<<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>  (อ่าน 151376 ครั้ง)

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>
« เมื่อ13-04-2017 19:53:21 »


ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลงหรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ดการกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับนิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม










                                                 :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3:






                  บุคคลและสถานที่ในนิยายเรื่องนี้ล้วนแล้วแต่จินตนาการขึ้นมาทั้งสิ้น

                            โปรดจงจินตนาการตามด้วยต่อมมโนของทุกท่าน
                             






                                                       :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:



                 
             สารบัญ


บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3
บทที่ 4
บทที่ 5
บทที่ 6
บทที่ 7
บทที่ 8
บทที่ 9
บทที่ 10
บทที่ 11
บทที่ 12
บทที่ 13
บทที่ 14
บทที่ 15
บทที่ 16
Special Chapter ชายในฮาเร็ม บทที่ 1
Special Chapter ชายในฮาเร็ม บทที่ 2
บทที่ 17
บทที่ 18
บทที่ 19
บทที่ 20
บทที่ 21
บทที่ 22
บทที่ 23
บทที่ 24 ตอนจบ






                                                                                ขอบคุณค่ะ


                                                               :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1:

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-08-2020 23:49:51 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                                     ลมหายใจแห่งผืนทราย

                                                                                บทที่ 1


                สายลมฤดูร้อนพัดกรูจนกิ่งไม้ใหญ่เหนือศาลาริมน้ำหลังเล็กโบกไปมาฟังราวกับเสียงดนตรีแสนไพเราะ สายน้ำเอื่อยใน

ลำคลองที่ยังมีน้ำใสสะอาดสะท้อนแสงแดดระยิบระยับงามจับตา ความเงียบสงบของบรรยากาศยามบ่ายในจังหวัดที่ไม่ไกลจาก

กรุงเทพมหานครส่งผลให้เปลือกตาของผู้ที่นอนเอกเขนกบนผืนเสื่อกลางศาลาปิดสนิทคล้อยหลับอย่างสบายใจ


                  “วิน พ่อกวินท์”


                   เสียงปลุกจากหญิงชราที่ก้าวขึ้นศาลามานั่งบนเก้าอี้ยาวด้านขอบปลุกให้เจ้าของชื่อเรียกนั้นค่อยๆเปิดเปลือกตามาอย่าง

เสียดาย เขาผงกศีรษะขึ้นมองผู้ที่ปลุกเขาก่อนจะส่งยิ้มให้และลุกขึ้นมานั่งบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยขบ


                  “ครับคุณยาย”


                 “มานอนเล่นตอนบ่ายจัดอย่างนี้ ไม่นึกร้อนบ้างเลยรึพ่อ”


                 กวินท์ แอนเดอร์สัน ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงราวร้อยแปดสิบเซนติเมตร รูปร่างสูงโปร่งและมีใบหน้าที่ได้ส่วนดีของสองเชื้อ

ชาติอย่างลงตัว เส้นผมและดวงตาของเขาเป็นสีน้ำตาลกระจ่างใส กรอบหน้าเรียวลงตัวกับจมูกโด่งและริมฝีปากบางสีระเรื่อตาม

ธรรมชาติ ผิวดั้งเดิมของเขาเคยเป็นสีขาวจัดหากแต่เพราะเจ้าตัวชอบเล่นกีฬากลางแจ้งส่งผลให้ความขาวนั้นทดแทนด้วยสีเข้มของไอ

แดด แต่กระนั้นกลับส่งผมให้เขายิ่งดูดีมากขึ้นไปอีก

                      ชายหนุ่มลุกขึ้นมานั่งเคียงข้างสตรีวัยชราที่ยังกระฉับกระเฉงแล้วโอบกอดด้วยความสนิทสนม คุณยายของเขาเป็น

เศรษฐินีที่ดินเก่าตั้งรกรากอยู่ที่แห่งนี้ตั้งแต่ยังสาว คุณนายรำพึงเป็นแม่ม่ายสามีตายมาหลายปีแล้ว แต่ก็มีลูกหลานมากมายทั้งที่อยู่ใกล้

กันหรือแยกออกไปสร้างครอบครัว หนึ่งในนั้นก็คือคุณรำไพพรรณแม่ของกวินท์ที่แต่งงานไปกับชาวอังกฤษนั่นเอง

                 กวินท์เดินทางมาเยี่ยมครอบครัวทางฝั่งมารดาบ่อยครั้ง เขาชอบความเป็นเอเชียในตัวเขา หากว่างจากงานที่รัดตัวที่แรกที่

กวินท์มักจะนึกถึงเวลาต้องการพักผ่อนคือบ้านของยายนี่เอง บางครั้งกวินท์ก็เคยวางแผนไว้ว่าหากวันไหนที่เขาคิดจะลงหลักปักฐานเมื่อ

เบื่อจากความเร่งรีบวุ่นวายของสังคมแล้ว กวินท์อยากจะมาใช้ชีวิตในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้

   
                      “ก็ร้อนครับคุณยาย แต่ยังดีกว่าความหนาวจนติดลบตอนผมอยู่ยุโรปมากเลย”


                      ภาษาไทยของกวินท์ค่อนข้างชัด จะมีแค่บางคำที่ยังมีสำเนียงแปร่งตามประสาลูกครึ่งที่ไม่ได้อาศัยอยู่ประเทศไทยเป็น

หลัก คุณนายรำพึงมองหลานชายที่นาน ๆ จะมาเยี่ยมให้ชื่นใจด้วยความเอ็นดู


                     “ถ้าทนได้ก็มาบ่อย ๆ นะ ยายคิดถึงรู้ไหม กลับเข้าบ้านเถอะยายปอกมะม่วงจิ้มกับน้ำปลาหวานแสนอร่อยไว้ให้กินแน่ะ”


                    “โอ้โหคุณยาย น่ารักที่สุด ไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”


                    กวินท์จูงมือหญิงชรากลับเข้าไปในตัวบ้านที่ล้อมด้วยพื้นที่กว้างขวางเต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้ที่คุณนายรำพึงปลูกทิ้งไว้

เนิ่นนานแล้ว เขารักความเป็นครอบครัวใหญ่ของคนไทย รักในอัธยาศัยใจคอของคนในครอบครัว กวินท์ตักตวงความสุขจนเวลาผ่านไป

อย่างรวดเร็วเขาจึงได้ปลีกเวลาเข้าห้องพักในยามค่ำ

                  ชายหนุ่มอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนสบายตัวและทิ้งตัวลงไปกับที่นอนแสนนุ่ม เขาคว้าหนังสือที่อ่านค้างไว้ออกมา

เปิดอ่านจนกระทั่งได้ยินเสียงสัญญาณวีดิโอคอลดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือเขาจึงคว้ามากดรับ


                    “สบายจริง ๆ เลยนะยู”


                   ภาพของชายหนุ่มผมสีบรอนด์ปรากฏขึ้นบนจอพร้อมทั้งมองมายังกวินท์อย่างหมั่นไส้ กวินท์หัวเราะให้กับเพื่อนสนิทของ

เขาที่ชื่อวิกเตอร์


                 “นาน ๆ ได้พักทีก็ขอสบายหน่อยสิวะ ได้กลับมาบ้านยายด้วยไม่อยากกลับไปทำงานเลย”


                 กวินท์พูดอย่างนึกเกียจคร้านจนวิกเตอร์แยกเขี้ยวใส่


               “ไม่อยากก็ต้องทำ งานมาจ่อรออยู่ตรงหน้าอีกไม่กี่วันนี่แล้วมึงเตรียมตัวหรือยัง”


                “ยัง” กวินท์ตอบหน้าตาเฉย


                “เฮ้ย จะบ้าหรือไง” วิกเตอร์ทำสีหน้าตกใจ


                  “จะต้องไปที่นั่นอีกไม่กี่วันนี้แล้วนะ”


                  “รู้แล้วน่า เดี๋ยวหาข้อมูลคืนนี้เลย มึงก็รีบ ๆ วางหูสิวะไอ้วิก”


                   วิกเตอร์หัวเราะเมื่อเห็นกวินท์ย่นหัวคิ้วใส่เขา


                    “โอเค ไม่กวนมึงแล้ว อีกสองวันพบกันที่ยูเออีนะ”


                     วางโทรศัพท์ลงแล้วกวินท์ก็ถอนหายใจเมื่อต้องกลับมาอยู่กับความเป็นจริงอีกครั้ง เขาคว้าแล็ปท็อปมาเปิดเครื่องเพื่อ

หาข้อมูลงานที่ต้องทำ

                     กวินท์และวิกเตอร์ทำงานที่สำนักข่าวยอดนิยม ICN สังกัดประเทศอังกฤษ โดยที่กวินท์เป็นผู้สื่อข่าวและวิกเตอร์เป็นช่าง

ภาพ พวกเขาทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ทำงานช่วงแรกจนกระทั่งบัดนี้ก็หลายปีแล้ว งานข่าวของกวินท์ไม่ใช่ผู้สื่อข่าวสายด่วนที่ต้อง

รายงานข่าวอย่างรวดเร็ว แต่เขาเป็นสายข่าวเจาะลึกที่ต้องลงไปหาข้อมูลในพื้นที่และแสวงหาข่าวที่ยังไม่เคยมีใครได้ไปมาก่อน กวินท์

และวิกเตอร์เดินทางมาแล้วเกือบค่อนโลกจนเขาเริ่มเบื่อหน่ายที่ต้องชีพจรลงเท้าแบบนี้

                     กำลังจะเปิดอินเตอร์เน็ตเสียงโทรศัพท์ก็ดังอีกครั้ง คราวนี้กวินท์ยิ้มเมื่อผู้ที่โทรมาคือมารดาที่รักของเขานั่นเอง


                   “ฮัลโหลครับที่รัก”


                   กวินท์มักจะพูดคุยกับมารดาของเขาราวกับเพื่อนรุ่นเดียวกันทั้งที่อีกฝ่ายเป็นสตรีวัยเฉียดหกสิบปีที่ยังงดงามตามวัย แม่

ของเขาส่งเสียงทักทายตอบกลับมาทันที


                   “กวินท์ ยังอยู่บ้านคุณยายเหรอลูก สงสัยกลับมาคราวนี้น้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้นอีกนะ”


                   ชายหนุ่มหัวเราะเสียงใส คุณนายรำพึงชอบทำอาหารให้หลานชายคนไกลกินจนอิ่มหนำทุกมื้อ


                       “แม่ก็รู้ว่าคุณยายชอบทำกับข้าว แล้วคุณพ่ออยู่ไหนล่ะครับ”


                       เอ่ยถามถึงมิสเตอร์สมิธ แอนเดอร์สัน เอกอัครราชทูตของอังกฤษที่ตอนนี้ประจำอยู่ในประเทศแถบยุโรปเป็นประเทศ

สุดท้ายก่อนจะเกษียนจากงานในปีหน้า อาจเป็นเพราะกวินท์เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของนักการทูตทำให้เขาต้องเดินทางตาม

ครอบครัวตั้งแต่เด็ก กวินท์จึงพูดได้หลายภาษานอกเหนือจากภาษาอังกฤษและภาษาไทย


                  “พ่อเหรอ คงนั่งบ่นแม่อยู่ที่ห้องรับแขกนั่นแหละว่าแม่แต่งตัวช้า ไม่เข้าใจผู้หญิงบ้างเลยพ่อของลูกน่ะ”


                  มารดาของเขาบ่นไปเรื่อย ๆ ให้กวินท์ฟังอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตของนักการทูตต้องมีงานเลี้ยงที่จัดการเป็นเรื่องปกติ เขา

ได้ยินเสียงบิดาของเขาส่งเสียงมาแต่ไกล


                  “ดาร์ลิง ทำไมช้านักล่ะ งานใกล้จะเริ่มแล้ว นั่นคุยกับใคร”


                  “คุยกับลูกสิคะจะคุยกับใครล่ะ” เสียงมารดากระเง้ากระงอดใส่สามีที่กวินท์ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก


                 “ลูกงั้นหรือ ไหนขอพ่อคุยด้วยหน่อย”


                  “กูดอีฟนิ่งเซอร์” กวินท์ทักทายบิดาอย่างสนิทสนม ชายสูงวัยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี


                  “ไงลูกชาย ได้พักนานเลยนะรอบนี้”


                    “พ่อเรียกหนึ่งสัปดาห์นี่ว่านานหรือครับ” กวินท์ถอนหายใจ


                    “อยากจะพักให้นานกว่านี้ ผมชักเบื่อการเดินทางเสียแล้ว”


                   “อ้าว นี่เริ่มเบื่อแล้วเหรอ ไหนว่าชอบงานนักข่าว”


                      “มันก็ดีครับพ่อ แต่พอถึงจุดหนึ่งก็อยากจะอยู่กับที่ ไม่ต้องขึ้นเครื่องบินลงเรือนั่งรถจนปวดหลังอีกแล้ว”


                     “ถ้าเบื่อจริง ๆ ก็ลองคิดสิว่าอยากทำอะไรบ้างแล้วก็ลงมือเลยลูกชาย ว่าแต่งานต่อไปจะไปที่ไหน”


                    “ฮาลียันครับพ่อ”


                         “ฮาลียันงั้นรึ” สมิธกล่าวทวน “เพิ่งเปิดประเทศไม่นานนี่นา”


                        “ใช่ครับพ่อ เพราะเขาเพิ่งเปิดประเทศให้โลกได้รู้จัก กษัตริย์ของเขาก็เลยเชิญให้นักข่าวจากหลาย ๆสำนักเข้าไปทำ

ข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศ”


                    “งานนี้ไม่ใช่สไตล์ลูกนี่ อย่างลูกชอบงานที่ต้องเจาะลึกให้ถึงก้นบึ้งแล้วทำไมได้งานนี้มาทำล่ะ”


                    “หัวหน้าของผมเขาคงอยากจะให้ผมเจาะลึกเรื่องบ่อน้ำมันของเขาน่ะครับพ่อ”


                  “แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะกวินท์”


                 “วันมะรืนผมต้องไปที่ยูเออีแล้วไปต่อเครื่องที่โน่นครับ นัดกับวิกเตอร์ไว้แล้ว”


                 “พ่อกับแม่อวยพรให้ลูกโชคดีทำงานได้สำเร็จอย่างเช่นทุกครั้งนะกวินท์”


                   “ขอบคุณครับพ่อ”


                  กวินท์วางสายเมื่อเอ่ยคำอำลากับบิดาแล้ว จากนั้นเขาก็เปิดหาข้อมูลประเทศที่เขาต้องไปในอีกไม่กี่วัน


            State of Halyan


                  คือชื่อประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่ในตะวันออกกลาง มีการปกครองระบอบกษัตริย์เป็นผู้ครองประเทศ ฮาลียันไม่มีทางออกทาง

ทะเลและส่งออกน้ำมันเป็นเศรษฐกิจหลัก พื้นที่หนึ่งในสามเป็นทะเลทรายที่ติดต่อกับประเทศอื่นในอาหรับ ทะเลทรายนี้มีชื่อว่า ดาฟาร์

                   ข้อมูลเหล่านี้ธรรมดาไปสำหรับกวินท์ มันควรจะมีข้อมูลอื่นเพื่ออธิบายว่าเหตุใดประเทศเล็ก ๆ แต่ร่ำรวยเช่นนี้ถึงเพิ่งจะ

เปิดตัวเองสู่สังคมโลก เขาจึงค้นหาข้อมูลต่อไป

                    เมื่อห้าปีที่ผ่านมา มีข่าวการรัฐประหารโดยกษัตริย์องค์ปัจจุบันที่กระทำต่อกษัตริย์องค์ก่อน ทำให้บ้านเมืองแบ่งเป็นสอง

ฝ่าย ทั้งฝ่ายที่ยังภักดีต่อกษัตริย์องค์เดิมและที่เข้าข้างกษัตริย์องค์ใหม่ ใช้เวลาพักใหญ่กว่าที่บ้านเมืองจะเข้าสู่ภาวะปกติ


                     นี่สิน่าสน กวินท์ไล่อ่านข้อมูลอย่างเพลิดเพลิน


                    เหตุการณ์ทางการเมืองมีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น แต่รัฐบาลของกษัตริย์พระนามว่า ราชิด ทัชฮดิน บินซาฟาร์  อัลฟาดี กลับมี

คู่ต่อกรคนใหม่ นั่นคือกองโจรจากทะเลทรายดาฟาร์อันเลื่องชื่อ


                     “โจรเหรอ โจรที่ไหนบังอาจมาเป็นศัตรูกับผู้นำประเทศวะ”


                   กวินท์พึมพำอยู่คนเดียวเมื่อมุ่งความสนใจไปที่ข้อมูลต่างๆเท่าที่สืบค้นได้ของประเทศฮาลียัน

                    กองโจรเหล่านั้นใช้ชีวิตอยู่ในทะเลทรายที่ไม่มีใครรู้หลักแหล่งที่มา พวกเขาเหล่านั้นอยู่ในชุดสีดำสนิทราวกับความมืด

ในยามราตรี สู้รบอยู่บนหลังม้าและใช้ดาบเล่มใหญ่เป็นอาวุธได้คล่องแคล่วและเงียบกริบดุจปีศาจร้ายสำหรับทางการ

                     หัวใจของกวินท์พลันเต้นรัว เขานึกภาพกองกำลังที่เต็มไปด้วยฝีเท้าม้าเหยียบย่ำอยู่บนผืนทรายร้อนระอุกว่าห้าสิบองศา

ในเวลากลางวันและลดต่ำลงจนเรียกว่าหนาวเหน็บเมื่อความมืดมาเยือน ภาพของเหล่าบุรุษตัวสูงใหญ่ชูดาบแวววาวอาบไล้แสงจันทร์

ก่อนจะกรูเข้ามาฟาดฟันศัตรู

                  ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหน ใช้ชีวิตเยี่ยงไรในทะเลทรายเวิ้งว้างและต้องการอะไร ที่รัฐบาลและผู้คนรับรู้มี

เพียงหัวหน้าของพวกกองโจรเหล่านั้นมีนามว่า ชารุกข์ เซรีม ปีศาจร้ายแห่งดาฟาร์

                  กวินท์เงยหน้าจากจอของแล็ปท็อปก่อนจะปิดเครื่องลง ในจินตนาการของเขาปรากฏภาพชายผู้เหี้ยมโหดในชุดสีดำสนิท

ปิดหน้าตาทรงตัวอยู่บนหลังม้าอาหรับตัวใหญ่และใช้ดาบไล่ฟาดฟันผู้คนจนโลหิตไหลนองคละคลุ้ง


                 ชารุกข์ เซรีม

                ปีศาจร้ายแห่งดาฟาร์


               กวินท์อยากจะรู้นักว่าภายใต้การปิดบังนั้นโฉมหน้าที่แท้จริงของคน ๆ นั้นจะอำมหิตขนาดไหน



      มีต่ออีกนิด...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2017 21:00:45 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ต่อกันตรงนี้...



                     สองวันหลังจากนั้นกวินท์ก็ต้องจากบ้านริมคลองของคุณนายรำพึงขึ้นเครื่องบินไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาพบกับ

วิกเตอร์ คอสเนอร์เพื่อนสนิทและผู้ร่วมงานของเขา


                      “ไม่รู้ว่าบ้านเมืองของฮาลียันจะเป็นยังไงบ้าง”


                       วิกเตอร์กล่าวพร้อมสาละวนตรวบสอบทั้งกล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับเก็บภาพไปทำสกู๊ปข่าว เขาและกวินท์

เคยไปหลายประเทศในตะวันออกกลางมาแล้ว แต่กับประเทศที่ยังไม่มีใครได้เข้าไปเยือนมากนักสร้างความตื่นเต้นในเขาไม่น้อย


                     “นี่ ข้อมูลที่ได้มา”


                     กวินท์โยนม้วนกระดาษปึกหนึ่งส่งให้วิกเตอร์ เขารับไปเปิดอ่านก่อนจะเงยหน้ามองกวินท์อย่างนึกทึ่ง


                    “มึงนี่มันจอมเสือกระดับโลกจริง ๆ ไอ้ข้อมูลเรื่องที่เขาปิดบังซ่อนเร้นกันแบบนี่มึงไปค้นมาจากไหนวะ”


                   “มันก็อยู่ในอินเตอร์เน็ตทั้งนั้นแหละ อยู่ที่ว่ามึงจะขุดไปลึกถึงแค่ไหน”


                 “ว่าแต่ไอ้หมอนี่มันต้องร้ายมากแน่ ๆ “


                 วิกเตอร์กล่าวออกมาเมื่ออ่านข้อมูลเรื่องกองโจรทะเลทราย


                 “บุกเข้าปล้นรถขนส่งน้ำมันบ้างละ ปล้นธนาคารของรัฐบาลอีกต่างหาก สมควรแล้วที่เขาจะเรียกว่าปีศาจร้าย”


                 “พูดเหมือนชื่นชมนะวิก”


                “ไม่ได้ชื่นชม แค่คิดว่าเจ๋งดีที่กล้าทำขนาดนั้น อ้าว เฮ้ย ไปเช็คอินได้แล้ว”


                  วิกเตอร์ลุกขึ้นบิดขี้เกียจหลังจากที่รอเปลี่ยนเครื่องมาหลายชั่วโมง เขาลากกระเป๋าเดินนำกวินท์ไปยังจุดรับผู้โดยสาร ไม่

นานหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้ขึ้นมาบนเครื่องบินเพื่อเดินทางต่อไปยังรัฐฮาลียัน


                  กวินท์เหม่อมองท้องฟ้าสีสดใสที่มีปุยเมฆบาง ๆ ปกคลุมอยู่เมื่อเครื่องบินที่เขาโดยสารลอยอยู่บนท้องฟ้า อีกไม่นานก็จะ

ถึงฮาลียัน แม้จะผ่านการทำงานมาอย่างโชกโชนแต่ครั้งนี้กลับผิดแผกที่หัวใจของกวินท์เหมือนมีบางสิ่งรบกวนอยู่ มันน่ารำคาญที่เขา

ไม่รู้ว่าสิ่งรบกวนนั้นคืออะไร


                      อยู่ ๆ ภาพบุรุษในชุดสีดำชูดาบบนหลังม้าก็บังเกิดขึ้นมาบนท้องฟ้าที่กวินท์มองอยู่


                      เราจะได้พบกันไหมนะ ปีศาจแห่งดาฟาร์

                                  
                                                                          TBC

                                                                       
                                                                    สุขสันต์วันสงกรานต์


                              ถือโอกาสวันสงกรานต์เป็นฤกษ์ดีเปิดตัวนิยายเรื่องใหม่จ้า


                          ตั้งใจไว้ว่าจะให้เป็นนิยายรักโรแมนติก แต่ไม่รู้จะแต่งได้ขนาดไหน


                                                  เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยน้า





                                                                                            :m23: :m23: :m23: :m23:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2017 20:14:37 โดย Belove »

ออฟไลน์ lovetogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เจิม เรื่่องใหม่จ้า ขอติดตามนะ
ปล.คงไม่มาม่านะ :mew1:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
โรมานส์ ขอกามเทพช่วยพ่อรักน้าคุณเร็วๆ นะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ BloodyBlue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีแนวทะเลทรายเรื่องใหม่มาให้ติดตามแล้ว เย้ๆ น่าสนใจมากค่ะ o13

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
น่าสนุกดีๆ ต่อๆๆๆ

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เรื่องก่อนพระเอกเป็นทหารมาเรื่องนี้พระเอดเป็นจอมโจรปล้นใจหรอเนี่ยยยยย ติดตามๆ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ไม่ค่อยมีแนวนี้มาบ่อย ติดตามจ้า

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ชอบแนวทะเลทรายมาก แต่ไม่ค่อยมีใครแต่งเลย

รออ่านตอนต่อไปนะคะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โถพ่อหนุ่มลูกครึ่ง... สุดท้ายแล้วคงได้อยู่บนผืนทรายแทนที่จะเป็นสยามเมืองยิ้มเสียแล้วละ

ปล. ไม่รู้ทำไมอ่านไปก็นึกถึงเสราดารัลไป สงสัยเพราะพระเอกเป็นโจรเหมือนกัน ? (หัวเราะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2017 18:04:46 โดย sirin_chadada »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เรื่องใหม่แนวใหม่ชวนติดตามมากเลย

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ sahatsawat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอออออ ไม่เอามาม่าาาาน้าาาา

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                      ลมหายใจแห่งผืนทราย

                                                                                บทที่ 2




                   “ถึงแล้วโว้ย ฮาลียัน”


                   เสียงเพื่อนสนิทดังขึ้นปลุกให้กวินท์ตื่นจากภวังค์ เขาขยับรัดเข็มขัดนิรภัยคาดเอวเมื่อมีเสียงสัญญาณเตือนว่าเครื่องบิน

กำลังจะลงจอดสู่สนามบินนานาชาติฟาดีเลาะฮ์เมืองหลวงของฮาลียัน

                   แสงอาทิตย์ยามอัสดงแต่งแต้มอยู่ขอบฟ้าชักชวนให้กวินท์มองผ่านกระจกเครื่องบินไปยังผืนพสุธาแสนกว้างใหญ่ ฟากฝั่ง

หนึ่งเป็นความเจริญด้วยอาคารสูงที่แข่งกันก่อสร้าง ถัดออกไปคือทะเลทรายที่ยังมีความเจริญอยู่บ้างเมื่อถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่อง

เที่ยว หากแต่ไกลจนสุดสายตานั้นคือความเวิ้งว้างสีน้ำตาลรับกับแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า

                    กวินท์เคยอยากรู้ว่ากลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายนั้นดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไรกับธรรมชาติอันแสนแห้งแล้ง นอกจาก

ทรายจำนวนมหึมาแล้วก็มีเพียงภูเขาหินที่มีเพียงต้นไม้ทะเลทรายไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่ทานทนได้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีมนุษย์บางกลุ่มที่

ปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้โดยที่คนที่เติบโตมาแต่ในเมืองใหญ่ต้องแปลกใจ


                       “สนามบินของเขาใหญ่โตกว่าที่คิดนะ”


                        วิกเตอร์เอ่ยขึ้นเมื่อพวกเขาทั้งคู่ลากกระเป๋าก้าวไปตามทางเดินมุ่งสู่ทางออก และเมื่อเดินมาถึงพวกเขาก็มองเห็นชาย

คนหนึ่งในชุดอาหรับถือป้ายชื่อสำนักข่าวของเขา กวินท์และวิกเตอร์จึงเดินตรงไปหา ชายคนนั้นทักทายเป็นภาษาอังกฤษ


                       “มิสเตอร์แอนเดอร์สันและมิสเตอร์คอสเนอร์จากสำนักข่าวไอซีเอ็นใช่ไหมครับ”


                       “ใช่แล้วครับ”


                       เมื่อได้ยินกวินท์กล่าวตอบรับ ชายชาวฮาลียันผู้นั้นจึงผายมือให้พวกเขา


                      “ผมมาจากกระทรวงท่องเที่ยวครับ จะพาพวกคุณไปยังโรงแรมที่พักก่อนที่พวกคุณและเพื่อนนักข่าวทุกสำนักจะเริ่ม

ทำงานในวันพรุ่งนี้”


                       โรงแรมที่รัฐบาลฮาลียันจัดไว้ให้พักนั้นเรียกได้ว่าอยู่ในระดับห้าดาวเลยทีเดียว ที่ล็อบบี้กวินท์พบนักข่าวจากหลาย

สำนักกระจายตัวกันอยู่หลายคน ต่างก็ทักทายกันจ้าละหวั่นก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้าไปพักในห้องที่โรงแรมจัดไว้


                    “สบายจริงโว้ย”


                    วิกเตอร์กระโดดหงายหลังลงบนเตียงสปริงอย่างชอบใจ


                    “โรงแรมพวกเศรษฐีนี่มันหรูหราจริงๆ”


                    กวินท์โคลงหัวไปมากับสิ่งที่วิกเตอร์กระทำ เขาเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองแสงไฟระยิบระยับตาในยามค่ำคืนของเมือง

ฟาดีเลาะฮ์


                   “ไปเดินเล่นกันไหมวะวิก”


                   “ไม่ล่ะ เจ็ทแล็ก”


                    วิกเตอร์รีบปฏิเสธโดยพลันทำให้กวินท์มองอย่างหมั่นไส้


                   “นั่งเครื่องไม่กี่ชั่วโมงอย่ามาทำสำออยสิวะไอ้วิก”


                   “ไม่เอา ไม่ไป กูจะนอนแช่น้ำอุ่นในอ่างทองคำกับจิบเบียร์เย็น ๆ ให้สบายใจ มึงอยากไปก็ไปคนเดียวสิ”


                     กวินท์ยกเท้าเตะไปที่ก้นวิกเตอร์เมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนสนิท เขาคว้ากระเป๋าเป้ใบเล็กสำหรับใส่สิ่งของจำเป็นขึ้นมา

สะพายไว้


                      “อยากนอนอืดอยู่ในห้องก็ตามใจ กูไปเดินเที่ยวเปิดหูเปิดตาดีกว่า”


                     พูดจบกวินท์ก็ปล่อยให้วิกเตอร์อยู่ในห้อง ส่วนเขาก็ก้าวเดินออกจากโรงแรมไปยังเบื้องนอก กวินท์กวาดสายตามอง

ถนนหนทางเพื่อจดจำเส้นทางกลับโรงแรมก่อนที่เขาจะเดินทอดน่องชมความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองหลวงแห่งฮาลียัน

                     สภาพความเป็นอยู่ในเมืองฟาดีเลาะฮ์นั้นไม่แตกต่างจากเมืองใหญ่ในประเทศแถบนี้ที่กวินท์เคยไปมาแล้วเท่าไหร่นัก

ตึกสูงระฟ้าบอกถึงสถานภาพทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยมีคำว่าจนแม้แต่นิด ผู้คนที่เดินขวักไขว่อยู่บนถนนมีทั้งชายชาวอาหรับที่สวมใส่ชุด

คลุมยาวกรอมเท้าและมีผ้าโพกศีรษะรวมถึงชาวต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยวด้วย

                   กวินท์ใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลินและไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด และเพราะความเพลิดเพลิน

นั่นเองที่ชักชวนให้เขาก้าวไปยังตรอกเล็กตรอกน้อยจากถนนเส้นหลักที่เริ่มมีความเงียบเข้ามาปกคลุม ภาพของตึกระฟ้าหายไปกลาย

เป็นบ้านเรือนของผู้คนที่กระจายตัวกันอยู่ห่าง ๆ

                  ชายผู้หนึ่งแต่งตัวด้วยเสื้อคลุมตัวยาวไม่ต่างจากผู้อื่นในเมือง ก้มหน้าก้มตาก้าวพรวด ๆ สวนทางกับกวินท์และชนเข้าที่

ไหล่ของเขาจนเสียหลักก่อนจะรีบจ้ำเดินจากไป กวินท์ได้แต่เลิกคิ้วมองตามหลังและเพราะความเอะใจเขาจึงรีบยกกระเป๋าเป้ขึ้นมอง


                       “แดม!”


                      สบถอย่างเจ็บใจเมื่อเห็นรอยกรีดอยู่ด้านล่าง กวินท์รีบเปิดกระเป๋าดูทันทีและพบว่ากระเป๋าสตางค์อันตรธานไปแล้ว


                    “หยุดนะ!”


                        ตะโกนห้ามแต่ก็ไม่ได้ผล มิจฉาชีพคนนั้นเหลียวหลังมามองแวบหนึ่งและเมื่อเห็นว่าเหยื่อรู้ตัวก็รีบโกยอ้าวไปทันที

กวินท์จึงรีบวิ่งตามไปอย่างไม่ลดละจนกระทั่งจวนเจียนจะคว้าตัวไว้ได้เขาก็กระโจนเข้าใส่แผ่นหลังของโจรจนล้มลงไปด้วยกัน


                   “คืนกระเป๋ามาเดี๋ยวนี้”


                   กวินท์ตะคอกใส่หน้า หากแต่โจรนั่นกลับหันมาแสยะยิ้ม มันพูดภาษาอาหรับรัวเร็วจนกวินท์ฟังไม่ถนัด ทันใดนั้นก็ปรากฏ

ว่ามีพวกของมันโผล่จากมุมมืดของซอกตึกออกมาอีกสามคน กวินท์กวาดสายตามองอย่างโมโหตัวเองที่วิ่งเข้ามาสู่กับดักของพวกมัน

เขารีบลุกขึ้นยืนพร้อมตั้งการ์ดเตรียมต่อสู้เมื่อตอนนี้เขาถูกล้อมไว้ถึงสี่ต่อหนึ่ง


                     “คืนกระเป๋ามาให้ผมก่อนที่ผมจะไปแจ้งทางการ”


                     เขาส่งเสียงภาษาอังกฤษใส่พวกมัน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครฟังออก พวกมันก้าวเข้ามาหากวินท์อย่างไม่ประสงค์ดี

กวินท์ตัดสินใจปล่อยหมัดออกไปทันที

                    พลัก!

                    หมัดหนึ่งซัดเข้าใส่พวกมันได้คนหนึ่ง คนถูกต่อยมองกวินท์ตาลุกวาว มันพูดอะไรบางอย่างออกมาจากนั้นพวกมันทั้งสี่ก็

เข้ามารุมกวินท์ที่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยร่ำเรียนมาป้องกันตัวเองทั้งไอคิโดและยิวยิตสู หากแต่เพราะพวกมันมีจำนวนที่มากกว่าและกวิน

ท์ก็ไม่ได้ฝึกซ้อมนานแล้ว เขาที่มีเพียงคนเดียวจึงเสียเปรียบ กำปั้นของพวกมันคนหนึ่งที่ลอยมากระทบกรอบหน้าจึงทำให้กวินท์มอง

เห็นดาวลอยคว้าง

                 ตุ้บ!

                ขณะที่กวินท์ยังตั้งตัวไม่ทันนั้นกลับมีผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ กวินท์ได้ยินเสียงการต่อสู้อยู่อีกพักเดียวพวกโจรเหล่านั้นก็

พูดอะไรบางอย่างด้วยกันก่อนที่จะพากันวิ่งหนีไป ทิ้งให้กวินท์ที่เพิ่งจะลุกขึ้นยืนไหวเผชิญหน้ากับผู้ที่ช่วยเหลือเขาไว้


                 “เอ่อ ขอบคุณ”


                 กวินท์เอ่ยภาษาอาหรับง่าย ๆ ออกไป เขามองผู้ชายที่ช่วยเหลือเขา ชายคนนั้นแต่งชุดคลุมสีน้ำตาลอ่อนสีเดียวกับผ้าโพก

ศีรษะ เหนือริมฝีปากและคางมีหนวดเคราและที่กวินท์แปลกตาคือแม้ในยามค่ำคืนชายผู้นี้กลับใส่แว่นตาสีดำไว้จนมองไม่เห็นใบหน้า

ที่แท้จริงและไม่รู้ด้วยว่าคนตรงหน้ากำลังรู้สึกเช่นไร

                  ไหล่กว้างยักขึ้นอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญพร้อมกับโยนกระเป๋าสตางค์มาให้กวินท์รับคืนไป เขาผู้นั้นสูงกว่ากวินท์ที่ว่าสูง

แล้วเป็นคืบ เมื่อหันหลังจึงเห็นบ่ากว้างและช่วงลำตัวหนาที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อคลุมยามกรอมเท้าเมื่อเขาเดินจากไป


                  “อ๊ะ เดี๋ยวสิคุณ”


                  กวินท์อุทานเป็นภาษาอังกฤษแต่เขาก็ชะงักฝีเท้าและหันกลับมา กวินท์ยิ้มเจื่อนก่อนจะเอ่ยออกไป


                “ผมวิ่งตามไอ้พวกโจรมาจนลืมมองทาง เอ่อ คุณรู้จักโรงแรม...ไหม ผมพักที่นั่น รบกวนช่วยชี้ทางกลับให้จะได้ไหมครับ”


                   เขาคนนั้นถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่งราวกับกำลังรู้สึกเบื่อหน่ายจนกวินท์หน้าชา หากแต่เขาก็เอียงคอเป็นสัญญาณให้

กวินท์เดินตามไป ไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นนอกจากกวินท์จะเดินตามแผ่นหลังกว้างจนถึงถนนหลักและเดินถึงหน้าโรงแรมในที่สุด


                  “ขอบคุณอีกครั้งนะ คุณ เอ่อ คุณชื่ออะไร”


                 ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็ให้การช่วยเหลือจนกลับมาถึงโรงแรมได้แม้ว่าจะมีกิริยาชวนให้น่าหมั่นไส้อยู่บ้าง กวินท์จึงกล่าว

ขอบคุณออกไปแต่ดูเหมือนผู้ชายตรงหน้าจะไม่สนใจแม้แต่น้อย เขาหันหลังเดินจากไปโดยไม่เอ่ยตอบแม้แต่คำเดียวจนกวินท์อึ้ง


                   “คนอะไรวะ สงสัยเป็นใบ้”


                   กวินท์ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันกายก้าวเดินเข้าประตูโรงแรม เขาจึงไม่ได้เห็นร่างสูงนั้นหยุดยืนและหันกลับมามองกวินท์

จนลับสายตา

                    มือใหญ่แบมือออกจนการ์ดนามบัตรใบหนึ่งที่ยับยู่ยี่เพราะกำไว้นานคลายตัว เขาอ่านชื่อที่ปรากฏบนนามบัตรนั้น


                   “Gavyn Anderson”


                    ปากหยักที่ล้อมรอบด้วยหนวดเคราคลี่ออกเพียงเล็กน้อย แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้รู้ว่าเขากำลังอารมณ์ดีก่อนที่

นามบัตรใบนั้นจะถูกเก็บไว้อย่างดีและก้าวจากไปจากโรงแรมห้าดาวที่ตั้งอยู่เบื้องหลัง






มีต่ออีกนิด...



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2017 21:51:50 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

ต่อกันตรงนี้...



                   วิกเตอร์หัวเราะเบา ๆ ในตอนเช้าเมื่อเขามองเห็นรอยฟกช้ำสีเขียวจาง ๆ บนโหนกแก้มของเพื่อนสนิทเพราะตอนที่กวินท์

กลับมาถึงห้องเขาหลับฝันดีอยู่บนเตียงนุ่มและเพิ่งมารู้จากกวินท์เมื่อตื่นมาว่าเพื่อนถูกลูบคม


                  “เสือกจะทำตัวอินดี้เดินชมเมือง เป็นไงล่ะ ดีนะไม่ตายคาตีนโจร”


                   กวินท์ได้แต่เบ้ปากใส่วิกเตอร์ เขาไม่อาจโต้เถียงได้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง หากไม่มีคน ๆ นั้นมาช่วยเขาอาจหมอบอยู่ริมถนน

นั่นเอง


                   “จะทับถมอะไรกันนักหนาวะ ไปเร็ว ได้เวลาทำงานแล้ว”


                    เพราะงานนี้เป็นทางการ ทั้งคู่จึงใส่เสื้อเชิ้ตสีอ่อนและสวมสูทสีดำเบื้องนอก กวินท์คว้าสคริปคำถามที่เตรียมไว้ขึ้นมาและ

ก้าวนำวิกเตอร์ที่หิ้วกล้องตัวเก่งตามมาติด ๆ ไปยังด้านล่างของโรงแรมที่มีผู้สื่อข่าวรวมตัวกันแน่นขนัดเพื่อรอขึ้นรถบัสที่รัฐบาลฮาลียัน

จัดมา

                 รถบัสขับมาจอดที่น่าที่ทำการของรัฐบาลภายใต้การปกครองโดยกษัตริย์ราชิด ฮัดชดิน บินซาฟาร์ อัลฟาดี อันมีพระชนมายุ

ราว ๆ หกสิบพรรษา ทรงเป็นชาวอาหรับร่างสูงท้วมใบหน้าดูน่าเกรงขามเมื่อทรงกล่าวต้อนรับคณะผู้สื่อข่าวในห้องประชุมใหญ่


                   “ฮาลียันขอต้อนรับทุกท่าน หวังว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาคงหลับสบายบนผืนแผ่นดินของเรา”


                    ทรงกล่าวแนะนำประเทศให้ช่างภาพที่ยืนเรียงแถวเบื้องหลังถ่ายภาพจนแสงแฟรชวูบวาบ ความเป็นมาของประเทศไม่

ต่างจากที่กวินท์ซึ่งนั่งอยู่แถวหน้าของบรรดานักข่าวหาข้อมูลมานัก


                  “มีอะไรอยากรู้เกี่ยวกับประเทศนี้ก็เชิญถามกันได้”


                  ท้ายที่สุดก็ทรงเปิดโอกาสให้สัมภาษณ์ นักข่าวแต่ละคนทยอยยกมือตั้งคำถามทั่วไป รอสักพักกวินท์จึงยกมือขึ้นบ้าง


                  “ความเห็นที่ไม่ลงรอยกันของกลุ่มที่ฝักใฝ่คนละขั้วการปกครองได้ถูกจัดการให้หมดปัญหาหรือยังครับ”


                เสียงฮือฮาดังขึ้นทันทีจากเพื่อนนักข่าวเมื่อได้ยินคำถามของกวินท์ กษัตริย์ราชิดทรงหันขวับมาจ้องมองเขาด้วยสายตาดุแต่

กวินท์ก็ไม่ได้หลบสายตา


                 “เธอไปรู้มาจากไหนกันพ่อหนุ่มว่าฮาลียันมีเรื่องอย่างนั้น พวกเราอยู่กันอย่างสงบสุขมาตลอด”


                    “แต่ที่ผมหาข้อมูลมาได้ เมื่อห้าปีก่อนฮาลียันมีการผลัดเปลี่ยนผู้นำราชวงศ์และกษัตริย์พระองค์ก่อนทรงหายไปอย่างไร้

ร่องรอยนี่ครับ”


                   สีพระพักตร์กษัตริย์ราชิดเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะจ้องมองกวินท์เขม็ง นักข่าวคนอื่นหันไปซุบซิบกันถึงประเด็นที่กวินท์

จุดขึ้นมา


                    “กษัตริย์พระองค์ก่อนคือพี่ชายของฉัน เขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จากนั้นฉันก็เข้ามารับช่วงดูแลฮาลียันต่อจากพี่ชาย

พ่อหนุ่มคงได้ข้อมูลมาผิดแล้ว”


                  ทรงฝืนแย้มสรวลทั้งที่พระเนตรกร้าวเต็มที กวินท์จึงเปลี่ยนประเด็นใหม่


                 “แล้วเรื่องที่ว่ามีกลุ่มโจรในทะเลทรายที่จ้องทำลายและปล้นทางการล่ะครับ”


                 “พวกคนเลว”


                 กษัตริย์ราชิดเอ่ยออกมาชัดถ้อยชัดคำ


                “พวกมันเห็นว่ารัฐบาลมีรายได้มากมายจึงคิดจะรวยทางลัด พวกมันก็แค่เบดูอินธรรมดาเท่านั้น”


                   “แต่เห็นว่าหัวหน้าของกลุ่มกองโจรเก่งมาก ทางการจะจับกุมตัวเขาได้ไหมครับ”


                     “เธอเป็นใคร”


                     กษัตริย์ราชิดหันมาให้ความสนใจกับกวินท์เต็มตัวเมื่อได้ยินคำถามที่ไม่เคยมีใครกล้าถาม


                    “กวินท์ แอนเดอร์สันจากไอซีเอ็นครับ”


                   แนะนำตัวเสียงฉาดฉาน กวินท์ไม่เคยกลัวเรื่องการตั้งคำถามเจาะลึกเช่นนี้ แม้ว่าผู้ถูกตั้งคำถามจะขัดเคืองไปบ้างก็ตาม

กษัตริย์ราชิดจ้องมองเขาพร้อมตอบคำถามที่มีแต่คนรอคำตอบ


                    “ชารุกข์ เซรีมคือเสี้ยนหนามขัดขวางความเจริญของฮาลียัน ไม่มีเหตุผลเลยที่จะปล่อยให้มันลอยนวล อีกไม่นานไอ้

ปีศาจนั่นจะต้องถูกจับกุมมาลงโทษอย่างแน่นอน จบการตอบคำถามแค่นี้”


                   กษัตริย์ราชิดก้าวลงจากโพเดียมอย่างรวดเร็วและรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวก็รีบเข้ามารักษาสถานการณ์ให้ผ่อนคลาย

มากขึ้น


                     “ต่อไปเราจะพาพวกท่านนั่งรถชมเมืองและทะเลทรายที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เราได้จัดรถจี๊ปไว้ให้พวกท่านได้นั่ง

คันละสี่คนเพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวนะครับ”






                   “กษัตริย์ราชิดท่าทางจะเคืองมาก”


                   กวินท์และวิกเตอร์รวมทั้งนักข่าวจากสำนักข่าวอื่นอีกสองคนที่นั่งบนรถคันเดียวกันซุบซิบพูดคุยในเรื่องนี้เพราะเกรงว่าเจ้า

หน้าที่ของฮาลียันที่นั่งบนรถจะได้ยิน


                  “ดูตอนที่มองหน้ากวินท์สิ พระเนตรเขียวเลยที่ถูกถามเรื่องการผลัดเปลี่ยนผู้นำ”


                   กวินท์ยักไหล่อย่างไม่นึกเกรงนัก


                    “ก็ถ้าไม่ได้มีการยึดอำนาจจริงแล้วจะมีการทะเลาะกันของประชาชนทำไมล่ะ เพราะอย่างนี้ถึงไม่ยอมให้ใครเข้าประเทศ

อยู่พักใหญ่”


                   เสียงซุบซิบหยุดลงเมื่อขบวนรถจี๊ปออกเดินทางตามกันแถวเรียงเดี่ยวจากในเมืองมุ่งสู่ทะเลทราย รถที่พวกเขานั่งมาเป็น

คันสุดท้ายของขบวน จนกระทั่งเข้าเขตทะเลทรายรถจี๊ปจึงต้องทิ้งระยะห่างจากกันเพื่อไม่ให้ฝุ่นทรายกระจายบดบังเส้นทาง

                 กวินท์เริ่มผิดสังเกตเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลฮาลียันที่นั่งคู่กันตำแหน่งคนขับมองหน้าการเลิ่กลั่กราวกับมีอะไรผิดปกติ


                “เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”


                 อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไปจนเพื่อนที่มาด้วยกันพากันเอะใจ


                “ทำไมรถเรามันห่างจากคันอื่นนักวะ เฮ้ย นั่นอะไร!”


                  วิกเตอร์อุทานอย่างตกใจเมื่อมองเห็นมนุษย์ในชุดสีดำกลุ่มหนึ่งควบม้าเรียงหน้ากระดานตรงมายังรถของเขา คนขับรถรีบ

จอดอย่างลนลานจนปล่อยให้พวกมันเหล่านั้นควบม้าล้อมไว้และส่งเสียงภาษาอาหรับก้อง พวกมันชูดาบขู่สลอนจนพวกเขาต้องร่นตัว

เองลงจากเบาะรถเมื่อเห็นการคุกคาม


                    “พวกโจรทะเลทรายงั้นหรือ”


                     เพื่อนนักข่าวถามอย่างหวาดกลัว กวินท์เองก็ยังตอบไม่ได้ ความตื่นเต้นหวาดหวั่นเกิดขึ้นจนหัวใจเต้นรัวเร็ว และเขาก็ยิ่ง

ตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อพวกมันเหล่านั้นกระโดดจากหลังม้าลงมาที่รถและใช้ดาบทำร้ายคนขับรถจนบาดเจ็บ

                     เสียงร้องลั่นของคนขับรถและเลือดจากต้นแขนที่ไหลรินออกมายิ่งทำให้ทุกคนหวาดกลัว กวินท์ไม่รู้เลยว่าจุดประสงค์

ของพวกมันคือสิ่งใด จนกระทั่งหนึ่งในพวกมันตรงเข้ามากระชากเส้นผมให้เขาและเพื่อนแหงนหน้าทีละคนและเมื่อถึงกวินท์มันก็หันไป

พูดอะไรบางอย่างก่อนที่จะกระชากแขนของกวินท์จนตัวลอยออกจากพื้นรถ


                     “เฮ้ย มึงจะทำอะไรเพื่อนกู”


                       วิกเตอร์โวยวายแต่เพราะปลายดาบจ่อที่คอเขาจึงได้แต่มองอย่างเจ็บใจเมื่อเห็นกวินท์ถูกมัดแขนขาติดกับลำตัวด้วย

เชือกเส้นเขื่องและแบกขึ้นหลังม้าไปกับพวกมัน เขากระโจนออกจากรถแต่ทำได้เพียงแค่มองฝูงม้าที่พากวินท์หายไปลับสายตา






                       กวินท์ตกใจและยังตั้งสติไม่ได้อยู่บนหลังม้า เขาถูกมัดและวางพาดไว้บนอานม้าอาหรับตัวใหญ่และควบอยู่ในทะเล

ทรายจนฝุ่นคลุ้ง


                       “ปล่อยผมนะ พวกคุณเป็นโจรทะเลทรายงั้นหรือ ผมเป็นแค่นักข่าวไม่ใช่คนของรัฐบาล”


                       พยายามตะโกนบอกแต่ไม่มีใครสนใจจนกวินท์เริ่มหวาดกลัว หัวใจของเขาคิดไปถึงบิดามารดาและยายเมื่อไม่รู้ว่าจะ

ได้มีโอกาสกลับไปพบหน้ากันอีกหรือไม่ หรือว่าเขาจะต้องจบสิ้นชีวิตลงกลางทะเลทราย

                    ความคิดของกวินท์สะดุดลงเมื่อเหล่าฝูงม้าพากันชะงักงัน กวินท์รีบเงยหน้ามองไปเบื้องหน้าทันที

                  ถูกลักพาตัวมาก็น่าตกใจมากแล้ว แต่สิ่งที่เกิดตรงหน้าช่างน่าตกใจยิ่งกว่าเมื่อเนินทรายสูงขึ้นไปนั้นมีเหล่าบุรุษในชุดดำ

อีกกลุ่มกระจายตัวกันอยู่บนหลังม้า ดาบใหญ่ยิ่งสะท้อนแสงแวววาวจากดวงอาทิตย์จนแสบตา กวินท์หลับตาลงด้วยความตกใจเมื่อเห็น

พวกเขาบังคับม้าให้กรูกันลงมาประจันหน้าและต่อสู้กับกลุ่มคนที่ลักพาตัวเขามา

                     เสียงดาบกระทบกันดังลั่น และที่น่าหวาดกลัวคือเสียงคมดาบเฉือนเนื้อมนุษย์โดยยังไม่ทันร้องร่างก็ตกไปกองกับพื้น

ทราย ม้าที่มีกวินท์วางพาดอยู่ยกขาหน้าร้องดังลั่นเมื่อคนบังคับร่วงจากหลังของมันทำให้กวินท์เองก็พลัดตกไปด้วย

                  ใจของกวินท์หายวาบเมื่อเขาลอยอยู่กลางอากาศและทำท่าจะร่วงลงไปกระแทกกับพื้น เขาหลับตาเกร็งกายรับการ

กระแทกหากแต่กลับรู้สึกเหมือนถูกกระชากให้ไปสู่หลังม้าอีกตัวหนึ่ง

                    ลืมตาขึ้นมาอย่างตกใจ พลันกวินท์กลับได้สบตากับดวงตาคมคู่หนึ่งที่โผล่พ้นมาจากผืนผ้าสีดำสนิทที่ปิดคลุมจนไม่รู้เลย

ว่าเบื้องหลังผืนผ้านั้นคนที่รับเขามาสู่ม้าตัวนี้มีหน้าตาอย่างไร



                                                                     TBC


                                                    ขอโทษที่หายไปนาน กลับมาแล้วจ้า


                                         
:m5: :m5: :m5: :m5: :m5:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2017 21:59:46 โดย Belove »

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ชอบค่าาาาา มาต่อไวๆ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
มาแบบปกปิดหน้าตาเสียลึกลับเชียว
รอตอนต่อไปค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด