Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1333589 ครั้ง)

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
« เมื่อ15-03-2016 20:12:16 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



...




สวัสดีจ้า  :mew1:


เปิดเรื่องใหม่ ในหมวด Sins

ที่ผ่านมา มี Envy, Lust, Sloth และ Wrath จบไปแล้ว

เรื่องนี้คือเรื่องที่ 5 (สถิติ 2 ปี เขียน 1 เรื่อง เออะ..... :z3:)

มี 2 คู่ โดยจะเริ่มจากคู่แรกก่อน ตามด้วยคู่คุณไผ่ เพราะเรื่องมันต่อเนื่องกัน

ขอฝากไว้ด้วยนะขะร้าบบบ

 :o8:



สารบัญ
ขอบคุณคุณ dekying kukkig กับคุณ basanti มากๆจ้า ^^

Prologue
Chapter 1
Chapter 2
Chapter 3
Chapter 4
Chapter 5
Chapter 6
Chapter 7
Chapter 8
Chapter 9
Chapter 10
Chapter 11
Chapter 12
Chapter 13
Chapter 14
Chapter 15
Chapter 16
Chapter 17
Chapter 18
Chapter 19
Chapter 20
Chapter 21
Chapter 22
Chapter 23
Chapter 24
Chapter 25
Chapter 26
Chapter 27
Chapter 28
Chapter 29
Chaper 30
Chaper 31
Chaper 32
Chaper 33
Chapter 34
Chapter 35
Chapter 36
Chapter 37
Chapter 38
Chapter 39
Chapter 40
Chapter SP Because you loved me
Chapter SP บันทึกปีใหม่ของอ้น
Chapter 41
Chapter 42
Chapter 43
Chapter 44
Chapter 45
Chapter 46
Chapter 47
Chapter48
Chapter49
Chapter50
Chapter51
Chapter52
Chapter53
Chapter54

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2018 01:49:21 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Sins : Greed -- [Prologue] -- 15/3/59
«ตอบ #1 เมื่อ15-03-2016 20:17:50 »


Sins : Greed





Prologue



‘กฎ’ การเป็นเด็กในอุปการะของ ‘กนธี สิงหนาท’ มีแค่ไม่กี่ข้อ

หนึ่ง..ความสัมพันธ์คือการแลกเปลี่ยนระหว่าง ‘ร่างกาย’ กับ ‘เงิน’

สอง..อยู่ในที่ของตนเอง ไม่ล้ำเส้นของแต่ละฝ่าย

สาม..ซื่อสัตย์ อย่าโกหก หรือคิดหักหลังกัน

สัญญาที่เอ่ยปากเปล่านี้ ไม่มีระยะเวลาสุดท้ายตายตัว ให้ถือว่าการละเมิดกฎ ถือเป็นจุดสิ้นสุดความสัมพันธ์

นอกจากนี้ ต่างคนต่างสามารถเป็นอิสระจากกันและกันได้ ในทันทีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการแยกตัวออกไปเพื่อมีชีวิตใหม่กับคนนอก

พูดให้สั้นลงอีก..ก็คือพวกเขาจะเลิกลากัน เมื่อ ‘มีใจ’ ให้กับใครอื่น

ถึงตอนนั้น..ให้ถือว่าอดีตที่ผ่านมา..เป็นเพียงอากาศธาตุ

 

..........................................................................




ร่างสูงโปร่งก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำ ช่วงตัวท่อนบนที่เปลือยเปล่ามีหยดน้ำเกาะพราว ผิวกายขาวโพลนเย็นวาบเมื่อสัมผัสลมจากแอร์ที่เปิดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนโดยตรง
   
“พี่กุนต์..” เสียงนุ่มนวลจากคนร่วมห้องอีกหนึ่งทักขึ้น “ผมบอกแล้วว่าอย่าเดินเปลือยแบบนี้ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอานะครับ”
   
กนธี..หนุ่มใหญ่วัยเกือบสี่สิบปีรับผ้าขนหนูผืนนุ่มมาจากมือคู่ควงอายุน้อยของตน เขายิ้มให้ก่อนพึมพำขอบใจ
   
“ยังไม่ไปเรียนอีกหรือไงเจ้าวิทย์” เขาเช็ดผมที่เปียกให้แห้งหมาด “เข้าห้องสายเดี๋ยวอาจารย์บ่นหรอก”
   
“วันนี้ผมมีเรียนบ่ายครับ อาจารย์แคนเซิลคลาสตอนเช้า” ไววิทย์ตรงเข้ามาเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเชิ้ตแขนยาวกับกางเกงสแล็คสีดำมาให้ “ถ้าพี่กุนต์ว่าง..เราไปกินเบอร์เกอร์คิงก่อนผมเข้าเรียนดีไหม”
   
กนธีหัวเราะ ลูบท้องตัวเอง “ขอผ่านเถอะ กินเบอร์เกอร์แต่เช้า กระเพาะพี่รับไม่ไหวหรอก”
   
“ว้า..ผมว่าจะขอเป็นเจ้ามือแท้ๆ” เด็กหนุ่มอมยิ้ม “ฉลองที่ผมสอบวิชาหลักได้เกรดเอทุกตัวเลย”
   
คนฟังยิ้ม คิดแล้วก็รู้สึกดีตามไปด้วย..เพราะคนออกค่าหน่วยกิตให้คือเขา

“แบบนี้ต้องให้ของขวัญ..นาฬิกาสักเรือนเป็นไง? คราวก่อนเห็นมองตาละห้อยเลยนี่”
   
ไววิทย์เดินเข้ามาโอบกอดเจ้าของห้องไว้ กดปากจูบข้างใบหู “พี่กุนต์ของผมน่ารักที่สุดเลย..ขอบคุณนะครับ”
   
“เออ..ไม่ต้องมาทำปากหวานหรอกไอ้เสือ” กนธีพาดผ้าเช็ดตัวไว้บนเตียงที่ยังมีรอยยับย่นจากกิจกรรมเมื่อคืน “เย็นนี้ค่อยไปแล้วกันนะ สายๆพี่มีนัดลูกค้า ยังไงช่วงเช้า วิทย์ก็ไปเดินเลือกเรือนที่เราชอบไว้ก่อน พี่เสร็จงานแล้วจะแวะไปรับที่คณะ ค่อยไปจ่ายให้ตอนนั้น”
   
เด็กหนุ่มยิ้มดีใจ หอมแก้มอีกคนดังฟอด “ผมรักพี่กุนต์จัง”
   
คนฟังพยักหน้ารับรู้ ไววิทย์มักพูดคำรักติดปาก แต่เขาไม่ใช่เด็กๆที่จะมาหลงละเมอไปกับประโยคหวานหู
   
..‘เงิน’ ต่างหาก..ที่ทำให้ไววิทย์รักเขา..
   
แต่คนอย่างกนธีไม่แคร์ความจริงข้อนั้น เขาไม่สน..ตราบใดที่พวกเขายังแลกเปลี่ยนกันด้วยผลประโยชน์ทางร่างกายเป็นสำคัญ..ตราบใดที่ไววิทย์ยังรักษากฎระหว่างกันเอาไว้อย่างซื่อสัตย์ เขาก็พร้อมจะดูแลและรับผิดชอบอีกฝ่ายให้เต็มความสามารถ
   
“แล้ววันนี้พี่กุนต์นัดลูกค้าที่ไหนหรือครับ” ไววิทย์ช่วยกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้อย่างเอาใจ
   
“ปราจีนบุรี”

กนธีมักเดินทางออกต่างจังหวัดเรื่อยๆ เขาทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ดินหลายแปลงที่เคยกว้านซื้อไว้ บางแหล่งรอราคาดีดก็ขายทิ้ง บางแหล่งก็ทำโครงการบ้านจัดสรรขาย ที่ไหนสวยๆ บรรยากาศดีๆ อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว เขาเก็บเอาไว้รอทำเป็นรีสอร์ทในอนาคต นอกจากนั้น เขายังคอยเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดินและบ้านให้กับคนรู้จักในแวดวงสังคมของตนอีกด้วย 
   
“แล้วแบบนี้จะกลับถึงกรุงเทพกี่โมงครับเนี่ย”
   
“มาทันนัดตอนเย็นแล้วกันน่า” กนธียิ้ม “มีเวลาเหลือเฟือให้เราควงสาวไปดูหนังได้สักสองเรื่องก่อนพี่กลับ”
   
ไววิทย์ทำจมูกย่นใส่ “พี่กุนต์แซวผมเรื่องนี้อีกแล้ว”
   
“ก็แค่แซว” นัยน์ตาสีอ่อนมีประกายล้อเลียน   

“แซวบ่อยๆ แปลว่าหึงผมแน่เลย” ไววิทย์แหย่ “เรื่องผู้หญิงที่พักนี้พี่กุนต์เห็นบ่อยๆหรือเปล่าครับ ถ้าพี่ไม่เชื่อใจ ผมพามาแนะนำกับพี่กุนต์ก็ได้ แต่จะให้บอกว่าอะไรดีน้า..” เขามองเจ้าเล่ห์ “บอกว่าพี่กุนต์..เป็นเมี..”
   
“พอเลยๆ” กนธีตัดบท ผลักหัวเด็กที่ตั้งท่าจะเข้ามาคลอเคลียแล้วจัดการเปลี่ยนเรื่อง “เออ..สร้อยสวารอฟสกี้ที่เคยฝากพี่ซื้อให้น้องสาวเรา..เธอใส่แล้วเป็นไงบ้าง ชอบหรือเปล่า ไม่เห็นมาเล่าให้ฟังบ้างเลย”
   
“ยัยนั่นชอบมากครับ” เขายิ้มร่า “ฝากขอบคุณพี่กุนต์ใหญ่ ผมบอกให้โทรมาคุยโดยตรงก็ไม่ยอม ไม่รู้อายอะไร”
   
“ไม่เป็นไรหรอก..ถ้าชอบก็ดีใจ” กนธีแต่งตัวเสร็จแล้วรับกระเป๋าเอกสารที่ไววิทย์ยื่นให้พร้อมกับกุญแจบีเอ็มรุ่นล่า ก่อนจะออกไปทำงาน เขานึกขึ้นได้เลยหันมาถาม “เราอยากได้ของฝากอะไรจากอเมริกาไหม พอดีญาติพี่จะเดินทางเสาร์นี้ ถ้าไม่หนักมากก็หิ้วมาให้ได้”
   
ไววิทย์ทำท่านึกอยู่ครู่หนึ่งก็ขอเป็นรองเท้ากีฬาสักคู่ “ถ้าพี่กุนต์ไม่ว่า ผมขอถามน้องด้วยได้ไหมครับว่าอยากได้อะไรหรือเปล่า”

กนธีพยักหน้ารับ ยืนรออยู่หน้าประตูระหว่างที่อีกฝ่ายโทรหาน้องสาว

“นี่..พี่กุนต์เขาถามว่าอยากได้ของฝากอะไรจากอเมริกาไหม ญาติพี่กุนต์จะไปเสาร์นี้” ไววิทย์พูดรัวเร็ว และก็ได้คำตอบเป็นเครื่องสำอางสองอย่าง คือพาเลทอายแชโดว์ MAC กับแป้งฝุ่นแบรนด์ Chanel 
   
“น้องวิวแต่งหน้าด้วยหรือ” 
   
“พักนี้เพิ่งมาหัดแต่งครับ” ไววิทย์ยิ้ม ทำท่าจะควักเงินออกมา แต่พี่กุนต์บอกปัด..ซึ่งเขาก็รู้ดีอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ‘ของฝาก’ ก็คือ ‘ของขอ’
   
“อืม..เอาแบบไหนก็ส่งภาพเข้าไลน์พี่แล้วกัน” กนธีไม่ซักไซ้ให้มากความ “เย็นนี้เจอกันนะ”
   
“เดินทางปลอดภัยนะครับ”
   
เจ้าตัวยิ้มรับ เดินออกมาจากห้องชุดของคอนโดใจกลางเมืองโดยมีไววิทย์ยืนส่งจนลับตา
   
คล้อยหลังกนธี ไววิทย์โทรหาน้องสาว สั่งว่าหลังจากนี้ ถ้าพี่กุนต์ชวนคุยเรื่องเครื่องสำอางว่าใช้แล้วเป็นยังไงบ้างเหมือนกับที่ถามเรื่องสร้อยคริสตัล ให้มันเออออไปตามท้องเรื่อง
   
“อย่าทะเล่อทะล่าบอกว่าไม่ได้ฝากซื้อล่ะ”
   
‘เอาอีกแล้ว..อะไรๆก็อ้างหนู..ส่วนบุญนี่ไม่ค่อยจะได้กับเขาบ้าง..’
   
“หุบปากแล้วทำตามที่พี่บอกเถอะ..” เขาด่า สีหน้าบอกบุญไม่รับ “คราวหน้าค่อยว่ากัน อยากได้อะไรก็ไลน์มา”

‘งวดนี้ไปไถอะไรเขาอีก’

“MAC กับ Chanel ของแค่ไม่กี่พัน แค่นี้ไม่ระคายกระเป๋าเขาหรอก” ไววิทย์กดตัดสายทิ้งก่อนจะนัดหมายสาวร่วมคณะอีกคนที่กนธีบอกว่าเห็นอยู่กับเขาบ่อยครั้ง

เด็กหนุ่มยิ้มมุมปาก เขากำลังติดพันผู้หญิงคนนั้น ของฝากเล็กๆน้อยๆก็ถือเป็นสิ่งซื้อใจ คำตำหนิจากน้องสาว เขาฟังแล้วผ่านเลย ในเมื่อทำมาหลายครั้งแล้ว ทำไมจะทำอีกไม่ได้

“เช้านี้ไปดูหนังกันนะ” เขาชวนเธอ สำรวจเงินที่พี่กุนต์ให้ไว้ติดตัวร่วมสองพันกว่าว่ายังอยู่ดี “เดี๋ยววิทย์เลี้ยงเอง ฉลองที่ได้เกรดเอทุกตัว”

ข้างฝ่ายกนธี หลังจากก้าวเข้าลิฟท์ เขาเอามือถือออกมาเลื่อนหาเบอร์ที่บันทึกไว้ ปลายสายเป็นเด็กสาววัยรุ่นที่เป็นน้องสาวของไววิทย์ เขาเคยเจออยู่ครั้งสองครั้ง เพราะเธอไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ

‘เอ่อ..พี่กุนต์มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ’
   
“ไม่มีอะไรด่วนหรอกน้องวิว” กนธีพูดยิ้มๆ “พอดีพี่จะถามว่าแป้งของ MAC ที่เราฝากซื้อ ถ้าจะเปลี่ยนเป็นของ Chanel แทน น้องวิวโอเคไหม พี่ไม่แน่ใจว่าเพื่อนพี่จะเสร็จธุระของมันตอนไหนน่ะ กลัวไม่มีเวลาไปให้เรา ยังไงถ้าน้องวิวไม่มีปัญหา พี่จะได้บอกมัน”
   
เด็กสาวอึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ ‘ได้ค่ะ..หนูไม่ซีเรียส’
   
“สรุปทั้งสามอย่างที่ฝากมา ถ้าเพื่อนพี่ว่าง พี่จะให้มันวิ่งไปเอาให้ตามออเดอร์เดิมของเรา แต่ถ้ามันยุ่งจริงๆก็เอาของ Chanel ไปก่อนแล้วกันนะครับ แล้วถ้าพี่แวะไปเอง พี่จะซื้อมาให้ใหม่”
   
‘เอ่อ..ยังไงก็ได้ค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจพี่กุนต์จะแย่’ 
   
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก” กนธีพูดอย่างใจดี “โอเค แค่นี้นะครับ พี่จะบอก ‘เพื่อน’ ให้” ฟังเธอพูดขอบคุณเบาๆก่อนที่เขาจะวางสายไป
   
รอยยิ้มที่เปื้อนใบหน้าคลายลงในตอนนั้น
   
..หากถามว่า เมื่อไรกันที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเด็กในอุปการะจะสิ้นสุด..
   
..ก็ต้องตอบว่าคงจะเป็นตอนที่เด็กพวกนั้น ‘เลี้ยงไม่เชื่อง’ นั่นแหละ..







-- to be continued





เค้าจะพยายามอัพ แม้ความเร็วจะประมาณหอยทากติดอยู่บนถาดกาวดักหนูก็ตาม....

 :katai5:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2016 21:11:01 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: Sins : Greed
«ตอบ #2 เมื่อ15-03-2016 20:24:25 »

ขอบคุณครับ

///  รอติดตามน๊าาาาา

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: Sins : Greed -- [Prologue] -- 15/3/59
«ตอบ #3 เมื่อ15-03-2016 20:24:33 »

โหย ดูแนวโน้มแล้วจะหนักหน่วงตั้งแต่ต้นเรื่องเลย

ออฟไลน์ AppleA-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Prologue] -- 15/3/59
«ตอบ #4 เมื่อ15-03-2016 20:36:44 »

ว้ายยยยย แซบมากค่า
เปิดหน้ามาไม่คิดว่าจะได้เจอเรื่องใหม่ของคุณ nigiri ด้วย
ว่าแต่พี่กุนต์นี่ฝ่ายรับหรือคะ  ดูแมนไปอีก >w<
พวกเด็กเลี้ยงไม่เชื่องนี่เชือดมันทิ้งไปเลยค่ะ
เปย์มาไม่น้อยทำแบบนี้กับเราได้อย่างไร
คุ้นๆพล็อตนี้ที่เคยลงในเพจใช่ไหมคะ
บอกตรงๆคนแบบบนี้พี่กุนต์ไม่ต้องไปสนใจนะคะ
หล่อ และรวยมากอย่างพี่ต้องหาใหม่ได้ดีกว่าแน่นอนค่ะ
ติดตามนะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องใหม่ค่ะ
ป.ล.รักพี่หมูมากนะคะ
ป.ล2 รอคุณไผ่ค่ะ 55555
ป.ล.3 เพิ่งเคยเมนท์ในนิยายของคุณ nigiri ครั้งแรกด้วย ฝากตัวด้วยนะคะ

ออฟไลน์ Lovetree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sins : Greed -- [Prologue] -- 15/3/59
«ตอบ #5 เมื่อ15-03-2016 20:45:33 »

น่าติดตามมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณนักเขียนมากๆนะคะ :L2:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: Sins : Greed -- [Prologue] -- 15/3/59
«ตอบ #6 เมื่อ15-03-2016 21:30:46 »

น่าจะมีการดัดหลังเด็กเลี้ยงไม่เชื่องพวกนี้ด้วย

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: Sins : Greed -- [Prologue] -- 15/3/59
«ตอบ #7 เมื่อ15-03-2016 21:33:32 »

มาตามอ่าน   :hao6:   เรื่องราวท่าจะวุ่นวายน่าดู   :serius2: :serius2: :serius2:

ปล.  รักพี่หมู  คิดถึงพี่หมู   (ส่วนเฮียดิน  ทิ้งลงทะเลไปเลย )

ออฟไลน์ soul love

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
Re: Sins : Greed -- [Prologue] -- 15/3/59
«ตอบ #8 เมื่อ15-03-2016 21:36:26 »

เข้ามากรี๊ดสิคะ จะรออะไร...
รออ่านต่อไปจ้า

ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
Re: Sins : Greed -- [Prologue] -- 15/3/59
«ตอบ #9 เมื่อ15-03-2016 21:36:40 »

 :mc4: :mc4: :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Prologue] -- 15/3/59
« ตอบ #9 เมื่อ: 15-03-2016 21:36:40 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: Sins : Greed -- [Prologue] -- 15/3/59
«ตอบ #10 เมื่อ15-03-2016 21:46:07 »

 :hao7:  รอตอนต่อไปเลยจ้าาา

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #11 เมื่อ15-03-2016 21:58:05 »




Chapter 1



ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดสีชาทอดมองคนคุ้นเคยที่อยู่ในชุดนักศึกษา สีหน้าเขานิ่งเรียบ แทบไม่แสดงความรู้สึกตอนที่เห็นเด็กหนุ่มยื่นของในมือไปให้ผู้หญิงอีกคน
   
“โง่จริงๆวิทย์..” กนธีหัวเราะหึ มองสัญลักษณ์ของแบรนด์เครื่องสำอางทั้งสองเด่นหราอยู่ข้างถุง คงจะกลัวคนอื่นไม่รู้ว่ามีปัญญาซื้อของราคาแพง

..ของ..ที่มาจากเงินที่เขาให้..
   
เมื่อเช้าเขาได้ของฝากมาจากญาติ..พสิษฐ์เพิ่งกลับจากอเมริกาเมื่อวาน เขาอุตส่าห์ขับรถไปรับและส่งต่อให้ไววิทย์ กนธีลองหยั่งเชิงดูแล้วว่าจะให้เขาแพ็คส่งไปรษณีย์ไปให้น้องวิวเลยไหม แต่ไววิทย์ปฏิเสธ อ้างว่ากลัวเขาจะลำบาก
   
กลัวลำบาก..หรือกลัวจะไม่ได้เอามาให้คู่ชื่นคนใหม่กันแน่
   
กนธีถอนหายใจเนือยๆ เปิดประตูรถแล้วก้าวลงมาด้วยท่าทางเฉยเมย..แม้ในใจจะเจ็บแปลบอยู่บ้างยามที่เห็นสร้อยคอคริสตัลบนลำคอขาวผ่องของเด็กสาวคนนั้นสะท้อนกับประกายแดดเป็นแสงระยิบ
   
..ให้ตายเถอะวะ..ดวงเขานี่มันซวยบรม..เลี้ยงเด็กกี่คนก็ถูกหักหลังหมดทุกราย..
   
ไววิทย์กำลังคุยกับอีกฝ่ายอย่างออกรสตอนที่เขาก้าวเข้าไปหา เธอคนนั้นหันมาเจอเขาก่อน รอยยิ้มสดใสถูกส่งมาให้ ตามด้วยการทักทายอย่างคนไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไร
   
“อ๊ะ! สวัสดีค่ะพี่กุนต์..”
   
ประโยคเดียว..ทำเอาไววิทย์ยืนแข็งทื่อไปในทันที
   
กนธียิ้มจาง สถานะของเขากับไววิทย์ไม่เป็นที่เปิดเผยมานานแล้ว ไม่แปลกที่เธอจะไม่รู้ว่าเขากับเด็กนี่มีความสัมพันธ์กันอย่างไร และเจ้าวิทย์เองก็คงไม่กล้าแย้มปากกับสาวที่มันกำลังจีบว่าตัวเองเป็น ‘เด็กในอุปการะ’ ของผู้ชายด้วยกัน ดังนั้น..เมื่อวิทย์หันมาเจอเขา เด็กมันถึงหน้าซีดเผือด
   
“พี่..กุนต์” ปกติแล้วไววิทย์อาจจะหาข้อแก้ตัวได้ ถ้าในเวลานี้ ผู้หญิงข้างๆเขาจะไม่ถือถุง MAC กับ Chanel เด่นชัดเต็มสองตา พ่วงด้วยสร้อยคอของสวารอฟสกี้ที่เขาอ้างว่าอยากได้ จะเอาไปฝากน้องสาว
   
กนธีไม่โวยวาย ไม่ต่อว่า หรือชกไววิทย์สักหมัด เขานิ่งสงบ ยิ้มบางๆตามวิสัย แม้แต่พฤติกรรมแต่ละอย่างก็ดูราบเรียบได้อย่างเหลือเชื่อ แต่ก็ไม่แปลกหรอก เพราะเขาเป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร..ใจดีกับทุกคนแม้อีกฝ่ายจะใจร้ายกับเขามากแค่ไหนก็ตาม

..ใช่..ใครๆก็รู้ว่าเขาใจดี แม้ในเวลาที่จับได้คาหนังคาเขาว่าถูกทรยศ..
   
อาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้คาดหวังความภักดีจากเด็กพวกนี้เท่าไรนัก..เขาถึงเจ็บไม่มาก
   
..ที่มาแสดงตัว ก็เพราะว่าไม่อยากเป็นควายให้ถูก ‘ไถ’ ต่อเท่านั้นเอง..
   
“น้อง..ชื่ออะไรนะครับ” เขาถามเธอเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่ชวนเด็กคุย
   
เธอตอบเขามา แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะจดจำนัก จากนั้นเธอก็พูดขอบคุณที่เขาช่วยเป็นธุระซื้อของให้ โดยระหว่างที่พวกเขายืนคุยกันด้วยสีหน้าสบายๆ ไววิทย์กลับอยู่ไม่สุข และแสดงท่าทางน่าสงสารจนเขารังแกไม่ลง
   
“ถ้ามีอะไรอยากฝากอีกก็บอกได้เลยนะ ญาติพี่ไปต่างประเทศบ่อย หรือบอกผ่านวิทย์มาก็ได้” กนธียิ้มให้ ยกมือรับไหว้ของเธอก่อนจะหันมาทางไววิทย์ “ขอคุยธุระหน่อย”
   
เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง มือชื้นเหงื่อตอนบอกสาวที่ตามจีบว่าให้เข้าห้องไปก่อน เธอเดินเข้าคณะไปอย่างไม่สงสัยอะไร ไม่เอะใจด้วยซ้ำเมื่อไววิทย์ก้าวเข้าไปนั่งในรถคู่กับญาติผู้ใหญ่ที่เขาเคยพูดให้ฟัง
   
“ผม..” ไววิทย์อึกอัก ถูกจับได้คราวนี้ เขาไม่ค่อยแน่ใจบทลงโทษนัก แต่บางที..เขาอาจจะหาทางอ้อนให้พี่กุนต์หายโกรธได้ “คือ..คือว่า..”
   
“นอนกับเธอหรือยัง” กนธีถาม
   
คนฟังชะงัก “อ..อะไรนะครับ”
   
“ถามว่านอนกับเธอไปหรือยัง” เขาปรายตามอง “ไม่ได้จะว่าอะไร รู้ว่าห้ามยาก แต่ก็แค่จะเตือนให้ระวัง ใช้ถุงยางด้วยทุกครั้ง ผู้หญิงกับผู้ชายน่ะไม่เหมือนกันนะ ถ้าพวกเธอพลาด ชีวิตวัยเรียนจะเกิดอะไรขึ้น รู้บ้างหรือเปล่า”
   
ไววิทย์นิ่งเงียบอย่างไม่เข้าใจอยู่ครู่ก่อนจะยิ้มออกมาได้ เขาถอนหายใจคล้ายโล่งอก

“เปล่าครับ..ผมสาบานว่ายังไม่ได้ทำอะไร แค่..แค่รู้สึกอยากคุยด้วย ก็เลย..” เขายกมือไหว้พี่กุนต์และกราบที่ไหล่ลาด “ขอโทษนะครับ..หลังจากนี้ไปผมจะไม่ทำอีกแล้ว จะพยายามห่างออกมา”
   
“ไม่เป็นไร..” กนธีบอกปัด “คนอย่างพี่ ไม่เคยลดตัวไปแย่งอะไรกับใคร”
   
ไววิทย์หน้าชา
   
“เย็นนี้กลับไป อย่าลืมเก็บข้าวของของเราด้วย”
   
“พี่กุนต์..” เด็กหนุ่มคราง สีหน้าคาดไม่ถึง
   
“ส่วนนี่..” กนธียื่นซองสีน้ำตาลให้ “เงิน ‘ค่าตัว’ เดือนสุดท้าย..พี่ให้สามหมื่น คงพอให้เราจ่ายค่าเช่าห้องได้นะ”   
   
“พี่หมายถึง..” เขาลนลาน “ผม..ผมยังไม่ได้เตรียมใจ”
   
“นายน่าจะเตรียมใจมานานแล้ว..ตั้งแต่ตอนที่คิดละเมิดกฎของเรา” กนธีดึงภาพถ่ายในช่องเก็บของหน้ารถออกมา เป็นภาพเด็กของเขา เพิ่งลงมาจากคอนโดของฝ่ายหญิงตอนห้าทุ่มกว่า วันที่ที่กำกับ ตรงกับวันที่ไววิทย์บอกว่าจะกลับดึก เพราะมีทำรายงานกับเพื่อนๆที่หอสมุด
   
ไววิทย์พูดไม่ออก..กนธีให้คนตามสืบเขาตั้งแต่เมื่อไรกัน
   
“ลงไปจากรถเถอะ..พี่นัดลูกค้าไว้” กนธีออกปากไล่กลายๆ
   
“พี่กุนต์..ผมขอโทษ..ให้โอกาสผม..”
   
“อย่าเลย..วิทย์” เขามองนิ่ง “ถือเสียว่า เราหยุดตอนนี้ เพราะวิทย์กำลังจะจริงจังกับผู้หญิงคนนั้น จำข้อตกลงของเราข้อสุดท้ายไม่ได้หรือไง..” กนธีทวนถาม “ถ้าวิทย์อยากจะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน วิทย์ก็ต้องจบกับพี่ จากนี้ไป วิทย์ต้องยืนด้วยตัวเอง ไม่มีพี่คอยช่วยเหลือเรื่องเรียน เรื่องเงิน เรื่องที่อยู่ หรือเรื่องความสุขสบายทั้งหลายนั่นอีกแล้ว..”
   
“แต่..” ไววิทย์สับสน

เขารั้งไว้..ไม่ใช่เพราะหลงรักกนธี แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายคือ ‘ความสะดวก’ ที่หาจากไหนไม่ได้อีกแล้วในชีวิต อยู่กับกนธี ได้ทั้งเงินทอง ความเป็นอยู่หรูหรา ข้าวของแบรนด์เนม อาหารการกินดีๆทุกมื้อ แล้วยังเรื่องเซ็กซ์..ที่แม้จะทำเพื่อเอาใจ แต่เขาก็ได้ของตอบแทนทุกครั้งที่ปลดปล่อยความใคร่ให้กันและกัน
   
“ไปเถอะ..” กนธีไม่ใจอ่อน เขา ‘เขี่ย’ เด็กที่เลี้ยงไม่เชื่องทิ้ง ง่ายพอๆกับการยื่นหมูปิ้งสักไม้ให้หมาข้างทางกินนั่นแหละ “ถ้าไปตอนนี้..วิทย์ยังพอจะเป็นน้องชายของพี่ได้”
   
ไววิทย์มีสีหน้าหม่นลง เขายกมือไหว้คนข้างกายอีกครั้งแล้วค่อยๆเปิดประตูรถลงมา เดินคอตกเข้าคณะไป
   
กนธีไม่ได้หันไปมอง ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่ในรถร่วมสิบนาที พอจะสตาร์ทเครื่องก็เหลือบเห็นพวงกุญแจรูปหมี สีประจำเดือนเกิดที่เขาเคยซื้อให้ไววิทย์ และฝ่ายนั้นก็เอาไปห้อยติดกระเป๋าเป้ไว้ตลอด วางสงบนิ่งอยู่ตรงเบาะด้านข้างคนขับ พอเห็นแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเองก็ยังเก็บเจ้าหมีที่ไววิทย์ซื้อให้เป็นการแลกกันเอาไว้ด้วย
   
..วางทิ้งไว้แบบนี้ หรือคิดจะเอาไว้ขอร้องให้เขายกโทษ?..
   
..ฝันกลางวันหรือไง..
   
กนธีดึงตุ๊กตาตัวจิ๋วออกมา นั่งมองหมีคู่เงียบเชียบ แต่แทนที่ดูแล้วจะคิดถึงคนให้ กลับยิ่งเพ่งยิ่งน่าสมเพชในความบ้าบอของตนที่ทำตัวเหมือนเด็กแรกรุ่น
   
“ปัญญาอ่อน..” เขาหัวเราะแผ่ว มองหาถังขยะ แล้วก็เจอว่ามันตั้งอยู่ข้างๆสนามกีฬากลางแจ้งที่มีพวกนักศึกษาชายกำลังเล่นบาสกันอยู่
   
ชายหนุ่มลงจากรถอีกครั้ง เดินตรงไปแล้วโยนหมีตัวจ้อยทั้งสองทิ้ง จังหวะที่หันหลังกลับ ลูกบาสที่ตกจากแป้นก็กลิ้งมากระทบ เขาก้มลงมอง ใช้ปลายเท้างัดมันขึ้นมาแล้วรับเอาไว้ด้วยมือเดียว พอดีกับที่ใครคนหนึ่งวิ่งเหยาะๆมาหา
   
“ขอบคุณที่เก็บให้ครับ” เสียงทุ้มนุ่มนวลดังอยู่ใกล้แค่คืบ
   
กนธีมองผ่านแว่นกันแดด ภาพแรกที่เห็นคือช่วงบ่ากว้างและแผ่นอกกำยำภายใต้เสื้อกีฬาที่เปียกชุ่มไปด้วยหยดเหงื่อ เขาเงยมองส่วนสูงที่มากกว่าของอีกฝ่ายไปหยุดชะงักอยู่ที่ใบหน้านั้น
   
แสงแดดที่จัดจ้าของช่วงวันทำให้สายตาเขาพร่าเลือน 
   
ดวงตาคมกล้าที่เขาจับจ้องมีสีน้ำตาลเข้ม ทั้งสวยและโดดเด่น แพขนตายาวที่ประดับอยู่ทำให้นัยน์ตาคู่นั้นดูอ่อนหวานและเว้าวอนอยู่ในที เมื่อรวมกับโครงหน้าได้รูป จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากสีอ่อนของวัยหนุ่ม ยิ่งทำให้ใจคนมองกระหวัดนึกถึงใครบางคน
   
“ศรัณย์..” กนธีครางแผ่ว
   
เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงข้ามเลิกคิ้วเล็กน้อย “ครับ?”
   
คนอายุมากกว่าถอดแว่นกันแดดออก และเมื่อถอยหลังหลบแสงที่ส่องกระทบโดยตรง เขาก็ได้แต่ถอนหายใจ เขาผิดเพี้ยนไปเอง..เพียงแค่ว่าเครื่องหน้าของอีกคนมีส่วนละม้าย หรืออย่างน้อยก็ทำให้คิดถึงคนๆนั้นที่อยู่ไกลแสนไกล
   
“ขอโทษครับ..ผมทักผิด” กนธียิ้มจาง ดวงตาเศร้าหมอง “คุณหน้าตาคล้ายคนรู้จักของผมคนหนึ่งน่ะ”
   
“อ้อ..” เขาพยักหน้ารับ ยิ้มเล็กน้อยแต่ก็ทำให้เห็นรอยบุ๋มตรงข้างแก้มขณะมองไปที่ลูกบาสในมือผู้ชายตรงหน้า “ขอคืนด้วยครับ”
   
“อา..โทษที” เจ้าตัวยื่นให้ พอดีกับที่ได้ยินเสียงตะโกนจากเพื่อนของอีกฝ่าย
   
“ไอ้โอ๊ต! ไปกวนอะไรเขา รีบมาต่อเกมเร็ว!”
   
กนธีหัวเราะแผ่ว ผงกหัวให้เด็กหนุ่มที่หันมาขอบคุณอีกครั้งก่อนที่ร่างนั้นจะวิ่งเหยาะๆกลับเข้าสนามบาสไป เขามองตามอย่างเผลอตัว ความมีชีวิตชีวาของคนอายุน้อยที่เต็มไปด้วยพละกำลังขณะขับเคี่ยวกันในเกมกีฬาอย่างไม่ยอมแพ้ท่ามกลางแดดร้อนผ่าวแบบนี้ ซ้ำยังดูไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย ทำให้เขานึกอิจฉาเล็กๆ
   
กนธียืนมองเพลิน เขาเห็นร่างสูงใหญ่ของฝ่ายนั้นชู้ตลูกบาสจากตำแหน่งสามแต้มลงห่วงอย่างแม่นยำก่อนเจ้าตัวจะหัวเราะชอบใจด้วยดวงตาเป็นประกาย เพื่อนๆฝ่ายตรงข้ามร้องโอดครวญ บ้างก็ชูนิ้วกลางด่าจนคาดเดาได้ว่า เด็กนั่นคงจะเป็นคนจบเกมด้วยสามแต้มสุดท้าย
   
“ขี้แพ้อย่าชวนตีเว้ย” เสียงที่แหบพร่าไปตะโกนกลับ แยกย้ายกับเพื่อนด้วยการเดินมาที่กองกระเป๋าที่วางไว้ข้างสนาม เขาก้มลงหยิบขวดน้ำที่ร้อนระอุเพราะอยู่กลางแดดขึ้นมายกดื่ม

ในจังหวะนั้นเอง ที่กนธีเผลอสบตากับเด็กนั่นอีกครั้ง

‘โอ๊ต’ ยิ้มกลับมาให้เขาเพียงน้อย

..ใจกระตุกวูบไหว..
   
กนธีเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อน เขารีบเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย สตาร์ทเครื่องและขับรถคันใหม่ของตนออกไปจากที่จอดพร้อมกับที่เผลอเหลือบมองเด็กหนุ่มอย่างไม่ทันห้ามตน
   
ฝ่ายนั้นเดินลับหายเข้าไปในอาคารด้านหลัง ใจคนมองรู้สึกเบาโหวง
   
..เหมือนมากจริงๆ..เหมือนกับศรัณย์จนทำให้เขาไขว้เขว..
   
กนธีรู้สึกเหงาขึ้นมาจับใจเมื่อพาลกระหวัดคิดถึงอดีตคนรักที่เรียกได้ว่าเป็น ‘รักแรก’ และ ‘รักแท้’ เพียงหนึ่งเดียวของเขา ชายหนุ่มไม่อยากกลับคอนโดตอนนี้ เขาไม่ได้มีนัดกับลูกค้าอย่างที่อ้างกับไววิทย์ สุดท้ายจึงเปลี่ยนใจไม่ขับออกนอกมหาวิทยาลัย แต่หาที่จอดเอาตรงซองว่าง ล็อกรถแล้วเดินเอื่อยเฉื่อยไปหาอะไรกินในโรงอาหารของคณะแถวนั้นแทน
   
จะว่าไปแล้ว กนธีก็เป็นศิษย์เก่าที่นี่เหมือนกัน แต่จะให้เรียกว่าเป็นรุ่นพี่ก็คงกระดากปาก เรียกว่ารุ่นอา รุ่นลุง ยังพอทำเนา อย่างกับเด็กหนุ่มเมื่อครู่ ถ้าเขาทำสาวท้องตั้งแต่เขาอายุ 18-19 ก็คงจะมีลูกรุ่นเดียวกับเจ้านั่นแล้ว
   
“รับอะไรดีคะคุณ” ป้าขายอาหารที่เขาไปยืนมองเมนูกับข้าวตามสั่งออกปากทัก
   
“ผัดคะน้า ไม่ใส่เนื้อสัตว์ครับ” กนธีเป็นพวกมังสวิรัติ แต่ก็ไม่ได้เคร่งครัดนัก บางทีก็เลือกแต่ปลากับไก่มากินแทนสัตว์ใหญ่ด้วยถือเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ..ก็เขาอายุจะสี่สิบแล้ว จะให้ตามใจปากคงไม่ไหว
   
หลังจ่ายเงินและมองหาโต๊ะ เขาก็เจอที่นั่งตรงริมทางเดิน ถามเอากับเด็กๆที่กินข้าวใกล้เสร็จว่ามีใครจองไว้หรือไม่ก็พบว่ายังว่าง ชายหนุ่มเลยวางจานและผละไปซื้อน้ำดื่ม แต่เมื่อกลับมาอีกที โต๊ะที่เมื่อครู่ยังมีกลุ่มชายหญิงนั่งอยู่ ตอนนี้กลับมีชายคนหนึ่งเข้ามาแทน ฝ่ายนั้นลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นเขา
   
“วิทย์..” กนธีมุ่นหัวคิ้ว เขาลืมไปว่านี่ติดพักเที่ยง คณะแถวนี้มีโรงอาหารที่เดียว และเขาก็มีสิทธิ์เจอไววิทย์ตอนไหน เมื่อไหร่ก็ได้..ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่น่ารำคาญที่สุดของวัน
   
“พี่กุนต์” ไววิทย์เดินมาหา แต่อีกฝ่ายยกจานข้าวและตั้งท่าจะหนี เขาเลยคว้าข้อมือไว้ “คุยกันหน่อยนะครับ เรื่องเมื่อเช้าผมอธิบายได้”
   
“ความจริงก็คือความจริง ตาพี่ไม่ได้บอด สมองประมวลผลได้ตามปกติ เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องอธิบาย ขี้เกียจฟังเรื่องโกหกซ้ำๆ”
   
คนฟังส่ายหัว “ผมไม่ได้จริงจังกับเธอ ผมจริงจังกับพี่นะ”
   
“พูดให้ถูกคือจริงจังกับเงินของพี่มากกว่า” กนธีมองหาโต๊ะว่างที่อื่น แล้วก็เจอเก้าอี้ยาวที่อยู่ถัดไปสามแถว พอดีเลย..มีคนนั่งอยู่ด้วย ไววิทย์จะได้แทรกเข้ามาไม่ได้
   
ชายหนุ่มหันหลังกลับ ทั้งตัวเกือบชนเข้ากับคนที่เดินมาด้านหลัง ดีแต่เขายั้งขาไว้ทัน ไม่อย่างนั้นไม่จานข้าวของใครสักคนต้องกระเด็นไปอยู่บนพื้นแน่ “ขอโทษครับ..”
   
“ไม่เป็นไรครับ” เสียงคุ้นหูดังอยู่เหนือหัว
   
เขาสัมผัสได้ว่าใจเต้นแรงตอนที่หันไปมอง..เด็กคนนั้นนั่นเอง
   
“อ้าว..น้อง” เขามองเสื้อที่อีกคนใส่ เป็นเครื่องแบบเสื้อโปโลสีขาว ปกส้มของเด็กวิทยาศาสตร์การกีฬา
   
ร่างสูงของคนอายุน้อยกว่ายิ้มเล็กน้อย “บังเอิญจังนะครับ มาทานข้าวที่นี่หรือครับพี่”
   
ไววิทย์เข้ามาแทรก “พี่กุนต์..ผมยังพูดไม่จบ ยังไงเราไปคุยกันที่อื่นเถอะครับ”
   
“พี่จะกินข้าว” กนธีปรามเสียงต่ำ เดินเลี่ยงออกไปแต่ไววิทย์ยังตื๊อ
   
บุคคลที่สามมองตาม เห็นแววความอึดอัดนั้นออก เลยออกปากชวนอีกฝ่าย “ถ้าไม่มีโต๊ะ ไปนั่งกับผมไหมครับ”
   
คนถูกชวนชะงัก เหลือบมองไววิทย์ที่แสดงท่าทีฉุนเฉียวก่อนจะรู้สึกใจชื้นขึ้น ตอบตกลงทันที
   
ไววิทย์ยอมล่าถอยง่ายๆ เพราะกลุ่มที่พี่กุนต์เข้าไปนั่งด้วยเป็นเด็กอีกคณะ ถึงอย่างนั้น ความโมโหก็ทำให้เขาแกล้งเดินเฉียดคู่ขาของตนแล้วแสร้งว่ากระทบให้เจ็บใจ “เจอคนใหม่แล้วอยากเขี่ยผมทิ้งก็พูดมาตรงๆได้นะ”
   
กนธีมองตามแผ่นหลังของเด็กที่ตนเคยเกื้อหนุนแล้วนึกหงุดหงิด..มันโยนความผิดให้เขาเสียอย่างนั้น

ดี! เขาเชิญออกไปจากชีวิตแบบคนมีอารยธรรม แต่มันกลับไม่ชอบ..เดี๋ยวเย็นนี้จะจัดการเขี่ยไอ้คนเลี้ยงไม่ซื่อ ชนิดที่ว่าโยนเสื้อผ้ามันออกไปกองริมถนนให้สมกับปากที่พาจนเลย
   
กนธีเคี้ยวก้านผักคะน้ากรุบๆด้วยความโมโห ปกติเขาใจเย็น แต่เวลานี้มันโกรธจริงๆ
   
..โกรธแบบเงียบๆ ทำได้แค่เอาคิ้วผูกกัน..นั่นแหละ กนธี สิงหนาท..
   
“อร่อยหรือครับ” เสียงนุ่มๆของเด็กตรงหน้าดังขึ้น ดึงสติของคนที่ก้มหน้าก้มตากินผัก “ผมไม่ชอบคะน้า มันขม”
   
คนฟังเงยหน้ามอง ในจานอีกฝ่ายเป็นพะแนงเนื้อ..เขาไม่กินเนื้อมาสิบห้าปีแล้วมั้ง “คะน้ามีแคลเซียมนะ”
   
“ดื่มนมกับกินปลาเล็กๆเอาก็ได้ครับ” ทางนั้นคลี่ยิ้ม..เห็นลักยิ้มที่ชวนมอง “ผมว่าผมเคยเห็นพี่ขับรถมาแถวนี้บ่อยๆนะ..บีเอ็มสีดำคันนั้นของพี่ใช่ไหม”
   
“เอ่อ..พอดีเพื่อนรุ่นน้องพี่..คนเมื่อกี๊น่ะ” กนธีปกปิดความสัมพันธ์ “เขาเรียนสหเวช”
   
“อย่างนั้นหรือครับ” คนฟังไม่ได้ถามอะไรต่อ “ว่าแต่..พี่ชื่ออะไรครับ ผมชื่ออินทัช..แต่ชื่อเล่น คิดว่าพี่คงได้ยินที่เพื่อนผมเรียกแล้วล่ะมั้ง”
   
“กนธี เรียกพี่กุนต์ก็ได้”
   
“พิกุล?”
   
“พี่..กุนต์” กนธีหัวเราะออกมา “เรา..โอ๊ตใช่ไหม ถ้าจำไม่ผิด”
   
“แม่ผมเรียกว่าข้าวโอ๊ต แต่ถ้าจะให้ดี เรียกโอ๊ตดีกว่าครับ สองพยางค์แล้วน่ารักๆแบบนั้นมันน่าขนลุก” อินทัชหยิบขวดน้ำของกนธีมาแกะพลาสติกแล้วเปิดฝาออกให้
   
“ขอบคุณครับ” เขายิ้ม “อินทัชนี่แปลว่าอะไรหรือ”
   
“เกิดจากผู้ยิ่งใหญ่” เด็กหนุ่มส่ายหัว “พ่อผมตั้งให้น่ะ..แล้วชื่อพี่ล่ะครับ กุนต์..กนธี”
   
“กนธีแปลว่าทะเล มหาสมุทร” เขาถึงได้ทำตัวใจป้ำและกว้างขวางเหมือนน้ำในทะเลอย่างไรเล่า “ส่วนกุนต์ แปลว่าทวน หรือศร..คนละเรื่องเลยใช่ไหมล่ะ”
   
อินทัชหัวเราะ ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย “ตอนแรกที่เห็น นึกว่าพี่มาลงเรียนปริญญาโทที่นี่เสียอีก”
   
“อีกปีเดียวจะสี่สิบแล้วครับ แก่เกินเรียนแล้ว ขอลา..”
   
“แล้วพี่ทำงานอยู่ในมหา’ลัยนี้ด้วยหรือเปล่าครับ ผมเห็นพี่บ่อยมากจริงๆ หรือว่ามาส่งเพื่อนของพี่อย่างเดียวเลย”
   
กนธีรู้สึกว่าเขาทำตัวว่างงานเหลือเกิน “เปล่าหรอก..พี่เป็นฟรีแลนซ์น่ะ เอ้อระเหยได้”
   
“ดีจัง..ผมน่ะ นอกจากเรียนทุกวันแล้ว วันเสาร์อาทิตย์ยังต้องไปทำงานต่อ เหนื่อยเป็นบ้า”
   
คนฟังสนใจขึ้นมาทันที “ทำงานพิเศษหรือ ที่ไหนล่ะ”
   
อินทัชชั่งใจอยู่พักก็หยิบนามบัตรออกมาจากเป้ข้างตัว เป็นการ์ดสีน้ำเงินเข้ม ตัวอักษรเคลือบสีเงิน เขียนว่า ‘Vin Santo’ มีเวลาเปิด-ปิด ระบุสถานที่เป็นลานกว้าง ชั้นบนสุดของตึกระฟ้าใจกลางกรุง
   
“เราทำงานในเลานจ์?” กนธีผิดคาดนิดๆ
   
“ผมเป็นบาร์เทนเดอร์” อินทัชเล่า “เฉพาะคืนวันจันทร์ถึงพฤหัสน่ะครับ..ส่วนศุกร์ถึงอาทิตย์ ผมเล่นดนตรีให้แขกฟัง ถ้าพี่สนใจจะมาก็บอกผมได้นะ” เขาดึงเศษกระดาษขึ้นมาจดเบอร์โทรให้
   
“พี่ไม่ดื่มเหล้า” เขาพึมพำ
   
“มีอาหารด้วย ไม่ก็ไปนั่งฟังเพลง” อินทัชยิ้มจาง ดูมีเสน่ห์ล้นเหลือ “ค่าเมมเบอร์ห้าพัน..แต่ถ้าคนในอย่างผมแนะนำเข้าไปก็ลดสิบเปอร์เซ็นต์”
   
กนธีไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะจ่ายเงินพันเพื่อไปนั่งในที่ที่เขาไม่เคยเข้าไปเหยียบทำไม
   
“นี่คืนวันศุกร์ซะด้วย” เด็กหนุ่มพูดลอยๆ “ไปนะครับ..ผมจะจองโต๊ะไว้ให้”
   
“อืม..ลองดูก็ได้” เขายอมง่ายๆ
   
..ถูกเด็กหลอกเสียแล้วกระมัง..
   
“แล้วเจอกันครับ มาตอนสี่ทุ่มนะ..ผมขึ้นเวทีช่วงนั้น”
   
“ครับ..” เขารับคำอย่างมึนงง
   
หลังจากแยกย้ายกับอินทัช กนธีก็เพิ่งได้สติว่าตกปากรับคำเด็กเอาไว้แล้ว เขาประหม่าเล็กน้อย นอกจากจะเป็นมังสวิรัติ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เขาก็ไม่ได้แตะ นานๆทีจะมีดื่มไวน์บ้าง แต่เหล้านี่ขอผ่าน
   
“บ้าเอ๊ย..” ชายหนุ่มหยิบมือถือขึ้นมากดไปยังเบอร์ที่โทรออกบ่อยที่สุด รอไม่นาน ปลายสายก็รับ

‘ไง..พี่กุนต์’

“ไอ้ไผ่..คืนนี้ไปนั่งเลานจ์เป็นเพื่อนพี่หน่อย”

‘หือ? เหล้าก็ไม่กิน จะไปนั่งเคี้ยวถั่วลิสงหรือไง’

“ไอ้เด็กเปรต” เขาหัวเราะ ต่อให้เจ้าไผ่อายุห้าสิบ เขาก็จะด่ามันไอ้เด็กเปรตยันวันตายนั่นแหละ “นะ..ไปด้วยกันหน่อย พี่ไม่เคยเข้า ไม่รู้ต้องทำยังไง”

‘ไม่ต้องอ้อน..จ่ายค่าเครื่องดื่มให้ผมด้วย เดี๋ยวขับไปให้’

“งกว่ะ”

‘ขอบคุณที่ชม’



.......................................................................




เรื่องนี้ ไม่ค่อยดราม่านะเออ 555+ เบาๆ สบายๆ // ว่าแต่ พี่หมูมายังงายยยย 5555555+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2016 22:04:14 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #12 เมื่อ15-03-2016 22:02:43 »

เข้ามาติดตาม :katai2-1:

ออฟไลน์ AppleA-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #13 เมื่อ15-03-2016 22:18:04 »

โอ๊ยพี่กุนต์คะ  ตอนแรกน้องก็กะว่าจะไม่เกลียดเด็กวิทย์อะไรมาก
แต่นอกจากจะไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดหวังจะไปเกาะพี่กุนต์ต่อ
ยังมาว่าพี่กุนต์ได้เด็กใหม่อีก  มันน่าซัดจริงๆ
เกลียดนางแรงมากบอกเลย
แล้วคนที่ชื่อโอ๊ตคนนี้จะไว้ใจได้ไหมคะเนี่ย ฮื้อๆๆ 
ยิ่งมีหน้าตาคล้ายกับรักแรกพี่กุนต์อีกเป็นพี่ชายหรือพ่อเปล่าหว่า
หวังว่าจะไม่ดราม่ามากนะคะคุณ nigiri
แต่ดราม่าก็ดีค่ะ ดราม่าแนวๆนี้ชอบค่ะ 55555 แต่ถ้ามาแนวอบอุ่นหัวใจก็ดีค่ะชอบเหมือนกัน
ป.ล.พี่ไผ่มาแล้ววววววววว แล้วพี่หมูจะมาไหมน้าาาาาา

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #14 เมื่อ15-03-2016 22:18:10 »

เจอ sins ใหม่นี่ตกใจเบยยยยย  o22

ว่าแต่ว่า...เป็นหอยทากแล้วยังโดนกาวดักหนูอีกเร้อออ  :เฮ้อ:

แต่เค้าก็รอนะ  :-[

ออฟไลน์ fullmoonny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #15 เมื่อ15-03-2016 22:31:42 »

เจิมมมมมมมม ชอบแนวพี่กุนต์อ่ะ แลดูละมุนแน่ๆ อิอิ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #16 เมื่อ15-03-2016 22:33:07 »

เข้ามากรี๊ดเรื่องใหม่ของคุณข้าวปั้น 

เป็นแฟนคลับซีรี่ย์นี้ทุกเรื่องเลย

ออฟไลน์ JARKISREAL

  • [ ฉันเอง ]
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #17 เมื่อ15-03-2016 22:49:11 »

Sins เปิดตัวอีกเรื่องแว้วว จุดพลุ !

ออฟไลน์ Mom2maM

  • DRaMa ADdiCTeD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-9
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #18 เมื่อ15-03-2016 22:55:20 »

ตกใจ

ลุงนึกว่าคุณข้าวปั้นจะลงแค่ที่เพจกับเด็กดีซะแล้ว

ลงที่เล้าแล้วลุงปลื้มมาก เพราะอ่านจากเล้าสมาร์ทโฟน
สบายตากว่าอ่านจากเด็กดีเยอะเลย

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #19 เมื่อ15-03-2016 23:02:09 »

ข้าวโอ๊ตนี่จะใช่สำหรับพี่กุนต์ไหมนะ
คุณไผ่กวนมาก555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
« ตอบ #19 เมื่อ: 15-03-2016 23:02:09 »





ออฟไลน์ Vanillaเปรี้ยว

  • รักเด็กอายุยืนยาว กินเด็กชีวิตเป็นอมตะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #20 เมื่อ15-03-2016 23:40:17 »

มาลงชื่อจองไว้ก่อน

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #21 เมื่อ16-03-2016 00:14:07 »

เรื่องไม่ดราม่านี่ ขอยังไม่เชื่อนะคะ
แต่เปิดเรื่องมาน่าติดตามมากเลย
สารภาพว่าชอบเคะสไตล์พี่กุนต์มากก

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #22 เมื่อ16-03-2016 00:18:26 »

เย้ิ เปิดเรื่องใหม่แล้ว ขอให้ข้าวโอ๊ตเป็นคนที่ใช่นะ อย่ามาหรอกพี่กุนต์อีกเลย

ออฟไลน์ continued

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #23 เมื่อ16-03-2016 00:50:53 »

ชะอุ๋ยยย เรื่องใหม่

จะคงคอนเซ็ปดราม่าไหมน้า ........ เตรียมตับไตไส้พุงไว้ให้หน่วงแล้ว

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #24 เมื่อ16-03-2016 00:52:50 »

เข้ามาเกาะ คึคึ

ออฟไลน์ DLuciFer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #25 เมื่อ16-03-2016 01:05:06 »

ชูป้ายไฟเรื่องใหม่คุณข้าวปั้น กรี๊ดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.1] -- 15/3/59
«ตอบ #26 เมื่อ16-03-2016 01:25:01 »

กรี๊ด.ด...... เรื่องใหม่  o13 :hao6: :hao6:

พี่พิกุลแซ่บง่ะ หลงรักลุง เอ๊ะพี่หรือลุงสรุป  :hao3:

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.2] pg.1 -- 16/3/59
«ตอบ #27 เมื่อ16-03-2016 01:31:29 »





Chapter 2




เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น กนธีที่กำลังรื้อสัมภาระส่วนตัวของไววิทย์มากองเลยชะงัก เขาเดินไปมองตรงตาแมว แต่เพ่งอย่างไรก็ไม่เห็นอะไรนอกจากสีดำสนิท เหมือนถูกฝ่ามือใครสักคนปิดอยู่ เรียวคิ้วขมวดมุ่น..ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร
   
เขาปลดล็อค อ้าปากทักญาติผู้น้องที่ชอบกวนอารมณ์ตลอด “ไอ้หมาไผ่”
   
พสิษฐ์ยืนยิ้ม ในมือถือพวงมาลัยดอกดาวเรือง พอคนพี่เลิกคิ้วแทนคำถาม เขาก็โยนให้

“ซื้อมาแสดงความยินดีที่เลิกกับแฟนเด็กคนล่าสุดน่ะ”
   
“แสดงความเสียใจไม่เป็นหรือยังไง” กนธีส่ายหัว หยิบหนอนดาวเรืองที่ติดมาบนกลีบดอกออกทิ้งถังขยะ
   
ร่างสูงใหญ่ของคนอายุน้อยกว่าเดินไปนั่งเอกเขนกบนโซฟากลางห้องเหมือนเป็นคอนโดของตัวเอง แน่ล่ะ..เขาเข้านอกออกในห้องพี่กุนต์บ่อยเสียยิ่งกว่าแฟนคนไหนๆของหมอนี่อีก
   
พสิษฐ์กับกนธีเป็นญาติสนิทกัน พ่อของอีกฝ่ายกับแม่ของเขาเป็นพี่น้องคลานตามกันมา ป้าสะใภ้ของพสิษฐ์เสียชีวิตไปร่วมสิบปีแล้ว ส่วนคุณลุงก็แต่งงานใหม่ไปกับแหม่มฝรั่งตั้งแต่พี่กุนต์ยังวัยรุ่น คุณหญิงวรรณรี มารดาเขาเลยเป็นผู้ดูแลกนธีมาโดยตลอด กระทั่งหลานโตพอที่จะใช้ชีวิตของตัวเอง พี่กุนต์ถึงได้แยกออกมาอยู่คอนโดต่างหาก นานๆทีจะกลับบ้านใหญ่ที่ดูเงียบเหงา แต่ส่วนมากเวลาว่างจัดๆหรือโสดสนิทมักจะมาขลุกอยู่ที่บ้านของเขาแทน
   
“เตรียมเตะตูดโด่งแล้วหรือ” พสิษฐ์ปรายตามองกองเสื้อผ้าของไววิทย์
   
“เก็บหนังสือกองนี้เสร็จก็เรียบร้อย เดี๋ยวช่วยพี่ขนลงไปฝากล็อบบี้หน่อยนะ” กนธียังใจไม่แข็งพอที่จะโยนข้าวของส่วนตัวของอดีตเด็กเลี้ยงไม่เชื่องไปไว้ข้างถนน
   
“คนนี้คนที่สี่แล้วนะพี่กุนต์..พอซะทีเถอะ โสดๆแบบนี้ก็ไม่ตายเสียหน่อย”
   
“อะไรของแกวะ”
   
“ตั้งแต่ไอ้รัณย์ไม่อยู่..” พสิษฐ์เปรย “ผมว่า..พี่ใช้หัวใจเปลืองไปหน่อยมั้ง”
   
กนธีหันขวับมามอง สีหน้าติดจะไม่พอใจ “ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดดีกว่า”
   
คนฟังส่ายหัว ยกมือยอมแพ้ “โอเค..ไม่พาดพิง ไม่กล่าวถึง ไม่ลามปามก็ได้” เขาลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋าของไววิทย์มาถือทั้งสองใบ “เจอกันข้างล่างนะ”
   
คนอายุมากกว่าอือออรับ ก้มหน้าก้มตาเก็บเอกสารการเรียนของเด็กในอุปการะใส่ลังกระดาษ
   
“ตั้งแต่ไอ้รัณย์ไม่อยู่..ผมว่า..พี่ใช้หัวใจเปลืองไปหน่อยมั้ง”
   
..เปล่าเลย..ไม่ใช่สักนิด..

กระบอกตาเขาร้อนผ่าว มองไปยังกรอบรูปที่ตั้งไว้ข้างโต๊ะรับแขก..มันเป็นรูปถ่ายของเขากับอดีตคนรักตอนที่ไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ด้วยกัน ศรัณย์ทำเรื่องบ้าๆอย่างขุดหิมะให้เป็นหลุม แล้วก้มลงกระซิบ บอกคำว่ารักเขา ก่อนจะฝังกลบมันไว้เหมือนเด็กๆ 

“เออ..เพี้ยนดี” เขาหัวเราะ
   
“ผมจะทำแบบนี้ทุกที่ที่เราไปด้วยกัน เวลาพี่กุนต์หนีมาเที่ยวคนเดียว จะได้นึกถึงเรื่องเพี้ยนๆของผมเป็นอย่างแรก”
   
“ถ้าไม่อยากให้หนีเที่ยวคนเดียวก็สัญญาซะ..” เขาโยกหัวอีกฝ่าย “ว่าจะอยู่ข้างๆพี่..ไม่ว่าพี่จะไปไหนก็ตาม”
   
ศรัณย์ยิ้มตาปิด “สัญญาครับ..”

   
“โกหก..” กนธีหัวเราะหึ “เด็กอะไร..ไม่รักษาสัญญาที่พูดไว้”
   
เขาเดินไปหยิบกรอบรูปขึ้นดู กุหลาบขาวที่ตัดใส่ไว้ในแก้วคริสตัลเริ่มแห้งเหี่ยว
   
“พรุ่งนี้จะเอามาเปลี่ยนให้ใหม่นะครับ..”

ตั้งแต่ศรัณย์จากไป..ต่อให้เขาหาใครต่อใครเข้ามา
   
..‘หัวใจ’ ของเขา ก็ยังคงอยู่ที่ศรัณย์คนเดียว..
 
.

.

.



สองทุ่มครึ่ง พสิษฐ์พาญาติผู้พี่ออกมาจากคอนโดก่อนที่ไววิทย์จะเลิกเรียนภาคค่ำ เสื้อผ้า ข้าวของส่วนตัวของเด็ก พวกเขาขนลงมากองไว้ที่ล็อบบี้ ฝากพนักงานที่สนิทกันเอาไว้และกำชับให้ขอกุญแจกับคีย์การ์ดสำรองคืนมาให้ได้ กนธียังอุตส่าห์ใจดี ทิ้งค่าแท็กซี่ไว้สองร้อยในซองเอกสารปิดผนึกร่วมกับเช็คเงินสดที่จ่ายเป็น ‘ค่าตัว’ เดือนสุดท้าย
   
“หมดจากคนนี้แล้วก็เลิกเลี้ยงต้อยสักทีนะพี่กุนต์” พสิษฐ์เตือนกึ่งแหย่ เขามองกระจกส่องหลังแล้วเปิดไฟขอเข้าเลนกลาง “เด็กที่ไหนมันจะมาจริงใจกับพวกเรา”
   
“พูดเหมือนตาแก่อายุสี่สิบไปได้” กนธีเคาะนิ้วลงกับขอบประตูรถขณะที่กดเลือกเพลงสากลมาฟัง
   
“ถามจริงๆ..คราวนี้เสียใจหรือเปล่า”
   
“นิดหน่อย..มันชาๆที่หน้า แล้วก็หนึบๆบนหัว คล้ายว่ามีเขางอกมานาน” เขาทำนิ้วงอแล้วกวักยึกๆข้างศีรษะ
   
พสิษฐ์หัวเราะเฝื่อน “หัดมองหาคนที่อายุใกล้ๆกันบ้าง ไม่ต้องสนใจแต่คนอายุน้อยกว่าได้ไหม”
   
เขารู้ดี ว่ากนธีเลือกเด็กพวกนั้น เพราะทุกคนมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกับศรัณย์..คนรักเก่า
   
คนที่หนึ่ง..เป็นเด็กที่มาจากจังหวัดเดียวกันกับศรัณย์ คนที่สอง..เรียนมหาวิทยาลัยคณะเดียวกันกับศรัณย์ คนที่สาม..ดูท่าทางน่าสงสาร ตัวคนเดียวเหมือนกับศรัณย์ และคนล่าสุด..มีลักษณะนิสัยช่างเอาใจ ขี้อ้อน..เหมือนกับศรัณย์
   
..เขาไม่รู้ว่าคนต่อไปจะเหมือนกับศรัณย์ในแง่ไหน..
   
“อายุน้อยกว่าแล้วทำไมล่ะ” กนธีย้อนถาม
   
“พวกเด็กหนุ่มๆ..รู้ๆกันอยู่”
   
“ก็ไม่ได้หวังจะคบกันจนวันตายอยู่แล้ว” คนฟังเสมองออกนอกหน้าต่าง “มีคนดูแล คอยตามใจ คอยเป็นเพื่อนเวลาเหงาๆ แล้วก็แลกเปลี่ยนกันเรื่องเซ็กซ์..แค่นี้ก็จบ ผู้ชายมันมีแค่นี้แหละ”
   
“คิดซะแบบนี้ เมื่อไหร่จะเจอความรักดีๆ คนเรามีทัศนคติแบบไหน มันก็ดึงดูดคนมีทัศนคติแบบเดียวกันให้เข้ามาหานะพี่กุนต์” พสิษฐ์ทำตัวเป็นคุณตาแก่ๆสอนหลาน
   
“ก็ช่างหัวมันสิ”
   
“สักวันจะถูกเด็กฆ่าปาดคอเอา..ไม่กลัวหรือไง ยิ่งเปย์หนักอยู่ด้วย”
   
“รู้จักห่านทองคำไหม” กนธีหันมามอง พูดยิ้มๆ “เด็กพี่ทุกคนรู้ดี..ถ้าห่านตัวนั้นยังมีชีวิต มันก็จะออกไข่ทองคำให้ได้เรื่อยๆ แต่ถ้าพวกมันปาดคอห่านแล้วควักท้อง..มันก็จะไม่มีวันได้อะไรเลย”
   
“โอเคครับ” พสิษฐ์ยอมแพ้ “พ่อห่านทองคำของผม..”
   
พวกเขามาถึงตึกระฟ้าใจกลางเมืองด้วยเวลาไม่นานนัก บนอาคารสูงสามสิบชั้นบนถนนสุขุมวิท มีสกายเลานจ์ ชื่อว่า Vin Santo เปิดตั้งแต่สามทุ่มครึ่งจนถึงตีหนึ่ง
   
พสิษฐ์เสิร์ชหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ที่นี่รับแต่เมมเบอร์ชั้นสูง ล้วนแล้วแต่เป็นคนในแวดวงไฮโซ มีห้องวีไอพีทั้งหมดห้าห้อง สำหรับเจรจาธุรกิจและจัดเลี้ยงเป็นหมู่คณะ ช่วงกลางคืน เป็นเวลาสังสรรค์ของบรรดาพวกกระเป๋าหนัก ที่นี่เน้นกิน ดื่มและฟังเพลง ไม่มีเรื่องค้าบริการเข้ามาเกี่ยวข้อง
   
“สงสัยเราจะมาเร็วไป” กนธีขยับเสื้อสูทให้เรียบร้อย “ไปหาอะไรกินกันก่อนไหม”
   
“ถั่วลิสงน่ะหรือ”
   
“เป็นอะไรกับถั่วลิสงนักหนา” เขาผลักหัวคนข้างกาย เจ้าไผ่โวยนิดๆเพราะเขาทำทรงผมหล่อๆของมันยุ่งเหยิง
   
“ก็พี่กุนต์เวลาเคี้ยวข้าว ชอบอมข้าว เหมือนกระรอกยัดฝักถั่วตุนไว้ในกระพุ้งแก้มไง”
   
“ท่าทางจะน่ารักพิกล” กนธีทำท่าเหนื่อยหน่าย
   
“พี่กุนต์น่ารักสำหรับผมอยู่แล้วน่า” พสิษฐ์ยื่นแขนให้ควง “มื้อนี้เลี้ยงข้าวผมด้วยนะ..ค่าชม”
   
กนธีเหยียดปาก “ขออภัยที่หยาบคาย..กวนส้นตีนนะแกน่ะ”

ร่างสูงหัวเราะ กอดคอพี่ชายเดินลงบันไดวนมาชั้นล่างของเลานจ์ที่เป็นห้องอาหารอิตาเลียน ใช้ชื่อว่า Vin Santo เหมือนกัน ระหว่างนั้น มีสายโทรเข้าจากไววิทย์เป็นระยะ แต่กนธีตัดทิ้งตลอด หนักเข้าก็จัดการปิดมือถือเสียเลย

“พี่ว่าเด็กคนนี้มันจะยอมเลิกราโดยดีไหม” พสิษฐ์ถามขณะดื่ม Vin Santo ไวน์รสหวานของทัสกานีและเป็นตัวเลือกขึ้นชื่อของทางร้าน
   
“เห็นใจดีแบบนี้ แต่ถ้ารำคาญขึ้นมา พี่ก็ไม่เอาไว้ให้รกตาหรอก” กนธีตัดบทด้วยการเขี่ยมีทบอลไปให้อีกฝ่าย “กินเนื้อให้หน่อย แล้วก็ห้ามแย่งสลัด..พี่จอง”
   
สามทุ่มครึ่ง เริ่มมีผู้คนทยอยมาเรื่อยๆ แขกบางคนเลือกที่นั่งด้านในอาคารซึ่งเป็นฝั่งที่กั้นพื้นที่ด้านนอกด้วยกระจกใส จิบไวน์และฟังเพลงบรรเลงคลาสสิค ส่วนพสิษฐ์กับกนธี มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาแนะนำตัวหลังจากที่พวกเขาเข้าไปสมัครเมมเบอร์
   
“สวัสดีครับ..ผมชื่อปาลิน เป็นเพื่อนของอินทัช” เจ้าตัวยิ้มแย้ม อวดเขี้ยวซี่เล็ก “โอ๊ตบอกผมไว้แล้วว่าคุณกนธีจะมา ผมเลยขออนุญาตทำการ์ดวีไอพีไว้ให้ก่อนครับ รบกวนช่วยเซ็นชื่อตรงนี้” ว่าพลางยื่นเอกสารให้ด้วยท่าทีอ่อนน้อม
   
กนธียิ้มรับ เขาสมัครคนเดียว แต่เจ้าไผ่ไม่เอาด้วยเพราะไม่คิดจะมาบ่อยนัก

ค่าดื่มของที่นี่นับว่าอยู่ระดับต้นๆ เฉพาะเปิดขวดสองพันบาท เมมเบอร์คิดดื่มละสองร้อย คนทั่วไปจะจ่ายแพงกว่า เป็นสามร้อยบาท หากมาในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ จะคิดทีเดียวยี่สิบดื่ม ไม่นับรวมค่าทิปที่พวกคนในสังคมระดับนี้จะจ่ายกันเป็นเรื่องปกติ
   
“ขอบพระคุณครับท่าน” ปาลินกระพุ่มมือไหว้ก่อนจะค้อมตัว เชิญแขกสองคน “ไม่ทราบว่าจะเลือกเป็นโซนห้องแอร์ หรือโซนด้านนอกดีครับ”
   
“อินทัชบอกว่าเขาจะขึ้นเล่นดนตรีคืนนี้” กนธีว่า “ขอโต๊ะที่ใกล้เวที หรือวิวสวยหน่อย แยกจากแขกคนอื่น แล้วก็ไม่เอากลิ่นบุหรี่ได้ไหม”
   
ปาลินยิ้มรับ พาเดินไปด้านนอกที่เป็นชั้นดาดฟ้าของตึกสูง เลือกที่นั่งแถวที่สาม เยื้องกับเวทีการแสดงเล็กน้อย แต่สามารถมองเห็นได้ทั้งกลุ่มนักดนตรีและวิวตึกสูงของยามค่ำคืนที่เห็นแสงไฟระยิบระยับตัดกับท้องฟ้าสีเข้มด้านบน

กนธีนั่งลงกับโซฟาหวายสีดำ เบาะหนาที่ปูไว้ให้บรรยากาศสบายๆ มีหมอนอิงให้เอนตัว ด้านข้างโต๊ะเป็นกระจกนิรภัยหนา ปลูกดอกบัวสวรรค์เป็นทิวแถว หลังสุดเป็นบาร์เหล้า มีบาร์เทนเดอร์สี่ถึงห้าคนคอยให้บริการ

เด็กหนุ่มคุกเข่าลง วางเมนูอาหารและเครื่องดื่มบนโต๊ะกลางก่อนจะจุดเทียนหอมทั้งสามแท่งให้ผ่อนคลายไปกับสายลมอุ่นๆของช่วงฤดู “อีกสักครู่ บริกรจะมารับออเดอร์นะครับ เชิญทุกท่านพักผ่อนตามสบาย Vin Santo ยินดีต้อนรับครับ”

พสิษฐ์มองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินจากไปจนกนธีต้องเอาหมอนตบหัว

“คิดอะไรอยู่วะ”

“จะบ้าหรือพี่กุนต์” เขากุมหัวป้อย “แค่คิดว่าเด็กคนนั้นอายุสักเท่าไหร่กัน หน้าตาเหมือนเพิ่งจะพ้นวัยมัธยมมาหมาดๆ”

“คิดจะต้อยเด็กหรือไง” คนพี่แหย่ “ไอศูรย์ ภาษยวัตคนนั้น..ไม่จีบต่อแล้วหรือ”

พสิษฐ์แทบจะสำลัก นึกถึงคราวที่เขาต้องแบกคุณหมูที่เมาไวน์ไปส่งถึงบ้าน ก็เพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้พี่กุนต์เห็นเข้า จะต้องถูกล้อไปอีกครึ่งปีแน่ แต่นี่ขนาดไม่ได้สนิทสนมกันเปิดเผย พี่กุนต์ยังอุตส่าห์รู้เรื่องจนได้

“เขามีแฟนแล้ว” ชายหนุ่มเปิดเมนูผ่านๆ

“ชั่วนี่หว่า..คิดแย่งแฟนคนอื่น”

“พูดมาก เดี๋ยวจับโยนลงจากดาดฟ้าซะเลย” พสิษฐ์ขู่ “คุณหมูเป็นเพื่อน ผมไม่ได้คิดเกินเลย อย่าเพิ่งแซวไป”

“เรื่องของแก พี่ไม่เกี่ยว” กนธีหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบริกรที่มารอรับ

.

.

.


อินทัชเตรียมตัวอยู่หลังเวที เขากำลังเช็กเสียงกีต้าร์ของตนตอนที่ปาลิน..เพื่อนสนิทที่รู้จักกันตอนมาทำงานที่นี่เดินเข้ามาหา เด็กหนุ่มพยักพเยิด ถามว่าคืนนี้เพื่อนจะขึ้นเวทีด้วยไหม

ปาลินส่ายหัว เขาเองก็เล่นดนตรีเป็น แต่ไม่ค่อยถนัดนัก ส่วนใหญ่จะร้องเสียมากกว่า แต่คืนนี้เสียงไม่ค่อยมี เลยคิดว่าจะเสิร์ฟและคอยบริการแขกอยู่ด้านล่างแทน

“ระวังพวกไอ้เฒ่าด้วยล่ะ” อินทัชปราม

ที่นี่ไม่มีการขายบริการก็จริง แต่เรื่องเด็กที่คอยนั่งรินเครื่องดื่มและเอาใจแขกนั้นยังคงมีตามปกติ ส่วนใหญ่แขกดีๆก็มักจะเคารพกฎที่ว่าไม่มีการไปต่อกันข้างนอก แต่ก็มีบ้างที่แขกบางคนเอาแต่ใจ คิดว่ามาร่วมดื่มแล้วต้องได้ตอดเล็กตอดน้อย หรือซื้อตัวไปค้างคืนด้านนอกได้ด้วยการทุ่มเงินหนักๆ

“อืม..ระวังอยู่แล้ว”

ปาลินเป็นเด็กใหม่ เพิ่งมาทำที่นี่ได้ห้าเดือนกว่า เขายังเรียนอยู่ชั้นปีที่หนึ่ง คณะศิลปกรรม มีพี่ชายเพียงคนเดียวคอยส่งเสียค่าหน่วยกิต แต่ห้าเดือนก่อน พี่ตกงานเพราะไปล่วงรู้ความลับทางบัญชีที่ไม่ดีนักของบริษัท ทางนั้นคิดจะซื้อใจด้วยการยัดเงินใต้โต๊ะ แต่พี่ชายไม่เล่นด้วยเลยชิงออกมาดื้อๆ ทำให้การเงินไม่ค่อยคล่องเหมือนแต่ก่อน เขาเลยแอบพี่มาทำงานพิเศษ หวังจะแบ่งเบาภาระ

“แล้วก็อย่าไปวนกับแขกเยอะไปจนเมานะ เอาโต๊ะเดียวพอ” อินทัชลอบมองไปหน้าเวที “คุณป้าแถวแรกนั่นน่ะ..อ้อนๆหน่อย เดี๋ยวก็ได้ทิปแล้ว”

ปาลินยิ้มเฝื่อน เขาก็ละอายอยู่บ้าง ที่ต้องเอาใจคนอื่นในขั้นที่เรียกได้ว่า ‘เสแสร้ง’ เพื่อแลกเงิน แต่ทำอย่างไรได้เล่า บางที..แค่ยอมให้หอมแก้ม เขาก็ได้ค่าขนมมาหนึ่งพันแล้ว แต่ถ้าอยากได้หนักๆในครั้งเดียว ต้องเลือกโต๊ะผู้ชายที่มีอายุหน่อย หาคนที่มองเขาด้วยสายตาเป็นประกาย เพียงเท่านั้นก็จะรู้ว่าแขกมีรสนิยมอย่างไร ให้จับนิดๆหน่อยๆ ขั้นต่ำที่ได้มาโดยตลอดคือสองพัน ไม่มีน้อยกว่านี้

มะรืนนี้ต้องจ่ายค่าหน่วยกิตสองหมื่นแปด เขามีเงินเก็บอยู่สองหมื่นแล้ว คืนนี้กับพรุ่งนี้ หารวมกันให้ได้อีกสักหมื่น เผื่อเหลือเผื่อขาด เท่านี้ก็รอดไปอีกเทอม

“เราไปก่อนนะโอ๊ต..”

ปาลินช่วยดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้า อินทัชสวมเสื้อเชิ้ตพับครึ่งแขน กางเกงยีนส์สีดำเข้ารูปกับช่วงขาสูงเพรียว หมอนี่ดูดีเสมอเวลาแต่งตัวแบบผู้ใหญ่ คิดว่าถ้าได้ใส่สูทผูกไท อยู่ในชุดทำงานจะต้องได้ใจสาวๆแน่นอน

“สู้ๆล่ะ”

อินทัชพยักหน้ารับ ยกกีต้าร์ขึ้นสะพายบ่าก่อนจะเดินขึ้นเวที

จากตรงนี้..เขาเห็น ‘แขก’ รายใหม่ของเขา

..กนธี สิงหนาท..ไฮโซตระกูลดัง กระเป๋าหนัก มีที่ดินและทรัพย์สินอีกมาก..

เขายิ้มทักอีกฝ่าย ในหัวนึกไปถึงค่าเมมเบอร์ห้าพัน คนในแนะนำ แขกได้ลดสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนคนแนะนำ..ก็ได้ค่าหัวเป็นโบนัส..หัวละพัน ไม่นับรวมเรื่องค่าทิป ถ้าเขาร้องเพลงได้ถูกใจ และไม่นับรวมค่าดื่ม กับค่าเอาใจตัวต่อตัว

..เขาหาเงินง่ายๆด้วยวิธีนี้เอง..

 

...............................................................................




ปาลิน......ร่างอวตาร เอ้ย ร่างเกิดใหม่ของคนเก่า  :really2:
มีแต่พี่ชาย / พี่ชายลาออกจากงาน / ชอบวาดรูป

 :hao7:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2016 01:36:43 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: Sins : Greed -- [Ch.2] pg.1 -- 16/3/59
«ตอบ #28 เมื่อ16-03-2016 01:53:07 »

ฝันชัดๆ 555 ดีใจมาก และยินดีต้อนรับกลับมาค่ะ หนูอ่านพี่หมูรอพี่มานานแล้ววว

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.2] pg.1 -- 16/3/59
«ตอบ #29 เมื่อ16-03-2016 02:18:47 »

ปักธง รอติดตามนะคะ

 :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด