"Can I...?" (แคน ไอ...?) Special Part [06.07.15] P.19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "Can I...?" (แคน ไอ...?) Special Part [06.07.15] P.19  (อ่าน 248742 ครั้ง)

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
"Can I...?" (แคน ไอ...?) Special Part [06.07.15] P.19
« เมื่อ24-10-2013 22:00:44 »

***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************

เรื่องนี้ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องให้นำมาลงที่เล้า แล้วนะคะ

หลังจากเป็นนักอ่านมานาน ขอแบ่งปันเรื่องที่ชอบมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านบ้างนะคะ ^^
ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยค่ะ  :mc4:


ตามไปให้กำลังใจคนแต่งได้ค่ะ ที่ FB http://www.facebook.com/pages/Morse/120230658164895

#############

มีเวลาว่าง(มาก) เลยลองทำสารบัญมาให้ค่ะ จะได้อ่านกันง่ายขึ้น ^^

สารบัญ
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4
ตอนที่ 5
ตอนที่ 6
ตอนที่ 7
ตอนที่ 8
ตอนที่ 9
ตอนที่ 9.1
ตอนที่ 10
ตอนที่ 10.1
ตอนที่ 10.2
ตอนที่ 11
ตอนที่ 12
ตอนที่ 13
ตอนที่ 14
ตอนที่ 15
Special Part : Late Valentine's Day
ตอนที่ 16
ตอนที่ 17
ตอนที่ 18
ตอนที่ 19(End)


ตอนที่ 20
ตอนที่ 21
ตอนที่ 21.1
ตอนที่ 22
ตอนที่ 23
ตอนที่ 24
ตอนที่ 25
ตอนที่ 26
ตอนที่ 27
ตอนที่ 28
imageพี่แม้นกะน้องนัท
ตอนที่ 29
ตอนที่ 39.1

imageแม้นนัท(ภาคแรก)

ตอนที่ 30
ตอนที่ 31
ตอนที่ 32
ตอนที่ 33
ตอนที่ 34


#################
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2015 09:55:56 โดย pae666 »

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ตอนที่ 1





“มึงกล้าป่ะล่ะ”
“ไอ้สัตว์ มึงนั่นแหละกล้าดียังไงมาท้ากู” มกรหันไปด่าเพื่อนร่วมโต๊ะด้วยใบหน้ากระหยิ่มและรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ “วางเงินมาเลย แล้วพวกมึงเอาด้วยไหมเนี่ย ลงๆมาอย่าทำให้กูเสียเวลาเปล่า”
“เหี้ยแมน..พวกกูไปเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย”
“มึงด่าไอ้เวรแชร์โน่น ต้นคิดดีนัก”
คนโดนโบ้ยหัวเราะระรื่น “ก็มึงดูน้องเขาสิวะ มองไอ้มะกอนของเราตาไม่กะพริบเลย ของแบบนี้เสนอมามันก็น่าจะสนองไม่น้อยนะ”
“ไอ้เหี้ย..พวกมึงนี่มันเลวจริง..” คนด่าหัวเราะผสมไปด้วย “แต่กูเพื่อนมึง กูเลวได้มากกว่ามึงว่ะเพื่อน ฮ่าฮ่า กูลงห้าหมื่นข้างมึงไอ้แมน”
“โหย ไอ้สัตว์ป้อด แม่งเปิดซะสูงเลย แล้วกูจะเอาเชี่ยไรไปลง กูแปะไว้ก่อน ห้าก็ห้า ข้างไอ้แมนเหมือนกัน”
“อ้าว ไอ้ปังตอ ไม่มีหมอบได้นะเว้ย กูไม่ได้บีบคอให้มึงมาตามกูหรือเกกูซะหน่อย” ป้อดปอดแหกของเพื่อนๆโวยด้วยเสียงระรื่นไม่ต่างกัน
“อ่ะๆ อย่าเพิ่งตีกันเด็กๆ ..ไอ้แชร์ คนอื่นเขาลงห้าหมื่น มึงตัวท้า ต้นคิด มึงต้องแรงกว่า.. เท่ากับตรงนี้กูสามคนแสนห้า มึงว่ามาว่ามึงเท่าไหร่” แมน ในฐานะผู้รับคำท้าเริ่มโต้กลับเช่นกัน
“ได้.. กูลงแสนห้าเลยไอ้สัตว์ แต่กูมีเงื่อนไข.. มึง ไอ้แมน.. หนึ่งอาทิตย์มึงต้องได้มัน หนึ่งเดือนมึงต้องเอาให้อยู่ สามเดือนกูถึงจะให้เลิก.. และ..กูเลือกคนให้”
“เฮ้ยเชี่ย.. เกิดมึงเลือกหน้าตาผีห่าขึ้นมากูไม่เดือดร้อนเหรอไอ้สัตว์”
“แล้วมึงจะเอาไหมล่ะแสนห้าของกูเนี่ย”
“กูไม่เดือดร้อน ไม่ได้เงินมึงกูก็มีแดก ไอ้แชร์” หนุ่มแมนด่ากราดแล้วยักคิ้วเอนตัวพิงลงกับเก้าอี้ไม้ขัดเงาตัวสวยในร้านกาแฟหรู
“มึงป้อดปอดแหกพอๆกับไอ้ป้อดปอดแหกนั่นแหละ” แชร์ยกมือขึ้นปัดไปมาตรงหน้าเพื่อน
“สัตว์แชร์” คนถูกกวนประสาททะลึ่งตัวขึ้นมาโบกหัวเพื่อน “ใครว่ากูป้อด.. เห็นแบบนี้กูก็เลือก”
“เออๆ เอาแบบนี้แล้วกัน กูเลือกให้มึงสองคน มึงเลือกเอาจะเล่นกับใคร แฟร์พอยัง”
“เออ แบบนี้ค่อยยังชั่ว.. นิสัยเหี้ยๆอย่างมึงอ่ะไม่เลือกของดีมาให้กูหรอก กูรู้”
“และนิสัยเลวๆอย่างมึงไอ้มะอึก กูก็รู้ว่ามึงไม่มีทางปล่อยไอ้เรื่องท้าทายแบบนี้ไปหรอก .. มึงมันขี้เอาชนะ”
“เออ กูมันขี้เอา และชอบเป็นผู้ชนะเสียด้วย”
“กูจะคอยดู..” ว่าแล้วชายทั้งสี่คนก็หันไปมองกลุ่มสาวน้อยที่โต๊ะถัดไปซึ่งก็มองกลับมาที่โต๊ะหนุ่มหล่อด้วยเช่นกัน
.....
ณัฐวีร์ลอบถอนหายใจเมื่อมองลงไปจากห้องเรียนแล้วเห็นว่ามีรถ BMW สีดำทะมึนจอดอยู่หน้าโรงเรียนเหมือนเช่นสองสามวันที่ผ่านมา
รถคันนี้เป็นของพี่แมน.. เขาพบกับชายคนนั้นที่ร้านกาแฟในห้างดังแถวสยามสแควร์ วันนั้น พวกเพื่อนนัดกันไปทำรายงาน.. เหมือนจะดูดี แต่จริงๆมันก็คือไปนั่งสุมหัวเม้าท์ และเมื่อถึงเวลาก็ไปเดินเล่นแล้วแยกย้ายไปตามกิจกรรมของตัวเอง มันคือข้ออ้างออกจากบ้านของเพื่อนๆเท่านั้นแหละ
เพื่อนกว่าสิบคนในกลุ่ม มีทั้งสาวน้อยหน้าตาน่ารักที่มีดีกรีเป็นถึงดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน เด็กหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างสูงมีกล้ามเนื้อสวยเพราะเป็นนักกีฬาแบดมินตัน หรือจะเป็นเพื่อนเพศที่สามที่เป็นประธานกิจกรรม ซึ่งสรุปได้ว่ามีหลายคนในกลุ่มที่โดดเด่นกว่าเขามากนัก..
แต่กลายเป็นว่าวันนั้น พี่แมน..เดินเข้ามาขอเบอร์เขา.. นายณัฐวีร์ คนที่หน้าตาธรรมดาสุดๆ รูปร่างก็แคะแกรน ตัวเล็กๆผอมๆ จะดีหน่อยก็แค่เขามีผิวขาวและหน้าตาสะอาด... สะอาดจริงๆ ป่านนี้หนวดยังไม่ขึ้นเลย น่าเจ็บใจตัวเองนัก เกิดเป็นผู้ชายเสียเปล่าดันมีแค่อาวุธเป็นชาย นอกนั้นหาความแมนไม่ได้เล้ย
หลังจากพี่แมนได้เบอร์แล้วก็ออกไปจากร้าน ทิ้งให้เขาอยู่กับเสียงกร่นด่าด้วยความอิจฉาของเพื่อนๆ และไม่นานจากที่พี่แมนลุกออกไป พี่ก็โทรเข้ามาเพื่อขอนัดรับเขากลับบ้าน.. ซึ่งแน่นอนว่าเขาปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวล
ไม่ใช่เพราะเล่นตัว ไม่ใช่เพราะกลัว.. แต่มันไม่ใช่.. เขาไม่เคยเชื่อเรื่องรักแรกพบ ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะมีความสนใจในเพศเดียวกันเพียงแค่ได้สบตาใคร โอเค นายณัฐวีร์ไม่เคยกำหนดเพศของแฟน (เอาตรงๆก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนในชีวิต เพราะหน้าตาไม่ได้เรื่อง รูปร่างไม่ได้โดดเด่น นิสัยก็เงียบๆ ถ้าจะไปจีบใครก่อนคงมีกัดลิ้นตอนพูดจีบกันบ้างล่ะ) แต่ก็ไม่เคยเปิดกว้างในเพศเดียวกันมาจีบแบบนี้
ถึงเขาจะไม่มีสเปคแฟนมาก่อนเลย แต่การเข้าหาของพี่แมนทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจ ไม่สบายตัว และรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่มันเร่งรีบเกินกว่าที่คนซึ่งสนใจจะเรียนรู้และใช้ชีวิตร่วมกันจะต้องเข้าหากันขนาดนี้
ขนาดไหนน่ะเหรอ..?
ก็ขนาดมีข้อความเข้าโทรศัพท์เขาทุกชั่วโมง มีโทรปลุก โทรหาเพื่อเตือนทานข้าวเที่ยง โทรบ่ายเพื่อนัดรับไปเที่ยว หรือพากลับบ้าน และโทรดึกเพื่อถามสารทุกข์ก่อนจะกล่าวราตรีสวัสดิ์ดั่งแฟนในอุดมคติพึงกระทำ สามวันมานี้เขามีอาหารมาให้ ขนมมาเลี้ยงเลยเถิดถึงเพื่อนฝูง ตุ๊กตา.. ดอกไม้.. เสื้อผ้า.. พ่อบุญทุ่มมาก.. แต่ก็อย่างที่บอก..มันมีหลายอย่างที่เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่ มันไม่ถูกจังหวะเวลา และมันเร่งเกินไป
หวืด...หวืด..
โทรศัพท์ในกระเป๋าเป้สั่นเครือกระทบพื้นโต๊ะเรียนจนรู้สึก เมื่อหยิบออกมาดูก็พบว่าเป็นพี่แมนอย่างเช่นที่คาดไว้
“ครับพี่แมน..” เขากรอกเสียงลงไปเมื่อรับสายแล้ว
“นัทเลิกเรียนแล้วนี่ครับ ยังไม่ลงมาเหรอ?” เสียงปลายสายเอ่ยถาม
“ผมคุยรายงานกับเพื่อนอยู่ครับ..”
“อีกนานไหม..” เสียงอีกฝ่ายทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที
“เอ่อ...” ณัฐวีร์อึกอัก “พี่แมนกลับไปก่อนก็ได้นะครับ ผมกลับเองได้”
“...ไม่เป็นไร พี่รอนัทได้ครับ เสร็จแล้วโทรมานะครับพี่รออยู่”
แล้วสายก็ถูกตัดไปโดยที่ณัฐวีร์ไม่ทันได้พูดโต้ตอบ ครั้นเมื่อเขาวางสายลง.. กลับมีเสียงลอยตามลมมาเข้าหูทันที
“อิจฉาเว้ย มีแฟนมารับถึงหน้าประตูโรงเรียน”
แล้วเสียงโห่ฮาก็ดังมาจากคนทั้งกลุ่มกว่าห้าคนนั้น
ณัฐวีร์ส่ายหน้าพลางเก็บเอามือถือเข้ากระเป๋าเป้ เขาไม่ได้คุยเรื่องรายงาน ไม่ได้ทำความสะอาด ไม่ได้อะไรเลย แค่นั่งเล่นเฉยๆในห้อง ตากแอร์ รอข้อสรุปจากกลุ่มเพื่อนว่าวันนี้จะไปจบลงที่ไหน เมื่อครู่ก็แค่ข้ออ้างเท่านั้นเอง
“นั่นไม่ใช่แฟนกู..” ณัฐวีร์ตอบชัดเจน “แค่คนที่มาจีบแบบมีนัยยะ”
“โห พูดซะหรูเชียว เดี๋ยวเป็นแฟนก็จะเป็นแฟนแบบมีนัยยะใช่มะ”
“นัยยะของมึงมันคืออะไรวะนัท”
คนถูกถามมองหน้าเพื่อนทั้งผู้หญิงและผู้ชายในกลุ่มแล้วส่ายหน้าพรืด “กูก็ไม่รู้ กูแค่รู้สึก”
“มึงมีสัมผัสวิญญาณอีกและ ห่านี่..” มาดามแพรวสบถออกมาด้วยความสยองส่วนตัว “อย่าเยอะนักสิวะกูยิ่งกลัวๆสัมผัสพิเศษนั่นอยู่ด้วย”
“บ้า ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย กูแค่ฟิลอะไรได้เท่านั้นเอง คือเขารุกจีบจนกูแขยง”
“ถ้ามึงแขยงคนหน้าตาขั้นเทพแบบนั้น กูว่ามึงป่วยแล้วล่ะนัท”
“กูไม่ได้รักคนที่หน้าตาเขานะเว้ย”
“โหย พ่อคุณ...” เพื่อนๆพากันร้องลั่นเป็นเสียงเดียว “พ่อจะเอาแบบไหนจ๊ะ พี่แมนผัวมึง..”
“ไม่ใช่ผัวกู!”
“เออๆ ยังไม่ใช่ผัว แค่มาจีบ.. แต่มึงสำนึกไหมว่าคนมาจีบมึงคนนี้น่ะ..เป็นมนุษย์หน้าตาดี รูปร่างดีอย่าให้เม้าท์ สูงชะลูดเกิน 180 รวย มีรถขับ มีเงินพาพวกกูไปแดกเค้กชิ้นเล็กเท่ามดแต่ราคาเกือบสองร้อย จ่ายเงินทีควักบัตรทอง ทิปทีให้แบ้งค์ม่วง และที่สำคัญ ดูจะหลงมึงจนหัวปักหัวปำ กูเห็นนะ เดี๋ยวโทรเข้า เดี๋ยวข้อความเข้า เดี๋ยวไลน์ตุนิ้งตุนิ้ง สปอยมึงอย่างกับเด็ก แล้วอิดอกไม้หลังรถนั่น.. โคตรพ่อกูยังไม่เคยเอามาให้แม่กูเลยเหอะ”
“ไอ้แหนม.. มึงก็พูดโอเว่อร์.. พี่แมนของไอ้นัทเขาไม่ได้ขนาดนั้น.. เขาทิปด้วยแบ้งค์ร้อยห้าใบหรอกเว้ย”
“ไอ้สาดปานแล้วมันไม่ใช่ห้าร้อยเหรอเชี่ย เดี๋ยวดึงขนจมูกแม่งซะนี่” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ผวาจะเข้าไปหาเพื่อน เล่นเอาหนุ่มปานฉากหลบแทบไม่ทันเรียกเสียงหัวเราะจากทั้งกลุ่มดังสนั่น
“หยาบคายว่ะพวกมึง.. เกรงใจว่าที่ภรรยาพี่แมนเขาบ้าง” หญิงสาวอีกหนึ่งในกลุ่มเอ่ยแล้วหันมายิ้มหวานให้ณัฐวีร์ “นัทก็รีบลงไปเหอะ เราไปที่อื่นกันมาสองวันแล้ว วันนี้คงต้องรีบกลับบ้านบ้าง ตัวเองจะได้ไปเดทกับพี่แมนเขา เขามารับหลายวันแล้วนะ”
“ขอบใจนะหวาน.. แต่เราคงไม่ไปไหนกับเขาหรอก..” ณัฐวีร์ชะเง้อมองออกไปที่รถสีทะมึนหน้าโรงเรียนแล้วถอนหายใจอีกเฮือก สงสัยวันนี้คงต้องกลับกันตามลำพังอย่างที่เพื่อนบอกแล้ว
“กูแม่งโคตรรอเมซิ่ง ไอ้นัทมันมีคนเข้าหาเป็นผู้ชายตัวอย่างหนาทั้งที่ไม่เคยมีเค้าโครงว่าจะเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย เพื่อนกูจะเปิดตัวในโลกสีม่วงก็คราวนี้แหละ”
“ทำอย่างกับกูอยากเปิดตัวแบบนี้นักนี่” ณัฐวีร์ทำหน้าเบ้ “กูถึงยังไม่ได้อะไรกับพี่เขาไง คนแบบนี้เดี๋ยวเจอกูนิ่งๆใส่เขาก็คงฝ่อไปเองแหละมึง”
“ห่า.. มึงก็อย่าปิดประตูสู่โลกใหม่นักเลยไอ้นัท ไหนๆฟ้าประทานพ่อยอดชายเทพๆมาขนาดนี้ ศึกษาดูใจกันไปไม่เสียหายนี่หว่า”
“ก็ไม่ได้ว้อนท์นะเว้ย..” ณัฐวีร์คว้ากระจกของมาดามแพรวที่ยกส่องตัวเองอยู่ไม่ไกลมาดูหน้าตาตัวเองบ้าง “ดูหน้ากูสิ มีตรงไหนน่าสนใจวะ กูว่ามันต้องมีนัยยะแหงๆ”
“บางทีพี่เขาอาจชอบของแปลกนะมึง” แพรวร้องบอกแล้วคว้าเอากระจกคืนไปส่องหน้าตาตัวเองอีกรอบ “คิดมากว่ะ คบๆไปก็ไม่เสียหายนี่หว่า”
มาดามแพรวนั้นจัดเป็นสาวน้อยดรัมเมเยอร์ที่ห่วงสวยห่วงงามากที่สุด นางจะมีกระจกอยู่ในมือเสมอเพื่อสำรวจว่าตนเองนั้นหน้าตาดีพอแล้วหรือไม่ เป็นพวกมั่นใจและขาดความมั่นใจในเวลาเดียวกันเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับณัฐวีร์แล้ว มาดามแพรว เป็นเพื่อนสมัยเด็กที่เขารักและห่วงมาก เป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันเลยก็ว่าได้
“ก็ไม่ได้อยากคบกับเขานี่นา” ณัฐวีร์ยังแสดงจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจน
“มึงจะคบเพื่อแต่งเลยหรือไงล่ะนัท..” มาดามแพรวละจากกระจกขึ้นมาตวาด “ก็คุยๆกันไปไม่เห็นต้องปิดกั้นเลย ถ้าคุยแล้วมันไม่คลิกอีกอาทิตย์สองอาทิตย์มึงค่อยทิ้งเขาก็ได้ ตอนนี้ก็แค่กิน เที่ยว เปรี้ยวไปวันๆก่อน จะคิดมากอะไร”
“ก็มันเสียเวลา”
“โหย.. ตัวเองทำธุรกิจแล้วว่างั้น.. คิดเยอะเป็นมนุษย์เงินเดือนเลยนัทเนี่ย” คราวนี้เพื่อนหวาน สาวน้อยอีกคนช่วยตอกลิ่ม “เอาเป็นว่าเราสรุปให้แล้วกัน ตัวเองก็คุยกับพี่เขาไปเรื่อยๆ หนักใจอะไรก็มาปรึกษาพวกเราได้”
ณัฐวีร์มองหน้าเพื่อนแล้วได้แต่ถอนใจ “เราไม่ได้เป็นเกย์นะ..ทำไมผลักไสเรากันจัง”
“เว้ย!..” คราวนี้สองหนุ่มแหนมปานร้องขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง “กูอุตส่าห์ไม่พูด มึงนึกว่าพวกกูรับได้เหรอที่จู่ๆเพื่อนก็มีผู้ชายมาจีบ แทนที่เพื่อนจะไปจีบผู้หญิงน่ารักๆมาอยู่ในกลุ่มน่ะ”
“เอ้า.. แล้วที่พวกมึงเชียร์กูอยู่นี่ล่ะ..”
“เล่นๆ ขำๆ กูเห็นมึงซีเรียส ไม่จริงจัง เลยกะหรอกแดกพี่แมนแม่งไปเรื่อยๆ”
“โห เลวว่ะ นี่สรุปพวกมึงแค่อยากมีเจ้ามือเลี้ยงหนมกันเท่านั้น ไม่ได้ห่วงเพื่อนเรอะ”
“เพื่อนน่ะกูก็ห่วง แต่กูรู้ว่าเพื่อนดูแลตัวเองได้ ฮ่าฮ่า..”
“ซึ้งว่ะพวกมึงนี่..” ณัฐวีร์ส่ายหน้าพลางหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นพาดไหล่ “งั้นกูไปแล้ว วันนี้กลับบ้านเร็วหน่อยก็ดี พี่นางเพิ่งส่งไลน์มาบอกว่ามีของว่างเป็นอาหารโปรดกูด้วย”
“เออ ไปดีๆ ไว้เพื่อนจะติดต่อไป หวังว่าจะไม่ตกลงปลงใจเร็วนักนะมึง”
“เออน่า.. กูไม่ได้ง่ายๆเสียหน่อย”
“ว่าแต่..ไม่มีใครลงไปกับไอ้นัทมันเลยเหรอวะ”
“หมูจะหามมึงจะเอาคานไปสอดทำไมวะไอ้แหนม เดี๋ยวกูตบปากฉีก” เพื่อนปานเงื้อมือทีเล่นทีจริงแล้วหันมายิ้มให้เจ้าของเรื่อง “ไปเหอะมึง อยู่กับพวกกูก็ได้คำตอบแค่เนี้ย มึงจงไปหานัยยะที่แฝงเร้นไว้ แล้วมาบอกกูด้วย ไอ้เพื่อนยาก ถ้ามึงจะเปิดตัวสู่โลกกว้างก็บอกกูนิด ถ้ายังไม่อยากเปิดตัวอีกสองอาทิตย์เราก็กลับไปลั้นลากันสลัดแม้นศรีทิ้งไป”
“แม้นศรี..? ใครวะ?” มาดามแพรวร้องถามขึ้นทันที
“พี่แมนไง มาจีบผู้ชายได้แบบนี้กูว่าแม้นศรียังน้อยไป”
“ปากมึงนะไอ้ปาน..ถ้าเขามาได้ยินหรือไอ้นัทมันไปเรียกเขาล่ะมึงเอ้ย กระดูกคอหลุดแน่” เพื่อนแหนมโวย
แล้วเสียงหัวเราะกันฮาใหญ่ก็ดังประสานไปด้วยกัน ไม่เว้นแม้แต่ณัฐวีร์ที่ร่วมผสมโรงไปด้วย
….
มกรเขวี้ยงโทรศัพท์ในมือลงกับเบาะรถข้างคนขับ ทันทีที่ตัดสายจากไอ้เด็กบ้านั่นเขาก็กระแทกโทรศัพท์ลงกับพวงมาลัยระบายอารมณ์หงุดหงิดแล้วก็เขวี้ยงมันไปนั่นแหละ
น่าโมโห! โคตรอยากจะจับไอ้เด็กเชี่ยนั่นมาเขย่าๆเอาความเฉื่อยของมันออก เอาความเฉยชาของมันให้หลุดจากหน้าบ้าง นี่อะไรเขาเทียวรับเทียวส่งมาสามวันแล้วมันไม่หือไม่อือ ไม่คุย ตัดบท ไม่สนใจ ไม่ดูดำดูดีหรือมีท่าทางอะไรกับเขาทั้งนั้น มันเป็นมนุษย์ที่เล่นด้วยยากฉิบหาย
ตอนนั้นที่มีโอกาสเลือก เขาน่าจะเลือกเด็กอีกคน..
แต่ก็อย่างที่บอกแหละ ไอ้แชร์มันไม่เคยหวังดีกับใคร คนที่มันเลือกมาให้สองคนเป็นมนุษย์ที่เสียสมดุลมากเวลาเดินกับผู้ชายอย่างเขา.. การต้องผูกติดกับใครตั้งสามเดือน เขาจึงต้องเลือกมนุษย์ที่น่าสมดุลหรืออย่างน้อยก็ควรมีความสมดุลให้ได้มากที่สุด
คนแรกเป็นผู้ชายอวบๆที่ใส่แว่นหนาคล้ายโอตาคุ เจ้านั่นนั่งยิ้มเรี่ยราดกับสาวๆในกลุ่ม ดูไม่ใยดีมนุษย์ผู้ชายสี่คนที่หันไปมองมันทั้งโต๊ะเลย ส่วนอีกคนก็ไอ้เด็กเชี่ยที่เขาเลือก มันเมียงมองมายังพวกเขาบ้าง สบตากับเขาครั้งหนึ่ง แล้วมันก็เมินไปหัวเราะกับเพื่อนมัน เป็นเด็กเลวที่ตาตี่แต่หน้าขาวมาก ปากมันสีชมพูจัด แต่ดูจากรูปร่างแล้วผอมแห้งแกรนเป็นขี้ก้าง ผมก็ไม่ได้สนใจดูให้มันเข้าทรง ปล่อยให้ชี้โด่เด่ไปคนละทิศ จะดีหน่อยก็ตรงที่มันดูสะอาดสะอ้านนี่แหละ
เลือกเจ้านี่มาก็หวังว่าจะเคลมได้ง่ายหน่อย แต่จากสามวันที่ผ่านมามันไม่มีอาการอะไรเลย นอกจากเฉยชานิ่งสนิท ไม่ดูกระตือรือร้นหรือยินดีเวลาที่เขาโทรหาหรือมารับ ไม่ตอบรับข้อความ บางทีทิ้งหายไปเลยก็บ่อย แบบนี้ตอบได้คำเดียวว่าเขาคงจะยากแล้ว ยากจริงๆที่จะทำตามเงื่อนไขไอ้แชร์ อาทิตย์นึงคงจะพามันขึ้นหิ้งมากกว่าขึ้นห้องเสียล่ะมั้ง
แต่คนอย่างมกร.. ไม่มีทางยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ
มันไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ..อย่างดี...ถ้ามันไม่เล่นด้วย..ก็ปล้ำมันซะสิ้นเรื่อง ที่เลือกมันมาเพราะตัวมันเล็กเท่าเมี่ยง น่าจะปล้ำง่ายกว่าไอ้ตัวโตนั่น.. ถ้าไม่ยอมกันง่ายๆก็คงต้องลงไม้ลงมือกันหน่อย ความเลวของเขามันมีเท่าทะเล จะไปกลัวอะไร
มกรหัวเราะเยาะหยันอยู่ในใจ.. ความเลวที่มีน่ะหรือ.. เหอะ..ช่างเป็นเรื่องน่าสนุกนัก
ถ้ามีแมนดีๆไม่ชอบ อยากได้แมนเลวๆเขาก็พร้อมจะจัดให้..
พอคิดได้เช่นนั้น มกรก็หัวเราะออกมาด้วยความสบายใจ.. ทางชนะมีอยู่เห็นๆ เขาหรือจะยอมแพ้คนแอบไอ้แชร์
ชายหนุ่มหันไปมองโทรศัพท์ที่เขวี้ยงทิ้งไปไว้เบาะข้างคนขับ และหยิบมันขึ้นมาอีกครั้งหวังจะโทรไปหาเด็กนั่น.. กลับเป็นจังหวะเดียวกันที่เด็กคนนั้นโทรเข้ามา
“ครับ นัทเสร็จธุระแล้วหรือ”
“ครับ ..ผมกำลังลงไปครับ” ปลายสายแจ้งเช่นนั้นแล้ววางไป ไม่นานประตูรถก็ถูกเปิดออกและร่างเล็กของไอ้เด็กตัวแสบก็แทรกเข้ามานั่งอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง.. ประตูปิด คาดเข็มขัดเรียบร้อย.. ก็ไม่ได้มีคำทักทายสักคำ จนฝ่ายเจ้าของรถต้องเป็นคนเอ่ยทักขึ้นมาเสียเอง
“เรียนเหนื่อยไหมครับ”
“ก็เหนื่อย” ตอบเสร็จมันก็เมินออกไปนอกหน้าต่าง
“แล้ววันนี้เราจะไปไหนกันดี พี่อยากพานัทไปทานขนมนะ วันนี้พวกเพื่อนเราไม่มาด้วยเหรอ”
“แยกย้ายกันกลับบ้านหมดแล้ว.. ผมก็อยากกลับบ้าน วันนี้ไม่ไปไหนทั้งนั้นครับ” ณัฐวีร์เอ่ยตอบแล้วหันกลับมามองหน้าอีกฝ่าย “หรือถ้าพี่ไม่สะดวกไปส่งผมที่บ้าน ผมกลับเองได้ไม่ลำบากครับ..ขอบคุณมาก”
จบประโยคเด็กหนุ่มก็ทำท่าจะปลดเข็มขัดนิรภัยออกทำให้คนที่ฟังแล้วนิ่งไปชั่วครู่ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทันที
“ได้สิครับ ไม่ไปไหนก็ไม่ไป พี่ไปส่งนัทที่บ้านก็ได้..” แต่แล้วคนพูดก็เอี้ยวตัวไปที่เบาะหลังแล้วหยิบเอากล่องของขวัญกล่องแบนออกมาให้ “พี่ซื้อมาให้ครับ เดินเลือกอยู่ตั้งนาน”
ณัฐวีร์มองกล่องของขวัญนั้นสลับกับมองตาคนให้
“รับไปสิครับ ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก”
คนฟังอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่ใช่เพราะเกรงใจ.. แต่รำคาญ..
สุดท้ายณัฐวีร์ก็รับมันมาแล้ววางลงกับตักโดยไม่คิดจะแกะมันดู “ขอบคุณนะครับ คราวหลังไม่ต้องซื้อมานะ.. กลับกันได้แล้วล่ะครับ ผมอยากกลับบ้านแล้ว”
มกรข่มอารมณ์ตัวเองเต็มที่.. เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะหันไปเริ่มออกเดินทาง และนึกเข่นเขี้ยวอยู่ในใจ..
อย่าให้ถึงทีกูบ้างแล้วกัน





................
tbc.



เรื่องนี้ยังไม่ได้ผ่านการขัดเกลา อาจมีคำผิด คีย์ผิด เข้าใจผิดอยู่ด้วย และเรื่องนี้จะลงจนจบแน่นอน (ถ้าคนเขียนยังขยันเขียนอยู่) //ห๊ะ!!

ฝากไว้อ้อมใจด้วยนะค๊าาาาา  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2014 09:46:45 โดย pae666 »

hayate__

  • บุคคลทั่วไป
Re: "Can I...?" (แคน ไอ...?) โดย morse moskito
«ตอบ #2 เมื่อ25-10-2013 09:46:07 »

สนุกจัง อัพต่อไปเรื่อยๆนะฮ้าาา :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ janji

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: "Can I...?" (แคน ไอ...?) โดย morse moskito
«ตอบ #3 เมื่อ26-10-2013 13:16:51 »

สนุกอ่ะบวกเป็ดให้น๊า รีบมาต่อไวไว ๆๆๆๆนะ รออยู่

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ตอนที่ 2




ความที่เป็นคนหน้าตาดีมาแต่กำเนิด มกรจึงมักอยู่ในวงล้อมของผู้คนที่ให้การดูแลเขาเสมอ ไม่เคยต้องสนใจความรู้สึกใคร ไม่เคยต้องดูแลใครมากนัก การหายตัวไปของมกรในช่วงห้าวันมานี้ จึงทำให้เพื่อนนอกกลุ่มต่างคาดเดาไปว่าฝ่ายนั้นคงได้ของเล่นใหม่เอาไว้ควงอวดอีกแล้ว และคงกำลังเห่อมากเสียจนไม่สามารถละมือได้
แต่กับเพื่อนกลุ่มเดียวกันที่ทราบความเคลื่อนไหวตลอดห้าวันมานี้ของมกร.. ต่างก็หัวเราะงอหายให้กับไอ้รูปหล่อ พ่อรวย โพรไฟล์หรู ที่ดูเหมือนจะมือตกนั่น..
“กูว่ากูได้กินเงินไอ้แมนมันภายในอาทิตย์นี้ล่ะวะ” แชร์ ไอ้ตัวต้นเรื่องพูดกลั้วหัวเราะเมื่อมองไปเห็นเพื่อนแมนเดินหน้ามุ่ยมาแต่ไกล
“มึงอย่าย่ามใจไป” ผู้สมรู้ร่วมคิดรายที่หนึ่ง นายป้อดปอดแหกกล่าวด้วยใบหน้าซีดเซียว.. ถึงจะเชื่อมือไอ้แมน แต่ดูเหมือนความคืบหน้าในเนื้องานไม่ปรากฏเลยไอ้ชั่ว ..ห้าหมื่นของกู
“กูไม่ได้พูดอย่างไม่มีหลักการ มึงก็เห็นว่าไอ้แมนมันทำตัวงี่เง่าหงุดหงิดมากขึ้นทุกวัน ถ้าบอกว่ามันเมนส์ไม่มากูก็เชื่อนะ”
“แชร์แหม เฉ้าฉุ่ย ปากเหม็น มึงไม่ต้องมาตัดรอนกำลังใจพวกกูเลย” หนุ่มต่อ หรือปังตอ ร้องด่าก่อนจะหันไปทักเพื่อนแมนที่เดินเข้ามาถึงโต๊ะพอดี “ไงมึง ปวดขี้หรือไม่ได้ปี้ใคร หน้าแม่งไม่รับซองผ้าป่าแล้วเนี่ย”
“....”
ความเงียบที่ตอบกลับมาพร้อมแรงกระแทกตัวลงนั่งบนม้าหินข้างคณะทำให้เพื่อนๆมองหน้ากันตาปริบๆ
แล้วก็เป็นไอ้ตัวต้นเรื่องที่ตบไหล่เพื่อนตัวเองเบาๆ “เฮ่ย ใจเย็นๆ มีอะไรมึงบอกกูสิ ใครทำไรมึง พวกกูจะไปยำตีนมันให้”
“..ไอ้เด็กเหี้ยนั่น..” ประโยคแรกก็เสียงรอดไรฟันมาเลยทีเดียว “แม่งให้กรูไปรอหน้าบ้านมันเมื่อเช้า บอกว่าจะไปเรียนพิเศษ กูไปเลทแค่ห้านาที แม่งออกจากบ้านไปขึ้นรถไฟฟ้าแล้ว กูแวะซื้อกาแฟนิดเดียวเอง”
“อ้าว.. ไหงทำกับเพื่อนกูอย่างนี้วะ แล้วมันไม่โทรบอกมึงก่อนเหรอ”
“มันส่งข้อความมาบอก แต่กูขับรถไง ใครมันจะไปเปิดข้อความหลังไมค์ในเฟซอ่านตอนขับรถวะ แอพเฟซก็ตั้งไว้ไม่ให้ร้องเตือน ..แล้วจนขณะนี้มันก็ยังไม่รับกูเป็นเพื่อนเลย”
“โห มือตกขนาดหนักว่ะเพื่อนกู” ป้อดหันไปกระซิบกับต่อ แต่เจ้าตัวดันหันขวับมาเขม่นมองจนเพื่อนสองคนหัวหด
“น่าๆ นี่มันเพิ่งวันที่หกเอง เผื่อพรุ่งนี้วันที่เจ็ดมึงจะมีปาฏิหาริย์..”
“ปาฏิหาริย์กะผีสิไอ้แชร์ ...กูว่าลำบากแล้วว่ะแมน เด็กห่านี่ท่าทางไม่หลงกลรูปหล่อป๋าเปย์ของมึงแน่ๆ”
มกรเองก็คิดเช่นนั้นมาหลายวัน.. เกือบอาทิตย์ที่ผ่านมา เขายังไม่ได้พูดคุยเป็นเรื่องราว หรือเข้าใกล้คำว่าเพื่อนเลยด้วยซ้ำ โทรไปก็คุยกันไม่ถึงสิบนาที บอกว่ามีงานต้องทำ ง่วงจะนอนแล้ว หรือไม่ก็ต้องคุยกับที่บ้าน.. สารพัดเหตุผลจะมาอ้าง ของขวัญที่หามาให้ โอเค อาจจะไม่ได้ตั้งใจหาเอง ให้เด็กที่บ้านไปซื้อบ้าง ให้เลขาแม่สั่งดอกไม้ให้บ้าง หรือกระทั่งกวาดทุกอย่างที่เด็กนั่นมองและจับเอามาให้.. เด็กมันยังไม่มีท่าทางดีใจเลยสักนิด มันมองของมองหน้านิ่งๆ ยกมือไหว้เป็นบางครั้ง และหลายครั้งที่มันทำเป็นลืมวางไว้หลังรถ อย่างไอ้หมีตัวเท่าควายที่เขาซื้อมาให้ ตอนนี้มันก็ยังนอนตายอยู่ในรถ มันอ้างว่าเอาเข้าบ้านไปเดี๋ยวมีคนถาม ฝากไว้ในรถก่อน .. รถกูเลยกลายเป็นรถแต๋วไปเลย
“ว่าแต่เย็นนี้มึงจะไปด้วยกันเปล่าวะ”
เพื่อนแมนหันไปขมวดคิ้วใส่คนถาม “ไปไหน?”
“อ้าว.. ไอ้ป้อดไม่ได้บอกเหรอ พี่ออฟชวนไปดูของ”
คนถูกพาดพิงยิ้มแหยๆ “กูลืม”
“โห ง่ายๆเลยนะไอ้เชี่ย.. เออ นั่นแหละ พี่ออกชวนไปดู เผื่อจะได้มาเล่นสักหน่อย”
“เพิ่งได้มาหรือไงวะ เห็นทุกทีไม่ต้องไปดูเอง อยากก็โทรกริ้งเดียว”
“เห็นว่าเพิ่งลงเครื่องมาว่ะ” ปังตอบอก “มีหลายสิ่งอย่าง”
“หือ?..” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างสงสัย “หลายอย่างนี่มันอะไรวะ”
“ของเดิมๆ มีเพิ่มเติมแค่พวกแจ่มว้าว”
“เฮ้ย.. มีกี่คน..”
ไอ้คนให้ข้อมูลหัวเราะร่วน “สัตว์แมน.. หูกางเชียว เงี่ยนหรือมึงอาทิตย์นึงที่ผ่านมาไม่ได้เอาออกเลยสิ ทำตัวดีฉิบหาย”
“ก็เฝ้ารับส่งไอ้เด็กเวรนั่นจะเอาเวลาที่ไหนไปหาแจ่มๆวะ เก็บกดอยู่เนี่ย วันนี้พรุ่งนี้ไม่ได้เล่นใครกูคงระเบิดเป็นโกโก้ครั้นซ์ล่ะไอ้สัตว์”
“ของมึงคงไม่ระเบิดเป็นโกโก้มั้งไอ้เชี่ย” แล้วไอ้มุกทะลึ่งตึงตังทั้งหลายก็ถูกขุดขึ้นมาสาดใส่กันอีกเป็นกระบุง
“สรุปๆ เย็นนี้มึงจะไปไหม พี่ออฟนัดที่เคลียร์คลับ”
“เออๆ ตามไปๆ ยังไงต้องไป เดี๋ยวไปจัดการไอ้เด็กเชี่ยก่อน กูว่าต้องจัดการมันขั้นเด็ดขาดแล้วล่ะ”
คำพูดนั้นทำเอาเพื่อนๆมองหน้ากันทันที ถ้าไอ้แมนบอกว่าจะ “จัดการขั้นเด็ดขาด” คาดว่าไอ้เด็กนั่นไม่ตายก็คางเหลือง “ห่าแมน ระวังนะมึง.. พรากผู้เยาว์นะเว้ย”
“เรื่องกฎหมายให้พ่อกูจัดการ และ..คนอย่างกูถ้าจะทำไม่ปล่อยให้ใครมาตีกลับได้หรอกมึง..กูจะเล่นมันให้คุ้มเอาจนมันขยาดกูไปเลย”
แล้วเสียงหัวเราะเบาๆของมกรก็พาให้เพื่อนๆคนหัวลุกไปตามๆกัน... การเป็นศัตรูกับคนอย่างมันเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่แข็งจริงไอ้แมนเอาตาย
พ่อเป็นนายตำรวจใหญ่ แม่เป็นนักธุรกิจชื่อดัง.. ลูกชายคนเดียวจึงมีสภาพกระพร่องกระแพร่งแบบนี้นี่เอง
…..


รถยุโรปสีดำคันเดิมถูกจอดรออยู่ในลานจอดรถ
เมื่อเช้า ณัฐวีร์หลบออกมาด้วยมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และทันเห็นรถคันนี้เลี้ยวเข้าไปในซอยบ้าน แต่เขาตั้งใจจะปล่อยผ่านอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้บอกให้พี่วินกลับรถไปหา ทันทีที่ลงรถและเท้าแตะบันไดเลื่อนของรถไฟฟ้า สายเรียกเข้าของ “ไอ้บ้า” ก็ดังขึ้น
“น้องนัทอยู่ไหนครับ”
ไม่เคยมีพี่ชายโว้ย!
เขาร้องโหวกเหวกอยู่ในใจ แต่ก็ตอบไปอย่างสุภาพ “รถไฟฟ้าแล้วครับ ผมกำลังจะเข้าขบวนรถแล้ว แค่นี้ก่อนนะครับ”
แล้วเขาก็ตัดสายไปไม่ทันรอคำตอบ.. ไม่นานก็มีข้อความส่งเข้ามาในไลน์
“รีบไปเหรอครับ พี่ขอโทษที่มาสายนะพี่มัวแต่แวะซื้อขนมไว้ให้นัททานตอนเช้าอยู่น่ะครับ ถ้ายังไงเย็นนี้เจอกันนะครับ คิดถึงจัง”
อ่านข้อความนั้นจบ ณัฐวีร์ก็ยกมุมปากยิ้มเล็กน้อย.. หลายวันที่ผ่านมาจะบอกว่าไม่หวั่นไหวเลยก็คงตายด้านเกินไป เขาหวั่นไหวจากการกระทำที่อีกฝ่ายมีให้บ้าง แต่ยังไม่ปักใจเชื่อ ยังระแวง ยังไม่อยากคาดหวัง.. จึงไม่แสดงออกนักว่าตนเองก็เริ่มเอนเอียงไปบ้าง
ที่สำคัญคือ เขายังไม่พร้อมจะตอบรับการมีคนรักเป็นเพศเดียวกัน.. ถึงแม้เขาจะไม่เคยกำหนดเพศ แต่ผู้ชายอย่างเขาก็อยากมีผู้หญิงข้างๆมากกว่าจะต้องไปเป็นผู้หญิงของใคร
เขายังคงต้องทำใจอีกระยะหนึ่งล่ะ.. แต่การทำใจของเขาบนความพยายามของไอ้บ้า..อาจจะเห็นผลในเร็ววันนี้ก็เป็นได้..
จากนั้นก็มีข้อความเข้ามาเป็นระยะ คิดถึงบ้างล่ะ ทานข้าวเช้าหรือยังบ้างล่ะ แถมยังบอกพิกัดเสร็จสรรพว่าตอนนี้จอดรถแล้ว ตอนนี้นั่งรออยู่ในคอฟฟี่ช็อปใต้ตึก ซื้อขนมไว้ให้ ส่งรูปมายั่วน้ำลายอีกต่างหาก พอจบเรียนพิเศษคาบบ่าย ไอ้บ้าก็โทรเข้ามาทันที ..
สาบานได้ว่าเขาไม่เคยบอกตารางเรียน ไม่เคยบอกเวลาว่าง แต่มันมักรู้เสมอว่าเขาจะเปลี่ยนห้องเรียน พักเที่ยง เลิกเรียนเมื่อไหร่.. ไม่รู้ไปสืบมาได้อย่างไร.. แต่นี่ก็เป็นอีกจุดที่ทำให้เขารู้สึกดีที่มีใครคนหนึ่งให้ความสนใจเขาขนาดนี้
อย่างน้อย..ก็ดูมันจะมีความพยายามในการติดตามตัวเขาเหมือนกัน
“นัทหิวอะไรอีกไหม”
ไอ้บ้าเอ่ยถามเมื่อเข้ามานั่งอยู่ในรถคันเดียวกัน
“ไม่แล้วครับ แค่แซนวิชเมื่อกี้ก็เต็มที่แล้ว”
มกรยิ้มให้บางๆก่อนจะเอ่ยบอก “ถ้างั้นวันนี้ไปธุระกับพี่ได้ไหมครับ พี่นัดเพื่อนเอาไว้ต้องไปดูของกันนิดหน่อย”
“ถ้าพี่มีธุระผมกลับเองได้ครับ” ณัฐวีร์ขยับตัวทำท่าจะสะพายเป้ลงจากรถ แต่เพราะแขนถูกคว้าเอาไว้เขาจึงต้องหันกลับมามองเจ้าของมืออุ่น
“พี่ไม่ให้กลับเอง” มกรจับแขนนั้นแน่น “ยังไงนัทก็ต้องไปกับพี่..นะครับ ถือว่าพี่ขอร้อง เพื่อนพี่รออยู่และมันเป็นทางผ่านกลับบ้านนัทพอดี พี่แวะเข้าไปดูของนิดเดียวเอง ไม่เสียเวลานัทอ่านหนังสือหรอกครับ”
“ผมไม่ได้ห่วงอ่านหนังสือ..” ณัฐวีร์มองแขนตัวเองที่อยู่ในอุ้งมือใหญ่ของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จะมองตรงไหนดี นี่ดูเหมือนเป็นการแตะต้องเนื้อตัวกันครั้งแรกของพวกเขา และมันก็อุ่นร้อนจนเขาไม่คิดว่าสัมผัสจากคนอีกคนจะทำให้เขาใจเต้นได้ขนาดนี้
“งั้นนัทก็ไปกับพี่ได้สินะครับ นะ” มกรเลื่อนมือลงมากุมมืออีกฝ่ายแล้วบีบเบาๆ
“ก็ถ้าพี่มีธุระกับเพื่อน ..ผมก็ไม่อยากไปกวน”
“ไม่เลย..ไม่กวน อยากให้นัทไปด้วย” คนพูดนึกกระหยิ่มอยู่ในใจ บางทีเขาอาจไม่จำเป็นต้องบังคับอะไรมันนักหรอก
“ไม่เย็นมากใช่ไหมครับ..” ณัฐวีร์เอ่ยถาม “เดี๋ยวแม่เป็นห่วง”
“อาจจะนิดนึง พี่อยากพานัทไปทานข้าวเย็นด้วยกัน โทรบอกคุณแม่ดีไหมครับ ท่านจะได้ไม่ต้องห่วง” เป็นคนดีเข้าไว้ไอ้แมน ดีเข้าไว้
“อย่าให้ดึกนักนะครับ ผมเกรงใจแม่..”
“ได้สิ.. นัทของพี่” ว่าแล้วมกรก็ดึงร่างของอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่นด้วยความยินดี.. อย่างน้อยแผนของเขาก็ผ่านไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว “พี่จะพานัทไปอวดเพื่อน แฟนพี่น่ารัก”
ณัฐวีร์ผละออกมาจากอ้อมแขนอีกฝ่ายขณะบ่นไปพลางควานหามือถือในกระเป๋าไปด้วย “ยังไม่ได้บอกว่าเป็นแฟนกันเสียหน่อย.. ฮัลโหล แม่เหรอครับ..”
ขณะที่ณัฐวีร์กำลังบอกกล่าวไปยังผู้ปกครอง มกรก็ออกรถไปยังที่นัดหมาย
การเดินทางในเย็นวันเสาร์สำหรับบางพื้นที่นั้นรถติดหนักกว่าวันทำงานเสียอีก ทำให้ระยะเวลาในรถมีมากกว่าทุกทีที่ไปรับส่งณัฐวีร์และมีเพื่อนอยู่ในรถด้วยกัน การแลกเปลี่ยนบทสนทนามีมากขึ้นจนทำให้เด็กหนุ่มกล้ายิ้ม กล้าหัวเราะ และกล้าปล่อยให้อีกฝ่ายดึงมือเขาไปจับไว้ขณะขับรถด้วย
“พี่มีความสุขจังครับ”
ไอ้บ้ามันพูดแบบนั้นแล้วก็ดึงมือเขาขึ้นไปหอม ทำให้เขาอดที่จะรู้สึกเขินไปด้วยไม่ได้ “พอเถอะครับพี่.. ผมก็อายนะ”
พูดแล้วก็ดึงมือตัวเองออกจากมืออีกฝ่ายแล้วนั่งฟังเสียงฮัมเพลงไปเรื่อยๆ
“..แล้วนี่อีกไกลไหมครับกว่าจะถึงที่นัด”
มกรส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลยๆ เลี้ยวข้างหน้านี่แล้วไปที่ซอย 9 เราก็ถึงแล้วล่ะ นัทหิวแล้วเหรอ”
“ผมยังไม่หิว” เขาพูดแล้วเบือนหน้าออกไปนอกรถ “ออกจะเลี่ยนๆด้วยซ้ำ”
“หือ..ว่าไงนะ”
ณัฐวีร์หันมามองเหล่อีกฝ่ายแล้วบอกเบาๆ  “เลี่ยน..”
“พี่ไปทำให้รู้สึกอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน..”
“รู้สึกอยู่ตลอดนั่นแหละครับ”
มกรหัวเราะร่วน “พี่อุตส่าห์ทำเนียนๆนะเนี่ย”
“ไม่ทันแล้วครับ..” ณัฐวีร์มองเสี้ยวหน้ายิ้มแย้มของคนขับแล้วจึงตัดสินใจเอ่ยถามออกมา “ผมอยากรู้.. ทำไมพี่ถึงมาจีบผม คนหน้าตาดีกว่าผมมีเยอะแยะทำไมพี่ถึงไม่สนใจ”
มกรนิ่งไปนิดนึง แต่ใบหน้านั้นยังยิ้มแย้มไม่เปลี่ยน “ก็เพราะพี่ไม่ได้สนใจหน้าตาน่ะสิครับ นัทของพี่น่ารักออกนะ”
“อย่าพาผมออกนอกเรื่องสิครับ ผมไม่เห็นว่าจะน่ารักยังไง.. อีกอย่างผมเป็นผู้ชายนะพี่ จะเอาไอ้ความน่ารักที่พี่ว่ามาจากไหน ..ตกลงชอบผมที่อะไรเนี่ย”
ยังไม่ทันจะถามจบประโยคดี มกรก็เลี้ยวรถเข้าไปยังที่จอดและหันกลับมายิ้มหวานให้ณัฐวีร์กลบคำตอบนั้นเสีย
“ถึงแล้วครับ ไปเถอะ ลงไปทานข้าวกัน อะไรไม่สำคัญไว้บนรถนี่ก็ได้นะ”
แล้วเจ้าตัวก็เปิดประตูรถลงไปยืนรอ ครั้นพอเด็กหนุ่มลงจากรถมาสมทบ เจ้าตัวก็เฉไฉพาเดินเข้าไปในคลับไม่พูดอะไรสักคำ
“มาแล้วเว้ยๆ ไอ้แมนทางนี้ๆ” แชร์โบกไม้โบกมือโหวกเหวกให้เห็นว่าพวกเพื่อนนั่งอยู่กันที่โต๊ะในสุด
พอเดินมาถึงโต๊ะ ณัฐวีร์ก็ยกมือไหว้
“กล้ามาก พาน้องเขามาด้วยเหรอวะ.. น้องจำพวกพี่ได้ใช่ไหมครับ” ป้อดเป็นคนเอ่ยทัก
คนถูกถามจึงยิ้มรับ “จำได้ครับ แต่ยังไม่รู้จักชื่อพวกพี่สักคน”
“ไม่มีแนะนำเพื่อนหรอกไอ้แมนอ่ะ”
“เออๆ พวกมึงนี่ทำเป็นพูดเยอะไปได้ นัทครับ นั่นไอ้ตัวโตๆนั่นชื่อแชร์ ส่วนคนใส่แว่นชื่อป้อด แล้วก็ไอ้เตี้ยนั่นชื่อต่อแต่เรียกมันว่าปังตอก็ได้นะ”
“สัตว์ แนะนำกูให้มันดีๆหน่อยไม่ได้เหรอวะ” คนโดนแนะนำบ่นอุบ “กูเตี้ยก็เตี้ยมีคุณภาพนะมึง ว่าแต่น้องนัทใช่ไหมครับ”
“ครับพี่..” เด็กหนุ่มตอบรับ
“เรียนม.ไหนแล้วเนี่ย พวกพี่ปีสามแล้ว”
“ม.ห้าครับ เทอมหน้าก็ขึ้นม.หกแล้ว”
“อ้อๆ อายุห่างกันเยอะเหมือนกันนะเนี่ย.. ว่าแต่ทานอะไรมาหรือยังครับ”
“มีทานมาบ้างแล้วครับ..” เด็กหนุ่มตอบแล้วยิ้มให้
“ถ้าจะสั่งอะไรก็สั่งได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ ไอ้แมนมันจ่ายอยู่แล้ว”
“ไม่ต้องห่วงแฟนกูหรอกไอ้ปัง กูดูแลเองได้” มกรพูดแล้วหันไปโอบไหล่เล็กของคนที่นั่งข้างกัน เรียกเสียงโห่จากเพื่อนและอาการแข็งขืนจากคนข้างๆได้ทันที
“น้องเขายอมรับมึงแล้วหรือไง” แชร์หรี่ตาลงเอ่ยถามอย่างจับผิด แน่ล่ะ เงินตั้งแสนห้ามีสิทธิ์ปิ๋วได้นะถ้าไอ้เด็กนี่เกิดยอมผ่านเงื่อนไขแรกของมันน่ะ “เมื่อเช้ากูยังเห็นมึงเดินหน้ายุ่งเข้ามาที่มหา’ลัยอยู่เลย”
“คนอย่างพี่แมนครับแชร์.. คนอย่างพี่แมน..” ชายหนุ่มหันไปยักคิ้วให้เพื่อนเป็นเชิงเยาะ  ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ณัฐวีร์เบี่ยงตัวออกจากแขนของเขาด้วยความอึดอัด
“ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้เป็นแฟนพี่เขา!”
คำพูดนั้นทำให้มกรหันขวับไปมองทันที ดวงตาคมเข้มหรี่ลงอย่างเอาเรื่อง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจน มืออีกข้างที่ไม่ได้โอบร่างของณัฐวีร์นั้นกำที่เท้าแขนเก้าอี้ไว้แน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
ตาที่มองสบกันกับณัฐวีร์นั้นเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวจนเด็กหนุ่มรู้สึกตกใจ เขาไม่เคยเห็นไอ้บ้านี่ทำตาแบบนี้ใส่เขามาก่อน หรือการที่เขาพูดความจริงซึ่งถือเป็นการปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างชัดเจนออกไปอย่างนั้น มันจะทำให้คนๆนี้เสียหน้า..
ณัฐวีร์ลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นว่ามกรไหวไหล่คล้ายจะขยับตัว
และพอเห็นท่าไม่ดีอย่างนั้น ป้อดที่นั่งติดกับมกรอยู่ก็ขยับจับแขนเพื่อนทันที
“ฮะ เฮ้ย..! .. แหม น้องนัทนี่ขี้อายนะครับ..”
จังหวะนั้นเองที่มีผู้ชายร่างหนาคนหนึ่งเดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับเสียงทัก
“เฮ้ย ว่าไงคุณลูกค้า มากันเร็วฉิบหาย กะไม่ให้ใครเขาได้เลือกก่อนเลยหรือไงวะ”
แล้วเหล่าเพื่อนของนายมกรก็ต่างถอนหายใจเฮือกใหญ่เหมือนจะโล่งอก.. รอดไปนะมึงไอ้เด็กเชี่ยเอ้ย
“อะไรกันพวกมึง ทำหน้าเครียดกันเชียว.. ให้นั่งรอแป๊บเดียวเอง.. น่าๆ รออีกกลุ่มนึงเดี๋ยวมันก็มาแล้ว เลี้ยวเข้าที่จอดแล้วเนี่ย”
“เออๆพี่ ยังไงก็เร่งพวกมันเร็วๆแล้วกัน พวกผมจะได้เข้าไปดูของสักทีแล้วจะได้ไปต่อกันเลย”
“ใจร้อนจริงๆวัยรุ่นพวกนี้ ของดีมันต้องค่อยๆดูค่อยๆเลือก..” เสียงเปิดประตูคลับทำให้เจ้าของร้านหันขวับไปทันที “นั่นๆ มานั่นแล้ว”
“ฉิบหาย..” เสียงสบถเบาๆจากไอ้ป้อดทำให้ทุกคนในโต๊ะหันไปมองตามสายตามันทันที “เชี่ยเอ..”
“งานเข้าอีกแล้วมึง พี่ออฟ อีกกลุ่มนึงพวกไอ้เอเรอะ..” แชร์ร้องถามขึ้นมาทันที แล้วก็ไม่ลืมที่จะผวาไปหาไอ้แมนเพื่อนรักที่ขยับลุกขึ้นทันทีเหมือนกัน
“อ้าวๆ พวกมึง.. อย่าบอกนะว่าเหยียบไส้ติ่งกันอยู่..”
“ถ้าล้วงตีนลงไปเหยียบม้ามมันได้ไอ้แมนก็ทำแล้วพี่..”
“เหี้ยแล้วไง”
ไอ้เอ.. คู่แค้นเก่าตั้งแต่สมัยมัธยมของมกร ต่อยตีกันมาตั้งแต่เรื่องผู้หญิงยันเรื่องพื้นที่เปรี้ยวกลางคืน แข่งกันตั้งแต่เรื่องหน้าตา เรื่องเงิน เรื่องความยิ่งใหญ่ของพ่อแม่มัน ไปจนถึงเรื่องความเลวของพวกมันนั่นแหละ ... ก็ไม่เข้าใจทำไมพวกมันไม่แข่งกันเรื่องความดี เรื่องเกรดเรียน เรื่องทำกิจกรรมบ้าง เห็นแต่ละเรื่องที่แข่งกันนี่สยองโลกทั้งนั้น
ที่สำคัญคู่นี้เหมือนเป็นศัตรูฟ้าประทานผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาแล้วหลายครั้ง โต้กันไปโต้กันมาเหมือนใครจะฆ่าไอ้ห่านี่ไม่ได้นอกจากกูคนเดียว.. ล่าสุดที่ทำเอาพวกไอ้แชร์ ไอ้ป้อดและปังตอต้องหัวหมุนก็คือ ไอ้แมนไปสอยเด็กไอ้เอมานอนกกสามวันสามคืน แล้วก็ขับรถกลับไปปล่อยไว้หน้าคอนโดไอ้เอ.. ดีเท่าไหร่แล้วที่ไอ้เอมันไม่ได้ตามมายิงทิ้ง แค่บุกเข้ามาฝากข้อความไว้ถึงคณะว่า “มึงอย่าพลาดแล้วกัน” เท่านั้นเอง
แต่นี่คือ
พวกมันต่างมีพ่อมีแม่เป็นคนใหญ่คนโต ดังนั้นจึงกินกันไม่ค่อยลงเท่าไหร่ พอฟัดพอเหวี่ยงกันทั้งคู่ ยังไม่มีใครยอมใคร ผลัดกันหาเรื่องไปมาเป็นเด็กเวรกันอยู่เนี่ย
“กูว่ากูพาพวกมึงไปก่อนดีกว่า ให้พวกไอ้เอมันรอข้างนอก ไม่ต้องเข้าไปพร้อมกันแล้ว เดี๋ยวก็ฉิบหายกันหมด ของข้างในไม่ใช่บาทสองบาท พวกมึงมีเงินจ่ายกูรู้ แต่ของมันหายาก กูอยากค้าขายมากกว่าอยากให้มันเสียหาย”
พูดจบเจ้าของร้านก็ผละไปรับแขก  แน่ละว่าทางนั้นก็มองเขม่นมาทางนี้ แต่เพราะจำนวนคนที่สูสีกันและเพราะยังอยู่ในคลับที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็นับถือเจ้าของคลับ จึงได้แต่มองกันไปมาไม่ได้วิ่งเข้าชาร์ทกันอย่างที่ทำบ่อยๆเวลาเจอกันข้างนอก
การเจรจากับพวกไอ้เอคงเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก แต่พี่ออฟก็จัดการได้ในเวลาแค่สิบนาที เจ้าของคลับเดินกลับมาพร้อมกับชักชวนเข้าไปด้านในซึ่งเป็นห้องเก็บของ
“ผมรอตรงนี้ก็ได้ครับ พวกพี่ตามสบายเถอะ..” ณัฐวีร์เอ่ยขึ้นเมื่อทุกคนกำลังจะลุกจากโต๊ะ
“ไม่ได้! เข้าไปด้วยกัน” มกรหันมาตวัดเสียงด้วยใบหน้าถมึงทึง
“แต่ว่า..”
“น้องนัท เข้าไปกับพวกพี่เถอะ..” ป้อดต้องออกโรงชวนเองในขณะที่ต่อดึงแขนเพื่อนแมนเอาไว้ .. แทนที่เพื่อนจะไปชาร์ตไอ้เอสงสัยจะชาร์ตไอ้เด็กเวรนี่ก่อนล่ะมั้ง.. อ้อนทีนเรอะเกิน
“นั่นสินัท เข้าไปด้วยกัน..” แชร์เอ่ยเสริมพลางพยักหน้าไปยังกลุ่มคนอีกกลุ่มที่มุมคลับคนละฝาก “ทิ้งไว้คนเดียวเดี๋ยวโดนหาเรื่อง.. พวกพี่เข้าไปกันหมด”
ณัฐวีร์มองคนพูดพลางมองไปทางกลุ่มคนชื่อเอ ทางนั้นเองก็มองมาไม่วางตา
“อย่าเยอะหน่อยเลยนัท.. มาด้วยกัน”
ยังไม่ทันที่ณัฐวีร์จะว่าอะไร เขาก็ถูกดึงแขนให้เดินตามมกรไปเสียแล้ว การขัดขืนเล็กน้อยเกิดขึ้น แต่เพราะมีคนปิดท้ายแถวถึงสามคน ดังนั้นถ้าขืนไปก็โดนสามคนนั้นรั้งไปด้วยอยู่ดี  สุดท้ายเขาเลยเอ่ยกับเจ้าของมือที่ลากเขาอยู่ว่า “ปล่อยผมเถอะ เดี๋ยวผมเดินไปเอง”
ประตูบานใหญ่มีคนเฝ้าอยู่ ออฟเจ้าของคลับเดินนำหน้าไปสั่งให้เปิดประตูรอคนอีกห้าคนที่เดินตามมาเป็นแถว
“พวกมึงจะเล่นอะไรก็เลือกๆดูกันได้เลย กูออกไปรับหน้าพวกไอ้เอมันก่อน คนของกูจะเตรียมเก็บใส่ตะกร้าให้พวกมึงเอง”
“เหอ..ทำอย่างกับมาจ่ายตลาด..”
“พวกมึงมันมาช็อปปิ้ง กูรู้หรอก ยาอยู่ทางขวาโน่น ปืนอยู่ในห้องเล็ก ส่วนผู้หญิงกูไม่ได้ติดเบอร์ แต่เสือกอยู่ในห้องกระจกทางซ้าย.. จะเอาใครชี้แล้วขึ้นไปข้างบนเหมือนเดิม คัดมาแล้ว ตรวจเลือดมาแล้ว ลอตนี้มาจากรัสเซีย แจ่ม..กูรับประกัน” พูดจบคุณเจ้าของคลับก็หันมามองณัฐวีร์ “อ้อ ..หวังว่าเด็กของมึงจะไม่ปากสว่างนะไอ้แมน”
ประตูถูกปิดไปแล้วแต่คนฟังอย่างณัฐวีร์นิ่งค้างไปทันที
ห้องนั้นจัดว่ากว้างพอสมควร มีคนอยู่ในนั้นร่วมสิบคน ต่างก็ใส่เสื้อโปโลสีดำสกรีนโลโก้ของคลับเอาไว้ที่อก ด้านขวาเป็นคล้ายตู้โชว์ธรรมดา ลึกเข้าไปมีประตูเปิดไปสู่ห้องเล็ก ส่วนด้านซ้ายเป็นตู้กระจกสว่างที่ด้านในมีหญิงสาวใส่ชุดบิกินี่นั่งอยู่เกือบสิบคน บ้างก็นั่งสูบบุหรี่ บ้างก็นั่งสนทนา.. และบ้างก็กำลังลูบไล้ชโลมครีมทาตัวพร้อมส่งสายตามาเมียงมองผู้เข้ามาใหม่ทั้งห้า
“เอาไง กูไปซ้าย..” แชร์เปิดประเด็นมาก่อนเลย
“กูไปด้วย.. น่าโดนของต่างชาติ” ต่อร้องเสริมแล้วเดินตามแชร์ไปติดๆ
“เดี๋ยวกูตามไป ขอเดินดูของในห้องก่อน” ป้อดปอดแหกแยกไปห้องปืน
“เออ กูไปดูด้วย..” แล้วเสียงมกรก็ทำให้ณัฐวีร์กะพริบตาเหมือนจะได้สติ
คงมีเด็กม.ปลายไม่กี่คนที่ได้เหยียบเข้ามารับรู้โลกแบบนี้ ยิ่งเป็นเด็กม.ปลายที่มีชีวิตธรรมดาๆแบบณัฐวีร์.. คาดว่าจะมีน้อยมากไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่จะได้เข้ามายืนคว้างอยู่ท่ามกลางอบายมุขโดยที่ไม่รู้จะจัดการกับตัวเองอย่างไร
เมื่อคนอื่นต่างแยกย้ายไปและยังมีเขายืนอยู่เพียงลำพัง หลังของมกรยังเห็นไหวๆและค่อยๆห่างออกมา ณัฐวีร์จึงตัดสินใจหันหลังกลับและเดินตรงไปยังประตูทางออกอย่างไม่รั้งรอ ในเมื่อทุกคนมีสิทธิ์เลือกว่าตัวเองจะทำอะไร เขาก็น่าจะมีสิทธิ์เลือกที่จะออกไปจากที่นี่โดยไม่ขออยู่รับรู้เรื่องพวกนี้ได้เช่นกัน
เด็กหนุ่มเดินผ่านประตูออกมาตรงไปยังประตูคลับ กระเป๋าเป้ที่อยู่บนหลังคล้องกระชับสองข้าง และขาก็ก้าวไปอย่างมั่นคงตรงสู่ถนนใหญ่ ผ่านลานจอดรถหน้าคลับไปได้เกือบครึ่งค่อนแล้วจึงได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งไล่มาพร้อมกับแรงกระชากจากเบื้องหลังจากร่างทั้งร่างปลิวหันกลับไปปะทะกับอกกว้าง
“โอ้ย!” ณัฐวีร์ร้องด้วยความเจ็บ แต่พอจะเงยขึ้นต่อว่าไอ้คนทำ มกรก็กระชากร่างเขาปลิวติดมือเดินตรงกลับไปที่รถ “โอ้ย! พี่แมน!! ปล่อยผมนะ”
แรงทั้งหมดที่มีเด็กหนุ่มใช้มันกระชากแขนออกจากมืออีกฝ่าย พร้อมทั้งรั้งร่างตัวเองไม่ให้ลอยไปตามแรงกระชาก แต่..มันไม่ได้ผล ณัฐวีร์จึงต้องใช้ทั้งเสียงร้องและกำปั้นฟาดไปที่แขนซึ่งยึดตัวเขาไว้
“โอ้ย!”
คราวนี้กลายเป็นเสียงร้องของมกรแทน เจ้าตัวหันหน้ากลับมาประจันกับณัฐวีร์และโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว มือใหญ่หนาที่กำกุญแจรถอยู่ก็ซัดโครมลงมาที่ข้างแก้มเล่นเอาร่างเล็กถลาไปชนกับรถที่จอดอยู่แถวนั้นทันที
“อึก!..”
ณัฐวีร์รู้สึกเหมือนโลกวูบติดๆดับๆ เดี๋ยวมีแสงสว่างเดี๋ยวมืดมิด เขาตกใจและไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ใช้ความจริงหรือเปล่า เด็กหนุ่มกะพริบตาที่รื้นน้ำตาก่อนจะตั้งสติมองไปยังอีกฝ่ายที่ยกมือชี้หน้าเขา
“ไอ้เด็กเหี้ย! ใครใช้ให้มึงทำร้ายกู ..เอาแม่งอีกสักหมัดดีมั้ย”
มือที่เงื้อสูงทำให้ณัฐวีร์ยกแขนขึ้นกันตัวโดยอัตโนมัติ ตอนนี้เขาหลับตาแน่นทำให้น้ำตาที่รื้นขอบอยู่เมื่อครู่ไหลลงมาอาบแก้ม..
เกิดอะไรขึ้น.. มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?
ร่างเล็กโดนกระชากแขนให้เดินตามไปที่รถจนได้
“เข้าไป! กูทำดีด้วยมึงไม่ชอบ อ้อนมาตั้งแต่อยู่ในคลับแล้ว อยากได้แบบโหดก็ไม่บอก กูจะได้จัดให้ ไอ้สัตว์”
แล้วคำหยาบคายต่างๆนานาก็ประดังประเดกันเข้ามาจนณัฐวีร์ออกอาการเบลอไปเลยทีเดียว เขาถูกดันเข้าไปในรถ ยังไม่ทันได้รู้ตัว ความเย็นและเจ็บปวดก็แผ่มาที่ข้อมูล
แคร้ก!
กึก..
แคร้ก!
แขนข้างซ้ายห้อยต่องแต่งอยู่กับที่จับข้างประตูด้วยการรัดของ..กุญแจมือ
“!!!”
เด็กหนุ่มมองมันด้วยความตกใจ ใบหน้าที่ชาเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความกลัว น้ำตาไหลออกมาอย่างที่เจ้าตัวไม่สามารถกดกลั้นไว้ได้
“ปล่อยกู!” เขาเริ่มร้องตะโกนและกระชากมือตัวเองอย่างแรง แต่ยิ่งกระชากตัวเองก็ยิ่งเจ็บ การใช้ขาถีบจึงเป็นทางเลือกของเด็กหนุ่ม แต่ก็ไม่นานนักเขาก็ร้องโอดโอยขึ้นมาอีกครั้ง เพราะมือหนานั่นทุบหน้าขาเขาเสียอั้กใหญ่ ทำให้มันเจ็บร้าวจนมันสั่นระริก
“ถีบกูเรอะ!”
ผั้วะ! ผั้วะ!
“โอ้ย!..”
มกรใบหน้าแดงก่ำ ดวงตานั้นแข็งกร้าว มือที่ชี้หน้าณัฐวีร์สั่นระริก “มึงอย่ามายั่วโมโหกูนะ หักหน้ากูต่อหน้าเพื่อนยังไม่พอ มึงยังมาทำร้ายกูอีก เดี๋ยวกูเข้าไปเคลียร์ข้างในก่อนแล้วค่อยออกมาเคลียร์กับมึงไอ้เด็กเวร”
แล้วประตูรถก็ปิดเสียงดังสนั่นโดยมีณัฐวีร์นั่งร้องไห้อยู่ด้านใน
แต่แทนที่เด็กหนุ่มจะได้นั่งนิ่งๆสงบจิตสงบใจ เหตุการณ์ด้านนอกนั่นกลับทำให้เขาร้องไห้ออกมาดังลั่นมากขึ้น
...





TBC


*******************

มกรเริ่มจะลายออกละ ตอนหน้าจะพิศาลมาเองเลยรึเปล่า อันนี้ขอไปแอบอ่านก่อนนะคะ 55555

ขอบคุณที่บอกว่าสนุกค่ะ  :hao5:
..เราคุยไม่ค่อยเก่ง แต่ยังไงจะพยายามมาอัพให้ทุกวันหยุดเสาร์หรืออาทิตย์นะคะ (เราทำงานจะว่างช่วงวันหยุด)

ขอให้สนุกกับการอ่านค๊าบบบ แหะๆๆ

อยากจะติหรือจะชมก็แล้วแต่คนอ่านเลยค่ะ #คนเขียนบอกว่าชอบ จัดมา!!   :katai4:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2013 10:40:37 โดย pae666 »

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
Re: "Can I...?" (แคน ไอ...?) โดย morse moskito
«ตอบ #5 เมื่อ28-10-2013 22:14:05 »

หมดแล้ว!!!สาบานได้ว่าหมดแล้วจริงๆเหรอคะ!!!!คนอ่านแทบจิกหัวทึ้งแขนตัวเองแล้ว!!!!โอ๊ย ฮือออออออออออออออออ
สงสาร สงสารล่วงหน้าไปเยอะๆเลย เห็นไหม พวกเพื่อนน่ะให้เขาไปกับไอ้เชี่ยพี่แมนจัง โอ๊ย ฮือ!!!!

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
Re: "Can I...?" (แคน ไอ...?) โดย morse moskito
«ตอบ #6 เมื่อ28-10-2013 22:31:41 »

ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกระทึก... ขอให้น้องรอด.... เซนส์น้องนัทก็เกือบดี... แค่ยังไว้ใจคนทำดีหวังผลมากเกินไป...  :katai4:

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ตอนที่ 3









“ไงมึง..”
เสียงนั่นทำให้ขาที่กำลังจะก้าวพ้นหน้ารถชะงักลง มกรหันขวับกลับไปมองด้านหลังตนเองทันที ก่อนจะนึกด่าทอความหละหลวมของตัวเองอยู่ในใจ..
เมื่อครู่เขาผลุนผลันออกมาจากคลับเพื่อตามไอ้เด็กเวรนั่น โดยลืมไปว่าไม่ได้บอกเพื่อน..และมีพวกไอ้เออยู่ด้านนอก
แบบนี้ก็สี่ต่อหนึ่งสิวะเนี่ย..
มกรสบถอยู่ในใจหากแต่ใบหน้านั้นนิ่งสนิท.. จะให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้ว่าลึกๆแล้วเขารู้สึกหวั่นไหวและกำลังหาทางหนีทีไล่อยู่มากมายแค่ไหน ดวงตาคมเข้มแข็งกร้าวนั้นเขม่นมองศัตรูคู่แค้นที่เข่นเขี้ยวกันมาหลายปีโดยไม่ได้สนใจเด็กหนุ่มที่อยู่ในรถเลย
“อะไรของมึงไอ้เอ”
เจ้าของชื่อยักไหล่ “ก็ไม่อะไร..กูออกมาดูหนังแขกเฉยๆ”
แล้วพวกมันก็พากันหัวเราะระรื่นโห่ฮาเป่าปากกันไป “แล้วไงวะ..นั่นเด็กใหม่มึงหรือไง เดี๋ยวนี้หันมาเล่นผู้ชายแล้วหรือ”
มกรยกมือขึ้นกอดอกยืนลงน้ำหนักขาเพียงข้างเดียว “แล้วมันหนักส่วนไหนของมึง.. ถ้ากูคิดจะมีอะไรกับผู้ชาย มึงจะหันตูดมาให้กูเล่นหรือไง”
“ไอ้สัตว์!”
แล้วยังไม่ทันจะพูดกันได้กี่คำเลย กลุ่มที่มีคนมากกว่าก็ผวาเงื้อหมัดมาแต่ไกลเสียแล้ว มกรยกเท้าถีบกระเด็นไปคนหนึ่ง ก่อนจะก้มหลบหมัดของอีกคนได้อย่างฉิวเฉียด เขาปล่อยฮุกขวาเขาที่ท้องจนมันร้องโอ้กตัวงอเป็นกุ้ง ก่อนจะเสยหมัดซ้ายเข้าลิ้นปี่ไอ้คนที่สามที่ทะเล่อทะล่าง้างตีนเข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือจนมันถอยร่นไป
แต่เพราะติดพันกับไอ้สามคนนี้ทำให้เขาพลาดโดนไอ้เอชกเขาที่โหนกแก้มขวาจังๆจนเซถอยไปหลายก้าว.. พอตั้งหลักได้ชายหนุ่มก็ถลาเข้าฟัดกับพวกมันอีกครั้งแลกกันไปคนละตุ้บคนละตั้บ
อย่างไรเสียการตะลุมบอนสี่ต่อหนึ่งต่อให้เก่งมากแค่ไหนน้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟอยู่วันยังค่ำ
มกรถูกไอ้ตัวหัวหน้าสาวหมัดยาวเข้าซ้ำที่โหนกแก้มขวาตรงจนที่โดนครั้งแรกทำให้เขาถลามาซบลงบนกระโปรงรถของตัวเอง ตาที่บวมช้ำมองเห็นณัฐวีร์ที่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ในรถ ทว่าเขาไม่มีเวลาสนใจเด็กหนุ่มคนนั้นนัก เขากลิ้งหลบแรงฟาดของเท้าไอ้เอไปอีกทางทำให้มันคว้าอากาศจนร่างมันเสียหลักและเปิดช่องให้ชายหนุ่มที่เป็นน้ำน้อยหาทางคว้าเอาตัวช่วยออกมา
ปัง!
เสียงปืนสนั่นขึ้นหนึ่งนัดในยามที่ฟ้าอับแสงตะวัน พวกที่รุมสะกรำสี่คนต่างหัวหดลงอัตโนมัติ และเสียงนั้นมันยังเรียกให้คนของคลับวิ่งออกมาหน้าตาตื่นอีกด้วย
“เฮ้ยๆ อะไรกันพวกมึง” เจ้าของคลับร้องโหวกเหวกมาตั้งแต่ประตู “ใครใช้ให้มามีเรื่องหน้าร้านกูวะ ขึ้นรถไปเลยไอ้แมนเดี๋ยวพ่อมึงก็พาลูกน้องมาปิดร้านกูพอดี”
“ไอ้เหี้ยนี่มันหาเรื่องกูก่อนนะพี่ออฟ!” มกรหันไปบอกในมือยังจ่อปืนไปที่ไอ้เออีกด้วย
“พอแล้วไอ้แมน มึงรีบออกไปจากตรงนี้เลยเดี๋ยวทางนี้กูเคลียร์เอง” แชร์วิ่งมากระชากร่างสูงกว่า 180 เซนต์ไปที่รถ ถึงตัวเจ้าแชร์จะพอฟัดพอเหวี่ยงกับมกร แต่เวลาโกรธก็เอามันไม่อยู่เหมือนกัน “ไอ้ป้อด มาช่วยกันเอามันเข้ารถ ไอ้ต่อมึงไปช่วยพี่ออฟเคลียร์ทาง”
ต่างคนต่างแยกย้าย พี่ออฟนั้นมีลูกน้องอีกสามสี่คนมาลากปนล็อคเอากลุ่มไอ้เอที่ยังมีท่าทางกระฟัดกระเฟียดออกไปจนพ้นทางรถ ส่วนแชร์กับป้อดก็ดึงเอาตัวมกรมาถึงประตูด้านคนขับจนได้
“มึงกลับไปก่อนเลยไอ้แมนเดี๋ยวทางนี้กูดูแลให้เอง แม่งเอ้ยใครใช้ให้มึงยิงวะ ปืนเขามีไว้ขู่เฉยๆ ยิ่งไปเดี๋ยวชาวบ้านก็แตกตื่นกันพอดี” ไอ้แชร์บ่นยาวก่อนจะยัดตัวคนชอบหาเรื่องเข้าไปในรถ
ถึงจะมีท่าทีขัดขืนบ้างแต่เพราะเป็นเพื่อนที่รู้ใจกันมานาน มกรจึงไม่ได้ขัดขืนอะไรนัก ร่างสูงผลุบเข้าไปนั่งในรถทั้งที่ยังไม่หายโมโหและปืนก็ยังคามืออยู่เลย
“เฮ่ย.. แล้วนั่นอะไรวะ.. มึงต้องใส่กุญแจมือน้องเขาเลยเหรอ” ป้อดโวยวายขึ้นเมื่อมองลอดแว่นไปเห็นร่างเล็กที่สั่นระริกอยู่กับเบาะข้างคนขับ
“....”
ตาขวางๆของเพื่อนที่มองกลับมาทำให้ป้อดเปลี่ยนเรื่องไปทันที “เออๆ ไม่ยุ่งด้วยก็ได้..กลับบ้านดีๆนะมึง แล้วก็จะส่งน้องเขาลงตรงไหนก็ให้มันมีที่ทางโบกรถกลับบ้านได้ด้วยแล้วกัน”
มกรพยักหน้ารับเท่านั้นไม่ได้พูดอะไรตอบรับ ปืนที่อยู่ในมือค่อยคลายออกแล้วถูกวางส่งๆไปไว้ในที่คอนโซลด้านหน้าตนเอง เจ้าตัวทิ้งร่างลงกับเบาะเหมือนกำลังพยายามสงบจิตใจไม่ให้มันคุไปมากกว่านี้
แก้มซ้ายรู้สึกหนักๆตึงๆ และเจ็บแปลบทุกครั้งที่ขยับมุมปากยก หมัดขวาของไอ้พวกนั้นก็ใช้ว่าจะแรงน้อยนัก ส่วนท้องที่โดนอะไรสักอย่างระหว่างเข่ากับเท้าก็เจ็บไม่ต่างกัน ทั้งเจ็บทั้งจุก จนขยับตัวทีไรก็จะรู้สึกแปลบไปทั้งร่างเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต หน้าแข้งที่ฟาดไปโดนลำตัวพวกมัน.. สงสัยจะมีเขียวมีม่วงอยู่หลายแผล..
วันนี้กลับไปถ้าไม่หยอดยาคลายกล้ามเนื้อเอาไว้ก่อนมีหวังพรุ่งนี้ลุกไม่ขึ้นแน่ๆ
มกรนั่งนิ่งข่มอารมณ์ได้พักเดียว ท่าทางปาดน้ำตาโดยไม่มีเสียงสะอื้นของคนข้างตัวก็มาปลุกความหงุดหงิดขึ้นอีกครั้ง
“ห่าเอ้ย!..”
นี่เขาลืมไอ้เด็กเวรนี่ไปเสียสนิทเลย สายตาหวาดกลัวของมันที่มองมาจากในรถทำให้เขารำลึกถึงสายตาของใครบางคน คนที่เคยใช้สายตาแบบนั้นมองดูเขา..เมื่อในอดีต..
แล้วก็ทำให้เขาไพล่นึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อสมัยนั้น.. คนๆนั้น..
สาบาน..กูจะไม่ให้มันเกิดขึ้นแบบนั้นได้อีก!
มกรทุบมือลงบนพวงมาลัยรถแล้วหันไปมองเพื่อนตัวเอง “ไอ้แชร์ คืนนี้มึงออนแคมได้เลย กูจะสดคลิปแรกให้”
“เฮ่ย..” แชร์ร้องเสียงหลง “มึงเอาจริงอ่ะเหี้ยแมน”
อารมณ์ตอนนี้ของเพื่อนไม่อยู่ในภาวะขัดใจ.. แต่ก็ไม่ควรปล่อยตามใจเหมือนกัน
เด็กนั่นเรียนม.ห้า เท่ากับว่าอายุไม่เกิน 18 แน่ๆ ถ้ามันเกิดจะเอาเรื่องขึ้นมา คาดว่าพ่อใหญ่แค่ไหนก็ต้องส่งผลกระทบถึงเพื่อนเขาไม่มากก็น้อย.. ถ้าจะให้ดี จะทำอะไรอย่ามีหลักฐานไม่ดีกว่าหรือ
“กูบอกแล้วว่าถ้าวันนี้ไม่ได้ปล่อยกูระเบิดตายแน่...” มกรกระชากเสียงด่าเพื่อน
“แต่ก็ไม่น่าจะทำแบบนั้น.. เชื่อกูดิวะแมน เดี๋ยวกูพาหญิงไปให้”
“ไม่เอา!” ชายหนุ่มตวาดแล้วหันขวับไปมองร่างเล็กที่ผวาเฮือก “กูจะเอามัน!”
“แต่ว่า..”
“ไม่มีแต่ไอ้แชร์ มึงไม่ได้กำหนดเงื่อนไขไว้ว่าต้องได้ยังไง เพราะฉะนั้นมันเป็นทางที่กูจะเลือกของกูเอง มึงมีหน้าที่จ่ายเงินกูมาเท่านั้น” มกรตวาดอึงพลางเอื้อมมือไปจับประตูรถ “พวกมึงถอยกันได้แล้ว คืนนี้ใครอยากดูของดีก็ออนแคม กลับไปกูจะออนไว้เลย พวกมึงเสร็จกามกิจของพวกมึงเมื่อไหร่ก็เชิญเปิดดู กูจะจัดการมันวันนี้แหละไม่ต้องรอพรุ่งนี้แล้ว”
“มาถึงตรงนี้เพื่อนมึงจะมีอารมณ์ไปฉุดผู้หญิงที่ไหนขึ้นห้องวะ..” ป้อดพึมพำแล้วขยับหลบทิศทางประตู เห็นประตูปิดสนิทดีแล้วจึงมองมกรเอาปืนหน้าคอนโซลรถลงเก็บไว้ที่เก็บของตรงประตูด้านข้าง
“ไอ้แชร์ มึงจะไม่ห้ามมันหน่อยเหรอวะ เด็กนั่นน่าสงสารนะเว้ย..”
“จะให้กูห้ามยังไงวะ มันฟังกูที่ไหนล่ะ..” คนพูดมองท้ายรถยุโรปสีดำที่เลี้ยวออกจากที่จอดรถแล้วได้แต่ถอนใจ “ได้แต่ภาวนาให้เด็กนั่นยังมีโชคช่วยอยู่บ้าง.. เอาเป็นว่าพวกมึงไปนอนบ้านกูดูแคมด้วยกัน..”
“เฮ้ย! อะไรของมึง กูไม่ไปดูด้วยหรอกนะ ไม่อยากดูผู้ชายได้กันนะเว้ย”
“ไอ้เชี่ยต่อ.. กูก็ไม่ได้อยากให้พวกมึงไปสุมกันที่บ้านกูนักหรอก.. ที่ต้องไปเพราะเผื่อมีอะไรจะได้รีบไปห้ามไอ้แมนมันได้ทัน.. ทำอย่างกับพวกมึงจำเรื่องนั้นกันไม่ได้”
คนฟังทั้งคู่ต่างก็มองหน้ากันแล้วแสร้างทำเป็นหัวเราะเบาๆกลบเกลื่อนเรื่องที่ผุดขึ้นมาในสมอง “ก็นึกว่าจะให้ไปนั่งดูไอ้แมนมันจัดการเด็ก”
“กูก็ไม่ได้เชี่ยขนาดจะนั่งดูมันนะ.. มันเริ่มเมื่อไหร่ก็ปิดภาพปิดเสียงไปเหอะ ตูดผู้ชายจะดูเพื่ออะไรวะ”
“งั้นพาทางนี้กลับไปสักสามสี่คนไม่ได้เหรอ.. ผลัดกันดูผลัดกันชม..ใครอยู่ที่คอมก็เฝ้าไปแตะมือกัน” ไอ้ป้อดนำเสนอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์สุดๆ
แชร์มองหน้าไอ้หนุ่มแว่นแล้วถอนใจเบาๆ “ไอ้หื่น มึงโทรเข้าไปบอกพี่ออฟให้จัดมาสักห้าคน ไม่ต้องเข้าไปเอง เดี๋ยวไปเจอพวกไอ้เอก็มีเรื่องกันอีก แล้วเร็วเลยนะมึง จะได้กลับไปจัดการสักยกสองยกก่อนไอ้แมนมันจะจัดการเด็กมัน”
“ฮ่าฮ่า โธ่ กูก็นึกว่าแม่งจะรักเพื่อน”
เสียงหัวเราะดังลั่นปนเสียงด่ากันขรมดังอยู่ตรงลานจอดรถได้ไม่นาน คนกลุ่มนั้นก็พาสาวๆออกไปจากบริเวณมุ่งหน้าสู่ถนนสุขุมวิทเพื่อกลับคอนโด
....






จะจัดการ... จัดการอะไรงั้นหรือ?
ดวงตาหวาดระแวงลอบมองไปยังคนขับรถที่เหยียบคันเร่งน้อยกว่าเหยียบเบรก บนถนนสุขุมวิทในเย็นวันเสาร์อย่างนี้มีแต่ความอืดเอื่อยและขยับไปได้ทีละเซนอย่างเชื่องช้า ทำให้เด็กหนุ่มมีเวลาสงบจิตใจตนเองได้ไม่น้อย
ประโยคที่เกาะกินใจณัฐวีร์คือ “จัดการ”.. “มึงมีหน้าที่จ่ายเงิน”
เงินอะไร?
ณัฐวีร์รวบรวมสติที่กระเจิงไปกับภาพการวิวาทและเสียงปืน เขายังปาดน้ำตาอยู่เป็นบางครั้งแต่ไม่ได้สะอื้นหนักเท่าแรกๆอีกแล้ว ตั้งแต่ออกรถมาก็ยังไม่ได้พูดอะไรอีกเลย เจ้าตัวรู้ดีว่าช่วงเวลานี้เขาควรจะนิ่งเฉยให้ได้มากที่สุด เพราะเหยื่อที่ไม่มีทางหนีถ้าไปกระตุ้นอะไรนักล่ามากนัก.. เขาอาจต้องตายด้วยความโมโหของนักล่าก็เป็นได้
ดูสิ แค่ขัดใจนิดเดียวเขายังโดนตีแล้วโดนลากมาเอากุญแจมือล็อคห้อยต่องแต่งไว้เนี่ย ความที่ไม่อยากให้ข้อมือตัวเองเป็นรอยช้ำ เขาเลยต้องจับราวโหนไว้เหมือนโหนรถเมล์กันเลยทีเดียว
ถ้าจะลองพิจารณาให้ดีแล้ว..ปืนที่เห็นเมื่อครู่ไม่ได้ถูกเก็บไว้ในที่หยิบยาก มันวางอยู่ข้างที่นั่งคนขับนี่เอง ถ้าเกิดเขาบุ่มบ่ามไม่คิดให้รอบคอบ.. คราวนี้มันอาจไม่แค่ตีและยิงปืนขึ้นฟ้า..
วิถีกระสุนอาจวิ่งเจาะกระโหลกในระยะเผาขนนี่ก็เป็นได้
เรื่องทะเลาะวิวาทของมันที่โดนคนอื่นรุมน่ะช่างหัวมันเถอะ.. เขาน่าจะต้องมาคิดเรื่องทางนี้ทีไล่ของตนเองมากกว่า..
จากคำพูดของมันกับพวกเพื่อน ทำให้เขาสรุปเอาว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างที่เขายังไม่รู้.. หน้าฉากที่เป็นคนดีของมกร ทั้งพูดคุยด้วยดี ทั้งของที่ซื้อมาให้...และอ้อมกอดนั้น..ทุกอย่างถูกแสดงเพื่อเงินและความสนุกชั่วครั้งคราวกับเพื่อนๆกลุ่มนั้นหรือไม่..
ถึงแม้จะยังไม่ชัดเจน และถามออกไปตอนนี้ไม่ได้ แต่ความเป็นไปได้ก็มีสูงมากที่ผู้ชายคนนี้จะมีเกมอะไรสักอย่างที่ทำร่วมกับเพื่อน โดยมีเขาเป็นหมากในเกม.. ไอ้พี่แมนอาจถูกวางเงื่อนไขให้ต้องทำอะไรและถ้าทำสำเร็จก็จะได้เงิน..
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น.. หากเขาได้รับรู้เงื่อนไขและภารกิจไม่หนักหนาอะไรนัก..เขาอาจให้ความร่วมมือ ช่วยกันกับมันดำเนินการไปจนบรรลุเป้าหมาย มันก็จะได้เงินจากเพื่อน ..เขาก็จะปลอดภัย..และได้กลับบ้านเสียที
เรื่องเปิดแคม.. คลิปสดก็อีก.. อันนั้นอาจเป็นหนึ่งในภารกิจที่พวกนั้นกำหนดกันไว้ก็เป็นได้ ดังนั้น..ทางเดียวที่คนถูกล็อคมือติดรถไว้อย่างนี้จะรอดไปได้ ก็มีแต่ต้องให้ความร่วมมือไปด้วยเท่านั้น
ถ้าเขาหารายละเอียดได้.. แต่จะหายังไงล่ะ? ทางที่ง่ายที่สุดดูเหมือนจะเป็นการเอ่ยปากถาม แต่..เขาไม่กล้า ณ เวลานี้ คนขับรถมีคิ้วขมวดมุ่น แก้มซ้ายโย้ออกมา บางครั้งมือที่ว่างก็เลื่อนลงไปลูบหน้าแข้งซ้ายบ้างขวาบ้างเหมือนจะนวดให้บรรเทาอาการ และบางที่ก็ลูบไปที่ช่วงท้องตนเองเหมือนจะเจ็บยอกบริเวณนั้นไม่น้อย
คนอยู่ในเหตุการณ์แบบเขาเห็นภาพการถูกรุมทำร้ายของฝ่ายนั้นได้ดี และเห็นด้วยว่ามกรโดนไปกี่หมัด กี่เข่า กี่เท้า.. การที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้สลบไปเสียก่อนแสดงว่าเจ้าหมอนี่ก็อึดเอาเรื่อง
และถ้าเขาคิดว่าการร่วมมือที่ดีจะเป็นทางรอด.. เขาก็ควรจะเริ่มผูกมิตรไว้เสียตั้งแต่ตอนนี้เลย
“มองอะไร!”
ยังไม่ทันได้เอ่ยปากผูกมิตร ทางนั้นก็เหมือนจะตัดไมตรีมาก่อนเสียแล้ว
ณัฐวีร์อ้ำๆอึ้งๆ แล้วก็สูดหายใจเข้าลึกเหมือนตัดสินใจได้ “คือผมจะถามพี่ว่ามีทิชชู่ไหม”
คนฟังหัวคิ้วกระตุกวูบและเอียงตัวมาเหมือนจะหาเรื่องเต็มที่ “มึงร้องไห้เอง มึงก็เอาเสื้อมึงเช็ดสิวะ ต้องมาร้องหาทิชชู่ในรถกูทำไม กูไม่มีให้!”
ณัฐวีร์เอนกายหนีตัวลีบเลยทีเดียว ได้แต่ตอบรับไปอย่างด่วน “ครับพี่”
“แค่รถติดนี่กูก็หงุดหงิดพออยู่แล้ว! มึงยังเสนอหน้ามา...”
เสียงตำหนิติเตียนขาดห้วงไปทันทีที่ณัฐวีร์ยื่นมือที่มีผ้าเช็ดหน้าแตะเข้าที่มุมปากของชายหนุ่ม
“ไม่มีทิชชู่ก็ไม่เป็นไร ผมขอใช้ผ้าเช็ดหน้าแล้วกันนะครับ คือมันอยู่ในกระเป๋ากางเกง ผมยังไม่ได้ใช้เลย วางใจได้ครับพี่..เลือดออกนิดหน่อยครับ” แล้วเด็กหนุ่มก็ปาดเช็ดให้อย่างเบามือ
จะมีก็แต่มกรที่นิ่งขึงและผงะไปเล็กน้อยเมื่อแรกเริ่มเท่านั้น แต่ครั้นเห็นแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเขาจึงยอมอยู่เฉยให้ณัฐวีร์เช็ดอย่างเบามือ ส่วนตาก็มองจ้องใบหน้าขาวซีดและดวงตาตี่หยีที่เพ่งมองแผลเขานั่น
“เรียบร้อยแล้วครับ..เลือดคงจะหยุดแล้วล่ะ” ณัฐวีร์ละมือลงแล้วกำผ้าเช็ดหน้าแน่น เขามองท่าทีของอีกฝ่ายก่อนจะตัดสินใจมองหน้านั้นนิ่งๆ แก้มโย้ของตัวเองก็คงไม่ต่างกับแก้มโย้ของฝ่ายนั้น แต่ของเขาน่าจะเบากว่ามากเพราะไม่ได้รสชาติของเลือดเค็มๆเลย
ชายหนุ่มเองก็มองด้วยความไม่เข้าใจ.. เด็กคนนี้จะว่าไปก็เหมือนจะดูไม่มีพิษมีภัยอะไร นิ่งๆเฉยๆ คุยด้วยนับคำได้ออกจะจืดชืดเสียด้วยซ้ำ..แต่ตอนนี้มันกำลังทำอะไร? ต้องการอะไรจากเขา..?
“เอ่อ..”
ปิ้น!
ยังไม่ทันที่ณัฐวีร์จะเริ่มผูกมิตร.. คราวนี้เสียงบีบแตรด้านหลังก็ดังขึ้นทำให้คนทั้งคู่สะดุ้ง ด้านหน้ารถกลายเป็นพื้นที่ว่างที่สามารถขับรถไปได้บ้างแล้วทำให้มกรสบถออกมาเบาๆ “รีบนักมึงไม่มาตั้งแต่เมื่อวานวะ”
แล้วคนพูดก็หันตัวมาขับรถออกไปคอนโดทันที
....







TBC



แฮร่!!!!! เกือบมาอัพในวัน Halloween ไม่ทันแน่ะ (ช้าไปติ๊ดดดดดดด) #โดนปลุกซะก่อน 555555

สุขสันต์วันฮาโลวีน นะคะทุกคน  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2013 10:42:16 โดย pae666 »

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
โอ๊ย ลุ้น!!! น้องเก่งมาก มีสติอะ ขอให้มันช่วยได้บ้างซักนิดก็ดีนะ ฮือ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
โอยยยยขอให้รอดนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ลุ้น น้องจะรอดรึเปล่าน่า

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :ling1:

ค้างงงงง  มาต่อเร็วๆ เลยน่ะ

ออฟไลน์ jj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ให้กำลังจายยยย ทั้งคนแต่ง และคนโปสคร่าาาาา

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
มาแว้วคร่าาาาาาา าา ขอโทษที่หายไปนาน (รึเปล่า) 5555

เพื่อไม่ให้เสียรมณ์ มาต่อกันเลยค่ะ  :katai4:




=======

ตอนที่ 4




จังหวะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับณัฐวีร์.. เขาปล่อยให้โอกาสดีๆแบบเมื่อครู่ผ่านไป และคิดว่าคงมาอีกได้ยากเมื่อสังเกตเห็นว่ามกรนั้นเริ่มจะหงุดหงิดมากขึ้นอีกครั้ง เหตุเพราะบัตรเข้าลานจอดรถที่คอนโดไม่สแกน
“แม่ง!...” ชายหนุ่มสบถยาวเมื่อต้องเปิดหน้าต่างรถยื่นเอาบัตรเข้าลานจอดไปสุดแขนเพื่อสแกนให้ใกล้กับตัวเครื่อง จนรปภ.ของตึกต้องวิ่งเข้ามาช่วย และพอเข้าไปด้านในได้จอดรถเสร็จ..อาการหงุดหงิดก็ยังไม่หายไป
มกรหยิบเอาลูกกุญแจมาไขกุญแจมือออกจากที่จับแต่ไม่ยอมไขปล่อยตรงข้อมือให้ณัฐวีร์ เด็กหนุ่มจึงทำได้เพียงมองข้อมือตัวเองที่เริ่มแดงเป็นวงอย่างหนักใจ
“ขึ้นไปข้างบนกับกู.. อย่าตุกติกนะมึง กูยิงไส้ไหล”
คนขู่หยิบปืนขึ้นมาเหน็บไว้ที่เอวแล้วปิดเครื่องเปิดประตูออกมาจากรถ ณัฐวีร์เองก็พาขาสั่นๆของตัวเองออกมาจากรถเช่นกัน เขารู้ว่าต่อให้วิ่งหนีตอนนี้ก็คงไปไหนไม่รอดเพราะขาตัวเองเจ็บหน่วงจากการโดนทุบอยู่แล้ว
“เอามือมา”
มกรจับมือข้างที่มีกุญแจมือและแบมือขอมืออีกข้างของเด็กหนุ่ม
“ไม่ต้องล็อคก็ได้ครับ..ผมไม่หนีไปไหนหรอก” ทางปลอดภัยคือโอนอ่อนอย่างเดียว ถ้ายอมให้อีกฝ่ายเอาแขนอีกข้างของเขาไปล็อคไว้เขาก็หมดทางช่วยเหลือตัวเองกันพอดี “เอาแบบนี้สิครับ ถ้าพี่กลัวใครจะเห็นกุญแจมือ..”
“กูไม่ไขออกให้หรอกนะ”
“เปล่าครับผมไม่ได้ให้ไขออก ..ผมจะเอามือซุกไว้ในกระเป๋าเป้แบบนี้” แล้วเด็กหนุ่มก็ทำตามที่ว่า
“แล้วถ้ามึงวิ่งหนีกูล่ะ..” มกรยังแข็งขืนไม่ยอม
“ผมจะวิ่งไปไหนได้ ตอนนี้ผมขาสั่นจนจะยืนไม่อยู่แล้ว.. ถ้ากลัวผมจะหนีพี่ก็จับมือผมไว้ก็ได้ครับ แต่อย่าล็อคผมไว้สองมือเลย มันจะเป็นที่ผิดสังเกตนะพี่”
ชายหนุ่มมองมือข้างว่างของณัฐวีร์ที่ยื่นมาให้พลางรู้สึกฉิวอยู่ในใจ “อะไรของมึงเนี่ย..”
“จับมือกันครับ”  ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็คว้ามือของมกรมาจับไว้ทันที “คราวนี้พี่จะยังไงก็ว่ามาเลย ผมไม่ได้หนีไปไหนแล้วนี่”
มกรเองก็รู้สึกเหมือนจะงงๆกับการกระทำของอีกฝ่ายไม่น้อย เขายกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเอง “ขึ้นไปข้างบนก่อนแล้วกัน”
ชายหนุ่มพูดแล้วจึงดึงร่างของเด็กหนุ่มให้เดินตาม ความกระโผลกกระเผลกของคนทั้งคู่ทำให้เดินได้ไม่เร็วกันนัก ณัฐวีร์ก็เดินไม่มั่นคง มกรเองก็ใช่จะไม่เจ็บ กว่าจะผ่านประตูอัตโนมัติไปถึงลิฟต์ กว่าจะขึ้นไปถึงชั้น 30 ที่เป็นที่พักของมกรต่างคนก็ต่างเงียบตกอยู่ในห้วงความคิดของตนเองกันทั้งสิ้น
มกรนั้นคิดแต่ว่าตนเองเจ็บและจะหาทางแก้แค้น ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคนที่เขาเดินจับมือมาด้วยกันนั้นมองเขาด้วยสายตาเป็นกังวลแค่ไหน
ณัฐวีร์เฝ้าครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ที่ตัวเองจะเจรจากับอีกฝ่าย ทางหนีทีไล่หากตกลงยอมความกันไม่ได้ แล้วก็พบว่า.. เขากำลังจะเดินเข้าถ้ำเสือที่ไม่รู้ว่าจะหาทางออกจากถ้ำได้อย่างไร.. ถ้าเขาไม่ยอมทำตามอีกฝ่าย การเจ็บตัวแบบเมื่อเย็นก็คงเกิดขึ้นอีกครั้ง และณัฐวีร์ยังรู้สึกถึงมันอยู่เลย
ถ้าจะไม่ให้เจ็บตัว ก็มีแต่ต้องยอมตกลงตามทีอีกฝ่ายบอกไปก่อนแล้วค่อยหาทางหลีกเลี่ยงข้อตกลงอีกที
จากที่เห็นในคลับนั่น.. เขาหวังเหลือเกินว่าเงื่อนไขและข้อตกลงระหว่างพวกเขาจะไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผิดกฎหมาย.. ยา ผู้หญิง อาวุธ อย่าให้เขาต้องไปร่วมขนของเหล่านั้น หรือต้องเป็นคนขายมันเลย..
ติ้ง!
เสียงร้องเบาๆของลิฟต์ดังขึ้นปลุกณัฐวีร์จากภวังค์ เขารู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นที่ยังกุมมือเขาไว้.. ในลิฟต์กูไม่หนีไปไหนหรอกแม้นศรี..
ชายหนุ่มดึงเอาร่างเล็กให้เดินตามมา ชั้นที่ 30 มีห้องพักอยู่เพียงสองห้องเพราะมันเป็นชั้นสูงสุดของคอนโดนี้ ห้องหนึ่งเป็นของเขา อีกห้องเจ้าของเป็นชาวต่างชาติที่ปีหนึ่งจะมาพักที่กรุงเทพฯแค่สองสามหนเท่านั้น
การ์ดอิเล็คทรอนิคส์สำหรับเปิดประตูห้องถูกใช้งาน และเมื่อประตูเปิดออกณัฐวีร์ก็ได้แต่เบิ่งตาตี่ๆให้กว้างขึ้นอย่างประหลาดใจ
เขาเป็นลูกชายของครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง บ้านที่อาศัยเป็นอาคารพาณิชย์สามคูหาที่ด้านล่างเป็นร้านอาหารตามสั่ง และดาดฟ้าเป็นลานให้เล่นเตะบอลโกลหนูได้เท่านั้น ทำให้เด็กหนุ่มไม่เคยมีจินตนาการของคอนโดกว้างที่กรุกระจกจากเพดานจรดพื้นรอบทิศแบบนี้ไม่ออกเลย ชั้นที่อยู่ของห้องนี้ทำให้เห็นวิวของกรุงเทพฯได้ไกลเกินกว่าที่เขาเคยเห็น ยิ่งความสูงของห้องที่สูงเกือบสิบเมตรได้ยิ่งทำให้เขามองเห็นท้องฟ้าได้ไกลมากขึ้นไปอีก
ด้านขวามองไปสุดห้องมีเค้าเตอร์และส่วนของห้องครัวที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนได้ใช้มาก่อนเลย มันสะอาดสะอ้านและไม่มีอุปกรณ์พวกถ้วยชาม แก้วน้ำคว่ำไว้ให้เห็น
ด้านซ้ายถูกจัดไว้ให้เป็นส่วนของเอ็นเตอร์เทนแบบโฮมเธียเตอร์และแบ่งสัดส่วนกั้นไว้สำหรับรับแขกด้วยโซฟาหนังสีครีมและโซฟาเบด สำหรับคนเป็นจำนวนเกือบสิบที่ ที่บริเวณไกลออกไปริมกระจกที่มองเห็นวิวกรุงเทพฯนั้นมีโซฟาเบดซึ่งทำจากหวายถักและชิงช้ารูปรังนกอยู่มุมหนึ่ง ส่วนนั้นสามารถเลื่อนประตูกระจกเปิดออกไปสู่ระเบียงที่มีสวนหย่อมเล็กๆตั้งอยู่ด้วย
อีกด้านมีบันไดไม้สีทะมึนเลาะเลื้อยและเปิดเปลือยไปกับผนังสู่ชั้นบนซึ่งน่าจะเป็นพื้นที่ห้องพักส่วนตัว ซึ่งแค่เห็นเพียงชั้นล่างแค่นี้ ณัฐวีร์ก็รู้สึกว่าตนเองอยู่ผิดที่ผิดทางเสียแล้ว
นอกจากนั้นยังคิดไปอีกว่า.. บ้านกว้างขวางใหญ่โตขนาดนี้ มกรเอามาจากไหน?
คนที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบดีถ้าพ่อแม่ไม่รวยล้นฟ้าหาเงินมาให้ใช้ เงินที่ได้มาซื้อห้องนี้ไว้ก็น่าจะมาจาก..งานทุจริต..
ซึ่งเมื่อคิดไปถึงเรื่องยา เรื่องอาวุธแล้ว ณัฐวีร์ก็ได้แต่ขนลุกวาบ.. คอนโดนี้อาจได้มาจากการขนยาค้าอาวุธก็เป็นได้
เด็กหนุ่มเบิกตามองเจ้าของห้องอย่างตื่นตระหนกในความคิดนั้นทำให้คนถูกมองเลิกคิ้วขึ้นอย่างหงุดหงิด
“มองอะไร..ไปนั่งตรงโน้นสิ”
มกรชี้นิ้วสั่งและละมือเดินไปทางห้องครัว ตู้เย็นที่ฝังแนบอยู่อย่างเนียนไปกับผนัง และสูงกว่า 2 เมตรทำให้ณัฐวีร์มองตามมือของเจ้าของห้องที่กดน้ำดื่มใส่แก้วสำหรับคนเดียว เด็กหนุ่มไม่ได้เดินไปนั่งตามที่อีกฝ่ายชี้นิ้วบอก ทำเพียงยืนมองอีกฝ่ายอย่างกระหาย
มกรหันมาเลิกคิ้ว เขาใช้หลังมือเช็ดริมฝีปากที่ชื้นน้ำของตนเองแล้วก็ต้องหน้านิ่วด้วยความเจ็บ มุมปากที่เห่อซ่านบวมช้ำไม่สามารถควบคุมทิศทางของน้ำได้ดีนัก
“จะกินน้ำหรือไง”
ณัฐวีร์นึกด่าคนถามอยู่ในใจ.. ไม่เคยมีเพื่อนมาบ้านหรือไงถึงไม่รู้ว่าต้องบริการแขกด้วยน้ำดื่มเย็นๆน่ะ
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับและมองอีกฝ่ายหันไปกดน้ำลงแก้วเดิมนั่นแหละ
“จะกินก็มาเอาไปสิ ต้องให้เดินไปประเคนหรือไง”
เด็กหนุ่มเหลือกตาขึ้นมองเพดานอย่างนึกโมโห แต่เขาก็ทำได้แค่ปล่อยให้อีกฝ่ายกดขี่ตนเองไปก่อนเท่านั้น ดูจากฐานะแล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาจะไปล้อเล่นด้วยง่ายๆ คนมีเงินที่ซื้อคอนโดขนาดนี้ได้..ต้องมีอำนาจพอๆกับเงินแน่ๆ
ณัฐวีร์เดินช้าๆด้วยความปวดขาไปหาเจ้าของห้อง ยื่นมือรับน้ำแก้วนั้นอย่างกระหาย.. มองมุมของปากที่เจ้าของห้องเคยใช้แล้วเขาก็เบี่ยงมุมไปเสียใช้อีกด้านของมัน ซกมกจริงๆ เอาแก้วใบใหม่ให้ก็ไม่ได้
ดื่มน้ำไปได้เพียงจิบเดียว หางตาก็เห็นอีกฝ่ายเปิดตู้เย็นช่องฟรีซที่อัดแน่นไปด้วยอาหารสำเร็จรูปเลือกเอาอาหารห่อพวกนั้นอย่างเซ็งๆ
จริงสิ ตั้งแต่เลิกเรียนบ่ายได้แซนวิชไปคนละไม่มาก..ไปที่คลับ..มีเรื่องจนกลับมาบ้าน พวกเขายังไม่ได้กินอาหารเย็นกันเลย ทางที่ดีเขาควรจะหาอาหารใส่ท้องตุนแรงเอาไว้บ้าง และอย่างน้อย การเจรจาบนท้องอิ่มก็ต้องดีกว่าตอนหิวล่ะน่า
“พี่หิวหรือเปล่าครับ..ให้ผมทำอาหารให้ไหม?”
ณัฐวีร์เสนอตัวในขณะที่มกรชะงักมือในการค้นตู้เย็นเลือกอาหารเตรียมเข้าเวฟหันมามอง
“ทำเป็นหรือไง?”
คนถูกถามยิ้มให้ทันที “ขอผมดูหน่อยครับมีอะไรบ้าง”
เด็กหนุ่มวางแก้วน้ำและกระเป๋าเป้ตนเองลงบนเค้าเตอร์โต๊ะหินอ่อนและเดินเข้าไปดูของในตู้เย็นทันที
แกร็ก!
กุญแจมือที่ยังคาอยู่กระแทกเข้ากับตัวตู้อย่างจังทำให้ชายสองคนชะงักไปทันที ณัฐวีร์เหลือบตาขึ้นมองคนสูงกว่าที่ก็กำลังมองข้อมือเขาเช่นกัน..
“เอาออกได้ไหมครับ ผมทำอาหารไม่ถนัดแน่”
คนถูกขอร้องมองอย่างชั่งใจ แต่เมื่อเห็นท่าทางที่ผ่านมา พื้นที่ห้องซึ่งถือว่าเป็นถิ่นของเขา รวมทั้งสภาพร่างกายของอีกฝ่าย เขาจึงตัดสินใจไขกุญแจให้โดยไม่ได้พูดอะไร
ร่างสูงหย่อนตัวนั่งลงตรงเก้าอี้ที่มีไว้สำหรับเป็นส่วนรับประทานอาหาร มองร่างเล็กก้มๆเงยๆกับตู้เย็นของตนเอง หยิบโน่นนี่ออกมาหลายอย่างทั้งที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าในตู้เย็นของเขาน่ะมันมีอะไรหรือไม่มีอะไร
ปกติแล้วเขาจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้อาทิตย์ละสามหน คือทุกจันทร์ พุธ และเสาร์ ซึ่งแม่บ้านนั้นเป็นแม่บ้านสัญญาจ้างกับบริษัทและมักเข้ามาตามวันเวลาที่เขาไม่อยู่ในห้อง วันนี้วันเสาร์แม่บ้านจึงเพิ่งจะทำความสะอาดเสร็จไปใหม่ๆและคงเติมอาหารไว้ในตู้ให้เขาด้วย..
อาหารสดมีน้อยกว่าอาหารสำเร็จรูปมาก เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ค่อยได้ทำอาหารเอง แต่ที่แม่บ้านมีติดไว้ให้เพราะมีบางครั้งเขาจะมีผู้หญิงมานอนค้างบ้าง และทำให้ทาน แต่ถ้าช่วงไหนไม่มีใครทำอะไร อาหารสดและอาหารสำเร็จรูปเหล่านั้นจะถูกเก็บกวาดโดยแม่บ้านของเขาเองเมื่อเห็นว่าสมควรเอาออกไป
“มีหมูคุโรบุตะหมักของซีพี มีข้าวสวยอยู่ด้วย แครอท ไข่ แล้วก็มีวุ้นเส้น.. งั้นผมจะผัดข้าวผัดแล้วทำเป็นแกงจืดวุ้นเส้นให้เป็นน้ำซุปนะครับ..พี่จะได้ซดคล่องๆคอ” ณัฐวีร์ร่ายออกมาขณะหยิบของออกจากตู้เย็นลำเลียงวางลงบนเค้าเตอร์
“ง่ายๆไม่มีหรือไง” มกรเอ่ยถาม.. ถ้าเขาอยู่ตัวคนเดียวไอ้ของที่ร่ายมานั่นคงโดนโยนให้แม่บ้านไปกินหมด ส่วนเขาก็ของสำเร็จรูปเข้าเวฟ หรือถ้าอยากอาหารไทยร้อนๆก็โทรสั่งขึ้นมจากเซอร์วิสข้างล่าง
ณัฐวีร์เงยหน้าจากกองอาหารสดแล้วยิ้มให้ “ไม่นานหรอกครับ.. ผมขอสิบห้านาที พี่ขึ้นไปล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ได้”
“ไม่.. จะทำอะไรก็ทำไป” ใครจะปล่อยให้มันมีโอกาสหนีไปล่ะ
“งั้นก็ดีเลยครับ.. ผมไม่รู้ที่เก็บอุปกรณ์ ถ้าพี่นั่งอยู่ด้วยผมจะได้ถามได้ถูก”
มกรหน้าเบ้ไปก่อนจะพึมพำ “กูก็ไม่รู้..”
ชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงนั้นมองอีกฝ่ายจัดการกับหมูหมักเป็นอย่างแรก เด็กหนุ่มฉีกถุงพลาสติกออกนำหมูชิ้นนึงมาหันเนื้อออกเป็นชิ้นบางๆแล้วพักไว้ เอาอีกชิ้นมาสับ หันไปเอาวุ้นเส้นแช่น้ำ แล้วล้างแครอทจัดการเปลือกของมันก่อนจะหั่นแครอทนั้นออกเป็นแบบลูกเต๋าเล็กๆ
“เราไม่มีน้ำมันเลย ผมใช้เนยแล้วกันนะครับ เห็นมีอยู่หลายแพ็ค” เด็กหนุ่มหันมาบอกแล้วเริ่มแกะเอาเนยออกมา แต่เพราะมันยังแข็งมากเด็กหนุ่มจึงหันไปสนใจกับน้ำซุปก่อน เวลาที่จำกัดทำให้เด็กหนุ่มเปิดเตาพร้อมกันสองเตา อย่างน้อยเขาก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องหงุดหงิดด้วยความโมโหหิวขึ้นมาอีก เดี๋ยวจะคุยกันไม่รู้เรื่อง
ด้วยความที่อุปกรณ์ไม่เอื้ออำนวย ซุปก้อนให้ความหวานก็ไม่มี ณัฐวีร์จึงนำหมูที่สับไว้มาผสมน้ำเล็กน้อย ส่วนหม้อที่ใช้ต้มก็ตั้งเตาเอาแครอทที่เหลือเทไว้กระทั่งน้ำเดือดดีเขาจึงเทหมูสับที่ผสมน้ำไว้ลงไป ขณะรอให้มันเดือด เขาก็หันมาสนใจกับกระทะ โยนเนยลงไปพอกระทะร้อนก็ใส่หมูลงไปผัดส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งครัว แครอทลูกเต๋าถูกใส่ตามลงไปผัดด้วยทันที
ขณะที่กระทะกำลังร้องฉ่าๆ น้ำในหม้อซุปก็เดือดพล่านพร้อมให้ใส่วุ้นเส้นลงไป เด็กหนุ่มปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ้วขาวเห็ดหอม เกลือ และใส่น้ำตาลอีกนิด ก่อนจะหันไปใส่ข้าวลงกระทะผัดอยู่ชั่วครู่ก็ใส่ไข่ตามลงไปและปรุงรส
เพียงไม่นาน ข้าวผัดหมูกรุ่นกลิ่นหอมของเนย และซุปวุ้นเส้นหมูสับร้อนๆก็ถูกนำมาวางไว้หน้าเจ้าของห้อง..
“ยี่สิบนาที.. ช้าไปนิดนึง แต่รับรองว่าอร่อยครับ” เด็กหนุ่มอธิบายพร้อมยิ้มให้ เสร็จแล้วตัวเขาก็หันไปตักของตัวเองใส่จาน
มกรนั้นเริ่มมื้ออาหารด้วยการดมกลิ่น เขายกจานขึ้นมาจรดจมูกแล้วก็รู้สึกน้ำลายสอขึ้นมาทันที ช้อนที่ณัฐวีร์ส่งมาให้จึงค่อยๆจ้วงลงไปตักคำแรกเข้าปาก.. เอาน่า เขาเห็นขั้นตอนหมดอย่างน้อยไอ้เด็กนี่ก็ไม่ได้ใส่ผงซักฟอกลงไปในข้าวให้เขากินหรอก.. หน้าตาก็พอดูได้ รสชาติคงพอกล้อม..แกล้ม..
เฮ้ย!
มกรทำตาโตเมื่อคำแรกที่ส่งเข้าปากทำให้เขาชะงักไปด้วยรสชาติของมัน หวานหอมกลมกล่อมไม่กล้อมแกล้มแล้วแบบนี้ ชายหนุ่มตักคำที่สองเข้าปาก คำที่สาม คำที่สี่โดยไม่รอให้ณัฐวีร์มานั่งลงที่โต๊ะด้วยกันเลย
คนทำที่หันกลับมาเห็นเจ้าของห้องมุ่งมั่นกับอาหารเลยได้แต่ยิ้มอย่างสมใจ.. เขาน่ะช่วยงานแม่ในครัวมาตั้งแต่เด็กเพราะที่บ้านเป็นร้านอาหารตามสั่ง.. ดังนั้นจึงค่อนข้างเชื่อมั่นในฝีมือตัวเองทีเดียว.. ไม่ต้องรอให้ชมเขาก็รู้ตัว
มื้ออาหารนั้นไม่มีเสียงพูดคุยใดๆกัน จนกระทั่งมกรกวาดคำสุดท้ายของจานเข้าปาก ในขณะที่ณัฐวีร์ยังเหลืออีกครึ่งจานเลยทีเดียว
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปมองเพราะรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องเขาอยู่ “ครับ?”
“หมดแล้วเหรอ?”
ณัฐวีร์ทำตาปริบๆก่อนจะตอบไป “ผมทำไว้สองจานเองครับ ..คือ..”
เมื่อกี้เขาว่ามันก็เยอะแล้วนะ.. ไม่อิ่มหรือไงกัน
ชายหนุ่มทำหน้าเสียดายก่อนจะสายตาตกลงมายังจานของณัฐวีร์ที่เหลืออยู่อีกกว่าครึ่ง
เฮ้ย..! แบบว่านี่ผมต้องแบ่งให้พี่ใช้ไหมเนี่ย
“อ่ะ..เอาไหมครับ? แบ่งกัน”
ไม่ต้องรอให้เชิญเป็นครั้งที่สอง มกรยื่นจานเปล่าของตัวเองมาให้ทันที และด้วยความเป็นเจ้าของห้องและณัฐวีร์ก็อยากจะเอาใจไว้ก่อน เด็กหนุ่มจึงตักส่วนในจานไปให้กว่าค่อน
“เดี๋ยวถ้าไม่พอในตู้เย็นยังมีข้าวเปล่าเหลือนะครับ ต้มจืดก็ยังมีอีกถ้วยหนึ่ง แล้วเดี๋ยวผมจะเจียวไข่ให้”
มันเป็นการเปิดกระทะเพื่อตัวเองล้วนๆ ณัฐวีร์บอกในใจอย่างนั้นเพราะเขาเพิ่งทานข้าวผัดไปได้ยังไม่ถึงครึ่งกระเพาะ เจ้าของห้องก็มาปล้นไปเสียแล้ว เด็กหนุ่มกรอกตาไปมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบอะไรกับข้อเสนอเขา ก้มหน้าก้มตากินลูกเดียว เขาจึงผละจากที่นั่งลุกขึ้นมาจัดการเจียวไข่ใส่ปูอัดขยี้เป็นเส้นบางๆ ผ่ามะนาวผสมน้ำปลากับน้ำตาลเล็กน้อยก่อนจะใช้พริกป่นผสมลงไปแค่พอให้หอมพริกและมะนาว โปะไข่เจียวลงบนข้าวสวยที่เพิ่งเอาออกจากเวฟควันยังกรุ่น ราดด้วยน้ำจิ้มทำมือเองพอให้มีสีสัน แล้ววางลงตรงหน้าเจ้าของห้องหนึ่งจาน ของเขาเองหนึ่งจาน
หยิบเอาถ้วยแกงจืดมาเติม ถึงแม้จะแค่น้ำกับเศษแครอทที่เหลือติดก้นหม้อ แต่ดูท่าทางมกรจะไม่สนใจว่ามันเหลือแค่ไหน ชายหนุ่มตักมันเข้าปากทันทีที่วางลงให้
ไม่นานจากนั้น..ณัฐวีร์ก็มองจานข้าวผัดตัวเองที่ไม่เหลือกระทั่งซาก จานข้าวกับไข่เจียวหอมพริกป่นและมะนาวที่ไม่รู้ว่ามันเคยเป็นอะไรมาก่อน รวมทั้งถ้วยแกงจืดที่ค่อยๆถูกปลดออกจากปากของมกรลงวางกับโต๊ะ..
อืม.. น่าจะอารมณ์ดีใช้ได้แล้วล่ะ..กินอิ่มขนาดนี้
หลังจากเก็บล้างเรียบร้อย ณัฐวีร์ก็หันมาทางเจ้าของห้องที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงบริเวณโซฟาเบดหน้าโทรทัศน์เครื่องใหญ่ เขาเช็ดมือเสร็จก็ออกไปสมทบด้วยการนั่งลงอีกมุมนึงของโซฟา..
ฝ่ายที่อยู่มาก่อนแล้วเหล่ตามามองแล้วก็กดโทรศัพท์เรื่อยๆอยู่รอดูท่าทีของเขาอยู่ล่ะมั้ง นั่งกันอยู่เงียบๆในขณะที่เจ้าของห้องก็ไถโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ
เข็มนาฬิกาเดินไป หายใจทิ้งอยู่หลายนาทีฝ่ายนั้นก็ยังก้มหน้าก้มตากับโซเชียลเน็ทเวิร์คไม่พูดอะไร ข้างนอกจากที่ท้องฟ้าสีส้มๆ อยู่ลิบขอบฟ้า ..ตอนนี้มันก็เป็นสีทะมึนไปหมดแล้ว ไฟจากตึกรามบ้านช่องที่เปิดเอาไว้ก็ส่องสว่างสวยงาม..
แต่เขาคงอยู่แบบนี้ไปตลอดไม่ได้แน่
“เอ่อ...” ณัฐวีร์เริ่มออกเสียง.. อย่างน้อย..ถ้าฝ่ายนั้นจะไม่ทำอะไรอีก เขาก็ควรจะออกไปจากที่นี่เสียที “ผมกลับบ้านเลยได้ไหมครับ”
ทันทีที่ประโยคนั้นหลุดออกไป มกรก็ตวัดสายตาขึ้นมองทันที
“ยังกลับไม่ได้..”
ณัฐวีร์หลุบสายตามองมือตัวเองที่ประสานกันไว้ทันที “ทำไมล่ะครับ.. มันก็ดึกแล้วนะครับ ผมว่าถ้าพี่ไม่มีธุระอะไรแล้วผมกลับก่อนพรุ่งนี้ค่อยคุยกันดีไหมครับ”
“บอกว่าไม่ได้..อะ..”
ด้วยความที่เจ้าของห้องขยับตัวอย่างรวดเร็วมาทางณัฐวีร์ ทำให้ความเจ็บที่ท้องแล่นปลาบขึ้นมาอีกจนได้.. อาการแบบนี้เขารู้ดีว่ามันจะอยู่ไปสักสองสามวัน การถูกชกต่อยเข้าตรงบริเวณที่เป็นเนื้อไม่มีกระดูกรองรับจะยอกปวดเมื่อผ่านไปสองสามชั่วโมงเสมอ ซึ่งถ้าจะให้ดีเขาควรนอนพักและหายาคลายกล้ามเนื้อกินเสีย
แต่โชคร้ายว่าเขามีแค่ยาแก้ปวดติดบ้านไว้เท่านั้นเอง
“พี่เจ็บขนาดนี้ไปพักไหมครับ.. มียาไหม”
ชายหนุ่มงอตัวมีมือกุมท้องเอาไว้ ตอนที่โดนมันยังไม่รู้สึก กี่หมัดก็ไม่รู้แต่กล้ามท้องก็ช่วยเขาไว้ได้มาก ถ้าไม่ออกกำลังมีหวังเจ็บหนักกว่านี้อีก
“ยาอยู่ข้างบน..” ชายหนุ่มนั่งกุมท้องขณะพูดเช่นนั้น “พาขึ้นไปหน่อยได้ไหม..”
ณัฐวีร์มองท่าทางเจ็บหนักของอีกฝ่ายแล้วก็รีบลุกขึ้นไปหาทันที “ค่อยๆนะครับ”
ร่างที่สูงกว่าทิ้งน้ำหนักพิงมายังร่างเล็กกว่า ขณะเดินขึ้นบันไดณัฐวีร์ต้องเกร็งขาที่ปวดล้าของตนเองเพื่อประคองกันขึ้นไปจนถึงชั้นบน.. โดยไม่รู้เลยว่านั่นอาจจะเป็นแผนของเจ้าของห้องก็เป็นได้
...


เจ้าของบ้านยกขวดน้ำเย็นขึ้นดื่มอึกใหญ่ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับเหงื่อที่ออกตามหน้าผากของตนเอง อกกว้างนั้นเปลือยเปล่าขณะที่เบื้องล่างถูกพันไว้ด้วยผ้าขนหนูอย่างลวกๆ ด้านหลังมีเสียงครวญครางของหญิงสาวอย่างที่ฟังดูก็รู้ว่าเป็นเสียงจอมปลอมเสแสร้งขึ้นมา แต่..ใครสนล่ะ แค่พวกเขามีความสุขก็พอแล้ว..
“มันยังไม่ออนเลยว่ะ..” ปังตอร้องบอกขณะที่จดจ้องหน้าจอรอดูว่าเมื่อไหร่เพื่อนที่นัดกันไว้จะเปิดโปรแกรม
“เดี๋ยวก็มามั้ง.. มึงก็ไปเหอะ เดี๋ยวกูดูให้ จะเล่นห้องนี้หรือไปห้องโน้นก็เรื่องของมึง เลือกเอา..”
แทคมือเปลี่ยนตำแหน่งกันแล้วแชร์ก็ลงนั่งหน้าจอแทนที่เพื่อน
เขาเช็กเฟสบุ้คเป็นการฆ่าเวลา ซึ่งไม่นานจากนั้นโปรแกรมแชทก็กะพริบเตือน..
“มาแล้ว..”
มันเป็นข้อความสั้นๆที่ส่งมาจาก....มกร


.......


TBC



ไปทำงานก่อนละค๊าบบบบ เจอกันอาทิตย์หน้าน๊าาา :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2013 10:43:32 โดย pae666 »

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :katai4:

ย๊ากกกกกก  ค้างงงงงง 

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
มุกุรส่งข้อความอะไรมา

ออฟไลน์ mamarin_smile

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
ค้างงงค่า :ling1:
 
มกร อ่านว่าอะไรคะ มะกะระ รึเปล่า :really2:

เราอ่านถูกมั๊ยเนี่ย??? :katai1:

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1

 
มกร อ่านว่าอะไรคะ มะกะระ รึเปล่า :really2:

เราอ่านถูกมั๊ยเนี่ย??? :katai1:

อ่านเกือบถูกค่ะ อิอิ

มกร อ่านว่า มะ-กอน  แปลว่า มังกร

แอบถามคนแต่งมาเหมือนกันค่ะ 5555  :katai5:

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
มันลุ้นมากๆ ลุ้นว่าน้องนัท จะใช้อีคิวที่มีอยู่หนีออกไปได้ไหม... บอกเลยว่า... ตื่นเต้นอ่ะ... เห้อ ๆๆๆ หายใจไม่คล่องเลย   :ruready

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
รักแรกของแมนเป็น ผช แน่เลย
แล้วคงทะเลาะกะเอเพราะคนนั้น .. เดาไปเรื่อย 55555
หนูน้อยจะรอดมั้ยเนี่ยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เป็นกลุ่มที่แย่มากๆๆๆๆๆ
ภาวนาให้นัทหาวิธีเอาตัวรอดจากนาทีวิกฤตินี้ด้วยเถิด

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
นัทรอดเถอะ สาธุ

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
อย่างค้างเลย
รอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ melody

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
มันจะมารักกันได้ตอนไหนเนี่ย??
หรือจะเพราะเสน่ห์ปลายจวักของนัทกันนะ

ออฟไลน์ Niinuii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
มังกือ นายเป็นวุฒิที่สามแห่งเล้าเป็ดสินะ
อย่าทำให้ผิดหวังนะ
กำลังรอความเลวจากนายอยู่ 


 :m4: :m4: :m4: :m11: :m11: :m11:

ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อะไร๊ นายมกรส่งมาว่าอะไร อยากรู้ อ้ากกกกกกก
 :ling1:

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
มังกือ นายเป็นวุฒิที่สามแห่งเล้าเป็ดสินะ
 



อีกสองวุฒิของเล้ามีใครบ้างอ่าาา เราจะได้ไปหาอ่าน ที่เคยอ่านก็คู่ วุฒิจุม  อันนี้เลวมากกกกกกกกกกกกกกกกก

แต่มกร ไม่รู้ว่าจะเลวเท่ารึเปล่า โปรดติดตาม คึคึคึ

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
ไม่แน่ใจว่า วุฒิบุพเพ หรือ วุฒิบำเรอรัก ใครมาก่อนกันอ้ะ

วุฒิบำเรอรักอันนี้แซ่บมาก มีฉากรุมขุมขืนนายเอกโดยพระเอกอ้ะ มันโหดจนเคยมีคนแจ้งแบนเรื่องนี้เลย

รอตอนต่อไปอยู่นะ  :katai2-1: :katai2-1:


ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
อารมณ์ดีหรือยังหว่าาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด