▲♦ มังกรกานต์ (มังกรขาว) ♦▼ ตอนพิเศษ (3/7/2017)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▲♦ มังกรกานต์ (มังกรขาว) ♦▼ ตอนพิเศษ (3/7/2017)  (อ่าน 55890 ครั้ง)

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




Illust : Cheyenne
————————————————————————————————
*นิยายเรื่องนี้ผู้โพสไม่ได้เป็นคนแต่งเองนะคะ*
แต่ได้รับอนุญาตจากคุณเจี่ยเจีย(ผู้แต่ง) ให้นำมาลงในนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ขอให้สนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ  ^^

————————————————————————————————

บทนำ
บทที่ 1บทที่ 2บทที่ 3บทที่ 4
บทที่ 5บทที่ 6บทที่ 7บทที่ 8
บทที่ 9บทที่ 10บทที่ 11บทที่ 12
บทที่ 13บทที่ 14บทที่ 15บทที่ 16
บทที่ 17บทที่ 18บทที่ 19บทที่ 20 End
ตอนพิเศษ


ฝากติดตามเรื่องสั้นซึ่งเจี่ยเจียลองแต่งเป็นเรื่องแรกด้วยนะคะ
☯ [เรื่องสั้น] คัมภีร์... วั่งเสี่ยง

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2017 15:35:25 โดย virgo »

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: ↠ มังกรขาว ↞ บทนำ
«ตอบ #1 เมื่อ27-10-2016 00:09:00 »

✽ มังกรขาว By เจี่ยเจีย ✽

บทนำ

   "ที่นี่ที่ไหน"

   สถานที่แห่งนี้ทั้งมืด อับ และชื้น สองขาของชายหนุ่มก้าวต่อไปพร้อมสอดส่ายสายตาหาทางหนีทีไล่ไปด้วยในตัว สองมือค่อยๆ คลำตามผนังชื้นแฉะไปทีละนิด แสงสว่างปลายทางที่ทอลอดออกมาให้เห็นช่วยให้เขารู้สึกใจชื้นขึ้นมาก จึงก้าวขาด้วยความเร่งรีบตามลำแสงนั้นไป

   จนเมื่อเห็นภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้หายใจติดขัดขึ้นมาทันที ไม่ใช่ความโอ่โถงของถ้ำแห่งนี้หรืออัญมณีแพรวพรายที่ "เกลื่อนกลาด" เต็มพื้นและผนัง หากเป็นมังกรขาวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงหรูหรากลางถ้ำนั่นต่างหากที่ทำให้เขาอึ้ง!!!

   มังกร?....มังกรเนี่ยนะ เขาลองก้าวเท้าถอยหลัง หลับตา แล้วนับ 1-10 ในใจก่อนก้าวเข้าโถงนั่นไปอีกครั้ง หากครั้งนี้มีเพียงสีสันแสบตาของเครื่องทองหยองเท่านั้น ฟู่....ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก คงตาฝาดน่ะ หลังจากปลอบใจตัวเองเสร็จก็เริ่มเดินสำรวจสภาพภายใน

   "พ่อเจ้าประคุณรุนช่องเอ๊ยยย...เกิดมาก็พึ่งเคยเจอ ใครน้ออ ช่างรวยเละเทะขนาดนี้" สองตาชื่นชมสมบัติตรงหน้า สองมือก็ไม่ยอมน้อยหน้าแตะชิ้นโน้น ลูบชิ้นนั้นอย่างเพลิดเพลิน

   "ใครอนุญาตให้จับ"สมบัติ" ของข้าไม่ทราบ!!!"

   สิ้นเสียงคำรามพร้อมกันกับที่ร่างสีขาวพราวพร่างปรากฏกายขึ้น ใจของธรณินโลดขึ้นสูงมาอยู่ติดกับคอหอยทันที ร่างกายพลันแข็งทื่อ สองตาอยากหลับลงเพื่อไม่ให้เห็นภาพตรงหน้าแต่ดวงตาเจ้ากรรมเบิกโพลงจ้องมอง "มังกร" ตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง ไล่มาจากลำตัวยาวสีขาวแลดูนุ่มเรียบ ส่วนดวงตานั้นเล่าเป็นสีน้ำเงินเข้มเหลือบดำ หัวใหญ่โตหันมามองยิ้มเย้ย...ยิ้ม...เย้ย ธรณินอธิบายไม่ถูกว่าทำไมจึงรู้สึกว่ามังกรตัวนี้กำลังเย้ยเขา
 
   " เจ้าเข้ามาในนี้ได้ยังไง" ว่าพลางมังกรขาวก็เลื้อยมาพันอยู่รอบตัวชายหนุ่มอย่างต้องการกักขังไว้ไม่ให้หนีพ้น ลิ้นยาวสีแดงสดลากไล้ไล่เลียตั้งแต่ติ่งหูจนถึงบริเวณไหปลาร้าของชายหนุ่มเพื่อจับความผิดปรกติหากฝ่ายนั้นคิดโกหกเขา

   "มะ...ไม่รู้ ยะ..อยู่ๆ ก็มาโผล่ที่นี่เอง" ธรณินเหงื่อกาฬแตกพลั่ก หนาวเยือกไปตลอดแนวไขสันหลัง

   "หึ...มนุษย์เช่นเจ้า เข้ามาคงมีจุดประสงค์ด้วยสมบัติแห่งข้ากระมัง"

   "เอ๊!!" คราวนี้ธรณินเริ่มส่งเสียงสูงประท้วง

   "ก็บอกว่ามาได้ไงไม่รู้ รู้สึกตัวก็มาอยู่ที่นี่แล้วเนี่ย" ใบหน้าคมเริ่มเหลืออดที่ถูกกล่าวหาว่าเข้ามาขโมยของ    "เช่นนั้นเจ้าเข้ามาได้อย่างไร" มังกรขาวส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างรำคาญเต็มที

   "โว๊ยยย ...ก็บอกว่าไม่รู้ๆ หลับอยู่ดีๆ ตื่นมาก็มาอยู่ในถ้ำเนี่ย"

   "หลับงั้นรึ...แสดงว่า..เทพนิทรานำเจ้ามาสู่ข้า" ลิ้นที่ลากไล้อยู่ตามไหปลาร้าค่อยๆไล่ระเรื่อยมาถึงบริเวณหัวใจ    "ใจเจ้าเต้นแรงดี..ข้าชอบ..มันแสดงถึงความหนักแน่น..."

   แน่นบ้าอะไรล่ะใครเจอสถานการณ์อย่างนี้แค่ใจเต้นแรงยังน้อยไปไม่ช็อคตายก็บุญละ ธรณินคิดอย่างเข่นเขี้ยว จะให้พูดออกมาน่ะเรอะ!!! เกิดโดนงับหัวขาดไปจะทำไง

   ร่างของมังกรขาวเริ่มเปล่งแสงจ้า ศีรษะใหญ่โตเริ่มหดเล็กมีผมสีน้ำตาลทองนุ่มสลวยปกคลุม ร่างกายปรากฏเป็นรูปลักษณ์ของชายหนุ่ม ปากบาง คิ้วเรียว จมูกรั้นส่อแววเอาแต่ใจ แต่ที่ยังคงเดิมเหมือนยามเป็นมังกรนั่นคือดวงตาสีน้ำเงินเหลือบดำนั่นต่างหาก ดูลึกลับและล่อลวง น่าค้นหา

   ธรณินหลับตาหลบแสง เกร็งตัวรอรับการประทุษร้าย หากเมื่อเสียงรอบกายเงียบลง เขาจึงค่อยๆ หรี่ตามองอย่างกล้าๆ กลัวๆ กวาดตามองไม่พบ จนเมื่อก้มลงมาจึงเห็นใบหน้าขาวที่สูงระดับอกกำลังมองสบอยู่อย่างท้าทาย ใบหน้านั้นโน้มลงชิดแนบอกตำแหน่งหัวใจของธรณิน จุมพิตอ้อยอิ่งตรงผิวเนื้อบริเวณนั้นจนเกิดรอยแดงจึงเงยหน้ามาขยิบตาอย่างซุกซน
   "เจ้า...เป็นของข้า!!"

   "เฮ้ย!!!"

   ธรณินร้องเสียงหลงก่อนได้ยินเสียงดัง "พลั่ก" เต็มสองหู บนเพดานห้องมีดาวระยิบระยับจากการที่เขาตกเตียงลงมากองที่พื้นด้านล่าง ธรณินกระพริบตาปริบ
 
   "ฝัน???"

TBC...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2016 14:51:22 โดย virgo »

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: ↠ มังกรขาว ↞ บทที่ 1
«ตอบ #2 เมื่อ27-10-2016 00:11:49 »

บทที่ 1

   ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

   เสียงนาฬิกาปลุกส่งเสียงลากยาวนานต่อเนื่อง ส่งผลให้ร่างในกองผ้าดิ้นฮึดฮัดอย่างขัดใจ มือยาวควานหาโทรศัพท์โดยที่หนังตายังสมัครสมานสามัคคีประกบติดกันแน่นหนึบ เมื่อสัมผัสพบวัตถุที่ต้องการจึงค่อยยันตัวลุกขึ้นแล้วตัดใจแยกคู่รักหนังตาบนกับหนังตาล่างออกจากกันด้วยความอิดออด

   เช้าวันนี้ธรณินตื่นมาด้วยความรู้สึกหนักหัว ปัญหามากมายประดังประเดเข้ามาไม่หยุดหย่อน แถมเมื่อคืนยังฝันประหลาดอีก เดินลากร่างสะโหลสะเหลเข้าห้องน้ำไปจัดการอาบน้ำ หวังให้ร่างกายสดชื่น แต่ก็ต้องมาหงุดหงิดกับรอยจ้ำสีแดงบริเวณแผ่นอกตรงตำแหน่งหัวใจด้านซ้ายนี่แหละที่กระตุ้นให้ใบหน้าร้อนผ่าวแต่เช้า

   “มังกรลามก” พึมพำเสียงแผ่ว ก่อนจะสะบัดหัวขับไล่ความฟุ้งซ่าน แล้วรีบจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย

   คว้าเสื้อสูทแบบเรียบสีดำมาใส่ เสยผมเปิดใบหน้าเงียบขรึม ดวงตายาวรี จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากเข้ารูป เขารู้ตัวว่าตัวเองหน้าตาดี ไม่น่าจะเป็นแค่ผู้จัดการนายแบบ บางครั้งนายแบบบางคนยังหล่อสู้เขาไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ทำไงได้ เขาวางแผนธุรกิจได้ จัดคิวได้ ดูแลตารางงานและชีวิตหนุ่มๆ เหล่านั้นได้ แต่...เขาเป็นนายแบบเองไม่ได้...ก็เท่านั้น

   “คุณณินค้า วันนี้น้องที่นัดแคสไว้มากันครบแล้วนะค้า นี่รอคุณณินมาดูตัวแล้วก็สอยไปใช้งานได้เลยค่า” สมชายหรือที่เจ้าตัวมักแนะนำตัวกับใครต่อใครว่า “ซิสซี่” ส่งเสียงรายงานแจ้วๆ ทันทีที่ธรณินก้าวเข้าประตูสำนักงานมา ตาเรียวยาวตวัดมองนิดหนึ่ง พอให้รู้ว่าเจ้าตัวรับรู้แล้ว ก่อนจะถามด้วยเสียงทุ้มต่ำอันเป็นเอกลักษณ์

   “ผู้จัดการท่านอ่าน เลือกดูหรือยัง”

   “เรียบร้อยแล้วค่ะ รับตัวไปหมดแล้ว เหลืออยู่ 2 - 3 คน คุณณินจะพบเลยไหมคะ” จีบปากจีบคอเล่าไป ตาก็เก็บภาพหนุ่มหล่อในฝันไป สุขใดไหนจะเท่าได้เป็นเลขานุการคนหล่อเหลาเนอะ คุณธรณิน  เกริกก้องกังวาน ผู้จัดการนายแบบสุดฮอต มือปั้นระดับพระกาฬ ผู้ริเริ่มก่อตั้งบริษัท “ผู้จัดการ จำกัด” บริษัทที่รับหน้าที่จัดปั้นดูแลคิวงาน ชีวิตส่วนตัวและอีกจิปาถะให้นักแสดง นักร้อง นายแบบแบบครบวงจร

   “เพี๊ยะ!!” เสียงดีดหน้าผากดังขึ้นพร้อมกับมือของสมชายที่กุมหน้าตัวเองพลางร้องโอดโอย

   “เช็ดน้ำลายแล้วไปทำงานได้แล้ว” ธรณินสั่งเสียงขรึมหากแววตาเต้นริกเป็นประกายอย่างคนขี้เล่นมีแววสนุกสนานยามได้แกล้งคนก่อนก้าวเท้ายาวๆ จากไป

   เฮ้อ... เด็กใหม่ที่มาวันนี้ไม่มีคนไหนที่รู้สึกเตะตาเขาได้เลย ทางบริษัทโฆษณาที่เคยมีบุญคุณกันมาก่อนหน้าก็มาเร่งยิกๆ ว่าต้องการเด็กผู้ชายหน้าใหม่ที่ไม่เคยผ่านงานโฆษณาใดมาก่อน มีลักษณะเข้าถึงได้ง่าย บริสุทธิ์ บอบบาง เพื่อมาโฆษณาลิปสติก ไอ้คนคิดคอนเซ็ปท์ก็ท่าจะบ้า จะไปหาได้ที่ไหนผู้ชายที่ทาลิปสติกออกมาแล้วดูเซ็กซี่ น่าทะนุถนอม เขาอยากจะทึ้งผมตัวเองออกมาให้หมดหัวจริงเชียว

   ก๊อกๆ สิ้นเสียงเคาะประตู สมชายก็ไม่รอให้คนในห้องอนุญาต กลับถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาพร้อมด้วยใบหน้าตื่นเต้นซึ่งปิดไม่มิด

   “คุณณินค้า คุณณิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงค่ะ Angel ที่พวกเราตามหามาแล้วค่า” พูดจบก็ผายมือด้านหลังเบี่ยงตัวหลบให้ผู้มาทีหลังก้าวขาขึ้นมาด้านหน้า

   ธรณินหันไปดูตามเสียงเรียกก็ต้องตกตะลึงตัวค้างแข็ง ไม่ใช่ด้วยใบหน้าอ่อนใสรับกับผมสีน้ำตาลทองพลิ้วนุ่ม ไม่ใช่ด้วยร่างกายที่มีแขนขาเรียวยาวดูสมส่วน ไม่ใช่ด้วยดวงตาพราวระยับแฝงแววหยอกเย้า หากทั้งร่างกายที่ประกอบขึ้นมานั้นคือ มังกรขาวลามก!!!

   “ต๊าย... คุณน้องดูซิคะ คุณณินอึ้งไปเลย คุณน้องนี่แหละตรงตามคอนเซ็ปท์ Angel สุดๆ เหมือนกับอีตาคนคิดคอนเซ็ปท์เห็นคุณน้องแล้วถึงค่อยบรรยายรูปลักษณ์คุณน้องออกมาเลยล่ะค่ะ ยังไงลองคุยรายละเอียดกับคุณณินดูก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่ออกไปเตรียมน้ำกับขนมมาให้เนอะ” สมชายยิ้มแย้มแก้มปริพลางกล่าวพยักเพยิดกับเด็กหนุ่มตรงหน้า

   หนุ่มน้อยกระพุ่มมือยกขึ้นไหว้สวย “ขอบคุณครับพี่”

   “ต๊าย! อยากจะกรีดร้องดังๆ หน้าตาดี มารยาทงาม พี่ชื่อสมชายนะจ๊ะ แต่เรียกพี่ว่าซิสซี่จะดีกว่าเยอะ”

   “ครับ ขอบคุณครับซิส” หนุ่มน้อยยกมือไหว้อีกรอบ

   “น่าร็อคอ่า” สมชายหัวเราะคิกคักชอบในก่อนจะเดินไปเตรียมของรับรองแขก

   “แกร๊ก” สิ้นเสียงประตูที่ปิดลง ใบหน้าเรียบร้อยไร้เดียงสาเมื่อครู่ก็จางหาย แทนที่ด้วยความเจ้าเล่ห์ที่ระบายอยู่เต็มดวงหน้า ก่อนจะก้าวเท้าเอื่อยๆ ไปประชิดตัวเป้าหมาย

   “เจอกันอีกแล้ว...พี่ณิน” ปลายเสียงลากยาวอย่างยั่วเย้า

   “จุ๊ๆๆ เหงื่อแตกเลยเหรอครับพี่ ดีใจที่ได้เจอผมขนาดนั้นเชียว” นิ้วเรียวลากไล้ตามกรอบใบหน้าแผ่วเบา ธรณินเผลอตัวกลั้นลมหายใจโดยอัตโนมัติ

   “มนุษย์ต้องหายใจไหมครับพี่ กลั้นไว้นานๆ อึดอัดแย่” พูดจบก็เป่าลมหายใจรดข้างหู ธรณินขนลุกซู่ แข้งขาพลันอ่อนปวกเปียกทรุดตัวลงบนเก้าอี้ทันที

   “นะ...นาย นายมาได้ยังไง”

   “พี่ณินใจร้าย...ผมอุตส่าห์ดั้นด้นตามหามาถึงที่นี่ แทนที่จะแสดงท่าทางดีอกดีใจหน่อยก็ไม่ได้ ทำท่าหวาดระแวงแบบนี้ผมเสียใจนะ” มังกรลามกพูดเสร็จก็แสร้งกรีดนิ้วปาดน้ำตาที่หางตา (แน่นอนว่าไม่มีน้ำตาซักหยด!!)

