PART 1PART 2PART 3PART 4PART 5PART 6PART 7Part 8
หน้าคณะนิเทศวันนี้ดูเหมือนจะมีกลุ่มสาวๆ ที่มามุงกันเยอะมากจนผิดสังเกต แถมยังส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเป็นระยะด้วย สมาร์ทที่มีพลาสเตอร์ปิดที่เหนือคิ้วซ้ายเดินเข้ามาก็มองด้วยความสงสัย แค่เขาหยุดเรียนไปวันเดียว ทำให้เขาตกข่าวอะไรไปหรือเปล่า
“สมาร์ทนี่รู้จักคนดังก็ไม่บอกเลยนะ”
“ใช่ๆ แบบนี้อนาคตเข้าวงการแน่นอนเลยล่ะสิ ฝากตัวด้วยนะ”
“สมาร์ทขอถ่ายรูปกับเขาให้ทีสิ เพื่อนกันใช่ไหม”
สารพัดคำทักทายจากสาวมากหน้าหลายตาที่เขาเดินผ่านยิ่งทำให้ชายหนุ่มลูกครึ่งถึงกับงง มันเกิดอะไรกันแน่ แต่คำตอบที่เขาอยากรู้ก็มาปรากฏให้เห็นตรงหน้าทันทีที่ก้าวไปถึงโต๊ะประจำของเขา
“สวัสดี คุณสมาร์ท”
“คุณ...เหนือดิน”
“ใช่ ผมคิดว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ผมไม่รู้จักคุณนี่นา”
“ผมก็ไม่ได้อยากรู้จักคุณหรอก แต่ที่มาก็เพราะเป็นเรื่องของสีน้ำ”
แค่ได้ยินชื่อของรุ่นน้องที่คว้าเอาโคมไฟมาฟาดแล้วหนีหลุดรอดไปได้ ดวงตาของสมาร์ทก็เปล่งประกายที่หากเหนือดินมองไม่ผิด เขามั่นใจว่าคนนี้จะไม่รามือจากสีน้ำไปแน่ๆ
“ก็ดี ถ้าอย่างนั้นเชิญทางนี้”
สมาร์ทหยักยิ้มที่มุมปากแล้วเดินนำเหนือดินไปยังห้องซ้อมละครที่ปกติแล้วในช่วงเช้าจะว่าง เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่านายแบบดังตรงหน้าจะมีอะไรมาพูดกับเขา เมื่อชายหนุ่มทั้งสองคนเข้ามาในห้องที่ปลอดคนสิ่งแรกที่ เหนือดินตั้งใจจะทำทันทีที่ได้เห็นหน้ารุ่นพี่ที่สีน้ำเรียกด้วยความนับถือ ก็คือการปล่อยหมัดเข้าไปกระทบผิวหน้าของฝ่ายตรงข้ามสักที
“ผลัก”
“อ๊ะ”
สมาร์ทที่ไม่ได้ตั้งตัว ถึงกับเซไปหลายก้าว ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเงยขึ้นมาจ้องหน้านายแบบหนุ่ม
“หมัดนี้สำหรับที่นายหลอกลวงสีน้ำไปทำชั่วๆ”
“เหอะ ที่ให้พามาที่ลับตาคนเพราะจะได้ใช้กำลังป่าเถื่อนแบบไม่มีคนเห็นสินะ”
“ก็ไม่ต่างอะไรกับแกที่วางยาแล้วจะปล้ำคนอื่นเขาน่ะสิ”
“ถ้าฉันเอาหน้าตาช้ำๆ ไปขายข่าวแม็กกาซีนจะเป็นยังไงนะ หรือเอาไปให้สีน้ำดูดีว่าเขากำลังอยู่ใกล้ผู้ชายที่ชอบใช้กำลัง”
“ไม่ต้องมาทำปากเก่ง น้ำหน้าอย่างนายลอบกัดได้ก็แต่คนที่ไม่ทันคนแล้วก็ใสซื่อแบบสีน้ำเท่านั้นแหละ แล้วก็อย่า
คิดว่าจะได้เข้าใกล้สีน้ำอีก ฉันขอเตือนนายเอาไว้ ถ้าไม่อยากให้อนาคตดับวูบ”
“คนที่ต้องกลัวมันแกต่างหาก แค่เอาไปขายนักข่าวกอสซิปเรื่องแกเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน แกก็ไม่มีที่ให้เดินแบบแล้วละมั้ง”
เหนือดินเดินเข้ามาหาสมาร์ทแล้วกระชากคอเสื้อของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ๆ พูดใส้หน้าด้วยน้ำเสียงเข้มว่า
“ก็เอาสิ ฉันจะได้ตอบไปว่าคนที่ให้ข่าวมันคงเป็นคนที่มาหลงรักฉันแล้วฉันไม่เล่นด้วย ก็ดูซิว่าอนาคตใครจะดับกันแน่ ฉันที่มีงานชุก เป็นนายแบบแถวหน้าในวงการ หรือคนที่ยังไม่มีแม้แต่คนรู้จักแล้วก็คงไม่ได้แจ้งเกิดแบบนาย คนเขาจะเชื่อใคร”
พูดจบก็ผลักร่างสูงให้ถอยไป
“อย่าคิดว่าเรื่องนี้จะจบง่ายๆ นะ ของแกก็ดูแลกันให้ดีล่ะ เพราะพรุ่งนี้อาจจะเป็นของฉันก็ได้”
“ทำได้ก็ลองดู คราวหน้าไม่จบแค่หมัดเดียวแบบนี้แน่ จำไว้”
เหนือดินจ้องตากับสมาร์ทอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่นายแบบคนดังจะยิ้มเยาะอีกฝ่ายแล้วหยิบแว่นกันแดดมาสวมแล้วเดินออกไปจากห้องซ้อมละคร
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง คนอย่างสมาร์ทไม่ยอมเจ็บคนเดียวอยู่แล้ว”
****************************************************************
ถ้าหากว่าหน้าคณะนิเทศจะเป็นจุดสนใจของสาวๆ แล้ว ฝั่งหน้าคณะสัตวแพทย์เองก็ไม่ต่างกัน เมื่อหนุ่มฮอตที่ไม่ว่าสาวหรือหนุ่มต่างรุมจีบอย่าง คีย์บอร์ด กำลังประคับประคองเพื่อนร่างโปร่งที่บุคลิกต่างกันดั่งฟ้ากับเหวเข้ามาในคณะ บรรยากาศเหมือนสามีที่ประคบประหงมภรรยายังไงยังงั้น
“เฮ้ยคีย์ ไอ้น้ำเป็นไรไปวะ”
“เออ สีน้ำแกไปทำไรมา หกล้มมาหรอ”
เมื่อมีคนสนใจ ย่อมมีสไปรท์และโชนที่ไม่เคยจะตกข่าวเรื่องของชาวบ้าน ทั้งสองคนรีบเดินมาตามสายตาอยากรู้อยากเห็นของคน จนเห็นเพื่อนทั้งสองคน
“มาก็ดี ช่วยถือของหน่อยดิ เอาไปทั้งของฉันแล้วก็ของสีน้ำนั่นแหละ”
คีย์ส่งกองหนังสือและกระเป๋าไปให้สไปรท์กับโชน ส่วนตัวเขาเองก็เป็นหลักให้สีน้ำเกาะเดินไปพร้อมกันจนถึงโต๊ะหน้าคณะซึ่งเป็นที่นั่งประจำ พอสีน้ำนั่งลงแล้วคีย์ก็กราดสายตาไปมองรอบๆ เหล่าคนที่จ้องมองอย่างสนใจและคนที่แอบมองต่างหลบสายตากันวูบวาบก่อนจะสลายไปในพริบตา
“คีย์เวลาแกทำหน้าดุนี่โคตรน่ากลัวเลยว่ะ น้องเมาส์ไม่กลัวแย่หรอ”
“แกยังไม่กลัวเลยนิ สไปรท์”
“ใครจะขี้ป๊อดเหมือนแกละไอ้โชน เหมือนลูกของแกด้วย”
“นี่ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี อย่ามาเถียงกันแถวนี้”
“ครับผม”
พอโดนคีย์ดุเสียงเข้มเพื่อนคู่หูก็พร้อมใจกันเงียบ ใครจะคิดว่าคีย์นั้นกลับเป็นคนที่คุมเพื่อนสนิทที่ชอบเถียงกันตลอดเวลาของสีน้ำได้เป็นอย่างดี
“แล้วแกเป็นไรวะสีน้ำ พยุงกันมาเหมือนคนท้องเลย”
“อะไรกัน มีแฟนได้แป๊บเดียวท้องแล้ว”
คีย์สุดจะทนเลยคว้าสมุดเลกเชอร์ฟาดสไปรท์กับโชนคนละที
“พูดจาไม่สร้างสรรค์เลย”
“คีย์ รุนแรงว่ะ”
“แล้วแกไปโดนไรมา ถามไม่ตอบ”
“คีย์ ตอบหน่อยดิ”
คีย์หันไปมองหน้าสีน้ำที่หลบสายตาเพื่อนๆ แล้วก็จำได้ถึงสิ่งที่นายแบบหนุ่มบอกไว้ อะไรมันจะเชื่อฟังกันปานนี้เนี่ย เขาชักจะหมั่นไส้ไอ้คุณนายแบบที่เลื่อนสถานะมาเป็นเพื่อนเขยในพริบตาคนนี้ซะแล้ว
“ตั้งใจฟังแล้วก็อย่าโวยวาย เข้าใจไหม ถ้าฟังแล้วโวยวายเดี๋ยวฉันจะจับชากี ชอคโกแล้วก็ปุ๊กปิ๊กไปเลี้ยงแทน”
“โหยยยยย คีย์ แกจะเอาดวงใจฉันไปไม่ได้นะ ปุ๊กปิ๊กของป๋า”
“ไอ้ไป๊ โวยวายนักนะแก ฟังมันเล่าดิวะ”
พอคีย์ถอนหายใจดังๆ เพื่อนทั้งสองเลยรีบสงบปากสงบคำรอฟังแต่โดยดี
“เรื่องก็คือสีน้ำน่ะมันโดนไอ้รุ่นพี่สมาร์ทคณะนิเทศหลอกไปทำมิดีมิร้ายแต่หนีมาได้ ก็คุณเหนือดินไปช่วยทัน เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ไปพวกแกก็ช่วยเป็นหูเป็นตากันหน่อย เพราะคิดว่าไอ้หมอนั่นมันคงไม่รามือง่ายๆ เข้าใจไหม”
“ไม่อยากเชื่อ เจอกันตอนนั้นดูเหมือนเป็นคนดีแท้ๆ”
“นั่นดิสีน้ำ มันทำอะไรแกหรือเปล่า”
สีน้ำอึกอัก แล้วก็หันไปสะกิดคีย์ให้ตอบคำถามแทน
“ไม่ได้โดนไง หนีมาได้”
“แล้วแกเป็นใบ้หรอวะ ถามอะไรก็ให้คีย์เป็นคนตอบเนี่ย”
“เปล่านิ แต่พี่ดินบอกว่าถ้าพวกแกถามอะไรให้คีย์ตอบแทน”
สไปรท์และโชนหันมามองหน้ากันแล้วพร้อมใจกันหันกลับมาจ้องสีน้ำเขม็ง
“เพราะเขารู้นิสัยแกนะสิสีน้ำว่าโกหกไม่เป็น เกิดอะไรขึ้นแน่ๆ มีอะไรปิดบังเพื่อนฝูงหรอ”
“นั่นดิ แล้วคีย์แกก็ต้องรู้เหมือนกันใช่ไหมล่ะ ไม่งั้นไม่ไปรับสีน้ำ หรอกวันนี้ หรือว่าที่สีน้ำมันเดินเหมือนคนขาเจ็บก็เพราะว่า”
“แกก็คิดงั้นหรอวะไอ้โชน คิดเหมือนฉันเลยนะ แบบนี้ต้องฉลองไหมวะ”
“ฉลองทำไม ไม่เห็นเข้าใจ”
พอสีน้ำพูดออกมา เพื่อนทั้งสามคนก็แลกเปลี่ยนสายตากันโดยไม่ตั้งใจ สไปรท์และโชนที่เหมือนจะเข้าใจกับอาการของเพื่อนถอนหายใจดังๆ ออกมาพร้อมกัน
“เฮ้อ”
“ทำไมต้องถอนหายใจพร้อมกันด้วย”
“ก็แค่สงสารแฟนแกขึ้นมาซะงั้นไงไอ้น้ำ คงต้องติวเรื่องความรักกันยาว”
“นั่นดิวะไอ้ไป๊ ฉันว่าเหมือนได้ลูกมากกว่าได้แฟนนะเนี่ย ทีเรื่องเรียนฉลาดเป็นกรดเลยนะแก”
“พอละ เดี๋ยวไปเข้าเรียนแล้ว ไปเหอะสีน้ำ”
คีย์ตัดบทแล้วเข้าไปช่วยพยุงสีน้ำขึ้นมา
“ฉันว่านะถ้าแฟนมันเป็นพ่อ คีย์ก็คงเป็นแม่ละมั้ง ประคบประหงมกันจริงๆ”
“สไปรท์ ถ้ายังไม่เลิกพูด รายงานคราวหน้าฉันจะห้ามไม่ให้สีน้ำช่วยแก”
คีย์หันมาพูดประโยคฮุกจนสไปรท์แทบน็อค ก็ถ้าไม่ได้สีน้ำคอยช่วยป่านนี้งานที่ผ่านมาคงติดน้องหมาไปหลายตัวแล้ว
“ไม่น้าาาาาาาาาาา”
“สมน้ำหน้า ไอ้ไป๊”
“นายก็ด้วยโชน”
“สมน้ำหน้าเว้ย”
“นี่ไม่มาเดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทันนะ”
สีน้ำทนไม่ไหวที่เห็นเพื่อนยังไม่ลุกกันซะที เลยรีบส่งเสียงเรียก เขารู้สึกอบอุ่นที่ห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนที่แสนดีอย่างคีย์ สไปรท์ และ โชน รวมทั้งพี่ดินอีกคน
*************************************************************