ตอนที่ 4
ภาพลับ?
สิ่งนึงที่ผมไม่อยากจะยอมรับคือภาพแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือ
...มะเขือม่วง
โอ๊ยยยยยยยยยยยย เชี่ยเอ๊ยยยยยย เหมือนชาติที่แล้วโดนยิงแล้วก่อนตายเหยียบลงไปในแปลงมะเขือม่วง ถึงต้องโดนหลอกหลอนถึงชาตินี้
คิดแล้วหงุดหงิดปนเกลียดครับ อยากจีตีป้ายแรงๆแต่กลัวทำแล้วดูตุ๊ดเลยเบ้ปากใส่ป้ายประกาศให้ป้ายามยืนงง สุดท้ายก็ทำได้แค่ระบายอารมณ์ใส่บันได กระทืบแม่งแรงๆเลย หงุดหงิด
หงุดหงิดไปได้ห้าขั้นก็หยุดครับ เจ็บตีน
ต้องขึ้นอีกหลายขั้น เก็บแรงไว้ไปหอบตอนแถวๆชั้นสี่ดีกว่า เหนื่อยตอนชั้นสี่ตลอด เหมือนสมองมันรู้ครับว่าเดินมาใกล้ถึงห้องแล้ว ว่าไงดี เหมือนคนปวดขี้อ่ะครับ ตอนปวดแม่งไปมาๆบางทีย้อนเป็นตดยังอั้นได้ แต่พอใกล้ถึงประตูห้องน้ำเท่านั้นแหล่ะ ขี้เหมือนสามัคคีอยากออกมาดูโลกให้ต้องเดินหนีบจนไข่ประกอบร่างทุกทีไป
ฮื่อออ
ผมแปะตัวลงกับเตียงทันทีที่ถึงห้อง อ้อ ตอนนี้ผมย้ายตัวลงมานอนเตียงล่างแล้วครับ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เผื่อบางคนสงสัย ผมจะอธิบายห้องให้ฟังนะครับ อะแฮ่ม ห้อง 514 ของผมเป็นห้องสี่เหลี่ยมโง่ๆครับ เมื่อเปิดประตูเดินเข้ามาแล้วก็ปิดประตูเหลือบตาดำไปทางซ้ายจะเจอเตียงสองชั้นจะอยู่ติดประตู เตียงเดี่ยวตรงกลางสองเตียงติดกันและเตียงสุดท้ายซึ่งคือเตียงที่ไอ้คุณพี่หมอนอนคือเตียงคิดระเบียง ทุกเตียงจะมีโต๊ะไว้ใช้เขียนทำงาน และป้ายตีนเป็นตู้เสื้อผ้าทำจากไม้เปิดสองประตูครับเรียงอยู่สี่ตู้ ส่วนตู้สุดท้ายเรียกว่าตู้เสือกครับ ไม่ได้อยากจะเหยียด แต่มันดูเสือกที่สุดแล้ว เป็นตู้เหล็กแคบๆที่เพิ่งเสริมมาไม่ได้เข้ากันกับตู้ไม้ใหญ่ๆที่เรียงกันมาเลย รู้มาว่าตอนแรกห้องนี้มีไว้นอนสี่คนครับแล้วค่อยมาเริ่มนอนห้าคนปีผม ตู้เสือกเลยต้องแอตตัวเองเข้ามาเพื่อการณ์นั้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับห้องผมมันเป็นได้แค่ตู้เสือก เพราะคนนอนมีอยู่สองคน
ชื่อที่เหลือที่เพื่อนไอ้พี่หมอจองมาสละสิทธิ์ไปหมดแล้วครับไม่ได้เซ็นรายงานตัวเข้าหอ มากันสิทธิ์ชาวบ้านเล่นๆ พวกชั่ว!!
ว่าแล้วก็ลุกไปหยิบเทปมาแปะตั้งแต่ผนังห้องเตียงกลางครับ เตียงกลางเป็นเตียงเดียวที่ชิดกัน สร้างอาณาเขตแม่งซะเลย รอเวลาก่อนจะย้ายหนีไปอยู่กับพี่โยแล้ว!
นี่แหน่ะ แปะมันยันประตูตู้เสื้อผ้ามึงเปิดได้แค่ฝั่งซ้าย ฝั่งขวาห้ามแตะ!!
“ทำไร”
เฮือกกกกกก!
สะดุ้งสุดไรสุด
“เสือก” มันไหวไหล่แล้วถอดรองเท้าแบบสะบัดตีนไม่สนใจใคร
“มึงทำอะไรของมึงเนี่ย ติดเทป? แบ่งเขต?” ไม่ว่าเปล่า เอาตีนเหยียบๆอีกด้วย
“ใช่ ที่ของพี่อ่ะอยู่ฝั่งนู้น นี่ฝั่งผม” อ่ะ กำลังคิดกันใช่มั้ย ว่าพี่ผมมาจากไหน ไม่ได้อยากจะดับฝันอะไรใครนะครับแต่แหม บ้านผมสอนมาดี ยังไงเค้าก็อายุมากกว่าผมตั้งสองปี
ยกเว้นมึงไอ้พี่แป๊ะ!!! นมขาวเย็นๆกู!!
“พี่? ผม? คือนอนกอดกูครั้งเดียว สุภาพขึ้นมาเลย”
“จะให้เรียกไอ้เหี้ยเหมือนเดิมก็ได้นะมึงจะเอาไง” เว้นแม่งไว้อีกคนดีมั้ย อุส่าเคารพนี่มึงจะเอายังไงไหนพูดมา
“ปากไวจังนะมึงอ่ะ เรียกกูพี่ก็ดีเพราะตอนมึงเพิ่งเกิดอ่ะกูเดินได้แล้วนะ” โห เชื่อแม่งเลย บลัฟย้อนหลังไปหลายสิบปีแบบนี้ก็ได้หรอวะ ไอ้หมอวางกระเป๋าใบเบ้อเริ่มลงบนเตียงแล้วเริ่มรื้อเสื้อผ้าข้าวของออกมา
ด้วยการโยนไปเรื่อย
ถุงเท้ามึงกินเขตแดนกูมาแล้วฟายยยยย บ้านมึงสอนให้รื้อของแบบนี้หรออออ
“เห้ยๆ ถุงเท้าเกินเขตแล้ว”
“เออกูให้ เอาไปเลย ” ถามกูซักคำเถอะ ถุงเท้าสีดำใครมันจะไปอยากได้ กูไม่ใช่ด๊อบบี้รอปลดความเป็นไทนะโว้ย
“ไม่เอาโว้ย”
“มึงนี่โวยวายน่าดูนะ แล้วเทปสีเหี้ยไรโคตรตุ๊ด” มันมองเหยียดเทปสีชมพูของผมด้วยสายตาดูแคลนแบบสุดๆ เดี๋ยวเถอะมึงราคา 75 บาทเลยนะอย่าดูถูก
“มันเหลือสีเดียว เห้ยๆ ถุงเท้าเกินมาอีกข้างแล้ว!” ผมวิ่งไปเอาไม้แขวนเสื้อมาดันถุงเท้าไอ้เหี้ยพี่มันออกจากอาณาเขต
“มึงอย่าเอาไม้แขวนเสื้อเข้าเขตกู”
“มันยังอยู่ในเทปเนี่ยเห็นมั้ย มันอยู่ตรงกลางเขตแดน อย่าโง่”
ไอ้พี่หมองอคิ้วแล้วกระเถิบเอาตีนข้างนึงจิ้มเข้ามาในเขตผม ต่อหน้าต่อเลยครับ ยังมาทำหน้าภูมิใจได้เหยียบเขตแดนกูอีก มึงไม่เด็กเลยมั้งไอ้พี่แม่ง
"เอ้า ไอ้ห่าพี่นี่ พูดไม่รู้เรื่องหรอ"
“มึงนี่ตลกว่ะ เออ มึงอยู่ก็ดีกูมีเรื่องจะบอก”
“เออ มีเหมือนกัน"
"ถ้าจะบอกว่าหล่อไม่ต้องนะ เบื่อแล้ว"
"หน้าเหมือนกรงอูฐ กูไม่ชมหรอกครับพี่"
"คนเหี้ยไรหน้าเหมือนกรงอูฐได้"
"..." มึงไง!
"เหอะ มีเรื่องอะไรก็พูดมา"
"ก็เออ ไหนๆก็ไม่ได้อยากให้อยู่แล้ว อาทิตย์หน้าน่าจะย้ายไปอยู่พี่โยนะ”
เปรี๊ยะ!
ไม่มีเสียงหรอกครับ แต่เดาเอาว่าถ้ามีซาวด์แบบในหนังมันคงจะมี ตอนนี้สายตาของไอ้พี่หมอแม่งจะมีเสียงแบบนั้นออกมาเลย มีงบหน่อยจะต้องบวกเอฟเฟคประกายไฟเล็กน้อย จากมือที่รื้อของเหมือนแกล้งกันกลับมาหยุดนิ่งชะงัก แอบเห็นว่าขบกรามดังแกร่กๆเลย
ชิบหายละ อะไรอีกเนี่ย
“กู ไม่ อนุ ญาต ” “อะไรของมึ..พี่วะ ก็นี่จะออกให้แล้วไง”
“เออมึงออกแน่นอนแต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ มึงจะลงแข่งเปิดหอกับกู ฟังนะไอ้ลูกหมา เรื่องนี้กูจริงจังมาก กฏข้อแรกของการแข่งคือกูต้องแข่งกับเมทซึ่งเมทกูมีคนเดียวที่รายงานตัวนั่นก็คือมึง อยู่ร่วมมือกับกูให้จบ แล้วหลังจากนั้นมึงจะออกไปอยู่กินกับผัวมึงยังไงก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้” ไอ้หมอก้าวขายาวๆของมันมายืนอยู่หน้า เอาอีกแล้วครับ โลกมือแบบไม่ต้องรอปิดไป ส่วนสูงมันก็บังไฟแทบมิด เฮ้ยๆ แม่งเกินเขตแดนมาเยอะแล้วโว้ย
แต่เดี๋ยวก่อน
“ผัวพ่อมึงดิ ไอ้สัส!!”
ไม่พงไม่พี่มันแล้ว!!
“มึงเซ็นใบลงชื่อให้กูเดี๋ยวนี้ หมดเขตสมัครภายในวันนี้กูต้องรีบเอาไปยื่น” มืดกว่าเดิมเพราะไอ้มือยักษ์ยื่นเอาใบกระดาษมาแปะตรงหน้าผมพอดิบพอดีเหมือนนี่ไม่ใช่หน้าคนมั้ง กูคงเป็นบอร์ดติดป้ายประกาศมั้งหรอ ไอ้เวร ผมกระชากกระดาษในมือมันออกทันที
“กู ไม่ เซ็น !!!”
“ไอ้ลูกหมา!!” มันกระชากคอเสื้อผมครับ แม่งเจ็บคอไม่เท่าไหร่แต่เจ็บใจมากกว่า ไอ้ห่าขาลูกพ่อ โดนพี่เค้ากระชากทีเดียวไหงขามึงลอยแบบนั้นอ่ะ ฮืออออ เจ็บใจโว้ย
“กูไม่เซ็น!! ยังไงก็ไม่เซ็น ใครมันจะไปยอมร่วมมือกับมึงวะ ปล่อยเลย” เชี่ย ผมชอคตาค้างเมื่อโดนสันจมูกมันเฉี่ยวแก้มไปสามเซ็น
“จะเซ็นดีๆหรือ...” ประโยคแบบนี้มันโคตรจะเบสิคหนังไทยครับ หวังไปเถอะมึงจะทำไม เซ็นทั้งน้ำตาหรอ มุกเก่าไปแล้วโว้ย!!
มันปล่อยผมลงกับพื้นแต่ไม่ถึงวิก็คว้าเอวเข้าไปแนบ อย่าถามครับว่าอะไรแนบ มะเขือม่วงเจ้าเดิมหลอกหลอนไม่เคยเปลี่ยน ท่าตอนนี้เรียกได้ว่าเสี่ยง สัญญาณเตือนดัง แขนแน่นๆของมันล๊อคซะผมขยับไม่ได้นึกน้อยใจส่วนสูงตัวเองขึ้นมาทันที ส่วนมืออีกก็ข้างก็ไม่น้อยหน้าเลื้อยไล่ลงมา
ไอ้สัสสสสสสส บีบตูดกู๊
“ไอ้เหี้ยพี่!!”
“กูพูดกับมึงดีๆนะ”
“ถ้าแถวบ้านมึงเรียกดีนี่โตมาจากรัสเซียหรอ หรือมึงนามสกุลปูตินรึไง! หยุดบีบตูดกูเดี๋ยวนี้นะ!”
“ตูดแฟ่บจังวะ อย่าโวยวายดิลีลากูอ่ะดีกว่าไอ้โยแน่นอน” ลีลาเหี้ยไร! แล้วมึงรู้ได้ไง เชี่ยแล้วไงเชี่ยแล้ว นี่กูมาอยู่ในสงครามผัวเมียทะเลาะกันรึเปล่าเนี่ย!!
“ปล่อยนะ!!”
ผมฮึดฮัด หงุดหงิดดิครับ ผัวเมียทะเลาะกันไหงมาเดือดร้อนกูวะ และในจังหวะนั้นเองผมก็เห็นสิ่งเดียวที่จะหลุดจากอ้อมกอดของมันได้ลอยเข้ามาในสายตา หึ! กูบอกแล้วว่าอย่าซ่ากับอู้!
งับ!!
“เชี่ยๆๆ หัวนมๆๆ” ไอ้พี่หมอผลักผมออกอย่างไว มือถูหัวนมตัวเองเหมือนมันจะลดความเจ็บลงได้ ลอยเสื้อตรงหัวนมไอ้พี่หมอมันเปียกเป็นลูบรอยฟันเลย ใช่ครับ!!
ผมกัดหัวนมมัน!!
เอ่ะ.. ทำไมฟังดูเรท ตะ แต่ ผมหมายถึงกัดอ่ะกัด งับจมเขี้ยว
“กูไม่ลงชื่อ ฝันไป..
แมลงสาบ!!!!!! “
ยังด่าไอ้พี่มันไม่ทันจบ สายตาผมก็เหลือบไปเห็น ตัวสีน้ำตาลหนวดดุ๊กดิ๊กเดินโยกย้ายส่ายสะโพกมาจากมุมห้อง
บอกเลยครับแม่งเป็นตัวที่ต่อให้เพศไหนก็ต้องกรี๊ด แต่เสียใจผมอ่ะคนแมนๆคูลๆ กรี๊ดเกิ๊ดอะไรไม่มีเพราะผมหน่ะ….
โดดขึ้นเตียงชั้นสองอย่างไว!
ฮือออ กูไม่แมนแล้วก็ได้โว้ย รู้มั้ยครับ แมลงสาบนี่แม่งดายฮาร์ดสัสๆ ระเบิดนิวเคลียร์ลงยังไม่ตาย นับภาษาอะไรกับใจอู้คนตัวน้อยๆ
“มึงกลัวแมลงสาบหรอ?” พี่มึง มึงมันโครตแมน กูยอมมึงแล้ว ยืนนิ่งอยู่เคียงข้างปีเตอร์ประหนึ่งไม่มีห่าไรเกิดขึ้นได้ขนาดนี้
“พี่ไล่มันไปดิ๊ เร็วๆ เชี่ยๆๆ มันเดินแล้ว ไอ้เหี้ยพี่หมอ มึงมันเดินมาแล้ว”
“มันอยู่ในเขตมึงนะ”
“เขตเหี้ยไรช่างแม่งเถอะ พี่มึงมาช่วยจับมันก่อน เร็วๆ” มึงก็ยืนอยู่ในเขตกูไอ้เวร! ตัวใหญ่กว่าแมลงสาบตั้งเยอะ
กูยังไม่ไล่เลย
“กูจะถามมึงอีกครั้งนะอู้ มึงจะเซ็นชื่อให้กูดีๆมั้ย”
“ฮือๆ มันจะบินแล้วอ่ะ กูไม่เซ็นโว้ย กูไม่เซ็น พี่มึงไล่มันเร็วๆ มันเดินมาจะถึงขาเตียงผมแล้ว” แม่งเวลาเฉียดตายขนาดนี้ยังมีหน้ามาถามลงชื่อเล่นเกม มึงมันไม่ใช่คนแล้วไอ้พี่หมอ!!
ในที่สุดไอ้พี่หมอก็ก้มลงช่วยไล่แมลงสาปให้ผมครับ
โดยการ ... หยิบ! หยิบแมลงสาบขึ้นมา โอ้มายก๊อดดดดดดดดดดดด ไอ้ปีเตอร์ที่เท้าสัมผัสอากาศรีบสะบัดขาขนๆดิ้นดุ๊กดิ๊กทันที เรียกได้ว่าสยองขนลุกไปหมด ผมนี่น้ำตาคลอจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ ฮือๆ ว่าแต่ทำไมไอ้พี่หมอแม่งไล่แปลกๆวะ
ทำ ทำ.. ทำไมมึงเดินมาใกล้ๆหล่ะ ประตูระเบียงอยู่ด้านนู้น เห้ย เดี๋ยว เห้ยยยยยยย
“พ.. พี่ ไอ้เหี้ยพี่ มึงจะทำอะไร พี่ ผมไม่เล่น! พี่หมอพี่!”
“ถ้ามึงไม่เซ็น กูบอกได้เลยไอ้ตัวนี้จะไปไต่อยู่บนหน้ามึงแน่นอนไอ้ลูกหมา”
ผมพะงาบปาก จะด่าแม่งยังด่าไม่ออก ดูขาน้องสาบก็ดุ๊กดิ๊กๆพร้อมปล่อยตัวแลนด์ดิ้งลงมาบนหน้าผมเต็มประดาเพียงแค่ไอ้พี่หมอง้างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้อออก คิ้วที่บากเล็กน้อยตรงหางคิ้วกระดกขึ้นแบบกวนตีนเต็มที่ หน้าหล่อๆที่เหมือนกดสูตรเดอะซิมส์ได้มาตอนนี้ดูชั่วยิ่งกว่าชั่ว
ทำไม! มึงหลุดมาจากการ์ตูนเรื่องหมอปีศาจหรอ! มึงนามสกุลปูตินจริงๆใช่มั้ย!
“เหี้ยพี่ ถามจริงมึงโตมาแถวเขตสงครามหรอวะ”
“เซ็น หยิบใบขึ้นมาแล้วเซ็นชื่อมึงลงไป” ฮือออ ผมมือสั่นไปหมด ขนาดจะเอื้อมไปจับปากกายังไม่มีแรงเลย ไอ้พี่หมอหรี่ตา “อย่าลีลา”
“ผมไม่มีแรงจริงๆ!”
“วุ่นวายจังวะ” มันก้มลงหยิบกระดาษพร้อมกับปากกายื่นมาให้ผม ทั้งๆที่อีกมือยังจับแมลงสาบที่กำลังดิ้นแด่วๆประหนึ่งเป็นหนูแฮมเตอร์น่ารัก ดูแล้วรู้เลยว่าบ้านเกิดมึงไม่น่าใช่กรุงเทพ อาจจะเป็นนรก ชั่ว ฮือออ น้ำตาจะไหลจับปากกาสั่นระริก นี่แม่งคือที่มาของหรือจะเซ็นทั้งน้ำตาโดยแท้จริงสินะ แล้วนี่ใบลงชื่อกฏเกิ่ดอะไรไม่มีให้อ่านหน่อยหรอ พอไอ้พี่หมอมันเห็นผมชะงักมือมันก็ยื่นเข้ามาใกล้ผมเป็นเชิงขู่ ถามว่าได้ผลมั้ย?
ไม่!!!
ไม่เซ็นไม่ได้แล้ว ไอ้เหี้ย!!
เสียงเสียดสีของปากกากับสมุดแกร่กๆคมบาดเหมือนจะปาดใจให้ขาด พอเซ็นเสร็จผมก็ปาใส่หน้าไอ้พี่หมอแม่ง มันกระดกยิ้มอย่างพอใจ เดินผ่านไปเปิดประตูห้องโยนน้องปีเตอร์ทิ้งแบบไม่ใยดีแล้วกลับเดินมาหาที่ผมที่นั่งน้ำตาคลออยู่บนเตียงชั้นสองแบบไร้เรี่ยวแรง กูอาจจะดูไร้เรี่ยวแรงแต่สาปแช่งมึงไปหมดแล้วโว้ย!!
“มึงนี่มันตลกจริงๆว่ะ”
“ตลกกับแม่พี่เถอะ”
“อ้าว แมลงสาบอีกตัว!”
“เหี้ยยยย! ไอ้เหี้ยพี่หมอ”
“ฮ่าๆ แล้วลงไหวมั้ยครับน้องอู้” ไอ้หมอชั่วมันอ้าแขนรอเหมือนจะอุ้มผมลง หน้าตาของมันดูเย้ยแบบโคตรเย้ย รอชาติหน้าเถอะ ผมมองค้อนมันยิ่งกว่าปลาฉลามหัวค้อนแล้วปีนลงมาเองด้วยความหัวร้อน อะโห คล้องจองอย่างกะแรปเอก ว่าแล้วก็เดินหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้ปลายเตียงกระแทกไหล่ไอ้พี่แม่งแรงๆ เออ จริงๆก็ไม่ถึงไหล่หรอกแต่ก็ต้นแขนแล้วหน่ะ หยวนๆว่าไหล่หน่อยละกัน แล้วเปิดประตูระเบียงไปเข้าห้องน้ำ อาบน้ำให้หัวหายร้อน
ฮึ่ย!
.
.
.
.
“น้ำวิศวะมั้ยค้าบบบบบบบ มีชอป มีเกียร์ ไม่มีเมียแต่มีน้ำมาขาย ดูดได้ ดูดฟรี ดูดดีๆระหว่างผิดหลอด ฮริ้วววววววววว”
“ลาบทอดเสดสาดมั้ยครับลาบทอด ไหนใครนกมากินลาบทอด เพราะ นกพี้ลาบบบบบ ยี่สิบบาทเองคร้าบบบ”
“ทางนี้เลยค่ะ ขนมสายไหม อ่อ ไม่สาย วันนี้มาทันเชคชื่อ ชุดละเล็กยี่สิบชุดใหญ่สามสิบเลือกสีได้จ้า”
“อยากกินไอติมมาทางซุ้มแพทย์เลยค่า จามติมก็มาได้ค่า โคนละสิบบาท ” วันนี้คือวันเปิดหอวันแรกครับ บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก เสียงเหล่าพ่อค้าแม่ขายตะโกนแข่งกันซะดัง ความคลีเอทพี่เค้านี่ยอมใจ ไม่ใช่ยอมว่ามันดีนะครับ แต่แป้กมาก มุขเดิมกับสมัยคุณยายเล่นกล้าเอามาเล่นได้ยังไง
อ่อ ไม่มีแค่เสียงขายของครับยังมีเสียงเหล่านิสิตหญิงชายเดินจับคู่คุยกัน โดยที่มีผ้าสีประจำบ้านผูกข้อมือแต่ละคนไว้ ผู้หญิงบางคนก็คลีเอทเอาไปมัดผมเป็นโบว์ ส่วนผู้ชายก็เอามาโพกหัวบ้าง ดูแล้วเพื่อชีวิตขัดกับที่ผู้หญิงทำมาซะน่ารักเลย ส่วนนู่นไอ้พี่แป๊ะคนเสื่อมประจำคณะ มาพร้อมกับการเอาผ้าสีแดงผูกเป็นกางเกงใน ไม่มีหรอกครับรัดผมรัดมือ วิธีคนคูลคือรัดไข่ ซุปเปอร์แมนเวอร์ชั่นเหี้ยไรเนี่ย! หน้ามาซะจีน!
“เห้ย ไอ้อู้ เป็นไงกูคูลป่ะ อย่างกะหลุดมาจากอะเวียงเจอร์” ยังไม่จบจากผู้พิทักษ์น้ำแร่พี่แม่ง กูหล่ะเหนื่อย
“ทุเรศว่ะพี่”
“อ้าวๆ พูดดีๆ กูมาในฐานะมือขวาพ่อทัพหอแดงนะโว้ย บอกเลยวันนี้มึงอย่าเรียกชื่อกูแป๊ะมันธรรมดาไปไม่เหมาะกับหน้าตาอินเตอร์ระดับฮอลลีวูดของกู โปรดเรียกผมว่าโบกอม”
“อะไรอมๆนะ”
“โบก - อม ไอ้สัส โบก - อม” นั่นชื่อหรืออะไรทำไมอมๆ ฟังแล้วดูไม่ค่อยมงคล
“คนเหี้ยไรชื่อโบก – อมวะพี่”
“อ้าวๆ บ้านมึงนี่เนทเข้าถึงยังเนี่ย ปกติส่งข้อความด้วยการโบกควันที่เผาจากใบไม้หรอไอ้อู้ โบก – อม นี่ดาราดังเกาหลีเลยนะมึง น้องสาวกูดูซีรี่ส์ที่แม่งเล่นทีแทบเลียจอคอม หน้าตาแม่งก็งั้นๆ กูหล่อกว่าอีก” เออถึงจะไม่รู้จักไอ้อะไรอมๆ แต่ค่อนข้างมั่นใจว่ามึงไม่น่าจะหล่อกว่าได้หรอกไอ้ห่าพี่แป๊ะ ตาดำเล็กอย่างกับไฝยังมีหน้าไปเทียบออร่าความหล่อเค้า
“เชี่ย พี่แป๊ะ กางเกงในพี่โคตรคูลลลล” ไอ้เติ้ลที่เพิ่งซื้อเฟรนช์ฟรายราดชีสเสร็จเดินมาร่วมวงครับ
“ใช่มะๆๆ เอ้ยเดี๋ยว วันนี้งดแป๊ะครับน้องๆหนูๆมิตรรักแฟนเพลงทุกคน โปรดเรียกกูว่าโบก - อม”
“อะไรอมๆนะพี่”
“บ๊ะ! ไอ้ปัน บ้านมึงนี่อยู่อำเภอเดียวกับไอ้อู้ใช่มั้ย ไปยืนไกลๆกูเลย เหม็นสาปกลิ่นควัน”
“ห๊ะ ปันไม่ได้ดูดบุหรี่”
“เบื่อคุยกับมึงว่ะ คุยไม่รู้เรื่อง เสียชื่อหอแดงหมด” แหม มึงพูดรู้เรื่องมากเลยพี่
“เออ ชาวหอแดงเรามันคนคูล ไอ้ปันนี่แม่งไม่ไหวว่ะพี่ เนอะๆ” ไอ้เติ้ลไปเกาะแข้งเกาะขาพี่แป๊ะ ทำตัวเป็นพวกลูกกระจ๊อกไจแอนท์อย่างโดยดี แต่มึงเลือกเมนเทอร์ผิดไปหน่อยนะ มึงเลือกพี่แป๊ะเนี่ยนะ คิดดีแล้วถูกมะ
“เออ มันต้องอย่างนี้เติ้ลรสแอปแปด ในฐานะที่มึงพูดจาคูลๆ กูจะสถาปนามึงมาเป็นตอ ส่วนกูจะเป็นอาหรับแมนเอง”
“ตอคืออะไรวะพี่ ขนรักแร้หรอ”
“โหอู้ นี่มึงขี่อูฐมาเรียนป้ะเนี่ย ตออ่ะตอ ตัวที่แม่งถือค้อนอ่ะ มึงนี่แม่งบ้านนอกว่ะ อาหรับแมนโซเวทนามาก ยูโน้” อาหรับแมนคืออะไรของพี่มันวะ ขี่อูฐมากู้โลก อาวุธคือโรตีงี้หรอ โทนี่สตาร์คแม่งเลือกภาษาร้องไห้ไม่ถูกเลยเจอไอ้พี่แป๊ะไป
“อูฐมันอยู่ในเขตเมืองไทยได้ด้วยหรอพี่แป๊ะ”
“อ่ะ ไอ้เหี้ยนี่ก็โง่บริสุทธิ์ โอมายก้อดปัน ยูโซสติวปิ้ดอ่ะ อาหรับแมนโซเอ่อ...เวทนาอะเกน เติ้ลมีแค่มึงแล้วแหล่ะที่กูจะหวังพึ่งได้ ไอ้ตอน้องรัก” แล้วก็โผลกอดกันกลมเกลียวปล่อยให้ไอ้ปันยืนงงกับตัวเองว่าอูฐอยู่ในทะเลทรายไม่ใช่หรอทำไมถึงมาเดินในเมืองได้
“ไม่เอาพี่ผมไม่ตอได้มั้ยวะ ฟังแล้วเหม็นเขียว ขอชื่อเกาหลีดีๆซักชื่อซิ”
“ได้ๆ นี่เลย น้องกูชอบพอๆกับโบก – อม รู้สึกจะชื่ออะไรโฮๆลีๆ...” ไอ้พี่แป๊ะหยุดเกาคางตัวเอง “อ๋อๆ มะโหลี!”
“ลีมินโฮ!!!” ไอ้ห่าพี่แป๊ะ มึงมั่วจากนักแสดงเกาหลีมาเป็นดีดสีตีเป่าได้ยังไง กูนับถือใจ
"เออนั่นแหล่ะ กูออกเสียงผิดนิดหน่อย"
“เอออู้แล้วไมไม่ผูกโบว์วะ” ไอ้พีที่กำลังหาตำแหน่งผูกผ้าสีเขียวของมันถามขึ้น
“กูไม่มีว่ะ”
“อ้าว แล้วเมทมึงไม่ได้เอาให้หรอ”
“อย่าพูดถึงเมทกูเลย”
“อู้!! ไอ้ตัวเล็ก!! กูเอาโบว์มาให้” พี่โยวิ่งยิ้มมาแต่ไกล ในมือถือโบว์สีแดงสีเดียวกับกางเกงในไอ้พี่แป๊ะเป๊ะๆ พอวิ่งมาถึงตัวผมมันก็เอื้อมเอามาผูกกับข้อมือผมทันที “ข้อมือมึงเล็กจังวะ ผูกแล้วกลัวหัก”
“เล็กแต่ต่อยเจ็บนะพี่”
ผมยักคิ้ว ก่อนจะโดนพี่โยยีหัวไปหนึ่งที
เพี๊ยะเปล่า ไม่ใช่เสียงตบยุง ผมได้แต่ยืนนิ่งตกใจกับเสียงเพี๊ยะเหนือหัว เห็นก็แต่มือที่เพิ่งยีหัวผมเมื่อกี้สะบัดตกไป พร้อมกับหน้าพี่โยที่เปลี่ยนอารมณ์จากอบอุ่นมากลายเป็นขมวดคิ้วเดือดมองผ่านไหล่ผมไป
อ่อไม่ใช่.. จริงๆผ่านหัวของผมไป ไหล่มันตกระดับสายตาไปหน่อย
“รบกวนอย่าเอาโบว์สีเสล่อของมึงมาผูกคนของคนอื่นด้วย” เสียงเหี้ย(ม)ทุ้มๆเป็นเอกลักษณ์ที่จำได้ดีลอยผ่านหัวผมไป เสียงที่แม่งขู่ผมพร้อมแมลงสาปอยู่เมื่อวานจะลืมลงได้ยังไง ชั่วยันเสียง มือที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดของมันยื่นผ่านมาจับต้นแขนผมบิดๆกระชากๆเล็กน้อย ผ้าสีแดงก็ถูกปลดโยนทิ้งลงกับพื้นไปเยี่ยงเศษผ้าขี้ริ้ว
“ไอ้เหี้ยหมอ”
“โบว์ของมันอ่ะอันนี้” เสียงจบ โบว์สีม่วงพาสเทลก็ผ่านหน้าผมมารู้สึกตึงตรงคอให้รู้ว่าโดนแม่งจับผูกที่คอเข้าให้แล้ว
“มึง!!” พี่โยถลาเข้าไปกระชากคอเสื้อไอ้พี่หมออย่างรวดเร็ว
“เห้ยไอ้สัส อย่าตีกัน ไม่งั้นหมดสิทธิ์กันหมดนี่นะมึง” ไอ้พี่แป๊ะที่นานๆทีจะทำตัวมีประโยชน์กับเค้าบ้างยกมือซ้ายดันหน้าอกไอ้พี่หมอไว้แล้วใช้มือข้างขวาดันหน้าไอ้พี่โย
“มันกวนตีนกู!”
“มึงเสือกกวนตีนกูก่อน ไอ้หมานี่มันเมทกู”
ในขณะที่บรรยากาศกำลังคุกกรุ่นได้ที่แทนที่จะมีคนมาห้าม กลับกลายเป็นเป็นหมายที่สาวน้อยมาเกาะกันเป็นกลุ่มกรี๊ดกร๊าดกับหนุ่มหล่อเดือนเดือดคนดังกันไม่ขาดสาย ทั้งเซลฟ์ฟี่อัดไอจีสตอรี่กันยกใหญ่ จริงถ้ามีแท่งไฟอีกนี่เอามาโบกพร้อมอังกอร์ ต่อยเลย ต่อยเลย ก็น่าจะเท่ดีเหมือนกัน
“พอเลยพวกมึงศึกชิงนางหรอวะ โบก - อมปวดหัวเลย ถ้านางแม่งน่าชิงกูจะไม่ว่าซักนิด นี่เสือกหน้าเหมือนหมาชิวาว่าพิการ” อ้าวไอ้ห่าพี่แป๊ะมึง เดี๋ยวเจอตีนหมาชิวาว่าบิน พี่แป๊ะนี่ก็โง่คงมาตรฐานดูไม่ออกเลยหรอวะว่าไอ้พี่หมอมันหึงพี่โย! โวะ! ผัวเมียทะเลาะกันที่ไรมาลงที่กูตล๊อดดดด
“กูจะทำเรื่องย้ายมันมาหอกู”
“เอาสิแต่กว่าขั้นตอนจะเสร็จคงอีกเป็นเดือน มันเซ็นชื่อลงคู่กับกูไปแล้วคงต้องอยู่ด้วยกันอย่างแนบแน่นไปอีกนาน ใช่มั้ยครับน้องอู้” มือมันเลื่อนมาดึงแก้มผม ฟังดูเหมือนน่ารัก แต่ไม่ครับ เจ็บชิบหาย แก้มยืดเลย ผมปัดมือมันออกทันที จับแมลงสาปมือนี้ป้ะเนี่ย เดี๋ยวหน้างามๆสิวขึ้นจะเบ้งให้หน้ายับเลย
“เจ็บ!”
“ไอ้หมอ!!”
“โวยวายสมเป็นพี่รหัสน้องรหัสชิบหาย ภาคโลนี่มีแต่ตัวน่ารำคาญ ไอ้ลูกหมา มึงอ่ะมากับกูเลย” อ้าวเฮ้ย ไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไรซักคำก็ถูกลากคอออกมาจากบริเวณเป็นที่เรียบร้อย
“เห้ยๆ จะลากไปไหนวะพี่ ผมลูกมีพ่อมีแม่นะ”
“เออ มึงคงไม่โดนใส่ปุ๋ยแล้วงอกออกมาหรอก”
“ปล่อยดิวะพี่! ผมเจ็บ!” และคำว่าปล่อยของไอ้พี่หมอคือการเหวี่ยงผมไปตรงสนามหญ้าข้างโรงอาหาร หน้าหล่อโกงชาวบ้านบูดจนสูญเสียความหล่อไป 0.1% ไม่ได้กระทบไรมากเท่าไหร่ แม่งดันดูแบดกว่าเดิมไปอีก มือที่เส้นเลือดปูดโปนยกขึ้นปาดหน้าม้าเบาๆด้วยแรงอารมณ์เซ็งๆ
“เกมจะเริ่มอยู่แล้ว มึงอย่าหายหัวไปไหนมาไหนโดยไม่บอกกูได้มั้ยวะ”
“เอ้า แล้วให้ผมบอกพี่ยังไง”
“เอาไลน์มึงมา”
“...” ขอเหี้ยไร หยามเกียรติโนเกียรติในกระเป๋ากูมาก เหมือนมันรู้ครับ ตานี่เหยียดมาเลย
“ไม่มีไลน์อีก เออ งั้นเอาเบอร์มา”
“แบตหมด จำเบอร์ไม่ได้”
“งั้นเอาชื่อนกฮูกมึงมา เดี๋ยวกูเขียนจดหมายผูกขาไป”
“เฮ็ดวิก”
“สัส” หัวลั่นกันเลยทีเดียว ฟาดมาได้ กะโหลกแทบแยก ผมเลยหน้าขึ้นเลยต่อยพุงพี่แม่งไปหนึ่งทีแบบไม่จริงจังมากครับ
อ่อ เอาจริงคือจริงจัง แต่มันดูไม่ค่อยเจ็บเลยแถว่าต่อยเล่นๆไว้ก่อน เดี๋ยวรู้หมดว่าหมัดไม่หนักจริง
“เออหน่ะ เดี๋ยวปันมันจะเอาเครื่องไอโฟนสี่เครื่องเก่ามันมาให้ยืม รอไปก่อนละกัน” เห็นหน้าเหมือนทัวร์จีนหลงกรุ๊ป แต่คุณชายปันปันเค้าบ้านรวยนะครับ ไอโฟนนี่มีครบทุกเลขทุกรุ่น สาวกแอปเปิ้ลโดนแดกไปคำนึงทั้งมือถือโน๊ตบุ๊คนาฬิกา จริงถ้าออกกางเกงในมามันก็คงจะมีแอปเปิ้ลแปะอยู่ตรงรูตูดด้วยเหมือนกัน
‘ผักกาด เอ้ย ผักกรูด เอ้ย ประกาศ เอ้ย ถูกแล้ววววววว แฮ่! ไม่ตลก... เชี่ย กูบอกแล้วว่าไม่น่าเล่น
แฮ่มๆ นี่คือเสียงตามสายจากกองกิจการหอพักนิสิต ขณะนี้กิจกรรมเปิดหอก็กำลังจะได้เริ่มขึ้นแล้ว
นิสิตคนใดที่เล่นเกมตามซุ้มสะสมแสตมป์ได้ครบสิบดวง สามารถนำไปแลกแสตมป์หมวดสองได้ฟรี
ส่วนสำหรับนิสิตที่จะเข้าร่วมการชิงรางวัลใหญ่ ขอให้มาฟังกติกาและคำใบ้ได้ที่ลานชงโค ขอบคุณครับ’
“โหย ขี้เกียจเดินอ่ะ” ลานชงโคที่ว่านี่ตั้งอยู่ไม่ไกลครับ ถ้าเดินตอนหน้าหนาวนี่โคตรโรแมนติก แต่นี่ไม่ใช่! นี่หน้าร้อน! และอยู่แถวๆกลางทุ่งหน้า ร้อนจนจั๊กเปียก แค่เดินออกจากหอยังไม่อยากเดินเลย
“เอาจักรยานไปดิ”
“ไม่มีดิ เดี๋ยวหาไอ้ปันก่อน ซ้อนมันไป ขี้เกียจเดิน” ผมเตรียมเดินออกแต่ความคิดก็หยุดได้แต่ตรงนั้นเพราะโดนมือมารดึงขอเสื้อยืดไว้
“หยุดเลย มึงอ่ะมากับกู เดี๋ยวหายหัวไปอีก” ว่าแล้วก็โดนลากคอเสื้อแถดๆมาหน้าหอ ไอ้พี่หมอก็เดินไปลากอะไรมาซักอย่างที่กะทางสายตาแล้วน่าจะเป็นเศษเหล็กที่ควรเข้าไปอยู่พิพิธภัณฑ์อะไหล่ย้อนยุคไม่น่าเคลื่อนไหวได้
สนิมงี้เกราะกรัง เหมือนล้อควรจะหลุดตั้งแต่ขับไปได้ไม่พ้นหน้าหอ
“นี่อะไรวะพี่”
“ตาบอดรึไง มอไซต์สิวะ รีบๆขึ้นมาซ้อนเลยไวๆ”
“มันเบรคได้แน่นะพี่”
“ได้ดิวะ”
“ล้อมันจะไม่หลุดนะ”
“อย่าดูถูกถึนทึนลูกกู”
“แล้วมันจะ...”
“ห่า มึงอย่าลีลาได้มั้ยวะ รีบๆขึ้นมา เดี๋ยวไปไม่ทัน”
นาทีละทึกครับ เมื่อไม่กี่วันก่อนกูยังได้ขึ้นรถหรูอยู่เลยทำไมวันนี้เจอได้แค่ซากอารยธรรม ผมก้าวขาขึ้นซ้อนอย่างรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิตอย่างเป็นที่สุด ดีนะจำได้ว่าแม่ทำประกันชีวิตไว้ให้แล้ว ไอ้พี่หมอสตาร์ทเครื่องเตรียมพร้อมจะออกตัว แต่ก็เหลียวคอหันมาบอกผมซะก่อน
“พอกูบอกเบรค ให้ขายันพื้นพร้อมกูเข้าใจนะ”
ไอ้ห่า!! เบรคอัตโนนาตีน กูไม่ไปแม่งแล้วโว้ย!!!
-----
ฮืออออ มีคนเม้นต์ไม่กี่คนก็ยังดีใจอยู่นะ