   ธรณินสูดลมหายใจเข้าลึก ระงับความตื่นเต้นและหมั่นไส้?? จากนั้นจึงเริ่มเอ่ยถามเป็นการเป็นงาน

   “นี่เรื่องจริงใช่ไหม”

   ร่างตรงหน้าเลิกแสร้งอ่อนแอ ดวงตาวาววับจุดรอยชื่นชมที่ไม่พยายามปกปิดแม้แต่น้อย

   “พี่ณินเก่ง รับมือกับสถานการณ์ได้น่าชื่นชมมาก มามะผมให้รางวัล” ฟอดดด ธรณินยกมือกุมแก้มขวา ตาเบิกโต

   “เฮ้ยๆ ไอ้มังกรลามก ปากว่ามือถึงตลอดตั้งแต่ในฝันยันความจริง หยุด!!!” ชายหนุ่มยกมือซ้ายชี้ ขณะที่มือขวายังกุมแก้มข้างที่โดนมังกรลวนลาม

   “หยุดอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ พูดกันให้รู้เรื่องก่อน”

   มังกรขาวหน้ามุ่ยอย่างขัดใจ หากก็ยอมลากเก้าอี้มานั่งเบื้องหน้าธรณินแต่โดยดี และดีกว่านี้มากถ้านั่งเฉยๆ โดยไม่ต้องคว้ามือของเขาไปลูบคลำแบบนี้

   ธรณินสูดลมหายใจเข้าลึกอีกรอบ รอบนี้ไม่ใช่ระงับความตื่นเต้น แต่เป็นระงับความโกรธที่จะไม่เผลอสะบัดหลังมือใส่เจ้ามังกรหน้ามึนตัวนี้

   “เล่ามาครับ เรื่องที่ผมควรรู้”

   “เรื่องมันเกิดจากวันนั้น...หลังจากที่ฝนตกติดต่อกันมานาน เช้าวันถัดมาอากาศก็สดใส นกร้องขับขาน สายลม...”

   “ขอเนื้อๆ น้ำไม่ต้อง”

   “ชิส์” มังกรหนุ่มทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายเมื่อถูกขัดคอ

   “ทำไมพี่ณินไม่มีอารมณ์สุนทรีบ้างน้า โอเคๆ ไม่ต้องทำหน้าดุ”

   “ก็อากาศดีไง บนนู้นนน” นิ้วเรียวยกชี้ไปทางด้านบนประกอบการเล่า

   “เลยจัดให้มีงานเลี้ยงสังสรรค์กันนิดหน่อย แล้วก็เป็นธรรมดาที่มังกรหนุ่มหน้าตาดี” จบประโยคหน้าตาดี มีคนเลิกคิ้วไม่เชื่อถือส่อแววตาคล้ายจะถามว่า “หรา” ข้ามมาให้

   “บรรดาแม่ๆ ทั้งหลายก็เริ่มทยอยแนะนำลูกคนนั้น หลานคนนี้ให้เยอะแยะเต็มไปหมด ผมก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อยจนอ่อนใจ ทีนี้ไอ๋จัน เอ่อ หมายถึงเทพนิทราน่ะ มันบอกว่าผมเลือกมาก ถ้ายังไงลองให้โชคชะตาเป็นฝ่ายเลือกให้ก็แล้วกัน”

   “แล้วทำไมต้องเป็นผม” ร่างสูงโน้มตัวมาด้านหน้า

   “อันนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อนนิดนึง คือทุกๆ สิ่ง ทุกอย่างในโลกนี้ ต่างก็มีดวงจิตเป็นตัวควบคุม ยิ่งเมื่อเราหลับใหล หรือมีสมาธิตั้งมั่นขึ้นมาเมื่อไหร่ ดวงจิตจะเป็นตัวกำหนดสิ่งต่างๆ ให้สอดคล้องกับชีวิตของเรา ในกรณีของพี่ณินกับผม มีเทพนิทราเป็นตัวกลางใช้ดวงจิตที่หลับใหลของผมเป็นที่ตั้งดึงดูดดวงจิตที่..ใช้คำว่าอะไรดีล่ะ” มังกรหนุ่มมีสีหน้ายุ่งยากในการหาคำอธิบาย

   “คลิกกัน...ในภาษาของผมน่ะนะ” ธรณินเอ่ยเบาๆ

   “ใช่ๆ พอเราคลิกกันได้ พี่ณินถึงเดินทางผ่านฝันไปหาผมที่บ้านได้ยังไงล่ะ”

   “ถ้างั้นตอนนี้ก็หมายถึงผมเป็น เอ่อ...เนื้อคู่ของคุณ” ยิ่งพูดเสียงยิ่งเบาลง สวนทางกับใบหูที่เริ่มแดงมากขึ้น

   มังกรหนุ่มยกมือเท้าคาง เอียงคอมองด้วยความเอ็นดู ไม่มีการตอบคำถาม แต่รอยยิ้มกระจ่างบนใบหน้านั้นแทนคำตอบได้เป็นอย่างดี

   “แล้วทำไมเป็นผม หมายถึง ทำไมเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง”

   ฝ่ามือขาวเอื้อมไปประคองใบหน้าชายหนุ่มไว้ ก่อนค่อยๆ จรดหน้าผากมาแตะแผ่วเบา

   “ดวงจิตคือดวงจิตธรณิน ไม่แบ่งแยกชายหญิง ไม่ว่าจะอยู่ในร่างใด จิตสองเราเป็นคู่กัน”

   “คำ...คำถามสุดท้าย” ธรณินเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก

   “หืม ยังมีคำถามอีก ว่ามาสิ” เสียงกระซิบตอบผะแผ่ว ชวนให้บรรยากาศวาบหวามอย่างประหลาด

   “ถ้า...ถ้าคู่กันมีปัญหาก็จะช่วยเหลือใช่ไหม?” ธรณินรวบรวมความกล้าจ้องไปในดวงตาสีน้ำเงินเหลือบดำคู่น้นอย่างรอคอยคำตอบ

   “ตามแต่จะบัญชาทุกอย่าง”

   “งั้นโอเค ดีล!!” ธรณินคว้ามือมังกรขาวจับเขย่าด้วยความสมใจ

   “ยินดีต้อนรับสู่บริษัทผู้จัดการนะครับ งานแรกของคุณคือถ่ายโฆษณาลิปสติกของ KISS รุ่น Angel Kiss ภายใต้คอนเซ็ปท์ Angel รายละเอียดเดี๋ยวผมคุยกับคุณอีกที ว่าแต่คุณมีพวกบัตรประชาชนอะไรแบบนี้ไหม ผมจะได้ทำประวัติใส่ไว้ในรายชื่อนายแบบใหม่ในสังกัดบริษัทเลย”

   มังกรขาวปากอ้าตาค้าง บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกเมื่อครู่ถูกทำลายไม่มีชิ้นดี มนุษย์คนนี้ช่าง...เฮ้อ!

   “ช่างสมเป็นเนื้อคู่ท่านจริงๆ” คล้ายๆ จะได้ยินเสียงเทพนิทรายั่วเย้ามาตามลม

TBC...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2016 14:54:56 โดย virgo »

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: ↠ มังกรขาว ↞ บทที่ 2
«ตอบ #3 เมื่อ27-10-2016 00:14:49 »

บทที่ 2

   “แล้ว...ทำไมต้องมาสิงสถิตอยู่คอนโดผมด้วยครับ” ธรณินตลัดตาคมปลาบมองไปทางตัวปัญหาที่นั่งทำหน้าทำตาซื่อใสอยู่บนโซฟาสีครีมอย่างสบายใจ

   “พี่ณิน...อ่า”

   “ไม่ต้องมาอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน เรายังไม่รู้จักกันดีด้วยซ้ำ ชื่อคุณผมยังไม่รู้จักเลยคุณมังกร”

   “จริงด้วย ผมก็ลืมแนะนำตัวไป”

   จากทำท่าน่ารักขี้อ้อนเมื่อครู่ บรรยากาศก็เปลี่ยนไป เมื่อหนุ่มน้อยยืดตัวเต็มความสูง 175 เซนติเมตร ใบหน้าเคร่งขรึม แผ่กลิ่นอายสูงศักดิ์

   “สวัสดีครับ ผมชื่อกานต์ครับ”

   โครม!!! ธรณินเสียหลัก มือปัดไปโดนกองเอกสารร่วงกราวตกเกลื่อนเต็มพื้นห้อง

   “เป็นอะไรไปครับพี่ณิน”

   “ไม่มีอะไร แค่ผิดคาดนิดหน่อย” เสียงงึมงำตอบแผ่วเบาในลำคอ หากแต่มังกรหูดีกลับยังได้ยิน พุ่งตัวมาเกาะแข้งเกาะขาถามเซ้าซี้ไม่หยุด

   “พี่ณินเป็นอะไร ผิดคาดอะไร”

   นี่มังกรหรือแมวเนี่ย พัวพันแง๊วๆ อยู่ตลอดเวลา ในใจนึกเรื่องหนึ่ง แต่ปากตอบอีกเรื่องหนึ่ง

   “ก็เห็นตั้งท่าดิบดี เก๊กมาดเคร่งขรึม ผมก็นึกว่าคุณจะเป็นเจ้าชายรัชทายาท ที่มียศศักดิ์สูงๆ ตามมาด้วยชื่อยาวๆ น่ะ”

   “อ๋อ...” กานต์หัวเราะคิกคักตาพราว

   “เผ่าพันธุ์เราชื่อสั้นๆ เรียกง่ายๆ แบบนี้แหละ ชื่อผมนี่จัดว่าหรูแล้วนะ ส่วนมากขี้เกียจตั้ง เรียกตามลำดับกันเลยแหละ ประเภทหนึ่ง สอง สาม แบบนี้เลย แต่...ไอ้เรื่องเจ้าชายรัชทายาทนี่พี่ณินเดาถูกแฮะ”

   “เฮ้ย!!! จริงดิ แล้ว..แล้ว หม่อมฉัน ข้า อันตัวเรา โว๊ยยยย! พูดราชาศัพท์ยังไงวะเนี่ย” ธรณินแทบจะทึ้งผมตัวเองออกมาระบายความหงุดหงิด

   “โหย! พี่ณิ้นนนน ไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น ไม่มีใครในเผ่าพันธุ์ผมพูดราชาศัพท์กันหรอก เรานับถือกันที่ตัวตนมากกว่า เอาเป็นว่าพ่อแม่ผมเป็นผู้นำเผ่ามังกร ผมเป็นลูกชายคนเดียวของพวกท่าน เท่านี้จบ”

   กานต์ยิ้มตาหยีอธิบายสถานภาพตัวเองได้อย่างเรียบง่ายทั้งๆ ที่เป็นเจ้าชาย ธรณินยกมือตบหน้าผากตัวเอง ถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของวัน

   “โอเคๆ ตกลงเป็นมังกรชื่อกานต์ งั้นย้อนกลับมาที่คำถามเดิม ทำไมต้องมาอาศัยอยู่กับผมไม่ทราบคุณกานต์”

   กานต์ทำหน้าเคลิบเคลิ้มจนธรณินสงสัยว่าเมื่อครู่ตนพูดอะไรตรงไหนผิดไปหรือเปล่า ทบทวนไปสามสี่รอบก็ไม่เห็นว่าคำถามที่ว่าทำไมต้องมาอาศัยอยู่กับเขาจะชวนทำให้ทำหน้าลุ่มหลงได้ขนาดนั้น ด้วยความเอ็นดูที่เห็นร่างตรงหน้าหลับตาพริ้ม จึงยื่นมือไปดีดหน้าผากเสียงดัง “เพียะ” ทันที

   “โอ๊ย!” สองมือยกขึ้นกุมหน้าผาก ดวงตาเรียวตวัดค้อนทันที

   ธรณินกอดออกพิงผนังห้องหัวเราะหึๆ เสียงทุ้มต่ำในลำคอ ได้ความรู้ใหม่มาอีกหนึ่งข้อ มังกรตัวนี้ใช้ตาด่าได้ด้วย ถ้าพ่นไฟใส่ได้คงพ่นไปแล้ว เอ๊ะ! มังกรใช้ตาพ่นไฟได้ป่าววะ

   หลังจากที่ยกมือคลำป้อยๆ บริเวณหน้าผากแล้วไม่พบว่ามีรอยปูดนูนอะไร จากมังกรก็กลับสู่โหมดลูกแมวอีกครั้ง

   “พี่ณินอ่า ดีดหน้าผากผมทำไม”

   “ก็ผมแค่ถามว่าทำไมต้องมาอยู่กับผม แล้วทำไมต้องทำหน้าเคลิ้มขนาดนั้นด้วย”

   คราวนี้เจ้าตัวทำท่าเอียงอาย (ซึ่งผมคิดว่าโคตรเสแสร้งอะ)

   “ก็พี่ณินเรียกผมว่า ‘คุณกานต์’ ”

   ธรณินเลิกคิ้ว

   “แล้ว”

   “แล้วผมก็รู้สึกว่าถูกพี่ณินเรียกว่า ‘ที่รัก’ น่ะครับ”

   โอเควิชามโนเต็มสิบผมให้ร้อยเลย!!!

   ธรณินรู้สึกวิงเวียนหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม จึงเดินไปทรุดตัวลงที่โซฟาพลางคลึงขมับนวดไปด้วย สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง (ช่วงนี้รู้สึกปอดทำงานหนักมาก)

   “งั้นผมไม่เรียกชื่อคุณก็ได้ ตอบคำถามผมมาได้แล้ว”

   “พี่ณินใจร้ายยยย เรียกชื่อผมเถอะนะ ผมชอบออก”

   “อย่าเฉไฉ” วิญญาณผู้จัดการกลับเข้าร่าง แผ่รังสีกดดันคุกคามใส่นายแบบในสังกัดทันที

   “ก็ได้ครับ ตอบแล้วครับ อย่าทำหน้าดุสิ ผมตกใจหมด” กานต์เดินไปทรุดตัวนั่งเคียงข้างธรณิน เบียดกระแซะจะแทบจะสิงสู่ (ยังไม่ถึงขั้นสมสู่แต่ก็ใกล้เคียง) มือคว้าแขนธรณินมาคล้องไว้ พลางใช้หัวถูไถไหล่ไปมา

   “ก็ผมตัวคนเดียว จากบ้านจากเมือง จากเผ่าพันธุ์มาเผชิญโลกกว้าง เหลียวมองไปทางไหนก็ไม่รู้จักใครสักคน มีแต่พี่ณินคนเดียวที่ผมไว้ใจ ยกใจให้พี่ดูแลทั้งดวง เพราะฉะนั้น จึงสมเหตุสมผลที่สุดที่ผมจะมาอยู่กับพี่ครับ”

   อาการออดอ้อนหงุงหงิงทำให้ธรณินอดเอื้อมมือไปลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลทองนั้นไม่ได้ อันที่จริงก็นุ่มมือดีนะ ไม่ใช่สิ อันที่จริงมาอยู่ด้วยกันก็ดูแลง่ายดี เวลาจะไปทำงานก็จับยัดใส่รถพาไปได้เลย ไม่ต้องขับรถไปรับไปส่ง ไม่ต้องเสียค่าที่พักเพิ่มขึ้นมา บริษัทก็จะได้กำไรเพิ่มขึ้นมาด้วยจากตรงนี้

   นึกถึงเรื่องงานขึ้นมาธรณินจึงหันไปพูดอย่างจริงจัง

   “เรื่องอยู่เรื่องกินไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องงานนี่แหละที่ผมค่อนข้างกังวล”

   “พี่ณินบอกมาเลยครับ ว่าผมต้องทำอะไร ยังไงบ้าง ขอแค่พี่ให้ผมอยู่ด้วย ผมทำให้ได้ทุกอย่างแหละ ค่าแรงไม่รับยังได้เลยครับ พี่ก็เห็นอยู่ว่าที่บ้านผมทรัพย์สินเพียบ” กานต์คลี่ยิ้มประจบประแจง

   “เฮ้ย! ไม่ได้ ทำงานก็ต้องได้รับผลตอบแทน ว่าแต่ ที่ในถ้ำนั่นของจริงเรอะ” ธรณินอดถึงภาพในความฝันไม่ได้

   “จริงสิครับ อันนั้นของประดับตกแต่งในห้องนอนเฉยๆ คลังสมบัติจริงๆ อยู่อีกห้องนึง”

   “รู้แล้วว่ารวย แต่ทำงานก็ต้องได้เงิน รู้หรือเปล่า กลับมาที่งานกันต่อ คุณรู้ไหมว่าต้องทำอะไรบ้าง”

   อาการสั่นศีรษะจนเส้นผมกระจายบอกเป็นอย่างดี ว่ามังกรตัวนี้มีดีแค่หน้าตา แต่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ธรณินยกมือกุมขมับที่เริ่มปวดตุบๆ อีกรอบ

   “พี่ณินก็สอนผมสิครับ ผมเรียนรู้เร็วออก ไม่เห็นต้องเครียดเลย”

   โครกกกก!!!

   “แต่ตอนนี้ผมหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่าเนอะพี่ณินเนอะ แล้วเดี๋ยวกลับมาผมจะเป็นเด็กดีให้พี่ณินใช้อุปกรณ์ทั้งโซ่ แซ่ กุญแจมือ ฟาดผมได้เต็มที่เลยครับ”

   “เวอร์ไปละ ซ้อมโพสต์ท่า จิกตาใส่กล้อง จะมาอุปกง อุปกรณ์อะไรล่ะ” ธรณินบ่นพึมพำ ขาก็ก้าวไปโต๊ะมุมห้อง มือก็คว้าโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์มาเตรียมพร้อม

   “อ้าว! แล้วรออะไรล่ะ ลุกสิ เดี๋ยวจะพาไปกินข้าว ว่าแต่... มังกรนี่เค้ากินอะไรกันล่ะ” ธรณินส่งเสียงเรียกพร้อมก้าวนำไปรอที่ประตูเรียบร้อย

   “พี่ณินล่ะก็ อะไรที่เป็นของกิน ผมกินได้ทั้งนั้นละคร้าบบบ” ปากเจรจาไปเรื่อย แต่ในหัวใจของกานต์บันทึกคะแนนความดีเพิ่มให้ธรณินแทบไม่ทัน อบอุ่น อ่อนโยนซ้า เนื้อคู่ใครว้า ทำเป็นดุ ทำเป็นหน้าบึ้ง แต่ก็ดูแลเทคแคร์นะครับ

   “มัวแต่ยิ้มอะไรอยู่ได้” ธรณินง้างนิ้วเตรียมตัวรอดีดหน้าผากของเป้าหมายตรงหน้า หากแต่กานต์รีบโผไปคว้านิ้วไว้ก่อน มืออีกข้างโอบเอวธรณินเข้าประชิดตัว ส่งผลให้ร่างที่สูงกว่าร่วมสิบเซนติเมตรตกใจผงะหงายไปด้านหลัง มังกรหนุ่มหยักยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนกระชับร่างในอ้อมกอดให้แนบแน่น วงหน้าใสกระจ่างแผ่ออร่าประหนึ่งเทวดาตัวน้อยๆ สวนทางกับคำพูด

   “ถ้าพี่ณินดีดอีก ผมจูบนะครับ”

   ธรณินค่อยใช้มือดันแผ่นอกนั้นออกห่าง ก่อนยืดตัวกลับมายืนในท่าปกติ เอ่ยด้วยเสียงเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร

   “ไม่ดีดก็ได้ ไปๆ หิวแล้ว” เสียงทุ้มต่ำไม่มีสั่นพร่า ไม่ปรากฏให้เห็นพิรุธใดๆ กานต์จะไม่รู้เลยว่าพี่ณินเขินอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่ได้เดินตามหลังแล้วเห็นใบหูขึ้นสีแดงอยู่อย่างนี้ หึๆ พี่ณินนี่น้า น่ารักนะเนี่ย สงสัยจะเวอร์จิ้น!!!

TBC...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2016 14:59:09 โดย virgo »

ออฟไลน์ kail

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 2 (27/10/2556)
«ตอบ #4 เมื่อ27-10-2016 07:11:13 »

มังกรขี้อ่อย น่ารัก 5555 แต่พี่นินแกคุยกะมังกรอยู่นะ แกชิลล์มากไปไหมมมมมมมม

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 2 (27/10/2556)
«ตอบ #5 เมื่อ27-10-2016 07:57:08 »

ฮ่า ๆ กานต์เป็นมังกรน่ารัก (ตอนแรกนึกว่าเมะ แต่เป็นเคะก็แปลกดี)
เคมีเข้ากันดีนะ อิอิ

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 2 (27/10/2556)
«ตอบ #6 เมื่อ27-10-2016 09:25:00 »

เนื้อเรื่องน่าสนใจดีแต่แก้จุดสำคัญเลอ

angle-มุม
angel-นางฟ้า เทวดา

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 2 (27/10/2556)
«ตอบ #7 เมื่อ27-10-2016 10:46:01 »

เนื้อเรื่องน่าสนใจดีแต่แก้จุดสำคัญเลอ
angle-มุม
angel-นางฟ้า เทวดา


ขอบคุณที่ช่วยแก้ให้ค่ะ :o8:
พิมพ์ผิดชีวิตเปลี่ยน ฮะฮะฮ่าา

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 2 (27/10/2556)
«ตอบ #8 เมื่อ27-10-2016 21:01:17 »

น้องมังกรน่ารักมากๆเลย ขี้อ้อนขนาดนี้มังกรหรือแมวคะเนี่ย? อยากได้มาเลี้ยงที่บ้านสักคนจริงๆ
พี่ณินคะ ความคุกis following youค่ะพี่ณิน ความคุกตามมาติดๆเลยค่ะ กร๊ากกกก ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 3 (29/10/2556)
«ตอบ #9 เมื่อ29-10-2016 17:18:32 »

บทที่ 3

   “เฮ้ย! คุณๆ ตื่นได้แล้ว วันนี้ต้องไปถ่ายแบบกันแต่เช้านะ”

   ร่างที่นอนขดอยู่ภายใต้กองผ้าห่มค่อยๆ ขยับยุกยิก ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ มอง

   “ประชิดติดเตียงขนาดนี้ คิดอะไรไม่ดีอยู่หรือเปล่าครับพี่ณิน” กานต์ตะแคงตัวยกมือเท้าศีรษะมอง

   “เออ...คิด คิดว่าวันนี้จะรอดไหม ที่ให้ซ้อมเมื่อคืนจำได้หรือเปล่า พยายามให้เป็นธรรมชาติที่สุดนะ หน้าตาคุณมัน...” หางเสียงสุดท้ายสะดุดหายไปในลำคอเมื่อธรณินหันไปสบดวงตายั่วเย้าเชิญชวน มือซ้ายบรรจงแกะกระดุมเสื้อนอนลงทีละเม็ด แล้วค่อยใช้ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ลงที่กระดูกไหปลาร้าลากยาวมาที่รอยแยกระหว่างอกอย่างเชื่องช้าอ้อยอิ่ง

   ธรณินสำลักลมหายใจ ในช่องท้องวูบโหวงแปลกๆ กว่าจะควานหาเสียงตัวเองเจอแล้วส่งเสียงตะกุกตะกักแหบพร่าถามออกไป

   “ทะ...ทำ ทำอะไรของคุณน่ะ”

   “อ้าว! ก็กำลังแสดงให้พี่ณินดูไงครับ ที่พี่บอกให้สื่ออารมณ์ออกมาให้จับตาคนดูที่สุดน่ะ”

   ธรณินคว้าหมอนใกล้มือได้ก็ขว้างไปที่หัวไอ้ตัวช่างยั่วอย่างไม่ออมแรง

   “คอนเซ็ปท์ ‘Angel’ นะ ไม่ใช่ ‘นางแมวยั่วสวาท’ จะได้ส่งสายตาล่อเสือล่ะตะเข้ขนาดนั้น ไปอาบน้ำเลยไป”

   จนเสียงประตูห้องน้ำปิดลง ธรณินจึงได้ระบายลมหายใจกลัดกลุ้มออกมา

   “เฮ้อ!...จะรอดไหมวะ ไอ้หน้าตาน่ะผ่านล้านเปอร์เซ็นต์ แต่ไอ้ทำอะไรก็เล่นไปหมดนี่มัน...”

   “พี่ณินคร้าบบบบ”

   เสียงตะโกนจากในห้องน้ำเรียกให้ธรณินต้องลุกไปยืนที่หน้าประตู

   “มีอะไรอีกล่ะคุณชาย”

   “สบู่ตกครับพี่” เสียงข้างในตะโกนออกมา

   “สบู่ตกก็เกะ...” ธรณินตอบยังไม่ทันจบว่าสบู่ตกก็ให้เก็บสิ เจ้าตัวสำลักน้ำลายไอค็อกแค่ก  ก่อนจะตะโกนเสียงดังกว่าเดิม

   “โว๊ยยย!!! ไอ้มังกรลามก ว่าวไปเหอะ ถ้าอารมณ์มันจะขึ้นขนาดนี้”

   “พี่ณินใจร้ายอ่า” เสียงหงุงหงิงเล็ดลอดออกมาจากด้านใน

   ธรณินถอนหายใจ ทรุดนั่งลงพิงร่างกับประตูห้องน้ำ อยากจับคนในนั้นมาเขย่าๆ ให้หักคามือ คนยิ่งเครียดๆ อยู่ ไอ้นี่ก็เล่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา
   
   “ไงณิน คนนี้ใช่ไหมที่สมชายคุยนักคุยหนาว่าหลังจากลูกค้าเห็นรูปแล้วตกลงทันทีจนแทบจะจ่ายเงินล่วงหน้าให้หมดน่ะ”

   กานต์ตวัดตามองมือที่ตบไหล่ทักทายธรณิน ก่อนแววตาโกรธกรุ่นจะเปลี่ยนเป็นอ่อนใส เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เพียงกล่าวทักทายด้วยความสนิทสนม (อย่าเอาอาการเกาะแกะปากว่ามือถึงของตัวเองเป็นบรรทัดฐานสิกานต์)

   “อ้าว! เฮียใช้นี่เอง สวัสดีครับเฮีย” ธรณินยกมือไหว้ เอ่ยปากแนะนำ

   “นี่พี่ทรงชัยนะ แต่ใครๆ ก็เรียกเฮียใช้ เป็นตากล้อง ส่วนนี่กะ...”

   “กรครับ สวัสดีครับพี่” กานต์ยกมือขึ้นกระพุ่มไหว้ ศีรษะก้มลงปลายนิ้วชี้จรดหว่างคิ้ว

   “เฮ้ย! ไหว้สวยมาก หายากนะเนี่ย เด็กสมัยนี้เห็นยกมือประกบส่งๆ กันทั้งนั้น” ทรงชัยยิ้มชื่นชม

   “เห็นไหมซีสชีบอกแล้ว น้องกรน่ะหน้าตางาม ลามไปถึงกิริยาเลยด้วย” สมชายเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาพลางคล้องแขนกานต์อย่างสนิทสนม ส่งผลให้เจ้าตัวเขินจนหน้าขึ้นสี

   “อย่าถึงเนื้อถึงตัวนักสมชาย ดูซิน้องอายหน้าแดงแล้ว กรก็ถือว่าทำบุญนะ อุทิศกายหยาบแด่ผู้สูงอายุกุศลแรงดี”

   “เฮียใช้อ่ะ บอกให้เรียกซิสซี่ เรียกสมชายฟังแล้วมัน ‘แน่นอก’!!!! ค่ะ”

   “ไปๆ ณินพาน้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ส่วนซีสชีช่วยหาอะไรมากระแทกปากเฮียหน่อยได้ไหม เฮียฮิ้วววว หิว”

   ธรณินแตะหลังพากรเดินไปได้แค่ 3-4 ก้าว ก็อดไม่ไหวต้องหันมากระซิบถาม

   “ทำไมบอกคนอื่นว่าชื่อกรล่ะ”

   “ก็ผมจะเก็บชื่อ ‘กานต์’ ไว้ให้พี่ณินเรียกคนเดียวนี่” กานต์หันมากระซิบตอบ

   “แล้วทำไมถึงใช้ชื่อกร”

   กานต์หลุดหัวเราะคิกกับอาการเจ้าหนูจำไมของธรณินก่อนจะเฉลยคำตอบสุดแสนประทับใจ

   “ก็เป็นมังกรอะพี่ณิน รึว่าจะให้บอกว่าชื่อมัง ผมว่าไม่ค่อยดีนะ”

   ธรณินเอื้อมมือมาขยี้หัวกานต์ด้วยความหมั่นไส้ โดยไม่รู้ว่าอากัปกิริยาตั้งแต่แตะหลังพากานต์เดินมาที่ฝ่ายคอสตูม (คนนอกมองเป็นประคองกัน) อาการโน้มหน้ามากระซิบถาม หัวร่อต่อกระซิก จนมาจบที่การสัมผัสศีรษะของกานต์ ส่งผลให้สาวๆ แผนกคอสตูมฟินกันไปขนาดไหน ยิ่งเมื่อบทสนทนาดังขึ้น ทั้งสาวและไม่สาวต่างคะแคงหูฟังกันถ้วนหน้า

   ผู้ชายหล่อเข้ม : ที่ผมซ้อมให้เมื่อคืนยังจำได้ไหม

   ผู้ชายหล่อใส : จำได้ครับพี่ณิน แต่...

   ผู้ชายหล่อเข้ม : ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องเกร็ง ถ้าผ่อนคลายเดี๋ยวก็ดีเอง

   ผู้ชายหล่อใส : ผมก็พยายามจะไม่เกร็งนะครับพี่ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ ยิ่งตอนพี่บอกให้ผมชันขาขึ้นแล้วเอี้ยวตัวมามอง...(กล้อง)

   พรวด!!! แควก!!!

   “ต๊าย! พวกหล่อนเป็นอะไรกันไปหมดยะ ใครไปหากล่องปฐมพยาบาลมาทีซิ ยายจุ๋มกำเดาไหล แล้วยายซินไปทำยังไงให้ผ้าขาดได้ยะ”

   ธรณินและกานต์เดินฝ่าความวุ่นวายไปห้องแต่งตัว โดยที่ไม่รู้ว่าพวกตนเป็นตัวต้นเหตุให้เกิดมโนภาพเรียกเลือด สร้างความเดือดร้อนทางความคิดให้ใครต่อใครไปบ้าง

   ภายในสตูดิโอถ่ายภาพถูกเซตเป็นห้องนอน มีเตียงสีขาวหลังใหญ่ตั้งโดดเด่นอยู่ตรงกลาง กานต์ในเสื้อเชิ้ตสีขาว ถูกรายล้อมด้วยหมอนและผ้าห่ม แน่นอนว่าสีขาว!!!

   “เอ่อ...เฮียใช้ครับ มันไม่ขาวไปเหรอครับ” ธรณินแอบเดินไปกระซิบถามทรงชัย

   “ก็ลูกค้าเค้าจะเอาแบบนี้นี่หว่า ตามคอนเซ็ปท์ Angel เฮ้ยๆ ไปเติมสีลิปสติกให้กรเพิ่มขึ้นอีกนิดนึงดิ๊ เอาลิปไปให้น้องถือด้วย โฆษณาลิปสติกนะโว๊ย อย่าให้ปากซีด” ทรงชัยตอบไปด้วย ชี้มือชี้ไม้สั่งไปด้วย

   “ทางซ้ายเพิ่มไฟอีกหน่อย น้องกรพร้อมรึยังครับ”

   กานต์หยีตาเพราะไฟที่สว่างจ้า หากก็พยักหน้ารับ

   “ยิ้มครับ แล้วมองมาทางนี้ ดีครับ”

   กานต์หันซ้าย หันขวาไปตามที่ทรงชัยสั่งทุกอย่าง บางครั้งให้ยิ้มน้อยๆ หากบางครั้งก็ให้ยิ้มกว้างเต็มหน้า จนเมื่อทรงชัยสั่งพัก ธรณินจึงเข้าไปดูกานต์ใกล้ๆ ก่อนจะพบว่ากานต์เหงื่อออกจนชุ่มแผ่นหลังไปหมด ใบหน้าขาวซีดลงจนขับให้สีชมพูของลิปสติกบนริมฝีปากเด่นชัดขึ้นกว่าเดิม

   “ไหวไหมคุณ เหงื่อออกเยอะมากเลย” พูดจบก็ยกผ้าในมือขึ้นซับบริเวณหน้าผากให้   

   “ผมร้อนมากเลยพี่ณิน ปกติพวกผมไม่ค่อยชอบอากาศร้อนๆ กันเท่าไหร่” กานต์อธิบายเสียงระโหย จนธรณินต้องรีบยกขวดน้ำไปจ่อปากให้

   “ดื่มน้ำก่อนอย่าเพิ่งพูด เดี๋ยวผมไปถามเฮียใช้ก่อนว่าเสร็จหรือยัง ถ้าเสร็จแล้วจะได้กลับไปพักกันได้เลย”

   แต่ดูแล้วคงจะไม่ได้กลับเร็วอย่างที่คิดกันไว้ เพราะเมื่อธรณินเดินไปถึงก็เห็นทรงชัยยืนกอดอกหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่

   “มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับเฮีย”

   “อืม...จะว่ามีมันก็มีนะ ณินดูรูปน้องสิ ยิ้มก็จริงแต่มันเป็นยิ้มแบบการค้าน่ะ มันยังไม่ออกมาจากข้างใน ชื่อลิปสติกมันคือสีชมพู Pure love นะณิน แต่เฮียเข้าใจว่าน้องยังใหม่อยู่มาก ยังไงณินลองช่วยไปอธิบายให้น้องฟังหน่อยละกัน พักอีกสัก 15 นาทีแล้วค่อยมาเริ่มกันใหม่”

   “ครับเฮีย เดี๋ยวผมลองบอกน้องดูแล้วกันครับ”

   ธรณินเดินกลับมาที่เตียงกลางสตูดิโออีกครั้ง เห็นหน้ากานต์ซีดขาวก็ได้แต่สงสาร ทรุดนั่งลงบนเตียงเอ่ยปลอบประโลมเสียงอ่อน

   “ทนอีกนิดไหวไหมคุณ”

   กานต์เงยหน้ามองอีกฝ่าย รู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องให้บอกว่าที่ถ่ายไปเมื่อสักครู่น่าจะยังใช้ไม่ได้

   “ขอโทษนะครับพี่ณิน รูปยังใช้ไม่ได้ใช่ไหมครับ แล้วพี่ณินโดนเฮียใช้ดุรึเปล่าถึงหน้าเครียดแบบนี้” ถามไถ่อย่างเป็นห่วงเป็นใยทั้งๆ ที่ตัวเองก็นั่งหน้าซีด ทำให้ธรณินยิ้มออกมาได้

   “ผมไม่โดนดุหรอก ห่วงตัวคุณก่อนเถอะ เอาน้ำหวานเพิ่มอีกหน่อยไหม จะได้สดชื่นขึ้น”

   กานต์พยักหน้ารับ ธรณินจึงยกมือเรียกเด็กยกน้ำที่เดินผ่านมาหยิบแก้วน้ำส่งให้

   “ฮ่า...ชื่นใจ”

   “ลิปสติกเลือนหมดแล้ว มาเดี๋ยวผมเติมให้”

   ขณะที่กำลังวาดลิปสติกไปบนริมฝีปากคู่นั้น ธรณินก็ช่วยอธิบายการยิ้มออกมาจากข้างในให้กานต์ฟัง

   “คุณลองนึกว่าตัวเองเป็นที่รักของใครสักคนนะ นึกหน้าเขาไว้ในใจ คุณคิดถึงเขามากและพอคุณได้เจอ คุณก็ยิ้มให้เขา...จากหัวใจ ทำได้ไหม”

   กานต์หลับตาทำท่านึก แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จึงลืมตามาเพื่อเจอกับคนที่ตัวเองนึกไม่ออกเมื่อครู่ หน่วยตาเรียวยาว จมูกโด่งเป็นสันกับปากหยักสวยที่กำลังอธิบาย

   “ผมว่าผมนึกออกแล้วละพี่ณิน”

   ธรณินเสก้มลงปิดแท่งลิปสติกในมือ ใบหูขึ้นสีระเรื่อโดยอัตโนมัติ

   “อืม นึกได้ก็ดีแล้ว พร้อมแล้วใช่ไหม ผมจะได้ไปบอกเฮียใช้” ปลายเสียงทุ้มต่ำมีสำเนียงพร่านิดๆ

   กานต์คว้ามือธรณินไว้แล้วร้องขอ

   “เดี๋ยวพี่ณิน เรียกชื่อกานต์ให้กานต์ฟังหน่อยได้ไหม”

   อาจเพราะหน้าซีดๆ ที่กำลังเว้าวอน อาจเพราะต้องการให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ธรณินสบตาระยิบระยับคู่นั้นแล้วเอ่ย

   “กานต์”

   กานต์ยิ้มจนตายิบหยี ก่อนพยักหน้าให้ธรณินไปบอกเฮียใช้ว่าตนพร้อมแล้ว แสงไฟจัดจ้าถูกสาดมาอีกครั้ง กานต์หลับตาลง คลื่นความร้อนจากแสงไฟชวนให้ไม่สบายตัว แต่ในหัวใจฉ่ำเย็นอย่างประหลาด หูแว่วเสียงเฮียใช้ตะโกนบอกให้เริ่มได้ กานต์ลืมตามองไปยังธรณินที่ยืนอยู่ข้างเฮียใช้ จ้องไปที่ปากหยักคู่นั้นแล้วจินตนาการว่าธรณินกำลังเรียกชื่อตน เท่านั้นเอง กานต์ก็ยิ้มออกมาทั้งปากและตาจากในหัวใจ

TBC...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 3 (29/10/2556)
« ตอบ #9 เมื่อ: 29-10-2016 17:18:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 3 (29/10/2556)
«ตอบ #10 เมื่อ29-10-2016 20:10:03 »

นี่มังกรหรือหนุ่มน้อยไร่อ้อย? อ่อยอะไรเบอร์นั้น

พี่ณินสู้ ๆ นะ ทนให้เด็กแทะโลมหน่อยละกัน

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 3 (29/10/2556)
«ตอบ #11 เมื่อ29-10-2016 20:46:59 »

อื้อหือ เคล็ดลับง่ายปานนั้น

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 4 (14/01/2560)
«ตอบ #12 เมื่อ14-01-2017 18:03:53 »

บทที่ 4

   “ธรณิน”

   เสียงฮือฮาและเสียงชัตเตอร์ที่ดังรัวไม่หยุดอยู่ที่ข้างหูผมในตอนนี้กลายเป็นเพียงเสียงแว่วๆ ที่ห่างไกล  เมื่อผมสบตากับกานต์ที่ส่งยิ้มหวานมาให้  ผมรู้  รอยยิ้มนั้นเป็นของผม  ในใจกระตุกแปลกๆ คล้ายมีอะไรไปอุดตันเส้นเลือดในหัวใจ  ถ้าเอาผมไปเอกซเรย์ดูตอนนี้  ฟิล์มที่ออกมาคงมีหน้าขาวๆ ที่ยิ้มกว้างแปะอยู่ตรงหัวใจห้องใดห้องหนึ่ง (อนุญาตให้วิ่งไปอาเจียนได้ครับ ณ จุดนี้)

   “ป้าบๆ” เฮียใช้ตบไหล่ตบหลังผมเป็นการใหญ่  ปากก็พร่ำชมไม่หยุด  ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องดูสุขุมนุ่มลึก  ผมจึงได้แต่อมยิ้มน้อยๆ ตอบกลับเฮียไปอย่างสงวนท่าที

   “เฮ้ย!!! คือดีเลยนะณิน  ตาแหลมเหมือนเคย  งานดี  ปังแน่นอน”

   “น้องยังใหม่อยู่มาก  ยังไงก็ฝากเฮียใช้ช่วยดูแลสั่งสอนด้วยนะครับ”

   เฮียใช้หัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีที่งานเสร็จออกมาเรียบร้อยเกินกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก  ก่อนจะสั่งเด็กๆ แยกย้ายกันเก็บของเตรียมตัวกลับ

   “เออ! ณินๆ รอเดี๋ยวก่อน” เฮียใช้หันกลับมาตะโกนเรียกผมที่เตรียมผละไปหากานต์

   “เย็นนี้มีเลี้ยงวันเกิดเมียเฮียนะ  ชวนกรไปด้วยสิ  ไปหลายๆ คน  จะได้ไปช่วยกันแบ่งเบาภาวะในการฟังเมียเฮียบ่นหน่อย”
   ผมพึมพำตอบรับ  พยายามยุติบทสนทนาให้เร็วที่สุด  เพื่อจะไปดูสาเหตุที่เส้นเลือดในหัวใจผมต้องอุดตัน

   “พี่ณิน” ใบหน้าขาวๆ ที่ติดจะซีดส่งยิ้มประจบประแจงมาให้

   “เก่งนะคุณน่ะ  เฮียใช้ชมไม่หยุดเลย”

   “เฮียใช้ชมคนเดียวเหรอ  คนแถวนี้ไม่ชมบ้างเหรอ” พอเริ่มจะดีขึ้นก็มีแรงต่อปากต่อคำนะ

   “อืม”

   “ครับพี่  อย่างปลื้มเลยเหอะ ‘อืม’ เนี่ยนะ” เสียงบ่นหงุงหงิงยังคงดังขึ้นมาเป็นระยะระหว่างเดินมาขึ้นรถ

   “เย็นนี้เฮียใช้ชวนไปงานเลี้ยงวันเกิดเจ้แก้ว  เมียเฮียน่ะ  คุณไปไหวไหม” ผมสตาร์ทรถไปด้วยถามไปด้วย

   “เปลี่ยนเรื่องเร็วนะครับพี่” ตาพราวระยิบระยับยิ้มยิบหยี  ชวนให้คันในหัวใจแปลกๆ
   “แล้วไง  จะไปรึเปล่า”

   “พวกที่ทำงานวันนี้ไปกันหมดไหมครับ”

   “ก็น่าจะไปหมดนะ  ทีมวันนี้ก็สนิทกันหมด”

   “โอเค  งั้นผมไปด้วย  ท่าทางจะสนุกดี”

   “กลับไปพักที่ห้องก่อนละกัน  เย็นๆ ค่อยออกมาอีกที”

   หางตาผมเหลือบไปเห็นริมฝีปากขมุบขมิบเลยเตรียมหันไปถาม  แต่ภาพที่เห็นทำเอาผมต้องเก็บคำพูดไว้ในใจไปก่อน

   ภาพที่คนช่างยั่วเอนศีรษะพิงติดกระจกรถ  หน้าซีดเซียว  ดวงตาที่เคยหยอกล้อปิดสนิท  แพขนตาทาบทับบนแก้มใส  ขณะที่ปากยังคงพึมพำอะไรไม่หยุด

   ผมได้แต่ถอนหายใจขยับตัวเอื้อมไปปรับเบาะให้เอนต่ำลง  สงสารก็สงสาร  หมั่นไส้ก็หมั่นไส้  ร่างกายไม่ไหวยังมาทำเก่งลับริมฝีปากกันอยู่ได้

   อดใจไม่ไหวที่จะลูบผมนุ่ม

   “วันนี้คุณเก่งมาก...กานต์”


   “ตกลงไหวแน่นะคุณ” ผมได้แต่ถามย้ำเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันก็จำไม่ได้

   “พี่ณินครับ  อายุก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่  ย้ำคิดย้ำทำเป็นคนแก่อยู่ได้นะพี่อะ  มาๆ ช่วยผมเลือกดีกว่า  เสื้อสีไหนดี  แต่ไม่เอาสีขาวนะ  เอียนสีขาวไปอีกพักใหญ่เลย”

   ผมเดินไปคว้าเสื้อสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงยีนส์สีซีดส่งให้  อีกฝ่ายผิวปากหวือก่อนรับเอาเสื้อผ้าไปใส่หลังฉากกั้น  แต่ยังไม่วายโผล่หน้ามาถาม

   “ที่จัดงานน่ะ  ร้อนมากไหมครับ”

   ผมเลิกคิ้ว  แต่ปากก็ตอบไป “ไม่ร้อนหรอก  ห้องแอร์น่ะ  ถามจริงๆ ทำไมกลัวร้อนนักล่ะ”

   เสียงสวบสาบหลังฉากกั้นหลังฉากกั้นดังอยู่อีกครู่  เจ้าตัวก็ตะโกนตอบออกมา  สุ้มเสียงเหมือนผมควรจะรู้อยู่แล้ว

   “โธ่! พี่ณิน  ผมเป็นมังกรนะพี่  ชอบอยู่เย็นๆ ยิ่งเย็นๆ ชื้นๆ แฉะๆ ยิ่งชอบ  ยิ่งอะไรที่มันฉ่ำชื้นเฉอะแฉะนะพี่  ของโปรดเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ”

   ถ้าไม่ได้วกกลับไปเรื่องใต้สะดือ  ไอ้หมอนี่คงนอนไม่หลับ  แต่เอาจริงๆ ผมก็ชักจะลืมๆ ไปแล้วนะว่ากานต์เป็นมังกร  ออกจะเหมือนลูกแมวมากกว่าด้วยซ้ำ  พันแข้งพันขาน่าเอ็นดู

   “พี่ณินเป็นอะไรน่ะ  ยืนยิ้มอยู่คนเดียว”

   “เปล่าๆ คิดถึงเรื่องงานวันนี้เฉยๆ”

   “เสร็จแล้วใช่ไหม  ไป  เดี๋ยวเฮียใช้รอนาน  เราเป็นเด็กกว่าให้ผู้ใหญ่รอมันไม่ดี” ผมรุนหลังพากานต์ไปด้วย  มือก็คอยเช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้าไปด้วย  อยู่ๆ กานต์ก็หยุดเดินแล้วหันมามองหน้าทำตากรุ้มกริ่ม  ผมเกร็งตัวเตรียมตั้งรับทันที

   “ถ้าผู้ใหญ่ไม่อยากรอนาน  ก็เปิดทางให้เด็กสักทีสิครับ”

   ดีที่เตรียมใจไว้แล้ว  หัวใจผมเลยไม่ต้องทำงานหนักเท่าไหร่  ได้แต่หรี่ตามองแล้วก้าวขาเดินต่อไปอย่างมั่นคง  ให้รู้ซะบ้างว่าผมน่ะสุขุมลุ่มลึกขนาดไหน

   เสียงเดินตามกระชั้นไล่หลังมา  สักพักลมหายใจอุ่นๆ ก็เป่ารดที่ข้างหู  ตามด้วยเสียงกระซิบที่เล่นเอาผมสั่นไปทั้งตัว

   “หรือว่าผู้ไม่ ‘ใหญ่’ พออะครับ  ถึงไม่กล้าเปิดทาง”

   ผมหันไปเจอคนพูดทำตาพราวแล้วความสุขุมที่มีก็เตลิดไปหมด  ได้แต่ยกมือชี้หน้า  มือไม้สั่น  โมโหควันแทบจะออกหู  ยังไม่ทันได้ด่าสักคำ  ไอ้มังกรตัวแสบก็เดินหัวเราะร่านำไปก่อนแล้ว


   ตอนที่พวกผมไปถึงที่ร้านอาหาร  ทีมงานมาถึงกันเกือบครบแล้ว  กานต์ก็รู้งาน  พอแนะนำให้รู้จักใครก็ยกมือไหว้  ทำตัวสงบเสงี่ยมเป็นเด็กน่ารักเรียบร้อยก็เป็น  ยิ่งกับเจ้แก้ว  เมียเฮียใช้ยิ่งแล้วใหญ่  เจ้แก้วชมเปาะไม่ขาดปากว่ากานต์เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ (เอ่อ... เจ้มาสะบัดผ้าดูก่อนไหมครับ  ว่าข้างในมันยับมันย่นขนาดไหน) หลังจากเดินทักทาย  แนะนำ  ฝากตัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ผมจึงพากานต์เดินเข้าไปยังโซนห้องแอร์ที่ด้านใน

   “อ้าว..น้องกร  มาเร็วๆ มานั่งกับพี่นี่มา  ส่วนคุณณินก็หาที่ทางเอาตามสะดวกได้นะคะ  มาค่ะน้อง  นี่คนนี้พี่จุ๋ม  แล้วคนนี้พี่ซิน  สองคนนี้คอยดูแลเสื้อผ้าให้น้องกรยังไงล่ะจ๊ะ”

   กานต์ยกมือไหว้หญิงสาวสองคนที่ทำหน้าแดงเอียงอายหลบอยู่ข้างๆ สมชาย

   “ยายสองคนนี้ก็เป็นอะไรมากไหมเนี่ย  เจอเด็กหนุ่มๆ เข้าหน่อยละทำเป็นหอยกาบ  หุบปากนิ่งเชียวนะยะ  ไปๆ หาเครื่องดื่มมาให้น้องเค้าหน่อย” สมชายรัวคำพูดไม่หยุดอยู่คนเดียว  ก่อนชะงักหันมาหาผมที่ทรุดตัวลงนั่งข้างกานต์

   “อ้าว!  แล้วคุณณินไม่ไปนั่งกับพวกข้างนอกเหรอคะ” สมชายอ้าปากหวอ  เพราะปกติผมมักขลุกอยู่กับพวกเฮียใช้มากกว่า

   ผมเหวี่ยงสายตาใส่สมชายไปโดยที่ไม่ต้องตอบคำถาม  เจ้าตัวก็เหมือนจะรู้ดีว่าผมไม่ต้องการตอบ  สมชายจึงแก้เก้อด้วยการหันไปสั่งให้หาเครื่องดื่มมาให้ผมด้วยเลย

   แก้วน้ำอัดลมถูกวางลงตรงหน้ากานต์  และแก้วเบียร์สดฟองนุ่มวางลงตรงหน้าผม  ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยขอบคุณจุ๋ม  มือเรียวยาวก็คว้าหมับเข้าที่แก้วเบียร์  ก่อนจะยกดื่มรวดเดียวหมดแก้วท่ามกลางสายตาที่เบิกโต  และปากที่อ้าค้างของทุกคน

   กานต์วางแก้วลงพร้อมกับเอียงคอกระพริบตาปริบ “ครับ?”

   ชินรู้สึกตัวก่อนใครเพื่อนได้แต่หัวเราะเก้อๆ “เอ่อ...ไม่นึกว่าน้องกรจะทานเบียร์  พี่เลยเอาน้ำอัดลมมาให้”

   “พี่ณินต้องขับรถน่ะครับ  ผมเลยอาสาดื่มแทนให้  อีกอย่าง  ผมก็คนธรรมดาครับพี่  ไม่ได้เรียบร้อยตลอดเวลา  ถึงเวลาดื่มก็ดื่ม  เอ่อ... ผมทำให้พี่ๆ ผิดหวังหรือเปล่าครับ” สีหน้าสำนึกผิดของกานต์คงไปกระตุกต่อมแม่พระของบรรดาสาวแท้  สาวเทียมเข้าให้  บรรยากาศแปลกๆ เมื่อครู่พลันหายไป  แทนที่ด้วยความสนุกและความสนิทชิดเชื้อทันที

   สมชายตบเข่าฉาด “มันต้องอย่างนี้ลูก  ทำงานก็เต็มที่  เวลาดื่มกินก็ต้องเต็มที่เหมือนกัน เอ้า! ช้าอยู่ไยล่ะพวกหล่อนไปเปิดเบียร์มา  คุณณินต้องขับรถดื่มน้ำอัดลมไปนะค้า”

   ผมเลิกคิ้ว  หันไปมองตัวต้นเรื่อง  คนหน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่งจริงๆ ทำอะไรผิดก็มีคนพร้อมจะยอมให้อภัยตลอดเวลา
   ผมนั่งจิบน้ำอัดลมจนท้องอืด  สักพักก็รู้สึกหนักที่หัวไหล่  หันไปมองก็สบตาเข้ากับคนหน้าขาว (หมอนี่ยิ่งเมายิ่งขาว  บางคนเมาแล้วแดงเถือกไปทั้งตัว)

   “ขอผมพิงหน่อยนะครับพี่ณิน  หนักหัวมาก”

   ผมถอนหายใจ แต่ก็พยักหน้ารับไป  เหล่มองอีกครั้ง  เจ้าตัวก็ส่งยิ้มตาพราวมาให้  ไม่มีคำพูดหยอกล้อเล่นหัว  ไม่มีท่าทางคอยลวนลามอยู่ตลอดเวลา  พออยู่เงียบๆ กันแบบนี้ผมก็ว่ามันโอเคดีอยู่นะ

   จนเสียงรอบข้างเงียบลงอย่างผิดปกติ  ผมจึงเห็นสองสาวแท้  หนึ่งสาวเทียมนั่งบิดตัวแทบจะเป็นเลขแปด  คาดว่าในใจมโนกันไปถึงไหนต่อไหนแล้วแน่นอน

   “เอ่อ... เริ่มดึกละ  ผมว่าเราไปลาเฮียใช้กับเจ้แก้วกลับได้แล้วล่ะ” กานต์พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย  จังหวะที่ผมกำลังจะพยุงให้กานต์ลุกขึ้น  อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมาพอดี  ปากนุ่มบางเฉี่ยวแก้มผมไปสิ้นสุดที่กกหู  เสียงพึมพำขอโทษผสานมากับกลิ่นแอลกอฮอล์เล่นเอาผมใจสั่น  ส่วนบรรดาสาวๆ หลุดเสียงวี้ดออกมาก่อนจะใช้มือปิดปาก  มืออีกข้างตีกันให้วุ่นวาย  ผมส่ายหน้าลากตัวการออกไปลาเฮียกับเจ้อย่างทุลักทุเล

   กว่าผมจะลากตัวคนเมามากองไว้บนเตียงได้ก็เล่นเอาเหงื่อชุ่มแผ่นหลัง  ทิ้งกานต์ไว้บนที่นอนแล้ว ผมก็คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปทันที  ไอ้เรื่องจะให้เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้คนเมาน่ะเหรอ  เผอิญว่าผมไม่ใช่คนดี!

   อาบน้ำเสร็จออกมาว่าจะปลุกกานต์ไปอาบน้ำต่อ  แต่ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าตรึงเท้าผมให้แนบสนิทอยู่กับที่  ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลน  แลดูนุ่มนิ่มไปทั้งเนื้อทั้งตัว  สว่างสะท้อนแสงไฟอยู่กลางเตียงนอน  ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่  กวาดตามองซ้ำอีกครั้ง  นาทีนี้ผมไม่สนอะไรอีกแล้ว  กระโดดขึ้นเตียงไปได้ก็พรมจูบซุกไซ้  สองมือฟอนเฟ้นไปทั่วร่าง  บีบเคล้นคลึงอย่างหิวกระหาย

   เป๊าะ!!!

   ตื่นครับตื่น  คิดไปถึงไหนกันแล้วครับ  ไอ้ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนที่ว่าน่ะ  ร่างมังกรของไอ้เจ้ากานต์เลยครับ  นอนเลื้อยเต็มเตียง  หัวใหญ่โตเอียงกระเท่เร่จะตกมิตกแหล่อยู่แล้ว

   ผมทำใจกล้าเดินเข้าไปสะกิดเรียก (ผิวนุ่มหยุ่นมากครับ)

   “คุณๆ ลุกไปอาบน้ำก่อนไหม”

   หัวโตๆ นั่นส่ายไปมา  ก่อนจะลืมตาสีน้ำเงินเหลือบดำมาจ้องตอบผม

   “คุณ” ผมอึกๆ อักๆ ไม่กล้าพูดอะไรต่อ  จนกระทั่งมีเสียงตอบกลับมา

   “พี่ณินอาบน้ำให้กานต์หน่อยน้า”

   ตึ่งโป๊ะ!!! ถ้าเป็นตลกคาเฟ่  รับรองว่าต้องมีเสียงกลองรับกันบ้างละ  ขนลุกชะมัด  ลำตัวที่กองอยู่บนที่นอนน่าเกรงขามมาก  ดันพูดจาออดอ้อนเป็นเด็กเล็กๆ ออกมาได้

   ผมเริ่มคลายความหวาดกลัวลงไปได้  ค่อยๆ บรรจงใช้เท้าเขี่ยปลายหางมังกรให้พ้นทาง  ก่อนทรุดตัวลงนั่งบนเตียง
   “นี่กี่นิ้ว” ผมชูนิ้วขึ้นสามนิ้วโบกไปมา

   คน  เอ๊ย! มังกรบนที่นอนปรายตามองอย่างเหยียดหยามที่ผมเล่นอะไรปัญญาอ่อน

   “ผมมีสติดีครับพี่  อย่ามากวน” หางเสียงขุ่นด้วยนะ

   “ครับ  พ่อคนมีสติ  เมาจนเลื้อยเนี่ยนะเรียกมีสติ”

   “ผมมังกรครับพี่  ไม่ใช่งู” เอ้า! สะบัดเข้าไป  ยิ่งพูดยิ่งสะบัดเสียงใส่

   ผมรู้เต็มสองตาครับว่าเป็นมังกรไม่ใช่งู  เมาแล้วกลายร่าง  พึ่งเคยเห็นครั้งแรกในชีวิตนะเนี่ย

   “เฮ้ย! กานต์ก้มลงมองร่างตัวเอง  ก่อนแสงเงินแสงทองจะส่องประกายวิบวับแล้วกลับคืนร่างมนุษย์ “เปลือย” อย่างเต็มภาคภูมิ

   “เฮ้ย!!!” คราวนี้สองเสียงประสานขึ้นพร้อมกัน

   ผมเบือนหน้าหนีไปอีกด้านอย่างรวดเร็ว  ทันเห็นแค่ช่วงบนเท่านั้นจริงๆ (เดี๋ยวๆ นี่ใช่สาระไหม)

   กานต์กระโดดแผล็วหายเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว  และออกมาอย่างรวดเร็วเหมือนตอนขาเข้าไป

   ....มันวิ่งผ่านน้ำหรือไงเนี่ย...

   “ขอโทษครับพี่ณิน  ตกใจมากไหมครับ”

   ผมหันไปมอง  ทำหน้านิ่งๆ ตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก

   “ไม่ตกใจอะไรหรอก  ตอนเจอกันครั้งแรกคุณเข้มกว่านี้เยอะ”

   “แหมพี่ณินก็...มันก็ต้องมีมาดบ้างอะไรเป็นธรรมดา” จากมังกรเริ่มกลับสู่โหมดแมวน้อย  เกาะแขนเอาหัวถูไถไหล่ผมเล่นอีกแล้ว

   “แล้วนอกจากกลายร่างสลับคนกับมังกรแล้วเนี่ย  คุณทำอะไรได้อีกบ้าง”

   “ก็เล็กๆ น้อยๆ ผมยังไม่เก่ง  เสกของได้เป็นบางอย่างแบบนี้”

   พูดจบกุหลาบดอกเล็กก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าราวกับเสก  เอ่อ...ก็เสกมาจริงๆ นั่นละ

   “แล้วถ้าคนที่เก่งๆ ล่ะ  เสกของได้ใหญ่กว่านี้อย่างนั้นเหรอ” ผมเริ่มสนใจ

   กานต์เชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิ

   “เผ่าพันธุ์มังกรนะพี่ณิน  เสกของน่ะเรื่องจี๊บจ๊อย  พวกที่มีตบะแรงกล้าน่ะ  เรียกลมเรียกฝนได้อย่างใจนึก”

   “งั้นคุณก็อ่อนมากเลยสิท่า  ขนาดจะคงร่างมนุษย์ยังทำไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง”

   “แหม... ได้ทีเอาใหญ่เลยนะครับ  มันก็มีบ้างเวลาจิตเราไม่นิ่งพอ”

   “แต่ผมทำได้อยู่อย่างนึง  เก่งที่สุดตั้งแต่เกิดมาละ”

   อาการมั่นอกมั่นใจทำให้ผมหมั่นไส้  อยากจะบรรจงยันงามๆ ถวายท่านมังกรผู้สูงศักดิ์สักที

   “เสกดอกไม้ยังได้ดอกเล็กๆ แล้วจะทำอะไรได้อีกล่ะคุณ”

   “ ‘ทำรัก’ ไงครับพี่ณิน  ผมมั่นใจว่าต้องจัด ‘ดอก’ ใหญ่ได้แน่ๆ

   TBC...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2017 18:08:58 โดย virgo »

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 4 (14/01/2560)
«ตอบ #13 เมื่อ14-01-2017 19:14:08 »

มังกรหื่นนนนนนน
555 น่ารักอะ น้องกานต์ ยั่วเยอะ ๆ แต่ พอถึงเวลา พี่เขาเอาจริงจะร้องไม่เอาป่าวคนเก่ง

ว่าแต่ พี่เขาก็ภูมิต้านทานสูงนะ มังกรตัวเป็น ๆ นอนอ่อยเชียวนะ 555

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 4 (14/01/2560)
«ตอบ #14 เมื่อ14-01-2017 21:16:11 »

น่ารักดี ตลกดีด้วย

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 4 (14/01/2560)
«ตอบ #15 เมื่อ14-01-2017 21:40:19 »

มังกรอะไรเนี่ย ขี้อ่อย ขี้ยัว น่ารัก สุดๆๆๆๆๆ หลงเลยอ่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 4 (14/01/2560)
«ตอบ #16 เมื่อ14-01-2017 23:14:51 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 4 (14/01/2560)
«ตอบ #17 เมื่อ19-01-2017 16:25:40 »

น้องกานต์ขี้อ่อยยยย อ่อยเยอะๆ ลูก อยากเห็นพี่ณินตบะแตก 55555 :laugh:

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 5 (21/01/2560)
«ตอบ #18 เมื่อ21-01-2017 20:10:05 »

บทที่ 5

   “อ๊า!!!”  เสียงโวยวายตะโกนลั่น  ปลุกให้ธรณินต้องตื่นขึ้นมาโดยไม่เต็มใจสักนิด  สะบัดผ้าห่มออกได้ก็รีบวิ่งถลาไปห้องตรงข้ามทันทีด้วยความตกใจ

   ปัง! ปัง! ปัง!

   “คุณๆ เป็นอะไร  เปิดประตูให้ผมด้วย กานต์!”

   เสียงเปิดประตูดัง แกร๊ก!  ธรณินรีบผลักบานประตูออกกว้าง  แทรกตัวไปด้านใน  พลางสอดส่ายสายตาหาเจ้าของเสียงโวยวายเมื่อครู่  พอเห็นว่านั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะกระจก  จึงได้คลายใจเดินเข้าไปหา

   “เป็นอะไรไป  ร้องซะอย่างกับไฟไหม้”

   “พี่ณิน” เสียงอู้อี้ที่พูดลอดออกมาจากช่วงขาที่เจ้าตัวนั่งฟุบอยู่  ฟังดูครางเครืออย่างน่าประหลาด  ธรณินขยับตัวเข้าไปลูบหลังลูบไหล่  แล้วถามเสียงอ่อน

   “เป็นอะไรไปครับ หืม บอกผมมา  ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า  หรือว่าฝันร้าย”

   ใบหน้าที่ก้มหลบๆ ซ่อนๆ ค่อยๆ เงยขึ้นมาช้าๆ ดวงตาแดงก่ำมีน้ำตาเอ่อคลอ  หากที่เห็นเด่นชัดที่สุดบนใบหน้านั้นคือสิวเม็ดโตบนแก้มด้านซ้าย

   ธรณินชะงักกึก  ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะดังสนั่นอย่างทนไม่ไหว

   “พี่ณิน! นี่ผมเครียดนะเนี่ย  เกิดมาเพิ่งเคยเป็นสิวเม็ดใหญ่ขนาดนี้  ทำยังไงดีอะพี่  อย่าพึ่งหัวเราะสิ  มาช่วยกันคิดก่อน”

   เด็กที่ตัวไม่เล็กเริ่มทำหน้างอ  กว่าธรณินจะหยุดหัวเราะได้  ปากของคนตรงหน้าก็แทบจะชิดติดจมูกด้วยความที่หน้าบึ้งลงเรื่อยๆ

   “คงเป็นเพราะล้างเครื่องสำอางไม่สะอาดน่ะคุณ  ผมเห็นเมื่อวานคุณอาบน้ำเร็วขนาดนั้น  ยังคิดว่ามันจะสะอาดไหม  วันนี้เลยแสดงให้เห็นผลเลย  ว่าไม่สะอาด”

   “เอางี้  วันนี้ผมว่าง  เดี๋ยวโทรไปสั่งงานสมชายไว้นิดหน่อย  แล้วเดี๋ยวผมพาไปซื้อพวกเครื่องสำอางทำความสะอาดใบหน้าให้”

   เห็นหน้ายุ่งๆ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปขยี้ผมคนตรงหน้าอย่างมันเขี้ยว  เอ้อ...อยากเอาหัวโขกกำแพงจริงๆ มาทำใกล้ชิดสนิทสนมแบบนี้หัวใจก็เริ่มเซแซ่ดๆ แล้วเหมือนกัน

   “พี่ณินเป่าเพี้ยงหน่อยสิ”

   “หืมมมม”

   “เป่าสิวเนี่ย  เจ็บอะ”

   มาแล้วครับ  สุดยอดท่าไม้ตาย ‘ลูกแมวน้อยกลอยใจ’ ไม่น่ากลัวแต่น่ากิน!!!

   “คุณครับ” ผมจับหัวไหล่กานต์ไว้ทั้งสองข้างให้หันมาเผชิญหน้ากันตรงๆ ก่อนเดินห่างออกมา 2 - 3 ก้าว  กานต์ทำท่าจะขยับเดินตามมา

   “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ” ธรณินกอดอกเอ่ยเสียงเข้มก่อนจะร่ายยาว

   “มาเป่าพ้งเป่าเพี้ยงอะไรกันล่ะ  เพึ่งตื่นแล้วผมก็ตะลีตะลานมาหาคุณเนี่ย  ฟันก็ยังไม่ได้แปรง  ชีวิตจริงไม่ใช่นิยายนะ  ตื่นมาจะได้ปากหอมสดชื่นจูบรับอรุณยามเช้าน่ะ”

   จากท่าทางหูลู่หางตกเมื่อสักครู่เปลี่ยนเป็นกระมิดกระเมี้ยนขึ้นมา  เล่นเอาธรณินนึกฉุน

   “ไอ้ท่าทางแบบนี้หมายความว่ายังไง”

   กานต์พึมพำอ้อมแอ้มตอบ “ก็...ก็ผมแค่จะให้เป่าเพี้ยง  แต่ว่าพี่ณินคิดไปถึงจูบรับอรุณเลย  ผมก็เขินเป็นนะครับพี่” พูดจบก็เขินบิดตัวไปมา

   ธรณินส่ายหัว  ได้แต่ขอถอนคำพูดที่ว่าลูกแมวน่ากินเมื่อสักครู่ทิ้งไป  อารมณ์ตอนนี้แบบ...น่าถีบมาก
   

   ภายในห้างสรรพสินค้า

   บริเวณชั้นขายอุปกรณ์เครื่องสำอางล้างหน้าทั้งหลาย  ได้กลายเป็นจุดสนใจของสาวน้อยสาวใหญ่กันน่าดู  ภาพชายหนุ่มหน้าตาดีถึงดีมากสองคนกำลังยืนศึกษาชนิดและสรรพคุณของเครื่องสำอางจนหัวชิดติดกัน  เป็นภาพที่ชวนพุ่งเข้าไปทำการช่วยเหลือ  ช่วยอธิบายเป็นที่สุด  ติดตรงที่ว่าไม่รู้จะเข้าไปแทรกตรงไหน  เพราะองค์ประกอบภาพที่เห็นพอดิบพอดีไปทุกส่วนอยู่แล้ว  สาวๆ จึงได้แต่เดินเข็นรถผ่านไปคนละหลายๆ รอบจนกระเบื้องปูพื้นห้างแทบสึก

   ขณะที่กำลังเตรียมต่อแถวชำระเงิน  เสียงโทรศัพท์มือถือของธรณินก็ดังขึ้นมา

   “สวัสดีครับ  ครับผมธรณินครับ  อ้าว!  เฮียใช้ว่าไงครับ...” ธรณินบุ้ยใบ้ปากให้กานต์ยืนรออยู่ตรงนี้  ก่อนจะเดินออกไปหาบริเวณที่เสียงไม่ดังมากนักเพื่อคุยต่อ

   กานต์ได้แต่เดินมองสินค้าตามชั้นรอฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ มือก็แอบดึงขนมที่หมายตาใส่รถเข็นเพิ่มจนมาถึงชั้นวางช็อคโกแลต  กานต์เอื้อมมือคว้าหากไม่ได้ห่อขนมกลับคว้าได้มือขาวของคนอื่นซะได้

   “เอ๊ะ!” สองเสียงประสานพร้อมกันด้วยความแปลกใจ

   กานต์มองตามแขนเรียวยาวไล่ไปจนพบกับใบหน้าน่ารักที่ยิ้มหวานกลับมารอท่า

   “ขอโทษครับ  คุณหยิบได้เลย” กานต์หัวเราะแหะๆ บอกหนุ่มน่ารักตรงหน้า  ก่อนจะเบนเป้าหมายไปหยิบซองช็อคโกแลตด้านข้างมาแทน

   “ขอบคุณมากนะครับ  เนี่ยยี่ห้อนี้อิคคิวชอบมากเลย  เหลือซองสุดท้ายด้วย  ถ้าไม่ได้คงเสียใจแย่” หนุ่มหน้าหวานซึ่งแทนตัวเองว่า ‘อิคคิว’ เจื้อยแจ้วบรรยายสรรพคุณความอร่อยและดีงามจนกานต์เริ่มนึกรำคาญ  แต่ก็ได้แต่ยิ้มรับ

   “คุณ! มาทำอะไรตรงนี้  ผมเดินหาตั้งนาน” ธรณินคว้าไหล่กานต์ส่งเสียงถามด้วยความตกใจที่หากันไม่เจอ

   “ผมมา...”

   “พี่ณินนน”

   ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก  กานต์ยังไม่ทันตอบคำถามของธรณินก็เห็นอะไรบางอย่างๆ ขาวๆ พุ่งตัวโผผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว

   “อะ...อิคคิว?”

   “พี่ณินคร้าบ  อิคคิวคิดถึงที่ณินจังเลย  พี่ณินมาเป็นผู้จัดการให้อิคคิวเหมือนเดิมได้ไหมครับ  คนใหม่ที่พี่ณินส่งมาให้ไม่เร้าใจ เอ๊ย! ไม่ค่อยเอาอกเอาใจเท่าพี่ณินเลย”

   อะไรบางอย่างขาวๆ ที่ชื่อ ‘อิคคิว’ กำลังคล้องแขนพัวพันเกาะไหล่ธรณินหนุบหนับเป็นปลาหมึก  เห็นแล้วหางตากานต์กระตุกริกๆ อยากจะเอื้อมมือไปโบกให้คว่ำ  ดีที่ธรณินพยายามแกะมือปลาหมึกนั่นออก  ทำให้กานต์เพียงแค่ยืนนิ่งอมยิ้มน้อยๆ สังเกตการณ์ต่อไป

   “อิคคิวปล่อยก่อน  กรนี่อิคคิวนะ  เป็นนายแบบอยู่บริษัทผมเหมือนคุณนั่นแหละ”

   กานต์ยกมือไหว้  ขณะที่อีกฝ่ายเพียงแค่ตวัดสายตามองเร็วๆ จากหัวจรดเท้าเพียงแค่นั้น  ก่อนจะหันไปกระแซะออดอ้อนธรณินต่อ

   อ๋อ...เป็นคนประเภทพอหว่านเสน่ห์ใส่แล้วคนไม่สนใจตัวเองก็เมินใส่ซะงั้น

   “อิคคิว! เสียมารยาท  น้องเค้าไหว้เรา  ทำไมไม่รับไหว้”

   ณ จุดนี้กดบวกแต้มให้พี่ณินในใจรัวๆ แต่ผมแสดงออกมากไม่ได้นี่  เดี๋ยวจะดูไม่ดี

   คนหน้ารักยกมือขึ้นไหว้แผล่บอย่างรวดเร็ว  ฝ่ามือยังแปะถูกกันไม่ถึงสองวินาทีก็แยกออกจากกันซะแล้ว  กิริยาไหว้เหมือนลิงหลอกเจ้า  ทำให้ธรณินขมวดคิ้ว  เผลอนึกเปรียบเทียบกับกานต์ไม่ได้  อาจจะช่างยั่วช่างแหย่  แต่อ่อนน้อมถ่อมตน  ในขณะที่อิคคิวแสดงออกว่าเป็นเด็กน้อยน่ารักสดใส  แต่มือไม้เก้งก้างค่อนไปทางไม่มีมารยาทซะมากกว่า

   “เฮียใช้โทรมาว่าให้ไปหา  เฮียอยากให้คุณไปลองถ่ายแบบน้ำหอมให้หน่อย  เด็กที่นัดไว้มีปัญหา  คุณจะโอเคไหม”

   “ผมยังไงก็ได้ครับ  แล้วแต่พี่ณินเลย  แต่ว่า...ผมเป็นสิวเม็ดใหญ่เลยนะพี่”

   น้ำเสียงที่ออกแนวกังวัลทำให้ธรณินหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะขยี้ผมคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู

   “เอาน่า  ยังหล่ออยู่  เดี๋ยวให้ทีมงานเค้าช่วยแต่งหน้าปิดให้”

   บรรยากาศหัวเราะคิกคักของเราสองนี่มันคืออะไร ‘อิคคิว’ นายแบบสุดฮ็อตยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน  คุยไปยิ้มไปไม่มีเห็นหัวกันเลยนะ

   “พี่ณินคร้าบบบ” อะไรบางอย่างขาวๆ โผมาเกาะแขนธรณินอีกครั้ง

   “พี่ณินจะไปไหนหรือครับ  อิคคิวไปด้วยได้ไหมเอ่ย” พูดแล้วก็ทำท่าเอียงคอ  ตาโต  แก้มป่องกระพริบตาปริบๆ ใส่

   กานต์มองดูคนตรงหน้าแล้วให้นึกสงสัย  ชาติที่แล้วเป็นผีจูออนหรือยังไง  ถึงได้ทำตัวขาวๆ โผไปโผมาเกาะแขนชาวบ้านเค้าอยู่ได้  แล้วไอ้ท่าทางน่ารักไร้เดียงสานั่น  เค้าไม่ได้มีไว้โพสต์ท่าต่อหน้ากล้องเรอะ  เอามาใช้ในชีวิตประจำวันตลอดเวลาแบบนี้ก็ได้เหรอ

   “ถ้าพี่อิคคิวว่าง  ‘ไม่มีอะไรทำ’ ก็ไปกับ ‘พวกเรา’ ก็ได้นะครับ  เผื่อเป็นตัว ‘สำรอง’ ให้เฮียใช้เลือกดูได้”

   ประโยคเดียวครบและชัดเจน  หากอีกฝ่ายอาจตีความไม่ออก  หรือไม่ก็ต้องหนาเป็นพิเศษ  จึงหันไปเขย่าแขนธรณินพลางร้องดีใจ “เย้ๆๆ” ด้วยท่วงท่าที่คิดว่ารัก (หมอนี่ไม่เหนื่อยบ้างรึไง  แอ๊บเด็กตลอดเวลา)

   “ถ้าอิคคิวว่างก็ไปพร้อมกันเลยก็ได้  อย่างที่กรว่า  เผื่อเฮียใช้เลือกละกัน”

   บรรยากาศในรถระหว่างเดินทางไปหาเฮียใช้ที่สตูดิโอถูกผูกขาดการคุยไว้ที่อิคคิวแต่เพียงผู้เดียว  นานๆ ครั้งธรณินจะพูดจาโต้ตอบกลับไปสักครั้ง  ส่วนใหญ่จะได้ยินแต่เสียงคนพูดแทรกมาด้วยเสียงตอบรับเออออมาเป็นระยะ  กานต์เห็นธรณินไม่ได้ให้ความสนใจผีจูออนมากไปกว่าเพื่อนร่วมงานจึงเอนศีรษะพิงกับกระจกรถแล้วเหม่อมองตึกสูงระฟ้าข้างทางไปเงียบๆ จนเมื่อรถจอดลงที่จุดหมายแล้วธรณินจึงลงมาเปิดประตูรถให้กานต์  พลางใช้หลังมือแตะหน้าผากสำรวจ

   “คุณเป็นอะไรรึเปล่า  ตัวก็ไม่ร้อนนะ  หรือว่าปวดหัว  ยังแฮงค์อยู่ไหม” น้ำเสียงอบอุ่นกับแววตาเป็นกังวลที่ทอดมองมาจุดรอยยิ้มให้กานต์เป็นอย่างดี

   “ผมเหนื่อยจังเลยครับพี่ณิน” ปากพูดกับธรณินแต่ตาเหลือบมองข้ามไหล่ไปสบกับผีจูออนที่ยืนรออย่างกระฟัดกระเฟียดทางด้านหลัง  อ่า...หาอะไรทำเล่นแก้เซ็งน่าจะดี

   “เป็นอะไรเหนื่อย  เดินทางแป๊บเดียวนี่นา” พอเห็นคนตรงหน้าย่นหัวคิ้วถาม  กานต์จึงส่งสายตาวิบวับพลางตอบ

   “เหนื่อยสิครับพี่ณิน  ก็ผมไปวิ่งเล่นในหัวใจพี่ทั้งวันเลย”

   “เพี๊ยะ!” เป็นไปตามคาด  ธรณินดีดหน้าผากเข้าให้หนึ่งทีโทษฐานกวนนัก  กานต์ได้แต่กุมหน้าผากร้องโอดโอยไปตามเรื่อง  หากตาแอบมองลอดนิ้วที่ยกขึ้นปิดหน้าไปเห็นผีจูออนทำตาโต  ไม่ได้ด้วยความน่ารัก  แต่เป็นโตด้วยความอิจฉาริษยา  แล้วกระทืบเท้าด้วยความขัดใจสองทีก่อนสะบัดหน้าพรืดเดินเข้าไปในสตูดิโอ

   “อ้าว! อิคคิวไปไหนแล้วล่ะ”

   “ผมเห็นเดินเข้าไปข้างในแล้ว  สงสัยแดดร้อนมั้งครับพี่”

   ธรณินพยักหน้ารับรู้  จัดการล็อครถให้เรียบร้อย  แล้วจึงแตะหลังกานต์เป็นเชิงบอกให้เข้าไป

   ภายในสตูดิโอยังคงคึกคักวุ่นวายเช่นเดิม  เสียงตะโกนโหวกเหวกให้จัดของ  จัดไฟ  ลอยข้ามฟากไปมา  ธรณินเดินตรงเข้าไปหาทรงชัยซึ่งกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดบ่นนั่นบ่นนี่แก้เครียดไปตามประสา  แต่เมื่อเงยหน้ามาเห็นธรณินก็คลายปมที่หว่างคิ้วออก  ยกมือรับไหว้  พลางตบหลังตบไหล่ขอบคุณเป็นการใหญ่

   “เฮ้ย! ณิน  เฮียขอบใจมาก  อุตส่าห์มาให้  กรด้วยนะ”

   “ไม่เป็นไรครับเฮีย  แต่มีปัญหานิดหน่อยนะครับ  กรเค้ากังวล  เมื่อวานคงล้างหน้าไม่สะอาดน่ะเฮีย  วันนี้เลยเป็นสิวที่แก้มซ้ายเม็ดเบ่อเริ่มเลย”

   กานต์ยิ้มหัวเราะแหะๆ พลางเอียงหน้าซีกซ้ายให้ทรงชัยดูผลงาน  ทรงชัยใช้มือข้างหนึ่งเท้าเอว  อีกมือเกาคางเอียงหน้ามอง

   “เฮียว่า  ใช้คอนซีลเลอร์ถมไปน่าจะกลบรอยแดงๆ นั่นได้อยู่  แต่ไอ้ที่นูนๆ นี่...ใช้มุมกล้องหลบๆ เอาหน่อยละกัน  น่าจะใช้ได้”

   “ให้อิคคิวช่วยไหมครับเฮีย  วันนี้อิคคิวว่าง  ไม่มีไปถ่ายแบบที่ไหน  หน้าใสสดชื่น  ไม่มีรอยนูนให้กวนใจ  สั่งให้หันซ้ายได้ซ้าย  หันขวาได้ขาว  ยักคิ้วหลิ่วตา  เงยหน้า  จือปาก  ได้ทั้งนั้น  มืออาชีพแบบสุดๆ  เลยนะครับเฮีย”

   เอ่อ...ใครช่วยลากผีจูออนนี่ไปเก็บที่ได้ม้ายยย

   “อ้าว! อิคคิวไปไงมาไงล่ะเนี่ย” ทรงชัยเองก็รู้สึกงุนงงกับการปรากฏตัวโฆษณาแบบฮาร์ดเซลล์ของอิคคิว  จึงได้แต่กล่าวทักไหลไปตามน้ำ

   ธรณินทางนึงแกะมือที่เอื้อมมาคว้าแขนของตนไปกอดไว้อย่างถือวิสาสะ  ทางนึงก็ตอบคำถามของทรงชัยไปด้วยอย่างเกรงใจ  สภาพเหมือนแม่ลิงพยายามสลัดลูกลิงทิ้งชวนให้รู้สึกตลกขบขัน

   “เจอกันในห้างสรรพสินค้าครับเฮีย  เลยพามาให้เฮียเลือก  เพราะเห็นกรเค้ามีปัญหาเรื่องสิวอยู่ด้วยพอดี  ขอโทษที่ถือวิสาสะตัดสินใจเองโดยพลการด้วยนะครับ”

   ทรงชัยอมยิ้มในหน้าปากบอก “ไม่เป็นไร  ไม่เป็นไร  ดีซะอีกจะได้มาช่วยกัน” แต่ตาทอประกายขบขันว่าสาเหตุที่ธรณินพามาด้วยจริงๆ น่าจะเป็นเพราะสลัดอิคคิวไม่หลุดซะมากกว่า

   อิคคิวเชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทาย  ปรายตามองกานต์อย่างเป็นต่อ  ปากเจรจาถามคอนเซปท์ของน้ำหอมที่จะใช้ถ่ายทำ  ตาจ้องจิกกานต์อย่างจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพเจนสนามของเจ้าตัว  ส่วนกานต์จ้องตอบกลับด้วยดวงตาใสซื่อ  จนเมื่อธรณินหันไปคุยกับทรงชัยจึงได้ยกนิ้วกลางขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ!!!


TBC...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2017 20:48:09 โดย virgo »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 5 (21/01/2560)
«ตอบ #19 เมื่อ21-01-2017 20:24:26 »

 :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 5 (21/01/2560)
« ตอบ #19 เมื่อ: 21-01-2017 20:24:26 »





ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 5 (21/01/2560)
«ตอบ #20 เมื่อ21-01-2017 20:41:47 »

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ แสบอ่ะ นิ้วกลางจัดไป

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 5 (21/01/2560)
«ตอบ #21 เมื่อ24-01-2017 17:52:17 »

ยะ...ยก...ยกนิ้วกลางอย่างเป็นธรรมชาติ 5555555555555

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 5 (21/01/2560)
«ตอบ #22 เมื่อ24-01-2017 22:21:19 »

 :katai :laugh:

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 6 (24/01/2560)
«ตอบ #23 เมื่อ24-01-2017 22:24:21 »

บทที่ 6

   “วี้ดดดด” เสียงหวีดร้องของอิคคิวถูกกลบลงด้วยเสียงกรีดร้องของบรรดาแม่ยกส่วนตัวของกานต์  สมชายเดินนำจุ๋มและซินเบียดแทรก  พลางใช้บั้นท้ายดินระเบิดระดับโอ่งมังกรราชบุรีปัดผ่านเพียงแผ่วเบา  แต่ส่งผลให้อิคคิวกระเด็นหลุดออกจากวงสนทนาทันที

   “น้องกรของพี่...เมื่อกี๊พี่เห็นนะ” สมชายทำหน้าเคร่งพยักเพยิดไปทางอิคคิว

   “ขอโทษครับพี่ซิสซี่  แต่ผมหมั่นไส้อะ  มาทำตาจิกๆ ใส่  ผมไม่ชอบ” กานต์ยกมือไหว้ขอโทษสมชาย  สีหน้าดื้อดึงแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวขอโทษที่ทำมารยาทไม่ดีออกมา  แต่ไม่ได้ขอโทษที่เก็บอารมณ์ไม่อยู่และเผยความไม่ชอบหน้าอิคคิวออกมาเต็มที่

   “แรว๊งงงงส์” จุ๋มกับซินคู่หูชวนกันจิ้นอุทานออกมาพร้อมกับปิดปากหัวเราะคิกคัก

   สมชายก็หลุดหัวเราะพรืดออกมาเหมือนกัน “โถ..น้องกรของพี่  พี่เองก็หมั่นไส้อิคคิวมานานละ  แต่ที่เข้ามาห้ามทัพเนี่ย  ก็กลัวน้องกรจะทำงานลำบากหรอกจ้ะ  แต่ถ้าวันไหนมีนัดตบกันหลังเลิกงานเมื่อไหร่บอกพี่นะ”

   “พี่จะไปช่วย?” ซินถาม

   “ปล๊าวววว พี่จะไปให้กำลังใจน้องกรเฉยๆ บอบบางอย่างพี่จะไปสู้รบตบมือกับใครเค้าด๊ายยย” ท้ายเสียงลากยาวจนจุ๋มและซินลอบเบ้ปาก

   “สาวๆ ที่รักของเฮียจ๋า  หยุดกิจกรรมเม้าท์มอยหอยระเบิดกันได้แล้ว  พาน้องไปแต่งหน้าแต่งตัวได้  งานไม่เสร็จ  เลิกดึกขึ้นมาก็มาบ่นว่าเฮียใจร้ายอีก

   สมชายค้อนทรงชัยขวับใหญ่  ก่อนจะจูงมือกานต์เข้าห้องแต่งตัว  เดินผ่านอากาศธาตุที่ชื่ออิคคิวไปแบบสวยๆ โดยปล่อยให้เจ้าตัวยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอาฆาตแค้นในใจอยู่คนเดียว

   “อ้อ...มีพวกซะด้วย  ถึงว่า  ถึงได้ไม่เกรงใจรุ่นพี่กันบ้างเลย  ทำผยองไปเถอะแก  เดี๋ยวตอนถ่ายเมื่อไหร่  ฉันจะเปล่งประกายให้อายจนไม่กล้าเผยอหน้าอยู่ในวงการนี้อีกเลย  ให้รู้ซะบ้างว่า TOP 5 ในวงการนายแบบน่ะไม่ได้มาเล่นๆ!!”

   ทรงชัยยืนสั่งการให้เด็กๆ รีบเร่งมือจัดฉาก  เสียงตะโกน  เสียงขานรับเซ็งแซ่ไปทั้งสตูดิโอ  ก่อนสรรพเสียงต่างๆ คล้ายถูกปิดสวิตช์ฉับในทันที  เมื่ออิคคิวปรากฏตัวในลุคหนุ่มน้อยน่ารักในแบบที่เจ้าตัวถนัดที่สุด  ด้วยใบหน้าที่อ่อนใส  เมื่อลงเครื่องสำอางบางเบา  ขับผิดขาวแลดูสุขภาพดีให้โดดเด่น  แก้มสีชมพูมีเลือดฝาด  ริมฝีปากอิ่มเต็มยกยิ้มอวดลักยิ้มข้างแก้มที่บุ๋มลึกลง  เมื่อเจ้าตัวจงใจโชว์จุดขายของตนอย่างเต็มที่

   อิคคิวกวาดตามองทุกสายตาที่มองมาทางตัวเองอย่างสมใจ  มันต้องอย่างนี้สิ  จุดรวมทุกสายตาควรจะอยู่ตรงนี้  ตรงอิคคิวผู้นี้เท่านั้น  ไม่ใช่มัวไปหลงใหลได้ปลื้มพวกหน้าใหม่  มองมาทางฉันแล้วสยบให้กับความสดใสน่ารักระดับสิบเต็มสิบของท่านอิคคิวผู้นี้ซะ! วะฮะฮะฮะฮ่า

   “เฮียใช้คร้าบ” เสียงที่ทอดลากยาวทางด้านหลัง  ส่งผลให้ทรงชัยถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย  แรกๆ ไอ้คำว่าคร้าบ  คร้าบนี่ก็น่าเอ็นดูดี  แต่จนอายุยี่สิบ  ยี่สิบเอ็ดนี่มันก็เกินคำว่าน่าเอ็นดูมาไกลแล้วนะ  เฮ้อ...บ่นได้แต่ในใจก่อนจะปรับสีหน้ายิ้มแย้มหันไปรับคำได้อย่างลื่นไหลไม่เสียทีที่เป็นตากล้องมานาน  ฝีมือด้านการแอคติ้งของทรงชัยเข้าขั้นระดับตัวพ่ออยู่เหมือนกัน

   “ว่าไงครับอิคคิว  โอ้โห!...น่ารักเชียวครับ  ชุดนี้รูปที่ออกมาต้องสุดยอดมากๆ เลยครับ”

   เด็กๆ ในกองปากอ้าตาค้างกันเป็นแถบๆ โอ้ พระเจ้า! นี่ตากล้องหรือว่าจิ้งจอกพันหน้า  เปลี่ยนหน้าได้ไวสุดๆ

   ทรงชัยหัวเราะหึๆ ในลำคำผินหน้าไปยักคิ้วให้เด็กๆ แผล็บหนึ่งก่อนจะหันมาส่งยิ้มชื่นชมสุดจริงใจให้หนุ่มน้อยอิคคิวตรงหน้า

   “เริ่มถ่ายกันเลยไหมครับเฮีย  อิคคิวพร้อมสุดๆ ไปเลยฮะ”

   “ถ้าอิคคิวพร้อม  เฮียก็พร้อมลุยไปทุกที่กับอิคคิวเลยครับ  อ้าว...ยืนงงกันอยู่ทำไม  เราจะเริ่มถ่ายกันเลย  ดูน้องเค้าเป็นตัวอย่างกันซะบ้างนะเด็กๆ ไปครับอิคคิว  ลุยกันเลย”

   เสียงแชะๆ ของกล้องถ่ายรูปดังระรัวยาวต่อเนื่อง  เรียกให้กานต์และธรณินที่เพิ่งแต่งตัวแต่งหน้าเสร็จต้องหยุดยืนมอง  การโพสต์ท่าทาง  การวางมือ  เอียงคอ  ขยิบตา  ยกยิ้มของอิคคิวช่างสมกับที่เป็นนายแบบระดับ TOP 5 ทุกอากัปกิริยาลื่นไหลไม่มีติดขัด  สั่งเอียงซ้ายขวาได้อย่างใจยิ่งกว่าอับดุล

   พลันไหล่ซ้ายของกานต์ก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดทับลงมา

   “ไม่ต้องเครียดนะคุณ  เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด  ถ้าเฮียใช้เห็นว่ารูปที่อิคคิวออกมาแล้วดีกว่า  เหมาะสมกว่า  เราก็ปล่อยไป  งานถ่ายแบบน่ะมีเยอะ  อย่าไปกังวล”

   ธรณินบีบไหล่กานต์อย่างจงให้กำลังใจ  คนตัวสูงกว่าลอบมองใบหน้าครุ่นคิดของคนข้างกายมาได้สักพัก  เห็นยืนกอดอกทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก

   กานต์หันหน้าไปอมยิ้มรับคำของธรณิน  ก่อนจะเสไปมองการถ่ายแบบของอิคคิวต่อ  โถ  พี่ณิน  คนดีของสังคม  กัดกระพุ้งแก้มกลั้นหัวเราะจนเหลือแค่อาการอมยิ้มจนเหนื่อย  ที่มองๆ แล้วทำหน้าขบคิดน่ะ  ไม่ใช่เพราะกังวล  แต่แค่สงสัย  ว่าโตจนอายุขนาดนี้แล้วมาโพสต์ท่าทำแก้มป่อง  ตาโต  นี่มันน่ารักตรงไหน  รสนิยมของโลกมนุษย์เป็นแบบนี้หรือว่าตัวเขาล้าหลังเกินไปกันแน่  แต่ถ้าความสงสัยนี้ทำให้พี่ณินสงสารได้ก็ถือเป็นผลพลอยได้ล่ะนะ

   “โอเค  เยี่ยมมากอิคคิว  ไปพักได้” เสียงทรงชัยตะโกนบอก  ทำให้กานต์ที่หลุดจากภวังค์ความคิดเตรียมตัวเดินเข้าฉากเพื่อถ่ายต่อไป

   “คิดว่าด้วยสารรูปและหนังหน้าจืดๆ แบบนี้จะได้รับความสนใจไหม”

   ขณะกำลังเดินสวนกัน  เสียงของผีจูออนที่เคลื่อนผ่านมาก็กระทบกับใบหูของกานต์  สองเท้าที่กำลังก้าวเดินหยุดกึกอยู่กับที่  ก่อนที่กานต์จะหันหน้ามายิ้มหวานหยดก่อนเอ่ยเสียงเบา

   “ไม่เผือกสิครับพี่อิคคิว”

   พูดจบก็ก้าวเท้าเดินต่อไปเข้าฉากอย่างมั่นใจ  ความคิดบางอย่างวาบผ่านเข้ามาโดยกะทันหัน  กานต์ชะงักฝีเท้า  เดินย้อนกลับมาหาทรงชัยและธรณิน

   อิคคิวโกรธก็โกรธ  หากก็อดสงสัยไม่ได้  เด็กใหม่อย่างมันคิดจะทำอะไร  เห็นทั้งสามคนโต้ตอบกันไปมา  สักพักเฮียใช้ก็พยักหน้ารับหงึกหงัก  พี่ณินเองจากที่เคยส่ายหน้า  ยกมือไม้โบกเป็นพัลวันก็มีท่าทีอึกอักอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด  จนสุดท้ายก็ยินยอมพยักหน้าตามไปด้วยอีกคน  อิคคิวเห็นธรณินเดินนำเข้าไปในฉากอย่างจำยอมก่อน  กำลังจะเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น  ก็มีเสียงรื่นรมย์ดังขึ้นมาตรงริมหูซะก่อน

   “ขอบคุณที่ช่วยกระตุ้นต่อมอยากเอาชนะของผมนะครับพี่อิคคิว  จับตาดูผมให้ดีๆ นะครับพี่”

   พูดจบก็เป่าลมหายใจรดต้นคอให้เขาขนลุกเกรียวซะอีก

   “อะ...อะไร  ไอ้เด็กบ้า” อิคคิวกัดฟันตอบเสียงตะกุกตะกัก

   กานต์ไม่ตอบคำ  แต่จุดร้อยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาประดับใบหน้า  ก่อนจะเดินไปถอดเสื้อสูทออกส่งให้ซินรับไว้  ขยี้ผมที่เซ็ตไว้เรียบร้อยให้แลดูยุ่งเหยิง  แต่กลับทำให้วงหน้าอ่อนเยาว์แลดูมีเสน่ห์น่าค้นหา

   “พร้อมแล้วครับเฮีย  ถ่ายยาวต่อเนื่องเลยนะครับ” เสียงกานต์ตะโกนบอกให้สัญญาณกับทรงชัย  ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำมือตอบรับส่งกลับมา

   เสียงกล้องแชะแรกดังขึ้นพร้อมๆ กับที่กานต์ถลกแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมอยู่ขึ้นมาถึงข้อศอก  ตามด้วยกระชากกระดุมเสื้อจนหลุดกระเด็น  ก่อนจะเอ้อมมือไปโอบกอดธรณินที่ยืนหันหลังให้กล้องอยู่  ซบหน้าซีกร้ายลงบนไหล่กว้างนั้น  ส่งสายตายั่วยวนไปทางกล้อง  ยกศีรษะขึ้นเอาคางเกยบนไหล่  เอียงใบหน้าซีกขวาให้กล้องจับภาพ  เผยรอยยิ้มร้ายกาจแบบแบดบอย  ก่อนจะบรรจงขบฟันลงบนใบหูของธรณิน  ในขณะที่สายตายังคงส่งสารท้าทายให้กล้องไม่หยุด

   “โอเค  คัท” เสียงของทรงชัยกระชากสติสัมปชัญญะของทุกคนให้กลับมาสู่ปัจจุบัน  เสียงวี้ดว้ายตามมุมต่างๆ ของสตูดิโอบ่งบอกว่าภาพเซ็กซี่ขยี้ใจกระตุกเลือดลมกันขนาดไหน

   ธรณินยืนตัวสั่น  หน้าตาเนื้อตัวแดงจนไม่รู้จะแดงยังไง  พึมพำอะไรออกมาเบาๆ จนกานต์ต้องกระซิบถามกลับ

   “อะไรครับพี่ณิน”

   “เลิกเลียได้แล้ว!!!”

   “อะ...ครับๆ ขอโทษครับ  เพลินไปหน่อย”

   กานต์หัวเราะแหะๆ กุลีกุจอหาผ้ามาเช็ดตามลำคอและใบหูให้ธรณินเป็นการใหญ่

   เวลาที่กานต์ใช้ในการถ่ายรูปดำเนินไปไม่นานเลย  แต่สำหรับธรณินแล้วยาวนานมาก  ตั้งแต่เป็นผู้จัดการมาเคยแต่ทำหน้าที่เบื้องหลังจัดแจงท่าทาง บิ้วท์อารมณ์ให้นายแบบในสังกัดมานักต่อนัก  แต่คราวนี้เป็นเพราะกานต์ขอร้อง  ว่าอยากได้ช่วงหลังและไหล่มาช่วยอำพรางสิวเจ้าปัญหาบนใบหน้าซีกซ้าย  ตอนแรกก็ปฏิเสธอย่างจริงจัง  แต่หน้าตากานต์ตอนที่บอกว่าเขาจะไม่ช่วยนี่สิ  หงอยลงไปอย่างเห็นได้ชัด  ก็เลยต้องจำใจรับปาก  อีกอย่างก็ใช้แต่พื้นที่ด้านข้างและด้านหลังเท่านั้นเอง  แล้วดูไอ้มังกรจอมเลื้อยมันทำกับเขาสิ  ทั้งโอบ  ทั้งกอด  ทั้งขบ  ทั้งเลีย  ถ้าเฮียใช้ถ่ายต่ออีก 5 นาที  สงสัยคงได้เสียเป็นเมียผัวกันกลางกองถ่ายนี่แหละ  คิดแล้วก็เสียวใจ เอ๊ย! เสียใจที่ดันไปตกปากรับคำช่วย เฮ้อ!

   “ดีมากๆ ดีจริงๆ นะกร  รูปออกมาดูร้ายมาก” ทรงชัยทำสีหน้าตื่นเต้นพูดรัวจนฟังไม่ได้สรรพ

   “ฮ่าๆๆ แล้วตกลงมันดีรึมันร้ายกันแน่ครับเฮีย” กานต์หัวเราะพูดแซวกลับไป

   “บ๊ะ!! มันก็ดีแบบร้ายๆ น่ะสิ  เก่งนะเนี่ยเราอะ  มองไม่เห็นสิวเลยสักนิดเดียว  เจ้าณินสอนมาดีใช่ไหมเนี่ย” พูดจบก็หันไปสัพยอกธรณินเล่นอย่างอารมณ์ดี

   “ส่วนณิน  เฮียต้องขอบใจมากๆ ที่พากรมาช่วยชีวิตเฮียไว้  แล้วยังต้องมาช่วยเป็นนายแบบจำเป็นให้อีก  ตั้งแต่เฮียถ่ายรูปมานะ  ไม่เคยมีใครยืนนิ่งได้เป็นท่อนไม้เท่ากับณินอีกแล้ว”

   “โธ่...เฮียก็”

   “เฮ้ย! อย่าทำหน้าบูด  นี่เฮียชมจริงๆ นะเนี่ยไม่ได้ว่า”

   เสียงหัวเราะฮ่าๆ ของทรงชัยดังก้องสตูดิโอจนธรณินคิดว่าน่าจะเป็นการหลอกด่ามากกว่าการชมเชย  กำลังนึกถ้อยคำตอบโต้กลับของเฮียก็รู้สึกถึงแรงกระตุกที่ชายเสื้อเสียก่อน

   “หืม  มีอะไรคุณ”

   “พี่ณินครับ  ผมร้อน” พูดพลาง  มือก็กระพือคอเสื้อเปิดเผยแผงอกขาวๆ ที่เริ่มขึ้นสีแดงเพราะเจ้าตัวทนอากาศร้อนไม่ไหว

   “ห้องน้ำไปทางไหนครับพี่ณิน”

   พอหันมาเห็นเหงื่อที่เริ่มซึมตามขมับของคนตรงหน้า  ธรณินก็เลิกใส่ใจคำพูดของทรงชัยทันที

   “มา  เดี๋ยวผมพาไป  เลี้ยวซ้ายก่อนถึงห้องเก็บของด้านหลังสตูน่ะ  ไม่ไกลหรอก”

   “ไม่เป็นไรครับพี่ณิน  เดี๋ยวผมไปเอง  ไปเอาน้ำลูบหน้าลูบตาแป๊บเดียวแค่นั้นแหละครับ  พี่อยู่คุยกับเฮียใช้ไปเถอะ”

   ยังไม่ทันที่จะส่งเสียงทัดทานก็วิ่งปรูดหายไป  เขาเริ่มเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อที่ลูกไม่เชื่อฟังแล้วยังรั้นที่จะทำเสียอีก  อารมณ์ความรู้สึกตอนนี้มันใช่!!!
   

   “เลี้ยวซ้าย เลี้ยวซ้าย  แล้วมันซ้ายนี้รึซ้ายไหนกันแน่ล่ะเนี่ย” กานต์บ่นพึมพำๆ พลางสอดส่ายสายตาหาป้ายห้องน้ำไปด้วย

   “หน้าตาธรรมดาแล้วสติปัญญายังพื้นๆ อีกนะ”

   ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเสียงใคร  กานต์ถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะหันไปถาม

   “จะเข้าห้องน้ำนี่ต้องสอบวัดระดับด้วยเลยไหมครับ”

   “ฮึ่ย! ไอ้เด็กบ้า  ข้างหน้านั่นไงล่ะ  อุตส่าห์จะมาบอก  ยังจะมากวนกันอีกนะ”

   กานต์เลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจ  อย่างผีจูออนเนี่ยนะจะมาใจดีด้วย  อาการครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆ ส่งสัญญาณเตือนภัยว่าเรื่องนี้ไม่ปกติแน่นอน  ขณะกำลังคิดจะโต้ตอบกลับก็เห็นธรณินอยู่ลิบๆ ท่าทางกำลังเดินตามหาเขาอยู่แน่ๆ ว่าแล้วก็แกล้งโง่เล่นตามเกมของคุณรุ่นพี่เขาหน่อยก็แล้วกัน

   “อ๊ะ! ผมขอโทษที่เข้าใจพี่อิคคิวผิดไปนะครับ  ขอบคุณมากครับพี่  ถ้าอย่างนั้นผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”

   ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าสู่ห้องเก็บของ (แน่นอนว่ามีป้ายห้องเก็บของตัวเท่าหม้อข้าวแปะไว้  ถึงได้บอกว่าแกล้งโง่ตามที่ผีจูออนบอก) ประตูทางเบื้องหลังก็ปิดดังปังลงทันที  กานต์มองซ้ายมองขวาหาที่นั่งเหมาะๆ รอเจ้าชายธรณินมาช่วยอย่างใจเย็น  แต่เผื่อพี่ณินหาไม่เจอ  ทิ้งตัวช่วยไว้บอกตำแหน่งหน่อยน่าจะดี  เกิดพี่ณินหูตาฝ้าฟาง (พูดอะไรให้เกียรติผมด้วยนะครับ – ธรณิน) เดินผ่านห้องนี้ไปเฉยๆ ก็ร้อนตายน่ะสิ  เสียงฝีเท้าที่ซอยห่างไปจากหน้าประตูเงียบเสียงลงไปแล้ว  ถ้าอย่างนั้นก็เสกตัวช่วยได้ เป๊าะ!!

   “ไปอยู่ที่ไหนนะ  ห้องน้ำใกล้ๆ แค่นี้เอง  ไม่รู้หรือไงว่าหายตัวไปแบบนี้จะทำให้คนอื่นเค้าเป็นห่วง”

   ธรณินเดินตามหากานต์มาได้พักใหญ่แล้ว  ที่ห้องน้ำก็ไม่อยู่  เดินย้อนกลับไปที่สตูดิโอก็ไม่มี  หายไปไหนของเขากันนะ  ตัวเองยิ่งทนอากาศร้อนไม่ได้อยู่  แล้วถ้าเกิดกลายร่างกลับไปเป็นมังกร  เพราะควบคุมตัวเองไม่ได้จะทำยังไง  ยิ่งคิดก็ยิ่งวิตก  สองขาก้าวเร็วขึ้นจนแทบจะเป็นวิ่ง  พลันหางตาก็เหลือบไปเห็นดอกไม้ดอกเล็กที่บริเวณหน้าประตูห้องเก็บของ  ธรณินสาวเท้าอย่างเข้าไปดูใกล้ๆ อย่างรวดเร็ว  ก่อนจะก้มตัวลงเก็บมาพิจารณา 

   “นี่มัน...ดอกกุหลาบที่กานต์เคยเสกนี่”

   ปังๆ เสียงทุบประตูสลับกับเสียงตะโกนเรียก

   “กานต์ๆ คุณอยู่ข้างในนั้นรึเปล่า  กานต์!!”

   “พี่...พี่ณิน” น้ำเสียงแผ่วระโหยที่ตอบกลับมายิ่งทำให้ธรณินร้อนใจเข้าไปใหญ่

   “รอเดี๋ยวนะกานต์  โธ่เว้ย! ใครเอาไม้มาขัดไว้วะ”

   ปึง  ปึง  ผลัวะ  มาดคุณชายสุขุมนุ่มลึกไม่เหลือแล้ว  ธรณินกระโดดถีบจนประตูเปิดอ้ากว้างห้อยร่องแร่ง  เร่งกวาดสายตาไปพบภาพที่ชวนให้ปวดใจ

   กานต์ในสภาพนอนหอบ  ผิวตามเนื้อตัวแดงก่ำเพราะความร้อนเล่นงาน  น้ำตาเอ่อคลอ  ริมฝีปากแห้งอย่างเห็นได้ชัด

   “พี่...ณิน” กานต์ครางเสียงแผ่ว  ธรณินก็ไม่รอช้าก้าวยาวๆ ไปรวบตัวน้องมาไว้แนบอกกล่าวอย่างอ่อนโยน

   “ทนอีกนิดนะกานต์  เดี๋ยวพี่พากลับบ้านเรานะ”
       
        TBC...

...................................................
คุณเจี่ยเจี่ยบอกว่าช่วงนี้ไฟติด :katai4:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 6 (24/01/2560)
«ตอบ #24 เมื่อ24-01-2017 22:46:13 »

มังกรมันร้ายยยยยยย

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 6 (24/01/2560)
«ตอบ #25 เมื่อ24-01-2017 23:34:40 »

โอ๊ย มังกรร้ายมากลูก เอาซะฮา ร้ายแบบบตั้งใจ พี่ณินรอดยากนะเนี่ย กร๊ากกก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 6 (24/01/2560)
«ตอบ #26 เมื่อ25-01-2017 00:42:30 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ virgo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 7 (29/01/2560)
«ตอบ #27 เมื่อ29-01-2017 12:53:49 »

บทที่ 7

   “ขอทางหน่อยครับ  ขอทางหน่อย”

   ทีมงานเอะอะเอ็ดตะโรเปิดทางให้ธรณินกึ่งพยุงกึ่งประคองพากานต์ไปยังรถที่จอดไว้ด้านหน้า  เสียงสอบถามจากคนนู้นคนนี้ให้วุ่นวายระเบ็งเซ็งแซ่ไปหมด  แต่เขาไม่รับรู้ใดๆ ทั้งสิ้น  ในใจพะวงกับคนในอ้อนแขนเป็นหลัก  เนื้อตัวแดงระเรื่อแต่ผิวกลับเย็นเฉียบ  ใครกันที่แกล้งกานต์ของเขาได้ลงคอ  เพราะมัวแต่เป็นห่วงกังวลคิดไปสารพัด  ทำให้ธรณินไม่ได้ยินเสียงเรียกของทรงชัย  จนเมื่อถูกคว้าแขนเอาไว้จึงได้รู้สึกตัว

   “ณิน เฮ้ย! ณิน กรเป็นอะไรวะ”

   “ใครแกล้...”

   “เป็นลมครับเฮีย”

   ยังไม่ทันที่ธรณินจะพูดจบ  เสียงตอบระโหยแห้งก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน  กานต์กระตุกชายเสื้อธรณินพลางจ้องมองอย่างอ้อนวอน

   “พอดี... ผมแพ้อากาศร้อนน่ะครับเฮีย  เลยเป็นลม  ถ้ายังไงผมขอเสียมารยาทลากลับก่อนนะครับ  วันนี้ไม่ไหวจริงๆ”

   “ครับเฮีย  เจ้าตัวเขาว่าเป็นลมก็เป็นลมครับ  ผมกลับก่อนก็แล้วกัน อ้อ! ฝากเฮียช่วยดูๆ หน่อยก็ดีนะครับ  ว่ามีเด็กๆ มือบอนที่ไหนชอบเอาไม้ไปขัดประตูห้องเก็บของจนทำให้กรเป็นลมบ้างหรือเปล่า  ถ้าเจอตัวก็ฝากด่าให้ด้วย ‘โคตรเด็ก’ เลย  ผมกลับล่ะ  สวัสดีครับ”

   ทั้งสตูดิโอเงียบกริบทันทีเมื่อเจอธรณินเหวี่ยงใส่  แต่ละคนก้มหน้าก้มตาหลบสายตาด่าคนได้คู่นั้นกันให้ระนาว

   “โอ๊ย! อกอีสมชายจะแตก  คุณณินที่สุขุม  ชอบแหย่คนแบบตลกหน้าตายคนนั้นหายไปไหนแล้ว  แกเห็นไหมนังจุ๋ม  อีตอนฮีกราดสายตามาอ่ะ  อย่างกะมาเฟีย  แต่... หล่อเร้าใจมากเลยนะแก” สมชายตบไหล่จุ๋มป้าบๆ จนไหล่จุ๋มแทบทรุด

   “สงสัยเจ๊ซิสซี่จะกลัวคุณณินจริงๆ นะเนี่ย” ซินเอ่ยแซว “ถึงขนาดหลุดชื่อจริงเจ๊มาซะขนาดนี้” เสียงหัวเราะฮ่าๆ ทำให้บรรยากาศมาคุเมื่อครู่ผ่อนคลายลง  ใครมีหน้าที่ทำอะไรก็กลับไปจัดการในส่วนของตัวเองกันต่อ  สมชายยืนเม้าท์มอยกับซินและจุ๋มอยู่อีกพักหนึ่งจึงสังเกตเห็นทรงชัยเลือกดูรูปไปส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอไปด้วย  จึงอดไม่ได้ต้องแถเข้าไปถามไถ่

   “น้องๆ ถ่ายกันไม่ได้ดังใจเหรอคะเฮีย  ดูทำหน้าทำตาเข้าสิ”

   “ใครว่าล่ะสมชายเอ๊ย  มาดูเจ้ากรนี่  เฮียดูแล้วยังใจสั่นเลย  เด็กคนนี้มีแววนะเนี่ย  แล้วรู้มุมกล้องด้วยนะ  มองไม่เห็นรอยนูนของสิวเลย  ที่สำคัญที่สุดเลยตรงนี้ๆ แกดูตรงหูเจ้าณินนี่”

   สมชายชะโงกตัวข้ามไหล่ทรงชัยไปดูภาพเบื้องหน้าแล้วก็ถึงกับหลุดอุทานวี้ดว้าย  มือไม้ยกทาบอกเป็นพัลวัน

   ภาพที่เห็นเป็นหนุ่มน้อยหน้าใส  แต่ให้ความรู้สึกเป็นคาสโนว่าตัวพ่อ  ด้วยดวงตาพราวระยับที่จับจ้องตรงมาเหมือนจะดึงดูดให้คนที่เผลอจ้องภาพถ่ายต้องยอมยกหัวใจให้  แต่ที่ชวนให้กรี๊ดสลบก็ตรงผู้ชายอีกคนที่หูแดงก่ำ  เพราะโดนหนุ่มน้อยขบกัดใบหู  แถมยังลากปลายลิ้นเล็กแตะค้างไว้  ชวนให้เลือดลมพุ่งพล่านเมื่อได้มอง

   “กรี๊ด...คุณณินของซิสซี่  จะโดนน้องกรกินซะละม้าง  เฮ้อ...”
   

        -ภายในห้องบนคอนโดของธรณิน-

   “เอ้า! ดื่มน้ำซะให้หายคอแห้งก่อน  แล้วเดี๋ยวผมจะไปหยิบยาแก้ตัวร้อนมาให้  ว่าแต่...มังกรกินยาลดไข้ของคนได้ใช่ไหม”

   “ไอ้กินน่ะกินได้ครับพี่ณิน  ร่างกายนี้ก็ร่างกายมนุษย์  ทำได้เหมือนคนปรกติทุกอย่าง  แต่ผมไม่กินได้ไหมครับพี่  ผมก็แค่ร้อน  แล้ว... แล้วตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วด้วย” เสียงออดๆ เป็นมอดกัดไม้เริ่มเบาลงเรื่อยๆ เมื่อเห็นสายตาคมดุจ้องตอบกลับมา

   “ร้อนน่ะ  มันก็แบบนึง  แต่นี่มันตัวร้อน  ยังไงก็ต้องกินยา” พูดจบร่างสูงของธรณินก็เดินไปหยิบยาแล้วมานั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ ที่นอน

   “ผมให้เวลาทำใจ  ไหนเล่ามาซิว่าไปถูกขังอยู่ในห้องเก็บของได้ยังไง  อ๊ะ! อย่ามาบอกว่าเป็นลม  ขอความจริง” ธรณินรีบเอ่ยดักคอ  เมื่อเห็นกานต์ทำท่าจะเอ่ยคำว่าเป็นลมออกมา

   มังกรน้อยเลยหงอย  ได้แต่เล่าไปตามความจริงว่าตัวเองแกล้งเล่นไปตามเกมของอิคคิว  เพราะเห็นๆ อยู่ว่าธรณินกำลังเดินตามหาตนอยู่  ถึงขนาดเสกดอกกุหลาบน้อยบอกพิกัดไว้เป็นตัวช่วยอีกต่างหาก  แต่ดันผิดคาดที่คนที่รอให้มาช่วยดันมาช้า  เพราะเดินไปผิดทาง  ทีนี้มังกรขาดน้ำอย่างเขาเลยได้แต่นอนแห้งรอไปเรื่อยๆ เล่าจบตาที่ขุ่นขวางของธรณินก็แทบจะพ่นไฟออกมาได้  ไอ้เด็กพิเรนทร์นี่  ถ้าเขาเกิดหาไม่เจอล่ะ  ถ้าไปช้ากว่านี้ล่ะ  เล่นอะไรไม่เข้าเรื่องเลยจริงๆ

   “ถึงขนาดมีเวลาเสกดอกกุหลาบวางไว้หน้าห้อง  ทำไมไม่เสกให้ประตูมันเปิดออก  คุณจะได้ออกมาได้เอง  ไม่ต้องรอให้ผมไปช่วย” ธรณินมุ่นคิ้วถามด้วยความสงสัย

   มังกรตรงหน้าขดตัวเล็กลงจนแทบจะกลายเป็นงูดิน  ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบเสียงเบา

   “ตอนแรกยังมีแรงอยู่น่ะครับพี่  ยังเสกของได้  พอร้อนมากๆ เข้า  ทีนี้หมดแรงได้แต่นอนแห้งรอความช่วยเหลือจากพี่ณินแล้วละครับ”

   เฮ้อ!... เสียงถอนหายใจจากร่างสูงที่ยืนจ้องอยู่  ทำให้กานต์รู้สึกผิดจนได้แต่ส่งยิ้มปะเหลาะไปให้

   “ขอโทษน้าพี่ณิน  อย่าโกรธผมเลยนะครับ”

   นิ้วก้อยที่ชูยื่นขึ้นมาตรงหน้า  ทำให้ธรณินคลายอารมณ์โกรธลง  เด็กเอ๊ย  เด็ก! เมื่อกี๊ยังทำท่าอย่างกับคนป่วยหนักอยู่เลย  พอโดนดุเข้าหน่อย  คนป่วยกลับมาชูนิ้วหราขอเกี่ยวก้อยคืนดีซะอย่างนั้น

   “อยากให้ผมหายโกรธใช่ไหม” ประกายตาเจ้าเล่ห์วาบผ่านขึ้นในแววตาของธรณิน  เล่นเอากานต์ถึงกับชะงักกึก  เหล่ตามองคนยืนกอดอกอย่างไม่ไว้วางใจ

   “เบี่ยงประเด็นมานานแล้วนะคุณน่ะ  ทำใจพอแล้วมั้ง  มา  กินยาได้แล้ว!”

   พอเจอคำว่ากินยากานต์ถึงกับสะดุ้งผงะตัวเตรียมก้าวถอยหลัง  ในขณะที่ธรณินก็ไวทายาด  เอื้อมมือไปคว้าเอวตวัดเกี่ยวดึงเข้าหาตัวทันที

   “กินยาซะนะมังกรดี  ไม่ดื้อรู้ไหม” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วข้าวหู

   เวลารอบตัวเหมือนหยุดนิ่ง  กานต์ตัวแข็งทื่อแนบชิดติดแผ่นอกธรณิน  เสียงทุ้มต่ำเวลากระซิบเบาๆ อย่างนี้  ชวนให้ใจเต้นผิดจังหวะไปหลายเสต็ป  ขณะกำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธ  นิ้วแกร่งก็เชยคางให้เงยขึ้นสบตาคมคู่นั้นเสียก่อน  ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมาเล็กน้อยเป็นเชิงว่าห้ามต่อต้าน  ก่อนจะไล้นิ้วจากปลายคางขึ้นไปบดคลึงกลีบปากล่างเป็นการปิดกั้นคำพูดทั้งมวล

   ขณะที่กานต์กำลังตกอยู่ในภวังค์  เม็ดยาสีขาวก็ถูกเรียวนิ้วจับดันเข้าไปอยู่ในปาก  ตาที่เบิกโตขึ้นมีน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาในทันที  ธรณินรีบจับแก้วน้ำจ่อปาก  รอจนแน่ใจว่ายาได้ถูกกลืนลงไปเรียบร้อยแล้ว  จึงได้วางแก้วลง

   “แค่ก  แค่ก  พี่ณิน!”

   คนถูกเรียกชื่อยืนอมยิ้มกลั้นหัวเราะ  พลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีอะไร

   “ก็ผมบอกว่าไม่ชอบๆ ยามันขม  พี่ณินก็  อุ๊บ!”
   
   เรียวปากที่ประกบปิดลงมา  ทำให้กานต์สติเตลิดทันที  ให้ตายเถอะ!!! อาการที่ปากของอีกคนมาติดกับปากของอีกคน  เขาเรียกว่าจูบใช่ม๊ายยยย  พี่ณินจูบเขา!!!

   ไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านี้  กลีบปากอิ่มก็ถูกดูดดึงวอนเว้าให้เปิดออก  ก่อนจะรู้สึกได้ถึงลิ้นของอีกฝ่ายที่จู่โจมเข้ามาอย่างรวดเร็ว  รุกไล่พัวพันจนแทบหายใจหายคอไม่ออก  หลบไม่ได้หนีไม่พ้น  จึงได้แต่แข็งใจตวัดลิ้นอย่างเงอะๆ งะๆ สู้กลับไป  ใครจะไปคาดคิดว่าฝ่ายรุกราน  นอกจากจะไม่ถอยหนี  ยังครางฮึมในลำคอ  แสดงอาการพอใจตอบกลับมาซะอีก

   จนกานต์แทบจะหมดลมหายใจ  ธรณินจึงได้ถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง

   “หายขมรึยัง หืม...”

   บรึ้ม! พี่ณินร้ายกาจมาก!!!
   

   หลังจากเหตุการณ์กินยาจนเกือบเสียตัว เอ๊ย! เกือบสำลักน้ำ (แค่กๆ) จากงูดิน  ตอนนี้กลายเป็นกิ้งกือ  นอนขดตัวตาลอยอยู่บนที่นอน  เหมือนนักมวยที่ไล่ถลุงต่อยคู่ต่อสู้ไล่เก็บคะแนนมาตั้งแต่ต้นยก  แต่พอท้ายยกดันเจอหมัดอัปเปอร์คัทเข้าปลายคาง  น็อคกลางอากาศกันเลยทีเดียว  คิดแล้วยังหวิวๆ อยู่เลย  นอนนึกไปมือก็คลำริมฝีปากไป  บ้าเอ๊ย!... รู้สึกดีชะมัด  จูบที่ปาก  แต่ทำไมในใจมันพองฟูขนาดนี้

   ก๊อกๆ เคาะให้เสียงพอเป็นพิธีสองครั้ง  แล้วประตูก็เปิดผลัวะเข้ามา  ทำให้เห็นร่างบนเตียงที่กำลังนอนตาเยิ้ม  เอามือลูบปากป้อยๆ จนธรณินต้องส่งเสียงกระแอมไอเรียก  คนนอนเพ้อบนเตียงถึงรีบขยับซุกมือแล้วรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนถึงปลายจมูก

   “อี้อินเอ้าอาอำไอ”

   เสียงอู้อี้ภายใต้ผ้าห่ม  เรียกเสียงหัวเราะจากธรณินได้อีกครั้ง  ก่อนจะก้าวเข้ามากระชากผ้าออกอย่างไม่รักษาน้ำใจคนอายกันเลยทีเดียว  จากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งแล้วถามเสียงกลั้วหัวเราะ

   “พูดอะไรไม่รู้เรื่อง”

   เมื่อไม่มีผ้าห่มเป็นเกราะกำบังแล้ว  กานต์จึงได้แต่ทำทีมองไฟบนเพดานเล่นแก้เขิน  ปากก็เอ่ยตอบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แต่ตาไม่ยอมสบกับคนหน้าหนาที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆ

   “ผมถามว่าพี่ณินเข้ามาทำไม”

   “อ้อ  พี่น่ะเหรอ”

   เดี๋ยวๆๆ หยุดตรงนี้ก่อน  พี่น่ะเหรอ  อ๊าก! จูบกันครั้งเดียวความสัมพันธ์ก้าวกระโดดเลยเว้ย  ไอ้กานต์ปรับตัวไม่ทันแล้วพี่ณิน

   “พี่ก็เข้ามาหาคนบางคนน่ะ  กานต์เห็นบ้างไหม  ตัวสูงๆ ผิวขาว  ตาสีดำเหลือบน้ำเงินนิดๆ ช่างยั่วเป็นที่หนึ่ง  คนๆ นั้นปากเก่งมากเลยนะ  เขาเคยบอกพี่ว่าเขาทำรักเก่ง  แถมยังจะจัดดอกใหญ่ๆ ให้พี่ด้วย  แค่เจอพี่ปล้ำจูบไปทีนึงแค่นั้นเอง  หายหน้าไปเลย”

   เห็นกานต์อึกๆ อักๆ ทำอะไรไม่ถูก  ธรณินก็ปล่อยหัวเราะพรืดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่  เอื้อมมือไปลูบผมที่รุ่ยร่ายทัดข้างหูให้ก็ยิ่งทำให้ออกอาการเขินหน้าแดงไปกันใหญ่

   “โอเคๆ พี่ไม่ล้อแล้ว  ที่จริงพี่จะเข้ามาถามว่าเราจะไม่เอาเรื่องอิคคิวจริงๆ เหรอ  ที่จับเราขับไว้ในห้องจนนอนแห้งอย่างนั้น”

   “โห  พี่ณินอ่า  พูดซะผมกลายเป็นปลาหมึกตากแห้งไปได้” พอเปลี่ยนเรื่องคุย  กานต์ก็เริ่มกลับมาต่อปากต่อคำได้อย่างสะดวกใจอีกครั้ง  ไม่ใช่เขินอะไรมากมายหรอกนะ  แค่ขอเวลาทำใจนิดนึง  จริงจริ๊ง (แล้วแกจะเสียงสูงทำไมเนี่ยกานต์)

   “ไม่เอาเรื่องอะไรทั้งนั้นแหละครับพี่  จริงๆ แล้วผมเองก็มีส่วนผิดที่ไปยั่วเขาละครับ  ที่แน่ๆ ห้องนั้นน่ะขังผมเอาไว้ไม่ได้หรอก  แต่เป็นผมที่เอาแต่เล่น  ก็เลยติดอยู่ในนั้นซะมากกว่า  อิคคิวไม่ผิดอะไรหรอกครับ  อะ ...อะไรเล่า  ไอ้การมองยิ้มๆ นี่หมายความว่ายังไงเนี่ย” กานต์โวยวาย

   “ก็ไม่ว่ายังไง  พี่ก็ว่าเด็กคนนี้นิสัยน่ารักจริงๆ นะเนี่ย  เออ! ชมก็เขิน  แซวเล่นก็เขิน  เป็นอะไรมากรึเปล่าหืมกานต์”

   “โอย! พี่ณิน  พอเหอะ  ผมไม่ชินเลย”

   “อ้าว! แล้วทีกานต์หยอดพี่ตลอด  พี่ยังไม่เคยบ่นเลยนะ”

   “ก็ตอนนั้นผมเป็นคนหยอดนี่  พอเป็นคนถูกหยอดแล้วผมไม่ชิน”

   “งั้นต้องทำยังไงถึงจะชิน”

   “บ้า... มันชินได้ด้วยเหรอพี่ของแบบนี้”

   กานต์ก้มหน้างุดๆ เถียง  ธรณินนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะดีดนิ้วดังเป๊าะ

   “พี่มีวิธีแล้ว  ปกติกานต์เป็นฝ่ายรุกเลยไม่เขินใช่ไหม”  กานต์พยักหน้าตอบอย่างงุนงง

   “งั้นคราวนี้กานต์ลองเป็นฝ่ายจูบพี่บ้างสิ  จะได้ไม่เขิน”

   เฮ้ย! แบบนี้ก็ได้เหรอ  กานต์เบิกตาโต  จะส่ายหน้าปฏิเสธก็กลัวจะถูกล้อเอาอีกในภายหลัง  จึงได้แต่ข่มความตื่นเต้นลงแล้วชะโงกหน้าไปจุ๊บที่ปลายคางเร็วๆ ทีนึง

   “มันไม่ใช่อะกานต์  แบบนี้ไม่เรียกว่าจูบ  เอาใหม่ๆ ถ้ากานต์เขินเดี๋ยวพี่หลับตาให้ก็ได้”

   สัมผัสเย็นๆ บนริมฝีปากเริ่มขึ้นอย่างแผ่วเบา  ก่อนจะค่อยๆ ขบเม้มละเลียดชิมไปทีละนิด  กานต์ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร  รู้แต่ขยับเคลื่อนไหวไปตามสัญชาติญาณ  บดปากให้แนบแน่นมากขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งสูง  เกาะกระหวัดเกี่ยวลิ้นของฝ่ายตรงข้ามแล้วดูดดุนอย่างโหยหา  รสสัมผัสของเรียวลิ้นที่ส่งกลับมาหาทำให้ใจยิ่งเต้นอย่างบ้าคลั่ง  เสียงแลกน้ำลายที่ดังขึ้นชวนให้คิดไปไกล  ดูด  ขบ  เม้มเป็นจังหวะสลับช้าเร็วอย่างย่ามใจ  ความมั่นใจของกานต์เริ่มคืนกลับมา  คราวนี้เจ้าตัวกวาดรุกไล่ทั่วโพรงปากอย่างกระหาย  ปลายลิ้นพลิกพลิ้วเป็นธรรมชาติ  จนธรณินหายใจหายคอแทบไม่ทัน  เนิ่นนานกว่าจะตัดใจยุติจูบบทนี้ลง  เพราะไม่อย่างนั้นคงเลยเถิดไปกันไกลกว่านี้แน่

   กว่าจะปรับลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติก็ต้องใช้เวลาอีกครู่หนึ่ง  ธรณินโอบแขนรอบตัวกานต์ไว้หลวมๆ ซบหน้าลงบนไหล่ก่อนพรูลมหายใจรดต้นคอขาวเป็นสายยาว

   “เฮ้อ! มังกรดีของพี่  เรียนรู้เร็วจริงนะ  ถ้าเป็นฝ่ายเริ่มแล้วกานต์รู้สึกดีแบบนี้  พี่ยอมเป็นฝ่ายโดนหยอดต่อไปก็ได้  กานต์เริ่มบ่อยๆ นะ  พี่ชอบ”

   "มันใช่ม้ายยยพี่ณิน!!"   


        TBC...


ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 7 (29/01/2560)
«ตอบ #28 เมื่อ29-01-2017 14:04:39 »

พี่ณินมันล่วลวงชัดๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: ✽ มังกรขาว ✽ บทที่ 7 (29/01/2560)
«ตอบ #29 เมื่อ29-01-2017 14:07:19 »

 :hao7:น่ารัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด