ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นครึ่งตรงข้ามเซเว่นที่เปรียบเสมือนโอเอซิสของใครหลายๆ คนทั้งในยามกลางวันและในยามกลางคืนรวมถึงเหล่าคนที่ขลุกอยู่ในทาวน์เฮ้าส์หลังหนึ่งที่อยู่ริมสุด ด้านหน้าจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้แน่นเอี๊ยด รองเท้าหลายคู่ถอดสะเปะสะปะมีแต่รองเท้าเก่าเก็บ เพราะหากเป็นรองเท้าใหม่ หลังจากคุณออกจากร้านอาจมีมือดีสับเปลี่ยนรองเท้าคุณให้เก่าราวกับใช้มาเป็นสิบปี นับว่าเป็นเรื่องลี้ลับที่ไม่มีใครพิสูจน์ได้
ทางเข้าเป็นกระจกทั้งแถบ ติดด้วยโปสเตอร์เกมออนไลน์ที่กำลังฮิตอยู่ช่วงนั้นๆ บนบานประตูติดกังสดาลหรือกระดิ่งลมส่งเสียงกรุ้งกริ้งทุกครั้งที่มีคนเปิดเข้าไปภายในไล่สายตาเยื่องไปหน่อยจะเห็นสติ๊กเกอร์ตัดเป็นตัวหนังสือแปะไว้บนกระจกว่า ชั่วโมงละ 15 บาท เปิด 11.00 –22.00น.
ทันทีที่เปิดประตูจะได้กลิ่นอาหารสารพัดเมนูตบตีกันพร้อมความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศพุ่งเข้าปะทะใบหน้า สิ่งแรกที่เจอคือโต๊ะคอมเรียงกันสี่แถวภายในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมีโต๊ะที่ดูหรูหราที่สุดอยู่ติดกับประตูร้าน ข้างๆ กันมีชั้นวางขนมขบเคี้ยวกับตู้แช่เครื่องดื่มโนแอลกอฮอล์ติดราคาไว้เสร็จสรรพ
ทุกคนที่อยู่ด้านในเป็นผู้ชายทั้งหมด บ้างนั่งเล่นคอมสวมหูฟัง บ้างเกาะเก้าอี้ส่งเสียงแอะอะคุยกับเพื่อนที่กำลังเพ่งจอคอมเขม็ง ก่อนจะโดนด่าจากผู้ที่นั่งประจำตำแหน่งเจ้าของร้านบนโต๊ะหรูสุด ทุกคนเรียกที่นี่ว่า...
ร้านเกม...
“ไอ้เด็กเหี้ย! ส่งเสียงหาพ่องเหรอ กูบอกว่าห้ามเอะอะในร้านกูไง”
“เฮ้ย! โต๊ะสิบเอ็ดจะหมดชั่วโมงแล้ว ถ้าอยากเล่นต่อไสก้นมาจ่ายเงินต่อชั่วโมงซะ”
“อ้าว ใครสั่งกะเพราป้าแจ่มร้านข้างๆ มาวะ แดกแล้วอย่าลืมเก็บจานไปคืนด้วย ห้ามทำหกเลอะเทอะโต๊ะคอม!”
“มึงอยากตายใช่มั้ย! ดูป้าย!! ห้ามสูบบุหรี่ในร้านและหน้าร้านของกู ถ้ามึงอยากเป็นมะเร็ง นู่น ข้างร้านมีที่สำหรับพวกมึงพร้อมถังทราย อย่าให้กูเห็นก้นบุหรี่นะ ไม่งั้นกูจะตรวจดีเอ็นเอแล้วไปกระทืบถึงบ้านแม่ง”
“สัตว์สองตัวที่ผสมพันธุ์กันในห้องน้ำร้านกู กรุณาเก็บซากแล้วออกไปจากร้านกู ณ บัด NOW!! ไม่งั้นกูจะถีบประตูเข้าไปถ่ายรูปพวกมึงประจานลงเน็ต!”
“เฮ้อ...เจ็บคอเป็นบ้า นี่กูเป็นเจ้าของร้านเน็ตหรือหัวหน้าค่ายทหารเนี่ย”
ผมแหกปากด่าคนมาทั้งวัน ทั้งเหนื่อยทั้งคอแห้งจนต้องหยิบน้ำดำในตู้แช่มากระดกคืนความสดชื่นให้กับลำคอ ร่างสูงโปร่งทรุดลงนั่งบนเก้าอี้แสนนุ่ม
เฝ้าร้านเกมก็งี้ ศูนย์รวมเด็กวัยรุ่นมากหน้าหลายตา ข้ามเขตกันมาเล่นก็มีเพราะร้านแอร์เย็นมีครบทุกอย่าง ตรงข้ามเป็นเซเว่น ข้างร้านเป็นอาหารตามสั่ง ห้องน้ำสะอาด เครื่องคอมใหม่เน็ตแรงราคาเป็นกันเอง นี่โฆษณาขนาดนี้อย่าลืมมาใช้บริการนะครับ หนุ่มสาวมาได้หมด ถ้าสาวสวยมาจะช่วยเทคแคร์เป็นพิเศษ...แฟนเผลอแล้วเจอกัน หุหุ
ชีวิตของไอ้พวกเด็กติดเกมไม่มีอะไรมาก ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องวิ่งเข้าร้านเกม ใช้เงินค่าขนมจ่ายตามชั่วโมง ส่งเสียงเอะอะกันลั่นร้าน โต๊ะนั้นชะโงกคุยกับโต๊ะนี้ บางทีไม่ได้โต๊ะติดกัน คุยกันข้ามหัวน้ำลายสาดกระเซ็น พอหิวค่อยไปสั่งอาหารตามสั่งมานั่งกินหน้าคอม ไม่ก็เข้าเซเว่น ทำให้ในร้านตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นอาหารจนต้องติดเครื่องฟอกอากาศอย่างดี สาเหตุที่ผมไม่ว่าพวกมันเพราะผมก็ทำเหมือนกัน
กินหมดค่อยให้ที่ร้านมาเก็บจานคืน ร้านปิดกอดคอกันกลับบ้าน ผมว่าปล่อยเด็กมันเล่นเกมดีกว่าให้มันไปขับรถซิ่ง กินเหล้าเมายาที่ไหน ถามว่าเล่นเกมกันจนทะเลาะลงไม้ลงมือกันมีมั้ย ขอบอกเลยว่ามี บางทีเป็นอริไม่ถูกกันซัดกันหน้าร้านประจำ ส่งผลให้ผมต้องลงแรงกระทืบพวกมันจนสำนึก
มีพวกอาจหาญดูคลิปโป๊ในร้านกลางวันแสกๆ โคตรเสี่ยงไวรัส ไม่พอยังเปรี๊ยวเอาหญิงเข้าไปกินในห้องน้ำร้าน ผมไล่ตะเพิดหมดอะ ที่นี่ถิ่นผม ผมเป็นเจ้าของ ทุกคนต้องเคารพกฎของผม
หากต้องการสูบบุหรี่ข้างร้านมีที่ ผมจัดไว้ให้แล้วเพราะมานั่งพ่นควันหน้าร้านมันไม่เจริญตา ห้องน้ำมีไว้ถ่ายเบาหนัก ไม่ใช่โรงแรมม่านรูด กินอาหารเสร็จต้องเก็บทิ้ง ใครทำมดขึ้นอุปกรณ์คอมผมเจ๊งจับปรับหมด ห้ามดูคลิปโป๊หรือเอาสิ่งอบายมุขทั้งหลายเข้ามาภายในร้าน เพราะผมจะเปรี๊ยวปากอยากแดกด้วย เอาไว้ร้านปิดค่อยตั้งวงดวลเหล้ากัน
ระหว่างกำลังระลึกถึงกฎที่ตัวเองตั้งขึ้น มีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งเกาะอยู่ข้างโต๊ะยื่นแบงค์ยี่สิบมาสามใบเพื่อต่อชั่วโมงเล่นเกม
“ลูกพี่ก็ทำใจร่มๆ อย่าเอาแต่ตวาดเสียงดังสิ พูดธรรมดามันก็รู้เรื่องกันแล้ว” เด็กหนุ่มหัวเราะหลังเจ้าของร้านรับเงินไปเพราะกดเพิ่มชั่วโมงให้โต๊ะสิบเอ็ดเรียบร้อย
“มึงจะให้กูพูดเสียงนุ่มเหมือนคนแดกฮอลล์รึไงวะไอ้อิค พวกมันฟังกูที่ไหน”
เสียงทุ้มติดแหบฟังดูเซ็กซี่ตอบด้วยความเบื่อหน่าย เขาชื่อ ‘เขต’ หนุ่มวัย 25 ปี รูปหล่อพ่อไม่รวย ผิวสองสี สูงร้อยแปดสิบกว่า น้ำหนักได้มาตรฐาน มีซิกแพคเป็นลอนปานนายแบบ จมูกเป็นสัน ดวงตาคมคิ้วเข้ม ริมฝีปากได้รูป เรือนผมสีเทาจากการกัดย้อมเซ็ตทรงทรมานใจสาว เจาะหูข้างขวา ลำคอถึงต้นแขนซ้ายมีรอยสักสุดเท่ ตรงท้ายทอยสักคำว่าเขตเป็นภาษาอังกฤษ ทำงานแปลหนังสือให้กับสำนักพิมพ์หนึ่ง ควบตำแหน่งฟรีแลนซ์รับแปลเอกสาร รายงาน ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษและจีน
“ได้แบบนั้นก็ดี แต่พวกผมรู้ดีว่าคนที่ได้สิทธิ์นั้นมีแต่เฮียมิก”
เด็กผียักคิ้วหลิ่วตาไม่ยอมกลับโต๊ะ ผมโบกหัวมันไปที อย่าเอาชื่ออันศักดิ์สิทธิ์นั่นมาพูดในเพลานี้ มิก หรือ ‘มิกกี้’ คือแฟนหนุ่มของผมเอง ไม่ต้องร้องฮะตาโต ผมมีแฟนเป็นผู้ชายจบนะ
ถ้าจะให้บรรยายรูปร่างหน้าตา บอกได้ว่าหล่อคมคาย ดวงตาสวย เรือนผมสีดำเงาหยักศกนิดๆ ยุ่งเหยิงเหมือนทะเลาะกับหวี ผิวขาวเหลือง สูง 176 ตามตัวสะอาดสะอ้านไร้รอยสัก มีแค่โฟแพค ทำงานเป็นเจ้าของอู่รถอยู่อีกสามซอยถัดจากร้านของผม อู่นี้ไม่ไก่กา แต่ละวันมีแต่รถหรูเข้า นี่ถ้าโจรยกเค้าอะไหล่ในร้านคงรวยไปทั้งชีวิต
หากมันมีชีวิตรอดนะ นอกจากลูกสมุนในอู่จะทำงานถวายหัวให้แล้ว มิกยังมีพรรคพวกด้านนอกอีกเพียบ คนที่มากระตุกหนวดเสือได้ตายหยั่งเขียดชัวร์
“ปากดีมึง กลับไปเล่นเกมมึงไป”ผมผลักหัวมัน มันดันหัวสู้ อิคมันเป็นเด็กแถวนี้แหละ เห็นกันมาตั้งแต่ตัวเท่าเมี่ยง ตอนนี้โตเป็นควายเอ็นดูเหมือนน้องชายคนหนึ่ง บางวันผมไม่ว่างมีธุระต้องไปคุยเรื่องงานกับบก. ผมก็ให้มันช่วยเฝ้าร้านนี่แหละ
“ไม่เอา โอกาสงามๆ แบบนี้หายาก เฮียมิกไม่อยู่ทางสะดวกผม”
ทำเป็นยื่นหน้าเข้ามาหา ผมรู้มันไม่คิดอะไรหรอก แค่แหย่ไปงั้น ผมเลยขำๆ ลังเลว่าจะหยิบคีย์บอร์ดโบกหัวดี หรือจะเอาเม้าส์กระแทกปาก จังหวะที่กำลังจะหยิบคีย์บอร์ดมาโบก หลังคออิคถูกมือใหญ่ดึงออกไปด้านหลังพร้อมโยนลงพื้นแบบไม่ใยดี แถมตีนเขี่ยเหมือนแหย่ซากหมา
ชายที่มาใหม่เป็นชายร่างสูงหัวเทาหน้าโฉดแผ่ออร่าว่ากูใหญ่ออกมาจนเด็กในร้านหัวหดกันเป็นแถว ด้วยรู้ดีว่าเจ้าตัวเหี้ยมแค่ไหน
“ยุ่งไรเมียกูอิค เดี๋ยวปั๊ดกระทืบไส้แตก”
“โห่เฮียมิก กับน้องกับนุ่งยังทำกันได้ลงคอ”อิคมันดิ้นแด่วๆ เหมือนแมลงสาบโดนไบก้อนอยู่บนพื้น เจอแตะช้างดาวถีบกลิ้งไปนู่น สมน้ำหน้ามันโดยแท้ ผมไปยันมันอีกสักทีดีมะ ถูไปถูมา พื้นร้านจะได้สะอาด ไม่ต้องถูเอง
อะไร งงเหรอ ทำไมคนหัวเทาถึงชื่อมิก ไม่ต้องงงหรอก ทุกอย่างตรงตามที่บอกไป ยกเว้นเรื่องรูปร่างหน้าตาอย่างเดียว คนที่มีหัวเทามีรอยสักคือมิก ส่วนผมเป็นไอ้หนุ่มหัวดำยุ่งๆ ชื่อเขตต่างหาก แค่อยากจะมโนว่าตัวเองโคตรหล่อบ้างอะไรบ้าง แม้ปัจจุบันจะหล่ออยู่แล้วก็ตาม
“น้องกูก็กระทืบได้ถ้ายุ่งกับเมียกู” มิกส่งเสียงเหี้ยม ผมเอื้อมมือไปตบปากมัน คนทั้งร้านสะดุ้งพากันเงียบเป็นเป่าสากไม่เว้นกระทั่งพวกของมิกจอมโฉดที่ออกันอยู่หน้าร้านอย่างกับมาทวงหนี้
“คำก็เมีย สองคำก็เมีย กูบอกให้เรียกยังไง” ผมไม่กลัว แถมยังโบกหัวมันไปอีกที ไอ้มิกหันขวับ!
“เสี่ยเขตอย่าโกรธนะ คิดถึงเลยมาหา ไม่เอาไม่โมโหนะ” จับมือผมที่กำลังจะง้างอีกทีไปจูบลูบคลำแทน เนียนลวนลามกูอีกละ ในร้านเด็กเยอะแยะเดี๋ยวปั๊ดเอาคอมทุ่มหัวแตกผมดึงมือกลับกวาดตาที่คิดว่าโหดให้เด็กในร้านมันหันหน้าไปเล่นเกมต่อซะ
“อิค เฝ้าร้านแป๊บ เดี๋ยวให้เล่นฟรีชั่วโมงหนึ่ง”สิ้นคำก็ลากคอมิกขึ้นชั้นบนโดยมีเสียงอิคขานรับไล่หลัง
แม้ชั้นล่างจะเป็นร้านเกม แต่สองชั้นบนเป็นที่อยู่ผมเอง ชั้นสองเปรียบเสมือนห้องนั่งเล่น+ห้องครัว ชั้นสามเป็นห้องนอน ดาดฟ้าเป็นที่ตากผ้า ซึ่งผมลากมันมาชั้นสอง
“มีอะไรวะ ไม่เฝ้าอู่ไงถึงมากวนกูที่ร้าน” มิกมันเป็นคนเอาการเอางาน ไม่มีทางทิ้งอู่มาโดยไม่จำเป็นแน่ เพราะอู่นั่นมันสร้างมาเองกับมือโดยใช้ทุนพ่อที่เป็นเจ้าของอู่เหมือนกัน ซึ่งตอนนี้มันถอนทุนคืนพร้อมดอกเบี้ยให้พ่อมันหมดเรียบร้อย ช่างเป็นลูกชายแสนดี เอาเงินพ่อมาเปิดอู่แข่ง พ่อมันก็อินดี้ตามใจลูกอีก
“มาหาเสี่ยเขตไง พักหลังอู่ยุ่งๆ ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับเสี่ยเลย เดี๋ยวเสี่ยจะไปมีอีหนูคนใหม่กันพอดี” เสือโหดเปลี่ยนร่างเป็นแมวหง่าวกอดเอวเอาหัวไถๆ ได้อย่างน่าตบ ก็อยากจะขยุ้มหัวมันหรอกนะ ด้วยความที่มันกัดสีแล้วย้อมบ่อยจนแข็งเป็นไม้กวาดหยากไย่ทำเอาตูฟินไม่ลง
“ตลกละ ไม่ค่อยมีเวลา ห่านจิก เมื่อคืนหมาตัวไหนแม่งทับอยู่บนตัวกูวะ”พูดก็พูดยังระบมไม่หาย วันนี้อุตส่าห์ไม่ลุกไปไล่ตืบเด็กแต่นั่งเฉยๆ แล้วนะ
“ใคร!!” แมวกลับเป็นเสืออีกรอบ แถมพร้อมจะขย้ำผมอีกต่างหาก ไม่สิ แม่งขยำแล้ว ขยำก้นผมเนี่ย ไอเหี้ยยยย
“ไอ้ควายยย มึงไง โอ๊ยย กูยังเจ็บอยู่นะเอามือมึงออกไป” ช่วงล่างเดี้ยงท่อนบนยังใช้งานดีอยู่นะคุณ กระแทกหมัดเข้ากล้ามพุงตามด้วยทิ้งศอกทุบมันร่วงแม่ง
“ก็แล้วไป...ยังแรงดีแบบนี้คืนนี้ต่อก็ได้มั้ง” มันนิ่วหน้าด้วยความเจ็บแต่ช้อนตามองอ้อนตาใส ถุย คิดว่าใช้มุกนี้กับผมมากี่ปี ไม่หลงกลหรอกเว้ย
“ได้ก็ห่านแล้ว ตกลงมึงจะมากวนตีนกูเฉยๆ ใช่ปะ ถ้าใช่ก็ไสก้นมึงกลับอู่ไปได้ละ ทิ้งให้เด็กมันเฝ้าไม่กลัวโดนมันยกเค้าบ้างรึไง อีกอย่าง พรุ่งนี้กูยังต้องเปิดร้าน จะมานอนเดี้ยงไม่ได้ เวลาเป็นเงินเป็นทอง” ส่วนแปลต้นฉบับเพิ่งส่งไปไม่กี่วันก่อน คงเพราะงี้ด้วยมั้ง ช่วงที่ผมทำงานจะสั่งห้ามมิกโดยเด็ดขาด พองานเสร็จมันเลยเก็บกด ความซวยก็ตกมาอยู่บนหัวผมเนี่ย
“แน่ใจเหรอ” จู่ๆ มันก็ทำสีหน้าจริงจัง ผมหรี่ตามองไม่ไว้ใจ
“อะไรมึง”
“พักนี้กูเห็นมันวนเวียนแถวร้านมึง ก็ว่าจะมาอยู่ด้วยเพื่อคุ้มครองสักหน่อย แต่ถ้ามึงโอเคก็ตามใจ กูกลับไปนอนเฝ้าอู่ก็ได้”ถอนหายใจส่ายหัวราวกับคนปลงต่อโลก ส่วนผมชะงักตัวแข็งทื่อตั้งแต่ที่มิกบอกว่าเห็น ‘มัน’
“ช้าก่อนเฮียมิก เสี่ยเขตมาคิดดูแล้ว นอนคนเดียวน่าจะเหงา เฮียมิกมานอนด้วยกันเถอะ” พลิกลิ้นอย่างไว จะอะไรผมก็ไม่กลัว นอกจากสิ่งที่เรียกว่ามัน!
คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าผมเป็นบ้าอะไร เมื่อผมอายุครบสิบห้าปี ชีวิตก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีน ชอบดึงดูดแต่สิ่งลี้ลับทั้งที่มองไม่เห็นและสัมผัสไม่ได้ มาเพียงเสียงกับกลิ่นให้ประสาทหลอนจนจับไข้ ตรงข้ามกับมิก มันทั้งมองทั้งสัมผัสได้ แถมยังไล่ผีได้ด้วย! นี่คือสาเหตุหลักที่ผมยอมคบกันมันเมื่อสมัยเรียนเชียวนะ
พูดไปก็น่าอาย มันจีบตั้งนานไม่ติด พอมันแสดงอภินิหารเท่านั้นแหละ กูยอมพลีกายเลยจ้า ใจง่ายจริงๆ ตู...
“ถ้าเสี่ยพูดแบบนี้เฮียก็โอเคงั้นไปเฝ้าอู่ก่อนนะ ไว้ปิดแล้วจะนอนกอด” จูบขมับทิ้งท้ายแล้วเริงร่าลงชั้นล่างพาลูกน้องกลับรังให้ร้านผมกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง แม่ง สงสัยคราวหน้าถ้ามันจะขนลูกน้องมาให้ไปจอดไกลๆ เด็กมันกลัวจนไม่มีใครกล้าเข้าหรือออกจากร้านสักคน
“เฮ้ยลุก กลับไปออนเครื่องมึงไป” ผมโบกหัวอิคที่กำลังเมามันกับเกม ไม่นึกโกรธที่มันยึดคอมผมเล่น เพราะผมเคยอนุญาตมันเอง อีกอย่างอิคมันไว้ใจได้ ไม่โกงเวลาหรือทำอะไรบ้าๆ แน่นอน
“อ้าว เสร็จแล้วเหรอ นึกว่าจะนาน หรือเฮียจะฟิตไม่พอ ถ้าไม่ถึงใจมาหาผมได้นะ”
งานนี้โบกมันหัวโขกคีย์เลยครับ
“ทะลึ่งแล้วมึง เพื่อนเล่นเหรอ กูพี่มึงนะ เดี๋ยวเรียกมิกกลับมาแม่ง” ผมถลึงตาใส่อิคที่ตาลีตาเหลือกลุกจากเก้าอี้ยกมือไหว้ก้มหัวปลกๆ
“โทษครับเสี่ยเขต ปากผมมันไม่ดี อย่าฟ้องเฮียมิคนะ” ว่าพลางตบปากลงโทษตัวเองโชว์ มันวัยรุ่นวัยคะนอง ผมกลอกตาเอือมระอา
“อย่าให้มีครั้งที่สองแล้วกัน ออนเครื่องมึงซะ โต๊ะ 11 ใช่มั้ย เดี๋ยวกูต่อเวลาให้ชั่วโมงหนึ่ง” ตามที่สัญญาไว้นั่นแหละ ผมเป็นพวกพูดคำไหนคำนั้น ไอ้อิคยิ้มปากจะฉีกถึงหู
“ขอบคุณครับเสี่ย วันหลังใช้บริการอิคได้นะ จะให้ไปดูแลร้านทองเสี่ยก็ไม่มีปัญหา” มันพูดทีเล่นทีจริง ผมยกขาเตรียมยันจนมันหนีกลับโต๊ะ
ก็อย่างที่อิคมันพูดแหละ กิจการอีกอย่างหนึ่งของผมคือร้านทอง ถึงโดนเรียกว่าเสี่ยไง แต่ผมไม่ยอมไปนั่งเฝ้าทองในกรงขัง เลยเก็บตังเปิดร้านเกมเอง เริ่มจากไม่กี่เครื่องจนขยายเต็มทั้งร้าน ก็ได้มิกมันช่วยไว้เยอะแหละถึงสำเร็จลุล่วงด้วยดี ส่วนร้านทองปล่อยให้พ่อแม่ดูแลต่อไป ระหว่างรอน้องชายโตพอจะบริหารเองได้แม้ผมจะหวั่นๆ ว่ามันจะชิ่งไปหางานทำเองปล่อยให้ผมเฝ้าก็เถอะ
พอเวลาทุ่มครึ่ง ผมก็ไล่พวกเด็กอายุต่ำกว่า 15 ออกจากร้านก่อนสองทุ่มตามกฎหมาย รอจนสามทุ่มกว่าก็ไล่พวกอายุไม่ถึง 18 ไปอีกชุด ที่เหลือเลยมีแต่รุ่นใหญ่ อย่างเด็กมหา’ลัยที่หนีเน็ตหอมาพึ่งร้านเพื่อทำงานจะอยู่ในโซนด้านใน ผมแบ่งไว้เรียบร้อย ไม่งั้นเสียงเอะอะโวยวายของพวกเด็กๆ ได้รบกวนประสาทจนไม่เป็นอันทำงานพอดี