ซีรีย์ [บังเอิญ]...สวนทาง (จบในตัว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีย์ [บังเอิญ]...สวนทาง (จบในตัว)  (อ่าน 287644 ครั้ง)

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
**************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

**********************************************************************

รวมงานเขียนของ BaoBao จ้า

อ่านก่อน ชั่งใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีชมพู คือ แนวน่ารักไม่ปวดใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีม่วง คือ แนวเจ็บปวดหน่วงหัวใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีเขียวฟ้า คือ แนวที่จัดอารมณ์ไม่ได้

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องสั้น

[หึง & ง้อ]
[ข้างๆ]
[บังเอิญ]… ณ โรงพยาบาล
[อย่าเงียบสิวะ!]
[แค่นี้ได้มั้ย?]
[บังเอิญ]… คำบางคำกับช่อดอกไม้
ซีรีย์สั้นกุด [บังเอิญ]...คน (ไม่) รู้จัก
ซีรีย์สั้นกุด คำ บ า ง คำ [Silence speaks...]

เรื่องกึ่งสั้น-กึ่งยาว
[แอบ]
[สองก้าว]
[เวลา]
[รู้แล้ว]


เรื่องยาว
[กระดาษ]
[กระซิบ]
[บอก]
[บังเอิญ]… สวนทาง


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2017 13:25:25 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: ซีรีย์ บังเอิญ ....[สวนทาง]
«ตอบ #1 เมื่อ28-09-2012 11:08:50 »



[สวนทาง]




ครืดดดด------- เสียงลากประตูรถตู้ให้เปิดดังขึ้น

ผมรู้สึกตัวตื่นจากความงัวเงีย พร้อมขยับตัวเตรียมลุกตามผู้โดยสารคนอื่นเพื่อลงจากรถ
 
ขณะที่ผมเดินไปจนจะถึงเบาะหน้า ผมเหลียวมองภาพนอกรถแล้วจึงนึกขึ้นมาได้ “พี่ เข้าฟิว’ มั้ยครับ?”

“ป้ายนี้สุดท้ายแล้วน้อง” คนขับรถพูดพลางเงยหน้าขึ้นมายื่นเงินทอนให้สาวออฟฟิศคนหนึ่งที่ลงจากรถไปก่อนหน้าผม

ผมเดินลงจากรถไปแล้วยื่นเงินให้คนขับรถตู้

วันนี้เล็งสายรถตู้พลาด (บางวินจะวิ่งไปถึงคิวรถหน้าบิ๊กซีให้เลยครับ) เลยต้องเดินไปยังคิวรถตู้ที่อยู่หน้าบิ๊กซี

ผมต้องไปต่อรถตู้สายจตุจักรเพื่อไปยังที่ทำงานของผมซึ่งอยู่โน่น....ถนนสีลม

ผมค่อยๆ เดินข้ามถนนไปยังฝั่งฟิวเจอร์อย่างไม่เร่งรีบ เพราะถึงรีบไปก็เหนื่อยเปล่า วันนี้เป็นวันเสาร์

ออฟฟิศของผมตั้งอยู่ในใจกลางเมืองหลวง...เส้นเลือดใหญ่ของเมืองกรุง แต่ผมเลือกที่จะมาเช่าบ้านอยู่แถบปริมณฑล โดยนั่งรถตู้ไปทำงานแต่เช้า แล้วก็นั่งรถตู้กลับมาบ้าน ถึงประมาณทุ่มนึง

หลายคนที่ได้ยินเรื่องที่อยู่ของผมมักจะทำหน้าตกใจ และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า: ทำไมไปอยู่ไกลขนาดนั้น จะเดินทางให้ลำบากทำไม

ตอบคำเดียวเลยครับว่า...ชอบ

ผมชอบใช้ชีวิตและนอนในที่ที่มีธรรมชาติหน่อยๆ ได้สูดอากาศจากดินจากหญ้าตอนเช้าหรือหลังฝนตก ชอบที่จะเดินในที่โล่งๆ ชอบที่จะตากผ้าด้วยราวตากผ้าอันใหญ่ คอยลากมันไปโดนแดดทั้งในช่วงเช้าช่วงบ่าย ชอบที่จะนอนเล่นโดยได้ยินเสียงนกร้องบ้าง เสียงหมาเห่าบ้าง เสียงสมาคมแม่บ้านคุยกันบ้าง....

ดังนั้นทุกเช้าที่ผมตื่นขึ้นมา ผมจึงต้องพบกับความเร่งรีบของชีวิต -----ตื่น อาบน้ำ แต่งตัว ซื้อของกิน นั่งรถออกจากหมู่บ้าน โดยสารรถตู้ไปครึ่งทาง กินมื้อเช้าระหว่างรอรถ ลงจากรถตู้ต่อรถไฟฟ้า(ใต้ดินหรือลอยฟ้าเลือกได้ตามความเหมาะสมของเวลา) สุดท้ายจึงเดินเท้าเข้าสู่ที่ทำงาน

ขากลับจากทำงาน วงจรมันก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่ -----นั่งรถไฟฟ้ามาลงกลางทาง รอคิวโดยสารรถตู้กลับมายังหมู่บ้านที่พำนัก สั่งอาหารจานเดียวบ้าง ก๋วยเตี๋ยวบ้าง หิ้วมื้อเย็นร้อนๆ เข้าไปกินในบ้าน อาบน้ำก่อนกินข้าวบ้างหรือกินข้าวแล้วค่อยอาบน้ำ...อย่างไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก จากนั้นก็ถึงเวลาพักผ่อนหย่อนใจเพื่อเตรียมเข้านอน

ทุกวัน...ผมต้องเดินทางผ่านไปมาในเส้นทางเดิมๆ.......ไปยังสถานที่เดิมๆ .......แล้วกลับมายังสถานที่เดิม-----เป็นแบบนี้มา 3 ปีแล้ว และมันก็ยังต้องดำเนินต่อไป

มีเรื่อง...ให้ผมทำมากมาย

มีเรื่อง...ให้ผมสนใจเยอะแยะ

ใครที่นั่งรถตู้คันเดียวกับผมในยามเช้าบ้าง ผมไม่เคยสังเกตมอง

ใครอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับผม แล้วเข้า-ออกไปทำงานเหมือนผมบ้าง.........ผมไม่เคยจำ

ในหนึ่งอาทิตย์...นับแค่อาทิตย์เดียว...ผมสวนทางกับคนตั้งไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่....

ทำไมต้องแคร์ว่าตัวเองเดินสวนกับใครไปบ้าง

--------ผมเคยคิดแบบนั้น จนกระทั่ง

......

.....

....

...

..

.

ปึ๊ก!!!!

ความแรงของการปะทะทำให้ตัวผมหงายล้มก้นจ้ำเบ้าอย่างไม่คาดฝัน แซนวิสที่ผมกำลังหม่ำระหว่างเดินไปยังคิวรถตู้หลุดไปจากมือของผม

ผมล้มหงายอยู่บนพื้นโดยมีคนตัวใหญ่กว่าทับอยู่บนตัวผม...

ผมรู้สึกเจ็บที่ข้อศอก เพราะเหมือนตอนล้มจะงอศอกยันตัวไว้ มันเจ็บจนน้ำตาแทบเล็ดเลยทีเดียว

“shit!” เสียงสบถของเจ้าคนที่ล้มทับอยู่บนตัวผม

“หนัก! รีบๆ ลุกไปหน่อยเถอะคุณ!” ผมเหวี่ยงเสียงบอกอีกฝ่ายอย่างหัวเสีย

“.......sorry.... sorry....” เจ้าคนที่ล้มทับผมอยู่พูดพลางรีบยันตัวของเขาเองไปให้ห่างจากผม

“เดินไม่ดูทางเล๊ย จะรีบไปตายที่ไหนวะ” ผมบ่นอุบพลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ในช่วงเวลาเดียวกัน มือสองข้างที่อยู่ในเสื้อยีนส์ยื่นมาจับแขนทั้งสองข้างของผมไว้...แบบช่วยพยุง

“ขอโทษครับ ผมมีธุระด่วน.....เอ่อ....พี่เจ็บตรงไหนรึเปล่า?” คู่กรณีของผมเริ่มพูดในภาษาที่ผมรู้จัก น้ำเสียงอีกฝ่ายฟังดูมีแววของความสำนึกผิดดี

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองคู่กรณีของตัวเอง เห็นสีหน้าจริงใจจากอีกฝ่าย เลยคลายความโมโหลงไปได้บ้าง “เออ...แสบๆ ยอกๆ หน่อย ไม่เป็นไรมากหรอก....มั๊ง”ผมตอบคำถามอีกฝ่ายแล้วค่อยสำรวจร่างกายของตนเอง

“ดีครับ พี่ไม่บาดเจ็บก็ดี งั้นผมขอตัวนะครับ ขอโทษนะครับพี่ ผมรีบจริงๆ”

ผมเงยหน้าขึ้นมา เห็นคู่กรณีของผมยกมือพนมไหว้ผม แล้วอีกฝ่ายก็รีบวิ่งผลุนผลันไปที่ริมถนนใหญ่....จากนั้นแท๊กซี่สีชมพูแป๊ดก็พา ‘คนรีบจริงๆ’ พุ่งทะยานไป

“เออ...มาเร็วเคลมเร็วแท้วะ!” ผมพึมพัมกับตัวเอง มองแท๊กซี่สีชมพูคันนั้นไปจนมันลับหายจากสายตา

ผมหันกลับมามองหากระเป๋าของตัวเอง ตาเหลือบไปเห็นอาหารเช้าที่จิ้มคลุกฝุ่นอยู่บนพื้น “เฮ้อ------” ผมถอนหายใจ พลางคิดเสียว่า...ฟาดเคราะห์

ผมก้มลงไปเก็บกระเป๋า แล้วคิ้วผมมันก็ขมวดปมขึ้นทันที

‘วัตถุสีดำ’ ขนาดพอดีมือหนึ่งอยู่ใต้กระเป๋าของผม

ผมมองมันอยู่ชั่วอึดใจแล้วถึงค่อยหยิบมันขึ้นมามือถือรุ่นที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในเวลานี้นั่นเอง

สมองกำลังประมวลผลถึงที่มาของมัน.........ไม่นานนักผมก็คิดออกว่ามันควรมาจากไหน ทันทีที่นึกได้ผมก็รีบหันหน้าควับไปยังถนนใหญ่.... อนิจจา แท๊กซี่สีชมพูในกรุงเทพฯ มีล้านแปด แล้วผมจะไปตรัสรู้ได้ไงว่าไอ้คันไหนมันรับ “คู่กรณี” ของผมไปส่งที่ไหน... *0*

“เฮ้อ------” ผมถอนลมหายใจทิ้งอีกเป็นครั้งที่สองของเช้านี้ จากนั้นจึงเอา ‘วัตถุสีดำ’ ในมือหย่อนลงกระเป๋าตัวเอง เดินไปเก็บมื้อเช้าขึ้นมาจากพื้น สาวเท้าก้าวฉับๆ ให้เร็วขึ้น เดินพลางสอดส่ายสายตามองหาถังขยะ

เมื่อทิ้งมื้อเช้าของตัวเองลงถังแล้ว ผมก็รีบวิ่งเหยาะๆ ไปทางคิวรถตู้สายที่ต้องการ

เสียเวลากับอุบัติเหตุอยู่พอดู สายหมอชิตจึงมีคนรอต่อแถวราวๆ 30 คนได้ ต่างจากคิวอนุสาวรีย์ที่มีแค่ 5 คน.... ผมชอบไปทางจตุจักรเพราะไม่ต้องไปเปลี่ยนรถที่สยาม แต่เวลานี้คงต้องสังเกตุดูว่ารถตู้คิวไหนจะเข้ามาก่อน

การเดินทางเข้าเมือง ไม่ใช่แค่ดูจำนวนคนต่อคิวขึ้นรถแล้วก็ตัดสินใจได้นะครับ....เราต้องดูว่า...ดินฟ้าอากาศดีไม่ดียังไง วันนี้เป็นอะไร (จันทร์ถึงอาทิตย์/วันหยุดนัขตฤกษ์) วันนี้กิจกรรมพิเศษรึเปล่า (ม๊อบเอย วันรับปริญญาเอย....) ทุกอย่างมีผลกับคิวรถทั้งสิ้น

แต่ถึงคิดดีแล้ว มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปตามที่คุณคิดเสมอไป เพราะถนนในกรุงเทพฯ----มันคาดเดาไม่ได้ !!!

กลัวที่สุดก็ไอ้คำจากนายท่าที่ว่า "รถขาดช่วงครับน้อง"

ตัวอย่างเช่นวันนี้ เป็นวันเสาร์แท้ๆ แต่ไหงคนมาต่อแถวสายจตุจักรซะเยอะขนาดนี้...

ทันใดนั้นเอง รถตู้สายอนุสาวรีย์ก็เลี้ยวควับมาจอดที่ท่า.....แล้วผมจะคิดต่อทำไมล่ะครับ ผมก็เดินปรี่ไปเป็นคนที่ 6 ในแถวนั้นน่ะสิ ^^

......

.....

....

...

..

.

รถตู้ทะยานไปบนถนน แสงสีแดงอมเหลืองเริ่มกระจายขึ้นมาบนท้องฟ้า เครื่องปรับอากาศส่งความเย็นมาให้ผู้โดยสาร ผู้โดยสารทุกคนในรถตู้ต่างนั่งกันแบบเงียบๆ

ผมเอามือควานเข้าไปหาไอพอตซัฟเฟอร์ของตัวเอง ดึงเฉพาะหูฟังออกมา เสียบมันเข้าหู แล้วล้วงมือเข้าไปกดปุ่มเปิดเพลง

เพลงโปรดหนึ่งของผมเริ่มร้องท่อนที่ผมชอบ

---- When the evening shadows and the stars appear,

and there is no one there to dry your tears ----


ขณะที่กำลังจะเอามือออกมานอกกระเป๋า มือของผมก็ไปสัมผัส ‘วัตถุสีดำ’ ที่คู่กรณีของผมทำตกไว้อีกครั้ง

ผมกำมันอยู่ในกระเป๋า ไม่ได้หยิบมันออกมา

ผมฟังเพลงโปรดของผมไปพลางนึกถึงหน้าของ “เจ้าของ ‘วัตถุสีดำ’” อันนี้

อีกฝ่ายสูงกว่าหรือเตี้ยกว่าผม ... ผมจำไม่ได้

ใบหน้าที่ดูรีบร้อนผสมกับเสียใจอย่างสุดซึ้ง แล้วโครงหน้าแบบไหน ... ผมจำไม่ได้

ผิวหน้าที่ขาวโอโม่ตัดกับคิ้วหนาสีดำเข้ม แล้วเครื่องหน้าอย่างอื่นเป็นไง ... ผมจำไม่ได้

คลับคล้ายคลับคลาว่าผมสั้นดูยุ่งเหยิงหน่อยๆ แล้วมันเป็นทรงอะไร ... ผมก็จำไม่ได้

อีกฝ่ายไม่ได้มีจุดสังเกตุอะไรให้ผมจำ....ยกเว้นสีของลูกตาคู่นั้นซึ่งเป็น----สีน้ำเงิน

ผมอยู่ท่ามกลางผู้คน

ผมเดินสวนกับผู้คนมากหน้าหลายตนในทุกๆ วัน

ผมไม่เคยสนใจ “คนที่ไม่รู้จัก”

ขนาดคนรู้จักผมยังจำหน้าพวกเขาได้ยากเลย แล้วกับ “เจ้าของ ‘วัตถุสีดำ’” อันนี้.... มันจะมีความพิเศษกว่าคนอื่นในความทรงจำของผมได้ยังไง

แต่กระนั้น....แม่ผม สอนผมมาตั้งแต่ผมจำความได้ ------- เก็บของอะไรได้ เราต้องคืนเจ้าของ หากหาเจ้าของไม่ได้ต้องเอาไปให้ผู้ใหญ่... แล้วพอโตขึ้นมาอีกหน่อยแม่ก็สอนให้ผมเอาของไปให้ตำรวจ

ดังนั้น ผมไม่แฮ๊บมันเป็นของตัวเองหรอกครับ ประเดี๋ยวจะเอามันไปเจ้าของ โดยไม่ต้องผ่านมือตำรวจ....แค่เปิดเครื่องดูรายชื่อแล้วสุ่มถามหาเจ้าของมันซะก็เรียบร้อย ^^

แต่ยังก่อน...ขอผมฟังเพลงให้สบายใจก่อน ไว้ถึงที่ทำงานแล้วค่อยเริ่มกระทำตัวเป็นคนดีของสังคม.... ชั่วโมงนิดๆ เอง รอหน่อยนะ ‘นายหน้าขาวตาสีน้ำเงิน’

ผมกดเพลงโปรดซ้ำอีกครั้ง ..... รู้สึกว่าวันนี้อยากฟังเพลงนี้เพลงเดียวไปจนถึงอนุสาวรีย์

เพลงเริ่มบรรเลงอีกครั้ง ด้วยทำนองเศร้าๆ เย็นๆ

ไม่ถึงอึดใจเสียงทรงพลังในแบบที่สั่นหัวใจของผมได้เสมอก็ดังก้องขึ้นมาในหัวของผม

----- When the rain is blowing in your face

And the whole world is on your case

I could offer you a warm embrace

To make you feel my love -----


......

.....

....

...

..

.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2021 15:47:17 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: ซีรีย์ บังเิอิญ ....[สวนทาง]
«ตอบ #2 เมื่อ28-09-2012 12:24:43 »

 :mc4:  :mc4:   ว๊าว!!! ได้อ่านคนแรกเลย   :pig4: :pig4:

*-----------------*-----------------*-----------------*
Edit. ไม่ได้อ่านคนแรก T-T คนที่ 35 ต่างหาก แต่เม้นคนแรกนะ อิอิ  ( เพ้อ..... ละ 55 )
ชอบ ๆ เหมือนเราเลย ไม่ค่อยสนใจและจดจำคนที่ผ่านไปมาเลย
บางครั้ง เห็นคน ๆ หนึ่ง ก็ อืมมม คนนี้ คุ้น ๆ เจอที่ไหนว้า!!!
เค้ายิ้มมา แต่ก็จำเค้าไม่ได้  .. ฮ่า ๆ ๆ  นิสัย!!
*-----------------***
รออ่านตอนต่อไปจ้า ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2012 12:53:39 โดย Why-Not-Me »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: ซีรีย์ บังเิอิญ ....[สวนทาง]
«ตอบ #3 เมื่อ28-09-2012 12:47:49 »

รักแรกพบรึเปล่าน๊ออออ

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: ซีรีย์ บังเิอิญ ....[สวนทาง]
«ตอบ #4 เมื่อ28-09-2012 13:37:02 »

ต้อนรับเรื่องใหม่

มาตอนแรกก็หนุกแล้วเนาะ

อยากอ่านตอนต่อไปแล้วสิ!! ^^

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: ซีรีย์ บังเิอิญ ....[สวนทาง]
«ตอบ #5 เมื่อ28-09-2012 14:20:51 »

มาตามหาเจ้าของ วัตถุสีดำกันต่อ โฮะโฮะ

armmyrine

  • บุคคลทั่วไป
Re: ซีรีย์ บังเิอิญ ....[สวนทาง]
«ตอบ #6 เมื่อ28-09-2012 15:13:25 »

 :mc4:   เอ้า FC. เข้ามาเม้นท์เร๊ววววววววววววววววววววววว :laugh:

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
Re: ซีรีย์ บังเิอิญ ....[สวนทาง]
«ตอบ #7 เมื่อ28-09-2012 15:22:42 »

ปักธงรอติดตามงับบบบบ  :mc4:

มันคือเพลงเดียวกันนี่ !

อะเดลลลลล~~~~ บังเอิญชอบเหมือนเค้าเรยยย :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2012 15:30:37 โดย 맀..Lich✿ »

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


......

.....

....

...

..

.

“โอ้โหแฮะ ก๊องแม่งมีไอโฟนด้วยเว้ย!” เพื่อนร่วมงานที่สนิทกันทั้งนอกและในที่ทำงานพูดเสียงดังลั่นพลางฉวยเอาของในมือของผมไปดูใกล้ๆ

“ไอ้ห่า เอาคืนมา ไม่ใช่ของกู!” ผมผุดลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ เดินปรี่ไปหาเพื่อนของตัวเอง จะเอาของที่อยู่ในมือของมันมาให้ได้ แต่มันก็เดินหนี

พอผมประชิดตัวมันได้ มันก็ทำเป็นเล่นต่อโดยเอาของนั้นหลีกให้พ้นจากวงสวิงของมือผม “ฮั่นแน่ ของตัวเองก็บอกมาเหอะ ขอดูหน่อยเดียวเอง ขอกูจับเป็นบุญมือกูหน่อยไม่ได้รึไงว๊า” ไอ้เป้บอก ทั้งยังไม่หยุดเดินหนีผม

“ไม่ใช่ของกู มึงอย่าเล่น เกิดตกมาของมันเสีย กูไม่มีปัญญาซื้อคืนเค้านะเว้ย!” ผมยืนท้าวสะเอวอย่างเอาเรื่อง ไม่ตามแล้ว เบื่อ! เหนื่อย!

“โหยยยย----หน้าเป็นตูดเลย อ่ะ อ่ะ คืนก๊ะด๊ะ” ไอ้เป้ทำเสียงมีจริตก่อนจะเดินมายื่นของคืนให้ผม

ผมรีบฉวยของมาไว้ในมือตัวเอง “เออ คืนดีๆ จะได้ไม่ต้องคืนด้วยน้ำตา”

“หนูกลัวจังเลย.....ฮ่าฮ่าฮ่า---” เป้หัวเราะร่า แล้วเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง

ผมสำรวจของที่อยู่ในมือตัวเองต่อ....เมื่อกี้ตอนที่หยิบมันขึ้นมา กะว่าจะหารายชื่อแล้วโทรไปตามหาเจ้าของเครื่อง แต่มันเปิดหน้าจอไม่ได้ กดอะไรก็ไม่ไป เคยเห็นคนใช้มือถือรุ่นนี้อยู่ เห็นเค้าจิ้มๆ ที่หน้าจอมัน ผมก็ลองจิ้มดูบ้าง แต่มันก็ไม่ยักกะมีอะไรเกิดขึ้น มันนิ่งสนิทจนผมงง

“เป้ มึงใช้ไอ้นี่เป็นป๊ะ? เปิดหน้าจอให้กูหน่อยสิ” ผมเบื่อแล้ว เลยเดินไปยื่นมือถือไปให้ไอ้เป้จัดการให้

ไอ้เป้หันมาส่งยิ้มยียวนกวนประสาทก่อนจะรับของไปจากมือผม “อะ อะ พี่เป้จัดให้คร๊าบ-----”

แล้วผมก็เห็นไอ้เป้เอานิ้วจิ้มๆ ที่หน้าจอมือถือเหมือนที่ผมทำไปเมื่อครู่ สองสามนาทีจากนั้นมันก็พลิกกลับไปกลับมา... แล้วมันก้เงยหน้าขึ้นมา “เสีย?” ไอ้เป้ขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องหน้าผม

“ไม่รู้” ผมตอบ

“งั้นแบตหมด” ไอ้เป้ตั้งข้อสันนิษฐานใหม่

“ไม่รู้” ผมตอบ

“เอาที่ชาร์ทมา” ไอ้เป้แบมือ

“ไม่มี” ผมตอบ

“อ๊าว นี่มึงไปขโมยเค้ามารึไงวะ” ไอ้เป้หน้าเหวอใหญ่

“ไอ้เลว หน้ากูมันเหมือนโจรนักรึไงวะ”ผมทำหน้ายักษ์ใส่มัน แต่พอผมพูดจบปุ๊บไอ้เชี่ยเป้มันก็พยักหน้าหงึกๆ ปั๊บ-------- *0*

......

.....

....

...

..

.

“โอ๊ย!” ไอ้เป้ร้องเสียงดังจนเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มองกันเป็นตาเดียว

เบิ๊ดกระโหลกไอ้เป้ไปทีนึงแล้วผมก็ฝากของไว้กับมัน โดยสั่งมันว่า...ทำยังไงก็ได้ให้เครื่องมันเปิดได้ แล้วผมก็เดินไปที่โต๊ะ เพื่อเริ่มทำงานของวันนี้

จากนั้นผมก็ลืมสิ้นทุกสิ่งไปด้วยงานที่เข้ามาสุมรุมทับหัวผม

กระทั่งเลิกงาน ผมเดินออกจากแผนกมารอลิฟท์ ไอ้เป้วิ่งเอามือถือมาให้ผม แล้วมันก็วิ่งกลับไปหาแฟนมัน...นั่นแหละ ผมถึงจำได้ว่าตัวเองฝากอะไรไว้กับเพื่อน

ลิฟท์มาพอดีกับที่ไอ้เป้วิ่งไปถึงตัวแฟนของมัน ผมจึงยัดมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกง แล้วเดินเข้าไปในลิฟท์

กะว่ากลับบ้านก่อนแล้วค่อยว่ากัน...วันนี้ปวดตามาก จ้องคอมทั้งวัน *0*

......

.....

....

...

..

.


ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
จะยังไงต่อน้าา ~~~~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ซีรีย์ บังเิอิญ ....[สวนทาง] --- ต่อ
« ตอบ #9 เมื่อ: 28-09-2012 15:30:06 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
รอ รอ
ต่อจ้าาาาาา

ออฟไลน์ witchhound

  • เบื่อ เบื่ออ เบื่อออ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เย้...ได้อ่านนิยายของท่านเบาเบาแล้ว
รู้สึกว่าจะไม่ได้อ่านนิยายของท่านเบาเบามาพักนึงละ
ดีใจจังจะได้อ่านแล้ววว :-[

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
เรื่องของเบาๆ จบไม่จบ????
แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่าน :z2:

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


......

.....

....

...

..

.

อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเสร็จ ผมจึงเดินเอาข้าวผัดที่ซื้อมาจากหน้าหมู่บ้านมาเทใส่จาน ยัดมันเข้าไมโครเวฟอุ่น 2 นาที ได้ที่แล้วก็เอามันมานั่งกินหน้าทีวี

ผมค่อยๆ เคี้ยวข้าวผัดไข่หอมเนยและแห้งพอดีไปพลางดูรายงานข่าวที่ฉายอยู่ในขณะนั้นต่างน้ำซุป ครึ่งชั่วโมงผ่านไปมื้อเย็นของผมจึงสิ้นสุดลง

ผมรวบช้อน แล้วผลักจานข้าวสีขาวเกลี้ยงไปยังปลายขอบของโต๊ะกระจก

“ฮ๊า-------อิ่มเว๊ย...” ผมนอนแผ่ที่โซฟา ท้องมันอิ่มตื้อ ตัวขี้เกียจเริ่มทำงาน เลยนอนดูทีวีเล่นไปเพลินๆ พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ผมไม่จำเป็นต้องเร่งรีบเข้านอน

ทว่า ราวสิบนาทีหลังจากนั้นได้ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

ผมรีบผุดลุกขึ้นมา ลุกเดินตรงไปที่กระเป๋าสะพายประจำตัว เปิดฝาประเป๋าแล้วเอามือควานหามือถือของตัวเอง แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ผมเลยเททุกอย่างมันลงมาบนเบาะของโซฟาซะเลย

“คร๊าบ....แม่....” ผมรับกรอกเสียงหวานจ๋อยให้คนที่อยู่ปลายสาย แต่สายตาผมจดจ้องมองยังวัตถุสีดำที่กองอยู่กับข้าวของจำนวนหนึ่งของตัวเองซึ่งใส่ประจำไว้ในกระเป๋า

คุยกับแม่อีกพักใหญ่ จนแม่ถามสารทุกข์สุขดิบจนพอใจแล้วจึงวางสายกันไป

เสร็จจากสายของแม่ ผมก็คว้าเอาไอโฟนตรงหน้ามาจิ้มๆ ที่หน้าจอ....คราวนี้มันมีปฏิกริยาด้วย!

ผมนั่งจิ้มนู่นกดนี่อยู่นานก็เข้าเมนูไม่ได้สักที ด้วยความไม่เคยเรียนรู้เทคโนโลยีของเจ้าสิ่งนี้ ทำให้ผมต้องวุ่นวายลุกไปเปิดคอมเข้าเน็ตเพื่อดูวิธีใช้ “มัน”

......

.....

....

...

..

.

ประมาณ 20 นาทีต่อมาผมก็เข้าเมนูมาได้

แต่หาเท่าไหร่ผมก็หารายชื่อที่เครื่องนี้มันเมมไว้ไม่เจอแฮะ....???

“ก็ทำถูกนี่หว่า แล้วเบอร์มันอยู่ไหนวะ?” ผมมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ผสมกับทำตามที่วีดีโอนั้นบอก

ผมทำซ้ำอยู่หลายครั้งมาก...จนโมโห

โมโหจน....หาวววว  :onion_asleep:

“น่าเบื่อว่ะ!” ผมโยนไอโฟนในมือไปบนเบาะโซฟา หันไปปิดเครื่องคอม

ผมจ่อมอยู่กับไอ้ก้อนสีดำนี่นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แต่ทีวีช่องที่ผมเปิดทิ้งไว้เริ่มจบช่วงข่าวและเข้าสู่ช่วงรายการอื่นกันแล้ว  เพราะเป็นอาทิตย์ที่ต้องทำงานวันเสาร์ด้วย วันนี้ผมจึงง่วงง่ายและเร็วกว่าปกติ

“ไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรไปถามไอ้เป้มันละกัน”

พอคิดได้เสร็จสรรพแล้ว ไฟจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ดับพอดี ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าโต๊ะคอมไปดึงปลั๊กไฟของโทรทัศน์กับเครื่องคอมออกจากเต้าเสียบ จากนั้นก็เดินไปปิดประตูรั้วหน้าบ้าน กับประตูหน้าของในบ้านเดินสำรวจชั้นล่างของบ้านจนแน่ใจว่าเรียบร้อยดีแล้ว ถึงค่อยเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน

ผมเดินเลี้ยวเข้าไปในห้องน้ำชั้นบน เพื่อแปรงฟันก่อนนอน

......

.....

....

...

..

.

สวดมนต์แบบย่อนะโมสามจบ กราบสามที แล้วผมก็ล้มตัวลงนอน

......

.....

....

...

..

.

ติ๊งต๊อง------ เสียงกริ่งหน้าบ้านดังรัว

ผมรีบผุดลุกขึ้น

ติ๊งต๊อง------ เสียงกริ่งหน้าบ้านยังดังรัวอยู่เช่นเดิม

“เชี่ย ใครแม่งมากดออดเล่นวะ?” ผมพูดพลาง สะบัดผ้าห่มออกไปจากตัว แล้วเดินไปเปิดไฟในห้องนอน

ผมแหวกมู่ลี่ที่หน้าต่างเพื่อมองว่าใครกำลังยืนกดกริ่งอยู่หน้าบ้านตัวเอง แต่ผมไม่เห็นหน้าของคนที่กดกริ่ง เพราะอีกฝ่ายยืนก้มหน้าอยู่

ติ๊งต๊อง------ เสียงกริ่งหน้าบ้านยังดังแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ผมถอนหายใจทิ้งแบบหัวเสียก่อนจะรีบสาวเท้าลงมาจากชั้นที่สอง


......

.....

....

...

..

.


ผมเดินปรี่ไปที่หน้าต่างของชั้นล่างซึ่งอยู่ข้างประตูบ้าน ยังไม่เดินไปนอกบ้านในทันที

ผมมองออกไปนอกรั้วบ้าน ด้านนอกฟ้าเริ่มสางนิดๆ แต่ก็ยังมืดอยู่ดี อาศัยความสว่างจากเสาไฟฟ้าที่ตั้งอยู่หน้าบ้านมองสำรวจผู้ชายคนหนึ่ง...ตัวสูงพอดู ผมยุ่งหน่อยๆ ใส่เสื้อแขนยาวขายาว กำลังยืนกดออดอยู่หน้าบ้านผมแบบมันส์มือเค้าล่ะ!!

“มาหาใคร!”
ผมส่งเสียงคำรามแบบดุเข้มถามชายคนนั้น ในใจน่ะอยากตะโกนถามว่า ----- กดหาพ่อมึงเรอะ!  :angry2:

“พี่!....พี่เก็บไอโฟนผมได้ใช่มั้ย? ของผม...ผมมาเอาของผมคืนน่ะครับ” ชายที่อยู่หน้าบ้านตะโกนบอกผม

ผมก็หน้าเหวอเลยสิ!.... ไอ้คนไม่รู้จักกาละเทศะที่มายืนกดออดหน้าบ้านคนอื่นแต่เช้าตรู่มันรู้ได้ไงว่าผมเก็บมือถือมันได้-----ไม่เข้าใจ?!

“คุณเป็นใคร? รู้ได้ไงว่าผมเก็บของของคุณได้” ผมตะโกนถาม ยังไม่ยอมเปิดประตูบ้านอยู่ดี กะจะยืนคุยอยู่ตรงหน้าต่างที่เดิมนั่นแหละ

“ผมจำพี่ได้ เลยเดินตามมา...." ผู้ชายหัวยุ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูรั้วของบ้านผมบอกด้วยน้ำเสียงร้อนใจ "พี่ผมรีบครับ ช่วยเอามันมาคืนผมที เร็วๆ เถอะครับ”

ผมรู้สึกหวาดระแวงจับใจ------ตามมาถึงบ้าน...ได้ไง??

สิ่งที่อีกฝ่ายพูดมันไม่มีที่มาที่ไปยังไงพิกล ผมจึงไม่ไว้ใจไอ้คนคนนี้.... “ไม่รู้ๆ ไว้มาวันหลังเว้ย! เอาหลักฐานมาให้ดูด้วยล่ะว่าตัวเองเป็นเจ้าของ มาพูดปากเปล่าเฉยๆ ได้ยังไงวะ”

พอผมพูดจบ ไอ้คนที่ยืนอยู่หน้าประตูมันก็เริ่มออกอาการคลั่ง...!!!!

มันเขย่ารั้วบ้านผมเสียงดังกึงกัง พร้อมทั้งรัวออดหน้าบ้านผมแบบถี่ยิบ ส่วนปากมันก็ร้องตะโกนแต่ว่า-----พี่...ผมรีบ....คืนผมเหอะ....พี่...ผมรีบ...ผมรีบ....

 o22 ผมขนลุกซู่ทันทีกับทุกการกระทำของไอ้คนที่อยู่หน้ารั้วบ้านผมในเวลานี้

ผมถอยหลังออกห่างจากหน้าต่างนั้นแบบอัตโนมัติ

สายตาผมเหลียวไปมองที่ประตูบ้านตัวเองเพื่อความแน่ใจว่ามันยังล๊อคดีอยู่มั้ย?...ซึ่งแม่กุญแจตรงประตูยังล๊อคมันเองไว้อย่างแน่นหนา

นอกจากเสียงกริ่งของบ้านผมกับเสียงตะโกนของไอ้บ้าหน้าบ้าน ผมยังเริ่มได้ยินเสียงโหวกเหวกของพวกลุงป้าน้าอาเหล่าเพื่อนบ้านที่ถามกันเป็นทอดๆ ประมาณว่า.....อะไร? เสียงดังอะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น? บ้านไหนเป็นอะไร?

ผมจึงใจชื้นขึ้นมาหน่อย

ว่าแล้วผมก็รีบเดินไปที่โทรศัพท์บ้าน กะว่าจะโทรไปตาม รปภ. ของหมู่บ้าน และขณะที่ผมกำลังกดตัวเลขที่สอง ผมก็ได้ยินเสียงกึงกังหนักๆ ที่รั้วบ้าน

ผมรีบเดินกลับไปที่หน้าต่างอีกครั้ง ทันใดนั้น....ใบหน้าสีขาวกับดวงตาสีน้ำเงินได้สะท้อนเข้ามาสู่นัยน์ตาทั้งคู่ของผม

“ไอ้เชี่ย!!!”
ผมอุทานด้วยความตกใจ ผมรู้สึกได้ถึงความเย็นซ่านจากทุกสัดส่วนของร่างกายตัวเอง

คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามผมโดยมีหน้าต่างกั้นกันไว้ ยกมือขึ้นพนมไหว้ผม พร้อมกับบอกผมว่า “ขอโทษครับพี่ ผมรีบจริงๆ ขอมือถือผมคืนเถอะนะ”

ผมยืนอึ้งอยู่กับที่ ตกใจกับการเข้ามาอย่างปัจจุบันทันด่วนของอีกฝ่าย แต่ในขณะเดียวกัน...ผมเริ่ม.....

ผมเริ่ม....จำเสียงนี้ได้

ผมเริ่ม...จำใบหน้านี้ได้

ผมเริ่ม...จำแววตานี้ได้

และในทันใดนั้นเอง “คลิ๊ก!” แม่กุญแจที่ประตูบ้านก็ปลดล๊อคตัวมันเอง.....!!!!!

 :sad3: ผมถลึงตาจ้องแม่กุญแจ พร้อมอาการขนลุกซู่ แม้ขนาดเส้นผมก็เหมือนยังลุกชูตามกันไปด้วย

“เหวออออออออ---------”
ผมร้องเสียงหลง พร้อมกับหันหลังแล้วรีบซอยเท้าวิ่งขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นสองแบบขาขวิด

......

.....

....

...

..

.


"แม่ง...อะไรวะเนี่ย?!!!!!"


......

.....

....

...

..

.

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
 o22 คนรึเปล่านั่น

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
เดี๋ยวก็ลืมโทรอีกแน่เลย

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
ทำไมง่า~~~
 
เป็นผีเหรอ??

รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
((ลุ้นนนนนน ))

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ดูหลอนๆ นะ
หลอนยิ่งกว่าในบันทึกอีก

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
......

.....

....

...

..

.

“ปั๊ง!” ผมปิดประตูห้องดังปึงใหญ่ พร้อมยืนอกสั่นขวัญแขวนหลังพิงประตู หายใจหอบกระชั้น

 “ก๊อก ก๊อก -----”
เสียงเคาะประตูดังรัว

 ผมดีดตัวผึงออกมาจากบานประตูนั้นราวกับสายฟ้าแลบ สายตารีบกวาดสำรวจที่บานประตูว่าล๊อคกลอนไว้ดีแล้วรึยัง...

เหี้ยแล้ว...ยังไม่ได้ล๊อค!!-----ผมกรีดร้องอยู่ในใจ  :sad3:

“ก๊อก ก๊อก -----”

เสียงเคาะประตูดังหนักขึ้นและถี่ขึ้นไม่ต่างกับจังหวะการเต้นของหัวใจผม

ผมกัดฟันวิ่งไปกดล๊อคที่ประตู เสร็จแล้วก็เลื่อนกลอนเหล็กขัดเข้าไปในช่องของมันด้วยมือที่สั่นระริก

“ก๊อก ก๊อก -----” เสียงเคาะประตูดังหนักขึ้น

ผมดีดผึงขึ้นไปนั่งแต้อยู่บนเตียงพร้อมอาการสั่น....ไปทั้งตัว

“ก๊อก ก๊อก -----”
เสียงเคาะประตูดังถี่ขึ้น

ผมคว้าผ้าห่มขึ้นคลุมโปง และทันใดนั้นเอง...

“กริ๊ก”  :m29:

“แกร๊ก”  o21

ผมได้ยินเสียงปลดล๊อคทั้งจากลูกบิดและกลอนประตูแบบชัดถนัดหู อย่างกับมันเกิดอยู่ข้างหูตัวเองอย่างไรอย่างนั้น

ผมหลับตาปี๋อยู่ในผ้าห่ม ปากผมสั่นแต่ผมก็ยังท่องนะโม นะโม...ไม่หยุดปาก

ตุบ!

สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างมีน้ำหนักหล่นปุ๊ลงมาบนเตียงที่ผมนั่งคลุมโปงอยู่

“เฮ้ย---------”
ผมร้องเสียงหลงทันทีที่มีสิ่งหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่เหนือหลังเท้าของตัวเอง......มันอุ่น และหนัก

และแล้วผมก็ทนไม่ไหว ผมสะบัดผ้าห่มที่คลุมโปงออกไปจากตัว กะว่า...เอาวะ กูสู้!

แต่ทันทีที่ผ้าห่มหลุดไปจากการครอบคลุมตัวผม ลูกนัยน์ตาของผมก็สะท้อนภาพหนึ่ง ------- ตัวงูสีขาวไซด์อนาคอนด้าตัวหนึ่ง....ไอ้อนาคอนด้าสีขาวตัวเบ้งโคตรๆ กำลังเลื้อยลำตัวมันอยู่เหนือพื้นห้อง เหนือเตียงของผม เหนือหลังเท้าของผม!!!!

ตัวผมเริ่มสั่นอย่างหนักแบบห้ามไม่อยู่.....และในชั่ววินาทีนั้นเอง ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ บริเวณใกล้แก้มด้านขวาของตัวเอง

ผมค่อยๆ หันหน้าไปทางนั้น

ผมสบตากับลูกแก้วสีน้ำเงินอันโตบนหัวของไอ้งูอนาคอนด้าสีขาว

“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกก------”
ผมร้องลั่นบ้าน พร้อมกับกระโดดลงมาจากเตียงด้วยความตกใจ

ประตูห้องเปิดอ้าอยู่!!!

ผมเห็น...ผมจึงวิ่งหน้าตั้งออกไป ผมสาวเท้าสุดชีวิตลงบันได แต่ขณะที่ผมวิ่งมาจนถึงช่วงพักครึ่งของช่วงบันได หูผมได้ยินเสียงดังลอยอยู่บนหัว----เสียงคน

“พี่...ขอของผมคืน...ผมรีบ...”

ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง ‘คนต้นเสียง’ ........ แต่สิ่งที่สะท้อนเข้ามาสู่นัยน์ตาผมคือ งูสีขาวโคตรพ่อโคตรแม่ใหญ่ กำลังแลบลิ้นอ้าปากอยู่ด้านบนของบ้าน หน้าห้องนอนของผม เหนือหัวของผม

มีแต่งูตัวนั้น!

ไม่มีคน!

ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอีก!

“เหวอออออ-------” ผมขวัญกระเจิงยิ่งกว่าเดิม

ทันทีที่ผมก้าวเท้าจะวิ่งลงบันไดต่อ ขาผมมันก็อ่อนแรง คล้ายกับว่าอยู่ดีๆ เรี่ยวแรงที่ผมมี....มันได้หายไปทั้งหมด

“ว๊ากก---------”
ผมร้องเสียงหลง พร้อมหลับตาปี๋เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังร่วงตกบันไดลงมา

และชั่วขณะที่ผมกำลังตกลงมานั้น หูผมได้ยินเสียงคล้ายระฆังดัง แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง.....ดังแบบน่ารำคาญ

......

.....

....

...

..

.

ดวงตาของผมฉายภาพของฝ้าเพดานสีขาว

หูของผมยังคงได้ยินเสียงของเหล็กกระทบกันดัง “แกร๊ง แกร๊ง----” 

คอของผมมีเหงื่อชุ่มโชก

หัวใจของผมเต้นระรัว

ตัวของผมชาวาบไปถึงปลายเท้า

ผมรู้สึกได้ถึงขนที่ลุกซู่อยู่บนทุกอณูของร่างกายตัวเอง

สมองของผมเริ่มประมวลผลอย่างช้าๆ

......

.....

....

...

..

.

ผมผุดลุกขึ้นมานั่งตัวชาได้ไม่นาน เสียงแกร๊งๆ ก็ดับไป

“เฮ้อ-----” ผมถอนหายใจพร้อมกับยกฝ่ามือขึ้นมากุมหน้าตัวเอง

ตั้งสติต่ออีกครู่หนึ่ง เสียงแกร๊ง ๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

ผมเอามือทั้งคู่ของตัวเองที่กุมหน้าตัวเองไว้ออก แล้วเหลียวมองหาต้นเสียงนั้น...

เมื่อพบว่าต้นเสียงแกร๊งๆ ไม่ได้อยู่ในห้องนอน ผมจึงลงจากเตียง เดินไปเปิดประตูห้อง

ยิ่งผมเดินลงมาใกล้ชั้นล่างของบ้านมาเท่าไหร่ เสียงแกร๊งๆ นั้นก็ยิ่งดังถนัดชัดหูมากยิ่งขึ้น

ปี๊ด----- เมื่อมือของผมกดปุ่มปิดบนมือถือ เสียงดังระรัวดังแกร๊งๆ จึงหยุดลงในทันที

ผมหันไปมองรอบตัว....ว่าง ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตอื่น นอกจากตัวผมเอง

 ผมหันไปมองประตูบ้านของตัวเอง....ทุกสิ่งยังคงอยู่เหมือนเดิม เหมือนตอนที่ผมทำไว้ก่อนขึ้นไปนอน

ผมหันกลับมามองเวลาที่หน้าจอมือถือในมือตัวเอง----- 5:30 น.

 “เฮ้อออ-----ฝันไปรึวะเนี่ย?” ผมลูบหน้าของตัวเองอีกครั้ง เพื่อปลุกปลอบใจให้ตนเอง

ด้วยฝันร้ายที่น่าขนลุกขนอพองสยองเกล้า ผมจึงกดมือถือโทรไปหาไอ้เป้ทันทีทันใดนั้นเลย

ผมเล่าความฝันของเมื่อกี้ให้มันฟังแบบละเอียดยิบ....เค้าว่ากันว่าฝันตอนเช้ารุ่งก่อนตื่นมักเป็นจริง!

แต่ไอ้เป้มันขำก๊ากกับความฝันของผมแบบไม่มีการเกรงใจกันทีเดียว.....

“เออ มึงไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก!!!” ผมกระแทกเสียงใส่ไอ้เป้

ไอ้เป้แม่งก็หัวเราะร่วนต่ออีกหน่อยก่อนจะพูดว่า “เชี่ยก๊อง มึงไปนอนต่อเหอะ กลัวเค้ามาทวงของคืนจนเอาเก็บไปฝัน คิดมากว่ะมึง เดี๋ยววันจันทร์กูดูให้ จบมั้ยว๊า? คิกคิก....”

“เออ เออ!” ผมกระแทกเสียงลงไปในโทรศัพท์ 

“คิก คิก คิก....งั้นพี่เป้ขอนอนฝันถึงที่รักต่อก่อนนะคร๊าบ บายคร๊าบไอ้เชี่ย” ไอ้เป้พูดจบก็ตัดสายไปเลย

......

.....

....

...

..

.

ผมหันไปมองที่นอกหน้าต่าง เพราะเริ่มได้ยินเสียงนกบินออกหากิน

กลิ่นชื้นของน้ำค้างโชยขึ้นมาเตะจมูกของผม

ผมนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาสักครู่แล้วจึงค่อยเดินไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่าง เพื่อล้างหน้าแปรงฟัน

เสร็จจากธุระส่วนตัวนี้แล้วก็ตรงเข้าไปยังครัว เปิดตู้กับข้าว หยิบโถใส่ข้าวสารออกมาวางที่โต๊ะ แล้วเริ่มกระบวนการหุงข้าว

กดหม้อหุงข้าวเรียบร้อย ก็เดินกลับขึ้นไปที่ชั้นบนเพื่อเอาตะกร้าผ้าลงมาชั้นล่าง

พอมาถึงหน้าเครื่องซักผ้าแล้ว ก็คว่ำตะกร้า เทผ้าทั้งหมดออกมากองบนพื้น

นั่งยองๆ เลือกเอาถุงเท้ากับเสื้อกล้ามยัดใส่ถุงตาข่าย จากนั้นก็ยัดผ้าที่เหลือทั้งหมดใส่ถัง ตั้งเวลาให้เครื่องซักผ้า ใส่ผงซักฟอกแล้วกดสั่งซัก

อยู่คนเดียวผมไม่รู้จะแยกผ้าทำไม เพราะมันมีน้อยชิ้นมาก ขนาดเก็บไว้ซักวันหยุดทีเดียวมันก็เหมือนไม่เต็มถังดีเลย

เสร็จจากเอาผ้าเข้าเครื่องซักผ้า ผมก็เดินไปเปิดตู้เย็น...ในนั้นไม่มีอะไรเลยยกเว้นข้าวผัดคะน้าหมูกรอบกล่องหนึ่งที่ซื้อติดมือเข้ามาด้วยเมื่อคืน กะเอาไว้กินตอนเช้า

ผมเดินกลับไปเปิดตู้กับข้าว เห็นถุงวุ้นเส้นห่อนึง กับไข่สด 2 ฟอง.... พอทำแกงจืดไข่น้ำได้ แต่พอหยิบไข่ออกมาวางจริง ใจมันกลับไม่นึกอยากซะงั้น ว่าแล้วผมก็เปลี่ยนใจ

ผมเดินไปที่หน้าบ้าน

พอเห็นประตูบ้านที่ล๊อคแม่กุญแจไว้อย่างเรียบร้อยเป็นปกติเหมือนเช่นทุกๆ วันแล้วผมรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด

ด้วยความทรงจำจากในฝันที่ยังคงชัดอยู่ในหัว ทำให้ผมเดินไปเลิกผ้าม่านที่หน้าต่างข้างประตูก่อนเป็นอย่างแรก

ไม่มีสิ่งใดอยู่ด้านนอกประตู หรือภายในรั้วบ้านของผม ยกเว้นต้นไม้หลายกระถางกับม้านั่งยาวที่ทำจากไม้อันหนึ่ง ตู้รองเท้าหนึ่งตู้ และรถจักรยานทรงสำหรับแม่บ้านหนึ่งคัน

"เฮ้อ......" ผมถอนหายใจทิ้งด้วยความโล่งใจ

ผมเดินกลับไปที่โต๊ะคอม หยิบกุญแจบ้านและกระเป๋าเงินใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อนอน

ไขแม่กุญแจเปิด ผลักมุ้งลวดและประตูไม้เปิดแล้วเดินออกไปข้างนอก จากนั้นก็ปิดมุ้งลวดและประตูไม้ด้วยแม่กุญแจอันเดียวกับที่เพิ่งปลดล๊อกจากในบ้านเมื่อกี้

เมื่อล๊อคบ้านเสร็จแล้วผมก็คว้าเอารถจักรยานทรงแม่บ้านออกไปจากรั้วบ้าน และปั่นมันไปในซอยของหมู่บ้านที่ลึกกว่าที่ตัวเองอยู่ไปประมาณครึ่งหมู่บ้าน เพื่อหากับข้าวแปลกใหม่

......

 .....

....

...

..

.

“ยะถา---------------” เสียงให้พรจากหลวงพี่ดับความร้อนรุ่มในหัวของผมได้เป็นอย่างดี

กรวดน้ำเสร็จผมวางพนมมือรับพรต่อจนหลวงพี่กล่าวให้พรจบ ธุหลวงพี่แล้วปิดฝาถ้วยที่รองน้ำให้สนิท เงยหน้าขึ้นไปอีกที เห็นหลวงพี่กำลังเข็นรถเข็นเอง *0*

“อ้าว วันนี้มาองค์เดียวเหรอครับหลวงพี่” ผมเอ่ยถาม

“จ้า” หลวงพี่หันมายิ้มให้พร้อมตอบสั้นๆ

“งั้นผมช่วยเข็นนะครับ” ผมเสนอตัวเข็นรถให้หลวงพี่ไปบิณฑบาตรในหมู่บ้าน

“โยมไม่มีธุระปะปังเหรอ?” หลวงพี่ถาม

“อ๋อ ไม่มีครับ วันนี้กะอยู่บ้านเฉยๆ” พูดจบผมก็หันไปเก็บเครื่องใช้ในการกรวดน้ำไว้ในตระกร้าจักรยาน จากนั้นจึงรีบซอยเท้ามาที่รถเข็นของหลวงพี่

“ขอบใจนะโยม” หลวงพี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม แล้วเดินอุ้มบาตรเดินนำไป

ปกติหลวงพี่จะมีเด็กวัดมาช่วยเข็นรถด้วย แต่ก็มีผมเห็นหลายครั้งที่หลวงพี่มาองค์เดียว ซึ่งท่านต้องทั้งอุ้มบาตร ทั้งเข็นรถไปด้วย เก้กังน่าดู และหลายครั้งที่ว่าผมก็มักได้เห็นผู้ชายในหมู่บ้านขออาสาเข็นรถให้หลวงพี่ แต่ไม่เคยมีมาถึงผมสักกะที อยู่ที่นี่มาก็ตั้งหลายปีแล้ว เพิ่งได้โอกาสนี้ก็วันนี้เอง ^^ (หรือเรียกอีกอย่างก็มี กระผมไม่ค่อยได้ใส่บาตรนั่นเอง)

จะว่าไปผมก็เรียนอยู่แถบรังสิตมาตลอดจนจบการศึกษาเลยนะครับ ถึงปีแรกต้องอยู่หอใน แต่ปีต่อมาผมกับเพื่อนๆ ก็มาแชร์เช่าบ้านหลังที่อยู่ปัจจุบันนี้กัน เรียนจบต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานที่อื่นกันหมด เหลือผมคนเดียวที่ยังอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยน

กับชีวิตการทำงาน...ตั้งแต่เรียนจบ ผมเปลี่ยนงานมาแล้วหลายบริษัทมาก แต่ผมก็ยังยืนหยัดกับการอยู่ที่ตรงนี้

ถึงช่วงแรกผมเคยมีความคิดว่าจะย้ายไปอยู่ที่ที่ใกล้ที่ทำงาน แต่เมื่อมาคิดถึงว่าผมจะอยู่บริษัทนั้นรอดไปจนถึงเมื่อไหร่?.....ก็ไม่มีใครให้คำตอบผมได้ แม้กระทั่งตัวผมเอง

ผมจึงเลือกที่จะทารุณตัวเองในไปการทำงานไปก่อน เพราะในความลำบากนั้นช่วยให้ผมไม่ต้องไปเสียเงินค่ามัดจำหอใหม่ ค่ารถในการขนย้ายของ...ในทุกครั้งที่เปลี่ยนที่ทำงาน

และเวลาที่ผ่านไปเป็นตัวบอกผมว่าผมตัดสินใจไม่ผิด...

ผมเปลี่ยนงานบ่อย ส่วนใหญ่ยังผ่านโปรสามเดือนผมก็ย้ายที่ใหม่แล้ว

ผมคิดว่าหลายงานที่ไปทำมันไม่เหมาะกับตัวเอง ถึงกลั้นใจทำเพื่อเงิน แต่พอมันไม่น่าสนใจผมก็เบื่อ และไม่มีความสุขกับงานที่ทำ ถึงงานบางอย่างน่าสน แต่มันต้องเรียนรู้มากเกินสมองผมจะรับได้ ผมก็โบกมือลามันอีก.....

ไม่มีความพอดีให้กับผมเลย ดังนั้นผมจึงหาตัวเองอยู่ราวๆ 2 ปีแน่ะ ถึงได้มาอยู่ที่บริษัทในปัจจุบันนี้

ที่ทำงานในปัจจุบันของผมให้เลือกเวลาทำงานได้เอง หากอยากหยุดงานวันเสาร์อาทิตย์ก็ให้เข้างาน 8.00-18.00 น. หรือจะเลือกเข้างานตั้งแต่ 9.00 - 17.00 น. ทำเสาร์เว้นเสาร์ และหยุดทุกวันอาทิตย์ก็ได้

ส่วนใหญ่ผมมักเลือกแบบอย่างหลัง...มันเป็นตารางเวลาในแบบที่ผมชอบ (ตารางแบบแรกผมมักขอใช้สิทธิ์ในช่วงเดือนหน้าฝน)

เดินเข็นรถเข็นช่วยหลวงพี่ได้ประมาณเกือบชั่วโมง ส่งหลวงพี่ขึ้นรถแล้วผมก็ปั่นจักรยานไปกรวดน้ำ จากนั้นก็ปั่นทั้งที่เหงื่อชุ่มหลังมาถึงบ้านจนได้ ตัวเปียกอย่างกับไปวิ่งมาราธอนมาเลยล่ะครับ ลุงป้าน้าอาที่เดินเล่นแถวบ้านถามผมกันให้ควั่กว่าไปออกกำลังมาเหรอ ผมก็ตอบไปตามจริงว่า....ไปช่วยหลวงพี่เข็นรถมา ^^

โอภาปราศัยกับเหล่าเพื่อนบ้านเล็กน้อย จากนั้นผมก็เข้าบ้าน.... เดินตรงไปยังหลังบ้าน แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ผ้าที่เอาลงเครื่องไว้กำลังปั่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม

ผมเดินไปกดกาน้ำร้อน เตรียมชงกาแฟไปนั่งกินกับปาท่องโก๋หน้าทีวี ต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยก่อนน้ำจะเดือด ผมเลยเดินกลับมาหน้าบ้าน รวบผ้าม่านของชั้นหนึ่งทั้งหมด เพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามาในตัวบ้าน 

เมื่อทีวีเริ่มฉายภาพ ผมยืนกดวนไล่ไปทีละช่อง วนไปมาสองสามรอบก่อนจะหยุดอยู่ที่รายการหนึ่งที่คิดว่าน่าสนใจสำหรับเช้านี้

ปี๊ด!------- เสียงกาน้ำร้อนดัง

ผมละความสนใจจากภาพในทีวีแล้วเดินเข้าไปในครัว ตักผงกาแฟ 2 ช้อนลงที่ชงกาแฟ เทน้ำร้อนลงไป ปิดฝา ทิ้งมันไว้ในน้ำร้อนในเวลาพอเหมาะ ฆ่าเวลาด้วยการหันไปเอาปาท่องโก๋จัดใส่จานรองแก้วกาแฟ เดินเอาจานปาท่องโก๋มาวางหน้าทีวี แล้วเดินกลับมาหยิบแก้วตักครีมเทียมกับน้ำตาลตามใจชอบ เท่านี้ก็ได้เวลาพอดีกับที่กาแฟอุ่นตัว

เดี๋ยวกินมื้อเช้าเบาๆ เสร็จ (ข้าวผัดกระเพราหมูกรอบ ตามด้วยกาแฟกับปลาท่องโก๋) ก็ถึงเวลาตากผ้า

ตากผ้าเสร็จก็มานอนรอผ้าแห้งบนโซฟานุ่มๆ

 o7 นี่ไงล่ะ...ชีวิตสบายๆ ในวันหยุดที่ผมใฝ่หา...สุขีจริงๆ เลยคุณเอ๊ย!

ในวันหยุด นอกจากซักผ้ารีดผ้าแล้ว ผมก็นอนกลิ้งเกลือกอยู่แต่ในบ้าน เบื่อนักก็เปิดคอมมานั่งอ่านนิยายสักที บางทีบ่ายแก่ๆ ก็ออกไปซื้อของเข้าบ้าน แต่ไม่ได้ไปทุกอาทิตย์หรอกครับ ของหมดถึงไปที

นานๆ ครั้งถึงออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ทั้งกลุ่มไอ้เป้เพื่อนที่ทำงาน ทั้งกลุ่มเพื่อนสมัยอยู่มหาลัย วันหยุดยาวไหนหากเพื่อนรวมตัวกันไปเที่ยวแล้วผมขอบาย พวกมันก็ไม่โกรธ เพราะพวกมันเข้าใจถึงการเป็นคนปลีกวิเวกของผมกันดี

สนุกความความโสด มีความสุขกับอยู่คนเดียว....ผมคิดว่าผมเป็นคนแบบนั้น

อ้อ! ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแฟนนะครับ แต่เหนื่อย.... ทำไมมีแฟนแล้วต้องนอนไม่พอ เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ลำบ๊ากลำบากไปซะทุกอย่างก็ไม่รู้

เคยบ่นกับเพื่อน พวกมันก็บอกว่าเรื่องปกติ เหนื่อยแต่สุขใจ... แต่ไหงผมไม่เคย “สุขใจ” แบบที่พวกมันพูดถึงเลยสักที

ยัดปาท่องโก๋สามตัวลงท้องแล้ว นั่งดูรายการในทีวีไปพลางจิบกาแฟจนจะหมดแก้ว ก็มีเสียงผู้หญิงสาวร้องเรียกผมอยู่หน้าบ้าน

“กั๊ก กั๊ก อยู่มั้ย?”

“ครับ ครับ” ผมลุกขึ้นจากโซฟา เปิดประตูออกไปข้างนอก เดินไปที่รั้วบ้าน

“พี่ขอกระเพราหน่อยนะ” คุณน้าที่อยู่ซอยใกล้ๆ กันบอก

“เอาเลยครับ ตามสบายเลย” ผมบอก

“ขอบใจจ้า กั๊กนี่มือเย็นเนอะ ปลูกอะไรก็งาม” คุณน้าชมเปราะพลางค่อยๆ เด็ดใบกระเพราใส่กระจาดสานเล็กๆ ในมือ

 โอภาปราศัยกับเพื่อนบ้านตามมารยาทอีกนิด ผมก็ขอตัวเข้าบ้านโดยบอกว่าจะไปดูผ้าที่ซักไว้ในเครื่อง แล้วปล่อยให้คุณน้าเค้าค่อยๆ เลือกเด็ดไปตามสบาย ไม่ยืมคุมอะไรครับ

ต้นผักที่ขึ้นได้ง่ายๆ หน้าบ้าน ผมได้ต้นกล้ามาจากบ้านตจว.ทั้งนั้นครับ พ่อผมเค้าไปเข้าสมาคมเกษตรอะไรสักอย่าง แล้วก็เพาะนู่นนี่เล่น มีเยอะเลยเอามาแบ่งให้ผมปลูกในกระถางหน้าบ้าน แจกจ่ายแถวบ้านก็มี แต่หลายบ้านปลูกแล้วตาย เหลือไม่กี่บ้านเท่านั้นที่ขึ้นงามเหมือนๆ ของผม

 ไอ้ผมไม่ใช่ว่าปลูกเป็นหรอกนะครับ พ่อเค้าเอาลงกระถางให้เสร็จสรรพ เอาปุ๋ยเอาดินมาทิ้งไว้ให้ ถึงเวลาใส่ปุ๋ย (ใส่ช่วงเดียวกับที่บ้าน) พ่อเค้าก็จะโทรมาบอกผมที ผมก็อาศัยช่วงว่างในวันหยุดติดกันเสร์อาทิตย์ใส่ปุ๋ยใส่ดินตามพ่อสั่ง ก็แค่นั้นล่ะครับ แล้วมันก็โตของมันเอง ซึ่งเพื่อนบ้านบอกว่าเก่ง ผมคิดว่าไอ้ตัวผมไม่ได้เก่งอะไรเลยครับ แค่รดน้ำใส่ปุ๋ยตามพ่อสั่งเท่านั้น

......

 .....

....

...

..

.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
หุหุ มีฝันเห็นงูด้วย
เนื้อคู่เปล่า ฮ่าๆ

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
555555555555555555 ถึงกับเอาไปฝัน !
เนื้อคู่ชัวร์อะอย่างงี้.

ว่าแต่เมื่อไหร่จะได้คืนโทรศัพท์เนี่ยยย  :laugh:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
ตามเม้นมันทุกรีพายเลยแงะ

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
ฝันซะน่ากลัวเชียว :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
มันเป็นใคร ...
อะโถ ฝันเป็นตุเป็นตะ
งูเผือก เนื้อคู่เป็นคนนั้นแหง ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2012 20:04:59 โดย malula »

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: ซีรีย์ บังเิอิญ ....[สวนทาง] --- 02
«ตอบ #26 เมื่อ29-09-2012 10:22:00 »

02





“แกร๊ง แกร๊ง------”

เสียงนาฬิกาปลุกแผดเสียงอยู่บนหัวของผม ผมลืมตาพรึ่บขึ้นมา รู้สึกได้ถึงความเย็นวาบของเหงื่อบนผิวที่โดนลมจากพัดลม

ปี๊ด-- ทันทีที่นิ้วโป้งกดปุ่มหนึ่งบนมือถือ เสียงตีระฆังพลันหยุดลง

“เฮ้อ.....” ผมลุกขึ้นมาแล้วลูบหน้าตัวเองแบบอ่อนแรง...ผมฝันร้ายมาสองคืนติดกันด้วยความฝันแบบเดิม

......

.....

....

...

..

.






















































































“ปากซอยครับพี่” ผมบอกพี่วินแล้วค่อยก้าวขึ้นไปซ้อนท้ายเขา

ปกติผมจะปั่นจักรยานไปทิ้งไว้หน้าหมู่บ้าน ขากลับก็ปั่นกลับมา แต่วันนี้ไม่ไหว เหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม มันเพลียยังไงพิกลไม่รู้สิครับ...ต้องโทษให้เจ้าของไอโฟนเครื่องนี้ มันเข้าฝันผมติดๆ กันสองวันซ้อน...ตื่นมาเลยเหมือนไม่ได้นอน ทรมานสุดๆ!

“อนุสาวรีย์จ้า อนุสาวรีย์------”

ทันทีที่ผมลงจากรถมอเตอไซด์ เสียงเจื้อยแจ้วของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาทางด้านหลังของผม ผมรีบจ่ายเงินแล้วหันหลังเดินจ้ำไปขึ้นรถตู้คันนั้น วันนี้ผมตื่นสายกว่าปกติ แถมยังเป็นวันจันทร์ด้วย เมื่อออกมาถึงถนนใหญ่ในเวลานี้รถจึงเริ่มไม่คล่องตัวซะแล้ว ...ผมต้องรีบทำเวลา!!

......

.....

....

...

..

.

ผมได้นั่งที่นั่งเดี่ยวฝั่งเดียวกับประตูรถ ที่ที่ผมชอบ ผมอมยิ้มให้ตัวเอง อย่างน้อยวันนี้ก็มีสิ่งดีๆ กับผมบ้าง

เมื่อรถตู้เริ่มออกตัว ผมก็นั่งนิ่งฟังเพลงไปอย่างสบายอารมณ์ ข่มตัวเองให้ลืมฝันขุ่นมัวของเมื่อสองคืนก่อนไป ทำใจให้สดชื่นก่อนเริ่มสู้กับงานในอาทิตย์ใหม่

รถตู้ค่อยๆ หมุนล้อไปตามกระแสของรถยนต์ที่เบียดเสียดกันอยู่บนท้องถนน

ผมมองภาพผู้คนตามริมทางนอกหน้าต่างไปอย่างเลื่อนลอย แอร์เย็นฉ่ำของรถตู้กับเพลง Angel ของซาร่าห์กำลังกล่อมผมให้หลับ

......

.....

....

...

..

.

“รังสิต ฟิวเจอร์ ป้ายนี้นะจ๊ะ”

ผมสะดุ้งตื่นมาอีกครั้งด้วยเพลงในหูฟังถึงช่วงท้ายและเสียงตะโกนของผู้หญิงวัยกลางคนบนรถตู้ .... คนในรถสองคนที่นั่งด้านในค่อยๆ เดินไปที่ประตู

ผมขยี้ตาตัวเอง แล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง...รถมาจอดที่หน้าเมเจอร์

พอเห็นร้านขายขนมปังปิ้งแล้วพยาธิในท้องมันก็เริ่มตื่น

ผมเบือนสายตาไปจากของกิน ทอดสายตาไปยังผู้คนที่ยืนชะเง้อคออยู่ข้างทาง

รถตู้คันที่จอดอยู่เฉียงไปด้านหน้าขับออกไป แล้วรถตู้คันที่ผมนั่งอยู่จึงหักพวงมาลัยไปเทียบที่ว่างนั้น พร้อมกับหาผู้โดยสารอีกสองคนเพื่อให้รถเต็ม

ผมเหม่อมองกระเป๋าเป้สีดำบนหลังของผู้ชายสูงโย่งคนหนึ่งด้วยสายตาเป็นมัน....เป้ใบนั้นสวยเตะตามาก เรียกได้ว่าโดนใจผมสุดๆ ผมจึงยื่นหน้าไปชิดหน้าต่าง เพื่อควานหายี่ห้อของมัน

“พี่จอดตรงไหนคะ?” เด็กสาวคนหนึ่งเดินมาถามที่หน้าประตูรถ

“ฝั่งราชวิถีจ๊ะ” หญิงวัยกลางคนตอบแบบอารมณ์ดี

“แกไปมั้ย? ราชวิถี” เด็กสาวที่ถามหันไปถามเพื่อนคนยืนอยู่ข้างหลังตัวเอง

“เออๆ ได้ๆ”

แล้วผู้หญิงวัยรุ่นสองคนค่อยๆ เดินขึ้นมาในรถ

จนกระทั่งเวลานี้ผมก็ยังหายี่ห้อของเป้สีดำไม่เจอ แถมไอ้คนที่สะพายเป้มันก็ดันหมุนตัวกลับมาซะได้

“จิ๊!” ผมจิ๊ปากกับตัวเองแบบเสียอารมณ์

“ปึ้ง!” เสียงประตูรถตู้คันที่ผมนั่งอยู่ปิด แล้วรถตู้ที่ผมนั่งก็ค่อยๆ เริ่มหันหัวเบนขวาออกไป

เจ้าของเป้สีดำใบนั้นสูงพอดู วัดจากสายตาน่าจะ 180 ได้ แถมผิวยังขาวจั๊วะด้วย....ผมมองชายคนนั้นพลางหยิบกระดาษในกระเป๋าออกมา ผมละสายตาจากเจ้าของเป้ใบงาม แล้วก้มหน้าลงมาจดรูปร่างหน้าตาของเป้ที่ตัวเองเพิ่งเห็น พลางคิดอยู่ในใจว่า อาจเป็นของนอก เพราะเจ้าของเป้คนเมื่อกี้ตาสีน้ำเงิน

ผมพยายามนึกรูปร่างของเป้แล้วร่างมันลงกระดาษ ทว่า....อยู่ดีๆ หัวของผมมันก็นึกไปถึงหน้าของเจ้าของเป้ใบนั้นขึ้นมาซะได้----- ประหลาด ดูเผินๆ ก็เหมือนคนไทยที่ผิวขาวแบบมีเชื้อสายจีน ตาคิ้วจมูกปากก็สีดำเข้มค่อนมาทางคนเอเชีย แต่สีของตาดันผ่าไปมีสีน้ำเงิน สงสัยจะเป็นลูกครึ่ง.......................................................................!!!!!!

......

.....

....

...

..

.

ผมเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษที่ร่างภาพ

ผมหันไปมองนอกหน้าต่าง

ไม่พบผู้ชายตัวขาวตาสีฟ้าคนนั้นแล้ว ก็แน่ล่ะเพราะรถตู้ที่ผมกำลังนั่งอยู่มันกำลังทะยานขึ้นมาบนทางด่วน!!!

ถึงผมไม่แน่ใจว่าใช่เจ้าของเครื่องไอโฟนที่อยู่กับผมรึเปล่า แต่ลักษณะของอีกฝ่ายดูคุ้นตาผมมาก และมันคงไม่ผิดอะไรเลยหากผมจะเดินลงไปถามเค้าว่า อาทิตย์ก่อนคุณทำมือถือหายรึเปล่า?.....แค่นั้นเอง!

แต่กับอีแค่เสียเวลาเล็กน้อยไปแล้วอาจได้คืนเครื่องเจ้ากรรมให้เจ้าของเค้าไปซะ ผมก็ทำไม่ได้...ทางด่วนนี้พุ่งตรงจากรังสิตไปยังเป้าหมายแรก-------อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

......

.....

....

...

..

.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2012 10:59:09 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: ซีรีย์ บังเิอิญ ....[สวนทาง] --- 02
«ตอบ #27 เมื่อ29-09-2012 12:15:39 »

สวนทางกัน
จริงๆ!!

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ซีรีย์ บังเิอิญ ....[สวนทาง] --- 02
«ตอบ #28 เมื่อ29-09-2012 12:21:53 »

แหม...สวนทางกันไปมา
เจ้าของเครื่องก็ไม่ยักโทรตามแฮะ

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


......

.....

....

...

..

.

ขาคู่หนึ่งในกางเกงแสลคสาวจ้ำไปยังโต๊ะทำงาน เจ้าของขาคู่นั้นเห็นเพื่อนสนิทกำลังนั่งดื่มแลตตาซอยพลางเช็คเมลส่วนตัวอยู่ เขาจึงเริ่งฝีเท้าเข้าไปหา

“ไอ้เป้!”

“ฮื๊อ!”  คนที่ดื่มแลตตาซอยหันมาทำตาโต

“กูเจอเจ้าของเครื่องเวรนี้แล้วว่ะ” ผมลากเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ โต๊ะทำงานของไอ้เป้มานั่ง

“เหรอ!...คืนยังล่ะ?” ไอ้เป้ทำเสียงตื่นเต้น

“ยัง... เฮ๊อ!” ผมถอนหายใจทิ้ง

“อ๊าว!” ไอ้เป้แหกปากด้วยความงง

“เวรกูแท้ เนี่ยกูเจอตอนกูนั่งอยู่ในรถตู้ พอกูนึกหน้ามันออก รถตู้แม่งก็ขึ้นทางด่วนมาแล้ว เชี่ย! ขัดใจว่ะ!” ผมพ่นรัวชนิดลืมหายใจ

“.....เอ่อ ขอทวนซ้ำอีกครั้งครับก๊อง พี่เป้ฟังไม่ทัน”

ผมถอนหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะค่อยๆ เล่าสิ่งที่เจอเมื่อเช้าให้ไอ้เป้ฟัง แถมตอนท้ายพอเล่าเรื่องตอนเช้าจบ ผมยังเล่าความฝันของเมือคืนแถมให้ไอ้เป้ด้วย พอเล่าจบมันก็ว่าผมคิดมากเลยเก็บเอาไปฝัน...เหมือนเดิม

“รู้สึกไม่ดีเลยว่ะมึง อยากรีบๆ คืนแม่งไปซะ กูอยากนอนให้สบายๆ” ผมบ่นกับไอ้เป้

“เอาเครื่องมามั้ยล่ะ?” ไอ้เป้ถามพร้อมกับยื่นมือข้างที่ไม่ได้ถือกล่องแลตตาซอยออกมาแบ

“เอามาๆ เดี๋ยวนะ...” ผมก้มลงไปเปิดกระเป๋าสะพายของตัวเอง ค้นคุ้ยสักอึดใจก็ควานเจอมัน “หาเบอร์ในเครื่องให้กูที แล้วมึงจัดการโทรไปเลยนะ วันนี้กูมีประชุมทั้งวัน ไม่ว่างว่ะ” ผมบอกแกมสั่ง ไอ้เป้ก็พยักหน้าอือๆ รับปาก

เห็นมันขยันขันแข็งช่วยผม ผมก็เริ่มสบายใจ

หลังจากเอามันส่งให้ไอ้เป้ไปจัดการแล้ว ผมก็กลับมาทำงานของตัวเอง เตรียมเอกสารเพื่อเข้าประชุม...

......

.....

....

...

..

.

บ่าย 4 โมงครึ่ง

ผมเดินกลับมาที่โต๊ะของตัวเอง เห็นโน้ตที่ไอ้เป้เขียนไว้ว่า ถ้ากลับมาแล้วโทรหามันด้วย

ผมก็งงว่าจะโทรหาทำไม มันก็นั่งถัดจากผมไปกี่โต๊ะ แต่พอมองหาตัวมันที่โต๊ะทำงานของมัน กลับไม่เจอหลังของไอ้เป้...?

“คม ไอ้เป้ไปไหนน่ะ?” ผมถามรุ่นน้องในแผนกเดียวกันที่กำลังจะเดินออกมา

“อ๋อ ไปตรวจโกดังครับพี่กั๊ก ไปตั้งกะบ่ายโมงแล้ว” คมบอก

“แล้วอ้าว แล้วมันจะเข้ามาอีกมั้ยเนี่ย?” ผมถามแกมบ่น ก็รู้ล่ะว่า โกดังมันอยู่ไกลถึงสมุทรปราการ ปกติ หากออกไปตอนบ่าย ไม่มีพนักงานคนไหนย้อนกลับมาที่ออฟฟิศอีกหรอก แต่...ของของผมอยู่ที่มัน ผมกังวลแค่นี้

“ไม่เข้าหรอกพี่ เอากระเป๋าไปด้วยแล้ว ไมหรอพี่กั๊ก?” คมเอียงคอเหมือนสงสัย

“เปล่าหรอก เมื่อเช้าพี่ฝากของไว้กับมันน่ะ ไม่มีไรคม เดี๋ยวพี่โทรมันเอง แต๊งค์นะ” ผมส่งยิ้มให้คม แล้วยกมือตบบ่ารุ่นน้องหนักๆ สองสามทีเป็นการขอบใจ

“ครับ” คมพยักหน้านิดๆ แล้วส่งยิ้มให้ จากนั้นก็เดินออกไปจากแผนกพร้อมแฟ้มสีดำอันใหญ่สองอัน

ผมเดินกลับมาที่โต๊ะตัวเอง ล้วงเอามือถือในกระเป๋ากางเกงออกมา กดเบอร์ไอ้เป้ รอสายไม่นานเท่าไหร่ ไอ้เป้ก็รับสาย

ไอ้เป้รายงานว่า ไอโฟนที่ผมเก็บมาได้มันเป็นเครื่องเปล่า ไม่มีซิม ไม่มีรายชื่อบันทึกไว้ที่เครื่องด้วย...ได้ยินแล้วผมก็หน้าเวหอไปทันที

“เชี่ยแล้ว แล้วกูจะทำไงวะ?” ผมคราง

“ก็......ส่งให้ตำรวจ ให้หาเจ้าของ จบ” ไอ้เป้บอก

“แหม...เมื่อไหร่จะถึงมือเจ้าของล่ะวะ เชี่ยเอ๊ย แค่ของอยู่กับกู กูยังเอาไปฝันได้ขนาดนี้ หากไม่ได้คืนเจ้าของเอง แล้วของไม่ได้อยู่กับตัว กูคงประสาทแดก” เฮ้อ---ของเล็กน้อยแบบนี้ มันไม่ใช่ของที่จะประกาศหาตัวเจ้าของมารับได้ง่ายๆ นา

“งั้นมึงก็ทำกระดาไปแปะตามเสาไฟฟ้าหาเจ้าของ เหมือนตามหาหมาหายดิ” ไอ้เป้ออกไอเดียใหม่

“ไอ้เป้ ธุระกูมั้ย? ทำไมกูต้องเสียเงินเสียเวลาทำแบบนั้นวะ?” ผมขี้เกียจและงกเข้าครอบงำ

“ฮึ๊ย---- แล้วมันจะเหลือวิธีไหนอีกล่ะวะก๊อง รึมึงจะไปยืนหน้าเมเจอร์ให้ตัวดำรอไอ้เจ้าของมันมาขึ้นรถตอนไหนก็ไม่รู้ ห๊า--” ไอ้เป้เริ่มหัวเสีย

ก็จริงของไอ้เป้ *0* “.......เป้ๆ มึงเอาไปโฟสหาเจ้าของในพันทิปทีดิ๊ เฟชบุ๊คมึงก็ได้ เผื่อฟลุ๊ค”

“ก๊อง มึงจะเอาชื่อกูไปโชว์โง่ที่พันทิปทำซากอะไร เชี่ย เดี๋ยวเค้าก็ด่าแม่งหรอกว่า คุณครูไม่สอนหรือไงว่าเก็บของได้ต้องเอาไปให้ตำรวจหาเจ้าของน่ะ” ไอ้เป้ใส่ไม่ยั้ง

“ก็กู.....”

ผมยังพูดไม่ทันจบไอ้เป้ก็สวนขึ้นมาก่อน

“ก๊อง แค่นี้ก่อนนะมึง ทำงานก่อน เดี๋ยวเลิกงานเกินเวลา”

ไอ้เป้ทำท่าเหมือนจะวางสายทั้งที่ผมยังคาใจสุดๆ อยู่ ผมเลยยังไม่ให้มันวาง “เดี๋ยวๆ มึงจะให้กูทำไงต่อ เอาไงต่อ ไอ้เป้ อย่าเพิ่งวางนะมึง เชี่ยเดี๋ยวคืนนี้กูนอนไม่หลับ”

“ไว้ค่อยคิด ก๊อง...ไว้ค่อยคิด แค่นี้นะมึง” ไอ้เป้ทำเสียงเอือมระอา

“เป้ เดี๋ยวมึง ด๊ะ.....เชี่ย ยังไม่รู้เรื่องเลย” ผมขมวดคิ้วมองมือถือของตัวเอง

สักพักใหญ่ผมก็เริ่มตั้งโจทย์ไว้ในใจ----ติดต่อหาเจ้าของไม่ได้ แล้วควรทำอะไรต่อ?

......

.....

....

...

..

.



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด