ไอ้!!#@$#@$%@#@!!!
ไอ้บ้า!! ไอ้หน้าด้าน!!
มันบอกแม่มันว่ามันไปฝังเข็มกับผมครับ แล้วมันก็จูงมือผมชิ่งเดินจากแม่มันที่เอียงคอมองตามไล่หลังมา เธอคงเข้าใจว่าลูกชายของเธอหันไปหาคอสฝังเข็มลดหุ่นลดกระชับสัดส่วนอะไรทำนองนั้น
แต่ขอโทษทีเถอะ!! ฝังเข็มที่ไอ้คุณชายมันพูดน่ะคนละความหมายกันเลยขอบอก!!
“นายไปเล่าอะไรให้แม่นายฟังน่ะ!?”
ผมดึงมันมาถามครับหลังจากเราขึ้นมาตรงชั้นสองที่เป็นโซนสปาของบ้าน ไอ้คุณชายมันเพิ่งให้คนเข้าไปจัดเตรียมห้องสปาเอาไว้ให้แล้วพาผมมาตรงที่เปลี่ยนเสื้อผ้าครับ
“ก็ไม่มีอะไรนี่” มันไม่ยอมตอบครับ ไอ้คำว่าไม่มีอะไรของมันนี่ต้องมีแน่ๆ
“ริวซากิ เร็น บอกมาซะดีๆ” ผมกดเสียงต่ำขู่มันครับ แต่มันกลับยื่นหน้าเข้ามาหาอย่างไม่เกรงกลัวเลยสักนิด
“บอกก็ได้..ฉันบอกคุณมี๊ว่าวันนี้จะพาลูกสะใภ้มาหา โอเคมั้ย?”
โนเลย!!
ไม่โอเค!! ไม่โอเคเลยสักนิด!!
เรื่องอะไรไปบอกแม่มึงว่าจะพาลูกสะใภ้มาหาแล้วดันพากูมาล่ะ!!
“ไม่โอเค” ผมบอกมันแล้วทำหน้างอ แต่ก็ถูกมันหยิกแก้มจะต้องยู่หน้าใส่มัน
“ไม่โอเคก็ไม่โอเค ไปถอดเสื้อผ้าได้แล้ว หรือจะให้ฉันถอดให้.....อีก”
ดูมันมีหน้ามาลากเสียงอีก ผมสะบัดหน้าใส่มันแล้วเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันตัวเอง มันยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กพอๆกับที่คลินิกเตรียมไว้ให้มาให้ผม
“ถอดชั้นในด้วยนะ เดี๋ยวเข้าห้องสตรีมแล้วมันจะเปียกไม่มีอะไรใส่ซะก่อน” ผมทำหน้าเหวอน้อยๆมองดูผ้าขนหนูที่ดูแล้วถ้าเอามานุ่งชายมันคงเหมือนกับเสื้อเชิ้ตอัปรีย์ที่วันนั้นผมใส่น่ะแหละ
“จะบ้าหรอ!!”
“หรือจะเปลือย? ไม่ต้องห่วงมีฉันแค่คนเดียวไม่มีคนอื่น”
ดูมันยังมีหน้าหันมาเลิกคิ้วถามอีก ผมกัดฟันแล้วยอมพาตัวเองเข้าห้องไปเปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าขนหนูออกมา
กลับออกมาอีกทีพวกสาวใช้ก็ออกไปหมดแล้วครับ ไอ้คุณชายมันจูงผม มาเข้าห้องสปาที่ตกแต่งแบบสไตล์บาหลีแต่มันก็ไม่ใช่ห้องสตรีมอะไรนั่น มันพาผมทะลุเข้ามาด้านในครับ ผมเข้ามาแล้วก็เจอกับไอน้ำร้อนๆพ่นกระจายอยู่เต็มห้อง กลิ่นหอมๆของสมุนไพรทำให้หัวผมรู้สึกโล่งดีครับ ไอ้คุณชายมันจูงผมมาที่นั่งข้างในครับ
“เราต้องอยู่ในนี้นานเท่าไหร่?”
ผมรู้สึกแก้มมันร้อนแล้วครับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศร้อนในห้องสตรีมนี่หรือเป็นเพราะไอ้คุณชายมันเอาสายตามาแทะโลมร่างกายของผมกันแน่ แล้วคือห้องมันก็ร้อนอยู่แล้ว มันยังขยับเข้ามานั่งกระแซะผมอีก
“ก็ประมาณสามถึงห้านาทีแล้วก็ออกไปแช่น้ำเย็นรอบนึงก่อนจะเข้ามาใหม่อีกสักสองรอบ” ฟังแล้วทำไมมันยุ่งยากจังวะ แต่ดูท่าทางไอ้คุณชายมันจะเคยชินกับการบำรุงผิวอะไรแบบนี้ เพราะดูมันจะไม่สะทกสะท้านกับความร้อนในห้องสตรีมนี้เท่าไหร่
เราหมดเวลาไปกับตรงนี้เกือบครึ่งชั่วโมงครับ ก่อนที่มันจะพาผมมาลง อ่างจากุชชี่แบบน้ำอุ่นพอประมาณ พอลงมาแล้วก็ผ่อนคลายดีครับถ้าไม่ติดตรงที่ ว่าไอ้หล่อมันเอาตัวเข้ามาเบียดกระแซะผมอีกแล้ว
“ที่มีตั้งเยอะ ไปนั่งไกลๆดิอึดอัด”
ผมบอกมาแล้วก็ดันมันออก แต่มันไม่ขยับครับ (หนักไขมันตรงพุงกับก้นของมันแน่ๆครับเชื่อผมสิ!!)
“ก็อยากนั่งตรงนี้นี่”
มันบอกว่ามันอยากนั่งตรงนี้ครับ อย่างนั้นผมจะพาตัวเองออกไปนั่งตรงอื่นก็ได้ แต่พอผมจะขยับลุกขึ้น มันก็เกี่ยวเอวผมไว้แล้ว รั้งให้ลงไปนั่งทับตักมันครับ
“เฮ้ย!! ปล่อย!!”
ผมมองมันตาเขียวเลยครับ แต่ไอ้คุณชายมันไม่สนใจกลับสอดแขนกอดเอวผมไว้แน่นเลยครับคราวนี้
“ออกกำลังกายเผาผลาญแคลอรี่กัน”
ดูมันชวนครับ!! ชวนออกกำลังกายในสภาพล่อแหลมแบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่ามันคิดจะฝังเข็มกับก้นผมแน่ๆ (แหงล่ะเข็มมันเริ่มตั้งมาทิ่มก้นผมฟ้องกันเห็นๆแบบนี้จะให้คิดเป็นอื่นได้ไง!!)
“ลามกที่สุด”ผมว่ามันแล้วก็ต้องหน้าร้อนผ่าวเมื่อมันเลื่อนมือที่โอบกอดเอวผมอยู่ลงไปลูบขาอ่อนช้าๆ แค่แรงดันน้ำในสระจากุชชี่นี่ก็สร้างความวาบหวามให้มากพอแล้วนะเว้ยเฮ้ยไม่ต้องมาเร้าอารมณ์กันเพิ่มก็ได้ เดี๋ยวเข็มก็กูตั้งตามมึงหรอกไอ้คุณชาย!!
“แล้วอยากให้ลามกด้วยหรือเปล่าล่ะ? ซัทสึกิเองก็ลามกเหมือนกันน่ะแหละ” ไอ้คุณชายมันเย้ากลับมาแล้วไซร้หน้าเข้ากับแก้มผม มือมันจับที่หลักฐานความลามกที่(ตั้ง)เด่นชัดของผม
เฮ้ย!! ได้ไงวะ!!
“นายก็อยากให้ฉันลามกใส่เหมือนกันน่ะแหละ”
ไอ้คุณชายมันว่าแล้วทำอมยิ้มเอามือจับความลามกใต้ร่มผ้าขนหนูผืนน้อยของผมไม่พอมันยังรวบมือผมที่ดิ้นไปดิ้นมาบนตักมันให้ไปจับอีก
“อย่านะเว้ยเฮ้ย!!”
มันเคยฟังคำปรามของผมบ้างมั้ยวะนี่!! บอกว่าอย่า แม่งยิ่งทำ ทีหลังผมควรประชดมันให้ทำหรือเปล่ามันจะได้หยุด
“หยุดไม่หรอก..ก็ซัทสึกิออกจะน่ารักขนาดนี้”
น่ารักยังไงวะ ผมอยากจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อแล้วแม่งเสือกบอกว่าน่ารักอีก ไอ้นี่ท่าจะซาดิส!!
หลังจากคำพูดของมันไม่นานมันก็พลิกตัวให้ผมกลับไปหามันครับ ผ้าขนหนูผืนเล็กถูกมันกระชากทิ้งไปไหนแล้วไม่รู้ ผมพยายามผลักมันแล้วลุกหนี แต่มันก็ดึงผมไปนั่งทับตักมัน โน้มคอผมลงไปจูบกับมันก่อนที่จะเสียบทันทีที่ผมเผลอ
“เจ็บนะ!!” ผมอุทานเมื่อมันเสียบเข้ามาเต็มความยาว ความเจ็บแม่งแล่นจี๊ดมาถึงไขสันหลังเลยเหอะ ไอ้บ้านี่!! มึงจะไม่เตรียมความพร้อมให้ร่างกายของกูสักหน่อยหรือไงกัน!!
“เดี๋ยวก็หายเจ็บ”
มันครางบอกผมอย่างนั้นก่อนจับเอวผมให้เด้งขึ้นลงบนตัวมัน อย่างที่มันว่าครับไม่นานมันก็หายเจ็บ ไม่อยากยอมรับว่ามันเสียวสุดยอด!!
แต่นี่ในบ้านมันนะ คุณมี๊มันก็คอยรอเข้าใจผิดอยู่ ถ้าเกิดมีพวกเมดเข้ามาเห็นหรือได้ยินแล้วเอาไปบอกคุณมี๊จะทำไง
“หยุดเถอะ..” ผมท้วงมันเสียงเบาก่อนจะซุกหน้ากับคอมัน ไม่ไหวแล้วของไอ้คุณชายแม่งคงสีอยู่กับจุดไวสัมผัสด้านในของผม มันถึงได้ส่งความเสียวเป็นระลอกๆเข้ามาตามแรงขยับของเราสองคน
“ฉันหยุดไม่ได้แล้ว นายก็รู้..” มันบอกก่อนจะจูบแก้มผม เลื่อนมือของมันลงต่ำไปช่วยผมระบายความอึดอัดออกไปบ้าง ผมกัดปากกับคำบอกของมันก่อนที่ในใจจะนึกภาวนาให้ไม่มีใครรู้ว่าเราสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่ในห้องสปานี้
แต่ดูเหมือนจะโชคไม่ช่วยผมเลยแม้แต่น้อย เพราะผมยังไม่ทันภาวนาเสร็จ เปิดประตูก็เข้ามาพร้อมกับเสียงของคุณมี๊ที่ทำให้ผมอยากตายมันเสียตรงนี้
“คุณมี๊เอาขนม...เร็นลูกกับน้องกำลังทำอะไรกันอยู่นี่!!”
ท่ามกลางเสียงร้องตกใจของคุณมี๊...ไม่อยากบอกเลยว่ามีซาวน์ประกอบเป็นเสียงเพล้งของจานขนมที่เธอถือมาให้เราสองคนด้วย
นาทีนี้เอาอะไรมาเชือดคอผมให้ตายคาตักไอ้คุณชายมันเลยเหอะ ถูกแม่มันเห็นในสภาพที่ผมกำลังออนท็อปกับลูกชายเธอแบบนี้ ปฏิเสธความสัมพันธ์บ้าๆนี่ระหว่างผมกับไอ้คุณชายมันไม่ได้แบบงดอุทธรณ์คณะลูกขุนไม่ยอมความกันเลยทีเดียว!!
แต่ทำไมนาทีที่มันวิกฤตแบบนี้ ไอ้คุณชายมันถึงยังยิ้มกริ่มได้อยู่อีกนะ!!
สภาพในห้องสปาเมื่อสักครู่มันไม่เหมาะสมที่จะคุยอะไรกันทั้งนั้น คุณมี๊เธอบอกให้ผมกับเร็นไปแต่งตัวแล้วตามเธอลงไปข้างล่างครับ ผมหน้าร้อนจนชาไปหมดแล้ว อับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าตอนที่โดนเร็นมันฟันตูดผมไปวันแรกเสียอีก
“ลูกทำแบบนี้ได้ไงเร็น”
แม่ไอ้หล่อเธอดุลูกชายครับ ผมอยากพยักหน้าเห็นด้วยกับเธอมากๆ ว่าลูกชายเธอทำแบบนี้ได้ไงกัน แต่อยู่ในสภาวะเจียมตัวเป็นผู้เสียหายอยู่ครับเลยไม่กล้า
“คุณมี๊รู้นะคะว่าวัยรุ่นสมัยนี้ใจเร็วด่วนได้ แต่น้องเพิ่งจะอายุสิบเก้าเองนะคะลูก” ผมนั่งฟังแล้วก็ชะงักครับ คุณมี๊เธอรู้ได้ไงว่าผมอายุสิบเก้า?
แล้วดูท่าเค้าลางมันจะไม่ดีแล้วยังไงก็ไม่รู้สิครับ ไอ้หล่อมันก็นั่งนิ่งเงียบ ไม่เถียงแม่มันเลยครับ
“ยังไงลูกก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้นะเร็น...บ้านของซัทสึกิจังอยู่ที่ไหนหรอคะลูก?”
ประโยคแรกเธอบอกลูกชายของเธอครับ ส่วนประโยคหลังเธอหันมาถามผม ผมสะดุ้งแล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอที่ยกมือมาแตะไหล่ผมแล้วกระพริบตาน้อยๆอย่างตามเรื่องไม่ทันสักเท่าไหร่
“เอ่อ...ทำไมหรอครับ?”
“คุณมี๊จะให้พ่อตัวดีไปขอโทษพ่อกับแม่ของซัทสึกิไงคะ แล้วก็จะสู่ขอซัทสึกิด้วยเลย”
เฮ้ย!! ไม่เอา!!
มาสรุปเรื่องแบบนี้ได้ไง ผมไม่ยอม!!
มีอะไรกับไอ้หล่อสามสี่หน ผมไม่เดือดร้อนจนถึงขั้นต้องให้มันไปสู่ขอกับพ่อกับแม่เลยนะ ผมเป็นผู้ชายไม่เสียหาย ไม่ต้องมาเสียผีด้วย!!
“เอ่อ..ไม่ต้องก็ได้ครับ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น..”
บอกไปแบบนี้แล้วผมเหมือนผู้ชายง่ายหรือเปล่าวะ แต่ไม่รู้ล่ะ ผมสนใจแค่ว่าไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้เรื่องผมเท่านั้น นี่ถ้าพี่ชายของผมรู้ด้วย ผมคงตายดับอนาถแน่ๆ
“เรื่องใหญ่สิคะ คุณมี๊ไม่ยอมให้เร็นทำผิดธรรมเนียมแบบนี้กับซัทสึกิหรอกนะคะลูก!!” โอ๊ย!! ไอ้คุณชาย เมื่อก่อนมึงไปสอยตูดชาวบ้านเค้า แม่มึงกระตือรือร้น จะไปสู่ขอตูดนั้นมาให้มึงแบบนี้ป่าววะเนี้ย!!
“ไม่จำเป็นเลยครับ!! ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรผมทั้งนั้น!! ผมยอมเร็นเองแล้วก็ไม่ได้เสียหายจนต้องมารับผิดชอบตามธรรมเนียมอะไรนั่นด้วย!!” เผลอไปแล้วครับ เถียงแม่ไอ้หล่อเขาไปแบบเผลอตัวสุดๆ แถมน้ำเสียงยังดูก้าวร้าวด้วย
แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจหรอกนะว่าแม่ไอ้หล่อเขาจะหมดความเอ็นดู ผมหรือเปล่า ตอนนี้ผมต้องการให้เธอล้มเลิกความคิดของเธอซะ
ดูเหมือนแม่ไอ้หล่อจะตกใจที่ผมขึ้นเสียงเถียงกับเธอครับ เธอยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองแล้วเบิกตากว้างมองผม ในชีวิตของเธอจะมีใครกล้าขึ้นเสียงใส่แบบผมมั้ยหว่า ผมเองก็ใจสั่นเหมือนกันเพราะไม่เคยก้าวร้าวกับผู้ใหญ่มากก่อน พอรู้สึกตัว..ผมก็ก้มหน้ามองตักตัวเองแล้วพูดเสียงเบา
“ขอโทษครับ..” ไอ้เร็นก็ไม่ช่วยแก้วิกฤตใดๆเลยครับ มันเอาแต่นั่งนิ่งเงียบไม่พูด ไม่จาจนผมอึดอัดเกินทน ท้ายที่สุดผมก็ต้องหันไปสะกิดมัน
“ฉันจะกลับแล้วนะ” บอกแล้วผมก็ลุกขึ้นยืน ค้อมศีรษะให้กับคุณมี๊แล้วเดินออกมาทันที ไม่ว่าไงผมก็ไม่อยู่ต่อแล้วล่ะ
ไอ้หล่อมันเดินตามผมมาครับ แต่แปบเดียวมันก็เดินมาตีคู่กับผมแล้ว คว้ามือผมไว้ ลากผมไปขึ้นรถมันแล้วขับรถแล่นออกจากบ้านมันไปด้วยความเร็วสูงจนผมกลัวมันจะแหกโค้งพาผมไปตายเสียก่อนเลยต้องหันมาหามัน
“นายโกรธฉันหรือไง?” หน้าตามันถมึงทึงมากครับ ดูแล้วออกแนวพระเอกโหดบวกโฉดเป็นอย่างยิ่ง ผมไม่เคยเห็นหน้าตามันเป็นแบบนี้มาก่อนเลยครับ พาลอดไม่ได้ที่จะนึกกลัวขึ้นมา
มันเบรกรถดังเอี๊ยดจนหัวผมแทบโหม่งออกจากกระจกหน้ารถไป ยังดีครับที่มันจอดคือหน้าบ้านพักของพวกเราพอดีไม่ใช่กลางถนนไม่งั้นรถข้างหลังจนเบรคไม่ทันแล้วอัดตูดท้ายรถมันแน่ๆ มันไม่ตอบผมครับ แต่มันกดปลดล็อคประตูแล้วเอ่ยบอกผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“ลงไปซะซัทสึกิ” มันไล่ผมครับ แต่ผมไม่ยอมลง ผมจะเคลียร์กับมันก่อน ไม่ใช่ปล่อยเรื่องทิ้งไว้แบบนี้
“ไม่ลง หันมาคุยกันก่อนสิ!!”
ผมเอามือเหนี่ยวหน้ามันที่เอาแต่มองถนนข้างนอกให้หันมาหาผมแล้วล็อคเอาไว้ แต่มันถอยคอหนีแล้วปลดเข็มขัดนิรภัยเปิดประตูลงไปจากรถเสียเอง ผมเลยรีบลงจากรถแล้วตามมันไป
“เดี๋ยวก่อนสิ!! เดี๋ยวก่อนสิวะ!!”
ผมร้องเรียกมันแล้วจ้ำขาเดินตามมันขึ้นห้องไป เสียงโวยวายของผม ทำให้เคนอิจิกับพี่มิซึรุโผล่หน้าออกมามองแต่ผมก็ไม่ได้สนใจกับสายตาของพวกเขาที่มองมาอย่างสงสัย
“ซัทสึกิฉันไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะคุยอะไรทั้งนั้นตอนนี้”
ในที่สุดพอขึ้นมาอยู่บนห้องไอ้หล่อมันก็หันกลับมามองผมแล้วพูดกับผมในที่สุด ผมที่ยืนเหนื่อยหอบอยู่ตรงประตูเพราะรีบก้าวเดินให้ทันมันก็หันไปถีบประตูให้ปิดลงแล้วเดินมาประจันหน้ามัน
“ไอ้บ้า!! เรื่องมันไม่ใช่เพราะฉันเลยนะเว้ย!! ฉันห้ามนายแล้วนายก็ยังทำ แล้วพอเกิดเรื่องขึ้นนายก็มาทำท่าโกรธฉัน บ้าที่สุด!!”
ผมปราดเข้าไปอยากจะชกหน้าหล่อๆของมันสักหมัดสองหมัด แต่ก็อย่างเคย ผมถูกไอ้คุณชายมันจับล็อคตัวไว้ มันกอดผมไม่ให้ผมทำร้ายมันได้ก่อนจะยอมพูดเสียงอ่อน
“ฉันไม่ได้โกรธนาย แต่ฉันกำลังโกรธตัวเอง”
กูไม่เชื่อมึงหรอก หน้ามึงบอกกูอยู่นะว่ามึงโกรธกูน่ะไอ้คุณชาย
“ฉันแค่คาดหวังมากเกินไป ที่แอบคิดอยากให้ซัทสึกิยอมรับการรับผิดชอบจากฉันอย่างที่คุณมี๊บอกว่าฉันควรทำ แต่เมื่อนายยืนกรานไม่ยอมรับความรับผิดชอบจากฉันขนาดนั้น ฉันเลยเสียใจแล้วก็ผิดหวัง ลงท้ายเลยโกรธตัวเองที่ทำให้นายไม่ไว้ใจเลยไม่ยอมรับความรับผิดชอบจากฉัน” ไอ้คุณชายมันพูดพล่ามบอกอยู่ข้างหูครับ
ผมหยุดที่จะพยายามต่อยหน้ามันแล้วก้มหน้าฟังนิ่งก่อนจะถามมันย้อนกลับไปในคำถามที่ผมกำลังถามตัวเองอยู่
“นายเข้าใจคำว่ารับผิดชอบของแม่นายแค่ไหนกันเร็น” ไอ้คุณชายมันนิ่งเงียบครับ ผมเลยเป็นคนต่อคำพูดเองอย่างอึดอัดใจ
“แม่นายบอกให้นายรับผิดชอบฉัน มันหมายความว่าไง อย่างแม่นายคงไม่ใช่ให้เอาเงินมาฟาดหัวฉันเป็นค่าที่ฉันเสียตัวให้นายหรอกจริงมั้ย”
“คุณมี๊คงอยากให้ฉันแต่งงานกับนาย”
ใช่เลย!! นั่นแหละ!! เข้าใจตรงกันนี่หว่า
“นั่นแหละปัญหาใหญ่” ผมบอกมันก่อนจะดึงตัวออกจากอ้อมแขนของมัน แต่มันกอดผมไว้แน่นเลยครับ
“ทำไมนายถึงคิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ แต่งงานกับฉันไม่ดีหรือไงกัน?”
เสียงมันเหมือนน้อยใจครับ ผมถอนหายใจแล้วเงยหน้ามองมัน
“ริวซากิ เร็น นายกับฉันรู้จักกันมากี่วันกัน”
“เก้าวัน” ไอ้คุณชายมันตอบมาอย่างรวดเร็วจนผมต้องแปลกใจว่าคนอย่างมันจะมานั่งนับวันที่รู้จักกับผมด้วยหรอ พอมันตอบแล้วมันก็เลิกคิ้วใส่ผมครับ ผมยกนิ้วขึ้นมาเก้านิ้ว
“เราเพิ่งรู้จักกันแค่เก้าวันเองนะ นายเข้าใจบ้างมั้ย”
“ฉันไม่เข้าใจ” ผมเคยคิดว่ามันฉลาดนะครับ แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกว่ามันเข้าใจอะไรยากจริง
“รู้จักกันมาแค่เก้าวัน มันยังไม่ได้ทำให้เรารักกันหรอกนะ แล้วจะแต่งงานกันได้ไง!!” ผมโพล่งตอบมันไปในที่สุด มันเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผมมากเลยนะ ผมสาบานกับตัวเองว่าผมจะไม่แต่งงานกับคนที่ผมไม่ได้รักเพราะผมไม่อยากผูกติดตัวเองกับคนที่ผมไม่ได้รักไปทั้งชีวิต
“ซัทสึกิ..วันนี้เราอาจจะไม่ได้รักกัน แต่นายไม่คิดหรือไงว่าวันข้างหน้าเรา จะรักกัน แล้วเวลาเก้าวันที่รู้จักกันมา ฉันรู้สึกดีกับนาย รู้สึกอยากรักนาย นายไม่รู้สึกดีกับฉัน อยากรักฉันบ้างเลยหรือไงกัน” มันตัดพ้อผมผ่านสายตาและน้ำเสียงครับผมรู้สึกได้อย่างนั้น
“ไม่รู้..”
คำว่าไม่รู้ของผมหมายถึงผมไม่รู้ครับว่าผมรู้สึกยังไงกับมันตอนนี้ แต่วลีของผมมันอาจจะสั้นและห้วนเกินไปหน่อย ไอ้หล่อมันถึงได้ทำหน้าผิดหวังและเสียใจใส่ผมจนผมต้องรีบพูดต่อ
“ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกยังไงกับนายกันแน่ นายจะมาถามฉันตอนนี้น่ะไม่ได้หรอกนะ เรารู้จักกันน้อยเกินไป”
“เก้าวันสำหรับนายมันอาจจะน้อยเกินไป แต่ฉันบอกนายได้เลยว่าถ้าอยากจะรักกัน นายทำได้อยู่แล้ว เวลามันไม่ใช่เครื่องกำหนดอะไรทั้งสิ้นเลยนะซัทสึกิ แค่นายเปิดใจให้ฉันเท่านั้น ไม่ใช่นายตีบังกั้นเอาไว้ด้วยความรู้สึกตัวเองแบบนี้ นายกำลังคิดว่านายรักฉันไม่ได้เพราะฉันเป็นผู้ชายและนายเองก็เป็นผู้ชาย ขอร้องเถอะซัทสึกิ ทิ้งความรู้สึกนั้นไปได้มั้ย แล้วนายลองมองในมุมที่มีแค่ฉันกับนายเท่านั้น”
ผมนิ่งและฟังมันครับ ไม่อยากบอกเลยว่าใจผมสับสนมากในตอนนี้ มันประคองหน้าผมให้เงยมองสบตากับมัน
“มองแค่มุมของเราสองคนดูสิ..แล้วนายจะรู้...”
.
.
“ว่าเรา...รักกันได้”
-TBC-
yowyow, Naenprin, sunshadow ขอบคุณมากนะคะ มาเม้นส์ตอนหลังๆทุกตอนเลย

Forget_Me_Not แต้งกิ้ววว
