PART 1PART 2PART 3PART 4PART 5PART 6PART 7PART 8PART 9.1PART 9.2PART 10Part 11
คุณแต้วมองรองเท้าคู่แปลกที่วางอยู่ด้านทางเข้าบ้านอย่างประหลาดใจ เธอแน่ใจว่าไม่ใช่ของสีน้ำเป็นแน่ หรือว่าจะเป็นของสีไม้
“พุดดิ้ง ดมซิ ของใครกัน สีไม้หรือเปล่า”
เธอเรียกหมาน้อยที่มีอาการแปลกๆ ตั้งแต่ตื่นมาตอนเช้า จะเรียกว่าอาการหมาหงอยก็น่าจะได้ ดูเซื่องซึมไปจนน่าแปลก ไม่ซนซ่ากระโดดโลดเต้นไปมาเหมือนทุกวัน เจ้าลูกหมามาดมฟุดฟิดแล้วก็ส่งเสียงขู่ออกมา
“แฮ่ๆ”
อาการแบบนี้เป็นกับคนเดียวเท่านั้นเท่าที่เคยเห็นมา
“เหนือดินงั้นหรอ”
ดวงตาเรียวคมเหมือนลูกชายคนโตหรี่ลงอย่างสงสัย เธอเปิดประตูบ้านออกไปมองไปยังฝั่งตรงข้ามก็เห็นรถสีแดงจอดนิ่งอยู่ ตามรูปการณ์แล้วมีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น คือคนที่เพิ่งให้มารดามาช่วยพูดสร้างความมั่นใจและเป็นคนที่ลูกชายของเธอมีใจให้นั้นกำลังนอนอยู่ด้านบนในห้องของสีน้ำเป็นแน่
“ตาสีน้ำนะ นี่ถ้าเป็นลูกสาวแม่ต้องจับตีล่ะมั้ง ใช่ไหมพุดดิ้ง นายเรานี่น่าตีจริงๆ เลย”
“บ๊อก บ๊อก”
ถึงเธอจะหัวสมัยใหม่ แต่ด้วยความเป็นแม่ที่ประคบประหงมสีน้ำมาตั้งแต่เล็กก็อดใจหายไม่ได้ที่ลูกชายของเธอจะมีคนมาช่วยดูแลแล้ว คุณแม่ยังสาวก็กลับเข้าไปเตรียมมื้อเช้าอยู่ในครัว โดยที่คิดถึงบทสนทนาของมารดานายแบบดัง เมื่อวานนี้ไปด้วย
“คุณแต้วคะ ถ้าจะให้บอกตามตรงดิฉันเองก็ทั้งแปลกใจแล้วก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าตาดินน่ะ สุดท้ายจะมาจริงจังกับคนที่อายุน้อยกว่า แล้วยังเป็นผู้ชายอีกด้วย ที่บ้านเราเลี้ยงลูกโตมาโดยให้อิสระกับแกเต็มที่ ทั้งการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เอง มาตั้งแต่เล็ก ใช่ว่าจะไม่รู้นะคะ ว่าแต่ก่อนแกเป็นคนเนื้อหอมขนาดไหน แต่ก็ไม่เคยจริงจังกับใครจนถึงขนาดไปขอร้องให้ดิฉันมาคุยกับคุณนี่แหละค่ะ”
“ค่ะ ตอนที่รู้ก็ยังตกใจไปเหมือนกัน”
“แต่ลูกชายของดิฉันน่ะเป็นคนจริงจังนะคะ แกกล้าเข้าไปบอกเรื่องนี้กับทุกคนในครอบครัว เรื่องหนูสีน้ำน่ะค่ะ แกก็บอกว่ารักมากจริงๆ คนนี้จะยอมให้เสียไปไม่ได้ ตอนแรกพ่อเขาก็โกรธน่าดูเลย รายนั้นเขาอยากอุ้มหลานแล้วดินเองก็เป็นลูกชายคนเดียว แต่ไม่รู้ว่าไปตกลงกับน้องสาวตอนไหน รายนั้นเลยบอกว่าถ้าอยากอุ้มหลานเดี๋ยวจะมีให้เอง แล้วยังจะให้ลูกใช้นามสกุลของเราด้วย ก็พี่น้องเขารักกันมากคู่นี้ สุดท้ายทั้งดิฉันเองแล้วก็สามีแพ้ความมุ่งมั่น ความจริงใจของลูกชาย เลยต้องมาที่นี่วันนี้นั่นล่ะค่ะ”
“แต่ว่าทางครอบครัวของเหนือดินเอง หรือจะฐานะทางสังคมก็ตาม มันจะเป็นที่สนใจของคนหมู่มากน่ะสิคะ คุณเองก็คงทราบแล้วว่าสีน้ำน่ะร่างกายไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็กๆ เพิ่งจะวางใจได้ก็ตอนอยู่มัธยมปลายนี่แหละค่ะ พูดตามตรง ดิฉันไม่อยากจะให้มีอะไรมากระทบกระเทือนความรู้สึกของสีน้ำจนทำให้สุขภาพแย่ตามไปด้วย”
“ดิฉันเข้าใจค่ะ ถึงจะให้คำสัญญาอะไรแทนลูกชายไม่ได้ แต่ก็เชื่อนะคะว่ารายนั้นจะต้องดูแลหนูสีน้ำอย่างดี ไม่ทำให้เสียใจ แล้วก็ไม่นอกใจอย่างแน่นอนค่ะ ส่วนเรื่องสถานะทางสังคม ก็น่าเป็นกังวล เพราะจริงอยู่ว่าความรักแบบนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ถ้าได้ความเข้าใจและแรงสนับสนุนจากคนในครอบครัวและคนรอบข้าง มาช่วยประคับประคองกันไปอีกที มันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่น่ากังวลนี่คะ”
คุณแต้วแพ้ความมุ่งมั่นของทั้งคุณแม่และคุณลูกจริงๆ จึงรับปากไปว่าจะให้โอกาสทั้งสองคนได้คบหากัน แม้จะยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับสามี แต่เธอเองก็เชื่อว่าหากทำให้ลูกชายมีความสุขแล้วผู้เป็นพ่อก็คงไม่ขัดเช่นกัน
“วันนี้คงต้องทำกับข้าวเยอะหน่อย มีลูกชายเพิ่มมาอีกคนนี่นา”
ในเมื่อลูกชายที่นิสัยยังแสนเด็กจะได้คนที่รักจริงและเป็นผู้ใหญ่มาคอยช่วยดูแลก็น่าจะเป็นเรื่องดี เธอคงต้องยอมรับเสียทีว่าสีน้ำเองก็โตแล้วคงต้องปล่อยให้สีน้ำได้คิดและตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้เองเสียที
“พุดดิ้ง อย่าไปกวนนายเราเลยวันนี้ มานี่มา กินนมดีกว่าเดี๋ยวแม่เอาให้กิน ดูสิเผลอแป๊บเดียวลูกบ้านนี้โตๆ กันไปหมดแล้ว ก็เหลือแต่เราแล้วนะพุดดิ้ง”
“บ๊อก บ๊อก”
“แล้วก็เลิกขู่ตาดินซะทีรู้ไหม”
เจ้าหมาน้อยแสนรู้ไม่ตอบ ดิ้นดุ๊กดิ๊กแล้ววิ่งหนีไปจะขึ้นบันไดไปชั้นสอง
“พุดดิ้ง วันนี้ไม่ต้องไปปลุกนายเราหรอก พูดไม่ฟังเลย เดี๋ยวไม่รักนะพุดดิ้ง”
ลูกหมาน้อยไปถึงหน้าห้องของสีน้ำแล้วใช้ขาหน้าตะกุยตะกายประตูส่งเสียงครางงี๊ดๆ อยู่ตลอดเวลา วิธีนี้ใช้ปลุกสีน้ำมาได้หลายครั้งแต่ก็คงไม่ใช่วันนี้เป็นแน่ เพราะคนที่อยู่ในห้องนั้นหลับสนิทอยู่ด้วยความอ่อนล้าและยังไม่มีทีท่าจะตื่นแต่อย่างใด