❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก《แอบรัก⊰❤⊱พิเศษ {เที่ยวอิตาลี่}》17/01/60 P.50  (อ่าน 545373 ครั้ง)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


**********************************************



สวัสดีค่ะ

วันนี้เปิดวันดีที่สอบเสร็จหมดทุกวิชาจึงมีเวลาว่างคิดนิยายเรื่องใหม่ขึ้น

มีหลายพล๊อตที่อยากแต่งมากแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะแต่งแนวนี้

รักข้างเดียวและการแอบรัก มีให้เห็นมากในหลายเรื่องๆ

ในเรื่อง “❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก” นี้จะแสดงความรักในแง่มุมที่อบอุ่นและละมุนของคนที่แอบรักมานานหลายปีแต่ด้วยความขี้อายและไม่กล้าทำให้ได้แต่มองคนที่แอบรักมาตลอดโดยไม่เคยแม้แต่จะเข้าไปพูดคุย

มาดูกันว่าบทสรุปของความรักของพวกเขาจะเป็นไปในทิศทางใด

ฝากผลงานเรื่องใหม่นี้ด้วยนะคะ^^



*ผลงานที่ผ่านมา*

   ✉ CorrespondencE สื่อรักทางจดหมาย!✉

    ◣♥◥ Precinct ►◄ อาณาเขตรักของหัวใจ ◣♥◥

   ✥ Jurassic Heart ✥ดวงใจ กลายพันธุ์รัก



สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของนิยายได้ในเพจนะคะ>>nicedog<<

ขอบคุณทุกนที่ติดตามค่ะ


แจ้งข่าวPre-Order!! ❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก



รายละเอียด

           - จำนวนหน้า 350+

           - ราคา 450 บาท

           - ระยะเวลา 18 พ.ค. 59 - 18 ก.ค. 59

           - ตอนพิเศษ มีประมาณ 5 ตอน และ 1 ตอนจะลงในเว็บ

           - เฉพาะรอบพรี รูปโพราลอยด์(แบบที่ข้าวเจ้าชอบหย่อนใส่กระเป๋าราชา)+ลายเซ็นต์นักเขียนค่ะ

ใครที่สนใจสามารถเข้าไปจองกันได้เลยค่ะ>>http://haiihouse.lnwshop.com/p/10

ขอฝากผลงานไว้อีกเล่มนะคะ

นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องที่กำลังเปิดพรีอยู่สามารถเข้าไปติดตามได้ที่เพจเราเลยค่า>>https://www.facebook.com/novelistnicedog/

ขอบคุณมากค่ะ^^



เกริ่นนำเรื่อง


ความรักของคนที่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาหรือพูดคุยกับคนที่ชอบทั้งที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันหรือแม้แต่เข้ามหาวิทยาลัยก็ยังอยู่คณะตรงข้ามกันอีก...เพราะไม่มีความกล้าเลยได้แต่เก็บความรู้ไว้ในส่วนลึกของหัวใจจนเวลาผ่านพ้นไปนานถึง11ปีทั้งที่คิดว่าจะเลิกรักไปแล้วแต่เพียงได้เห็นใบหน้านั้นอีกครั้งหัวใจมันกลับเต้นราวกับไม่เชื่องฟังเหมือนจะบอกว่าคนที่สามารถรักได้มีเพียงแค่คนคนเดียวเท่านั้น

มาดูกันว่าเส้นทางที่ขนานกันมาตลอดจะมาบรรจบกันได้ยังไง


*นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล สถาบันหรือสถานที่ใดทั้งสิ้น*

สารบัญค่ะ

ขอบคุณคุณทุกคนที่ช่วยทำสารบัญให้ด้วยนะคะ^^

《۰•●เริ่มรัก》
แอบรัก⊰❤⊱วันที่1
แอบรัก⊰❤⊱วันที่2
แอบรัก⊰❤⊱วันที่3
แอบรัก⊰❤⊱วันที่4
แอบรัก⊰❤⊱วันที่5
แอบรัก⊰❤⊱วันที่6
แอบรัก⊰❤⊱วันที่7(ครึ่งแรก)
แอบรัก⊰❤⊱วันที่7(ครึ่งหลัง)
แอบรัก⊰❤⊱พิเศษวันวาเลนไทน์
แอบรัก⊰❤⊱วันที่8
แอบรัก⊰❤⊱วันที่9
แอบรัก⊰❤⊱วันที่10
แอบรัก⊰❤⊱วันที่11
แอบรัก⊰❤⊱วันที่12
แอบรัก⊰❤⊱วันที่13
แอบรัก⊰❤⊱วันที่14
แอบรัก⊰❤⊱วันที่15
แอบรัก⊰❤⊱วันสุดท้าย




۰•●เริ่มรัก


เคยมีคนบอกว่าความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม...การที่เราได้มีคนคอยอยู่เคียงข้าง คอยเฝ้าดูแลและคอยเป็นห่วงคงเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขที่สุด

สำหรับวรานนท์เองก็เช่นกันที่คิดว่าความรักนั้นช่างสวยงามถึงแม้มันจะเป็น...

รักข้างเดียวก็ตาม

ความรักนี่บางทีเราก็ไม่อาจเข้าใจมันได้ว่าทำไมถึงต้องเป็นคนคนนี้ด้วยนะที่ทำให้หัวใจเต้นแรงและรู้สึกเขินอายทุกครั้งที่อยู่ใกล้...สำหรับผมไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ เพียงแค่ได้มองเห็นจากที่ไกลๆหัวใจที่สงบนิ่งก็เต้นถี่รัวด้วยความรู้สึกเขินอายแล้ว

ตอนแรกคิดว่าความรู้สึกนั้นเป็นเพียงแค่ความรู้สึกในช่วงวัยรุ่นที่เกิดได้ง่ายๆเพราะเรียนอยู่ที่โรงเรียนสหศึกษาที่มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงพอสมควร แต่พอผ่านไปจากมัธยมต้นเข้ามัธยมปลายความรู้สึกนี้ก็ยังไม่หายไปจนเริ่มรู้ตัวว่าคงชอบคนคนนั้นเข้าไปแล้ว

พวกเราอยู่ห้องเดียวกันตอนมัธยมปลายแต่ก็ไม่เคยได้คุยกันเลยสักครั้งเพราะตัวเองไม่ใช่คนที่เข้าสังคมเก่งมากนัก...

เขามักจะนั่งอยู่แถวๆหลังห้อง

ส่วนผมมักจะนั่งอยู่หน้าห้อง

เขาเป็นที่ชื่นชมและชื่นชอบของเพื่อนๆและคุณครู

ผมเป็นแค่เด็กเงียบๆที่ไม่ค่อยมีเพื่อนแต่ก็มีครูหลายท่านที่สนิทด้วยเพราะผมชอบเข้าไปช่วยถือของหรือยกสมุดการบ้านให้

เขาเป็นคนดังที่มีนักเรียนหญิงโรงเรียนข้างๆเข้ามาห้อมล้อมเสมอ

และผมเป็นเพียงแค่ผู้ชายธรรมดาออกแนวเซอร์ๆด้วยแว่นอันใหญ่ที่ปิดหน้าและเส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ยาวรุงรัง

พวกเราไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลยสักอย่าง

นั่นทำให้ผมอยู่เงียบๆในที่ของตัวเองตลอด3ปีที่อยู่ห้องเดียวกันโดยเก็บงำความรู้สึกที่มีไว้ในส่วนลึกของหัวใจ

พอเข้ามหาวิทยาลัยก็คิดว่าคงได้เริ่มต้นใหม่ที่จะรักใครสักคนแต่เหมือนโชคชะตาดันกลั่นแกล้งให้คนคนนั้นเข้ามาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน...ถึงจะอยู่คนละคณะแต่ตึกของพวกเราก็อยู่ตรงข้ามกันทำให้มองเห็นเขาเดินเข้าออกคณะบ่อยๆ

ทั้งที่อยากตัดใจแต่ทุกครั้งที่ว่างก็มักจะนั่งมองไปยังตึกคณะข้างๆเพื่อหวังให้มองเห็นเขาคนนั้นสักนิดก็ยังดี...มันคงแปลกที่จะบอกใครๆว่าตัวเองแอบรักคนคนหนึ่งมาได้นานขนาดนี้โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวเลย

อาจเป็นเพราะเป็นแค่คนคนหนึ่งที่อยู่นอกสายตาหรืออาจเพราะผมเก็บความรู้สึกไว้อย่างมิดชิดทำให้เขาไม่รู้ตัวก็ได้...

วรานนท์ไม่ได้รู้สึกแย่กับการแอบรัก...ตรงกันข้ามมันกลับรู้สึกดีและมีความสุขที่ได้แอบรักอยู่แบบนี้

ถ้าเข้าไปบอกมีความเป็นไปได้สูงที่จะโดนรังเกียจและไม่อยากเข้าใกล้แต่ถ้าแอบรักอยู่แบบนี้ก็สามารถเข้าไปในระยะของเขาได้โดยที่ไม่โดนหลีกหนีหรือหลบเลี่ยง

ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยเป็นช่วงที่เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนหลายๆอย่าง...ผมที่เคยนิ่งๆเงียบๆเริ่มมีเพื่อนมากขึ้นจนสามารถพูดคุยกับคนอื่นได้อย่างเปิดใจมากขึ้น อาจเป็นเพราะคนในคณะมีสิ่งที่เหมือนกันหลายอย่างเลยสามารถเข้ากันได้ดี

ตลอด4ปีที่เรียนอยู่พวกเราเดินสวนกันบ้าง นั่งกินข้าวใกล้ๆกันบ้างและมีบางวิชาที่เราได้เรียนกลุ่มเดียวกันเพียงแค่นั้นก็เหมือนเป็นกำลังที่ทำให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้แล้ว

วันสุดท้ายของการอยู่รั้วมหาวิทยาลัยผมได้รวบรวมความกล้าอันน้อยนิดแอบเดินย่องเข้าไปใกล้ๆกระเป๋าของเขาที่วางทิ้งไว้แล้วใส่ภาพที่ตนพึ่งอัดเสร็จโดยมีข้อความธรรมดาๆที่ใช้เวลาหลายเดือนในการคิดและเขียนลงไป...

‘Congratulations!...ยินดีด้วยที่จบการศึกษา’

และนั่นเป็นวันสุดท้ายที่ได้พบกับเขา...

คนที่แอบรักมาตลอด8ปี
.....................................................................
สวัสดีค่ะ

ได้กลับมาพบกันอีกครั้งเร็วกว่าที่คิด

ตอนแรกตั้งใจจะแต่ภาคต่อของยูเซ(ความจริงก็กำลังเริ่มนะ)แต่ดันอยากแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาซะได้

เลยคิดว่าจะแต่งคู่ๆกันไปแต่ขอยังไม่อัพอีกเรื่องนะคะ

เรื่องนี้เป็นแนวแอบรักเรื่องแรกที่แต่งอาจไม่เข้าถึงอารมณ์นักเพราะไม่เคยแอบรักใคร555+

แต่จะพยายามแต่งให้ดีที่สุด...ตั้งใจไว้แล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีพล๊อตสั้นๆ

สิบกว่าตอนก็คงจบแล้ว

อาจมาอัพช้าหน่อยสักสองอาทิตย์ต่อตอนหรือเร็วกว่านั้นตามภารกิจที่มี

ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่เข้ามาติดตามผลงานเรื่องใหม่นี้นะคะ

ขอฝากตัวไว้อีกเรื่องค่ะ^^

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2017 15:03:28 โดย nicedog »

ออฟไลน์ Janny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
เค้าชอบนิยายอารมณ์แบบนี้นะคะ ชอบแบบแอบรักไม่ให้เค้ารู้แบบนี้ แต่อ่านไปสักพักถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเาก็อาจจะด่าน้องน้อยบ้างที่ไม่ยอมบอกไปสักที 555555555555 ไม่หรอกค่ะ จริงๆเราก็พอจะเข้าใจอ่ะค่ะถึงจะไม่เคยแอบรักใครก็เถอะ ถ้าบอกออกไปแล้วเค้ายิ่งตีตัวออกห่างก็เก็บความรู้สึกไว้ในใจเถอะ เฮ้ออออออ รออ่านต่อนะคะ เราว่าพี่พระเอกก็ต้องรู้ตัวบ้างแหละ คนหน้าตาดีมักจะรู้ตัวเวลามีคนแอบมองนะ ทฤษฎีจากไหนไม่รู้ เราเคยได้ยินมา 55555555  :L1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
วรานนท์สู้ๆ

คุณ nicedog สู้ๆ


:D


ขอตอนต่อด่วนค่าาาา

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
ปักธงรอ ><

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
น่าติดตาม

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
มาเอาใจช่วยคนแอบรัก  :hao3:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ชอบแนวนี้ๆ

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0

แอบรัก⊰❤⊱วันที่1




ช่วงเช้าของวันจันทร์คงเป็นวันที่หลายๆคนต่างรีบเร่งขับรถออกไปทำงานเหมือนอย่างวรานนท์ เทพภักดีที่ออกจากห้องพักมาตั้งแต่7โมงเพื่อมาทำงานที่ร้านเล็กแกลลอรี่เล็กๆชื่อVI&Kที่อยู่ใจกลางเมือง ร้านแกลลอรี่นี้เป็นทั้งร้านรับถ่ายภาพ ร้านอัดภาพและยังรับวาดรูปหรือขายภาพที่วาดเสร็จแล้วด้วย

“สวัสดีครับ”เจ้าของร่างโปร่งเดินก้าวเข้ามาในร้านพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้เจ้าของร้านรุ่นพ่อด้วยความเคารพ

“มาเร็วเหมือนเคยเลยนะจ้าว”เสียงเจ้าของร้านดังขึ้นพร้อมส่งรอยยิ้มมาให้

เจ้าของร้านนี้ชื่อคุณวิสุธ แก้วจันทร์หรืออาวิ...ชายวัยกลางคนที่ปีนี้มีอายุ58ปีแต่ด้วยความที่หมั่นออกรอบไปเที่ยวปีนเขาหรือล่องแก่งอยู่ตลอดเลยทำให้มีรูปร่างดีจนใครๆก็ไม่เชื่อว่าอายุมากขนาดนี้แล้ว อาวิพึ่งเปิดร้านแกลลอรี่นี้ขึ้นมาเมื่อ8ปีก่อน...วันที่ออกหางานได้เจอเข้ากับร้านนี้ที่ประกาศจ้างคนอยู่พอดีแถมยังเป็นงานถ่ายภาพและวาดภาพตามสายที่จบมาทำให้ผมไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะเข้าไปสมัคร

จากที่อาวิเล่าเห็นว่าที่พึ่งเปิดร้านเพราะเมื่อก่อนนั้นได้ออกไปท่องเที่ยวในหลายๆประเทศเพื่อหาประสบการณ์ในด้านต่างๆก่อนค่อยมาตกลงใจมาเปิดร้านที่นี่

“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?”ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มมองไปยังกรอบรูปขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่ด้านข้าง

เมื่อวานยังไม่มีกรอบรูปวางตรงนี้แปลว่าพึ่งมาส่งเมื่อเช้าสินะ

“ดีเลยๆ...กรอบรูปพึ่งมาส่งนี่เองขนเข้าคนเดียวคงไม่เสร็จง่ายๆแน่”อาวิบอกก่อนจะกวักมือเรียกผมให้เข้าไปช่วย

ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะจัดการขนกรอบรูปพวกนี้เข้าไปด้านในจนหมด...ถึงที่นี่จะเป็นร้านขนาดเล็กแต่ด้านหลังก็มีห้องกว้างขวางพอที่จะสร้างเป็นสตูดิโอขนาดกลางได้

“หนูข้าวมามาแล้วเหรอจ๊ะ?”เสียงหวานของภรรยาของอาวิดังขึ้นจากประตูหน้าทำให้เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลตาลเข้มละมือจากหนังสือแล้วหันไปมองทางต้นเสียง

“สวัสดีครับน้าแก้ว”

น้าแก้วหรือแก้วมณี แก้วจันทร์ภรรยาอย่างถูกกฎหมายของอาวิที่แต่งงานกันเมื่อหลายสิบปีก่อนแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีลูกเห็นบอกว่าการอยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว...ร้านแห่งนี้มีแค่อาวิ น้าแก้วและผมเท่านั้นที่ดูแลร้านอยู่โดยน้าแก้วเป็นเหมือนพนักงานต้อนรับเวลามีใครมาสอบถามก็จะพูดคุยอย่างเป็นมิตรแล้วยังชอบลดราคาให้บ่อยๆจนร้านขาดทุนไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว

ส่วนอาวิที่เห็นภรรยาตัวเองลดราคาแบบนั้นก็หัวเราะออกมาราวกับมองว่าเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่งเท่านั้น...อาวิเป็นช่างภาพอิสระที่จะเน้นถ่ายพวกรูปธรรมชาติพวกภาพวิวป่าไม้  แม่น้ำลำธารหรือพวกทุ่งดอกไม้ในหุบเขา...เห็นร้านเล็กๆแบบนี้แต่ลูกค้าค่อนข้างเยอะมีหลายครั้งที่ต้องปฏิเสธบางงานไปเพราะทำไม่ทันจริงๆ

ที่ร้านคนเยอะแบบนี้คงเป็นเพราะอาวิที่ได้ชื่อว่าเป็นช่างภาพอันดับต้นๆของประเทศที่มีรางวัลการันตีความสามารถอยู่เพียบจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ...มีหลายคนที่อยากได้ตัวอาวิไม่ร่วมงานแต่ก็ถูกปฏิเสธกลับไปอย่างสุภาพ

อาวิเคยคิดจะจ้างคนเพิ่มแต่ก็ยังไม่เจอคนที่ถูกชะตาทั้งที่มีหลายคนมาขอสมัคร....อาจเป็นโชคดีที่ทั้งสองคนถูกชะตากับผมทำให้ได้มาทำงานในร้านดีๆแบบนี้

สำหรับผมงานที่ทำส่วนมากจะเป็นการนั่งวาดรูปไปเรื่อยๆตามอารมณ์และบางครั้งก็จะออกไปถ่ายรูปตามที่ต่างๆแต่ภาพถ่ายของผมคนละแนวกับอาวิเลย...ภาพที่ถ่ายส่วนมากจะเน้นบรรยากาศในเมืองหรือพวกรูปผู้คนที่เดินไปมา...

ที่ชอบถ่ายมากที่สุดก็คือรูปที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์

ผมว่ามนุษย์นั้นมีความสวยอยู่ในตัวเองไม่จำเป็นต้องยิ้มหรือมองกล้องก็สวยได้

“กินข้าวมารึยังเอ่ย?”น้าแก้วถามต่อ

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“กินขนมไหมน้าพึ่งซื้อมาเอง”คำพูดพร้อมรอยยิ้มดังขึ้นอีกครั้งจากผู้หญิงเพียงคนในร้าน

“ถ้าไม่รบกวนก็ได้ครับ”เสียงนุ่มตอบกลับไป

“อย่าขยั้นคะยอจ้าวขนาดนั้นเลยที่รัก...เด็กผู้ชายไม่ค่อยชอบของหวานหรอก”อาวิเดินเข้ามาสมทบพร้อมโอบไหล่ภรรยาสุดที่รักไว้

“แต่ฉันซื้อมาเผื่อแล้วนี่นาแถมทุกครั้งหนูข้าวก็ยอมกินนี่”ภรรยาหันไปบอกกับสามี

“เขาเกรงใจคุณน่ะสิ...จ้าวบอกไปเลยว่ายังไง”อาวิหันมาถาม

“ผมชอบของหวานนะครับไม่ได้ฝืนกินอะไรเลยอาวิไม่ต้องห่วงนะครับ”ผมตอบกลับไป

ชื่อของผมที่หลุดออกมาจากทั้งสองคนอาจไม่เหมือนกันแต่ก็เป็นชื่อเล่นของผมทั้งสองชื่อ...

ข้าวจ้าว

คือชื่อเล่นเต็มๆของผมเอง

ชื่อนี้ได้คุณตาตั้งให้ตอนที่พึ่งเกิดได้ไม่นานเห็นว่าเป็นข้าวที่คุณตาชอบกินมาก

“งั้นก็ดีแล้ว...กินเสร็จเดี๋ยวมาหาอาหน่อยนะ”อาวิบอกพร้อมกับตบไหล่ผมเบาๆ

“ครับอา”

“เราไปกินขนมกันดีกว่าเนอะ”น้าแก้วบอกพรางเดินนำไปที่ห้องด้านหลังที่อยู่ติดกับสตูดิโอ...ห้องที่ว่าเป็นห้องขนาดเล็กที่มีไว้สำหรับพักกินข้าวหรือของว่างระหว่างวัน...บนชั้น2เป็นส่วนของที่พักอาศัยและเป็นสตูดิโอไว้วาดภาพ

หลังจากที่นั่งกินขนมพร้อมกับพูดคุยเรื่องต่างๆเรียบร้อยแล้ววรานนท์ก็เดินเข้าไปหาอาวิที่กำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนอยู่หน้าร้าน...

“ครับ...ไม่แน่ใจว่าจะเสร็จทันไหมแต่จะพยายามละกันครับ...สวัสดีครับ”

พอวางสายไปอาวิก็หันมาหาผมพร้อมรอยยิ้มกว้างทำให้ผมรู้สึกเหมือนจะมีงานเข้าตัวเองอย่างไม่รู้ตัว

“จ้าว”

“ครับ...”ผมขานรับเสียงเรียกที่ดูไม่น่าไว้ใจนั่น

“มีงานล่ะ...เขาบอกว่าอยากได้รูปถ่ายเกี่ยวกับการรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมน่ะ”อาวิอธิบาย

“แล้วระยะเวลาละครับ”สิ่งที่ห่วงไม่ใช่เรื่องงานแต่เป็นระยะเวลาที่ไม่รู้ว่าจะให้มากขนาดไหน...บางงานก็ดีหน่อยที่ได้มีเวลาให้มากพอสมควรแต่กลับบางงานก็ให้เวลาน้อยมากจนรู้สึกไม่ค่อยดี

“3วัน”

“ไม่เอาครับ”ผมรีบปฏิเสธไปทันที

เวลาแค่3วันถือว่าน้อยมากจนถึงมากที่สุด...อาจมีหลายคนที่มองว่ากับแค่ภาพถ่ายทำไมต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือนด้วย นั่นเป็นเหตุผลง่ายๆเพราะผมจะไม่ยอมให้เอาภาพที่ถ่ายลวกๆไปให้ลูกค้า...ก็จริงที่ทุกภาพที่ยกกล้องขึ้นถ่ายมันอาจไม่ได้แย่ทั้งหมดแต่องค์ประกอบภายในรูปยังไม่ดีพอที่จะให้ลูกค้าได้

อาจเป็นแค่ความดื้อดึงของตัวเองก็ได้ที่อยากให้ลูกค้าได้รูปภาพที่ดีที่สุดไป

“จ้าว”

“เวลาน้อยขนาดนั้นผมทำไม่ทันหรอก”

“งั้นก็เริ่มวันนี้เลยสิ”อาวิยังคงขยั้นขยอ

“ถึงแบบนั้นเวลามันก็...”

“ไม่แน่ว่าอาจได้รูปดีๆตั้งแต่วันแรกก็ได้นะ”อาวิพูดแทรกขึ้นมา

“...”คำพูดนั่นทำให้คนที่ฟังยืนนิ่ง

ก็จริงถ้าได้รูปดีๆตั้งแต่วันแรกอาจทำให้งานเสร็จเร็วขึ้นแต่เปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นไปได้เรียกว่าน้อยกว่าศูนย์อีก

“ลองดูเถอะจ้าว”อาวิพูดขึ้นอีกครั้ง

“...ก็ได้ครับแต่ผมไม่แน่ใจว่าจะทันนะครับ”เมื่อถูกขอร้องหลายๆครั้งก็ชักใจอ่อน

“ได้ๆ...อารู้ว่าเราทำได้อยู่แล้ว”

พอคุยกันจบพวกเราก็แยกย้ายไปทำงานตามเดิม...ตลอดทั้งผมเอาแต่นั่งอยู่ในห้องสตูดิโอด้านหลังเพื่อคิดว่าจะเอายังไงกับงานนี้ดี หัวเรื่องคือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพราะงั้นก็ควรจะเลือกสถานที่ที่มีพวกต้นไม้หรือดอกไม้

พูดถึงต้นไม้และดอกไม้ก็มีอยู่ที่หนึ่งใกล้ๆร้านนี่นา

สวนสาธารณะที่อยู่ถัดไปประมาณ500ร้อยเมตร...สวนขนาดใหญ่ที่เป็นทั้งสถานที่พักผ่อน ออกกำลังกายและยังเป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆอย่างพวกวิ่งมอราทอน แข่งปั่นจักรยานหรือพวกกิจกรรมนันทนาการต่างๆแถมด้วยเนื้อที่กว้างขวางทำให้มีสนามสำหรับเล่นกีฬามากมายเช่น สนามบอล สนามบาส สนามเทนนิส เป็นต้น

ผมตัดสินใจได้ในทันทีว่าควรจะไปที่สวนสาธารณะด้านข้างนี่ก่อน ที่สวนมีทั้งสนามหญ้าขนาดใหญ่และแปลงดอกไม้นานาพันธุ์ให้ดูตามแต่ฤดูการณ์ซึ่งคิดว่าเหมาะสมที่จะถ่ายภาพแล้ว

“ผมกลับก่อนนะครับ”ช่วงเวลาเย็นเจ้าของผมสีน้ำตาลเข้มบอกกับเจ้าของร้านทั้งสองก่อนจะเดินไปทางด้านข้างที่มีมอเตอร์ไซค์ของตนจอดไว้อยู่






วรานนท์ขี่มอเตอร์ไซค์ไปจนถึงสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในช่วงเวลาเลิกงานพอดีเลยมีผู้คนมากมายมาเดินวิ่งเพื่อออกกำลังยามเย็น เส้นผมสีน้ำตาลที่ได้มาจากคุณตาพลิ้วไหวเล็กน้อยตามแรงลมที่พัดมาเอื่อยๆเศษผงบางอย่างที่เข้าตาทำให้ดวงตาสีเขียวปนเทาที่ดูแปลกตาหรี่ลงเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปภายในพร้อมกล้องตัวโปรดที่ใช้เวลากว่า2ปีถึงจะผ่อนหมด

ที่บ้านของผมไม่ได้รวยมากขนาดจะซื้อกล้องราคาแพงให้ได้แต่ก็รู้ว่าถ้าไปขอทั้งพ่อและแม่คงจะหาทางซื้อให้แน่ๆผมเลยเลือกที่จะไม่บอกแล้วเก็บเงินเพื่อซื้อเองดีกว่า

สองขาเรียวก้าวเดินตามทางไปเรื่อยๆจนถึงสวนขนาดกลางที่มีต้นไม้เล็กใหญ่ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ที่ปลิวมาตามลมทำให้รู้สึกสบายจนเผลอสูดดมกลิ่นหอมนั่นจนเต็มปอดก่อนจะยกกล้องในมือขึ้นมาถ่ายรูปดอกไม้สีขาวที่พลิ้วไหวเพราะแรงลมโดยมีแสงแดดยามเย็นเป็นแบล็คกราว

กล่องสีดำถูกยกขึ้นมาถ่ายอย่างต่อเนื่องจนแสงสุดท้ายของวันเกือบจะหายลับไปจากขอบฟ้า ไม่รู้อะไรดนใจทำให้มือเรียวที่ถือกล้องอยู่ค่อยๆเลื่อนกล้องไปยังสนามบาสที่อยู่ด้านข้างเพื่อถ่ายภาพสุดท้ายก่อนที่แสงสุดท้ายจะหายไป

ดวงตาสีเขียวปนเทามองผ่านเลนส์แว่นและเลนส์กล้องมองไปยังสนามที่มีกลุ่มชายหนุ่มวัยทำงานกำลังเล่นบาสกันอยู่...ในขณะที่กำลังเลื่อนกล้องเพื่อดูต่อดวงตาสวยก็ต้องชะงักเมื่อภาพของชายหนุ่มผมดำซอยสั้นเข้ามาอยู่ในเลนส์...

เหมือนทุกอย่างหยุดชะงักลงเพียงแค่เห็นคนนั้นกำลังกระโดดขึ้นรับลูกบาสก่อนจะวิ่งหลบผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็นอีกทีมได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ช้าลูกบาสสีส้มก็ถูกโยนเข้าห่วงอย่างสวยงาม...รอยยิ้มกว้างที่แสดงความดีใจของผู้ชนะทำให้มือของผมเผลอกดถ่ายรูปนั่นอย่างไม่รู้ตัวด้วยหัวใจที่เริ่มเต้นเร็วขึ้น

ไม่ได้เจอกันตั้ง3ปีแล้วแท้ๆ

ทั้งที่คิดว่าจะลืมไปแล้ว

แต่หัวใจมันกลับเตือนว่าคนคนนี้แหละ

คนที่ผมแอบรักมาตลอด

ผมยังคงมองภาพชายหนุ่มร่างสูงที่มีกลุ่มเพื่อนห้อมล้อมแสดงความยินดีด้วยรอยยิ้มที่ได้รับชัยชนะโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าสองขาของตนได้ก้าวเข้าไปใกล้มากขึ้นจนสามารถเห็นเหงื่อที่ไหลรินลงมาตามร่างกายสมส่วนนั่นได้อย่างชัดเจน

ดวงตาสีน้ำตาลของชายตรงหน้าหันมองไปรอบๆก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ผม...ไม่สิ...มาหยุดอยู่ที่เลนส์กล้องที่ผมกำลังถ่ายอยู่ นั่นทำให้ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มถึงกับผงะจนกล้องหลุดมือแต่โชคดีที่มีสายห้อยคอเอาไว้ทำให้กล้องไม่หล่นลงพื้น

ผมถึงกับทำตัวไม่ถูกที่ดวงตาเรียวสีน้ำตาลนั่นจ้องมาอย่างสงสัย

หัวใจที่สงบนิ่งมาตลอด3ปีกลับเต้นดังมากจนเหมือนจะหลุดออกมาจากอกให้ได้

ร่างโปร่งได้แต่หันซ้ายขวาไปมาราวกับจะขอความช่วยเหลือก่อนจะตัดสินใจทำสิ่งที่ส่อพิรุจอย่างชัดเจนนั่นก็คือการวิ่งหนีออกไปทั้งที่ใบหน้าขึ้นสีแดงจัดเพราะถูกดวงตาสีน้ำตาลของคนที่แอบรักมาตลอดจ้องมา

ทำไม...

ทำไมถึงต้องมาเจอกันด้วย?!

ทั้งที่เกือบจะลืมความรู้สึกรักนั่นไปแล้วแต่พอได้เห็นหน้าอีกครั้งมันทำให้ความรู้สึกนั้นกลับมาอย่างรวดเร็ว...

ความรู้สึกที่เรียกว่ารัก

ไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาถึงห้องพักได้ยังไงทั้งที่ในหัวมีแต่ภาพของชายหนุ่มที่ไม่ได้เจอกันมา3ปีอยู่เต็มหัวไปหมด...ถึงรูปร่างและหน้าตาจะดูเปลี่ยนไปกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกันแต่ผมก็รู้ว่าคนคนนั้นคือใคร

‘ราชา’

คือชื่อเล่นของคนที่ผมแอบรักมาตลอดตั้งแต่มัธยมต้นจนถึงมหาวิทยาลัยและจนถึงตอนนี้ด้วย

เขาเป็นคนที่มีบุคลิกเหมือนกับชื่อ...

เขาเป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของทุกคนมาตั้งแต่เมื่อก่อนและตอนนี้ก็ยังคงเป็นอยู่แน่ๆ

แค่เห็นหน้าหัวใจที่ไม่เคยเต้นแรงกับใครก็กลับบีบตัวแน่นราวกับจะแสดงความดีใจที่ได้เจอ

“...ทำไมต้องเจอด้วยนะ”ผมล้มตัวลงบนเตียงหนึ่งเดียวภายในห้องพักพร้อมยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก...เชื่อไหมล่ะว่าหัวใจของตนยังเต้นแรงอยู่จนถึงตอนนี้

ถ้าบอกคนอื่นก็คงมีแต่คนหัวเราะแน่ที่มีความรู้สึกเหมือนสาวน้อยแบบนี้

ค่ำคืนที่แสนสั้นกลับยาวนานกว่าปกติเพราะคนที่นอนอยู่บนเตียงตอนนี้ไม่อาจข่มตาหลับได้...ทุกครั้งที่หลับตาก็จะเห็นดวงตาสีน้ำตาลนั่นเข้ามาในหัวทุกทีไป


(มีต่อ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อค่ะ)



ร่างอันรวยรินของวรานนท์เดินเข้ามาในร้านแกลลอรี่อย่างเชื่องช้าด้วยความที่ไม่ได้นอนทั้งคืนทำให้รู้สึกแย่สุดๆเลยต้องใส่แว่นสายตาสีดำเหมือนแว่นกันแดดมาแทน...

หวังว่าแว่นนี้จะช่วยปิดดวงตาคล้ำๆของผมได้นะ

“สวัสดีครับอาวิ...น้าแก้ว”เสียงนุ่มที่ออกจะเนือยๆเล็กน้อยดังขึ้นทักทายคู่สามีภรรยาที่กำลังกินขนมพร้อมกาแฟ

“สวัสดีจ้าหนูข้าว...ทำไมวันนี้ใส่แว่นดำมาล่ะ?”

“...อ่อ...ผมปวดตานิดหน่อยครับ”ข้อแก้ตัวที่พึ่งคิดได้ถูกพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ไม่เป็นไรแน่นะ...สงสัยเพราะต้องใช้ตาถ่ายรูปมากไปแน่ๆเลย”น้าแก้วบอก

“ไม่เป็นไรครับ”

“พักสักหน่อยไหมจ้าว...เดี๋ยววันนี้อารับงานแทนเองขึ้นไปนอนห้องรับแขกชั้น2เถอะ”คำพูดของอาวิทำให้ผมพยักหน้าตอบกลับอย่างช่วยไม่ได้

ทันทีที่หัวถึงหมอนสติที่เหลืออยู่ก็หายไปอย่างรวดเร็วและน่าแปลกที่ครั้งนี้ภาพดวงตาคมสีน้ำตาลนั่นไม่อาจทำให้คนร่างโปร่งสะดุ้งตื่นขึ้นมาได้เหมือนเมื่อคืน

เชื่อไหมว่าผมนอนยาวตั้งแต่7โมงยันบ่าย3โมงเย็นโดยที่ไม่มีใครขึ้นมาปลุกเลยสักนิดเดียว...รู้ตัวอีกทีก็คือตอนที่ท้องของตัวเองส่งเสียงดังลั่นดวงตาสีเขียวปนเทาเลยปรือขึ้นอย่างัวเงียก่อนจะตาสว่างทันทีที่ยกนาฬิกาข้อมือเรือนดำขึ้นมาดูเวลา

“น้าแก้ว...อาวิ...ผมขอโทษจริงๆนะครับ”คนนอนเพลินรีบวิ่งลงมาชั้นร่างพร้อมยกมือไหว้ขอโทษหลายสิบครั้งถึงจะโดดตัดเงินผมก็จะไม่โกรธเลยสักนิด

“ไม่เป็นไรๆ...แล้วเป็นไงบ้างล่ะดีขึ้นไหม?”น้าแก้วเดินเข้ามาถาม

“ครับ...รู้สึกดีขึ้นมากเลย”ผมตอบกลับไปตามตรง

การได้หลับสนิทไป8ชั่วโมงทำให้สมองปลอดโปร่งมากอย่างบอกไม่ถูกเหมือนความรู้สึกแย่ๆตอนนั้นเป็นเพียงแค่ความฝันงั้นแหละ

“ดีแล้วล่ะ...หิวไหมเดี๋ยวน้าหาอะไรให้กิน”น้าแก้วยังคงถามต่อ

“ผมกะจะไปกินที่สวนสาธารณะข้างๆน่ะครับ”

“จ้าวเลือกที่นั่นถ่ายรูปเหรอ?”คุณอาที่ได้ยินก็เดินเข้ามาถามอีกคน

“ครับ...แต่ยังไม่ได้รูปดีๆเลย”จะพูดให้ถูกคือยังไม่กล้าเปิดกล้องที่ถ่ายเมื่อวานเพื่อดูภาพเลยต่างหาก

“ใจเย็นๆ...ของพวกนี้ถ้าเราไม่รีบร้อนก็จะได้ภาพดีๆออกมาเอง”

“อาวิน่าจะรับงานนี้นะครับ”ภาพถ่ายแนวธรรมชาติเป็นสิ่งที่อาวิถนัดอยู่แล้วด้วย

“อาคิดว่าเราน่าจะได้ประสบการณ์ดีในงานนี้นะ”

“ผมจะพยายามแต่ถ้าไม่ได้...”

“ห้ามพูดคำว่าไม่ได้อาเคยสอนแล้วนี่...ต้องพูดว่าทำได้เราต้องพูดให้สิ่งดีๆเข้าตัวเข้าใจไหม?”

“ครับ...ผมทำได้”

“ดีมาก...งั้นก็ไปที่สวนเลยเถอะ”

“ได้เหรอครับ?”นี่ยังไม่ได้เวลาเลิกงานเลย

“ได้สิ...แสงตอนนี้กำลังเหมาะเลยถ้าไปตอนเลิกงานแสงที่ได้คงจะเป็นโทนเศร้าๆไม่เหมาะกับการรณรงค์หรอก”อาวิแนะนำ

“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะเดินออกจากร้านไปยังมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง

เมื่อถึงสวนสาธารณะสองขาเรียวก็เดินไปยังศูนย์อาหารที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่จอดรถเท่าไหร่...ช่วงเวลาบ่าย3กว่าเกือบบ่าย4มีคนน้อยกว่าช่วงเย็นมากทำให้ผมนั่งกินได้อย่างสบายไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่ต้องมองหาที่นั่งเพราะดันมากินช่วงเลิกงานที่มีคนเยอะ

“เฮ้...ทางนี้ราชา”

กึก!

ทันทีที่ชื่อนั้นดังขึ้นร่างกายผมก็เกร็งตัวโดยอัตโนมัติมือที่กำลังถือช้อนที่มีข้าวผัดอยู่แทบร่วงถ้าไม่ตั้งสติให้ดี...เสียงเรียกดังมาจากกลุ่มผู้ชาย5คนที่นั่งอยู่โต๊ะถัดจากผมไปประมาณ3โต๊ะ

“รู้แล้ว!”เสียงทุ้มที่แค่ได้ยินหัวใจก็เต้นรัวขึ้นทันที

ผมไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองแม้เสียงทุ้มจะดังอยู่ด้านหลังตัวเองก็ตาม...ไม่กี่วินาทีหลังได้ยินเสียงนั่นร่างสูงสมส่วนของราชาก็เดินผ่านโต๊ะที่ผมกำลังนั่งอยู่ เพียงแค่ชายเสื้อสีเทากับกางเกงออกกำลังสีดำที่เข้ามาในสายตาทำให้ร่างโปร่งที่นั่งอยู่ถึงกับก้มหน้าตัวเองลงเพื่อซ่อนใบหน้าที่คงจะแดงก่ำยิ่งกว่าเนื้อแตงโม

กลิ่นหอมอ่อนๆที่สัมผัสได้ทำให้นึกถึงความทรงจำที่เมื่อก่อนราชาเองก็เคยเดินผ่านผมไปพร้อมกลิ่นแบบนี้เหมือนกัน...ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมหรือเป็นกลิ่นฟีโรโมนของอีกฝ่ายกันแน่

“มาเร็วนะวันนี้”เสียงหนึ่งในกลุ่มชายที่นั่งอยู่ก่อนถามคนที่พึ่งเดินเข้าไปหา

“พอดีงานเสร็จเร็วน่ะ”เสียงทุ้มตอบกลับพร้อมยักคิ้วกวนๆส่งไปให้เพื่อนที่ถามแล้ววางกระเป๋าไว้ด้านหลังเก้าอี้ที่นั่ง

คนที่ก้มหน้าอยู่แอบฟังบทสนทนาที่ดังเข้าหูอย่างไม่ได้ตั้งใจ...จากเก้าอี้ที่ผมนั่งราชานั่งหันข้างให้ผมซึ่งถือว่าเป็นมุมดีในการแอบมองอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

มือเรียวก้มลงไปหยิบกล้องตัวโปรดที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมาเงียบๆก่อนจะปรับกล้องเล็กน้อยแล้วหันไปยังชายหนุ่มผมซอยสั้นสีดำสนิทที่กำลังคุยกับเพื่อนอยู่อย่างออกรสชาติ รอยยิ้มที่ดูเป็นกันเองเมื่ออยู่ต่อหน้าคนสนิททำให้เผลอกดซัตเตอร์ถ่ายรูปอย่างไม่รู้ตัว

ภาพในกล้องที่ถ่ายเมื่อครู่ถูกเปิดเพื่อดูอีกครั้งพร้อมๆกับรอยยิ้มของเจ้าของกล้องที่คลียิ้มออกมาบางๆเมื่อเห็นรูปของราชาตอนที่กำลังยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติอยู่ภายใน รูปอื่นๆที่ถ่ายไว้เมื่อวานก็ถูกไล่ดูทีละภาพ...กว่า40เปอร์เซ็นต์ของภาพเมื่อวานเป็นภาพของราชาคนที่ผมแอบรักมาตลอดนั่นส่วนที่เหลือเป็นภาพดอกไม้ต้นไม้ที่เป็นงานของตน

ผมนั่งแช่อยู่ที่เดิมทั้งที่ไม่ได้ตักข้าวในจานเข้าปากมาเกือบครึ่งชั่วโมงเพียงเพราะมัวแต่แอบชำเลืองมองไปยังโต๊ะที่อยู่ถัดไป3โต๊ะ...ใบหน้าด้านข้างที่ได้เห็นอีกครั้งนั้นช่างดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก

ใบหน้าที่ดูคมและเท่ขึ้นกว่าเมื่อหลายปีก่อน...

แทบไม่ต้องเดาเลยว่าอีกฝ่ายคงมีผู้หญิงมากมายมาติดพันแน่ๆ

“เห็นว่าคบอยู่กับน้องดาวเป็นไงบ้าง?”

นั่นไงละ...มีคนคบอยู่ด้วยจริงๆ

ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรมากมายเพราะรู้ตัวว่าเรื่องของผมกับเขามันแทบไม่มีวันจะเป็นจริงได้

พอไม่หวัง...ก็ไม่รู้สึกเจ็บ

มีแค่ความรู้สึกหน่วงๆนิดหน่อยเท่านั้น

“น้องดาว?...ไม่ได้คบสักหน่อย...นั่นลูกน้องในบริษัท”เจ้าของประเด็นตอบทันควัน

“เห็นเธอโพสรูปคู่กับแกนิราชา”

“ก็แค่รูปคู่เอง”ราชาดูจะไม่สนใจผู้หญิงที่ชื่อดาวสักเท่าไหร่

“เธอสวยจะตายใครๆก็อยากได้มาเป็นแฟนทั้งนั้นทำไมดูเพื่อนเราไม่สนใจเธอเลยล่ะ”เพื่อนในกลุ่มอีกคนถาม

“...พูดอยากนะ...บอกได้แค่ยังไม่เจอคนที่ใช่”เสียงทุ้มที่ให้คำตอบทำให้คนทั้งโต๊ะส่งเสียงวิ๊ดวิ๊วขึ้นทันที

“ระดับไฮโซอย่างคุณราชามีมุมคิกขุด้วยโว้ย!!”เสียงแซวจากคนในกลุ่มทำให้เจ้าของชื่อต้องเอื้อมมือไปผลักไหล่คนพูดเบาๆ

“คิกขุอะไรเล่า...แค่คนที่คบด้วยก็ควรเป็นคนที่เรารู้สึกดีด้วยไม่ใช่รึไง?”

“นั่นมันความคิดของคนรุ่นปู่แล้ว!”ชายที่ย้อมผมสีน้ำตาลบอกราชา

“ใช่ๆ...เดี๋ยวนี้คนหล่อๆมันก็ต้องควงผู้หญิงดิ...คบวันละคนอะไรแบบนี้น่ะ”อีกคนเสริม

“ไม่เอา...แบบนั้นมันเหมือนเล่นกับความรู้สึกตัวเองและคนอื่นด้วย...ถ้าไม่ชอบก็ไม่ควรให้ความหวัง”ราชาตอบเสียงจริงจัง

“ฮะฮะฮะ”นั่นทำให้ทั้งกลุ่มระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแม้แต่ผมเองก็อมยิ้มกับความคิดนั้นเหมือนกัน

ราชาเป็นผู้ชายที่หล่อและเพอร์เฟ็กมากจนหลายๆคนอยากเข้าหาแต่เพราะเขามีความคิดแบบนั้นมาตั้งแต่เมื่อก่อนทำให้ไม่เคยคบกับผู้หญิงคนไหนเลยเรื่องนี้ผมได้ยินข่าวมาตั้งแต่มัธยมปลายยันมหาลัยถึงจะอยู่คนละคณะแต่ข่าวเรื่องคนหล่อของคณะตรงข้ามก็ดังจนเข้าหูบ่อยๆ

เขาเป็นคนจริงใจและนั่นทำให้ผมยิ่งรู้สึกดีใจที่คนคนเดียวที่ผมรักเป็นเขาคนนี้

“เพื่อนเราคงเป็นมนุษย์ที่มาจากยุคโบราณแน่ๆเลยวะ”

“เห็นด้วยๆ”

“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ...ไปเล่นบาสกันดีกว่า”ราชาบอกเหล่ามิตรสหายที่ที่ยังแซวไม่เลิก

“ได้ๆ...เออ...เห็นว่าช่วงนี้เครียดๆใช่ป่ะ?”คำถามนั้นทำให้คนที่แอบฟังอยู่ขยับเข้าไปใกล้เพื่อจะได้ยินบทสนทนานั่นชัดๆ

คนที่ถามคำถามนั้นเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมของราชาที่ชื่อว่าเพรช...จำได้ว่าพอเข้ามหาวิทยาลัยก็อยู่กันคนละคณะแต่ก็ยังสนิทกันอยู่เหมือนเดิม

“เออ...สุดๆเลยแค่เรื่องงานก็แย่แล้วยังมีเรื่องดูตัวเข้ามาอีก”ราชาบ่นพรางยกขวดน้ำขึ้นมาจิบ

“โหยลูกชายคนโตของครอบครัวก็งี้แหละ”เพื่อนด้านข้างพยายามให้กำลังใจ

“บางทีก็ไม่อยากเกิดมาเป็นลูกคนโตหรอก...ต้องเรียนคณะที่ไม่อยากเรียนพอจบต้องไปต่อนอกอีกแถมพอกลับมาก็ดันได้เป็นรองประธานของบริษัทอีก...ทุกที่ที่อยู่ตอนนี้มันเหมือนไม่ใช่ที่ของเรา...”เสียงเศร้าๆนั่นทำให้คนที่แอบฟังอยากจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปปลอบแต่เพราะไม่มีความกล้าพอเลยได้แต่นั่งนิ่งๆตามเดิม

ไปเรียนต่อเมืองนอกเหรอ?

ที่หายไปนานเพราะแบบนี้เองสินะ

“อย่าเครียดดิ...ไปเล่นบาสคลายเครียดดีกว่า...ไปกัน”เพื่อนที่อยู่ในกลุ่มพูดแล้วช่วยกันดึงราชาออกไปจากโต๊ะโดยที่จุดหมายของพวกเขาก็เดาไม่อยากสักนิด...

คงจะเป็นสนามบาสแน่ๆ

“...อยากช่วยอะไรนายได้บ้างจัง”เสียงนุ่มพึมพำออกมาเบาๆ

ถึงจะอยากช่วยแต่คนธรรมดาๆแบบผมไม่มีปัญญาไม่ช่วยอะไรเขาได้หรอก

ดวงตาสีเขียวปนเทามองไปยังโต๊ะที่ราชาพึ่งลุกออกไปก่อนจะสะดุดเข้ากับกระเป๋าเป้ใบดำที่จำได้ว่าราชาเป็นคนวางไว้...ดวงตาคู่สวยมองดูกระเป๋าใบนั้นพร้อมในหัวที่เริ่มคิดบางอย่างขึ้นมาได้

มือเรียวรีบคว้ากระเป๋าที่วางอยู่ด้านข้างแล้วเปิดเอาอัลบั้มรูปที่ตัวเองถ่ายออกมาแล้วไล่เปิดหารูปจนเจอเข้ากับรูปภาพใบหนึ่งที่พอใจ ปากกาด้ามโปรดที่พกติดตัวไว้เสมอเขียนข้อความสั้นๆลงไปตรงกลางภาพอย่างใช้ความคิด

ผมใช้เวลารวบรวมความกล้าและหันซ้ายหันขวาเพื่อดูต้นทางว่าไม่มีใครมองเห็นสิ่งที่ตนกำลังจะทำ สองขาเรียวรีบเข้าเข้าไปประชิดกระเป๋าเป้สีดำพร้อมเปิดซิปออกแล้วหย่อนรูปภาพใบหนึ่งเข้าไปภายในด้วยความตื่นเต้นก่อนจะวิ่งกลับไปที่โต๊ะกวาดข้าวของทุกอย่างของตนแล้ววิ่งออกไปด้วยหัวใจที่เต้นรัว

ตอนนี้ผมไม่สนเรื่องงานแล้ว

ถ้ายังอยู่ผมคงได้เขินตายเพียงแค่ได้จับกระเป๋าเป้สีดำของราชาแน่ๆ





อีกด้านหนึ่งนายธรณินทร์ ภิพัฒธนมงคลหรือราชาก็วิ่งกลับเข้ามาที่โรงอาหารอีกครั้งหนึ่งเมื่อนึกได้ว่าลืมกระเป๋าเป้ใบโปรดทิ้งไว้ โชคยังดีที่ยังไม่มีใครขโมยไปอาจเป็นเพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกงานคนเลยไม่เยอะก็ได้

“...ค่อยยังชั่ว”เสียงทุ้มพึมพำเมื่อเปิดดูด้านในอย่างลวกๆแล้วไม่พบว่ามีอะไรหายไป

เมื่อหยิบกระเป๋าเรียบร้อยผมก็รีบวิ่งกลับไปยังสนามบาสที่อยู่ห่างไปหลายร้อยเมตร ตลอดทางที่วิ่งกลับไปภายในหัวก็นึกถึงเรื่องเครียดๆจากทั้งที่บริษัทและครอบครัวขึ้นมาอีกจนได้...ครอบครัวที่ใครๆต่างก็บอกว่าอิจฉาที่ได้เกิดมาในตระกูลภิพัฒธนมงคลที่เป็นตระกูลอันดันต้นๆของประเทศที่รู้จักกันอย่างกว้างขว้างในบริษัทผลิตโฆษณาชั้นนำและธุรกิจอื่นๆอีกหลายอย่าง

หน้าที่ของผมคือนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วเซนเอกสารในเรื่องที่ควรผ่านการอนุมัติโดยปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นๆในการประสานงานกันเอง

บางทีก็ไม่เข้าใจว่าหน้าที่แค่นี้ต้องลำบากเรียนปริญญาตรีด้านการบริหารและไปต่อนอกด้วยเหรอ?

หลายสิ่งหลายอย่างที่เหมือนถูกกดดันมาตั้งแต่ยังเด็กจนถึงโตทำให้รู้สึกว่าตัวเองคงจะทนกับมันไปได้อีกไม่นานแน่...อยากมีสักที่ที่สามารถเป็นตัวเองอย่างที่อยากเป็นโดยที่ไม่ต้องถูกบังคับให้ทำแบบนั้นแบบนี้

เรื่องคู่ครองก็เหมือนกัน

ผู้หญิงที่ต้องอยู่ด้วยตลอดชีวิตไม่ใช่สิ่งที่จะหาได้ง่ายๆ...ตั้งแต่เข้ามัธยมต้นก็มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้าหาอย่างไม่ขาดสายแต่ตัวผมก็รู้ดีว่าสิ่งที่พวกเธอรักและต้องการคือเงินและชื่อเสียงของตระกูลที่มี ไม่ก็ด้วยหน้าตาหรือท่าทางของผมที่ใครๆต่างก็บอกว่าเหมือนเทวดาลงมาเดินดิน...

สิ่งที่พวกเธอมีต่อผมคือความหลงไม่ใช่รัก

ผมเฝ้าตามหาคนที่จะอยู่ด้วยแล้วมีความสุขมาตลอดแต่ก็ไม่เคยได้พบเลย...

ไม่แน่ว่าผมอาจจะมีชะตาที่ต้องอยู่กับผู้หญิงที่ครอบครัวเลือกให้ไปตลอดชีวิตก็ได้

ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด

ช่วงเวลาเดียวที่ทำให้สมองปลอดโปร่งและเลิกนึกถึงเรื่องเหล่านั้นคือการเล่นบาสที่สวนสาธารณะใกล้ๆบริษัท...เหล่ามิตรสหายที่สนิทกันตั้งแต่มัธยมและมหาวิทยาลัยกลับมารวมตัวกันอีกครั้งนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวที่ได้หัวเราะและมีความสุขเหมือนคนอื่นๆ

“ช้าจริงราชา”เสียงของเพรชดังขึ้นพร้อมกับโบกมือเรียกให้เข้าไปหา

“มาแล้ว!”ธรณินทร์ตะโกนกลับไปพร้อมวางกระเป๋าไว้บนม้านั่งด้านข้าง

การเล่นบาสกับกลุ่มเพื่อนล่วงเลยมาจนถึงช่วงค่ำทำให้พวกเราแยกทางกับกลับบ้านเหมือนอย่างทุกวัน...ผมเองก็ขับรถกลับแต่ไม่ใช่บ้านที่เต็มไปด้วยความเครียดนั่นหรอก ผมซื้อคอนโดหรูที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากไว้พักอาศัยชั่วคราว

ทันทีที่อาบน้ำเสร็จร่างสูงก็ทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้าทันที...การออกกำลังทุกเย็นทำให้ผมหลับสนิทโดยไม่ต้องมีเรื่องอะไรอยู่ในหัว

“...โทรศัพท์”คนบนเตียงพึมพำขึ้นเมื่อนึกได้ว่าต้องชาร์ตแบ๊ตโทรศัพท์ที่ใกล้หมด

ผมกลิ้งตัวไปข้างเตียงพร้อมกับคว้ากระเป๋าเป้สีดำที่ถูกวางไว้ปลายเตียงขึ้นมาแล้วควานหาโทรศัพท์มือถือที่อยู่ภายในแต่แทนที่จะสัมผัสได้ถึงความแข็งของโทรศัพท์กลับสัมผัสได้ถึงแผ่นอะไรบางอย่างที่ลื่นๆ ด้วยความอยากรู้ผมจึงหยิบสิ่งนั้นออกมาดู

“...?”ดวงตาสีน้ำตาลถึงกับหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเจอกระดาษสีขาวที่เป็นลายคล้ายๆกระดาษอัดรูป มือของผมพลิกไปดูอีกข้างอย่างอัตโนมัติก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นรูปภาพที่อยู่อีกด้านหนึ่ง...

ภาพของตึกสูง2ตึกที่มีความสูงเท่ากันแต่หันแยกออกไปคนละทางโดยที่มีท้องฟ้าสีฟ้าสวยกับพระอาทิตย์ยามเที่ยงรอยเด่นอยู่ตรงกลางพอดี...

สวย

เป็นคำเดียวที่ควรมอบให้กับภาพที่ถืออยู่ในมือตอนนี้...ถึงผมจะไม่รู้เรื่องการถ่ายภาพแต่รู้เลยว่าเจ้าของภาพนี้ต้องใช้ใจในการถ่ายมากเพราะมันช่างงดงามจนไม่อาจละสายตาหรือแม้แต่บรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลย

ดวงตาคมสีน้ำตาลเลื่อนลงมาด้านล่างเล็กน้อยก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นข้อความสั้นๆที่ถูกเขียนไว้ด้วยปากกาหมึกดำ...

‘นายจะผ่านมันไปได้...ราชา’

“ราชา...”เสียงทุ้มพึมพำชื่อตนเองออกมาด้วยความรู้สึกอันหลายหลาย

ตอนแรกนึกว่าคงมีใครใส่ผิดแต่พอเห็นชื่อของตัวเองที่ถูกเขียนทำให้รู้ได้ทันทีว่ารูปที่ถูกส่งมาให้ตน...ไม่รู้ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของผมรึเปล่าที่ทำแบบนี้

ด้วยความสงสัยผมเลยโทรหาเพื่อทีละคนเพื่อถามถึงรูปที่ตัวเองถือไว้ในมือแต่เพื่อนทุกคนกลับบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้เรื่องด้วย นั่นยิ่งทำให้ผมทวีความสงสัยมากขึ้นไปอีก

ถ้าไม่ใช่เพื่อน...

ไม่ใช่คนที่รู้จัก...

แล้วคนที่ให้รูปนี้กับผมเป็นใครกัน?

ทำไมถึงรู้จักชื่อผมได้?

ทั้งที่ไม่ควรไว้ใจของที่ไม่มีที่มาที่ไปแถมยังน่าสงสัยขนาดนี้แท้ๆแต่ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นรูปภาพและข้อความธรรมดาที่เขียนอยู่นี่ได้

..................................................................................
สวัสดีค่ะ

จบกันไปแล้วกับตอนแรกของเรื่อง

เรื่องนี้อาจออกแนวเว่อร์เล็กๆ น่ารักหน่อยๆ

เป็นเรื่องที่ออกแนวละมุลหัวใจ

เราวางนายเองไว้ให้เป็นพวกที่ขี้อายมากๆแบบว่าน่าแกล้ง น่าแหย่อะไรแบบนี้55+

พระเอกเราเปิดตัวแล้วต้องมารอดูกันว่าความสัมพันธ์ของทั้งจะเป็นยังไงต่อ

แล้วครั้งต่อไปที่ทั้งคู่เจอกันจะเป็นตอนไหน?

คอยติดตามความรักของทั้งคู่ด้วยนะคะ^^

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจนะคะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L2:   :mc4:   เจิมจร้า

ละมุนก็ดีสิ. ของโปรดเลย

ออฟไลน์ dorabarin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :mc4::katai2-1: ชอบค่ะะะชอบเเนวนี้มากกกละมุนละม่อม

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
ดูน่าลุ้นดีค่ะ ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป
เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
โอย แค่ได้สัมผัสเป้ของราชา น้องข้าวจ้าวก็ตัวจะระเบิดแล้ว  :m3: อย่างว่าแหละเนอะแอบรักเค้ามาห็ตั้งเป็นสิบปี ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา
จะรอเอาใจช่วยน้องข้งจ้าวนะคะ  :m19:

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
โรแมนติกเบาๆ อร๊ายยยยยย น่ารักกก~~~~

ออฟไลน์ Autonomyz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ตัวเอง ตัวเองไม่คุ้นลายมือในรูปถ่ายบ้างเลยหรอ
ตัวเองไม่ รู้สึกว่า เดจาวู บ้างเลยหรอ
หุหุ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เอาอีกๆๆๆ ด่วนค่า พลีสสสส

ออฟไลน์ Janny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
น่ารักมากเลยค่ะ แงงงงง นี่น่าตั้งชื่อรื่องว่ารูปภาพสื่อรักนะคะ 555555555 คราวนี้มาเจอพระเอกของเรื่องแล้วววว โห รูปหล่อโปรไฟล์ดี สมควรที่จะมีคนแอบชอบค่ะ แต่น้องข้าวจ้าวนี่ก็น่ารักนะคะ ตลกอ่ะค่ะ เดาว่าสมัยมัธยมนี่แค่เดินผ่านหน้าราชาก็เขินตายแล้วมั้งคะเนี่ย แบบนี้ราชาจะรู้จักน้องไหมเนี่ย เราว่าไม่แน่เลย หรือจะมีมุมน่ารักแบบแอบมองเหมือนกันอะไรแบบนี้? งื้อออออ เรารอดูพัฒนาการนะคะ อยากรู้ว่าพอคนขี้อายต้องเจอกับคนที่แอบชอบซึ่งๆหน้าจะเป็นยังไง  :mew3:

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ข้าวจ้าวมั่นคงมากกก :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แอบรักมานานมากกก มันคงเป็นความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นแล้วมีความสุขใช่ไหมข้าว อาจจะมีบางทีที่แอบหน่วงบ้าง แต่ก็ยังมีความสุข เป็นการแอบรักที่ #สตรองมาก

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ข้าวจ้าวน่ารัก ตื่นเต้นแล้ววิ่งหนีเฉยเลย
เมื่อไรจะได้พูดคุยกันบ้างสักคำก็ยังดีนะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :o8:  น่ารัก ใสๆ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
น่ารัก เป็นการแอบรักที่ทำให้ยิ้มได้
ข้าวจ้าวน่ารักขี้อาย เขินเก่งมากๆ แค่ได้จับกระเป๋า น่ารักมากจริงๆ  :-[


ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เปิดเรื่องมาด้วยความละมุน...อ้านแล้วแอบยิ้มตาม

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
เป็นการแอบรักที่ยาวนานจริงๆ ข้าวจ้าวสู้ๆ

ออฟไลน์ ฝัullล้วlv

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ชอบเนื้อเรื่องของการแอบรักมากค่ะ
มันลุ้นดีว่าจะได้กัน! เอ้ย.. จะรักกันยังไง :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
แอบรัก⊰❤⊱วันที่2




หลังจากวันที่วรานนท์แอบใส่รูปภาพพร้อมเขียนข้อความลงไปในกระเป๋าเป้ใบดำของคนที่ตนแอบรักมาตลอด11ปีก็ผ่านไปหลายวันจนถึงวันศุกร์...หลายวันที่ผ่านมาผมไม่ได้เฉียดเข้าไปใกล้สวนสาธารณะนั่นอีกเลยเพราะกลัวว่าเจ้าของกระเป๋าเป้สีดำนั่นจะมาเอาเรื่อง

ส่วนเรื่องงานที่ได้รับมาได้ส่งไปให้ผู้จ้างวานแล้วเมื่อวันก่อนโดยสถานที่ที่ใช้ถ่ายไม่ใช่สวนสาธารณะที่ไปมาในตอนแรกแต่เป็นสวนพฤกษาศาสตร์ที่อยู่ห่างจากห้องพักไปหลายกิโลเมตร

ตอนแรกอาวิก็สงสัยว่าทำไมรูปที่เลือกไปให้ผู้จ้างวานถึงเป็นรูปที่ถ่ายในสวนพฤกษาศาสตร์ไม่ใช่สวนสาธารณะที่ไปมาถึงสองวันติด...

ใครจะกล้าบอกละว่าสองวันที่ไปที่นั่นไม่มีสมาธิในการถ่ายเลยสักนิดเดียว

“สวัสดีครับอาวิ”เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเปิดประตูร้านเข้ามาพร้อมเอ่ยทักทายอาวิที่กำลังนั่งเช็ดเลนส์กล้องอยู่ด้านหน้า

“สวัสดีจ้าว”เสียงทักทายดังขึ้นโดยที่อาวิยังไม่ละสายตาออกมาจากเลนส์ในมือ

“...แล้วน้าแก้วละครับ?”ผมถามขึ้นเมื่อมองไปรอบๆร้านแล้วยังไม่เจอภรรยาของเจ้าของร้านที่ควรจะนั่งอยู่แถวๆนี้เหมือนอย่างทุกที

“อ้อ...วันนี้มีนัดของสมาคมแม่บ้านน่ะ”อาวิละสายตาขึ้นมาบอกก่อนจะก้มลงไปตามเดิม

“ครับ...แล้ววันนี้มีงานอะไรไหมครับ?”

“ตอนนี้ยังไม่มีนะ...จ้าวมานั่งเช็ดเลนส์กล้องเป็นเพื่อนอาดีกว่ามา”อีกฝ่ายบอกพร้อมกับกวักมือเรียกคนที่ยืนอยู่ให้เข้าไปหา...แล้วมีหรือที่ผมผู้ชื่นชอบกล้องจะปฏิเสธ

ไม่มีทาง!

ผมกับอาวินั่งเช็ดเลนส์กล้องกันอยู่สองคนเงียบๆด้วยความตั้งใจ...สำหรับหลายๆคนคงจะมองและถามว่าทำไมต้องเช็ดขนาดนั้น...ตอบได้เลยว่าถ้าไม่ชอบก็ไม่รู้หรอก

การที่ได้หยิบเลนส์ตัวหนึ่งขึ้นมาแล้วนั่งเช็ดโดยค่อยๆไล่รายละเอียดอย่างเชื่องช้าทำให้เรามีสมาธิจดจ่อไปกันสิ่งเดียวที่ทำอยู่ในมือตอนนี้...ก็คล้ายๆการฝึกสมาธิเพียงแต่ไม่ได้นั่งขัดสมาธิและหลับตาเท่านั้นเอง

วันนี้เป็นวันที่มีลูกค้าประปรายแค่2-3คนเท่านั้นพวกเราเลยมีเวลานั่งเช็ดเลนส์กล้องมากกว่าปกติ...งานที่เข้ามาวันนี้ถือเป็นงานง่ายๆคือถ่ายรูปนักศึกษาแบบเร่งด่วนกับมาอัดรูปเพิ่มเท่านั้น

“วันนี้ลูกค้าน้อยเนอะจ้าว”อาวิหันมาบอกบอกเมื่อใกล้เวลาปิดร้านแล้ว

“นั่นสิครับ...วันไหนน้อยก็น้อยจริงๆ”ผมตอบกลับไป

“นึกถึงวันนู้นเลย...หวังว่าจะไม่มีงานเข้านะ”อาวิพูดติดตลก

ลูกค้าน้อยแบบนี้ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างหายากและหลังจากวันที่มีลูกค้าน้อยแบบนี้มักจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น...เรื่องใหญ่ที่ว่าไม่ใช่เรื่องไม่ดีแต่เป็นการที่มีงานเข้ามากกว่าปกติหลายเท่านัก

จำได้ว่าเคยมีครั้งหนึ่งที่ว่างมากมีเพียงลูกค้าแค่คนหรือสองคนหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันก็มีงานมากมายเข้ามาที่ร้านทั้งวาดรูป ถ่ายรูป อัดรูปหรือแม้แต่การถ่ายรูปนอกสถานที่

จำได้ว่าตอนนี้พวกเราทำงานมือเป็นระวิงถึงจะปฏิเสธไปหลายงานแต่ก็ยังถือว่าเยอะอยู่ดี

“ผมไม่อยากนึกถึงมันแล้ว”ตอนนั้นเรียกว่าเหนื่อยสุดๆเลยก็ว่าได้

“เหนื่อยสุดๆเลยตอนนั้น...เอางี้ละกัน...วันนี้อาให้เลิกเร็วเผื่อต้องเจอศึกหนักในอีกไม่กี่วันข้างหน้าละกัน”ชายด้านข้างหันมาบอกพร้อมรอยยิ้ม

“อย่าพูดแบบนั้นสิอาวิ...ก็รู้อยู่ว่าผมไม่ค่อยชอบงานที่เร่งรีบแบบนั้นเท่าไหร่”

“ฮะฮะ...แค่เผื่อเฉยๆ...ปะกลับบ้านได้แล้ว”อาวิตบไหล่ผมพร้อมกับดันไหล่ให้ลุกขึ้น

“ถ้ามีลูกค้ามาจะทำไงละอาวิ”

“แค่ลูกค้าไม่กี่คนอาไหวน่า”อาวิยังคงบอกต่อ

“ให้ผมอยู่ช่วยเถอะ”เป็นลูกจ้างแต่กลับเร็วทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีเลย

“ไม่เป็นไร...ไปเถอะ”

“เฮ่อ...ก็ได้ครับ”พอถูกบอกหลายๆครั้งก็ถอนหายใจอย่างจำยอม

“ไว้เจอกันวันจันทร์นะ”

“ครับอา...ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ”ผมบอกลาพร้อมกับเดินออกมานอกร้านไปยังมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ด้านข้าง




ร่างโปร่งของวรานนท์ขึ้นคร่อมรถพร้อมใส่หมวกกันน๊อคไม่ช้ารถมอเตอร์ไซค์สีดำก็เคลื่อนออกจากร้านไปตามถนนใหญ่...ทันทีที่ดวงตาสีเขียวปนเทาเห็นสวนสาธารณะที่อยู่อีกฝั่งความทรงจำเมื่อหลายวันก่อนก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง...เพียงแค่นั้นริมฝีปากชมพูก็เม้มเข้าหากันแน่นอย่างชั่งใจ

ทั้งที่ไม่อยากเจออีกแต่มือก็ดันเลี้ยวรถไปยังที่จอดมอเตอร์ไซค์ที่อยู่อีกฝั่งของถนนจนได้

“...มาทำไมเนี่ย?”เสียงนุ่มพึมพำเบาๆกับตัวเองเมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว

ก็รู้ตัวว่าไม่ควรมาเจออีก

ความรู้สึกเหมือนตะกอนบางอย่างที่ตกอยู่ภายในหัวใจเริ่มคลุ้งขึ้นมาทีละน้อยเพียงได้เห็นใบหน้าและรอยยิ้มของคนคนนั้น...มือเรียวดันแว่นให้เข้าที่ก่อนจะสะพายกระเป๋าเดินไปภายในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่วันนี้มีคนเยอะกว่าปกติอยู่มาก อาจเป็นเพราะวันนี้คือวันศุกร์เลยมีคนมาออกกำลังกายกันที่สวนมากขนาดนี้

สองขาของผมก้าวไปยังโรงอาหารที่อยู่ไม่ไกล

“...ขอแค่เห็นแว๊บเดียวก็พอแล้ว”ผมพึมพำออกมาอีกครั้งแล้วเริ่มถอดสายตาออกไปยังกลุ่มคนที่นั่งกินอาหารอยู่ภายในโดยหวังให้พบกับชายหนุ่มที่ตนแอบรักเพียงสักนิดก็พอแล้ว

เสียงสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดดังขึ้นก่อนจะก้าวขาเดินเข้าไปภายในโรงอาหารที่มีคนอยู่เต็มไปหมด...จากที่สังเกตดูมีแต่พวกผู้หญิงอยู่เต็มไปหมดทั้งวัยเรียน วัยรุ่นและวัยทำงาน

ถึงสวนสาธารณะนี้จะอยู่ใกล้แต่ผมก็ไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่เลยไม่ค่อยรู้ว่าวันนี้มีอะไรรึเปล่าถึงมีคนมาอยู่กันเต็มไปหมดแบบนี้...แม้จะสงสัยแต่ดวงตาสีเขียวปนเทาก็ยังคงหันซ้ายขวามองหาชายคนหนึ่งอยู่ตลอดแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงานั่นทำให้คิดขึ้นมาได้ว่าเขาคงไม่มาหรืออาจจะไม่ได้อยู่ที่โรงอาหารแล้ว

กลับได้แล้ว

เสียงในหัวดังขึ้นแบบนั้นแต่ร่างกายกลับเดินออกจากโรงอาหารแล้วตรงไปยังสถานที่อีกแห่งที่เคยเจอกับราชาคนที่ผมแอบรักเมื่อหลายวันก่อนนั่นคือ...

สนามบาส

“...คงไม่เจอหรอก”เป็นอีกครั้งที่บอกกับตัวเองพร้อมชะลอเท้าที่ก้าวเดินไปยังสถานที่แห่งนั้น

ในหัวเริ่มสับสนว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี...จะถอยหลังหรือเดินหน้า

แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจอะไรเสียงโห่ร้องบางอย่างก็ดังขึ้นจนดวงตาคู่สวยต้องเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างสนใจ...คนมากมายมุงอยู่บริเวณสนามบาสสถานที่ที่เป็นเป็นเป้าหมายของผม

“กรี๊ดดดด!!!”

เสียงกรี๊ดและเสียงตะโกนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเหล่าผู้คนที่ล้อมรอบสนามอยู่ ส่วนมากคนที่ล้อมอยู่ก็เป็นผู้หญิงสวยๆทั้งนั้น...จากที่มองไปคงคิดได้แค่ว่ามีดารามาเล่นบาส?

ไม่ก็มีการถ่ายทอดสดหรืออาจเป็นการถ่ายโฆษณาก็ได้

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้ผมเดินเข้าไปข้างสนามที่ส่งเสียงดังออกมาตลอดเวลา...ใบหน้าขาวที่สวมแว่นอยู่พยายามมองไปภายในสนามแต่ก็ไม่สามารถเห็นคนที่อยู่ด้านในได้เลย ฝูงคนที่ล้อมอยู่เข้าไปใกล้จนเกือบติดขอบสนามและต่อแถวกันออกมายาวจนแม้แต่จะกระโดดมองก็ยังเห็นเพียงลูกบาสที่ถูกโยนไปมาเท่านั้นเอง

สนามบาสที่นี่ไม่ได้มีที่นั่งเป็นอัฒจรรย์ให้ดูแต่เป็นเพียงพื้นโล่งๆที่มีเพียงแป้นบาสและเส้นขอบสนามเท่านั้นเอง ผู้คนเลยสามารถเข้าไปใกล้แค่ไหนก็ได้ตราบเท่าที่ยังไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเข้าไปในสนาม

“...กลับดีกว่า”

ถึงอยู่ไปก็คงไม่เจอกับราชาอยู่ดี

เมื่อคิดได้แบบนั้นก็เตรียมหันหลังกลับแต่ในจังหวะที่จะเดินออกไปก็ต้องชะงักเมื่อเห็นกระเป๋าเป้สีดำใบหนึ่งวางพาดอยู่ข้างม้านั่งตัวขาว...ไม่ใช่แค่กระเป๋าเป้ใบนั้นแต่ยังมีอีกหลายใบที่วางกองอยู่ด้วยกันเพียงแต่ตอนนี้ดวงตาของผมจับจ้องได้แค่กระเป๋าเป้สีดำที่แสนคุ้นตานั่น

ถึงจะเคยเห็นแค่ครั้งเดียวก็จำได้ติดตา...ตัวอักษรภาษาอังกฤษเล็กๆที่ถูกสลักไว้บนแผ่นเงินตรงสายสะพายนั่นเป็นชื่อของเจ้าของกระเป๋าและแน่นอนว่าเป็นชื่อของคนที่ผมแอบรักด้วย...

‘RACHA’

เหมือนหัวใจที่สงบนิ่งเต้นเร็วขึ้นอย่างง่ายดายเพียงแค่เห็นกระเป๋าใบนั้น

แปลว่าราชาต้องอยู่ในสนามนั่นแน่

ไม่รู้ว่าด้วยแรงฮึดหรืออะไรทำให้เจ้าของร่างโปร่งดันแว่นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าไปยังฝูงคนที่ส่งเสียงกรี๊ดอยู่นั่นอีกครั้งหนึ่งและครั้งนี้ผมก็พยายามเบียดเข้าไปจนอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นคนที่อยู่ในสนามได้ถึงจะไม่ชัดมากก็ตาม

ดวงตาสีเขียวอมเทาไล่ไปตามสนามที่มีคนสิบคนวิ่งไปมาพร้อมรับส่งลูกสีส้มนั่นไปมาอย่างตื่นเต้น...ทันทีที่ลูกบาสสีส้มถูกชายผมดำซอยสั้นรับไว้ได้เสียงกรี๊ดทั่วสนามก็ระเบิดขึ้นพร้อมกับหัวใจผมที่เต้นแรงจนแทบหลุดออกมาที่ได้เห็นใบหน้านั่นชัดๆ

คนที่รับลูกบาสได้คือราชา...เขาสวมเสื้อกล้ามสีน้ำเงินแถบส้มกับกับกางเกงกีฬาสีดำสนิท เหงื่อที่ไหลรินตั้งแต่ใบหน้าไปจนถึงบริเวณคอแถมเสื้อกล้ามที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อนั่นยิ่งเพิ่มความเซ็กซี่ให้อีกฝ่ายได้อีกหลายเท่าตัว

เรียกว่าแค่มองก็ใจสั่นแล้ว

“จัดการเลยราชา!”เสียงตะโกนของเพื่อนร่วมทีมทำให้เจ้าของชื่อเลี้ยงลูกบาสหลบทีมฝั่งตรงข้ามไปได้พร้อมกับกระโดชู้ตอย่างสวยงาม เสียงลูกที่ลงห่วงอย่างสวยงามทำให้ทั้งสนามส่งเสียงกรี๊ดดังลั่นแม้แต่ผมเองก็เผลอยิ้มออกกับภาพตรงหน้าเหมือนกัน

“อ๊ะ...กล้องถ่ายรูป”มือของผมรีบคว้ากล้องที่ห้อยไว้ตรงคอขึ้นมาก่อนจะจัดการยกกล้องตัวนั้นขึ้นมาถ่ายภาพบนสนามตอนนี้ด้วยความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก...รูปของคนที่แสดงท่าทางอย่างเป็นธรรมชาติอยู่บนสนามทำให้นิ้วเรียวกดถ่ายรูปติดๆกันหลายสิบภาพและแน่นอนว่าส่วนมาคนที่ถูกถ่ายก็ไม่พ้นราชาคนที่หวังว่าจะได้เจอสักแว๊บเดียวก็ยังดี

ไม่คิดเลยว่าจะได้มาดูราชาได้อย่างเต็มๆตาโดยไม่ต้องหลบซ่อนแบบนี้ถ้าเป็นปกติผมก็คงไม่กล้ามายืนชะโงกดูหรอก
กลัวอีกฝ่ายจะจำหน้าผมได้น่ะ

“ขอเวลานอก!”เสียงตะโกนดังขึ้นจากชายคนหนึ่งในสนามทำให้ทั้งสองทีมกลับไปนั่งที่ม้านั่งของตัวเองที่อยู่ติดขอบสนาม
ตอนแรกผมนึกว่าจะไปนั่งตรงที่วางกระเป๋าไว้ซะอีก

“หิวน้ำไหมราชา?”เสียงเพื่อนในทีมถามขึ้น

“อืม...นิดหน่อย”เชื่อไหมว่าเพียงแค่ได้ยินประโยคนั้นผมก็เห็นเหล่าหญิงสาวหลายสิบคนวิ่งเข้าไปหาราชาพร้อมกับยื่นขวดน้ำและผ้าขนหนูให้ บางคนถึงกลับลงทุนเช็ดที่ใบหน้านั่นเลยก็มี




วรานนท์ที่เดินถอยออกมาหันหลังกลับเตรียมตัวกลับห้องพักสักทีแต่ระหว่างที่จะเดินออกกระเป๋าเป้สีดำก็เข้ามาอยู่ในสายตาอีกครั้ง...

ผมมองกระเป๋าด้านข้างอย่างครุ่นคิด...

อยากจะให้น้ำเหมือนอย่างที่คนอื่นให้ราชาบ้างแต่ก็คงไม่มีทางเป็นไปได้...การมีผู้ชายมาคอยส่งน้ำให้คงไม่ใช่ภาพที่น่าดูนักหรอก

อีกฝ่ายเหมาะกับผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารักๆมากกว่า

ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจแต่สองขาก็วิ่งตรงไปยังโรงอาหารอีกครั้งเพื่อซื้อน้ำขวดเล็กที่ไม่ได้แช่เย็นก่อนจะวิ่งกลับมายังกระเป๋าเป้ใบดำอีกครั้งหนึ่งโดยที่ในมือมีขวดน้ำอันเล็กอยู่...ผมหันซ้ายขวาเพื่อมองว่ามีใครมองอยู่ไหมพอเห็นว่าไม่มีก็รีบอาศัยจังหวะเปิดกระเป๋าแล้วเอาขวดน้ำนั้นใส่ลงไปอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งออกมา

แต่พอออกมาได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักเมื่อคิดได้ว่าถ้าใส่ไปเฉยๆอาจถูกมองว่าใส่ผิดแล้วเอาไปให้คนอื่นก็ได้...ในหัวเลยพยายามนึกว่าควรจะทำยังไง ตอนนั้นเองที่นึกได้ว่ามีภาพถ่ายเมื่อหลายวันก่อนที่พึ่งอัดเสร็จอยู่ในกระเป๋าเพียงแต่กระเป๋านั่นดันอยู่ที่รถมอเตอร์ไซค์

ดวงตาสีเขียวปนเทาหันไปมองยังกระเป๋าเป้สีดำสลับกับที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ที่ต้องวิ่งกลับไปเอาอีกหลายร้อยเมตรอย่างครุ่นคิดว่าจะปล่อยเอาไว้แบบนั้นหรือไปเอารูปภาพนั่นมาเขียนบอกว่าขวดน้ำนั่นเป็นของราชาดี

“...เอาไงดี”เสียงนุ่มเริ่มร้อนรนขึ้นเรื่อยๆเพราะไม่รู้แน่ชัดว่าการแข่งขันจะจบลงเมื่อไหร่ถ้าวิ่งไปเอาแล้วกลับมาไม่ทันก็เสียเที่ยวแต่ถ้ากลับไปทั้งแบบนี้ขวดน้ำที่ตั้งใจซื้อนั่นอาจไม่ถึงมือของราชาก็ได้

ยิ่งเวลาผ่านไปในหัวก็ยิ่งตีกันมากขึ้น

“เอาไงเอากันสิ!”

คำพูดนั่นเหมือนเป็นคำตอบที่ทำให้ร่างโปร่งวิ่งกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตนอย่างร้อนรน...

ภายในใจได้แต่ภวนาว่า...

ขอให้ทันทีเถอะ

ผมไม่ใช่พวกชอบเล่นกีฬาเท่าไหร่ทำให้ค่อนข้างเหนื่อยง่ายกว่าผู้ชายคนอื่น...แค่วิ่งมาไม่กี่ร้อยเมตรก็หอบแห่กทั้งที่ยังไม่ถึงที่หมายเลย ตั้งแต่จบวิชาพละขั้นพื้นฐานตอนมัธยมปลายก็แทบไม่ได้ลงเล่นกีฬาหรือออกกำลังอะไรทำให้หมดแรงได้ง่าย

“แฮ่ก...”ผมยันมือไว้กับต้นไม้ใหญ่ด้านข้างเพื่อพักร่างกายที่ตอนนี้เริ่มมีเหงื่อออกด้วยความเหนื่อยแล้ว

ถึงจะเหนื่อยแต่ผมก็ทำเพียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะวิ่งต่อไปจนถึงรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองที่จอดอยู่ด้านข้างของสวนสาธารณะโดยใช้เวลาไปนานพอสมควร

“...อยู่ไหนนะ”เสียงนุ่มติดร้อนรนดังขึ้นเมื่อความเร่งรีบทำให้หารูปภาพที่ต้องการไม่เจอสักที

มือของผมไล่เปิดอัลบั้มรูปภาพที่พึ่งอัดเสร็จอย่างร้อนรน...ความจริงก็ใช้รูปอื่นแทนได้อยู่แต่ผมอยากให้เขาเห็นรูปนี้รูปที่ผมถ่ายด้วยความรู้สึกที่หลากหลายของตัวเองเมื่อได้เจอกับเขาอีกครั้ง

“เจอแล้ว!”

ความดีใจแล่นเข้ามาทันทีเมื่อเจอรูปที่ต้องการ

ปากกาหมึกดำด้ามโปรดรีบจรดเขียนข้อความบางอย่างไว้อย่างรวดเร็วก่อนที่เจ้าของมันจะรีบวิ่งกลับไปยังสนามบาสที่อยู่ไกลกับที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ซะเหลือเกิน

ร่างกายเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆเมื่อถูกฝืนใช้โดยไม่ออมแรงเลยสักนิด...ในใจตอนนี้แทบไม่มีเรื่องอะไรอยู่ในหัว เพียงสิ่งเดียวที่คิกคือต้องวิ่ง...วิ่งให้เร็วที่สุด

แล้วหลังจากนั้นมันจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาละกัน

“แฮ่ก...”เหมือนภูเขาถูกยกออกจากอกเมื่อการแข่งขันดูเหมือนยังไม่จบ

ร่างสูงโปร่งที่หอบแฮ่กหันมองซ้ายขวาด้วยความเหนื่อยอ่อนแล้วรีบเอารูปภาพนั่นใส่เข้าไปในกระเป๋าเป้สีดำที่วางพาดอยู่...พอทุกอย่างเรียบร้อยก็อยากจะทิ้งร่างกายมันซะตรงนี้แต่ก็กลัวว่าจะมีคนสงสัยเลยต้องก้าวเดินไปยังม้านั่งที่อยู่ถัดออกไปสองสามตัวก่อนจะหย่อนก้นลงพัก

“เฮ่อ...”เสียงถอนหายใจดังถอดยาวพร้อมดวงตาสีเขียวปนเทาที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าผ่านเลนส์เเว่นที่ขึ้นเป็นฝ้าเล็กน้อย

ผมทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดแล้ว

หวังว่าน้ำขวดนั้นจะถูกดื่มเข้าไปนะ

ความหวังเล็กๆที่แค่คิดว่ามันจะเป็นจริงก็ทำเอาคนที่นั่งพักอยู่บนม้านั่งยาวต้องเม้มปากแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองคลี่ยิ้มกว้างออกมา

ไม่จำเป็นต้องได้อยู่ข้างกาย...

ขอแค่ได้เห็นและคอยดูแลบ้างเป็นบางครั้งก็เพียงพอแล้ว

เพียงพอแล้วจริงๆ


(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อนะคะ)



อีกด้านหนึ่งภายในสนามที่กำลังระอุเป็นไฟธรณินทร์ ภิพัฒธนมงคลก็กำลังวิ่งเลี้ยงลูกฝ่าวงล้อมของอีกทีมอยู่...ด้วยความที่ชื่นชอบกีฬาทำให้มีทักษะติดตัวมาตั้งแต่เด็กทำให้สามารถหลบฝ่ายตงข้ามที่เข้ามากันได้ก่อนจะกระโดดชู้ตลูกบาสที่อยู่ในมือจนลงห่วงไปอย่างสวยงาม

“กรี๊ดดด!...ราชา!”เสียงตะโกนเรียกชื่อตนดังลั่นสนามอีกครั้ง

“จบการแข่งแล้ว!”เสียงตะโกนของต้นที่เพื่อนร่วมทีมเฉพาะกิจดังขึ้น

การแข่งวันนี้เป็นแค่การแข่งขันเล่นๆที่อาจดูจริงจังไปสักหน่อยอาจเป็นเพราะรอบข้างสนามมีแต่ผู้หญิง สาวงามมากมายมายืนมุงเหล่าชายหนุ่มในสนามเลยตื่นตัวกันเป็นพิเศษแต่สำหรับผมที่เห็นผู้หญิงสวยๆมามากมายทำให้เริ่มชินแล้วถึงเสียงกรี๊ดนั่นจะค่อนข้างบาดหูก็ตาม

“อีกรอบๆ”เสียงของเต้ยที่เป็นพี่ชายฝาแฝดของต้นดังขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามารวมตัวกันที่กลางสนาม...เต้ยเป็นหัวหน้าที่คู่แข่งของผมซึ่งเราใช้การเป่ายิงฉุบในการเลือกตัวผู้เล่น

“นี่เล่นมา2เกมส์แล้วนะ”เพชรที่เดินเข้ามาพูดขึ้นพรางยกเสื้อขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ไหลไปทั้งตัว

“น่าๆ...ก็ราชาเล่นเด่นอยู่คนเดียวเลยใครจะไปยอมเล่า”เสียงประท้วงจากเต้ยดังขึ้น

“เด่นตรงไหน?”เจ้าของชื่อถามอย่างไม่เข้าใจ

“ถามจริง...นี่ไม่ได้ยินเหรอว่าสาวๆข้างสนามตะโกนเรียกชื่อใครน่ะ?”

“อ้อ...”ผมรู้ล่ะเพราะสาวๆข้างสนามตะโกนเรียกชื่อผมแทนที่จะเป็นเต้ยเลยต้องมาแข่งใหม่อีกรอบจนกว่าเสียงเรียกนั่นจะเปลี่ยนชื่อจากราชาเป็นเต้ยสินะ

“ถึงแข่งอีก10รอบชื่อเต้ยก็ไม่หลุดออกมาจากปากของสาวๆหรอก”ก้องที่ยืนอยู่ข้างเต้ยหันมาบอกพรางตบไหล่เบาๆ

“บ้าเอ้ย....ราชามันมีอะไรดีทำไมใครๆก็ต้องชอบมันวะ?!!”เสียงตะโกนของเต้ยดังขึ้นพร้อมจ้องมาที่หน้าของผมอย่างเอาเรื่อง

“หล่อ”ต้นพูดขึ้นทันที

“รวย”ก้องพูดตาม

“เก่ง”เพรชพูดต่อทันที

“สูง”ตามมาด้วยเฟียส

“ขาว”

“หุ่นดี”

“น่ากิน”

“ยิ้มหล่อ”

“ฟีโรโมนพุ่ง”

“อะ..”

“รู้แล้วๆเลิกย้ำสักที!!”เต้ยตะโกนบอกเหล่ามิตรสหายที่ช่วยตอบอย่างตั้งใจ

“ฮะฮะฮะ”ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเพราะความตลกของเพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมปลายยันมหาวิทยาลัยของตัวเอง

วันนี้ตอนแรกกะจะเล่นแค่5คนเหมือนอย่างทุกทีแต่เผอิญว่าเจอพวกเต้ยที่กำลังเข้ามาเล่นพอดีเลยเกิดเป็นศึกต้อนรับการกลับมาของผมที่ไปเรียนต่อมาตั้ง3ปี...ปริญญาโทผมจบมาตั้งแต่2ปีแรกที่เรียนแล้วแต่เพราะยังไม่อยากลับมาเจอหน้าครอบครัวเลยขออยู่ต่ออีกหนึ่งปี

“เดี๋ยวนี้อารมณ์ดีขึ้นนะ”เพชรที่ยืนอยู่ด้านข้างหันมาบอก

“คิดงั้นเหรอ?”

“เออสิ...เมื่อต้นอาทิตย์ยังบอกเครียดอยู่เลยแต่พอมาตอนนี้กลับหัวเราะร่าเหมือนมีใครมาให้กำลังใจงั้นแหละ”คำพูดนั่นทำให้รูปภาพของตึกสองตึกที่มีดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลางผุดเข้ามาในหัวอีกครั้ง...

ข้อความสั้นๆที่บอกว่าสามารถผ่านไปได้

มันเหมือนเป็นแหล่งกำลังใจที่ทำให้รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้หยิบขึ้นมามอง

“...อาจเป็นงั้นก็ได้”ผมพึมพำตอบเบาๆ

“อะไรๆมีสาวคนไหนเข้าตาใช่ไหมวะ?”เสียงของเพรชดังขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้ดังมากกว่าเดิมจนคนทั้งกลุ่มหันมาสนใจพวกเราเป็นตาเดียว

“ราชามีสาวที่เข้าตา?...ใครๆบอกด่วนเพื่อน”เต้ยรีบเข้ามาแทรกระหว่างผมกับเพชรก่อจะถามรัวด้วยความอยากรู้

“จริงด้วย...บอกเพื่อนฝูงหน่อยสิว่าสาวคนไหนทำให้หนุ่มที่มีความคิดว่าต้องคบกับคนที่ใช่เท่านั้นเปลี่ยนไป”ก้องก็เป็นอีกคนที่เข้ามารุมล้อมด้วย

“ทำไมเปลี่ยนประเด็นมาได้เนี่ย?”ผมถามออกไปเสียงเบา

“เอาน่าๆ...บอกมาเดี๋ยวนี้ไม่งั้นมื้อเย็นราชาต้องเลี้ยง”เต้ยพูดย้ำจนคนฟังได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเนือยๆเท่านั้น

“ก็ไม่มีอะไร...”

“ไม่มีที่ไหน!!”เชื่อไหมว่าผู้ชายทั้ง9คนที่อยู่ในสนามตะโกนขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายเลยล่ะ

“...ไม่มีจริงๆ”

“จะบอกดีๆหรือต้องให้อาร์ตคนนี้สบสวนเอง”อาร์ตที่ยืนข้างก้องบอกพรางหรี่ตามองมาเหมือนกำลังค้นหาความจริง อาร์ตตอนนี้ทำงานเป็นตำรวจอยู่ฝ่ายสอบสวนพิเศษจึงมีความสามารถให้การจับผิดผู้ต้องสงสัยได้ไม่ยากและตอนนี้เขากำลังใช้ทักษะของตำรวจนั่นกับผม

“เฮ่อ...ก็แค่มีคนเขียนข้อความให้กำลังใจให้เท่านั้นเอง”เมื่อไม่เห็นทางรอดผมก็ต้องถอนหายใจอย่างปลงๆก่อนจะบอกออกไปตามความจริง

“ข้อความ?...สาวที่ไหนละ?”เต้ยยังคงถามต่อ

“...ไม่รู้สิ”เรื่องนี้ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเป็นใคร

“ใช่ที่วันก่อนโทรมาถามใช่ไหมว่าใครเอารูปไปใส่ในกระเป๋า”เพชรทำท่านึกก่อนจะพูดขึ้น

“ใช่...นั่นแหละ”

“สโตรกเกอร์เปล่าวะ?”เต้ยออกความเห็น

“ไม่น่าใช่นะ”ความรู้สึกไม่ใช่คุกคามขนาดนั้น

“งั้นก็สาวที่บริษัทแน่ๆ...คงไม่มีความกล้าพอจะมาให้ต่อหน้าเลยต้องใช้วิธีแอบใส่กระเป๋าที”ต้นออกความเห็นต่อ

“...ก็อาจเป็นไปได้”

“เอาเถอะ...เดี๋ยวสักวันเขาคงเปิดเผยตัวออกมาเองล่ะ...แล้วได้อย่างอื่นอีกไหม?”

“...ไม่ได้”เสียงที่บอกออกไปอาจดูอ่อยลงเล็กน้อยจนตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม

ตลอดหลายวันมานี่ผมพยายามวางกระเป๋าไว้ห่างสายตา บางทีก็แอบลืมบ้าง...จำได้ว่าเคยลืมไว้ที่โรงอาหาร นั่นก็ทำให้ผมลองลืมไว้อีกครั้งแต่พอกลับมาดูก็ไม่มีของอะไรใส่อยู่ทำให้เริ่มสงสัยว่าเรื่องเป็นยังไงกันแน่

ไม่ใช่สโตรกเกอร์แปลว่าไม่ได้ตามติดผมตลอดเวลา

หรือมันอาจเป็นแค่ความบังเอิญ?

แต่ถ้าเป็นความบังเอิญคงไม่มีทางมีชื่อราชาเขียนอยู่บนภาพนั่นแน่ๆ

ราชา

ชื่อเล่นที่ใครๆต่างก็รู้จักจึงเป็นเรื่องง่ายที่หามา...ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่มอบภาพพร้อมข้อความนั่นถึงหายเงียบไป...ไม่สิ...สิ่งที่ไม่เข้าใจที่สุดก็คือตัวเองที่ทำท่าเหมือนรอให้อีกฝ่ายเอารูปภาพพวกนั้นมาให้อีกต่างหาก

“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ...ไปเลี้ยงฉลองที่เราได้เจอกันอีกดีกว่าราชา”เสียงของเต้ยดังขึ้นพร้อมกับแขนที่พาดคอแล้วดึงให้ผมตามออกไปยังม้านั่งสีขาวที่วางกระเป๋ากองรวมกันไหว

“พี่ราชาคะ”เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มทั้งกลุ่มหันไปมองเป็นตาเดียว

“ครับ?”เจ้าของชื่อขานรับพรางเดินไปหาหญิงสาวผมน้ำตาลอ่อนม้วนที่ดูจากชุดนักศึกษาคงจะอยู่มหาลัยแถวๆนี้

“วิ๊ว...แค่เล่นบาสก็มีเด็กมาหาถึงที่เลยวุ้ย”เสียงแซวจากด้านหลังดังระงมจนต้องหันไปส่งตาขวางที่แสดงความเคืองออกไปจนมิตรสหายด้านหลังเงียบเสียงลง

“คือหนู...หนูชอบพี่คะ”คำสารภาพที่ดังขึ้นทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสนิท...ด้านหลังของเด็กสาวตรงหน้ามีกลุ่มหญิงสาวมากมายที่มองมาอย่างลุ้นๆว่าผมจะตอบกลับไปยังไง

“...พี่ไม่ได้เกลียดเรานะ...”

“จริงเหรอคะ?”เสียงหวานพูดขึ้นก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความหวัง

“แต่พี่ต้องขอโทษด้วยที่คบกับเราไม่ได้”ผมบอกต่อ

“ทำไมคะ?...พี่ราชามีคนที่คบด้วยอยู่แล้วใช่ไหมคะ?”เธอถามต่อด้วยเสียงเศร้าๆ

“ไม่ใช่หรอก...พี่ยังไม่มีใครที่คบด้วย”

“งั้นทำไม...”

“พี่จะคบกับคนที่พี่รู้สึกชอบจริงๆไม่ใช่แค่คบไปอย่างนั้นหวังว่าเราคงจะเข้าใจในจุดนี้นะ”เสียงทุ้มบอกด้วยเหตุผล

“...ถ้าลองคบพี่อาจจะชอบหนูก็ได้นะคะ”อีกฝ่ายยังคงไม่ยอมแพ้

“พี่ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”ผมไม่อาจโกหกใจตัวได้

หลายคนอาจเชื่อว่าความสัมพันธ์สามารถสร้างได้ถ้าคบกันไปถึงจะไม่ได้ชอบก็อาจชอบได้สักวัน...ผมไม่ใช่ไม่เชื่อแต่ผมคิดว่าสิ่งแรกที่จะทำให้เราคบกันได้ยืดก็คือความรู้สึกสนใจในตัวอีกฝ่ายที่คบด้วย




หลังจากที่จบเรื่องการสารภาพรักนั่นธรณินทร์ก็ถูกลากไปยังคลับแห่งหนึ่งที่เป็นทั้งร้านอาหารกึ่งบาร์ มื้อเย็นควบมื้อดึกถูกจัดการอย่างรวดเร็วโดยที่สายตายังคงมองไปรอบๆร้าน...บรรยากาศมืดๆเคล้าด้วยเสียงเพลงเบาๆทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย

ผมเริ่มรู้สึกเบื่อเพราะต้องนั่งเฝ้าโดยที่เหล่าเพื่อนสนิทมิตรสหายออกไปเต้นอีกด้านหนึ่งของร้าน...ตลอดการนั่งมีผู้หญิงหลายคนต้องการทำความรู้จักซึ่งทำให้ผมรู้สึกกระอักกระอ่วนพอสมควร

ผู้หญิงสมัยนี้เข้ามาจีบกันโต้งๆจนบางครั้งก็กลัวอยู่เหมือนกัน

เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์นั้นผมเลยคิดจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นแต่พอล้วงไปในกระเป้ากางเกงกลับไม่เจอโทรศัพท์อย่างที่ควรเป็น...

“อยู่ที่เป้นี่นา”เสียงทุ้มพึมพำเบาๆก่อนจะหยิบเป้ที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมาวางบนตักแล้วเปิดดูภายใน

ด้วยความสว่างที่มีพอสมควรในมุมนี้ทำให้เห็นบางอย่างที่ไม่ควรจะอยู่ในกระเป๋าของตน...ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลงพร้อมขมวดคิ้วแน่นมือข้างหนึ่งหยิบขวดน้ำดื่มขนาดเล็กขึ้นมามองอย่างงงงวย

“ใครใส่มา?”

ยังไม่ทันได้คำตอบอะไรผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่ในเป้อีกอย่าง...จากที่จ้องมองไปเหมือนจะเป็นกระดาษแผ่นสี่เหลี่ยม...

กึก!

เหมือนอะไรบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวเมื่อนึกถึงสิ่งที่คล้ายๆกันออกมาได้

“ไม่จริงน่า...”มือข้างหนึ่งรีบหยิบสิ่งที่อยู่ภายในนั่นออกมาอย่างรวดเร็ว สัมผัสที่แตะโดนยิ่งตอกย้ำความคิดตัวเองมากขึ้นไปอีก...สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาคือภาพถ่ายใบหนึ่ง

นั่นทำให้ผมก้มดูภาพในมือก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นเมื่อภายในภาพนั่นคือตัวเองตอนกำลังกระโดดชู้ตบาสอยู่ด้วยรอยยิ้มตอนที่แสงสุดท้ายของวันกำลังจะลับขอบฟ้าไป

ถึงจะเปลี่ยนภาพแต่ความรู้สึกของคนถ่ายที่แผ่ออกมาทำให้รู้ว่าเป็นคนเดียวกันกับคนที่ใส่รูปภาพเข้ามาในกระเป๋าผมเมื่อวันก่อนแน่ๆ...เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้มีข้อความเหมือนครั้งก่อนอาจเพราะสีของรูปภาพที่เป็นโทนมืดเลยเขียนยากละมั้ง

ความคิดต่างๆนาๆพรั่งพรูเข้ามาพร้อมกับผมที่มองขวดน้ำขนาดเล็กกับรูปภาพสลับกันไปมาอยู่หลายครั้งก่อนจะตัดสินใจใส่ของที่ได้มากลับลงไปในกระเป๋าแต่ด้วยความที่กลัวภาพจะยับเลยหยิบสมุดที่ถูกใส่ไว้ด้านในออกมาแล้ววางรูปภาพนั่นลงไป...

“หื้อ?”มือที่กำลังวางรูปถึงกับชะงักเมื่อสังเกตว่ามีอักษรบางอย่างถูกเขียนอยู่ด้านหลังภาพบริเวณที่เป็นพื้นที่สีขาว

รูปภาพใบเดิมถูกพลิกก่อนจะอ่านข้อความสั้นๆที่ถูกเขียนไว้ด้วยลายมือที่ดูเหมือนคนรีบเร่งเพราะตัวอักษรที่เขียนอยู่หวัดกว่าครั้งที่แล้วอยู่พอสมควร...

ขอความธรรมดาๆที่ทำให้คนที่ได้รับคลี่ยิ้มออกมาอีกครั้งอย่างไม่ได้ตั้งใจ...

‘เห็นราชาเหนื่อยเลยซื้อน้ำให้อาจไม่เย็นเพราะเดี๋ยวกระเป๋านายจะเปียก’

ทั้งที่ควรไปแจ้งตำรวจที่โดนแอบถ่ายแล้วยังส่งภาพมาให้แท้ๆแต่ในหัวตอนนี้กลับคิดเพียงว่าครั้งหน้าจะได้รูปพร้อมข้อความพวกนี้อีกเมื่อไหร่กัน

“...ขอบคุณนะ”เสียงทุ้มกระซิบออกมาเบาๆโดยหวังว่าเสียงของตัวเองจะส่งไปถึงอีกฝ่ายได้

............................................................................
สวัสดีค่ะ

มาเสิร์ฟความฟิน+ความหวานในวันหยุดท้ายก่อนเปิดเรียนและเปิดงานให้กับทุกคนค่ะ

เรื่องนี้อยากบอกเลยว่าแต่งเองฟินเองค่ะ(55+)

แต่งไปแต่งมารู้สึกชอบข้าวจ้าวอย่างบอกไม่ถูก

รอลุ้นอยู่ทุกทีว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกันสักที

ใจนึงก็อยากให้เจอแต่อีกใจนึงก็อยากแต่ฉากฟินๆแบบนี้ไปอีกสักระยะ

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ตอนนี้ค่อยๆเชื่อมกันอย่างช้าๆทว่ามั่นคง

อยากเห็นจังว่าเมื่อข้าวจ้าวเจอราชาจะทำหน้ายังไง(อยากรู้มากกก)

มีคอมเม้นท์ที่ถามราชาว่าไม่รู้สึกคุ้นลายมือเลยเหรอ?

บอกเลยค่ะว่าจะมีวันที่คุ้นแน่นอนแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้เท่านั้นเอง

ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจที่มีให้นะคะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้ากับพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย?

บ๊ายบายค่ะ^^

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด