[เวลา] จบในตัว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เวลา] จบในตัว  (อ่าน 64469 ครั้ง)

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
[เวลา] จบในตัว
« เมื่อ28-03-2012 14:03:19 »

**************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

**********************************************************************

รวมงานเขียนของ BaoBao จ้า

อ่านก่อน ชั่งใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีชมพู คือ แนวน่ารักไม่ปวดใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีม่วง คือ แนวเจ็บปวดหน่วงหัวใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีเขียวฟ้า คือ แนวที่จัดอารมณ์ไม่ได้

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องสั้น

[หึง & ง้อ]
[ข้างๆ]
[บังเอิญ]… ณ โรงพยาบาล
[อย่าเงียบสิวะ!]
[แค่นี้ได้มั้ย?]
[บังเอิญ]… คำบางคำกับช่อดอกไม้
ซีรีย์สั้นกุด [บังเอิญ]...คน (ไม่) รู้จัก
ซีรีย์สั้นกุด คำ บ า ง คำ [Silence speaks...]

เรื่องกึ่งสั้น-กึ่งยาว
[แอบ]
[สองก้าว]
[เวลา]
[รู้แล้ว]


เรื่องยาว
[กระดาษ]
[กระซิบ]
[บอก]
[บังเอิญ]… สวนทาง


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เวลา




จริงๆ มันลืมไปแล้ว มันจำไม่ได้แล้วจริงๆ

ถึงรู้ว่าสิ่งที่ลืมมันยังคงซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง เนื่องจากมันไม่ได้สลายตัวไป แต่มันลืมไปแล้ว ทำไมต้องรื้อฟื้น ไม่สิ ทำไมต้องออกมาจากที่ซ่อน ทำไมต้องมาแสดงตัว......

เป็นเพราะ------คุณ กับแค่ประโยคสั้นๆ ไม่กี่คำของคุณ!

งั้นก็อย่าเจอกันอีกเลย อย่าพบกันอีกเลย อย่าคุยกันอีกเลย.....

จงลืมมันเถอะ!

ลืมซะ!

ได้โปรด...


.

..

...

....

.....

......

.......


“ขอสายคุณธีปสุวรรณครับ” เสียงหนึ่งกรอกมาตามสาย

“ครับ พูดสายอยู่ครับ ไม่ทราบจากไหนครับ?” อีกฝ่ายตอบรับ

“ผมโทรจาก O.P.M. คุณนุชาให้โทรมาแจ้งเรื่อง......” เขาพูดรายละเอียดเกี่ยวกับงานที่หัวหน้าบอกไว้ไปตามหัวข้อ ทีละรายการ จวบจนหมดสิ่งที่เขาต้องแจ้งกับอีกฝ่าย

คุณธีปสุวรรณสอบถามบ้างในบางหัวข้อ บางรายละเอียด ซึ่งไม่ได้เกินกว่าที่พฤกษรู้ เขาจึงสามารถตอบคุณธีปสุวรรณได้โดยทันที แต่แล้วเมื่อประโยคหนึ่งเอ่ยถาม ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ และทั่วไปมาก ทว่า เขากลับไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้ในทันที

“ผมพูดสายกับใครครับ?”

จะบอกชื่ออื่นไปก็ได้ หากที่นี่ไม่ใช่ที่ทำงาน จะบอกแค่ว่าหัวหน้า...คุณนุชาสั่งมาแค่นั้นก็ได้ หากแต่ถ้าก่อนที่เขาจะโทรไปหาอีกฝ่าย คุณนุชาได้กำชับเขาไว้ว่า “พฤกษ เรื่องนี้พี่ให้เธอจัดการเลยนะ ลองดู หากทำผ่าน เธอจะได้ขึ้นมาช่วยพี่สักที”

พฤกษพยายามปฏิเสธหัวหน้าที่เคารพด้วยความสุภาพ ไม่ใช่ว่าฝีมือไม่ถึง ไม่ใช่ว่าไม่อยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ให้เขาติดต่อประสานงานกับใครก็ได้ ขอแต่ไม่ใช่คนนี้.... ใบสั่งงาน รายละเอียดเกี่ยวกับงาน และชื่อคนที่เขาต้องติดต่อแผ่หราอยู่ในมือของพฤกษ งานนั้นไม่ยาก ท้าทายเล็กน้อย หากงานแค่นี้ทำให้เขาขยับตำแหน่งได้ก็ถือว่าเขาโชคดีมาก

แต่ความโชคดีของเขามันได้หายไปเมื่อเขาเห็นชื่อผู้ที่เขาต้องติดต่อด้วย----ธีปสุวรรณ นามสกุลนั้นก็ใช่!

อันที่จริง เขาลืมไปหมดแล้ว........อย่างน้อยก็เชื่อว่าตัวเองเป็นเช่นนั้น ตราบจนเวลานี้ ความรู้สึกที่คิดว่ามันหมดสิ้นไปแล้ว กลับเผยอหน้าออกมาเยี่ยมมองโลกภายนอก.....เพื่ออะไร?

“ผมชื่อพฤกษครับ” พฤกษบอกอีกฝ่าย

“นามสกุลครับ” อีกฝ่ายถามต่อ

“xxxxxxx ครับ” พฤกษตัดใจบอก

“................................. พฤกษครับ เราต้องคุยกัน!” อีกฝ่ายเงียบไปนานก่อนจะพูดประโยคนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“คุณนุชาให้แจ้งเท่านี้ครับ หากทางเรามีสิ่งใดเพิ่มเติม ทางเราจะแจ้งให้คุณทราบอีกครั้ง ขอบคุณมากครับสำหรับความกรุณาที่ผ่านมา สวัสดีครับ” พฤกษกล่าวรัวเร็วและวางสายไป

เพราะ------คุณ

เพราะ------คุณ

เพราะ------คุณ

เพราะ------คุณ

เพราะ------คุณ

เพราะ------คุณ

เพราะ------คุณ

เพราะ------คุณ

เพราะ------คุณ

เพราะ------คุณ

เพราะ------คุณ

แค่ได้ยินเสียง...คำคำนั้น ประโยคสั้นๆ แค่ไม่กี่คำ มันก็ทำให้เขารู้ตัวเองว่า ตกหลุมรักคุณ...มันง่ายแค่นี้เองน่ะเหรอ

พฤกษถอนหายใจ รวบรวมสมาธิแล้วหันกลับมาทำงานต่อ... ยังมีงานกองอยู่เต็มโต๊ะ มีโครงการให้สาง มีเรื่องให้ทำอีกเพียบ ตอนนี้พฤกษไม่มีเวลาว่างสำหรับเรื่อง----หัวใจ



********************************


ธีปสุวรรณวางหูโทรศัพท์และระบายลมหายใจ เขาทั้งดีใจและผิดหวัง เขานั่งจ้องโทรศัพท์และใคร่ครวญอีกครู่หนึ่ง หัวใจยังคงเต้น เขายังหายใจเข้าออกได้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้กระทั่งความรู้สึกที่มีต่อปลายสายซึ่งตัดสายจากเขาไปโดยไม่ใยดีกันเลย

“คุณธีคะ ไม่สบายรึเปล่าคะ?” เสียงหนึ่งถามเขา

“อืม..... เปล่าครับ พอดีคิดอะไรนิดหน่อย มีอะไรครับ?” ธีหันหน้ามาถามเธอ

“โปรเจคกับ บ. A.N.P. ฝ่ายการตลาดคืนมาให้แล้วค่ะ ส่วนโปรเจคจาก บ. O.P.M. ฝ่ายตลาดบอกว่า อยากได้รายละเอียดภายในอาทิตย์นี้ เพื่อสรุปให้ทันก่อนเข้าที่ประชุมวันจันทร์หน้านี้ค่ะ” เธอแจกแจงงานให้ผู้จัดการฟัง

“ครับ O.P.M. โทรมาแล้วเมื่อกี้ น่าจะเปลี่ยนคนดูแลงานใหม่” ธีหยิบกระดาษขึ้นมาเขียน

“อ้าว ไม่ใช่คุณนุชาหรือคะ?..... ฝ่ายตลาดได้เกร็งกันแน่ๆ คนก่อนนี้ท่าดีทีเหลวไปคนแหละ เครียดแทนคุณนุชาเธอนะคะ” เธอพูด

“ก็ค่อยๆ ดูกันไป คนละคนกัน อาจไม่เหมือนกันก็ได้ นี่ชื่อเขาครับ หากผมได้แฟ๊กซ์รายละเอียดงานแล้ว จะส่งไปให้คุณ คุณไปแจ้งฝ่ายตลาดให้รู้กันไว้ก่อนก็คงดี บรีฟให้แน่นๆ เผื่ออย่างไรจะได้ไม่เป็นเหมือนคราวก่อน” ธีสรุป

“ค่ะ คุณธี” เธอรับกระดาษจากมือธีแล้วหันหลังเดินออกไปจากห้อง

รอจนเธอไปแล้ว และประตูถูกปิดลง ธีค่อยเปิดลิ้นชักของโต๊ะทำงาน เขาหยิบกระเป๋าใส่เงินออกมา เปิดมัน และจ้องมองมัน.....

ภาพของเขาสมัยที่ยังวัยรุ่นสวมกอดคนอีกคนที่อิงแนบอกของเขาด้วยรอยยิ้ม....


....


...


..


.



ครั้งหนึ่งเมื่อใจคิดว่า ไม่ไหวแล้ว พอแล้ว เบื่อ เซ็ง

ต่อมาเขากลับพบว่า คิดผิดแล้ว มันไม่ใช่ ไม่เอาแบบนี้

หากแต่เวลาได้ไหลผ่านไปแล้ว เขาไม่อาจเรียกคืนมันมาได้ ที่สำคัญเขาหาตัวคนคนนั้นไม่เจอ

หากเขาพยายามมากกว่านั้นเขาอาจตามตัวเขาเจอก็เป็นได้ ทว่าเขากลับหยุดมันไว้เอง...เพราะคิดว่าน่าจะดีต่ออีกฝ่าย

ใช่มันดีแล้ว ดีที่สุดตราบเท่าที่เขาจะไม่ได้ยินเสียงนั้น!

ครั้งแรกที่รับสายและได้ยินเสียง ใจเขาฉุกคิดว่าเป็นเขารึเปล่า ใจมันเต้นรัว...

จะเต้นทำไม จะเอาอะไรกับเขาอีกไอ้ธี จบกันไปแล้ว ให้เขาไปดีเถอะ แต่แล้ว.....เมื่อได้ยินชื่อนั้น ใจเขาบังเกิดความมุ่งมั่นหนึ่งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ไม่เคยลืมเขาเลยสักนาที ทุกครั้งที่หายใจก็ยังคิดถึงแต่เขา รู้ตัวอยู่เสมอว่าตัวเองทำผิดพลาดลงไป รู้ตัวดีว่าปล่อยเขาไปเองกับมือ

ทว่า เสียงของเขามีพลังกับหัวใจธีมากอย่างที่ธีไม่เคยคาดคิด... แค่ได้ยินเสียง แค่รู้ว่าเจอแล้ว เขาเจอเขาสักที... เพียงแค่นั้นใจก็ร่ำร้องว่า อยากกลับไปหาเขา อยากเอาเขากลับมา

จากวันนั้นถึงวันนี้เวลาผ่านไปหลายปี เวลาไม่ไหลคืนกลับเฉกเช่นเดียวกับใจคนที่เปลี่ยนไปได้เสมอ... ธีสำนึกถึงความจริงข้อนี้


ในเมื่อยังรัก!

ธีตัดสินใจจะลองดูสักตั้ง หากเขายังไม่มีใคร หากเขาสามารถให้อภัยกันได้ ครั้งนี้ล่ะ ครั้งนี้เขาจะ.....................................


*****************************

[/color]  :pig4:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2021 19:09:28 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคแรก
«ตอบ #1 เมื่อ28-03-2012 16:06:59 »

 :really2:มีอะไรซ่อนอยู่ คอยลุ้นต่อจ๊ะ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคแรก
«ตอบ #2 เมื่อ28-03-2012 16:45:48 »

มารอตอนต่อไป

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคแรก
«ตอบ #3 เมื่อ28-03-2012 17:57:41 »

 :mc4:

ยินดีต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ  รอเวลาใหม่เริ่มต้น

บวกเป็ด

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสอง
«ตอบ #4 เมื่อ30-03-2012 19:38:13 »

วรรคสอง




“อ้าวพี่ธี เป็นไงบ้างลูก? งานยุ่งมากมั้ย?” ชายน้ำเสียงสูงวัยกล่าวถาม

“ครับพ่อ ได้บรรจุแล้วครับ ลำบากอยู่พอควรครับ ว่าแต่พ่อสบายดีมั้ยครับ?” ธีกล่าวถามพ่อของพฤกษด้วยความเป็นห่วงจากใจ

“อื้ม พ่อก็ตามอัตภาพล่ะพี่ธี...ได้บรรจุก็ดีแล้วลูก แรกๆ เราต้องอดทน ต้องเรียนรู้งานให้มากๆ อย่าเกี่ยงนะพี่ธี ลำบากยังไงพี่ธีต้องอดกลั้นไว้นะ หากมันมากไปก็ถือเสียว่าเรากำลังทดสอบตัวเองอยู่” พ่อสอนธี

“ครับผม ธีจะจำให้ขึ้นใจครับ” ธีรับคำด้วยความตื้นตัน

“ขยัน ซื่อสัตย์... พี่ธีจำให้ขึ้นใจสองอย่างเท่านี้ เดี๋ยวสิ่งที่เราเหนื่อยยากกับมัน มันจะมาตอบแทนเราในวันข้างหน้าเอง อย่าท้อนะพี่ธี ชีวิตมันไม่ลำบากนักหรอกหากเราใช้มันเป็น” ชายหนุ่มยังคงสอนธีด้วยความห่วงใย

“ครับพ่อ ไม่ท้อครับ ธีจะสู้” ขณะที่โทรหาพ่อ ธีเหนื่อยใจและท้อกับชีวิตเหลือเกิน ทั้งงานที่รุมเร้า ทั้งหัวใจที่ขาดหาย พ่อจะรู้มั้ย ลูกชายของพ่อทำหัวใจเขาแหว่งอยู่ในเวลานี้

“ดีลูก เนี่ยเดี๋ยวไอ้ลูกหมามันจะรู้สึก รออีกไม่กี่เดือนหรอก พี่ธีรู้แล้วเนอะว่าวันนี้แม่ไอ้ลูกหมามันไปส่งไอ้ลูกหมาเข้าหอ ฮึ โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแหละ ยังต้องไปส่งกันอีก พ่อก็บอกว่าหากเป็นไรขึ้นมาจริงๆ พี่ธีก็อยู่ใกล้ๆ แม่มันยังจะไป หมั่นไส้จริงๆ” พ่อบ่นอุบ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า... แม่อาจห่วงน้องก็ได้ครับพ่อ ช่วงหลังมาธีก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแลน้องเลย” ธีออกตัว น้องไม่อยู่ด้วยแล้ว เขาเองก็ติดต่อน้องไม่ได้ เป็นห่วง อยากถาม...อยากรู้ว่าสบายดีมั้ย อยากรู้ว่า....อยากรู้อะไรหลายๆ อย่าง แต่น้องไม่รับสาย หลังๆ มาก็เจอแต่เสียงที่บอกว่า

‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้’

นานวันไปก็เปลี่ยนเป็น... ‘ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาตรวจสอบใหม่อีกครั้ง’

ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เหลือแค่โทรมาหาพ่อ ธีรู้ว่าหากโทรหาแม่เขาจะได้เจอตัว แต่ไม่ได้ หากทำแบบนั้น น้องคงเก็บอาการไม่อยู่ แม่คงจับได้ว่าโกรธกัน

ธียังไม่อยากให้แม่รู้ ธียังไม่อยากให้พ่อรู้... เขายังอยากเหลือแม้เพียงช่องว่างเล็กๆ ให้กับตัวเอง

“โหย คนทำงานพี่ธี พ่อรู้ดี พ่อผ่านมาก่อน แต่ดีแล้วล่ะพี่ธี ให้ไอ้ลูกหมามันไปอยู่เองคนเดียวมันจะได้รู้ว่า การอยู่คนเดียวในสังคมมันทรมานใจขนาดไหน ฮึ แล้วมันจะรู้สึก!”

พ่อเตรียมซ้ำลูกชายตัวเองโดยที่ไม่รู้ว่า หากลูกชายตัวเองต้องอยู่คนเดียวในสังคมแล้วล่ะก็ ใครอีกคนที่กำลังพูดสายอยู่กับพ่อ เขาเองก็ต้องเดียวดายอยู่ในสังคมเช่นเดียวกัน... เพราะการบีบคั้นของสังคมทำงาน ทำให้เขาออกปากท้าทายไปกับพฤกษ และพฤกษเองก็รับคำท้านั้น โดยเดินออกไปจากชีวิตของเขา ห้องของเรา...


.........

........

.......

......

.....

...

..

.



พี่ธีไม่เหมือนเดิม พี่ธีไม่ค่อยใส่ใจเขา พี่ธีชอบทำหน้าเซ็ง ถึงเขาพยายามร่าเริงยังไง ชวนพี่ธีให้สดชื่นยังไง พี่ธีก็ยังเซ็ง เครียด และเบื่อ..... พฤกษรู้ว่างานมันเครียด งานมันหนัก แต่พฤกษอยากให้พี่ธียิ้มออก และสบายใจเวลาที่อยู่กันสองคน อยู่ในห้องของเรา พื้นที่ของเรา

พฤกษเองก็พยายาม... แต่เมื่อนานวันไป สิ่งที่ไม่ควรคิดมันก็คิดขึ้นมา

ความเซ็งเครียดและเบื่อ มันถ่ายทอดกันทางอากาศ หากคนหนึ่งเป็นโรคนี้ อีกคนที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะเป็นไปด้วย...ในสักวัน

พฤกษเริ่มนอยด์ว่าพี่ธีไม่สนใจตัวเอง พี่ธีเบื่อตัวเองแล้วใช่มั้ย พี่ธีรักตัวเองน้อยลงแล้วใช่มั้ย?... กระทั่งพี่ธีหมดรักกันแล้วใช่มั้ย?

การถามคำถามคนอื่นแต่ต้องมานั่งวนเวียนอยู่ในคำตอบที่คิดเอาเอง...นานวันเข้า ความน้อยเนื้อต่ำใจก็เริ่มปรับนิสัยของคนที่ตั้งคำถามให้แปรเปลี่ยนเป็นใครอีกคนที่... งี่เง่า พูดไม่รู้เรื่อง เอาแต่ใจ ไม่ยอมเข้าใจ----- สุดท้าย “คนน่าเบื่อ”

“ทำไมต้องทำตัวน่าเบื่อห๊า พฤกษ แค่งานพี่ก็เครียดพอแล้วนะ ไหนว่าเข้าใจ นี่เหรอเข้าใจ!” ธีตวาด

“น่าเบื่อเหรอ ใครกันแน่ที่น่าเบื่อ ไปส่องกระจกดูตัวเองก่อนเถอะ!” พฤกษปาหมอนอิงที่กอดไว้ตลอดเวลาพื้น

เป็นสัญญาณบอกว่าด้ายเส้นสุดท้ายเริ่มขาดแล้ว

“อย่าทำเป็นเด็ก โตแล้วพฤกษ เข้าใจพี่บ้าง พี่ไม่ทะเลาะด้วยนะ พอ! จบ! ไปกินข้าว” ธีเดินนำไปที่โต๊ะทานข้าวซึ่งพฤกษจัดอาหารเช้าง่ายๆ เตรียมไว้เสร็จแล้วเหมือนเช่นทุกวัน

ปุ๊! หมอนอิงใบหนึ่งลอยไปตกที่บนโต๊ะกินข้าว....

ธีหันขวับมาทำตาขวาง เขาสุดจะทนแล้วจริงๆ

“ผมเบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ... ผมเบื่อพี่!” พฤกษตะโกนเสียงดังสุดเสียงจนหน้าแดง

“เออ! เบื่อนักก็เลิกกันไปเลย จบมั้ย จบกันสักที พี่ก็รำคาญเป็นเหมือนกันนะ งี่เง่า!” ธีตวาดเสียงดังไม่แพ้กัน

เขาก้าวแบบย่างสามขุมเข้าไปหา จับใบหน้านั้นแล้วก้มลงไปจูบอย่างรุนแรง ก่อนจะถอนจูบแล้วพูดเสียงแบบได้ยินกันแค่สองคนว่า “ถ้าอยู่แล้วทำดีได้แค่เป็นเพื่อนนอน ก็พอเหอะ แบบนั้นหาที่ไหนก็ได้!”

............

..........

.........

........

.......

......

.....

....

...

..

.


หลังจากเสียงปิดประตูดังขึ้น พฤกษทรุดฮวบลงกับพื้น เขาไม่อยากเชื่อว่าเมื่อกี้เขาได้ยินอะไรจากพี่ธี คำนั้นหรือคำที่พูดกับคนที่รักกัน....

ไม่รักกันแล้วใช่มั้ยพี่ธี หมดรักแล้วจริงๆ สินะ......

เขาไล่แล้ว คงหน้าด้านอยู่ไม่ได้อีกต่อไป... หรือความจริงแล้วที่ยังอยู่อยู่นี่ล่ะคือ “เราหน้าด้าน”... อยู่มาได้เป็นนานจนเขาต้องออกปากไล่

ทำไมไม่บอกผม...พี่ธี

ทำไมไม่พูด

ทำไมครับพี่ธี

ทำไม

ทำไม

ทำไม

ทำไม

ทำไม

...



















พออารมณ์โมโหที่ปะทุขึ้นมาจากความเหนื่อยล้าบรรเทาลง ธีจึงสำนึกว่าพูดไม่ดีออกไป แต่เมื่อเขาง้อพฤกษอีกหลายครั้ง และไม่ประสบความสำเร็จ เขาอยากให้อีกฝ่ายเข้าใจเขาที่ทำงานหนักและเครียด แต่อีกฝ่ายไม่ยอมเข้าใจ ธีรู้สึกว่าพวกเขาเดินมาถึงทางตันกันแล้ว

เมื่อรักกัน แต่ปราศจากความเข้าใจกัน ธีคิดว่าจะปล่อยรักนี้ไปซะ เพราะขืนยังดึงรั้งกันไว้ อนาคตต่างก็จะเจ็บกันไปกว่านี้

เวลานี้แค่สองปีเท่านั้น ความผูกพันยังไม่มากเท่าไหร่ เขาน่าจะตัดได้ เจ็บก็มีนะ มากทีเดียวเชียวล่ะ แต่นี่ยังน้อย ยังน้อย เท่านั้นธีสามารถปล่อยไปได้ ถึงจะเจ็บแต่เท่านี้ธียังพอทำใจได้...

เสียใจให้พอแล้วเงยหน้าสู้กับชีวิตต่อไป----- ธีสรุปเช่นนั้นทั้งน้ำตา

พฤกษนั้นก็สภาพไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่ต่างกันอย่างเดียวคือ เขารอคอย เขารอคนที่เขารักมาขอโทษ เพื่อจะคืนดีกันอีกครั้ง แม้หลายๆ ครั้งที่ผ่านมาพฤกษเองนั่นแหละที่ตัดเยื่อตัดใจกับเขา... ด้วยความโกรธ ด้วยความน้อยใจ

ระหว่างธีและพฤกษ...พวกเขาเดินไปถึงทางแยก โดยที่ต่างไม่เคยนึกฝัน แม้ในฝันที่ผ่านมาของพวกเขาก็ไม่เคยมีวันนี้........

.......

.....

....

...

..

.








*****************************


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 16:05:49 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสอง
«ตอบ #5 เมื่อ30-03-2012 20:02:55 »

พี่ธีทำตัวเองนะ แล้วก็ปล่อยเวลาให้มันผ่านไปเนิ่นนาน จะยังต่อกันติดเหรอ

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสอง
«ตอบ #6 เมื่อ30-03-2012 20:14:33 »

ลุ้นตัวโก่ง .. พี่ธีจะทำอย่างไร เพื่อตามรักมาคืนใจ
เชียร์ทั้งๆที่หมั่นไส้นี่แหละ  :beat: ทำน้องพฤกษเสียใจ

บวกและเป็ดจ๊ะ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสอง
«ตอบ #7 เมื่อ30-03-2012 20:59:19 »

ถามใจตัวเองก่อนดีกว่านะนายธีว่าต้องการคู่นอนเพื่อระบายความใคร่


หรือต้องการคนรักที่เข้าใจซึ่งกันและกันมีปัญหาอะไรค่อยแก้ใขเป็นกำลังใจให้กัน

ไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ความใครหรือที่ระบายโทสะ ไม่เช่นนั้นครั้งต่อไปมันก็เหมือนเดิม

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสอง
«ตอบ #8 เมื่อ30-03-2012 21:58:08 »

หนักเหนื่อยก็ห่างกันไป  บางทีเวลาอาจจะทำให้อะไรๆมันดีขึ้นก็ได้

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสอง
«ตอบ #9 เมื่อ31-03-2012 12:04:21 »

เหนื่อยนักก็พัก :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสอง
« ตอบ #9 เมื่อ: 31-03-2012 12:04:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสาม
«ตอบ #10 เมื่อ31-03-2012 13:01:39 »

วรรคสาม



จริงๆ มันตัดใจไปแล้ว ไม่อยากรื้อฟื้นแล้วจริงๆ

...หรืออย่างน้อยก็เคยตั้งใจไว้ว่าอย่างนั้น

ถึงรู้ว่าความรู้สึกนั้นมันยังคงซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง เนื่องจากมันไม่ได้สลายไป แต่ตัดใจไปแล้ว  ไม่สิ ตั้งใจที่จะตัด แล้วทำไมต้องออกมาจากที่ซ่อน ทำไมต้องมาแสดงตัว......

เป็นเพราะ------เขา แค่รู้ว่านั่นเป็นเสียงของเขา แค่รู้ว่าเป็นเขา!

อย่าเลย!

อย่า...

อย่า...

อย่า...


.

..

...

....

.....

......

.......

ประชุมช่วงเช้าเสร็จสิ้น ธีปสุวรรณปิดแฟ้มและเดินเข้าไปหาผู้บริหาร เขารับคำสั่งเป็นการส่วนตัวสักพักจึงเดินมาหาผู้ช่วยของตัวเอง ธีบอกผู้ช่วยให้ไปพักกลางวันก่อนแล้วถึงเข้ามาทำงานต่อ

ธีสั่งงานเสร็จก็เดินเข้าไปเก็บเอกสารในห้องของตัวเอง ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องทำงานของตัวเอง ตาเขาเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งเลื่อนออกมาจากเครื่องโทรสาร เขาเดินกลับไปดูเอกสารนั้น

รายละเอียดงานเปิดตัว “xxxxxxxxx”

ผู้จัดงาน: บริษัท O.P.M.


ธีรีบไล่สายตาลงด้านล่าง....

ผู้ดูแลโครงการ นายพฤกษ  xxxxx
(e-mail: p_opm@opm.co.th   Tel: 02-xxxxxxx ต่อ xxx)

ธีถอนหายใจทันทีที่ยังเห็นรายชื่อนั้นอยู่บนกระดาษ เดิมเขาคิดว่าอีกฝ่ายจะถอนตัวจากงานนี้ไปแล้ว...กระนั้น ธีก็รีบยั้งความโล่งใจของตัวเองเอาไว้

เขาไม่ควรรื้อฟื้น...ก็จริง แต่ใจเขามันร่ำร้องว่าลองดูก่อน ขอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

ธีหวังว่า เวลาอาจช่วยชำระล้างความขุ่นเคืองที่มีในใจของอีกฝ่ายลงได้

เวลาอาจช่วยธีได้...

แม้เป็นแค่ “อาจ” แต่ธีก็อยากที่จะลอง

..........

........

.......

......

.....

....

...

..

.


“คุณดาครับ ช่วยเอารายละเอียดงานนี้ส่งให้ฝ่ายการตลาดด้วย สำหรับงานนี้ หากฝ่ายการตลาดวางแผนหรือประชุมความคืบหน้าอะไรยังไง ให้เขาทำรายงานสรุปมาให้ผมด้วยทุกครั้งนะครับ ผมไม่อยากให้เป็นเหมือนคราวที่แล้ว ผู้บริหารค่อนข้างเป็นกังวลมาก เราช่วยๆ กันดูน่าจะดีกว่า” ธีสั่งผู้ช่วยพร้อมยื่นเอกสารชุดหนึ่งให้เธอ

“ค่ะ...คุณธี” ผู้ช่วยสาวรับเอกสารไป และเดินออกไปจากห้อง

ธีปสุวรรณไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีวันที่เอาเรื่องส่วนตัวมาพันกับเรื่องงานแบบนี้ ทว่า หากไม่ใช้โอกาสนี้ คาดว่าอีกฝ่ายคงไม่เปิดโอกาสให้เขาอีกเป็นแน่

ธีเริ่มวางแผนการเอาไว้ในใจหลายๆ ทาง เมื่อคิดตามนิสัยของอีกฝ่ายแล้ว... จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย...

ธีไม่คาดหวัง ธีพยายามไม่คาดหวัง... เวลานี้เขาขอเพียงแค่โอกาส


*****************************


พฤกษนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องทำงานของหัวหน้า

ช่วงบ่ายของวันจันทร์ หลังจากที่บริษัทลูกค้าประชุมภายในกันเสร็จ ที่ประชุมลงความให้โครงการที่เขาเป็นเฮดผ่าน... โครงการไปต่อได้ก็น่าจะเป็นเรื่องดี หากแต่ว่าพนักงานคนก่อนจะไม่ทิ้งงานไปกลางคันด้วยเหตุผลส่วนตัว จนทำให้งานเปิดตัวสินค้าของบริษัทลูกค้าเกือบล่ม ตอนนั้นเดือดร้อนด้วยกันทั้งสองฝ่าย...

“ถือว่าเป็นการพิสูจน์ตัวของบริษัทเรานะพฤกษ พี่พยายามช่วยพูดแล้ว แต่เสียงพี่มันไม่มีน้ำหนักพอ คิดแล้วก็โมโห มันน่านัก!” คุณสุชาเริ่มคิ้วขมวด 

ลูกน้องที่เธอไว้ใจ คนที่เธอกะไว้ว่าจะเลื่อนมาเป็นมือซ้าย มีปัญหาหัวใจจนแยกแยะงานไม่ถูก และท้ายที่สุดเขาก็ทิ้งงานไปในหยดสุดท้าย เดือดร้อนถึงเธอที่มีงานล้นมืออยู่ในขณะนั้นต้องลงมาจัดการเอง โชคดีที่เธอรู้จักกันดีกับคนภายใน และทางบริษัทลูกค้าไว้วางใจ เชื่อใจ และให้อภัย เธอจึงจัดงานนั้นรอดมาได้อย่างลุล่วง และด้วยความกรุณาของผู้ช่วยผู้บริหาร บริษัทเธอจึงยังคงได้เป็นคู่ค้ากันต่อ งานที่เธอให้พฤกษไปทำครั้งนี้คืองานแรกหลังจากที่เกิดเรื่องที่ว่า

พฤกษรู้ดีถึงความรู้สึกและเจตนาของคุณนุชา เพราะเขาเองก็เป็นหนึ่งในบรรดาหลายคนที่ต้องวางงานของตัวเองไปช่วยกู้งานนั้นไม่ให้ล่มด้วยเช่นเดียวกัน

“ผม... พิสูจน์อะไรผมไม่ว่าหรอกครับหัวหน้า ผมก็เข้าใจทางเขาครับ แต่วิธีการประสานงานแบบนั้น มันค่อนข้างจะเปลืองเวลาไปเปล่าๆ นะครับ ทำไมผมต้องเทียววิ่งเข้าบริษัทลูกค้าขนาดนั้น มัน...” พฤกษพยายามจี้จุดที่เขาไม่เห็นด้วย และอยากหาทางออกอื่น

“พฤกษ ทนนิดนึงนะ งานนี้สองเดือนก็เสร็จ พี่ให้พฤกษทำรายละเอียดอยู่ที่ออฟฟิชเรา แต่นอกเหนือจากนั้น พี่ขอร้องให้พฤกษไปหาเขาอย่างที่เขาขอ...นะ ค่าเสียเวลา ค่ารถ ค่าน้ำมัน เธอเบิกได้หมด พี่อยากเรียกความเชื่อมั่นคืนมาจากลูกค้า ถึงพี่จะสนิทกับผู้ช่วยผู้บริหาร แต่ครั้งนี้ผู้บริหารเขาเป็นฝ่ายไม่ไว้ใจเราเอง แต่พนักงานเขาก็เข้าใจเราดี พี่ว่าเธอไม่มีปัญหาเวลาทำงาน ..... เข้าไปให้ผู้บริหารเขาเห็นหน้า เข้าไปให้เป็นข่าวว่าเราไปจริง ตามคำขอ... แค่นี้เอง นะ ได้มั้ย?” หัวหน้าสุชาทำหน้าเอาจริงเอาจังที่สุด

พฤกษเข้าใจดี งานไม่น่าจะมีปัญหา พนักงานของฝ่ายลูกค้าที่ประสานงานกับเขาก็เป็นกลุ่มเดิม การันตีว่าต่างจะเข้าใจในเนื้องานกันดี แถมสิ่งที่เขาทำก็แค่... เข้าไปให้ผู้บริหารเห็นหน้า เข้าไปให้เป็นข่าวว่าเข้าไปแล้วนะ มันไม่ได้ยากเลยสำหรับพฤกษ หากแต่ชื่อของคนที่มีอำนาจตัดสินใจในโครงการนี้จะไม่ใช่ชื่อนั้น----- ธีปสุวรรณ ผู้ช่วยผู้บริหารของบริษัทที่เขาต้องทำงานให้!

“ครับ หัวหน้า” พฤกษรับปากด้วยความกล้ำกลืน นอกจากจะต้องเตรียมงานให้เนี๊ยบที่สุดแล้ว เขายังต้องเตรียมหน้าตา มารยาท และคำพูดสำหรับเข้าสังคมเพิ่มด้วย แต่นั่นยังไม่เท่ากับที่เขาต้อง......เตรียมใจ!

............

...........

..........

.........

........

.......

......

.....

....

...

..

.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 16:08:36 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสาม
«ตอบ #11 เมื่อ31-03-2012 13:08:19 »

:กอด1: อาจสั้นไปหน่อย
แต่ขอลงเป็นฉากๆ ก่อน เพื่อกันผู้อ่าน อ่านแล้วสับสนนะคะ

อากาศที่ตจว.ร้อนมากมาย
เครื่องปรับอากาศก็ไม่มี
คุณธีกับพฤกษกำลังละลายไป....ทีละน้อย ทีละน้อย

 o22

คุณธีขากลับมาก่อน คุณพฤกษขาเดินกลับมาค่ะ เรายังไปไม่ถึงครึ่งเรื่องกันเลยนะคะ
อย่านั่งเฉยๆแบบนั้น  :monkeysad:

------ รำพึงรำพัน --------

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสาม
«ตอบ #12 เมื่อ31-03-2012 13:26:33 »

เข้าขอลุ้นด้วยคนค่ะ

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสาม
«ตอบ #13 เมื่อ31-03-2012 13:34:08 »


.......

......

.....

....

...

..

.

การเข้าไปอธิบายงานด้วยตัวเอง รับงานกลับมาแก้ด้วยตัวเอง นำงานที่แก้ไปให้ดูด้วยตัวเอง ทุกอย่างอยู่ในรูปแบบของการประชุมย่อยภายในของบริษัทลูกค้า... ยุ่งยากไม่ต่างจากที่พฤกษคาดการณ์ไว้ ทว่าสิ่งที่พฤกษไม่ได้คิดไว้นั่นคือ การสรุปงานให้จบได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว

พนักงานที่ประสานงานกับเขาช่วยบรีฟงานให้ดีที่สุด เร็วที่สุด และง่ายต่อกันทั้งสองฝ่าย ส่งผลให้งานเป็นรูปเป็นร่างในเวลาอันสั้น เพียงหนึ่งเดือนพฤกษก็ไม่มีสิ่งที่ต้องแก้ ปรับ หรือเปลี่ยนอีก สมกับที่เคยร่วมงานกันมานาน สมกับความเป็นมืออาชีพด้วยกันทั้งสองฝ่าย

เช่นนี้เอง เวลานี้พฤกษจึงเหลือแค่งานของทางเขาล้วนๆ เตรียมสั่งทำของ จองสถานที่ ควบคุมดูแลทุกๆ อย่างให้เป็นไปตามแผน และตามกำหนดการ

“เหลือขนาดของเปียโนนะครับคุณพฤกษ ไว้ทางเราจะประสานกับนักเปียโนได้แล้ว ผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง อืม..... สถานที่เราคงไม่ได้มีจุดอับของเสียงนะครับ คุณพฤกษเช็คให้ผมรึยัง” หัวหน้าโครงการถามพฤกษ

“ครับ ไม่มีครับ หากขนาดกับสถานที่ไม่เหมาะสมกัน ถ้าทางผมรู้ล่วงหน้า ทางที่จัดงานเขาสามารถปรับช่วยให้ได้ครับ  ทางผมแค่ขยายพื้นที่เวทีอย่างเดียว อืม... ไว้ผมจะส่งแบบเผื่อขยายเวทีมาให้ดูเป็นไกด์ดีกว่านะครับ”
 พฤกษบอก ว่าจะไม่แก้แล้ว แต่ทำเผื่อไว้เลยก็ดี ในเมื่อเปียโนยังสรุปขนาดไม่ได้

   “ดีครับ งั้นก็....เป็นอันจบ เสร็จ ฮ้า----------” หัวหน้าโครงการบิดขี้เกียจ

ถึงแม้เรียกว่าการประชุมย่อยภายใน แต่สำหรับพฤกษ มันเหมือนเขากำลังคุยปรึกษางานกับคนในแผนกเสียมากกว่า ทางลูกค้าให้ความเป็นกันเองกับเขามาก คุยกันแบบง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตอง ส่วนผู้บริหารรู้ได้ยังไงว่าเขามาและทำอะไรบ้าง ผู้ประสานงานบอกว่า ทางเค้าจะมีคนทำรายงานสรุปขึ้นไปให้ทุกครั้งที่มีการประชุมย่อยกัน เช่นนี้พฤกษจึงไม่ต้องพบหน้ากับผู้บริหาร.....หรือแม้กระทั่งผู้ช่วยผู้บริหารก็ตาม

“ป๊ะ กลับบ้านกันคุณพฤกษ” หัวหน้าโครงการชวนเขาพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้

“ครับ” พฤกษยิ้มและรับคำพร้อมลุกขึ้นตาม

“คุณพฤกษทานข้าวกันนะคะ หิวมากเลยค่ะ เสร็จงานแล้วด้วย ลำบากคุณพฤกษเยอะเลย ขอเราเลี้ยงสักมื้อนะคะ” น้องดาที่เป็นคนทำรายงานการประชุมทุกครั้งเอ่ยชวน

“เออ ไปนะคุณพฤกษ ผมน่ะอยากช่วยไม่ให้คุณต้องเทียวไล้เทียวขื่อที่นี่สุดใจขาดดิ้น แต่ทำอะไรไม่ได้เลย ผู้บริหารท่านเด็ดขาดมาก ครั้งก่อนท่านโกรธมาก เพราะเกือบเสียหน้า ถึงสุดท้ายแล้วไม่เสียก็เหอะ แต่ท่านฝังใจ” หัวหน้าโครงการบอก

“เป็นหน้าที่ครับคุณเชน ผมเข้าใจท่านครับ ทางเราก็ทำไม่ดีจริง” พฤกษบอกด้วยความจริงใจ

“งั้น เพื่อความสบายใจของพวกผม ขอเลี้ยงมื้อนึงนะ ไม่หรูหรอกเอาแบบนั่งสบายๆ... ถือว่าเราไปฉลองที่เราช่วยกันวางโครงงานให้แล้วเสร็จได้เร็วขนาดนี้.. โอเคมั้ยครับ”

พฤกษยิ้ม “งั้นไม่ต้องเลี้ยงผมนะครับ เราไปกินกัน ช่วยกันหาร ถ้าแบบนี้ผมเต็มใจไป”

“อ๊ายยย คุณพฤกษเนี่ย ไม่ยอมกันเลยนะคะ ป๊ะๆ ใครจ่ายก็ได้ ดาไม่ถือ แต่ดาหิวค่ะ” คุณดาสรุปให้และเดินนำออกไปจากห้อง คุณเชนบอกว่าจะไปเก็บของแล้วเดี๋ยวเจอกันที่หน้าประตูของแผนก พฤกษจึงค่อยๆ เก็บของตรงนั้นใส่กระเป๋าตนเอง

ขณะที่เขารูดซิปปิด และเหลียวมองว่าลืมอะไรมั้ย ดวงไฟในห้องที่เคยเปิดถูกดับลง แสงสลัวที่ลอดมาจากทางประตู ส่งเงาของคนคนหนึ่งทาบทับอยู่บนพื้น

ทันทีที่พฤกษกำลังจะเงยหน้าขึ้น เสียงของคนคนหนึ่งดังขึ้น... “พฤกษ... พี่อยากคุยด้วยครับ”

พฤกษกลั้นลมหายใจ ก่อนจะระบายมันออกมาอย่างช้าๆ ปล่อยลมหายใจให้ไหลเวียนทั่วท้อง ---- เตรียมใจไว้แล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องตกใจ ....... “คุณดาคงทำรายงานส่งท่านทีหลัง วันนี้ผมเสร็จงานแล้วครับ คุณเชนสรุปงานกับผมเรียบร้อยแล้ว และผมกำลังจะกลับ”

“ไม่พูดเรื่องงานครับ เราต้องคุยกัน พี่ขอเวลาแป๊บเดียว” ธีปสุวรรณเดินก้าวเข้ามา ทว่า ขณะที่เขาก้าวเข้าไปหาอีกฝ่าย อีกฝ่ายกลับก้าวถอยหนีเขา

.....จะถามว่า “ทำไม” ได้อย่างไร ในเมื่อเขาเองนี่ล่ะที่ทำให้อีกฝ่ายต้องถอยห่างไปจากเขา

“พี่ขอคุยด้วยเฉยๆ ไม่กี่คำ พี่อยากพูด...” ธีรอดูปฏิกิริยาจากเขาก่อนที่จะเอ่ยอะไรออกไป “บางอย่าง......” ครั้นเมื่อเขานิ่ง ไม่เดินหนี ธีจึงค่อยๆ เอ่ยพูดในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจมาบอกเขา

“พี่อยากบอกพฤกษว่า พี่ขอโทษ ขอโทษที่พี่พูดไม่ดีกับพฤกษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นความโมโหชั่ววูบ พี่... พี่ขอโทษที่ไม่ถนอมกันไว้อย่างที่เคยบอกกัน พี่ตั้งใจกับงานมากเกินไป พี่ผิด พี่...”

“มีอีกมั้ยครับ ที่นอกเหนือจากคำว่าขอโทษ...” พฤกษถาม

“.......พี่เสียใจครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจพูดคำนั้น พี่...” ธีบอก

“แค่นี้ใช่มั้ยครับ” พฤกษถาม

“...........ครับ... แค่นี้....” ธีบอก

“งั้นผมขอตัวนะครับท่าน หมดเวลางานผมแล้ว และสิ่งที่นอกเหนือจากงาน ผมไม่อยากเสียเวลาครับ” พฤกษบอก และเดินไปทางประตู

“เวลาผ่านไป ใจคนเปลี่ยนได้....ใช่มั้ยครับ?” ธีเอ่ยถามตอนที่พฤกษก้าวสวนกับเขาในระยะไม่ใกล้ไม่ไกล

“หากถามผมนะครับ .... เวลาผ่านไป คนเราย่อมเปลี่ยน แล้วทำไมใจคนจะไม่เปลี่ยนล่ะครับ ขนาดใจผมมันยังเปลี่ยนไปแล้วเลย” พฤกษก้าวขาออกไปจากห้องนั้น โดยที่ไม่หยุดก้าวแม้ได้ยินเสียงหนึ่งไล่ตามหลังมา

“แต่ใจพี่ไม่เคยเปลี่ยน” เสียงเบาๆ ทว่าหนักแน่น ราวกับก้องมาจาก----หัวใจ

พฤกษสาวเท้าก้าวไปไม่หยุด จากห้องนั้น จากแผนกนั้น จากชั้นนั้น.... เขาอยากก้าวออกไป----- จากหัวใจ....ของใคร?

ของเขา?

หรือของตัวเอง?

หากเป็นวันนั้น วันที่แผลเพิ่งสดๆ ร้อนๆ... วันที่เขายังรอ... วันที่เขาคอยให้เขามาพูดเช่นนี้

ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะเป็นฝ่ายตัดการติดต่อกับเขาไปอย่างที่เขาบอก แต่เขารู้มั้ย ยังมีอีกทางที่เขาจะรั้งคนคนนี้ไว้ได้ แต่เขากลับไม่มาทางนั้น! เพราะอะไร?

ในเมื่อต้องการปล่อยเขา แล้ววันนี้ต้องการอะไร ต้องการอะไรจากเขาอีก!

ลืมไปแล้ว...

มันจำไม่ได้แล้ว...

ถึงรู้ว่าสิ่งที่ลืมมันยังคงซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง เนื่องจากมันไม่ได้สลายตัวไป แต่มันลืมไปแล้ว ทำไมต้องรื้อฟื้น ไม่สิ ทำไมต้องออกมาจากที่ซ่อน ทำไมต้องมาแสดงตัว......

เป็นเพราะ------คุณ กับแค่ประโยคสั้นๆ ไม่กี่คำของคุณ!












ใครกันที่ใจไม่เคยเปลี่ยน

ใครกันที่ใจเปลี่ยนไปแล้ว ตามกาลเวลา












ใครล่ะที่เป็นฝ่ายโกหก

แล้วคนที่โกหกเขารู้ตัวเองไหม




หลอกอะไรหลอกได้ แต่เขาอย่าหลอกใจตัวเอง------- เพราะเราเองนั่นล่ะที่จะเจ็บ

........

.......

......

.....

....

...

..

.

ธียังยืนนิ่งอยู่ในห้องมืดแห่งนั้น

เขาเตรียมใจมาแล้วกับการที่ต้องมาเผชิญหน้ากับเขา กับการที่ต้องมองดูความห่างเหินนั้น แต่พอถึงเวลาจริง......

งานคืองาน ธีรอจนงานสรุปเสร็จแล้วเขาถึงมารบกวนเวลาของเขา

คำตอบที่ได้ ไม่ต่างจากที่เขาคาดไว้ แม้กระนั้นเขาก็ยังเกือบรับไม่ทัน

ขออีกนิด ขอความมั่นใจกับเขาอีกนิด

หากเวลามันผ่านไปแล้ว เขาจะปล่อยให้มันผ่านไป......

ธีล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา กดเลือกรายชื่อ “คุณดา กลับหรือยังครับ”

เขารับฟังที่ปลายสายพูด และถามต่อ “อ้าว เราควรเลี้ยงเขานะครับ ทางเขาคงลำบากมาตลอดทั้งเดือน”

เมื่อปรายสายบอกเหตุผลที่อีกฝ่ายรับเลี้ยงจากบริษัทเขา ธีเสียอีกที่ยกยิ้มที่มุมปาก “ทานที่ไหนล่ะครับ?”

ธีจำร้านที่คุณดาบอกได้ เพราะเป็นร้านประจำของพนักงานในออฟฟิช บรรยากาศดี ใกล้บริษัท... และร้านนั้นมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาคิดถึงพฤกษอยู่ไม่ขาด


















ทุกครั้งที่เห็น คือทุกครั้งที่คิดถึง.....

--

----

------

---------

------------

----------------


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 16:10:05 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสาม
«ตอบ #14 เมื่อ31-03-2012 13:52:00 »



--

----

------

---------

------------

----------------

การเจอกันครั้งแรกของพวกเขาไม่เหมือนฉากหนึ่งในนิยาย ไม่ใช่ฉากหวานซึ้งที่ชวนให้เขิน ไม่ใช่อุบัตเหตุรัก...... ไม่ใช่อะไรเลย ก็แค่เห็นหน้ากัน มองหน้ากัน แล้วต่างก็แยกกันไป.....

พฤกษและธีปสุวรรณ พวกเขาเรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน โดยที่อายุห่างกันสองปี ตอนที่ทั้งสองรู้จักกัน เวลานั้นพฤกษอยู่ปี 2 ธีอยู่ปี 4

ร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งหลังมหาลัย T

เด็กหนุ่มผอมสูงผมเกรียนคนหนึ่งจอดมอเตอไซด์คู่ชีพที่หน้าร้าน แดดเปรี้ยงปร้างแยงตาจนแทบจะลืมไม่ขึ้น ขณะที่เขาเดินก้าวเท้าไปถึงร่มเงาสดชื่นของตัวร้าน เสียงเบรคจากรถจักรยานคันหนึ่งดังเสียดแทงเข้ามาในหูของเขา.... ‘กูให้เงินฟรี จ้างแม่งไปซ่อมเบรค เจ้าของมันจะตื๊บกูมั้ย?’ ธีคิดในใจ

ธีเดินไปถึงหน้าตู้เย็น เลื่อนฝาตู้เย็นให้เปิด เขามองภาพข้างในด้วยความพล่าเลือน แสงจากแดดยังทำร้ายดวงตาของเขาสักพัก เขาจึงมองเห็นสิ่งที่เขาต้องการ ชั่วขณะที่เขาจะเอื้อมมือไปหยิบถ้วยไอศครีม มือสีแทนข้างหนึ่งก็มาคว้ามันไป

เสาวรสเชอเบทเท่านั้นที่ธีต้องการ!

ธีเป็นผู้ชายเกลียดของหวาน แต่เสาวรสเชอเบทเป็นข้อยกเว้น... มันอร่อยดี กินแล้วสดชื่น

“เฮ้ย!” ธีเผลออุทานออกเสียง

“หือ?” เสียงระคนสงสัยดังขึ้น

ธีหันหน้าไปมองเจ้าของมือนั้น เขาเห็นเด็กหนุ่มซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรุ่นน้อง ผมรองทรงค่อนข้างยาว หัวยุ่งเหยิง เสื้อยืดที่สวมเปียกชุ่มเหงื่อเป็นวงใหญ่.....

“พี่จะเอาถ้วยนี้เหรอ?” ถามเหมือนงั้นๆ แต่สายตาเว้าวอนและเสียดายมาก ราวกับจะบอกว่า จะเอาเหรอ จะเอาจริงๆ น่ะ ผมหยิบก่อนนะ

เออ ไม่เอาก็ได้วะ..... “ไม่เป็นไร เอาไปเหอะ” พูดจบธีก็เดินไปถามเด็กในร้าน “น้องครับ มีเสาวรสอีกมั้ยครับ”

“ไม่มีแล้วค่ะพี่ เหลือแค่ในตู้นั่นแหละค่ะ” เด็กสาวร้องบอก

“ในถังมีมั้ยครับ” ธีถาม นั่งกินที่นี่ก็ได้ ยังไงก็อยากกิน

“หมดแล้วค่ะพี่ วันนี้ขายดีมากเลยค่ะ ตู้สำหรับตักเหลือแค่สตอเบอรี่กับวนิลา ส่วนเป็นถ้วยก็เหลือแค่ที่เห็นในตู้ค่ะ” เด็กสาวบอก

“อื้ม...ขอบคุณครับ” ธีเดินหน้าเซ็งออกไปจากร้าน

“เดี๋ยวพี่!” คนที่ร้องเรียกจับแขนเขาไว้ พอเขาหันไป เด็กหนุ่มรุ่นน้องก็ถามเขาต่อ “พี่ไม่กินรสอื่นเหรอ?”

ธีส่ายหน้าแทนคำตอบ มันร้อนมากวันนี้ หากไม่ได้กินไอศครีม เขาอยากรีบกลับหอไปอาบน้ำสักที

ขณะที่ธีจะเดินไปขึ้นมอเตอไซด์ เด็กหนุ่มคนเดิมเดินถือถุงหิ้วตามหลังเขาออกมาแล้วร้องบอกเขาว่า “พี่เข้าไปเอาดิ ผมเอารสอื่นไปแหละ แบ่งๆ กัน”

เด็กหนุ่มส่งยิ้มให้แล้วก็ปั่นจักรยานหน้าตั้งไปในทิศทางที่สวนทางกับเขา ธีมองตามหลังเด็กหนุ่มรุ่นน้องไป เสียงเบรคอันเสียดหูของจักรยานคันนั้นเรียกรอยยิ้มของธีขึ้นมาได้จางๆ----- ช่างเป็นเสียงที่รำคาญหูดีแท้

ธีเดินเข้าไปในร้าน เด็กผู้หญิงที่เฝ้าร้านก็ยิ้มให้ แล้วยิ้มไอศครีมถ้วยหนึ่งมาให้เขา น้องพนักงานจำเขาได้ เขาเป็นขาประจำที่จะมาซื้อและกินแต่เสาวรสเชอเบทเท่านั้น

ธีมองถ้วยให้แน่ใจว่าใช่สิ่งที่ต้องการมั้ย ตอนรับเงินทอนมาน้องพนักงานบอกว่า รอสักสามวันถึงจะได้ทำรสนี้อีกที พอดีเสาวรสหมด แต่สั่งไว้แล้ว

ธีจำไว้ในหัว อีกสามวันต้องหาอย่างอื่นกินแทนไอศครีม... และเสียงบาดหูของจักรยานคันนั้น

ระหว่างพวกเขาไม่มีอุบัติเหตุรัก ไม่มีรักแรกพบ ไม่มีเหตุทะเลาะกัน ไม่มีเหม็นขี้หน้ากัน ไม่แม้แต่จะจำหน้ากันได้!!!

ระหว่างพวกเขาไม่มีสิ่งใดเชื่อมโยงถึงกันด้วย.......ธีและพฤกษต่างก็เป็นนิสิตเหมือนกับนิสิตคนอื่นๆ ไม่ได้เป็นเดือน หรือเพื่อนของเดือน หน้าตาก็ธรรมดา ไม่มีความโดดเด่น  ไม่ได้รวย ไม่ได้เรียนเก่งมาก แค่นิสิตธรรมดาจริงๆ

เพื่อนรู้จักกัน? ก็ไม่....

เพื่อนของเพื่อนรู้จักกัน? ก็ไม่.....

ธีกับพฤกษเรียนกันคนละคณะ ต่างชั้นปีกันถึงสองปี หอคนหนึ่งอยู่หน้ามอ หออีกคนอยู่หลังมอ ตลอดเวลาเกือบสองปีทั้งสองไม่เคยเจอกันเลย หรือหากเดินสวนกัน ต่างก็ไม่ได้สนใจที่จะมองหรือสนใจกันสักนิด

ถึงทั้งสองชอบมาซื้อไอศครีมร้านเดียวกัน แต่เกือบสองปีที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองเพิ่งได้มองหน้ากัน แต่ก็นะ ไม่มีใครจำอีกฝ่ายได้สักคน-----ฮา

โชคชะตายังไม่ได้ขีดเส้นมาถึงพวกเขา โชคชะตายังไปทำสิ่งอื่นอยู่ ทั้งสองจึงแค่สวนกันไปสวนหันมาโดยที่ไม่มีใครจำใครได้

อย่าไปว่าโชคชะตากลั่นแกล้ง ผมว่าโชคชะตาไม่มี “ตา” ซะมากกว่า... ดูเอาเหอะ นึกจะเลยไปก็เลยไป นึกจะลากมาก็ลากมา และนึกจะตวัดตัดกันก็ตัดมันซะเฉยๆ... อืม ผมว่า คนที่ขีดโชคชะตาเค้าเหมือนจะไม่มี “หัวใจ” ด้วยนะ คุณว่าจริงมั้ย?

..........

........

.......

......

.....

....

...

..

.



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 16:11:14 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสี่
«ตอบ #15 เมื่อ31-03-2012 14:41:36 »

วรรคสี่




เสียงรถวิ่งผ่านไปมาดังกราวไม่หยุด บ่ายสี่โมงของวันศุกร์ในช่วงอาทิตย์ของการสอบกลางภาค นิสิตที่สอบเสร็จแล้วต่างกระจัดกระจายกันอยู่ตามร้านค้า บ้างก็ขับรถกลับไปนอนก่อนถึงค่อยออกมาตอนที่เย็นกว่านี้ พฤกษเป็นหนึ่งในพวกที่กำลังจะกระจายอยู่ในร้านค้า ส่วนเพื่อนเขาที่เอาเขามาหย่อนไว้เป็นอีกพวกซึ่งอยากกับไปนอนเต็มแก่

พฤกษไม่ดูหนังสือดึก เพราะถึงอ่านไปก็ไม่เข้าหัว เขาดูรายการโชว์เสร็จก็เข้านอน แต่เพราะลืมกดตั้งเวลา จึงตื่นสายและเข้าไปสอบทั้งๆ ที่ไม่ได้กินข้าวเช้า กลางวันได้กินแค่จานเดียวไม่พออิ่ม แต่คนเยอะมากจนกลับไปซื้อจานที่สองไม่ไหว ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงบ่ายสี่โมงเย็น ข้าวตกถึงท้องพฤกษแค่จานเดียว... ผิดปกติมาก

พฤกษเดินด้อมไปเรื่อยๆ จนเจอร้านที่เคยกินและว่างจากผู้คน ร้านนี้ทำไม่ค่อยอร่อย แต่มีรายการนึงที่เด็ด!

“ป้า ข้าวผัดไข่ครับ” เขาร้องบอกป้าเจ้าของร้านแล้วเดินไปตักน้ำมาวางที่โต๊ะ รอสักพักอาหารที่ถูกวางอยู่ตรงหน้า พฤกษนั่งกินอย่างสบายใจ เพียงสิบนาทีจานนั้นก็ว่างเปล่า...ไม่เหลือข้าวแม้สักเม็ดเดียว เรียบกระทั่งต้นหอมที่วางประดับจาน!

พฤกษเดินไปจ่ายเงินแล้วเดินอย่างสบายใจออกมาจากร้าน… บ่ายแล้ว แต่อากาศยังอ้าวอยู่ ที่นี่ไม่สมกับที่จัดอยู่ในภาคเหนือเลย หน้าร้อนร้อนตับแตก หน้าฝนก็ยังร้อนอ้าว ขนาดใกล้หน้าหนาว ก็ยังร้อน... ช่างเป็นจังหวัดที่น่าสงสาร คนภาคเหนือบอกว่าไม่ใช่ภาคเหนือ จังหวัดนั้นคือภาคกลางตอนบน แต่คนภาคกลางบอกว่าจังหวัดนั้นไม่ใช่ภาคกลาง แต่เป็นภาคเหนือตอนล่าง------เอาเข้าไป!!

หลังมอที่พฤกษเช่าหออยู่ มีร้านอาหารตั้งอยู่เยอะ ถึงช่วงกลางวันจะดูร้างๆ บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าหน้ามอที่ร้างยิ่งกว่า...

เพิ่งอิ่ม พฤกษก็ยังเดินฝ่าอากาศอบอ้าวเพื่อไปที่หอ ระยะไม่ไกลกันหรอก ผู้ชายแมนๆ อย่างเขาเดินได้ ชิวๆ แต่........

“กินติมหน่อยดีกว่า” ว่าแล้วพฤกษก็เดินเข้าไปในร้าน เขาเดินไปที่ตู้ขายไอศครีม มองหาถ้วยที่มีรูปมะไฟของโปรด

“โทษนะครับ ไม่มีมะไฟเหรอครับ” พฤกษถาม

“เสาวรสหมดแล้วเหรอครับ?” เสียงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของพฤกษ

*0* มายืนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ต๊กใจหม๊ดเลย

“อ้อ เป็นถ้วยหมดค่ะพี่ เอาแบบตักได้มั้ยคะ แต่ต้องทานนี่นะคะ ถ้วยหมด โคนหมด ขายดีอ่ะ คิกคิก” น้องที่เฝ้าร้านคนเดิมบอกด้วยหน้ายิ้มแย้ม ขายดีเธอดีใจ เพราะนั่นหมายถึงเม็ดเงินที่เข้าร้าน

“ขอสามก้อน ไม่ใส่เครื่องนะครับ” พฤกษบอกแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะซึ่งว่างอยู่ตัวเดียวในร้าน ไม่นานก็มีคนเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ โต๊ะที่เขานั่ง พร้อมเสียงถามประโยคหนึ่ง

“ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับน้อง?”

พฤกษเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ขอแล้วส่งยิ้มเชื้อเชิญ “ตามบายครับพี่”

ไม่มีโต๊ะว่างเหลือแล้ว และโต๊ะที่ว่างตัวอื่นเขามากันเป็นคู่!!!!

“ได้แล้วค่ะ เอาน้ำอะไรดีคะพี่ วันนี้มีน้ำมะไฟปั่นกับน้ำเสาวรสปั่นด้วยนะคะ” เด็กสาวนำเสนอ

“เอาครับ” พฤกษบอก

พอหันหน้าไปหาอีกคนที่นั่งตรงข้ามกันบนโต๊ะขนาดเล็กแคบ เขาไม่พูด แต่ยกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว จากนั้นพฤกษก็ได้ยินเสียงน้องผู้หญิงรับคำว่าค่ะ แล้วเดินจากไป สักพักก็กลับมาด้วยน้ำปั่นสองแก้ว

ต่างคนต่างกิน กินเสร็จก็ลุกไปจ่ายตังค์

พฤกษเดินออกมาจากร้านได้ไม่เท่าไหร่ รถมอเตอไซด์คันนึงก็มาเทียบข้างๆ เขา “หอไหนล่ะ ทางผ่าน ไปส่งให้มั้ย?”

ด้วยความใหญ่ของมหาลัย การรับคนอื่น คนที่ไม่รู้จักกันขึ้นรถไปส่งระหว่างทาง ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับที่นี่... น้ำใจมีพบเห็นได้ตลอดทางและตลอดเวลา

“ไม่ต้องหรอกครับพี่ ใกล้แค่นี้เอง” พฤกษบอกพี่คนที่เมื่อกี้นั่งกินไอศครีมด้วยกัน

“อือ... ว่าจะขอบใจที่น้องนั่งกินที่ร้าน ถ้าเมื่อกี้มีพี่คนเดียว พี่ไม่กล้ากินว่ะ อายบรรยากาศ” เขาบอก

พฤกษขำคิกกับสิ่งที่เขาพูด ส่วนตัวเขาน่ะไม่เคยอายหรอก อยากกินก็กิน แต่เพื่อนเขาก็เป็นเหมือนพี่คนนี้ ชอบไอศครีมร้านนี้ แต่ไม่ค่อยชอบกินในร้าน หากให้เข้าร้านหวานแหววแบบนั้นคนเดียว ถึงตายมันก็ไม่เข้า แค่เข้าไปซื้อมันยังไม่เอาเลย เดือดร้อนเขาต้องปั่นจักรยานฝ่าแดดมาซื้อให้บ่อยๆ... ถ้าไม่ได้ค่าแรงเป็นไอศครีมถ้วยนึงนะ พฤกษไม่ยอมเสียเหงื่อหรอก

ลงท้าย….คนเขามีน้ำใจพฤกษก็เลยรับน้ำใจเขาสักหน่อย หออยู่แค่นี้เอง แป๊บเดียวก็ถึง ทว่า พอพฤกษขอบคุณแล้วมองส่งเขา----- อ้าว พี่แกเลี้ยวกลับไปทางนั้นทำไมอ่ะ

ทางที่มอเตอไซด์ของพี่คนที่มาส่งเขาเลี้ยวไป คือย้อนกลับไปในทางที่เขาเพิ่งผ่านมา นี่หรือคือทางผ่าน... ใครเข้าใจผิดกันแน่???

.....

....

...

..

.


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 16:13:00 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสี่
«ตอบ #16 เมื่อ31-03-2012 15:12:37 »

เอาไงล่ะ สิ่งที่มันผ่านไปแล้วจะเรียกกลับคืนได้ไหม

ขอติงนิดนึงค่ะ อย่าโกรธกันนะ "เขา" เยอะไปหน่อย

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสี่
«ตอบ #17 เมื่อ31-03-2012 15:45:40 »

 :L1:

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2





.....




....




...




..




.




หลังจากวันนั้นมา พฤกษก็เจอพี่เสาวรสที่ร้านนั้นทุกวัน เขาทักทายแบบพอประมาณ เพราะดูอาการพี่เค้าแล้ว ไม่ใช่คนที่ชอบพูดคุยเฮฮา แต่พี่เขาก็ยังทักตอบทุกครั้ง ไม่ให้พฤกษเสียหน้า




จนการสอบเสร็จสิ้นลง ปิดเทอมก็มาถึง 




นิสิตส่วนใหญ่กลับบ้าน แต่พฤกษยังนอนเล่นที่หอ เพื่อเช่าการ์ตูนมาอ่านให้หนำใจต่ออีกเดือน... ไหนๆ ค่าหอก็ยังต้องจ่าย กลับบ้านไปก็ไม่มีอะไร แถวบ้านไม่มีร้านเช่าการ์ตูนด้วย ตอนเรียนเขาต้องทนกับการไม่มองการ์ตูนแทบเป็นบ้า... 




อาทิตย์แรกเขาต้องเทียวอยู่กับการส่งเพื่อนไปขึ้นรถ แล้วเอารถเพื่อนกลับมาจอดที่หอให้ กว่าแต่ละคนจะจองตั๋วได้ กว่าจะวนส่งจนครบคน ก็เสียเวลาไปทั้งสิ้นหนึ่งอาทิตย์เต็ม แต่พอพ้นจากอาทิตย์นั้นมา.... สวรรค์ของพฤกษก็บังเกิด




การ์ตูนเป็นตั้ง ขนมเป็นกองข้างตัว ไม่มีเพื่อนมาชวนคุย ไม่มีใครมาบ่นว่าอย่าทำรก----- ฮา... อ๊ะ แต่เสียอยู่อย่าง ไม่มีตู้เย็น จะกินของโปรดทีต้องปั่นจักรยานไปซื้อ *0*




......




.....




...




..




.




เสียงเบรคเอี๊ยดของจักรยานคันหนึ่งดังเสียดหู จนคนที่อยู่ในร้านสองสามคนต้องเหลียวมามอง พฤกษไม่แคร์สายตาทิ่มแทงจากใคร เขาเดินก้าวฉับๆ ด้วยเสื้อที่เปียกเหงื่อมายังตู้ไอศครีม




“มะไฟหมด เหลือแต่ในถัง เอามั้ย?” 




ไม่ใช่เสียงของน้องผู้หญิง คราวนี้เป็นเสียงของผู้ชาย พฤกษหันไปหาเจ้าของเสียงนั้นแล้วส่งยิ้ม




“เหรอพี่ ว๊า-------- อ้าวของพี่ล่ะ?” 




“หมดเหลือแต่ในถัง” เขาตอบ




“กินป๊ะ?” พฤกษถามเขา




“กินมั้ยล่ะ?” เขาถามกลับ




มีคู่รักวัยเรียนนั่งอยู่ในร้านแค่คู่เดียว แต่อย่างว่า คนมันอายก็อายอยู่วันยังค่ำ..... “เอาดิ สามก้อนนะพี่ วันนี้ขอหยอดช็อคด้วยนะ เยอะๆ” พฤกษเน้น ขอใช้สิทธิของขาประจำหน่อย




“พี่เอาสามเหมือนกัน” เขาบอกน้องผู้หญิงคนเดิม




“ค่ะ หยอดช็อคมั้ยคะ พี่ธี” น้องผู้หญิงถาม




“ไม่ครับ” เด็กหนุ่มบอกแล้วเดินตามมานั่งที่โต๊ะตัวเดียวกัน




ระหว่างรอของ พฤกษนึกอารมณ์ดี ชวนอีกฝ่ายคุย “พี่ไม่กลับบ้านเหรอครับ” 




“กลับมาแล้ว” เขาตอบ




“หือ?.....” พฤกษนั่งนึก แล้วถามต่อ “อาทิตย์เดียวเองนะพี่ นี่ปิดเทอมนะพี่ ไม่ใช่หยุดสงกรานต์”




อีกฝ่ายที่หันหน้าไปมองถนน หันขวับมามองหน้าเขาทันควัน “พี่มาช่วยอาจารย์ทำงาน เดี๋ยวค่อยกลับไปใหม่ ว่าแต่คนอื่น แล้วตัวเองล่ะ มาร้านนี้ได้ทุกวัน”




“รู้ได้ไง! ไหนว่ากลับบ้าน” พฤกษยียวน




“หนูบอกเองค่ะพี่ คิกคิก เมื่อกี้กำลังเม้าท์ให้พี่ธีฟังว่าพี่อ่ะ ไม่ยอมกลับบ้านเพราะจะอ่านการ์ตูน” น้องผู้หญิงพูดพลางเอาไอศครีมสองถ้วยมาวางให้พวกเขา และนั่งด้วย...ปิดเทอม คนจะเข้าร้านบางตา น้องหวานจึงนั่งคุยเล่นได้




“ฮึ เรียนหนักจะตาย พักผ่อนบ้างสิครับน้อง” พฤกษไม่ใส่ใจจ้วงเส้นช็อคโกแลตเข้าปากก่อน ไอศครีมไม่ต้อง!




“เดือนนึงเนี่ยนะ ไร้สาระไปรึเปล่า?” คนที่ตักไอศครีมเสาวรสเข้าปากเริ่มปากไม่ดี




“พี่ อย่ามาว่าการ์ตูนไร้สาระนะ ถึงดาร์ก้อนบอลมันจะไม่มีสาระมาก แต่มันสอนเด็กให้ทำดีนะพี่ จำดีติดหัวมากกว่าเอาพระมานั่งสอนอีก ฮึ” 




.... อย่าหมิ่นของรักของใคร จำไว้นายธี *0*




“ฮ่าฮ่าฮ่า... พี่พฤกษอ่ะ เวอร์” น้องหวานขำ




“อื้อ โทษที ไม่เคยอ่านการ์ตูน พี่เข้าไม่ถึงสาระ” คำขอโทษที่ฟังแล้วแปล่งๆ---- ขอโทษแล้วใช่มั้ย? พฤกษยังสงสัย




จากนั้น พฤกษถึงรู้ว่าพี่เสาวรส มีชื่อตามบัตรนิสิตว่า ธีปสุวรรณ.... หรูมากสำหรับพฤกษที่ชื่อจริงว่าพฤกษ ชื่อเล่นว่าพฤกษ




พี่ธีมาช่วยอาจารย์หัวหน้าสาขาของพี่ธีตรวจหนังสือ อาจารย์ตั้งใจเขียนขาย แต่เพราะหน้าที่การงานที่หนักพอดูเลยทำเท่าไหร่ก็ไม่เสร็จ ประกอบกับความสนใจส่วนตัวของพี่ธีเอง ปิดเทอมนี้พี่ธีจึงมาอยู่ช่วยอาจารย์ราวๆ เดือนเศษ ถึงกลับบ้านได้... ค่าแรงไม่มากเลยหากเทียบกับเวลาที่เสียไป แต่อย่างว่าประชากรไทยมีแค่รังมด จะให้ยอดขายเปรี้ยงปร้างได้เงินเป็นกอบเป็นกำแบบประเทศใหญ่ๆ เขาได้อย่างไร




หลังจากวันนั้น เจอกันอีกหลายครั้ง  แรกๆ ก็ทักกันแล้วแยกกันกลับ สองสามครั้งผ่านไป ธีและพฤกษก็เปลี่ยนมานั่งกินที่ร้าน คุยกันไปด้วย นั่งตากแอร์ไปด้วย




จากแทบทุกวันก็กลายเป็นทุกวัน




จากที่รู้จักกันเผินๆ ก็กลายเป็นคนสนิทคุ้นเคย




จากที่ได้คุยกันมากขึ้น พฤกษคิดว่าพี่ธีเป็นคนไม่ค่อยพูดเหมือนที่ตาเห็นนั่นแหละ พี่ธีคิดเยอะ แต่ดูเป็นผู้ใหญ่ดี เทียบกับตัวเองที่ไร้สาระใช้ชีวิตเล่นๆ ไปวันๆ แล้ว พฤกษนับถือพี่ธีโคตรๆ... 




พี่ธีมองเป้าหมายชีวิตไว้แล้ว งานที่อยากทำพี่ธีก็เริ่มต้นศึกษาบ้างแล้วด้วย ทีแรกพฤกษก็โวยพี่ธีว่า เพราะพี่ธีอายุมากกว่าเลยต้องมองไกลกว่า..... แต่ไม่ใช่เลย พี่ธีเค้าเริ่มคิดเรื่องพวกนี้ไว้ตั้งแต่เริ่มขึ้นปีสองแล้วครับคุณพฤกษ




“การ์ตูนหมดชั้นแล้วอ่ะพี่ธี เบื่อชะมัด ปีนี้ออกน๊อยน้อย” พฤกษบ่น




“ก็กลับบ้านสิ” พี่ธีบอก




“ไม่อ่ะ บ้านผมไม่มีความบันเทิง” พฤกษบอก




“อืม.... พาไอ้ทุยไปกินหญ้าก็ได้นี่ ระหว่างรอไอ้ทุยกินอิ่ม ก็ไปยิงหนังกระติ๊กจับกิ้งก่า ดีออก ได้กับข้าวตอนเย็นด้วย” พี่ธีเสนอความเห็น




พฤกษกำหมัดชกไปที่ต้นแขนของพี่ธีอย่างแรง เคยลองแล้ว หลายครั้งด้วย พี่ธีไม่เคยเอาคืน... แต่ก็สมควรโดนชก เห็นเงียบๆ แบบนี้จิกกันดีนัก




“โอ๊ย! เจ็บนะ” พี่ธีโอย ช้อนไอศครีมตกพื้น




“พี่ธีเอาอันใหม่ค่ะ” น้องหวานพูดแล้วเดินเอาช้อนใหม่มาให้




“สมควร ปากดี... อย่าดูถูกคนต่างจังหวัดนะ” พฤกษชี้หน้าว่า




“พี่ธีเค้าดูถูกตรงไหนพี่พฤกษ ไหนเคยบอกว่ากิ้งก่าอร่อยไง” น้องหวานถาม




“บ้านพี่ไม่มีควาย ส่วนกิ้งก่าน่ะมีคนเอามาให้ ไม่ใช่ไปจับเอง... พี่ธีแอบด่าผมล่ะซี่ นิสัยนะ นิสัย” พฤกษหันไปบอกน้องน้ำหวาน แล้วกลับมาชี้หน้าธีอีกครั้ง




“วันนี้ว่าง?” พี่ธีถามหน้าตาเฉย




“อื้อ” พฤกษรับคำอย่างเสียมิได้




“งั้นพาทุยไปอ่านหนังสือมั้ย? แต่ขากลับคงไม่มีกิ้งก่าติดมือมานะ” พี่ธีบอก




“พี่ธี!!!!!!!” พฤกษลุกพรึ๊บ ไปล็อคคออีกฝ่ายแรงๆ จนธีทำช้อนตกพื้นอีกอัน




เสร็จจากมวยปล้ำไฟร์ทย่อมๆ ธีก็พาทุย เอ้ย พาพฤกษมาที่คณะของเขาด้วย ธีแนะนำอาจารย์ให้รู้จักกับรุ่นน้องต่างคณะ และบอกอาจารย์ว่า




“เด็กมีปัญหาทางบ้านครับ ไม่ยอมกลับบ้าน เลยพามาช่วยตรวจตัวเลข” 




ไอ้พี่ธี จะไม่หยุดใช่ม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!    :m31:

**********************



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 16:18:35 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :laugh:น่ารักอ่ะ


แล้วทำไม!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคสี่ (ต่อ)
« ตอบ #19 เมื่อ: 31-03-2012 16:28:25 »





ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


ปิดเทอมนั้น สุดท้ายพฤกษก็อยู่ช่วยพี่ธีทำงานจนเสร็จ และแยกย้ายกันกลับบ้านพร้อมพี่ธี...
“ถึงบ้าน โทรมาด้วยนะ” พี่ธีบอกตอนที่รถซึ่งพฤกษจองไว้ กำลังจะจอดเทียบท่ารถ

“ไม่!” พฤกษบอก

“......” ไม่ได้พูดอะไร แค่ใช้สายตาข่ม

“จะโทรหาได้ไงไม่ทราบ” ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่ธีคอยไปรับไปส่งที่หอของเขาตลอด นัดเวลากัน แล้วพี่ธีก็มาตามนัด ส่วนวันไหนที่สายคือพฤกษลืม เพิ่งตื่นตอนที่พี่ธีมาเคาะประตูห้องนั่นเอง พี่ธีว่าจนเลิกว่า ก็นะปิดเทอมจะซีเรียสไปทำไมกัน กินข้าวพี่ธีก็พาไป จะไปกินอะไรพี่ธีก็พาไป จะไปซื้ออะไรพี่ธีก็พาไป จบวันพี่ธีก็พามาส่งที่หอ แล้วเดี๋ยวเช้าพี่ธีก็ขี่มอเตอไซด์มารับ ด้วยเหตุนี้พฤกษจึงไม่เห็นความสำคัญที่จะโทรหา... เพราะไม่เรียกพี่ธีก็มาทุกวัน

“เบอร์อะไร?” พี่ธีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมกด พฤกษบอกเบอร์โทรของตัวเอง พอเสียงเรียกเข้าดังขึ้น เขาจึงเมมเบอร์อีกฝ่ายลงเครื่อง

“รถเที่ยว 10 โมง 15 ค่ะ ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วแล้ว เชิญขึ้นรถได้ค่ะ” พนักงานบริการร้องบอก

พี่ธีหิ้วกระเป๋าของพฤกษไปให้กระเป๋ารถที่เป็นผู้ชายเอาเข้าไปเก็บไว้ในใต้ท้องรถ

“พี่ธีไปเลยก็ได้นะ ผมขึ้นรถแหละ คงไม่มีไรหรอก” พี่ธีต้องไปขึ้นรถที่อีกท่ารถหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากท่ารถของพฤกษมากนัก พี่ธีบอกจะเดินไป เพราะก่อนหน้าที่จะมานั่งคอยอยู่ที่นี่พี่ธีแวะไปซื้อตั๋วแล้วเอากระเป๋าฝากไว้ที่นั่นเรียบร้อยแล้ว

“กี่ชั่วโมงถึงนะ” พี่ถีถามย้ำ

“บ่ายสี่โมงมั๊ง ผมต้องรอพ่อมารับอ่ะ ไม่รู้จะมากี่โมง” พฤกษบอก

“ลงจากรถก็โทรมาเลย ไว้ถึงบ้านค่อยบอกอีกที พี่ไปล่ะ” พี่ธีพูดจบก็โบกมือให้ แล้วหันหลังเดินไปทางทิศที่ท่ารถของพี่ธีตั้งอยู่

พฤกษเป็นลูกคนเดียว เขานึกอยากมีพี่ชายกับเค้าสักคนมานานแล้ว พี่ธีถึงไม่ค่อยพูด แต่ก็ดูแลเอาใจใส่กันดี ----- รู้สึกดีอ่ะ ต้องเก็บเอาไปเล่าให้แม่ฟัง เดี๋ยวให้แม่คุยกับพี่ธีดู หากถูกโฉลกก็เอาเนี่ยแหละ ‘พี่ชายของไอ้ลูกหมา’ พ่อจะตกใจมั้ยที่อยู่ดีๆ ไอ้ลูกหมาของพ่อก็มีพี่ชาย ------ ฮา


********************

ธีเดินไปที่ท่ารถของตัวเอง เขาไปถึงท่ารถไม่นาน รถที่เขาซื้อตั๋วไว้ก็เข้ามาจอด เขานำกระเป๋าขึ้นไปยังที่นั่งด้วย ธีไม่นิยมแบกของเป็น “ภาระ” เหมือนอีกคนที่เขาเพิ่งไปส่งขึ้นรถ รายนั้นขนซื้อของกลับบ้านไปเยอะแยะ อันนี้จะให้พ่อ อันนี้จะให้แม่ อันนี้จะให้............. สภาพตอนที่เขาไปรับเพื่อมาขึ้นรถพร้อมกัน จากที่กะว่าจะขึ้นรถประจำทางไปกัน กลายเป็นต้องจ้างรถตุ๊กตุ๊กเข้ามาในเมือง ธีแวะเอากระเป๋าลงที่ท่ารถนี้ ฝากกระเป๋าของตัวเองไว้ แล้วให้รถพามาส่งที่ท่ารถของพฤกษ

เด็กคนนี้แลดูน่าเป็นห่วง คราวก่อนเห็นเล่าว่า เพราะกลัวลืมของฝากเลยกอดของฝากไว้กับตัว ก่อนขึ้นรถมองสามีของบัสโอสเตสมาโวยวายว่าเธอคบชู้เพลิน หิ้วแต่ของฝากขึ้นรถไป... ถึงบ้านเล่าให้แม่ฟัง ถึงนึกขึ้นได้ว่าลืมกระเป๋าอีกใบไว้ที่ท่ารถ!!!!

ยังมีคนแบบนี้อยู่โลกด้วย... บอกตรงๆ ธีไม่เคยเจอ

ระหว่างนั่งอยู่บนรถ เขานึกถึงคำที่เพื่อนใหม่ของเขาจ้อมาตลอดช่วงเดือนกว่าๆ ที่ได้รู้จักกัน... ก็สนุกดี ฟังเด็กคนนี้คุยมันก็เพลินดี... ดีกว่าดูละครช่องหลายสีด้วยซ้ำ เด็กคนนี้มีความสามารถ เล่าเรื่องของคนอื่นได้เป็นฉากๆ จนเขาลุ้นตามอยู่ในใจโดยไม่รู้ตัว... หากจบไปแล้วพฤกษบอกว่าไม่รู้จะทำงานอะไร เขาจะแนะนำให้ไปเอาดีทางพากษ์การ์ตูน......

ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด..... เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือ ดังขึ้นเมื่อธีรดน้ำต้นไม้อยู่นอกบ้าน

“ถึงแล้วเหรอ?” ธีสงสัย ไหนว่าบ่ายสี่รถจะถึง นี่เพิ่งบ่ายสามทำไมโทรมาแล้ว

“ยังพี่ธี แต่คันปากอ่ะ เนี่ยยยยย-------” แล้วก็เล่าอีกยาว

สรุปว่า รถยังไม่ถึง แต่ผ่านทางที่เกิดอุบัติเหตุ รถจอดรอเพื่อให้ทางข้างหน้าขยับรถ ด้วยความอยากรู้พฤกษเลยเดินลงไปจากรถ ไปยืนอยู่กับกระเป๋ารถของรถตัวเอง เลยได้ข่าวมาเล่าสู่กันฟัง... เป็นอันว่าวันนั้น กว่ารถจะไปถึงอำเภอของพฤกษเวลาก็ปาไปทุ่มนึงแล้ว พ่อมารออยู่นานเป็นชาติ แค่ 20 นาทีจากที่ลงรถ พฤกษก็ไปถึงบ้าน

สามทุ่มพฤกษโทรมาหาธีอีกรอบ ธีเข้านอนไปแล้ว แต่ก็รับสาย ปรากฏว่าอยู่ดีๆ เขาดันส่งสายไปให้ธีคุยกับแม่ บอกว่าที่กลับบ้านช้าเพราะพี่คนนี้พาเถลไถล ธีเลยต้องขอโทษแม่และบอกว่าที่น้องกลับบ้านช้าเพราะอะไร...บอกความจริงล้วนๆ

ก่อนวางสาย พ่อมาคุยด้วยและถามธีว่า “พี่ธี ชอบกินอะไร เดี๋ยวพ่อฝากไปให้”

ธีกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพ ไม่ได้ตอบคำถามของพ่อ แต่พ่อบอกว่า “ถือเป็นคำขอบคุณที่พี่ธีช่วยดูแลไอ้ลูกหมามาตั้งเดือนกว่า พ่อรู้ว่าไอ้ลูกหมามันดูแลยากขนาดไหน.....”

ไอ้ลูกหมา!!!!----- ถึงว่า ตะหงิดๆ อยู่ว่าเหมือนอะไร พ่อเรียกซะธีหายข้องใจไปเลย

ธีวางสายไปทั้งที่เสียงโวยวายจากปลายสายยังดังโหวกเหวกไม่สิ้นสุด... ลูกชายเขาโวยพ่อตัวเองว่าเรียกชื่อก็ได้ ตั้งเองแท้ๆ ทำไมต้องเรียกคำอื่น-------ฮา

ธีวางมือถือไว้ข้างเตียง ขณะที่กำลังจะหลับ เสียงเคาะประตูห้องนอนก็ดังขึ้น เขาลุกไปเปิดประตู และพบว่าน้าสาวของเขามาหา

“ธียังไม่นอนเหรอ น้าได้ยินเสียงคนคุย”

ปกติธีไม่นอนดึก น้ารู้อยู่แล้ว จึงรู้สึกว่าแปลกๆ และเดินมาถามด้วยความเป็นห่วง

ธีบอกว่าคุยกับเพื่อน แต่ก็จะนอนแล้ว ไม่มีอะไร น้าสาวบอกว่า ไม่เป็นไร หากมีอะไรให้บอกได้ และไม่รบกวนธีอีก 

เสียงโทรทัศน์จากชั้นล่างดังลอดกระดานไม้ขึ้นมานิดหน่อย ไม่ถึงกับทำให้รำคาญ บ้านนี้เป็นบ้านของน้องสาวแม่ของธี สามปีก่อนพ่อกัแม่ประสบอุบัติเหตุ อีกฝ่ายหลับในและขับรถมาชนพ่อและแม่ของธี ท่านเสียชีวิตคาที่ไม่ต้องเจ็บปวดกับบาดแผล ต่างกับธีที่แผลแม้ไม่สดแล้ว แต่แผลนั้นกลับยังไม่หาย

หลังจากเสร็จงานพิธีศพ น้าสาวมาขอให้ธีไปอยู่ด้วยกัน ซึ่งที่ที่เขามาอยู่ก็คือบ้านหลังนี้ น้าสาวดีกับธีเหมือนแม่ เดิมทีครอบครัวเราก็สนิทกันดี แต่อย่างไรธีก็ไม่รู้สึกว่าที่นี่คือบ้าน

บ้านที่เคยอยู่กับพ่อแม่เป็นบ้านเช่า พ่อมีโครงการจะซื้อบ้านและเก็บตังค์อยู่ ธียังพูดกับพ่อเลยว่า หากเรียนจบและได้ทำงานแล้ว จะช่วยออกเงินซื้อบ้านกัน

ตอนนี้... บ้านถึงมีก็ไม่รู้ว่าดีมั้ย

การอยู่ในบ้านคนเดียว แม้หลังไม่ใหญ่ แต่มันก็เคว้งได้เหมือนกัน


********************




 :pig4: ขอพิมพ์ก่อนแล้วจะกลับมาแก้ทีหลังนะคะ
ส่วนคำว่าเขา ขอบคุณมากๆ ค่ะ จะปรับแก้ในช่วงแรกอีกครั้ง

เพลานี้ พี่ธีกับน้องพฤกษกินไอติมแล้วอารมณ์ดี ขอรีบพิมพ์ที่เค้าเล่าก่อนน๊า  :กอด1:

รักผู้มีอุปการะคุณทู๊กคนคร่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 16:19:43 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
รอลุ้นว่าจะลงเอยยังไง

บวกเป็ดทุกตอนเลย

ออฟไลน์ posh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ืทรมารใจยิ่งกว่าเรื่องที่แล้ัวอีกนะเนี่ย :(

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2



เปิดเทอมสอง ซึ่งเป็นปลายภาค สำหรับนิสิตปีสี่นั้นมีเรื่องให้ทำมากมาย ส่วนนิสิตปีสอง....เค้าเฮฮากัน

“อ้ายธี ว่างมะใดมาปิ๊กห้องเฮาโดยเน้อ พ่อหื้อเอาหนมมาฝาก” ยับเยิน------พูดไม่เป็นแต่อยากพูด

ไอ้เพื่อนมันก็นะ พูดแต่คำเมือง จากที่ได้ยินครั้งแรกบื้อรับประทาน หลังๆ มาพฤกษฟังออกหม๊ด ถึงมันด่าพฤกษก็ฟังออก!

ธีเสียวแวบ ทีแรกนึกว่าอีกฝ่ายเรียกเขาว่า --- ไอ้ธี “อื้ม อยู่หอตอนไหนล่ะ ดึกหน่อยได้มั้ย อาจารย์พี่เรียกประชุมเอก ไม่รู้เพื่อนมันจะไปต่อกันมั้ย?”

“คืนนี้รอดูเดอะสตาร์ ไม่ไปไหนหรอก” พฤกษบอก

*0*.... สบายจริง ไอ้ปีสอง!

.......

......

.....

....

...

..

.

ธีจอดรถที่ด้านล่างของตึก ไม่ทันที่เขาจะโทรไปหา อีกฝ่ายก็ตะโกนเรียกชื่อเขาให้ได้ยินแล้ว ไม่ทันไรคนที่แหกปากเมื่อกี้ก็วิ่งมาหาเขา---- เหมือนมากครับพ่อ .... ธีนึกในใจ

“ช้ามาก จะมาทำไมตอนนี้เนี่ย โชคดีนะ กำลังโฆษณา อ๊ะ ของพี่ธี พิเศษจากพ่อ” ของหอบใหญ่ถูกยื่นมาให้เขา

“มันเยอะไปมั้ยพฤกษ เอาเก็บไว้กินบ้างเหอะ” ธีมองห่อของฝากพิเศษจากพ่อแล้วกลืนน้ำลายไม่ลงคอ

“แห๊บไว้แล้วพี่” ส่งยิ้มหน้าเป็น

“ไอ้พฤกษ มาแล้วเว้ย เร็วๆ” เสียงร้องเรียกดังมาจากชั้นสี่

“เออ... ไปแหละพี่ธี” พฤกษร้องบอกเพื่อนและหันมาบอกแล้ว จากนั้นก็วิ่งปร๋อเข้าไปชั้นสี่---- ไม่รู้ก้าวขึ้นทีละกี่ขั้น ถึงไวอย่างกับปรอท

ธีรับของฝากไปแบบเหวอๆ เขาเอามันกลับไปแบ่งให้เพื่อนที่อยู่หอเดียวกัน เพื่อนก็แปลกใจว่าไปเอามาจากไหน ธีเลยเล่าว่ารู้จักรุ่นน้องคนนึงตอนไปกินไอศครีมหลังมอ ปิดเทอมพอดีน้องไม่ได้กลับบ้านเลยได้คุยกัน

แรกๆ เพื่อนก็แซวว่า ผู้หญิง... กิ๊กหรือเปล่า? พอบอกว่าผู้ชายก็เงียบกันไป แต่ยังไม่วายบอกว่า “มึงจะนิยมแนวนั้นก็บอกกูมั่งนะเพื่อน กูขอเตรียมใจกันนิดนึง ฮ่าฮ่าฮ่า”

แต่ก็นั่นล่ะ ไม่มีอะไรในก่อไผ่ พี่ธีก็ยังเป็นธีปสุวรรณที่เงียบเชียบคนเดิม ไม่มีวอกแวกให้เห็นว่า “กำลังคบใคร” เพื่อนๆ เลยหมดความสนใจ แต่ชมว่าให้คบน้องคนนี้ดีๆ นานๆ เพราะของฝากอร่อยเหาะ!!!

.....

....

...

..

.

“อื้อ ยังไม่ได้ขอบคุณพ่อเลย ของฝากอร่อยดีนะ” ธีนึกขึ้นได้เลยบอกกับพฤกษ

“เหรอ เดี๋ยวนะ” ล้วงมือถือมากดๆ สักพักก็พูดว่า “คุยกับพี่ธีนะ” แล้วก็วางโทรศัพท์มาไว้ตรงหน้าเขา ส่วนตัวเองลุกขึ้นไปหยิบคุ๊กกี้อีกถุงมากิน

“สวัสดีครับพ่อ ธีนะครับ” ธีแนะนำตัวก่อน

“ว่าไงพี่ธี” พ่อพูดด้วยเสียงอารมณ์ดี

“ครับ คือจะขอบคุณพ่อน่ะครับ ของฝากอร่อยมากเลยครับ เยอะมากเลย” ธีบอก

“น้อยไปๆ มี...........” พ่อบอกว่ามีอะไรอีกหลายอย่างจะให้ไอ้ลูกหมา เอ้ย ให้ลูกชายถือมาให้ธีด้วย แต่ถุงมันเต็มหมดแล้ว ไว้คราวหน้าจะเอาไปให้ และพ่อยังถามอีกว่า คราวนี้ที่เอาไปอะไรที่ธีชอบบ้าง ธีก็บอกให้พ่อทราบ เพราะหากบอกว่าชอบทุกอย่าง คงไม่วายได้มาอีก (พี่ธีปาดเหงื่อ)

คุยกับธีอีกสักพัก พ่อก็วางสายไป ธีส่งมือถือให้พฤกษที่ยังเคี้ยวคุ๊กกี้ตุ้ยๆ หน้าตาเฉย

“วันหลังฟังให้จบก่อนนะ พี่จะฝากขอบคุณ ไม่ใช่จะคุยเอง” ธีก้มหน้าตักไอศครีมเข้าปาก

“หึหึหึ...พ่อเค้าอยากคุยกับพี่อ่ะ แต่ผมไม่เจอพี่เลย เลยกดสายให้... ผมมีมารยาทหรอกน่า นี่เห็นแก่พ่อน๊า”

“........” ธีไม่อยากเถียง เลยเงียบดีกว่า อีกฝ่ายก็จ้อไปเรื่อย

ตั้งแต่เปิดเทอมมา ธีไม่ค่อยได้ซื้อไอศครีมถ้วยไปกินที่ห้องแล้ว ส่วนใหญ่จะกินที่ร้านพร้อมคนนี้ แต่คนนี้เขาปั่นจักรยานมาซื้อเรื่อย เพิ่งรู้ว่าได้ค่าปั่นเป็นไอศครีมถ้วยนึง แต่วันไหนที่เจอกัน ก็เห็นยังนั่งกินกับธีอีก----- ไม่รู้เอาที่กินไปเก็บไว้ไหนหมด ตัวยังผอมเหมือนเดิม

ปลายภาคนี้ ธีลังเลว่าจะสมัครงานที่ไหนดี งานที่อยากทำมี 2 แบบ รายละเอียดต่างกันบ้าง แต่จัดอยู่ในแผนกเดียวกัน ธียังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกทางไหน ก่อนนี้เขาเคยไปปรึกษาอาจารย์ อาจารย์บอกว่า ให้ลองทั้งสองแบบ แล้วค่อยมาเลือกก็ได้ เพราะที่ทำงานส่วนใหญ่จะให้ฝึกงานสามเดือน อาจารย์บอกเป็นวิทยาทานว่า ระหว่างสามเดือนนั้น ต้องมองระบบงานให้ออกว่านั่นใช่แบบที่เราชอบมั้ย... แต่มองยังไง ธียังไม่รู้เลย

“พี่ธี ปีสี่นี่ยุ่งมากเลยเหรอ” น้องลูกหมา เอ้ย นายพฤกษถาม

“ไม่หรอก แต่มีเรื่องให้คิดเยอะ คิดไม่ออก” ธีบอก

“คิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิด ผ่อนคลายพี่ เดี๋ยวสบายใจมันก็คิดออกเอง หาไรทำแก้เครียดไม่ให้จำเจงี้ก็ได้ อ่านการ์ตูนมั้ยพี่ เดี๋ยวผมแนะนำหนุกๆ ให้”

ชวนเข้าลัทธิมืดอีกแล้ว----- ธีบโบกมือแทนคำตอบ

“ชิ... ดูถูก” ชี้หน้าธีแบบไม่สบอารมณ์

ธีไม่ใส่ใจ ไม่อาฆาต อีกฝ่ายไม่สบอารมณ์....ปกติ หากไปว่าการ์ตูนเขาแล้วเขาเห็นด้วยนี่สิ ต้องรีบพาเข้าโรงบาล “ทำไมวันนี้คนเยอะจัง แต่งตัวกันแปลกๆ”

พอมองออกไปนอกร้าน ธีจึงสังเกตเห็นว่าคนที่เดินและนั่งรถผ่านไปมาดูแปลกตาไปกว่าปกติ พวกเขาต่างแต่งตัวกันเต็มที่ วันนี้ไม่มีงานพิเศษอะไรในมอนี่นา....

“เค้าจะไปเที่ยวกัน รู้เรื่องกับเค้ามั้ยว่าวันนี้วันอะไร” พฤกษเขี่ยไอติมในถ้วยไปพลางมองออกไปนอกร้านเหมือนกัน

ธีหันหน้ามามองคนที่นั่งแก้มป่องอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความฉงน---- เที่ยวอะไร?

พฤกษหันมาเจอธีทำหน้างง “นี่พี่ธีไม่รู้เหรอวันนี้วันอะไร?”

ธีส่ายหน้าแทนคำตอบ

“วันลอยกระทงพี่ นี่ตกลงทุกวันที่ไปเรียนพี่ดูปฏิทินมั่งป่าว? หรือไปด้วยสัญชาติญาณ!” ได้ทีต้องรีบขี่แพะไล่

“อ๊ะ!” ธีนึกออกแล้ว ปฏิทินน่ะมองนะ มองทุกวัน แต่ดูแค่วันนี้วันอะไร จันทร์-ศุกร์ พระจันทร์เต็มดวงหรือครึ่งดวง วันพระรึเปล่า? ส่วนตัวแล้วธีไม่เคยคิดอะไรกับวันเทศกาล

“ไปหาหมอมั้ยพี่ธี” ยังขี่แพะไม่เลิก

“เราน่ะไม่ลอยกับเขาเหรอ?” ธีถาม

“ไม่อ่ะ!” พฤกษทำหน้าเซ็ง

“ทำไมไม่ไปกับเพื่อนล่ะ” ไม่ไปกับเพื่อนผิดวิสัยของคนคนนี้ ธีไม่เข้าใจ

“มันไปกับแฟน ไม่อยากไปเป็นกขค.มันอ่ะพี่” ยังคงทำหน้าเซ็ง

“อื้ม” ธีรับคำ

พฤกษเคาะนิ้วก๊อกๆ กับโต๊ะ จนธีทานไอศครีมหมดถ้วยก็ยังไม่เลิกเคาะ ธีลุกไปจ่ายเงิน นิ้วนั้นก็ยังเคาะ เมื่อกี้เพื่อนของพฤกษมาส่งพฤกษที่ร้าน ซึ่งหมายความว่าเป็นหน้าที่เขาที่ต้องไปส่ง...

ธีถอนหายใจพรืดก่อนจะบอกว่า “อยากไปลอยไหนล่ะ พี่พาไป......ก็ได้”

“พี่ธีคะ รับกระทงหนมปังฝีมือหนูมั้ยคะ?” น้องหวานถามแทรกมา

“ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจถือ โทษนะครับน้องหวาน ป๊ะพี่ไปกันเลย! เดี๋ยวดึกมันจะไม่ทัน!” พฤกษหันไปปฏิเสธน้องหวาน แล้วลุกจากที่นั่ง เดินฉับๆ ไปที่มอเตอไซด์ของเขาพร้อมหมวกกันน๊อค----- เอามาจากไหน????

“นี่มันเพิ่งห้าโมง จะรีบไปทำไมพฤกษ” ธีไม่เข้าใจ วัด...ก็อยู่แค่นี้เอง 15 นาทีก็ถึง!!!

“กว่าจะถึงสุโขทัยอ่ะพี่ธี ไม่ทันงานแสดงแสงสีก็ช่างมัน แต่ผมอยากลอยโคม ไป ไป เร็วดิ๊ พี่ธี” พูดจบก็ใส่หมวกกันน๊อค แล้วนั่งควบแต่รอท่า โดยไม่ต้องให้เจ้าของรถเชิญ

ธีถอนหายใจหนักกว่าเดิม... ให้ขี่คันนี้ไปถึงสุโขทัยมันก็ได้อยู่ แต่ไม่ได้เตรียมใจ

“เดินทางปลอดภัยค่ะพี่ธี” น้องหวานตบปุ๊ๆ ที่แผ่นหลังของธี และก้มหน้าก้มตาเก็บถ้วยไอศครีมเข้าไป

ของฝากปีหน้า เขาคงไม่เกรงใจพ่ออีกแล้ว เพราะลูกชายพ่อ...... ดูแลยากสมกับที่พ่อเกริ่นไว้จริงๆ ครับ

.........

........

.......

......

.....

....

...

..

.


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 16:20:58 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
รออ่านต่อ อ่านตอนแรกแบบว่า ไม่ชอบพี่ธีเลย เราอคติไปป่าวหว่า  :laugh:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
เอาแล้วไงไปลอยกะทงด้วยกันแล้ว

ด้วยสถิติเค้าว่ากันว่าวัยรุ่นเสียตัวกันวันนี้มากที่สุด  555

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2

........

.......

......

.....

....

...

..

.

ปุ๊ง ปุ๊ง ปุ๊ง เสียงพลุดังขึ้นแสบหูทันทีที่ถอดหมวกกันน๊อคออก

ธีเงยหน้ามองท้องฟ้า พลุสวยดี คนที่นั่งซ้อนท้ายบอกว่า รอให้พลุจุดเสร็จก่อน ค่อยเดินเข้าไปในงาน ลานจอดรถ ไม่ค่อยมีคน เงียบๆ อากาศเย็นนิดๆ หากจะบอกว่าที่ตรงนี้เป็นที่สำหรับดูพลุได้ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะมันเห็นได้ไม่สวยเท่าจุดที่เขาจัดไว้ ทว่ากว่าเขาจะขี่มอเตอไซด์จากมอ มาถึงที่นี่...ตอนนี้ มันเร็วสุดแล้ว

สักพักใหญ่ พลุก็หมด คนที่ซ้อนท้ายชวนเขาให้เดินเข้าไปในงาน... ธีเห็นโคมลอยอยู่บนท้องฟ้าบ้างประปราย---- ก็สวยดี

“พี่ธี ลอยกระทงก่อนนะ” พฤกษร้องบอกเขา

“อ้าว ไหนว่าจะลอยโคม” ธีแย้ง เขาฟังไม่ผิดสิน่า ตอนอยู่ที่ร้านบอกจะมาสุโขทัย เพราะอยากลอยโคม

“อ๋าว มาทั้งทีก็เอามันทุกอย่างสิพี่”

“............” ธีไม่ค้านอีกแล้ว เขาเดินเข้าไปในงานอย่างเงียบๆ ว่าไงว่าตามกัน

แต่แล้ว------

“อ้าว เหลืออันเดียวเหรอครับ?” ธีถามย้ำ

“ครับหนุ่ม กระทงหมดแล้วล่ะ” พ่อค้าบอก

“ไว้ค่อยเดินไปดูข้างในอีกทีก็ได้พี่ธี” พฤกษจ่ายเงินแล้วรับกระทงอันสุดท้ายมาจากพ่อค้า

พวกเขาพากันเดินไปด้านใน จนกระทั่งถึงจุดที่จะลอยกระทง แต่ก็ไม่มีร้านไหนมีกระทงเหลืออีก พวกเขามาเลทกันมากสำหรับการลอยกระทง

ธีไม่ใส่ใจกับเทศกาลอยู่แล้ว เขาจึงเฉยๆ แต่อีกคนเขาไม่ได้...

“มะพี่ ลอยด้วยกัน มาทั้งทีไม่ลอยไม่เป็นศิริมงคลกับชีวิตนา” พฤกษคว้าข้อมือเขาที่ปฏิเสธว่าไม่ลงไปข้างล่างริมน้ำเพื่อลอยกระทง จะยืนคอยอยู่ตรงนี้

“ไม่เอา เราไปลอยเถอะ เดี๋ยวพี่รอ....” ยังไม่ทันพูดจบอีกฝ่ายก็หันหน้าขวับมาแว๊ดเบาๆ

“พี่ธี มาคลายเครียด อย่ามาทำตัวเครียด ไปลอยเอาทุกข์เอาโศกออกไป เผื่อกลับไปไอ้ที่พี่คาใจคิดไม่ออกมันจะได้คิดออกไง ลงมานี่” พูดจบก็ฉุดรุ่นพี่ลงไปยังริมน้ำ

ผู้ชายสองคน กระทงใบเดียว…. ผู้ชายที่ตัวเล็กกว่า จุดธุปและเทียน ยกกระทงขึ้นเหนือศรีษะ สักพัก ก็ยื่นกระทงให้ผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ......!!!!

ไม่อายใครเลยใช่มั้ย?......

ธีมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง โดยไม่รับกระทงมาไว้ในมือ

สายตาที่ทิ่มแทงธีอยู่ในเวลานี้ทำให้มือธีแข็ง แต่ถึงไม่มีสายตาพวกนี้ธีก็ไม่รับมันเด็ดขาด

ข้อมือของธีถูกฝ่ามือเย็นๆ หนึ่งคว้าขึ้นมาแล้วกระทงก็ลอยมาอยู่ในมือของธี!!!

“เฮ้ย!” ธีอุทานเพราะกระทงเกือบถูกตัวเองทำคว่ำ โชคดีที่เขาเอาอีกมือมาประคองไว้ได้ทัน

สายตามทุกคู่ที่ยังอยู่ ณ ที่นี้ ทิ่มแทงมาที่ธีเป็นจุดเดียว.... ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเป็นจุดสนใจใคร เคยแต่ได้ยินเพื่อนในเอกที่เป็นดาวคณะบอกว่า “เวลาสายตาของคนอื่นมองมาที่เราคนเดียว มันหนาวพิกลว่ะ ทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น”----- ธีซึ้งใจกับตัวเองก็วันนี้!

“เร็วดิพี่ธี เดี๋ยวต้องไปลอยโคมอีกนะ” พฤกษร้องเร่ง

เอาว่ะ ลอยๆ จบๆ---- ธียกกระทงขึ้นจรดหน้าผาก... ไม่มีคำอธิษฐาน ไม่รู้จะอธิษฐานอะไร..... ‘ขอให้ความทุกข์ที่มีสลายหายไป ขอให้วันข้างหน้าสดใส ขอให้มีใครสักคนเข้ามาอยู่ด้วยกัน ขอให้ต่อไปชีวิตผมอย่าได้โดดเดี่ยวเหมือนอย่างทุกวันนี้อีกเลย สาธุ’

กระทงถูกลดลงมา เห็นกล้วยไม้สีขาวแล้วธีเกิดนึกถึงแม่ แม่ชอบไหว้พระด้วยดอกไม้ขาว เวลามาลอยกระทงกับพ่อและแม่ แม่จะเอากล้วยไม้ติดมาเองด้วย ตัวกระทงซื้อเอา แต่แม่จะเอาดอกกล้วยไม้แซมเสริมเข้าไป หรือเอาแทนที่ของเดิม แล้วแต่ว่าของเดิมสวยแค่ไหน....

“พี่ธีไปลอยป๊ะ” พฤกษบอกให้เขาเป็นคนเอากระทงไปลอย

“ไปด้วยกันป๊ะ” ธีเปลี่ยนใจ------มองได้มองไป ไม่ได้รู้จัก เจอกันแค่หนเดียว

พฤกษยิ้มร่า “อื้ม”

........

.......

......

.....

....

...

..

.

อนิจจา ฟ้าเล่นตลกกับธีเหลือเกิน เพราะพอลอยกระทงเสร็จ โคมก็หมด ซื้อมาได้แค่อันเดียว เดินไปทั่วงานก็แล้ว มันก็ไม่มีอีก------ ฮา

ลอยกระทง ลอยโคม.....ร่วมกัน ชาติหน้าคงไม่แคล้วได้เจอตัววุ่นนี่อีกแน่นอน

“พี่ธีทำเป็นมั้ยอ่ะ” พฤกษถาม

“เป็น” ธีบอกแล้วเริ่มกวาดลมตั้งโคมให้เป็นทรง “เอ้า” จากนั้น “จับไว้ อย่ายุกยิกนะ” ธีจุดไฟ ให้ไอความร้อนระอุอยู่ข้างใน สักพัก โคมก็พร้อม “ลองยกมันดูสิ”

“อื้ม” พฤกษค่อยๆ ยกโคมให้ลอยขึ้น

“เดี๋ยวพี่ลองก่อน พี่จะคอยจับไว้ พอบอกว่าปล่อย พฤกษปล่อยมือนะ” ธีบอก

โคมลอยตัวได้เองแล้ว จากนั้นก็อธิษฐาน.... ตลอดเวลาที่เตรียมโคม ธีเห็นคนรอบๆ ตัว จับโคมไว้ด้วยกันเหนือหัว และอธิฐานพร้อมกันก่อนที่จะปล่อยมันไป เขาจึงยกโคมขึ้นสูงเท่าจมูก เพื่อให้ไม่สูงเกินควรสำหรับพฤกษ

“อ๊ะ อธิษฐาน อย่าช้านะ เดี๋ยวไฟมอด” ธีบอก “โอ๊ย!”  โดนแตะหน้าแข้ง

......

.....

....

...

..

.

โคมสีขาวที่มีแสงเรืองจากภายในค่อยๆ ลอยขึ้นสู่อากาศ เลยหัวของธีไป ลอยขึ้นไป สูงขึ้น และสูงขึ้น จนไปรวมตัวกันอยู่บนท้องฟ้าสีนิลสนิท

“สวยจังเนอะพี่ธี สีเหมือนชื่อพี่ธีเลย” คนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาเงยหน้าขึ้นมองตามโคมของตัวเองอย่างไม่วางตากล่าวเช่นนั้น

-------ธีปสุวรรณ

...........

..........

.........

........

.......

......

.....

....

...

..

.
















 :m20: ใครเสียตัวไม่มี๊ ไม่มี .... ใส ใส อ่ะ
ตอนหน้าขึ้นวรรคห้าแหละน๊าทู๊กคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 16:22:10 โดย BaoBao »

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
สนุก ชอบที่เริ่มรู้จักกันเรื่อยๆ

มันเหมือนจะให้ความรู้เเบบพี่น้องมากกว่า

เเล้วไปรักกันตอนไหนเนี๊ย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ที่ผ่านมาก็มีอดีตอันหวานชื่นด้วยกันนี่นา ไม่น่าปล่อยให้หลุดลอยไปได้
ชอบคุณพ่อ เรียกพี่ธี ๆ น่ารัก...

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: เรื่องสั้น..... [เวลา] วรรคห้า
«ตอบ #29 เมื่อ31-03-2012 21:31:25 »

วรรคห้า






นั่งกินขนมสายไหมที่เบาะรถจนหมดถุง คนซ้อนถึงบอกว่า “ป๊ะ กลับได้! แต่เดี๋ยวถึงทางแยกกลับมอเรา พี่ธีแวะร้านก๋วยเตี๋ยวไก่หน่อยนะ ไอ้โจ้มันบอกว่าอร่อย ถ้ามาต้องแวะให้ได้”

*0*------ สารภาพออกมาแล้วว่าวางแผนมาล่วงหน้า

....

...

..

.

กินก๋วยเตี๋ยวไปคนละสองชามก็เอาพุ่งยื่นๆ กลับมอ ขากลับมีคนที่ขี่มอเตอไซด์กลับมาทางเดียวกันอยู่หลายคัน คาดว่าหนึ่งในหลายคันนั้นอาจร่วมเป็นเพื่อนร่วมสถาบันเดียวกัน

ธีขี่รถมาเรื่อยๆ ไม่เร็วมาก จนมาถึงทางหลังมอ ร้านค้าปิดหมดแล้ว ก็สมควรเพราะตอนนี้เวลาไม่ใช่น้อยๆ

ธีลดความเร็วลง เพราะถนนหลังมอค่อนข้างขรุขระด้วยหลุมเล็กบ้างใหญ่บ้าง....เลาะไปเรื่อยๆ ก็มาถึงหอของคนที่นั่งซ้อนท้าย

“ฮึ๊บ” แล้วโดดปุ๊ลงจากรถ ถอดหมวกกันน็อคออกมา ใบหน้ายิ้มกริ่มก็ปรากฏขึ้น “ขอบคุณครับพี่ธี หนุกมากๆ เลยอ่ะ พี่ใจดีที่สุดเลย” ก้มหัวมาถูกับต้นแขนของธี

------- เหมือนมากครับพ่อ ไอ้ลูกหมาเอ๊ย!

ธีถอดหมวกแล้วส่งยิ้มให้แทนคำตอบ พอหัวทุยๆ นั้นตั้งกลับมาที่เดิม ธีจึงวางฝ่ามือลงบนนั้น “คราวหลังบอกกันก่อนนะ แค่อยากเตรียมใจ”

----------ก็หนุกดีอ่ะนะ เลยว่าเค้าไม่ได้เต็มปาก

“อื้ม ไว้ปีหน้าไปกันใหม่เนอะ อ่ะ ดึกแล้ว พี่ธีขับรถดีๆ น๊า บายคร๊าบ” โบกมือส่ง

“ปีหน้าก็ไปกับแฟนล่ะมั๊งเราน่ะ” ธีพูดกลั้วหัวเราะ

“หือ? ไปกะพี่ธีหนุกกว่า ผมขี้เกียจแทคแคร์คนอื่น” ส่ายหน้าพรืด

ไอ้ขี้เกียจเอ๊ย!..... “งั้นคบกันมั้ยล่ะ จะได้มีคนแทคแคร์”

!!!!!! .......ฉิบแล้วไอ้ธี มึงพูดอะไรออกไป

ใจมันสั่นระทึกทันทีที่รู้ตัวว่า....พูดอะไรไปเมื่อกี้

แช๊ก แช๊ก บรื๊นนน.... สตาร์และเร่งเครื่องทันควัน “พี่ไปก่อนนะ บาย” ใส่หมวกกันน๊อค แล้วโค้งรถวนตัวอีกฝ่ายกลับออกไปทางตรงทางออกของหอ แต่เขาไปไม่ทันได้ไกล เสียงร้องเรียกชื่อเขาก็ดังไล่ตามหลังมา....เสียงนั้นดังชนิดที่ไม่เกรงใจคนที่เขาหลับไปแล้วด้วยซ้ำ

ธีเบรค ถอดหมวก และหันกลับหลัง เขาเห็นพฤกษวิ่งตรงมาหาเขา ใจของธีสั่นระรัว เขาพยายามเค้นคำแก้ตัวออกมาให้ได้ เอาที่ฟังดูดีมาสักอย่าง เอาอะไรดี เอาอะไรดี เร็วสิไอ้ธี!!!

“พี่ธีบอกว่าอะไรนะ ขอใหม่สิ” พฤกษถามเขาทันทีที่วิ่งมาถึงตัวรถ

“หือ? ไม่มีไร ไปนอนเถอะ” เยี่ยมที่สุด.....ไม่ได้ยินก็ดีแล้ว

“จะให้คบเป็นเพื่อนหรือแฟน?” พฤกษจ้องหน้าเขา

ธีเงยหน้ามองรุ่นน้องที่เคยยิ้มแป้นแล้น แต่เวลานี้ใบหน้านั้นเรียบ นิ่ง.... เคยเห็นบ้าง สีหน้าแบบนี้ แต่ไม่อยากเห็นในสถานการณ์นี้

“...........” ธีตอบไม่ถูก อันที่จริงต้องเรียกว่าตัวแข็งไปแล้วต่างหาก-------ฮา

“เอาไงพี่ธี ไร? พูดแล้วไม่รับผิดชอบเหรอ?” ท้วงหนักขึ้น

“........ แฟน...... แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เหมือนเดิมก็ได้ พี่ไปล่ะ” ขณะที่จะใส่หมวกกันน๊อค ธีก็ได้ยินเสียงจากอีกฝ่าย

“โอเค แฟนก็แฟน ราตรีสวัสดิ์ครับพี่ ถึงหอแล้วโทรมาบอกด้วยนะ”

ธีหันขวับกลับไปทั้งที่ยังไม่สวมหมวกกันน๊อค

พฤกษวิ่งกลับไปแล้ว วิ่งขึ้นตึกไปแล้ว ไปถึงชั้นสี่แล้ว พฤกษชโงกหน้ามาโบกมือให้....พร้อมยิ้ม

ธีก้มหน้า สวมหมวก แล้วบิดมอเตอไซด์ออกไปจากหอ

ผ่านป้อมยาม เข้าสู่เขตของมหาลัย

ผ่านตึกสูงของคณะอื่นที่ปิดไฟมืดสนิท

ผ่านสนามโล่งๆ ที่มีต้นไม้ต้นใหญ่ปลูกเรียงราย

ใจธีสั่น มันสั่นไปตลอดทาง ตอนนี้มันเหมือนกับหายใจไม่ออก

ธีจอดรถที่ข้างทาง บริเวณนั้นเป็นสนามกีฬา

ธีปลดขาตั้ง ถอดหมวกกันน๊อค แล้วเดินดุ่ยเข้าไปหาสนามฟุตบอล

ธีปีนรั้ว และตรงเข้าไปหาสนามหญ้าขนาดใหญ่

เขาเดินเข้าไปจนถึงตรงกลางของสนาม แล้วค่อยๆ ล้มตัวลงนอนหงาย

ธีเดินไม่ไหว ธีขับรถไม่ไหว มันทรุด มันเปลี้ย ขามันหมดเรี่ยวแรง แขนมันแข็งชา ... เขาหมดแรงทั้งตัวไปดื้อๆ จนต้องเข้าต้องมานอนหายใจระรินให้ยุงมันหอมอยู่ตรงนี้!

สายตาธีเหม่อมองท้องฟ้า วันนี้จันทร์เต็มดวง ดาวระยิบระยับ อากาศเย็นสดชื่นผิดกับช่วงกลางวัน มหาลัยที่นี่แปลกมาก พอใกล้หน้าหนาว ช่วงที่ไม่มีแสงแดดอากาศจะเย็นจนสมกับเป็นภาคเหนือ สมกับเข้าสู่หน้าหนาว......

ธีเคยได้ยินเพลงหนึ่ง...เพราะดี จังหวะก็ดี คำก็ดี

ธีเคยคิดเล่นๆ ว่าตัวเองจะมีวันนั้นบ้างไหม...วันที่จะได้รู้สึกเหมือนเพลงนั้น

http://www.youtube.com/watch?v=pVBbwVigsdc













ธีให้อาหารยุงด้วยรอยยิ้ม ยิ้มให้พระจันทร์ ยิ้มให้ดวงดาว

ธีนึกขอบคุณพระแม่คงคา ที่ช่วยทำคำอธิษฐานของเขาให้เป็นจริง

........

.......

......

.....

....

...

..

.



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2012 16:23:55 โดย BaoBao »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด