♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ ♥ : เปิดพรีฯ หนังสือแล้ววันนี้ ! [18/01/2018]  (อ่าน 169750 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2018 16:33:04 โดย Ch0cmint »

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5



COFFEE SHOP
รักนี้...รสกาแฟ



- จีบ -
บาริสต้าหนุ่มประจำร้าน IT' s LOVE มีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะบริหาร
และยังคงเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 สาขาคอมพิวเตอร์ มีนิสัย ขี้เล่น อารมณ์ดี เข้ากับคนอื่นได้ง่าย
แต่เวลาอยู่กับกาแฟเขาจะดูเป็นคนจริงจังขึ้นมาทันที
มีเสน่ห์ต่อทุกเพศทุกวัย ชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจรองจากกาแฟ
มีพี่ชาย 1 คน ชื่อ 'ไลค์' ที่แปลว่า 'ชอบ'
ตัวเขาเอง ชื่อ 'จีบ' ที่แปลว่า 'การจีบ'
และมีน้องชายอีก 1 คน ชื่อ 'ซารัง' ที่แปลว่า 'รัก'
รวมกันสามพี่น้องเกิดเป็นขั้นตอนของความรัก 'ชอบ จีบ รัก' < พ่อกับแม่เป็นกูรูด้านความรักเหรอ?



- คิส -
เด็กหนุ่มคณะศิลปกรรมศาสตร์ผู้ไม่ชอบรสชาติของกาแฟตั้งแต่ไหนแต่ไร
แต่วันนึงกลับเปลี่ยนความคิดแล้วพยายามดื่มกาแฟให้ชิน
เพียงเพื่อจะได้ใกล้ชิดมายไอดอลในดวงใจของตัวเอง
มีนิสัย ขี้อาย พูดมาก ร่าเริงแจ่มใส กลัวความเร็วที่สุดในสามโลก
มีพี่ชาย 1 คน ชื่อ 'ดีพ' ที่แปลว่า 'ลึก'
ตัวเขาเอง ชื่อ 'คิส' ที่แปลว่า 'จูบ'
รวมกันสองคนพี่น้องคือ 'Deep Kiss' < ไม่รู้พ่อกับแม่จะเฟี้ยวฟ้าวไปไหน


- สารบัญ -
#ทดลองดื่ม
#ดื่มครั้งที่ 1
#ดื่มครั้งที่ 2
#ดื่มครั้งที่ 3
#ดื่มครั้งที่ 4
#ดื่มครั้งที่ 5
#ดื่มครั้งที่ 6
#ดื่มครั้งที่ 7
#ดื่มครั้งที่ 8
#ดื่มครั้งที่ 8.5
#ดื่มครั้งที่ 9
#ดื่มครั้งที่ 10
#ดื่มครั้งที่ 11
#ดื่มครั้งที่ 12
#ดื่มครั้งที่ 13
#ดื่มครั้งที่ 14
#ดื่มครั้งที่ 15
#ดื่มครั้งที่ 16
#ดื่มครั้งที่ 17
#ดื่มครั้งที่ 18
#ดื่มครั้งที่ 19
#ดื่มครั้งที่ 20
#ดื่มครั้งที่ 21
#ดื่มครั้งที่ 22
#ดื่มครั้งที่ 23
#ดื่มครั้งที่ 24
#ดื่มครั้งที่ 25
#ดื่มครั้งที่ 26
#ดื่มครั้งที่ 27
#ดื่มครั้งที่ 27.5
#ดื่มครั้งที่ 28
#ดื่มครั้งที่ 29
#ดื่มครั้งที่ 30
#ดื่มครั้งที่ 31
#ดื่มครั้งที่ 32
#ดื่มครั้งสุดท้าย




เข้าไปเวิ่นเว่อกับเราที่เพจได้น้า https://www.facebook.com/Ch0cmint/




ผลงานทั้งหมด
♥ [เรื่องสั้น] Tweet Love - จบแล้ว
♥ [เรื่องสั้น] Flirt (Pack x Jeans) - จบแล้ว
♥ [เรื่องยาว] Follow You คามรักคุณ - จบแล้ว
♥ [เรื่องยาว] Day & Night เพราะว่ารัก - ยังไม่จบ
♥ [เรื่องยาว] Fierce ถึงร้ายก็รัก - ยังไม่จบ
♥ [เรื่องยาว] Love at first sight คุณครับ...มาเป็นของผมเถอะ - ยังไม่จบ
♥ [เรื่องยาว] Demon' s Contract - ยังไม่จบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2016 15:00:23 โดย Ch0cmint »

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ทดลองดื่ม -




ควันสีขาวพวยพุ่งออกจากเครื่องทำกาแฟกึ่งอัตโนมัติขนาดใหญ่ กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟส่งกลิ่นหอมฟุ้งเมื่อผ่านเครื่องบด และเมื่อมันสัมผัสกับน้ำร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะได้เป็นกาแฟสีน้ำตาลเข้มข้น ไม่นานนักบาริสต้าหนุ่มหล่อก็หันหน้ากลับมาที่เค้าน์เตอร์บาร์พร้อมกับแก้วเอสเพรสโซ่หนึ่งชอต เครื่องหน้าคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ตาคมสองชั้นคล้ายตาเหยี่ยว ปากรูปกระจับสีชมพูอ่อน ผิวขาวไม่จัดในแบบฉบับผู้ชาย หุ่นสมส่วน ทั้งหมดนี้หล่อหลอมเป็นบุคคลที่มีนามว่า 'จีบ'

ผมมองแก้วกาแฟขนาดสามสิบมิลลิลิตรแล้วกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ ยอมรับว่ากลิ่นหอมของมันทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย แต่เมื่อเห็นสีสันของเครื่องดื่มรสเข้มข้นนี่แล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตายซะตอนนี้เพราะดันเผลอสั่งเมนูที่ตัวเองไม่เคยดื่ม ชายหนุ่มตรงหน้าผมมองตรงมาพร้อมกับคลี่ยิ้มสดใส เสื้อกั๊กสีดำที่เขาสวมทับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับแขนส่งให้เขาดูหล่อขึ้นอีกเท่าตัว

"เอสเพรสโซ่หนึ่งชอตได้แล้ว"
เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมมือหนาที่เลื่อนแก้วกาแฟขนาดเล็กที่บรรจุกาแฟรสเข้มข้นที่สุดมาให้กัน ฟอง Crema สีน้ำตาลทองหนาลอยอ้อยอิ่งอยู่เบื้องบนทำให้รู้ว่ามันเป็น Perfect Shot อย่างไม่ต้องสงสัย ผมพยักหน้าแล้วสอดมือเข้าที่หูจับแก้วก่อนจะยกมันขึ้นมาใกล้จมูก กลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วจนผมต้องกลืนน้ำลาย

"ขอน้ำตาลหน่อยดิครับ"
ผมแบมือข้างที่เหลือออกไปรอรับซองน้ำตาลขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่จนแล้วจนรอด 'พี่จีบ' ก็ไม่ยอมขยับมือไปหยิบซองน้ำตาลหลังเค้าน์เตอร์บาร์ให้กันสักที จนผมต้องเลิกคิ้วขึ้นแล้วจ้องหน้าเขากลับไป

"ขอน้ำตาลหน่อย ~"
ผมลากเสียงยาวพร้อมทั้งกระดิกนิ้วมือไปมา เขายักคิ้วให้ผมข้างเดียวก่อนจะก้มลงมองมือผมแล้วยกมือหนาของตัวเองแปะลงไปแทนที่จะเป็นซองน้ำตาลที่ขอไว้ก่อนหน้านี้

"ดื่มเอสเพรสโซ่ให้ได้รสชาติเขาไม่ใส่น้ำตาลกันหรอก"
บาริสต้าหนุ่มพูดพร้อมกับตีมือแปะๆลงซ้ำๆบนมือผม ผมเห็นแบบนั้นเลยรีบขยับมือหนีกันแล้วเบะปากลงเป็นเส้นโค้ง ก็มันขมจะตาย ปกติผมก็สั่งแต่ลาเต้ซะด้วย จะให้กินเข้าไปได้ยังไงกัน แต่พี่จีบไม่ได้สนใจที่ผมทำหน้าบึ้งเขายกยิ้มมุมปากส่งมาให้กันแล้วหยิบซองน้ำตาลที่ผมต้องการแกว่งไปมาตรงหน้าผม

"ก็ผมจะใส่อ่ะ เอามา ~"
ผมพูดพร้อมกับเอื้อมทั้งมือและตัวเพื่อคว้าซองน้ำตาลที่อยู่แค่เอื้อม แต่สุดท้ายพี่จีบก็ขยับมือหลบไปด้านหลังพร้อมกับซ่อนซองน้ำตาลเอาไว้ ทำให้ผมจิ๊ปากเบาๆแล้วกลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ด้านหน้าเค้าน์เตอร์บาร์เหมือนเดิม คนบ้าอะไรโคตรขี้แกล้งกันเลย

"ลองชิมก่อนดิ"
พี่จีบขยับตัวเข้ามาใกล้เค้าน์เตอร์บาร์อีกครั้งก่อนจะเท้ามือลงบนโต๊ะที่ออกแบบให้ติดกับเค้าน์เตอร์วางอุปกรณ์ต่างๆ ดวงตาคมจับจ้องมาที่ผมก่อนจะพยักพเยิดหน้ามาทางแก้วกาแฟ

"ไม่เอา มันขม"
ผมเบ้ปากแล้วก้มมองแก้วกาแฟเจ้าปัญหาที่ตั้งอยู่ตรงหน้า รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ชอบรสขมมากๆแต่ก็ยังเสนอหน้าสั่งมันมา... จริงๆแล้วเขาก็กินอะไรขมๆได้นะ แต่ไม่ใช่อะไรที่มีรสขมเดี่ยวๆแบบนี้ มีรสอื่นตัดกันก็โอเค

"รู้ว่ามันขมมากแล้วจะสั่งทำไม?"
คำถามแทงใจดำดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะนิ้วเป็นจังหวะเบาๆลงบนเค้าน์เตอร์บาร์ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่มือข้างนั้นเลื่อนมาอยู่ใกล้ๆมือผม

"ก็...อยากลองสั่งอะไรเท่ๆมาดื่มดูบ้างอ่ะ"
ผมตอบเสียงอ้อมแอ้มกลับไป รู้ตัวว่าเหตุผลโคตรงี่เง่าเลยไม่กล้ามองหน้าพี่จีบ

"เท่ตรงไหนวะ? ปกติเห็นสั่งแต่ลาเต้"
พี่จีบขมวดคิ้วแน่นแล้วหยุดเคาะนิ้วไป ผมเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มแหยส่งไปให้

"เพื่อนบอกว่าล้าเต้มันเป็นเครื่องดื่มของผู้หญิง"
ผมยกมือขึ้นเกาท้ายทอยเพราะอายเหตุผลของตัวเอง แต่เพื่อนมันชอบล้อนี่ว่าผมดื่มอะไรเป็นสาวน้อยไปได้ ผู้ชายแมนๆต้องดื่มเอสเพรสโซ่สิ สองชอตยิ่งดี... เหอะๆ ชอตเดียวผมยังจะไม่รอดเลย พี่จีบมองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังใช้ได้ ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าคนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

"เพื่อนมึงนี่ใครวะ โคตรตลกเลยแม่ง กาแฟมันไม่ได้แยกเพศคนดื่มนะเว้ย มันอยู่ที่ความชอบส่วนตัว เข้าใจ๊?"
ผมพยักหน้ารับว่าเข้าใจ พี่จีบก็เลยพยักหน้ากลับมาให้กันด้วย คนอะไรวะจะทำหน้าแบบไหนก็หล่อ มีตอนไหนบ้างที่รักษาความหล่อไม่ได้บ้างเนี่ย โคตรหน้าอิจฉาคนหล่อทุกมุมอย่างพี่จีบจริงๆ

"แต่ผมก็อยากลองดื่มเอสเพรสโซ่ดูนะ"
ผมก้มลงมองแก้วกาแฟบนโต๊ะอีกรอบ ชั่งใจอยู่สักพักก็ตัดสินใจยกแก้วขึ้นมาอีกครั้ง เป็นไงเป็นกันขอลองหน่อยแล้วกัน ผมขยับแก้วกาแฟมาจรดริมฝีปากตัวเองแต่ยังไม่ทันได้จิบก็โดนมือหนาของพี่จีบจับข้อมือกันเอาไว้ซะก่อน

"หยุดเลย กาแฟนมันเบิร์นไปแล้ว ถ้าจะลองดื่มเดี๋ยวทำให้ใหม่"
พี่จีบปล่อยมือออก ส่วนผมก็ลดแก้วกาแฟลงแล้วมองหน้าเขาด้วยความสงสัย อะไรคือกาแฟเบิร์นแล้ว?  งงฉิบหายเลยครับตอนนี้

"เอสเพรสโซ่เนี่ยชงเสร็จแล้วต้องดื่มเลย ช้าสุดก็ภายในสองนาทีเท่านั้น หลังจากนั้นกาแฟมันจะไหม้ทำให้รสชาติเปลี่ยนไปจากเดิม พูดง่ายๆก็คือ กาแฟมันไม่อร่อยแล้ว"
ผมวางแก้วกาแฟลงแล้วพยักหน้าเข้าใจกับความรู้ใหม่ที่ได้รับ พี่จีบมองผมแว็บหนึ่งก่อนจะหันหลังกลับไปชงกาแฟแก้วใหม่ให้ผม แผ่นหลังกว้างดูมีเสน่ห์... ได้ซบสักครั้งคงฟินไม่รู้ลืม

ผมเป็นรุ่นน้องที่มหา'ลัยของพี่จีบ เขาไม่รู้จักผมเป็นการส่วนตัวรู้แค่ว่าผมเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์เพราะผมชอบแบกอุปกรณ์กระดานอะไรต่อมิอะไรเข้ามาในร้าน ครั้งแรกที่ผมมาเยียบที่นี่เพราะเพื่อนสนิทเป็นคนชวนมา ร้านอยู่ใกล้หอพักของผมมากแค่เดินมาประมาณห้านาทีก็ถึง

ผมยอมรับว่าผมเป็นคนที่ชอบพวกขนมนมเนยมากไม่ว่าจะทั้งคาวหรือหวานแต่ไม่ชอบกาแฟขมๆเอาซะเลย แต่ความคิดนั้นกลับเปลี่ยนไผเมื่อผมได้เจอกับบาริสต้าประจำร้าน มันทำให้ผมสนใจเขาและอยากรู้จักเขามากขึ้นเลยทำให้ผมพยายามฝึกดื่มกาแฟที่ได้ชื่อว่าเป็นกาแฟที่รสอ่อนที่สุดในบรรดากาแฟทั้งหมด นั่นก็คือล้าเต้ ครั้งแรกที่สัมผัสรสกาแฟยอมรับเลยว่ามันขมไม่ถูกปาก แต่พอกลั้นใจฝึกดื่มไปเรื่อยๆกลับพบว่ามันมีความอร่อยแฝงอยู่ในความขมนั่น ทั้งยังมีกลิ่นหอมชวนให้กระหายอยากดื่มมันอีกด้วย ผมมาที่ร้าน IT' s LOVE นี้เกือบทุกวันจนพี่จีบจำหน้าผมได้ซะแล้ว

"มองอะไรนักหนา?"
พี่จีบหันกลับมาพร้อมแก้วกาแฟในมือ เขาวางมันลงตรงหน้าผมก่อนจะเท้าคางมองกัน ผมเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอมองเขานานไปจนถูกจับได้เลยต้องเบนความสนใจโดยการก้มหน้ามองเครื่องดื่มในแก้วอย่างเอาเป็นเอาตาย อับอายขายขี้หน้าชะมัดมายืนจ้องผู้ชายอยู่ได้

"เอ่อ...มองพี่ทำกาแฟไง! เพลินดี"
ผมแถข้างๆคูๆให้ตัวเองรอดพ้น ที่จริงแล้วผมตั้งใจมองเขานั่นล่ะ ไม่ได้เพลินกับการที่เขาทำกาแฟเลยสักนิด ถ้ามาถามกันว่าเมื่อกี้พี่จีบทำอะไรไปบ้างผมคงตอบไม่ได้

"เออๆ รีบชิมกาแฟได้แล้ว"
มือหนาเลื่อนแก้วกาแฟมาให้ ผมพยักหน้ารับก่อนจะยกแก้วขึ้นมาจรดริมฝีปากแล้วเป่าเบาๆก่อนที่จะทดลองจิบทีละนิด... อ่า สัมผัสแรกที่กาแฟโดนลิ้นผมอยากจะดิ้นตายชะมัด มันขมโคตรพ่อโคตรแม่เลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลิ่นมันหอมยั่วน้ำลายมาก

"แค่กๆ ขมมาก!!"
ผมสำลักกาแฟเล็กน้อยเพราะมันขมเกินกว่าที่จินตนาการเอาไว้ ผมวางแก้วลงก่อนจะยกมือปิดปากแล้วไอออกมาอีกสองสามครั้ง พี่จีบมองหน้าผมแล้วหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะส่งแก้วน้ำดื่มเย็นๆมาให้ ผมรีบรับแล้วยกขึ้นดื่มอึกๆทันที พอเวลาผ่านไปสักพักกลับรู้สึกได้ว่ามีความหวานจางๆติดอยู่ที่ปลายลิ้น.. แปลกดี

"เออ ถามไรหน่อยดิ"

"ครับ?"

"ชื่ออะไร? คุยกันมาสักพักยังไม่รู้จักกันจริงๆจังๆเลยว่ะ"
อยู่ๆเขาก็ตั้งคำถามชวนใจเต้นแรง ไม่เคยคิดว่าคนตรงหน้าที่มีดีกรีเป็นเดือนคณะบริหารจะมาถามชื่อกันได้ ก็คุยกันมาแบบนี้เกือบครบเดือนแล้วไหมล่ะ

"ห้ะ...ผมเหรอ?"
ผมไม่ค่อยเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่เลยถามย้ำพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง พี่จีบพยักหน้าเบาๆแล้วพูดซ้ำ

"เออ คุยกับมึงแล้วจะให้ถามหมาที่ไหน?"
ความกวนตีนของพี่เขานี้ผมขอซื้อทิ้งได้ไหมครับ ก็คนมันตื่นเต้น มายไอดอลถามชื่อกันเลยนะเว้ย

"ชื่อคิสครับ"

"หืม คริส เค อาร์ ไอ เอส น่ะเหรอ?"

ไม่ใช่ๆ เค ไอ ดับเบิ้ลเอส ครับ"

"จูบเหรอ?"

"ถูกต้องนะคร้าบ ~"
ผมลากเสียงยาวพร้อมกับยกมือขึ้นทำท่าถูกต้องนะคร้าบยอดฮิตนั่นไปด้วย พี่จีบหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ

"กูชื่อจีบ ยินดีที่ได้รู้จัก"

"ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการครับผม!"
ผมทำท่าตะเบะอย่างทหารนั่นทำให้พี่จีบคนหล่อยิ่งหัวเราะหนักขึ้น

"มึงนี่ติ๊งต๊องนะ"
เขาว่าก่อนจะพยายามหยุดหัวเราะ ผมมองหน้าเขาแล้วส่งยิ้มกว้างไปให้กัน ไม่ถือสาหรอกครับ มายไอดอลว่าอะไรผมก็ไม่โกรธหรอก

"เขาเรียกว่าร่างเริงเหอะพี่"
ผมเถียงกลับไปด้วยเสียงไม่จริงจังนัก ส่วนพี่จีบก็หยุดหัวเราะไปแล้วก่อนที่เขาจะเริ่มตั้งคำถามใหม่กับผม

"เห็นมึงใส่ชุดนักศึกษา มีเรียนตอนไหน?"

"อ๋อ ผมมีเรียนบ่ายครับ พี่ล่ะ?"

"บ่ายเหมือนกัน มึงไปมอยังไง?"
ผมมองหน้าพี่จีบก่อนจะใช้มือทำสัญลักษณ์เป็นการบิดแฮนด์มอร์เตอร์ไซต์ ผมขี่ Honda msx สีแดงครับ จริงๆอยากได้สปอร์ตไบค์คันโตนะ แต่พ่อให้งบมาแค่นี้

"อ๋อ งั้นกูติดรถไปด้วยดิ พอดีรถเสียว่ะ"
ผมแทบจะสำลักน้ำเปล่าอีกครั้งเมื่อพี่จีบขอร้องกันแบบนี้ ผมรีบวางแก้วน้ำเปล่าลงก่อนจะพยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มกว้างไปให้ โอกาสใกล้ชิดกับมายไอดอลมาหาเองแบบนี้ใครมันจะไปปฏิเสธลงกันเล่า

"ได้ครับพี่ แต่รถผมมันคันเล็กนะไม่รู้จะนั่งจุหรือเปล่า"

"มึงขี่รถอะไรวะ?"

"Honda msx ครับ"

"อ๋อ สบายๆกูเคยนั่งซ้อนเพื่อนมาแล้ว"
พี่จีบยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ก่อนจะจัดการถอดเสื้อกั๊กและผ้ากันเปื้อนออกแล้วหยิบเนคไทมหา'ลัยที่ตั้งอยู่แถวนั้นขึ้นมาใส่... แบบนี้ล่ะครับเด็กบริหารต้องดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า ต่างจากเด็กคณะผมที่ใส่แค่เสื้อนักศึกษากับกางเกงยีนส์ รองเท้าหนังนี่ได้แตะแค่ตอนปีหนึ่ง พอขึ้นปีสองดีสุดแค่ผ้าใบ สถุลสุดรองเท้าแตะแบบหนีบ ช้างดาวอะไรทำนองนั้น

"จะไปเลยเหรอพี่?"
ผมถาม เขาหันมามองแล้วพยักหน้ารับก่อนจะจัดเนคไทและเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

"เดี๋ยวไอ้ไลค์มาเฝ้าร้านแทน ออกไปเร็วจะได้ไปหาอะไรกินด้วย ไปสายแม่งโรงอาหารคนเยอะ"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวสูง แล้วล้วงมือควานหากระเป๋าตังค์

"พี่จีบ.. ค่ากาแฟเท่าไหร่ครับ?"
ผมเปิดกระเป๋าตังค์รอส่วนพี่จีบมองหน้าผมสลับกับแล้วกาแฟก่อนจะส่ายหน้าไปมาพร้อมกับโบกมือ

"ไม่ต้องๆ ถือว่ากูเลี้ยงเนื่องในโอกาสรู้จักกันอย่างเป็นทางการ"
พี่จีบเดินออกมาจากหลังเค้าน์เตอร์บาร์พร้อมกับกระเป๋าเป้สีดำยี่ห้อดัง และผมก็พบความจริงอีกข้อหนึ่งว่าพี่จีบสูงกว่าผมเกือบสิบเซนติเมตร ในขณะที่ตัวผมสูงหนึ่งร้อยเจ็บสิบเจ็ดเซนติเมตรเข้าไปแล้ว ผมมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าจนพี่จีบเลิกคิ้วมองมาทางผม แหะ เผลอใช้สายตาสำรวจเขาอีกแล้ว

"มองอะไรของมึงอีกเนี่ย?"

"พี่จีบสูงเท่าไหร่วะ?"

"กูสูงร้อยแปดสิบเจ็ด ถามไม?"

"ถึงว่า... ผมกลายเป็นคนแคระไปเลย"
ผมมองตัวเองบ้างแล้วมองพี่จีบอีกรอบ คนตรงหน้ากลั้นยิ้มก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้ผมกันซะอย่างนั้น ผมตกใจที่อยู่ก็โดนแตะตัวกันแบบนี้ เป็นปลื้มเลยว่ะ

"มึงก็สูงแล้วนะ คนแคระเชี่ยไรสูงขนาดนี้ แบบกูเขาไม่เรียกสูงแล้ว เขาเรียกยักษ์"
พี่จีบว่าก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วผละมือออกจากหัวผม... ตอนนี้ไอ้ความอยากโวยวายที่อีกคนมาทำหัวให้ยุ่งเหยิงกลับหายไปเพราะเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของเขาที่มีให้กัน

"ยักษ์หล่อ"
ผมพึมพำเบาๆก่อนจะก้มหน้าก้มตาควานหากุญแจรถในกระเป๋าเป้ พอเจอผมก็หยิบขึ้นมาแล้วควงมันด้วยนิ้วชี้เล่นแต่ต้องแปลกใจเมื่อฝ่ามือใหญ่แบมาด้านหน้าของผม

"หวงรถป่ะ ถ้าไม่หวงกูขี่ให้"
พี่จีบยักคิ้วทั้งสองข้างให้กับผม มุมปากมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่ ให้ตายเถอะครับถาผมเป็นผู้หญิงคงละลายลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว

"แน่ใจนะพี่ว่าจะขี่ ผมตัวหนักนะเว้ย"
ผมพูดกลบเกลื่อนความเขินของตัวเองเมื่อโดนสายตาคมจ้องมา ผมว่าผู้ชายก็คงอาจละลายได้เหมือนกันล่ะมั้ง

"ตัวก็บางแค่เนี่ยจะหนักแค่ไหนกันวะ เอากุญแจมา จะได้รีบไป"
พี่จีบกระดิกนิ้วเร่ง ผมเลยวางกุญแจรถลงบนมือเขาก่อนที่ผมจะเดินนำเขาไปที่รถมอร์เตอร์ไซต์ของตัวเอง

"คันนี้ครับ"
ผมตบมือลงบนเบาะแล้วหันไปยิ้มกว้างให้คนที่เดินตามกันมา พี่จีบพยักหน้ารับแล้วหยิบหมวกกันน็อคแบบเต็มใบส่งมาให้ผม

"มึงใส่ไว้ กูไม่ชอบใส่หมวกกันน็อค"

ผมพยักหน้าแล้วรับหมวกมาใส่ก่อนจะขึ้นซ้อนท้ายคนที่เตรียมรถรอกันอยู่แล้ว

"กอดเอวกูไว้ก็ได้นะถ้ามึงกลัว"
เสียงทุ้มดังขึ้นโดยที่ไม่ได้หันมามองกัน เขาสตาร์ทรถแต่ยังไม่ได้ออกตัว

"หา กลัวอะไรครับ?"
ผมเปิดกระจกหมวกกันน็อคออกแล้วถามไป คำตอบที่ผมอยากได้มันมาพร้อมการกระทำที่เหนือความคาดหมาย รถผมพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วจนผมต้องรีบคว้าเอวของพี่จีบไว้

"ไอ้พี่จีบ! ทำไมขี่รถเร็วแบบนี้วะ!!"
ผมตกใจจนลืมตัวสบถคำไม่ควรออกมา แต่ไอ้คนขับมันยิ้มออกมาหน้าระรื่น

"กูบอกมึงแล้วนะ!!"
เสียงทุ้มตะโกนแข่งกับลมที่เข้ามาปะทะหน้า ผมยิ่งกอดเอวพี่จีบแน่นขึ้น เพราะตัวเลขไมล์หน้าปัดรถพุ่งเอาๆ

"บอกตอนไหนวะ บอกแค่กลัวให้กอดเอว!"

"นั่นล่ะกูบอกแล้ว!"

"อ๊ากกก เบาๆหน่อยสิโว้ย ผมกลัวความเร็ว ฮือ!"
แล้วผมก็แหกปากโวยวายไปแบบนั้นโดยที่ไอ้คนขี้แกล้งมันไม่ได้ลดความเร็วลงเลยสักนิด จอดรถเมื่อไหร่พ่อจะด่าให้ลืมทางไปคณะเลย มายไอดอลก็มายไอดอลเถอะ!! ใครหาว่าผมมีความขัดแย้งในตัวผมก็ยอมรับนะ ผมชอบรถที่มีความเร็วสูงก็จริงแต่ไม่ได้ชอบความเร็วเว้ย มันไม่ปลอกภัย มันน่ากลัว!




------------------------------------------------------

ช่วยติชมกันด้วยน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2016 20:05:51 โดย Ch0cmint »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
จีบกับจูบเหรอ. น่ารักดีค่ะ ถ้าอ่านตอนเช้าต้องออก/ปสั่งกาแฟกินแน่นอน.

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 1 -



พี่จีบค่อยๆชะลอรถมอเตอร์ไซค์ลงเมื่อเข้าเขตคณะบริหารก่อนจะจอดเทียบฟุตบาทแล้วตะโกนเรียกผู้ชายสองคนที่กำลังเดินเลี้ยวเข้าคณะ พวกเขาหันมาแล้วโบกมือทักทายก่อนจะเดินกอดคอกันตรงมาที่พวกผม

"ทำไมวันนี้มามอ'ไซค์วะ แถมมีสก๊อยติดมาด้วย"
เสียงทุ้มๆหวานๆดังขึ้นผมรีบถอดหมวกกันน็อกออกทันทีด้วยความตกใจที่โดนหาว่าเป็นสก๊อย นี่ผมเป็นผู้ชายนะเว้ยแถมเป็นเจ้าของรถด้วยนะ ที่แน่ๆคือผมก็ใส่ชุดนักศึกษาผู้ชายเหมือนๆกับพวกเขา แต่เซอร์และซกมกกว่าเกือบสิบเท่า คนที่พูดเมื่อกี้ดูจะอึ้งๆไปเมื่อเห็นหน้าผม ส่วนอีกคนแค่มองมาเฉยๆ

"โห.. สก๊อยแม่งน่ารักว่ะ"
พี่มันยังพึมพำหาว่าผมเป็นสก๊อยไม่เลิกจนพี่จีบหัวเราะเอิ้กอ้ากเหมือนกับกำลังถูกใจ ให้ตายเถอะครับ มายไอดอลของผมเส้นตื้นหรือยังไงกัน ผมมุ่ยหน้าลงด้วยความขัดใจไม่ชอบให้ใครมาชมว่าน่ารักเลยเถอะ มันแปลกตรงไหนที่เป็นลูกคนจีน ผิวขาว ปากแดงวะเนี่ย

"พอๆหยุดล้อมันได้แล้ว พวกมึงรีบไปจองโต๊ะเลย เดี๋ยวกูเอารถไปจอดแล้วจะตามไป"
พี่จีบหยุดหัวเราะแล้วหันไปพูดกับเพื่อนต่อ ไอ้คนที่แซวผมก็พยักหน้ารับแต่ไม่วายยักคิ้วมาให้ผมก่อนจะเดินกอดคอกับเพื่อนอีกคนเดินออกไป

"อย่าไปถือสาไอ้คินมันนะ มันปากหมางี้ล่ะ"
พี่จีบหันใบหน้าด้านข้างมาเพื่อคุยกับผม แค่ด้านข้างก็หล่อขนาดนี้ ไม่แปลกที่ตลอดทางเข้ามหา'ลัยมาจะมีแต่คนมองมาที่พวกเรา

"พูดซะผมเสียเซลฟ์เลยว่ะพี่"
ผมยกมือขึ้นเกาแก้มแล้วทำหน้าเซ็งๆ พี่จีบมองผมนิ่งก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอีกรอบ แต่คราวนี้แค่เล็กน้อยเท่านั้นก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมให้ยุ่งยิ่งกว่าตอนถอดหมวก ผมเอียงตัวหลบนิดหน่อยเพราะไม่อยากให้ผมยุ่งมากไปกว่านี้อีกแล้ว

"ไม่ใช่อย่างที่มันพูดก็ไม่ต้องใส่ใจ เออ มึงจะรอกูตรงนี้หรือจะไปจอดรถด้วยกัน?"

"ไปด้วยๆ อย่าปล่อยผมให้เคว้งคว้างดิ"
ผมกอดหมวกกันน็อกไว้แน่นแล้วมองแผ่นหลังของเขา... คนอะไรน่าซบชะมัด

"เออๆ"
พี่จีบตอบผมกลับมาโดยไม่ได้หันมามองแล้วสตาร์ทรถพาผมไปยังที่จอดรถคณะบริหาร หลังจากนั้นพวกเราก็พากันเดินเข้าส่วนของโรงอาหารคณะ ซึ่งตอนนี้คนเริ่มพลุกพล่านและสายตาหลายคู่ก็จับจ้องมาที่เรา คนส่วนใหญ่คงมองอดีตเดือนคณะอย่างพี่จีบ แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่มองการแต่งตัวของผม... กางเกงยีนส์สีซีดขาดตรงหัวเขากับผ้าใบยี่ห้อดังสีดำแดง เรียบร้อยซะไม่มีอ่ะครับ

"เดินเร็วๆดิวะ จะทำตัวลีบทำไม?"
พี่จีบหยุดรอแล้วหันมามองผมที่เดินตามหลังเขาอยู่หลายก้าว ผมไม่ค่อยชอบสายตาที่มองมาเหมือนผมเป็นของแปลกแบบนั้น มันทำให้ผมเสียความมั่นใจเอาได้ง่ายๆ ผมส่งยิ้มแห้งไปให้แล้วรีบสาวเท้าเข้าไปหาอีกคน

"ไม่ค่อยชอบให้คนมองเลยพี่ ผมแต่งตัวประหลาดเหรอ?"
ผมมองตัวเองอีกครั้งแล้วเงยหน้าขอความคิดเห็นจากผู้ชายตรงหน้า เขามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยกมือหนาลูบคางตัวเองไปมาเหมือนใช้ความคิด พี่จีบมองอยู่แบบนั้นซ้ำๆจนผมเริ่มอายแล้วเหมือนกัน

"จะสนใจสายตาคนอื่นอะไรนักหนาวะคิส มั่นใจเข้าไว้มึง"
พี่จีบยิ้มกว้างก่อนจะวาดแขนมาคว้าคอผมไปกอด ผมเบิกตาขึ้นเพราะอยู่ๆพี่จีบเข้ามาใกล้กันขนาดนี้ รู้สึกว่าจังหวะหัวใจของตัวเองเริ่มถี่ขึ้นแปลกๆ

"อือ"
ผมตอบไปสั้นๆในขณะที่หน้าเริ่มเห่อร้อนเพราะอากาศ... แถไปอย่างนั้นล่ะครับ จริงๆแล้วเขินน่ะ เพราะเหมือนพี่เขาโอบผมไปทั้งตัวเพราะด้วยความสูงที่ต่างกันเยอะนี้ล่ะ

"แต่ต้องทำใจนะเว้ย อยู่กับกูก็โดนมองแบบนี้ล่ะ ตอนแรกๆกูก็อึดอัดนะ ตอนนี้ชินแล้วว่ะ"
เขาออกแรงดันให้ผมเดินไปพร้อมกัน ผมเงยหน้ามองเสี้ยวหน้านั่นก็จะแอบทำหน้าบูด เพราะเป็นคนหล่อ เพราะเป็นอดีตเดือนคณะสินะ... ทำไมผมต้องรู้สึกหงุดหงิดที่มีคนชอบพี่จีบเยอะด้วยว่ะ ทั้งๆที่ผมก็มีสถานะเดียวกับพวกแฟนคลับเขานั่นล่ะ

พวกเราเดินมาถึงโต๊ะที่พี่คิน.. เพิ่งรู้จักชื่อเมื่อกี้ จองเอาไว้ พี่เขามองผมกับพี่จีบด้วยสายตาล้อๆเพราะพี่จีบยังไม่ยอมปล่อยคอผม ส่วนพี่อีกคนก็ก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษรายงาน ให้ผมเดาก็คงเป็นการบ้านที่จะส่งในคาบบ่ายนี้แน่ๆ

"แหมๆ.. กอดคอกันมาเชียวนะไอ้จีบ"
สายตาล้อเลียนที่ส่งมาทำให้ผมต้องรีบขยับตัวออกจากแขนพี่จีบแล้วยืนสงบนิ่งอยู่ข้างๆแทน พี่จีบหันมามองกันก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วจับข้อมือผมกระตุกให้นั่งลงข้างๆกัน ผมหันขวับไปมองด้วยความตกใจแต่ก็ยอมนั่งลงข้างกันอย่างว่าง่าย

"กอดคอแล้วมันแปลกยังไงวะมึง?"
พี่จีบเลิกคิ้วมองพี่คินด้วยความไม่เข้าใจแล้วปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระ พี่คนที่นั่งข้างๆพี่คินเหลือบมองผมแว็บหนึ่งก่อนจะกลับไปสนใจงานตัวเองต่อ.. จากที่ผมคอยืดคอยาวแอบมองงานที่พี่เขาเขียนก็เจอกับตัวเลขอันหน้าปวดหัว เดาได้ว่าต้องเป็นวิชาบัญชีแน่ๆ

"ก็เปล้า แล้วมึงไม่คิดจะแนะนำหน่อยเหรอว่าเด็กที่มึงสอยมาเป็นใครมาจากไหน?"
สายตาอย่างรู้อย่างเห็นจ้องตรงมาที่ผมอย่างปิดไม่มิด ผมสบตาเขาก่อนจะเบนหน้าหนี ไอ้พี่คินเป็นคนหล่อนะ แต่ดูไปดูมาผมว่ามันสวยมากกว่าอีก ผิวขาวเนียนละเอียด ขาวกว่าพี่จีบด้วย แถมใบหน้าเรียวรูปไข่ จมูกโด่งอย่างกับสันเขื่อน ปากบางสีแดงระเรื่อ... ถ้าพี่เขาผมยาวผมคงคิดว่าเป็นผู้หญิงอย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่ะ

"สอยพ่อง เห็นกูเป็นคนยังไงเนี่ยห้ะ?"
พี่จีบด่าเพื่อนไปก่อนจะเหลือบมามองหน้าผม ผมส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร

"อาเสี่ยเลี้ยงอิหนู"
พี่คินลอยหน้าลอยตาตอบจนพี่จีบเอื้อมมือไปตบหน้าผากด้วยความหมั่นไส้ พี่คินยกมือขึ้นกุมหน้าผากตัวเองด้วยสีหน้าตกใจ พี่ที่นั่งข้างๆกันยังหลุดขำออกมาเบาๆ ไม่ต้องห่วงว่าพวกแฟนคลับที่มองอยู่จะไม่เห็นนะ พวกนั้นยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเหตุการณ์นั่นกันระนาวเลยล่ะครับ

"อย่าใส่ความกูไอ้คิน เดี๋ยวน้องเข้าใจกูผิดหมด"

"อะไรวะๆ มีกลัวน้องเขาเข้าใจผิดด้วย มีซัมติงกันป่ะเนี่ย"
พี่คินหรี่ตามองผมสลับกับพี่จีบ ผมส่ายหน้าพรืดทันที จะบ้าหรือยังไงกันหาว่าผมมีซัมติงกับพี่จีบเนี่ยนะ ชาติหน้าตอนบ่ายๆนู่นล่ะมั้งที่พี่จีบจะหันมาสนใจมีซัมติงด้วย

"มึงเลิกกวนตีนคนอื่นสักทีไอ้คิน"
พี่ที่นั่งเงียบมานานพูดขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นจากกระดาษรายงานผมเลยมีโอกาสได้พิจารณาใบหน้านั้นเต็มๆ.. สรุปได้คำเดียวว่าผู้ชายกลุ่มนี้เด็ดทุกคนครับ พี่คนนี้ใบหน้าคมเข้ม สีผิวไม่ขาวจัดมาก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนอย่างเห็นได้ชัด ปากหยักสวยได้รูป คิ้วเข้มจัด เอาง่ายๆคือหล่อแบบลูกครึ่งล่ะครับ

"กูไม่ได้กวนตีนเว้ยแก็ป กูแค่สงสัยอ่ะ สงสัย ยูโน้ว?"
ผมยอมรับอย่างไม่อายเลยว่าโคตรเกลียดคำว่ายูโน้วของพี่คินมาก ไม่รู้จะทำปากยื่นปากยาวด้วยทำไม มันดูกวนตีนขึ้นอีกเท่าตัวเลยนะ พี่แก็ป..ตามที่พี่คินเรียกส่ายหน้าเบาๆแล้วทำหน้าเอือมใส่ พี่คินยังคงลอยหน้าลอยตาไม่รู้สึกรู้สาเหมือนเดิม ถ้าผมเป็นพี่แก็ปผมคงตบพี่คินกบาลแยกไปแล้ว คนอะไรกวนตีนทั้งหน้าทั้งคำพูดขนาดนี้

"สงสัยหรือเสือกเอาดีๆ"
ผมแอบยกนิ้วโป้งให้พี่แก็ปใต้โต๊ะเลยครับ คำถามโคตรโดนใจบอกตามตรง แต่สีหน้าสะใจผมคงแสดงออกมากไปจนโดนคนที่นั่งข้างกันกระทุ้งศอกใส่แขนเบาๆแล้วโน้มตัวลงมากระซิบกระซาบใกล้ๆจนใจผมหวิว

"สะใจขนาดนั้นเลยเหรอวะ?"
เสียงติดทะเล้นถามขึ้น ผมรีบตีสีหน้าเรียบเฉยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทันที พี่จีบมองหน้าผมก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ

"ทำหน้าอะไรของมึงโคตรตลก"
พี่จีบขยับนั่งตัวตรงเหมือนเดิมแล้วจ้องหน้ากัน ผมแค่เบิกตาแข็งค้างไว้เท่านั้นเอง ตลกตรงไหนวะเนี่ย

"ไอ้แก็ปมึงนี่มันร้ายกาจ"
ก่อนที่ผมจะได้หาข้อแก้ตัวให้กับหน้าตาของตัวเองก็โดนเสียงของพี่คินหยุดไว้ก่อน ทั้งผมทั้งพี่จีบหันไปสนใจสองคนตรงหน้าแทน พี่คินมุ่ยหน้าลงเหมือนกำลังหงุดหงิด ส่วนพี่แก็ปยังคงทำหน้าตายเหมือนเดิมแต่ก็ยกปากกาในมือมาจิ้มแก้มคนข้างๆเล่น พี่คินจิ๊ปากแต่ก็ไม่ได้เบี่ยงหน้าหลบ

"อย่ามาง้องแง้ง อายน้องมันบ้าง"
พี่แก็ปเหลือบมามองผมแล้วยกยิ้มมุมปากส่งมาให้กัน ผมเพิ่งสังเกตว่าที่ข้อมือของเขาสักตัวอักษรเล็กๆเอาไว้ซะด้วย เท่ว่ะ

"ไม่พูดกับมึงละ น้องครับแนะนำตัวหน่อยสิ พี่อยากรู้จัก"
พี่คินหันหน้าหนีจากพี่แก็ปแล้วหันมายิ้มกว้างให้ผม พี่จีบพยักพเยิดหน้ามาเป็นสัญญาณให้ผมแนะนำตัวเองไปซะทีเรื่องจะได้จบๆ

"เอ่อ ผมชื่อคิสครับ เรียนศิล'กรรมปีสอง"
ผมพูดไม่เต็มเสียงนักเพราะพี่คินเอาแต่จ้องผมไม่วางตา จากที่ผมมองสบตาเขากลายเป็นว่าต้องหาจุดโฟกัสใหม่ ทั้งๆที่ปกติแล้วผมชอบสบตาคู่สนทนา

"ว้าวๆ เด็กศิลป์ซะด้วย ว่าแต่ชื่อคริสเหรอ หล่อเลยว่ะ"
เอาอีกแล้วครับ ใครๆก็หาว่าชื่อผมหล่อแล้วยังออกเสียงผิดอีก ผมชื่อคิสนะ ไม่ใช่ คริส

"หูตึงเหรอมึง น้องเขาชื่อคิส ไม่ใช่ คริส"
พี่จีบแก้ความเข้าใจผิดนั้นใหม่เพราะพี่เขาเคยพลาดมาแล้ว พี่คินเลิกคิ้วมองหน้าผมเป็นเชิงถามว่าตัวเขาเองผิดตรงไหน

"ผมชื่อคิส คิสที่แปลว่าจูบน่ะครับ"

"อ้อ... น้องจูบนี่เอง ว่าแต่ขอจูบหน่อยได้ป่ะครับ คึคึ"
พี่คินส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้กันจนผมแอบสะดุ้ง ตกลงตอนนี้พี่มันแกล้งผมหรือมันกำลังเอาจริงอยู่กันแน่วะเนี่ย ถึงพี่มันจะหล่อแต่ผมไม่ได้เป็นเกย์นะเฟ้ย

"ไอ้คิน มึงกำลังทำให้น้องเขากลัวมึงนะ"
พี่จีบพูดก่อนจะเอื้อมมือไปดีดหน้าผากพี่คิน รายนั้นมุ่ยหน้าลงเตรียมอ้าปากเถียงเต็มที่แต่ก็โดนพี่แก็ปขัดขึ้นมาซะก่อน

"ลุก"
คำสั้นๆจากพี่แก็ปทำให้พวกเราทั้งโต๊ะงง ผมกับพี่จีบหันมองหน้ากัน ส่วนคนที่โดนสั่งก็ทำหน้าเหรอหราไม่เข้าใจอะไร

"มึงน่ะลุกขึ้น ไอ้คิน"
พี่แก็ปดึงข้อมือพี่คินให้ลุกขึ้นตามตัวเอง พี่คินเลยลุกขึ้นด้วยความงง

"ไปไหนของมึง?"

"ซื้อข้าว"

"เห้ย เดี๋ยวดิ กูยังคุยกับน้องคิสไม่จบเลย"
พี่คินทำเสียงกระเง้ากระงอดแล้วมองมาทางพี่จีบอย่างขอความช่วยเหลือ พี่จีบทำเพียงยักไหล่ไม่ยอมให้ความร่วมมือใดๆทั้งสิ้น จนเป้าหมายต่อไปของพี่คินตกมาอยู่ที่ผม

"เอ่อ..."
ผมไม่รู้จะพูดยังไงดีเลยพูดได้แค่นั้นแล้วก็เงียบไป พี่คินยังคงส่งสัญญาณ SOS มาให้กันอยู่

"จะไปดีๆหรือให้กูถีบมึง"
เสียงพี่แก็ปเริ่มจริงจังขึ้น พี่คินแอบสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยังดื้อไม่ยอมเดินตามแรงลากของพี่แก็ปไปดีๆ

"ไอ้แก็ปป ไอ้คนขี้บังคับ ปล่อยกู ~"
พี่คินโวยวายไปตามทางเดินอย่างไม่อายใคร ส่วนพี่แก็ปก็ตีหน้านิ่งแล้วออกแรงลากที่คินเดินไปเรื่อยๆโดนไม่หันมาสนใจมองคนที่ทำหน้าบูดร้องโวยวายด้านหลังเลยสักนิด ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอแล้วยิ้มแหยออกมา หวังว่าพี่คินจะมีชีวิตรอดกลับมาพร้อมข้าวนะ

"พี่จีบ..."
ผมสะกิดคนข้างๆที่กำลังเอียงโทรศัพท์ไปทางซ้ายทีทางขวาที เดาได้ไม่ยากว่ามายไอดอลของผมกำลังเล่นเกมอยู่แน่ๆ แล้วมันก็จริงเมื่อลองตั้งใจฟังเสียงทีเล็ดลอดออกมาจะได้ยินเสียงเกมแข่งรถ

"มีไรมึง?"
เขาถามผมทั้งๆที่ตายังจ้องจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น นี่ผมไปกวนเขาเล่นเกมหรือเปล่า... ขอโทษ

"ไม่มีไรๆ ขอโทษที่กวน"
ผมบอกปัดพร้อมกับขอโทษพี่เขาออกไป แต่พี่จีบก็กดหยุดเกมแล้วหันมามองกัน ผมใจหายวาบคิดว่าพี่จีบต้องด่าแน่ๆเลยหลับตาลงแน่นพร้อมรับชะตากรรม

"อะไรของมึงเนี่ยคิส มีไรก็พูดดิ ไม่ได้กวนสักหน่อย กูแค่เล่นเกม"
มือหนาวางลงบนหัวผมก่อนจะออกแรงขยี้อย่างเมามัน พี่จีบแม่งเป็นอะไรกับหัวผมมากไหมเนี่ย เอะอะๆเป็นจับขยี้ทุกที หัวฟูเป็นรังนกแล้วเว้ย ยิ่งเป็นคนไม่ชอบหวีผมอยู่ด้วย

"แค่สงสัยว่าสองคนนั้นคงไม่ตีกันตายหรอกนะ"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้ม พี่จีบชะงักมือก่อนจะผละออกแล้วหัวเราะออกมา ผมเลิกคิ้วมองด้วยความงง อะไรของไอ้พี่จีบวะ วันนี้มันหัวเราะไปล้านรอบแล้วมั้งเนี่ย มีอะไรให้ตลกขนาดนั้น ผมก็ไม่ใช่ตลกคาเฟ่ด้วยดิ

"เรื่องธรรมดาของผัวเมีย มึงอย่าไปสนใจพวกมันมาก"
พี่จีบยิ้ม ส่วนผมใบ้แดกไปแล้วครับ อะไรนะ เรื่องธรรมดาของผัวเมียอย่างนั้นเหรอ แสดงว่าไอ้พี่สองคนนั่นมันเป็น...

"มึง... อ้าปากจนน้ำลายจะไหลออกมาแล้ว"
พี่จีบเอามือดันปากผมให้ประกบกันเหมือนเดิม ผมตกใจเลยถอยห่างจนเกือบตกเก้าอี้ ดีหน่อยที่พี่จีบมันมือไว้คว้าแขนผมไว้ได้ทัน

"มึงมันเซ่อซ่าขนาดนี้เลยเหรอวะ?"
พี่จีบมองแล้วยิ้มขำๆก่อนจะปล่อยมือออกเมื่อผมทรงตัวเลย ผมก้มหน้างุดเพราะอายความเปิ่นของตัวเองที่หลุดออกมาไม่หยุด

"เปล่าซะหน่อย แค่ตกใจ"

"กูพูดเล่นเว้ย มึงก็เชื่อไปได้"
พี่จีบส่ายหน้าไปมาแล้วผลักหัวผมเบาๆ พี่ผมว่าพี่คินกวนตีนคงไม่ท่าพี่จีบว่ะ กวนตีนแบบหน้าตายซะด้วย โอย มายไอดอลเชี่ยไรวะเนี่ย เลิกชอบตอนนี้ทันไหมครับ

"พี่แม่งหลอกผม"
ผมย่นจมูกใส่ก่อนจะโดนพี่จีบมองด้วยสายตากรุ้มกริ่มแปลกๆ ผมเริ่มอยู่ไม่สุขอีกครั้งแล้วขยับตัวห่างพี่จีบออกมา ภาวนาให้พวกพี่คินกับพี่แก็ปกลับมาเร็วๆ โดนพี่จีบแกล้งแล้วเหนื่อยเถอะ หัวใจเต้นอย่างกับจะหลุดออกมานอกอก

"เชื่อคนง่ายแบบนี้ หลอกให้รักซะดีไหมวะ?"
พี่จีบพูดเสียงทะเล้นก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้กัน ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนวูบขึ้นมาซะอย่างนั้น พี่มันจะรู้ตัวบางไหมว่าแกล้งคนอื่นแบบนี้มันไม่สนุกนะเว้ย เผลอคิดจริงขึ้นมาจะให้ทำยังไง

"พี่แม่งแกล้งผมอีกแล้วนะ"
ผมทำหน้าบูดใส่ทั้งๆที่ในใจกรีดร้องแทบบ้า อย่ามาชักชวนให้เป็นเกย์ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นดิวะ ไม่ขำนะเว้ยไอ้พี่จีบบ้า

"ฮ่าๆ ก็แกล้งมึงสนุกอ่ะ โอ๋ๆไม่งอนพี่นะครับน้องคิส"
ท้ายประโยคทำให้หัวใจของผมกระตุกวูบ ยิ่งมือหนาเอื้อมมาจิ้มแก้มง้อกันแบบนี้ ผมอยากจะงับหัวพี่จีบแล้วสะบัดๆให้คอหลุดจากบ่าฉิบหายเลย ฮือ กำลังทำอะไรอยู่รู้ตัวบ้างไหมวะ กำลังจะฆ่าผมทั้งเป็นแล้วนะเว้ย

"พอเลยพี่ ผมไม่ได้งอนซะหน่อย"
ผมว่าก่อนขยับตัวหนีเป็นจังหวะเดียวกับพี่พี่คิสและพี่แก็ปกลับมา สายตาล้อเลียนถูกส่งมาให้กันอีกระลอก... ไม่ต้องเหนื่อยหาคำตอบให้ยาก พี่คินมันมาทันเห็นพี่จีบง้อผมแน่ๆ

"แหม.. พวกกูหายไปซื้อข้าวกันแป็ปเดียว หาเรื่องสวีทกันกลางโรงอาหารเลยเหรอเนี่ย"
พี่คินยักคิ้วให้ผมก่อนจะวางจานข้าวแล้วนั่งลง จานหนึ่งเลื่อนมาให้ผมอีกจานเป็นของเขาเอง ส่วนพี่แก็ปถือมาจานเดียว





มีต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2016 09:39:08 โดย Ch0cmint »

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
ต่อ



"เสือกจริงๆ แล้วไหนข้าวกูอ่ะ ซื้อมาฝากแต่ไอ้คิส"
ว่าแล้วก็พาลมาเหล่ตามองผม พี่คินยักไหล่ให้แล้วพูดออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ

"เดี๋ยวก็มีสาวเอาของกินมาให้มึง จะเสียตังค์ซื้อแดกทำไม ส่วนข้าวน้องคิสเนี่ยกูเลี้ยงเนื่องในโอกาสได้รู้จักกัน"
พี่เขาหันมาขยิบตาให้ ผมรีบยกมือไหว้ขอบคุณแถมด้วยรอยยิ้มหวานๆอย่างเอาใจ วันนี้โคตรโชคดีครับมีคนเลี้ยงกาแฟแล้วยังมีคนเลี้ยงข้าวอีก พี่จีบเบ้ปากใส่ผมก่อนจะสบถด่าเพื่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย

"ไอ้เชี่ย มึงไม่รู้หรือไงว่ากูเบื่อของกินจากคนพวกนั้นแค่ไหน มีแต่ของหวานๆเลี่ยนๆ กูยังไม่อยากเป็นเบาหวานตาย"
พี่จีบทำหน้ายุ่งเหมือนเขาจะไม่ชอบของพวกนั้นจริงๆ ผมพอจะเดาได้ว่าสาวๆพวกนั้นคงหอบพวกขนมหวานๆมาให้แน่ๆ ไม่มีใครหอบอาหารหรือของคาวมาให้หรอก ที่ผมรู้เพราะเพื่อนผมที่เป็นเดือนมหา'ลัยปีที่แล้วก็โดนแบบนี้บ่อยๆเหมือนกัน

"มึงก็อย่าพูดแบบนี้ดิวะ เดี๋ยวคนให้เขาได้ยินจะเสียใจนะเว้ย"
พี่คินพูดออกมาขำๆก่อนจะตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยเหมือนกำลังยั่วคนตรงหน้า พี่จีบจิ๊ปากด้วยความขัดใจ

"มึงอย่ามาพูด มึงก็บ่นเหมือนกันเหอะตอนหนุ่มๆเอาของแบบนั้นมาให้"
พี่จีบพูดก่อนจะยกยิ้มมุมปากแบบคนที่อยู่เหนือกว่า พี่คินชะงักช้อนกลางอากาศแล้วถลึงตาใส่พี่จีบทันที ส่วนพี่แก็ปเหลือบมองพี่คินนิดหน่อยก่อนจะกลับไปสนใจจานข้าวของตัวเองต่อ... ผมชักจะทะแม่งๆว่าพี่แก็ปกับพี่คินมีซัมติงกันแน่ๆ

"มึงหยุดพูดเลยไอ้จีบ อัปยศอดสูที่สุดในชีวิต"
พี่คินทำหน้าเซ็งก่อนจะยัดข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวแรงๆเหมือนหงุดหงิด ก็ไม่น่าแปลกที่จะมีหนุ่มๆเข้าหาพี่เขา ก็ดันหน้าหวานซะขนาดนั้น ถ้าไม่ติดว่าพี่เขาปากหมาไปหน่อยผมคงจะชมพี่เขาจากใจจริงแบบตรงๆไปแล้ว

"เกิดมาสวยเอง ช่วยไม่ได้นะน้องคิน"
พี่จีบว่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มพี่คินอย่างหยอกล้อ พี่แก็ปมองตาขวางทันทีจนพี่จีบปล่อยมือแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทันที เหมือนพี่จีบกับพี่แก็ปจะมีความลับต่อกันโดยที่พี่คินไม่รู้แหงๆ

"หุบปากๆๆๆ ก่อนที่กูจะหาเรื่องให้มึงโดนผู้หญิงรุมทึ้ง!!"
พี่คินชี้หน้าขู่พี่จีบจนมือสั่นปากสั่นไปหมด ดูท่าทางเขาจะไม่ชอบจริงจัง แต่เมื่อกี้ยังขอจูบผมน่าด้านๆอยู่เลย มีความขัดแย้งในตัวเองสูงนะเนี่ย

"โอ๋ๆ กูขอโทษคร้าบ"
พี่จีบก้มหัวบอโทษเพื่อนด้วยท่าทางกวนตีน แต่พี่คินก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังยอมสงบปากสงบคำกลับไปกินข้าวต่อด้วย ผมที่มัวแต่มองฟังพวกพี่เขาคุยกันเพลินเลยยังไม่ได้แตะต้องข้าวตัวเองเลยสักนิดเดียว จนพี่จีบสะกิดนั่นล่ะถึงได้รู้ตัว

"ขยับจานมานี่"
พี่จีบบอกก่อนจะมองมาที่จานข้าว ผมเลิกคิ้วก่อนจะตั้งคำถาม

"พี่จีบจะกินเหรอ เดี๋ยวผมเดินไปซื้อใหม่ก็ได้"
ผมเลื่อนจานข้าวไปตรงหน้าเขา แต่มือของร่างสูงก็ดันมันกลับให้อยู่ระหว่างกลางของเราแถมยังแย่งจับส้อมเอาไว้แทนที่จะเป็นช้อนอีกด้วย

"ไม่ต้องซื้อใหม่ กินด้วยกันนี่ล่ะ"
เขาพูดจบก็ใช้ส้อมตักข้าวใส่ปาก มันดูทุลักทุเลยังไงก็ไม่รู้ เพราะตักขึ้นมาข้าวมันก็ลอดช่องร่วงลงในจานไปเกือบครึ่ง

"พี่เอาช้อนไปใช้ดิ กินด้วยส้อมมันลำบากนะเว้ย แล้วเรื่องข้าวผมไปซื้อใหม่ดีกว่า กินด้วยกันไม่อิ่มหรอก"
ผมหยิบช้อนแล้วยัดใส่มือพี่จีบ แต่เขาไม่รับแล้วดันช้อนใส่มือผมก่อนจะมองกันดุๆ

"กินไปเลยมึง ถ้ายังพูดมากเดี๋ยวกูจะจับยัดปาก"
ผมรีบจับช้อนตักข้าวใส่ปากทันที ตอนที่คนร่าเริงดุนี่น่ากลัวฉิบหายเลยว่ะ พี่จีบมองผมแล้วยิ้มอย่างพอใจก่อนจะกลับไปพยายามตักข้าวด้วยส้อมต่อ เห็นแล้วลำบากแทนว่ะ จริงๆให้ผมป้อนก็ได้นะ -//- แหะๆ

"พี่จีบคะ"
เสียงหวานๆที่ดังขึ้นข้างโต๊ะทำให้พวกผมชะงักมือค้างกลางอากาศ พี่จีบเป็นคนแรกที่วางอาวุธลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือน ผมที่ยังคงงับช้อนคาปากอยู่เงยมองขึ้นบ้างแล้วก็พบเข้ากับสาวน้อยน่ารักที่มีดีกรีเป็นดาวแพทย์ปีนี้ ในมือของเธอมีถุงขนมจากร้านเค้กชื่อดัง ด้านในบรรจุเค้กสีสันสดใสเอาไว้พร้อมกับกระดาษโพสต์อิทลายน่ารัก นี่ผมไม่ได้สอดรู้สอดเห็นเลยนะครับ สายตามันเหลือบไปเห็นเองต่างหาก

"ครับผม"
พี่จีบตอบรับด้วยน้ำเสียงสดใสแล้วส่งยิ้มเป็นมิตรไปให้ เธอหน้าแดงก่ำก่อนจะยืนบิดไปมาด้วยความเขินอาย รอยยิ้มของพี่จีบสามารถฆ่าคนได้เสมอ ผมเชื่อแบบนั้น

"เอ่อคือ... ลาเต้เอาขนมมาฝากน่ะค่ะ"
เธอยื่นถุงเค้กมาตรงหน้าพี่จีบ ดวงตากลมโตภายใต้กรอบแว่นหลุบต่ำลงไม่กล้ามองอาจจะเพราะกำลังเขินอาย ถึงลาเต้จะใส่แว่นแต่ความสวยแม่งทะลุออกมาเลยว่ะ แถมชื่อเล่นยังโคตรจะเข้าทางพี่จีบที่เป็นบาริสต้าอีกด้วย

"ขอบคุณนะครับลาเต้"
พี่จีบรับถุงขนมมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณเธอด้วยเสียงอ่อนโยน ลาเต้ยิ่งบิดหนักขึ้นมากกว่าเดิมจนผมกลัวว่าเธอตัวจะเป็นเกลียวไปซะก่อน

"อย่าลืมอ่านโพสต์อิทด้วยนะคะ!"
แล้วเธอก็วิ่งหนีออกไปทันที ปล่อยให้พวกผมมองตามไปอย่างอึ้งๆ เหลือแต่พี่แก็ปนี่ล่ะที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับอาหารของตัวเอง

"มีคนมาส่งเสบียงอีกละ คราวนี้ดาวแพทย์เลยนะเว้ย"
พี่คินยิ้มกรุ้มกริ่มส่งมาให้พี่จีบที่ทำหน้าเฉยเมย เขาวางถุงเค้กลงอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่

"ดาวแพทย์แล้วยังไงวะ กูไม่ชอบเขานี่"
พี่จีบว่าก่อนจะยักไหล่แบบไม่ใส่ใจก่อนจะกลับไปหยิบส้อมแล้วตั้งใจตักข้าวกินอีกรอบ พี่คินมองมาพร้อมเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้

"ไอ้จีบ.. แบบไหนๆมึงก็บอกว่าไม่ชอบทั้งนั้นอ่ะ มึงจะเอายังไงกันแน่"
พี่จีบชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพี่คิน ผมแสร้งทำเป็นไม่รับรู้แล้วตักข้าวเข้าปากเลียนแบบพี่แก็ปไปเรื่อยๆ

"มึงเคยได้ยินป่ะว่าคนที่ใช่ไม่ต้องพยายาม ถ้ากูจะชอบกูก็ชอบเขาเองล่ะ ไม่ต้องมาพยายามทำให้กูชอบหรอก"
พี่จีบพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจังจนพี่คินยกมือขึ้นยอมแพ้แล้วกลับไปกินข้าวของตัวเองต่อ ผมมองใบหน้าด้านข้างของเขาก่อนจะแอบลอบยิ้ม คนที่พี่จีบชอบคงโชคดีไม่น้อย ผมจะรอดูว่าผู้โชคดีคนนั้นจะเป็นใคร คนๆนั้นคงต้องเป็นคนที่วิเศษมากแน่ๆ แฟนคลับพี่จีบคงอิจฉาเธอคนนั้นชัวร์ๆ

"มึงชอบกินเค้กป่ะ?"
อยู่ๆพี่จีบก็ถามขึ้นมา ผมพยักหนาอย่างแข็งขันเพราะชอบกินขนมมากกว่ากินข้าวซะอีก พี่จีบยิ้มน้อยๆก่อนจะเลื่อนถุงขนมของน้องดาวแพทย์มาให้กัน

"หือ จะให้ผมกินเหรอ?"
ผมถามแล้วชี้มือเข้าหาตัวเอง พี่จีบพยักหน้าเบาๆ

"ใช่ เอาไปกินแทนกูหน่อย"
ผมมองเค้กสลับกับพี่จีบ.. ทำแบบนี้ถ้าคนที่เขาให้รู้ขึ้นมาคงเสียใจแย่เลย

"แต่ว่า..."
ผมว่าเสียงอ่อย มันเสียใจจริงๆนะเวลาที่เอาของไปให้ใครแล้วมารู้ที่หลังว่าคนรับไม่สนใจมันน่ะ ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดีเพราผมเคยผ่านมันมาก่อน

"ดีกว่ากูเอาไปทิ้ง"

"อื้อ งั้นผมกินนะ"
ผมตอบรับก่อนจะส่งยิ้มไปให้ พี่จีบพยักหน้าเบาๆเพื่ออนุญาตอีกครั้งหนึ่ง

"กับเพื่อนไม่คิดจะให้บ้างเลยนะ"
เสียงพี่คินจิกกัดพี่จีบอีกตามเคย ถามจริงเหอะ พ่อแม่พี่เป็นนกป่ะวะเนี่ย

"เดี๋ยวไอ้จุนก็เสนอหน้าเอาขนมมาให้มึง"
คำพูดของพี่จีบทำให้พี่คินแยกเขี้ยวใส่ทันที ส่วนพี่แก็ปวางช้อนลงกับจานเสียงดังจนผมแอบสะดุ้ง ชัวร์แล้วล่ะครับว่าพี่แก็ปแอบชอบพี่คินแน่ๆ

"มึงอย่าไปพูดถึงมันสิวะ เดี๋ยวแม่งก็โผล่มา"
พี่คินเบ้ปากก่อนจะลูบแขนตัวเองไปมา สงสัยว่าไอ้จุนอะไรเนี่ยคงเป็นคนน่ารำคาญพอตัว

"แดกข้าวให้หมดสักทีเหอะ"
พี่แก็ปหันมาดุพี่คินที่เอาแต่คุย พี่คินถลึงตาใส่แต่ก็ยอมตักข้าวใส่ปากกินไปเรื่อยจนหมด ส่วนผมกับพี่จีบก็จัดการอาหารตรงหน้าจนหมดแล้วเช่นเดียวกัน และเชื่อว่าไอ้พี่จีบยังไม่อิ่มแน่ๆ

ผมล้วงนาฬิกาออกมาดูเวลาก่อนจะพบว่าไอ้เพื่อนตัวดีมันกระหน่ำส่งไลน์มาเกือบยี่สิบข้อความ ผมเลื่อนมือสไลด์หน้าจอเพื่อปลดล็อกแล้วกดเข้าโปรแกรมสีเขียวไล่อ่านข้อความทั้งหมดพร้อมกับอ้าปากหวอ จับใจความได้คร่าวๆว่า มึงไปทำอะไรคณะบริการ ทำไม่มีรูปมึงในเพจคนดังมหา'ลัย ทำไมรูปแม่งดูสวีทกับพี่จีบขนาดนั้น มึงไปสนิทกับพี่จีบตอนไหนและอีกมากมายนับไม่ถ้วน... ผมจะตอบอันไหนก่อนดีวะ

"เป็นไรวะคิส คิ้วผูกโบว์เชียว"
พี่จีบทักขึ้นก่อนจะยกขวดน้ำขึ้นดื่ม ผมลังเลว่าจะบอกเรื่องที่มีรูปคู่ของเราลงเพจคนดังหรือเปล่า สุดท้ายเลยตัดสินใจไม่บอกอะไรดีกว่า

"เพื่อนไลน์มาถามเรื่องการบ้านครับ"
ผมแถออกไปด้วยเรื่องเรียบง่ายที่สุด เอาตัวรอดไว้ก่อนเป็นยอดดี พี่จีบพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พี่คินกับพี่แก็ปก็เช่นกัน จานข้าวตรงหน้าโดนพี่จีบแย่งไปถือไว้ ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบถุงเค้กแล้วแบมือไปขอจานข้าวจากพี่จีบ แต่เขาเลิกคิ้วมองแล้วขยับจานหนีผม

"กูเอาไปเก็บเอง"

"แต่ว่าผมเป็นน้อง ผมควรเอาไปเก็บดิ"
ผมพูดตามที่ผมคิด ให้รุ่นพี่เอาไปเก็บมันดูน่าเกลียดป่ะวะ ทั้งๆที่ก่อนกน้านี้ก็ใช้จานกินข้าวร่วมกัน พี่จีบหลุดขำออกมาแล้วยกมือข้างที่ว่างมากอดไหล่ผมเอาไว้ บางทีผมก็อยากบอกพี่จีบว่าแคร์สายตาแฟนคลับบ้างเถอะครับ ถ้าไม่อย่างนั้นก็แคร์ผมหน่อยก่อนที่ผมจะโดนแฟนคลับพี่รุมกระทืบ

"เป็นเด็กดีจริงๆเลยนะมึงเนี่ย"
พี่จีบว่าก่อนจะพาผมเดินออกไปจากตรงนั้น ผมทันเห็นสายตาแฟนคลับบางคนของพี่จีบที่ส่งสายตาไม่พอใจมาให้กันจนแอบเสียวสันหลังวาบ เรื่องที่ผมอยากบอกเขาอีกอย่างก็คือจริงๆแล้วผมไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลย แต่อยากเป็นคนดีของพี่จีบแค่นั้นเอง... เพ้อเจ้อไปเรื่อยอย่าสนใจผมเลยครับ

พวกเราเดินออกจากโรงอาหารก่อนจะมาทิ้งตัวนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนตรงลานหน้าคณะ เหลือเวลาอีกเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงเวลาเรียนของพวกเรา

"น้องคิสเรียนศิล'กรรมสาขาอะไร?"
พี่คินถามผมขึ้นมาเพราะไม่รู้ว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี ซึ่งผมก็เต็มใจที่จะตอบเนื่องจากมันไม่ได้ลำบากอะไร

"คอมพิวเตอร์กราฟิกครับผม"
ผมยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ... อย่าเพิ่งคิดว่าผมเป็นโอตาคุนะเว้ย ผมแค่ชอบเล่นเกม ชอบการ์ตูนก็แค่นั้น ไม่ได้ถึงขนาดคลั่งไคล้

"เจ๋งว่ะๆ"
แล้วหลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปเรียนโดยพี่จีบเดินไปส่งผมที่จอดรถแล้วตอนเลิกเรียนผมจะมารับพี่จีบที่หน้าคณะ จริงๆพี่เขาจะกลับเองนั่นล่ะแต่ผมไม่ยอมแล้วอ้างว่ายังไงๆผมกลับหอก็ต้องผ่านร้านกาแฟอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปเบียดเสียดขึ้นรถเมล์กับคนอื่นเขาหรอก พี่จีบก็ได้แต่พยักหน้ารับแล้วบอกให้ผมตั้งใจเรียน เอาจริงๆผมไม่เคยมีกำลังใจในการเรียนมากเท่านี้มาก่อนเลยว่ะ โอย อยากเรียนแล้วเนี่ย วันนี้คงเป็นวันที่ผมตั้งใจเรียนวันแรกในชีวิตเลยล่ะ



--------------------------------------------------------

ตอนที่ 1 มาแล้ว ~ เพื่อนๆจีบนี่ไม่ค่อยมีคนปกติหรอก... คนหนึ่งบ้า คนหนึ่งเงียบ
เจ้าตัวเองก็เส้นตื้นไปอีก มาช่วยให้กำลังใจคิสในการเป็นแฟนคลับ(ที่ใกล้ชิด) ของจีบกันเถอะ 555555555 อ่านให้สนุกน้า



ปล. เรื่องนี้จะสอดแทรกความรู้เรื่องกาแฟ การชงกาแฟลงไปด้วยน้า ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยฮับผม ♥

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อิพี่นี่ก็เนียนอ่อยน้องแบบไม่รู้ตัวเลยน้า :hao3:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่จีบกับน้องจูบ


 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
คิสน่ารักอ่ะ พี่จีบนี่อ่อยน้องแบบเนียนๆป่ะเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
ชื่อเฟี้ยวฟ้าวกันมาก น่ารักน่าเอ็นดูมากเลยค่ะ อ่านเพลินเลย ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แอบเห็นความอ่อยของพี่จีบยังไงไม่รู้สิ

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 2 -




ผมรีบวิ่งเข้าห้องเรียนทันทีเพราะตอนนี้นาฬิกาข้อมือบ่งบอกว่าถึงเวลาเรียนแล้ว เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเพื่อนร่วมเซคเป็นตัวช่วยให้ผมมั่นใจว่าอาจารย์ยังไม่เริ่มสอน ผมรีบมองหาเพื่อนสนิทก่อนจะเจอมันโบกมือมาให้ด้วยสีหน้ายุ่งๆ เพราะปกติผมมาก่อนเวลาเรียนเสมอ สองขารีบก้าวเข้าไปแล้วหย่อนตัวลงนั่งตรงกลางระหว่างไอ้ภีมอดีตเดือนมหา'ลัยปีที่แล้ว และ ไอ้ออยสาวสวยประจำกลุ่ม ผมยังไม่ทันได้หายใจหายคอออยก็สาดคำถามใส่ผมทันที

"มึงตอบคำถามกูมาเดี๋ยวนี้เลย เอาให้ละเอียด!"
ออยกระซิบเสียงลอดไรฟันจนผมขนลุกซู่ เวลามันจะโหดมันก็โหดแบบไม่ลืมหูลืมตา มีครั้งหนึ่งผมบ่ายเบี่ยงจะตอบเรื่องอะไรมันสักอย่างนี่ล่ะ มันโมโหจนถีบผมกระเด็น ตั้งแต่นั้นมาผมไม่กล้าจะหือกับมันอีกเลย แต่ครั้งนี้ผมขอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนนะครับ

"คำถามอะไรวะ?"
ผมแสร้งทำหน้าซื่อตาใสเอียงคอมองแล้วกระพริบตาปริบๆ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันอยากรู้เรื่องพี่จีบ แต่จะให้ผมบอกเพื่อนได้ยังไงว่าผมไปร้านกาแฟทุกวันจนพี่จีบจำหน้าได้ คุยกันแบบล่องลอยมาเกือบเดือนแต่ไม่รู้จักกันเลยถามชื่อ พี่จีบรถเสีย เลยต้องอาศัยมากับผม แบบนี้น่ะเหรอ? เพื่อนแม่งได้แซวกันจนลูกบวชอ่ะครับ

"ไอ้จูบ มึงอย่ามาซึน กูรู้ว่ามึงอ่านไลน์แล้ว"
ไอ้ออยผลักหัวผมอย่างแรงก่อนมันจะถลึงตาใส่กัน ผมยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองก่อนจะหันไปฟ้องไอ้ภีม

"ภีมมม มึงดูไอ้ออยดิ เป็นผู้หญิงประสาอะไรวะทำร้ายร่างกายกูเนี่ย"
ผมเบะปากก่อนจะมองตาขวางไปที่ออย มันไม่ได้สำนึกอะไรเลยด้วยซ้ำ แถมยังชี้หน้าคาดโทษผมอีก ไอ้ภีมส่ายหน้าเบาๆก่อนจะวางมือลงบนหัวผมแล้วขยี้ไปมา

"ออย..มึงก็อย่าไปตบหัวมันมาก เดี๋ยวจะเอ๋อหนักกว่าเดิม"
ไอ้ภีมหลุดหัวเราะออกมาเบาๆจนผมหันขวับไปมองหน้ามันแล้วสะบัดหัวออก ตกลงมันจะเข้าข้างไอ้ออยใช่ไหม ได้ๆ เดี๋ยวกูจะยุให้ไอ้พี่ดีพมันมีกิ๊กแม่งเลย

"มึงเข้าข้างไอ้ออยใช่ป่ะ? เดี๋ยวกูจะยุให้พี่ดีพมีกิ๊ก!"
ผมยักคิ้วกวนส่งให้ ก่อนที่มันจะหันมาแยกเขี้ยวใส่กัน มุกนี้ผ่านเสมอเมื่อมันแกล้งผมหรือทำร้ายร่างกายผม ไอ้ภีมหวงพี่ดีพยิ่งกว่าอะไรดี

"ถ้าไอ้เชี่ยดีพมีกิ๊กกูจะตามไปยิงแม่งให้สมองกระจุย"
ผมกับไอ้ออยสะดุ้งกับสีหน้าและคำพูดของไอ้ภีม... ไม่เคยรู้ว่าก่อนว่าเพื่อนตัวเองหึงโหดขนาดนี้ พี่ชายผมกับไอ้ภีมเป็นแฟนกัน.. แต่ไม่มีใครยอมเป็นฝ่ายรับเพราะแมนๆเตะบอลทั้งคู่ แถมยังเป็นอดีตเดือนมหา'ลัยทั้งคู่ด้วย ไม่รู้มันไปชอบกันตอนไหน โคตรตกข่าว รู้อีกทีมันก็คบกันไปได้สองสามเดือนแล้ว

"โอย พี่สะใภ้กูโหดแท้"
ผมทำหน้าหวาดกลัวใส่มันพร้อมทั้งยกมือขึ้นปิดปากนั่นทำให้ผมโดนไอ้ภีมเขกกบาลมาอีกหนึ่งครั้ง เสียงไอ้ออยหัวเราะลั่นจนผมต้องหันไปมองมันตาขวาง ออยหุบปากทันทีแต่หน้ายังสั่นเพราะกลั้นขำเอาไว้

"ถ้ามึงเรียกกูว่าพี่สะใภ้อีกที กูถีบมึงตกเก้าอี้แน่"
ผมพยักหน้ารับเพราะกลัวตาย มันสูงพอๆกับพี่จีบแถมเป็นนักกีฬาบาสฯอีกด้วย ไม่ค่อยอยากเสี่ยงเท่าไหร่

"อืม แล้วตกลงมึงกับพี่จีบทำไมไปกินข้าวด้วยกันได้"
กลายเป็นไอ้ภีมตั้งคำถามขึ้นแทน ส่วนไอ้ออยก็เงี่ยหูฟังแบบเสนอหน้าให้รู้กันชัดๆไม่มีปิดบัง ผมกรอกตาเลิ่กลั่กไม่รู้จะบอกเพื่อนยังไงดี พวกมันไม่เคยรู้ว่าผมติดใจพี่จีบตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน

"เอ่อ... เห้ย 'จารย์เข้าแล้วๆ"
สายตาผมเหลือบไปเห็นประตูกระจกบานเลื่อนของห้องปฏิบัติการเปิดออกพร้อมกับร่างของอาจารย์หนุ่มหล่อเดินเข้ามา การเอาตัวรอดของผมสำเร็จผล เพราะหลังจากนั้นไอ้ออยก็ตั้งใจเรียนไปเพราะมันแอบชอบอาจารย์คนนี้ ส่วนไอ้ภีมมันก็เป็นพวกไม่ชอบเซ้าซี้ใครอยู่แล้วด้วย ผมก็เลยนั่งเรียนอย่างสบายใจไปทั้งคาบ

หลังเลิกเรียนพวกเราก็เดินลงมาที่ลานคณะ ผมมีภารกิจต้องไปรับพี่จีบที่คณะบริหารแต่ก็ไม่ได้บอกใครไว้ ถ้ามันจะชวนกันไปไหนต่อความซวยจะตกลงมาที่ผมอีกครั้งแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆเพราะไอ้ออยอ้าปากชวนไปกินข้าว... ร้อยวันพันปีเลิกเรียนเย็นก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน วันนี้เป็นเชี่ยอะไรครับคุณเพื่อนกระแดะอยากกินข้าวเย็นบนห้างเนี่ย

"มึงว่างป่ะภีม ไอ้จูบด้วย"
เสียงหวานๆของออยดังขึ้น ใบหน้าสวยของมันประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้าง เดาได้ไม่ยากว่าต้องมีอะไรใหม่ๆที่มันอยากกินแน่ๆเลยชวนกันกะทันหันแบบนี้

"กูชื่อคิส ไม่ได้ชื่อจูบ"
ผมแย้งมันออกไปก่อนจะหาวิธีเลี่ยงไม่ไปกินข้าวกับมัน แต่ถ้าผมบอกว่าไม่ว่าง คำถามต่อไปต้องถามว่า มึงมีธุระอะไรเป็นแน่ เอาไงดีวะ จะโทรไปหาพี่จีบก็ไม่ได้ซะด้วยไม่มีเบอร์ เกิดเป็นไอ้คิสแท้จริงแสนลำบาก เลือกทางไหนก็ตายทุกทาง

"เออน่า ตกลงว่างป่ะ?"
ออยถามย้ำอีกครั้ง ภีมพยักหน้ารับเพราะมันไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว ไอ้พี่ดีพก็ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นด้วย ผมขมวดคิ้วเพราะยังคิดไม่ตก ไม่ชอบอะไรที่ต้องเลือกเลยว่ะ ลำบากใจ

"เหลือมึงละคิส ทำไมคิดนานจังวะ?"

"คือกู.. ไปด้วยก็ได้ แต่ขอไปทำธุระแป็ปนึงได้ป่ะ?"
สุดท้ายผมก็เลือกที่จะไปกับเพื่อนแล้วไปขอโทษพี่จีบที่คณะ ไอ้ออยหรี่ตาผมอย่างมีเลศนัยแล้วเข้ามากระแซะไหล่กันหน้าตาเฉย

"เกี่ยวกับเรื่องที่พี่จีบมาม'หาลัยกับมึงป่ะ?"
มันกระซิบกระซาบก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ผมเลิกคิ้วขึ้นเบิกตาโตทำหน้าใสซื่อแบบสุดขีด อย่ามารู้ทันกูครับ กูเอาตัวรอดไม่ได้!

"เพ้อเจ้อละมึง กูไปทำธุระก่อน เจอกันที่ห้างเลยนะเว้ย"
ผมพูดก่อนจะเดินตรงไปที่ลานจอดรถข้างตึกทันทีโดยไม่สนใจว่าเพื่อนจะว่ายังไง เดี๋ยวมันมีอะไรก็คงโทรหรือไม่ก็ไลน์มาเอง

ผมขี่รถมาจอดเทียบฟุตบาทหน้าคณะบริหารซึ่งมีพี่จีบยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว เขายกมือขึ้นโบกทักทายผมเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาหากัน ผมถอดหมวกกันน็อกออกแล้วส่งยิ้มเจือนไปให้

"เป็นไรวะ เรียนยากเหรอ ทำหน้าเหมือนจะตาย"
พี่จีบหยุดอยู่ข้างๆผมก่อนจะโน้มหน้าลงมามองใกล้ๆ ผมผงะตกใจเกือบจะหงายหลังตกจากรถ ดีหน่อยที่สามารถทรงตัวเองได้ไม่ต้องให้อีกคนประคอง หัวใจของผมเริ่มทำงานหนักขึ้นมาอีกแล้ว ทำไมพี่จีบชอบเข้ามาประชิดตัวกันนักวะเนี่ย

"เปล่าๆ พี่จีบ..คือว่าเย็นนี้ผมไปส่งพี่ไม่ได้แล้วอ่ะ ต้องไปกินข้าวกับเพื่อน"
ผมกลั้นไปพูดสิ่งที่ต้องการไปรวดเดียวจนจบไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ หมวกกันน็อกกลายเป็นจุดโฟกัสของผมไปซะแล้ว ในใจก็ได้แต่คิดว่าสรุปแล้วตัวเองคุยกับพี่จีบหรือหมวกกันน็อกบนหน้าตักกันแน่ เหมือนผมได้ยินเสียงพี่จีบสูดลมหายใจเข้าหนักๆเลยช้อนสายตามอง ในหัวคิดว่าพี่จีบต้องทำหน้าไม่พอใจอยู่แน่ๆ แต่เปล่าเลย ความจริงคือพี่จีบกำลังยิ้มอยู่ เป็นยิ้มที่ผมรู้สึกว่ามันเจ้าเล่ห์ชอบกล

"กูไปกินข้าวด้วยได้ป่ะ?"
จากที่ทำเพียงแค่ช้อนสายตามองกลายเป็นว่าผมเงยหน้าขึ้นจนคอแทบเคล็ดแล้วเบิกตามองพี่จีบ เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะวางมือแปะลงบนหัวผมพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้... อีกแล้ว ทำผมใจเต้นอีกแล้ว

"ทำไมต้องทำหน้าตาตลกแบบนั้นด้วยวะ"
เมื่อกี้ผมอาจจะทำหน้าตลกอย่างที่พี่จีบว่าก็ได้ แต่ตอนนี้หน้าผมร้อนวูบและเกรงว่ามันจะแดงจนพี่จีบจับได้ ผมเขินนะเว้ย มาจ้องหน้ากันในระยะประชิดแบบนี้ ผมเบนสายตาหนีดวงตาคมนั่น ปากบางเม้มแน่นเข้าหากันอัตโนมัติ... ไม่ได้ช่วยให้หน้าร้อนน้อยลงเลยว่ะเฮ้ย แย่แล้ว แย่แน่ๆ

"จะไปกินข้าวกับผมจริงอ่ะ แต่ผมไปกับเพื่อนนะ"
ผมไม่ได้ตอบคำถามเขากลับไปแต่กลับตั้งคำถามใหม่ขึ้นมาแทน พี่จีบผละตัวออกไปยืนตรงเหมือนเดิมแล้วพยักหน้าลงช้าๆแล้วส่งยิ้มมุมปากมาให้กัน

"ไปได้ดิ ไม่มีปัญหา หรือมึงไม่อยากกินข้าวกับกู?"

"เปล่าๆ กลับช้าหน่อยที่ร้านคงไม่วุ่นวายใช่ไหมพี่?"
ผมรีบตอบกลับทันทีด้วยความกลัว กลัวพี่เขาจะเขาใจผิดคิดว่าผมรังเกียจ... ผมน่ะชอบพี่จีบจะตายไป โธ่

"ไม่หรอก ไอ้ไลค์กับไอ้ซารังสองคนก็เอาอยู่แล้ว"
พี่จีบยักคิ้วมาให้กัน ทำเอาใจผมกระตุกอีกแล้ว ไม่ว่าจะทำกริยาท่าทางแบบไหนมันก็ดูดีไปเสียหมด น่าอิจฉาจริงๆ ส่วนคนที่ชื่อไลค์เป็นพี่ชายของพี่จีบและน่าจะเป็นเจ้าของร้าน ส่วนซารังนี่เป็นน้องชายคนเล็กที่เรียนหมออยู่ปีหนึ่ง... อย่าหาว่าผมคลั่งพี่จีบเลยนะ นี่แค่ชอบจริงๆ

"โอเค งั้นพี่ขึ้นมาเลยครับ ผมบริการเองรอบนี้"
ผมยิ้มกว้างและยืดอกด้วยความภูมิใจว่าจะได้ขี่รถให้มายไอดอลนั่ง แต่ในใจลึกๆคือผมมีประสบการณ์การขี่รถของพี่จีบเลยฝังใจ... มันขี่รถไว จะแข่งเอาถ้วยหรือยังไงวะ คิสไม่ปลื้ม จบป่ะ!!!

"มึงอ่ะขยับไปซ้อนท้าย กูขี่เอง"
น้ำเสียงจริงจังส่งมาพร้อมสายตาดุๆ แต่รอบนี้ผมไม่ยอมแพ้หรอกเว้ย จะเป็นจะตายยังไงจะไม่ขอซ้อนท้ายพี่จีบไปอีกตลอดชีวิต ผมชิงใส่หมวกกันน็อกแล้วสตาร์ทรถทันที ท่าเตรียมพร้อมจะออกรถแล้วด้วย

"ขึ้นมาสิครับ"
ผมเปิดกระจกขึ้นแล้วหันไปพูดกับคนที่ยังยืนตีหน้ายักษ์อยู่ พี่เขาไม่แม้แต่คิดจะขยับตัวไปไหนยังคงใช้สายตากดดันกันอยู่แบบนั้น ทำแบบนี้คิดว่าผมจะกลัวหรือไงวะ เหอะ ลงก็ได้ ขยับก็ได้ ซ้อนท้ายก็ได้ ~ ฮือ

ผมดับเครื่องรถแล้วถีบสแตนลงก่อนจะขยับก้นไปนั่งประจำที่คนซ้อน พี่จีบคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะจับหัวผมที่มีหมวกกันน็อกสวมอยู่โยกไปมาเบาๆ เขายกขาขึ้นคร่อมรถแบบสบายๆแล้วนั่งประจำที่ ผมที่เรียกสติตัวเองกลับมาได้หลังจากพี่พี่จีบยิ้มให้รีบถอดหมวกกันน็อกออกแล้วส่งให้เจ้าตัวทันที

"คราวนี้พี่ต้องใส่แล้วนะครับ"
ผมยื่นหมวกกันน็อกไปด้านหน้าของพี่จีบทำให้แขนของเขาเสียดสีเข้ากับสีข้างของเขา แต่แทนที่พี่จีบจะว่าอะไร เป็นผมเองที่หน้าร้อนวูบขึ้นมาเฉยๆ ไม่พอแค่นั้นหน้าอกผมยังแนบเข้ากับแผ่นหลังกว้างนั่นอีกด้วย แย่แน่ๆ แบบนี้ตายแน่ไอ้คิสเอ้ย

"โอเค ใส่ให้ด้วย"
พี่จีบอยู่ในท่าเตรียมพร้อมออกรถเรียบร้อยแต่ไม่ยอมรับหมวกไปใส่เอง แถมผมยังเหลือบตามองเห็นพี่จีบกำลังยกยิ้มเหมือนพึงพอใจอะไรสักอย่างผ่านกระจกรถ นั่นยิ่งทำให้ผมหน้าร้อนขึ้นไปอีก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในฉากหนังรัก ที่นางเอกใส่หมวกกันน็อกให้พระเอกเลยว่ะ แต่เสียใจ ที่ผมไม่ใช่นางเอกแถมยังเป็นผู้ชายอีก

"พี่ใส่เองดิวะ ผมว่ามันแปลกๆอ่ะ"
ผมเคาะหมวกลงบนขาพี่จีบเร่งให้เขารับไป เพราะตอนนี้เริ่มมีคนหันมามองเราทั้งคู่แล้ว ไอ้ท่าทางที่มองจากมุมอื่นแล้วเหมือนผมโอบพี่จีบอยู่เนี่ย ไม่นานคงมีรูปลงเพจคนดังมหา'ลัยแน่ๆ ฟายเอ้ย เกลียดคนชอบถ่ายรูปก็วันนี้ล่ะวะ พี่จีบเหมือนจะสังเกตเห็นสิ่งที่ผมกำลังกังวลใจ เขาหันมองรอบๆตัวก่อนจะยกยิ้มปาก

"มึงจะแคร์สายตาคนอื่นทำไม ใครจะคิดอะไรก็ช่าง รีบๆใส่มาเหอะน่า มึงเลทแล้วนะ"
ผมอึกอักก่อนจะทำใจใส่หมวกกันน็อกให้พี่จีบอย่างเบามือ ผมเหลือบไปเห็นคนพวกนั้นยกโทรศัพท์มาถ่ายรูปกันยกใหญ่จนผมต้องก้มหน้าก้มตาลง

"รูปเกลื่อนเพจอีกแน่ๆ"
ผมพึมพำเบาๆไม่ให้พี่จีบได้ยิน ทุกอย่างยังคงนิ่งเงียบเพราะเขาไม่ยอมออกรถ ก่อนที่ผมจะได้ถามอะไรใบหน้าด้านข้างของพี่จีบก็หันมาพร้อมกับคำพูดที่ทำให้ผมเบิกตาค้าง

"เออ รูปในเพจคนดังกูเห็นแล้วนะ ดูเหมือนแฟนกันเลย"
เชี่ย.. ผมพูดได้แค่ในใจ เมื่อกี้พี่จีบมันได้ยินที่ผมบ่นหรือมันเดาใจผมถูกกันแน่วะ ตรงประเด็นฉิบหาย แล้วไอ้คำว่าเหมือนแฟนกันเนี่ย พี่จีบมันพูดออกมาหน้าตาเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติ ไม่ขนลุกบ้างเหรอวะ

"แฟนบ้าอะไรเล่าพี่ แฟนคลับพี่จะมากระทืบผมอ่ะดิ"
ผมบุ้ยปากเพราะอารมณ์ตอนนี้เริ่มไม่ดี เพราะเดาได้ว่าอีกไม่นานไอ้เพจคนดังต้องอัพรูปผมกับพี่จีบอีกแน่ๆ ไอ้คนตัวโตที่รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นก็ไม่แคร์สายตาใครอีก ผมควรจะทำยังไงดี

"ไม่มีใครทำร้ายมึงหรอก ถ้ามีกูจัดการเอง"
คำว่ากูจัดการเองดังก้องอยู่ในสมองผมเป็นสิบๆรอบโดยลืมความกลัวเรื่องซ้อนท้ายพี่จีบได้เลย เพิ่งมาดึงสติได้ก็ตอนพี่จีบจอดติดไฟแดงนี่ล่ะ ผมยังทึ่งตัวเองอยู่เลยที่หัวฟูขนาดนี้แต่ไม่ได้ร้องโวยวาย... นี่มันสัญญาณอันตรายมากที่เคลิ้มกับคำพูดคนๆหนึ่งได้มากขนาดนี้

"เมื่อเช้ายังกลัวจะเป็นจะตาย ทำไมตอนนี้ไม่ร้องแหกปากวะ"
เขาเอียงหน้ามาพูดด้วยในขณะที่ผมเอามือสางหัวอย่างเอาเป็นเอาตาย นี่ขนาดตัวรองทรงแล้วนะยังจะพันกันขนาดนี้ พี่จีบหัวเราะขึ้นมาผมเลยหยุดมือเอาไว้ นี่ผมทำเรื่องเปิ่นๆต่อหน้าเขาตลอดเลยหรือไง

"ไอ้พี่จีบ เขียวแล้วๆ"
ผมตบไหล่ร่างสูงแรงๆจนอีกฝ่ายสะดุ้งตกใจแล้วหันหน้ากลับออกรถอย่างรวดเร็ว ผมกระตุกหงายหลังก่อนจะคว้าเอวพี่จีบแน่น ไอ้เชี่ยพี่จีบ มึงออกรถเร็วเกินไปป่ะวะเนี่ย ฮือ ผมยังรักชีวิตตัวเองอยู่นะเว้ย

"อ๊ากกกกกกกกกก ช้าๆเว้ย จะตายแล้ว แค่ก"
ทั้งลมทั้งฝุ่นไม่ได้ปรานีผมเลยแม้แต่น้อย มันประเดประดังเข้ามาตีหน้าผมจนสำลักไอโขลก แขนทั้งสองข้างรวบกอดเอวพี่จีบเอาไว้อย่างแน่นหนา ยิ่งผมโวยวายเขาก็ยิ่งเพิ่มความเร็วขึ้น นี่มันแกล้งกันชัดๆ! แถมยังจะมาหัวเราะเอิ้กอ้ากใส่กันอีก โอย พ่อบาริสต้าสุดหล่อที่ใครๆก็ชอบเนี่ย ถ้าได้มาสัมผัสตัวจริงใกล้ๆแบบผมคงอึ้งไปตามๆกันแน่ๆ

"อย่าสิงกูนะคิส!!"
หัวเราะเยาะกันไม่พอยังจะหาเรื่องแกล้งผมต่ออีก แค่กอดเว้ยไม่ได้จะสิงเห็นผมเป็นตัวอะไรวะเนี่ย ผมบุ้ยปากก่อนจะกำหมัดทุบลงบนไหล่ไอ้คนขี้แกล้ง ขอทำร้ายมันหน่อยเถอะครับทนไม่ไหวแล้ว

"เงียบไปเลยไอ้พี่จีบ อ๊ากๆๆ"
ผมแหกปากลั่นเมื่อพี่จีบหลบรถซ้ายขวาโดยไม่ชะลอความเร็วเลยสักนิด  พี่จีบหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งอย่างสะใจแต่ผมนี่สิ ใจผมหล่นไปอยู่เคียงข้างเท้าเรียบร้อยแล้ว อย่าให้ลงรถไปได้นะ พ่อจะวิ่งไล่เตะกันพี่จีบเลยคอยดู!!!

ผมลงจากรถแล้วยืนหอบอยู่ตรงนั้น ขาทั้งสองขาสั่นจนก้าวขาออกเดินไม่ได้ ไอ้พี่จีบที่ลงตามมาเดินมาหยุดเคียงขาก่อนจะใช้มืออุ่นแตะลงบนไหล่ของผม ผมช้อนตามองเขม็งด้วยความกลัวและหงุดหงิดที่ยังหลงเหลืออยู่ คราวนี้ผมงอนจริงๆนะเว้ย รู้ว่ากลัวก็ยังแกล้งกันแบบนี้ เกิดช็อกตายขึ้นมาจะทำยังไง

"ไหวป่ะมึง?"
เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แววตาจริงจังส่งมาให้ต่างจากพี่จีบคนขี้แกล้งเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง แต่ผมยังหงุดหงิดและกลัวเลยไม่ได้สนใจความเป็นห่วงนั่นเลย

"ไม่ไหวเพราะพี่นั่นล่ะ"
ผมตอบเสียงอ่อยเพราะตอนนี้ไม่มีแรงแม้แต่จะเดิน ขายังไม่หยุดสั่นจนต้องเดินไปพิงเสาแถวๆนั้น พี่จีบเดินตามมาติดๆแล้วก้มหน้าลงมาใกล้จนรู้สึกได้ว่าลมหายใจอุ่นๆกำลังรดลงมาบนหัว ปลายเท้าของพี่จีบที่อยู่ใกล้กับเท้าของผมทำให้รู้ว่าตอนนี้เรายืนใกล้กันมากแค่ไหน แว็บหนึ่งที่หน้าร้อนวูบ แต่หัวใจกลับเต้นแรงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

"คิส โกรธกูเหรอ?"
พี่จีบพูดเสียงอ่อยก่อนจะส่งมือหนามาวางลงบนไหล่ผมแล้วอกแรงบีบเบาๆกระตุ้นให้ผมตอบรับอะไรสักอย่างออกไป เพราะตั้งแต่พี่มันยืนหายใจรดหัวผมมา ผมยังไม่พูดอะไรออกไปสักคำเอาแต่เท้ามือกับขาแล้วยืนหอบอยู่แบบนั้น

"ไม่ แต่พี่แกล้งผมมากเกินไปแล้วนะเว้ย ถ้าช็อกตายขึ้นมาจะทำยังไง"
ผมพยายามควบคุมเสียงของตัวเองไม่ให้กลายเป็นตะคอก กับคนที่เพิ่งทำความรู้จักกันมาไม่อยากให้เลิกคุยเพราะยั้งอารมณ์ของตัวเองไม่ได้

"ขอโทษว่ะ ถ้ามึงตายไปกูคงเสียใจ"
พี่จีบพูดจบก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดหน้าตาเฉย หน้าของผมซุกลงตรงไหล่ของพี่เขาแบบพอดิบพอดี กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาปะทะจมูกทำให้ลืมเรื่องความโกรธไปโดยสิ้นเชิง ใครมันใช้ให้พี่จีบใช้น้ำหอมกลิ่นโปรดของผมกันล่ะวะ ฮึ่ยย

"อือ อย่าแกล้งกันอีกนะ ไม่งั้นผมโกรธพี่จริงๆด้วย"
ผมผละตัวออกจากอ้อมกอดนั่นเพราะเริ่มรู้สึกว่าหน้าร้อนแปลกๆ พี่จีบยกยิ้มกว้างมาให้ก่อนจะวางมือลงมาขยี้หัวกันอีกแล้ว.. จะไม่มีวันให้ผมได้ผุดได้เกิดเรื่องความหล่อเลยใช่ไหม?

"อื้อ อย่าขยี้หัวดิ หมดหล่อแล้วเนี่ย"
ผมพูดเสียงกระเง้ากระงอดแล้วปัดมือพี่จีบออกแบบไม่จริงจังนักแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาร่างสูงก่อนจะย่นจมูกใส่ เขาเลิกคิ้วมองผมอย่างกับผมพูดอะไรไม่เข้าหูอย่างนั้นล่ะ

"มึงเนี่ยนะหล่อ เพ้อเจ้อว่ะ ไปๆเข้าไปในห้างได้แล้ว เพื่อนมึงรอจนแดกควายได้แล้วมั้ง"
แล้วผมก็ไม่มีโอกาสได้เถียงอะไรอีกเพราะโดนพี่จีบดันหลังให้ออกเดิน ระหว่างทางที่เดินเข้าห้าง เพื่อนสุดที่เลิฟก็กระหน่ำไลน์มาจนโทรศัพท์ผมจะค้าง แต่ละข้อความที่ส่งมานั้นถ้ามันด่าต่อหน้าผมคงเตะมันกระเด็นติดผนังไปแล้ว ร้ายกาจทั้งนั้น

♡ น้องอิงออย ♡
- ไอ้จูบ ทำไมมึงช้าแบบนี้ ตายไปยังวะ 17:25
- ไอ้เชี่ยนี่ มัวไปหาผัวอยู่หรือไงห้ะ 17:55

# ชายภีม
- จะแดกควายได้แล้ว 17:56
- ไอ้คิส พี่ดีพโทรมาตามกูกลับหอแล้วนะมึง 18:01

♡ น้องอิงออย ♡
- ไอ้คิสสสสสส เทลมี มึงอยู่ไหน พี่ดีพจะกินหัวพวกกูแล้ว 18:10


ผมอ่านมาจนถึงข้อความสุดท้ายแล้วเบะปากใส่หน้าจอสี่เหลี่ยม พี่จีบที่เดินอยู่ข้างกันก็กดโทรศัพท์ยุกยิกคุยกับใครอยู่ก็ไม่รู้แต่ผมไม่ได้สนใจ ตอนนี้คงต้องตอบข้อความไอ้เพื่อนตัวดีก่อนที่มันจะกระหน่ำโทรเข้ามา

× คิสสึ ×
- กูยังไม่ตายเว้ย แช่งกูจังนะพวกมึง เชี่ยมาก 18:11
- หาผัวพ่อง.. กูอยู่กับพี่จีบเว้ย 18:11
- อย่าเพิ่งแดกควายนะกูสงสารมัน 18:11
- ช่างหัวพี่ดีพดิ อยู่ตั้งญี่ปุ่นยังจะตาม โว้ะ 18:12
- แล้วพวกมึงอยู่ร้านไหน? 18:12

ผมพิมพ์ตอบกลับไปด้วยสกิลขั้นเทพแล้วจ้องจอสี่เหลี่ยมรอพวกมันตอบกลับมา ผมเหลือบไปมองคนข้างตัวที่ตอนนี้เก็บโทรศัพท์ไปเรียบร้อยแล้ว

"เพื่อนรออยู่ที่ไหน?"

"มันยังไม่ตอบกลับมาเลยพี่ รอแป็ปๆ มันอ่านละ"
ผมตอบกลับไปหน้าจอแสดงผลว่ามีใครคนใดคนหนึ่งในหลุ่มสนทนาอ่านแล้ว พี่จีบพยักหน้ารับก่อนจะแตะเข้าที่มือผม ผมเงยหน้ามองเขาแล้วเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงง อยู่ๆมาสกินชิพอีกแล้ว ชอบสกินชิพหรือยังไงกัน

"หยุดคุยก่อนไหม เดินไปเรื่อยเดี๋ยวแม่งได้ย้อนกลับไปกลับมา"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปยืนข้างพี่จีบ ตอนนี้เรายืนอยู่ใกล้ๆร้านหนังสือมีทั้งเด็กมัธยมและมหา'ลัยเดินพลุกพล่าน ส่วนใหญ่จะหันมามองพี่จีบแล้วซุบซิบ บางพวกถึงกับใจกล้าส่งยิ้มมาให้กันเลยทีเดียว ไอ้คนข้างตัวผมก็มีไมตรีจิตสูงส่งเหลือเกินที่ฉีกยิ้มกลับไปเนี่ย ผมเลิกสนใจพี่จีบแล้วกลับไปสนใจหน้าจอโทรศัพท์ต่อ

♡ น้องอิงออย ♡
- กรี๊ดดดดด ทำไมมึงอยู่กับพี่จีบ!! 18:14
- บอกกูม๊าาาาาาาา 18:14

# ชายภีม
- อยู่ซูกิชิ รีบมา กูรำคาญไอ้ดีพแล้วเนี่ย วีดีโอคอลมาอีกละ 18:14


× คิสสึ ×
- เออๆ เดี๋ยวกูไป 18:15

ผมตอบแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าก่อนจะหันไปมองพี่จีบที่ยืนส่งยิ้มให้สาวๆอยู่ เห็นแล้วหมั่นไส้ว่ะ แจกยิ้มอยู่ได้ หวงๆไว้ให้คนพิเศษของตัวเองบ้างเหอะ

"พี่จีบ"
ผมเรียกเสียงไม่ดังมานักพร้อมกับจ้องหน้าด้านข้างของเขาไปด้วย พี่จีบหันกลับมาทั้งๆยังคงค้างรอยยิ้มสุดท้ายที่ส่งยิ้มให้สาวสวยคนนั้น ในใจผมร้องตะโกนอย่างหนักว่าไม่ต้องเอารอยยิ้มที่ให้คนอื่นไปแล้วมาให้ผมต่อดิวะ แต่ก็ทำได้แค่ตีสีหน้าปกติออกไป

"ว่าไงมึง"

"อยู่ซูกิชิ ไปกัน"
ผมพูดจบก็หันหน้าเดินนำพี่จีบออกไปทันทีไม่ได้สนใจว่าพี่เขาเดินตามออกมาหรือเปล่า แต่เดินไปแค่ไม่กี่ก้าวผมก็รับรู้ได้ว่าพี่จีบออกเดินมาพร้อมกันเนื่องจากแขนหนักๆพาดลงบนไหล่กัน ผมเงยหน้ามองเขาก็หันมาส่งยิ้มให้ซะอย่างนั้น

"พี่จีบชอบสกินชิพเหรอ?"
ผมมองหน้าเขากลับไปแล้วถามในสิ่งที่คาใจ หลายต่อหลายครั้งแล้วภายในวันนี้เขาทำแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน ถ้าไม่ติดว่าต่างคนต่างเป็นผู้ชายด้วยกัน ผมคงคิดว่าพี่จีบกำลังอ่อยผมแน่ๆ เขาเหมือนจะงงในคำถามของผมเพราะเลิกคิ้วขึ้น แต่เพียงแค่แว็บเดียวก็เปลี่ยนมายกยิ้มมุมปากแล้วพยักหน้าลงเบาๆ

"เออดิ ชอบมากด้วย"
พี่มันไม่ว่าเปล่าแต่กลับกระชับแขนดึงให้ผมเข้าไปใกล้อีก จนเหมือนผมเดินซบกับเขาอยู่อย่างนั้น คนที่เดินผ่านพวกเราไปมองไม่วางตา บางคนซุบซิบ บางคนกรี๊ดกร้าด... ผมว่าผมเริ่มอายแล้วว่ะ แต่คนไม่สนโลกอย่างพี่จีบคงไม่สนใจ ถ้าผมบอกเขา เขาก็จะพูดแบบเดิมๆว่าทำไมผมต้องสนใจคนอื่น... เอาเถอะ จะไม่สนใจคนอื่นบ้างแล้วกัน

"กับพวกพี่คินพี่แก็ปพี่ก็ชอบสกินชิพแบบนี้ใช่ป่ะ?"
เหมือนพี่จีบจะชะงักการเดินไป แต่ก็กลับมาเดินได้อยากปกติในเวลาต่อมา

"ไม่ว่ะ ขนลุกตาย"
คำตอบของพี่จีบทำให้ผมขมวดคิ้วยุ่ง ปกติไอ้คนที่ชอบสกินชิพคนอื่นมันก็ต้องเริ่มจากเพื่อนก่อนไม่ใช่เหรอวะ ไอ้กรณีพี่จีบนี่เริ่มกับคนอื่นแบบผม ผมว่ามันเริ่มทะแม่งๆแล้วนะ แต่พยายามที่จะไม่คิดมาก เพราะเขาอาจจะแกล้งผมอีกก็ได้ บวกกับไม่มีเวลาทักท้วงอะไรเพราะตอนนี้เราเดินเข้ามาในร้านอาหารเรียบร้อยแล้ว ผมมองหาเพื่อนอยู่สักพักแล้วเจอมันโบกมือให้กันก่อนที่ไอ้ออยจะอ้าปากค้างไปเพราะเห็นพี่จีบกอดคอผมอยู่

ผมเดินเข้าไปหาพวกมัน ไอ้ออยรีบย้ายก้นไปนั่งข้างไอ้ภีมปล่อยให้ผมนั่งกับพี่จีบหน้าตาเฉย มันหรี่ตามองผมแล้วส่งยิ้มมีเลศนัยมาให้กัน... มึงอย่าแซว ขอร้อง กลัวพี่จีบจะเตะโด่งผมออกจากโต๊ะ

"หวัดดีพี่จีบ"
เสียงไอ้ภีมดังขึ้นและเหมือนไอ้พี่จีบเพิ่งสังเกตเห็นเพื่อนผม พี่มันยิ้มกว้างก่อนจะทักทายไอ้ภีมกลับเหมือนสนิทกันมาแต่ชาติปางก่อน.. ก็นะ พวกคนหน้าตาดีจะรู้จักกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดา

"อ้าวไอ้ภีม มึงเป็นเพื่อนคิสเหรอวะ"
พี่จีบดูจะตื่นเต้นมากกว่าผมที่พาคนอื่นมาเจอเพื่อนตัวเองอีก... ไอ้ภีมพยักหน้าอย่างแข็งขัน

"ใช่แล้วพี่ ไปไงมาไงถึงมากับไอ้คิสได้"
ไอ้ภีมยิงคำถามต่อทันที ผมเบิกตาค้างเพราะถ้าพี่จีบตอบพวกมันต้องซักต่อแน่นอนว่าไปรู้จักกันตอนไหน แล้วความจะแตกเรื่องที่ผมไปร้านพี่จีบทุกวัน... ตายแน่ๆครับคราวนี้

"พี่จีบ สั่งอาหารเถอะผมหิวแล้วเนี่ย"
ผมตัดสินใจสะกิดพี่จีบที่กำลังอ้าปากจะตอบคำถามไอ้ภีม เขาหันมามองผมสลับกับไอ้ภีมก่อนจะพยักหน้า ผมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เย้ ไอ้พี่จีบอยู่ข้างผมว่ะ หางตาผมเหลือบเห็นไอ้ออยกับไอ้ภีมเบ้ปากมาให้ ผมเลยยักคิ้วกวนมันไป ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร

หลังจากที่เราสั่งอาหารกันไปเรียบร้อยก็หาเรื่องมาชวนคุยกัน แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของผมและพี่จีบอีกแล้ว และผมก็ได้ความรู้เพิ่มมาอย่างหนึ่งว่าพี่จีบแม่ง...ชอบแข่งรถ ทั้งสปอร์ตไบค์และรถยนต์ ให้ตายเถอะครับ พี่เขาดันชอบสิ่งที่ผมเกลียด ฮึก

ไม่นานนักเมนูทุกอย่างที่สั่งไปก็มาเสิร์ฟ ไอ้ออยรับหน้าที่เป็นคนย่างเนื้อบนเตา ส่วนพวกผมก็รอกินอย่างเดียว เนื้อต่างๆถูกคีบลงจากเตาโดยพี่จีบแล้วส่งตรงมาให้ผม ผมมองอย่างทึ้งๆแล้วเอ่ยขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าจนไอ้ออยแอบสะกิดหลังมือผมยิกๆ

"อะไรยังไงกันแน่"
เสียงมันกระซิบลอดไรฟันมาถามผม สายตาเหล่มองไอ้ภีมกับพี่จีบที่กำลังคุยกันอย่างออกรสชาติเรื่องเกมแข่งรถออกใหม่

"ไม่รู้เว้ย"
ผมตอบมันกลับไปก่อนจะคีบเนื้อใส่ปาก มีคนคีบเนื้อมาประเคนถึงที่ผมว่าดีจะตาย ไม่อยากไปคิดมากอะไร พี่จีบอาจจะเป็นคนที่ชอบเทคแคร์คนอื่นอยู่แล้วก็เป็นได้

"คิส ปากเลอะ"
พี่จีบจ้องหน้าผมก่อนจะใช้นิ้วเช็ดคราบตรงมุมปากผมออก ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่พี่จีบทำเพียงแค่ยกยิ้มขึ้นแล้วหันกลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น... ไอ้ภีมมองผมก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ออยที่ตาเบิกค้าง ใบหน้าของผมร้อนผ่าวขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ขอถอนคำพูดเมื่อกี้ที่บอกว่าพี่จีบเทคแคร์คนอื่นดี มันต้องแกล้งผมแน่ๆ ใช่แน่ๆ ไอ้คนขี้แกล้ง ฮือ!!!


-----------------------------------------------


Q & A กับ พี่จีบ ♡

Q : จีบเป็นคนติดสกินชิพเหรอ?
A : เกิดมายี่สิบปีเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นคนติดสกินชิพตอนรู้จักกับคิสนี่ล่ะครับ ^^






ตอนที่ 2 มาแล้วนะ พี่จีบนี่อะไรยังไง มาอ่อยคิสจริงหรือเปล่า หรือแค่แกล้งเล่นเพราะคิสทำตัวน่ารักกันนะ

ปล. อ่านให้สนุกน้า ช่วยติชมกันด้วยเนอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2016 21:28:00 โดย Ch0cmint »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
พี่จีบรุกหนักจริงๆเนียนๆด้วยนะกรี้ด.

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
รุกแรงน้องหายใจหายคอไม่ทันเลย 5555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
มีความเนียน มีความอ่อย มีความชอบสกินชิพคิส


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แอร๊ยยยยย อ่าน Q&A แล้วชัดเลย

พี่เขาอ่อยแรงมาก แต่น้องยังไม่รู้ตัวสินะ

พี่จีบคงเนียนเกินไป ฮาาา

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่จีบหลานยายเนียน
เนียนเบอร์ใหญ่

น่ารักอ่ะ
 :katai2-1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่จีบถ้ามาทำเล่นๆกับน้องจูบนะ
โดนแน่

 :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
อั๊ยยยยย พี่จีบรุกหนักอ่ะ แถมขี้แกล้งอีก คิดอะไรกัคิสป่าวเนี่ย อั๊ยยยยๆๆๆ :-[

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
พี่จีบเนียนมาก  :impress2:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
สนิทกันเร็วแต้ๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อร๊ายยย อีพี่จีบอ่อยน้องคิสแรงอะ อิอิ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
พี่จีบเนียนไปแล้ววว

ออฟไลน์ Ch0cmint

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-5
- ดื่มครั้งที่ 3 -



วันนี้ผมมาที่ร้าน IT 's LOVE เช้ากว่าปกติ เพราะพี่จีบบอกว่าถ้าผมมีเรียนเช้าให้แวะมารับพี่เขาด้วยเนื่องจากว่ารถยังซ่อมไม่เสร็จ และวันนี้ผมก็มีเรียนตอนเก้าโมงเช้าพอดี วันนี้ที่ร้านออกจะแตกต่างไปจากปกตินิดหน่อยด้วยเพราะเวลาที่ผมมาเหยียบร้านต่างออกไปจากเดิม ประตูหน้าร้านยังแขวนป้ายไม้ลวดลายสวยงามที่มีคำว่า Close ไว้ แต่ถ้าลองผลักประตูกระจกใสเข้าไปจะพบว่ามันไม่ได้ล็อค เนื่องจากเจ้าของร้านมาแล้ว

บุคคลที่เคยเห็นผ่านตามาบ้างกำลังจัดเรียงอุปกรณ์สำหรับใช้งานอยู่หลังเค้าน์เตอร์บาร์ ส่วนสูงไล่เลี่ยกับผู้เป็นน้องคนกลาง ทรงผมอันเดอร์วีคัตนั่นทำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างพี่จีบและพี่ไลค์ คนน้องจะตัดผมทรงอันเดอร์คัตที่ดูสุภาพเรียบร้อยมากกว่า บรรยากาศภายในร้านตอนนี้ดูสงบเงียบ มีแค่เสียงวอร์มเครื่องชงกาแฟดังเบาๆ กลิ่นหอมที่ลอยวนในอากาศ ณ เวลานี้เป็นกลิ่นของสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นสดชื่น ถ้าสายๆหน่อยคงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟคั่วบดคุณภาพดี

ผมยืนมองหลังของพี่ไลค์ที่ขยับไปทางนั้นทีทางนี้ที ดูจะวุ่นวายอยู่ไม่น้อยและอีกฟากของร้านก็มีร่างของชายหนุ่มอีกคนกำลังสาละวนกับการจัดโต๊ะและเก้าอี้ให้เป็นระเบียบ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วผลักประตูกระจกเข้าไป เสียงกระดิ่งดังกังวานเสียงใสบ่งบอกให้คนภายในร้านรับรู้ว่ามีแขกมาเยือน เจ้าของทรงผมอันเดอร์วีคัตหันมามองกัน ในมือของเขายังถือ Picher ค้างอยู่ ใบหน้าหล่อที่ไม่ค่อยแตกต่างจากพี่จีบมากนักกำลังขมวดคิ้วยุ่ง คงคิดว่าลูกค้ามาผิดเวลาแน่ๆ

"เอ่อ..ร้านเปิดเก้าโมงครึ่งครับ"
พี่ไลค์วาง Picher ลงบนเค้าน์เตอร์ก่อนจะส่งยิ้มมาให้กัน ผมส่งยิ้มกลับไปให้พร้อมกับยกมือขึ้นเกาแก้มเล็กๆ.. ว่าแล้วไง ผมมาที่นี่ทุกวันจะไม่รู้เวลาเปิดปิดร้านได้ยังไง

"ผมมาหาพี่จีบครับ"
ผมก้าวเข้าไปใกล้พี่ไลค์มากขึ้น ดวงตาคมที่จ้องมามาเบิกขึ้นก่อนจะร้องอ๋อออกมาเบาๆแล้วชี้นิ้วไปทางพี่จีบ

"ไอ้จีบอยู่ตรงนั้น"
พี่ไลค์ยกยิ้มนิดๆแล้วช่วยมองหาคนที่ผมกำลังตามหา ผมพยักหน้ารับแล้วหันไปยิ้มให้เขาอีกครั้ง

"ขอบคุณครับ"
ผมยกมือไหว้พี่เขาก่อนจะหมุนตัวไปในทิศทางที่พี่จีบอยู่ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขา คนที่กำลังจัดโต๊ะก็หันมาสบตากันพอดีก่อนยิ้มทักทายและเดินเข้ามาหาผม ผมส่งยิ้มให้เขากลับไปเหมือนกัน ช่างเป็นเช้าที่สดใสจริงๆเลยเนอะ

"มาไวดีว่ะ"
พี่จีบเดินมาหยุดตรงหน้าผม วันนี้เขาก็ยังอยู่ในชุดนักศึกษาที่เรียบร้อยเช่นเคย และวันนี้ผมก็เรียบร้อยกับเขาเหมือนกันเพราะมีเรียนวิชารวมคณะอื่น

"กลัวจะไปสายไงพี่ แล้วนี่กินข้าวเช้ายังครับ?"

"ยังเลย ไปกินที่มอเลยแล้วกัน"
พี่จีบเดินกลับไปหยิบเสื้อสูทที่พาดอยู่บนเก้าอี้บาร์ขึ้นมาสวมใส่และหยิบกระเป๋าเป้แบรนด์ดังขึ้นมาสะพาย.. อยากจะบอกว่าโคตรไม่เข้ากันเลยครับ แต่ไม่ว่าจะยังไงพี่จีบก็ยังเป็นบุคคลที่ดูดีในสายตาผม

"เฮ้ยๆ เดี๋ยวก่อน นี่อะไรยังไง น้องเขาเป็นใคร ทำไมต้องไปมอพร้อมกันวะจีบ?"
พี่ไลค์ที่ยืนเงี่ยหูฟังบทสนทนาระหว่างสองคนมานานเดินอ้อมจากหลังเค้าน์เตอร์บาร์มันยืนขั้นกลางระหว่างผมกับพี่จีบ ใบหน้าหล่อๆหันมองหน้าผมสลับกับหน้าน้องชายตัวเอง พี่จีบทำหน้าเซ็งๆแต่ก็ยอมตอบกลับไป

"ไม่ถามสักเรื่องได้ป่ะมึง"
พี่จีบมองพี่ชายของตัวเองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ พี่ไลค์ส่ายหน้ารัวราวกับว่าเรื่องของน้องชายเขาจะไม่ยอมพลาดสักเรื่อง

"ไม่ได้ มึงเป็นน้องกูนะจีบ"

"ถ้ากูมีแฟนมึงจะยังเสือกเรื่องของกูอีกไหม?"

"ทุกเรื่องของมึงกูต้องรู้อ่ะ"
พี่ไลค์ยิ้มหวานหยดย้อยจนผมแอบขนลุก พี่จีบถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับยอมแพ้แล้วส่ายหน้าเบาๆ... คงจะปลง

"กูยอมมึง นี่คิส ลูกค้าประจำร้านเราไง มึงไม่คุ้นบ้างเหรอ?"
พี่จีบหันมองผมแว็บหนึ่งก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ชายที่ทำสีหน้าครุ่นคิดหนัก แต่ผมนี่กำลังกลั้นยิ้มกับสถานะใหม่ที่พี่จีบหยิบยื่นให้ 'ลูกค้าประจำร้าน'

"อ๋อ ก็ว่าหน้าคุ้นๆแต่คิดไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน น้องคิสเหรอ หน้าตาน่ารักว่ะ"
พี่ไลค์พูดจบก็หันมามองผมด้วยแววตาวิบวับ ผมรู้สึกหวั่นแปลกๆเลยขยับตัวไปหลบหลังพี่จีบช้าๆอย่างแนบเนียน

"อย่าทำหน้าตาหื่นกามใส่น้อง"
พี่จีบผลักหัวพี่ชายตัวเองที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พี่ไลค์จิ๊ปากเบาๆแต่ก็ยังส่งยิ้มหวานมาให้ผม

"มึงนี่.. แค่เห็นว่าน้องน่ารักเฉยๆ กูยังชอบผู้หญิงอยู่เว้ย"

"เออๆ แล้วนี่จะถามอะไรอีกไหม กูจะสายแล้ว"
พี่จีบว่าก่อนจะยืนจ้องหน้าพี่ไลค์ เมื่อไม่มีคำตอบเขาเลยสะกิดแขนผมเป็นสัญญาณว่าไปกันได้แล้ว แต่ในจังหวะนั้นพี่ไลค์ก็พูดขึ้นจนผมชะงักเท้า

"มึงให้น้อง..มารับ?"
พี่ไลค์มองหน้าพี่จีบด้วยแววตาสงสัย ผมได้แต่ยืนมองอยู่เงียบๆ ปล่อยให้พี่จีบเป็นคนตอบน่าจะดีกว่า

"ใช่ ถามมากจังวะมึง"
พี่จีบบุ้ยปากเล็กน้อยใส่พี่ชายตัวเอง ผมที่แอบมองอยู่เกือบหลุดขำท่าทีที่เหมือนเด็กโดนขัดใจของพี่จีบ ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปได้

"แล้วรถมึงล่ะ?"

"รถกูยังซ่อมไม่เสร็จไง กูไปละ"
พูดจบพี่จีบก็คว้าแขนผมออกไปทันที ทิ้งไว้แต่พี่ไลค์ที่ยังตะโกนอะไรไม่รู้โหวกเหวกอยู่ในร้าน แต่พี่จีบไม่ได้สนใจเลยสักนิด เจ้าตัวพาผมมาหยุดที่รถแล้วแบมือขอกุญแจ ผมส่ายหน้าน้อยๆเพราะกลัวว่าจะโดนแกล้งอีก ถ้าคราวนี้โดนอีกผมโกรธพี่จีบจริงๆด้วย

"กลัวจะโดนแกล้งอีกหรือไง?"
พี่จีบถามอย่างรู้ทัน ใบหน้าคมเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จนผมรู้สึกเสียวสันหลัง มือกำกุญแจในกระเป๋ากางเกงไว้แน่น อย่าใจอ่อนกับมายไอดอลเด็ดขาด!

"อือ ผมขี่เองดีกว่า"
ผมตอบรับก่อนจะเบี่ยงตัวไปขึ้นคร่อมรถแล้วจัดการใส่หมวกกันน็อกทันที สตาร์ทรถเสร็จสรรพไม่สนใจว่าพี่จีบจะมองเขาด้วยสายตาแบบไหน

"โอเค วันนี้กูยอมซ้อนท้าย"
วันนี้? ยังจะมีวันหลังอีกเหรอวะ รู้สึกตัวเองพัวพันกับไอ้พี่จีบนี่มากไปแล้วมั้ง ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีแค่กลัวแฟนคลับเขามาตามรุมกระทืบแค่นั้นเอง พี่จีบพูดจบก็ขึ้นนั่งซ้อนท้ายผมดิบดีแถมด้วยแขนแกร่งโอบรอบเอวผมไว้หลวมๆ คิดว่าคนอย่างไอ้คิสจะเป็นยังไงเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้? คำตอบคือตัวแข็งทื่อตาเบิกค้าง ท่าทางอึกอักแบบน้ำท่วมปากนี่มันยังไงกัน

"พะ พี่จีบ กอดเอวผมทำไมวะ?"
ผมพยายามแล้วที่จะควบคุมเสียงไม่ให้สั่น แต่ทำไม่ได้ ตอนนี้หน้าร้อนวูบวาบทั้งๆที่อากาศก็เย็นเพราะฝนเพิ่งตกไปตอนหกโมงเช้า บางทีเสียงหัวใจของคนเราก็ดังจนน่ารำคาญว่าไหม

"ก็กูไม่ไว้ใจ ปกติไม่เคยซ้อนท้ายใครนี่หว่า"
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมกับยื่นหน้าข้ามไหล่จนรู้สึกได้ว่ากระจกหมวกกันน็อกด้านข้างเกิดฝ้าจางๆเพราะลมหายใจอุ่นๆของพี่จีบรดลงมา ระยะห่างแค่เพียงน้อยนิดทำให้หัวใจเต้นโครมครามจนกลัวว่าอีกคนจะได้ยิน แผ่นหลังเล็กๆโดนอกแกร่งแนบชิด ได้แต่ท่องไว้ในใจว่าพี่จีบชอบสกินชิพ ไม่ได้ชอบคิส

"อ่ะเอ่อ.. ผมขับช้า ปล่อยเอวผมเถอะ"
เหตุการณ์แบบนี้แน่ครับ ถึงจะไม่ได้คิดอะไรด้วย ถึงจะแมนๆเตะบอลกันทั้งคู่แต่ท่าทางแบบนี้มันก็ชวนให้ใจสั่นอยู่นะ อีกอย่างที่สำคัญคือเพจคนดังมหา'ลัย โคตรน่ากลัว

"ไม่ปล่อย กูกลัวนี่"
น้ำเสียงที่ผมได้ยินมันไม่จริงใจเลยว่ะ แถมสายตายังเหลือบไปเห็นรอยยิ้มทะเล้นของพี่จีบผ่านกระจกด้วย... ให้ตายเถอะ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็หาทางแกล้งผมอีกจนได้ล่ะน่า! ทุบให้หายซ่าสักทีดีไหม

"เดี๋ยวก็เป็นข่าวอีก"
ผมพึมพำเบาๆ แต่พี่จีบกลับได้ยินแถมกระชับกอดแน่นขึ้นด้วย คางมนเกยลงบนไหล่ผมก่อนจะออกแรงถูไปมาเบาๆ โอย กูขนลุกครับพี่จีบ ผมหดคอหนีพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดเขาแต่เหมือนกับว่าพี่จีบจะยิ่งออกแรงกอดผมมากขึ้น สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ เล่นเอาเหงื่อออกตั้งแต่เช้าเลยครับคนเรา

"ก็บอกว่าช่างหัวคนอื่นไงวะ เราทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำไป"
ผมโคตรอยากเห็นหน้าพี่จีบตอนพูดประโยคนี้เลย.. มันหมายความว่าพี่ชอบเป็นข่าวกับผมหรือเปล่า? แค่มโนเข้าข้างตัวเองก็เขินแล้วเว้ย

"หมายความว่าไงอ่ะ?"
ผมถามเพื่อความแน่ใจ แต่พี่จีบไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เขาแบมือออกตีลงบนหน้าขาของผม สะดุ้งสิครับรออะไร

"ออกรถเร็วๆ จะสายแล้วมึง"
ผมยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงห้าสิบนาทีเข้าไปแล้ว ให้ตายเถอะชีวิต ยังไม่ได้กินอะไรมาเลยนะเว้ย แถมผมยังมีเรียนสี่ชั่วโมงติดเพราะเป็นวิชาเอก ผมไม่สนทนากับพี่จีบอีกแล้วรีบออกรถทันที

ตอนนี้ผมจอดเทียบฟุตบาทที่หน้าคณะบริหารเพราะตัวตึกมันถึงก่อนคณะของผม พี่จีบลงจากรถแต่ไม่ยอมเดินเข้าคณะสักที จนผมสงสัยเลยเปิดกระจกหมวกกันน็อกขึ้นแล้วถามออกไป

"มีอะไรหรือเปล่าพี่?"
ผมมองไปยังคนตัวสูงที่ยืนขมวดคิ้วยุ่งอยู่ ดวงตาคมจับจ้องอะไรบางอย่างหลังพุ่มไม้คณะ แต่เพียงไม่นานเขาก็เปลี่ยนใบหน้าเป็นเจ้าเล่ห์ทันที พี่จีบหันมายกยิ้มมุมปากให้ผมก่อนจะสาวเท้าเข้ามาชิด มือหนารั้งท้ายทอยของผมเข้าหาอกแกร่งทันที โอ้โห... ให้ผมทายนะ ต้องมีคนแอบถ่ายรูปเราสองคนอยู่หลังพุ่มไม้แน่ๆ ไอ้พี่จีบก็ไปแกล้งเขา ไม่สงสารผมที่จะเป็นคนโดนยำเละเลยหรือยังไงวะ แล้วหัวใจบ้านี่จะเต้นแรงไปไหน! สติแล้วความแมนจงอยู่กับข้า อาเมน

"พี่จีบปล่อยผมนะเว้ย"
ผมประท้วงดิ้นออกจากมือแกร่งที่ล็อคคอผมไว้แน่น มืออย่างกับคีมคีบจะแข็งไปไหนวะเนี่ย ถึงผมจะดิ้นแรงแค่ไหนเจ้าตัวก็ไม่มีทีท่าจะปล่อยแถมยังหัวเราะโรคจิตออกมาอีก

"หึหึหึ... อยู่นิ่งๆน่า กำลังสนุกเลย"
พี่จีบก้มหน้าลงมากระซิบข้างหู ดีนะที่ยังมีหมวกกันน็อกคั่นกลางระหว่างเราไว้ ไม่อย่างนั้นระยะห่างอันน่าเสียวไส้คงทำให้ผมใจเต้นแรงอีกแน่ๆ

"พี่จีบไม่เล่นนะเว้ย ผมกลัวถูกแฟนคลับพี่กระทืบเนี่ย"
ผมยอมหยุดดิ้นแต่ก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงติดโมโห มือหนารีบคลายออกแล้วผละตัวผมมามองหน้ากัน ดวงตาคมจ้องมาแต่ผมก็ต้องหลบเพราะมองตาคู่นั้นทีไรเผลอเคลิ้มไปซะทุกที

"บอกแล้วไงว่าใครทำร้ายมึงกูจัดการเอง เข้าใจ๊?"
มือหนาแปะลงบนหมวกกันน็อกก่อนจะโยกหัวผมไปมาเบาๆ พูดเหมือนจะปกป้องกันอีกแล้ว.. ทำแบบนี้บ่อยๆผมก็กลายเป็นคนอ่อนแอดิวะ ยิ่งมีคนมาเสนอตัวปกป้องผมก็ยิ่งกลายเป็นเด็ก หนักกว่านั้นคือผมอยากอ้อน แต่คงไม่เหมาะจะอ้อนพี่จีบเพราะเรายังไม่สนิทกัน

"พี่แม่ง... พูดไปเรื่อย รีบไปเรียนได้แล้วครับ"
ผมโบกมือไล่อีกคนไปโดยไม่ยอมมองหน้า พี่จีบหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับ

"ตั้งใจเรียน เออ ตอนเที่ยงมาหากูที่คณะหน่อยได้ไหม?"

"หือ มีธุระไรป่ะวะพี่?"
ผมหันไปมองพี่จีบทันทีด้วยสีหน้าสงสัย ตอนนี้ผมปิดกระจกหมวกกันน็อกลงเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าคมเข้มเลื่อนเข้ามาใกล้จนจมูกโด่งชนเข้ากับกระจกหมวกกันน็อกเบาๆ ไอ้พี่จีบบ้า! หัวใจกูจะวายแล้วครับ เลิกแกล้งสักทีสิเว้ย นี่ถ้าไม่มีกระจกกันไม่อยากจะคิดเลย แค่นี้ก็หน้าร้อนจะระเบิดอยู่แล้ว นึกว่าตัวเองเป็นภูเขาไฟพร้อมปะทุซะอีก ผมเอนหลังหนี พี่จีบหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน นี่ผมคงทำหน้าตลกใส่มันอีกแล้วสินะ

"มีเรื่องให้ช่วย ไปล่ะ"
แล้วเขาก็ไม่ได้รอคำตอบของผม พี่จีบหันหลังเดินจากไปพร้อมกับยกมือขึ้นมาโบกให้ทั้งอย่างนั้น โคตรเท่ครับบอกได้คำเดียว หลังจากพี่จีบเดินลับสายตาผมก็มองไปรอบๆตัวก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขี่ออกไป

ผมรีบสาวเท้าเข้าบริเวณโรงอาหารก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆไอ้ภีมที่กำลังยัดแซนวิชเข้าปาก ส่วนไอ้ออยนั่งแกะเปลือกไข่ต้มอยู่ตรงข้ามผม สงสัยเหลือเกินว่าแดกไข่ต้มฟองเดียวจะเอาอะไรไปอิ่ม

"วันนี้พี่จีบมากับมึงอีกแล้วเหรอวะ?"
ไอ้ออยเอ่ยถามกันทั้งๆที่สายตายังไม่ละจากการแกะเปลือกไข่ ผมว่าวันนี้มันคงได้กินแค่ไข่แดงเพราะไข่ขาวติดเปลือกไข่ออกไปหมดแล้ว นี่มันปัญหาระดับชาติจริงๆ ผมชะงักกับคำพูดมันไป คือมันรู้ได้ยังไงว่าพี่จีบมากับผม เพราะผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครเลยนะ

"รู้ได้ไงวะ?"
ผมมองไอ้ออยอย่างต้องการคำตอบ มันเหลือบตาขึ้นมามองผมแว็บหนึ่งก่อนจะกับไปขมวดคิ้วยุ่งกับไข่ต้มของมัน

"เพจคนดังอัพรูปอ่ะดิ แคปชั่นทำกูเกือบสำลักน้ำ"
ไข่ต้มในมือของไอ้ออยแหว่งซ้ายแหว่งขวาแต่มันก็ยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจก่อนจะใช้ฟันกัดซองซอสปรุงรสแล้วบีบมันลงไป ระวังติดคอนะเพื่อนกูเป็นห่วง

"แคปชั่นไรวะ?"
ผมถามออกไปก่อนจะยกแก้วชานมของไอ้ภีมมาดูดอย่างหน้าตาเฉย มันหันมาถลึงตาใส่ผมแล้วคว้าแก้วน้ำกลับไปทั้งๆที่หลอดยังคาปากผมอยู่ ได้เรื่องสิครับชานมกระเซ็นเป็นสายเลอะเสื้อนักศึกษาเลย ผมเบ้ปากแต่ไอ้ภีมยิ้มสะใจ

"เชี่ยภีม แม่ง"
ผมบ่นกระปอดกระแปดทั้งๆที่ปากยังคาบหลอดเจ้าปัญหาอยู่ ก้มหน้าลงมองเสื้อตัวเองก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา ถ้าไอ้พี่ดีพอยู่มันบ่นผมหูชาแน่ที่ทำเสื้อเลอะขนาดนี้ เป็นจุดอย่างกับงานศิลปะสะบัดปลายพู่กัน

"สมน้ำหน้า"
ไอ้ภีมยักคิ้วก่อนจะกัดแซนวิชโชว์ผมไปอีกคำ หมั่นไส้เว้ย แต่ทำอะไรไม่ได้ ไอ้ออยก็เคี้ยวไข่ต้มตุ่ยๆแต่ก็ยังจะหัวเราะออกมาอีก ขอให้ติดคอตาย!

"บอกมาได้ละว่าแคปชั่นอะไร"
ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะรู้สึกตัวเองจะหน้าบาง ยางอายเริ่มเอ่อขึ้นบนใบหน้า ทำตัวเอง เลอะเอง เฮ้อ ไอ้ออยกลืนไข่ต้มลงคอแล้วยกขวดน้ำดื่มกระดกอึกๆ แถมดื่มเสร็จยังใช้หลังมือปาดน้ำที่เลอะมุมปากออกอีก... สาบานเถอะว่าครั้งหนึ่งมันเคยลงประกวดดาวคณะ แมนกว่าผู้ชายอีกมั้ง เห็นแล้วก็เครียดกลัวว่ามันจะหาผัวไม่ได้ ดีไม่ดีได้เมียไปอีก

"หวานขนาดนี้เป็นแค่แฟนคลับ หรือ เป็นแฟนครับกันแน่ ใครรู้ช่วยแอดมินสืบข่าวสองคนนี้ด้วยนะ แถมมีติดแท็ก จีบคิส ด้วย"
ผมเบิกตากว้าง แอดมินนี้เป็นสาววายหรือยังไงวะ เห็นผู้ชายเข้าใกล้กันหน่อยต้องคิดว่าเป็นแฟนกันตลอดเลยหรือยังไง... แต่หน้าจอสี่เหลี่ยมของไอ้ออยที่ส่งมาให้ดู ถ้าเป็นมุมมองก็โคตรเหมือนแฟนกันเลยไง ไปอิงแอบแนบชิดซบอกกันหน้าคณะเนี่ย แล้วก็เพิ่งเห็นว่าไอ้พี่จีบมันเอาจมูกแตะลงบนหมวกกันน็อกผม ฮ่วย!! มึงจะแกล้งแฟนคลับมึงไปถึงไหนครับพี่ครับ คนซวยมันเป็นผมเนี่ย

"เชี่ย"
ผมสบถออกมาเบาๆก่อนจะรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนวูบวาบ ไอ้ภีมที่กินเสร็จเรียบร้อยแล้วใช้มือทั้งสองข้างเข้ามาประคองหน้ากันก่อนจะจ้องหน้าผมอย่างเอาเป็นเอาตาย

"พี่มันมาจีบมึงเหรอ?"
ผมเบิกตาโตกว่าเดิม อ้าปากพะงาบๆเพราะไม่คิดว่าไอ้ภีมจะถามออกมาแบบนี้ แล้วเรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้นกับผมคือทำไมต้องใจเต้นแรงกับสิ่งที่ไอ้ภีมถาม

"จีบอะไรเล่า เพิ่งรู้จักกันนะมึง แล้วพี่จีบมันก็แมนไม่ใช่เหรอวะ?"
ผมดึงมือไอ้ภีมออก มันพยักหน้ารับเบาๆแต่ก็ยังจ้องหน้าผมอยู่แบบนั้น มึงต้องการอะไรจากกูอีกชายภีม แค่แฟนคลับของพี่มันกูก็กลัวจะตายอยู่แล้ว ยังโดนมึงคาดคั้นอีก โว้ยยย

"แล้วมึงแมนป่ะ?"
อ้าว ไอ้ออยทำไมมึงถามเพื่อนมึงแบบนี้อ่ะ เห็นผมเป็นคนแบบไหนวะเนี่ย ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็มองนมมองก้นผู้หญิงมาตลอด.. นี่ไม่ได้หื่นนะ มันก็เรื่องธรรมดาของผู้ชายป่ะวะ แหะๆ ผมแยกเขี้ยวใส่มันก่อนจะเอื้อมมือไปดีดหน้าผาก คำถามมึงนี่ทำกูใจแป้ว ช่วงนี้ยิ่งเขินไอ้พี่จีบบ่อยด้วย

"แมนๆเตะบอลเลยครับน้องสาว"
ผมยืดอกแล้วทุกกำปั้นลงไป เป็นไงเท่ใช่ไหมล่ะ แต่ขอสารภาพนะครับ โคตรจุกเลย เผลอทุบแรงไปหน่อย ไอ้ออยเบ้ปากใส่ผมแบบคนที่ไม่เคยเชื่ออะไรเลย

"กูจะดูว่ามึงจะแมนได้นานแค่ไหน ดูอย่างไอ้ภีมดิ แมนๆเล่นบาสฯยังมีแฟนเป็นพี่ดีพเลย"
ไอ้คนถูกพาดพิงถึงกับหันขวับขึ้นมาจากโทรศัพท์ทันที แต่มันก็คือเรื่องจริงซึ่งไอ้ภีมไม่สามารถปฏิเสธได้

"เงียบๆไปไอ้ออย"
ไอ้ภีมชี้หน้าอย่างคาดโทษ ประมาณว่าถ้ามึงยังพูดออกมาอีกคำเดียวแก้วชานมจะไปแปะอยู่บนหน้ามัน

"โธ่ เพื่อนกูจะหนีไปมีผัวกันหมดแล้วเหรอ งั้นกูหนีไปมีเมียบ้างดีป่ะ?"
ไอ้ออยยังไม่เลิกพูดจาเพ้อเจ้อ แถมยังทำหน้าตาชวนฝันอีก ไอ้ภีมทนไม่ได้จนต้องล้วงน้ำแข็งหลอดในแก้วปาใส่ไอ้ออย รายนั้นสะดุ้งตกใจแล้วรีบสะบัดมือไปมาด้วยความรังเกียจ

"ยี้ๆๆๆ กูจะฟ้องพี่ดีพว่ามึงสกปรก!"
ไอ้ออยเบะปากลงเป็นเส้นโค้ง ผมได้แต่นั่งหัวเราะกับความบ้าบอของเพื่อน ส่วนไอ้ภีมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจถึงออยจะฟ้องไปพี่ดีพก็เข้าข้างแฟนตัวเองอยู่ดี แต่เหมือนผมจะลืมปฏิเสธอะไรไอ้ออยไปนะ...

"เห้ย!! กูไม่ได้จะมีผัวนะไอ้ออย พี่เขาไม่ได้มาจีบกู!"
พอคิดได้ก็รีบร้องแก้ตัวอย่างเอาเป็นเอาตาย ความคิดหมาไม่แดกของไอ้ออยถ้ามีใครได้ยินแล้วเอาไปพูดต่อทั้งผมทั้งพี่จีบจะเสียหายเอาได้ง่ายๆ

"เออๆไม่จีบก็ไม่จีบ กูจะคอยดู"

"ดูอะไรของมึง?"

"เปล้า ไปเรียนเหอะ"
สรุปผมก็ไม่เข้าใจสิ่งที่ไอ้ออยพูด มิหนำซ้ำยังลืมกินข้าวเช้าไปซะอย่างนั้น พอเลิกเรียนปุ๊ปผมก็ดิ่งตรงไปหาพี่จีบที่คณะทันที ไม่ได้สนใจเพื่อนที่ตะโกนโวยวายโหวกเหวกว่าผมจะรีบไปไหน

ผมยืนหอบแฮ่กอยู่ตรงต้นเสาหน้าโรงอาหารบอกตามตรงว่านัดกับพี่จีบเหมือนเป็นคำพูดไม่มีน้ำหนัก เพราะไม่อาจติดต่อเขาได้ ถ้าพี่จีบเบี้ยวนัดผมก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันเลยจำใจยืนรออย่างใจเย็นอยู่ตรงนี้ ไม่นานนักผมก็รู้สึกว่ามีมือใครบางคนมาสะกิดเข้าที่หัวไหล่ พอหันกลับไปก็อ้าปากร้องลั่นทันที จนเจ้าของมือต้องปิดปากผมเอาไว้

"อื้อออ อ่อย(ปล่อย)"
ผมประท้วงก่อนจะแงะมือพี่คินออกจากปากแล้วหอบหายใจอีกรอบ ก็ใครบอกให้พี่เขาใส่หน้ากากผีมาหลอกกันล่ะวะ

"ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอน้องคิส"
เสียงทุ้มหวานติดหัวเราะเอ่ยถามขึ้น ผมช้อนตามองพี่เขาอย่างเคืองๆแต่ก็ยอมพยักหน้ารับ สองสิ่งที่ผมกลัวมากคือความเร็วกับผีนี่ล่ะ หัวใจจะวายตาย

"ขวัญเอ้ยขวัญมานะมึง"
พี่จีบกลั้นหัวเราะก่อนจะวางมือลงมาลูบหัวกันเบาๆ ผมส่งสายตาเคืองๆไปให้แต่ก็ไม่ปัดมือนั่นทิ้ง ก็ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นเพราะสัมผัสของพี่จีบนี่หว่า

"ไปหาที่นั่งกัน"
พี่แก็ปมองผมก่อนจะจับแขนเสื้อพี่คินแล้วลากออกไป ไอ้คนบ้าก็มองหน้าผมด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์จนผมหลุดขำออกมา พี่คินนี่โอเวอร์แอคติ้งได้ตลอดสิน่าให้ตายเถอะ

"กินข้าวด้วยกันนะ"
พี่จีบชวน ผมรีบพยักหน้ารับเพราะไม่ได้กินอะไรมาแต่เช้า ร่างสูงส่งยิ้มมาให้กันก่อนจะเดินตามเพื่อนอีกสองคนออกไปซึ่งผมก็เดินตามไปด้วย

ผมซื้อทั้งข้าวทั้งก๋วยเตี๋ยวมาตั้งไว้แล้วลงมือจัดการมัน คนอื่นมองมาอย่างทึ่งๆจนผมหยุดมือกินแล้วเลิกคิ้วมองพวกเขา

"ทำไมกินเยอะจังวะ"
พี่จีบหันมาถามผมทั้งๆที่ตัวเองยังถือช้อนค้างอยู่ พี่คินมองผมไม่วางตาส่วนพี่แก็ปก็กินข้าวของตัวเองไปปกติ ผมรีบเคี้ยวข้าวแล้วกลืนลงคอก่อนจะตอบออกไป

"เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวอ่ะ"
ตอบเสร็จก็คว้าขวดน้ำมากระดกอึกใหญ่แล้ววางลงก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆไปให้เพราะเจอสายตาดุๆของพี่จีบ

"ทำไมไม่กิน หลังจากมาส่งกูก็เหลือเวลาอีกตั้งเยอะ"
คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน มือยังถือช้อนค้างอยู่แบบนั้น ถ้าผมไม่กลัวพี่จีบต่อยหน้าผมคงอ้าปากงับข้าวคำนั้นไปแล้ว

"แหะ.. คุยกับเพื่อนเพลินไปหน่อยเลยลืมกิน"
ผมก้มหน้าลงด้วยความอาย ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยเล็กน้อย จะให้บอกความจริง่วาคุยเรื่องแคปชั่นรูปตัวเองกับพี่จีบในเพจคนดังมหา'ลัยมันก็รู้สึกคันยุบยิบในหัวใจแปลกๆ

"อ๋อ เออ กินเข้าไปเยอะๆ"
พี่จีบพูดจบก็เลื่อนช้อนของตัวเองมาจ่อหน้ากัน ผมมองด้วยความสงสัย คือส่งมาทำไม? จะป้อนเหรอ

"กินดิ ป้อน"
คำสั้นๆ น้ำเสียงราบเรียบธรรมดาแต่มันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยๆเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว ยิ่งสายตาติดล้อเลียนของพี่คินส่งมายิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูก ได้แต่ยึกยักจะปฏิเสธก็ไม่กล้าจะตอบรับก็รู้สึกขัดเขิน

"เร็วๆกูเมื่อยแขนแล้วเนี่ย"
เหมือนจะเร่งเร้าให้รับ สุดท้ายผมก็หมดหนทางบ่ายเบี่ยงจำใจอ้าปากงับข้าวในช้อนเข้าปากไปอย่างว่าง่าย พี่จีบยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะใช้ช้อนคันเดิมตักข้าวเข้าปากตัวเองอย่างสบายใจ และเหมือนไอ้พี่คินที่รอจังหวะมานานได้โอกาส สายตาเจ้าเล่ห์ส่งมาให้ก่อนคำถามของพี่คินจะทำให้ผมสำลักข้าวอย่างหนัก

"วันนี้ก็มาด้วยกันอีกแล้วเหรอวะ สองคนนี้แอบกิ๊กกันป่ะเนี่ย"
สายตากรุ้มกริ่มส่งมาพร้อมกับรอยยิ้มเข้าเล่ห์ ผมชะงักแล้วสำลักข้าวอย่างหนักเมื่อฟังประโยคนั้นจบ จากมีซัมติงตอนนี้พัฒนาเป็นกิ๊กแล้วเว้ย ไอ้เชี่ยพี่คินนน สมองมึงคิดเป็นแต่เรื่องชู้สาวหรือยังไงวะ ผมไอโขลกอย่างหนักดีนะที่ปิดปากทันไม่อย่างนั้นทั้งโต๊ะคงได้รับกระสุนเมล็ดข้าวกับผัดกะเพราหมูแน่ๆ พี่จีบส่งขวดน้ำมาให้ผมอยากรวดเร็วก่อนจะช่วยลูบหลังกันขณะที่ผมดื่มน้ำ

"แค่ก กิ๊กบ้าอะไรของพี่คินวะ แค่มาด้วยกันเอง"
ผมพูดออกไปทั้งๆที่ยังไม่หายจากอาการสำลักเท่าไหร่ พี่จีบที่ลูบหลังกันอยู่ก็ไม่เคยคิดจะพูดปฏิเสธเพื่อนบ้างหรือยังไงวะ เอาแต่ยิ้มบ้าบออยู่ได้ คิดจะแกล้งอะไรผมอีกล่ะ

"รถมันก็มีนะน้องคิส จะรบกวนน้องคิสทำไมล่ะ"

"มึงลืมเหรอว่ารถกูเสียยังซ่อมไม่เสร็จ"
พี่จีบพูดด้วยท่าทางสบายๆไม่มีความกังวลเรื่องรถเสียเลยสักนิด แต่พี่คินนี่หรี่ตามองพี่จีบเหมือนกับมองอะไรบ้างอย่างออก

"อ๋อหราาาา ยังซ่อมไม่เสร็จเหรอ อืมๆ"
เสียงพี่คินกวนตีนชะมัด แต่พี่จีบก็ไม่ได้สนใจอะไรแถมยังแอบจิ้มลูกชิ้นในชามก๋วยเตี๋ยวผมไปอีกด้วย ฮึ่ย ของโปรดเลยนะเว้ยแต่ที่ไม่โวยวายเพราะคนขโมยเป็นพี่จีบหรอกนะ ถ้าเป็นพี่คินผมคงโวยจนโรงอาหารแตก

ผมกินอาหารจนหมดแล้วลูบท้องตัวเองป้อยๆ อิ่มแล้วหนังตาก็เริ่มหย่อน และเหมือนสมองจะประมวลผลอะไรบางอย่างได้ ที่พี่จีบนัดผมมาที่นี่เพราะว่ามีธุระนี่หว่า เจ้าตัวลืมแล้วหรือเปล่าเนี่ย

"พี่จีบมีธุระอะไรกับผมครับ?"
พี่จีบหันมามองผมทั้งๆที่คาบหลอดอยู่ ภาพตรงหน้าทำให้ผมอยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วถ่ายรูปสักสองสามรูป องศานี้ท่าทางแบบนี้ โคตรเซ็กซี่เลยว่ะมายไอดอล

"หือ.. ลืมไปแล้วว่ะ ถ้าคิดออกจะบอกแล้วกัน"
พี่จีบยักคิ้วให้ก่อนจะดูดน้ำทั้งๆที่มองหน้าผมอยู่ สายตากรุ้มกริ่มที่ส่งมานั่นคืออะไรกันครับ ช่วยบอกผมทีเถอะ!! หัวใจเจ้ากรรมมันจะพังลงมากองอยู่นอกอกอยู่แล้ว โทษฐานที่เต้นแรงเกินไป

"อะ อือ"
ถึงกับตอบรับติดอ่างไปเลยครับ... แล้วผมก็เหมือนโดนหลอกให้มานั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกันยังไงก็ไม่รู้เพราะจนแล้วจนรอดพี่จีบก็คิดธุระของตัวเองไม่ออก ไม่รู้ว่าเพจคนดังจะอัพเดทอะไรกันอีกไหม สงสัยต้องสมัครเฟซลับเอาไว้ติดตามเพจเองซะแล้วล่ะมั้ง


---------------------------------------------------


Q & A กับ ไลค์ และ จีบ
Q : รถจีบยังซ่อมไม่เสร็จอีกเหรอ ได้ข่าวว่าส่งซ่อมไปนานแล้วนะ
ไลค์ : ซ่อมไม่เสร็จที่ไหนกัน ก็รถมันจอด... อื้อออ อ่อยอู! (ปล่อยกู) /จีบเอื้อมมือไปปิดปากพี่ไลค์พร้อมล็อคคอ
จีบ : พอดีว่าอะไหล่รถต้องนำเข้าจากต่างประเทศเลยใช้เวลานานหน่อยน่ะครับ เลยยังซ่อมไม่เสร็จ ^^

--------------------------

Q & A กับ แก็ป
Q : คิดว่าคินเป็นคนยังไง?
A : คนบ้า แต่ก็น่ารัก
Q : เอ๊ะ ชมกันแบบนี้มีซัมติงอะไรกันหรือเปล่า? /เหล่มอง
A : ขอเปลี่ยนคำถามครับ ^^
Q : .......



ตอนที่ 3 มาแล้วว ~ เรายังคงเห็นพี่จีบเนียนไปเรื่อย น้องคิสก็ยังคงเป็นเด็กน่ารักน่าแกล้ง
ไม่รู้ว่าโดนพี่จีบหลอกสกินชิพมากี่รอบแล้วด้วย หึหึ
Q & A เหมือนจะเผยด้านมืดตัวละครยังไงก็ไม่รู้ 555555
ปล. อ่านให้สนุกน้า

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
พี่จีบแกเนียนมากจริงๆ
น้องคิสก็โดนหลอกง่ายเกินไปแล้วนะ  :impress2:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ค่อยๆเนียนไปค่ะพี่อิอิ.
อิพี่ก็อยากอ่อย อิน้องก็อยากอ้อน.  :mew3:
แอดมินเพจทำดีค่ะ คู่จิ้นคู่ใหม่กำลังจะกลายเป็นคู่จริงแล้ว
#มนต์รักหมวกกันน็อค #จีบคิส.  ขอบคุณคนเขียนค่ะ รอต่อนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2016 11:36:03 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ nnutchachar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
โอ๊ยยย เห็นชื่อคนแต่งแล้วกด+1เลยค่าา
ปกตินี่ตามในเด็กดีมินฟอง (คนที่เม้นยาวๆน่ะค่ะ..555555555)
ฮืออออ เรื่องใหม่ก็น่ารักเหมือนเดิม แต่ไม่ได้จีบตรงๆเหมือนมินฟอง
ชอบคาแรกพี่จีบจัง มีความกวนโอ๊ย มีความวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว5555555
สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ♥

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด