คุณพี่ที่รัก
เช้าอันสดใสของมุนินทร์ ถูกรบกวนด้วยการปลุกแบบค่อนข้างถึงเนื้อถึงตัวของเจ้าน้องชายตัวแสบ เขมทัต และเขมทิน ฝาแฝดที่ช่างแสนจะเหมือนกันไม่ว่าเรื่องหน้าตา รสนิยม รวมไปถึงนิสัยแย่ ๆ ในบางอย่าง
“พี่นินเช้าแล้วนะ...ไม่รีบตื่นเดี๋ยวจับปล้ำเสียเลย”
เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างอารมณ์ดีในขณะที่มือไม้ของเจ้าตัวก็จับโน่นลูบนี่สะเปะสะปะไปทั่วร่างของผู้เป็นพี่
“นั่นสิ...โห! แข็งแรงปึ๋งปั๋งแต่เช้าเลยนะพี่ชายของผม ดูสิทัต ‘ลุก’ แต่เช้าเลย สมแล้วกับที่เป็นพี่นิน”
อีกเสียงดังขึ้นบ้าง แถมมือไม้ยังมายุกยิกในสิ่งสงวนของร่างที่กำลังปรือตาตื่นอย่างหงุดหงิด
“ช่วยทำให้มันแข็งแรงกว่านี้อีกดีไหมน้า~”
เสียงแรกบอก แล้วก็ทำให้คนที่กำลังนอนหลับสบายหมดความอดทน ลุกขึ้นแล้วผลักเจ้าน้องชายทั้งสองที่มาป้วนเปี้ยนแถวเตียงตนให้ออกไปห่าง ๆ
“ไอ้เด็กเวรสองตัวนี่! เมื่อไหร่จะเลิกมาวุ่นวายกับพี่สักที ขอตื่นแบบสบาย ๆ เองสักวันไม่ได้หรือไงวะ!”
“ใจร้าย! พี่นินอ่ะ พวกเราอุตส่าห์เป็นห่วงกลัวพี่จะตื่นสาย แล้วไปเรียนไม่ทัน”
เขมทัตแฝดผู้พี่บอกพลางทำหน้ามุ่ย เช่นเดียวกับเขมทินแฝดผู้น้องที่รีบรับเป็นลูกคู่ของพี่ชายฝาแฝดตน
“จริงด้วย พี่นินน่ะตื่นยากจะตาย กว่าจะลุก กว่าจะเข้าห้องน้ำ แถมยังแต่งตัวช้าอีก”
มุนินทร์ชะงักกึก แล้วยิ้มเจื่อน ๆ ให้ เพราะที่อีกฝ่ายพูดมามันก็ถูกต้องทั้งหมด
“เออ ๆ ขอบใจที่ช่วยปลุก แต่คราวหน้าขอปลุกแบบธรรมดาหน่อยแล้วกัน!”
ชายหนุ่มบอกกับน้องชายฝาแฝดคนละสายเลือดกับตนด้วยความเอือมระอา
เขมทัตกับเขมทินนั้นเป็นลูกติดฝั่งพ่อเลี้ยงคนใหม่ ที่แต่งงานกับมารดาของเขาเมื่อห้าปีก่อน เพราะอย่างนั้นมุนินทร์จึงรักและเอ็นดูทั้งคู่เหมือนกับเป็นน้องชายแท้ ๆ ของตัวเอง
ทว่ากลับกันทางด้านฝาแฝด พวกเขานั้นรักและเคารพมุนินทร์ในฐานะพี่ชายก็จริง แต่ก็ยังมีความรู้สึกบางอย่างกับชายหนุ่มมากไปยิ่งกว่านั้น และนับวันก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ถ้ามุนินทร์รู้เข้า คงจะตกใจและนึกไม่ถึงเลยทีเดียว
มุนินทร์เรียนอยู่ ปวส.ปี 1 ของโรงเรียนพณิชย์เอกชนแห่งหนึ่ง เช่นเดียวกับเขมทัตและเขมทินที่อยู่ ปวช.ปี 1 โรงเรียนเดียวกัน ทั้งสามคนมักมาโรงเรียนพร้อมกัน และกลับพร้อมกันเสมอ หรือความจริงแล้วก็คือ สองฝาแฝดนั้นคอยตามประกบติดมุนินทร์ตลอด ทั้งยามอยู่ที่บ้านและโรงเรียนเช่นนี้
“อุ๊ย! ทิน กับทัตมาแล้วล่ะเธอ วันนี้ก็หล่อเนอะ!”
“นั่นสิ หล่อแบบแพคคู่เหมือนเดิม น่าอิจฉาคนที่จะได้เป็นแฟนจังนะ”
“ไม่ได้นะ! ห้ามด้วย แต่ถ้าจะจับคู่กันเองก็ว่าไปอย่าง...”
เสียงนินทา พึมพำด้วยความชื่นชมดังขึ้น เมื่อสองฝาแฝดไอดอลประจำสถาบันเดินเข้ามาในโรงเรียน แม้บางประโยคจะค่อนข้างทะแม่งหูคนฟังไปสักหน่อยก็ตาม
มุนินทร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความโด่งดังของน้องชายทั้งสองของเขา พลางคิดในใจว่า ถ้าแม่พวกที่คลั่งสองคนนี่ ได้รู้ได้เห็นพฤติกรรมยามอยู่ที่บ้านของทั้งคู่ จะยังคงกรี๊ดกร๊าดชื่นชมแบบนี้ให้เห็นอีกไหมนะ
ผู้ชายที่ถูกน้องชายบดบังรัศมีของตนเสียจนมิด ถอนหายใจอีกครั้ง แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้รู้สึกอิจฉาหรือน้อยใจในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว มุนินทร์นั้นไม่ค่อยสนใจเรื่องความรักสักเท่าใดนัก ไม่เหมือนเพื่อน ๆ ร่วมชั้นที่ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องแฟน ยิ่งกว่าเรื่องเรียนเสียอีก
“ทั้งสองคนถ้าเลิกเรียนแล้วก็กลับไปก่อน ไม่ต้องรอพี่ได้เลยนะ เพราะวันนี้พี่จะไปคาราโอเกะกับเพื่อน ๆ”
มุนินทร์บอกกับฝาแฝดก่อนจะแยกไปยังอาคารเรียนของตน แต่อีกสองคนกลับมองตากัน แล้วยกยิ้มน้อย ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ แล้วจึงเดินขึ้นอาคารเรียนฝั่งของตัวเองไปบ้าง
“ไง นิน วันนี้ก็มีบอดี้การ์ดตามมาส่งเหมือนเดิมอีกสินะ”
เสียงทักของจักรกฤช เพื่อนสนิทร่วมห้องดังขึ้น เมื่อเห็นเพื่อนของตนมาถึงห้อง
“บอดี้การ์ดอะไร ก็มาด้วยกันตามปกตินั่นล่ะ”
จักรกฤชหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น ก็มีแต่มุนินทร์นี่ล่ะนะ ที่ไม่ทันสังเกตสายตาและพฤติกรรมของน้องชายฝาแฝดของตัวเองเลยสักครั้ง ทั้งที่มันบ่งบอกออกโต้ง ๆ ขนาดนั้นว่า ทั้งคู่ทั้งหึงทั้งหวงพี่ชายของตนออกหน้าออกตาขนาดไหน
ขนาดมาเรียนตอนเช้าก็ต้องมาพร้อมกัน เวลาพักกลางวันก็คอยตามประกบไม่ห่าง แถมยังรอกลับพร้อมกัน ทั้งที่ตารางเรียนบางวันของพวกนั้นเลิกไวกว่าด้วยซ้ำ
“ถ้านายมีแฟนนะนินเอ๊ย ไม่อยากคิดถึงชะตากรรมของคนคนนั้นเลยว่ะ”
“พูดอะไรของนายวะจักร ตั้งแต่เมื่อครู่ละ พวกนั้นก็แค่น้องชายที่โตมาด้วยกันตั้งห้าปี จะรู้สึกเป็นห่วงพี่ชายของตัวเองบ้างมันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง”
จักรกฤชยักไหล่ พอเป็นเรื่องของน้องชายทีไร อีกฝ่ายก็มักจะจริงจังเสมอ ชนิดที่ใครนินทาว่าร้ายเขมทัตและเขมทินในทางไม่ดี มุนินทร์ก็มักจะออกหน้าเถียงปกป้องทั้งคู่ อย่างไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครประจำ
“เออ! พี่ชายที่แสนดี ...ตอนนี้ยังไม่รู้ตัวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ารู้ตัวเมื่อไหร่ ...ไม่อยากคิดเลยว่ะ นินเอ๊ย!”
จักรกฤชพึมพำ แล้วหันไปสนใจทักทายกับเพื่อนอีกกลุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามา ทิ้งให้มุนินทร์นั่งหน้ามุ่ยอยู่เงียบ ๆ แต่เพียงสักพัก จักรกฤชก็หันมาชวนคุยเรื่องนัดไปคาราโอเกะพร้อมกลุ่มอื่นเย็นนี้ จึงทำให้มุนินทร์ลืมเรื่องที่อีกฝ่ายบ่นก่อนหน้านั้นจนหมดสิ้น แล้วต่างนัดแนะกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องเที่ยวเย็นนี้แทน
“พี่นิน เลิกเรียนแล้วเหรอ เลิกช้าจังพวกผมรอตั้งนานแน่ะ”
เขมทัต กับ เขมทิน ตรงเข้าประกบแขนของชายหนุ่มคนละข้าง ทำเอามุนินทร์นิ่งอึ้ง
“เดี๋ยวก่อน...ทำไมเราสองคนยังอยู่อีกล่ะ พี่บอกเมื่อเช้าแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าวันนี้พี่มีนัดต้องไปคาราโอเกะกับเพื่อน”
เขมทัตแกล้งทำเป็นมีสีหน้าตกใจเหมือนเพิ่งรู้เรื่อง เช่นเดียวกับเขมทินที่ตีบทแตกแทบไม่แพ้กัน
“ไม่รู้เลยพี่...ทำไงดีล่ะทิน วันนี้พ่อกับแม่ก็ไปเที่ยวค้างคืนต่างจังหวัดด้วย...เหลือเราอยู่กันแค่สองคนเองนี่นะ...แล้วจะทำอะไรกินกันดีล่ะ ...อะไร ๆ ก็ไม่ได้เตรียมไว้สักอย่าง”
“ไม่รู้เหมือนกันทัต ...ตอนแรกก็คิดว่าจะชวนพี่นินไปกินข้าวกันสามคนพี่น้อง...แต่พี่เขาคงอยากไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ มากกว่าอยู่กับเราสองคนล่ะนะ...”
“นั่นสินะ น้องชายน่าเบื่ออย่างพวกเรา พี่นินเขาคงไม่อยากอยู่ด้วยอยู่แล้ว...”
เขมทัตตอบพลางตีหน้าสลดเสียจนสาว ๆ ในกลุ่มนั้นที่จะไปคาราโอเกะด้วยกันสงสาร แล้วหันมาทางมุนินทร์ทันที
“นิน กลับไปกับน้อง ๆ เหอะ ไว้โอกาสหน้าค่อยไปกับพวกเราก็ได้”
“จริงหรือครับพี่สา! พี่สาใจดีจัง ไม่คิดเลยว่านอกจากสวยแล้ว ยังใจดีอีกต่างหาก”
เขมทินรีบหันไปประจบอุสา หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของมุนินทร์ ทำเอาสาว ๆ อีกสองสามคน รีบแข่งกันทำคะแนนกับสองแฝดผู้น่ารัก และรวมหัวกันขอร้องแกมบังคับให้มุนินทร์กลับบ้านไปกับน้อง ๆ แทน
“แหม! พวกเพื่อน ๆ ของพี่นินนี่ใจดี มีน้ำใจกันทั้งนั้นเลยนะครับ”
เขมทัตบอกยิ้ม ๆ ขณะที่เกาะแขนของมุนินทร์ที่เตรียมจะแย้งคนอื่น ๆ หมับ
“นั่นสิ ขอบคุณนะครับ เที่ยวให้สนุกเผื่อพวกเราด้วยนะครับพวกพี่ ๆ”
สาว ๆ ต่างพากันยิ้มแย้มตอบรับรอยยิ้มของแฝดหนุ่ม มีแต่เพียงจักรกฤชที่ลอบหายใจอย่างนึกปลงให้กับเพื่อนสนิทของตน ที่ดูจากรูปการแล้ว คงไม่แคล้วจะได้อยู่เป็นโสดตลอดชีวิต หากยังมีแฝดสองคนนี้เป็นน้องชายอยู่ล่ะนะ
มุนินทร์เดินดุ่ม ๆ กลับบ้านอย่างหงุดหงิด ที่วันนี้นัดเที่ยวครั้งล่าสุดของเขาและเพื่อน ๆ ก็ต้องล้มเลิกตามระเบียบ เพราะเจ้าน้องชายตัวแสบทั้งสอง
“พี่นิน โกรธพวกผมหรือ ...”
เขมทัตรีบอ้อนเมื่อเห็นพี่ชายยังคงมีสีหน้าบึ้งตึงไม่หาย
“พี่นินครับ พวกเราขอโทษนะครับที่ทำให้พี่ต้องอดไปเที่ยว ...แต่พวกเราอยากอยู่กินข้าวเย็นกับพี่จริง ๆ นะครับ”
เขมทินรีบบอกบ้าง ทำให้คนที่หงุดหงิดค่อย ๆ หันกลับมามอง ก่อนจะถอนหายใจยาวอย่างนึกปลง
“ช่วยไม่ได้นี่นะ...แต่คราวหน้าห้ามมาขัดพี่แบบนี้อีกรู้ไหม พี่ก็ต้องมีสังคมของพี่บ้าง”
“ครับ พวกเราจะพยายาม...ถึงอยากจะอยู่กับพี่มากขนาดไหนก็เหอะ”
เขมทัตตอบเสียงอ่อย ใบหน้าหล่อเหลานั่นก็ดูเศร้าซึมลงจนคนมองสงสาร แล้วลูบศีรษะของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้น่า พี่ไม่โกรธเราแล้วล่ะ”
“พี่นิน ๆ กับทัตคนเดียวเหรอ แล้วผมล่ะ!”
เขมทินรีบแย้ง ทำให้มุนินทร์หัวเราะเบา ๆ แล้วใช้อีกมือลูบศีรษะของอีกฝ่ายบ้าง
“เด็กไม่รู้จักโตทั้งคู่เลยนะเรา แล้วอย่างนี้พี่จะปล่อยให้อยู่กันเองโดยไม่ห่วงได้ยังไงล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่อยากโตหรอก เป็นเด็กแบบนี้ให้พี่ห่วงไปเรื่อย ๆ ดีกว่า”
เขมทัตบอก ซึ่งเขมทินก็พยักหน้าเห็นด้วย ผลก็คือทั้งคู่โดนพี่ชายเขกศีรษะเบา ๆ ก่อนจะเดินนำกลับเข้าบ้าน แล้วลงมือหุงข้าว ทอดไข่เจียวแจกคนละฟอง เพราะเอาเข้าจริง ๆ ฝาแฝดก็ดันบอกว่าอยากกินข้าวอยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตามากกว่าไปกินข้างนอกบ้าน ผิดจากที่บอกกับเพื่อนของเขาเสียอย่างนั้น
หลังทานข้าวเย็นกันจนอิ่ม มุนินทร์ก็ขอตัวแยกกลับขึ้นห้องส่วนตัว เพื่อทบทวนบทเรียนที่เรียนมา ส่วนสองฝาแฝดนั้นกำลังนั่งปรึกษาอะไรบางอย่างภายในห้องรับแขกอย่างขะมักเขม้น
“พักนี้เสน่ห์ของพี่นินเริ่มแรงขึ้นแล้วนะ เท่าที่เห็นก็เริ่มมีสาว ๆ มาสนใจบ้างแล้ว”
เขมทัตบอกกับน้องชายฝาแฝดอย่างเป็นกังวล เรียกสีหน้าเคร่งขรึมจากเขมทินได้ไม่แพ้กัน
“สงสัยจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้วล่ะทัต ...เราว่าเผด็จศึกกันสักทีเหอะ อย่ารออีกเลย”
ข้อเสนอของแฝดผู้น้องทำเอาเขมทัตสะดุ้งโหยง แล้วจึงรีบถามกลับไป
“เฮ้ย! จะดีหรือทิน ไอ้เรื่องเผด็จศึกน่ะก็อยากอยู่หรอก แต่ว่ามันจะเร็วไปไหม พี่นินเล่นไม่มีความรู้สึกกับพวกเราทางด้านนั้นเลยนะ ขนาดพยายามปลุกอารมณ์อยู่ทุกวันแท้ ๆ”
“ก็เพราะพี่เขาซื่อบื้อแบบนั้นนี่สิ เราถึงได้เสนอทัตว่าให้รีบเผด็จศึกให้เรียบร้อยไปเลย ขืนรอให้พี่แกรู้ตัวเอง มีหวังได้โดนไม่สาวก็หนุ่มคาบไปแด๊กก่อนหรอก!”
แฝดผู้น้องดุใส่แฝดผู้พี่ ทำเอาอีกฝ่ายคิดหนัก ก่อนจะตัดสินใจตกลงตามมา
“เอ้า! เอาก็ได้ งั้นคืนนี้ฤกษ์งามยามดี พ่อแม่ก็ไม่อยู่ จัดการเสียเลยก็ดีเหมือนกัน!”
เขมทัตบอกแล้วจึงแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผู้เป็นน้องชาย ที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าพิมพ์เดียวราวกับส่องกระจกตอบกลับมาเช่นกัน
...
...
(ยังไม่จบ นะจ๊ะ ...ไว้จะมาแปะต่อ~)ป.ล. ใครชอบอ่านแนวนี้ ตอนนี้เรื่องสั้นโนลิมิตเล่ม 3 มีธีมสไตล์ สามเส้า สามพี นำเสนอ พร้อมให้เปิดจองแล้วค่ะ ปัดเองก็ยังแจมเขียนกับเขาด้วยเช่นเคย (นามปากกา ปัทม์ ค่ะ) สนใจลองติดตามได้ในกระทู้นี้นะคะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20326.0