมเหมือนตัวบุ้ง แอร์เปิดทิ้งไว้เย็นเฉียบ คงจะลดอุณหภูมิแล้วลืมปรับกลับ เลยนอนมันทั้งอย่างนั้นยันเช้า

“ให้มันได้แบบนี้สิ ไอ้ลุงกนธีนี่” เขาบ่น หยิบรีโมตมาปิดแอร์ เปิดเป็นพัดลมให้แทน นอนตัวเย็นทั้งคืนมันดีเสียที่ไหน “พี่กุนต์ ผมทำข้าวเช้าไว้ให้แล้วนะ เดี๋ยวจะออกไปธุระ นัดไอ้หมอไว้”

กนธีส่งเสียงเครือคราง ยกมือโบกปัดๆแล้วเอาผ้าห่มขึ้นคลุมโปง พสิษฐ์ส่ายหัว ก้าวขึ้นเตียงไปจับให้พี่นอนหงาย ไม่ใช่งอก่องอขิงผิดรูปกระดูกแบบนั้นก่อนจะดึงผ้าที่ปิดหัวลงมาทาบตรงช่วงอกแทน

“แบบนี้จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง”

เขาไม่เคยแย้ง ที่พี่สรรหาใครมาดูแลชีวิตความเป็นอยู่ จะแย้งก็ตรงที่ว่าต้องหาให้มันดีๆหน่อย จะได้อยู่กันยาว แต่ก่อนเขาก็สนใจประวัติและที่มาที่ไปของคนพวกนั้นอยู่บ้าง หากตอนนี้..จะเป็นใครก็ตามเถอะ..ขอแค่มีความจริงใจ และเต็มใจจะดูแลพี่กุนต์..อย่างน้อยให้ได้ครึ่งหนึ่งของที่เขาทำก็พอ

พสิษฐ์นัดเพื่อนเอาไว้ที่ร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่ง เขารู้จักกับนฤเบศร์ตอนเรียนอยู่แคลิฟอร์เนีย ส่วนมันก็เรียนแพทย์ที่นั่น ต่างฝ่ายต่างอยู่ในสมาคมนักเรียนไทยแต่ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว กระทั่งเจอกันครั้งแรกในร้านอาหารไทย นั่งอยู่โต๊ะติดกัน และสั่งผัดไทยมากินเหมือนกัน ถึงได้มีโอกาสพูดคุย

ตอนนี้นฤเบศร์ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเอกชน มันเป็นหมอด้านจิตเวช ซึ่งเขาก็ว่าดี เพราะในไทยควรจะให้ความสำคัญกับการเจ็บป่วยทางใจมากพอๆกับทางกาย

เมื่อพสิษฐ์ไปถึง เขาก็เห็นมันมารออยู่ก่อนแล้ว กำลังนั่งกินเค้กชาไทยกับหลานชายตัวกลม

“เอาหลานมาเป็นพยานการนัดเดทกับฉันด้วยหรือวะ” ร่างสูงสัพยอกเพื่อน

นฤเบศร์เงยหน้ามอง ดวงตาสีเข้มหลังแว่นกรอบดำหรี่ลงพร้อมกับเหยียดปากใส่อีกฝ่าย “เดทกับแก? ขยะแขยงว่ะ”

“ทำไม? รูปหล่อพ่อรวย ถูกหวยเป็นพักๆอย่างฉันนี่น่ารังเกียจตรงไหน” พสิษฐ์หันไปรับไหว้เด็กชายวัยประถม “หวัดดีครับน้องฟ้า ทำไมวันนี้มาเที่ยวกับอาบีได้ล่ะครับ”

“อาบีบอกจะพาหนูมากินเค้กฮะ” เด็กชายฟ้าปรเมศวร์ฉีกยิ้ม

“พอดีบ่ายนี้ฉันนัดคุยกับผู้ปกครองของเพื่อนเจ้าฟ้าเอาไว้น่ะ เลยพาหลานติดมาด้วย” นฤเบศร์ว่า ยกกาแฟขึ้นจิบ “เอาอะไร? เอ็กซ์เพรสโซ หวานน้อยเหมือนเดิม?” เขาหันไปสั่งกับพนักงานให้

“ขอจูบที..รู้ใจจริงๆ”

“ถ้าเป็นพี่กุนต์พูด ฉันจะไม่ว่าสักคำ” เขากลอกตาเนือยๆ ไอ้ไผ่มันกวนอารมณ์เสมอต้นเสมอปลาย “แล้วว่าไง ที่ชวนไปเที่ยวเกาะสีชัง แต่แกนัดออกมาเจอก่อนแบบนี้ ท่าทางจะแห้ว”

พสิษฐ์หัวเราะเฝื่อน “ครั้งที่แล้วฉันชวนแกให้ไปกับพี่กุนต์แต่ไม่ได้เล่าอะไร สุดท้ายคราวนั้นแกเลยต้องกลับไปแบบงงๆ ขอโทษทีว่ะเพื่อน..ทุกวันนี้ฉันรู้สึกว่าพี่กุนต์ยังไม่พร้อมจะมีคนใหม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะพร้อมอีกครั้ง”

นฤเบศร์รับฟัง เขาไม่ได้ซีเรียสนักกับการถูกปฏิเสธ เพราะเดทครั้งนั้นก็เป็นแค่การพูดคุยกันทั่วไป ไม่ใช่ว่าหลงรักแล้วก้าวเข้าไปจีบแบบจริงจัง พอไอ้ไผ่แนะนำมา เขาก็ลองทำความรู้จัก เพราะเท่าที่เคยเห็น อีกฝ่ายนิสัยน่ารัก เป็นกันเอง และมีอัธยาศัย จะไม่เหมือนคนอื่นก็ตรงที่ดูก๊องๆไปหน่อยเท่านั้นเอง

“แฟนเก่าเขาเสียไปแล้วใช่ไหม” ตอนที่เจอกัน น่าจะเป็นปีที่แล้ว

“จะครบสามปีวันเสาร์นี้แหละ” พสิษฐ์บอก “ฉันเลยนัดแกมา มีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อย”

นฤเบศร์หันมองหลานที่หาวหวอด เลยอนุญาตให้ฟ้าปรเมศวร์ไปเล่นชิงช้าตรงสนามเด็กเล่นข้างๆร้านกาแฟได้ พอดีตรงนี้เป็นกระจกใส เขาเลยคอยมองหลานได้สะดวก “ถ้าจะไปไหน ต้องมาบอกอาบีก่อน ตกลงไหมครับ แล้วถ้ามีคนไม่รู้จักมาชวนไปที่อื่น ฟ้าต้องพูดว่า..”

“อาบีไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้าฮะ” ร่างเล็กตอบ พอคุณอาพยักหน้ารับก็ตะเบ๊ะแข็งขันก่อนจะผลักประตูร้านออกไปด้านนอก

พสิษฐ์มองตามเจ้าตัวน้อยแล้วยิ้มเอ็นดู

“แกอยากปรึกษาเรื่องอะไร” อีกคนถาม

“เรื่องพี่กุนต์”

นฤเบศร์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นระหว่างที่เพื่อนพูดถึงเรื่องของกนธีกับอดีตคนรัก พอฟังจนจบถึงพอจะเข้าใจได้ ว่าทำไมฝ่ายนั้นถึงไม่เปิดโอกาสใหม่สักที และที่พสิษฐ์ห่วง ก็เพราะพี่ชายดูเหมือนจะมองหาแต่คนที่คล้ายกับศรัณย์

“เขาฝังใจว่าเขาทำให้ศรัณย์ตาย” พสิษฐ์บอก “ฉันคุยกับเขากี่ครั้งแล้วว่ามันไม่ใช่”

“ความรู้สึกผิดมันเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่มีคนใกล้ตัวตายไปแล้ว อย่างบางคน รู้สึกผิดกับพ่อแม่เพราะตอนเขามีชีวิตอยู่ไม่ได้ดูแลให้ดี ปล่อยปละละเลยตามยถากรรม บางคนมีคนใกล้ชิดฆ่าตัวตายแต่ก่อนหน้านั้นไม่ทันได้ใส่ใจสัญญาณที่คนตายบอกมาอ้อมๆ แม้แต่การทะเลาะกันเรื่องทั่วไป วันต่อมาฝ่ายตรงข้ามเกิดตายกะทันหัน มันก็รู้สึกผิดได้ แต่ไอ้ตัว Guilt นี่จะค้างในใจนานแค่ไหนก็แล้วแต่เรื่องราวของแต่ละคน หนักเบาต่างกัน” นฤเบศร์อธิบาย “ที่สำคัญคือ คนเป็นก็ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ทั้งที่มีเสี้ยนตำใจอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้แหละที่เป็นหน้าที่ของพวกฉัน”

“ส่งพี่กุนต์มาหาแกเลยดีไหม” เขาถอนหายใจ

“จะบอกว่า ถ้าตัวอีกฝ่ายไม่ได้เดือดร้อน ทรมานกับความรู้สึกนี้ หรือพยายามอยากจะหลุดพ้นจากมัน เราก็ทำอะไรได้ยาก ขืนบังคับมาหา ดีไม่ดีจะตั้งการ์ดหนักกว่าเก่าอีก”

“แล้วจะให้ทำยังไง ฉันก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก ปกติเขาก็ร่าเริงดี แต่ลึกๆในใจ เขาคงรู้สึกแย่ ยิ่งวันครบรอบวันตายของศรัณย์ เขายิ่งปลีกตัวไปอยู่คนเดียวจนฉันเป็นห่วง” พสิษฐ์ว่า

“คนเรานะ ต่อให้เป็นคนไม่ค่อยพูด ก็ใช่ว่าจะรู้สึกไม่เป็น ถ้าเขามีโอกาสได้เล่า ได้ระบายเรื่องในใจ ได้เห็นว่ามีคนอื่นเข้าใจเขา ยังไงก็ดีขึ้นได้”

“นี่แหละที่ยาก กับฉันที่เป็นน้อง เขายังไม่ปริปากพูดเลย”

นฤเบศร์เขย่ากาแฟในแก้วของตน “แกบอกว่า คนใหม่ที่เขาเจอ หน้าเหมือนแฟนเก่าเขาด้วยหรือ”

“อืม..คล้ายกันจนน่าตกใจ หน้าตา รูปร่าง แถมช่วงอายุก็ใกล้ๆกันตอนคบกับพี่กุนต์ด้วย”

“แบบที่ Luke Evans คล้ายกับ Orlando Bloom หรือ Liam Neeson เหมือนกับ Ralph Fiennes ทั้งที่คนละพ่อคนละแม่สินะ..โลกเราก็แปลกดี มีเรื่องบังเอิญแบบนี้เยอะแยะเสียด้วย”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรวะ”

“แค่นึกถึง dynamic บางอย่างเวลาทำ group therapy น่ะ อย่างกลุ่มที่ช่วยเยียวยาความรู้สึกของญาติที่มีคนใกล้ชิดฆ่าตัวตาย สมาชิกอาจจะรู้สึกกับใครบางคนในกลุ่มเป็นพิเศษ เหมือนมองว่าเขาคล้ายๆคนที่จากไป แต่ไม่ได้เกี่ยวกับหน้าตานะ เอาแค่ว่ามันเป็นความรู้สึก อย่างเช่น แม่ที่ลูกฆ่าตัวตายสำเร็จ อาจจะรู้สึกพิเศษกับสมาชิกเด็กอีกคนที่อายุใกล้เคียงกับลูก ในขณะเดียวกัน เด็กที่มีแม่ฆ่าตัวตาย ก็อาจจะรู้สึกบางอย่างกับสมาชิกกลุ่มที่เป็นผู้หญิง และอายุใกล้ๆกับแม่ตัวเอง”

นฤเบศร์พูดยาวเมื่อเห็นเพื่อนทำท่าไม่เข้าใจ “ส่วนหมอกับคนไข้ก็มีประเด็นของ Transference กับ Countertransference เหมือนกัน ทำนองว่าแต่ละฝ่ายอาจจะเอาความรู้สึกต่อคนสำคัญในอดีตมาลงที่คนในปัจจุบัน....ทำไมแกทำหน้าแบบนั้นล่ะ”

พสิษฐ์ส่ายหัว คลึงคิ้วที่ดูท่าจะผูกกันแน่น “ที่แกพูดมา..ฉันไม่รู้เรื่องเลย”

นฤเบศร์หัวเราะในลำคอ เขาขยับแว่นตาที่สวมอยู่

“ฉันกำลังเล่าว่าคนที่รู้สึกผิดน่ะ สิ่งที่จะช่วยเขาได้ ก็คือการมีคนเข้าใจ และยกความรู้สึกนั้นออกไปจากตัวเขา ฉันเคยทำกลุ่ม เด็กผู้หญิงที่แม่เขาฆ่าตัวตายมาเล่าว่าตัวเองรู้สึกผิดที่ละเลยแม่ ช่วยแม่ไม่ทัน จนชีวิตทุกวันนี้จมอยู่กับการโทษตัวเอง สมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มที่มีลูกแล้วก็พูดปลอบใจ แชร์มุมมองในฐานะที่เป็นแม่คนหนึ่ง ว่าแม่ทุกคนรักลูก อยากให้ลูกดำเนินชีวิตต่อไปและให้อภัยอดีตที่ผ่านมา หากว่าเด็กคนนี้จะสามารถก้าวผ่านมันไปได้ เชื่อว่าแม่ของเด็กเองก็จะต้องดีใจแน่..พอฟังแล้ว เธอร้องไห้เลย แต่หลังจากนั้นก็รู้สึกดีขึ้น”

“หืม?” คนฟังเลิกคิ้ว “แกหมายความว่า..”

“ถ้าพี่กุนต์กำลังมองเด็กที่ชื่ออินทัช เป็นตัวแทนของศรัณย์ เราก็น่าจะขอร้องให้เขาช่วยได้ใช่ไหม”

.

.

.



พสิษฐ์มาที่ Vin Santo ตามลำพังตอนห้าทุ่มกว่า เขาเช็กดูแล้ว วันนี้กนธีไม่ได้มาที่นี่ พี่ชายบอกว่าขี้เกียจ อยากจะนอนแต่หัววันสักคืน เขาเลยไม่ถามเพิ่มแล้วถือโอกาสขับรถมาที่เลานจ์เพื่อจะขอคุยกับอินทัชโดยเฉพาะ
   
“แล้วอินทัชจะช่วยได้จริงหรือวะ ไม่ใช่ไปเปิดแผลพี่กุนต์แล้วกลบไม่มิด อาการหนักกว่าเดิมนะ”
   
“ฉันจะบอกเขาเองว่าต้องพูดทำนองไหน ถ้าแกไม่สบายใจ ฉันจะอยู่ด้วยแล้วกัน” นฤเบศร์เสนอ “แกมีหน้าที่ไปคุยกับเด็กให้แน่ใจว่าเขาพร้อมจะร่วมมือกับเราแน่ ของแบบนี้ต้องมาจากใจ ครึ่งๆกลางๆ ทำส่งๆไม่ได้ผลนะ”

   
พสิษฐ์ถอนใจยาว ครั้งสุดท้ายที่เจอ เขาทำไม่ค่อยดีนัก พอต้องมาขอให้เด็กช่วยเหลือมันก็เลยกระดากเล็กน้อย
   
“ขอโทษครับ ผมอยากจะคุยกับคนที่ชื่ออินทัช” เขาถามหาจากเด็กหนุ่มคนเดิมที่จำหน้าได้
   
ปาลินยิ้มให้ “อยู่ตรงบาร์ครับ เดี๋ยวผมพาไป”
   
“ไม่เป็นไรครับ เห็นเขาแล้ว ขอบคุณมากนะ” พสิษฐ์แยกตัวออกมา เดินตรงไปที่บาร์เหล้าตรงดาดฟ้าอาคาร
   
เด็กหนุ่มตัวสูงกำลังผสมเหล้าทำเครื่องดื่ม พอเหลือบเห็นใครบางคนก็ยิ้มให้ เหลือบมองด้านหลังอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ คิดเดาเอาเองว่าคุณกนธีคงจะเปลี่ยนใจมาตอนห้าทุ่มเศษ

อินทัชเชิญแขกให้นั่งหน้าเคาน์เตอร์ “สวัสดีครับ..” เขาเสิร์ฟแก้วล่าสุดให้คนอื่นแล้วหันมาทักทาย “เหมือนจะไม่ได้เจอกันตั้งแต่วันนั้น แล้วคุณกนธีล่ะครับ..” ถึงจะบอกไปว่าวันนี้ลาหยุดแล้วไม่หยุดจริง แต่เขาก็มีข้อแก้ตัวไว้เยอะแยะ

“ไม่ได้มาหรอก ผมมาคนเดียว” พสิษฐ์เปิดเมนูผ่านๆ “ขอวอดก้าสไปรท์”

บาร์เทนเดอร์หนุ่มรับออเดอร์แล้วลงมือทำให้ทันที เขาผสมวอดก้า น้ำมะนาวกับสไปรท์ลงในแก้วร็อค แต่งด้านบนด้วยมะนาวฝาน “เชิญครับผม”

แขกของร้านยกเครื่องดื่มขึ้นจิบพอเป็นพิธี “คุณเลิกงานกี่โมง”

อินทัชเงียบไปครู่ “ตีหนึ่งครับ มีอะไรหรือเปล่า”

พสิษฐ์เห็นหน้าเด็กแล้วเกือบหลุดหัวเราะ นี่คงคิดเดาไปไกลว่าเขามา ‘หิ้วตัว’ แน่ๆ “ผมมีธุระอยากจะไหว้วานคุณหน่อย แต่ก็ไม่ขอรบกวนเวลาคุณฟรีๆ มีค่าตอบแทนเล็กน้อยด้วยครับ”

“ธุระอะไรหรือครับ” คนฟังขมวดคิ้ว “ถ้าไม่เป็นความลับราชการชนิดท็อปซีเคร็ท ก็คุยตอนนี้เลยก็ได้”

ชายหนุ่มขบขัน “วันเสาร์นี้ ถ้าคุณกนธีมาที่นี่ ผมอยากจะให้คุณช่วยดูแลเขา”
   
“เรื่องแค่นี้เอง ผมดูแลแขกทุกคนอยู่แล้ว”
   
พสิษฐ์ส่ายหัว “ไม่ครับ..ผมขอเป็นกรณีพิเศษ..และผมก็จำเป็นจะต้องพาคุณไปคุยกับเพื่อนผม คุณจะได้รู้ว่าตอนดูแลคุณกนธี คุณมีหน้าที่อะไรบ้าง”

อินทัชนิ่งคิดไปอึดใจ “ผมอยากรู้ลักษณะงานคร่าวๆ”

“ดูแล รับฟัง เข้าใจ และทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวแทนของคนๆหนึ่ง”   

“ใครครับ”

“ศรัณย์..คนรักเก่าของคุณกนธี” พสิษฐ์บอก “ผมอยากให้คุณช่วยดูแลคุณกนธี โดยใช้ความรู้สึกของศรัณย์เป็นที่ตั้ง ให้คุณคิด..และโต้ตอบเหมือนนั่งอยู่ในใจของศรัณย์”

“แล้วคุณศรัณย์ไปไหนครับ ทำไมต้องเป็นผม” อินทัชขมวดคิ้วมุ่น

“เขาเสียชีวิตไปจะครบสามปีแล้ว..วันเสาร์นี้ครบรอบวันตายของเขา”

คนฟังเงียบกริบ นึกถึงใบหน้าเศร้าสร้อยและคำบอกใบ้ที่ชี้ขึ้นไปบนฟ้า..เป็นแบบนี้นี่เอง

“คุณคิดว่าทำไหวไหม ค่าจ้าง..แล้วแต่คุณจะเรียก”

“เท่าที่ฟังมา ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ” อินทัชพูดเสียงเรียบ “ผมขอห้าหมื่น..”

“ตกลง”

เด็กหนุ่มหรี่ตามอง “เขาสำคัญกับคุณมากขนาดนั้นเลยหรือครับ”

“ใช่” พสิษฐ์ตอบสั้นๆ ทิ้งนามบัตรเอาไว้ “พรุ่งนี้ ถ้าคุณว่างช่วงเที่ยง มาเจอผมที่หน้าตึกนี้ เราต้องคุยกันก่อน”

อินทัชเก็บนามบัตรลงกระเป๋าเสื้อ งานแค่วันเดียว ได้ห้าหมื่น ทำไมเขาจะปฏิเสธเสียล่ะ

“แล้วเจอกันครับ”



................................................................................





ขอบคุณทุกความคิดเห็นกั๊บ อิๆ ...น้ำมันเครื่องชั้นดี น่าชื่นใจจริงๆ

 :mew1:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2016 23:55:45 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #158 เมื่อ28-03-2016 01:47:19 »

ไม่ใช่วันเดียวอะดิ

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #159 เมื่อ28-03-2016 01:58:48 »

อูยยยย เรื่องเริ่มจะเข้มข้นแล้วสิ จะเป็นยังไงต่อหนอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
« ตอบ #159 เมื่อ: 28-03-2016 01:58:48 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #160 เมื่อ28-03-2016 02:29:40 »


 
+ 1 ให้เพราะคนเขียนอธิบายเรื่อง Guilt ในแง่ของหลักจิตวิทยาได้ดีมากค่ะ     

ปรบมือให้รัวๆ

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #161 เมื่อ28-03-2016 03:14:05 »

 เริ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอพลังงานบางอย่างแล้ว  :katai4:

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #162 เมื่อ28-03-2016 04:35:10 »

ฮือออออ อ่านเท่าไหร่ก็รู้สึกว่าไม่พอ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #163 เมื่อ28-03-2016 05:10:57 »

เรื่องเดินไปในทิศทางที่ถูกใจมากครับ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #164 เมื่อ28-03-2016 05:48:34 »

สัมผัสได้ถึงกลิ่นมาม่า ลอยมาเบาๆๆ

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #165 เมื่อ28-03-2016 07:02:01 »

แน่ใจนะว่าเรื่องนี้ไม่ดราม่า

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #166 เมื่อ28-03-2016 07:10:10 »

 :mew1:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #167 เมื่อ28-03-2016 07:16:07 »

ขอให้นู๋อินช่วยลุงกุนต์ได้ที่เถอะ :mew2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #168 เมื่อ28-03-2016 08:00:59 »

วันเดียวห้าหมื่น !!
อินทัชนายหน้าเลือดไปไหม พอพี่กุนต์หาย อินทัชได้กลายเป็นเศรษฐีพอดี ฮา
เอ๊ะหรือว่าเฉพาะแรกที่คุณไผ่นัด ได้ห้าหมื่น วันถัดไปที่เจอพี่กุนต์ก็เป็นราคาอื่น (รู้สึกว่าบางทีเรื่องที่สนใจก็แอบไร้สาระ ฮา)
หวังว่าบาดแผลในใจของพี่กุนต์จะดีขึ้นนะ

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #169 เมื่อ28-03-2016 08:54:07 »

หากความสัมพันธ์โอ๊ตและกุนต์จะพัฒนาเกินไปกว่าผู้รับจ้างและตัวแทน กุนต์จะมองโอ๊ตแล้วเห็นเป็นโอ๊ตแล้วใช่ไหม? เริ่มจะสงสารโอ๊ตรอแล้วสิ // มโนไปลิบเลย เขาเพิ่งจะรับงานกันแก!!  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
« ตอบ #169 เมื่อ: 28-03-2016 08:54:07 »





ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #170 เมื่อ28-03-2016 09:12:20 »

เอาล่ะเว้ยยยย จบการเกริ่นนำแล้ว
เตรียมตั้งการ์ดรับความเข้มข้นแล้วค่ะ
พร้อม!

ออฟไลน์ yaoionlyyes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #171 เมื่อ28-03-2016 09:33:48 »

มา สาดมาเลยย เรารอตอนต่อไป อรั๊ยยย
โอ้ตจะทำให้พี่กุนต์ปล่อยวางเรื่องศรันย์ได้มั้ย คงไม่ใช่ภายในวันเดียวแน่ๆ
พี่กุนต์อาจเกิดการต่อต้าน หรืออะไรที่ทำให้เรื่องมันแย่กว่าเดิม
ว้อย5555 ทำไมนึกเรื่องในแง่ดีไม่ออกเลย ถถถถ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #172 เมื่อ28-03-2016 10:03:59 »

โอยยยยยยยยยย
ดีมาก พล็อตดีกับใจมากกกก
ชอบมากกกก แต่หลังจากที่คุณข้าวปั้นยืนยันความฟีลกู้ด ก็ดูจะไม่มีคนเชื่อเลยนะคะ 55555
แต่เราเชื่อ เราขอให้มันฟีลกู้ด
น้องอินทัชคงหน่วงหน่อยที่ต้องเป็นตัวแทนคนอื่น แต่แบบต้องสู้นะ ดูแลพี่กุนต์หน่อยยยยยยย
อ่อยยยยย เราชอบมากจริงๆอ่ะ อ่าน 5 ตอนรวดคือแบบ พีคคคคคคคค
มาต่อไวไว นะคะ รออยู่^______^

ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #173 เมื่อ28-03-2016 10:04:23 »

คุณไผ่นี่รักพี่มากเลยยยยย!!!!


รอ...ด้วยใจจดจ่อ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #174 เมื่อ28-03-2016 10:14:51 »

มีแอบกลัวว่าจะพัวพันกับคำว่าเพราะหน้าที่จริงๆ  :ling3:
กว่าจะถึงวันหวานตับไตเราคงสะเทือนกับนิยาย Feel Good เรื่องนี้แน่ๆ แต่.....พร้อมค่ะ เราจะสตรองไปด้วยกัน

สารบัญค่ะ  :กอด1:
Chapter 5

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #175 เมื่อ28-03-2016 11:48:14 »

ทำไมเรารู้สึกถึงกลิ่นมาม่าโชยมาแต่ไกลเลยล่ะ อยากรู้จริงว่าใครจะตกหลุมที่ขุดนี้ก่อนกัน

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #176 เมื่อ28-03-2016 12:14:59 »

เอาใจช่วยพี่กุนต์ สู้ๆนะ  :mew6:

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #177 เมื่อ28-03-2016 13:04:24 »

โอ้ยยเตรียมร้องไห้ก่อนสงสาร

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #178 เมื่อ28-03-2016 13:43:02 »

ใกล้แล้วววว  :hao5: :call: :call:

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.5] pg.6 -- 27/3/59
«ตอบ #179 เมื่อ28-03-2016 15:39:02 »

คุณไผ่จะหาเรื่องให้พี่กุนต์เจ็บหนักกว่าเดิมไหมนั่น
แลเห็นความดราม่ามาแต่ไกล ..
 :ling2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด