}Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: }Preorder{เป็นเกย์กันมั้ย? (ซัน-โป้) พิเศษมูน-จิน5 P.14 [31/10/60]  (อ่าน 170492 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

****************************************************************************************

เรื่องย่อ
     หนุ่มเหนือนาม 'ปีโป้' เปลี่ยนแนวจากการอยู่ต่างจังหวัดมาเรียนในกรุงเทพ พร้อมพกความลับหนึ่งอย่างติดตัวไปอยู่หอพักของมหาลัย เพียงแค่ไม่ถึงเทอมเขาเปลี่ยนรูมเมทไปแล้วสองครั้ง! คนแรกเป็นหนุ่มน้อยน่ารักเหมือนลูกแมว ส่วนคนที่สองเป็นหนุ่มเถื่อนนิสัยไม่เข้ากับหน้าตา
อีกคนสถาปัตย์
อีกคนวิศวะ
กลับมาอยู่ ห้องเดียวกัน
       น่ากลัวตรงที่ว่าเขาเป็นเกย์ แล้วรูมเมทดันตรงสเปคซะนี่ ช่วงแรกยังอยู่กันดี ไม่รู้วันไหนจะกระชากคอเสื้อต่อยกัน ไม่แน่บางทีอาจกลายเป็น ตบด้วยปาก กระชากด้วยลิ้น ไม่ดีไม่เอา เดี๋ยวฟินตาย~
     เรื่องราวของทั้ง ซัน และ โป้ คู่แยกจากนิยายเรื่อง หนุ่มวายยกกำลังสอง อยู่ตรงหน้าทุกท่านแล้ว




แนวแฟนตาซี
Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์ แนวเกมเข้าใจง่าย [จบแล้ว]
มิติมายา ผมกลายเป็นเงือก แฟนตาซีโลกเวทมนต์สลับโลกไฮเทค


ติดต่อตบตีได้ที่
https://www.facebook.com/pages/Silver-Fish/1539533922963776
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2017 22:50:41 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่1สเปค

   บางที การเรียนต่างถิ่นอาจเปิดโอกาสหลายๆ อย่างให้กับตัวเอง เจอเพื่อนใหม่ พบสังคมใหม่ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปจากเดิม...ก็อ้างไปเรื่อยแหละ ความจริงผมแค่อยากจะหนีจากที่บ้านใหญ่มาเท่านั้นเอง ตัวผมเป็นคนเชียงใหม่ ถ่อสังขารมาเรียนถึงเมืองกรุงเพื่อเปิดโลกกว้าง

   แต่เรื่องโอกาสนี่ได้จริงๆ นะ โอกาสเจออาหารตาไง...

   ยามสายที่แดดแผดเผา ผมนอนเหงื่อแตกอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก อันประกอบด้วยเตียงสองชั้นวางติดผนังซ้ายขวา ตู้เสื้อผ้าแบบเหล็กอย่างกับในค่ายทหาร โต๊ะเหล็กและเก้าอี้ไม้อย่างละสอง มีระเบียงอันน้อยนิดพอไม่รู้ว่าเป็นที่ตากผ้า ด้านซ้ายขวาของระเบียงเป็นห้องน้ำกับห้องอาบน้ำแยกกัน ส่วนอ่างล้างหน้าอยู่ด้านนอกแถวที่ต่างผ้าแหละ ผมก็ไม่เข้าใจว่าคนออกแบบต้องการอะไรจากสังคมเด็กหอ

   ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัดและเพิ่งเข้ากรุงครั้งแรก ไม่รู้ที่ทางแถวนี้เลย ผมจึงตัดสินใจอยู่หอพักของมหา’ลัยศึกษาลู่ทางแถวนี้แล้วค่อยย้ายออก ก่อนหน้านี้ผมมีรูมเมทหนึ่งคน เขาเป็นผู้ชายร่างเล็กหน้าละอ่อน ซึ่งตอนนี้ย้ายออกไปอยู่กับพี่ชายต่างสายเลือดเรียบร้อย แต่ยังมีน้ำใจแนะนำเพื่อนอีกคนให้มาอยู่แทน ผมเลยไม่ต้องแห้งเหี่ยวเดียวดายอยู่ในห้อง

   รู้สึกว่าจะมาวันนี้แหละ แต่ไม่รู้ว่าจะมากี่โมง ผมนอนกองกับพื้นกระเบื้องแนบแก้มเอาความเย็นตาเหล่มองนาฬิกามือถือ สิบโมงแล้วยังไม่เห็นวี่แววรูมเมทคนใหม่ เอาวะ! อาบน้ำสักแป๊บคงไม่เป็นไรมั้ง

   คว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำสลัดเสื้อเหม็นเหงื่อทิ้งแล้วเปิดน้ำเย็นชโลมกาย รู้สึกสดชื่นเหมือนได้เกิดใหม่ ระหว่างกำลังฮัมเพลงสระผมถูสบู่อย่างอารณ์ดี เสียงนรกบังเกิด มีคนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง ทีแรกผมเข้าใจว่าห้องอื่นจนกระทั่งเสียงเคาะมันเปลี่ยนเป็นเสียงทุบนี่แหละ รีบล้างตัวล้างตัวคว้าผ้าขนหนูพันเอวออกมาแทบไม่ทัน แม่เจ้าเว้ย ท่าทางจะอารมณ์ร้าย ประตูหอจะพังไหมเนี่ย

   “มาแล้วเว้ย!!” ตะโกนแกมประชดมือเปิดประตู สิ่งที่เห็นทำเอาผมอ้าปากค้างตรงข้ามกับอีกคนที่ทำหน้าบูด

   “เปิดช้าฉิบหาย” มาถึงบ่น คิ้วเข้มขมวดยุ่ง “ถอยไปดิ้ กูจะเข้าห้อง” เสียงทุ้มพูดออกมาทำให้ผมได้สติ พยักหน้ารับเปิดทางให้อีกฝ่ายเข้าห้องก่อนปิดประตู ไอ้หมอนี่คงเป็นรูมเมทคนใหม่

   ผมกวาดตามองบนลงล่าง ล่างขึ้นบน ชายร่างสูงใหญ่หุ่นนักกีฬาสวมเสื้อยืดกางเกงยีนหนีบแตะสะพายเป้ใบใหญ่ ผมดำสั้น ตาคม จมูกโด่งหน้าเข้ม เฮ้ย! หล่อ หล่อมาก!! หล่อแบบออกเถื่อนนิดๆ เชี่ย สเปค!!

   อึ้งอะไรกัน อ่อ ผมลืมบอกสินะ อะแฮ่มฟังกันให้ดี ผมหนุ่มเหนือนามปีโป้เป็นเกย์ครับท่าน เรื่องนี้เป็นความลับนะ เงียบๆ ไว้เดี๋ยวไก่ตื่น แม้ผมจะไม่ใช่พวกฟาดไม่เลือกแต่ขออาหารตาไว้ดูก็ยังดี ผมกอดอกมองสำรวจอีกฝ่ายเพลินๆ

   “แล้วเตียงกูอยู่ฝั่งไหน?”

   “ของกูฝั่งซ้าย มึงฝั่งขวา หรืออยากเปลี่ยน?” ผมเลิกคิ้วถาม เขาส่ายหัว โยนของไปฝั่งที่ว่างอยู่ จู่ๆ เขาผละจากของตัวเองเดินไปทางมุมห้องฝั่งของผมหยิบไม้ทีขึ้นมา ขณะเดียวกับที่ผมสังเกตหนังสือเรียนของอีกฝ่าย เราสองคนมองหน้ากัน

   “วิศวะ? / สถาปัตย์?”

ต่างคนต่างเงียบคุมเชิงกัน ผมไม่มีอคติเรื่องสองคณะไม่ถูกกันนะ อาจจะไม่ถูกกันจริง แต่มันก็มีทั้งคนดีและไม่ดี จะเหมาหมดก็ดูจะใจร้ายไปหน่อย อีกอย่าง ตราบใดที่ทางนั้นไม่เริ่มก่อน ผมไม่คิดลงมือ

ภาพรูมเมทหน้าละอ่อนลอยขึ้นมาทันที โธ่เอ๊ย ไอ้ตัวเล็ก ดันลืมบอกเรื่องสำคัญกับพวกเราซะแล้ว ผมคิดอย่างอ่อนใจ เหมือนเราจะนึกถึงคนเดียวกันอยู่ สุดท้ายเลยหลุดหัวเราะทั้งคู่

“ฮ่าๆๆ!”

“ถึงคณะจะไม่ถูกกัน แต่ใช่จะมีเรื่องคอขาดบาดตายสักหน่อย ยินดีที่ได้รู้จักไอ้เด็กวิศวะ กูชื่อโป้” ผมยักคิ้วให้

“กูซัน ส่วนใหญ่ก็แค่แข่งกัน หมั่นไส้กันเองมากกว่าจะต่อยตี บอกไว้ก่อนถึงเป็นรูมเมทแต่งานแข่งกีฬาคณะกูไม่ออมมือนะเว้ย โป้สถาปัตย์” มันท้าทายกลับ เรื่องอะไรจะยอม อย่าคิดว่าความหล่อจะทำให้ผมใจอ่อนไปซะหมดนะ

   “หึ อย่าหลุดกากแล้วกัน”

   “เชี่ย ปากดีงี้ เจอกันในสนามดีกว่าว่ะ”

   พวกเราจับมือกัน งานนี้สนุกแน่

   “แล้วมึงไม่คิดจะแต่งตัวรึไง หรือเป็นพวกชอบโชว์” หนุ่มเถื่อนเลิกคิ้วมอง ผมชะงักเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียว ความจริงห้องแคบๆ แบบนี้ผู้ชายตัวใหญ่สองคนมาอยู่ด้วยกัน เวลาซันจัดของสวนผมไปมาต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายที่โดนกันบ้าง ซันมันคงไม่คิดอะไรหรอกเพราะมันเหมือนจะเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ผมนี่สิ ควรจะไสหัวตัวเองไปแต่งตัวสักที

   ผมชูนิ้วกลางใส่มันข้อหาที่ว่าผมเป็นพวกชอบโชว์แล้วหลบหยิบชุดใหม่ไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ใช่ว่าชายสองคนจะเหนียมอายกัน แต่หอในมันไม่มีผ้าม่าน ขืนเปลี่ยนในห้องโต้งๆ ได้กลายเป็นอาหารตาให้สาวหอตรงข้ามพอดี ติดกับหอของมหา’ลัยเป็นหอพักนอก มีเสื้อผ้าตากตรงระเบียงประปรายบ่งบอกว่ามีคนอยู่ อนาคตไม่แน่ผมอาจจะย้ายไปอยู่หอนั้นก็ได้ ต้องรอดูกันไปก่อน

   ซันใช้เวลาไม่นานในการเก็บข้าวของเข้าที่ พวกผู้ชายไม่ค่อยมีข้าวของอะไรเยอะนักหรอก

   เรื่องราวหลังจากนั้นไม่มีเหตุให้ตีกันแต่อย่างใด ผมกับซันอยู่กันอย่างสงบสุข เช้าตื่นมาสลับกันเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อพาไปมหา’ลัย รับน้องเสร็จแทบจะคลานกลับห้อง คณะพวกเรารับน้องโหดทั้งคู่ ดูเผินๆ ไม่ได้ต่างจากคนอื่นเท่าไหร่ เอาความจริงนะ พวกเด็กหอรูมเมทใช่ต้องสนิทกันตัวติดไปไหนด้วยกันตลอด อันนั้นมันกรณีที่เป็นเพื่อนกันมาก่อน ไม่ก็พวกเรียนสาขาเดียวกันแล้วมาแชร์ห้องประหยัดค่าเช่า

   ตรงข้ามกับพวกผม แค่คณะก็ไปคนละทาง เวลาก็ไม่ตรงกัน ต่างคนต่างมีสังคมเพื่อนเป็นของตัวเอง อาจจะมีบ้างที่ชวนกันไปกินข้าวเย็นหากมีเวลา แต่ส่วนใหญ่แค่เจอก็ทักทายกันนิดหน่อยแล้วกลับมาอาศัยหอเป็นที่ซุกหัวนอนมากกว่า

   บางคืนพวกเพื่อนกับรุ่นพี่ชวนไปดื่มบ้าง รอบไหนเมาหนักนอนตายห้องเพื่อน รอบไหนเลิกไวลากสังขารกลับได้ ก็จะกลับมานอนที่หอ กลิ่นเหล้างี้ไม่ต้องพูดถึง ปกติซันไม่ได้รอผม เขานอนก่อนเลย แต่วันนี้มาแปลก พ่อเจ้าประคุณนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง

   เอ้อ นี่ก็อีกอย่าง ซันมันเป็นวิศวะประสาอะไรไม่รู้ แทบไม่ออกไปแดกเหล้ากับเพื่อนฝูง อยู่ห้องถ้าไม่นอนก็จะอ่านหนังสือ ดูแล้วโคตรเด็กเรียนไม่เข้ากับหน้าตาสุดๆ แต่ความเถื่อนยังคงเดิมนะ อันนี้ผมรับประกัน หลังจากเห็นอีกฝ่ายไปเตะประตูห้องอื่นที่เสียงดังจนไม่ได้นอน กระชากคอเสื้อเกือบลากพวกนั้นมาชก ดีที่ผมห้ามไว้ไม่งั้นงานเข้า

   ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกาปลุกบนโต๊ะเหนือหัว

   “ไมกลับมาไว”

   น้ำเสียงเหมือนประชด แต่ความจริงมันไม่มีอะไรเลย ดีที่ผมเป็นคนใจเย็นและมีมนุษย์สัมพันธ์ดีมาก เลยไม่เอาท่าทางกวนของเขาเก็บมาใส่ใจ เพราะผมเองก็กวนน้อยซะที่ไหน

   “ร้านมีคนตีกันเลยวงแตก” ผมตอบไปตามจริงพลางถอดเสื้อออก เหม็นกลิ่นเหล้ากับบุหรี่มาก รู้สึกเหนียวตัวเพราะวิ่งหลบลูกหลงชาวบ้านด้วย

   “เข้าไปถอดในห้องน้ำดิ แสลงตากู”

   ซันมันบอก ผมหันไปมองมันงงๆ หนังตาตกนิดหน่อยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่สติผมครบถ้วนสมบูรณ์นะ ไม่ได้คออ่อนขนาดนั้น

   “อะไร กูถอดแบบนี้ของกูทุกวัน หรือผีสาวเข้าสิงมึง”

   ผมยกยิ้มมุมปากมอง ไอ้ซันลูบหน้าพรืด ช่างมัน อาบน้ำดีกว่าจะได้นอน

   “เชี่ย! ท่อนล่างมึงก็ยังจะถอด หน้าด้านสัตว์ ไปเลยนะมึง เข้าห้องน้ำไปเลย”

   มันโวยผมใหญ่ เอ้าไอ้นี่ หรือมันจะเปลี่ยนใจจากชายแท้เป็นเกย์ ผมพร้อมสนองนะจะบอกให้ เล็งอยู่ทุกวัน ปากดีไปงั้น ความจริงผมไม่กล้าหรอก ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่ชอบเพศที่สาม ยิ่งต้องมาอยู่ร่วมห้องกันไม่อยากจะพูดถึง เดี๋ยวผมโดนมันกระทืบตายคาห้องพอดี ที่สำคัญผมไม่อยากจะเห็นสายตาดูถูกจากรูมเมทตัวเอง

   “ปิดไฟไมวะ” ผมถามมันที่จู่ๆ ก็ปิดไฟเฉย

   “มึงยังกล้าถามกูอีกเรอะ ตรงข้ามไม่ใช่ป่านะเว้ย มันเป็นหอ”

   “แล้วไง” ผมไม่เข้าใจมันจริงๆ นะเนี่ย น้ำเสียงมันเหมือนจะเป็นห่วง หรือมันจะเป็นแบบผม อยู่กับรูมเมทคนก่อนมากเกินไป ปลุกนิสัยช่างดูแลในตัวขึ้นมา ถ้าเทียบกับผู้หญิงคงปลุกสัญชาตญาณความเป็นแม่มั้ง งี้ผมกับซันก็ปลุกสัญชาตญาณความเป็นพ่อดิ ฮ่าๆ พิลึก ผมคิดอะไรอยู่วะเนี่ย ไร้สาระสุดๆ สงสัยผมจะเมาแล้วจริงๆ

   “เชี่ยโป้ กูไม่รู้จะพูดอะไรกับมึงแล้ว มึงคิดว่าตัวเองหล่อแมนนักเหรอวะ หรือคิดว่าตัวเองหน้าตาเหมือนปลวก เกิดฝั่งตรงข้ามมันเป็นพวกเกย์นิสัยเหี้ยขึ้นมาบุกปล้ำมึงจะทำไง กูไม่ได้อยู่ห้องตลอดนะเว้ย เออ มึงอาจจะต่อยตีได้ เกิดมันพาพวกมารุมหลายคน...”

   “เดี๋ยวซัน มึง ใจเย็น หายใจลึกๆ”

   กลายเป็นผมที่ต้องบอกให้ซันใจเย็น ตกลงใครเมา แต่ที่แน่ๆ ผมสร่างเลยครับ แม้แสงสลัวจากด้านนอกทำให้ไม่เห็นใบหน้ามันชัดเจน แต่ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่า หน้าไอ้ซันตอนนี้คงเถื่อนได้ที่

   “ตอนเย็นกูแวะไปซื้อข้าวกินก่อนขึ้นหอได้ยินพวกคณะอื่นมันคุยกัน...” เห็นมันเกริ่นเหมือนจะเล่าเรื่อง ผมเงียบนั่งลงตั้งใจฟังดีๆ พยักหน้าให้สัญญาณมันเล่าต่อ มันยกมือขยี้ผมท่าทางหงุดหงิด

   “พวกมันน่าจะอยู่หอตรงข้ามกับพวกเรา เหมือนว่าหนึ่งในกลุ่มพวกมันจะเป็นเกย์” ผมแอบสะดุ้งกับคำว่าเกย์ ดีที่ซันมัวตั้งใจเล่าเลยไม่ทันสังเกตเห็น

   “อ่าฮะ แล้วไงต่อวะ”

   “มึงเป็นผู้ชายน่าจะเข้าใจดี เวลากลุ่มผู้ชายอยู่ด้วยกันคุยกันแต่เรื่องหยาบโลน มันพูดเรื่องแย่ๆ เกี่ยวกับตัวมึง”

   “เพราะงี้มึงเลยรอเพื่อเตือนกูสินะ” เกือบจะทำหน้าซาบซึ้งให้มันแล้ว มิตรภาพเล็กๆ ระหว่างรูมเมท เพื่อนเอ๋ย กูคงไม่กล้าบอกมึงว่าเป็นเกย์มากกว่าเก่า เอาเป็นว่าไว้ต่างคนต่างแยกหอค่อยบอก ไม่ก็เป็นความลับตลอดกาลไปเลยแล้วกัน!

“ก็นั่นแหละ พอดีกูเล่าเรื่องมึงให้เพื่อนฟัง” อ่าฮะ ไม่แปลก รู้สึกซันจะมีกลุ่มเพื่อนของตัวเอง ไม่เหมือนผม ลอยไปลอยมาเข้ากับทุกคนได้หมด จะชายหญิงไม่เกี่ยง

   “มิทเพื่อนกูมันรู้เรื่องพวกนี้เยอะ มันบอกว่าลักษณะอย่างมึงเป็นที่นิยมในหมู่เกย์มาก”

   “อืมๆ ว่าต่อ” ผมพยักหน้ารับรอฟังมัน

   “กูเลยลองไปเปิดในเน็ต เดี๋ยวนี้นะเว้ย ไม่ใช่แค่ผู้หญิงแล้ว ผู้ชายก็มีโอกาสโดนข่มขืนได้ ดังนั้นมึงต้องระวังให้มาก” คราวนี้ผมมองมันด้วยสายตาแปลกๆ บ้าง เหมือนมันจะสัมผัสได้เหมือนกัน ตบหัวผมแทบทิ่ม อ้าวไอ้นี่ เล่นถึงหัว

   “กูเข้าใจสิ่งที่มึงต้องการจะสื่อระ แต่กูถามอย่าง มึงกับกูเป็นรูมเมทกันก็จริง แต่รู้จักกันไม่กี่อาทิตย์ ไม่คิดว่ามึงเป็นห่วงกูมากเกินไปมั่งเหรอ”

   ถามลองเชิง ดูปฏิกิริยามัน ซันชะงักไปราวกับเพิ่งรู้สึกตัว เจ้าตัวเกาหัว

   “ไม่รู้ว่ะ สงสัยนิสัยกูจะออก คนรู้จักกูทุกคนบอกว่ากูเป็นพวกรักเพื่อนมาก มึงเป็นรูมเมท แถมยังเป็นเพื่อนไอ้ตัวเล็กเท่ากับเป็นเพื่อนกูเลยนึกเป็นห่วงตามประสาเพื่อน”

   ตกลงมันกำลังหาคำตอบให้ตัวเอง ไม่ได้ตอบคำถามผมสินะ ช่างมัน ไม่อยากเซ้าซี้มาก ผู้ชายดีอย่าง เป็นพวกไม่คิดเล็กคิดน้อย ไม่คิดเยอะ ถ้ามันว่าเพื่อนก็คือเพื่อน เอาเข้าจริง ผมเองก็คิดว่ามันเป็นเพื่อนแล้วเหมือนกัน

   “เอาเป็นว่า หลังจากนี้กูจะระวังตัว ไม่แก้ผ้าต่อหน้ามึงอีก โอเคยัง กูจะได้ไปอาบน้ำสักที”

   พอผมจะลุก ซันมันคว้าแขนไว้

   “ต่อหน้าคนอื่นก็ห้ามนะเว้ย” ก็นึกว่ามันจะพูดอะไร ผมส่ายหัวรับเสียงยาน

   “คร้าบๆ”   

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2016 14:50:14 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1:  ชอบคู่นี้

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่2 เพื่อนของเพื่อน

   ก่อนจะเริ่มเรื่องราวหลังจากนี้ ผมขออธิบายเพิ่มนิดหน่อย รูมเมทคนเก่าของผมชื่อปอนด์ เป็นเด็กไอทีซึ่งย้ายไปอยู่กับพี่ชายแล้วอย่างที่ผมเคยบอกไปก่อนหน้า ปอนด์เป็นรูมเมทของผมเราเลยรู้จักกัน แล้วปอนด์ก็เป็นเพื่อนของซันอีกที แถมเป็นคนแนะนำให้ซันที่กำลังหาหอมาแชร์ห้องกับผม

   ซันมันเลยเหมาว่า เพื่อนของปอนด์ก็เหมือนกับเพื่อนของตัวเองเลยแนะนำคนในกลุ่มให้ผมรู้จัก ผมมองเสียงเอะอะเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้มไม่สื่อสิ่งใด

   ช่วงเวลาอันล้ำค่าสุดแสนจะหาได้ยากยิ่ง ผมได้พักช่วงจากการเรียน ประจวบเหมาะกับพวกรุ่นพี่ติดภารกิจบางอย่างทำให้งดรับน้องไปหนึ่งวัน ตั้งหนึ่งวันเชียวนะ! ในใจผมคิดแล้วว่า วันนี้กูจะขี้เกียจ กูจะไม่ซักผ้ารีบผ้า จะไม่ทำความสะอาดห้อง จะไม่เก็บของ จะไม่ทำห่าอะไรทั้งสิ้นนอกจากกินแล้วนอน

   หอในมีแค่พัดลมเพดาน อากาศด้านนอกโคตรร้อนระอุ นอนบนเตียงยางที่เค้านิยมใช้กันในหอพักแบบไม่มีเบาะนุ่มเป็นยางเช็ดทำความสะอาดง่าย คลุมด้วยผ้าปูเตียงบางๆ ยังรู้สึกร้อนจนเหงื่อแตก ผมเลยต้องถอดเสื้อนอนเหลือแค่กางเกงเจเจ นี่ผมเปลืองตัวไปรึเปล่า นิยายเพิ่งเริ่มไปสองตอน รู้สึกถอดเสื้อไปแล้วหลายรอบ

   เอาเถอะ ผมเป็นพวกขี้ร้อน ปกติอยู่บ้านก็ชอบถอดเสื้อ อยู่เหนือกับพวกเพื่อนก็พากันถอดนั่งแดกเหล้า ทุกคนไม่มีปัญหา มีแค่ไอ้ซันนี่แหละ ทำอย่างกับถ้าผมถอดเหมือนเวลาสาวเปลือยท่อนบน ปล่อยมันไป ตอนนี้มันไม่อยู่ ผมขอถอดผึ่งลมนอนตายต่อไป

   แกร้ก

   เสียงไขประตู? คงเป็นซันกลับมาจากเรียนช่วงเช้า หอในก็ดีงี้แหละครับ อยู่ใกล้มหา’ลัยไปกลับได้ตลอดเวลา เข้าไปเช็คชื่อแล้วโดดกลับมานอน พอใกล้ถึงเวลาเลิกค่อยตื่นไปให้จารย์เห็นยังได้

   “รูมเมทมึงอยู่ไหมวะ”

   เสียงไม่คุ้น ไม่ใช่ปอนด์ คงเป็นเพื่อนซัน

   “อยู่ วันนี้มันไม่มีเรียน” เฮ้ย! มึงมารู้ตารางเรียนกูได้ไงเนี่ย หรือว่าจะเป็นเมื่อวานตอนผมกลับมาห้องเห็นมันมาเดินด้อมๆ มองๆ แถวโต๊ะของผม

   “สวยอย่างที่เล่าให้ฟังป่าว” อีกเสียงแซว ขอโทษ กูเป็นผู้ชายครับแหม่ เอะอะกันขนาดนี้ ถึงอยากจะนอนก็นอนไม่หลับ ผมผงกหัวลุกขึ้นมาเปิดประตูให้พวกมันแม่ง จะลีลาคุยกันอยู่หน้าห้องทำไม

   เปิดประตูผ่าง ชายสามคนยืนออกันหน้าประตู คนแรกรูมเมทผมเอง อีกคนเหมือนผู้ชายเจ้าชู้ คนสุดท้ายสูงเปรตที่สุดหน้าตาดูลูกครึ่ง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกมันเหมือนคือมองผมอ้าปากค้าง ผมที่โดนกวนเวลานอนกำลังหงุดหงิดเต็มที่ หัวทรงรากไทรยุ่งไม่เป็นทรง ดวงตาหรี่มอง คิ้วขมวด ซันมันได้สติก่อนใครรีบดันผมเข้าห้องไม่สนใจเพื่อนอีกสองคน

   “เหี้ย!”

   มาถึงสรรเสริญกูเลย

   “หล่อเหี้ยๆ” ผู้ชายเจ้าชู้พูดพลางเดินตามเข้ามา ปิดท้ายด้วยชายตัวสูงโย่ง

   “กูว่าสวยเหี้ยๆ มากกว่า”

   “พวกมึงจะชมกูอีกนานมั้ย” หงุดหงิด อยากนอน เดี๋ยวโดดเตะปากแม่ง

   “ทำไมมึงไม่ใส่เสื้อ” ไอ้ซันถามเสียงต่ำ ผมหันไปมองยกมือขยี้หัวให้มันยุ่งกว่าเดิม

   “กูร้อน พวกมึงตามสบายแล้วกัน กูขอนอนต่อล่ะ”

   ผมเดินกลับไปที่เตียง ห้องแม่งก็แคบเท่านี้ ไอ้ซันมันรั้งไว้ใช้นิ้วเกี่ยวสร้อยเชือกที่ซ้อนทับไปมาบนคอผม เชี่ย! เจ็บ ผมปัดมือมันออก มันเหมือนเพิ่งรู้ตัวสีหน้ารู้สึกผิด

   “ขอโทษ เจ็บมากมั้ย กูไม่ตั้งใจ เผลอไปหน่อย” มันละล้าละลังเข้ามาดูคอผม ผิวขาวไง แล้วบังเอิญว่าความเกรียมแดดนิดๆ เทียบกับซันแล้วกลายเป็นขาวโอโม่ ขึ้นรอยแดงชัดเจน

   “ไม่เป็นไรแค่นี้ กูชื่อปีโป้ เรียกโป้ก็ได้ รูมเมทไอ้ซัน อยู่สถาปัตย์ พวกมึงคงอยู่วิศวะ?”

   ผมโบกมือให้ซัน ตื่นเต็มตาอารมณ์เริ่มเย็นลง ผมก็พาลมันมากไป มันแค่เป็นห่วงตามประสาเพื่อน ย้ำ เพื่อน! เลยจัดการเปลี่ยนเรื่องไปแนะนำตัวกับไอ้สองตัวที่มองผมกับซันด้วยสายตาแปลกๆ ที่แน่ๆ ผู้ชายท่าทางเจ้าชู้นั่นมันเป็นเกย์เหมือนผมชัวร์! ไอ้ซันมันรู้รึเปล่าเนี่ย ว่ามีเพื่อนเป็นเกย์ แล้วคนที่บอกเรื่องผู้ชายถูกข่มขืนคงเป็นมันด้วยสินะ หน้าตาบ่งบอกยี่ห้อชั่วร้ายมาก

   มันที่ผมจ้องเหมือนจะรู้ตัว เขายักไหล่แนะนำตัวบ้าง

   “กูมิทรี่ อยู่วิศวกรรมไฟฟ้า” มิทรี่ ชื่อบ่งบอกว่าไม่ใช่ไทยแท้เหมือนผมกับซันแน่นอน แต่ครึ่งชาติไหนไม่รู้นะ มิน่าสีผมกับสีตามันถึงแปลกๆ ทีแรกผมคิดว่าย้อมกับใส่คอนแทค สีจริงเหรอเนี่ย มิทมันผมสีน้ำตาล ตาสีดำออกเทา

   “ริววิศวอุตสาหการ ยินดีที่ได้รู้จักนะโป้”

   ชื่อชัดเจน หน้าตาให้ ลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่ไหงมันสูงนักวะ หรือสมัยนี้คนญี่ปุ่นเขาสูงกันแล้ว ผมเอะใจอะไรบางอย่าง มิทวิศวกรรมไฟฟ้า ริวช่างอุตฯ ผมหันขวับไปทางซัน

   “อะไร” ผมเลิกคิ้วถาม หล่อทุกท่วงท่าจริงมึง

   “มึงเรียนไร” คราวก่อนเห็นหนังสือรู้ว่ามันวิศวะก็จริง แต่เป็นวิชาพื้นฐานของคณะนี้ ผมเลยไม่รู้ว่าตกลงมันไปทางไหน

   “เคมี”

   ชัดเจน มิน่ามันถึงชอบอ่านหนังสือนัก เรียนสายโคตรยากเลยนี่หว่า แต่หน้าตามันโคตรให้อารมณ์เด็กช่างไปต่อยตีกับชาวบ้านสุดๆ หวังว่าวันดีคืนดีมันคงไม่เอาบีกเกอร์ไปกระแทกหัวใครนะ คิดแล้วขำกับการมโนไร้สาระของตัวเอง

   “โป้ยิ่งกว่าที่คิดซะอีก หน้าหล่อออกสวย ตัวสูงโปร่งผิวขาว หุ่นดี ไม่มีไขมันส่วนเกิน น่ากลัวว่าจะไม่ใช่แค่ผู้ชายที่อยากจับกด ผู้หญิงคงไม่เว้น เดี๋ยวนี้เริ่มมีเทรนหนุ่มหน้าสวยแล้วนะ”

   มิทนั่งเท้าคางบนเตียงซันวิจารณ์ผมซึ่งๆ หน้า แต่สายตาเหล่ไปมองทางซัน ไอ้หมอนี่อันตราย มันกำลังแกล้งเพื่อนตัวเองและผมในเวลาเดียวกัน

   ซันถูกเตือนสติไล่ให้ผมไปใส่เสื้อผ้าโดยมีริวมองตามอย่างเสียดาย เวรล่ะ คงไม่ใช่ว่ามันเกย์ยกกลุ่ม มีแค่ไอ้ซันคนเดียวไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเขาหรอกนะ

   และด้วยเหตุนี้ผมถึงได้มานั่งมองพวกมันคุยกันอย่างปัจจุบัน มิทนอนบนเตียงซัน ริวกับซันนั่งบนพื้น ส่วนผมนั่งบนเตียงตัวเอง ได้เพื่อนใหม่แทนการพักผ่อน ผมควรดีใจไหม

   “ทีแรกโป้เปิดประตูมาตกใจแทบแย่ นึกว่าไอ้ซันมันพามาผิดห้องซะแล้ว โป้อย่างแจ่มอะ หัวรากไทร เจาะหูข้างหนึ่ง พันเชือกที่คอแนวๆ”

   ริวมันพูดอย่างออกรสออกชาติ ให้ตายสิ ขนาดนี้ยังไม่พ้นเรื่องของผม ตกลงซันมันพาเพื่อนมาดูผมแทนที่จะพามาเที่ยวห้อง

   “ไม่หรอก กูเห็นมา สถาปัตย์กับนิเทศคนอื่นยิ่งกว่าโป้อีก โป้นี่ธรรมดาไปเลย ไม่ได้ชมว่าไม่ดีนะ แบบนี้กำลังพอดี ไม่เว่อเกิน ไม่จืดชืดแบบไอ้ซัน”

   มิทเสริมขึ้นมา ดูมันเป็นพวกชอบแต่งตัวพอสมควร เสื้อนศ. มันดูจากเนื้อผ้าราคาไม่ใช่ถูกๆ ไม่นับกางเกงกับรองเท้าที่ผมเห็นมันถอดอยู่หน้าประตู ผมเซตอย่างดี ได้กลิ่นน้ำหอมมาจากตัวมันด้วย

    ส่วนริวจะเป็นแบบสบายๆ ไม่แบรนด์ตลาดและไม่หรูหราเกินความจำเป็น นอกนั้นชุดนศ. ปกติ ที่เหลือไอ้ซัน ตัวมันมีแค่นาฬิกาข้อมือเรือนเดียว จืดชืดอย่างที่มิทว่าจริงๆ แหละ แต่มันหล่อไง คนหล่อมีชัยไปกว่าครึ่ง ยิ่งมันหุ่นดีมาดแบดบอยสาวหลง ต่อให้มันใส่เสื้อตัดอ้อยสาวก็กรี๊ดล่ะวะ

   “กูหล่อ จบมะ”

   ไม่มีใครเถียงมัน มิททำหน้าเหม็นเบื่อใส่ ริวหันหน้าหนี ผมส่ายหัว

มิทมันชวนคุยเก่ง ไม่นานผมก็เข้ากับกลุ่มมันได้อย่างลงตัว ถึงได้รู้ว่าความจริงกลุ่มมันมีเพื่อนอีกคน เป็นเพื่อนวัยเด็กของซันชื่อวาคิน หมอนั้นถูกมหา’ลัยเตะส่งให้ไปอยู่วิทยาเขตเหนือ ไม่แน่ว่าวาคนนี้อาจจะได้เจอเพื่อนผมก็ได้นะ เพื่อนที่ผมเคยดูแลมันจนชิน มันชื่อเจเล่ พ่อมันเป็นอาจารย์สอนอยู่มหา’ลัยวิทยาเขตเหนือ มีหน้าที่คอยดูแลเด็กที่ถูกส่งไปเหมือนวา ถึงได้บอกไงว่ามีโอกาสเจอกัน

   คนที่แนะนำให้ผมเรียนมหา’ลัยนี้ พร้อมช่วยจัดการเรื่องราวทุกอย่างคือพ่อของเล่ เขาเป็นผู้ใหญ่ที่ผมนับถือ ผมเคยไปปรึกษาเขาเรื่องรสนิยมตัวเองอยู่หลายครั้ง ด้วยความที่ผมช่วยดูแลไอ้เล่มาตลอด บ้านนั้นจึงเห็นผมเป็นลูกชายอีกคน

   เล่มีความชอบที่ไม่เหมือนคนอื่นตั้งแต่เด็ก มันเป็นผู้ชายหน้าสวย ไม่มีเค้าความหล่อแม้เท่าขี้เล็บมด ตัวบางออกไปทางอ้อนแอ้น ถูกรังแกเป็นประจำ เหตุการณ์แรกพบไม่ค่อยสวยหรูเท่าไหร่ มีเพื่อนผู้ชายมาแซวผมเรื่องหน้าสวย ลามไปด่าไอ้เล่ ผมโมโหเป็นทุนเดิมเลยกระทืบแม่ง ถูกเรียกผู้ปกครอง ทั้งที่ผมทำไปเพราะตัวเอง เล่ดันเหมาว่าผมช่วยมัน หลังจากนั้นตั้งตัวเพื่อนรักผม อ้อนให้พ่อที่มีเส้นสายมาช่วยคุยจนเรื่องจบง่ายๆ

   ผมโดนปู่ตีหนังก้นแทบหลุด พ่อแม่ไม่มีใครช่วยเพราะตอนนั้นทุกคนยังเกรงและกลัวปู่ ผมเลยหนีออกจากบ้าน นึกถึงเพื่อนคนไหนไม่ออก เลยไปหาเล่มัน สรุปได้อยู่บ้านนั้นระยะหนึ่ง ปู่ตามไปจะลากคอผมกลับ ได้พ่อเล่ช่วยรอบสอง ให้ผมกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ หลังจากนั้นเวลาเกิดอะไรขึ้นพ่อเล่ออกโรงช่วยทุกอย่าง สบายแฮผมเลย ยังไงซะทั้งหมดผมไม่ได้เริ่มก่อน ที่สำคัญ ครึ่งหนึ่งเกิดขึ้นเพราะผมช่วยเล่ พ่อยังบ่นๆ ถ้าเล่มันเป็นผู้หญิงจะยกให้ผมซะเลย

   ผมงี้ส่ายหัวคอแทบหลุด แม้ผมเป็นเกย์ แต่ชอบหล่อๆ ครับ ไม่อยากปลูกทุ่งลิลลี่ อันนี้เรียนคำศัพท์มาจากปอนด์นะ ปอนด์เป็นหนุ่มวายช่วยเปิดหูเปิดตาดี

   “เหม่อไรวะโป้ พวกกูถามว่าไปแดกข้าวมั้ย”

   ซันมันโบกมืออยู่ด้านหน้าผม ผมกระพริบตาปริบๆ มองมันกับเพื่อนใหม่อีกสองคน สงสัยระทึกชาติมากไปหน่อย

   “คิดอะไรเพลินๆ น่ะ พวกมึงจะไปกินที่ไหนกัน”
   
   “แถวหอนี่แหละ กูขี้เกียจไปไกล”

   ตกลงกันได้ ก็ไปสิครับรออะไร อาหารไม่พ้นอาหารตามสั่ง ซันกับริวล่อไปคนละสองจาน ส่วนผมกับมิทแค่คนละจานกำลังพอดี ต่อด้วยขนมแถวนั้น

   ไม่รู้ว่าเพื่อนซันมันติดใจอะไรหอพักเท่ารูหนูนัก หลังจากวันนั้นขยันมาหาตลอด โดยเฉพาะมิท เหมือนกำลังหลบหน้าใครสักคนอยู่ ระหว่างซันอาบน้ำผมเลยถามซะ ยังไงก็นับว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว เผื่อมีอะไรช่วยได้ จะได้ช่วยๆ กันไป

   “มิท คู่อริตามล่าเหรอ”

   ผมยิงคำถามไปดื้อๆ มิทที่นอนเล่นโทรศัพท์หันขวับมามองแบบไม่อยากเชื่อ เจ้าตัวหัวเราะกระดิกเท้าเล่นเกมมือถือต่ออย่างสบายอารมณ์ หรือผมคิดมากไปเอง

   “ไม่เชิงคู่อริเท่าไหร่ ทำไม... กูดูแสดงออกมากขนาดนั้นเลย?”

   ผมส่ายหัว มิททำตัวปกติ ไม่มีอะไรแตกต่างจากเด็กมหาลัยทั่วไป ติดที่ผมเคยเกเรมาก่อน คบกับคนหลายประเภทมาก เลยพอจะเดาอะไรได้ลางๆ

   ผมเอะใจตั้งแต่เจอมิทครั้งแรกแล้ว เด็กมหา’ลัยธรรดา ใส่ของแบรนด์เนมทั้งตัวแบบนี้ ถ้าบ้านมีฐานะ ควรจะมีรถขับเป็นของตัวเอง แต่มิทไม่มี ที่สำคัญ จากที่พวกนี้คุยกัน มิทอยู่ห้องพักธรรมดาแบบพวกเรา ไม่ได้หรูหราอย่างของที่ใช้เลย จะบอกว่าใช้เงินสิ้นเปลืองกับของพวกนี้จนไม่มีจ่ายอย่างอื่นคงไม่ใช่

   ทุกครั้งที่ซื้อของ มิทซื้อปกติ ไม่ออกไปชอปปิ้งอะไรที่ไหน ถ้าไม่หายตัวไปอย่างลึกลับ ก็จะสิงสถิตอยู่กับเพื่อนตลอด อย่างเช่นเวลานี้

   มันชวนให้นึกถึงเพื่อนคนหนึ่ง เจ้านั่นคล้ายกับมิท ใช้ของแพงเกินวัย ชอบหายตัวไปโดยไม่มีใครรู้ ตอนกลางคืนถ้าไม่กินเหล้าด้วยกันอย่าหวังว่าจะเห็นตัวมัน ที่สำคัญมันทำงานเป็น…ไซด์ไลน์

   ดวงตาผมเบิกกว้าง จ้องมิทเขม็ง คนถูกจ้องเพียงแค่ยิ้ม รอยยิ้มเหมือนที่ผ่านมา แต่ดวงตาวาววับ

   “คนเราย่อมมีความลับไม่ต่ำกว่าหนึ่งเรื่อง และไม่ต้องการให้ใครมายุ่งกับความลับนั้น”

   มิทเปรย ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ชัดเจนขนาดนี้ คงหมายถึงผมอย่าพูดปากและห้ามปากโป้งเด็ดขาด มิทชี้ไปทางห้องน้ำแล้วหัวเราะ ห้ามบอกซันด้วยสินะ

   ผมนึกภาพออกเลย ถ้าซันรู้เรื่องนี้เข้ามันจะโวยวายอาละวาดแค่ไหน ส่วนเรื่องที่มิทเหมือนหลบหน้าใคร คงเป็นพวกลูกค้าไม่ก็โจทย์ล่ะมั้ง เจ้าตัวไม่ให้ยุ่งผมก็จะไม่ยุ่ง แต่ในฐานะเพื่อน ขอพูดสักหน่อย

   “มีอะไรบอกได้เสมอ รู้จักกันแล้วถือว่าเป็นเพื่อน กูพอมีเส้นสายอยู่บ้างนิดหน่อย…”

   “มึงเป็นคนใจดีโป้ ไอ้วาก็เคยพูดกับกูแบบนี้ ริวมันก็ช่วยในแบบของมัน ขอบใจ แต่ไม่เป็นไร เส้นใหญ่แค่ไหนคงช่วยอะไรกูไม่ได้หรอก”

   ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ มิทมันยังลอยหน้าลอยตาอยู่แบบนี้ได้ แสดงว่ายังไหว เรื่องมันยังไม่เกิด อย่าเพิ่งไปปวดหัว ไว้มิทมาขอความช่วยเหลือค่อยว่ากันอีกที ผมไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะบางครั้ง ความหวังดีอาจจะทำให้เรื่องทุกอย่างมันแย่ลงไปกว่าเดิม

   ผมตบบ่ามิท มิทดันคว้าตัวผมไปกอด ดีนะเราตัวพอกัน แถมผมตั้งหลักดีเลยไม่ร่วงลงไปกองทับกัน

“โป้ใจดีจังเลยน้า สมกับที่ปอนด์อวยอย่างงั้นอย่างงี้ ใครได้เป็นแฟนต้องดีใจมากแน่ๆ”

ตบหัวมิทไปที แม่งมือไวชิบหาย สมอาชีพเลย สำรวจจนรู้ขนาดตัวผมหมดแล้ว จังหวะเดียวกับที่ซันมันหัวเปียกออกมาจากห้องน้ำ ดวงตาคมจ้องพวกเราเขม็ง

   “พวกมึงทำไรกัน”

   “กูกำลังจะขอโป้เป็นแฟน โป้มีแฟนยัง ถ้ามี เลิกซะมาคบกับกู ถ้าไม่มีแต่งกันเลย!”

   งานนี้ซันมันไม่เข้ามายันมิทแฮะ แม้จะจ้องพวกเราอยู่ แต่เหมือนจะเน้นผมเป็นพิเศษ แหนะๆ รอฟังอะไรอยู่ครับมึง ผมมันคนใจดีแบบที่มิทบอก ต้องสนองให้เขาหน่อย

   “ยังไม่มีว่ะ ไม่มีคนในดวงใจด้วย” แนวที่บอกว่าคนในดวงใจแล้ว ตัดทิ้งไปได้เลย แบบนั้นมันตัดหนทางตัวเองเกินไป ดูจากรูปการ ซันมันไม่น่าฉลาดพอจะรู้ว่าคนที่ผมหมายถึงคือใครแล้วอีกอย่างผมแค่แง้มๆ ไว้ชัดเจนว่าซันคิดยังไงกับรสนิยมของผมค่อยกว่ากันอีกที

   มิทมันร้ายน้อยที่ไหน เห็นสีหน้าผมปุ๊บ เดาออกทันทีว่าผมคิดอะไรอยู่

   “มาแต่งกับกูเลย เฮ้ย ไอ้ซัน มาเป็นบาทหลวงให้พวกกูทีดิ๊”

   “หลวงพ่อง เลิกเล่น คนอย่างมึงโป้ได้ไปมีแต่ชีวิตล่มจม” อารมณ์ดีคุยเล่นกับเพื่อนได้แบบนี้ หมายความว่าไงครับคุณซัน ผมนึกขำ ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง และผมพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ เพื่อนกันก็ไม่เลว ผมเองไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้นด้วย แค่มันหล่อตรงสเปคเท่านั้น ได้เพื่อนเป็นอาหารตามองทุกวันหายากนะเนี่ย

   “ต้องคบกับมึงใช่มะ ถึงจะดีเลิศปานขึ้นสวรรค์” มิทมันประชด ยอมปล่อยผมแต่โดยดี

   “สวรรค์ชั้นเจ็ดเลยล่ะมึง” ดูแม่ง ยักคิ้วกวนตีน เส้นเท้ากระตุก ยกถีบมันไปที อุ๊ย เท้าลื่น

   “มึงหลับในห้องน้ำมาเหรอซัน ละเมอสัตว์! หน้าเถื่อนอย่างมึงสาวเห็นเผ่นหมดแล้ว”

   “สงสัยจะจริง มิน่า ไม่มีใครจีบกูเลย” ซันลูบคางครุ่นคิด ผมทนเห็นมันหัวเปียกต่อไปไม่ไหว นิสัยช่างดูแลกำเริบ คว้ามันมานั่งบนพื้น ใช้ผ้าขนหนูที่พาดบนคอมันขยุ้มหัวซะ คิดซะว่าเปลี่ยนจากเช็ดหัวแมวปอนด์ มาเช็ดหมาซันแล้วกัน

   สองแขนมันมาวางเท้าบนขาผมทำอย่างกับตัวเองนั่งบนเก้าอี้ราชา เช็ดเสร็จ ผมยันหลังไปทีด้วยความหมั่นไส้ มิทเท้าค้างมองพวกเราทั้งคู่

   “พวกมึงนี่ อย่างกับผัวเมียกันเลยนะ” นั่นปากเหรอ เอารางวัลไป!

   “กูเป็นผัวสินะ” งานนี้ต้องรีบเสนอ อยู่บนดีที่สุด

   “ผัวออนท๊อปอะดิ” มึงพูดอย่างเดียวพอ มาดึงขนหน้าแข้งกูทำไมครับ ผมผลักมันไปนั่งไกลๆ อารมณ์ดีจนบ้า สงสัยน้ำที่อาบจะผสมกัญชา เข้าใจว่ามันพูดเล่นตามประสาผู้ชายคะนองปากเวลาอยู่กับเพื่อน แต่อย่าเป็นงี้บ่อยนะไอ้ซัน เดี๋ยวกูหวั่นไหวขึ้นมาจริงๆ แล้วจะยุ่ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2016 23:57:39 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao6:  คึกคักกันดีนะหนุ่มๆ

ออฟไลน์ lazyishappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สนุกดีค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ :mew4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่3 เจิด   

   กิจกรรมต่อจากการรับน้องส่วนใหญ่คือการแข่งกีฬากระชากมิตรระหว่างคณะ มีการแข่งแสตนเชียร์ ลีดเดอร์ การแต่งแสตน และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าปีหนึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งกิจกรรมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเหล่าคณะที่มีแต่คนจับตามอง

   ผมเริ่มจะลืมที่อยู่ห้องตัวเองเข้าไปทุกที วันๆ อยู่ในมหา’ลัย ถ้าไม่กระโดดขึ้นรถไปซื้อของกับเพื่อน ก็พาสาวที่มีน้อยนิดในคณะไปช้อปของสำหรับกิจกรรมเชียร์ ยิ่งผมสูงยาวเข่าดีเคยเล่นกีฬามาก่อน จู่ๆ โดนจับยัดรายชื่อให้ลงแข่งบาสดื้อๆ

   แข่งบาสมันไม่เท่าไหร่ ผมมั่นใจฝีมือของตัวเองในระดับหนึ่ง ไม่กลัวเจ็บด้วย คณะไหนก็จัดมาเหอะ ผมสู้สุดใจอ่ะ สถาปัตย์ต้องชนะ!

   แล้วอะไรรู้มั้ยครับ ประธานรุ่นไม่รู้มันเกิดมาบนความซวยหรือยังไง จับฉลากคู่แรกเสือกได้คณะตัวเต็ง

   วิศวะ...

   หน้ารูมเมทลอยมาเลย อือหือ สมพรปากทั้งมันและผม เจอกันครั้งแรกท้าต่อย เอ๊ย ท้าสู้กันในสนาม ได้ของจริงแบบไม่ต้องเสียเวลาแข่งกับคู่อื่นก่อนเลย

   พอผลออกมางี้ พวกรุ่นพี่ฟิตจัดสั่งให้พวกผม ฝึก ฝึก และฝึก! อย่างหนักหน่วง เหงื่อท่วมตัวกลับห้องทุกวัน มิทแอบมาส่งข่าวว่า เจ้าซันได้เป็นตัวจริงลงแข่งบาสเหมือนผม ไม่แปลกใจเท่าไหร่ มันสูง แรงเยอะ หน่วยก้านดี เป็นเหตุให้ช่วงนั้นพวกเราแทบไม่เจอหน้ากันเลยครับ ทั้งที่อยู่ห้องเดียวกัน

   จนถึงก่อนวันแข่ง ได้พักเต็มที่เพื่อลุยศึกหนักพรุ่งนี้ ระหว่างผมเกากีต้าร์ที่ยืมเพื่อนมาเล่น ซันมันชวนคุย

   “ลากปอนด์มันมาดูพวกเราแข่งดีมะ”

   ผมพยักหน้ารับโบกมือให้มันชวนไป ปอนด์ดูไม่ค่อยออกไปไหน ลากออกมาบ้างก็ดีเหมือนกัน ขากลับจะได้แวะไปหาอะไรกินด้วย ที่สำคัญ ถ้าปอนด์มาต้องมีขนมติดไม้ติดมือมาด้วยชัวร์ เฮียเฟย์พี่ชายปอนด์ชอบทำขนมเป็นงานอดิเรก และยิ่งชอบมากเวลาทำให้ปอนด์กิน ผมเลยลาภปากอยู่บ่อยๆ

   นั่งฟังมันคุย ผมส่ายหัวขำๆ ไอ้ซันแหย่ลูกแมวสนุกปาก ปอนด์เขานิสัยเหมือนแมวน่ะเราเลยเรียกกันจนชิน พอซันบ่นอย่างกับเพื่อนตัวเล็กไม่ยอมมา ผมเลยสอดปากบอกจะเลี้ยงไอติม แน่นอน ระดับปอนด์ ของกินมีหรือจะพลาด ตกลงปลงใจมาดูพวกผมแข่งทันที

   “มึงขโมยกีต้าร์ใครมาวะ”

   นั่นปากหรือ ผมขมวดคิ้วใส่ หล่อๆ อย่างผมไม่จำเป็นต้องขโมย แค่อ้าปากขอเพื่อนมันก็ถวายให้แล้ว! ความจริงผมไถเพื่อนมาเองแหละ ของตัวเองอยู่บ้านที่เหนือไม่ได้เอามาด้วย เกิดคิดถึงเลยฉกติดมือกลับห้องซะเลย

   “กูไม่ได้ขโมย กูแค่วิ่งราว ไม มึงอยากเล่น?”

   “เหี้ยกว่าขโมยอีก... ไม่ กูขี้เกียจ มึงเล่นไปเหอะ”

   ผมยักไหล่ นึกอะไรดีๆ ออก เปิดหนังสือเพลงลองเล่นนิดหน่อย

   “กูขยัน เดี๋ยวกูร้องเพลงให้มึงฟัง”

   ลองฮัมเพลงเริ่มเล่นท่อนแรก ผมค่อนข้างมั่นใจในเสียงตัวเอง ขอเน้นร้องท่อนฮุกหน่อยแล้วกัน

ขอสักคนที่มีหัวใจอยู่ในนั้น
หัวใจตรงกับฉัน มาเอาความรักฉันไป
Oh I just wanna be
เธอ เธอได้ยินไหม เธออยู่ตรงที่ใด

เปิดมุมความรักให้ดี ก่อนจะเจอมุมที่ดี
และที่เธอจะรู้วิธี ดูแลคนที่ห่วง
จะไม่ปล่อยให้ใครๆ ต้องเดา
จะไม่ปล่อยให้ในมือต้องเหงา รักของเรา
(Event' (อีเว้นท์) - Season Five)
   
   ร้องไปมองหน้ามันไปด้วยรอยยิ้ม ซันมันเลิกคิ้ว พอผมร้องจบมันพยักหน้ารับดูชอบอกชอบใจ

   “เสียงดีนี่หว่า ร้องเพราะกว่ากูอีก”

   “แค่นี้?” ผมถามเสียงสูง มันทำหน้างงใส่

   “อะไร หรือมึงอยากได้รางวัล อะ กูให้เลยขวดเปล่า”

   มันส่งขวดน้ำที่มันกินหมดมาให้ ผมขว้างใส่หัวมัน เวรจริง กูหยอดขนาดนี้ ร้องเพลงจีบมึง มองลึกซึ้ง ถ้าเป็นสาวหรือหนุ่มน้อยนี่ละลายไปถึงไหนแต่มึงพูดแค่ว่าเพราะดี!? ผมจะบ้าตายกับมัน ตกลงมันวิศวะแน่ใช่มั้ยเนี่ย ถ้าไม่นับความเถื่อน นิสัยอย่างมันคุณชายชิบหาย ไม่พอยังดูเด็กเรียนอีก เวรกรรมของผม

   “ควายชัดๆ” ผมพึมพำ มันเหนือกว่าคำว่าซื่อบื้อไปละ

   “มึงว่าไงนะ?” ทีงี้ทำหน้าโหด

   “ป๊าวววว กูบอกลมพัดเย็นดี”

   “ลมพัดที่หน้า กูได้ยินคำว่าควายเต็มๆ มึงด่ากูเรอะ”

   ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แสร้งร้องเพลงต่อ

   “ฉันขี่ไอ้ซันวิ่งลุยท้องนา ฮึ้ย ฮึ้ย ฮึ้ยฮึ้ย ฉันคนบ้านป่าหน้าตาเหมือนโจร~”

   รออะไร วิ่งสิครับ! ควายซันตกมันแล้ว ผมอุ้มกีต้าร์เปิดประตูเผ่นออกจากห้อง มีไอ้ซันทำท่ากระโดดถีบไล่ตามหลัง เสียงด่ากันงี้ไม่ต้องพูดถึง ห้องอื่นชะโงกหัวมาดูเป็นแถบ ขำอะไรกันนักวะ พวกกูไม่ใช่ตลกคาเฟ่ ไสหัวกลับรูไปเลยไป๊เจ้าพวกใส่เกือก

   หลังจากวิ่งปานหนังอินเดียจนโดนอาจารย์หอด่า ผมกับซันได้เหงื่อพอควร เดินลากขากลับห้องมานั่งเล่นกีต้าร์กันต่อ ผมยัดเยียดให้มันเล่นบ้าง ไอ้ซันมันเล่นเก่งใช้ได้ ส่วนผมเป็นนักร้องให้ มันกวนประสาท ทีแรกเพลงสากลอย่างไฮโซ จู่ๆ แม่งเปลี่ยนเป็นเพลงเพื่อชีวิต ตามด้วยเพลงลูกทุ่ง หมอลำ กูคนครับ ไม่ใช่ยูทูป เปลี่ยนแนวมันเลยนะมึง แต่เพื่อความได้อารมณ์ เซิ้งโชว์กลางห้องแม่ง ไอ้ซันหัวเราะลั่น กีตงกีต้าร์ไม่ต้องเล่น มันลงไปกองทุบพื้น หัวเราะจนชักเข้าโรงบาลไปเลยนะมึง ถือว่าตัดกำลังคู่แข่งพรุ่งนี้

   เพราะมัวแต่เล่น กว่าจะได้นอนกันเกือบเที่ยงคืน ไม่ใช่เด็กอนามัย แต่พรุ่งนี้ต้องเล่นกีฬานัดกระชากมิตร เราตื่นบึ่งไปมหา’ลัยพร้อมกัน รีบแทบตายคิดว่าจะมารายงานตัวไม่ทัน สรุป มีเหตุนิดหน่อยทำให้ต้องเลื่อนเวลาการแข่ง

   ซันแยกไปทางคณะตัวเอง ผมมาฝั่งสถาปัตย์ สาวๆ ดูจะเห่อชุดกันมาก ใส่มาเชียร์จัดเต็ม หนึ่งในนั้นคือคุณเทยตัวโต เจ้าตัวร้องซิกโอดครวญปานญาติเสีย ใส่ชุดไม่ได้เพราะดันตัวพองหลังจากตัดเสื้อไป พอสาวๆ เห็นหน้าผมพากันยุยงส่งเสริม ผมไม่อยากให้ชุดโดนทอดทิ้งเลยอาสาใส่แบบลับๆ หลังแสตน ไม่มีใครในคณะรู้ กระทั่งเดินเนียนออกมาพร้อมกับหลีดนั่นแหละ เสียงกรี๊ดดังกระหึ่ม เสียงโห่ผู้ชายดังยิ่งกว่า ส่วนแสตนฝั่งตรงข้าม ใครถือไรของร่วงหมด

   ผมมองซัน มันกำลังกินน้ำพอดี ถึงกับพุ่งออกจากปาก ดีมิทมันหลบทันเลยไม่โดนพรมน้ำมนต์ใส่ แม้เสียงในโรงยิมจะดัง แต่ปากซันมันบ่งบอกมากว่าด่าผมด้วยคำไหน...

   เหี้ย!!

   นั่นล่ะครับท่านผู้ชม ด้วยชุดหลีดสีประจำคณะ กระโปรงสั้นพลิ้วโชว์ขนหน้าแข้ง เสื้อแขนกุดเอวลอย ผมทรงรากไทรมัดสองจุกผูกโบว์แบบหลีดคนอื่น ทำให้ผมโดดเด่น ณ สถานที่แห่งนี้ แต่ไม่ต้องห่วง ผมใส่กางเกงบาสข้างในครับ พอกรรมการเรียกรวมตัว ผมไปทั้งชุดนี้ คิดดู ขนาดอาจารย์ยังหลุดขำ เหล่มองผมตลอด

   “คิดจะแข่งทั้งชุดนี้จริงดิ”

   เพื่อนร่วมรุ่นถาม ผมหันไปยิ้มเจิดจ้า

   “เออ ตัดกำลังอีกฝ่ายไง”

   เท่านั้นแหละ บรรดารุ่นพี่ รุ่นเดียวกันพากันตบหัวตบหลังจนผมที่มัดไว้เกือบหลุด อย่าๆ สาว(เหลือ)น้อยในคณะอุตส่าห์มัดให้ทั้งที

   การแข่งเริ่มขึ้น ผมจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าชุดไม่เป็นอุปสรรค์ในการเล่นกีฬา แต่ไม่รู้ทำไม เวลาผมวิ่ง ก้าวขายาวๆ หรือกระโดดสักทีต้องมีเสียงกรี๊ดกับเสียงหวาดเสียวดังมาจากแสตน

   ผมคิดว่าตัวเองเล่นไม่เทพขนาดมีแต่คนอยากประกบนะ โดยเฉพาะไอ้ซัน มันแทบไม่ทำแต้มเลย ส่งให้เพื่อนหมด เอาแต่ดักผมอยู่นั่นจนผมชักรำคาญ

   “ดักกูจัง ติดใจขาอ่อนกูรึไง”

   “ติดใจเชี่ยไรล่ะ มึงทำสมาชิกทีมกูเสียสมาธิ!!” ซันแทบแยกเขี้ยวขบหัวผมอยู่รอมร่อ ขนาดลูกไปอยู่ที่คนอื่นเลยยังตามผมไม่เลิก แล้วก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ราวกับเพื่อนในทีมกลัวผมไม่มีส่วนร่วม ขยันส่งลูกมาให้จัง พอๆ กับฝั่งของซัน แย่งกันมันดิงี้ เวลาผมได้ลูก มันกางแขนดัก ผมเนียนกระแทกไหล่ใส่ มันหน้านิ่วคิ้วขมวดตอบโต้กลับดุเดือดไม่แพ้กัน แต่เครื่องร้อนทุกคน เล่นอย่างกับชิงแชมป์โลก ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้คณะตัวเองแพ้

   เสียงสัญญาณดังพักรบชั่วคราว ผมหันไปเห็นปอนด์นั่งอยู่กับพวกริวพอดี เลยถือโอกาสเดินไปหาพร้อมซัน มันหันมาด่าผม

   “ไอ้สัส ยังจะตามมาอีก ไปเปลี่ยนชุดสิวะ มึงทำทีมกูไขว้เขวจนเสียไปตั้งสองแต้ม” ความผิดกูเรอะ พวกมึงเสียสมาธิกันเอง

   “กูมาหาปอนด์ ไม่เสือกครับซัน”

   “กูว่าพวกในทีมไม่ได้เสียแต้มเพราะโป้หรอก แต่เป็นมึงมากกว่าซัน ตอนซ้อมเก่งชิบหาย ไมตอนแข่งพลาดบ่อยจังวะ” มิทพูดได้ตรงใจสุดๆ มันจี้ใจดำซันเพราะเอาคืนเรื่องที่ซันเกือบพ่นน้ำใส่แหง

   “อะไรเข้าฝันให้ใส่ชุดนี้อะโป้” เพื่อนตัวเล็กถามพร้อมยื่นน้ำมาให้ผมกับซัน ผมรับมาดื่มแบบไม่เกรงใจ เฮ้อ ค่อยดีหน่อย

   “ไสหัวกลับคณะมึงไป” ซันปล่อยหมา มือยื่นผ้าเช็ดเหงื่อให้ผม ซัน... การกระทำกับวาจาช่วยไปทางเดียวกันหน่อยเถอะ ผมส่ายหัว รับผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตา มีปอนด์มองตาวาว สีหน้าแบบนี้ จิ้นผมกับซันไปแล้วชัวร์! หนุ่มวายนี่มัน หนุ่มวายจริงๆ

   “สาวในคณะยุเลยแต่งเล่นๆ กลับคณะก่อน โค้ชจ้องตาเขียวแล้ว จะเปลี่ยนเสื้อด้วย” ผมยิ้มตอบปอนด์ จงใจเมินคำด่าไอ้ซัน โบกมือลากเพื่อนตัวเล็ก ยักคิ้วกวนซันทิ้งท้ายแล้วกลับคณะตัวเอง ก่อนที่ผมจะถูกวิศวะรุมตื้บและเพื่อนร่วมทีมขว้างลูกบาสใส่หัว

   รอบหลังผมเปลี่ยนมาใส่ชุดบาสตั้งใจลงแข่งมากขึ้น ไอ้ซันชู้ตเก่งมาก มันทำแต้มให้ทีมสองรอบติด ทั้งสองฝ่ายสลับทำแต้มอย่างไม่มีใครยอมใคร นับแล้วถือว่าเล่นกันแรงพอสมควร ไม่นอกกติกา แต่ชนกันทีจบการแข่งมีรอยฟกช้ำจะไม่แปลกใจเลย

   ผมกับซัน ไม่มีคำว่าเพื่อนหรือรูมเมท แสดงฝีมือของตัวเองเต็มที่ ผลสุดท้ายไอ้ซันมันชู้ตได้อีกลูกก่อนเวลาหมด ทำให้คณะผมแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย เจ็บใจชะมัด รุ่นพี่เรียกรวม สีหน้าพวกเราอัดอั้นเต็มกำลัง

   “ไม่เป็นไร เราค่อยเอาคืนพวกมันกีฬาอื่น”

   แค่ประโยคเดียว ทุกคนกลับมาฮึดอีกครั้ง มีหลายคนในทีมบาสที่ลงแข่งกีฬาประเภทอื่นด้วย พวกในทีมชวนผมไปกินข้าวแต่ผมขอตัวเพราะมีนัด ผมเลยบอกลาปลีกตัวมารวมกลุ่มกับพวกซัน ดีหน่อย ริวกับมิทเลือกที่นั่งเว้นช่วงกับคณะของตัวเองนิดหน่อย ผมเลยไม่ต้องเดินเสี่ยงดงตีนตอนเดินไปหา

   “เหนื่อยมากแต่โคตรมัน” ซันเริ่มบทสนทนาก่อน

   “เออ มันจนกูช้ำเลยเนี่ย” ผมบ่นงึมงำ ก่อนหันไปมองปอนด์ตาวาว ”หือ ได้กลิ่นขนม เฮียเฟย์เอาขนมมาฝากด้วยสินะ ไหนๆ” ว่าแล้วก็ย้ายตัวเองไปนั่งข้างปอนด์ หยิบกล่องขนมแจกจ่ายให้ทุกคน มีแค่ซัน ดูมันไม่ชอบของเลี่ยน เล่นปาดครีมบนหน้าเค้กให้ปอนด์หมด ส่วนตัวเองกินแต่แป้ง ชะโงกข้ามปอนด์มาดูแขนผม

   “ไหนวะ ตอนกระแทกในสนามมึงช้ำเรอะ” ชนกันแรงขนาดนั้น ไม่ช้ำก็คนเหล็กแล้ว

   “ไม่เท่ามึงหรอก กูจำได้ว่าศอกกูเข้าพุงมึงไปเต็มๆ เป็นไงมั่ง”

   ผมยื่นมือข้ามปอนด์เปิดเสื้อซันดู กล้ามพุงของมันมีรอยช้ำเป็นวง มิทอยากมีส่วนร่วม โผล่เข้ามากอดปอนด์จากทางด้านหลัง อย่าให้เฮียเฟย์เห็นเชียวนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง ขานั้นโคตรหวงปอนด์

   “ผัวเมียเป็นห่วงกันต่อหน้าลูกชายไม่ดีนะ ดูปอนด์ทำหน้าเหม็นเบื่อใหญ่แล้ว”

   แค่ก! แทบสำลักเค้ก คำว่าผัวเมียมโนในใจจนชิน แต่ปอนด์เป็นลูกพวกผมตอนไหนวะ

   “หุบปากไปเลย มึงนี่ก็ชงจริง มันเป็นเรื่องภายในครอบครัว เขาไม่ให้เอามาพูดข้างนอก”

   ริวรับไม้ต่อเข้ามาเสริม ผมกับซันร่วมมือกันโบกไปคนละที

   “พวกมึงนั้นแหละเงียบให้หมด ไปแดกข้าว” ซันเปลี่ยนเรื่องกอดคอปอนด์ ไม่ทันไรปอนด์หันมาทวงผม

   “อย่าลืมไอติมด้วย ซันบอกโป้จะเลี้ยง” ผมขำมองซันขยี้ผมปอนด์จนยุ่ง ล่อด้วยของกินได้ผลดีจริงๆ ดูท่าเฮียเฟย์จะใช้ไม้นี้บ่อยด้วย ไหงปอนด์มันไม่ตัวโตขึ้นเลย สงสัยกระเพาะหลุมดำ ไม่ก็สวรรค์ให้มาแค่นี้

   “เออๆ กินข้าวตามด้วยไอติม พอใจยัง” หัวโจกกลุ่มเสนอ

   “ดีงามมากๆ” ปอนด์ยกนิ้วโป้งให้ พออกพอใจน่าดู

   “จะไปกินที่ไหนกันดี ร้านตามสั่งข้างมอมั้ย ตรงนั้นมีร้านไอติมกับนมปั่นด้วย” ผมลองเสนอ ทุกคนไม่มีใครคัดค้าน พวกมันคงขี้เกียจคิดกันมากกว่า ระหว่างทางไปร้านไม่มีอุปสรรคจนกระทั่งผมเห็นรถสีดำราคาแพงมาจอดเทียบด้านข้าง ผมกับซันพร้อมใจกันดันปอนด์ให้ไปอยู่ด้านหลัง เรามองหน้ากันก่อนจะจ้องที่รถคนนั้น

   ช่วงเวลาแห่งการคาดเดาไปต่างๆ นาๆ จู่ๆ มิทที่ปกติร่าเริงตลอด สบถยาวแล้วหันมาขอแยกตัวกับพวกผม

   “พ่อมารับแล้ว ฉันกลับก่อนนะ พวกนายไปกินกันเลย ไว้จะมาฉลองชัยชนะให้วันหลังนะเพื่อน” ผมมองตามหลังมิทขึ้นรถคันนั้นไป ดวงตาหรี่มอง พอเดาอะไรได้ลางๆ มิทเคยบอกว่าผมเส้นสายไหนก็ไม่สามารถช่วยเขาได้ ถึงเวลานี้ผมเข้าใจแล้ว เจ้าของรถคันนี้น่ากลัวว่าจะเป็นคนที่ไม่ควรไปยุ่งด้วยมากที่สุด

ซันหันไปคาดคั้นเอากับริว คงเพราะสองคนนี้ส่วนใหญ่มักไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ริวน่าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับมิทบ้างไม่มากก็น้อย

   “กูจำได้ว่ามิทมันบอกมีแม่คนเดียวไม่ใช่เหรอวะ”

   “ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ก็เพิ่งเจอพร้อมกับมึงนี่แหละ ช่างมันเหอะ ไอ้มิทไม่ใช่ไก่กา มันไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับอะไรโง่ๆ หรอก”

   ริวตอบทันทีแบบไม่เสียเวลาคิด ใบหน้าเรียบเฉย มันรู้แน่ๆ แต่ไม่น่าจะรู้รายละเอียดทั้งหมด มิทระวังตัวแจขนาดนั้น

   “ขอให้มันเป็นแบบนั้นแล้วกัน”

เห็นริวถูกซันต้อน แถมมิทไม่อยากให้ซันรู้เรื่องพวกนี้ จะยื่นมือช่วยนิดๆ หน่อยๆ แล้วกัน ผมปรบมือเรียกให้ทุกคนมาสนใจ เห็นเพื่อนตัวเล็กสะดุ้ง อะไรจะขวัญอ่อนปานนั้น

   “พวกมึงจะเล่นเกมจ้องตากันก็ตามสบาย แต่กูหิว ยังไม่แดกอะไรตั้งแต่เที่ยง กูพาปอนด์ไปนั่งรอในร้านล่ะ” ผมลากปอนด์เข้าร้านข้าว ตัดบทสนทนาที่ไร้คำตอบพวกนั้นซะ ได้แต่หวังว่าสักวัน มิทจะพร้อมและเล่าเรื่องทุกอย่างด้วยปากของตัวเอง

   หลังกินข้าวตามด้วยไอติมเสร็จ แต่ละคนก็แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง ซันเงียบตลอดทางคงยังคิดเรื่องของมิทอยู่ เดี๋ยวหน้านิ่วคิ้วขมวด เดี๋ยวส่ายหัว บางทีดูหงุดหงิด ไอ้คนรักเพื่อนจนโอเวอร์เอ๊ย!

   “ซัน กูจะแวะซื้อยา” ที่ห้องมีแค่พารา ไม่มีพวกยาแก้ฟกช้ำ ต้องแวะร้านสะดวกซื้อใต้หอก่อนขึ้นไป เจ้าของชื่อไม่มีปฏิกิริยาสักนิด ผมยื่นมือไปดีดนิ้วตรงหน้ามัน มันมองตาปริบๆ เมื่อกี้ไม่ได้ฟังกูเลยสินะ

   “กูบอกว่าจะแวะซื้อยาไปทา มึงรอนี่”

   “ยาแก้ปวดด้วยมึง” ก็ยังดีที่สติมันกลับมา ผมพยักหน้ารับเดินเข้าไปในร้าน ด้วยความที่เป็นร้านใต้หอพัก ในร้านเลยมีสิ่งของหลากหลายไม่แพ้เซเว่น เพื่อสนองความต้องการของหนุ่มสาวมหา’ลัยอย่างพวกเรา ผมซื้อยาทากับยาแก้ปวด น้ำดื่มกับของกินนิดหน่อย

   ซื้อเกลือแร่ไปด้วยดีกว่า วันนี้เหงื่อออกเยอะ ผมกำลังจะเปิดตูคว้าขวดเกลือแร่ ดันมีอีกมือยื่นมาหยิบให้

   “เอาขวดนี้รึเปล่า”

   ผู้ชายท่าทางเรียบร้อย หน้าตาดีไม่เลว แต่ยังไม่โดน ผมยิ้มชูสองนิ้ว ไม่ได้จะแอ๊บ กูจะเอาสองขวด เผื่อไอ้คนที่ยืนหน้าบูดอยู่นอกร้าน

   “อ่อ สองขวด”

   ไม่โง่แฮะ พอผมจะรับอีกฝ่ายดันไม่ยื่นให้ อะไรของมัน

   “เห็นถือของเยอะ เดี๋ยวช่วย นายชื่ออะไร เราชื่อเก้า”

   “โป้” ผมตอบสั้นๆ แสดงตัวตนชัดเจนขนาดนี้ รอดูหน่อยแล้วกันว่าจะมาไม้ไหน

   “เราเห็นโป้ตอนแข่งบาส ชุดที่ใส่ตอนแรกสุดยอดมาก เพื่อนเราตาค้างทุกคน ไม่คิดเลยว่าจะอยู่หอในเหมือนกัน เราอยู่ชั้นสาม ห้อง 302 โป้อยู่ห้องอะไร” โอ้โหเฮ้ย! ไม่ถามเบอร์ ล่อถามเลขห้องเลย ออกตัวแรงมาก ผมขำ ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดตัดบทสนทนาไร้สาระ มีแขนข้างหนึ่งกอดคอผม

   “ทำไมช้านักวะ แล้วมึงเป็นใคร?”

   ซัน กูอยากเอากระจกมาให้มึงส่องเหลือเกิน สีหน้ามึงตอนนี้นอกจากจะเถื่อนแล้วยังควบดีกรีความโหดเข้าไปอีก มันยิ่งอารมณ์ไม่ดีเรื่องมิทอยู่ อย่าใช้โอกาสนี้ระบายอารมณ์นะเฟ้ย ผมไม่อยากโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิด

   “เพื่อนโป้? เป็นวิศวะ??” นายเก้าแสดงสีหน้าชัดเจนว่าข้องใจมาก คงจะสงสัยล่ะสิ สองคณะไม่ถูกกัน แถมในสนามแทบจะฆ่ากันตายไหงมากอดคออยู่นี่ได้

   “เออ กูเป็นรูมเมทโป้ ไป ไหนมึงบอกจะทายาให้กูไง” เพื่อนถึกออกแรงลาก ผมยื้อตัวไว้ ดวงตาคมตวัดมอง ทีมันโมเมว่าผมจะทายาให้ ผมยังไม่ชักสีหน้าใส่มันสักนิด

   “ใจเย็นดิ๊ กูเอาเกลือแร่ก่อน” ซันหรี่ตามองเกลือแร่สองขวดในมือเก้า ทางนั้นไม่ดื้อดึง ยอมยื่นให้แต่โดยดี ซันมันดันเมินหน้าตาย เปิดตู้หยิบขวดใหม่แล้วลากผมไปคิดเงิน ปล่อยเก้ายืนทำหน้างงอยู่อย่างงั้น เอาไว้ผมจะคุยดีๆ กันที่หลังนะถ้ามีโอกาส ดูเผินๆ แล้ว เก้าไม่น่าจะนิสัยแย่อะไร แค่สนใจเลยมาคุยถือเป็นเรื่องปกติมาก ขนาดผมแต่ก่อนยังมีบ้างเลย ที่สำคัญโดนซันมันดักขนาดนี้ คงล้มเลิกความคิดจะจีบผมไปแล้วแหละ

   จ่ายเงินเสร็จเราหารตังกันคนละครึ่ง พวกเราเดินขึ้นบันไดมาชั้นบน ขนาดถึงห้องซันก็ยังมีท่าทางหงุดหงิดเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากเรื่องมิทเป็นเรื่องผมแทน

   “มึงอย่าไปคุยกับมันอีก แม่งโคตรไม่น่าไว้ใจ”

   ผมมองซันด้วยสายตาว่างเปล่า รู้มั้ย มึงตอนนี้ทำตัวอย่างกับเด็กหวงเพื่อน ผมถอนหายใจกับความขี้ห่วงของมัน คว้าผ้าขนหนูยัดใส่มือไล่มันไปอาบน้ำซะ จะได้หัวเย็น

   “เออน่ะ กูตัดสินใจเอง ถ้ากูอ่อนขนาดนั้น กูคงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงปัจจุบันหรอก มึงไปอาบน้ำไป จะให้กูทายาให้ไม่ใช่ไง”

   ซันชะงัก ต้องให้ผมเตือนสติมันตลอดๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าผมรู้เรื่องมันรักเพื่อน ผมคงเข้าใจว่ามันคิดอะไรกับผมแล้วนะเนี่ย ตั้งแต่เรื่องถอดเสื้อในห้อง

   “ไม่ มึงอาบก่อน เดี๋ยวกูค่อยอาบ แล้วเรามาสลับกันทายา”

   ผมพยักหน้ารับส่งๆ หยิบผ้าขนหนูของตัวเองเข้าไปอาบแทน พอออกมาซันเข้าต่อ ผมเห็นว่ารอยช้ำตัวเองทาเองได้ เลยจัดการซะ จะมาสลับให้กันทาทำไมเสียเวลา ไหงพอซันออกมาชักหน้าหงิกใส่ผมอีกล่ะ
 
   “มานี่ คิดว่ามีแค่นั้นรึไง หลังมึงก็ช้ำ บอกให้รอกูทำไมไม่รอ”

   “กูไม่ได้เป็นง่อยนี่หว่า”

   “เออ มึงไม่ได้ง่อย แต่มึงไม่มีตาหลัง หมาตัวไหนทำช้ำขนาดนี้วะ” หมาซันไงครับแหม่ ถามมาได้ ถ้าขืนผมสวนไปมีหวังได้เถียงกันยาว ผมชวนมันคุยเรื่องอื่น พอมันทายาให้ผมเสร็จ ผมก็ทายาให้มันมั่ง

   “กูไม่ได้ช้ำจนน่ากลัว แค่กูผิวขาวมันเลยเห็นชัด ไม่เหมือนมึง ดำ แทนมองไม่เห็นว่าตรงไหนช้ำตรงไหนปกติ ทาลำบากชิบ”

   ผมก้มอยู่แถวท้องมัน เอ้อ ซันมันเปลือยท่อนบน ส่วนผมหลังทายาเสร็จถูกบังคับให้ใส่เสื้อ เอาวะ คราวนี้ไม่มีผมที่เสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว เงยหน้ามาจะบอกให้มันหันหลังดูจุดอื่น ดวงตามันมองนิ่ง มือหนาจับปลายรากไทรผมเล่น

   “ผมมึงนุ่มดี หอมด้วย”

   ผมขมวดคิ้ว อย่ามายั่วเดี๋ยวจัดท่าจระเข้ฟาดหาง มือดันตัวมันออกแล้วจับหันหลัง เอานิ้วป้ายยาจิ้มๆ ใส่จุดที่ช้ำ จงใจเน้นหน่อยด้วยความหมั่นไส้โทษฐานทำผมใจเต้นไปวูบหนึ่ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2016 23:58:40 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :really2:    ความสวยเป็นเหตุแท้ๆเลยนะโป้. ซันตกหลุมรักแรกพบชัดๆแต่ยังไม่รู้ตัวอีก ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณค่ะ.  :katai2-1:   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
รู้สึกบรรยากาศในห้องซันโป้หวานๆยังไงไม่รู้นะ :-[ :-[  :laugh:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่4 เสื้อ

   งานแข่งเป็นช่วงที่วุ่นวาย เด็กปีหนึ่งต้องฝึกอย่างหนัก ขณะเดียวกันรุ่นพี่ปีสองเองต้องเตรียมการคุมน้องและอีกสารพัด ผมเป็นเฟรชชี่ที่ดันมีฝีมือมากไปนิดหนึ่ง บวกกับนิสัยเข้ากับคนอื่นง่าย เลยถูกลากมาช่วยงานแต่งแสตนด้วยฝีมือพวกรุ่นพี่สาว(เหลือ)น้อยทั้งหลาย ดูพวกพี่จะไว้ใจผมราวกับว่าผมไม่ใช่ผู้ชายคนหนึ่ง ขนาดถลกเสื้อเช็ดเหงื่อแบบแมนๆ ต่อหน้าต่อตา...

   “พี่ฝ้าย ผมเป็นผู้ชายนะ ช่วยปิดๆ มากกว่านี้หน่อยเถอะ”

   ผมกลอกตาขึ้นฟ้า นั่น พูดไม่ทันขาดคำ พี่ปุ้นเอากะเขามั้ง โอยย ใครหลายคนอาจจะอิจฉา แต่สำหรับผมมันช่างเป็นการทดสอบศีลธรรมแบบสุดๆ ใช่ว่าผมจะเป็นเกย์แล้วไม่มองผู้หญิงนะ ของสวยๆ งามๆ ยังไงก็น่ามอง สองรุ่นพี่หันมามองผมเป็นตาเดียว จ้องแบบตั้งแต่หัวจรดเท้า เท้าจรดหัว สภาพผมตอนนี้ผันตัวเองเป็นกรรมกรเต็มกำลัง คอยแบกของหนักให้พวกพี่สาวทั้งหลาย เสื้อเชิ้ตนศ.ชุ่มไปด้วยเหงื่อ เปียกยันกางเกงใน
 
   “อ้าว มึงเป็นผู้ชายเหรอ กูนึกว่าเพื่อนสาว”

   พี่ฝ้ายยักคิ้วตอกตะปูโป๊กๆ เอาอีกละ เปิดประเด็นนี้กันอีกแระ พวกรุ่นพี่คนอื่นก็เหลือเกิน แทนที่จะช่วย ดันหัวเราะเยาะรอดูเรื่องสนุก เมื่อไหร่พวกเพื่อนผมกับพวกรุ่นพี่ผู้ชายจะกลับมาฟะ พวกนั้นไปแบกไม้ถึงป่าอเมซอนหรือไง

   “อย่ามัวแต่ยืนสวย ไปแบกถังสีมาให้กู” พี่ปุ้นชี้นิ้วสั่งเยี่ยงราชินี ผมถอนหายใจวิ่งไปหิ้วถังสีมาให้ เขาว่าผู้หญิงอายุมากกว่าชอบใช้งานผู้ชายเห็นจะจริง แต่ละคนสั่งให้ผมไปหยิบนู่น ช่วยนี่ ทานั่นไม่ได้หยุด พอพวกเพื่อนมาราวกับเปิดทางสวรรค์ มีคนแบ่งเบาภาระขี้ข้าแล้วเว้ย!

   ผมไปช่วยแบกไม้กระดานลงมาวางเรียงไว้ด้านล่าง จู่ๆ มีขวดน้ำเย็นยื่นส่งให้ พอหันไปมองไม่ใช่พวกเดียวกันแต่เป็นผู้ชายที่ชื่อเก้า

   “ทำงานหน่อยเลยนะ เหงื่อซก เอ้าน้ำเย็นๆ ชื่นใจ”

   “ขอบใจ”

   เอ่ยปากขอบคุณแล้วรับน้ำมาดื่ม ของฟรีไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธ นับจากวันที่ผมเจอเก้าครั้งแรก ผ่านไปได้สองอาทิตย์ ไม่รู้สวรรค์เป็นใจหรือนรกสาปส่ง ผมมักบังเอิญเจอกับเก้าบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงอาหาร ตอนย้ายห้องเรียนกำลังเดินกลับหอ ขนาดจะมาเรียนยังเห็นเก้ายืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าหอ

   เจตนาชัดเจนขนาดนี้ ผมดูไม่ออกก็ควักลูกตามาเหยียบซะ แต่ไม่มีเหตุให้ต้องปฏิเสธ ในเมื่อผมยังว่างไร้คนจับจอง

   “โอ๊ยยย พวกกูทำงานจนมดลูกหย่อนยังไม่มีหนุ่มคนไหนเอาน้ำมาให้มั่งเลย”

   พี่ปุ้นส่งเสียงโหวกเหวก เก้าเกาหัวยิ้มแห้งหน้าขึ้นสีนิดๆ ส่วนผมชิวมาก คือทีแรกผมก็ระแวงแหละว่าเพื่อนทุกคนจะรับได้ไหมกับรสนิยมของผม ปรากฏว่าที่นี่เปิดเผยมากกว่าที่คิด แถมเด็กศิลป์มักมีความติสท์อยู่ในตัว อย่างพี่ฝ้ายก็บอก มีพวกที่ทำตัวพิลึกยิ่งกว่าผมอีก แล้วคณะนี้มีครบทุกเพศ

   หัวเราะสวนกลับไป

   “ของพี่น้ำเปล่าไม่สนมั่ง มันต้องน้ำเมา!”

   เชี่ย! ตะปูลอย กระโดดหลบแทบไม่ทัน พี่ปุ้นชูนิ้วกลาง

   “มันแน่อยู่แล้วเว้ย เฮ้ยพวกมึงอย่าช้า รีบทำงานเข้า โดยเฉพาะมึงอีโป้ เสน่ห์แรงแซงหน้ารุ่นพี่ ชะนีน้อยอย่างมึงต้องทำงานหนักที่สุด!” พูดจบกราดชี้นิ้วเรียงหัวแล้วเจาะจงมาที่ผม เห็นเก้าคิ้วกระตุก มันเป็นหนุ่มบริหาร บางทีอาจจะรับไม่ได้กับความเถื่อนของคณะนี้ ผมเลยตบบ่ามันเบาๆ

   “กลับไปช่วยที่คณะเถอะ” มันพยักรับ ดูไม่ค่อยอยากไป แต่จำต้องไป สงสัยกลัวพี่จะแหกอกผม เห็นพี่สาวแลแมนกันขนาดนี้แต่ความจริงใจดีมากนะ เลี้ยงเหล้าน้องด้วย พูดแล้วน้ำลายยืด

   “โป้ทั้งชายทั้งหญิงเลยนะมึง”

   เพื่อนรุ่นเดียวกันตวัดแขนกอดคอ ไอ้นี่ไม่ได้คิดอะไรกับผมชัวร์ เพราะมันมีเมียแล้ว ผมยักไหล่ยกยิ้มมุมปาก

   “ช่วยไม่ได้ คนมันหน้าตาดี มึงอยากหล่อเหมือนกูมีวิธีนะ”

   มันหูผึ่งตาโต

   “วิธีอะไรวะ”

   ยิ่งเห็นท่าทางสนใจจนออกนอกหน้ายิ่งอยากแกล้ง ผมคว้าคอมันมาพูดราวกับว่าเรื่องที่จะบอกเป็นความลับระดับสุดยอด

   “มึงเดินออกจากที่นี่นะ แล้วมึงแวะไปหน้ามหา’ลัยซื้อพวงมาลัยดอกไม้ธูปเทียนเอาให้ครบ”

   “โห่! ไรวะ วิธีไร้สาระ” มันทำท่าจะเดินหนี ผมรั้งมันไว้ก่อน

   “ยังมึง ยังไม่จบ หลังจากนั้นมึงไหว้ตั้งสมาธิให้มั่นขอพรให้ตัวเองเกิดมาหน้าตาดี จากนั้นมึงขึ้นไปบนดาดฟ้าของคณะเราแล้วกระโดดลงมาเลย อ้อ ระหว่างโดดอย่าลืมนึกภาพหน้าหล่อๆ ไว้อยากได้แบบไหนคิดแบบนั้น ฮ่าๆ!”

   เพื่อนผมมันคำรามวิ่งไล่เตะตูดผมไปทั่ว สุดท้ายโดนรุ่นพี่ด่าโทษฐานมัวแต่เล่น เพิ่มงานเป็นสองเท่ามานั่งใช้แรงงานมือเป็นระวิง ระหว่างผมกำลังลงสี ถือแปรงเพ่งภาพร่างในกระดาษกับภาพที่อยู่บนกระดานไม้ซึ่งถูกเลื่อยออกเป็นรูปร่าง ทาสีส่วนใหญ่ไปแล้ว เหลือเก็บรายละเอียด บางทีต้องมองใกล้ๆ ถึงจะเห็นจุดพลาด

   จังหวะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นดู...

   แคว่ก!

   ทุกสายตาหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว รู้สึกลมพัดผ่านแขนข้างซ้าย หันไปมองสิ่งที่เกิดขึ้น มุมที่ผมอยู่มีข้าวของระเกะระกะ แต่ไม่คิดเลยว่าข้างตัวจะมีไม้ติดตะปูเกี่ยวกับแขนเสื้อตอนผมลุกขึ้น พอยืนเต็มความสูง แขนเสื้อนศ.ช่วงไหล่หายไปครึ่ง

   “โป้ ถึงกับเบ่งกล้ามเสื้อขาดเลยเหรอ” ไม่รู้เสียงใครพูดขึ้น ทุกคนพากันฮาใหญ่ ส่วนผมคิดหนัก มองแขนเสื้อร่อแร่ของตัวเอง

   “มาเดี๋ยวช่วย”

   จำเลยผมตอนแรกวิ่งมาดึงแขนเสื้อแล้วกระชากออก บ้าเอ๊ย! คราวนี้ไปทั้งยวง กลายเป็นชุดนศ.แขนยาวข้างกุดข้างแล้ว อนาถจิต! ผมป้ายแปรงสีใส่หน้ามันด้วยความเคียดแค้น มันโวยใหญ่รีบวิ่งไปหาน้ำล้าง เห่อๆ มันเป็นสีแบบล้างออกได้ ร้องซะเป็นผู้หญิงเลย

   “เอาอีกข้างมั้ยโป้ จะได้บาลานซ์”

   “บ้าแล้วพี่ฝ้าย สงสัยต้องเรียกกำลังเสริม”

   ผมขมวดคิ้ว ภาพรูมเมทโผล่มาในหัวคนแรก ความจริงไม่มีปัญหาหรอก แต่เดี๋ยวผมต้องไปคุยกับจารย์อีก ขืนไปสภาพงี้โดนด่าเปิง มือหยิบโทรศัพท์จิ้มชื่อ ‘Iเถื่อน’ ไอต้องเป็นตัวไอภาษาอังกฤษด้วยนะ

   “ซันมึงอยู่ไหนวะ”

   /อยู่คณะ มีไร/ มันตอบกลับมา ได้ยินเสียงพวกมิทด้วย คงอยู่กับเพื่อน

   “มึงมีเสื้อสำรองมะ พอดีเสื้อกูขาด” หวังว่าคุณชายอย่างมันน่าจะพกเสื้อสำรองเอาไว้นะ

   /มึงอยู่ไหน/

   ผมเหล่มองพี่ฝ้าย เอาหูมาแนบซะ คุยเองเลยมั้ยพี่ ฝ่ายคนเผือกเห็นรุ่นน้องจ้องมากๆ เข้า เจ้าตัวผิวปากไม่สมหญิงเดินเนียนไปจับนู่นแตะนี่ ส่วนคนอื่นก้มหน้าก้มตาทำงานกันตามเดิม

   “อยู่หลังตึกคณะ กำลังทำแสตน ช่างเถอะถ้ามึงไม่มีเสื้อก็ไม่เป็นไร”

   แล้วผมจะรายงานมันทำไมวะเนี่ย หรือจิตใต้สำนึกของผมบอกว่าซันมันเริ่มมีบทบาทเป็นพ่อของผมแล้ว

   /รอนั้น เดี๋ยวกูไป/

   พูดจบแม่งวางสายใส่หูทันที ผมรีบโทรกลับ ไอเชี่ยซัน มึงจะมาถิ่นอริทำแมวอะไร ผมกับมันญาติดีกัน ใช่ว่าคนอื่นจะญาติดีกับมันนะ หน้ามันยิ่งกวนส้นเท้าอยู่ สรุป มันไม่ยอมรับสายผม แล้วยังกดตัดคล้ายรำคาญเต็มที่ ผมหันไปหาพี่ปุ้น แกนนำทำงานวันนี้

   “พี่ เดี๋ยวผมมานะ เพื่อนมันจะเอาเสื้อมาให้”

   พี่แกโบกค้อนเป็นเชิงบอกจะไสหัวไปไหนก็เชิญตามสบาย แต่ดวงตาจ้องเขม็ง ถ้าผมเนียนหนีไม่กลับมา อนาคตผมคงจบอยู่เพียงแค่นี้ ผมยกมือไหว้กำลังจะวิ่งออกไปดักซันหน้าคณะก่อนเบรคเอี๊ยดเพราะคนที่กล่าวถึงมันเดินหล่อมานู่นแล้ว

   “จะไปไหน กูบอกให้มึงรอเฉยๆ ไม่ใช่?” ผมเลิกคิ้วถาม ท่าทางอย่างกวน แต่หล่อลาก

   “ไมมาไวจริง มึงไปเลย อยากโดนรุมตีนไงวะ”

   ผมยังอยากแอบมองหุ่นมันอยู่นะเฮ้ย ปล่อยให้มันเดี๊ยงหมดหล่อไม่ได้เด็ดขาด ไอ้ซันขืนตัวไว้ไม่ยอมตามแรงลาก นี่ตีนมึงตอกหมุดติดพื้นรึเปล่า ไม่กระดิกสักนิด ผมว่าผมไม่ได้แรงน้อยนะ ไอ้รูมเมทหน้าเถื่อนไม่สนท่าทางร้อนรนของผม มันก้มลงมองแขนเสื้อข้างที่ขาด แล้วถอดเสื้อตัวเองออกดื้อๆ

   “เอาไปเปลี่ยน”

   “มึงถอดเสื้อมาให้กู ไม่มีเรียนต่อเหรอ”

   มันส่ายหัวยัดเสื้อใส่มือผม ตัวมันชอบใส่เสื้อกล้ามด้านใน ตอนนี้เลยเผยต้นแขนน่ากัดท่อนล่างเป็นกางเกงยีน

   “มึงนี่ถามจริง จะเปลี่ยนเองหรือให้กูเปลี่ยนให้” มันจิ๊ปากดูรำคาญ เอาวะ มันอุตส่าห์เสียสละเสื้อให้ทั้งที ผมปลดกระดุมถอดแม่งตรงนี้ อายอะไรครับผู้ชาย ไม่มีหน้าอกหน้าใจให้มองหรอก ไอ้ซันตาโตมองผมเหมือนโมโห จับแขนลากไปยัดใส่มุมหนึ่งก่อนมันจะยืนเอาตัวบังหันหลังมาให้

   “เปลี่ยนเร็วๆ” มันกัดฟันมอง ผมรีบเปลี่ยนไม่รู้มันแดกรังแตนที่ไหนมา พอเปลี่ยนเสร็จถึงสะกิดเรียก มันมองผมที่ใส่เสื้อมันเรียบร้อยท่าทางพอใจแล้วคว้าเอาเสื้อเก่าที่ขาดไปถือไว้เอง

   “ไม่รังเกียจเหรอ เอาของซันมันไปใส่” มิทโผล่มาจากไหนไม่รู้ ชะโงกหน้าเข้ามาถาม มิน่า ทำไมซันมันถึงเดินเข้ามาสบายใจเฉิบ เจ้ามิทพามานี่เอง บอกได้เลยว่าอยากรู้เรื่องอะไร ส่วนไหนในมหาลัยให้ถามมิท หมอนี่มันรู้หมดทุกอย่างสมกับที่มันรู้จักคนเยอะยิ่งกว่าผมซะอีก

   “รังเกียจทำไม กูซักเองกับมือ”

   ผมหัวเราะ แต่ทุกคนที่กางหูฟังพากันอึ้ง ไอ้เพื่อนผมที่มันฉีกเสื้อวิ่งเข้ามาลากคอผมไปคุย มีพี่ฝ้ายกับพี่ปุ้นรุมเข้ามาหา

   “รูมเมทประสาอะไร มีซักผ้าให้กันด้วย นี่คงไม่รีดด้วยใช่มั้ย”

   “นั่นสิ พวกผู้หญิงอย่างฉัน อยู่กับรูมเมทยังไม่มีรีดเสื้อซักผ้าให้กันเลยนะ” พี่ปุ้นกับพี่ฝ้ายคงเป็นคู่นี้ฮาร์ดคอเกินไป อย่าเอาไปเหมารวมกับหญิงสาวธรรมดาทั่วไปสิ พวกเธอเสื่อมเสียหมด ผมได้แต่คิดในใจ ขืนพูดออกไปตายพอดี

   “บางทีไม่มีเวลาเลยช่วยๆ กันน่ะ”

   พี่ปุ้นมองตาวาว ผมชักรู้สึกความซวยกำลังมาเยือน

   “โป้! เป็นเมียพี่เหอะ แม่ศรีเรือนขนาดนี้ แถมยังช่างดูแลอีก” ผมค้อนใส่ เป็นเมียอะไรกัน อย่างผมต้องเป็นสามีสิถึงจะถูก

   “พูดอะไรยัยปุ้น โป้มันชอบ...อุ๊บ!”

   รีบยกมือไปปิดปากสาวเจ้าอย่างด่วน ผมไม่ยอมให้พี่ฝ้ายพูดจบประโยคเด็ดขาด พลางหันไปมองซัน ทางนั้นยืนคุยกับมิทไม่มีอาการผิดปกติ แสดงว่าเมื่อกี้ไม่ได้ยิน ค่อยโล่งอกหน่อย ผมยังไม่พร้อมจะบอกซันตอนนี้

   เพื่อนผมถามแบบไม่อยากเชื่อ

   “อย่าบอกนะว่ารูมเมทมึงไม่รู้เรื่องมึงเป็นเกย์” เพื่อนเวร ผมตบหัวมันหน้าทิ่ม

   “ไม่น่าเชื่อ นอกจากจะมีสวยใสไร้สมอง ยังมีหล่อแล้วโง่ซื่อบื้ออีกเหรอเนี่ย” พี่ฝ้ายพูดแบบทึ่งจัด ผมปวดหัวจี๊ด

   “ผมขอล่ะ เลิกพูดเรื่องพวกนี้เหอะ”

   จะยกมือไหว้ท่วมหัวแล้ว ทุกคนยอมเออออปล่อยผมไป หลังจากนี้ผมจะโดนแกล้งอะไรบ้างคงได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรม ผมเดินไปมองซันกับมิท

   “ขอบใจที่ให้ยืมเสื้อ พวกมึงกลับไปก่อน ไว้เจอกันที่ห้อง”

   ประโยคหลังผมพูดกับไอ้ซัน

   “ไม่ เดี๋ยวพวกกูรอแถวนี้ มึงเสร็จเมื่อไหร่โทรมา”

   ผมมองตามันปริบๆ หรือว่าอาการหวงเพื่อนของมันจะเลเวลอัพขึ้น? มองมิทที่น่าจะรู้เรื่องมากที่สุด คนถูกจ้องเสมองไปทางอื่น ชัดเลย ฝีมือเจ้ามิทแน่ๆ ผมถอนหายใจ

   “ตามใจ แต่กูต้องแวะไปหาจารย์ตอนเย็นอีก รอได้แน่นะ”

   มันพยักหน้าแล้วลากคอมิทเดินจากไป ผมก้มมองเสื้อตัวเอง กลิ่นมันยังอยู่ รู้สึกอุ่นๆ อยู่เลย ตัวใหญ่กว่าผมไซส์หนึ่งด้วย ผมพับแขนเสื้อพยายามอย่างยิ่งในการทำงานทาสีแล้วไม่ให้เสื้อเลอะ

   งานยังไม่ทันเสร็จดีผมต้องขอตัวไปหาอาจารย์ พี่ปุ้นยอมให้ผมไปแต่สั่งว่าพรุ่งนี้ต้องมาช่วยอีก ผมยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมลารุ่นพี่กับเพื่อนคนอื่นแล้ววิ่งขึ้นชั้นบนไปหาอาจารย์ พอคุยเสร็จแล้วลงมาชั้นล่าง ดวงตาสอดส่องมองหาพวกซัน

   ความบังเอิญเกิดขึ้นรอบที่เท่าไหร่ไม่ทราบ เก้าโผล่มาดักจังหวะเดียวกับที่ผมเห็นซันนั่งเต๊ะจุ้ยคุยเพื่อนมัน

   “โป้บังเอิญจัง ไปด้วยกันมั้ย ฉันว่าจะหาอะไรกินก่อนกลับห้องพอดี”

   ถ้ามึงจะบังเอิญขนาดนี้ บังเอิญอุ้มกูกลับห้องเลยไหมครับ

   “ไม่เป็นไร พอดีนัดกับเพื่อนไว้”
   
   เก้ามันทำท่ามองซ้ายมองขวา รอบตัวผมไร้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเพื่อน เขายิ้มอบอุ่นยื่นมือมาจับมือผม

   “ไม่เอาน่า กลัวผมฉุดเข้าห้องเหรอ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวไปด้วยกันเถอะนะ”

   คุณเคยเห็นผู้ชายอ้อนแล้วดูน่ารักรึเปล่า นี่เลยตรงหน้าผม จะชายหญิงคนไหนสนใจช่วยลากเขาไปที ผมดึงมือออกกำลังจะอ้าปากพูดโดนใครบางคนกระโจนใส่จนเซ

   “ไงโป้ ปล่อยกูรอซะนาน อ้าว หวัดดี” มิททำหน้าใสซื่อหันไปทักทายเพื่อนแปลกหน้า เก้าขมวดคิ้วมองผม ผมเลยแนะนำให้

   “เก้านี่มิท เพื่อนที่ฉันกำลังรอ”

   “ไง โป้เจ้าของเสื้อเขารอนานแล้วไปกันเถอะ ไว้เจอกันนะเก้า”

   มิทมันเหมารวบเองเสร็จสรรพ แล้วลากผมออกจากที่นั่นทันที เก้าไม่ทันพูดอะไรสักคำ วันนี้มีแต่คนลากคนคว้าตัว ขนาดตะปูยังไม่เว้น หรือมันจะเป็นวันเนื้อหอมของผม หอมแบบนี้ไม่ไหว ขอเหม็นดีกว่า

   จุดที่พวกเราอยู่เป็นจุดรวมตัวของบรรดาเพื่อนฝูงต่างคณะ ราวกับเป็นอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าใครจะบาดหมางอะไรมา ถ้าเข้ามาในเขตนี้คือเขตอภัยทาน แต่ถ้าออกเมื่อไหร่ ประตูนรกเปิดรอคุณอยู่ รอบๆ มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา สวนสวยพองาม ไม่ไกลมีสนามหญ้ากว้างให้คนเล่นบอลตีแบดกันตามสะดวก ชุดโต๊ะหินอ่อนกระจายอยู่ทั่ว โต๊ะที่มิทพามาทุกคนอยู่ครบ

   “นึกว่าโป้จะถูกเจ้าคนนั้นลักพาตัวแล้วซะอีก”

   ปอนด์ขยับให้ผมไปนั่งข้างๆ ส่วนมิทแยกไปนั่งเก้าอี้ว่าง ริวยกมือทักทาย

   “มีฉันเป็นพระเอกขี่ม้าขาวไปช่วยซะอย่าง เจ้านั่นไม่ได้แอ้มหรอก” มิทพูดพลางแย่งแก้วน้ำริวไปดูด ทางริวเหมือนจะเอือมไม่ยักว่าอะไร คงชิน

   “ถ้ามันตอแยมึงมากๆ บอกกูได้นะ” ซันเสนออย่างใจกว้าง คือมึงจะทำอะไรครับซัน สีหน้ามึงตอนนี้โคตรไม่น่าไว้ใจเลย ผมถอนหายใจส่ายหัว

   “ช่างเถอะ ก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า” เจ้าของเรื่องบอกแบบนี้ คนอื่นก็ไม่วุ่นวายเพิ่ม ผมชอบกลุ่มซันเพราะแบบนี้แหละ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรถามหรือควรถอย แต่ยกเว้นไอ้ซันไว้คนนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2016 23:59:47 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ซันเอ๋ย. ดับเครื่องชนเลยไหม เพื่อนรู้กันหมดแล้ว
 :pig4:   

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
น่าติดตามมากนะครับ

ออฟไลน์ mi22

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทั้งคู่นี่ให้ความรูสึกว่าพอดียังไงไม่รู้
ชอบมากค่ะ รอซันรู้ใจตัวเอง ส่วนโป้นี่เนื้อหอมไม่เบาเลย

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ KIMKUNG

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ชอบบบบแนวนี้มากๆ มาต่อเร็วๆนะครับ

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
เดินหน้าอ่อยเลยโป๊

ออฟไลน์ temaripik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอนะคะ

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่5 ความลับ
   
   ความเหนื่อยล้าทั้งมวลมาสุมอยู่ที่ตัว รู้สึกปวดเมื่อยไปหมด ไม่ว่าจะช่วยงานทำแสตน ช่วยรุ่นพี่แบกพวกน้ำของว่างสำหรับคนขึ้นเชียร์ ยังมีแข่งกีฬาอีก ด้วยความที่ตอนเล่นพละผมหน่วยก้านที กีฬาไหนขาดคนเป็นต้องจับผมยัดใส่เข้าไป จะตัวจริงตัวสำรองมาหมด

   การเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ดีจนรู้จักเขาไปทั่วเริ่มส่งผลเสีย ใครๆ ก็รู้จัก ใครๆ ก็ใช้งานผม สารร่างแทบขาด ต้องทนอีกนิด อีกไม่นานจะหลุดพ้นสักที

   ผมนอนคว่ำหน้ากางแขนขาตายคาพื้นห้อง ซันมันกลับห้องมาใช้เท้าเขี่ย ไอ้หมอนี้ลงกีฬาเยอะกว่าทำไมมันดูไม่เหนื่อยเลยวะ!

   “นอนเกะกะ หลบดิ้”

   “กูตายแล้ว ห้ามรบกวน”

   “อะไรของมึง แค่นี้หมดแรงเหรอวะ” ผมโมโห ดึงขนหน้าแข้งขาข้างที่เขี่ยอยู่ได้ มันเท้ากระตุกเกือบเตะ สบถด่ายาวเหยียด

   “แค่นี้อะไรของมึงวะ เหนื่อยฉิบ มึงแม่งวิ่งไล่แต่กูในสนาม” ผมโวยมัน ล่าสุดแข่งฟุตซอลกัน ที่มีเป็นร้อยไร่ขยันประกบผมอยู่นั่นแหละ ส่วนเรื่องแพ้ชนะ สองคณะผลัดกันไป

   “สำออยว่ะ” มันยิ้มเยาะ พอเสียงโทรศัพท์ดังหยิบขึ้นมาจ้องดูหน้าจอ มันคำรามในคออย่างกับหมาบ้า ผมรีบผุดลุกขึ้นนั่งให้ห่างมันที่สุด พักหลังซันมันดูอารมณ์เสียแปลกๆ แถมโทรศัพท์สายเข้าจนสายแทบไหม้ มันกดตัดสายแงะเครื่องเอาแบตออก โยนซากเครื่องทิ้งบนเตียง

   “โทรกันมาอยู่ได้ รำคาญฉิบหาย บ้านเป็นโครงการโทรศัพท์หรือไงวะ!”

   มันขยี้หัว ผมนั่งเท้าคางกระดิกตีนมองมัน

   “สาวโทรมาเหรอ” ยิ้มแซวๆ มันตวัดสายตามาจ้องเขม็ง เชี่ย เรื่องจริงเรอะ

   “พวกนั้นเอาเบอร์มาจากไหน คนขี้รำคาญอย่างมึงไม่น่าจะเอาไปแจกจ่ายหนิ” ขนาดเพื่อนร่วมห้องหรือรุ่นพี่ในคณะ ผมยังไม่มั่นใจเลยว่าซันมันจะยอมให้เบอร์รึเปล่า ที่เห็นมีเบอร์มันแค่กลุ่มพวกเรา ผม ปอนด์ ริว มิท วาที่ไปอยู่เหนือน่าจะมีด้วยเช่นกัน

   “มิทมันเอาเบอร์กูไปขาย”

   ฮะ!? มิทไม่น่าจะใช่คนแบบนั้น เรื่องนี้ผมว่ามันมีประเด็น ต้องลองเสี่ยงถามดู

   “มึงไปทำอะไรมันก่อนรึเปล่า มันถึงได้เอาคืนมึงแบบนี้”

   เห็นซันชะงัก ชัดเลย ถ้าให้เดาต้องเกี่ยวกับเรื่องความลับของมิทแน่ ทางนั้นดูเหมือนใครรู้ก็ได้ยกเว้นซัน ให้ตายยังไงก็ไม่อยากให้รู้เด็ดขาด ผมเข้าใจ นิสัยรักเพื่อนเกินไปของมันนี่แหละจะทำเรื่องเสีย

   “กูแค่จี้ถามเรื่องที่มันชอบหายหัวเท่านั้นเอง” ดวงตาคู่สวยหรี่ลง ซันร้อนตัวเสมองไปทางอื่น

   “เออ! กูแอบตามมัน ใครจะคิดล่ะว่ามันหายตัวโคตรไว แถมยังรู้ตัวว่ากูตามอีกต่างหาก ทำอย่างกับตัวเองเป็นสายลับ”

   เหอะๆ มันไม่ใช่สายลับหรอก ด้วยอาชีพและด้วยบางสิ่งที่ดูเหมือนจะตามรังควานมิทอยู่ มันจะรู้ทางหนีทีไล่ดี สัมผัสไวก็ไม่แปลก ชีวิตของมิทดูไม่สวยหรูอย่างพวกเรา มาคิดดูดีๆ ความรู้สึกที่ผมมีต่อมิท ราวกับว่าเราไม่ได้อยู่ในสังคมแบบเดียวกัน

   ผมกลอกตาไล่ความคิด เจ้าตัวไม่ให้ยุ่งคือไม่ให้ยุ่ง ต่อไปนี้ผมจะไม่เอามาวิเคราะห์มั่วซั่วอีกแล้ว เอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า อันดับแรก ไอ้ซัน

   “มึงทำตัวเอง ปล่อยเรื่องมิทไป กูว่ามึงหาแฟนสักคนดีมั้ย เผื่อสาวพวกนั้นจะเลิกยุ่ง” และผมจะได้ตัดสินใจง่ายหน่อย ถ้ามันหาสาวเป็นแฟนจริง แสดงว่ามันไม่สนผู้ชายแน่นอน ดังนั้นปล่อยมันผลิตทายาทเพื่อมวลมนุษย์ต่อไป แต่ถ้ามันไม่สน ค่อยหลอกถามมันต่อว่ามันสนผู้ชายรึเปล่า

   “ยังไม่เจอสเปคถูกใจ”

   “สเปคมึงเป็นแบบไหน เผื่อกูเจอจะได้แนะนำให้” หลอกถามต่อไปแบบเนียนๆ มันยืนเก๊กหล่อลูบคาง

   “สเปคกูเหรอ? อืมม ฉลาด เก่ง เป็นการบ้านการเรือน ส่วนหน้าตา...” มันเหล่มองผมปากก็พูดไปด้วย “ขาว สะอาด หน้าตากูไม่เคยคิดซะด้วยสิ เอาเป็นว่าอย่าขี้เหร่จนรับไม่ไหวแล้วกัน นอกนั้นกูโอเค”

   ในความคิดซันตอนนี้ รู้สึกตกใจเล็กๆ เพ่งสำรวจเพื่อนร่วมห้อง เสือกตรงสเปคทุกอย่าง หน้าตาไม่ขี้เหร่ เสียอย่างเดียว มันดันเป็นผู้ชาย ซันถอนหายใจหนักหน่วง ด่าทอพระเจ้าไปหลายคำ

   แม่งง ทำไมมึงไม่เป็นผู้หญิงวะ!!

   ไอ้ซันเหมือนจะบ้าอีกรอบ มันฮึดฮัดถอดเสื้อคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ปล่อยผมมองตามันตาปริบๆ ยกมือลูบหน้า เมื่อกี้มันตรงหมดเลยนี่หว่า...

   รูมเมทผิวเข้มเช็ดหัวเปลือยท่อนบน เดินหน้านิ่วคิ้วขมวดมาทางผมที่กำลังเล่นคอมคุยกับปอนด์ แรกๆ เห็นมันแบบนี้ก็ชวนตื่นเต้นหรอก พักหลังเห็นจนเบื่อชิวไปละ

   “มึงได้กลิ่นอะไรปะ”

   “มึงขี้มา?” ผมเลิกคิ้วถาม ซันโบกหัวจนโขกคีย์บอร์ด ผมยกเท้ายันก้นมันกลับ จัดมาจัดกลับไม่โกง

   “ขี้เหี้ยไร กลิ่นอย่างกับอะไรเน่า”
   
   มันทำจมูกฟุดฟิดเหมือนหมา ว่าไปผมก็ได้กลิ่นนะ เข้าใจว่าห้องไหนคงทำอะไรกินอีกสักพักกลิ่นคงหาย

   “คงมีคนทำอาหาร เดี๋ยวลมพัดก็หาย”

   สักพักมีเสียงแต๊งๆ ดีดกีต้าร์มาจากห้องข้างๆ ปล่อยไป อีกเดี๋ยวมันคงเลิก... ที่ไหนได้แม่งยันเช้า โอเค ผมควรใจเย็นก่อนมันคงจะอกหัก ผู้ชายเข้าใจกัน ซันมันก็ไม่ว่าอะไร กระทั่งผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ กลิ่นเน่านรกยังคงอยู่ เสียงดีดกีต้าร์ห่วยๆ บางทีมีเสียงหอนยังดังต่อเนื่องอย่างคงเส้นคงวา ผมกัดฟันทนบอกให้ซันรอไปก่อนแล้วลงไปบอกอาจารย์ผู้ดูแล ให้จัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์และเสียงกวนเวลานอน

   เห็นอาจารย์ขึ้นมาเคาะประตูห้องข้างๆ ค่อยวางใจ คืนนี้คงได้หลับกันอย่างสงบสักที...ซะที่ไหนเล่าเว้ย!!

   เวลาตีสามเสียงกีต้าร์พร้อมเสียงหอนยังคงดันอยู่ต่อเนื่อง พร้อมกลิ่นเน่าจากห้องด้านล่าง ผมกับซันลุกพรึบ คิ้วขมวดแทบบี้ยุงตาย จัดการเคาะห้องข้างๆ ก่อนเป็นอันดับแรก ผมยังดีใช้มือ ส่วนซันมันล่อเท้า พอเจ้าของห้องเปิด ไอ้ซันไม่พูดพล่ามทำเพลง ยันตีนเข้าไปก่อนเลย

   “หอนหาพ่อง! พวกกูจะหลับจะนอน อยากตายเหรอวะ!!”

   รูมเมทหัวยุ่งตวาดแบบเดือดจัด ผมมองตาค้างรีบล็อกแขนมันก่อนจะตามเข้าไปยันเขาอีกรอบ ผมกวาดตามองไวๆ เห็นในห้องมีผู้ชายสองคน คนแรกกำลังพยุงเพื่อนที่ถูกถีบหงาย

   “อยู่ๆ มาถีบกันทำไมวะ ตึกนี้เป็นของพวกมึงสองคนรึไง”

   มันด่ากลับแต่ไม่ยักจะเข้ามาใกล้ตีนซัน ผมจะได้แกล้งเผลอปล่อยให้ซันมันพรวดเข้าไปกระทืบอีกสักที ห้องอื่นได้ยินเสียงเอะอะ พากันแห่ออกมาหน้าตาโคตรงัวเงีย ทุกคนจ้องเขม็งมาที่พวกเราแล้วละสายตาไปจ้องไอ้เหี้ยพวกนั้น

   “อ่อ ห้องมึงเองเหรอที่เสียงดัง”

   หนึ่งในไทยมุงก้าวออกมา ใต้ตาคล้ำเหมือนหมีแพนด้า คนอื่นมีสภาพไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คนอยู่หอในคือพวกเด็กปีหนึ่ง และเด็กปีหนึ่งทุกคนกำลังอยู่ในช่วงมรสุมกิจกรรมพร้อมกับการเรียน เวลาพักผ่อนอันมีค่าโดนรบกวนต้องโกรธเป็นธรรมดา ไอ้สองตัวนั้นเพิ่งรู้ชะตากรรม รีบปิดประตูห้อง ซันมันไวกว่าใช้เท้ากั้นประตูไว้

   มือจับประตูสู้แรงผู้ชายสองคนแล้วง้างประตูเปิดออก ท่าทางมันตอนนี้โคตรน่ากลัว ขนาดผมยังสยอง

   “ตึกไม่ได้เป็นของพวกกูแค่สองคนว่ะ ถ้ามึงเสียงดังอีกแม้แต่นิดเดียว กูยินดียอมถูกไล่ออกจากหอแลกกับการกระทืบคน เข้าใจตรงกันนะ”

   มือใหญ่ตบหน้าเหยื่อผู้โชคร้ายแปะๆ น้ำหนักมือไม่ใช่น้อย สองตัวนั้นกลืนน้ำลายอึก ยอมอยู่สงบเสงี่ยม ซันฉีกยิ้มน่าสะพรึงเดินนำกลับห้อง ผมยิ้มโบกมือให้คนอื่นๆ พากันแยกย้ายไปพักผ่อน ส่วนกลิ่นเหม็นเน่าที่โชยมาคงต้องอาศัยปิดประตูกระจกเอา เพราะไม่รู้จะไปตามต้นตอห้องไหน

   จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สมองเลยตื่นตัว จะข่มตาหลับอีกก็ยากแสนยาก ซันมันพลิกตัวหันมามองผมที่นอนหงายยกแขนก่ายหน้าผากจากเตียงฝั่งตรงข้าม ด้านบนอาศัยเอาของไปกองๆ ไว้ให้พออุ่นใจว่าไม่มีใครมานอนเป็นเพื่อน เตียงสองชั้นในหอพักมันน่ากลัวนะครับ

   “โป้หลับยัง”

   “ยัง”

   “กูว่า กูจะย้ายหอว่ะ”

   ใจผมกระตุกวูบ แต่แสร้งทำราวกับเป็นเรื่องปกติ ซันมันจะย้ายหอ เท่ากับถึงเวลาที่ผมต้องบอกมันแล้วใช่ไหม

   “ย้ายไมวะ”

   “กูรำคาญพวกแม่ง มึงย้ายไปอยู่กับกูนะ มันเป็นห้องชุดมีสองห้องนอนห้องน้ำในตัว มีที่ให้มึงวางโต๊ะเขียนแบบในอนาคต ส่วนกูมีที่วางตู้หนังสือ ไม่ต้องอดอู้อยู่ในหอแคบๆ เหมือนตอนนี้”

   “มึงพูดเหมือนไปดูมาแล้ว?” ผมหันหน้ามาถามมันอย่างไม่อยากเชื่อ ที่มันกลับช้าแต่ละวันไม่ได้โดนสาวลากไปไหนหรือติดกิจกรรม มันออกไปหาห้องเหรอเนี่ย ยังคิดเผื่อให้ผมวางโต๊ะเขียนแบบด้วย สุดยอดผู้ชายดีเด่น

   “เออ กูไปดูกับพี่กูมา พอดีพี่กับพี่สะใภ้มากรุงเทพฯ มึงไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน ห้องนี้พี่กูซื้อขาดให้แล้ว เราหารกันแค่ค่าน้ำค่าไฟพอ ไม่ไกลจากมหา’ลัยด้วย”

   ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอาวะ คงต้องบอกแล้ว มันเล่นเตรียมการเสร็จสรรพ ตั้งใจลากผมไปอยู่ด้วยเลยนี่หว่า ที่มาถามเหมือนบอกเฉยๆ

   “กูไม่มีปัญหาเรื่องพวกนั้น แต่มึงอะ จะมีปัญหาซะเอง”

   “ทำไมวะ? กูจัดการทุกอย่างจะมีปัญหาได้ไง” ซันลุกขึ้นมานั่งแล้วครับท่านผู้ชม ตอบไม่รื่นหูอาจมีรายการปีโป้อัดเละคากำแพง

   “คือ...จะว่ายังไงดีวะ กูมีรสนิยมไม่เหมือนคนอื่น” ผมพยายามเริ่มด้วยการพูดให้อ้อมโลกที่สุดแล้วดูท่าทีของซัน ถ้ามันมีอาการต่อต้านชัดเจนผมจะหยุดพูดเรื่องนี้แล้วทำเหมือนทุกอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   “รสนิยมไม่เหมือนคนอื่น? มึงเป็นหนุ่มวายแบบปอนด์เหรอ” ซันถามงงๆ อ่า นี่ก็อีกเรื่อง ปอนด์กับเฮียเฟย์เป็นหนุ่มวายทั้งคู่ และพวกเขาก็ไม่ได้ปิดบังอะไรด้วย ไม่ใช่ว่าปอนด์ไม่อยากปิดหรอกนะ แต่โดนเจ้าซันกับมิทเซ้าซี้ถามมากๆ สุดท้ายเลยหลุดปากรู้กันทั้งกลุ่ม ทั้งที่ตอนแรกมีแค่ผมที่เคยอยู่กับปอนด์รู้คนเดียว

   ถึงงั้นก็เถอะ เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น นี่ก็ส่วนนี่ ซันยอมรับเรื่องความชอบปอนด์ได้ ใช่ว่าจะยอมรับเกย์ได้ซะเมื่อไหร่ ในโลกแห่งจินตนาการมันคนละเรื่องกับชีวิตจริง

   “คล้ายๆ กันแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว” กลายเป็นว่าตอนนี้ผมกับซันนั่งประจันหน้ากันบนเตียง ฝั่งซันกอดอกคิ้วขมวด ด้านผมเหงื่อแตกซิกๆ

   “อะไรของมึงวะ ปกติมึงไม่ใช่พวกอ้ำอึ้ง มีอะไรทำไมไม่พูดมาตรงๆ” คุณชายสายพันธุ์เถื่อนเริ่มหงุดหงิด ผมอยากจะตะโกนใส่หน้ามันเป็นบ้า หากไม่ติดว่ากังวลถึงผลลัพธ์ที่จะตามมานะ พอเห็นผมไม่ยอมเปิดปากพูดต่อ ซันถอนหายใจเป็นฝ่ายเริ่มก่อนซะเอง

   “ถือโอกาสนี้เปิดใจคุยกันเลยระหว่างมึงกับกู จะได้ไม่มีปัญหาตอนย้ายไปอยู่ห้องใหม่” เดี๋ยวก่อนโยม ผมยังไม่ทันตกลงปลงใจหนีตามกันนะ ไหงด่วนสรุปแบบนั้น

   ดวงตาซันจ้องนิ่งชวนให้กลืนน้ำลายอึก มันดูลังเลนิดหน่อย ผมเลือกที่จะเงียบไม่เร่งรัดเพราะยังไม่อยากพูดเรื่องของตัวเองเหมือนกัน จนมันเปิดปากพูดออกมา

   “ถ้าย้ายไปมีโอกาสที่พี่กับพี่สะใภ้กูจะมาหา... กูบอกมึงเลยแล้วกัน พวกพี่กูเป็นเกย์มึงรับได้รึเปล่า ถ้าไม่ได้ก็บอก เวลาพวกพี่มากูจะได้เตือนมึงล่วงหน้า”

   ผมอึ้งเรื่องที่ซันบอกแล้วทึ่งด้วยที่มันยังคงยึดมั่นว่าผมต้องไปอยู่กับมันแน่ๆ มีการบอกเตือนล่วงหน้า จะให้กูไปหลบในตู้เสื้อผ้าเหมือนซ่อนชู้รึไง ผมหลุดขำ ซันทำสีหน้าไม่พอใจ

   “ขำไรวะ มึงหัวเราะเยาะพี่กูเหรอ” เสียงเข้มขึ้นจนผมผวา รีบยกมือส่ายหัว

   “ไม่ใช่ๆ กูหัวเราะตัวเอง กลุ้มแทบแย่เรื่องตัวเองเป็นเกย์ สรุปมึงชิงตัดหน้าบอกว่ามีพี่เป็นซะก่อน แบบนี้เท่ากับว่ามึงยอมรับรสนิยมของกูได้สินะ” ผมแก้ตัวเหล่ตามองมัน

   ซันตาโตเป็นนกฮูกไปแล้ว ผมโบกมือไปมา ดีดนิ้วตรงหน้ามันถึงได้สติ มันกระพริบตาปริบๆ ถามผม

   “ตั้งแต่เมื่อไหร่”

   ถามกูอย่างกับพ่อที่จับได้ว่าลูกตัวเองเป็นเกย์ มันนั่งกุมมือจ้องผมเขม็ง มาถึงขั้นนี้แล้ว ถูกมันชกก็ยอมล่ะวะ!

   “ตั้งแต่ก่อนเข้ามหา’ลัย กูขอเป็นฝ่ายถามมึงบ้าง มึงโอเคเหรอให้กูไปอยู่ด้วย” ต้องถามเพื่อความชัวร์ มันอาจยอมรับเรื่องมีเพื่อนเป็นเกย์ได้ แต่การต้องอยู่ด้วยกันมันคนจะกรณี กับพวกพี่ชายนั่นเขาเป็นแฟนกันอยู่แล้ว ไม่เหมือนผมที่มีสิทธิ์ลวนลามมัน แม้จะลวนลามทางสายตาไปเยอะแล้วก็เถอะ

   มันเงียบไป ผมใจแป้ว ทำใจไว้ห้าสิบห้าสิบ พอผมเงยหน้ามองมันถึงกับสะดุ้ง มันมองผมด้วยสายตาโกรธๆ ซวยล่ะ หาอะไรช่วยดี รอบตัวมีแต่หมอนกับผ้าห่ม

   “โป้มึงคิดว่ากูเป็นใคร”

   น้ำเสียงเย็นลงสิบระดับ ผมเริ่มทำอะไรไม่ถูก

   “คุณชายซัน” ซื่อบื้อ แถมท้ายให้ในใจ หลุดปากออกมามีแต่ตายกับตาย

   “กูไม่ขำ มึงคิดว่าเรื่องแค่นี้กูจะถึงกับไล่มึงไปไกลๆ เหรอ มึงดูถูกกูเกินไปแล้ว!”

   “มึงต้องเข้าใจ เรื่องพวกนี้ใช่ว่าใครจะยอมรับง่ายๆ เหมือนมึงไปซะหมด กูผ่านพวกนี้มาเยอะจะระแวงก็ไม่แปลก” หนุ่มเหนือตอบหน้านิ่วคิ้วขมวด ชักจะเริ่มหงุดหงิดแล้วเหมือนกัน ไหงจากคุยกันดีๆ ถึงขึ้นเสียงใส่ผมซะได้ ทีนี้กลายเป็นต่างคนต่างเงียบ จ้องหน้ากันเขม็ง

   “สรุปมึงรับได้หรือไม่ได้ว่ามาเลยดีกว่า” ผมถาม ส่วนมันตอบแบบไม่เสียเวลาคิด

   “กูรับได้! มึงจะเป็นตัวเหี้ยไรกูรับได้หมด กูเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ยังไงมึงต้องย้ายไปอยู่กับกู!!” ผมคิ้วกระตุก วาจาน่าเตะปากแตก ก่อนหน้านี้พอเดาได้ว่ามันเอาแต่ใจ วันนี้ยิ่งชัดเจน เอาแต่ใจโคตร นาซีสลัด

   มันหัวแข็ง ผมหัวดื้อ เอาเข้าไปสิ ในใจน่ะตอบตกลงไปเรียบร้อยแล้วว่าจะตามไปอยู่กับมัน คิดไปคิดมาคำมันแปลกๆ อย่างกับหนีตามกัน ช่างแม่ง เห็นท่าทางมั่นใจเกินร้อยของมันต้องจัดสักหน่อย ให้รู้ซะบ้าง วงการนี้ไม่ใสแบบที่คิด

   คนตัวขาวย้ายตัวเองเข้าหาอีกฝ่าย ชันเข่าตรงหว่างขา เชยคางที่มีตอหนวดนิดๆ ให้เงยมอง โน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบข้างหู

   “ถ้ากูทำแบบนี้กับมึงล่ะ มึงยังจะยืนยันคำเดิมอีกไหม”

   ไอ้ซันกัดฟันกรอด ยืนยันคำเดิม

   “เออ!”

   “มึงไม่กลัวกูจะเล่นมึงเหรอ บางทีอาจจะลวนลามทีเผลออย่างตอนนี้”

   ปากพูดไปเรื่อย มือลูบตั้งแต่ลำคอ ไหปลาร้า แผงอกกว้างลงมายันสะโพกสอบ สภาพผมกับมันตอนนี้ ซันเปลือยท่อนบนสวมบ็อกเซอร์ ส่วนผมดีหน่อย มีเสื้อยืดกับบ็อกเซอร์ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึง เวลาผมลูบมันจะถึงเนื้อถึงตัวขนาดไหน ผ้ามันบางจะตาย ยิ่งใส่บ่อยๆ จนผ้าเน่ายิ่งไม่ต้องพูดถึง

   รู้สึกกล้ามเนื้อซันมันกระตุก ด้วยความที่อยู่ใต้ความมืดมีเพียงแสงสลัวจากด้านนอก ภาพที่เห็นไม่ชัดเจนมันยิ่งชวนอารมณ์เตลิด

   ซันหุ่นดีเป็นบ้า!

   “หยุด” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น ผมหัวเราะในใจ ขอแหย่อีกนิดแล้วกัน
 
   “กูเตือนมึงแล้ว” ขอปิดท้ายด้วยการลากมือไปยังต้นขาแกร่ง กล้ามเนื้อเน้นๆ ได้ยินเสียงซันสูดลมหายใจเฮือก จังหวะผมกำลังจะผละออก จู่ๆ มือใหญ่ล็อกตรงท้ายทอย ปากบดเบียดจูบจนรู้สึกเจ็บ ผมปิดปากแน่น ไอ้ซันไม่สนมันดูดปากผมราวกับอัดอั้นมานาน

   ความเจ็บจี๊ดตรงริมฝีปากทำเอาผมสะดุ้ง มันกัดปากผม! กำลังจะอ้าปากด่า ลิ้นร้อนสอดเข้ามาอย่างกระหาย ผมไม่ยอมแพ้ตอบโต้กลับ โดนลูบคมขนาดนี้จะยอมได้ยังไง รสจูบเคล้ากลิ่นเลือด ได้ยินเสียงมันร้องในคออย่างพึงพอใจ ผมรู้ตัวดีงานงอก ผู้ชายมันเครื่องติดง่าย

   โลกหมุนไปวูบหนึ่ง มือใหญ่จับผมล็อกไว้กับเตียง จังหวะที่มันผงกหัวขึ้นได้ยินเสียงดังโป๊กสุดไพเราะ อารมณ์แบบ สตั๊นคู่ ซันทิ้งตัวมานอนทับผมยกสองมือกุมหัวตัวเอง ผมลองคลึงๆ ดู อู้หู ปูดเป็นลูกมะนาว

   “สัตว์! กูเกลียดเตียงสองชั้น!!”

   รูมเมทผิวเข้มประกาศกร้าว หันมาจ้องผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ขู่เสียงรอดไรฟัน

   “ไม่ต้องเสือกยิ้ม มึงต้องไปอยู่หอนอกกับกู ถ้ามึงไม่ยอมกูจะอุ้มมึงไปเอง แล้วจำไว้ อย่าลองดีกับกูอีกถ้ามึงยังไม่อยากเจอดี!”

   “มาถึงขั้นแลกลิ้น กูถามจริง มึงไม่ได้เป็นเกย์แน่นะ” กลายเป็นผมที่ระแวงซะเอง ดูมันเชี่ยวสุดๆ

   “ไม่ แต่พี่กูเป็น เพื่อนกูก็เป็น ตอนนี้แม่งเป็นยกกลุ่มแล้วมั้ง อีกอย่าง ความจริงกูมันยังไงก็ได้ จะชายจะหญิงขอแค่กูรักกูโอหมด”

   ผมนอนแผ่ เหมือนยกภูเขาออกจากอก ความกังวลต่างๆ นาๆ หายไปเป็นปลิดทิ้ง

   “กลับไปนอนเตียงมึงไป พรุ่งนี้เก็บของย้ายด้วย”

   “เฮ้ย ปุบปับไปป่าว ต้องแจ้งอาจารย์ประจำหอก่อนดิ” ผมผงกหัวขึ้นมาคุยกับมันดีๆ

   “กูเกลียดเตียงสองชั้น กูจะย้าย ใครจะทำไมกู”

   “ตามใจมึงเลยครับคุณชายซัน” ส่ายหัวปลง กลิ้งออกจากใต้ตัวมันกลับเตียงตัวเอง ผู้ชายตัวโตอย่างกับควายสองคนไปนอนเบียดเตียงเล็กแคบแบบนั้นน่าอนาถ ผมขอย้ายกลับสู่ถิ่นฐานตัวเองดีกว่า

   วันรุ่งขึ้น ซันมันเอาจริง ตอนเช้าก่อนไปเรียนมันบอกอาจารย์ข้างล่างว่าพวกเราจะย้ายออก พอจารย์ด่าทำหูทวนลมไม่ได้ยิน เลิกเรียนมาดักรอที่คณะลากผมกลับมาช่วยกันย้ายของที่ห้องใส่รถคันหนึ่ง ผมถามด้วยความสงสัย ที่ผ่านมาผมไม่เคยเห็นมันขับรถเลยนะ แล้วคันนี้งอกมาไง

   “ซัน มึงยืมรถเพื่อนมาเหรอ”

   “ฮึ นี่รถกู กูให้พวกพี่ขับมาให้ ปกติจอดทิ้งไว้ที่คอนโด”

   กระจ่าง มันคุณชายของจริง เพียงแค่ไม่มีคนขับรถ ใช้งานพี่ชายตัวเองแทน สงสัยเป็นลูกคนเล็กที่บ้านตามใจ

   “แล้วไมมึงไม่นอนคอนโดแต่แรกวะ”

   “ไม่อยากเปลืองตัง ไปสิงอยู่บ้านญาติของวามัน ถ้ามันไม่โดนถีบส่งขึ้นเหนือ กูคงไม่ต้องหาหออยู่แบบนี้”

   คงต้องขอบคุณอาจารย์ที่เลือกส่งวาขึ้นเหนือ ไม่งั้นผมกับซันคงไม่ได้เป็นรูมเมทกันจนถึงทุกวันนี้ ข้าวของส่วนใหญ่มีแต่หนังสือของซันกับอุปกรณ์การเรียนของผม ห้องมันอยู่ไม่ไกลจากมหา’ลัยอย่างที่มันบอก เฟอร์นิเจอร์พร้อม ยังได้กลิ่นอับของใหม่ ผมเปิดหน้าต่างระบายอากาศ เริ่มลงมือทำความสะอาดระหว่างซันจัดข้าวของขึ้นชั้น

   เดินมาสำรวจห้องครัว เครื่องครัวครบไม่เลวเลย

   “ซัน มึงบอกอยากกินอาหารฝีมือกูใช่มะ เย็นนี้ไปตลาดกัน”

   มาอยู่แถวนี้ได้สักพัก ผมพอจะรู้ว่าที่ไหนมีตลาดสด ซันมันชะโงกหัวออกมาจากในห้องนอนดวงตาเป็นประกายตอบตกลงทันที

   หลังจัดการห้องเสร็จเราเลยออกมาซื้อของสดที่ตลาด ผมเป็นคนเลือก ซันเป็นคนถือ มันรีเควสเมนูอาหารอย่างกับผมเป็นป้าร้านตามสั่ง ข้าวของมากมายเต็มสองมือ นอกจากพวกของสด ยังมีของกินของใช้บางอย่าง ที่หอในไม่มีตู้เย็น แต่คอนโดมี ยัดน้ำยัดของกินได้สบาย

   พอกลับมาถึงห้อง พวกผมกองทุกอย่างไว้บนโต๊ะ เลือกของสดเข้าครัว นอกนั้นให้ซันจัดการยัดใส่ตู้เย็น ผมทำอาหาร ซันจัดโต๊ะ ได้กับข้าวสองสามอย่างแถมข้าวสวยร้อนๆ แค่นี้ก็ฟินแล้ว

   เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ถึงเวลากิน ผมตักคำแรกเข้าปากเคี้ยว ถือว่าไม่เลว ฝีมือยังไม่ตกแม้ว่าจะไม่ได้เข้าครัวตั้งแต่เรียนมหา’ลัย ซันตักกินทุกอย่าง ปากเอ่ยชมไม่หยุด

   “อร่อยอย่างที่มึงบอกจริงด้วย ที่ผ่านมากูนึกว่ามึงแค่ไปช่วยเป็นลูกมือ ไม่คิดว่าจะทำอร่อย”

   “เว่อไป แค่อาหารบ้านๆ” ผมพูดจบมันเอาส้อมชี้หน้า

   “อาหารพื้นๆ ยิ่งทำให้อร่อยยาก มึงอย่าได้ดูถูกเชียว นับแต่วันนี้เป็นต้นไป กูเสียสละให้มึงทำข้าวเย็น ส่วนกูจะเตรียมข้าวเช้า ตอนเที่ยงถ้าอยู่ด้วยกันค่อยช่วยกันทำ ถ้าไม่ ต่างคนต่างกิน เรื่องทำความสะอาดสลับกันวันเว้นวัน”

   ซันมันแจกแจงแบ่งงานเสร็จสรรพ ไม่มีการเอาเปรียบกันแม้แต่น้อย ผมพยักหน้ารับไม่มีปัญหา

   หลังมื้อเย็น ซันเป็นคนล้างจาน ผมนั่งเอนหลังบนโซฟา รู้สึกดีจนน้ำตาแทบไหล อยู่คอนโดห้องชุดมันต้องดีกว่าหอใจเล็กเท่ารูหนู ซันดูจะดีใจมากที่มันหลุดพ้นจากเตียงสองชั้น ความจริงมันบ่นมานานแล้ว เตียงแคบติดกำแพง มันนอนทีไม่แขนก็ขากระแทกกำแพงช้ำตลอด พอลุกหัวก็โขกเหล็กด้านบน เหยียดแข้งเหยียดขาไม่สบาย หวังว่าอาการปวดเมื่อยของพวกเราจะหายนะ

   สวัสดีห้องใหม่ เฮ้อออ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:00:40 โดย Silver Fish »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ย้ายเข้าเรือนหอ.   :hao3:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :impress2:  นี่มัน....วางแผนไว้แล้วชัดๆเลยซัน จูบแล้วด้วย
นี่ไงแม่บ้าน ขาดแต่สถานะคนรู้ใจ   :hao6: 

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
สนุกดีคะ มาต่อเรื่อยๆ บ่อยๆ นะคะ  :L2:

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ซันนี่ขอยกลุคคุณพ่อประจำกลุ่มให้เลย ฮ่าาาาา ทั้งห่วงทั้งหวงเพื่อนแบบมากๆ ทั้งบ่นทั้งแนะนำต่างๆนานา
ตอนแรกๆเลยที่อ่านแล้วยังไม่คุ้นนิสัยนี้ก็แอบคิดนิดนึงว่า เอ๊ะ ห่วงกันขนาดนี้คิดไรกับโป้ไหมเนี่ย พอรู้แล้วก็เข้าใจ
แต่ๆๆ สำหรับตอนล่าสุดมีทั้งกัดปาก ทั้งจูบ บลาๆ นี่ไม่ใช่แบบเพื่อนล้าววว ฮี่ มีความหวังอันยิ่งใหญ่
สเปคที่พูดมาก็เข้าเค้าเป็นปีโป้ได้เลย ได้พิสูจน์ฝีมือการทำอาหารไปแล้วด้วย
ตอนนี้ก็ถึงขั้นให้ย้ายไปอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่ไปนี่เดี๋ยวพี่ซันอุ้มไปเลยนะคะ ฮี่ๆๆๆ ดิบเถื่อนได้จายยย

เราชอบโป้ตรงที่ดูชิลล์ๆดีนะ ตอนใส่ชุดกระโปรงลงไปเล่นบาส น่าร๊ากกก ซันก็ตามประกบใหญ่เลย หวงอ่ะดิ
แล้วก็อีกเรื่องคือถึงแม้ว่าซันจะเป็นสเปคหน้าตาแบบที่โป้ชอบ แต่ถ้าเพื่อนมันยังชอบผู้หญิงปกติ
โป้ก็ไม่ได้คิดไปรุกอะไร ได้อยู่ห้องเดียวกันได้ชมหุ่นบ้างเป็นกำไรชีวิตก็โอเคแล้ว ฮ่าาาา
แล้วตอนก่อนนี้ที่ซันหายไปกับสาว พอกลับมาดันมองโป้แปลกๆคืออะไรอ่ะ มันต้องมีอะไรแน่นอน อยากรู้
 :katai2-1:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ยกที่6 กลับบ้าน

   อารมณ์ตอนนี้รู้สึกแปลกใจกับตัวเอง ย้อนกลับไปวันก่อน ผมยังกลุ้มอยู่เลยว่าจะบอกไอ้ซันยังไงดีเรื่องความชอบของตัวเอง ปัจจุบัน นอกจากมันจะโอเคแล้ว ยังลากผมมาแชร์ห้องด้วย ทุกอย่างเหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็แค่ย้ายห้องเฉยๆ

   ซันมันไม่มีท่าทีอะไรสักนิด สงสัยคงเป็นเพราะกิจกรรมมหา’ลัยด้วยทำให้พวกเราไม่ค่อยมีเวลาว่างสักเท่าไหร่ พอหมดช่วงกิจกรรม แทนที่จะได้พักดันต่อด้วยมหกรรมงานก่อนสอบ ปั่นงานกันหัวฟู ยังมีเรื่องอ่านสอบอีก เรียกได้ว่าเวลานอนแทบไม่มี สภาพเด็กมหา’ลัยแต่ละคนเหมือนซอมบี้ผุดขึ้นมาจากหลุม

   ผมกับซันแม้จะอยู่ห้องเดียวกัน สลับเข้าออกไม่เป็นเวลา ช่วงนี้งดเรื่องมื้อเช้าฝีมือซันและมื้อเย็นฝีมือผมไปชั่วคราวจนกว่าทุกอย่างจะลงตัว

   ผ่านไปราวๆ สองอาทิตย์ ในที่สุด! พวกเราก็เป็นไทกันเสียที ผมอยากโห่ร้องให้ก้องโลก เพื่อนทุกคนพากับตบบ่ากอดคอ ทั้งหัวเราะและร้องไห้หลังออกจากห้องสอบวิชาสุดท้าย หัวเราะที่หลุดพ้น ร้องไห้เพราะตูไม่ผ่านแน่ๆ

   สมองผมไม่ได้แย่อะไร เข้าเรียนสม่ำเสมอ กิจกรรมไม่ให้ขาด เสนอหน้าหาอาจารย์บ่อยๆ ส่งงานให้ครบ อ่านทวนก่อนสอบ เท่านี้ก็สบายแล้ว ต่อให้เฉียดผ่านยังไงอาจารย์ก็ช่วยด้วยความสงสารหรือสมเพชไม่สำคัญ สำคัญที่ผมรอดเป็นพอ
   
   ผมออกจากกระแสของความโศกเศร้า มุ่งหน้าไปหาที่พักทางใจ ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงจะกระโดดไปกินเหล้ากับเพื่อนฉลองสอบเสร็จ พอดีตอนนี้ผมนัดกลุ่มซันเอาไว้ พวกนั้นมันจะฉลองเหมือนกัน เลยต้องผละไปทางนั้นช่างน่าเสียดายยิ่งนัก เอาไว้ผมค่อยไปกินเหล้าฟรีวันหลัง

   จุดพบปะของทุกคณะดูจะเป็นที่นัดรวมตัวของกลุ่มเราไปแล้ว เพราะมีผมที่เป็นเด็กสถาปัตย์กับพวกมันส่วนใหญ่อยู่วิศวะ ปอนด์ไอที ปล่อยมันไป คณะนี้เดินไปไหนไม่ค่อยมีปัญหา เว้นแต่พวกเงินขาดมือ อาจจะดักสอยพวกนี้เพื่อฉกชิงเครื่องมือทำมาหากิน ก็ไม่รู้ว่าจะพกเยอะแยะทำไม ผมเคยถามปอนด์นะ ว่าปกติพกอะไรกันบ้าง

   ไอ้ตัวเล็กบอก ไม่มากไม่มาย ก็แค่โทรศัพท์มือถือ บางคนมีหนึ่งเครื่องบางคนมีสอง แท็บเล็ตต่างหาก โน้ตบุ้คสำหรับเอามาทำงานบางวิชา USB มีอย่างน้อยคนละอัน เอทานอล ฮาร์ดดิสอีก ยังมีหูฟังด้วย เผลอๆ บางรายแค่โน้ตบุ้คไม่จุใจ ยกมาทั้งคีย์บอร์ด เม้าส์ ที่รองเม้าส์ เรียกได้ว่าจัดเต็ม

   ผมถึงคราวกระจ่าง ก็ว่าทำไมเพื่อนตัวเล็กของเรามันถึงไม่โตขึ้นสักที แม่งแบกแบบย้ายบ้าน พอผมพูดแบบนี้ใส่ปอนด์ตวัดตามองยู่ปาก บอกว่าตัวเองมีแค่มือถือ หูฟัง กับ USB เท่านั้น ส่วนโน้ตบุ้ค คีย์บอร์ด เม้าส์แยกต่างหากจะยกมาเฉพาะมีงานกลุ่มที่ต้องใช้ ผมว่าแค่โน้ตบุ้คก็หนักจะแย่

   โต๊ะที่พวกนั้นนั่งหาไม่ยาก แต่ละคนเด่นซะขนาดนั้น ผมเดินตรงไปนั่งข้างปอนด์ ทุกคนดูจะขอบตาดำกันหมด ขนาดปอนด์ยังไม่เว้น ที่เห็นสดใสคงมีแต่มิท ยิ้มเจิดจ้าอยู่คนเดียว

   “โทษทีที่มาช้า พวกมึงคิดกันยังจะไปแดกที่ไหน”

   “หมูกระทะ!”

   ไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่ นึกอะไรไม่ออกก็หมูกระทะ

   “ก็ดี มันเปิดตอนเย็น นี่เพิ่งห้าโมง งั้นนั่งเล่นแถวนี้ก่อนค่อยไป ปอนด์ต้องรีบกลับมั้ย”

   “ไม่รีบๆ บอกพี่เฟย์แล้วว่าวันนี้จะกลับช้า”

   ผมพยักหน้ารับ เฮียเฟย์พอรู้ว่าปอนด์มากับพวกผมไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ อย่างว่า พวกผมไม่ปล่อยให้ปอนด์เป็นอะไรแน่ ยังไม่อยากอายุสั้น

   “ปิดเทอมพวกมึงไปไหนกัน” ริวเปิดประเด็น จะว่าไปถือเป็นครั้งแรกของการปิดเทอมมหา’ลัย ช่างยาวนานซะจริง ตั้งสองอาทิตย์ อย่าเรียกว่าปิดเทอมเลย มันเหมือนหยุดยาวมากกว่า

   “พี่กูสั่งให้กลับบ้าน” ซันเริ่มคนแรก

   “กูด้วย แต่ไม่ใช่พี่สั่ง แม่สั่ง” ผมกับซันชะตากรรมไม่ต่างกัน

   “อยู่แถวนี้แหละ ไม่รู้จะไปไหน” มิทยักไหล่ ตั้งแต่มันถูกซันตามรอบนั้น มันหายหัวเก่งกว่าเดิมอีก ต่อให้มันบอกว่าอยู่แถวนี้ จะให้หาตัวจริงๆ ไม่เจอหรอก

   “ฉันจะกลับไปอ้อนแม่ให้สมใจอยาก”

   ลูกแหง่... คำสั้นๆ ที่ผุดขึ้นในหัวพวกเราทุกคน พากันมองเพื่อนตัวเล็กด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่ใช่ปกติก็อ้อนอยู่แล้วเรอะ เฮียเฟย์ไง ตกหลุมจนขึ้นมาไม่ได้แล้วนั่น

   “บ้านกูไปญี่ปุ่นว่ะ ว่าจะถามพวกมึงพอดี เอาของฝากอะไรมั้ย”

   ทุกคนหูผึ่งหันขวับ!

   “เอาตัวมึงกลับมาครบ 32 ก็พอ” ไอ้ซันมันพูดอย่างกับเพื่อนจะไปออกรบ

   “ขนม เอาขนม!” เพื่อนตัวเล็กตาวาว ผมก้มมองพุงมันอย่างสงบ กินโคตรเยอะ ต่อให้ไม่เจอกันตลอดเวลา ก็พอเดาได้ว่าเฮียเฟย์คงจะขุนด้วยสารพัดของกินและขนมไม่ขาดแหง ทำไมมันไม่โตขึ้นเลยวะ หรือกระเพาะจะเป็นหลุมดำ ช่างเป็นความลึกลับที่สาวทุกคนบนโลกต้องการ

   “อะไรก็ได้” ผมโบกมือ เพราะไม่มีอะไรอยากได้เป็นพิเศษ จะให้บอกเอาเหล้าของทางนั้นมาก็เกรงใจ เหลือแค่มิทคนเดียวที่ยังไม่บอกว่าอยากได้อะไร เจ้าตัวยิ้มตาหยี่อย่างกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์

   “ถุงยาง”

   ผัวะ! พลั่ก!

   ริวโบกหัว ซันยกขาถีบ มิทลงไปกองกับพื้นชักแด่กๆ ผมกับปอนด์พากันขำกลิ้ง พอไอ้มิทมันตะกายกลับขึ้นมานั่งใหม่ก็บ่นกระปอดประแปด

   “พวกมึงหนิทำร้ายร่างกายกู ดูดิ เสื้อกูเปื้อนหมดละ”

   “ของฝากมีเป็นล้าน ทำไมมึงต้องเอาของแบบนี้วะ เห็นแก่หน้ากูตอนซื้อกลับมาบ้าง” ริวบ่นอุบ

   “ก็แหม่ เคยได้ยินว่ามันมีแบบพิเศษบางเฉียบยิ่งกว่าผ้าอนามัยผู้หญิง ใส่แล้วเหมือนไม่ใส่”

   ริวยกมือ ซันยกเท้า ไอ้มิทกระโดดหลบมาอยู่หลังผม มันหัวเราะแบบไม่กลัวน้ำลายกระเด็นใส่บังเกอร์หน้าหล่ออย่างผมเล้ย

   “มันอุตส่าห์จะหอบของมาฝาก มึงก็เลือกดีๆ หน่อยสิวะ” ซันบ่น

   ไอ้มิทหัวเราะฮาเลื้อยไปกอดคอปอนด์ต่อ แม่งไหลไปทั่วกลุ่ม

   “เอาขนมแบบปอนด์ก็ได้ กูไม่รู้ว่าจะเอาอะไรเหมือนกัน”

   ริวส่งเสียงเหอะในคอ เรานั่งเล่นนั่งคุยได้สักพัก ก็หาฝาน้ำอัดลมจากร้านขายน้ำใกล้ๆ มานั่งเล่นหมากฮอสกับตารางบนโต๊ะม้าหินอ่อน คนที่กากที่สุดแทนที่จะเป็นลูกแมว กลับกลายเป็นไอ้ซัน ส่วนคนที่เทพสุดดันเป็นริว มันบอกว่ามันเคยเล่นโกะกับพี่ เหมือนกันที่ไหนล่ะเว้ย พวกเราแทบอยากคว่ำโต๊ะใส่

   ช่วงห้าโมงกว่าได้เวลาออกหากิน กวาดฝาไปทิ้ง มุ่งหน้าสู่ร้านหมูกระทะ อาศัยนั่งรถเมล์เอา ยังดี เรามาเร็วร้านเลยยังพอมีที่ว่าง พวกผมเลือกที่นั่งด้านนอก ด้านในมันลุกไปตักของง่ายก็จริง แต่ควันมันอบอวลแถมยังร้อนอ้าว ด้านนอกลมเย็นกำลังดี

   งานนี้เราตั้งใจมากินกันเฉยๆ ไร้แอลกอฮอล์ อย่างมากมีแค่เหล้าปั่นที่รสชาติอย่างกับน้ำเชื่อมใส่สีปั่นกับน้ำแข็ง ไม่สะท้านกระเพาะพวกเราเลยสักนิด ยกเว้นปอนด์ไว้คน ทางนั้นดื่มไปนิดนึงก็ตัวแดงก่ำ แต่ยังเฮฮาได้ปกติ แสดงว่าเป็นพวกเลือดลมดีจัด กลับไปคงอีกนานกว่าจะหายตัวแดง คิดถึงตรงนี้ผมชะงักตะเกียบ มองซันสื่อความหมาย

   ซันเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย ผมบุ้ยปากไปทางลูกแมวที่กำลังโดนมิทหลอกไปกินเนื้ออะไรสักอย่างที่โคตรเค็ม ดวงตาคมมองตาม ส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่เข้าใจ ผมถอนหายใจเฮือก นอกจากจะหล่อบื้อแล้วยังโง่อีกด้วย สลัด!

   ผมหยิบแก้วเหล้าปั่นเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าให้เพื่อนตัวเล็ก ปอนด์ละสายตาจากการก่อศึกตะเกียบกับมิทมองผมงงๆ

   “ตัวแดงหมดแล้ว กลับไปเฮียเห็นตายแน่”

   ซันกับปอนด์พากันสะดุ้งโหยง รายแรกคงสะดุ้งเพราะเกรงความซวยจะมาเยือน รายหลังน่าจะถูกเฮียสั่งกำชับห้ามแตะแอลกอฮอล์แล้วดันฝ่าฝืนคำสั่ง

   “ทำไงดีอะโป้ ลืมสนิทเลย”

   “อะไร มีไรกัน” มิทเสนอหน้ามาพร้อมกับริว ผมเลยอธิบายไป เจ้าตัวพยักหน้ารับแล้วเสนอให้ทำใจแล้วกลับไปรับชะตากรรมซะ ที่เหลือทำหน้าเอือมใส่มันหมด เว้นปอนด์ถอนหายใจปลง เอาเป็นว่าผมกับซันน่าจะคิดเหมือนกันอยู่อย่างในเวลานี้

   จะกลับบ้านมันพรุ่งนี้เลย ป้องกันเฮียบุกมาเอาเรื่อง!

   พอกินกันอิ่มพุงแทบแตก ค่อยล้วงตังของใครของมันออกมารวมจ่ายแล้วแยกย้ายกลับก่อนสองทุ่ม ปอนด์ได้เฮียเฟย์มารับ ผมกับซันพากันมองนู่นมองนี้หลบสายตาของเฮียเฟย์หลังแห็นเพื่อนตัวเล็กตัวเปลี่ยนสีได้ ส่วนมิทมันขอตัวไปคุยโทรศัพท์แล้วหายสาบสูญไปตั้งแต่ตอนทุ่มหนึ่ง สงสัยโดนใครอุ้มขึ้นรถไปแล้ว ริวมันเลยออกตังส่วนของมิทให้ก่อนแยกกลับบ้านตัวเอง ผมกับซันกลับด้วยกัน

   “พรุ่งนี้มึงจะกลับบ้านเลยปะ”

   “คิดไว้งั้น หยุดแค่สองอาทิตย์คงต้องรีบกลับว่ะ มึงล่ะ?”

   “เหมือนกัน ทีแรกว่าจะชวนพวกมึงไปเที่ยวเล่นบ้านกูอยู่ แต่ไอ้ริวดันไปญี่ปุ่นซะได้”

   ผมตบบ่ามัน

   “มึงไม่กลัวบ้านแตกเหรอ ขนเพื่อนไปถล่มน่ะ” มันส่งเสียงหึในคอ

   “แตกไง บ้านกูเป็นรีสอร์ท” กลายเป็นผมที่อ้าปากค้าง เฮ้ย! แม่งคุณชายตัวจริงนี่หว่า

   “อึ้งอะไรมึง แค่รีสอร์ทเล็กๆ” ผมไม่ค่อยจะเชื่อคำพูดมันสักเท่าไหร่ เอาไว้มีโอกาสค่อยไปดูกับตาแล้วกันว่ามันเล็กจริงอย่างปากมันว่ารึเปล่า

   ถึงห้องพากันอาบน้ำนอน เก็บข้าวของพรุ่งนี้แล้วแยกกันไป ผมนั่งรถทัวร์กลับอย่างไม่รีบร้อน ส่วนซันขับรถตัวเอง เห็นว่าขี้เกียจไปนั่งเบียดกับคนอื่น

   บ้านผมอยู่เชียงใหม่อย่างที่ทุกคนรู้กัน พ่อผมสืบทอดกิจกรรมต่อจากปู่ ส่วนแม่มีกิจการส่วนตัวเกี่ยวกับพวกผ้าไหมทอมือ หลับในรถไปสิบตื่น นั่งจนปวดหลัง ในที่สุดผมก็ถึงบ้านสักที กลับไปอันดับแรกไหว้แม่ โยนกระเป๋าทิ้งแล้วนอนตายจนถึงเย็นเวลาพ่อเลิกงาน

   ผมโดนปลุกให้ลงมาทานข้าวเย็นด้วยกัน ที่โต๊ะอาหารมีของโปรดของผมหลายอย่าง คาดว่าเป็นฝีมือแม่หมด แม่ผมแม้จะอายุไม่น้อยแล้วแต่ยังคงความงามตามวัยได้อย่างน่าชื่นชม ผมดำเกล้าขึ้นปักด้วยปิ่นไม้หอม ใส่ชุดแบบชาวเหนือพอกับพ่อ อายุเข้าเลขสี่แต่ยังดูมาดมั่นออร่าผู้นำจับ ที่บ้านมีแม่คนเดียวพูดเหนือตลอด นอกนั้นพูดกลางซะมากกว่าเพราะบ้านเราอยู่ในเมืองแถมฝั่งพ่อยังทำธุรกิจต้องติดต่อกับคนอื่นเลยชินปาก

   หลายครั้งที่ผมสงสัย แม่เป็นผู้หญิงเรียบร้อยช่างยิ้ม ส่วนพ่อเป็นผู้ชายแสนสุภาพ แล้วนิสัยผมมันหลุดผ่าเหล่าผ่ากอมาจากไหน ผมเคยถามพ่อนะ พ่อบอกผมนิสัยเหมือนปู่สมัยหนุ่มๆ เล่นเอาอยากจะไปผูกคอตายใต้ต้นผักชี

   “สวัสดีครับพ่อ ยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะ”

   ผมยิ้มพูดเอาใจ พ่อเบ้ปากใส่

   “พอๆ ฉันยังไม่อยากคลื่นไส้ก่อนกินข้าว อยู่ที่นู่นเป็นยังไงบ้าง”

   “มีความสุขดีครับ”

   “จะไปอู้กั๋นนักกิ๋นข้าว ๆ แม่ยะของมักของโป้ไว้จ้าดนัก (อย่ามัวแต่คุยกัน กินข้าวๆ แม่ทำของโปรดโป้หลายอย่างเลย)”

   แม่ตักกับข้าวหลายอย่างให้ผม มีผักสดน่าทาน น้ำพริกอ่องของโปรด แอบปลากุ้ง สารพัดอาหารเหนือ ที่ไหนไม่อร่อยเท่าบ้านตัวเองจริงๆ กลับไปคงต้องลองทำให้ซันมันกินบ้าง

   ผมตักกับข้าวให้แม่ พ่อทำหน้างอนผมเลยต้องตักให้ วนไปเวียนมาแต่มีความสุข กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ครอบครัวผมผ่านอะไรมาไม่น้อย ยิ่งบ้านบ้านเราเป็นคนมีหน้ามีตาในพื้นที่ ปู่ถึงได้โกรธผมหนักขนาดนั้น ทำสงครามเย็นกันพักใหญ่ จนพ่อทนไม่ไหวแข็งข้อแยกตัวออกมาอยู่กันเองนี่แหละ แต่ลูกหลานคนอื่นมีกิจการของตัวเองหมด สุดท้ายพ่อต้องกลับไปสืบทอดงานปู่ต่อไปอยู่ดี

   หลังกินเสร็จผมช่วยแม่เก็บจานเข้าห้องครัว พ่อนั่งพักท้องอยู่ในห้องนั่งเล่น ระหว่างล้างจานแม่ผมชวนคุย

   “วันพูกไปฮ้านตวยแม่เน่อ หมู่ป้าเขากึดเติงหาลูกกั๋นขนาด (พรุ่งนี้ไปร้านกับแม่นะ พวกป้าๆ แกคิดถึงลูกกันน่าดู)”

   “กึดเติงหาก่ว่าไค่ได้แฮงงานเพิ่มครับฮั่น (คิดถึงหรืออยากได้แรงงานเพิ่มกันแน่ครับ)” พวกเราหัวเราะกันอยู่ในครัว ได้ยินเสียงพ่อกระแอมด้านนอกเหมือนอยากมีส่วนร่วม แม่ส่ายหัวเช็ดมือตบบ่าผมเบาๆ ออกไปนั่งเป็นเพื่อนพ่อก่อน

   ผมตามออกไปที่หลังเห็นพ่อแม่หยอกกันหวานชื่นอย่างกับคู่แต่งงานใหม่ ไม่มีลูกชายยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ ความฝันของผมคืออยากมีคนรักอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าเหมือนพ่อกับแม่ จู่ๆ ภาพซันผุดขึ้นมา ผมสะบัดหัวไล่ความคิด แบบนั้นคงไม่ได้มานั่งหยอกกันน่ารัก แต่ถ้ากวนตีนใส่กันคงเป็นไปได้อยู่

   อยู่บ้านขึ้นนอนตั้งแต่หัวค่ำ เพราะที่นี่ทุกคนตื่นตั้งแต่เช้ามืด ห้องผมเรียบง่าย ไม่มีโปสเตอร์แปะผนัง ไม่มีแผ่นซีดีเครื่องเสียงอะไรทั้งนั้น มีแค่อุปกรณ์วาดภาพ กีต้าร์พิงตรงผนัง กับตู้เล็กที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือเพลงและหนังสือเกี่ยวกับสายที่เรียน

   เตียงนอนห้าฟุตสำหรับนอนเหยียดแข้งเหยียดขาสบายๆ เล่นกีต้าร์สักพัก อาบน้ำเข้านอนตื่นแต่เช้าตามแม่ไปที่ร้าน

   ร้านของแม่ขายพวกผ้าไหมทอมือทั้งหลาย มีทั้งลายเก่าแบบดั้งเดิม กับพวกลายใหม่ที่คิดค้นขึ้นตามยุคสมัย มีบริการตัดชุดให้ด้วยผ้าไหมของทางร้าน ที่สำคัญ เราเริ่มทำตั้งแต่ขั้นตอนเลี้ยงตัวไหมจนมาถึงทอเองด้วยมือ ด้วยเหตุนี้หลังร้านเลยเป็นโรงงานขนาดย่อม

   หน้าร้านเปิดแอร์ ผมเดินตามหลังแม่ยิ้มให้กับพนักงานขาย ผ่านเข้าไปหลังร้านที่แบ่งเป็นสัดส่วน เห็นว่าแม่เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมขั้นตอนการทอผ้าไหม คนทำก็ชาวบ้านแถวนี้แหละ พอทุกคนเห็นผมต่างดีใจใหญ่ ผมโตที่นี่ จะบอกว่าทุกคนช่วยแม่เลี้ยงผมก็ไม่ผิดนัก หลายคนผมที่ผมไม่เจอคงจะอายุมากเปลี่ยนให้ลูกหลานมาทำต่อแทน

   ผมถือโอกาสช่วงแม่คุยกับลูกค้าด้านนอก เอาใบหม่อนไปให้อาหารตัวไหมในโรงเลี้ยง มองไปก็น้ำลายหกไป อวบอ้วนน่ากินทั้งนั้นเลย ลุงที่ดูแลส่วนนี้เห็นผมจ้องตัวไหมตาเป็นมัน รีบลากออกไปยัดจานตัวไหมทอดใส่มือให้ผมกิน ปากบ่นว่านิสัยไม่เปลี่ยนเลยสักนิด ผมหัวเราะนั่งกินตัวไหมเล่นกับพวกผู้ใหญ่ อยู่จนเย็นค่อยกลับบ้านพร้อมแม่

   วันต่อมาเปลี่ยนเป็นพ่อลากผมไปช่วยดูงาน หรือพาลูกชายไปอวดก็ไม่ทราบ เรียกได้ว่ากลับบ้านมาแทบไม่อยู่บ้าน ถ้าไม่ถูกพ่อแม่ลากไป ก็โดนเพื่อนสมัยเรียกพาไประลึกความหลัง แต่มีคนที่บุกมาหาถึงบ้านตั้งแต่เช้า

   “โป้จ๋า กลับมาไม่เห็นบอกกันบ้าง”

   เสียงดังมาพร้อมแรงโถมเข้ากอด ผมเซไปหลายก้าว เกือบล้ม

   “อ้าว หนูเล่ มาแอ่วก๋า งั้นวันนี้โป้บ่ะต้องไปตวยแม่ อยู่กับเพื่อนที่บ้านเน่อ (อ้าว หนูเล่ มาเที่ยวเหรอ งั้นวันนี้โป้ไม่ต้องไปกับแม่ อยู่กับเพื่อนที่บ้านนะ)” สิ้นคำแม่ออกจากบ้านไปทิ้งให้ผมอยู่กับเพื่อนตัวป่วน

   เล่หรือเจเล่ เป็นลูกเพื่อนแม่ชื่อเราถึงอยู่ในตระกูลเยลลี่เหมือนกัน วันนี้มาในชุดกระโปรงยาวสีขาวกับกระเป๋าสะพายใบเล็ก เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนยาวประบ่าคลอเคลียใบหน้าสวยหวาน ผมยกมือกุมขมับ

   “ทำไมแต่งตัวแบบนี้ออกมาจากบ้าน”

   มันทำเอียงคอน่ารัก แล้วถลกกระโปรงให้ผมดู บ็อกเซอร์ผู้ชาย...

   มันเป็นตัวผู้ครับทุกท่าน!

   “ไม่เป็นไร ฉันใส่บ็อกเซอร์มาแล้ว โป้ๆ มีเรื่องจะคุยเยอะแยะเลย นี่รู้มั้ยที่บ้านมีคนมาอยู่ด้วยล่ะ มาจากวิทยาเขตกรุงเทพฯ ที่โป้เรียนอยู่ไง”

   ผมตีมือมันให้ปิดกระโปรงลงแล้วลากไปนั่งคุยที่ศาลาในสวน

   “ก่อนอื่น มึงมาไง ใครมาส่ง”

   ไอ้หมอนี่แหละที่ทำให้ผมมีนิสัยช่างดูแล เป็นผู้ชายแต่ชอบแต่งหญิง แถมยังหน้าสวยกว่าผู้หญิงอีก คงไม่ต้องบรรยายหรอกมั้งชีวิตมันจะเป็นยังไงถ้าไม่มีผมคอยต่อยไอ้พวกนั้นปากแตก

   “ป๋ามาส่ง เอาล่ะฉันขอเล่าต่อนะ คนที่มาโคตรหล่อ ชอบตีหน้านิ่งแต่นิสัยดี ทุกทีทำเหมือนรำคาญแต่ช่วยฉันตลอด” กูว่ามันช่วยเพราะนึกสมเพชมึงมากกว่า เป็นประโยคที่ผมได้แต่เก็บในใจไม่อาจพูดออกมา ถึงพูดไปก็ไม่ซึมซับเข้าสู่สมองน้อยๆ ของมันหรอก

   “คนนั้นชื่อไร”

   “วาคิน”

   “คณะอะไร”

   “วิศวะ หยุดเลยนะ! คนนี้ของฉัน ไม่ยกให้นายหรอก ต่อให้เป็นเพื่อนรักก็ตาม”

   ใบหน้าสวยสะบัดหนีไปอีกทาง ผมเขกกะโหลกมันพลางครุ่นคิด จำได้ว่าเพื่อนซันที่โดนเตะโด่งมาเหนือชื่อวาอะไรนี่แหละ ดันคณะเดียวกันด้วยนะ

   “แป๊บกูโทรหาเพื่อน มึงอย่าเพิ่งพล่าม”

   ผมใช้มือยันหน้ามันไปไกลๆ มันปัดๆ แขนใส่ เล่มันสูงพอๆ กับปอนด์ เทียบกับผู้ชายวัยเดียวกันถือว่าเตี้ย!

   “โหล ซัน มึงว่างปะ”

   /ว่าง โทรมามีไร อย่าบอกนะว่ามึงกลับห้องแล้ว?/

   เล่เลิกตอแหลแต่เอาหูมาแนบกับมือถือผม นิสัย

   “ยัง กูแค่จะโทรมาถามอะไรนิดหน่อย เพื่อนมึงที่มาอยู่เหนือชื่อ ‘วาคิน’ ใช่มั้ย”

   /เออ มึงเจอมันเหรอ ฝากถีบหน้ามันที/

   “ไม่เจอ แต่เจอเจ้าของบ้านที่เพื่อนมึงไปอยู่ด้วย กูว่ามึงกับกูมานั่งไว้อาลัยให้เพื่อนมึงสักสามวิเถอะ แค่นี้ก่อนนะ ไว้เอาของกินไปฝาก”

   ผมกดวางสาย ซันยังสบถไม่จบคำ ป่านนี้คงด่าผมเปิง สรุปเซนส์ผมแม่นจนน่ากลัว วาเจอเล่จริงๆ ด้วย พอหันมาแทบสะดุ้ง เล่มองผมตาพราวระยับ

   “ใครอะ รู้จักกับวาด้วย”

   “เพื่อนวาของมึงไง เป็นรูมเมทกูเอง”
   
   “จริงดิ! โลกกลมจนน่าเกลียด” ปากบอกแต่เขย่าแขนผมจนหัวโยก หลังจากนั้นมานั่งแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เล่บอกที่เหนือไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเท่าไหร่ ก่อนกลับยังบอกว่าถ้าว่างจะไปเยี่ยมผมที่กรุงเทพฯ อีก

   ในขณะที่ผมพักผ่อนอยู่บ้านอย่างสบายใจ จนถึงเวลาก่อนกลับกรุงเทพหนึ่งวัน คนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดบุกมาถึงบ้านที่มีผมอยู่คนเดียวพ่อกับแม่ยังไม่กลับ

   “สวัสดีครับ”

   ผมยกมือไหว้ชายชราที่ถือไม้เท้าเดินเข้ามานั่งในบ้าน ดวงตาดุดันจ้องผมอย่างไม่พอใจ

   “ถ้าฉันไม่มาด้วยตัวเอง คงไม่คิดจะไปไหว้ผู้ใหญ่เลยใช่ไหมเจ้าเด็กไร้มารยาท หึ ไปอยู่กรุงเทพไม่กี่เดือน นิสัยแย่ขนาดนี้ ฉันถึงบอกไงว่าอย่างเอ็งมันปล่อยไกลหูไกลตาไม่ได้ ไม่รู้จะก่อเรื่องอะไรอีกบ้าง”

   ความเงียบเท่านั้นที่ผมจะมอบให้ได้ พูดอะไรไปก็เหมือนแก้ตัว

   “ทำไม ฉันพูดความจริงเลยเถียงไม่ออกสินะ ยัง! ยังไม่ลุกไปเอาน้ำมาให้ฉันอีก”

   ผมลุกขึ้นไปรินน้ำในมาให้แล้วนั่งฟังตาแก่พูดไปเรื่อย สมองคิดไปเรื่องอื่น ไม้เท้ากระแทกโต๊ะไม้ดังปัง! ผมหรี่ตามอง

   “ฉันสอนต้องฟัง!” จังหวะที่ผมคิดจะพูดสักประโยค ที่ประตูมีเสียงรถจอด พ่อเดินดุ่มๆ นำแม่เข้ามาในบ้าน หน้านิ่วคิ้วขมวดใหญ่

   “พ่อแอบมาแบบนี้ที่บ้านใหญ่เป็นห่วงนะครับ รีบกลับเถอะ แม่เขารอทานข้าวเย็นอยู่นะ”

   ปู่ตวัดตามองพ่อ แม่เดินเข้ามาบีบบ่าผมที่นั่งนิ่งตั้งแต่ปู่มา

   “ไม่ต้องมาไล่! สอนลูกให้ดี ไม่งั้นฉันจะฟาดให้หลังหัก”

   ตาแก่ยกไม้เท้าขู่ แม่รีบเข้าไปพยุงพาท่านกลับรถ ผมยกมือไหว้ตามหลัง ปู่ส่งเสียงเหอะในคอทีหนึ่งยอมกลับไปแต่โดยดี พ่อทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาผมรินน้ำมาเสิร์ฟอีกแก้ว

   “โป้ไม่ต้องคิดมากนะ ปู่แค่คิดถึงลูก” ผมพยักหน้ารับถอนหายใจเฮือกใหญ่ นั่งเกร็งจนเหมื่อยไปหมดแล้ว ทางแม่เห็นพวกเราโอเคเลยผละไปจัดการมื้อเย็นในครัวกับแม่บ้าน

   ตอนเด็กผมไม่เข้าใจคิดว่าปู่เกลียดตัวเองที่ผมมีรสนิยมแบบนี้ พอโตมาถึงรู้ ปู่รักผมมากกว่าลูกหลานทุกคน ทำให้คาดหวังมากเช่นกัน พอผมมาเป็นแบบนี้แถมยังดื้อจะไปตามทางที่ตัวเองชอบ ไม่ยอมอยู่ในโอวาทเหมือนพ่อ ปู่เลยโมโหด่าใส่ตามประสาคนแก่ปากจัด ที่บุกมาถึงบ้านคงอยากเห็นหน้าอย่างที่พ่อว่า แต่ผมไม่อยากไปนั่งฟังเสียงบ่นนี่สิ คิดซะว่าให้พรก่อนกลับกรุงเทพแล้วกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2016 00:01:27 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
รอลุ้นตอนต่อไป

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
โลกกลมจริงๆนะครับ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
นั่นสินะ. คนกันเองทั้งนั้นแถมคงจะเป็นเกย์กันกลายคนเลย. ลุ้นได้อีกหลายคู่
ขอบคุณจ้า. รอวันที่ซันรู้ตัว

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
โลกกล๊มกลมมมมมมมม

อยากอ่านตอนต่อไปแล้วววววววววววว  :ling1:

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ลุ้นอะ รีบมานะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด